มีวัตถุมงคลสายพระป่ากรรมฐานให้บูชาราคาเบาๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Somchai 2510, 8 กันยายน 2019.

  1. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,040
    ค่าพลัง:
    +805
    จองเหรียญเจริญพรลป เคน พระกริ่งลพป.คำพันธ์และเหรียญลป.ทูล
     
  2. birdyik

    birdyik Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2007
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +128
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  3. birdyik

    birdyik Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2007
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +128
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  4. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 585 เหรียญเจ้าสัว 51หลวงปู่ศรี มหาวีโร พระอรหันต์เจ้าวัดป่ากุง อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด หลวงปู่ศรีเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นยุคสุดท้าย เหรียญสร้าง 3 พ.ค. 2551(เป็นวันเกิดหลวงปู่ เนื้อองเหลือง หลังยันต์ดาวซึ่งเป็นยันต์ประจำตัวหลวงปู่ เเละมีตอกโค๊ตคำว่า ศรี หลังเหรียญ รุ่นนี้ทันหลวงปู่ศรี มหาวีโรครับเพราะหลวงปู่ละสังขารปี 2552 มีพระเกศาหลวงปู่ศรีมาบูชาเป็นมงคลด้วยครับ *********บูชาที่ 385 บาทฟรีส่งems
    cbf5f9f900394553a7fce48a87febe6f-jpg.jpg
    ชาวพุทธร่วมอาลัยกราบสรีระสังขารหลวงปู่ศรี มหาวีโร หลังมรณภาพเมื่อเช้ามืด 16 ส.ค.


    เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2552 พุทธศาสนิกชนจำนวนมากได้ทยอยเดินทางมายังวัดประชาคมวานาราม (วัดป่ากุง) ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อกราบสรีระสังขาร พระเทพวิสุทธิมงคล หรือ หลวงปู่ศรี มหาวีโร เจ้าอาวาสวัดป่ากุงที่ได้มรณภาพด้วยโรคหัวใจรั่ว และโรคชรา เมื่อเวลา 05.34 น. วันที่ 16 ส.ค. สิริรวมอายุ 94 ปี 3 เดือน 13 วัน

    หลวงปู่ศรี มหาวีโร
    ทั้งนี้ หลวงปู่ศรีได้เริ่มอาพาธตั้งแต่กลางปี 2550 ด้วยโรคหัวใจรั่วและโดยได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.ร้อยเอ็ด และ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ก่อนจะมรณภาพเมื่อเวลา 05.34 น. วันที่ 16 ส.ค.

    ประวัติหลวงปู่ศรี มหาวีโ

    หลวงปู่ศรีมีนามเดิมว่า ศรี เกิดในสกุล ปักกะสีนัง เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2460 ที่บ้านขามป้อม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อปี 2488 ที่วัดราษฎร์รังสรรค์ บ้านป่ายาง จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พระโพธิญาณมุนี (ดำ โพธิญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด (ธรรมยุต) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า มหาวีโร

    หลังจากอุปสมบทแล้วหลวงปู่ศรีได้เข้าศึกษาปฏิบัติกรรมฐานกับพ่อแม่ครูอาจารย์สายพระอาจารย์มั่น รวมทั้งได้ออกธุดงค์จาริกไปตามเส้นทางที่พระอาจารย์มั่นเคยธุดงค์จาริกมาก่อนรวมทั้ง ได้มีโอกาสอยู่ฝึกปฏิบัติกับพระอาจารย์มั่นที่ วัดป่าบ้านหนองผือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร โดยหลวงปู่ศรีได้มีโอกาสถวายการปฏิบัติจนพระอาจารย์มั่นละสังขาร

    จากนั้นในปี 2496 หลวงปู่ศรีจึงได้เดินทางมายัง วัดป่ากุง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ท่านได้เป็นผู้นำคณะศรัทธาญาติโยมในการพัฒนา วัดป่ากุง จากสภาพวัดเก่าอันโรยร้าง ให้เจริญเรืองรุ่งขึ้นตามลำดับ โดย หลวงปู่ศรี ได้จำพรรษาที่ วัดวัดป่ากุง ตั้งแต่ พ.ศ.2507 เป็นต้นมา

    ทั้งนี้ผลงานอันยิ่งใหญ่ของ หลวงปู่ศรี คือ การก่อสร้าง พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ณ วัดผาน้ำทิพย์ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีรูปแบบอันวิจิตรงดงามยิ่ง เป็นศิลปะผสมความยิ่งใหญ่ของ พระปฐมเจดีย์ กับความโอฬารของ พระธาตุพนม กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

    หลวงปู่ศรี นับเป็นพระวิปัสนาจารย์กรรมฐาน ผู้เปี่ยมด้วยพรหมวิหารธรรม เป็นพระป่า พระกรรมฐาน ที่มีศิษยานุศิษย์ให้ความเคารพศรัทธาอจำนวนมาก SAM_8662.JPG SAM_8663.JPG SAM_8664.JPG SAM_7616.JPG
     
  5. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    บูชาครับ
     
  6. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 586 พระกริ่งชัยวัฒน์พุทธญาณวิสุทธิมงคล(เป็นตำเเหน่งที่เขาตั้งให้ครับ)พระหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงตามหาบัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นยุคกลาง เนื้อทองฝาบาตร ก้นทองเเดง กริ่งดังดีมาก มาพร้อมพระเกศาเเละพระธาตุมาบูชาเป็นมงคล ***********บูชาที่ 285 บาทฟรีส่งems SAM_8665.JPG SAM_8666.JPG SAM_8667.JPG sam_2767-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    sam_7657-jpg-jpg.jpg
     
  7. ผู้ผ่านมา

    ผู้ผ่านมา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2006
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +140
    รับครับ
     
  8. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 587
    เหรียญรุ่น 2 เหรียญครบ 7รอบ 84 ปีหลวงตาเเตงอ่อน กัลยาณธัมโม พระอรหันต์เจ้าวัดป่าโชคไพศาล อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร หลวงตาเเตงอ่อนเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นรุ่นสุดท้าย เหรียญสร้างปี 2549 เนื้อองเเดงรมนํ้าตาล เหรียญใหม่ไม่เคยใช้ มีพระเกศาหลวงตามาบูชาเป็นมงคลด้วยครับ************ อนึ่ง....ที่วัดของพระหลวงตาเเตงอ่อนเทพเทวดาเยอะมาก เพราะหลวงตาเเตงอ่อนท่านสำเร็จอรหันต์ ปัญญาวิมุตติ(หลวงปู่รินทร์บอกผมครับ) >>>>[บูชาที่ 365 บาทฟรีส่งems
    936669_681195458612908_8721613073004076658_n-jpg.jpg

    หลวงตาแตงอ่อน กัลยาญาณธัมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดกัลยาณธัมโม จ.สกลนคร ละสังขารแล้ว ด้วยวัย 92 ปี

    หลวงตาเเตงอ่อนละสังขารเมื่อเวลา 07.30 น. เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ที่โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร . สิริอายุ 92 ปี

    1661687_681195478612906_5396189693288018454_n-jpg.jpg

    สำหรับประวัติ หลวงตาแตงอ่อน มีชื่อเดิมว่า แตงอ่อน บุตรศรี เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2465 ที่ อ.พรรณนานิคม จ.สกลนคร ก่อนที่จะบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี 2484 ที่วัดเสบุญเรือง อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร และเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ปี 2485 ก่อนที่จะได้ญัตติเป็นธรรมยุติกนิกาย เมื่อปี 2489 ณ พัทธสีมาวัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมกับได้รับฉายาว่า กัลยาณธัมโม แปลว่า ผู้มีธรรมอันเจริญ ผู้มีธรรมอันดีงาม

    นอกจากนี้ หลวงตาแตงอ่อน ได้ไปศึกษาธรรมปฏิบัติมอบกายถวายชีวิตเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต นานถึง 2 พรรษา อีกด้วย อนึ่งสมัยพระหลวงตาเเตงอ่อนองค์ท่านยังเเข็งเเรงก่อนปี 2553 ผมก็จะไปกราบบ่อยๆเพราะมีญาติที่เป็นเขยบ้านเเพงของผมไปบวชเเละอยู่จำพรรษาอุปฐากรับใช้หลวงตาเเตงอ่อน ชื่อหลวงตาอรุณ เเละที่นี้เองคือวัดป่าโชคไพศาลของหลวงตาเเตงอ่อน ทําให้ผมได้รู้จักหลวงปู่รินทร์พระอาจารย์ของผม เพราะหลวงปู่รินทร์ท่านสำเร็จธรรมได้พระอรหันต์เเล้วที่วัดถํ้าสหายของหลวงปู่จันทร์เรียน ที่อุดร หลวงปู่รินทร์ได้เล่าว่า ผู้รู้ของท่านได้บอกว่าให้ตามหาหลวงตาเเตงอ่อน จนท่านได้ขอโอกาสลาพระอาจารย์คือหลวงปู่จันทร์เรียน ธุดงค์ตามถามหาหลวงตาเเตงอ่อน จนได้มาพบเจอที่วานรนิวาส สกลนคร เเละได้มาอยู่ช่วยงานก่อสร้างพระมหาเจดีย์ ช่วงเรื่มต้น จนมีสาเหตุเพราะว่ามีพระในวัดพากันอิจฉา ว่าหลวงตาเเตงอ่อนชอบเรียกใช้งานหลวงปู่รินทร์ประจำเเละชอบอยู่ใกล้กัน เเละเวลาศิษย์ฆราวาสสร้างวัตถุมงคลของหลวงตาเเตงอ่อน หลวงตาจะให้พระอุปฐากเรียกหลวงปู่รินทร์มาอฐิษฐานปลุกเสกให้ช่วงหลังปี 53 (เพราะหลวงตาป่วยเเละนอนติดเตียงเเล้ว) พอหลวงตาเเตงอ่อนเรียกหลวงปู่รินทร์มาเเล้วก็จะยิ้มทันทีเเละเอ่ยว่า เอาเหมือนเดิมหลวงพ่อลายนะ หลวงปู่รินทร์ท่านก็ส่งด้ายสายสิญน์ให้หลวงตาเเตงอ่อน ถือตามหลวงปู่รินทร์ ี่โยงมาจากวัตถุมงคล พอหลวงปู่รินทร์นั่งลงอฐิษฐานจิต ส่งพลังจิตลงวัตุมงคล นั้น ก็จะเกิดเป็นเเสงสีรุ้ง 7 สีผ่านสายสิญน์ลงวัตถุมงคล เเละสีก็จะผ่านมือของหลวงตาเเตงอ่อนด้วย หลวงตาเองพอเเสงสีรุ้งผ่านมือก็จะอมยิ้มขณะนอนที่เตียงด้วย( พระอรหันต์พอเขาเห็นกันเขาจะรู้เอง ว่าใครสำเร็จเเล้วครับ) sam_6773-jpg.jpg SAM_7494.JPG SAM_7493.JPG sam_8607-jpg.jpg sam_8608-jpg.jpg sam_8108-jpg.jpg

     
  9. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 588
    เหรียญรูปไข่หลวงปู่เพียร วิริโย พระอรหันต์เจ้าวัดป่าหนองกอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี หลวงปู่เพียรเป็นศิษย์พระหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด พระเหรียญสร้างปี 2549 สร้างเนื่ององค์หลวงปู่อายุครบ 79 พรรษา มีตอกโค๊ต พ หลังเหรียญ เนื้อทองเเดงรมดำ มาพร้อมพระเกศาหลวงปู่มาบูชาเป็นมงคลด้วยครับ >>>อนึ่ง ....หนวด,ฟัน,เกศาเเละเล็บของหลวงปู่เป็นพระธาตุตั้งเเต่หลวงปู่เพียรยังทรงธาตุทรงขันต์อยู่ครับ************[บูชาที่ 310 บาทฟรีส่งems sam_8474-jpg.jpg sam_8475-jpg.jpg sam_8477-jpg.jpg sam_7793-jpg.jpg sam_0438-jpg-jpg-jpg.jpg


    หลวงปู่เพียร วิริโย {{{ฉายา}}})
    200px-Por_pern.jpg
    เกิด 7 ตุลาคม พ.ศ. 2469
    มรณภาพ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552
    อายุ 82
    อุปสมบท 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2490
    พรรษา 61
    วัด วัดป่าหนองกอง
    จังหวัด จังหวัดอุดรธานี
    สังกัด ธรรมยุติกนิกาย
    ตำแหน่ง อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าหนองกอง
    30px-Dharmacakra_flag_%28Thailand%29.svg.png ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา
    หลวงปู่เพียร วิริโย พระภิกษุฝ่ายวิปัสสนาธุระ อรัญวาสี อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าหนองกอง ศิษย์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) ท่านได้รับการยกย่องจากหลวงตามหาบัวว่าเป็นผู้มีวัตรเรียบร้อย ปฏิบัติเอาจริงเอาจรัง ไม่มีด่างพร้อย[1]

    ประวัติ
    ชาติกำเนิด
    หลวงปู่เพียร วิริโย นามเดิมของท่านคือ เฟือน จันใด ต่อมาพระอาจารย์ได้เมตตาเปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็น เพียร[2] เป็นบุตรของนายพา - นางวัน จันใด เกิดวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2469 ที่บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี หรือ จ.ยโสธร ในปัจจุบัน
    อุปสมบท[แก้]
    บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดป่าศรีฐาน ตำบลกระจาย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2490 เมื่ออายุครบ 22 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเดียวกัน โดยมีพระครูพิศาลศีลคุณเป็นพระอุปัชฌาย์[2]
    ศึกษาธรรม
    หลังศึกษาพระธรรมระยะหนึ่ง ก็ออกธุดงค์ไปตามที่ต่าง ๆ จนได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสนาภาคอีสาน เมื่อสิ้นบุญหลวงปู่มั่น หลวงปู่เพียรได้ตามหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนมาสร้างวัดป่าบ้านตาดจนแล้วเสร็จ ต่อมาได้ออกธุดงค์ไปจำวัดอยู่กับหลวงปู่บัว ปริปุณฺโณ วัดราษฎรสงเคราะห์ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี กระทั่งมาพบสถานที่สร้างวัดป่าหนองกอง เห็นว่าเป็นที่สงบเหมาะสร้างวัดปฏิบัติธรรม หลวงปู่เพียรจึงสร้างวัด ณ สถานที่แห่งนี้จนมั่นคงสืบมา

    มรณภาพ
    หลวงปู่เพียร เริ่มมีอาการอาพาธเมื่อปี พ.ศ. 2546 กระทั่งในปี 2548 ได้เข้ารับการตรวจรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดและโรคหัวใจ ต่อมาในปี 2552 ก็เข้ารับการตรวจรักษาบ่อยขึ้น ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ลูกศิษย์ได้นำหลวงปู่เพียรที่มีอาการอาพาธส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี และได้รับการส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ก่อนที่หลวงปู่จะมรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 01.28 น. ของวันที่ 23 มิถุนายน 2552

    งานฌาปนกิจศพหลวงปู่เพียรจัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552[3] อัฐิหลวงปู่เพียรได้แปรสภาพเป็นพระธาตุในเวลาต่อมส
     
  10. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 589
    เหรียญรูปไข่เนื้อทองเเดงสร้างปี 2537 หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล" พระอรหัต์เจ้าวัดป่าสันติกาวาส ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี หลวงปู่บุญจันทร์เป็นศิษย์หลวงปู่มั่นยุคกลาง(น้องพรรษาหลวงตามหาบัว 2 พรรษา)
    หลวงปู่บุญจันทร์ถือกำเนิดเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.ย.2459 ที่บ้านคำพระ (กุดโอ) ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด

    ช่วงวัยเยาว์ เรียนหนังสือที่วัดบ้านคำพระ (วัดสว่างอารมณ์ในปัจจุบัน) จบแค่ชั้น ข.จากนั้นครอบครัวอพยพครอบครัวไปอยู่ จ.ขอนแก่น และบรรพชาที่วัดบ้านท่าเดื่อ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พระอาจารย์อุ้ย เป็นพระอุปัชฌาย์
    ต่อมาอาพาธเป็นโรคไข้รากสาด จนต้องลาสิกขา พอหายป่วย มารดาก็ย้ายถิ่นฐานกลับมาอยู่บ้านคำพระ จ.ร้อยเอ็ด ฝากตัวเป็นศิษย์รับใช้พระอาจารย์คำดี พระกัมมัฏฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต-หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล
    บวชเณรอีกครั้งที่วัดฟ้าหยาด อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด มีพระครูวิจิตร (จันทา) เป็นพระอุปัชฌาย์ สังกัดฝ่ายมหานิกาย แล้วออกธุดงค์ไปอยู่กับหลวงพ่อสิ้ว ที่วัดโดนช้างเผือก (วัดประชาธรรมรักษ์)
    หลวงพ่อสิ้วนำออกธุดงค์ไปนมัสการพระธาตุพนมแล้วเข้า จ.สกลนคร กราบนมัสการหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ที่วัดป่าสุทธาวาส และต่อไปยังเขาพระวิหาร
    ถึงปี พ.ศ.2497 เดินทางเข้า จ.ร้อยเอ็ด ฝากตัวเป็นศิษย์ พระอาจารย์สีโห เขมโก วัดป่าศรีไพรวัลย์ และอุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุต ที่วัดเหนือ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยมีพระโพธิญาณมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาบุญถึง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พรรษาแรกท่านอยู่ที่วัดป่าศรีไพรวัลย์ โดยออกธุดงค์ไปศึกษาข้อวัตรปฏิบัติและฟังธรรมกับหลวงปู่เสาร์ ก่อนไปจำพรรษาที่วัดป่าบ้านวังถ้ำ จ.อุบลราชธานี ,ในพรรษาที่ 2 และมีโอกาสได้กราบนมัสการสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) ,ช่วงพรรษาที่ 3-5 จำพรรษาที่วัดป่าสามัคคีธรรม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์, พรรษาที่ 6 อยู่วัดป่าบ้านโดนแห้ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ,พรรษาที่ 7 อยู่วัดประชาบำรุง (วัดป่าพูนไพบูลย์) อ.เมือง จ.มหาสารคาม ก่อนกลับมาจำพรรษาที่วัดป่าศรีไพรวัลย์ ,ในพรรษาที่ 9-13, พรรษาที่ 14 เข้าจำพรรษาที่สำนักป่า หนองเม้า บ้านจำปา อ.สว่างแดนดิน จ.สกล นคร ,จากนั้นในพรรษาที่ 15 ได้มาอยู่ที่ป่าช้า บ้านไชยวาน จ.อุดรธานี และสร้างวัดป่าขึ้นในปี พ.ศ.2493
    หลวงปู่บุญจันทร์เป็นพระเถระที่สหธรรมิกรุ่นพี่และรุ่นน้องในกองทัพธรรมของหลวงปู่มั่น ให้การยอมรับนับถือในวัตรปฏิบัติและปฏิปทา โดยเฉพาะในเรื่องของการธุดงควัตร ที่เคร่งครัดและพิถีพิถัน ตลอดการธุดงค์ ท่านสัมผัสกับครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายต่อหลายรูป อาทิ หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่คำดี ปภาโส, หลวงปู่บัว สิริปุญโญ, พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร, พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ, พระอาจารย์วัน อุตตโม, พระอาจารย์ลี ธัมมธโร, หลวงปู่แว่น ธนปาโล, หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่สิม พุทธาจาโร, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ฯลฯ
    การได้สนทนาธรรม และรับคำสั่งสอนจากพระคณาจารย์เหล่านี้ จึงทำให้มีความรู้เชี่ยวชาญในเชิงธรรมผนวกกับอุปนิสัยเป็นผู้ตั้งอยู่ในความประมาทในการทำความดีมาแต่เด็ก รักความสงบ พูดจริงทำจริง พูดน้อยแต่ทำมาก และมีนิสัยชอบภาวนา มีเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์
    ทุกอิริยาบถของท่านเต็มไปด้วยความสำรวมระมัดระวัง พยายามไม่ให้ด่างพร้อยในศีล
    แม้จะพูดน้อย แต่ทุกคำเต็มไปด้วยเนื้อหาสาระ เปี่ยมด้วยเหตุผล มีความหมายอย่างลุ่มลึก
    ในปี พ.ศ.2493 มีผู้ถวายที่ดิน เพื่อสร้างวัดป่าขึ้นโดยเรียกชื่อว่า วัดป่าหนองท้ม ภายหลังพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี ฝ่ายธรรมยุต เดินทางมาเยี่ยมชม และได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น "วัดป่าสันติกาวาส"
    หลวงปู่ได้จำพรรษา ฝึกอบรมพระภิกษุ-เณร และญาติโยม ที่วัดป่าสันติกาวาส
    ย่างเข้าสู่วัยชรา สุขภาพร่างกายของท่านไม่แข็งแรงดังเดิม เป็นไปตามกฎแห่งไตรลักษณ์ จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2538 หลวงปู่บุญจันทร์ ละสังขารเข้าอนุปาทิเสสนิพพานอย่างสงบที่วัดป่าสันติกาวาส สิริอายุ 79 ปี >>>>>>>,มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาด้วยครับ***********บูชาที่ 235 บาทฟรีส่งems
    sam_2147-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg sam_2819-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg เปิดดูไฟล์ 5653589 sam_2147-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    sam_2819-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg sam_8464-jpg.jpg sam_8466-jpg.jpg

     
  11. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 590 รูปหล่อเหมือนลอยองค์หลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ พระอรหันต์เจ้าวัดผาเทพนิมิต อ.นิคมนํ้าอูน จ.สกลนคร หลวงปู่บุญพินเป็นศิษย์หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถํ้ากลองเพล,หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นต้น องค์พระสร้างปี 2554 เนื้อโลหะผสมเเร่เหล็กไหลเกาะล้าน มาพร้อมกล่องเดิม มีตอกโค๊ต 3 โค๊ต โค๊ตตัวเลข 1313 เเละยันต์พระสิวลี เเละคำว่า ไตรมาส ใต้องค์พระ
    >>>>
    สืบเนื่องจากมีผู้ใหญ่ในศาลยุติธรรมได้ไปขอสร้างพระเพื่อเป็นที่ระลึกในงานปฏิญาณตนของผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงานภาคสอง แต่อาจจะเป็นเพราะด้วยเหตุอย่างไรไม่ทราบหรือว่าท่านอาจจะมีเหตุให้ทราบว่าก่อนหลวงปู่ผ่านท่านจะมรณภาพท่านได้ฝากเรื่องนี้ไปกับหลวงปู่บุญหนาท่านจึงนิ่งเสียไม่ได้ปรารภอะไรและต่อมาพระที่จะสร้างเป็นที่ระลึกดังกล่าวก็ได้สร้างเป็นรูปหล่อของหลวงปู่บุญหนา หลังจากนั้นต่อมาท่านจึงได้พูดกับทางผู้ใหญ่ที่จะสร้างพระว่าถ้าได้แร่เหล็กไหลเกาะล้านมาเป็นมวลสารผสมคงจะดีถ้าอยากจะสร้างให้นำแร่ดังกล่าวมาผสม
    จึงเป็นที่มาของการสร้างพระหล่อรูปเหมือนรุ่นนี้
    แร่เกาะล้านเป็นแร่โครตรเหล็กไหลงอกเมื่ออยู่ในถ้ำจะแข็งมากแต่เมื่อถูกนำออกมาจะสามารถแกะเป็นรูปต่างๆได้และงอกได้บางทีงอกจนกรอบที่หุ้มไว้แตก
    เมื่อผสมแร่เข้าเป็นมวลสารจะทำให้ผิวของพระดำเป็นเงางามสวยมากส่วนพุทธคุณสิ่งสูง
    เพราะหลวงปู่ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ถึง 1 ไตรมาส
    จำนวนการสร้างไม่มากสร้างเท่าไหร่เอากลับมาหมดเลยเพราะมีการจองหมดตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ >>>>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาเป็นมงคลด้วยครับ***************บูชาที่ 375 บาฟรีส่งems sam_0656-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg sam_6434-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg sam_8091-jpg-jpg-jpg.jpg sam_8093-jpg-jpg-jpg.jpg sam_8094-jpg-jpg-jpg.jpg sam_7605-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  12. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 591 เหรียญกลมกษาปณ์รุ่นธรรมอบรมจิต ธรรมรักษาใจหลวงปู่อุดม ญาณรโต พระอรหันต์เจ้าวัดป่าสถิตย์ธรรมาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ หลวงปู่เป็นศิษย์หลวงปู่เเหวน สุจิณโณ วัดดอยเเม่ปั๊ง,หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม เป็นต้น เหรียญสร้างปี 2556 สร้างเนื่องหลวงปู่อุดมมีอายุครบ 88 ปี มาพร้อมตลับเดิม(เหรียญใหม่ไม่เคยใช้ ********มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาเป็นมงคล >>>>>บูชาที่ 245 บาทฟรีส่งems # ชีวประวัติหลวงปู่อุดม ญาณรโต
    วัดป่าสถิตย์ธรรมวนาราม อ.พรเจริญ จ.หนองคาย
    ชาติภูมิ

    หลวงปู่อุดม ญาณรโต ท่านเกิดในตระกูลชาวนา บิดาและมารดาท่านเป็นชาวนา ที่บ้านดงเฒ่าเก่า ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม อยู่ในสกุล เชื้อขาวพิมพ์ รูปร่างสันทัด สีผิวดำแดง โดยมีโยมบิดาชื่อ นายแว่น เชื้อขาวพิมพ์ และมารดาชื่อนางบับ เชื้อขาวพิมพ์ และมีพี่น้องร่วมสายเลือดทั้งหมด 4 คน รวมหลวงปู่
    ชีวิตในสมัยเด็ก ท่านก็เหมือนเด็กชาวนาทั่วไปบิดามารดาทำนา ท่านก็ไปช่วยทำนา ท่านชอบในเพศบรรพชิตมาก ท่านเห็นพระภิกษุสงฆ์เดินผ่านมาท่านเกิดความเลื่อมใสขึ้นมาเองตั้งแต่วัยเด็ก นี่ก็เนื่องมาจาก โยมบิดามารดาของท่านได้พาปฏิบัติศาสนกิจต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ในพุทธศาสนา เช่น ครูบาอาจารย์ในสมัยท่านพระอาจารย์มั่น บิดามารดาท่านมักพาไปปฏิบัติศาสนกิจมาโดยตลอด เช่น หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม วัดป่าสาลวัน หลวงปู่มหาปิ่น ซึ่งเป็นน้องชายของหลวงปู่สิงห์ เป็นต้น ท่านเล่าต่อว่าโยมบิดาท่านเคยได้บวชเณรอยู่ และสึกออกมามีครอบครัว ส่วนมารดาของท่านก็เข้าวัดทำบุญอยู่เป็นปกตินิสัย จึงทำให้ท่านมีความสนิทสนมและใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนามาโดยตลอดนั่นเอง
    *****บรรพชา
    เนื่องจากในวัยเด็ก ท่านเห็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว เกิดความปีติเลื่อมใสในสมณะสงฆ์ (มีความสุขเมื่อได้เห็นพระสงฆ์) ท่านคงมีความคิดที่อยากออกบวชอยู่ภายในใจมาโดยตลอด จากนั้นเมื่อท่านเริ่มโตเป็นหนุ่มท่านเคยได้อ่านหนังสือสวดมนต์และปฏิบัติ สมาธิภาวนา ของหลวงปู่สิงห์ ขัตยาคโม และพระอาจารย์มหาปิ่น ซึ่งทำให้ท่านจับจิตจับใจ มีจิตใจเข็มแข็งเด็ดเดี่ยว และมั่นใจในการที่จะได้บวชถือคลองเพศสมณะ ท่านได้ช่วยบิดามารดาทำนา หาปูหาปลาตามประสาชาวโลก ท่านเล่าว่าปูปลาสมัยก่อนหาง่ายมาก ตัวก็ใหญ่โตทั้งนั้น ท่านเคยดำน้ำเพื่อหาปลา น้ำลึกมากๆหลายเมตรอยู่ ทำให้ท่านเลือดไหลออกมาจากหู (หูหนวก) ท่านมีอาการหูหนวกอยู่แรมเดื่อนกว่าจะหายเหมือนเดิม ท่านบอกว่าชีวิตฆราวาสนั้นเป็นทุกข์ ต้องทำบาป สร้างกรรมเวรอยู่โดยตลอด จนในที่สุดเมื่อท่านมีอายุครบ ๒๓ ปี ท่านจึงได้ขอบิดามารดาของท่าน เข้าบรรพชาอุปสมบท ในปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ซึ่งเป็นปีที่หลวงปู่มัน ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส มรณะภาพนั่นเอง โดยมีพระอุปัชฌาย์คือ พระครูอรุณสังฆกิจ (มหาเถื่อน อุชุกโร) วัดกุดเรือคำ ต.กุดเรือคำ อ. วานรนิวาส จ. สกลนคร และพระครูพิพิธธรรมสุนทร (พระคำฟอง เขมจาโร) วัดสำราญนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และได้ฉายาทางภิกษุว่า ญาณรโต (ซึ่งแปลว่าผู้ทรงไว้ซึ้งญาณ) และในปีนั้นนั่นเอง ท่านได้เดินทางไปร่วมพิธีเผาศพหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร พร้อมทั้งพระอุปัชฌาย์ และพระกรรมวาจาจารย์ของท่านทั้งสองด้วย ท่านบอกว่างานศพหลวงปู่มั่นใหญ่โตมาก มีพระกรรมฐานมากมายเต็มไปหมด โดยสมัยก่อนวัดป่าสุทธาวาสยังคงมีสภาพเป็นป่าดงพงไพรอยู่ มีต้นไม้ใหญ่มากมายไม่เหมือนสมัยปัจจุบันที่เต็มไปด้วยหมู่บ้านเต็มไปหมด
    พรรษาที่1-2 (พ.ศ.2492-2493)
    ท่านอยู่กับพระอุปัชฌาย์ ที่วัดกุดเรือคำ ต.กุดเรือคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร
    พรรษาที่3-5(พ.ศ.2494-2497)
    ท่านเดินธุดงค์ไปในที่ต่างๆและกลับมา อยู่ที่วัดภูข้าวหลวง อ.สหัสขัน จ.กาฬสินธุ์
    พรรษา ที่7-15(พ.ศ.2498-2506)
    วัดบ้านนาโสก อ.นาแก ต.บ้านแก้ง จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านญาติของท่านและเป็นบ้านเกิดของท่านเองต่อจากนั้นท่านได้ไปพักอาศัยอยู่กับหลวงปู่ลี ฐิตธัมโม ตอนนั้นหลวงปู่ลี ท่านอยู่วัดศรีชมพู ต.โคกสี
    อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    พรรษาที่ 20 (พ.ศ.2507-2515)
    ท่านธุดงค์ไปอยู่ทางภาคเหนือบ้าง เช่น สุโขทัย แพร่ น่าน ลำปาง อุตรดิตถ์ พิจิตร เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ เลื่อยมา โดยท่านได้ไปพบกับ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง หลวงปูตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอาจารย์ตื้อ จ.เชียงใหม่ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ หลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย จ.ลำปาง หลวงปู่หลวง กตปุญโญ วัดคีรีสุบรรพต ต.พระบาท จ.ลำปาง โดย
    ช่วงระยะเวลาที่ธุดงค์ในแถบภาคเหนือ ตั้งแต่จังหวัดเพชรบูรณ์นั้น ท่านมีสหธรรมมิกที่ร่วมเดินทางไป
    ด้วยกัน คือ หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล วัดอนาลโย จ.พะเยา และหลังจากที่ท่านไปธุดงค์ที่เชียงใหม่
    กลับมาท่านจึงได้มาอยู่ที่วัดป่า สถิตย์ธรรมวนาราม ต.ศรีชมภู อ.พรเจริญ จ.หนองคาย จนกาละสมัย
    ปัจจุบันนี้ (นี้เป็นเพียงประวัติย่อๆเท่านั้น)
    ครูบาอาจารย์ที่หลวง ปู่ได้ไปพำนักอาศัย และฟังธรรม
    ครูบาอาจารย์เท่าที่หลวงปู่จำได้และเล่าให้ฟังมานั้น ในอดีตที่ผ่านมาแล้วทั้งหลาย ในบางคราวท่านก็ลืมไปบ้าง ซึ่งอาจจะไม่ละเอียดมากนัก เท่าที่ท่านพอจะจำได้นั้น มี ดังนี้
    1. หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
    2. หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอาจารตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    3. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
    4. หลวง ปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย จ.เชียงใหม่
    5. หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์
    5. หลวงปู่ลี ฐิตธัมโม วัดเหวลึก ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    6. เจ้า คุณแดง วัดป่าประชานิยม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
    7. หลวงปู่เอี่ยม วัดภูข้าวหลวง อ.สหัสขัน จ.กาฬสินธุ์
    ******การ เดินธุดงค์
    ท่านเล่าว่าตั้งแต่โยมบิดาของท่านเสีย ชีวิตด้วยโรคชรา ตอนอายุ ได้ 73 ปี ก่อนท่านออกเดินธุดงค์ และมารดาท่านก็เสียชีวิตด้วยโรคชราเช่นกัน เมื่อตอนอายุได้ 79 ปี หลังจากที่ท่านธุดงค์กลับมาจากจ.เชียงใหม่ ท่านเล่าว่าตอนที่ท่านได้ไปพำนักอยู่ เพื่อฟังธรรมกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่วัดดอยแม่ปั๋งนั้น ท่านเกิดความประทับใจมาก ท่านเล่าว่าหลวงปู่แหวนท่านเทศแบบง่ายๆ สั้นๆ แต่มีคุณภาพมากๆ คำพูดของท่านลึกซึ้งกว้างขวางมากนัก น่าเลื่อมใสมากๆ ซึ่งในเวลานั้นหลวงปู่ลี วัดเหวลึก ท่านก็ได้ไปร่วมฟังธรรมกับหลวงปู่แหวน กับท่านด้วย ท่านอยู่ฟังธรรมกัน ประมาณ๒-๓ คืน
    จากนั้นท่านได้เดินทางไปจังหวัดลำปาง และเพชรบูรณ์ โดยเดินเท้าไป บางทีฆราวาสเห็นก็อาสาพาไปส่งเป็นบ้าง ท่านใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 เดือนเศษ โดยท่านเดินทางผ่านจังหวัด สุโขทัย แพร่ น่าน ลำปาง อุตรดิถต์ พิจิตร และเพชรบูรณ์ และใช้เวลาเดินทางจากเพชรบูรณ์ไปเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณอีก 2 เดือน ท่านเล่าว่าตอนเดินทางผ่าน จ.สุโขทัย ได้พบฆราวาสที่กินเจ มักใส่ขนมปัง และน้ำตาลอ้อย โดยบางครั้งเขาจะนำขนมกับข้าวสุกใส่ให้เต็มบาตรเลย ไม่มีกับข้าวคาวเลย ท่านฉันทีแรกๆก็อร่อยดี แต่หลายวันเข้ามันชักไม่อร่อย โดยในตอนนั้นท่านได้เดินเท้าธุดงค์ร่วมกับพระอาจารย์ไพบูรณ์ สุมังคโล วัดอนาลโย จ.พะเยา ซึ่งท่านทั้งสอง สนิทสนมมักคุ้นกันอยู่
    ******การปฏิบัติธรรม
    โดยปกติหลวงปู่อุดมท่านชอบเดินจงกรม และนั่งสมาธิภาวนาเพื่อปฏิบัติทางจิตของท่านอยู่โดยตลอด ท่านบอกว่าถ้าวันไหนไม่ได้เดินจงกรมแล้วหล่ะก็ เดือดร้อนไม่ได้เลยนะ จิตจะเศร้าหมองทันที สมัยที่ท่านอยู่ที่เชียงใหม่ ท่านปฏิบัติธรรมอยู่นั้น จิตของท่านเกิดความสว่าง มีความสุขมาก จิตตกถึงฐานของจิต เข้าสู่พื้นเดิม ท่านเปรียบเหมือนการสักผ้า ถ้าผ้ามันลาย พื้นเดิมของจิตมันก็ลาย ถ้าผ้ามันดำ จิตพื้นเดิมมันก็ดำ (สำนวนของหลวงปู่อุดม) ท่านบอกว่ามันถึงฐานของมัน มีความสุขมากไม่มีอะไรจะมีความสุขเท่า มันมีความปีติอิ่มอกอิ่มใจมาก ท่านจึงเอาตรงนี้มาเป็นอารมณ์ และค้นหาเข้าไปในจิตต่อจนถึงที่สุดของใจ ท่านเล่าว่ามันมีปัญญามากมายหลายอย่างเกิดขึ้นมา ท่านบอกว่าท่านอดนอน อดอาหารเพื่อทำความเพียรภาวนา อยู่ ๕ วัน ๕ คืน ท่านบอกว่า อดนอนนี่ทุกข์ยิ่งกว่าอดอาหารอีก แต่เพราะว่ามีปีติอยู่ ท่านจึงสามารถทำได้ ภายหลังจาก ๕ วันผ่านไป จิตของท่าน ก็เบาสบายได้กำลังใจ และกำลังกายยังแข็งแรงดีอยู่ เวลาธรรมเกิดขึ้นมา ๑๐๐ % ท่านนั่งสมาธิไปได้จนถึงแจ้งเลย(เช้าเลย) การปฏิบัติของท่านในเวลา ๖ โมงเย็น จนถึง ๕ ทุ่ม ท่านมักจะเดินจงกรม และในเวลา ๕ ทุ่มขึ้นไป ท่านจะนั่งสมาธิภาวนาไปเรื่อยจนบางทีถึงสว่างก็มี ในคราวที่ใจของท่านรวมลงจนถึงสภาวะเดิมของจิต ท่านเล่าว่ามีความสุขมากๆ ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่เกิดขึ้นนั้น เหมือนกับอยู่ตรงหน้า สามารถยื่นมือแทบจะจับได้ต่อหน้านี้เลยทีเดียว จิตมันไม่ท้อไม่ถอย กระจ่างหมดทุกอย่าง มันหาใจ แก้ใจตัวเองได้หมดทุกอย่าง ในเวลาฟังธรรมพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เพียงนิดหน๋อยเท่านั้นจิตท่านก็สว่างโพรงเลย ท่านบอกว่าจิตท่านเห็นธรรมที่วัดป่าอาจารย์ตื้อ จ.เชียงใหม่ ซึ่งขณะนั้นท่านพำนักอาศัยอยู่กับ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโมนั่นเอง ท่านยังเล่าต่ออีกว่า หลวงปู่ตื้อนั้น ท่านจะเป็นพระที่เทศตรงไปตรงมามาก จนในบางครั้งดูแล้วอาจจะไม่ไพเราะ แต่ท่านก็บอกว่า ผู้มีปัญญาก็ต้องเลือกฟังให้ถูกกับจิตของตนเอง อันไหนดีก็นำมาปฏิบัติให้ถูกกับจิตของตน ในยามที่ท่านเข้าไปนวดแขน นวดขาให้กับหลวงปู่ตื้อนั้น หลวงปู่ตื้อท่านจะเทศให้หลวงปู่อุดมฟัง หลวงปู่อุดมท่านเล่าว่าจับจิตจับใจมาก เลยทีเดียว ทำให้เกิดความเลื่อมใสในองค์ของหลวงปู่ตื้อมากมายยิ่งขึ้นเลยทีเดียว องค์หลวงปู่ตื้อนั้น ท่านขุดดิน ฟันต้นไม้ ต้นกล้วยได้ ซึ่งจริงๆแล้ว สำหรับพระต้องปรับเป็นอาบัติ ส่วนองค์หลวงปู่ตื้อนั้นท่านคงอยู่เหนือสมมุติไปแล้ว เพราะในคราหนึ่งหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง ท่านห้ามหลวงปู่ตื้อไม่ให้ทำเช่นนี้ แต่หลวงปู่ตื้อกลับหันมากล่าวกับหลวงปู่แหวนว่า ไม่ต้องมาสอนหรอกน่า เราพ้นแล้ว(จิตท่านหลุดพ้นไปแล้วนั่นเอง) sam_7277-jpg-jpg-jpg.jpg sam_7278-jpg-jpg-jpg.jpg sam_3981-jpg-jpg-jpg.jpg sam_2151-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg sam_2152-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg sam_2154-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg sam_2153-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  13. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 592 เหรียญกลมรุ่นสมปรารถนาหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต พระอรหันต์เจ้าวัดสวนทิพย์ (ซอยวัดกู้) อ.ปากเกร็ด จ,นนทบุรี หลวงปู่บุญฤทธิ์เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ เนื้อสำริด มีตอกโค๊ต คำว่า จิต หลังเหรียญ *******************************************************************************ประวัติย่อๆพอสังเขปหลวงปู่บุญฤทธิ์
    หลวงปู่บุญฤทธิ์ มีนามเดิมว่า บุญฤทธิ์ จันทรสมบูรณ์ เป็นบุตรชายของหลวงพินิจจินเภท กับ คุณแส จันทรสมบูรณ์ ท่านเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2458 ที่บ้านท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.พิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ ในวัยเยาว์ มารดาเป็นผู้มีความศรัทธาในพุทธศาสนา รวมถึงเคยเข้ารับการอบรมในวัง จึงถ่ายทอดลักษณะนิสัย ระเบียบชีวิต แนวคิดต่างๆ ให้หลวงปู่ สอนให้หลวงปู่สวดมนต์ไหว้พระ อ่านหนังสือธรรมะจนติดเป็นนิสัย

    160202-3-2-jpg-jpg.jpg

    ในอดีตท่านเป็นนักศึกษาปริญญาจากต่างประเทศ เป็นข้าราชการหนุ่มอนาคตสดใส ครั้งอายุ 10-11 ปี ถูกส่งตัวเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเซ็นคาเบรียล กรุงเทพฯ รุ่นที่ 1 อาศัยอยู่กับคุณพระโสภณเพชรรัตน์ จนจบม.8 ภาษาฝรั่งเศส หลวงปู่บุญฤทธิ์ เคยได้รับรางวัลประกวดเรียงความชนะเลิศจาก จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ซึ่งเป็น รมต.กลาโหมสมัยนั้น จากนั้นได้สอบชิงทุน (กพ.) ได้ไปศึกษาต่อที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม พ.ศ. ๒๔๗๕ กลับจากเวียดนามรับราชการที่หอสมุดแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และภายหลังเป็นทูตที่พระตะบอง

    44521372_2427482870612125_1041978200088903680_n-jpg-jpg.jpg
    แต่ด้วยความเลื่อมใสปฏิปทาพระป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจึงลาออกจากราชการแล้วออกบวช โดยบรรพชาอุปสมบทในปี 2489 ที่วัดศรีเมือง จ.หนองคาย และปฏิบัติธรรม ออกธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขาโดยตลอด จนกลายเป็นศิษย์ของ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และจำพรรษาด้วยกัน อุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่ชอบอยู่หลายเดือน จากนั้น หลวงปู่บุญฤทธิ์ ได้เป็นพระธรรมทูต เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศกว่า 30 ปี เช่น เม็กซิโก สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ จีน เยอรมัน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ซึ่งหลวงปู่พูดได้ถึง 6 ภาษา กระทั่งจำพรรษาที่สำนักปฏิบัติธรรมสวนทิพย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนมีอาการอาพาธ ต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง และได้ละสังขารเมื่อวันที่ 14 พ.ย. เวลา 22.22 น. ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สิริอายุ 104 ปี
    “หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต” ละสังขารแล้ว ปี2561 สิริอายุ 104 ปี
    เปิดคำสอนสุดท้ายของ “หลวงปู่บุญฤทธิ์” ทุกสิ่งล้วนมีสังขาร >>>>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาเป็นมงคลด้วยครับ ************บูขาที่ 445 บาทฟรีส่งems
    sam_0351-jpg-jpg.jpg sam_6769-jpg-jpg.jpg sam_6770-jpg-jpg.jpg sam_1439-jpg-jpg.jpg
     
  14. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 593
    พระกริ่งเเซยิด 86 ปีหลวงปู่เเว่น ธนปาโล พระอรหันต์เจ้าวัดถํ้าพระสบาย อ.เเม่ทะ จ.ลำปาง หลวงปู่เเว่นเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นยุคกลาง องค์พระกริ่งสร้างปี 2539 สร้างเนื่ององค์หลวงปู่อายุครบ 86 ปี เนื้อกะไหล่เงิน มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชา พิเศษรายการนี้มีเเถมมอบพระผงปิดตามหาลาภเนื้อออกเหลืองโรยเเร่เหล็กไหลหลวงปู่เเว่นมาบูชาเพิ่มอีกองค์ครับ ***********บูชาที่ 385 บาทฟรีส่งems
    ประวัติ พระครูภาวนาทัศนวิสุทธิ (หลวงปู่แว่น ธนปาโล)
    หลวงปู่แว่น ธนปาโล ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตโต อีกองค์หนึ่งที่เรียบร้อยงดงามเสมอต้นเสมอปลายตลอดที่ท่านดำรงตนอยู่ในสมณเพศท่านอยู่ด้วยสันโดษมักน้อยและเรียบง่ายหนักแน่นในธุดงควัตร ชอบอยู่ในที่สงบสงัด ของป่าเขาลำเนาไพร เพื่อปลีกตัวหาความวิเวกในการเจริญภาวนา ด้วยปฏิปทาเครื่องดำเนินที่เคร่งครัดลออในด้านพระธรรมวินัยที่ถูกต้องแม่นยำและงดงาม บนเส้นทางธรรมของหลวงปู่ที่ผ่านมานี้ จึงทำให้กิตติศัพท์ของท่านฟุ้งขจรไปทั่วทุกสารทิศ ก่อให้เกิดศรัทธาปสาทะ ความเชื่อถึอและความเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนอย่างกว้างไกล จวบจนทุกวันนี้
    ชาติภูมี หลวงปู่แว่น ธนปาโล เกิดในสกุลทุมกิจจะ บิดาชื่อนายวันดี มารดานางอำไพ และในปี พ.ศ. ๒๔๗๒ อายุ ๑๘ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรกับพระอุปัชฌาย์ ชื่อพระอาจารย์สีทอง พันธุโล สังกัดมหานิกาย ๑ พรรษา ที่วัดศรีรัตนาราม แล้วติดตามออกรุดงค์ไปกับหลวงปู่สิม พุทธาจาโร ไปยังสำนักสงฆ์โคกป่าเหล่างา จังหวัดขอนแก่น เพื่อนฝึกหัดปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่สิงห์ ขนตยาคโม
    พ.ศ. ๒๔๗๓ ได้แปรญตติเป็นสามเณร สังกัดธรรมยุตินิกาย โดยมีหลวงปู่สิงห์ ขนตยาคโม เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๗๒ ณ วัดศรีจันทราวาส ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น และกลับไปจำพรรษากับหลวงปู่สิงห์และหลวงปู่สิม ที่เสนาสนะป่าช้าบ้านโคกเหล่องา (วัดป่าวิเวกรรม) อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    พ.ศ. ๒๔๗๕ เมื่ออายุ ๒๑ ปี หลวงปู่สิมไปพาหลวงปู่แว่นกลับมาเกณฑ์ทหารที่บ้านเกิดและอุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๔ ณ พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม อำเภอเมือง จังหวัด นครพนมโดยมี พระสารกาณมุนี (หลวงปู่จันทร์ เขมิโย) เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า “ธนปาโล” แปลว่า ผู้รักษาทรัพย์ และได้มาจำพรรษากับหลวงปู่เกิ่ง อธิมตตโก วัดโพธิ์ชัย บ้านสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เป็นเวลา ๔ พรรษา
    หลวงปู่แว่น ได้รับคำแนะนำหลักการปฏิบัติกรรมฐานเพิ่มขึ้นจาก หลวงปู่เสาร์ กนตสีโล , หลวงปู่มั่น ภูริทตโต และท่านพ่อลี ธมมธโร เป็นลำดับ หลวงปู่ได้ออกปฏิบัติธรรมเร่งความเพียรโดยไม่ท้อถอย ในปี พ.ศ.๒๔๘๗ (พรรษาที่ ๑๓) ท่านได้พบหลวงปู่มั่น ภูริทตโต ที่วัดป่าวารินทร์ (วัดแสนสำราญ) อำเภอรินชำราบ จังหวัด อุบลราชธานีในปี พ.ศ.๒๔๘๙ หลวงปู่แว่น ได้เดินทางไปบำเพ็ญภาวนากับหลวงปู่สิม พุทธาจาโร ที่วัดป่าบ้านกาด อำเภอสันกำแพง (วัดโรงธรรมสมัคคี) จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากนั้นหลวงปู่แว่นได้เดินธุดงค์ไป อำเภอจอมทอง และได้จำพรรษาที่ถ้ำพระธรรม อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
    ในปี พ.ศ.๒๔๙๑ หลวงปู่แว่นพำนักอยู่ที่สำนักสงฆ์โรงธรรมสามัคคีกับหลวงปู่สิม ชาวอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ได้ไปนิมนต์ท่านให้มาพำนักอยู่ที่วัดโนงน้ำตาล (วัดป่าสำญนิวาส) และท่านได้อยู่จำ พรรษาถึง ๕ พรรษา คณะศรัทธาญาติโยมเลื่อมใสมารับการอบรมวิปัสสนากรรมฐานเป็นจำนวนมาก และหลวงปู่แว่นเป็นผู้จุดประกายให้มีวัดป่าวงศ์ธรรมยุติที่เป็นวัดปฏิบัติธรรมเกิดขึ้นในจังหวัดลำปางต่อมาในพ.ศ.๒๔๙๒ หลวงปู่ได้รับข่าวการรณภาพของท่านพระอาจารย์มั่น หลวงปู่คิดจะเดินทาง ไปเคารพศพของท่านพระอาจารย์มั่นที่จังหวัดสกลนครบังเอิญหลวงปู่สิมได้แวะมาเยี่ยมหลวงปู่ในช่วงนั้น ได้กล่าวทัดทานไว้โดยให้ข้อคิดว่า “ท่านพระอาจารย์มั่นของเรา ท่านมิได้ปรารถนาให้เดินทางไปเคารพศพท่านแต่ท่านพระอาจารย์มั่นประสงค์ให้ลูกศิษย์ลูกหาตั้งหน้าตั้งตาประพฤติบัติรักษาจิตใจให้มั่นคง”หลวงปู่แว่นจำไม่ได้เดินทางไปยังวัดป่าสุทธาวาส แต่มุ่งมั่นในการปฏิบัติภาวนาเพื่อค้นหาสังธรรมให้ยิ่งยวดขึ้นไป ตามแนวทางที่ได้รับการอบรมธรรมมาจากท่านพระอาจารย์มั่น ภูริตตเถระวันหนึ่งหลวงปู่ได้นิมิตเห็นดอยลูกหนึ่ง คล้ายรูปทรงเจดีย์ อยู่ไม่ไกลจากวัดสำราญนิวาส ท่านจึงออกสำรวจ และพบเจอสถานที่ตรงตามนิมิต ซึ่งชาวบ้านเรียกดอยน้ำขุม และมีถ้ำหลายถ้ำ แต่มีถ้ำใหญ่ถ้ำหนึ่งที่อากาศปลอดโปร่งเย็นสบาย ชาวบ้านเรียก ถ้ำแกเก๊า (นกเค้า) มาเยี่ยมสถานที่แห่งนี้หลวงปู่สิม จึงตั้งชื่อใหม่ “ถ้ำพระสบาย”
    ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือธรรมประวัติ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ผู้มากมีบุญ หน้าเลขที่ ๔๕๕-๔๖๘ ได้กล่าวถึงการสร้างเจดีย์ในถ้ำพระสบายไว้ดังนี้ พระอาจารย์จาม มหาปุญโญ เคยเล่าที่มาอดีตชาติของบูรพาอาจารย์หลายองค์ที่มีความเกี่ยวข้องกันมีดังนี้ อาจารย์แว่น เคยเป็นเจ้าครองเมืองลำปางหลวงมีเมียต้น คือแม่จำปา (ปัจจุบันชาติเป็นโยมอุปัฏฐานที่ร่วมกันสร้างเจดีย์ในถ้ำพระสบาย)และได้มีบุตรด้วยกัน ๒ คน คือ อาจารย์สิม พุทธาจาโร และอาจารย์หลวง กตปุญโญ ต่อมาได้เมียคนที่ ๒ คือ แม่ศรีอรุณ (ปัจจุบันชาติเป็นโยมอุปัฏฐากที่ร่วมกันสร้างเจดีย์ในถ้ำพนะสบาย) ซึ่งได้อาจารย์จามและอาจารย์น้อยเป็นลูก ครั้งหนึ่งแม่ศรีอรุณ ในอดีตชาติได้ขอพรให้ลูกชายได้ขึ้นครองราชย์แต่ไม่สำเร็จลูกทั้งสองจึงพาแม่ศรีอรุณหนีมาอยู่ที่ถ้ำพระสบาย ตั้งกลุ่มเป็นโจร โดยมีอาจารย์ตื้อเป็นขุนพลโจรใหญ่ มีบริวารถึง ๓,๕๐๐ คน ได้ปล้นคนรวยนำทรัพย์สินไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ทั้งทุกสารทิศ จนในที่สุดได้ยกกำลังเข้ายึดเมืองเมื่อผู้เป็นพ่อ (อาจารย์แว่น) เสียชีวิตลงและได้ขึ้นครองราชย์ ส่วนอาจารย์สิมได้หนีไปบวชที่ถ้ำเชียงดาวในปัจจุบัน และได้บำรุงปัจจัยสี่ ให้อาจารย์ หลวงไปบวชอยู่ภูเขาขนาดย่อมๆ ลูกหนึ่ง ใกล้เวียงลำปาง
    ในปีพ.ศ.๒๔๙๗ หลวงปู่แว่นกลับไปจำพรรษาที่วัดสันติสังฆารามวัดที่บ้านเกิด และเป็นวัดที่โยมมารดาได้ถวายที่ดินเพื่อสร้างวัดให้หลวงปู่สิม พุทธาจาโร อยู่จนถึงปี พ.ศ.๒๕๐๒ โยมมารดาถึงแก่กรรม แล้วจึงธุดงค์ไปที่อื่น และแวะมาภาวนาที่ถ้ำพระสบาย ชาวคณะบ้านบัวได้มานิมนต์ให้กลับไปจำพรรษาที่ วัดสันติสังฆาราม ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๑๐ หลวงปู่แว่นได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนครและดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเเภอ หลวงปู่แว่นได้จำพรรษา ณ วัดป่าสุทธาวาสนานถึง ๑๓ พรรษา และท่านก็ได้ดูแลควบคุมการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์บริขารหลวงปู่มั่น ภูริทตโต หลังจากนั้น ท่านจึงลาออกจากเจ้าคณะอำเภอและเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาส และกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านเกิดอีก ๑ พรรษา
    ปี พ.ศ.๒๕๒๓ (พรรษาที่ ๕๐) หลวงปู่จึงกลับมาจำพรรษาและพัฒนาถ้ำพระสบาย บ้านหนองถ้อย ตำบลนาครัว อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง จนเจริญรุ่งเรืองสืบมาจนทุกวันนี้ ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ที่พระครูภาวนาทัศนวิสุทธิ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๕ หลวงปู่แว่น ธนปาโล ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยและการปฏิบัติสมาธิ วิปัสสนา หลวงปู่ได้อบรมพร่ำสอนพระภิกษุ สามเณร อุบาสก-อุบาสิกา มิได้ขาดจวบจนวาระที่ท่านละสังขารเข้าอนุปาทิเสสนิพพาน เมื่อวันอังคาร ที่ ๘ เดือน ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๑ สิริรวมอายุได้ ๘๘ ปี ๘ เดือก ๖๘ พรรษา
    sam_7478-jpg-jpg-jpg.jpg sam_7479-jpg-jpg-jpg.jpg sam_6226-jpg-jpg-jpg.jpg sam_6230-jpg-jpg-jpg.jpg sam_6232-jpg-jpg-jpg.jpg sam_6450-jpg-jpg-jpg.jpg sam_6451-jpg-jpg-jpg.jpg sam_1885-jpg-jpg-jpg.jpg


     
  15. อาทิตย์03

    อาทิตย์03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +772
    จองครับ
     
  16. แปดเหลี่ยม

    แปดเหลี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    831
    ค่าพลัง:
    +559
    จองครับ
     
  17. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,245
    ค่าพลัง:
    +6,456
    ขอจองครับ
     
  18. birdyik

    birdyik Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2007
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +128
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  19. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,040
    ค่าพลัง:
    +805
    โอนแล้วที่อยู่ตามpmนะครับ
     
  20. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รับทราบสำหรับเพื่อนสมาชิกที่จองเเละโอนมาเเล้ว พรุ่งนี้ผมจัดส่งให้ครับผม (วันนี้ไปรษณีน์หยุดครับม) ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...