เรื่องเด่น มีญาติมาผูกคอตายที่บ้านผมครับ ผมควรทำยังไงดีครับ

เรื่องปราบผีที่มีบางท่านเสนอนั้น ผมไม่แน่ใจ เพราะเราต้องพึงสังวรณ์ไว้ว่า เขาอยู่ที่นั่นมาก่อนเรา เราไปปลูกบ้านในที่ดิน ที่อยู่ที่เขาอยุ่มาก่อน
ถ้าไปปราบ ไปไล่เขา ก็ลองนึกดูว่าถ้าเราโดนไล่ เราจะทำอย่างไร

บางท่านอาจเคยมีประสบการณ์สวดภาณยักษ์ก่อนนอนเพราะกลัวผี แต่กลับโดนเล่นงานหนักกว่าเดิม อันนี้ท่านคงพอเข้าใจได้ด้วยตรรกะ ว่าทำไม

ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ แผ่เมตตา ใช้พุทธคุณ ใช้บุญหนุนนำน่าจะดีกว่า
หรือทำพิธีอะไรก็ตามที่ท่านเชื่อ จะดีในระยะยาว

 

น่าเห็นใจครับ...เป็นผมคงหลอนไปอีกนาน...เรื่องแบบนี้คงต้องใช้เวลาครับ....ช่วงนี้ำก็คงต้องทำในสิ่งที่ทำได้ คืนหมั่นทำบุญใส่บาตร อุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวร ครับ

 

ขอแสดงความเสียใจกับเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ เป็นใครๆก็คงหลอนกันไปเลย ทั้งๆที่ญาติของคุณอาจจะตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุอื่นก็ได้ อย่าขายต่อเลยค่ะลงทุนลงแรงไปตั้งเยอะแล้ว หาพระมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ญาติของคุณ หรือทำซุ้มสวยๆแล้วมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ไว้ให้คนกราบไหว้ก็ดีนะคะ คนจะได้หายกลัว เดี๋ยวคนก็คงจะลืมกันไปเอง แล้วก็สร้างห้องน้ำใหม่ไว้ใช้ก็พอ ทุกอย่างย่อมมีทางแก้ไข แต่อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย

 

ผมเคยทำโรงแรมนะครับ...ช่วงที่ทำอยู่มีคนมากินยาตายในห้อง..ใช้วิธี นิมนต์พระ มาสวดถอนครับ ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลยครับ..

 

อยู่ตรงนั้นแหละไม่ต้องทำอะไร
ขอให้ทำความดีก็พอ

 

แล้วก็ตั้งหิ้งพระ หาเช่าบูชาพระพุทธรูปมาไว้สักองค์ หรือเป็นโต๊ะหมู่ก็ดี แล้วก็สวดมนต์ทุกวัน หรืออย่างน้อยทุกวันพระก็ดีเริ่มตั้งแต่

บูชาพระรัตนตรัย
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ

บทกราบพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ (กราบ)

นมัสการพระรัตนตรัย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สวด ๓ จบ)

ขอขมาพระรัตนตรัย
วันทามิ พุทธัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต, วันทามิ ธัมมัง,สัพพะเมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต, วันทามิ สังฆัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต

ไตรสรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ถวายพรพระ (อิติปิโสฯ)
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (พุทธคุณ) สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ (อ่านว่า วิญญูฮีติ) (ธรรมคุณ)สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (สังฆคุณ)


พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ)
พาหุงสะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ นาฬาคิริง คะชะวะรังอะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะ สุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง (อ่านว่า พรัมมัง) วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โยวาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะ เนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ (* ถ้าสวดให้คนอื่น ให้เปลี่ยนจากคำว่า เม เป็น เต)

ชัยปริตร (มหากาฯ)
มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม* ชะยะมังคะลัง ฯชะยันโตโพธิยา มูเล สักยานัง นันทิ วัฑฒะโน เอวัง อะหัง วิชะโย โหมิ (ถ้าสวดให้คนอื่นเปลี่ยนเป็น ตะวัง วิชะโย โหหิ) ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะ ปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะ ติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏ ฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ (อ่านว่า พรัมมะ) จาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา ปะ ทักขิณา นิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ

กะระณียะเมตตะสูตร (สวดแล้ว เทวดารักษา ภูติผีปีศาจไม่มารบกวน)
กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจ จะสักสักโก อุชู จะ สุหุชู จะ สุวะโจ จัสสะ มุหุ อะนะมานี
สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ อัปปะกิจโจ จะสัลละหุกะวุตติ
สันตินทรีโย จะ นิปะโก จะ อัปปะคัพโก กุเลสุ อะนะนุคิทโธ
นะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กิญจิ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง
สุขิโน วา เขมิโน โหตุ สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ ตะสา วา ถาวะรา วาอะนะวะเสสา
ทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิมา รัสสะกา อะณุกะถูลา
ทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเร
ภูตา วา สัมภะเวสี วา สัพพา สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
นะ ปะโร ปะรัง นิภุพเพภะ นาติมัญเญถะ กัตถะ นัง กิญจิ
พยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะ
มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข
เอวัมปิ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
เมตตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง
ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ
เอตัง สะติง อธิฏเฐยยะ พัรหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ
ทิฏฐัญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน
กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นะหิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุ นะเรตีติฯ



บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์ อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร อัพยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง อะนีโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อัพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิด ฯ

บทแผ่ส่วนกุศล
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า มีความสุข อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า มีความสุข อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวง มีความสุขอิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง มีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ

กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร
ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศล จากการเจริญภาวนานี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ

​

 

สวดมนต์ และแผ่เมตตาให้ผู้ตายทุกวัน ทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้ ทำบุญบ้าน และเปลี่ยนย้ายห้องที่มีคนตายเสียใหม่ หรือทุกทิ้งทำเป็นห้องใหม่ไปเลย แบบนี้น่าจะช่วยให้ดีขึ้นค่ะ

 

: มีญาติมาผูกคอตายที่บ้านผมครับ

เป็นเหตุเป็นผลดีครับ

 

คนตายยังไม่ถึงที่ตาย อายุขัยยังไม่หมด จึงไม่มีที่ไป หรือนัยหนึ่งว่าญาติของท่านคนนั้นจิตตกจากวิญญาณที่ป่าช้าต้องการจะพาไปเป็นพวกหรือต้องการตัวตายตัวแทนก็เป็นได้ ประจวบเหมาะกับลักษณะบ้านของท่านที่เอื้อต่อวิญญาณ อาจทำให้วิญญาณของญาติท่านที่ผูกคอตายไม่อาจไปที่อื่นได้ ทั้งยังอาศัยปัจจัยรวมทั้งพลังต่างๆที่เกื้อหนุนต่อการดำรงวิญญาณของตนได้ดี จึงอาจสามารถสำแดงอะไรต่างๆให้เราสัมผัสรับรู้ได้ การที่จะอาศัยในบ้านหลังนี้ต่อย่อมไม่เกิดผลดีเลย ถึงแม้จะมีการทำพิธีปัดรังควาญก็ตาม นั่นหมายถึงสภาพจิตใจ ดังนั้นเพื่อความสบายใจที่สุดควรทำพิธี 2 อย่าง คือ 1.เป็นการใช้พิธีทางไสยศาสตร์ด้วยการขับไล่ดวงวิญญาณ ไม่ว่าจะตามลัทธิความเชื่อหรือศาสนาใดก็ตาม นั่นคือเป็นการขับไล่ เพื่อความสบายใจควรหาต้นไม้มงคลมาปลูกด้วย ต้นทับทิม หรือไม้กันเกรา ก็สุดแล้วแท้แต่ชอบ 2.เมื่อทำการขับไล่ไปแล้ว ก็จำต้องป้องกันไม่ให้เขากลับมาอีก ด้วยการนิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์ พรมน้ำมนต์รอบบ้าน หรือจะติดยันต์อะไรก็ได้
....หากท่านเป็นคนจีน หรือเชื่อในเรื่องของจีนผมจะแนะนำให้ปลูกต้นทัมทิมที่บ้าน ตั้งสิงห์คู่หรือสิงโตหน้าบ้าน ทำพิธีเชิญขับไล่วิญญาณ และติดยันต์ตามจุดต่างๆ หรืออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทพเทวดาที่ปราบมารมาไว้ในบ้านครับ

 

ขออนุญาตเพิ่มเติม ไม่ได้แย้งนะครับ ลองมองอีกมุมหนึ่งคือ การที่วิญญาณติดอยู่ที่นั่นก็ด้วยแรงอาฆาต หรือจิตที่ไม่มีที่ไป เป็นเครื่องพันธนาการอยู่ นับว่าผิดอยู่แล้วกับการที่อยู่ผิดภพผิดที่ การปราบผีนั้นคือการกำหราบฤทธิ์หรือพลังวิญญาณให้หมดไป เมื่อนั้นแรงอาฆาตและพันธนาการก็หมดไป จากพิธีปราบก็กลายเป็นพิธีส่งวิญญาณ ส่งดวงวิญญาณที่สิ้นฤทธิ์ไปสู่ภพภูมิที่เหมาะที่ควร ดูจะเป็นการช่วยเหลือวิญญาณเสียมากกว่า ใช้ว่าจะปราบด้วยความคึกคะนองบ้าเลือดหรือสำแดงวิชาปาหี่เท่านั้น แม้ในอดีตพระผู้มีพระภาคเจ้าเองก็ทรงเคยตรัสให้พระโมคคัลลานะกำหราบพญานาคให้สิ้นฤทธิ์ จึงจะสามารถโปรดได้ นี่เป็นความเห็นนะครับ ถูกผิดประการก็ช่วยท้วงติงครับ

 

ให้ ทำบุญไปให้สัมภเวสี ญาติที่ตายบ่อยๆ และทำบุญให้เทวดา เจ้าที่เจ้าทาง ทำบ่อยๆ
นิมนต์พระมาทำบุญบ้าน ก็จะทำให้อุ่นใจ
เท่านั้นแหละ ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก

เราไปอยู่ในสถานที่ ที่มีวิญญาณมาก ก็ดี ทำบุญให้เขาเยอะๆ แล้วขอโชคขอลาภ ซะเลย
เมื่อเขาดีแล้ว เขาก็ช่วยกันสนับสนุนเราเสียอีก

ทีนี้ หากวิญญาณนิสัยไม่ดี(ปิศาจ) เราก็อาราธนา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เทวดา มาปกปักรักษาที่บ้าน หมั่นทำบุญให้ทาน อุทิศให้ดวงวิญญาณแถวนั้น อุทิศให้เทวดา ซะ หมดเรื่อง

 

ทำบุญบ้าน กรวดน้ำไปให้ แล้วก็ให้ญาติช่วยเรียกลูกค้าเข้าร้าน แบบไม่ต้องแสดงตัว

ถ้าขายดีจะทำสังฆทานไปให้ รวยเห็นๆ

 

อยู่ไปก่อน พร้อมทำบุญอุทิศไปให้ผู้ตายเรื่อยๆ
จัดหนักๆ 7 วันติดกัน (และเรื่อยๆ)

ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องย้ายแหละค่ะ
สงสารแม่เนาะ...
อยู่แบบหลอนๆ คงไม่มีความสุข

 

แล้วพอเริ่มถามพ่อ เรื่องต่างๆก็เริ่มเข้ามา พ่อบอกว่า แม่หน่ะหลอนมาตั้งนานแล้ว เพราะมีวันนึง ตอนที่ปิดร้าน ปกติ จะเปิดไฟไว้ตลอด วันนึงพ่อไปปิดไฟ จู่ๆ ตู้ที่วางของ หนักๆ เลย ก็หล่นลงมา เอง พ่อบอกแม่ว่าคงเป็นแมว แต่ตู้มันใหญ่ แล้วก็หนักมาก ตั้งแต่นั้นแม่ก็เริ่มกลัว แต่ก็ยังไม่บอกลูก

ขยายความและเรียงประโยคนี้ใหม่ได้มั้ยครับ ผมไม่เข้าใจ

 

ขอบคุณครับ สำหรับอีกมุมหนึ่ง
เรื่องพวกนี้ผมว่าไม่มีผิดหรือถูก เหมือนกับการที่เราจะเลือกปฏิบัติกับสถานการณ์หนึ่งสถานการณ์ใด บางครั้งมันมีเหตุผลร้อยแปด
อย่างไรก็ดี ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ที่ทั้งคน สัตว์ สัมพเวสีได้ประโยชน์สูงสุดในระยะยาว

ที่ร้ายก็อาจอยู่ร่วมพื้นที่กันไม่ได้อย่างที่ท่านว่ามา เนื่องด้วยวิญญาณเหล่านี้ก็ยังผูกติดกับกิเลสและอวิชชา
แต่ยังมีอีกมากมายที่แค่สวนกันไปมากับเราในอีกมิติ ทำให้การแก้ปัญหาเหล่านี้ต้องแก้ด้วยปัญญาและการใตร่ตรองที่มากกว่าเดิม

แก้ทางหนึ่งไม่ได้ ก็ต้องลองแบบอื่น ที่มีมาตราการรุนแรงขึ้น หรือปราบปรามขึ้น อาจต้องปลดห่วง ส่งวิญญาณเหล่านั้นไปในภพภูมิที่เขาควรจะไป ไม่ติดอยู่ในห้วงเวลา
หรืออาจไปในทางเมตตามากขึ้น อันนี้ก็สุดแต่จะพิจารณา

เรื่องพวกนี้เคยเห็นในไต้หวันและจีนทำกันมาก ก็ตาดว่าน่าจะได้ผลดี

ส่วนตัวมองไม่เห็นวิญญาณ แต่เชื่อเลยมองเรื่องพวกนี้ในแง่ตรรกะ ปรัชญา และวิทยาศาสตร์มากกว่า ตามที่เคยร่ำเรียนมา

 

ขอบคุณมากครับที่กรุณารับฟังและเปิดกว้างทางความคิด นับได้ว่าท่านเป็นปัญญาชนท่านนึงเลย นับถือครับ

 

น่าเห็นใจนะครับเรื่องแบบนี้ ใครไม่เจอด้วยตัวเองคงไม่รู้สึกอะไร เรื่องแบบนี้ต่อให้นิมนต์พระมาสวด/ทำบุญ ฯลฯ แล้วก็ตาม แต่ผมว่าก็ยังหวาดเสียว/หดหู่กับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ดี(ไม่มากก็น้อย) ส่วนญาติที่มาผูกคอตายที่บ้านก็เหลือเกินจริงๆถ้าจะฆ่าตัวตายจริงๆก็น่าจะไปผูกคอตายที่อื่นก็มีเยอะแยะถมเถไป ดันมาผูกคอตายในบ้านคนอื่น ทำให้เจ้าของบ้านเขาเดือดร้อนไปตามๆกัน แย่จริงๆ ทำอะไรลงไปก็ไม่น่าให้คนที่เขาอยู่ข้างหลังเขาเดือดร้อนเลย (พวกฆ่าตัวตายแบบนี้ชีวิตหลังความตายจะทุกข์ทรมานมากกก เคยเห็นวิญญาณที่ผูกคอตายมาเข้าร่างคนแล้วไม่รู้จะหดหู่หรือสมน้ำหน้าดี) แต่ก็ขอให้กำลังใจเจ้าของบ้านทุกท่านนะครับ ยังไงเสียตอนนี้ต้องเข้มแข็งอย่างเดียวครับ ใจของเราเท่านั้นที่เป็นใหญ่

 

เน้นเมตตา อย่าเน้นไล่ ไล่ผิดไล่ถูกคนไล่จะโดนผีโดนเทวดาไล่

 

คนที่ฆ่าตัวตายนั้นมักจะเกิดในภพภูมิที่ไม่ดีส่วนมากจะเป็นเปรต ต้องขอส่วนบุญผู้อื่น และจะไม่สามารถได้รับเลยจากการทำบุญด้วยการให้สังฆทานหรือใส่บาตร จะต้องได้รับส่วนบุญจากกรรมฐานเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องทำกรรมฐาน แผ่ส่วนบุญให้กับผู้ที่ตาย เพื่อจะได้ไปเกิดใหม่ได้เร็วขึ้นครับ ส่วนเรื่องการนิมนต์พระมาปัดเป่าหรือทำบุญบ้านก็ควรทำควบคู่กันไป คนที่อยู่จะได้สบายใจครับ

 

นั่งสมาธิแผ่เมตตาไปน่าจะดีครับ

นัั่่งสมาธิไปแล้วแผ่เมตตาไปครับ ไม่ก็ทำบุญบ้านด้วยน่าจะดีครับ