มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

ถ้าผมมีญาณหยั่งรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ ผมคงอยากมีอายุยืนเพื่อศึกษาโลกให้เข้าใจยิ่งขึ้น

แต่ชาตินี้สติปัญญามีไม่มาก คงต้องสร้างความสามารถอย่างอื่นเพื่อให้มีประโยชน์ในการเรียนรู้ในภายภาคหน้าแทนกระมัง

 

ผมต้องหาวิธีภาวนาที่ผมมีความสุขกับมันสินะ
แต่คงจะยากหน่อยล่ะครับ สำหรับคนที่มักจะไม่มีความสุขกับอะไรสักเท่าไร

นี่แหละมั้งที่ทำให้ฌาณผมไม่เกิดกับเขาสักที

พระไตรปิฏก ฉบับเดิมเป็นอย่างไร
ของนิกายอื่น ๆ เป็นอย่างไร เกิดขึ้นจากการสังคายนาพระไตรปิฏกหรือถูกแต่งเติมขึ้นจากการผนวกเอาความเชื่อของศาสนาอื่นเข้าไปทีหลังหรือเปล่าอันนี้ผมก็ไม่อาจทราบ

เอาเป็นว่าท่านที่อ่านข้อสังเกตของผมในโพสนี้
ท่านใดที่รู้ ท่านก็รู้ไปแล้วครับ ท่านใดที่ยังไม่รู้ท่านก็ปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านเชื่อไปก่อนครับ

ผมเองก็คงต้องพยายามลดความสงสัยลงบ้างแล้วมั้งครับ โดยการเตือนตัวเองว่าอย่าเพิ่งพยายามหาคำตอบในสิ่งที่ตัวเองยังมีความสามารถไม่ถึงน่ะนะครับ
อะไรที่ทำได้ทำไปก่อน
อย่างเรื่องทุกข์เพราะคิดนี่แหละ
ผมหยุดคิดไม่ได้เพราะผมทนเวทนาที่เกิดจากความคิดเรื่องนั้นไม่ได้ ก็เพราะมีปมบางอย่างตามประสาคนเป็นโรคประสาทน่ะนะครับ
ผมเลยต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ให้ตัวเองสามารถมองเรื่องที่ทำให้ผมเกิดทุกขเวทนาอย่างเป็นกลางให้ได้แทน หรืออย่างน้อยก็คิดเรื่องเดิม ให้ทุกข์น้อยลง ประมาณนั้น

ตอนนี้ก็คงต้องบอกตัวเองไปก่อน ว่าถ้าสงสัยอะไรที่เกินความสามารถของตัวเอง ก็เก็บไว้ตอนที่มีความสามารถถึง ค่อยหาทางรู้เองดีกว่า

แต่ผมจะไม่บอกพวกคุณว่าอย่าสงสัยในสิ่งที่ตนเองหาคำตอบไม่ได้
ผมจะบอกคุณว่าให้พยายามหาคำตอบไปก่อน ได้คำตอบแล้วเชื่อหรือเปล่า หยุดสงสัยหรือเปล่า

เมื่อคุณเข้าใจว่า ถึงคุณจะได้คำตอบมา คุณก็ไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่จริง จนคุณสามารถทำใจปล่อยวางได้เอง จากนั้นผมจึงจะขอให้คุณทำในสิ่งที่คุณทำได้ไปก่อน แทน

...........

 

บทเพลงแห่งชัยชนะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
"ปางเมื่อพระองค์ปะระมะพุทธ" (The Great Triumph of The Buddha)

คำสรภัญญะ : พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เรียบเรียง : วงศ์วริศ อาริยวัฒน์


ปางเมื่อพระองค์ปะระมะพุทธะ วิสุทธะศาสดา
ตรัสรู้อนุตตะระสะมาธิ ณ โพธิบัลลังก์

ขุนมารสหัสสะพหุพาหุวิชาวิชิตขลัง
ขี่คีริเมขละประทัง
คชะเหี้ยมกระเหิมหาญ

แสร้งเสกสราวุธะประดิษฐ์
กละคิดจะรอนราน
รุมพลพหลพยุหะปาน
พระสมุททะนองมา

หวังเพื่อผจญวระมุนินทะสุชินะราชา
พระปราบพหลพยุหะ
มาระเมลืองมลายสูญ

ด้วยเดชะองค์พระทศพล
สุวิมละไพบูลย์
ทานาทิธัมมะวิธิกูล
ชนะน้อมมโนตาม

ด้วยเดชะสัจจะวจนา
และนะมามิองค์สาม

ขอจงนิกรพละสยาม
ชยะสิทธิทุกวาร

ถึงแม้จะมีอริวิเศษ
พละเดชะเทียมมาร

ขอไทยผจญพิชิตะผลาญ
อริแม้นมุนินทรฯ


สาธุอนุโมทนามิ .

 

ท่านเทวินตพรหมและท่านจิตยิ้มท่านได้เรียนหนังสือจบมาสูงมากกว่าเรา ช่วยเข้ามาอธิบายสิ่งที่เราพยายามสื่อให้ด้วย เรากลัวว่าสิ่งที่เราพยายามสื่อให้เข้าใจจะไปทำลายกำลังใจของท่านอื่น..
.....เราต้องขอโทษทุกคนด้วยหากคำพูดเราไปทำลายหรือลดทอนกำลังใจท่าน.... "ขอโทษจริงๆ"

 

ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้ ณ ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์
ท้าววสวัตตีมาร ได้เข้ามาขัดขวาง

พร้อมด้วยเหล่าเสนามารจำนวนมาก เพื่อให้พระองค์เกรงกลัว
และลุกหนีไป แต่พระองค์ยังทรงประทับนิ่ง ไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์นั้น

ทำให้พญามารโกรธมาก จึงสั่งให้มารบริวารทั้งหลายเข้าทำร้าย
พระพุทธองค์จึงระลึกถึง บารมี 30 ทัศ ที่ทรงบำเพ็ญมาในทุกภพชาติ
โดยขอให้แม่พระธรณีเป็นพยาน

ระหว่างนั้นแม่พระธรณีจึงโผล่พ้นจากผืนดินขึ้นมา
แล้วทำกิริยาบิดมวยผมจนน้ำท่วม
กระแสน้ำดังกล่าวได้พัดพามารทั้งหลายให้ออกไปจากบริเวณนั้น
และในที่สุด พญามารวสวัตตี ก็ยอมแพ้

คาถา พระพุทธเจ้าชนะมาร (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

ตั้งนะโม ๓ จบ (ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)

ปัจจะมาเรชิโนนาโถ ปัตโตสัมโพธิมุตตะมัง

จะตุสัจจัง ปะกาเสติ ธัมมะจักกังปะวัตตะยิ

เอเตนะสัจจะวัชเชนะ โหตุเมชะยะมังคะลัง.

 

สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเปรัฏเฐ จะ คาเม
ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม
ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ ฯ

ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกะโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ฯ

ข้าพเจ้าขออัญเชิญฝูงเทพยดา ซึ่งสิงสถิตอยู่ในฉกามาพจรสวรรค์
อยู่ในกามภพ อยู่ในรูปภพ คือ โสฬสมหาพรหม
อีกทั้งเทพยเจ้าซึ่งสิงสถิตอยู่ในภูผาห้วยเหว และคูหายอดคีรี
อยู่ในอากาศวิมานมาศมณเฑียรทอง

สิงสถิตอยู่ในเกาะแก้วเมืองหลวง และพระนครใหญ่น้อย
สิงสถิตอยู่ในเคหะสถานบ้านน้อยและเมืองใหญ่ทั่วทุกชนบท
ซึ่งสิงสถิตปรากฎในโรงศาลพระภูมิเจ้าที่

ข้าพเจ้าขออัญเชิญให้เร่งรีบเข้ามาในเวลาวันนี้ ให้พร้อมกัน
อีกทั้งเทพยเจ้า ซึ่งสิงสถิตอยู่ในห้วยหนองคลองบึง
บางแม่น้ำใหญ่ ไพรพฤกษาทุกหย่อมหญ้าลดาวัลย์ ที่เสมอกันก็ดี ที่ไม่เสมอกันก็ดี
ใช่แต่เท่านั้นเมื่อไร มีอีกทั้งยักษาคนธรรพ์ ครุฑ นาคา
อีกทั้งเทพยเจ้าซึ่งสิงสถิตอยู่ในสถานใดๆ

ข้าพเจ้าขออัญเชิญเข้ามายังสำนักแห่งนักปราชญ์ อาจสำแดงธรรม
ดูก่อนสัปบุรุษพุทธบริษัททั้งหลายเอ๋ย ถึงเวลาฤกษ์งามยามดี

ข้าพเจ้าขออัญเชิญให้เข้ามาสดับตรับฟังพระธรรมพร้อมกัน
ดูก่อนท่านผู้ประเสริฐยอดยิ่งกว่ามนุษย์และเทวดา
ข้าพเจ้าขออัญเชิญมามั่วสุมประชุมให้พร้อมเพรียงกันในสถานที่นี้เถิด

เป็นพุทธะได้......เพราะชนะมาร
มาร....รากศัพย์มาจาก ภาษาเปอร์เชีย หมายถึงแสงสว่าง
แต่พอมาถึง อินเดีย กลายเป็น สิ่งชั่วร้าย ที่ทำให้ชีวิตพินาศ เป็น"แสงสว่างเทียม"

ในพุทธธรรม มารมีหลายความหมาย
แต่โดยรวมคือ จิตปรุงแต่ง หรือ อธิจิต ที่มีฤทธิ์มาก

1.ขันธ์มาร.......คือ ระบบคอมพิวเตอร์ชีวภาพ ที่ประกอบเป็น"เรา"
2.อภิสังขารมาร..คือ การปรุงแต่งความคิดแบบฟุ้งซ่าน ขาดสติปัญญากำกับ ยามผสัสสะโลก ธรรม
3.เทวบุตรมาร...คือ ความ สมใจ สะใจ ที่เหวี่ยง อารมณ์เรา สร้าง บุคลิกภาพภายใน(กรัชกาย) ให้เรา ตกต่ำกว่ามาตราฐานมนุษย์(อบายภูมิ) หรือเป็นมนุษย์ เป็นเทพ สุขจาก หรรษา ภาคภูมิใจ สมใจ สะใจ
4.กิเลสมาร.....คือ กิเลส ความหมายเดิมคือ ควันไฟ คือสิ่งที่ ทำให้ เกิดความเศร้าหมอง หลงทาง แยกแยะ กุศล อุกศล ไม่ออก หรือ เห็นผิด เป็นชอบ
5.มัจจุราชมาร...คือ เวลา เวลากลืนกินทุกสรรพสิ่ง แม้นแต่ตัวเวลาเอง .

มาร แสงสว่างเทียม อยู่ในสังขารโลก
"ตถาคต ขอบัญญัติว่า กายกว้างศอก ยาววา มีสัญญา(ความทรงจำ)
และใจครอง คือ จักรวาลหนึ่ง ชื่อ สังขารโลก"

"ชนะมาร ก็คือ ชนะ"จิตปรุงแต่งตนเอง (อธิจิต)"

โดยปลุก จิตแท้จิตเดิม พุทธจิต โพธิจิต ตื่น มากุมสภาพจิตปรุงแต่ง
จนเราเลิก ชงอารมณ์ทุกข์ ที่ผูก จิตปุถุชน ให้วนเวียน ใน วัฎฏะ ทุกข์ สุข
พบความสงบ ร่มเย็น และ สุขจากจิตเอื้อเฟื้อ ยั่งยืน สาธุ

 

ท่านไม่ต้องกังวลหรอกครับ
ผมไม่ได้ถูกลดทอนกำลังใจแต่อย่างใดครับ

เพียงแต่ จิตใจผมอยู่ในขอบเขตของคำว่าเศร้าหมองอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว คำพูดของผมก็เลยแสดงความเศร้าหมองออกมาตลอดเวลาเหมือนกันครับ

ด้วยความสัจจริงคำตอบของท่านไม่ได้ทำให้ผมเกิดความไม่สบายใจครับ
แต่ผมมีปัญหาเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ก่อนแล้วครับ

ท่านเป็นคนจิตใจดีครับ
ขออภัยด้วยครับที่ทำให้ท่านกังวลใจ

 

ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง
คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่น อยู่นา
ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อรักษาฯ

เสียงไห้ทุกราษฎร์ไห้ ทุกเรือน
อกแผ่นดินดูเหมือน จักขว้า
บเห็นตะวันเดือน ดาวมืด มัวนา
แลแห่งใดเห็นน้ำ ย่อมน้ำตาคน ฯ

 

Go get it...

I command you...

 

ครับผม...ขออนุญาตครับ ท่านได้พบกับ ท่านอาจารย์ใหญ่รึยังครับท่าน.หาดูดีๆในกระทู้นี้ได้ครับ.
ขอให้ท่านโชคดีครับ.

 

มีคนเดียวที่ผมนึกออกแล้วแหละ

"คุณซาตาน"

แต่ถ้าหมายถึงคนที่อาจจะยังหลับอยู่ ใครหว่า......... ต้องไล่อ่านตั้งแต่หน้า 1 แล้วลิสต์รายชื่อเลยมั้งครับ

 

ครับผม
อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดหรือคาดเดาหวังไว้ครับผม.
อาจจะเป็นปัจเจกในเวปนี้ก็ได้ครับ.จิตจะรู้ได้เองครับผม.

 

1. zalievan
2. เทวินตพรหม
3. ดาราแฟร์
4. Sataniel
5. Cheewin...
6. jityim
7. Fallenz
8. ซีค่ะสนใจหลังไมค์คะ
9. กล่องไม้ขีดไฟ
10. jangkira
11. karokwat
12. ยศวดี
13. nilakarn
14. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ
15. hyuga
16. Namkamfah
17. เกษม
18. เพลงพรายพิญ
19. Luckyd
20. มหิธร
21. 9อมตะ9
22. ชินภัท0
23. Neoworld
24. หยง เวธังกร
25. Bodhisattva
26. หนุมาน ผู้นำสาร
27. เเสงเทียน
28. Thanks.
29. คมสันติ์
30. เล่าปัง
31. Dok-Bua-Khao
32. รักโพธิญาณ01
33. ปิยนาถ
34. ทอนเงิน
35. ใบโพริ์

.ใครกันหนอ.....

อีกคนก็คุณ 00000 ครับ แต่ลบโพสไปหมดแล้ว

 

ผมคิดว่า คนนี้ คือ อ.ใหญ่ นะครับ
"หนุมาน ผู้นำสาร"
สาวกเอก ของพระ นารายณ์-พระแม่ลักษมี (พระราม-พระนางสีดา)

ผู้ที่ทำตัวลึกลับ ผู้ที่เก็บกุมความลับ มาตั้งแต่ยุคนั้น.. และมีชีวิตมาจนถึงปัจจุบันนี้..

ปล.แซวเล่นขำๆนะครับ ขออภัยด้วยครับ

 

ครับ ผู้ช่วย อาจารย์ใหญ่ และทำหน้าที่ นำสาร์นจากสวรรค์ มาส่งข่าวให้ชาวโลกรับรู้รับทราบครับผม.

 

ขออนุญาต สงสัยด้วยคนเหมือนกับท่าน zalievan
ใครกันหนอ.. อจ. ใหญ่?

คุณเกษม..
หรือ คุณ ดาราแฟร์.. ครับ
ผมเห็นว่า อาวุโส ที่สุด ในกระทู้นี้ครับ?

 

ครับผม.
มิใช่ครับ. คุณเกษม อธิษฐานปรารถนาพุทธภูมิครับผม.
ดาราแฟร์ พุทธภูมิ แต่ต้องลาพุทธภูมิในกึ่งหลังก่อนกลับที่เดิม ที่ก่อนลงมาจุติครับผม.ดาราแฟร์ มิใช่ครับผม.

 

ครับผม ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ..
สำหรับผมแล้ว จิตวิญญาณที่แท้จริงของผม ไม่เคยอธิษฐาณ ปรารถนา พุทธภูมิ ครับ..
และไม่ปรารถนาเป็น พระพุทธเจ้า ครับ..
ไม่ว่าจะต้องตรัสรู้ถึงอรหันต์ ทุกภพชาติ ขนาดใหน...
แต่ก็จะขอไม่ลาโลกไปใหน จะขออวตารลงมาเกิด เพื่อกอบกู้โลก ทุกยุคสมัย...
เพื่อให้ประชาชนราษฎร มีความสุขทุกสถานที่ เพื่อสร้างให้โลกได้มีแต่ความสงบสุข และสรรค์ติสุข ครับ..
เพื่อฟื้นฟูความถูกต้อง คุณธรรม ความยุติธรรม ความรักที่แท้จริง บริสุทธิ์ไม่มีเงื่อนไข..
ให้เกิดประจัก แก่โลกมุษย์อีกครั้ง..
นี่คือ "สัจจะ ปณิธาน" ที่ผมตั้งไว้ทุกชาติในการอวตารลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ครับ..

***ปล. โลกเราที่พวกเราอาศัยอยู่นี้ มีหัวใจและความรู้สึกนะครับ และรู้จักพวกเราทุกคนที่มาเกิดที่นี่ เพราะฉนั้น ผมจึงจะไม่คิดไปที่ใหนเลย.. เพราะจะมาอยู่ที่นี่ เพื่อช่วยกอบกู้โลก ให้เธอเป็นดวงดาวที่เจิดจรัส ทอประกายแสง ให้จักรวาล และ กาแล็คซี่นี้ อยู่เสมอครับ..

 

ครับผม
ท่านเคย อธิษฐานไว้มาก่อน และกิจนั้น ได้จบแล้วอย่างสวยงามครับผม.
และตัวท่านนั้น ได้มีส่วนร่วมนั่งสร้างโลกใบนี้มาด้วยกัน ท่านจึง อธิษฐานตั้งสัจจะจะดูแลโลกใบนี้จนกว่า โลกใบนี้จะดับแตกสลายไป ใน สัตถันตกัปป์ แล้วท่านจึงกลับที่เดิมของจิตเดิมแท้ ที่ท่านได้จากมาเป็นเวลานานมากแล้วครับ
ในกึ่งพุทธกาลหน้า ก็เป็นหน้าที่ของท่านโดยตรง ที่จะต้องกอบกู้โลกใบนี้ ร่วมกับเหล่าอัญญาสิทธิ์-อัญญาธรรม
ดวงจิตใหญ่ของท่าน ยังทำงานอยู่บนดาวดวงนั้น ดาวดวงสีแดง-ม่วง ที่คอยเฝ้ามองดูโลกใบนี้อยู่ตลอดเวลา
ครับจริงครับ โลกของเราใบนี้มีชีวิต มีความรู้สึก และจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์มาก่อนครับ
เราจึงมาทำหน้าที่ กอบกู้ให้โลกใบนี้ มีชีวิต มีความรู้สึกและจิตใจที่สะอาดและบริสุทธิ์ให้เหมือนเดิมและเท่าเดิมครับ.
ดาวดวงสีแดง-ม่วง นั้นเกิดจากดวงจิตใหญ่ของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งครับ มีทั้งหมด 7 ดวง และมีพระพุทธเจ้า 7 พระองค์ ดวงจิตของท่านเป็น 1 ใน 7 ของดวงดาว ดวงจิตพระพุทธเจ้าครับผม.
ดาวดวงนั้น ตัวท่านเองย่อมรู้ดีกว่าผู้ใดครับผม.