มาดูสมเด็จกัน

แหมะผมไม่ลืมพระของคุณอังคารหรอกครับ....แต่ตามธรรมเนียมแล้ว ผมต้องรอให้คุณวาซาบิเจ้าบ้านตอบก่อนครับ....การจะตอบโดยผ่ากลางปล้องไม่เกรงใจเจ้าบ้าน...ดูจะไม่งามเท่านั้นเองครับคุณอังคาร....อย่าคิดมากครับ หุหุหุ


อย่างองค์นี้ผมเห็นด้วยกับคุณวาซาบิครับว่าเป็นพระที่เนื้อจัดมาก.....

เนื้อพระเป็นปูนเปลือกหอยเผา...ผิวหนึก นุ่ม ซึ้งตาดีจริงๆ ครับ...
มวลสารพวกเกสรดอกไม้...มากทีเดียว....มีการหลุดร่อนของเกสรดอกไม้พอสมควร....

ผงพุทธคุณในเนื้อพระมีกระจายทั่ว....

จะติดก็ตรงที่สีเหลืองๆ นี่แหละครับ....
คุณวาซาบิได้แนะนำว่าเป็นการลงรักน้ำเกลี้ยงมา...

โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยถนัดการดูรักน้ำเกลี้ยงที่ผ่านการล้างมาซักเท่าไหร่นะครับ...เพราะโดยปกติแล้วรักน้ำเกลี้ยงนั้นสีจะออกน้ำตาล....

ถ้าออกเหลืองจะไปคล้ายกับน้ำมันตั่งอิ๋วซะมากกว่า...

สรุป คือ องค์นี้ผมยัง งง งง อยู่ครับว่าตัวประสานคืออะไรกันแน่..?? หรือจะเป็นเนื้อปูนเปลือกหอยล้วนๆ ประสานเนื้อ....หรือจะรักน้ำเกลี้ยงดี ? หุหุหุ เห็นแล้ว งง ครับ...

โดยรวมๆ ถือว่าเป็นพระเนื้อจัดสวย มวลสารเยอะดีครับ...
แต่ความเก่าของเนื้อพระยังน้อยไปนิดครับ...ระดับความประทับใจอยู่ประมาณ 50/50 ครับ

 

พระของพี่อังคาร องค์ล่าสุด ฐานแซมนี่ มวลสารระดับนี้ ถือว่า ใช่ แล้วรึเปล่าครับ ?

อย่างของคุณ sinsen ก็ด้วย คือผมชอบนะครับ สวย ....

แต่เรื่องมวลสารเนี่ย ผมยัง งง อยู่ระดับไหน ใช่ ไม่ใช่ เราพิจารณาอะไรเป็นหลักกันแน่ครับ

เอ่อ .... ผมถามทุกท่านเลยนะครับ ท่านใดพอชี้แนะผมได้บ้าง

ขอบคุณครับ

 

เรื่องมวลสารนั้นใช้ประกอบการพิจารณาเท่านั้นครับ....อย่างที่ผมเคยเกริ่นไปแล้วนั่นแหละครับว่า....

เนื้อพระเป็นปูนเปลือกหอยแท้ เกสรมี ว่านมี เม็ดผงพุทธคุณมี ก็ใช่ว่าจะเป็นพระสมเด็จแท้เสมอไปนะครับ....
(พระสมเด็จไม่ได้หาง่ายเหมือนซิมการ์ดในเซเว่นนะครับ 555+)

ความเก่าเท่านั้นที่ตอบเราได้ว่าแท้หรือเทียมครับ...

สูตรที่ผมใช้ในการพิจารณาความเก่าคือ
1. เนื้อ เหี่ยวหด ยุบ ย่น ร้าว ลาน ผุด แผ่น
2. มีแผลกระ ด่าง ดวง ไฝ ฝ้า ปาน
(ไม่ใช่ประตูน้ำโพลีคลีนิกนะครับ...หุหุหุ)

จากประสบการณ์เท่าที่ผมดูพระสมเด็จมาก็คือ....ถ้าองค์ไหนเห็นแล้วลังเลแม้แต่น้อย หรือไม่แน่ใจแม้เพียงนิดเดียวผมจะมองผ่านองค์นั้นไปเลยครับ....

ผมถือเคล็ดที่ว่า "พระแท้ต้องมีพลังดึงดูดตา ดึงดูดใจ"
เห็นแล้วต้องรักต้องชอบ....มองทีไรก็ไม่เบื่อ เห็นแล้วหมดข้อกังขา....ถ้าได้ครบสูตรนี้รับรองว่าคุณจะเจอของดีแน่นอนครับ

 

สำหรับองค์นี้ของคุณพ่อเลี้ยง....

เรียนตามตรงครับว่า...รอยแตกลายงานั้นยังดูบาดคมมากไปนิดครับ....ดูเหมือนพระอบผิวมาครับ....ด้วยความเคารพองค์นี้ยังไม่โดนใจผมเท่าที่ควรครับ...

 

ก็ฟังดูสมเหตุ สมผลดีนะครับ คงมีพระอีกมากที่ท่านสร้างโดยไม่ได้ใช้มวลสารครบๆ

อาจจะอ่อนบ้าง มากบ้างในแต่ละสิ่ง ตลอดชีวิตท่าน น่าจะสร้างพระออกมาตลอด อืม....

แต่ความเก่านี่สิ ปลอมไม่ได้ :boo:

 

อย่างที่คุณ xlmen สรุปครับ....
ถ้าติดตามโพสคุณ xlmen มาตลอด...จะเห็นว่าคุณ xlmen อ้างอิงหลักเกณฑ์ให้การวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นมาโดยตลอด
แต่สิ่งที่คุณ xlmen เผยความในใจซึ่งเป็นเหมือนบทสรุป คือ"พระแท้ต้องมีพลังพลังดึงดูดตา ดึงดูดใจ" นั่นหมายถึงท่าน xlmen กำลังบ่งบอกนัยว่า...ให้เชื่อในความรู้สึกของตนเอง เป็นคำตอบสุดท้าย

ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งซึ่งมีอาจมองข้ามได้...คือการปลอมพระสมเด็จ มีมาตั้งแต่สมเด็จท่านทรงยังมีชีวิตอยู่ นั่นหมายถึงการปลอมด้วยมวลสารและส่วนผสมที่เหมือนกันหรือคล้ายกัน และมีธรรมชาติความเก่าไม่แตกต่างกัน (ไม่แน่ใจว่าคนปลอมยุคนั้นแกะพิมพ์เองใหม่ หรือแอบใช้พิมพ์ของสมเด็จท่านมาปลอมอีก..อันนี้ไม่มีข้อมูลนะครับ)

ต้องยอมรับนะครับว่า...สุดท้าย เราก็ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองว่ารู้สึกยังไงกับพระที่มีอยู่ในมือ

อนุโมทนาในข้อมูลดีดีของกระทู้นี้ครับ

 

คุณ wsb ครับ...เนื้อฐานแซมองค์นี้ ใกล้เคียงกับสมเด็จจิ๋วที่ผมถ่ายภาพชัดๆไม่ได้มากเลยครับ
รู้สึกปีติครับ...
อนุโมทนาครับ

 

พี่ครับ สมัยนั้นผมว่าด้วยตา จะมาแกะพิมพ์เหมือนท่านเลย ผมว่ายากนะครับ

อืม .... ความเก่ายังงี้ต้องซัก 40 พิมพ์ 40 มวลสาร 20 ???

ตอนนี้จากประสพการณ์ การล้างพระของผมมันบอกอะไรบางอ่าง เกี่ยวกับการสัมผัส

สมเด็จที่ถึงยุค จะมีผิวสัมผัส ที่พิเศษ ไม่เหมือนใคร คงอย่างที่ว่า มีแรงดึงดูดกระมังครับ

 

เป็นอย่างไร เมื่อเห็นวงแขน โดนมั้ยครับ<!-- google_ad_section_end -->



<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
แหะๆ คุณwasabi san ครับ ขอเน้นๆ ได้ไหมครับ ว่าทันยุคท่าน แล้วก็วัดระฆัง หรือบางขุนพรหมครับ ขอความอนุเคราะห์ชิดๆชัดๆ หน่อยจ้า ...............

 

พระของคุณsinsen คุณwasabi ตอบไปแล้วบอกตรงๆพระของคุณsinsen นั้น ผมช่วยเก็บรักษาให้ได้นะครับ ปกติใครๆก็เก็บพระไว้บนหิ้งพระแต่ผมไม่มีสมบัติมากก็โมเมเอาพระไปฝากในLockerธนาคาร ทำให้เหมือนเรารวยไงครับ( ที่สำคัญธนาคารก็ไม่เคยโดนระเบิด สังเกตดูสิ )ปกติผมไม่เก็บพระสมเด็จไว้ที่บ้านเวลาไปไหนสบายใจ มีที่พอสำหรับพระของคุณsinsen พระสภาพใหม่อย่างนั้นผมชอบใครมองเป็นวัดไหนผมก็ไม่แคร์ ว่าแต่ขอหน้าด้านๆได้ไหมครับ เห็นแล้วผมรักจริงๆ ขอพูดตรงๆป๋าคุณยอดเยี่ยมมาก เก็บแต่พระสภาพสวย ฝากสวัสดีท่านแล้วบอกว่าผมเห็นพระปรกโพธิ์แล้ว เหมาะสมกับจิตใจท่านมาก ผู้ใหญ่แบบนี้ย่อมมีคนนับถือมากเป็นธรรมดา ผู้ใหญ่แบบนี้ผมยอมรับหมดใจพระที่คุณนำมาลงของท่านก็ไม่จำเป็นต้องส่อง เห็นก็สวยแล้ว สวยแบบที่หาดูหาชมยาก

 

สวัสดีครับคุณพ่อเลี้ยง ตัวผมเองมีพระสมเด็จไม่กี่องค์ครับ อย่างพระองค์นี้
เป็นพระที่ผมหาได้มาเอง จึงค่อนข้างรักเป็นพิเศษ ที่รักเป็นพิเศษก็ตรงที่สภาพพระดูไม่เก่า และสภาพสวยไม่ชำรุด เป็นพระที่เจ้าของเดิมเก็บไว้ดีมากจริง ๆ องค์นี้ป๋ายังจะขอผมเลยเหมือนกันครับ ผมเลยรีบเอาขึ้นคอก่อน อิอิ
ตอนได้มา ผมก็นำมาล้างนิดหน่อยครับ เพราะนิสัยส่วนตัวชอบที่พระดูสะอาด
ไม่สกปรก ไม่มีฝุ่นติด ผมชอบอย่างนั้นครับ
ตอนที่ได้มาตอนแรก ๆ เนื้อพระออกเขียวก้านมะลิอย่างที่คุณวาซาบิกล่าวไว้
พอผมเริ่มแขวน จะเห็นมวลสารเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากเดิมที่มองไม่ค่อยเห็นครับ

ขอบคุณแทนป๋าครับที่ชมนะครับ




______________
_________________
____________________

 

ถึงขนาดคุณพี่พ่อเลี้ยง เอ่ยปาก ....

หุหุหุ ไม่ธรรมดา ...... เฮ่ออออออ

เมื่อไหร่เราจะมีบุญกะเค้ามั่งเนี่ย ?

 

พระพิมพ์ใหญ่ ทรงใหญ่ของคุณsinsenเป็นแบบไหนครับ( คุณกวินพันธ์คงไม่ทราบ) หากเข้าใจไม่ตรงกันเดี๋ยวจะคุยกันยาก ในอดีตพระพิมพ์ใหญ่ดูจากขนาดพระ ผมเปรียบขนาดให้ดู (พระ2องค์นี้ผมเคยนำมาลงแล้ว)
ส่วนพระอีกองค์ผมไม่ทราบที่อีกเหมือนกันผมเก็บจนจำไม่ได้จริงๆคนให้มาก็บอกแล้วแต่ผมก็ลืม มันนานเกินไปที่ผมไม่ได้นำออกมาดู หากคุณwasabi คุณxlmenและเพื่อนสมาชิกท่านใดทราบก็รบกวน หน่อยครับ

 

ความหมายของพระพิมพ์ ทรงใหญ่ของผมหมายความตามในรูปครับ

ขนาดที่วัด พระกว้าง 2.3 เซนติเมตร สูง 3.5 เซนติเมตร ครับ

 

โอ้ๆๆ ความรู้ใหม่อีกข้อเส้นเหนือฐานสิงห์ ต้องตะแคงดู หุหุ ขอบคุณครับ คุณ sinsan

 

ขนาดพระ ของคุณsinsenนั้นเท่ากับองค์ปกติทั่วไป องค์ใหญ่ของผมนั้นขนาด สูง4 ซม. กว้าง2.5 ซม.แสดงว่าชื่อเรียกพิมพ์ เดี๋ยวนี้คงแตกต่างตามพิมพ์ไม่เกี่ยวกับขนาด ในอดีตพิมพ์พระประธานพิมพ์ใหญ่ กันพิมพ์พระประธานเขาแยกกันไม่เกี่ยวกัน พิพพ์ใหญ่คือขนาดใหญ่กว่าปกติ ดีแล้วครับจะได้รู้ไว้เข้าใจได้ตรงกัน

 

คิดว่าเข้าใจความหมายของผมผิดนะครับ

ผมหมายถึง ทรงใหญ่ จะมีขนาดสูง 3.5 เซนติเมตร
ทรงเล็ก จะสูงประมาณ 3.2-3.3 เซนติเมตร ครับ

โดนวัดที่เส้นซุ้มเท่านั้นนะครับ ไม่ได้วัดที่รอยตัดองค์พระครับ
ที่คุณพ่อเลี้ยงวัดได้ 4 เซนติเมตร เลยไม่ทราบว่าวัดจากตรงไหนครับ
ส่วนตัวผมยังไม่เคยเจอที่มากกว่า 3.5 เซนติเมตรครับ

ของผมแยกพิมพ์ใหญ่ทั่วไป กับ พิมพ์ใหญ่พระประธาน ตรงที่เส้นบาง ๆ ที่เรียกว่าผ้าทิพย์รองนั่งครับ ถ้ามีตีก็เป็นพระประธานครับ ไม่มีก็เป็นพิมพ์ใหญ่ ทั่วไป แต่จะเป็นทรงใหญ่หรือทรงเล็กอยู่ที่ขนาดความกว้าง สูงของซุ้มครับ

 

คิดว่าคงไม่ใช่ความรู้ใหม่หรอกครับ เพียงแต่พระที่ผมลง ถ่ายมามองไม่เห็น
ต้องส่ององค์จริงจึงจะเห็นครับ เส้นบางมาก ๆ ครับ แต่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า

 

เข็มข้น ดุเดือด ข้อมูลความรู้เพียบเลย
รบกวนอีกองค์ องค์นี้ส่วนตัวไม่ชอบ แต่สดุดที่พิมพ์แปลกๆตลกๆ (เข้าพิมพ์ตลกหรือเปล่า?) หรือน่าจะเป็นยุคหลัง ยังไงผมไม่มีความรู้เลย ดี/ไม่ดียังไง
รบกวนพี่ๆ ชี้แนะหน่อยครับ ละเอียดได้จะขอบคุณยิ่งครับ

 

ขนาดพระ ของคุณsinsenนั้นเท่ากับองค์ปกติทั่วไป องค์ใหญ่ของผมนั้นขนาด สูง4 ซม. กว้าง2.5 ซม.แสดงว่าชื่อเรียกพิมพ์ เดี๋ยวนี้คงแตกต่างตามพิมพ์ไม่เกี่ยวกับขนาด ในอดีตพิมพ์พระประธานพิมพ์ใหญ่ กันพิมพ์พระประธานเขาแยกกันไม่เกี่ยวกัน พิพพ์ใหญ่คือขนาดใหญ่กว่าปกติ ดีแล้วครับจะได้รู้ไว้เข้าใจได้ตรงกัน

ด้วยความเคารพ ข้อมูลที่ผมได้ยินมา แต่ไม่ยืนยัน นอนยัน นั่งยันนะ อิอิ คือเคยคุยกับท่านผู้รู้ท่านหนึ่งบอกว่า พิมพ์ใหญ่หมายถึง รูปทรงองค์พระจะดูหนาใหญ่ แบบหลวงวิจารณ์ เจียรนัย ส่วนพิมพ์พระประธาน คือพิมพ์ทรงอ่อนช้อย องค์บางเรียวเล็ก แบบพระประธานในโบสถ์ วัดระฆังทรงสุโขทัย ที่สมเด็จท่านนำมาเป็นแม่แบบ ก่อนนานมา จิงป่าว ม่าย รู้คับ แค่ขอออกความเห็น อ่ะนะ อิอิ อย่าเชื่อผมนะ รอดูท่านอื่นครับ