เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

สรรพวิชารวมเป็นหนึ่ง ทุกศาสนาคือหนึ่งเดียวกันครับ
วิทยาศาสตร์เน้นความจริงทางวัตถุ ลึกๆลงไปก็ไปบรรจบกับศาสนาจนได้
--เดิมทีคนเราใช้สมองคิด พอทำวิปัสสนาเริ่มใช้จิตคิด พี่สาวผมบอกว่า ทำแบบนี้จะเร็วมาก และถูกต้อง-แม่นยำมากกว่านะครับ
----------------------
วัตถุ 5 และ 6 มิติ คืออะไรก็ได้ที่ามองมุมหนึ่งจะลึกลงไปได้ 5ชั้น และถ้ามันเป็นวัสดุที่ยืดหยุ่นมาก มันก็สามรถปลิ้นในออกนอกได้ตลอด แปลกมากครับ สำหรับการจำลอง จะใช้โปรแกรมตำนวณภาพแบบสามมิติครับ[ame="http://www.youtube.com/watch?v=lFvUaFuv5Uw"]5D Cube - YouTube[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Bn7HDBj9ZQQ&feature=relmfu"]Tour 6D - YouTube[/ame]

หุ่นยนต์ที่หน้าเหมือนเจ้าของ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=XLSLHU-u4fM&feature=fvwrel"]human robots !! - YouTube[/ame]

หุ่น นาว หรือ นาโอะ ที่น่าทึ่งครับ
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=uB0BphN2VgE&feature=related"]NAO - The Amazing Humanoid Robot - YouTube[/ame]

ผลงานชั้นยอด 1ในสามของโลก เอ็ช อาร์ พี 4
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=c-bgLsvw848&feature=endscreen

การออกแบบหุ่นแอนดรอยด์สามมิติ สุดเซ็กซี่
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=lTGOjWv9fcQ&feature=fvwrel"]The Eve 1138 Android - Sensual Cyborg / Robot 3D Photorealistic Animation HD - YouTube[/ame]

เทพพนม เมืองแมน แฉ UFO มีจริง
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=kWI4TPAX2RA&feature=related"]?????? ???????? ?? UFO ?????? - YouTube[/ame]

 

ผมได้มีโอกาสสนทนากับพระรูปหนึ่งที่วัดช่องลม อ.บางละมุง ชลบุรี ท่าบอกว่า มักมีคนถ่ายท่านได้กับดวงแสงที่สว่างพอๆกับดวงอาทิตย์ ท่านมีรูปให้ดูด้วย ซึ่งก็จริงตามที่ท่านบอก

---และท่านเล่าว่า เคยเห็นเทพด้วยตาเปล่า สมัยนั้น อ.สมชายเป็นพระใหม่ มีสอบที่บนเขาสุกิม โดย มีการสอบของมหาวิทยาลัยสงฆ์- ห้ามพระลงไปจากบนเขา พวกท่านก็นั่งจับกลุ่มกัน เวลาประมาณจีสองทันใดท้างฟ้าก็ปรากฏดวงแสง เหมือนประตูเปิดออกมีเทวดาที่เป็นใหญ่นำมา มีบริวาร-เทวดานางฟ้าตามมาเป็นแถว ภาพนี้ให้เห็นประมาณสองนาทีก็หายไป พระเณรที่นั่นเป็นร้อยๆรูป ก็เห็นด้วยกันทั้งหมด

-----------จากทีวีช่องจานบิน2012 ในอเมริกา--
-จานบิน5เปอร์เซนต์เท่านั้นที่เป็นของจริง และผู้เห็นจะเป็นทหารนักบินที่มีการฝึกมาอย่างดีแล้ว

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=1QRqL09raIQ&feature=related"]New Undebunkable UFO Documentary 'Secret Access' HD [sub UfoDisclosure2012 channel] - YouTube[/ame]

ผู้ยังสงสัยเรื่องจานบิน ดูคลิปนี้สิครับ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=RnJmNhi8his&feature=fvwrel"]I was a UFO Skeptic Until I saw this UFO video! - YouTube[/ame]

 

นักวิทยาศาสตร์คิดถึงสัตว์สองมิติ อยู่ในโลกแบนๆ แต่เป็นไปไม่ได้ครับ
--เอกภพคู่ขนาน ก็เพิ่มมาอีกมิติ แต่เราจินตนาการ ถึง10 มิติ และมี แค่ 11 ตามทฤษฎีซูเปอร์สตริง

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=JkxieS-6WuA]Imagining the Tenth Dimension part 1 of 2 - YouTube[/ame]


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=ySBaYMESb8o&feature=fvwrel]Imagining the Tenth Dimension part 2 of 2 - YouTube[/ame]

เครื่องบินปล่อยสารเคมีที่เรียกว่า เค็มเทรล แต่เครื่องบินก็โปร่งแสง และหายไป มันคือภาพฉาย
จากมิติอื่น เฮลิคอปเตอร์ที่เปลี่ยนรูปร่างได้

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=hbNUGkT1GAU]The Bluebeam Generation (1-4) Projections from Another Dimension; Cloverleaf Trilogy - YouTube[/ame]
[MUSIC][/MUSIC]
แผ่นดินไหวปี 2547 ทำให้โลกหมุนเร็วขึน และเชื่อว่าแกนแม่เหล็กโลกเริ่มเปลี่ยนทิศ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=8X02Cc7M-jU&feature=related]EARTH CHANGES 2012 2011 pole shift (WARNING contains some graphic images).flv - YouTube[/ame]

สำนักข่าว บีบีซี ยอมรับเรื่องดาวนิบิรู

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=7zDUJ4hNGKk&feature=fvwrel"]http://www.youtube.com/watch?v=7zDUJ4hNGKk&feature=fvwrel[/ame]

ผ้าใยโลหะ จับว่ามีการเคลื่อนไหว สัตว์ต่างมิติ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=NF0RRxMyzw4&feature=related]Extradimensional Alien Being Caught Moving on Film - YouTube[/ame]

สัตว์ต่างมิติ เป็นแท่ง แต่เดินได้

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=emyQepHlC4w]FRESNO, stick-like creatures caugh by CCTV: Aliens, interdimensional beings or what??? - YouTube[/ame]

ร่องรอยฐานทัพจานบินบนดวงจันทร์ นาซ่าลบมันทำไม
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=yGD4msbAFd0]Leaked Insider Recording - UFOs - Interdimensional beings contact - YouTube[/ame]

สัตว์หลายมิติ ถ่ายติดเห็นๆ และมันไม่เป็นไปตามกฏแรงโน้มถ่วงของโลก
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=aNaEwRWK2Iw&feature=relmfu]Interdimensional Being Caught on video? You decide ! - YouTube[/ame]


ถ่ายรูปมิติอื่น

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=SwEkPrxkGD4]4th or 5th inter-dimensional being captured on film? - YouTube[/ame]

---ยานโดรน หรือ อากาศยานไร้คนขับ บินเหนือพื้น 20 กม. ถูกใช้เป็นเครื่องมือ รุกรานประเทศแถบอาหรับ อย่างไร้ศีลธรรม

 

ชาวต่างดาวเรืองแสง

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=r66GopeNWk4&feature=related]Real Alien being caught on tape! Must see this! Amazing footage!.mp4 - YouTube[/ame]

จานบินและชาวต่างดาวที่เคยถ่ายได้

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=CBQQmVSyfC8&feature=related]Aliens Caught On Tape - YouTube[/ame]

เกรย์หรือดราคอนเนี่ยน มนุษย์หลายมิติ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=hCNabAbInnE&feature=related]MULTIDIMENSIONAL DRACONIANS ALIENS CAUGHT ON TAPE OVER POLAND RADOM AIRCRASH SITE - YouTube[/ame]

เป็นก้อนแสงที่เปลี่ยนรูปร่างและหายไป

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=IArozAFqM9M&feature=related]Aliens caught on tape in china rapid shape changes and gone - YouTube[/ame]

 

มากลางวันแสกๆ

Aliens Caught on Tape! Aired on Montell Williams Confirmed by Sylvia Browne - UFO sighting - YouTube

ช้ามา ข้าเห็น ข้าถอย

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=MkqGaVkmr5A&feature=related"]ALIENS CAUGHT ON TAPE - TV NEWS REPORT - YouTube[/ame]

ผีก็อยากนั่งรถเล่น

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=1GqSFgnHM5c&feature=related"]Paranormal Caught on Tape(Ghost, Spirits, Demon Attack, Aliens) - YouTube[/ame]


มันโดดได้สูง

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=KFE2iMIPirw&feature=related"]UFO & Alien Caught on Tape - YouTube[/ame]

 

แม้แต่เครื่องบินยังถูกลักพาไป
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=g9cZ8F1KTTM&feature=related"]Airplane Abducted By UFO: Caught On Tape - YouTube[/ame]

ค้นพบซากจานบินที่ทะเลบอลติก ปีนี้-2012

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=wI7Pb_VVqFo&feature=related"]http://www.youtube.com/watch?v=wI7Pb_VVqFo&feature=related[/ame]


ที่ออสเตรเลีย คิดว่ามันแบนๆ และมีไฟเป็นแถว เหมือนที่เหนือสนามบินจีน เล่นปิดสนามบินซะงั้น

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=9eU5KfvyO2M&feature=related"]Australia - UFO Hovers Over Queensland !! - YouTube[/ame]

 

<SMALL></SMALL>การทำน้ำสกัดเอนไซม์จากสมอไทย (ทดสอบการก๊อปครับ ก๊อป ลงที่นี่จะได้ภาพมาด้วย)

ความอุดมสมบูรณ์ ของเมืองไทยเรา ผลไม้มากมาย หลากหลายฤดูกาล และด้วยภูมิปัญญาของคนไทย จึงทำให้นอกจากจะรับประทานกันสด ๆ ตามฤดูกาลแล้ว เราก็ยังได้แปรรูปผลไม้ไทย นานาชนิด ให้มีหลากหลายรูปแบบ

<INS style="POSITION: relative; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 336px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; HEIGHT: 280px; VISIBILITY: visible; PADDING-TOP: 0px">การทำน้ำสกัดเอนไซม์จากสมอไทย
วัตถุดิบ
-สมอไทย ประมาณ 3กิโลกรัม
-น้ำตาลทรายแดง 1กิโลกรัม
-น้ำเปล่า จำนวน 5ลิตร
วิธีการ
1.ล้างสมอไทยให้สะอาด นำสมอไทยมาสับให้เป็นชิ้นๆรวมเมล็ดด้วย ผสมน้ำเปล่าและน้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากัน หมักใส่ถังปิดฝาสนิท ประมาณ 3เดือน
2.พอครบ 3 เดือน ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำ ใช้รับประทานได้ทันที
สรรพคุณ
- สร้างภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤต หรือ อัมพาต
- บำรุงอวัยวะทุกสาวนของร่างกาย ระบายพิษ ช่วยระบายอ่อนๆ

เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ สมอไทย
- สมอไทย เป็นสมุนไพรที่แปลกกว่าสมุนไพรอื่นๆ นอกจากช่วยระบายท้องแล้วยังช่วยให้หยุดถ่ายได้เอง เพราะมีรสฝาดในตัวเอง หมอยาไทยจะเรียกว่า รู้เปิดรู้ปิด
- สมอไทย จะมีรสหลายรส รสหลักๆคือ เปรี้ยว ฝาด หวาน ขม เผ็ด และยังมีรสเค็ม รสเมาแทรกอีกด้วย
- เนื่องจากสมอไทยมีหลายรส การกินสมอไทยอย่างเดียวก็เหมือนกินสมุนไพรหลายๆอย่างเข้าไป เมื่อสมอไทยมี รสเปรี้ยว จึงมีสรรพคุณกัดเสมหะ แก้ไอ น้ำลายเหนียว แก้กระหายน้ำ ฟอกโลหิต แก้ระดู สตรีพิการ ชำระล้างเสมหะในลำไส้
- สมอไทยมีรสฝาด ทำให้มีสรรพคุณ สมานแผลต่างๆ
- สมอไทยมีรสหวาน ทำให้มีสรรพคุณบำรุงเนื้อให้สดชื่น แก้โรคเนื้อพิการ
- สมอไทยมีรสขม ทำให้แก้ไข้ต่างๆ แก้ดีพิการ บำรุงน้ำดี ทำให้เจริญอาหาร แก้พิษโลหะ ถอนพิษผิดสำแดง

</INS>

 

<SMALL></SMALL>“ไร่ปลูกรัก” โมเดลธุรกิจพิชิตตลาดออร์แกนิค <SMALL>1</SMALL>

share this

• Facebook.com
• Twitter.com

Dec<BIG>23</BIG>
เป็นผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ไม่ใช่ง่าย คิดจะเติบใหญ่ในเส้นทางนี้ต้องมองให้ขาดชนิด 360 องศา เช่นเดียวกับ “ไร่ปลูกรัก”

ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ หรือออร์แกนิค ไล่มาจนผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ แม้จะถูกพูดถึงกันมาก แต่ในโลกธุรกิจ ผู้ประกอบการต่างรู้ดีว่า ไม่ใช่ชิ้นเค้กที่หวานหมู เพราะคนยังไม่ค่อยเข้าใจความแตกต่างกับ “ผักปลอดสาร” กลายเป็นอุปสรรคพื้นๆที่ปิดทางโตของพวกเขา ทำให้ผลิตภัณฑ์ “ออร์แกนิค” ถูกเมินเฉยจากตลาด มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
แต่โจทย์หินๆ แบบนี้ มีผู้ประกอบการไทยพิชิตมันมาแล้ว ถึงวันนี้ผ่านมา 11 ปี พวกเขาก็ยังยืนหยัดอยู่ในธุรกิจได้อย่างสง่างาม
เรากำลังพูดถึง “ไร่ปลูกรัก” ผลิตผลจากความตั้งใจดีของคู่รัก “กานต์ ฤทธิ์ขจร” และ “อโณทัย ก้องวัฒนา” ที่ทำตั้งแต่ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตรธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ทั้งผักสดและแปรรูป จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุดกับธุรกิจให้คำปรึกษาด้านฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่กำลังไปได้สว


มาเรียนรู้วิธีคิดและเส้นทางโตที่ไม่ธรรมดาของพวกเขา
จุดเริ่มต้นของ “ไร่ปลูกรัก” มาจากร้านอาหารเล็กๆ ที่ชื่อ “อโณทัย” แนวคิดของพวกเขาคืออยากทำร้านอาหารที่มีวัตถุดิบที่เป็นออร์แกนิค และเพื่อให้ชัวร์เรื่องแหล่งวัตถุดิบ พวกเขาเลยใช้ที่ดินของตนเองที่มีอยู่ประมาณ 60ไร่ ใน จ.ราชบุรี มาปลูกผักออร์แกนิค เพื่อป้อนร้านอาหารเป็นหลัก
ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่ปลูกพืชผักแบบไร้สารพิษ ปราศจากยาฆ่าแมลง และปลอดสารเคมีทุกชนิด ด้วยระบบการรักษาสิ่งแวดล้อมในฟาร์ม เรียกง่ายๆ ว่าให้ธรรมชาติดูแลกันเอง พวกเขาจึงมีวัตถุดิบที่ดีป้อนให้กับร้านอาหารไม่ขาดสาย แต่ที่ดินจำนวนมากยังทำอะไรได้มากกว่านั้น
“ถ้าปลูกผักป้อนร้านอาหาร แค่ตารางเมตรเดียวก็กินกันแทบไม่หมดแล้ว จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เราคิดผลิตเพื่อขาย และกลายเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากผักสดเป็นหลัก และเป็นผักออร์แกนิคที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ระบบสากล (IFOAM Accredited)”
จนตอนนี้ ผักคุณภาพดี ไม่มีสารพิษ ที่แจ้งเกิดจากแค่ร้านอาหารเล็กๆ ได้ขยายไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำกว่า 60 แห่ง
ดังนั้น อุปสรรคจึงไม่ได้อยู่ที่หน้าร้าน หากอยู่ตรง “ความเข้าใจ” ของผู้บริโภค
“เมื่อ 5-10 ปีที่ผ่านมา ออร์แกนิกเป็นเรื่องไม่ธรรมดา คนไม่เข้าใจ ไม่กล้าซื้อ ที่ซื้อก็บ่นว่าแพง เพราะเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร บางคนก็งงๆ คิดว่าออร์แกนิกกับปลอดสารก็เหมือนๆ กัน เลยไปหยิบปลอดสารเหมือนเดิม จึงเกิดปัญหาทางการตลาดขึ้น เราเลยคิดเปิดไร่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างความเข้าใจกับผู้บริโภค”
อุปสรรคชิ้นโต ได้สร้างโอกาสใหม่ให้กับพวกเขา กลายเป็นที่มาของ “ไร่ปลูกรัก” แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรธรรมชาติ กานต์บอกว่า ครั้นจะเปิดไร่ให้คนเข้ามาดูเฉยๆ ก็ดูจะน่าเบื่อ จึงมาคิดพัฒนากิจกรรม เพื่อให้ผู้คนได้สนุกกับการมาไร่ และได้เรียนรู้โลกของออร์แกนิคไปพร้อมกันด้วย
กิจกรรมเก๋ๆ อย่าง “Organic Family Day -เรียนรู้และสนุกหนึ่งวันในไร่ปลูกรัก” จึงคลอดออกมา พร้อมๆ กับสารพัดความสนุกที่พร้อมเสิร์ฟสมาชิกครอบครัวหรรษา อย่างการทำเครื่องดื่มดอกไม้ สลัดสูตรสมุนไพรออร์แกนิค คุกกี้และไอศกรีมโฮมเมด เก็บไข่เป็ดและทำไข่เค็มออร์แกนิค กิจกรรมสำรวจแมลง “จับ ดู รู้ ปล่อย” การทำของเล่นและกิจกรรมศิลปะจากธรรมชาติ ฟังดนตรีอะคูสติก ปลูกผักคลายโลกร้อน นำไปฟูมฟักต่อที่บ้านได้ด้วย และทำปุ๋ยน้ำชาง่ายๆ สูตรไร่ปลูกรัก เหล่านี้เป็นต้น

<CENTER>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=410 bgColor=#f2f2e8><TBODY><TR><TD align=center>
</TD></TR><TR><TD height=40></TD></TR></TBODY></TABLE>
</CENTER>
“หัวใจของเกษตรอินทรีย์ คือเรื่องของสิ่งแวดล้อม การปรับ Eco System ต่างๆภายในไร่ ทั้งในอากาศ พื้นดิน และในน้ำ เป็นธรรมชาติที่เกื้อกูลกัน เรามาออกแบบกิจกรรมที่จะทำให้คนเกิดความเข้าใจ และสนุก เพราะการเรียนรู้ถ้าน่าเบื่อก็จะไม่เข้าถึงใจคน”
จากผักสด สู่กิจกรรมท่องเที่ยว ต่อยอดมาที่ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ข้อดีของการทำให้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคยังทำให้มีมาตรฐานสากลตั้งแต่ต้น วันนี้มีผลิตผลมากมายจากไร่ปลูกรัก ไปงดงามอยู่ในตลาดส่งออก โดยเฉพาะยุโรป ไม่ว่าจะเป็น น้ำจิ้ม น้ำยำ น้ำส้ม น้ำสลัด ซึ่งล้วนเป็นออร์แกนิคทั้งสิ้น การเข้าหาลูกค้าก็อาศัยติดสอยห้อยตามหน่วยงานภาครัฐไปโรดโชว์ในต่างประเทศตามโอกาสอำนวย
ไอเดียดีๆ ยังไม่มีจบเพียงเท่านี้ เพราะสิ่งที่เป็นต้นทุนสำคัญของคนทำฟาร์มออร์นิกมากว่า 10 ปี คือ “ทุนความรู้” พวกเขาจึงต่อยอดมาสู่ “ธุรกิจให้คำปรึกษา” เจาะกลุ่มเป้าหมายเล็กๆ ภายในครอบครัว ไปจนกลุ่มเกษตรกรสหกรณ์,บริษัท,โรงเเรม,รีสอร์ท,สปา และหน่วยงานราชการ ซึ่งค่าบริการเขาบอกว่า ขึ้นกับแต่ละโปรเจกที่แตกต่างกันไป เรียกว่าตั้งแต่ทำกินกันเองในบ้าน เป็นจนถึงขั้นป้อนตลาดส่งออก
“เราให้คำปรึกษาตั้งแต่ แบบฟาร์มเดี่ยว แบบโครงการ และแบบครอบครัวเล็กๆ ซึ่งรายได้ไม่เยอะมาก เป็นแค่หนึ่งในธุรกิจ ไม่ได้เป็นรายได้หลักเหมือนส่งออก แต่ผมมองว่าการทำเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องมีการขับเคลื่อน ถ้าเราพอจะช่วยอะไรได้ก็ต้องช่วยกัน เพื่อให้ตลาดมันเกิด ธุรกิจถึงจะอยู่ได้”


แม้จะบอกว่ารายได้ไม่ถึงกับดีมากนัก แต่งานที่ปรึกษาก็ยังคงเข้ามาอยู่เรื่อยๆ อย่างโปรกเจกขนาดใหญ่ที่ทำให้กับสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในการพัฒนาฟาร์มออร์แกนิคให้กับกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง เป็นต้น
ในมุมของคนทำธุรกิจ พวกเขาบอกว่า ตลาดออร์แกนิกยังคงสดใส โดยเฉพาะในต่างประเทศที่ยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างล้นเหลือ ออร์แกนิกเป็นเทรนด์ของโลก และคนไทยเองก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ขณะที่คู่แข่งก็ไม่ได้เยอะมากนัก
แต่ที่ผู้ประกอบการต้องคิดให้หนัก คือคำพูดที่เขาฝากไว้ว่า…
“ธุรกิจนี้ ทำแล้วให้อยู่ได้…เลือดตาแทบกระเด็น แต่ที่เราอยู่ได้ผมว่ามันอยู่ที่ การตลาด แล้วก็ความน่าเชื่อถือ ถ้าการตลาดเจ๋งแค่ไหน แต่การผลิตไม่ดี ไม่มีความน่าเชื่อถือในแบรนด์และในมาตรฐานที่มี ธุรกิจมันก็ไปได้ยาก”
อีกหนึ่งวิธีคิด สู่ทางรุ่งในธุรกิจแห่งอนาคต ที่ชื่อ “ออร์แกนิค”
อ้างอิงจาก กรุงเทพธุรกิจ

 

<SMALL></SMALL>‘HOME FRESH’ อร่อยปาก สุขภาพดี เสิร์ฟผักลอยน้ำจากฟาร์มขึ้นโต๊ะ

ฟาร์มผักลอยน้ำภายในร้าน
ความกังวลเกี่ยวกับพิษภัยที่มาพร้อมอาหาร ทำให้คนยุคนี้ พยายามหาทางเลือกอาหารที่สะอาดปลอดภัย และดีต่อร่างกาย นำมาสู่โอกาสของธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หนึ่งในร้านที่ประสบความสำเร็จ คือ “HOME FRESH” โดดเด่นด้วยการมีแปลงปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ อยู่ในบริเวณร้าน สามารถเก็บสดๆ นำมาปรุงเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ทันที ขณะเดียวกันไม่ละเลยด้านรสชาติเยี่ยม ทำให้แต่ละจาน ตอบโจทย์ทั้งความอร่อยและดีต่อสุขภาพ

ลลิตา เลิศรัตนชัยกิจ
ลลิตา เลิศรัตนชัยกิจ เจ้าของร้าน เล่าแรงบันดาลใจเกิดขึ้นตอนตั้งท้อง รู้สึกกังวลเรื่องสารพิษที่มากับอาหารมาก จึงลองปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ไว้กินภายในครอบครัว โดยเริ่มหาความรู้ด้วยตัวเอง ประกอบกับมีเพื่อนสนิทเป็นอาจารย์ด้านเกษตรคอยให้คำปรึกษา
“ดิฉันเริ่มจากทำสวนผักไฮโดรโปนิกส์เล็กๆ ข้างบ้าน พื้นที่แค่ 3 เมตร ปรากฏว่า ผักที่ได้คุณภาพดีมาก งามยิ่งกว่าผักที่ขายในห้างเสียอีก เพราะไม่ต้องขนส่ง สามารถเก็บมาปรุงได้ทันที โดยลองเอาผักทำอาหารให้สมาชิกครอบครัว กับเพื่อนๆ กินก่อน ซึ่งทุกคนก็จะชื่นชอบและเชียร์ให้เปิดร้าน ประกอบทางบ้านมีที่ดินเหลือว่างอยู่พอดี เลยตัดสินใจเปิดร้าน “HOME FRESH” เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว”

ร้าน ‘HOME FRESH’ ตั้งอยู่ ถ.สุขาภิบาล 3
ลลิตา ยอมรับว่า ตอนแรกแค่อยากทำร้านเล็กๆ เป็นอาชีพเสริมกึ่งงานอดิเรก สำหรับไว้บริการผู้รักการกินอาหารสุขภาพเหมือนกัน โดยเบื้องต้นมีเพียง 7 โต๊ะเท่านั้น แต่ด้วยความโดดเด่นของร้านที่มีสวนผักไฮโดรโปนิกส์ของตัวเอง เดินไม่กี่ก้าวก็เก็บผักมาทำอาหารได้ทันที ประกอบกับแต่ละเมนู ปรุงอย่างพิถีพิถัน และตกแต่งอย่างอลังการ ทำให้ลูกค้าติดอกติดใจและมักไปต่อบอก ทำให้ร้านประสบความสำเร็จอย่างสูง ต้องขยายกิจการต่อเนื่อง ถึงปัจจุบัน เพิ่มพื้นที่รวมกว่า 2 ไร่ มีทั้งหมด 20 โต๊ะ รองรับลูกค้าได้กว่า 60-70 คน

นั่งกินอาหารพร้อมชมสวนผัก
ร้าน “HOME FRESH” ตั้งอยู่ ถ.สุขาภิบาล3 ภายในตกแต่งสไตล์อิงลิชคันทรี โดยเปิดให้ลูกค้านั่งกินอาหาร พร้อมชมสวนผักไปด้วย เน้นอาหารแนวอีตาเลียน และฟิวชั่น ซึ่งเจ้าของร้าน และเชฟประจำร้าน ช่วยกันคิดค้น รวมกว่า 40 เมนู เน้นใช้วัตถุดิบผักในฟาร์มเป็นพระเอกในทุกๆ เมนู เสริมด้วยเครื่องปรุงและวัตถุดิบเกรดเอ ส่วนใหญ่เป็นเนื้อปลานำเข้าจากต่างประเทศ โดยทุกรายการปลอดสารกันบูด หรือผงชูรสใดๆ ทั้งสิ้น

เมนูภายในร้าน
“การทำเมนูต่างๆ ดิฉันจะคิดเสมอว่า ถึงจะเป็นเมนูสุขภาพ แต่ต้องไม่ละทิ้งความอร่อย โดยทำคุณภาพเหมือนที่เรากินเอง ซึ่งหัวใจสำคัญของความอร่อยมาจากวัตถุดิบคุณภาพดี อย่างผักของเรา กล้าลงทุนระบบที่ได้มาตรฐาน ปลูกโดยไม่ฝืนธรรมชาติ ทำให้ได้ผลผลิตที่สด สะอาดเป็นธรรมชาติ ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ ก็เลือกเกรดดีที่สุด ทำให้เมื่อปรุงมาแล้ว ลูกค้าจะมีความสุข เพราะได้กินอาหารที่ทั้งอร่อย และดีต่อร่างกาย”
ลลิตา เผยต่อว่า กลุ่มลูกค้าหลักเป็นระดับ B+ ส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว ขณะที่ระดับราคาอาหาร เฉลี่ยที่จานละ 100-500 บาท ซึ่งลูกค้าแทบไม่เคยตำหนิว่าแพง เนื่องจากแต่ละจานล้วนใช้วัตถุดิบชั้นดี อัดมาเต็มๆ กินจานเดียวอิ่ม คุ้มค่าต่อเงินที่จ่ายไป

ตกแต่งร้านสไตล์อิงลิชคันทรี
นอกจากนั้น ทางร้านยังต่อยอด ด้วยการนำผลผลิตมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขายในร้าน มีทั้งแบบบรรจุซอง กล่อง และจัดเป็นกระเช้าของขวัญ เพื่อให้ลูกค้าซื้อกลับไปเป็นของฝาก เช่น ผักสลัด น้ำสลัด ช็อกโกแลต และเบเกอรี่โฮมเมด เป็นต้น และเร็วๆ นี้จะเสริมบริการดิลิเวอรี่ ส่งผลิตภัณฑ์ถึงลูกค้าโดยตรง

ผลิตภัณฑ์แปรรูปขายภายในร้าน
“จากที่ดิฉันได้มาจับธุรกิจผักไฮโดรโปนิกส์ ทำให้เห็นว่า ตลาดยังมีความต้องการอีกมาก เพราะคนยุคนี้ ใส่ใจสุขภาพอย่างยิ่ง ทว่า ปัญหาสำคัญของการทำธุรกิจผักไฮโดรโปนิกส์ คือ ใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงมาก เฉพาะการวางระบบ ต้องใช้เงินทุนกว่าเจ็ดหลัก หากจะขายส่งผักสด ยังต้องมีต้นทุนค่าขนส่ง ขณะที่ผักสดระยะเวลาวางขายค่อนข้างน้อย กำไรที่ได้หลังหักค่าใช้จ่ายแทบไม่เหลือ ดังนั้น แผนธุรกิจของเรา จะเดินควบคู่กันไป ระหว่างปลูกผักเพื่อใช้ในร้าน ซึ่งอนาคตอาจจะมีขยายสาขา กับอีกด้าน จะส่งผลผลิตไปตามจุดต่างๆ เพื่อเพิ่มช่องทางขายด้วย” ลลิตา ปิดท้าย


โทร.08-1844-8801 , www.homefreshhydrofarm.com
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

แผนที่ร้าน ‘HOME FRESH’
รู้จักผัก “ไฮโดรโปนิกส์”
“ไฮโดรโปนิกส์” (Hydroponics) เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้วัสดุปลูก คือ จะปลูกพืชลงบนสารละลายธาตุอาหารพืช ให้รากพืชสัมผัสกับสารอาหารโดยตรง ตามรากศัพท์เดิมมาจาก ไฮโดร (Hydro) แปลว่าน้ำ และ โพโนส (Ponos) แปลว่า งาน รวมความคือ วอเตอร์-เวิร์คกิ้ง (Water-working) หมายถึงการทำงานของน้ำที่มีสารละลายธาตุอาหารผ่านรากพืช ซึ่งต้องมีการควบคุมอุณหภูมิของสารละลายธาตุอาหารพืช ให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชให้ดี
ข้อดี เป็นระบบที่ให้ผลผลิตสะอาด เนื่องจากไม่มีการใช้ดิน สามารถลดขั้นตอนการทำความสะอาดที่ทำให้ผลผลิตต้องโดนน้ำและมีโอกาสเน่าเสียได้ สามารถหลีกเลี่ยงหรือลดการใช้สารเคมีในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชได้ ทว่า มีข้อเสียต้นทุนสูง สิ้นเปลืองพลังงาน และจำเป็นต้องใช้ความชำนาญในการดูแล
อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์

 

เปิดบ้าน “ซีเล็ค ทูน่า” สร้างคน สร้างสุข สร้างอาณาจักรแสนล้าน


ผลิตภัณฑ์ แบรนด์ “ซีเล็ค” ผงาดเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศไทยในตลาดอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าแปรรูปบรรจุกระป๋อง และยังเป็นผู้ผลิตรายสำคัญบนเวทีโลกด้วย โดยปีที่ผ่านมา (2554) บริษัทในเครือทั้งหมดทำรายได้รวมกว่า 1 แสนล้านบาท...
กุญแจสำคัญแห่งความสำเร็จที่เกิดขึ้น จะถูกไขในบรรทัดด้านล่างต่อจากนี้ เมื่อผู้บริหาร “ซีเล็ค ทูน่า” ซึ่งปกติไม่ค่อยจะยอมออกสื่อบ่อยครั้งนัก ได้ให้โอกาสเปิดบ้านเข้าเยี่ยมชมโรงงานที่ จ.สมุทรสาคร พร้อมกับเปิดใจสัมภาษณ์ถึงเคล็ดลับในการสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จ

สมศักดิ์ สมิทธิเศรษฐ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายโรงงาน บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด
@@@@ ตลาดหลักเน้นส่งออก ภายในชูพรีเมี่ยม @@@@
สมศักดิ์ สมิทธิเศรษฐ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายโรงงาน บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด หรือ Thai Union Manufacturing Co.Ltd. ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ แบรนด์“ซีเล็ค” เกรินพื้นฐานของบริษัทให้ฟังว่า บริษัทก่อสร้าง เมื่อปี พ.ศ.2520 โดยเป็นผู้ผลิตและส่งออกปลาทูน่าบรรจุกระป๋อง
ด้วยความต้องการของตลาดโลกที่สูงอย่างยิ่งในเวลานั้น ประกอบกับประเทศไทยมีข้อได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้งการผลิต และมีแหล่งวัตถุดิบอุดมสมบูรณ์ ทำให้กิจการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากยุคแรกมีพนักงานประมาณ 120 คน ตามด้วยการขยายงานเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน มีพนักงานกว่า 8,000 คน กำลังผลิตประมาณ 600 ตันต่อวัน หรือประมาณ 3 ล้านกระป๋องต่อวัน

โรงงานตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร
ทั้งนี้ เมื่อเจาะลงไปในรายละเอียดพบว่า การผลิตกว่า 98% จะรับรองสำหรับการส่งออกไปต่างประเทศ โดยกระจายแทบทุกมุมโลก มีตลาดหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา ทวีปยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชีย ตามลำดับ โดยแบ่งสัดส่วนการส่งออกไปในแบรนด์ตัวเอง กับรับจ้างผลิต (OEM) อย่างละครึ่งใกล้เคียงกัน
“ในอุตสาหกรรมปลาทูน่าบรรจุกระป๋องบนเวทีโลกถือว่าการแข่งขันสูงมาก โดยมีคู่แข่งอยู่แทบจะทุกประเทศ ซึ่งในเอเชียมีคู่แข่งสำคัญ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งมีข้อได้เปรียบเรื่องค่าแรงงานถูกมาก อย่างไรก็ตาม โรงงานของเรายังมีจุดเด่นเรื่องประสิทธิภาพการผลิตที่สูงกว่า ซึ่งเป็นโนฮาวที่เกิดจากการสะสมประสบการณ์ ไม่สามารถลอกเลียนได้ง่าย” สมศักดิ์ ระบุ

มีพนักงานรวมกว่า 8 พันคน
ในส่วนการผลิตเพื่อขายในประเทศนั้น เพียงแค่ 2% เท่านั้น อย่างไรก็ตาม อัตราผลิตแค่ 2% ดังกล่าว ถือเป็นผู้ผลิตที่ครองสัดส่วนในประเทศไทยเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 40%
ผู้บริหาร “ซีเล็ค ทูน่า” เสริมในจุดนี้ว่า พฤติกรรมการบริโภคของชาวต่างชาติ จะนิยมกินอาหารประเภทปลาอย่างมาก โดยกินเป็นอาหารหลักในชีวิตประจำวัน ส่วนประเทศไทย ไม่นิยมกินปลาทูน่ามากนัก อีกทั้ง ประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ทางอาหารสูง จึงมีทางเลือกหลากหลาย สามารถหากินของสดๆ ได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องพึ่งอาหารแปรรูปมากนัก
จากปัจจัยดังกล่าว การทำตลาดในประเทศ ผลิตภัณฑ์ของ “ซีเล็ค ทูน่า” จึงวางตำแหน่งตัวเองเป็นอาหารกระป๋องทางเลือกมากกว่าเป็นอาหารหลัก โดยมุ่งทำเป็นอาหารกระป๋องคุณภาพสูง เกรดพรีเมี่ยม โดยจะคัดใช้วัตถุดิบเนื้อปลาชั้นดีกว่าส่งออกด้วยซ้ำ นอกจากนั้น แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายกว่า 100 รายการ เช่น แกงเขียวหวานทูน่า ทูน่าผัดพริก มัสมั่นทูน่า และ ทูน่าแซนวิส ฯลฯ

@@@@ ชูสร้างคน สร้างสุข พื้นฐานองค์กรแข็งแรง @@@@
สมศักดิ์ เผยด้วยว่า พื้นฐานอุตสาหกรรมนี้ ยังจำเป็นต้องใช้แรงงานจากคนเป็นหลัก และต้องใช้คนงานจำนวนมาก เพราะหลายขั้นตอนไม่สามารถใช้เครื่องจักรมาทำงานทดแทนได้ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนขูดหนังปลา ลอกกระดูก เป็นต้น จำเป็นต้องใช้พนักงานที่มีความชำนาญ ทำงานมานาน จึงจะทำงานได้ประสิทธิภาพสูง ดังนั้น หัวใจสำคัญที่สุดขององค์กรนี้ คือ การสร้างแรงจูงใจให้พนักงานอยากอยู่กับองค์กรแห่งนี้ไปนานๆ
“ความภูมิใจของบริษัทเรา คือ พนักงานที่นี่ มีอัตราลาออก หรือย้ายไปโรงงานอื่นๆ น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับโรงงานใกล้เคียงใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นแหล่งที่มีโรงงานอยู่จำนวนมาก พนักงานของเรามีอายุงานเฉลี่ยกว่า 10 ปีขึ้นไป ในขณะเดียวกัน พนักงานจากที่อื่นก็อยากจะเข้ามาอยู่กับเรา ด้วยเหตุผลที่เราพยายามสร้างสุขให้พนักงานทั้งทางกายและทางใจ ตั้งแต่เรื่องของค่าตอบแทนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโรงงานใกล้เคียง อย่างเช่นรายวันได้ประมาณ 300 บาทขึ้นไป รวมทั้งมีเงินค่าพิเศษอื่นๆ เช่น ค่าล่วงเวลา นอกจากนั้น ยังมีสวัสดิการต่างๆ ให้ด้วย เช่น การฝึกอบรม พาไปเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ดูแลสุขภาพความปลอดภัย ให้รางวัลทองคำ สำหรับพนักงานที่มีอายุงานครบตามกำหนด เป็นต้น” ผู้บริหาร เผย

อีกทั้ง เนื่องจากพนักงานที่นี่กว่า 30% เป็นชาวต่างชาติ ได้แก่ ชาวกัมพูชา และชาวพม่า การบริหารองค์กรจึงยึดหลักความเสมอภาค ทั้งเรื่องผลตอบแทนรายได้ และสิทธิส่วนบุคคลต้องเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งระหว่างคนไทยกับคนต่างชาติ ตัวอย่างเช่น ป้ายประกาศต่างๆ ทุกป้ายในโรงงาน จะต้องทำเป็น 3 ภาษา การประชุมทุกครั้งจะต้องมีล่ามคอยช่วยแปลภาษา ค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ เท่าเทียมกัน เป็นต้น
ที่สำคัญ การสร้างให้องค์กรมีความแข็งแรง จะเน้นการสร้างความสัมผัสอันดีระหว่างผู้บริหารกับพนักงาน ตั้งแต่ระดับบนสูงจนถึงล่างสูง โดยให้ความสำเร็จเรื่องการสื่อสารภายในองค์กรที่ให้พนักงานและผู้บริหารเกิดความรู้สึกใกล้ชิดเป็นเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ดังนั้น ผู้บริหารของที่นี่จะลงมาทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับพนักงานด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิดทุกครั้ง

“เราให้ความสำคัญต่อการสื่อสารจากผู้บริหารไปสู่พนักงานอย่างมาก กิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้น ผู้บริหารจึงลงไปคลุกคลีเอง เช่น ผู้บริหารแต่งชุดนักเรียนมาเล่นเกมกับพนักงาน หรือเล่นกีฬาสี ร้องเพลงร่วมกับพนักงาน ทำให้พนักงานเห็นถึงความจริงใจ และตั้งใจจริงของผู้บริหาร”
“นอกจากนั้น เรามีเวทีให้พนักงานได้แสดงออก ทั้งด้านความคิด และความสามารถต่างๆ โดยมีรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เป็นตัวกระตุ้น ซึ่งวิธีการต่างๆ เราปรับให้เหมาะกับองค์กรของเราเอง นอกจากนั้น ยังเข้าร่วมโครงการ “สร้างบุคลากรด้านการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพภายในองค์กร” ของสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เพื่อพัฒนาคนในองค์กรขึ้นมาเป็นทีมงานทำหน้าที่แกนนำสร้างทัศนคติ ถ่ายทอดความรู้ และฝึกทักษะให้บุคลากรในองค์กร” ผู้บริหาร อธิบาย

@@@@ ทำครบวงจร สร้างอาณาจักรแสนล้าน @@@@
นอกจากบริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัดแล้ว ยังมีบริษัทในเครืออีกหลายบริษัท ที่ทำธุรกิจต่อเนื่องครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น บริษัทผลิตกระป๋องเปล่า ผลิตสิ่งพิมพ์ ผลิตอาหารทะเลแช่แข็ง โดยรวมบริษัทในเครือมียอดขายต่อปีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท โดยเป็นสัดส่วนมาจากบริษัท ไทยรวมสินพัฒนาฯ ประมาณ 20% หรือประมาณ 18,000-20,000 ล้านบาทต่อปี
สำหรับวัตถุดิบปลาที่ใช้ในโรงงาน มีแหล่งจับมาจากทั้งทะเลจากอ่าวไทย และนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น มหาสมุทรแปซิพิก มหาสมุทรอินเดีย โดยวัตถุดิบที่ใช้เป็นปลาทูน่า มีหลายสายพันธุ์ ได้แก่ ปลาโอดำ ปลาโอลาย ปลาโอแถบ ปลาโอครีบยาว ปลาโอครีบเหลือง ปลาทูแขก ปลาซาร์ดีน และปลาทรายแดง
โดยวัตถุดิบปลาที่เข้ามายังโรงงานสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด เต็มประสิทธิภาพ ได้แก่ เนื้อปลานำไปทำปลาทูน่าบรรจุกระป๋อง รวมถึง นำไปทำผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ต่างๆ ผลพลอยได้จากการผลิตทูน่า เช่น หัวปลา ก้างปลา ไส้ พุงปลา จะส่งต่อไปทำเป็นอาหารสัตว์ ในขณะที่น้ำที่ได้จากการนึ่งปลา หลังผ่านกระบวนการแล้วนำไปทำสารปรุงรส ขณะที่ส่วนของ “ตาปลาทูน่า” จะแยกและนำออกไปผลิตน้ำมันปลาทูน่าโอเมก้า 3 ซึ่งทั้งหมดดำเนินการโดยบริษัทในเครือ
นอกจากนั้น ส่วนของเสียต่างๆ จะผ่านกระบวนการบำบัดเพื่อนำกลับมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องปั่นไฟ และเครื่องทำความเย็น ช่วยให้โรงงานประหยัดค่าพลังงานได้ปีละหลายล้านบาท

ระบบบำบัดน้ำเสียภายในโรงงาน
@@@ เผย Roadmap พร้อมรับมือ AEC
สำหรับแผนธุรกิจในอนาคตต่อไปนั้น ทางบริษัทฯ มีแผนสำคัญในการพยายามพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะการรับรองเปิดเสรีอาเซียน หรือ ACE ซึ่งปัจจุบัน โรงงานยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานด้านวิศวกร เพราะบุคลากรที่จบในสายนี้ของไทยมีจำนวนค่อนข้างน้อย อีกทั้ง วิศวกรชาวไทยไม่ค่อยนิยมมาทำงานในโรงงานอาหารทะเลแปรรูป ส่วนใหญ่จะมุ่งไปทำงานในสายอุตสาหกรรมรถยนต์มากกว่า ดังนั้น ทางบริษัทได้เริ่มทดลองดึงตัววิศวกรจากประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์ เข้ามาทำงาน เพื่อเข้ามาเสริมความรู้ใหม่ๆ ให้แก่โรงงานด้วย
ขณะเดียวกัน มีแผนพัฒนาบุคลากรคนไทยในองค์กรอย่างต่อเนื่อง เช่น อบรมภาษา หลักสูตรพิเศษ ฯลฯ เพื่อให้ขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญขององค์กรในอนาคต รอบรับการค้าเสรีที่กำลังจะเกิดขึ้น
ในส่วนการขยายตลาดต่างประเทศ จะมีทั้งการไปลงทุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในต่างประเทศ ทั้งในรูปแบบซื้อกิจการ หรือควบรวมกิจการ โดยใช้ข้อได้เปรียบได้จากประเทศเหล่านั้น เช่น ไปตั้งโรงงานในประเทศโลกที่สาม ซึ่งได้รับสิทธิพิเศษงดเก็บนำภาษีนำเข้าจากทวีปยุโรป อีกทั้ง ตั้งอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบปลาทะเล ทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้มากขึ้น เป็นต้น

 

เนื่องจากผู้อ่านมี พื้นฐานไม่เท่ากัน ผมจึงขอบัญญัตืศัพท์ขึ้นใช้เองดังนี้

HyperSpace--ไฮเปอร์สเปซ--อวกาศเหลือล้ำ

Hyper Dimensions --มิติเหลือล้ำ

เนื่องจากมีคำว่า Beyond อยู่ ซึ่งมักแปลว่า เหนือกว่า หรือ ลึกล้ำ จึงไม่สามารถแปลว่า มิติลึกล้ำอะไรแบบนั้นครับ

--คำว่า อินเทอร์แอคชั่น-Interaction ทางวิทยาศาสตร์มักแปลว่า "อันตรกิริยา" ส่วนทางสังคมศาสตร์แปลว่า "ปะทะสังสรรค์" ครับ

---ฟิสิกส์ยุคใหม่ หรือฟิสิกส์ควอนตั้ม Quantum Physics -Quantum Mechanics คำว่า ควอนตั้ม หมายถึง เป็นก้อนๆ คือว่าอนุภาค หรือคลื่น ในภาวะปกติมันจะรวมตัวเป็นก้อนๆ เช่น โฟตอน ก็หมายถึง "เม็ดแสง" ไม่ใช่ "คลื่นแสง"

--ทำไมเราจึงพูดถึงแต่มิติที่11 ไม่มี มิติที่12 เป็นเพราะว่าทฤษฎีสตริง ได้ทดลองคำนวณ พบว่างอนุภาคทำตัวเหมือนเชือกเส้นเล็กๆ(เล็กกว่าอะตอม พันล้านเท่า)ที่สั่นใน10 มิติ 11ก้ได้ แต่ 12 จะคำนวณไม่ได้ ไม่สอดคล้องครับ
--หลังจากนั้นก็มีทฤษฎี เอ็ม กล่าวถึงพื้นผิวบางๆ--- โดยทุกอย่างพยายามอธิบายโลกของควอนตั้ม ซึ่งแตกต่างจากโลกที่เราอาศัยอยู่มากมายครับ

--ตัวอย่างทฤษฎีสตริง-ซูเปอร์สตริง
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=_B0Kaf7xYMk"]String Theory - (2 Minutes) - YouTube[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=PpQngpaHamg&feature=related"]String Theory for the Scientifically Curious with Dr. Amanda Peet - YouTube[/ame]

ใครอยู่ในมิติที่ 11 จักรวาลคู่ขนาน
--ถ้าปรัชญา มัลติเวิร์ส-Multiverse ก็คือ "นานามิติ"ครับ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=xE7xRgfPjAI&feature=fvwrel"]Who lives in the eleventh dimension? - Parallel Universes - BBC science - YouTube[/ame]

 

หากจะศึกษาเรื่องเร้นลับ ต้องรู้จัก
-ทฤษฎีเคออส -ทฤษฎีไกอา-ผลของผีเสื้อ
-อัตราส่วนทองคำ -อนุกรม มองเดอโบร์ -จูเลียเซ็ต
ทฤษฎีความอลวน-(เค-ออส)

<!-- /firstHeading --><!-- bodyContent --><!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
<!-- /tagline --><!-- subtitle -->
<!-- /subtitle --><!-- jumpto -->
<!-- /jumpto --><!-- bodycontent --><TABLE class="noprint metadata plainlinks ambox ambox-style"><TBODY><TR><TD class=mbox-image>

</TD><TD class=mbox-text></TD></TR></TBODY></TABLE>ทฤษฎีความอลวน<SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP> (อังกฤษ: Chaos theory) เป็นทฤษฎีที่อธิบายถึงลักษณะพฤติกรรมของระบบพลวัต (คือ ระบบที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น เปลี่ยนแปลงตามเวลาที่เปลี่ยนไป) โดยลักษณะการเปลี่ยนแปลงของระบบที่เรียกว่าเคออสนี้ จะมีลักษณะที่ปั่นป่วนจนดูคล้ายว่า การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นแบบสุ่มหรือไร้ระเบียบ (random/stochastic) แต่จริง ๆ แล้ว ระบบเคออสนี้เป็นระบบแบบไม่สุ่ม หรือระบบที่มีระเบียบ (deterministic)
ในทางคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ คำจำกัดความของระบบเคออส คือ ระบบไม่เชิงเส้น (nonlinear system) ประเภทหนึ่ง ที่มีความไวต่อสภาวะเริ่มต้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ถ้าระบบ 2 ระบบนั้นเริ่มต้นจากสภาวะที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย คือเกือบจะเหมือนกันทุกประการ เมื่อระบบได้มีการเปลี่ยนไปสักระยะหนึ่ง สภาวะของระบบทั้งสองที่เราสังเกตได้เมื่อเวลาผ่านไปจะแตกต่างกันอย่างสังเกตเห็นได้ชัด
เรามักจะได้ยินคำพูดที่นิยมพูดกันอย่างกว้างขวางที่ว่า "เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว" หรือ "ผีเสื้อขยับปีกทำให้เกิดพายุ" (จาก "butterfly effect") ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่ตีความคำพูดนี้ในลักษณะของขนาดความรุนแรงของผลลัพธ์เท่านั้น ระบบเคออสนั้นไม่จำเป็นจะต้องแตกต่างกันในแง่ของ ขนาด ของผลลัพธ์เสมอไป แต่อาจแตกต่างกันในแง่ของ พฤติกรรม การเปลี่ยนแปลงก็ได้ จากตัวอย่างข้างต้น การเปลี่ยนแปลงของระบบทั้งสองนั้นจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมากในขณะเริ่มต้น เมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงนั้นแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย

ประวัติ
จุดเริ่มต้นของทฤษฎีความอลวนนี้ สามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงในช่วงปี พ.ศ. 2443 (ค.ศ. 1900) จากการศึกษาปัญหาวงโคจรของวัตถุสามชิ้นในสนามแรงดึงดูดระหว่างกัน ซึ่งมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า ปัญหาสามวัตถุ (three-body problem) โดย อองรี ปวงกาเร ซึ่งได้ค้นพบว่า วงโคจรที่ศึกษานั้นอาจจะมีลักษณะที่ไม่ได้เป็นวงรอบ (periodic) คือไม่ได้มีทางวิ่งซ้ำเป็นวงรอบ ยิ่งไปกว่านั้น วงโคจรนั้นก็ไม่ได้ขยายวงออกไปเรื่อย ๆ หรือมีลักษณะที่ลู่เข้าหาจุดใด ๆ ต่อมาได้มีการศึกษาถึงปัญหาสมการเชิงอนุพันธ์ไม่เป็นเชิงเส้นที่เกี่ยวข้อง โดยที่ เบอร์คอฟ (G.D. Birkhoff) นั้นศึกษาปัญหาสามวัตถุ คอลโมโกรอฟ ศึกษาปัญหาความปั่นป่วน (หรือ เทอร์บิวเลนซ์) และปัญหาเกี่ยวกับดาราศาสตร์. ส่วน คาร์ทไรท์ (M.L. Cartwright) และ ลิตเติลวูด (J.E. Littlewood) นั้นศึกษาปัญหาทางวิศวกรรมการสื่อสารด้วยคลื่นวิทยุ. สเมล (Stephen Smale) นั้นอาจเป็นนักคณิตศาสตร์คนแรก ที่ทำการศึกษาถึงปัญหาทางด้านพลศาสตร์ของระบบไม่เป็นเชิงเส้น. ถึงแม้ว่าความอลวนของเส้นทางโคจรของดาว นั้นยังไม่ได้มีการทำการสังเกตบันทึกแต่อย่างใด แต่ก็ได้มีการสังเกตพบ พฤติกรรมความอลวนในความปั่นป่วนของการเคลื่อนที่ของของไหล และ ในการออสซิลเลท แบบไม่เป็นวงรอบของวงจรวิทยุ ซึ่งไม่มีทฤษฎีใดในขณะนั้นสามารถอธิบายพฤติกรรมเหล่านี้ได้
ความตื่นตัวในการพัฒนาทฤษฎีความอลวนนี้ เกิดขึ้นในช่วงกลางของศตวรรษที่ 20 เมื่อเป็นที่ประจักษ์ว่า ทฤษฎีของระบบเชิงเส้นนั้นไม่สามารถใช้อธิบายพฤติกรรมบางอย่าง แม้กระทั่งพฤติกรรมของระบบที่ไม่ซับซ้อนอย่าง แมพลอจิสติก (Logistic map) อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้พัฒนาการของทฤษฎีความอลวนเป็นไปอย่างรวดเร็วก็คือ คอมพิวเตอร์ การคำนวณในทฤษฎีความอลวนนั้น โดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะที่เป็นการคำนวณค่าแบบซ้ำ ๆ จากสูตรคณิตศาตร์ และสามารถใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เอ็ดเวิร์ด ลอเรนซ์ (Edward Lorenz) เป็นผู้ริเริ่มบุกเบิกทฤษฎีความอลวน เขาได้สังเกตพฤติกรรมความอลวน ในขณะทำการทดลองทางด้านการพยากรณ์อากาศ ในปี ค.ศ. 1961 ลอเรนซ์ใช้คอมพิวเตอร์ซิมูเลชันแบบจำลองสภาพอากาศ ซึ่งในการคำนวณครั้งถัดมาเขาไม่ต้องการเริ่มซิมูเลชันจากจุดเริ่มต้นใหม่ เพื่อประหยัดเวลาในการคำนวณ เขาจึงใช้ข้อมูลในการคำนวณก่อนหน้านี้เพื่อเป็นค่าเริ่มต้น ปรากฏว่าค่าที่คำนวณได้มีความแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาพบว่าสาเหตุเกิดจากการปัดเศษ ของค่าที่พิมพ์ออกมา จากค่าที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีค่าน้อยมาก แต่สามารถนำไปสู่ความแตกต่างอย่างมากมาย เรียกว่า ไวต่อสภาวะเริ่มต้น
คำ "butterfly effect" ซึ่งเป็นคำที่นิยมใช้เมื่อกล่าวถึงทฤษฎีความอลวน นั้นมีที่มาไม่ชัดเจน เริ่มปรากฏแพร่หลายหลังจากการบรรยายของ ลอเรนซ์ ในปี ค.ศ. 1972 ภายใต้ชื่อหัวข้อ "Does the Flap of a Butterfly's Wings in Brazil Set Off a Tornado in Texas?" นอกจากนี้แล้วยังอาจมีส่วนมาจาก รูปแนวโคจรของตัวดึงดูดลอเรนซ์<SUP id=cite_ref-1 class=reference>[2]</SUP> (ดังรูปด้านขวามือ) ที่มีรูปร่างคล้ายผีเสื้อ ซึ่งเขาได้ตีพิมพ์ในบทความวิชาการก่อนหน้านี้

ส่วนคำ "chaos" (เค-ออส) บัญญัติขึ้นโดย นักคณิตศาสตร์ประยุกต์ เจมส์ เอ ยอร์ค (James A. Yorke)

 

เรื่องเร้นลับที่ 3 : 2012 คำบอกเล่าจากต่างดาว


.....2012 อาจไม่แย่นัก แต่ถึงตอนนั้นเราก็คงจะชินกันแล้ว (ธ.ค 2552 นายกอาจหมดอำนาจ-ม.ค. ระวังนองเลือดจากผู้ถูกกดขี่กับผู้ครองอำนาจ เพราะไร้สัจจะในการปกครอง - โหรโสรัจจะ)

.....2010 ปีหน้า ก็จะเกิดภัยพิบัติ เยลโล่สโตนเกิดพ่นไฟ เป็นภูเขาไฟยักษ์ขนาดใหญ่ที่สุด ทำให้หมอกควันคลุมไปทั่วโลก

.....2011 อุกาบาตดาวตกขนาดยักษ์ถล่มโลก

.....2012 จึงเหมือนว่าดีขึ้น เพราะเราชินกับมันแล้ว (ตีความจากรหัสภาษาฮีบรู-ไบเบิ้ล) ไม่เชื่อไม่เป็นไร ให้เตรียมหาวัสดุปลูกผักไร้ดิน ด่างทับทิมล้างผัก และคาลาไมด์ (แ้ป้งน้ำบางชนิดก็ใช้ได้) แก้สัตว์กัดต่อย-ยกเว้นงู อันนี้ไม่รวมขาดอาหาร อดหยาก จนต้องจับกบ และแมลงกิน ขาดไฟฟ้า-พลังงาน เครื่องปั่นไฟ พลังลม น้ำ สามารถแยกเป็นไฮโดรเจนกับออกซิเจนทดแทนน้ำมันได้ น้ำและเกลือสามารถใช้แทนแก็สหุงต้มได้ - อันนี้ผมคิดขึ้นเอง

.....ข้อมูลทั้งหมดจากเวปซีต้าทอล์ค พยากรณ์ไว้แม่นมาก ที่แล้วมา (คราวนี้เราลองคิดดู ซีต้า เรตติคูลัส คือกลุ่มดาว ชาวซีต้า มีย่อยไป 22 เผ่า คงมีส่วนใหญ่ที่เป็นธรรมมะที่เข้าร่วมในสมาพันธ์กาแลกซี)

.....ซีต้าเวปนี้ มีคนประสานงานชื่อแนนซี เป็นแชนแนลเลอร์คือสามารถรับข้อมูล มีพลังจิต คอยส่งคลิปขึ้นยูทูปมาตั้งแต่ปี 2008 จะเกิดล่มสลายทางเศรษฐกิจ, เงินไม่มีค่า ,เกิดรัฐบาลชั่วคราวโลก เกิดรัฐบาลแบบทหาร ต้องเด็ดขาด, และหลัง 2012 พวกเราจะต้องถูกฝังไมโครชิปแน่ เพราะตอนนั้น ทั้ง อิลลูมิเนติ (รัฐบาลเงาของโลก) เกรย์-เรปติเลี่ยน ต่างก็เปิดเผยตัวออกมา เหมือนสมัยกลางที่เล่าว่าเกิดการต่อสู้ของมนุษย์และมังกร (มีตัวลูกดองไว้ มีสายสะดือด้วย-แสดงว่ามังกรตั้งท้องและคลอดแบบมนุษย์ ไม่ฟักไข่แบบงู) (ช่วยอ่านว่ามันจะมั่วๆไปหน่อยไหมครับบทนี้)

.....จริงๆ แล้วทุกภัยพิบัติ เกิดจากการยกระดับทางกายและจิตของพระแม่ธรณีทั้งสิ้น เคยมีนักวิทยาศษสตร์ ศึกษากลไกทางกายภาพ การแลกเปลี่ยนแกสออซิเจน สรุปได้ว่า มีกลไกการทำงานเหมือนว่าโลกเป้นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง และได้นำเสนอเชิงวิชาการ พวกเพื่อนจึงเสนอว่า น่าจะตั้งชื่อว่าทฤษฎีไกอา-GAIA- ไกอา เป็นภาษาโรมัน แปลว่าพระแม่ธรณี ตรงกันกับความเชื่อทางตะวันออกเกือบทุกชาติ ว่าพระแม่ธรณีนั้นมีชีวิต ไม่ได้มั่ว แต่มีหลักฐานละครับทีนี้ การลงจอดบนดาวอังตาร พบสัว์คล้ายกระต่าย ตัวเท่ากำปั้น สีขาว ซึ่งนาซ่าพยายามปกปิด ใช้รถโรเวอร์ถอยทับซ้ำไปมา จนจมดิน เจ้าของเว็ป เร้นส์ดอทคอม ได้สังเกตเห็นวัตถุนี้ และแจ้งไปยังเว็ปนาซ่า แต่ผลที่ได้ก็คือ นาซ่าดึงรูปนั้นออกจากที่เคยโชว์ไว้ทันที ข่าววงในว่าผู้ก็ตั้งเจ็ทโพรพัลชั่น ก็คือตัวเอ้ของอิลลูมิเนติ ที่ชอบจับคนไปเผาทั้งเป็นและทำพิธีทางเพศ (ไสยศาสตรฺ์) กับหญิงสาว---

--ส่วนหนึ่งโดยผมเองครับ
http://lubjung.blogspot.com/2010/01/3-2012.html

 

ฮือฮา! พบบ้านโบราณ อายุแก่กว่าปิรามิดเกือบพันปี

ภาพ © Wales News Service
ตะลึง พบบ้านโบราณในเวลส์ อายุเก่าแก่ประมาณ 6,500 ปีก่อน ซึ่งถือว่าอายุมากกว่าปิรามิดโบราณของอียิปต์ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 4,500 ปีก่อน
พลิกหน้าประวัติศาสตร์เมื่อ ผู้ก่อสร้างบ้านในเวลล์ขุดพบฐานปลูกสร้างบ้านโบราณ มีความยาว 50 ฟุต ขณะกำลังสร้างอาคารเคหะใหม่ในเมืองมอนเม้าท์ หลังผู้เชี่ยวชาญเข้าทำการตรวจสอบโดยใช้รังสีคาร์บอนพบว่าบ้านหลังนี้น่าจะมีอายุประมาณ 6,500 ปีก่อน และมีความเก่าแก่กว่าปิรามิดโบราณของอียิปต์ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 4,500 ปีก่อน โดยคาดการว่าบ้านหลังดังกล่าวน่าจะเป็นที่พักอาศัย หรือไม่ก็เป็นสถานที่เอาไว้เพื่อพบปะสังสรรของชุมชน และถูกสร้างขึ้นในยุคเงิน หรืออาจก่อนยุคเนโอลิธิค
นักโบราณคดีรู้สึกตื่นเต้นในการค้นพบครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะพวกเขากล่าวว่ายังไม่เคยขุดพบสิ่งปลูกสร้างลักษณะนี้ในประเทศอังกฤษเลย
ที่มา : มติชนออนไลน์

 

--พิมพ์ไปแล้วหายหมดเลย
--เลขธรรมชาติ-Natural Number มีค่าเท่ากับ 2.718281828 ถอดรู้ทสองแล้วใกล้เคียงกับอัตราส่วนทองคำคือ 1.6487
(ทฤษฎีของผมเอง)
----------------------------
ในดนตรี ความถี่เป็นสองเท่า เรียกว่า ออกเตฟ คือ8 โน้ต จริงๆแล้วแบ่งออกเป็น12โน้ตเท่าๆกัน แต่ละความถี่ของตัวโน้ตเป็นสัดส่วน คือ เท่ากับ รากที่สิบสองของ2ครับ----1.05946 เสียงที่เราฟังอยู่ในย่านเสียงเปียนโนมาตรฐานคือ 7 ออคเตฟ


FileianoKeysWithOctavesNumbered.png - Wikipedia, the free encyclopedia


http://en.wikipedia.org/wiki/File:PianoKeysWithOctavesNumbered.png

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=gjanftHnvDI"]Music Theory - Notes and Tones - Warbeats Tutorial - YouTube[/ame]



[ame="http://www.youtube.com/watch?v=lSZyFv8Nccg&feature=relmfu"]Class1: ????????????????????? (2/3) - YouTube[/ame]

 

---
Memories of Jekyll Island

Written By: Doug Yurchey

Posted: 1/26/2012 12:00:00 AM Reads: 2330 Submitted By:jeff Category: Conspiracy Theories



It was 1970. I was a young man playing on the Edinboro State College tennis team. Before the 70s Recession, there was a ‘boom’ period where scholarships were lavishly given. Not only was I granted a tennis scholarship to a medium-sized college, I was also able to partake in the team’s many field trips. We were up near the snow belt of Lake Erie and flew south for practice matches (against other colleges) before our seasons began.

I felt like a rock star; traveling from motel to motel. We were given the best tennis shoes, some clothes and even a little spending-money. On one southern trip, I packed a half ounce of pot called ‘Meshmacon.’ This was very good weed at the time, before the age of buds and Sinsemilla. I had one of the most beautiful experiences in my life on Jekyll Island. Then, I knew nothing of the unique island’s evil history.

I did know that old millionaires used Jekyll as their personal resort. One side of the island had big, modern buildings while the other was left natural. Wildlife had been brought in and left to breed on the nature-side of the island. We stayed near the nature-side.

I remember going off by myself one particular night. I saw a lighthouse. It was my first lighthouse and I had to investigate! Of course, there was a full Moon. I had my pot and remember sitting in the lotus position, feeling very good. The lighthouse, more than 80 feet high, kept turning its bright beam in every dark direction. I was alone. Everything was quiet and beautiful. The moment became perfect as I actually witnessed silhouettes of deer drinking from a small pond in the darkness. I forget if I cried, but I knew I would remember this experience for the rest of my life.

What you have just read are my best recollections. They are the Dr. Jekyll in the story. Remember, the doctor was very good. He experimented with the dark side. Now, what follows is the Mister Hyde in the story…

New York bankers, with full approval of international bankers, created the ‘Panic of 1907.’ J.P. Morgan, according to the press, was the man who ‘saved the day’ by putting up his own money. In truth, it was Morgan that created rumors of banking insolvency which started the PANIC in the first place.

Keep in mind by 1907 Nikola Tesla had failed in his efforts to give the planet free energy. We were on the threshold of a technological utopia more than a hundred years ago. This total failure paved the way for corrupt bankers or a few families to secretly take over the world.

‘Picture a party of the nation’s greatest bankers stealing out of New York on a private railroad car under cover of darkness, stealthily riding hundreds of miles South, embarking on a mysterious launch, sneaking onto an island deserted by all but a few servants, living there a full week under such rigid secrecy that the names of not one of them was mentioned, lest the servants learn the identity and disclose to the world this strangest, most secret expedition in the history of American finance…’ - Bertie Charles Forbes (founder of Forbes Magazine)

In 1910, a secret meeting was held on Jekyll Island. These were representatives of the Rothschilds, Rockefellers, Warburgs and the Morgans; the most powerful men of finance on Earth. A banking bill called the ‘Federal Reserve Act’ was composed which would create a Central Bank. Bankers (not lawmakers) gave the bill to their man in Congress, Nelson Aldrich.

There was another stumbling block between these evil men and their plans of world domination through a banking cartel. They had rich opposition in the form of Benjamin Guggenheim, Ira Strauss and John Jacob Astor. These opponents had to be eliminated. The most elaborate MURDER plot in modern history occurred at that point. The RMS Titanic (purposely called ‘unsinkable’) was built to entice the likes of Astor, Strauss and Guggenheim.
On April 14th 1912, Jesuit Captain Edward John Smith rammed an iceberg under orders.

Think about it. Many men were saved that evening even with a shortage of lifeboats. Certainly the richest could pay their way to safety. Deduction tells us: These men were murdered onboard, while history records the millionaires bravely went down with the ship. From the very beginning, the Titanic was a planned disaster to kill opponents of the coming Federal Reserve and World War I. (Read my article ‘Who Sank the Titanic?’ for more details).

In 1913, President Woodrow Wilson signed the Federal Reserve Act in exchange for political support. The Central Bank became law and virtually nothing could stop the plans of these secret money-monsters. Wilson later regretted his decision and said:

‘…The growth of the nation, therefore, and all our activities are in the hands of a few men…who necessarily, by very reason of their own limitations, chill and check and destroy genuine economic freedom. We have come to be one of the worst ruled, one of the most completely controlled and dominated governments in the civilized world…No government of free opinion, no longer a government of conviction and the vote of the majority, but a government by the opinion and the duress of small groups of dominant men.’

The general public was told that the institution of a Federal Reserve System will be a ‘stabilizer where inflation and economic crisis would be a thing of the past.’ They were told that what happened in 1907 could never happen again. Nothing was further from the truth.

Congressman Charles Lindbergh stated that ‘under the Federal Reserve Act (economic) panics are successfully created.’

Congressman Louis McFadden wrote: ‘A world banking system was set up here; a Super-State controlled by individual bankers…acting together to enslave the world for their own pleasure. The Fed has usurped the government.’ McFadden brought about impeachment proceedings against the Federal Reserve Board.

McFadden further wrote: ‘It was a carefully contrived occurrence. International bankers sought to bring about a condition of despair so that they might emerge the rulers of us all.’ The third attempt at assassinating Congressman McFadden was successful. He was poisoned during a political banquet before he could get an impeachment and possibly abolish the FR.

An amazing book called ‘The Creature from Jekyll Island’ by G. Edward Griffin exposes the creation of the FR and secret meetings of financial giants a hundred years ago. Griffin reveals the ‘most blatant scam in history.’ He shows how the international banking cartel has been an ‘instrument of war and totalitarianism.’

Instead of a wonderful utopia for the new 20th Century that was the scientific vision of super genius, Nikola Tesla…we received the horrors of World War I, World War II and the Great Depression. A few months before the CRASH of October, 1929…J.D. Rockefeller and others safely exited the Stock Market all according to plans.

These men of Dark Finance created what was called the ‘Margin Loan.’ People could own what seemed like wealth in the Stock Market by only paying 10%. Ninety percent was loaned to them through brokers. This created an abundance or illusion of wealth contributing to the ‘Roaring Twenties.’ The trick was…Margin Loans could be called in at any time and must be paid within 24 hours (‘Margin Call’).

Sixteen thousand banks collapsed by 1930! Everyone lost their accounts as there was another planned ‘run on the banks.’ International bankers bought up insolvent banks and corporations like cheap pancakes. One more time, the richest people (1%) had a financial bonanza while the general public (99%) suffered terribly on a worldwide scale. The rich made out like bandits while everyone else was left jobless and broke in what has been called the ‘greatest robbery in American history.’

May 1st, 1933 was a very special holiday for the Illuminati and secret world fascists. They have a fascination with #33 and have covertly caused the bloody history of MAYDAY. They celebrated their power as overseers by removing the Gold Standard on that day. With the pretense of helping to end the Depression, every loyal American was now required to TURN IN THEIR GOLD or be imprisoned for ten years! In other words, after reducing society to the poverty level, these madmen took by law what little/real wealth people had left.

Examine dollars before 1933; they were redeemable in GOLD. After 1933, they were only ‘legal tender.’ This meant money was just paper and actually completely worthless. I remember my father telling me he proudly did his duty and gave the feds all his gold exactly like everyone else. (Is everyone mindless sheep to be led to slaughter?)

The same families that created the Federal Reserve System in 1913 own it today. They have the power to print their own money for themselves and cause all the INFLATION they want.

‘Give me control of a nation’s money supply and I care not who makes the laws.’
- Mayer Amschel Rothschild (founder of Rothschild’s Banking Dynasty)

The secret ‘they’ have established numerous powerful organizations such as the Trilateral Commission, Council on Foreign Relations and the Bilderberg Group. The richest people on the planet create, orchestrate and execute ALL WARS! Wars are good for BUSINESS. ‘They’ sell the bullets AND the bandages. The British Empire, New York and international bankers financed the Allies AND Adolph Hitler. They control the Red Cross, which can freely aid each side in war. Their organizations recruit the most influential people on Earth from politics, media, entertainment, military, intelligence, finance, education, science, etc.

Their objective is a New World Order resulting in a One-World Government controlled from behind a curtain of secrecy. We are strictly monitored in every facet of our daily lives. A council of fascist dictators or ‘Republic’ [republic is not a democracy] rules the world. They create their own profitable version of ORDER from the CHAOS they cause. They have manufactured horrendous things like AIDS, the Oklahoma Bombing, 9/11 and Hurricane Katrina. We finance THEM every time we pay our taxes. Connected to the banking elite are the Royalty and Vatican. Their power, the power of money, can never be questioned or challenged. George Orwell would turn over in his grave!

Stay informed with information such as the following long YouTube entitled ‘Wake Up Call.’ It is the best film concerning the NWO I have seen…although, you might regret taking the red pill. Knowledge is power; it is our best defense from leaders and their puppets that would end our freedoms for their own personal gain. Let us no more be ignorantly blissful. Open your eyes and know what is happening around you. Truth is there for you to uncover.

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=sLpWpxJl648"]Wake Up Call-New World Order Documentary-Remastered-Full Length[/ame]


Who could have imagined my glorious evening on Jekyll Island would be so tarnished much later in life? Who could have imagined that the island was the birthplace of such ongoing evil? Believe it or not, I personally feel I went down on the Titanic in another life. I have an obsession with the Titanic story; hate cold water and can never learn to swim. If my little belief is true…then, the memory of Jekyll Island has really taken a turn for the worse.

Doug Yurchey can be contacted at dugx@sbcglobal.net<FOOTER>
<IFRAME style="WIDTH: 450px; HEIGHT: 80px" id=f35ed33a4c9d9d class=fb_ltr title="Like this content on Facebook." src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?api_key=134458347746&channel_url=http%3A%2F%2Fstatic.ak.facebook.com%2Fconnect%2Fxd_arbiter.php%3Fversion%3D8%23cb%3Df3c97e5cff35e5%26origin%3Dhttp%253A%252F%252Fwww.paranormalnews.com%252Ff268afca6649f5a%26domain%3Dwww.paranormalnews.com%26relation%3Dparent.parent&extended_social_context=false&href=http%3A%2F%2Fwww.paranormalnews.com%2Farticle.aspx%3Fid%3D1485&layout=standard&locale=en_US&node_type=link&sdk=joey&send=true&show_faces=true&width=450" frameBorder=0 allowTransparency name=f1873971ee04a5c scrolling=no></IFRAME>

ความทรงจำที่เกาะแจ๊กคิล-ที่พวกอิลลูมาฟอกเงินกัน
<!-- AddThis Button BEGIN -->
มันเป็นปี 1970 ฉันเป็นชายหนุ่มที่เล่นบนสเตทคอลเลจ--ทีมเอดินโบโรเทนนิส ก่อนที่จะถอย 70s มี 'บูม' ระยะเวลาที่ได้รับทุนการศึกษาอย่างหรูหราคือ ไม่เพียง แต่เป็นฉันได้รับทุนเทนนิสเพื่อวิทยาลัยขนาดกลางผมยังสามารถที่จะเข้าร่วมในทีมงานของการศึกษานอกสถานที่ เราไม่ได้อยู่ใกล้เข็มขัดหิมะจากทะเลสาบอีรีและบินตรงใต้การปฏิบัติ (กับวิทยาลัยอื่น ๆ ) ก่อนที่ฤดูกาลของเราเริ่มต้นขึ้น

ฉันรู้สึกเหมือนดาวหิน; เดินทางมาจากโรงแรมม่านรูดไป Motel เราได้รับสิ่งที่ดีที่สุดรองเท้าเทนนิส, เสื้อผ้าบางและแม้เพียงเล็กน้อยการใช้จ่ายเงิน เกี่ยวกับการเดินทางทางตอนใต้ของหนึ่งฉันบรรจุออนซ์ครึ่งหนึ่งของหม้อที่เรียกว่า 'Meshmacon. นี้เป็นวัชพืชที่ดีมากในเวลาก่อนที่จะอายุตาและ Sinsemilla ฉันมีหนึ่งในประสบการณ์ที่สวยงามที่สุดในชีวิตของฉันเกี่ยวกับ Jekyll Island จากนั้นผมรู้ว่าไม่มีอะไรที่ชั่วร้ายของประวัติศาสตร์ที่ไม่ซ้ำกันของเกาะ

ผมไม่ทราบว่าเศรษฐีเก่าที่ใช้ Jekyll เป็นรีสอร์ทส่วนตัวของพวกเขา อีกด้านหนึ่งของเกาะมีขนาดใหญ่อาคารที่ทันสมัย​​ในขณะที่อื่น ๆ ถูกทิ้งไว้ตามธรรมชาติ สัตว์ป่าที่ได้รับมาในและออกไปผสมพันธุ์กับธรรมชาติฝั่งของเกาะ เราอยู่ใกล้ธรรมชาติฝั่ง

ผมจำได้ว่าจะปิดด้วยตัวเองโดยเฉพาะ ผมเห็นประภาคาร มันเป็นครั้งแรกที่ประภาคารของฉันและฉันได้ไปตรวจสอบ! แน่นอนว่ายังมีพระจันทร์เต็มดวงคือ ผมมีหม้อของฉันและจำได้ว่านั่งอยู่ในตำแหน่งบัวรู้สึกที่ดีมาก ประภาคารมากกว่า 80 ฟุตสูงเก็บไว้เปลี่ยนลำแสงที่สว่างของมันไปในทิศทางที่มืดทุก ผมคนเดียว ทุกอย่างคือความเงียบสงบและสวยงาม ขณะกลายเป็นที่สมบูรณ์แบบเป็นที่จริงผมเห็นเงาร่างของกวางดื่มจากบ่อเล็ก ๆ ในความมืด ฉันลืมว่าฉันร้องไห้ แต่ผมรู้ว่าผมจะจำประสบการณ์นี้สำหรับส่วนที่เหลือของชีวิตของฉัน

สิ่งที่คุณได้อ่านเพียงแค่ความทรงจำที่ดีที่สุดของฉัน พวกเขามี ดร. Jekyll ในเรื่อง โปรดจำไว้ว่าแพทย์ได้ดีมาก เขาทดลองกับด้านมืด ตอนนี้สิ่งที่ตามมาคือมิสเตอร์ไฮด์ในเรื่อง ...

นิวยอร์คนายธนาคารด้วยความเห็นชอบจากธนาคารเต็มรูปแบบระหว่างประเทศที่สร้างขึ้น 'Panic ของ 1907.' เจพีมอร์แกนตามกดเป็นคนที่ 'บันทึกวัน' โดยการใส่เงินของเขาเอง ในความจริงก็คือมอร์แกนที่สร้างข่าวลือของการล้มละลายของธนาคารซึ่งเริ่ม PANIC ในสถานที่แรก

โปรดทราบโดย 1907 Nikola Tesla ได้ล้มเหลวในความพยายามของเขาที่จะให้ดาวเคราะห์พลังงานฟรี เราอยู่บนเกณฑ์ของยูโทเปียเทคโนโลยีมากกว่าร้อยปีที่ผ่านมา ความล้มเหลวทั้งหมดนี้ปูทางสำหรับนายธนาคารเสียหายหรือครอบครัวไม่กี่แอบใช้ทั่วโลก

'รูปภาพของบุคคลที่จากนายธนาคารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศขโมยออกจาก New York เมื่อรถรถไฟเอกชนภายใต้ความมืดปกคลุม, ลอบขี่หลายร้อยไมล์ใต้เริ่มดำเนินการในการเปิดตัวลึกลับ, ด้อมบนเกาะร้างโดยทั้งหมด แต่คนรับใช้ไม่กี่ชีวิต มีร้านอาหารเต็มรูปแบบภายใต้ความลับที่เข้มงวดดังกล่าวว่าชื่อของไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้นได้กล่าวถึงเกรงว่าคนรับใช้ประจำตัวเรียนรู้และเปิดเผยสู่โลกที่แปลกประหลาดนี้, รีบเร่งความลับมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกันเงินทุน ... '- ชาร์ลส์ฟอร์บเบอร์ตี้ (ผู้ก่อตั้ง จากนิตยสาร Forbes)

ในปี 1910, การประชุมลับเมื่อวันที่ Jekyll Island เหล่านี้เป็นตัวแทนของ Rothschilds, Rockefellers, Warburgs และ Morgans; คนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของเงินทุนในโลก บิลที่เรียกว่าการธนาคาร 'Federal Reserve Act' ประกอบด้วยซึ่งจะสร้างธนาคารกลาง ธนาคาร (ร่างกฎหมายไม่ได้) ให้เรียกเก็บเงินกับคนของพวกเขาในสภาคองเกรส, เนลสันดิช

มีอีกบล็อกสะดุดระหว่างชายที่ชั่วร้ายเหล่านี้และแผนการของพวกเขาจากการครอบงำโลกผ่านการตกลงของธนาคารคือ พวกเขามีความขัดแย้งมากมายในรูปแบบของเบนจามิน Guggenheim, Ira สเตราส์และจอห์นจาคอบสต ฝ่ายตรงข้ามเหล่านี้ต้องถูกตัดออก พล็อตการฆาตกรรมที่ซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่เกิดขึ้นที่จุดที่ RMS Titanic (เรียกว่าจงใจ 'unsinkable') ถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดชอบของ Astor, สเตราส์และ Guggenheim
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 1912, Jesuit กัปตันเอ็ดเวิร์ดจอห์นสมิ ธ พุ่งภูเขาน้ำแข็งภายใต้คำสั่ง

คิดเกี่ยวกับมัน ชายหลายคนถูกบันทึกไว้ในเย็นวันนั้นแม้จะมีปัญหาการขาดแคลนเรือชูชีพ แน่นอนที่สุดสามารถจ่ายทางของพวกเขาเพื่อความปลอดภัย หักบอกเรา: คนเหล่านี้ถูกฆ่าตายบนเรือในขณะที่ระเบียนประวัติเศรษฐีอย่างกล้าหาญลงไปกับเรือ จากจุดเริ่มต้นที่ดี, Titanic เป็นภัยพิบัติที่วางแผนจะฆ่าฝ่ายตรงข้ามของมา Federal Reserve และสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (อ่านบทความ 'ไททานิคจมใคร?' สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของฉัน)

ในปี 1913 ประธานาธิบดีวูดโรว์วิลสันลงนามใน Federal Reserve Act ในการแลกเปลี่ยนสำหรับการสนับสนุนทางการเมือง ธนาคารกลางกลายเป็นกฎหมายและแทบจะไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งแผนของเหล่ามอนสเตอร์เงินลับ วิลสันเสียใจในภายหลังการตัดสินใจของเขาและกล่าวว่า

'... การเจริญเติบโตของประเทศจึงและทุกกิจกรรมของเราอยู่ในมือของคนไม่กี่คนที่จำเป็นต้อง ... โดยเหตุผลมากจากข้อ จำกัด ของตัวเองทำใจให้สบายและตรวจสอบและทำลายเสรีภาพทางเศรษฐกิจของแท้ เราได้มาจะเป็นหนึ่งในที่เลวร้ายที่สุดปกครองหนึ่งของรัฐบาลส่วนใหญ่มีการควบคุมอย่างสมบูรณ์และครอบงำในโลกศิวิไลซ์ ... รัฐบาลของความคิดเห็นของฟรีไม่มี, ไม่มีรัฐบาลของความเชื่อมั่นและออกเสียงลงคะแนนของคนส่วนใหญ่ แต่รัฐบาลโดยความ และการข่มขู่จากกลุ่มเล็ก ๆ ของผู้ชายที่โดดเด่น. '

ประชาชนทั่วไปได้บอกว่าสถาบันของระบบสำรองแห่งชาติจะเป็น 'โคลงที่อัตราเงินเฟ้อและภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจจะเป็นสิ่งที่ผ่านมา. พวกเขาบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใน 1907 ไม่เคยเกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่มีอะไรที่ถูกเพิ่มเติมจากความจริง

สภาชาร์ลส์ลินด์เบิร์กกล่าวว่า 'ภายใต้ Federal Reserve Act panics (เศรษฐกิจ) จะถูกสร้างขึ้นประสบความสำเร็จ.'

สภาหลุยส์ McFadden wrote: 'ระบบธนาคารทั่วโลกถูกจัดตั้งขึ้นที่นี่; ซุปเปอร์รัฐที่ควบคุมโดยนายธนาคารส่วนบุคคล ... ทำหน้าที่ร่วมกันเพื่อเป็นทาสของโลกเพื่อความสุขของตัวเอง เฟดได้แย่งชิงรัฐบาล. 'McFadden มาเกี่ยวกับการดำเนินคดีฟ้องร้องกับ Federal Reserve Board

McFadden ต่อ wrote: 'มันเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ contrived นายธนาคารระหว่างประเทศพยายามที่จะนำเกี่ยวกับสภาพของความสิ้นหวังเพื่อว่าพวกเขาอาจก่อให้เกิดผู้ปกครองของพวกเราทุกคน. พยายามครั้งที่สามที่ลอบสังหารสมาชิกสภาคองเกรส McFadden ก็ประสบความสำเร็จ เขาถูกวางยาพิษในระหว่างการจัดเลี้ยงทางการเมืองก่อนที่เขาจะได้รับศักดิ์ศรีและอาจยกเลิก FR

หนังสือที่น่าตื่นตาตื่นใจที่เรียกว่า 'Creature จาก Jekyll Island' โดย G. เอ็ดเวิร์ดกริฟฟิเสี่ยงการสร้างการประชุม FR และความลับของยักษ์การเงินหลายร้อยปีที่ผ่านมา กริฟฟิเผย 'หลอกลวงดังมากที่สุดในประวัติศาสตร์.' เขาแสดงให้เห็นว่าการตกลงระหว่างประเทศที่ธนาคารได้รับ 'ที่ใช้ในการสงครามและเผด็จการ.'

แทนที่จะยูโทเปียที่ยอดเยี่ยมสำหรับศตวรรษที่ 20 ใหม่ที่เป็นวิสัยทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ของอัจฉริยะซุปเปอร์ Nikola Tesla ... ที่เราได้รับความน่าสะพรึงกลัวของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง, สงครามโลกครั้งที่สองและตกต่ำ ไม่กี่เดือนก่อนที่ความผิดพลาดของเดือนตุลาคม 1929 ... JD เฟลเลอร์และคนอื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัยออกจากตลาดสต็อกสินค้าทั้งหมดตามแผน

คนเหล่านี้การคลังเข้มสร้างสิ่งที่เรียกว่า 'สินเชื่อ Margin.' คนสามารถเป็นเจ้าของสิ่งที่ดูเหมือนความมั่งคั่งในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉพาะการจ่ายเงิน 10% เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ถูกยืมไปยังพวกเขาผ่านโบรกเกอร์ นี้ถูกสร้างขึ้นมากมายหรือภาพลวงตาของความมั่งคั่งที่เอื้อต่อการ 'ยี่สิบคำราม.' เคล็ดลับคือ ... เงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์อาจจะเรียกว่าในเวลาใด ๆ และจะต้องชำระภายใน 24 ชั่วโมง ('โทร Margin)

สิบหกพันธนาคารทรุดตัวลงด้วย 1930! ทุกคนหายไปบัญชีของตนเนื่องจากมีการควบคุมตามแผน 'ทำงานในธนาคาร.' นายธนาคารระหว่างประเทศที่ซื้อขึ้นธนาคารขาดสภาพคล่องและ บริษัท เช่นแพนเค้กราคาถูก หนึ่งเวลามากขึ้นคนที่รวยที่สุด (1%) มีขุมทรัพย์ทางการเงินในขณะที่ประชาชนทั่วไป (99%) รับความทุกข์ทรมานชะมัดในระดับทั่วโลก ที่อุดมไปด้วยทำออกมาเหมือนโจรในขณะที่คนอื่น ๆ ถูกทิ้งไว้ว่างงานและยากจนในสิ่งที่ถูกเรียกว่า 'การปล้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน.'

1 พฤษภาคม 1933 เป็นวันหยุดที่พิเศษมากสำหรับ Illuminati และฟาสซิสต์โลกลับ พวกเขามีความหลงใหลที่มี # 33 และได้เกิดจากการซ่อนเร้นประวัติศาสตร์เลือดของ Mayday พวกเขาเฉลิมฉลองไฟของพวกเขาเป็นคุมโดยการเอามาตรฐานทองคำในวันนั้น ด้วยข้ออ้างในการช่วยเหลือเพื่อยุติภาวะซึมเศร้าทุกภักดีอเมริกันถูกต้องทันทีเปิดในทองของพวกเขาหรือถูกจำคุกเป็นเวลาสิบปี! ในคำอื่น ๆ หลังจากการลดสังคมในระดับความยากจน, madmen เหล่านี้เอาตามที่กฎหมายสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ / คนมั่งคั่งที่แท้จริงมีซ้าย

ตรวจสอบดอลลาร์ก่อนที่ 1933; พวกเขาถูกไถ่ถอนใน GOLD หลังจากที่ 1933 พวกเขาเท่านั้น 'หนี้ได้ตามกฎหมาย. นี้เงินหมายถึงคือกระดาษเพียงและเป็นจริงอย่างสมบูรณ์ไร้ค่า ผมจำได้ว่าพ่อของฉันบอกฉันว่าเขาภูมิใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ของเขาและให้ feds ทองคำทั้งหมดของเขาเหมือนกับคนอื่น ๆ (คือทุกคนแกะไม่สนใจที่จะนำไปสู่​​การฆ่าฟัน?)

ครอบครัวเดียวกันกับที่สร้างระบบสำรองของรัฐบาลกลางในปี 1913 เป็นเจ้าของมันในวันนี้ พวกเขามีอำนาจในการพิมพ์เงินของตัวเองสำหรับตัวเองและทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อทั้งหมดที่พวกเขาต้องการ

'ให้ฉันควบคุมปริมาณเงินของประเทศและฉันดูแลไม่ผู้ที่จะทำให้กฎหมาย.'
- เมเยอร์ Amschel Rothschild (ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ธนาคาร Rothschild 's)

ความลับ 'พวกเขา' มีการจัดตั้งองค์กรที่มีประสิทธิภาพหลายอย่างเช่นคณะกรรมการไตรภาคีสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและ Bilderberg กลุ่ม คนที่รวยที่สุดในโลกสร้างดัดแปลงเพลงสำหรับเล่นกับวงดนตรีและดำเนินสงครามทั้งหมด! สงครามเป็นสิ่งที่ดีสำหรับธุรกิจ 'พวกเขากำลังขายกระสุนและผ้าพันแผล จักรวรรดิอังกฤษ, New York และนายธนาคารระหว่างประเทศทุนพันธมิตรและ Adolph Hitler พวกเขาควบคุมกาชาดซึ่งสามารถช่วยได้อย่างอิสระด้านในสงครามแต่ละ องค์กรของตนรับสมัครคนมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกจากการเมือง, สื่อ, บันเทิง, ทหาร, ปัญญา, การเงิน, การศึกษา, วิทยาศาสตร์ ฯลฯ

วัตถุประสงค์ของพวกเขาคือระเบียบโลกใหม่ที่เกิดในรัฐบาล One World-ควบคุมจากหลังม่านของความลับ เรากำลังตรวจสอบอย่างเคร่งครัดในแง่มุมของชีวิตประจำวันของเราทุกคน สภาเผด็จการฟาสซิสต์หรือ 'สาธารณรัฐ' [สาธารณรัฐประชาธิปไตยไม่ได้เป็น] กฎโลก พวกเขาสร้างรุ่นกำไรของตัวเองจากการสั่งซื้อจาก CHAOS จะก่อให้เกิด พวกเขาได้ผลิตสิ่งที่น่ากลัวเช่นเอดส์ระเบิดโอคลาโฮมา, 9/11 และพายุเฮอร์ เราการเงินพวกเขาตลอดเวลาที่เราจ่ายภาษีของเราทุกคน เชื่อมต่อกับยอดธนาคารมี Royalty และวาติกัน พลังอำนาจของเงินของพวกเขานั้นไม่เคยถูกสอบสวนหรือท้าทาย จอร์จเวลล์จะเปิดมากกว่าในหลุมฝังศพของเขา!

เข้าแจ้งกับข้อมูลเช่น YouTube ยาวต่อไปนี้สิทธิ 'ตื่นขึ้นมาโทร. มันเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ NWO ฉันได้เห็น ... แม้ว่าคุณอาจจะเสียใจที่สละยาเม็ดสีแดง ความรู้คืออำนาจ; มันเป็นป้องกันที่ดีที่สุดของเราจากผู้นำและหุ่นของพวกเขาที่จะสิ้นสุดเสรีภาพของเราเพื่อประโยชน์ส่วนบุคคลของพวกเขาเอง ขอให้เราไม่โง่ที่จะสุขสันต์ เปิดตาของคุณและรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวคุณ ความจริงคือมีให้คุณค้นพบ

ตื่นขึ้นมา-Call New World สั่งซื้อยาวสารคดี-Remastered เต็ม


ที่สามารถมีจินตนาการเย็นรุ่งโรจน์ของฉันใน Jekyll Island จะทำให้มัวหมองมากต่อไปในชีวิต? ใครเป็นคนมีจินตนาการที่เกาะเป็นบ้านเกิดของความชั่วร้ายอย่างต่อเนื่องดังกล่าวหรือไม่ เชื่อหรือไม่ผมเองรู้สึกฉันลงบนไททานิคในชีวิตอีก ฉันมีความคิดครอบงำกับเรื่องราวที่ไ​​ททานิค; เกลียดน้ำเย็นและไม่สามารถเรียนรู้ที่จะว่ายน้ำ ถ้าความเชื่อเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉันเป็นจริง ... แล้วความทรงจำของ Jekyll Island ได้เอาจริงๆเทิร์นที่เลวร้ายกว่า

ดั๊ก Yurchey สามารถติดต่อได้ที่ dugx@sbcglobal.net

ยกเลิกการแก้ไข

 

--(มีคนถามเรื่่อง ลูกสมอไทย)<HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">เป็นต้นไม้ที่หายากแล้ว แต่ผลแห้งๆ น่าจะมีที่ร้านเจ้ากรมเป๋อ อยู่แถวๆบ้านหม้อ เพื่อนผมเพิ่งสั่งซื้อยาจากร้านนี้ แสดงว่าร้านนี้ยังมีอยู่ครับ
--หรือไปประกาศหาที่เว็ปเกษตรพอเพียงก็ได้ครับ

--ทุกๆปีจะมีรถปิคอัพ ขนคนงานเข้ามาที่ม.ราชภัฎเชียงรายครับ พวกเขามาเก็บเมล็ดต้นไม้ป่าครับ--(ใครไปนั่งตรงอาคารสิ่งแวดล้อม ตรงนั้นมีต้นมะกล่ำตาหนูสีแดงๆ เม็ดมันสวยดี หน้าตึกคณะวิทย์เก่า กับหน้าตึกรวม ตรงประตู มีมะขามป้อมมาก ต้นเล็กๆก็มีขึ้นตามโคนต้นครับ
--เอาไปนึ่งแล้วตำเอาเนื้อคลุกนัำผึ้ง กินแก้เจ็บคอ ชนืดที่ดีกว่ายาฝรั่ง และเป็นยาอายุวัฒนะ)

มีคนส่วนหนึ่งเดินทางไปตามป่า หาพันธุ์ไม้หายาก ซึ่งบางทีมีคนสั่ง ก็ไปขุดต้นเล้กๆมา

--ระบบนิเวศ เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก ที่ใกล้บ้านผมเป็นป่าของเอกชน มีแต่เสียงนก โดยไม่รู้ว่าชนิดไหนบ้าง เยอะมาก แต่มีนกกระปูดด้วย มันสวยมาก แต่เสียงร้องมันหวูดๆ ปูดๆ ต่างกับตัวมัน ที่รูปร่างสวยครับ ตัวเกือบเท่าแม่ไก่นะครับ

--ผมถาม นศ.ราชภัฎจันทรเกษมว่า ทำไมจึงเลี้ยงผีเสื้อได้ เขาบอกว่า ผีเสื้อชนิดหนึ่ง จะกินใบไม้ของต้นไม้ชนิดหนึ่งเท่านั้น--หากต้นไม้สูญพันธุ์ ผีเสื้อนั้นก็สูญไปด้วย ที่เขาเลี้ยงนั้น
ต้องใช้เถาวัลย์ป่าคือต้นกระเช้าผี --แล้วหาที่ไหนล่ะ เขาบอกว่า "สั่งพ่อค้าที่สวนจตุรจักรให้หาให้ ราคาใบละ100 บาท" มีไบบนต้นกี่ใบ ก็ราคาตามนั้น

ลูกฟักทองผิวเรียบ ลูกแรกตอนนี้-- โตเร็วมาก มันเลื้อยหนีไปที่หน้าหมู่บ้านจัดสรร ก็เลยฝากมันค้างไว้บนต้นไม้ แล้วห่อไว้ กลัวคนซิวเอาผลอ่อนไปแกงซะก่อน มันสมบูรณ์มาก ใบใหญ่ ยอดอวบ เอามือดัดๆ หักดังเป๊าะเลย ฝรั่งปลูกฟักทองพันธุ์ยักษ์ หรือธรรมดาก็ไม่รู้ แต่บากเถา แล้วเอาน้ำนมวัวสดเลี้ยงมัน เด็ดผลออกเหลือลูกเดียว มันจะใหญ่โตมาก น่าลองครับ ของผมใช้เปลือกผลไม้ทิ้งไว้ให้เป็นปุ๋ยครับ

 

http://paranormaldailynews.com/2012...korea-stirs-speculation-hoax-video/#more-4312
คลิปจานบิน โดยถ่ายจากเครื่องบิน เหนือน่านฟ้ากรุงโซล UFO-Seol
---------------------------
--(ข้อมูลจากเว็ปญาณ หน้า65)
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD id=postmessage_686237 class=t_msgfont>ช่วงนี้เรื่องลึกลับที่พลังจิตดีมากครับ ใช้เส้นผมรักษาคน คนกลับมาเมืองไทยแล้ว หมอรักษาเส้นผมเค้าที่เยอรมัน ทำให้คนหายจากโรคได้
--เราอาจจะไม่ค่อยได้พบกัน เพราะฮาร์ดดิสก์ระบบเสียไปสองตัว ตอนนี้ใช้ตัวที่3 และไม่ได้ใช้วินโดวส์ มันล่มเลยใช้ลินุกซ์ต่อเข้ามาครับ

http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=ZstMj4h0UKk&feature=endscreen

หญิงถูกจับตัวไป พบสารเรื่องแสงบางอย่างในห้อง เธอบอกว่าพวกเข้าใช้จิตบอกว่า เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ ไม่ให้เชื้อเธอติดพวกเขา หรือของพวกเขามาติดเธอ เห็นเป็นรอยนิ้วมือสามนิ้ว มีแผลสามจุดในตัวเธอ

http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=tzPHOgqCqNI&feature=endscreen

เครื่องบินรบยังจานบินตก มันเร็วมากเลย

[ame]http://www.youtube.com/watch?v=MlVE3Qs0Vsk&feature=relmfu[/ame]

ดินแดนลึกลับภาค1 ไดอะแกรมทวีปใต้โลก เห็ดราขนาดยักษ์ จานบินตก ,เหตุระเบิดที่ทังทัสก้า
รุนแรงมาก เชื่อว่าเป็นจานบินที่ใช้พลังนิวเคลียร์ สงสัยถามได้ครับ หนูๆน้องๆ
[ame]http://www.youtube.com/watch?v=xsZVgRo26fY&feature=relmfu[/ame]



</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เห็นด้วยครับ

การหมุนของสรรพสิ่งต้องการพลังงานหล่อเลี้ยงด้วยอีกเช่นกัน พลังงานที่กล่าวถึงหมายถึงพลังงานแสงสว่างที่ละเอียดมากๆด้วยครับ

ในเอกภพนี้ไม่มีบุญแล้วอยู่ไม่ได้เลยนะ ผมคิดเล่นๆส่วนตัวว่างั้น

 

พวกนักวิทยาศาสตร์ฝรั่งกลุ่มใหญ่จำนวนหนึ่ง ได้ศึกษาเรื่องระบบนิเวศน์ของโลกเรามานานกว่า 100 ปี จากการจำลองด้วยความรู้ทั้งหมดและคณิตศาสตร์ แล้วนำระบบนิเวศน์นั้มาจำลองย่อส่วนในสนามโดมขนาดใหญ่กว่า โดยใช้เวลากว่า 20 ปี สร้างระบบฯใหญ่ขนาดกว่า 2-3 สนามฟุตบอลล์รวมกันพร้อมเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมเพื่อควบคุมระบบฯเต็มที่สูงสุด ผลลัพธ์ก็คือว่า พวกนักวิทย์สรุปว่าความรู้ที่พวกเขาจำลองระบบนิเวศน์นั้น ยังรู้ไม่เพียงพอ ทำให้พวกพืชบางส่วนในระบบฯบางส่วนที่ถูกจำลองต้องตายเมื่อเวลาเปลี่ยนไป

ที่นักวิทย์ทดลองจำลองเช่นนี้ก็เพราะว่า สักวันหนึ่งหากมนุษย์ทำได้ พวกเขาหวังว่าจำนำระบบนิเวศน์จำลองย่อส่วนนี้ไปอยู่ที่ดาวอังคาร หรือ ดวงจันทร์ หรือ ที่ดาวเคราะห์สักดวง