เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chandayot, 18 เมษายน 2012.

  1. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ----ท่านพระกะนะ(นามแฝง) เป็นเทพที่ชอบคอมพิวเตอร์มาก ยังมาคุยอวดว่า รุ่นของท่านสุดเจ๋ง และมีลูกมือคอยช่วยอีก
    -ครั้งนึงคอมพ์ผมดับ มืดไป ไม่รู้จะแก้ยังไง ท่านวานเทพมาบอกว่า ท่านโกรธใครมาเลยมา--เลยดึงเอาชิ้นส่วนบนบอร์ดออก(ในสภาพทิพย์) แต่จะส่งลูกน้องมาแก้ให้ ไม่นานก็ดีเหมือนเดิม
    --บางครั้งท่านเอาแผ่นซีดีที่แถมโปรแกรม(จากหนังสือ)หายไป อีกหลายเดือน มันกลับมาวางอยู่บนหนังสือเลย แล้วมันมายังไงล่ะ

    --บางวัน ตื่นขึ้นน้ำนองในครัว แล้ว มีเศษกระเบื้องอยู่ เทพว่า เจ้าพวกทะโมนดึงเอามาร่อนบนผิวน้ำ โห..อยากตีสัก
    เพี๊ยะ แฟนผมด่าเลย เทพบอกว่า พวกนั้นแหกก้นให้ดูแล้ววิ่งหนีไปเลย..เพราะกลัวแฟนผมด่าอีก(เกิดที่แฟลตคลองจั่น)
    --------------------------------------
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD id=postmessage_341725 class=t_msgfont>
    -----พระกะนะ(นามแฝง)ท่านพูดได้แค่ 15 ภาษาเอง บางครั้งเทพท่านยกมือเหมือนห้าม ความจริงรับคำสั่งจากเบื้องบนอยู่ แล้วท่านพูดว่าไรรู้ไหมครับ ท่านพูดภาษาญี่ปุ่นปนภาษาเขมร"วาตาชิวะ" อะไรต่างๆ ---คนเขมรแถวสุรินท์ก็พูดได้ แต่ปนกันแบบนี้ เพิ่งเคยได้ยิน เมื่อถามท่านก็ว่า "เทพกะนะท่านพูดมาแบบนั้น พ่อตกใจเลยพูดสวนท่านไป ก็งงๆเหมือนกัน"


    -----มีเทพจีนองค์นึง บางคนว่าเป็นพี่ใหญ่ในบรรดา 8เซียน ท่านชอบข้าพเจ้ามาก
    (ลี้ทงปินหรือเปล่า) ท่านเรียกข้าพเจ้าว่า "เตียว" แปลว่า สัตว์คล้ายเลียงผาที่รักคู่ของมัน--อ้ายเตียวเอ๊ย--อะไรงี้ ท่านใจดีมาก และส่วนใหญ่มาเป่าหัว ให้พรข้าพเจ้าทุกๆท่าน--ท่านฤาษีตาทิพย์ เรียกภรรยาผมว่า"โยคีมุนีฤาษีหญิง" ฮะๆ ยัยอ้วน ฮะๆ ถ้าแฟนรู้ จะบอกว่า "กรูอ้วนก็ไม่ได้หนักหัวใคร" แต่ถ้าข้าพเจ้าพูด มึง-กู ภรรยาจะบอกว่าา "พูดไม่สุภาพ" งงเลย

    ----ท่านที่มาคุยแล้ว ทำให้หัวเราะคือเตี่ยแกละ ท่านคือคนธรรมดา เป็นเจ็กหาบของขาย พอดีไปฉี่ตรงศาลเจ้าที่ เจ้าที่แรง-ก็หักคอท่านตายตรงนั้นเอง ต่อมาพ่อบัวขาว พ่อยอดเกราะ พ่อทองแดง ก็ให้ท่านรักษาคน เรียนหมอแผนโบราณ ที่เอ่ยนามมานั้นดุมาก มีมาแต่แม่ของแม่(ยาย)ของภรรยาผม ชื่อแม่ห่าน ตอนที่พี่แดงตีแม่ แกก็ไปร้องไห้อยู่ในห้อง สักพักก็ร้องไห้อีก บอกว่า "อีพาเอ๊ย บอกแม่มึงนะ แม่ชื่อแม่ห่านสงสารแม่มึงจังเลย ขอสาบแช่งอีแดงมัน ให้ชิบหาย ละลายเหมือนเกลือ"พี่แดงจึงมืดมนในชีวิต แม้แกจะสึกพระมาทำผัว แต่พี่ทิดก็ไม่ใช่ว่าจะดี ชอบไปปล้ำลูกเมียชาวบ้าน และนิสัยงกๆเหมือนกัน ตอนนี้ก็เป็นเบาหวาน ทำงานไม่ได้ ลูกก็ตีจากหนีหมด เพราะพี่แดงก็อารมณ์ร้าย ชอบจับลูกเอาหัวโขกฝา--ผมว่าทารุณนะ--ลูกฝังใจ--ก็หนีแกไปหมด มีคนนึง ตามมาบวชให้ ก็หนีต่อเหมือนเดิม ถ้ามาก็มาขอตังเท่านั้น
    ---กลุ่มคนพวกนี้อยู่เป็นหมูบ้านเล็กๆ งานประจำคือตั้วงไพ่ กินกันเอง ทะเลาะกันเอง
    หนังจีนมันดัง ชาวบ้านจึงเรียกว่า "หมู่เกาะดอกท้อ" ภรรยาผมว่า ขอตัดไม้โทออก เติม
    ง งูเข้าไปแทน กลายเป็นเกาะสุวรรณมาลีเฉยเลย (เมื่อก่อนแกพูดคำผวนไม่เป็น ไม่รู้เรื่อง--เจอผมเฉลยให้เลยเก่งเลย)


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    --------------------------------------------------------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2012
  2. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---ช่วงก่อนเกิดพายุสุริยะ เปลวระเบิดบนดวงอาทิตย์หมาดๆ----คราวก่อน ที่แคนาดา ก็ไฟดับ เพราะคลื่นที่ส่งมาทำให้ไฟเกิน---ขนาดตัดไฟให้ไฟดับแล้ว คลื่นยังเหนี่ยวนำสายไฟ ทำให้ไฟติดขึ้นมาวูบเลย น่ากลัวมาก บางครั้งพวกดาวเทียมจะเกิดวงจรชอร์ท เสียหายไปเลย แต่ส่วนใหญ่จะป้องกันไว้ดี

    ---หากเกิดสนามแม่เหล็กโลกปั่นป่วนอย่างที่ว่า ป่านนี้ดาวเทียมชนกันอุตลุด เพราะมือถือ จีพีเอส ใช้ดาวเทียมที่อยู่ทั่วฟ้าแบบตาหมากรุกเลย เป็นที่อ้างอิงพิกัด--รู้สึกว่าคนไทย เป็นผู้เสนอแนะว่าให้ทำแบบนี้เป็นคนแรก
    ----ขอให้ความรู้นิดนึงนะ ตามที่เรียนมา ทั้งตัวเรา วัตตถุข้าวของต่างๆ ไม่ใช้วัตถุก้อนแข็งๆ แต่เป็นเม็ดเล็กมาก อยู่หลวมๆ มีช่องว่างขนาดเท่าสนามฟุตบอล ระหว่างอะตอม เท่าลูกเทนนิส จุดนี้เอง ชาวต่างดาวว่า พวกเขาเดินทะลุผนังได้ เพราะใช้คอมพิวเตอร์จิ๋ว ประสิทธิภาพสูง ดันอะตอมให้ผ่านกันไป โดยใช้การคำนวณทุกๆอะตอมทั้งสองอย่าง ไม่ใช่ไสยศาสตร์แต่อย่างใด

    --อะตอมเองก็เป็นอนุภาคจิ๋ว เล็กกว่านั้นอาจจะเป็นคว๊าก ซึ่งชาวต่างดาวบอกว่าอนุภาคคว๊ากไม่มีหรอกนะ
    --อนุภาคทั่วไปเช่นอิเลคตรอน มีคุณสมบัติพิเศษ คือจะแสดงเป็นวัตถุก็ได้ หรือเป็นคลื่นก็ได้
    --คลื่นไม่ได้มีอยู่จริง -ไม่มีตัวตน เช่นคลื่นน้ำ คือการกระเพื่อมของน้ำ --ไม่ใช่ตัวน้ำ ดังนั้นอนุภาค คือการแสดงพลังงาน การกระเพื่อมแบบแม่เหล็ก-ไฟฟ้า เป็นสนามพลังกระเพื่อมบนความว่างเปล่า---แปลง่ายๆว่า วัตถุไม่มีอยู่จริง สิ่งที่มีจริง คือความว่างเปล่าแบบไร้กระแส--ไร้สนามพลังงาน
    ---ในทางจิต แม้พบความว่างเปล่าแล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่ของจริง มันคือคู่กับ ความไม่ว่าง คือการมีอยู่ของ"ผู้รู้" หรือการกระเพื่อมของจิต -ของตัวตน ที่คุณคิด จึงมีสรรพสิ่งแสดงออกมาให้ดู

    ---ต้องเป็นความว่างที่เจาะเข้าไปในความว่างอีกชั้น หรือว่างจนไร้กระแสจิต ไร้กระแสธรรม นั่นจึงใช่ แต่ถ้ายังมีความคิด ความเข้าใจ เหตุ-ผล ก็ยังไม่ใช่
    --ควรค้นหา ศึกษา คำว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และสูญญัง--สิ่งที่ว่างเปล่า

    -------------------คำถาม----------------------------------------
    ---สรรพสิ่งรวมกันเป็นหนึ่ง หนึ่งนั้นมิใช่หนึ่ง หนึ่งนั้นคืออะไร
    ---หนึ่งนั้นมิใช่หนึ่ง ผมตีความว่า ไม่ใช่เลขหนึ่ง แต่เป็นภาวะอันหนึ่ง
    จริงๆแล้ว คำถามนี้อาจจะไม่ได้มีความหมายอะไรก็ได้ เป็นการกระตุ้นปัญญาทางธรรม
    --มีเด็กสาว เรียนจบแค่ มอ 2 มาอยู่บ้านหาหนังสืออ่านพบข้อความนี้ เธอคิดทั้งวันทั้งคืน พอล้มตัวลงนอน เธอเกิดปัญญาสว่างวาบ พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไรเธอรู้หมด โดยไม่ต้องเรียน--เธอบวชชี ไปตามวัดต่างๆ ไม่มีใครต้อนรับ กลัวรู้มากกว่าพระ ญาติเธอจึงสร้างบ้านให้ เธอเขียนหนังสือและตั้งกองทุนช่วยคนยากไร้ ชีวิตคนมันช่างแปลก--คำพูดประโยตเดียวสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ (แม่ชีอยู่แถววัดพระนอน เชียงราย)
    ----ผมมองดูชีวิตคน และสังคม พบว่า สังคมต้องมีอวัยวะ ประกอบด้วย แม่ค้า ขายหมู ขายผัก แพทย์ พยาบาล พ่อค้า โปรแกรมเมอร์ เหมือนว่าทุกสิ่งถูกจัดสรรมาให้คนที่เชี่ยวชาญมาทำ ขาดส่วนใดก็ไม่ได้ คนไทยส่วนใหญ่เป็นคนดี เข้าใจเข้าถึงธรรมมะในพุทธศาสนา แม้จะมีภัยพิบัติ การเมือง สังคม เศรษฐกิจร้ายแรงอย่างไร ก็จะมีประเทศไทยในวันนี้ และมีต่อไปในอนาตค แม้ชาติอื่นๆล่มสลายหมด เมืองไทยคือบ้านของทุกๆคน และทุกคนจะต้องมารวมกันที่นี่ เพราะที่นี่คือประเทศไทย และมีคนไทย ซึ่งเป็นคนดีที่สุดของโลกแล้วหละครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2012
  3. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---แฟนคลับที่ชื่อ สุพัตรา อยู่ที่เยอรมัน ตอบมาว่า....
    "สรรพสิ่งรวมกันเป็นหนึ่ง หนึ่งนั้นมิใช่หนึ่ง หนึ่งนั้นคืออะไร อันนี้สุก็รู้มาค่ะ เอาทุกอย่างที่มี รวมเป็นหนึ่งค่ะ ไม่ใช่เลขหนึ่ง เอาธาตุต่างๆ ทั้งองค์เทพ เเลัวทุกๆอย่างรวมกัน รวมกันเป็นจักรวาล"

    ---มีครั้งนึงเตี่ยแกละท่านมาแฝงภรรยา--ตอนข้าพเจ้าขับรถปิคอัพอยู่ ท่านว่าา "สมน้ำหน้ามัง ซ่งตีงหน้าหมาเอ๋ย--พอลูกมาแต่งกะร่างนี้ พวกมังร้องไห้ ตอนที่เค้าไปจีบน้องสาวมัง ก็วางท่ากีกกัง ทำยังกะสวยนักหนา ยิ่งอีตัวพี่สาวมัง--แหกปากร้องไห้ สะใจกรูจิงๆ พวกซ่งตีงหน้าหมา" ผมเหรอครับ หัวเราะแทบกลิ้งตั้งแต่ประโยคแรกแล้ว

    ---ที่ อ.วิหารแดง เห็นคนจีนหาบของเดินเข้าบ้านกลางวันแสกๆ วิญญาณเตี่ยแกละนะเอง
    ---เตียแกละไปที่ประเทศสวิส ไปดูแล"พี่แดงเล็ก" ลูกของป้าเมี้ยน พี่สาวแม่ยายข้าเพเจ้า ยัยแดงเล็กเขาเป็นคุณนายสวิส เตี่ยว่า"เจ้าที่มังก็มีนะ เมืองฝรั่งน่ะ เรื่องความเก่ง ความเจ๋ง สู้ทางเราไม่ได้ เตี่ยเก่งกว่าพวกมังเยอะ"

    ----แม่ห่านก็เป็นร่างทรงพ่อทองแดง ท่านมีม้าตัวนึง พอทรงแล้ว ท่านจะเป่าปากเรียกม้า มันจะวิ่งผ่านใต้ถุนบ้านมา ท่านโดดลงเรือนผาง ไม่ต้องมองเลย จะลงหลังม้าพอดี ในมือมีก้านธุปหนึ่งอัน กวาดฟาดไปที่ป่ากล้วย ต้นกล้วยขาดกระจุยเป็นแถบๆ
    --เจ้าป่าเจ้าเขาดุมาก หากเผลอไปนั่งเสื่ออันเดียวกับท่านก็ตายตรงนั้นแหละ
    --บางครั้งก็ต้องใช้ลานวัดเข้าทรง เพราะร่างกายทิพย์ใหญ่เท่าภูเขา
    --ส่วนใหญ่จะใช้สาวพรหมจรรย์ ซึ่งเมื่อก่อนนี้ ตอนท่านออกก็นำวิญญาณสาวนั้นไปด้วย ก็ตายตรงนั้นเอง
    --เจ้าจริง เจ้าปลอม ดูไม่ยากครับ นิยมใช้หอกซัดไป ถ้าไม่ตาย เป็นเจ้าจริงๆ--อันนี้เล่นแรง ---แต่คงไม่มีคนกล้าทำแบบนั้น ส่วนใหญ่ก็เจ้าป่านี่แหละครับ ลองของกัน
    --นั่งกระทะน้ำมันเดือดแข่งกัน --จิ๊บๆครับ ต้องดำน้ำ แล้วเอามีดแทงกัน ไม่ตายคือเจ้าจริงครับ--เหนื่อยมั้ยกับการเป็นร่างทรง

    ---ตำรวจจับโจร ในคดีที่ไม่มีพยาน ทั้งคน ทั้งวัตถุ ได้อย่างไร เพราะคนทรงครับ อันนี้เมืองนอกก้มีเยอะครับ

    ---สมัยนี้มีร่างพันธุ์ใหม่ ร่างทรงแบบหน่อมแน้ม หรือแอ๊บแบ๊ว ก็มีครับ
    --จะมีคนกลุ่มหนึ่ง หนุ่มสาวไฮโซแบบว่ามีตัง จบเมืองนอก อะไรงี้ ว่าง ก็นัดมาเปิดฟลอร์กัน "รอบนี้พญานาค รอบต่อไปเชิญพญาครุฑทุกท่าน ทุกองค์ครับ โย่ว"
    ก็เปิดเพลงแขก เต้นกันไป" มีคนชวนพี่สมคิดไปดู แกก็นั่งดู พี่แกบอก "ไม่สัมผัสอะไรเลย พวกนี้มีองค์จริงหรือปล่าว" "ไม่รู้สิ ไม่สัมผัสเหมือนกัน" ก็ชวนกันกลับ

    ---ผมเคยเห็นการรักษาคนเป็นอัมพาตจากไสยศาสตร์ คนที่ถูกผีเข้า ไม่กินอาหารมาสองอาทิตย์ ผีจับไว้ไมให้นอนอีก เพราะเป็นกรรมกรไปรื้อบ้านเก่าๆ
    ---เทพให้การรักษาด้วยสมุนไพร หายจากโรคร้ายไปหลายราย
    --อาจจะ 90 เปอร์เซนต์เป็นการเข้าทรงที่หลอกลวง แต่พี่สมคิดของแท้ครับ รายผีเข้าท่านสั่งให้ออก ก็ไม่ออกจะพาเจ้าของร่างโดดหน้าต่างทุกที พ่อพระพรหมกับองค์อื่นก็สลับกันมาขู่มัน แต่มันดื้อจริงๆ
    ---- เทพ ไม่ได้ต้องการอะไรจากมนุษย์เลยครับ ผมพูดเป็นกลาง อย่าด่าผม ผมไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด เพราะผมก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกับพวกท่าน
    -----โปรดอย่าได้ซ้ำเติม--หรือว่าพวกเราพาให้พวกท่านงมงาย เพราะคนที่เป็นร่าง อายุเขาหมดไปแล้ว มีชีวิตอยู่ เพราะการขอร้องไปที่เบื้องล่าง-- แผนกคอมพิวเตอร์ของนรกน่ะ --แล้วร่างทรงก็ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานเทพ หรือมีกรรมพัวพันกันมา (เทพก็เลือกร่างนะเฟ้ย ไม่มีซี้ซั้ว)
    ---ผู้ชายคนนึงนั่งแทกซี่คันเดียวกัน ตามพี่สมคิดมา พอมาก็เล่าว่า เป็นร่างฤาษีตาไฟ หรือไงนี่ ฤาษีมีฤทธิ์ ไม่แอ๊บแบ๊ว หรือแอ๊บหล่อ --เขาเองก็พยายามสุ้ ไม่ยอมเป็นร่าง เข้าห้องน้ำ ก็ตามไปลากมา เอาเลือดประจำเดือนเมียทาหน้า..."กรูประเภทมีฤทธิ์เว้ย ยิ่งทายิ่งเฮี้ยนว่ะ" แล้วท่านตอบแทนความมีน้ำใจแบบเสียไม่ได้ของร่าง โดย
    "กระโดดตีลังกากลับหลัง แล้วถอดกายทิพย์กลางอากาศ ปล่อยให้ร่างเอาทั้งหน้าทั้งตัวฟาดพื้นแบบเต็มๆ" โห ..ปู่องค์นี้สุดยอดเลย ไม่กลัวร่างตายเหรอไง
    --ชายคนนี้ไปเที่ยวที่แถวอยุธยา นอนในเรือที่ตลิ่ง ตื่นมาพบงูเหลือม แกเลยพังศาลเจ้าแม่ตรงนั้น "ปล่อยงูมาขู่กูได้" ปล่าวหรอก เทพบอกว่า"เอาบริวารมาคุ้มครองอารักขามัน มันดันพังศาลเค้าเฉยเลย"... นี่แหละมนุษย์
    ---ฟังแกพูดแล้วตลกดี และแกก็ไม่รู้จักพี่สมคิด แต่เทพท่านรู้จักกัน ก็เลยพามา
    --ต่อไปคือชีวิตผู้มีพลังจิต หมอเขมรแท้ๆ จบจากเขมร --อะคะเดมี--- (แฟนเธอเซีย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2012
  4. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    แทรกนิดนึง-ในช่วง5ปีมานี้ ไทยสั่งผลไม้ตระกูล
    เบอรี่่ เข้าประเทศปีละหลายร้อยล้านบาท--ตามกระแสสุขภาพที่มาแรง
    ---แตกรมหม่อนไหม เกิดอาการคันๆ เพราะได้ข้อมูลใหม่ว่า ผลหม่อนของไทยเรา มีกรดโฟลิค สูงกว่าผลบลูเบอรี่1-2 เท่า และมีสารกลุ่มโพลี่ฟีน่อล ซึ่งต้านอนุมูลอิสระได้ดี ทำให้เซลเม็ดเลือดแดงเจริญเติบโตเต็มที่ เซลประสาท-ไขสันหลัง และเซลสมองเจริญดีเป็นปกติ หลอดเลือดแข็งแรง กระแสเลือดไหลเวียนดี--รวมถึงลดอาการแพ้ต่างๆ และยังช่วยยืดอายุเม็ดเลือดขาวอีกด้วย-
    -------------------------------------
    ----ตะขบเวียดนาม "ตะขบยักษ์ไร้หนาม" เป็นต้นเดียวกับต้น ตะขบป่าไร้หนาม หรือไม่ ขอยืนยันว่า เป็นต้นเดียวกัน
    ซึ่งตะขบป่าที่พบตามป่าธรรมชาติในบ้านเรามี 2 สายพันธุ์คือ ตะขบป่าไร้หนาม หรือ "ตะขบยักษ์ไร้หนาม" กับ ตะขบป่าลำตะคอง

    ตะขบยักษ์ไร้หนาม---ตะขบเวียดนาม
    ตะขบ --Manila Cherry Tree มะเกว๋นควาย กือคุ ครบ ครบดง Flacourtia Muntingia calabura Ta Khop ตะขบยักษ์ไร้หนาม ตะขบยักษ์ไร้หนาม จำหน่ายตะขบยักษ์ไร้หนาม ตะขบ ปราจีนบุรี
    ----------------------------------
    "ตะขบยักษ์ไร้หนาม" อร่อย--ใกล้สูญพันธุ์
    ตะขบยักษ์ไร้หนาม
    ผู้อ่านไทยรัฐ จำนวนมากสงสัยว่า "ตะขบยักษ์ไร้หนาม" เป็นต้นเดียวกับต้น
    ตะขบป่าไร้หนาม หรือไม่ ขอยืนยันว่า เป็นต้นเดียวกัน
    ซึ่งตะขบป่าที่พบตามป่าธรรมชาติในบ้านเรามี 2 สายพันธุ์คือ ตะขบป่าไร้หนาม หรือ
    "ตะขบยักษ์ไร้หนาม" กับ ตะขบป่าลำต้นมีหนาม ทั้ง 2 ชนิด จะมีผลโตเหมือนกัน มีรสหวานหอม
    คนเดินป่าสมัยโบราณนิยมเก็บเอาผลไปวางขายในตลาดตัวเมืองได้รับความนิยมรับประทานอย่างแพร่หลาย
    ผมเองสมัยเป็นเด็กบ้านนอก พบเห็นตามป่าจนชินตา เวลาติดผลดกทั้งต้น กิ่งจะโค้งงอ
    สีของผลมีทั้งสีเขียว และสีม่วงคล้ำสวยงามน่าชมยิ่ง ซึ่งตะขบทั้ง 2 ชนิด
    เคยแนะนำในคอลัมน์ไปแล้ว แต่เมื่อมีผู้อ่านสงสัย ประกอบกับพบว่า "ตะขบยักษ์ไร้หนาม"
    หรือ ตะขบป่าไร้หนาม ใกล้จะสูญพันธุ์ พบตามป่าธรรมชาติน้อยมากแล้ว
    และทราบว่ามีผู้ตอนกิ่งออกวางขาย แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
    จึงรีบไขข้อสงสัยให้แฟนคอลัมน์ได้รู้ พร้อมกับรณรงค์ให้ช่วยกันปลูกก่อนที่จะสูญพันธุ์ไม่ได้ พบเห็นอีกทันที
    ตะขบยักษ์ไร้หนาม หรือ ตะขบป่าไร้หนาม มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ FLACOURTIA INDICA
    (BURMF) MERR PLACHNELLA SIAMENSIS อยู่ในวงศ์ FLACOURTIACEAE เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ
    สูง 2-10 เมตร กิ่งก้านมีข้อ ซึ่งชนิดที่แนะนำในคอลัมน์วันนี้เป็นชนิดไม่มีหนาม
    พบตามป่าธรรมชาติน้อยมาก น้อยกว่าชนิดที่ต้นมีหนาม
    เวลาติดผลคนเดินป่าเก็บผลไปขายประจำ จนทำให้ชนิดที่มีหนาม หนามทู่ไม่แหลมคมอีก
    ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปไข่กลับดอก ออกเป็นช่อกระจะที่ซอกใบและปลายกิ่ง มีดอกย่อยไม่มากนัก
    เป็นดอกแยกเพศอยู่คนละต้น ไม่มีกลีบดอก มีเกสรสีเหลืองปนขาวจำนวนมาก "ผล" ของ
    "ตะขบยักษ์ไร้หนาม" หรือ ตะขบป่าไร้หนาม เป็นรูปทรงกลม ผลโตเต็มที่เกือบเท่าผลมะนาว
    หรือลูกปิงปอง ผลดิบสีเขียว สุกเป็นสีแดงคล้ำ หรือ สีม่วงดำ เนื้อรสหวานหอม มีเมล็ด 5-8 เมล็ด
    คนโบราณก่อนกินเอาผลสุกไปคลึงให้ผลพอน่วมจะเพิ่มรสชาติให้หวานหอมอร่อยยิ่งขึ้น
    ติดผลทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด และตอนกิ่ง มีชื่อเรียกอีกคือ ตาลเสี้ยน,
    มะเกว๋นนก, มะเกว๋นป่า ใครต้องการกิ่งตอนไปปลูก ติดต่อ "คุณปราโมทย์"
    โทร.08-9069-5556 หรือไปดูต้นและผลจริงได้ที่งาน "บ้านและสวนแฟร์" เมืองทองธานี
    ระหว่างวันที่ 27 ต.ค.-1 พ.ย.นี้ ราคาสอบถามกันเอง ส่วนสรรพคุณทางยา ที่เด่นๆ ราก 1
    กำมือ ต้มน้ำพอท่วมดื่ม 3-5 ครั้ง แก้ไตพิการ ทั้งต้น หรือราก ต้มน้ำอาบ
    แก้โรคผิวหนังที่เกิดจากประดงดีมากครับ.
    "นายเกษตร"

    ไทยรัฐออนไลน์
    โดย นายเกษตร
    28 ตุลาคม 2552, 05:00 น.


    อย่าเพิ่งเบื่อน๊ะครับ คืออยากจะหาข้อมูลไว้ แล้วจะเก็บอะไร จะไม่เก็บอะไรไว้ จะได้มีข้อมูลตัดสินใจ

    อันนี้เจอมาจากตลาดสดแถวบ้าน เขาบอกว่าตะขบซื้อต้นพันธุ์มาจากทางใต้ ไม่มีหนาม ผมก็ไม่รูว่าพันธุ์อะไร ไม่แน่ใจว่าเป็นตะขบยักษ์ไร้หนามหรือเปล่า เนื้อเยอะกว่าตะขบป่าแต่หวานน้อยกว่า จะเก็บเม็ดหรือเพาะเม็ดยังไง รบกวนท่านที่ทราบด้วยครับ

    เทียบกะเหรียญบาท




    [​IMG]<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top rowSpan=2 width="16%">[​IMG] ออฟไลน์

    กระทู้: 1230


    [​IMG]




    </TD><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle>[​IMG] [​IMG] [​IMG]</TD><TD vAlign=middle align=left>Re: กระทู้ขี้สงสัยครับ เพราะว่าเจอมาแต่ไม่ทราบว่าเขาเรียกกันเป็นกลางๆว่าชื่ออะไร
    « ตอบ #16 เมื่อ: มกราคม 14, 2011, 12:19:55 PM »




    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right>[​IMG]อ้างถึง</TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">+1 LIKE
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">[​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    ตะขบยักษ์ไร้หนามที่บ้าน หากต้นสมบูรณ์และปลิดลูกทิ้งบ้าง ผลจะโตกว่าเหรียญ 10 บาท
    ถ้าเก็บตอนแก่จัดๆ (ผลจะนิ่ม) จะหวานโดยไม่มีรสฝาด

    เคยเอาเมล็ดมาเพาะแล้าไม่งอก มีบางคนบอกว่าต้องผ่านการย่อยจากกระเพาะของนกก่อนถึงจะงอก
    เคยเจอต้นกล้าจากใต้โคนต้น 1 ต้น เลยเอามาทำเป็นต้นตอทาบกิ่งต้นแม่
    สมาชิกท่านใดมีเทคนิคการเพาะเมล็ดตะขบ รบกวนชี้แนะด้วยครับ.....

    ส่วนรูปตะขบของ คุณ Nine. ผลจะออกรี ๆ น่าจะเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่ง.....




    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    มีมาถามอีก
    อันนี้อาจจะไม่แปลก เขาเรียกกันกลางๆอย่างไร ที่บ้านเรียกสาคูจีน ต้มกินได้อร่อยหวานหน่อยๆเนื้อ หนึบหนับ

    ต้น
    [​IMG]

    หัวที่ต้ม-ปอกเปลือก
    [​IMG]





    <TABLE class=bordercolor border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 1px; PADDING-RIGHT: 1px; PADDING-TOP: 1px"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD class=windowbg2><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%">http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=24888.0





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 1px; PADDING-RIGHT: 1px; PADDING-TOP: 1px"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD class=windowbg><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top rowSpan=2 width="16%">khundongเกษตรกรมือใหม่
    [​IMG]
    [​IMG] ออฟไลน์

    กระทู้: 1503


    [​IMG][​IMG]





    </TD><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle>[​IMG] [​IMG] [​IMG]</TD><TD vAlign=middle align=left>Re: กระทู้ขี้สงสัยครับ เพราะว่าเจอมาแต่ไม่ทราบว่าเขาเรียกกันเป็นกลางๆว่าชื่ออะไร
    « ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 08:20:24 AM »





    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right>[​IMG]อ้างถึง</TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">+1 LIKE
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">ชื่อทางการคือ พุทธรักษากินหัว เนื่องจากเขาเป็นไม้สกุลเดียวกับพุทธรักษา แต่มีหัวต้นกินได้ชาวบ้านที่คุ้ยเคยกับสาคูวิลาศจึงเรียกชื่อว่าสาคู ครับ





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ต้นคล้ายพุทธรักษา หน้าไก่ตัวนั้น น่ะใช่ครับ ที่คล้ายต้นปาล์ม คือต้นลาน(ใบลานใช้จารึกคัมภีร์) ลูกกินอร่อยครับ คล้ายลูกชิด(ลูกต๋าว) ผลเป็นทะลายแต่ลูกจะกลมๆ</TD></TR></TBODY></TABLE>


    ต้นลาน
    http://www.dernpa.com/index.php?topic=416.0

    ต้นตาล ต้นลาน-จากบล็อกผมเอง
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=secret-world&month=25-01-2011&group=1&gblog=107
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • takob.jpg
      takob.jpg
      ขนาดไฟล์:
      128.3 KB
      เปิดดู:
      289
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2012
  5. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><!--Last Update : 19 พฤศจิกายน 2554 1:31:56 น.-->การแพทย์แบบรวมมิตรวิทยา-ตอนจบ-ทุกคนควรอ่าน

    <!-- Main -->------------อยากติดตามทั้งหมด เอกสารทั้งสามชิ้น ขอให้อ่านได้ที่เว็ปญาณทิพย์--
    หน้าที่ 33 เป็นต้นไปครับ
    -- รายงาน--ค้นพบผู้มีญาณทิพย์ - ห้องญาณทิพย์ - หน้าแรก รวมพลคนญาณทิพย์ - Powered by Discuz!
    ---------------------------------------
    "ในเจ็ดวันนี้ เราขอให้ท่านส่งเจ้ากรรมนายเวร"
    "ส่งเจ้ากรรมนายเวร ?"
    "ใช่ ให้ท่านนั่งสมาธิเจ็ดวัน เวลาใดก็ได้ เป็นเวลานานเท่าไหร่ก็ได้ จะสิบห้านาที หรือ ครึ่งชั่วโมง แล้วแต่ท่านจะเห็นเหมาะสม แล้วอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่เข้ามาเกาะสังขารของท่าน ให้เขาละจากกายท่าน เมื่อทำครบเจ็ดวันแล้ว วันที่แปดให้ท่านไปใส่บาตร อุทิศบุญให้เขา"
    "ท่านนั่งสมาธิเป็นหรือไม่ ?"
    "เป็นครับ"
    "เช่นนั้น ท่านจงทำตามที่เราแนะนำตามนั้นก่อน ปัญหาเรื่องสังขารของท่านนั้น ยังมีอีกมากมาย หากท่านมิรีบแก้ไขเสียตั้งแต่ยังหนุ่ม ยามชราท่านจะลำบาก"
    "สังขารของผมมีอะไรผิดปกติเหรอครับ ?"
    "มี ความจริงท่านมิใช่ธาตุดิน ท่านรู้หรือไม่ ?"
    "ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าผมเป็นคนธาตุอะไรครับ ? มันสำคัญกับเรื่องสุขภาพของผมหรือครับ ?"
    "ใช่ เพราะท่านมีธาตุที่ไม่สมดุลในกาย เวลามีสิ่งที่ติดสังขารท่านมาจากภายนอก ร่างกายท่านจะรับไม่ได้ มันจะฝังลงในเส้นสาย และ ไขกระดูก"
    "สิ่งที่ติดสังขาร ? อย่างเช่นเจ้ากรรมนายเวรใช่หรือไม่ครับ ?"
    "ใช่ นั่นเป็นเพียงเรื่องหนึ่ง แต่ท่านจะเล่าให้เราฟังได้หรือไม่ว่า ปกติ ท่านดำเนินชีวิตอย่างไร เหตุใด สังขารท่านถึงรับของติดค้างมามากมายเช่นนี้ ?"
    "ครับ ถ้าหมายถึงเจ้ากรรมนายเวรครั้งนี้ ผมใช้ลูกดิ่งไปตรวจสุขภาพให้คนอื่น แล้วไม่ได้ขออนุญาตเจ้ากรรมนายเวรของเค้าก่อน ก็เลยโดนเล่นงานครับ"
    "ท่านใช้สิ่งใด ทำอะไร ?"
    "ลูกดิ่งครับ ลูกดิ่งเป็นก้อนหินแล้วก็มีสร้อยผูกไว้ ใช้ทำนายอะไรก็ได้ครับ แต่ผมจะใช้ทำนายสุขภาพ"
    "ทำนายอย่างไร ?"
    "ต้องใช้จิตถามครับ แล้วลูกดิ่งจะตอบโดยการแกว่ง"
    "ใช้จิตถาม ใช้พลังจิตนี่เอง"
    "เพราะท่านใช้สิ่งนั้น ท่านจึงต้องรับสิ่งติดค้าง สัมภะเว ฯ เบี้ยใบ้รายทาง มาสะสมอยู่ที่เส้นเอ็น และ กระดูกของท่าน เพราะสิ่งนั้น ทำให้ท่านรู้ในสิ่งที่หมอทั่วไปไม่รู้ ใช่หรือไม่?"
    "ใช่ครับ"
    "สิ่งที่เจ้ากรรมนายเวรของคนป่วยบังตาหมอได้ แต่บังท่านมิได้ ถ้าท่านยังใช้วิชานี้ สังขารท่านก็จะแย่ลง พลังของท่านจะลดลงเรื่อย ๆ"
    "แสดงว่า ทุกคนที่ใช้วิชาลูกดิ่งนี้ ก็จะมีสุขภาพแย่ไปด้วยทุกคนใช่มั้ยครับ ?"
    "มิใช่ เราพูดถึงตัวท่านเท่านั้น เพราะธาตุในกายท่านไม่สมดุล ท่านไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่านธาตุอะไร แล้วท่านจะรู้วิธีสร้างสมดุลธาตุในกายได้อย่างไร ? เมื่อธาตุในกายท่านไม่สมดุล พลังของท่านจะน้อย สิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ จึงเข้ากายท่านได้โดยง่าย ภูมิคุ้มกันของท่านจึงต่ำ"
    "พลังน้อย จะทำให้ผมใช้งานลูกดิ่งไม่แม่นยำ เกี่ยวกันมั้ยครับ ?"
    "แน่นอน พลังสะสมท่านไม่มี ทุกครั้งที่ท่านใช้วิชาของท่าน มันจะดึงพลังมาจากไขกระดูกแทน ทำให้ท่านอ่อนแอ เปิดโอกาสให้สิ่งอื่นแทรกสังขารท่านได้ง่าย เช่น บังไช"
    "บังไช คือ อะไรครับ ?"
    "บังไช มีลักษณะเป็นละอองเล็ก ๆ เข้าทางผิวหนัง ลมหายใจ และ ปาก เข้าไปแล้วจะฟักเป็นตัวแล้วดูดพลังของท่าน สมัยปัจจุบันนี้เขาเรียกว่าอะไรรึ ? เราไม่แน่ใจ"
    "ไวรัส ใช่หรือไม่ครับ ? หรือ แบคทีเรีย ?"
    "มิใช่ไวรัส มันเป็นเชื้ออย่างหนึ่ง ซึ่งแพร่พันธุ์ได้เร็ว หากสังขารของท่านมีพลังสะสมที่เพียง
    พอ สิ่งเหล่านี้จะแทรกเข้ากายของท่านได้ยาก"
    รุ่งนึกถึงสิ่งผิดปกติจากภายนอก ที่แทรกเข้ามาในร่างกายของเขาได้อย่างง่ายดายเป็นประจำ
    "พยาธิ ใช่หรือเปล่าครับ ?"
    "ใช่แล้ว พยาธิ สมัยของเรานั้น เขาเรียกกันว่า บังไช เชื้อตัวนี้เมื่อแทรกเข้ากาย ก็จะไชไปในอวัยวะต่าง ๆ หากไม่รักษา ก็สามารถทำให้ถึงตายได้"
    "งั้นก็ใช่เลยครับ ผมโดนเป็นประจำ น่าเบื่อมาก"
    สิ่งที่เขาเพิ่งรับรู้จากพระนาง ทำให้จิตใจเป็นกังวล ความอ่อนล้าจากความเจ็บปวดที่แผ่นหลัง ทำให้ใจเริ่มท้อ ทั้งเรื่องปัญหาการงาน ปัญหาการเงิน ปัญหาสุขภาพ ดูเหมือนกับเขากำลังใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งรอบข้างที่ไม่มีอะไรเป็นใจเลยซักอย่าง
    รุ่งถอนหายใจยาว ๆ อีกครั้ง
    "ท่านรู้สึกเหนื่อยรึ ?"
    "สงสัยช่วงนี้ดวงจะตก" เขาพูดแล้วหัวเราะเบา ๆ
    "ที่ท่านพูดก็ไม่ผิด ชีวิตท่านต้องอดทนไปอีกสองปี"
    "เหรอครับ อีกสองปี ? ชะตาผมจะแย่ไปกว่านี้มั้ยครับ ?"
    "ตอนนี้แย่ที่สุดแล้วรึ ?"
    "ในความรู้สึกผม ผมแย่กว่าคนอายุเท่ากันในทุก ๆ เรื่อง การงานก็แย่ การเงินก็แย่ สุขภาพก็แย่"
    ร่างทรงนับนิ้วมือตนเอง เพื่อคำนวณชะตาจากวันเดือนปีเกิด
    "สองปี ท่านจงอดทนเถิด ในยามนี้ พลังของท่านอ่อนแอ หากท่านยังฝืนใช้ชีวิตเช่นเดิม ท่านจะแย่กว่านี้"
    "ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เรื่องไหนเหรอครับ ?"
    "หากท่านยังใช้วิชาของท่าน ด้วยหินนั่น ร่างกายของท่านจะแย่"
    "วิชาลูกดิ่งนี่เหรอครับ ? ผมจะแย่ขนาดไหนครับ ?"
    "เราบอกไม่ได้ อาการของท่านจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในเจ็ดวัน เมื่อพ้นเจ็ดวันแล้ว ท่านฟื้นได้เท่าไหร่ ก็ได้เพียงเท่านั้น อาการที่หลงเหลือติดค้างนั้น เป็นส่วนของสังขารท่านเอง ไม่เกี่ยวกับเจ้ากรรมนายเวรใด ๆ อีกแล้ว ท่านเข้าใจที่เราพูดหรือไม่ ?"
    "ครับ สมมุติว่าพ้นเจ็ดวันไปแล้ว ถ้าผมยังมีอาการอะไรเหลืออยู่ นั่นคือ ผมจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว"
    "มิใช่อย่างนั้น เราไม่ได้บอกว่าไร้ทางแก้ เราเพียงแค่บอกว่า อาการที่เหลือ ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้ากรรมนายเวรครั้งนี้แล้ว"
    "ผมมีข้อสงสัยจะถามครับ ทำไมเจ้ากรรมนายเวรถึงเล่นงานผมหนักขนาดนี้ ? เพื่อนผมอีกคนนึง เค้าก็ใช้วิชาเดียวกันตรวจสุขภาพให้คนคนนั้น แต่เค้าไม่โดนเล่นงาน"
    "นั่นเพราะ เจ้ากรรมนายเวรของคนคนนี้ เขามีมากมาย แต่ละราย จ้องจะทวงจากเขาอย่างเต็มที่ ท่านไปขัดขวางในขณะที่ท่านมีพลังไม่เพียงพอ สิ่งนั้นก็แทรกเข้ากายท่านได้โดยง่าย สิ่งที่ติดมานั้น มาจากทางขอม ท่านปู่จึงให้เรามารับท่านแทน ท่านรู้จักเขมนคร (อ่านว่า เข-มะ-นะ-คอน) หรือไม่ ?"
    "ไม่เคยได้ยินครับ"
    "เขมนคร เป็นดินแดนที่เราเคยปกครอง ปัจจุบันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเขมร เราจำเป็นต้องใช้ภาษาขอมในการสวดให้กับเจ้ากรรมที่ติดสังขารท่าน พวกเขาเข้าใจภาษาของเราเป็นอย่างดี แล้วได้รับบุญกุศลอย่างเต็มใจ"
    "ท่านเป็นชาวขอมหรือครับ ?"
    "ในอดีต เราเป็นเจ้าเมืองเขมนคร ซึ่งถือว่าเป็นชนชาติขอม"
    "ถ้าเลยเจ็ดวันไปแล้ว ผมยังเดินเป็นปกติไม่ได้ วิธีแก้คืออะไรครับ ?"
    "ท่านอาจจะต้องเลิกใช้วิชาของท่าน เพราะวิชาของท่านไม่เหมาะกับธาตุในตัวท่าน"
    "ผมควรจะเลิกใช้ลูกดิ่งหรือครับ ? มีวิธีอื่นอีกหรือเปล่า ที่ผมจะปรับ เพื่อให้ใช้ลูกดิ่งได้ต่อไป ?"
    "ด้วยธาตุของท่านไม่ใช่ธาตุดิน ไขกระดูกของท่านก็สกปรกไปด้วยของติดค้าง หากพ้นเจ็ดวันแล้ว ไขกระดูกของท่าน ยังไม่ฟื้นกลับมาเป็นปกติ แล้วท่านยังฝืนใช้วิชาของท่านต่อไป ท่านอาจจะต้องเดินเหมือนคนพิการเช่นนี้ไปตลอด มันคุ้มกับท่านหรือไม่ ? ในเมื่อตอนนี้ วิชาที่ท่านใช้อยู่ ก็หาได้มีความแม่นยำเหมือนเดิมแล้ว ท่านจะไปตรวจให้ใครได้เล่า"
    "เราเข้าใจท่าน ท่านต้องการช่วยเหลือผู้อื่น ท่านลองใช้เวลาเจ็ดวันนี้ พยายามทำสมาธิฟื้นฟูสังขารของท่านให้ดีที่สุด พ้นเจ็ดวันไปแล้วค่อยมาดูอาการอีกที"
    "ครับ"
    "หากท่านใช้เวลาสองปีนี้ เพื่อฝึกฝน ปรับธาตุในกาย ให้มีความแข็งแรง มีพลังมากกว่าเดิม พ้นสองปีนี้ ชีวิตท่านจะค่อย ๆ ดีขึ้น ท่านจะได้งานที่ท่านรัก มีรายได้ และ ท่านจะรายล้อมไปด้วยอิสตรี อนาคต ท่านจะเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้อีกมากมาย "
    "สภาพผมในวันนี้ สุนัขตัวเมียยังไม่มองเลยครับ"
    "ตัวท่านเอง มีความคิดที่ไม่ถูกต้องบางส่วน ถูกต้องในบางส่วน"
    "ส่วนไหนไม่ถูกต้องหรือครับ ?"
    "ท่านยินดีฟังคำวิจารณ์ของเรารึ ?"
    "ยินดีครับ"
    "ส่วนที่ไม่ถูกต้องคือ ท่านจัดเรียงลำดับความสำคัญในชีวิตผิด หากท่านจะช่วยเหลือเรื่องสุขภาพกับผู้อื่น ท่านต้องทำให้สุขภาพท่านเองมั่นคงเป็นหลักสำคัญเสียก่อน วิชาที่ท่านใช้ ต้องสามารถทำให้ท่านมีพลังเพื่อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่นได้ หากท่านเองยังเอาตัวไม่รอด หรือ พิการไป ท่านคิดว่าท่านจะช่วยใครได้ ? ท่านกลับต้องเป็นภาระของคนอื่น เรามิได้หมายถึงท่านต้องไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ไข้ เพราะไม่มีใครผู้ใดหลีกเลี่ยงความป่วยไข้ไปได้ แต่หากเป็นสมัยเรานั้น หมอทุกคนจะมีความรู้ในเรื่องการปรับธาตุ และ ลมปราณของตัวเอง ทำให้เมื่อป่วย ก็จะเยียวยาตนเองได้ แต่สมัยปัจจุบันนี้ แม้แต่หมอเอง ป่วยแล้วก็ยังไม่รู้ตัวว่าป่วย ท่านว่าจริงหรือไม่ ?"
    "ครับ เห็นด้วยครับ"
    "ท่านจะช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการใดก็ตาม ท่านจะต้องช่วยตัวเองในเรื่องนั้นได้เสียก่อน แต่ตอนนี้ ท่านไม่มีอะไรที่มั่นคงซักอย่าง ท่านจะช่วยใครที่ไหนได้ ? ที่เราพูด ท่านคงเข้าใจได้ไม่ยาก"
    "ครับ เห็นด้วยทุกอย่าง" ความจริงในข้อนี้ทำให้เขาถอนหายใจ
    "แต่ท่านก็มีความคิดที่ถูกต้องเหมือนกัน การที่ท่านคิดจะช่วยเหลือผู้อื่น นั่นเป็นความคิดที่ถูกต้องเรื่องหนึ่ง อีกเรื่องหนึ่งคือ ที่นี่ ได้รับผู้คนที่มีปัญหามากมาย คนในวัยเดียวกับท่านก็มาที่นี่หลายผู้คน เรื่องที่ปรึกษาไม่พ้นเรื่องความรัก เรื่องคู่ครอง ท่านเป็นคนแรกที่จัดลำดับเรื่องความรักไว้เป็นเรื่องท้ายสุด ชายวัยฉกรรจ์เช่นท่าน หาได้น้อยที่มีความคิดเช่นท่าน"
    "นี่เป็นคำชมหรือเปล่าครับ ?"
    "ใช่ นี่ถือเป็นคำชม ท่านเป็นคนที่มีสมาธิดีมาก ยากที่หญิงคนใดจะทำลายสมาธิของท่านได้"
    "ความจริงท่านเป็นคนที่มีเสน่ห์ต่ออิสตรี แต่ด้วยอายุของท่านที่เข้าเกณฑ์อับ ถึงแม้จะมีสตรีชอบท่านมากมายเพียงใด ท่านก็ไม่สามารถจะลงเอยได้มีคู่กับใครสักคนได้ ท่านต้องอดทนอยู่ในสภาพนี้ไปอีกสองปี"
    ***********************
    จบภาคสอง
    -----------------วิธีใช้ลูกตุ้ม------------
    -เจ๊เรือง9 นี่ทันสมัยมากๆเลย ทั้งๆที่ใจผมคิดว่า คงมีคนเล่นเพนดูลั่มนี่ มีไม่กี่คนในเมืองไทย-- มีสัตวแพทย์ชื่อหมออัสนี ท่านเปิดบ้าน และผลิตของแปลกๆพวกนี้ขาย ถึงเป็นศาสตร์ลี้ลับ แต่มันก็ใช้ได้ผล -คือมันเวิร์คอ่านะ

    --พวกเพื่อนพี่สาวผมนี่ก็ชอบลากกันไป ทั้งไปอินเดีย เรียนหมอดู แล้วก็ความรู้แปลกๆพวกเนี้ย ---จนแม้แต่ผมก็ได้เศษๆความรู้มาบ้าง ก็ยังคิดว่า อันตัวข้าพเจ้านี้ จบไสยศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์มากันแน่

    ------แต่พี่ก้อยังเล่นไม่เป็นอยู่ดีอ่ะ..หาคนสอนให้หน่อยดิ..เอาแบบไม่เสียตังค์นะ...
    เพราะไม่มี งบประมาณจ่ายในส่วนนี้
    .......นึกขึ้นมาได้ แล้วก้อชักอยาก เอาจริง...นี่ถ้าเล่นได้ ล่ะคงจะมันส์น่าดู
    วันๆคงไม่ทำรัยหรอก...เลิกเล่น ญารทิพย์ ไปคุย กะ เพนดูลัม คงสนุกกว่าเยอะ หุหุๆ
    -----------
    -----เท่าที่เห็นนะครับ เขาจะถามโดยคำพูด หรือกำหนดจิต ถ้า "ใช่" หรือ "ดี" "ถูกต้อง" ก็จะวนตามเข็มนาฬิกาครับ ถ้าไม่ใช่ ก็จะวนกลับทิศกัน ที่ลูกตุ้มผลึกคลิสตัลอันนั้น จะมีขนไก่ หรือขนนกเล็กๆมัดติดอยู่ด้วย เป็นการตวจทางประจุไฟฟ้า ถ้าแรง ขนนกจะตั้งขึ้นมา อันนี้เป็นความรู้ของชาวอินเดียนแดง หมอผีจะมีขนนกเต็มตัว เป็นการป้องกัน และ ขนนกเราก็รู้ว่าเป็นฉนวนทางไฟฟ้า น่าจะช่วยรับพลังจิตได้ดี-----พุดถึงพลังไฟฟ้า ท่านไสบาบาก็เคยหยอกเล่นกับนักมวยปล้ำที่จะมาอุ้มท่าน พอเขาปรี่เข้ามาจะถึงตัวท่านเก็ยกมือดีดน้ำใส่ เจ้านักมวยปล้ำก้กระเด็นไปเหมือนช้างถีบ แล้วบอกว่า--พลังไฟฟ้าท่านแรงมาก

    ----ทำไมฤาษีต้องนั่ง หรือนุ่งห่มหนังเสือ หนังหมี เพราะหนังที่แห้งๆ ก้เป็นฉนวนทางไฟฟ้า---เราก็เคยนึกว่า"เอาขลังๆ-มาดเข้ม" เปล่าหรอก เป็นเรื่องเทคโนโลยี่แบบลึกลับ

    --ก็บอกแล้วไงครับว่า ความรู้โบราณ นั้นไม่ใช่เรื่องย่อยๆ จะมาเป็นองค์ความรู้ เหมือนห้องสมุดขนาดยักษ์เลยครับ--ยิ่งห้องสมุดโลกทิพย์ หรือที่ชาวฮินดูโบราณเรียกว่า คลัง อากาศิกส์ Akashic Records จะมีสารพัดความรู้อยู่ในนั้น การที่ดร.อาจองท่านได้เห็นวงจรไฟฟ้า(ที่คุมยานลงดาวอังคาร)มา ก็เพราะจิตได้ไปไขกุญแจคลังอากาศิกส์ โดยไม่รู้ตัวนั่นเอง---ตัวอย่างชัดๆของเรื่องฉนวนไฟฟ้า-ของประจุจิต-ปราณ เช่น มีผู้ปฏิบัติรายหนึ่งจะนั่งสมาธิบนพื้นซีเมนต์ตรงนั้นประจำ พลังที่เกิดขึ้นก็ไหลลงดินไปหมด พอมีอีกคนมานั่งสมาธิบนพื้นซีเมนต์ตรงนั้น "พลัง" ได้ย้อนกลับขึ้นมาจนคนคนนั้นถึงกับจับไข้ในทันที หลังๆ เขาจึงใช้อาสนะ หรือผ้าขาวปู อืม อาสนะพระก็เป็นสิ่งแบบนี้ เป็นพรมหนาๆ

    --- เรื่องประจุไฟฟ้า คือเป็นความรู้จากท่านไส บาบา (ท่านบอกว่า นักวิทยาศาสตร์ไม่รู้ว่า ดวงอาทิตย์นั้นนะกลวง มีอุโมงค์มากมาย มีพายุพัดไปมาในอุโมงค์ เพื่อให้ความร้อนนั้นกระจายทั่วกัน--น่าแปลกที่ดวงอาทิตย์ของเรา ไม่มีรังสีที่ร้ายแรง(นักวิทย์บอกเป็นระเบิด แบบนิวเคลี่ยร์ฟิวชั่น--ไม่จริงครับ) จะมีบ้าง บรรยากาศของโลกก็กรองไว้ได้ น่าแปลกไหม-ก็ทุกอย่างถูกตระเตรียมไว้ให้มนุษย์เท่านั้น)---สำหรับตัวผม ก็เคยนั่งสมาธิที่แม่สาย ชาย-หญิงแยกกัน พอนั่งรู้สึกตัวหนักๆและมีพลังมาก --พอดีว่ามีผู้หญิงเดินมาผ่าน เธอก็หลบๆ แต่ชายส่าหรีมาโดนผมแว็บนึงที่หัวเข่า ท่านผู้อ่านครับ พลังผมหายหมดเลย -เหมือนคนไม่ได้นั่งสมาธิ

    --เฮ้อนี่แหละที่เขาว่าชายหญิง เป็นขั้วบวก-ขั้วลบ--เซ็งเลย รอยักษ์ปากแดง รอไฟจะมาช๊อตๆ หลายสิบปีไม่มีโผล่มาเลย ใครเป็นแบบนี้บ้าง--มีแต่รบกะนางพันธุรัตที่น่ารักทุกวันทุกวัน ตะกี้ไปซื้อข้าวเหนียวผมก็แหย่ จับแขนบีบ เธอก็ด่าๆ" ไอ้ง่าว(โง่) ปะล้ำปะเหลือ(มากเกินไป)" เล่นเอาแม่ค้าหัวเราะแทบตาย (ด่าคนยังตลกเลย-แฟนผมนี่) ในชีวิตแม่ค้าคนนี้มีแต่ความเศร้า... ยังสาวอยู่แต่เป็นมะเร็ง จนผมร่วงหมดหัว ก็มีภรรยาผมนี่ทำให้เค้าหัวเราะออกมาได้

    --สักสองนาทีเทพก็มาว่า "พวกมึงนี่ก็นะ- ทำให้แม่ค้าหัวเราะจนได้ ...มันไปที่ไหนมีแต่คนขำมัน" ก็โห.. รูปร่างเหมือนเด็กยังไม่พอ นิสัยยังเหมือนเด็กอีก..เสด็จแม่บางองค์ก็บอกว่า "คนแบบนี้ด่าใคร ก็ไม่น่าจะรู้สึกเจ็บนะ คงจะขำคนด่าซะมากกว่า"

    --ขอบคุณที่ชีวิตนี้--โลกนี้ ที่มีเสียงหัวเราะ -ขอบคุณ คุณแม่จินตนาที่สู้ชีวิตด้วยจิตแจ่มใสและมีอารมณ์ขัน(ประทับจิต-อยู่ในใจลูกทุกๆคนตลอดไป)

    ------------------------------------

    --เดี๋ยวจะเมล์ถามเรื่องลูกตุ้มให้เจ๊เรือง9นะครับผม

    --เอกสารชิ้นที่สาม---------------------------------
    คำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    … ทุกข์ คือ อาการทุรนทุราย ไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้ กับสภาวะนั้น ต้องเคลื่อนจิต หรือ เคลื่อนกาย หรือ ต้องมีกิจกรรมใด ๆ เพื่อหนีให้พ้นจากสภาวะนั้น จึงสบายขึ้น สภาวะเหล่านั้น เรียกว่าทุกข์หมด…
    อ้าว.. แล้วสภาะวะไหนล่ะ ที่เราอยู่เฉย ๆ ได้โดยไม่เคลื่อนไหวกายเลย ไม่เคลื่อนจิต มีด้วยเหรอ ? หายใจเข้าไปนี่ ถ้าไม่หายใจออกก็อึดอัดจะตายอยู่แล้ว
    ... ฉะนั้น จึงเรียกได้ว่า ทุกลมหายใจเข้าออก เป็นทุกข์ทั้งสิ้น เมื่อหายใจเข้าแล้ว ไม่หายใจออก ก็เป็นทุกข์ …เอ๊ะ… ทำไมหนังสือเขียนเหมือนรู้ว่าใจเรากำลังคิดอะไร ? ถ้าความทุกข์คืออาการทุรนทุราย ทนไม่ได้ อย่างนี้ การที่เรามีความสุขกับอะไรบางอย่าง พอเวลาผ่านไป เราเริ่มชินชากับของสิ่งเดิม ต้องหาของใหม่ที่ดีกว่า อยู่อย่างเดิมมันน่าเบื่อ อย่างนี้ก็เรียกว่าทุกข์อีกล่ะสิ ?
    … ความไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมี เรียกว่า ทุกข์จากวิภวตัณหา คือ การต้องดิ้นรนเพื่อจะพ้นกับสภาวะที่เป็นอยู่ ทนอยู่ในสภาวะนั้น ๆ ไม่ได้ ต้องหาสภาวะใหม่ …
    เธอรู้สึกขนลุกชันขึ้นมาทันที นี่หนังสือธรรมะเล่มนี้กำลังโต้ตอบกับเธอหรือไร ?
    เธอพลิกกลับไปอ่านหน้าปก เห็นรูปพระสงฆ์องค์หนึ่ง เธอเคยได้ยินชื่อนี้เหมือนกัน น่าจะเป็นพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงมาก แต่เธอไม่เคยได้อ่าน หรือ ได้สัมผัสคำสอนของท่านมาก่อน

    เธอลองพลิกไปกลาง ๆ เล่ม
    ก็คุณยังไม่เจอครูที่ปราบคุณได้ไง ใจคุณก็เหมือนม้าพยศ ใครสั่งใครสอนคุณก็ไม่เชื่อ เพราะเขาไม่ใช่คู่ปรับคุณ อย่างพระพุทธเจ้าเอง ท่านใช้สัพพัญญุตาญานรู้ว่าใครเคยเป็นครูใครมาก่อน บางคน ท่านรู้ว่าต้องให้พระโมคคัลลาน์ไปกำราบ เพราะเขาไม่เชื่อไม่ฟังพระอรหันต์ท่านอื่นเลย ท่านก็ไม่เทศน์เอง แต่ให้พระโมคคัลลาน์เทศน์ อยู่หมัดเลย เพราะเคยเป็นคู่ปรับกันมาก่อน ไม่งั้นเป็นครูเป็นศิษย์กันไม่ได้หรอก…

    นี่ท่านพูดกับใครเนี่ย ? หนังสือกำลังเล่าถึงคำเทศน์ของท่านที่แสดงเทศนาที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อสามสิบปีที่แล้ว ยิ่งอ่านยิ่งเข้าตัวเอง

    **********

    หลวงพ่อท่าน ท่านเล่าถึงสมัยที่ท่านบวชใหม่ ๆ การเมืองไทยก็มีปัญหา แล้วทั้งฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ก็พยามอยากให้พระสงฆ์เป็นพวก ท่านก็ถามอาจารย์ของท่านว่า ควรทำตัวอย่างไร อยู่ข้างไหน พระอาจารย์ท่านก็ตอบว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว หากทุกคนที่อยากจะช่วย เลิกจับผิดคนอื่น หยุด แล้วมองตัวเองว่า วันนี้เราทำดีหรือยัง เราดีพร้อมแล้วหรือ เราสำเร็จโสดาบันหรือยัง ถ้ายัง เรามีอะไรเหนือกว่าคนอื่นหรือ โสดาบันก็ยังเป็นรองพระสกิทาคามี ฉะนั้น แม้แต่โสดาบัน ก็วิจารณ์จับผิดคนอื่นไม่ได้ เพราะจะพลาดไปโดนพระสกิทาคามีเข้าโดยไม่รู้ตัว ส่วนพระสกิทาคามีก็ยังด้อยกว่าพระอนาคามี พระอนาคามี ยังด้อยกว่าพระอรหันต์ พระอรหันต์ธรรมดา ก็ด้อยกว่าพระอรหันต์วิชชาสาม พระอรหันต์วิชชาสามด้อยกว่าพระอรหันต์วิชชาหก พระอรหันต์วิชชาหกด้อยกว่าพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาน…”

    “พระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาน ด้อยกว่าพระอัครสาวกเบื้องซ้าย พระอัครสาวกเบื้องซ้าย ด้อยกว่าพระอัครสาวกเบื้องขวา พระอัครสาวกเบื้องขวา ด้อยกว่าพระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้าด้อยกว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า”

    “…พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ก็ยังด้อยกว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม องค์แรกของโลก ฉะนั้น ถ้าใครคนหนึ่งในจักรวาลนี้ ที่จะมีสิทธิ์ตำหนิคนอื่นว่าเลว ผู้นั้นก็น่าจะเป็นสมเด็จองค์ปฐมท่านเดียวเท่านั้น”

    “พอท่านได้ฟังตามนั้น ท่านก็เข้าใจเลย ต่อมาใครมาถามว่าฝ่ายไหนผิดฝ่ายไหนถูก ท่านไม่ตอบ ท่านบอกไปว่า ตัวท่านเองยังดีไม่พอ ฉะนั้น ท่านไม่มีเวลาไปสนใจคนอื่น เวลาที่มีคือ ทำตัวเองให้พ้นทุกข์ หากต้องการรู้จริงว่าใครผิดใครถูก ให้ไปถามสมเด็จองค์ปฐมกันเอง….”

    (ความหัศจรรย์พลังจิต-มูลนิธิไส บาบา จัดให้มีนั่งสมาธิหมู่ที่นิวยอร์ค เพียงชั่วพริบตาคดีอาชญากรรมของนิวยอร์คลดลิ่ว คือลดลงอย่างผิดปกติ (ปกติเค้าจี้ปล้นทุกซอกตึก) และได้มีการประชุมสมาธินานาชาติที่เมืองๆหนึ่ง- ทันที่ที่เริ่มทำ (ตามแบบใครแบบมัน) สถิติอาชญากรรมดิ่งจนลดเหลือศูนย์ พอหยุดทำก็พุ่งขึ้นสูระดับเดิม--มีบันทึกไว้เป็นกราฟอย่างชัดเจน--)

    มาร์ติน วีลเลอร์ ฝรั่งหัวใจไทย

    มาร์ติน วีลเลอร์ ฝรั่งหัวใจไทย

    วินโดวส์ล่มครับ ลงใหม่4 ครั้ง เพิ่งพอใช้ได้หละครับ
    --วิธีใช้ และสร้างเพนดูลั่ม ได้มาแล้วครับ อุปกรณ์สำคัญที่สุด คือจิต--การฝึกจิต ต้องวางเป็นแนวของอุเบกขา
    --แต่มีอันตรายอย่างมาก ในสิ่งที่มองไม่เห็น แล้วจะบอกวิธีแก้ให้ครับ

    -เพนดูลั่ม จะใช้สิ่งใดก้ได้ เช่น คลิปหนีบกระดาษ แว่นตา ก้อนหิน หรือสร้อยล็อกเก็ต สำคัญอยู่ที่ผู้ใช้ -ต้องพยายามฝึกจิตให้ได้ดีพอ ถึงขั้นรวมจิตได้ และวางจิตไว้ในลักษณะอุเบกขา

    --การใช้งาน ควรจะพูดออกมา บอกรายละเอียดว่า ถ้า"ถูกต้อง" ก็ให้วนตามเข็มนาฬิกา-- ถ้าผิดให้วนทวนเข็ม -- บอกให้ชัดเจน เพราะเราใช้จิตใต้สำนึกทำงาน

    --สิ่งที่สำคัญยิ่ง ควรระวัง ในการรักษาโรคให้ผู้อื่น ส่วนใหญ่จะเป็นโรคจากกรรมเก่า หรือเวรกรรมนะแหละ ให้ท่านเตรียมใจว่า จะโดนเจ้ากรรมนายเวรมาเกาะแทน หรือท่านจะได้รับเวรกรรมแทนเขานั่นเอง ---ต้องหาวิธีป้องกัน เช่น สวดมนต์ อธิษฐาน หรือ พูดกับเจ้ากรรมเขา หรือว่าสร้างเกราะ เช่นเนรมิต(สร้างภาพในจิต)ให้เห็นพระพุทธรูปสีทองมีรัศมีสวยงาม ใหญ่กว่าร่างเราเล็กน้อย ให้พระพุทธรูปนั้นกลวง และนำมาสวมเข้ากับร่างเรา เพื่อเป็นการปกป้องพลังที่ไม่ดี

    ---ไม่ทราบว่าผมพูดหรือยัง เรื่องสมาชิกหรือผู้อ่านทั้งหลายที่ชอบไปสะเดาะเคราะห์ตามวัด ท่านกำลังเอากรรมเก่าไปฝากกับพระ แล้วท่านก็ได้รับในสิ่งที่ตรงข้ามกับบุญอย่างมาก---พี่สาวเล่าว่า มีคนมาสะเดาะเคราะกับหลวงปูๆ บอกลูกศิษย์ว่าให้เขากลับไป เพราะ "หลวงปู่ไม่ไหวแล้ว แก่แล้ว ไม่สามารถจะรับกรรมแทนใครได้อีกแล้ว"
    นอกจากการเจริญพุทธมนต์เพื่อเป็นสิริมงคล การสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา นับว่า เป็นการแอ๊พพลาย(ประยุกต์)เอาพุทธธรรมมารับใช้ความจำเป็น--ความทุกข์ส่วนตัว ซึ่งมีมาตอนหลังๆแล้ว--เราชาวพุทธควรพิจารณาให้จงหนัก

    ---ตัวอย่างเช่นท่านไส บาบา มีหลายครั้งมาก ที่ช่วยลูกศิษย์ โดยต้องรับกรรมแทน (แม้จะเป็นระดับอาจารย์ใหญ่ของเทพ--หรือพระศรีอารย์) ลูกศิษย์ต้องหลั่งน้ำตา เมื่อท่านเป็นทั้งโรคหัวใจ ขาพิการ อัมพาตครึ่งซีก หน้าตาบิดเบี้ยว พร้อมกัน และเป็นอยู่หลายวัน โดยไม่ให้หมอทำการรักษาแต่อย่างใด มีครั้งหนึ่งท่านเปิดเสื้อให้ดูด้านหลัง ทุกคนก็ตกใจ เพราะมีรอยยางงรถยนต์ชัดเจน ใครทำร้ายท่าน ท่านถามว่า "ก่อนที่จะมาถึงนี่ คนขับรถได้ขับรถทับงูตัวหนึ่งใช่ไหม--ฉันได้รับความเจ็บปวดของงูนั้นมาเสียเอง" บางครอบครัวเตรียมอาหารไว้บูชาท่าน พอดีมีหมาดำมาจากไหนก็ไม่รู้มากินอาหาร พวกเขาก็ไล่ตีหมาตัวนั้นออกไป พอพบกับท่าน ท่านว่า "เธอเอาอาหารให้ฉัน ฉันก็ไปกิน เธอยังเอาไม้มาตีฉันเสียอีก" เป็นตัวอย่างว่า พระเจ้าก็อยู่ในสรรพสิ่ง ไม่ได้อยู่บนแท่นบูชาเสมอไปนะครับ

    -------------------------------------------
    มุมมอง จุดอ่อน – จุดแข็งของคนไทย
    --จากแนวคิดของ มาร์ติน วีลเลอร์
    ---------จุดอ่อนของคนไทย ในความคิดของวีลเลอร์ เขามองว่าคนไทยส่วนมากยังไม่เข้าใจระบบทุนนิยม เพราะเห็นฝรั่งที่ไหนก็คิดว่ารวยหมด คิดว่าการพัฒนาในระบบทุนนิยมจะทำให้ทุกคนมีเงิน อาจเพราะไม่เข้าใจว่าประเทศที่พัฒนาระบบทุนนิยมนานแล้ว เช่น อังกฤษ, สหรัฐ ฯลฯ มีปัญหาเยอะมาก แต่คนไทยก็คิดว่าเมืองนอกดีกว่า อันนี้เป็นจุดอ่อน คือคนไทยสนใจเมืองนอก ไม่ได้สนใจประเทศไทย และที่ทุกคนฟังแนวคิดของพวกเขา เพราะเขาเป็นฝรั่ง ถ้าเป็นชาวบ้านทั่วไป คนก็จะไม่สนใจ อันนี้เป็นจุดอ่อน

    และปัญหาของใกล้ตัวที่เขาสัมผัสได้ จากคนอีสานนั้น คือเรื่องของการศึกษา คนอีสานส่วนมากไม่อยากให้ลูกเป็นคนอีสาน ไม่อยากให้ลูกเป็นคนบ้านนอก ไม่อยากให้ลูกพูดภาษาอีสาน ชาวบ้านส่วนมากคิดอยากให้ลูกได้ดีในชีวิต คิดว่าสิ่งที่ดีในชีวิตของลูกคือ...


    1. ไม่ได้พูดอีสาน พูดแต่ภาษากลาง

    2. พูดภาษาอังกฤษด้วย

    3. เล่นคอมพิวเตอร์ได้

    4. ไปอยู่ในเมือง

    5. ไปรับจ้างเขา

    6. ไปสร้าง หนี้สิน ไปซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ ราคา 2-3 ล้านบาท


    ที่กล่าวมานี้ คนอีสานมักคิดว่าลูกของเขาได้ดี ซึ่งในมุมของวีลเลอร์ เขากลับไม่เห็นด้วย เพราะเขาเองก็อยากให้ลูกได้ดีเหมือนกัน แต่ภาษาอังกฤษไม่ใช่ปัจจัยที่จะช่วยให้เขามีชีวิตที่ดี อาจจะเอาไปแลกเงินในบางช่วงได้ แต่ชีวิตน่าจะมีไว้เพื่อหาสิ่งที่ไม่ใช่เงิน

    "ถ้าเขาเรียนรู้เพื่ออยากจะหาเงินอย่างเดียวก็น่าเสียใจนะ เพราะความรู้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่การเรียนรู้เป็นสิ่งที่เราต้องทำ ทุกวันตลอดชีวิต เราหยุดเรียนรู้ไม่ได้ แต่เราไม่น่าจะเรียนเพื่อเอาความรู้ เอาปริญญา ไปแลกกับเงิน ทำให้ความรู้ไม่มีคุณค่า"


    จุดแข็งของคนไทย
    ส่วนจุดแข็งของคนไทย คือ "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" วีลเลอร์ บอกว่าคนไทยน่าอิจฉาที่มีแผ่นดินอุดมสมบูรณ์มาก ๆ มีดินเยอะ น้ำเยอะ แสงแดดเยอะ ทำเกษตรได้สบาย และยังโชคดีมาก ๆ ที่มี ใ น ห ล ว ง เป็นผู้นำ พระองค์ท่านเป็นคนที่ทำงานหนักมาก เพื่อช่วยให้คนคิดได้ ช่วยให้คนอยู่ได้ จะหากษัตริย์ในประเทศอื่นไม่ค่อยมีแบบนี้
    -----------------------------------
    ครับเจ๊ ... ผมรีบโทรถามพี่สาวผม เมล์มันช้า ไม่ทันใจ แต่แกไม่เปิดโทรศัพท์ ปรากฏว่าไปสอนโยคะทีโรงแรมหรูในตัวเมืองพัทยา

    --สอนฟรี แต่ทางโรงแรมก็ให้เรียนโยคะฟรี ก็ได้เจอพวกฝรั่งไฮโซหน่อย อาชีพจริงของเธอก็เป็น อจซมหาวิทยาลัยนานาชาติ เป็นดร.ทางเคมี เคยเป็น ผอ.สถาบันอัญญมณีศาสตร์ประเทศไทย..มีความรู้เยอะ แต่ไม่ได้เป็นบ้าเพราะ แก้ด้วยการทำสมาธิ<!-- End main-->

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="50%" colSpan=3>Create Date : 19 พฤศจิกายน 2554</TD></TR><TR><TD width="50%">Last Update : 19 พฤศจิกายน 2554 1:31:56 น. </TD><TD></TD><TD align=right>0 comments </TD></TR><TR><TD>Counter : 112 Pageviews. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    แผนไทย-วิถีพุทธ-มาเจอแพทย์รวมมิตรวิทยา(ทุกคน"ควรต้องอ่าน")

    <!-- Main -->
    --สองเรื่องแรกเขียนไปแล้วครับ โดนด่ามาอานเลย เพราะหลายๆคนคิดว่า รู้มากกว่าผม

    --ผมรู้แล้วหละ ว่า แนวคิดต่างๆ ไม่ค่อยมีใครสนใจอ่าน หรือวิเคราะห์ หรือเชื่อ เพราะว่า ผมเป็นคนไทย ไงครับ ตั้งแต่แรกเห็นเลย--ถ้าคิดอย่างนั้นผมก็คงไม่ใช่คนไทยครับ เป็นพม่าผสมกะเหรี่ยงครับ ท่านอาจจะเชื่อมั่นผมได้มากขึ้น</B> นะครับ

    --</B>มาร์ติน วีลเลอร์ ฝรั่งหัวใจไทย ได้ชี้จุดแข็งและจุดอ่อนของคนไทย เขาบอกว่า มีคนเชื่อตั้งแต่ยังไม่ได้อ่าน -- ก็เพราะเค้าเป็นฝรั่ง ดังนั้น การดูถูกคนไทย ความคิด วัฒนธรรม ศาสนา ประเพณี ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็คือการดูถูกตัวเอง</B>นะครับ

    --แต่เรื่องแพทย์ของเบื้องบน ผ่านร่างทรงมา พวกท่านจะมาเก่งกว่าผมในเรื่องนี้ไม่ได้ บางท่านอาจเรียนแพทย์แผนไทยมา ก็ขอให้ไปเก่งที่อื่น เพราสาขาวิชาทรงเจ้านี้ผมผูกขาด ขอเก่งกว่าละกัน

    --บางท่านอาจเรียนวิทยาศาสตร์ ผมก็จบวิทยาศาสตร์--อิเลคทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ ก็ชำนาญมาก

    --บางท่านอาจคิดว่าตนเองเก่งไสยศาสตร์ เรื่องลี้ลับ ยันธรรมมะ --ศาสนาต่างๆ ผมก็เก่งเรื่องพวกนี้เหมือนกัน ศึกษาปฏิบัติมาแล้วหลายศาสนา พุทธธรรมก็เรียกว่า เคี้ยวผมไม่อร่อยก้แล้วกัน

    --ทุกสิ่งในโลกวัตถุของพวกคุณ จะมีฉายา หรือเรียกว่า ภาพฉาย พูดง่ายก็วิญญาณ เช่น ทำทานให้คนตาย เขาไม่ได้มากินกับข้าว แต่มากินเอา รส--หริอ โอชะ หรือกิน"วิญญาณ"-Essence-สาระ- ของสิ่งนั้น

    --ขอตบหน้านักวิทยาศาสตร์จ๋าๆ ด้วยคำว่า "ฤาษีนุ่งหนังเสือ นั่งสมาธิบนหนังหมี เป็นวิทยาศาตร์ล้วนๆ"-- หนังสัตว์ หรือพรม-อาสนะพระ อาจมีมาเพราะความเชื่อ แต่มันคือฉนวนทางไฟฟ้าไหม สิ่งที่เกิดจากการนั่งสมาธิ ก็คือการใช้ร่างกายเหมือนปิรามิด --เหมือนจานดาวเทียมรับพลังงานจากอวกาศ ซึ่ง พลังงานเหล่านี้ ทำตัวเหมือน ไฟฟ้าสถิต หรือประจุไฟฟ้า วิธีที่ทำให้มันไม่ไหลลงดิน ก็ต้องกั้นด้วยฉนวนไฟฟ้า ก็ถึงบอกว่า เป็นเทคโนโลยี่โบราณ ซึ่งไม่ได้มาจากไหนเลย มาจากมิติอื่น โลกอื่น และมาทีเป็นห้องสมุดเลย

    ----เป็นองค์ความรู้ แต่ยุคนั้นเขาไม่รู้จะบอกกับมนุษย์ผู้หยิ่งยะโสยังไง ก็เลยบอกว่า เป็นพิธีกรรมนะ-- มันขลังดีนะ--อืม--แล้วทำไมต้องมีสายสิญจน์--(ซึ่งก็ถ่ายทอดพลังได้เหมือนสายไฟฟ้า)

    ---- พระสวด มีความขลัง มีพลังที่คล้ายพลังจิต--พลังปราณ ไม่ยอมให้ไหลลงดิน แต่ต้อนพลังมาทางสายสิญจน์ พอจะเข้าใจอะไรได้ละยัง นี่มันเทคโนโลยี่ทางจิตนะ ไม่ใช่การลองผิดลองถูกหรือมั่วมา--และไม่ใช่ความงมงายอีกด้วย

    --หากอยากรู้-- ก็เทน้ำในแก้วของคุณออกอย่าให้มันล้นถ้วย แล้วมานั่งฟังกันดีๆ หาก้อนกรวดมาหนึ่งก้อน ผูกเชือกมาทำเป็นลูกตุ้ม
    อยากรู้อะไร ลูกตุ้มอันนี้ตอบได้ เพราะมันทำงานด้วยพลังจิต--ของใครง่ะ--ก็ของตัวคุณเอง น่ะซี

    ---บางคนคิดว่า "อิท อิส อะ ไม้ทิ่มผี"- ไม้หาหลุมศพ -ล้างป่าช้า

    ---แต่อะไรที่มันทำงานได้ ก็คือของจริง(แมวดี จะสีอะไรก็ได้ ถ้าจับหนูได้ ก็เป็นแมวที่เวิร์ค) ดี และมีประโยชน์ ----แม้จะคิดว่า จีที200 เป็นของหลอกขาย แต่ต้องคิดว่า--มันทำมาผิดรูปแบบ--ผิดแบบแผน
    1 มันไม่ใช่ไม้
    2 ไม่มีง่าม
    3. ส่วนสิ่งที่ประยุกต์มาจากไม้ง่าม คือแท่งโลหะตัน รูปตัวแอล 2อัน--ส่วนจีที200 มันประหยัด ทำเป็นกลวงๆ และมีอันเดียว ขายตั้งล้านกว่าบาท น่าตื้บมาก

    -----เป็นอันว่าเราไม่ต้องมีแท่งโลหะ หรือไม้ง่ามกิ่งวิลโล่ว์ แต่ก็ใช้ลูกตุ้มนี่ ทำงานได้เหมือนกัน จะหาหัวรบปรมาณูใต้ดิน ขุมทรัพย์หรือตาน้ำ ก็เกว่งหาบนแผนที่ก็ได้ ถ้าเป็นเทคโนโลยี่ที่งี่เง่า ไม่เวิร์ค กองทพสหรัฐ คงไม่เอาไปใช้ นี่เอาไปใช้จริง ในสนามรบจริงๆ ภายใต้ความกดดันทางอารมณ์อย่างหนัก แต่มันก็เวิร์ค

    ---สนามพลังในสิ่งแวดล้อมชนิดนี้--เราจะขอเรียกว่า "สนามโดว์ซิ่ง" สิ่งที่กระทำ คือการตรวจหาสนามนี้ในจุดที่แรง -- ก็คือการปฏิสัมพันธ์ของร่างกาย (คือสนามพลังปราณ หรือพลังจิต-พลังชีวิต) ซึ่งมีปฏิกิริยากับสนามโดว์ซิ่งเกิดเป็น"แรง"ขึ้นมา ถ้าเป็นไม้ มันจะดิ้น เป็นแท่งโลหะจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ไขว้กันเอง เป็นลูกตุ้มก็จะแกว่งวนอย่างรุนแรง จะทวนหรือตามเข็มนาฬิกาก็แล้วแต่พลังเป็นบวกหรือลบ

    --คุณ สุธิธรรม คำพา เป็นนักธรรมชาติบำบัด ไม่เก่งอะไร ก็คือรักษาตัวเอง
    หลังก็มาลองเล่น เพนดูลั่ม--ลูกตุ้ม แบบนี้ และยังไปศักษาเรื่องมโนมยิทธิ ของพ่อฤาษีลิงดำ ทดลองอะไรต่างๆทั้งยาสมัยใหม่กับตัวเอง จนมีความรู้ระบบร่างกาย โรคต่างๆ เข้าใจกลไกของมัน เพราะถามกับเจ้าลูกตุ้มนี่ ซึ่งมันก็บอกดี บอกถูก จนมีบทสรุปสำหรับโรคต่างๆ แบบผู้มีดวงตาเห็นธรรม -- แจ่มแจ้ง ชัดเจน

    --แต่ก็ยังมีความเจ็บป่วยที่อาสากันมาอยู่กะเขาอีก พอเขาได้พบร่างทรงท่านหนึ่ง ก็เลยถาม เทวดา(ที่เคยเป็นกษัตริย์ขอม) บอกว่า เขาไปรักษาผู้อื่น เจ้ากรรมนานเวรเห็นว่าเขา "เสือก" ไม่เข้าเรื่อง จึงพาเอาโรคมาอยู่กับเขาเสียเอง เป็นความรู้ใหม่ ที่แพทย์สมัยใหม่ มิอาจจะ"เสือก"(บังอาจ)ไปทราบได้ เพราะมันเกินหลักการแพทย์สมัยใหม่ จึงกล่าวได้ว่า เขาวิ่งไกลไปเกินแพทย์สมัยใหม่ไปไกลแล้ว--และทุกก้าวที่ไกลออกไป ก็คือ "ความสำเร็จทั้งสิ้น"

    --เพราะมีการรวบรวมความรู้ทุกๆศาสตร์ที่มี ทดลอง ทบทวน แก้ไข จนเรียกได้ว่า "สมบูรณ์แบบ" และยากที่จะเลียนแบบ เพราะนี่ คือองค์ความรู้แบบไทยๆ--และองค์ความรู้นี้มีมาก มีมานาน และแพทย์แผนไทยนี้ ดีที่สุดในโลก ครับผม

    --ได้มีการเดินทางไปเยี่ยม สำรวจ หมอพื้นบ้าน เยอรมัน จีน ทิเบต ไทย ของไทย ดีที่สุดในโลกครับผม

    --รอการดาวน์โหลด เอกสารด้วยนะครับ หลายสิบหน้า หรืออ่านภาค 2 ต่อ

    หมอเถื่อน
    “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้เทศน์ให้ฟังว่า...
    ...ตั้งแต่ก่อนปีพ.ศ.สองพันห้าร้อย เป็นต้นมา คนที่มีอภิญญาสะสมในอดีตได้มาเกิดในโลกนี้จำนวนมาก อาจจะเรียกได้ว่า เป็นยุคของอภิญญา เริ่มด้วยเศษอภิญญาเล็กน้อย คนเหล่านี้จะมีความสามารถทางจิต มีลางสังหรณ์ สนใจในเรื่องลี้ลับ ติดต่อกับสิ่งที่มองไม่เห็น ต่อมาตั้งแต่ปีสองพันห้าร้อยยี่สิบเป็นต้นมา กลุ่มที่เคยสะสมอภิญญาใหญ่ก็ได้มาเกิดเป็นจำนวนมากขึ้น
    ---อภิญญาใหญ่ คือ มีความสามารถเทียบเคียงอภิญญาหก แสดงอิทธิฤทธิ์ได้
    คนเหล่านี้มาเกิดในทุกประเทศ ฆราวาสธรรมดาหลายท่านจะมีความรู้อภิญญามากกว่าสมณเพศ ฆราวาสที่ได้ฌาณสมาบัติจะมีดาษดื่นอยู่ทั่วไป เมื่อพวกเขาโตขึ้นมา เขาก็จะศึกษาค้นคว้า และ ปฏิบัติทางด้านอภิญญาเพื่อต่อยอดจากของเดิมที่สะสมมาแต่ในอดีต แต่คงจะไม่มีประเทศใดในโลกนี้อีกแล้ว ที่เป็นที่รองรับของเหล่าคนสะสมอภิญญาได้มากเท่าประเทศไทย เพราะ ในอดีต คนที่สั่งสอนอภิญญาให้กับพวกเขาเหล่านั้น คือ พระอริยสงฆ์ทรงอภิญญาในศาสนาพุทธ เมื่อเคยได้ผูกพันในศาสนาพุทธแล้ว พวกเขาเหล่านั้นก็จะมาเกิดในดินแดนที่ศาสนาพุทธเจริญรุ่งเรืองที่สุด
    บัดนี้ เวลาได้ผ่านจากปีพอศอสองพันห้าร้อยมาห้าสิบกว่าปี คนเหล่านี้เริ่มมีอายุอยู่ในวัยที่มีบทบาททางสังคม เราจึงไม่แปลกใจเมื่อเห็นว่าโลกยุคใหม่ที่ล้ำหน้าในเรื่องเทคโนโลยี แต่กลับมีชาวโลกจำนวนเพิ่มมากขึ้นที่สนใจทางด้านพลังจิต สิ่งลี้ลับ วิญญาณ เรื่องเหนือธรรมชาติ โทรทัศน์จะมีรายการประเภทนี้เพิ่มมากขึ้น มากขึ้น เพราะกลุ่มคนที่มีอภิญญาสะสมมาก่อนอยู่แล้ว เขาเองได้เคยปรารถนาอภิญญาสมาบัติไว้ในอดีต ถึงแม้จะจำความไม่ได้ แต่เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ผลบุญเก่าที่สะสมก็จะเอื้อให้คนเหล่านี้ มีความสามารถพิเศษได้ง่ายกว่าคนอื่น สนใจติดตามเรื่องของอภิญญา และ เผยแพร่เรื่องราวเหล่านี้ด้วยตนเอง โดยไม่มีใครบังคับ
    การได้ตาทิพย์ ระลึกชาติ พูดคุยกับวิญญาณ และ เทวดา ติดต่อกับสิ่งที่มองไม่เห็น จะเป็นแนวโน้มที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ แต่ทุกคนจะรู้ หรือ ไม่รู้ ก็ตาม สุดท้าย ก็จะนำความสามารถนั้นเพื่อก้าวข้ามขั้นไปค้นพบอาสวักขยญาณ… ญาณที่ตัดอาสวะกิเลสได้เป็นสมุทเฉทปหานได้เร็วกว่าผู้อื่น
    ----------------------------------------------
    ี้ เขาเอาลูกดิ่งตรวจที่รูปของหนู เค้าบอกว่าอาการที่หนูเป็นน่ะ โลหิตจาง เพราะมีพยาธิ”หมอบอกว่าให้ถ่ายพยาธิสี่วันติดกัน แล้วอาการจะดีขึ้น เรื่องอื่นอยากให้เจอตัวค่อยตรวจจะตรงกว่า เค้าว่างี้นะ”
    “พยาธิเหรอ ? อือ… แก้วก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อน แก้วจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ถ่ายพยาธิเป็นสิบปีแล้วหรือเปล่าไม่รู้”
    “ไม่เคยเลยหนู แม่ไม่เคยให้หนูถ่ายพยาธิเลย หมอบอกว่าคนไทยน่ะ ติดพยาธิเป็นปกติ ถ่ายออกไป ไม่ถึงเดือน ก็ติดพยาธิอีกแล้ว มันอยู่ในอาหาร อากาศ แล้วก็พวกหมาแมวแถว ๆ บ้าน เวลาถ่ายออกมา แห้งแล้วไข่พยาธิก็ปลิวในอากาศ”
    “ค่ะ แต่หมอยังไม่ได้เจอแก้ว หมอรู้ได้ยังไงว่าแก้วมีพยาธิ หรือว่า เป็นหลักสถิติ ?”
    “หมอใช้ลูกดิ่งน่ะ แก้วต้องเห็นเอง แม่อธิบายไม่ถูกหรอก ไม่ต้องเจอตัว ตรวจผ่านรูปภาพได้”
    ไม่ใช่เรื่องขี้ ๆ !!! อุจจาระตกค้าง
    อาการ - เจ็บแปลบ ๆ ที่บั้นท้าย กับ หัวไหล่ มีอาการมา 3-4 วันแล้ว
    เป็นเพราะกินอาหารผิดเวลาหรือเปล่า ?”
    เปล่า กินตรงเวลา
    เช็คด้วยลูกดิ่ง - “เอาล่ะ...เธอไม่ได้เป็นไรมากหรอก ไอ้ที่ปวด ๆ นั่นไม่ใช่ท้อง ไม่ใช่เจ็บกล้ามเนื้อหรอก เธอน่ะ เป็นโรคขี้ขึ้นสมอง” “อุจจาระตกค้าง มันเบียดกระดูกเอว ทำให้กระดูกเอวเคลื่อน ไอ้ที่ปวด ๆ นั่นแหละ เพราะกระดูกเอวเคลื่อน... แล้วถ้าปล่อยไว้ ไม่เอาอึออก มันจะเริ่มปวดส่วนอื่น เช่น ตึงตามเส้น” แล้วก็อาจจะปวดหัวไหล่ สะบัก”“ นี่เป็นอาการปกติของอุจจาระตกค้าง”
    “ชั้นถ่ายทุกวัน มันจะค้างได้ไง ?”
    “ถ่ายทุกวัน ก็ค้างได้ เธอถ่ายกี่โมง ?”
    “ก็... ถ่ายประมาณเก้าโมงกว่า ทุกวัน”
    ถ่ายเก้าโมงตกค้างแน่นอน ลำไส้ใหญ่ของคนเรา ไม่ได้ทำงานเวลานั้น มันทำงานเวลาตีห้าถึงเจ็ดโมงเช้า สายกว่านั้นมันก็พักของมันแล้ว…
    น้ำหนักตัวที่เกินจากปกติก็เกิดจากอุจจาระตกค้าง เธอนึกถึงท่อเหล็กนะ ท่อตรง ๆ ถ้าเราเอาของเหลวบ้าง ข้นบ้าง ใส่ไปทางด้านนึง ยัด ๆ มันเข้าไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็ล้นออกทางปลาย ใช่ปะ ?” “เธอจะยัดอะไรไปเท่าไหร่ เดี๋ยวมันก็ล้นออกทางปลายเท่านั้นแหละ เพราะมันเข้าไปแทนที่กันได้เลย... คราวนี้ เปลี่ยนใหม่ ถ้ามันไม่ใช่ท่อเหล็ก แต่มันเป็นท่อยาง แล้วท่อยางนี้ ปากทางเข้าน่ะ เล็ก แต่พอเลยปากทางเข้าไปแล้ว มันใหญ่ขึ้น แล้วพับไป พับมา ขดไป ขดมา แล้วปลายท่อน่ะ ก็เป็นทางออกที่เล็กกว่าทางเข้าซะอีก นึกออกแล้วนะ”
    “เธอกำลังหมายถึงลำไส้เหรอ ?”
    “ไอ้ท่อยางที่บอกเนี่ย มันต่างจากท่อเหล็กมากเลย สมมุติว่าเราค่อย ๆ ยัดของข้น ๆ เข้าไป เช่นน้ำมันพืช แล้วก็มีของเหนียว ๆ เช่น น้ำของราดหน้า แล้วก็ใส่ของอื่น ๆ เข้าไป แทนที่พอมันเต็มแล้ว ยัดเข้าไป มันก็น่าจะล้นออกมาเท่าที่เรายัด แต่เปล่า ยัดเข้าไปเพียบ แต่มันล้นออกมาหน่อยเดียว เพราะของที่มันข้น ๆ น่ะ มันไปติดอยู่ตามซอกพับของยาง ซึ่งยาง คุณสมบัติมันคือยืดหยุ่นได้ มันก็เลยกักไอ้ของข้น ๆ เหนียว ๆ ไว้ แล้วยางมันก็ย้วย น้ำหนักมากขึ้น คราวนี้ พอเรายัดของใหม่เข้าไป มันไม่ไปดันของเก่าตามซอกหลืบออกมา มันดันเลยไปเลย แล้วออกมาโลด”
    “ของใหม่ออกมาเลย ?”
    “สมมุติวันนี้ เธอกินข้าวขาหมู แล้วก็ตามด้วยช็อคโกแล็ตเป็นของหวาน ไอ้หมูส่วนนึงกับช็อคโกแล็ตส่วนนึง มันก็เข้าไปติดในซอกหลืบของลำไส้น่ะ ต่อมา พรุ่งนี้ เธอกินผักสด เธอคิดว่า ไอ้ผักสดที่กินพรุ่งนี้น่ะ มันจะเข้าไปดันขาหมูกับช็อคโกแล็ตเมื่อวานออกมาปะ ?”
    “อือ ๆ มันไม่ออก เพราะของเก่ามันติดอยู่ในซอก ของใหม่ก็แซงมันออกมาเลย ใช่ปะ ?”
    “ลำไส้ของผู้หญิงน่ะ ยาวกว่าผู้ชายอีกหลายฟุตนะ ของผู้ชายยาวประมาณสามสิบฟุต”
    “ใช่ ลำไส้คนเรา ยาวกว่าความสูงของเราประมาณห้าถึงหกเท่า… ส่วนผู้หญิงน่ะ ลำไส้ต้องยาวกว่าชายเพราะต้องมาอุ้มมดลูกกับรังไข่ด้วย ของผู้ชายไม่ต้อง มีแค่ไข่สองใบ”
    (เพนดูลั่ม--- ก็แปลว่าลูกตุ้มนะครับ)

    “ไอ้ลำไส้ที่ยาว ๆ น่ะ มันกักเก็บของเก่าไว้ตามซอกหลืบเพียบ ของใหม่ยัดเข้าไป อันไหนที่มันเบา มันก็แซงออกมาเลย อันไหนที่มันหนัก มันก็ไปเกาะเพิ่ม ทำให้น้ำหนักของลำไส้ มากขึ้น ๆ ทุก ๆ วัน เต็มไปด้วยของเสียเน่าเหม็น เป็นแก๊สพิษหมุนเวียนในระบบเลือด แล้วเลือดเน่า ๆ มันก็วิ่งขึ้นสมอง ชั้นถึงเรียกว่าโรคขี้ขึ้นสมองไง คุณหมอพรทิพย์เคยเล่าว่า เวลาผ่าศพนะ บางศพเจอขี้หนักสิบกิโล”
    น้ำหนักของขี้ตกค้างเนี่ย มันก็ทำให้ลำไส้ย้วยไปกดทับอวัยวะอื่น ๆ ใกล้เคียง เช่น มดลูก ตับอ่อน กระดูกเอว กระเพาะปัสสาวะ”
    “ไม่ได้ล้อเล่นน่ะ บางคนมาให้ตรวจ เพราะเป็นเบาหวาน แต่ตรวจแล้วพบว่า ตับอ่อนทำงานผิดปกติเพราะอุจจาระตกค้างไปเบียด พอเอามันออก เบาหวานก็หาย”
    ไปจัดการกับขี้ตัวเองก่อนเถอะ ก่อนที่มันจะแผลงฤทธิ์เพิ่ม เป็นกรดไหลย้อนคราวนี้จะหนักกว่า”
    แล้วเรื่องแรกนะ เธอไปดูสูตรเม็ดแมงลักก่อน ว่าเธอทำได้มั้ย มันจะช่วยลากญาติของเธอออกมาก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน รีบทำซะ อย่ารอให้แก๊สพิษทำผิวพรรณเสียซะก่อน”

    กตัญญู ต้องมีใบอนุญาตด้วยหรือ ?
    คุณยายเป็นโลหิตจางนิดหน่อย เม็ดเลือดต่ำเล็กน้อย น้ำตาลในเลือดสูงไปบ้างไม่มาก อย่างอื่นก็ปกติ คุณยายเพลียมากก็ตามประสาคนมีอายุ
    -น้ำตาลสูงก็กินใบมะยม ถ้าติดเชื้อก็กินเม็ดมะรุม
    -เอาผลไม้มาฝากหวังว่าคุณย่าคงไม่ได้เป็นเยื่อหุ้มหัวใจ
    “ย่าน่ะ ฝ่ายกล้ามเนื้อหัวใจจ๊ะ จะกินผลไม้มากเท่าไหร่ก็ยังขาดโปตัสเซียม
    ผลจากลูกดิ่ง
    คุณย่ามีเม็ดเลือดแดงไม่ถึงสามลิตร โลหิตจางค่ะ เพราะมีพยาธิไส้เดือน
    พยาธิไส้เดือน ติดมาจากอาหาร เลยทำให้เพลีย ไม่มีแรง แล้วก็มีอุจจาระตกค้าง ใช้สูตรเม็ดแมงลักสองช้อนชา ทานไปเรื่อย ๆ ทุกวัน”
    น้ำตาลในเลือดสูงเพราะอุจจาระตกค้าง ไปเบียดตับอ่อน ”
    ท้องผูกเพราะพยาธิไส้เดือน พอทานยาถ่ายแล้ว ก็คงเป็นปกติ ถ้าอุจจาระตกค้างน่ะ มันก็จะมีผลต่อกล้ามเนื้อหัวใจ คนที่ท้องผูก ก็จะมีปัญหาหัวใจตาม ฉะนั้น หลังจากพยาธิหมดไปแล้ว ต้องทานผลไม้เยอะขึ้น ผลไม้ช่วยให้ถ่ายได้ง่ายขึ้น”
    ก่อนทานยาถ่ายพยาธิต้องอุทิสส่วนกุศลให้พยาธิก่อน “เคี้ยวยาให้ละเอียดแล้วค่อยกลืน
    ต้มชามะละกอ ทำกระชายปั่น กินทุกวัน
    เป็นเยื่อหุ้มหัวใจ ห้ามกินผลไม้”
    โอม... โรคนี้ จงสลายด้วยชามะละกอ !
    อาการ - นั่งรถนานไม่ได้ ปวดเอว เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบค่ะ ปวดเมื่อย แล้วก็ฉี่บ่อยมาก ปวดตามแนวบั้นท้ายขึ้นไปถึงหลังเอว แล้วลงมาที่น่อง ปวดหัวด้วย ”
    - อาการนี้คล้าย ๆ นิ่ว จะเมื่อยหลังมาก แล้วก็ฉี่บ่อย นอนไม่หลับ เป็นภูมิแพ้ด้วย ถ้าอาการหนักหน่อยจะเริ่มมีไข้”
    “นิ่วสมัยนี้ ไม่ได้เกิดจากน้ำสกปรกหรอก เกิดจากเรากินน้ำมันพืชตั้งแต่เกิด แล้วมันก็ไปเคลือบข้างในเราหมด จนน้ำที่กินเข้าไป มันแทรกเข้าตัวไม่ได้ ทำให้ถุงน้ำดีข้น เป็นก้อนนิ่ว น้ำที่เข้าไม่ได้ ก็เลยต้องให้ไตพามาส่งที่กระเพาะปัสสาวะ ก็เลยฉี่บ่อย”
    “มีอาการเหนื่อยด้วยหรือเปล่า? ”
    “ใช่ค่ะ ใช่ เหนื่อย ๆ เพลีย บางครั้งหายใจแล้วก็ปวดเอว”
    “ปวดหัวด้วยหรือเปล่าครับ ? ไมเกรน มีมั้ยครับ ?”
    “ค่ะ ปวดกระบอกตาด้วย”
    “ท้องอืด ไม่ค่อยย่อย ?”
    “ใช่เลยค่ะ”
    “มันก็อาจจะเป็นนิ่ว หรือ อาจจะเป็นอาการของเชื้อรา ยังไม่แน่ครับ”
    “นิ่ว เกิดจากอะไรคะ ?”
    “ก็ สองสามสาเหตุใหญ่ ๆ อย่างแรกคือ ดื่มน้ำน้อยเกินไป พอเวลาร่างกายต้องการน้ำ มันก็ไม่รู้จะไปเอาน้ำมาจากไหน มันก็เลยไปเอาน้ำมาจากถุงน้ำดี”
    “นิ่วในไต อันเดียวกันหรือเปล่าคะ ? ”
    “ไม่ใช่ครับ คนละอัน นิ่วในไตนั้น มาจากโปตัสเซียมเกาะตัวในไต เพราะทานผักสดผลไม้ เกินร่างกายต้องการ หรือ บางคนที่มีไขมันในเลือดสูง เยื่อหุ้มหัวใจผิดปกติ แล้วทานผลไม้เยอะ ก็ทำให้เกิดนิ่วในไตได้”
    “แล้วที่เป็นอยู่นี่ เป็นนิ่วที่ไหนคะ ?”
    “ผมไม่รู้หรอกครับ คือ ต้องตรวจด้วยลูกดิ่ง ต้องมาเจอตัว ถ้าไม่ได้เจอตัวก่อน ระหว่างนี้ถ้าจะให้สันนิษฐาน ก็เดาว่า เป็นนิ่วในถุงน้ำดี เพราะมีไขมันเกาะลำไส้ ทำให้ระบบดูดซึมเสีย เพราะอาการที่เล่ามา มันก็น่าจะใช่ ก็ใช้สูตรน้ำชาฮ่องเต้ก่อน”
    “ก้อ... เอางี้ ตอนนี้มีไข้ใช่มั้ย ? แถวนั้นมีเม็ดมะรุมมั้ยครับ ? ”
    “ไม่น่าจะมีนะคะ หาซื้อได้ที่ไหนคะ ? ”
    “ถ้าไม่มีก็ยากครับ อย่าไปหาซื้อเลย. งั้นก็...สงสัยต้องพึ่งยาฝรั่งแก้ไข้ไปก่อน”
    “น้ามีไอ้สมุนไพรกำจัดเชื้อราอยู่ในกระเป๋า อันนี้ลดไข้ได้ใช่หรือเปล่า ?”
    “เอาแทนเม็ดมะรุมไปก่อนได้เปล่า ?”
    “อ๋อ...อัลฟ่า ได้ ได้
    “ทานสมุนไพรแคปซูล ซักสองเม็ด แอลฟาเป็นสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาว มีฤทธิ์ลดไข้ เวลาเม็ดเลือดขาวเราแข็งแรง มันจะไปฆ่าเชื้ออื่น ๆ ด้วยตัวมันเอง ทานเข้าไปแล้วประมาณครึ่งชั่วโมง จะรู้สึกข้างในร้อนขึ้นนิดหน่อย ไม่ต้องตกใจ หลังจากนั้นจะสบายตัวขึ้น แต่นี่ก็แค่แก้เฉพาะหน้า ลดไข้ไปก่อน ส่วนจะไปล้างถุงน้ำดีก็ต้องสูตรชาฮ่องเต้”
    “สูตรชาฮ่องเต้นี่ล้างระบบดูดซึมได้เร็วที่สุด เอา รากหญ้าคา เก๋ากี๊ ดอกมะลิ เก๊กฮวย...”
    “จะไปซื้อรากหญ้าคาที่ไหนเล่า
    “’งั้นใช้สูตรชามะละกอ”
    “เอามะละกอดิบมา แบบที่ใช้ตำส้มตำ เอามาปอกเปลือก”
    “ปอกแล้ว ก็หั่นเป็นชิ้นเท่าฟัก อย่าซอยเป็นชิ้นเล็กนะครับ มันจะเละ”
    “หั่นมะละกอซักหก ถึง แปดชิ้น ใส่หม้อต้ม มะละกอดิบที่เหลือยังไม่ได้ใช้ ก็หั่นแล้ว เก็บไว้ในตู้เย็นใช้วันต่อ ๆ ไปได้นะครับ ต่อมาก็ ใส่น้ำประมาณสองลิตร แล้วใส่ดอกเก๊กฮวย หรือ ใบเตย อย่างใดอย่างหนึ่ง ต้มจนน้ำเดือด พอน้ำเดือด มะละกอจะลอย ให้ปิดไฟทันที”
    “แล้วก็ตักมะละกอทิ้งไป อย่าปล่อยไว้ ไม่งั้นกลิ่นมันจะเหม็น ต่อไปก็ หาใบชามา ชาอะไรก็ได้ ชาจีน ชาใบหม่อน หรือ ชาเขียว แต่ห้ามเป็นชาผง ใส่ใบชาในตะแกรง ลงไปแกว่งในหม้อนี้ ประมาณสามนาที อย่าเกินกว่านี้ ถ้าเกินกว่านี้ สารแทนนินในชาจะออกมา จะทำให้ท้องผูก แล้ว ก็นอนไม่หลับ”
    “ค่ะ สามนาที แล้วทิ้งใบชาใช่มั้ยคะ ? ”
    “ครับ น้ำที่ได้ เราเรียกว่า ชามะละกอ
    “น้ำชามะละกอเนี่ย เราก็เก็บไว้ดื่ม ควรจะดื่มวันละไม่ต่ำกว่าหนึ่งลิตร ที่เหลือเก็บไว้ในตู้เย็นได้สองวัน เกินกว่านั้น มันจะบูด”
    “ชานี้จะช่วยล้างไขมันหรือคะ ?”
    “ครับ ฤทธิ์ของยางมะละกอจะล้างไขมัน เก๊กฮวย หรือ ใบเตยจะบำรุงหัวใจไปด้วย คือ ถ้าเราใส่เฉพาะมะละกออย่างเดียว มันจะทำให้เราเพลีย เลยต้องใส่เก๊กฮวย หรือ ใบเตยไปด้วย แล้วใบชา ก็จะดับกลิ่นของมะละกอ”
    “สูตรนี้ดีมากนะ ทานไปประมาณสองอาทิตย์อาการก็เริ่มดีขึ้น ไม่ต้องไปผ่านิ่ว จะหายไปเอง”
    “มันสลายนิ่วได้ด้วยเหรอคะ ? ”
    “ชามะละกอไม่ได้เข้าไปสลายนิ่วโดยตรง แต่มันเข้าไปล้างไขมันให้หมด พอไขมันหมดจากลำไส้ น้ำที่เราดื่มเข้าไป มันก็สามารถซึมเข้าไปในถุงน้ำดี ทำให้ก้อนไขมันในนั้น เริ่มละลายออกมาทางฉี่”
    “เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
    ***************
    อดนอนเหรอวะ ?”
    “หือ เปล่าหนิ ทำไม ?”
    “ทำไมขอบตาดำขนาดนั้นวะ ?”
    รุ่งเดินกลับไปที่ห้องน้ำ เปิดไฟ แล้วส่องกระจก เขาเห็นรอยดำรอบ ๆ ขอบตาชัดเจน
    ทอมควักลูกดิ่งในกระเป๋ากางเกงออกมา เธอนั่งลงบนพื้นข้างเตียง แล้วเริ่มดิ่ง ไม่กี่วินาที เธอก็รู้ผล
    “รุ่ง แกมีพยาธิว่ะ แกตรวจบ้างหรือเปล่า ? ”
    “เหรอ เหรอ ? ... มิน่า มันเพลีย”
    “ก็คงพยาธิเล่นแกแหละ หมดพลังใช้ลูกดิ่ง”เลือดน้อยทำให้แกหงุดหงิดง่าย”
    ************
    คนที่เป็นโรคด่างขาวที่ผิวหนัง มันเป็นพยาธิผิวหนังชนิดหนึ่ง หมอแผนปัจจุบันจะบอกว่าเป็นเซลผิวหนังผิดปกติ ไม่ได้มีเชื้อโรค แต่ความจริงไม่ใช่ มันเป็นเชื้อโรคมาจากพยาธิ วิธีแก้ ดื่มน้ำมะเกลือ แต่หายากหน่อย หรือ ถามลูกดิ่งว่าทานเม็ดมะรุมกี่เม็ดกี่วัน แค่นี้เอง”
    ************
    ----มาแล้วครับ---------------บทความที่ว่า---อ่านต่อได้ที่ภาค 2ครับ-------------
    <!-- End main-->

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="50%" colSpan=3>Create Date : 18 พฤศจิกายน 2554</TD></TR><TR><TD width="50%">Last Update : 19 พฤศจิกายน 2554 1:04:44 น. </TD><TD></TD><TD align=right>3 comments </TD></TR><TR><TD>Counter : 102 Pageviews. </TD><TD></TD><TD align=right><TABLE border=0 align=right><TBODY><TR><TD></TD><TD><IFRAME style="POSITION: static; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; MARGIN: 0px; BORDER-LEFT-STYLE: none; WIDTH: 70px; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-RIGHT-STYLE: none; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=I1_1339266023001 title=+1 tabIndex=0 marginHeight=0 src="https://plusone.google.com/_/+1/fastbutton?bsv=pr&url=http%3A%2F%2Fwww.bloggang.com%2Fmainblog.php%3Fid%3Dsecret-world%26date%3D18-11-2011%26group%3D1%26gblog%3D243&size=small&count=true&origin=http%3A%2F%2Fwww.bloggang.com&hl=th&jsh=m%3B%2F_%2Fapps-static%2F_%2Fjs%2Fgapi%2F__features__%2Frt%3Dj%2Fver%3DUXMl-B7bp60.th.%2Fsv%3D1%2Fam%3D!PemfnfjrL2yI81ARQg%2Fd%3D1%2Frs%3DAItRSTOHsJJTeswEXIoNMQn26lie-9BgVQ#id=I1_1339266023001&parent=http%3A%2F%2Fwww.bloggang.com&rpctoken=707143967&_methods=onPlusOne%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe%2C_renderstart" frameBorder=0 width="100%" allowTransparency name=I1_1339266023001 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>

    </TD><TD>Add to [​IMG][​IMG][​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- <table width=100% border=0 cellspacing=0> <tr> <td>Counter : <script src='http://fastwebcounter.com/secure.php?s= bloggang3224333 '></script> Pageviews. </td> </tr> </table> --><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=2 cellSpacing=0 borderColor=white cellPadding=3 width="100%">
    <TBODY><TR><TD id=1><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%"></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- Comment 1-->อืม...
    <!-- End Comment 1-->

    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%">โดย: biocellulose [​IMG] วันที่: 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:18:09 น. </TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=2 cellSpacing=0 borderColor=white cellPadding=3 width="100%">
    <TBODY><TR><TD id=2><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%"></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- Comment 2-->กำลังเขียนอยู่ครับ ขอให้ท่านกลับมาโหลดเอกสารในรูปบทละครของท่านสุทธิธรรม มีสามชิ้น แต่เป็นเอกสารราว 50 หน้าครับผม
    ----จะเขียนเป็นหัวข้อ เรื่องลึกลับ ก็มีคนอ่านนิดเดียว ห้องศาสนา ก็ไม่ใช่ วิทยาศาสตร์ ก็ไม่เชิง ไสยศาสตร์ แพทยศาสตร์ก็ไม่ใช่อีก ก็เลยต้องเอาเข้าวิทยาศาสตร์ไว้ก่อน คนอ่านเยอะ-- โดนด่าเยอะแน่ --- แต่มันจะเป็นอะไรที่ร้อนแรงที่สุดในปีหน้าและอีกหลายร้อยปีต่อไป เพราะปัจจุบันแม้แต่คน กทม.มีคลีนิคหมอเยอะ-- แต่ผู้ติดน้ำท่วมก็ไม่สามารถออกไปหาหมอและยาได้ แถมยังขาดแคลนยา --อาหาร ก็ยิ่งขาดความแข็งแรงในร่างกาย ขาดการดูแลรักษา อยู่กับเชื้อโรค---ผมจึงอยากบอกว่า สิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น ก็ได้พบเจอ มนุษย์ปัจจุบันเคยสะดวกทุกอย่าง แต่กลายเป็นเศรษฐีที่ไม่มีน้ำดื่ม ไม่มีไฟฟ้าใช้ --จนคำว่า รวย หรือมีเงิน กลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ไปชั่วขณะ

    <!-- End Comment 2-->

    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%">โดย: jesdath [​IMG] วันที่: 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:29:14 น. </TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=2 cellSpacing=0 borderColor=white cellPadding=3 width="100%">
    <TBODY><TR><TD id=3><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%"></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- Comment 3-->ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีนักวิทยาศาสตร์เข้ามาศึกษาเรื่องลี้ลับแบบนี้ เพราะทุกคนต่างลงความเห็นว่ากลุ่มคนที่มีญาณนี้ บ้าเป็นเรื่องเหลวไหลเพราะมันพิสูจน์ไม่ได้แต่อาศัยทางจิตเพ่งดูมันจึงเป็นปัจจัตตังที่รู้ได้เฉพาะตน ถ้าหากมีนักวิทยาศาตร์ ค้นคว้าแบบนี้ เรื่องดังกล่าวคงดูดีขึ้นนะจ๊ะพี่ขอเป็นกำลังใจ...
    ----ความเห็นจากพี่นุช หมอญาณทิพย์--คนฉายกรรม ปัจจุบันอยู่ที่อิตาลี่ ไปๆมาๆ เพราะช่วยสร้างวัดอยู่

    <!-- End Comment 3-->

    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%">โดย: jesdath [​IMG] วันที่: 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:54:27 น. </TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><FORM method=post name=reply action=http://www.bloggang.com/reply.php?id=secret-world><INPUT name=code value=u7dba50=9kiw?74h?0j-dyibfa03_?|=93pss3_k_fb3o1cffm81mu2pq5t3kl type=hidden>
    </FORM>
     
  7. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    การแพทย์แบบรวมมิตรวิทยา 2(ทุกคน"ควรต้องอ่าน")

    <!-- Main -->************
    อาการของพี่ชายผม เริ่มจากเมื่อเดือนกว่า ๆ มาแล้ว เขานอนไม่หลับ คงเพราะเครียดกับงาน ตอนแรกๆ ก็กว่าจะหลับได้ก็ตีสองตีสาม ต่อมาน้ำหนักเริ่มลดลง ทานอาหารได้น้อย แต่ที่หนักกว่านั้นคือนอนไม่ได้เลย คือ อยู่ยันสว่างติดกันสองสามคืน แล้วมาหลับเพราะเพลียมาก แต่หลับได้สักพัก ตื่นมาแล้วก็นอนไม่ได้อีก ตอนนั้นมาให้หมอตรวจ ก็พบว่าตับเริ่มเสื่อม หมอก็ให้ยามา แล้วก็ให้ทานน้ำหวานเพื่อทดแทนพลังงาน ตรวจปัสสาวะ ก็พบว่ามีไข่ขาวปน หมอก็จึงให้โด๊ปไข่ขาวเพิ่มเพื่อรักษาระดับโปรตีน ก็ทำตามทุกอย่าง อาการยิ่งหนักลง คือ ขอบตาดำ แล้วเท้าโต ที่มาเข้าโรงพยาบาลนี่เพราะมีอาการคล้ายโรคหัวใจ คือ ความดันต่ำ หายใจไม่ออก มีไข้ขึ้นสูงด้วย ก็เลยมาแอ๊ดมิดเมื่อคืน”
    “ผมก็ลองใช้ลูกดิ่งถาม เอารูปพี่ชายมาดิ่ง แล้วตั้งคำถามว่า ที่รักษาอยู่ปัจจุบันนี้ ถูกทางหรือไม่ ลูกดิ่งก็นิ่ง ถามใหม่ว่า ควรเปลี่ยนแนวทางการรักษาใช่หรือไม่ ลูกดิ่งก็หมุน ถามกี่ครั้งก็ให้คำตอบเหมือนกัน ผมตั้งคำถามแค่นี้นะ คือ ถามวิธีรักษาลึกไปกว่านี้เนี่ยคงไม่เป็น เพราะยังไม่ได้เรียน คือผมบอกได้เลยนะว่า ผมลังเล ตอนแรก ๆ ที่รู้ว่าพี่ชายผมอยู่ในมือหมอแล้ว ผมก็สบายใจ แต่ทำไมอาการทรุดลง ผมเริ่มคิดว่าเรามากันถูกทางหรือเปล่า แล้วพอมาถามลูกดิ่ง ก็ได้ผลแบบนี้ แต่ข้อมูลยังไม่ครบ คือ ไม่รักษาที่โรงพยาบาลน่ะ ก็ได้ แต่ถ้าเรายังไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร จะรักษาด้วยวิธีไหน ? ไปรักษากับใคร ? พี่ชายผมไม่ได้ดื่มเหล้า ถ้าแค่เครียดแค่นี้ ทำให้เป็นถึงขนาดนี้มันก็เกินไป

    “ตอนที่ผมอยู่ในห้องเรียน ผมรู้สึกว่าผมศรัทธาอาจารย์สุทธิวัสส์มาก ซึ่งปกติผมจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้ แต่ท่านนี่ถือว่าเป็นสุดยอดของครูจริงๆ ตอนที่ผมเดินออกไปให้ท่านตรวจ ท่านเอาลูกดิ่งจ่อมืออึดใจเดียว ท่านบอกเลยว่า คุณฉี่บ่อย มาจากเบาหวาน ให้ทานอบเชย แล้วผมมีสะเก็ดเลือดที่สมองส่วนหลัง ทำให้แขนขาไม่มีแรง เรื่องขานี่ ผมไม่เคยบอกใครเลย ผมชาปลายขามาเป็นปีแล้ว เคยเอ็กซเรย์แต่ไม่เจออะไรผิดปกติ ท่านอาจารย์ตรวจได้แม่นมาก ๆ ”
    ************

    สื่อสารกับเพนดูลัมไม่ได้
    “แฟนนี่สื่อสารกับเพนดูลั่มไม่ได้ ก็ดูเค้าเศร้า ๆ ไป เป็นอย่างนี้มาหลายวันแล้ว เหมือนกับหมดความมั่นใจในตัวเอง พี่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง เค้าเคยมีลูกดิ่งเป็นเพื่อนมานานพอสมควร จู่ ๆ ก็ขาดการติดต่อไปแบบนี้ ก็คงเหมือนกับเสียเพื่อนไป”
    ทอมสูดหายใจช้า ๆ ยาว ๆ เธอล้วงกระเป๋ากางเกงด้านหลัง หยิบกระดาษสัญลักษณ์แพนดิต้าออกมา แล้วเดินเข้าไปหาแฟนนี่



    สัญญลักษณ์แพนดิต้า (Pandita)---- (ค้นไม่เจอ เจอแต่คำว่า --บัณฑิต
    Paṇḍita (Hindi: paṇḍit; Indonesian/Malay: pendeta; Javanese: pandito, pendito, pendeto; Tibetan: khepa; Wyl: mkhas pa) is a Sanskrit word meaning learned master. The word pundit is derived from pandit or pandita.)

    “แฟนนี่ ตอนที่แฟนนี่ยังใช้เพนดูลั่มได้ แฟนนี่มั่นใจมั้ยว่าเราเก่งกว่าเด็กผู้หญิงธรรมดา ๆ คนอื่น ?”
    เธอพยักหน้า “ค่ะ มั่นใจมาก”
    “ความมั่นใจนั้น แฟนนี่ยังจำได้มั้ย ?”
    “ค่ะ ยังจำได้”
    “ดี งั้นแฟนนี่นั่งลง”
    “นั่งตามสบายนะ เออ.. ขัดสมาธิอย่างนั้นก็ได้ แล้วสูดหายใจลึก ๆ นะ แล้วถือแผ่นกระดาษนี่ไว้ จับอย่างนี้นะ…ดี แล้วค่อย ๆ หลับตา”
    “สวดนะโมตัสสะ สามจบ นะ” ทอมพูด พร้อมกับเปิดหนังสือธรรมะที่เธอหยิบติดมือมา เธอพลิกไปถึงหน้าที่ต้องการ
    “แฟนนี่ พูดตามนี้ อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะฉามิ ข้าพเจ้า ขอมอบกายถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า”
    “ข้าพเจ้า ขออาราธนาบารมี สมเด็จพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และ พระอริยสงฆ์ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้งสี่สิบทัศ พระปิติทั้งห้า และ วิปัสสนาญานทั้งเก้า ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวะการณ์ต่าง ๆ ทั้งเหตุ และ ผล อดีต อนาคต และ ปัจจุบันได้ทุกขณะจิตที่ประสงค์จะรู้ เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใส และ พยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกประการ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด”
    “หายใจเข้าท้องป่อง ภาวนานะมะ หายใจออกท้องแฟ่บ ภาวนาพะธะ… ค่อย ๆ ช้า ๆ นะ คราวนี้ให้รวมความรู้สึกทั้งหมด ไปอยู่ที่การฟัง อากาศจะหนาว จะร้อน อย่าสนใจ จะได้กลิ่นอะไร อย่าสนใจ เสียงที่แฟนนี่จะได้ยิน จะมีแต่เสียงพี่ทอมเท่านั้น”
    ด้วยเสียงพี่ทอมนี้ จะเป็นสื่อให้กับคนที่แฟนนี่นับถือเคารพบูชา แฟนนี่นึกถึงเสียงของใครที่แฟนนี่อยากได้ยิน ขอให้นึกทันที ภาพใดปรากฏในจิตเป็นภาพแรก ขอให้พูดออกมา”
    ในความมืดสนิท สงบในสมาธิ จิตของเธอนึกถึงฤาษี
    “ฤาษีค่ะ” เธอพูดออกมา
    “ดีค่ะ ฤาษีท่านนี้ มีชื่อหรือไม่ ?”
    “ชื่อท่านปู่ชีวกค่ะ”
    “ดี ดี เห็นหน้าของท่านมั้ย ?”
    “ไม่ชัดค่ะ”
    “ลองดูใหม่อีกที เห็นหน้าท่านมั้ย ?”
    “ค่ะ เห็น ท่านยิ้มให้”
    “ดีค่ะ ขอให้ท่านลูบหัวแฟนนี่”
    “ค่ะ ท่าน ท่าน…” น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากลูกตาของเธอ
    “มีอะไรเกิดขึ้นเหรอคะ ? แฟนนี่” ทอมถามเบา ๆ
    “ท่านปู่… ลูบหัวแฟนนี่” เธอเริ่มสะอึก น้ำตาเริ่มไหลลงมาเป็นหยด
    “เอาล่ะ แฟนนี่ถามท่านว่า แฟนนี่ยังสามารถใช้ลูกดิ่งได้มั้ย ?”
    “ได้ค่ะ… ท่านปู่บอกว่า แฟนนี่จะเป็นนักเพนดูลั่มที่เก่งที่สุด” เธอพูดกึ่งร้องไห้ เสียงสะอึกติด ๆ ขัด ๆ
    “ดีมาก ถามท่านปู่ว่า แฟนนี่จะช่วยคุณลุงได้มั้ย ?”
    เธอพยักหน้า
    “งั้นลาท่านปู่ซะ นึกถึงภาพตัวเองกราบที่เท้าท่านนะ ตอนนี้แฟนนี่เริ่มกลับมาอยู่กับพี่ทอมนะ เรายังอยู่ที่โรงพยาบาล จำได้มั้ย พี่ทอมจะนับหนึ่งถึงสิบ ถ้าถึงสิบแล้ว แฟนนี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นนะ”
    สาวน้อยลืมตาขึ้น พร้อมกับเสียงนับสิบของทอม เธอยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา
    “ยังไม่ต้องเล่าอะไรตอนนี้นะ” ทอมลุกขึ้นยืน แล้วหยิบถุงลูกดิ่งในกระเป๋ากางเกงออกมา
    “ความมั่นใจเต็มร้อยแล้วใช่มั้ย ?” เธอมองหน้าแฟนนี่
    แฟนนี่พยักหน้า “เกินร้อยด้วย”
    ทอมยื่นลูกดิ่งให้ “ใช้ลูกดิ่งนี่ ลองดู”
    แฟนนี่ยื่นแผ่นเรียกพลังแพนดิต้ากลับคืนให้ทอม
    เธอใช้มือขวาจับลูกดิ่ง มือซ้ายประคอง แล้วเริ่มดิ่ง
    ไม่กี่วินาที ลูกดิ่งเริ่มตอบสนอง เธอกระตุกลูกดิ่งเพื่อเปลี่ยนคำถามเป็นระยะ ๆ
    ภายในไม่กี่วินาทีนั้น เธอถามลูกดิ่งไปแล้วมากกว่าสิบคำถาม ลูกดิ่งให้คำตอบที่รวดเร็วเหมือนที่เธอเคยทำได้มาก่อน
    “แฟนนี่ใช้ลูกดิ่งได้แล้วค่ะ”
    ชาตรีพยักหน้า ยกข้อมือขึ้นมองนาฬิกา รุ้งรีบโทรศัพท์หาพี่สะใภ้
    นาฬิกาในห้องคนไข้ บอกเวลาหกโมงตรง
    แฟนนี่เลือกที่จะนั่งที่เก้าอี้ห้องรับแขก ซึ่งมองผ่านจากมุมนี้เข้าไป จะเห็นหน้าคุณลุงที่นอนอยู่บนเตียงพอดี
    “แฟนนี่มองไปที่คุณลุงนะ แล้วใช้มือดิ่งลอย ไม่ต้องดิ่งบนฝ่ามือเรา คำถามแรก ถามว่าคุณลุงมีเจ้ากรรมนายเวรใช่หรือไม่ ?”
    วินาทีที่รุ่งพูดจบ ลูกดิ่งในมือของแฟนนี่ทำงานทันที
    “ใช่ค่ะ”
    “อุทิศบุญของแฟนนี่ให้ได้หรือไม่ ?”
    “ไม่ได้ ไม่พอค่ะ”
    “อุทิศบุญของพี่รุ่ง กับพี่ทอม คุณพ่อ คุณแม่รวมกันได้หรือไม ? ่”
    “ได้ค่ะ”
    รุ่งเริ่มกล่าวบทอุทิศส่วนกุศลให้คนที่เหลือพูดตาม
    พอจบแล้ว เริ่มถามต่อ
    “มีเจ้ากรรมนายเวรอีกหรือไม่ ?”
    “ไม่มีค่ะ”
    “บุญของคนไข้มีพอจะรักษาหายหรือไม่ ?”
    “พอค่ะ”
    “มีพยาธิ หรือไม่ ?”
    “ไม่มีค่ะ”
    “มีเชื้อไวรัสหรือไม่ ?”
    “ไม่มีค่ะ”
    “เม็ดเลือดแดงต่ำกว่าห้าลิตรใช่หรือไม่ ?”
    “ใช่ค่ะ ?”
    “ถามไปเรื่อย ๆ ว่าเหลือกี่ลิตร ?”
    เพียงห้าวินาที เธอจบคำถามไปอีกสามคำถาม
    “เหลือสามลิตรค่ะ”
    รุ่งพึมพำกับทอม “ไม่น่าจะใช่พยาธิจริง ๆ”
    เขาพยามจะตัดคำถามที่ไม่จำเป็น เลือกแต่เฉพาะคำถามที่ใกล้เคียงอาการนี้มากที่สุด
    “ตับทำงานกี่เปอร์เซนต์ ? เริ่มต้นที่เจ็ดสิบลงมา”
    “ห้าสิบเปอร์เซนต์ค่ะ”
    “ถามย้ำอีกครั้งว่า ไม่มีไวรัสที่ตับใช่หรือไม่”
    “ไม่มีค่ะ”
    “เกิดจากแอลกอฮอลล์ใช่หรือไม่ ? ”
    “ไม่ใช่ค่ะ”
    รุ่งจดทุกอย่างใส่กระดาษไว้หมด แล้วค่อย ๆ ตัดสาเหตุที่ไกลอาการออกไป
    “ต่อมา ถุงน้ำดีนะ ถามว่าถุงน้ำดีข้นใช่หรือไม่ ? ”
    “ใช่ค่ะ”
    “ถามเปอร์เซ็นต์ ไล่ทีละสิบนะ เริ่มตั้งแต่สิบ”
    “เจ็ดสิบค่ะ”
    รุ่งพยักหน้าพึมพำ “ระบบดูดซึมเสีย แต่ไม่มีพยาธิ”
    “มีไขมันในลำไส้ ใช่หรือไม่ ? ”
    “ใช่ค่ะ”
    “ไขมันในลำไส้มากขนาดไหน ? ให้กำหนดถามว่า เล็กน้อย ปานกลาง หรือ มาก”
    “เล็กน้อยค่ะ”
    รุ่งจด ทอมอ่านไปด้วย แล้วทั้งคู่หันมามองหน้ากัน
    “รุ่ง ไขมันในลำไส้น้อย แต่ระบบดูดซึมเสีย ไม่มีพยาธิ ก็เหลือเรื่องเดียวแล้ว”
    “แฟนนี่ ถามว่า มีเชื้อราใช่หรือไม่”
    “ใช่ค่ะ”
    “ถามซ้ำนะแฟนนี่ ให้ถามว่า ไม่มีเชื้อราใช่หรือไม ? ่”
    “ไม่ใช่ค่ะ”
    “ถามอีกครั้ง มีเชื้อราใช่หรือไม่ ? ”
    “ใช่ค่ะ”
    “เอาล่ะ เชื้อราเป็นเหตุที่ทำให้ตับผิดปกติใช่หรือไม ? ่”
    “ใช่ค่ะ”
    “เป็นเหตุที่ทำให้ถุงน้ำดีผิดปกติใช่หรือไม่”
    “ใช่ค่ะ”
    “แฟนนี่ ถามไตซ้าย ไตขวาน่ะ ถามแค่ว่าปกติหรือไม่ แต่ไม่ต้องถามเป็นเปอร์เซนต์”
    เธอรัวคำถาม ลูกดิ่งใช้เวลาตอบไม่ถึงสองวินาทีต่อคำถาม
    “ทั้งไตซ้าย และ ไตขวา ผิดปกติค่ะ”
    “ขาบวมต้นเหตุมาจากไตใช่หรือไม่ ? ”
    “ใช่ค่ะ”
    “เชื้อราเป็นต้นเหตุของไตผิดปกติใช่หรือไม ? ่”
    “ใช่ค่ะ”
    รุ่งเริ่มใจชื้นขึ้น เขามั่นใจว่าเขามาถูกทางแล้ว
    “การทานน้ำหวาน เหมาะสมหรือไม่ ? ”
    “ไม่เหมาะสมค่ะ”
    “การทานไข่ขาว เหมาะสมหรือไม่ ? ”
    “ไม่เหมาะสมค่ะ”
    “รักษาด้วยอาหารที่มีเพคตินสูงใช่หรือไม่ ? ”
    “อะไรนะคะ เพคตินหรือคะ ? ” แฟนนี่ไม่รู้จักคำนี้
    “ใช่ เพคตินนะ แฟนนี่ อ้อ..เปลี่ยนใหม่ ถามว่ารักษาด้วยอาหารที่มีเมือกสูงใช่หรือไม่ ? ”
    “ใช่คะ”
    รุ่งพอใจกับผลการตรวจ เขามั่นใจแล้วว่าต้นเหตุหลักคือเชื้อรา
    เชื้อรานี่อันตรายมากค่ะ เป็นอัลฟ่าทอกซินที่ติดเข้าไปกับอาหารพวกผลไม้สุกงอม หรือพวกแป้งขนมปัง และ ผลิตภัณฑ์จากถั่ว เวลาเข้าร่างกายแล้ว จะแพร่พันธ์เป็นสปอร์ เกาะไปทั่วร่างกาย ทำให้ร่างกายรับสารอาหารอะไรไม่ได้เลย เมื่อไปเกาะแพร่พันธ์ที่อวัยวะไหน อวัยวะนั้นก็ใช้งานไม่ได้ เพราะขาดสารอาหาร ถ้าเข้าปอด และ หัวใจ ก็มีโอกาสเสียชีวิตได้ เชื้อราเจริญพันธุ์ได้ดีถ้ามีของหวาน กับ โปรตีน ถ้ายังทานของหวานกับโปรตีน เชื้อราจะแพร่พันธุ์ได้เร็วขึ้น
    “ตายเลย ก็หมอแนะนำให้ทานแต่น้ำหวาน กับ ไข่ขาว ยิ่งทำให้เชื้อราขยายพันธุ์เร็วขึ้นสิ”
    “แต่แค่รู้วิธีรักษา ก็ไม่น่าห่วงแล้ว คือ ทานพวกผักที่มีเมือกเยอะ ๆ เช่น กระเจี๊ยบเขียว ผักบุ้ง ผักปรัง แล้วก็น้ำใบย่านางคั้นก็ช่วยได้ ถ้าอยากได้เร็วก็ใช้สมุนไพรสกัดอัลฟ่าเป็นแคปซูล ไม่ต้องห่วงแล้วนะคะ ถ้ารู้ต้นเหตุ รักษาหายได้แน่ ๆ ทอมว่ายังดีกว่ามีไวรัสในไขกระดูกนะ”
    “แฟนนี่ ดิ่งถามให้หน่อยนะ”
    “ค่ะ”
    “คุณลุงสมควรย้ายไปโรงพยาบาลรามาใช่หรือไม่ ? ”
    “ใช่ค่ะ”
    “หมอที่ชื่อสุรเดช เป็นหมอที่จะรักษาคุณลุงได้ใช่หรือไม่ ? ”
    “ใช่ค่ะ”
    หกโมงครึ่ง แฟนนี่ไม่ได้รับโทรศัพท์ของใครอีกเลย
    เธอตัดสินใจเดินออกมาจากห้องคนไข้ เห็นคุณพ่อกำลังคุยอยู่กับคุณป้า
    เธอมีความปิติเต็มหัวใจ ความมั่นใจทั้งหมดกลับคืนมา มากยิ่งไปกว่านั้น หากคุณลุงของเธอหายป่วย นั่นก็ได้ชื่อว่า เธอเป็นคนช่วยชีวิตคุณลุงไว้
    เพนดูลั่มกลับมาหาเธอแล้ว กลับมาด้วยพลังที่มากขึ้นด้วย เธอรู้สึกได้
    **********

    ทำไมอารมณ์หงุดหงิดง่าย
    อาการของเธอ เป็นอาการถุงน้ำดีข้น มันทำให้อารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียว แล้วก็มีอาการอื่น ๆ อีกเยอะ แต่เธออาจจะไม่ได้สังเกต ให้กินน้ำสมุนไพร สำหรับล้างน้ำมันพืชในลำไส้ ”
    “เรากินอาหารที่ใช้น้ำมันพืชมาตลอดชีวิต น้ำมันพืชมันก็ไปเคลือบอยู่ในลำไส้ น้ำก็ล้างไม่ออก เพราะน้ำกะน้ำมันมันเข้ากันไม่ได้ คือ น้ำมันเนี่ยมันจะไม่ละลายในน้ำปกติ แต่ต้องมีกรดไปชะมันออก เวลาที่เรากินอาหารที่มีน้ำมันพืช ถึงจะดื่มน้ำตามลงไปมากเท่าไหร่ น้ำมันก็ยังเกาะติดกับลำไส้ยังงั้น เกาะไปเป็นสิบปี เท่ากับอายุเราน่ะแหละ…”
    “…พอมันเกาะเคลือบอยู่อย่างนั้น เวลาเรากินอาหาร กินน้ำเข้าไป มันไม่ได้เข้าไปถึงตัวเลย เพราะระบบดูดซึมภายในของเรา ถูกน้ำมันพืชเคลือบอยู่หมด ร่างกายก็ไม่ได้รับสารอาหาร ไม่ได้รับน้ำที่กินเข้าไป เพราะมันไม่ได้ซึมไปใช้ ไตก็ต้องพาน้ำไปทิ้ง คือ ฉี่ คนสมัยนี้ก็เลยฉี่บ่อย เป็นโรคไต…”
    “อือ ใช่ นี่ก็หนึ่งของอาการ ที่ชั้นเป็นอยู่”

    “…พอมันเคลือบ น้ำเข้าไม่ได้ ถุงน้ำดีซึ่งต้องการน้ำไปผลิตน้ำดี มันก็ข้น เส้นเลือดที่วิ่งจากถุงน้ำดีนี้ มันวิ่งไปหลายจุดของร่างกาย จุดใหญ่ ๆ คือ มันวิ่งขึ้นสมองส่วนหน้า เมื่อถุงน้ำดีมีปัญหา เลือดที่วิ่งขึ้นสมองส่วนหน้าก็น้อย สมองเธอก็จะได้รับออกซิเจนน้อยลง เพราะออกซิเจนมันวิ่งไปกับเลือด เมื่อออกซิเจนน้อย ก็มีอาการผิดปกติของจิต อาการฉุนเฉียว ความอดทนต่ำ วีนแตกง่าย ๆ เนี่ย มาจากสมองได้รับออกซิเจนไม่พอ...”
    “…วิธีแก้ คือ ต้องไปล้างน้ำมันพืชออกจากลำไส้ พอล้ำไส้สะอาด น้ำที่กินเข้าไป ก็ซึมเข้าตัว ไปเจือจางถุงน้ำดี เลือดก็เดินปกติ แค่นี้ก็จบ สมุนไพรที่ไปล้างถุงน้ำดีได้มีหลายตัว แต่ที่กินง่ายที่สุดคือ ชามะละกอ หรือใช้ของแพง เป็นสมุนไพรผง เทใส่น้ำแล้วชงกิน แต่วัตถุประสงค์เดียวกัน คือ เข้าไปล้างน้ำมันในลำไส้”
    “อาการอื่น ๆ ที่เป็นนะ ลองสังเกตดูว่าเป็นหรือเปล่า ? คือ ร้อนใน อุณหภูมิในตัวสูงขึ้น นอนไม่หลับ แพ้อากาศ ฉี่บ่อย…”
    “แต่นอนไม่หลับนี่ ของเธอมีเรื่องขาดเอสโตรเจนด้วย”
    “ขาดแล้วก็มีมีผลต่อเรื่องอารมณ์เหมือนกัน เอสโตรเจนช่วยให้ใจเย็น อดทนสูง แล้วก็ทำอะไรที่ช้า ๆ ค่อย ๆ ทำได้ ไม่รำคาญ แล้วก็นอนหลับสบาย”
    “ลองสังเกตตัวเองว่า เป็นงี้ป่าวนะ? คือ ขาดเอสโตรเจนน่ะ มันจะนอนหลับไม่สนิท แล้วก็ตัดสินใจเร็ว รอไม่ได้ รอแล้วหงุดหงิด แล้วไม่ค่อยร้องไห้ แต่ไม่ใช่อดทนสูงนะ คือ มันร้องไม่ออก แต่มันออกมาเป็นอารมณ์ฉุนเฉียวเลย แต่ถ้ามีเอสโตรเจนเพียงพอ มันจะอดทนได้สูง เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็มองผ่านได้ มีอารมณ์เคลิ้มได้ง่าย ๆ อ่อนไหว แต่ไม่อ่อนแอ ดูหนังซึ้งยังเงี้ย ร้องไห้ออกมาได้ เพราะซาบซึ้ง ร้องแล้วก็รู้สึกดี”

    “ร้องไห้น่ะ ไม่ได้หมายความว่าอ่อนแอทุกครั้งนะ บางครั้งมันคือปีติที่คนมีเอสโตรเจนสูงเขาระบายปีติออกมาทางน้ำตา แต่ถ้าขาดเอสโตรเจน มันไม่ร้องหรอก มันจะฉะท่าเดียว”
    “ขาดเอสโตรเจนต้องทำยังไง ?”
    “ของเธอ ต้องเพิ่มด้วยการมองโลกในมุมมองที่ต่างออกไป”
    “ยังไงอะ ไม่ใช่ต้องกินอะไรเพื่อเพิ่มฮอร์โมนเหรอ ?”
    “เรื่องกินน่ะ ก็กินน้ำมะพร้าวอ่อนบ่อย ๆ มีเงินก็ไปซื้อมุกสกัด แต่ของเธอที่หนักคือเรื่องทัศนคติในการมองโลกของเธอ
    “…. เธอจัดการกับเรื่องถุงน้ำดีข้นก่อน นั่นมีผลมากที่สุดตอนนี้ เรื่องเอสโตรเจนเดี๋ยวชั้นส่งบทความให้อ่านแล้วกันนะ”
    ***********

    สำหรับคนทำงานกลางคืน
    เครียดนะครับ ต้องเล่นดนตรีเพื่อได้เงิน อะไรก็ตามที่ต้องทำตามกำหนดเวลา ทำทุกวัน มันคงไม่สนุกหรอก ตื่นนอนตอนบ่าย แล้วทำงานตอนเย็น ๆ ค่ำ ๆ ยังงี้จะไปมีสังคมอะไรได้ ก็นอกจากคบกับพวกคนกลางคืนด้วยกัน”
    คนพวกนี้น่ะ แก่แล้วตับทรุดทุกคน เพราะนอนไม่เป็นเวลา แล้วก็กินเหล้า”
    “รุ่งรู้จักเรื่องเมลาโทนินมั้ย ?”
    เมลาโทนินเป็นสารที่สมองส่วนไฮโปธาลามัสสั่งให้หลั่ง มันใช้ควบคุมเรื่องการนอนหลับของคน แล้วก็มีผลต่อฮอร์โมนตัวอื่น ๆ แล้วก็มีผลต่อเรื่องการสร้างเซล ที่เค้าเรียกว่าเซลรีโปรดั๊กชั่น”
    “ไอ้สารนี้เนี่ย มันจะหลั่งเวลาที่คนเราอยู่ในความมืด ความสงบ พอหลั่งแล้ว จะทำให้สบายนอนหลับได้ แล้วกระบวนการสร้างเซลต่าง ๆ ในร่างกาย ก็ทำงานสมบูรณ์ แต่เดี๋ยวนี้เนี่ย ความมืดมันไม่ค่อยมีแล้ว เพราะคนนอนดึก มีทีวีดู มีอินเตอร์เน็ตเล่น กว่าจะปิดไฟนอนก็เที่ยงคืน เมลาโทนินก็ไม่หลั่งเหมือนปกติ มันทำให้แก่เร็ว จะสังเกตว่า เด็กผู้หญิงสมัยนี้โตเร็ว อายุไม่เท่าไหร่มีหน้าอก แล้วก็มีความรู้สึกทางเพศตั้งแต่อายุน้อย ๆ ซึ่งมันผิดธรรมชาติ แล้วเดี๋ยวก็จะแก่เร็ว เพราะมันมีสิ่งยั่วยุทำให้เรานอนดึก”<!-- End main-->

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="50%" colSpan=3>Create Date : 19 พฤศจิกายน 2554</TD></TR><TR><TD width="50%">Last Update : 19 พฤศจิกายน 2554 0:20:12 น. </TD><TD></TD><TD align=right>4 comments </TD></TR><TR><TD>Counter : 203 Pageviews. </TD><TD></TD><TD align=right><TABLE border=0 align=right><TBODY><TR><TD></TD><TD><IFRAME style="POSITION: static; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; MARGIN: 0px; BORDER-LEFT-STYLE: none; WIDTH: 70px; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-RIGHT-STYLE: none; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=I1_1339266281490 title=+1 tabIndex=0 marginHeight=0 src="https://plusone.google.com/_/+1/fastbutton?bsv=pr&url=http%3A%2F%2Fwww.bloggang.com%2Fmainblog.php%3Fid%3Dsecret-world%26date%3D19-11-2011%26group%3D1%26gblog%3D244&size=small&count=true&origin=http%3A%2F%2Fwww.bloggang.com&hl=th&jsh=m%3B%2F_%2Fapps-static%2F_%2Fjs%2Fgapi%2F__features__%2Frt%3Dj%2Fver%3DUXMl-B7bp60.th.%2Fsv%3D1%2Fam%3D!PemfnfjrL2yI81ARQg%2Fd%3D1%2Frs%3DAItRSTOHsJJTeswEXIoNMQn26lie-9BgVQ#id=I1_1339266281490&parent=http%3A%2F%2Fwww.bloggang.com&rpctoken=490849864&_methods=onPlusOne%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe%2C_renderstart" frameBorder=0 width="100%" allowTransparency name=I1_1339266281490 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>



    </TD><TD>Add to [​IMG][​IMG][​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- <table width=100% border=0 cellspacing=0> <tr> <td>Counter : <script src='http://fastwebcounter.com/secure.php?s= bloggang3224641 '></script> Pageviews. </td> </tr> </table> --><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=2 cellSpacing=0 borderColor=white cellPadding=3 width="100%">
    <TBODY><TR><TD id=1><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%"></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- Comment 1-->--ได้มีการจัดงานสัมมนาเรื่อง "โรคเวรกรรม" ที่ ม.เชียงใหม่ โดยมีผู้ประสบจริง คืออดีตพยาบาล ท่านเป็นเนื้องอกในสมอง มีผู้มีญาณให้เธอไปขอขมา 3 คนที่เธอสั่งให้ทรมานโดยการบีบขมับ การนี้ใช้เวลาถึงสามปี พอขมาคนสุดท้าย เธอก็หายปวดหัวทันที เช็คดูเนื้องอก ก็ได้ยุบตัวจนไร้อันตราย
    --สรุปแล้วงานนี้ หมอทั้งหลายไม่ออกมาเถียงสักคน ยอมรับกันทั้งหมดหอประชุม และยอมรับว่า โรค-- ที่มีสาเหตุมาจากกรรมเก่า ก็มีจริงแล้ว--มีจริงในวงการแพทย์- ซึ่งมันมีมานานแล้ว แต่เนื่องจากวงการนี้ไม่ยอมรับเรื่องอดีตชาติ จึงไม่ได้มีการบันทึกไว้
    <!-- End Comment 1-->

    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%">โดย: jesdath [​IMG] วันที่: 19 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:15:07 น. </TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY>

    </TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=2 cellSpacing=0 borderColor=white cellPadding=3 width="100%">
    <TBODY><TR><TD id=2><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%"></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- Comment 2-->โทษทีครับตัวหนังสือของโอเปร่า เล็กกว่ามดอีก จึงมีพิมพ์ผิดตรงคำว่า ปวดหัว นะครับ
    <!-- End Comment 2-->

    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%">โดย: jesdath [​IMG] วันที่: 19 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:16:29 น. </TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY>

    </TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=2 cellSpacing=0 borderColor=white cellPadding=3 width="100%">
    <TBODY><TR><TD id=3><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%"></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- Comment 3-->แวะมาเยี่ยมในวันหยุด...สวัสดีครับ
    <!-- End Comment 3-->

    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%">โดย: **mp5** [​IMG] วันที่: 19 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:38:56 น. </TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY>

    </TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=2 cellSpacing=0 borderColor=white cellPadding=3 width="100%">
    <TBODY><TR><TD id=4><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%"></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- Comment 4-->ยินดีครับที่มาเยี่ยมในวันที่เงียบเหงาหัวใจ
    สวัสดีครับ
    เจ๊ย์(ภาษาอินเดีย)--ชัยยะ--คนอยู่มีชัย คนไปมีโชค---
    <!-- End Comment 4-->

    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%">โดย: jesdath [​IMG] วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:22:54 น. </TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY>

    </TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><FORM method=post name=reply action=http://www.bloggang.com/reply.php?id=secret-world>
    </FORM>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2012
  8. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    การแพทย์แบบรวมมิตรวิทยา 3("ทุกคนควรต้องอ่าน")

    <!-- Main -->บทความนี้ยาวมาก อาจทำให้น่าเบื่อ คิดว่าจะตัดมาตอนสำคัญและให้ดาวน์โหลดนะครับ
    --ในส่วนที่ไม่มีอันตราย --สามรถทำตามได้ครับ เช่นการถ่ายยา แต่อย่าเพิ่งรักษาให้ผู้อื่น มีเวรกรรมที่จะมาถึงท่านนะครับ

    --การรักษาสุขภาพร่างกาย ก็เป็นไปตามแพทย์แผนไทย เช่น ไม่ดื่มน้ำเย็นจัด น้ำอัดลม ชา กาแฟ น้ำตาล เว้นเนื่อสัตวใหญ่ กินปลาบ้าง ก็จะมีผลดี อาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น เว้นของหมักดอง และ งดรสเค็มจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด สิ่งปรุงรสทุกชนิด--ยอมให้แต่ซีอิ๊วขาวบ้าง

    ---การสั่งงานลูกตุ้ม ให้ใช้จิตสั่งงาน หรือจะให้ดี พูดออกมาเลยครับ--เดี๋ยวจะให้รายละเอียดครับ
    ------------------------------------
    “ทอม ลองตรวจให้น้าจูใหม่สิ”
    ทอมพยักหน้า “ได้เหรอ ? จะให้ลองใหม่เหรอ ?”
    เธอหยิบลูกดิ่งออกมาจากถุง แล้วขอมือน้าจู เริ่มตรวจ
    เพียงไม่กี่วินาที ลูกดิ่งเริ่มขยับ ทำงานตามคำถามที่เธอตั้ง เธอยิ้ม พยักหน้ากับตัวเอง คำถามเป็นชุด ๆ ถูกสื่อสารไปหาลูกดิ่ง ได้รับคำตอบในเวลาอันรวดเร็วเช่นที่เธอเคยทำได้
    ทอมเงยหน้าขึ้นมาทางอี๊หลิน
    “อี๊หลินคะ จดนะคะ…. น้ำต้มเห็ดสามอย่าง ทานแทนน้ำเปล่า วันละหนึ่งลิตร เพื่อไปล้างเซลมะเร็ง ทานขมิ้นชันสี่แคปซูลทุก ๆ สองชั่วโมง ถ้าลืมก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปทานชดเชยนะคะ แต่ช่วงบ่ายสามถึงห้าโมงเย็น ให้ทานสิบแคปซูล อันนี้จะช่วยเรื่องระบบเพศ น้าจูทำน้ำกระชายปั่นได้มั้ยคะ?
    “ถ้ามีเงินพอซื้อมุกสกัด ให้ทานมุกสกัดตอนช่วงบ่ายสามถึงห้าโมงเย็นสองเม็ด มุกสกัดจะไปเพิ่มเอสโตรเจนให้เร็วที่สุด เพราะน้าจูขาดเอสโตรเจนมาก มีสูตรแทนได้คือ น้ำกระชายปั่นผสมใบบัวบก แล้วก็ผสมมะม่วงสุกปั่น ทานสองสามแก้วในระหว่างเวลานี้ น้ำกระชายจะไปช่วยบำรุงมดลูก มะม่วงสุกปั่นจะไปเพิ่มเอสโตรเจน ทั้งหมดนี้ ให้ทำไปก่อนหนึ่งเดือน แล้วหลังจากนั้น ค่อยมาตรวจใหม่”
    ************


    ศิษย์มีครู
    ถ้าทอมคิดว่าวิชาลูกดิ่งนี้ เป็นวิชาที่มีค่า แล้วก็มีครู ยิ้มหมายถึง คงต้องมีเทวดาช่วย อย่างน้อยก็เทวดาประจำตัวทอมน่ะ… น่าจะมี ?”
    ทอมพยักหน้า “ใช่ ๆ ต้องอาศัยเทวดา”
    “อือ… ถ้างั้น เราก็ไม่ควรไปตรวจใครถึงที่ แต่เขาต้องมาหาเราแทน เราควรจะบอกคนที่สนใจให้มาหาเรา เป็นการทดสอบศรัทธาก่อนนะ ถ้าเขาไม่สะดวก แสดงว่าเวลาเขายังไม่ถึงนะคะ เขายังไม่พร้อม แต่ถ้าเราไปบริการเขาถึงที่บ้านนี่ ความมีค่าของเราก็หมดไป”
    “อือ เราลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย”
    “ทอมรู้มั้ยคะ ว่าทำไมลูกดิ่งของทอมไม่ทำงานตอนตรวจให้น้าจูตั้งแต่แรก ?”
    “เพราะน้าจูติดเจ้ากรรมนายเวร”
    “ไม่ใช่นะ นั่นเป็นเรื่องนึง แต่อีกเรื่องนึงคือ วันที่ทอมตรวจผ่านรูปให้น่ะ ทอมตรวจให้ที่ไหน สถานที่ของใคร ?”
    “บ้าน รินทร์ ทอมไปหารินทร์ที่บ้าน”
    “นั่นคือเหตุผลนะคะ ทอม ถ้าทอมให้รินทร์มาหาทอมที่บ้านเอง ลูกดิ่งก็จะใช้ได้ เทวดาของทอมน่ะ ท่านเป็นพรหมเลยนะ องค์นี้ท่านถือตัวพอสมควร ที่ยิ้มมาวันนี้ ก็จะมาเตือนทอมเรื่องนี้ วันนี้ท่านแม่ได้เจรจากับเทวดาของทอม จึงทำให้ทอมตรวจน้าจูได้ แต่เทวดาของทอม ก็บอกท่านแม่ว่า ให้เตือนทอมเรื่องนี้ด้วย ถ้าเคารพศรัทธาในท่าน ทอมก็ต้องไม่ไปเที่ยวเสนอตรวจให้ใคร ๆ ถึงบ้านเขานะ แต่ถ้าเขาเห็นค่า ให้เขามาหาเราในที่ของเรา ไม่งั้นต่อไป ท่านก็จะไม่ช่วยทอมแล้วนะคะ”
    “โห… ยิ้ม ขอบคุณมาก ขอบคุณมาก ขอบคุณท่านแม่ด้วย นี่ถ้าไม่บอกเรานะ เราคงไม่มีทางรู้ อือ… เราไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยนะ ยิ้ม ความจริงเที่ยวเร่ไปตรวจใครต่อใคร มันก็ไม่ใช่เรื่องเนอะ”
    เพื่อนส่งยิ้มให้แทนคำตอบ
    ***************

    สวัสดีค่ะ พี่ทอมว่างอยู่หรือเปล่า ? แฟนนี่ถามเรื่องประเมินสุขภาพหน่อยได้มั้ยคะ ?”
    “ได้จ๊ะ ประเมินให้ใครล่ะ ?”
    “ให้เพื่อนคุณพ่อค่ะ ตอนนี้คุณอานั่งอยู่ข้าง ๆ นี่ มีอาการปวดไหล่ค่ะ ปวดทุกวัน แต่ก็ไม่มาก”
    “แล้วแฟนนี่ถามเรื่องหลัก ๆ หรือยัง ? พยาธิ ไวรัส เชื้อรา กระดูกเคลื่อน ?”
    “ค่ะ แฟนนี่ถามแล้ว กระดูกปกติ ไม่มีไวรัส ไม่มีเชื้อรา มีพยาธิ แต่พยาธิไม่ได้ทำให้ปวดไหล่ค่ะ”
    “พยาธิตัวไหน ?”
    “พยาธิไส้เดือนค่ะ”
    ทอมฟังแล้วเข้าใจ ตามประสบการณ์ พยาธิจะทำให้อาการปวดที่มีอยู่เดิม เพิ่มมากขึ้น เพราะเลือดน้อยลง แต่การกำจัดพยาธิอย่างเดียว ก็ยังไม่ได้แก้ต้นเหตุ
    “มีไข้ด้วยหรือเปล่า ?”
    “ไม่มีค่ะ”
    “โอเค งั้นถามตามนี้นะ ถามกรดยูริค ถามว่ามีกรดยูริคเกินปกติใช่หรือไม่ ?”
    “ค่ะ” แฟนนี่ จ่อลูกดิ่งที่ฝ่ามือของผู้ป่วย แล้วตั้งจิตถาม ไม่กี่อึดใจ ลูกดิ่งก็ทำงาน
    “ไม่มีค่ะ”
    “ต่อไป ถามว่า มีสะเก็ดเลือดใช่หรือไม่ ?”
    “ค่ะ” ทันทีที่ตั้งจิตถาม ลูกดิ่งก็แกว่งทันใด “ใช่คะ มีสะเก็ดเลือด”
    “ถามต่อว่า สะเก็ดเลือดนี้ ทำให้ปวดไหล่ใช่หรือไม่ ?”
    แฟนนี่ตอบกลับทันที “ใช่ค่ะ”
    ถามสูตรว่าต้องใช้สูตร โยเกิร์ตหนึ่งถ้วย น้ำมันงาหนึ่งช้อนโต๊ะ ใช่หรือไม่ ?”
    “ใช่ค่ะ”
    “โอเค งั้นถามจำนวนวัน ว่าต้องทานกี่วัน ?”
    แม่มดน้อยเริ่มถามไล่จำนวนวัน จนได้คำตอบ “เจ็ดวันค่ะ”
    “อื้อ เจ็ดวันก็เจ็ดวัน ก็บอกให้ทำสูตรนี้ โยเกิร์ตรสธรรมดาหนึ่งถ้วย แล้วใส่น้ำมันงาไปหนึ่งช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน แล้วทานให้หมด วันละหนึ่งครั้ง เวลาไหนก็ได้”
    “พี่ทอมคะ สะเก็ดเลือดเกิดจากอะไร ?”
    “สะเก็ดเลือด เกิดจากแต่ก่อนเคยกระทบกระแทก หรือ เกิดอุบัติเหตุ เลือดก็จะจับตัวเป็นลิ่ม นาน ๆ เข้าก็ตกผลึกแห้ง เป็นสะเก็ด เมื่อวิ่งไปติดตรงไหน ก็ทำให้อวัยะนั้นมีปัญหา สูตรที่ให้นี้ ช่วยสลายสะเก็ดเลือดได้จ๊ะ”
    “ค่ะ ขอบคุณมาก
    ************

    .
    .........ต้องตามที่เขาคิด แล้วชั้นยึดมั่นกับอะไรอยู่ ถึงไม่ยอมปล่อยวางซักอย่าง ? ”
    “ลาออก ก็ไม่ได้แปลว่ายอมแพ้ใช่มั้ยครับ ?”
    “มีสิ่งที่เราต้องเอาชนะอยู่สิ่งเดียว ยอมแพ้ไม่ได้ คือ กิเลส นอกนั้น ยอมได้หมด ไม่จัดว่าแพ้อะไรทั้งนั้น มันไม่มีการแพ้ชนะอะไรในโลกนี้ตามแบบที่คนทั่วไปมองกัน คนเราทุกวัน ต้องต่อสู้กับกิเลสของตัวเอง เรื่องอื่น ๆ ยอมให้ได้หมด เรื่องที่ยอมไม่ได้คือ ปล่อยให้กิเลสชนะเรา ปล่อยให้ความยึดมั่นเอาชนะเรา แล้วมันก็ชนะเรามาตลอด…”
    “ยึดมั่นในสิ่งที่ไม่ถาวร ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ในสิ่งที่ไม่ใช่ของเรา”
    “จบเลย นั่นแหละ ตอบได้ตรงเป๊ะ

    ******


    เออ… คนที่ฝึกไม่ได้เพราะเขาตั้งใจคิด แล้วพยายามเพ่งให้เห็นทางตา ซึ่งมันไม่ใช่ มโนมยิทธิมันคืออารมณ์นึก ไม่ใช่อารมณ์คิด แต่มันจะมีความเป็นทิพย์อยู่ โดยเราไม่รู้ตัว
    ***************
    *************

    ผลประโยชน์ขัดกัน
    “หมอที่โรงพยาบาลเค้าก็มีวิธีวิเคราะห์ตามศาสตร์ของเค้า หมอโรงพยาบาลน่ะ เค้ารักษาโดยยึดหลักสถิติ ว่าคนที่มีอาการแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจากอะไร แต่น้องนี่ใช้วิธีแบบคัสต้อมเมด ใช่มั้ย ? แฟนนี่เล่าให้ฟังถึงวิธีการใช้ลูกดิ่ง อย่างที่พวกเราทำนั่นน่ะ เรียกว่าคัสต้อมเมด เจาะไปที่คนคนนั้นเลย ไม่ต้องสนใจว่าสถิติคนทั่วไปเป็นยังไง ฉันจะถามเอาเฉพาะคนคนนี้เลยว่า เค้าเป็นอะไร”
    “น่าทึ่งนะ ผมเองก็เชื่อว่ามีคนสามารถรักษาโรคด้วยวิชาพิเศษแบบนี้ แต่ไม่เคยคิดว่า วันนึง หลานสาวตัวกะเปี๊ยกที่เห็นมาตั้งแต่เกิด กลับจะมีวิชานี้ นี่ทำให้ผมทึ่งมาก”
    “ตอนผมถูกให้ออกซิเจน รู้สึกว่าร่างกายมันเริ่มพังไปทีละส่วน แต่สมองยังพอจะทำงานได้ ก็คิดอะไรไปต่าง ๆ นานา เรื่องที่ไม่เคยมองไม่เคยคิด ก็กลับมาคิด เรื่องที่เคยคิดแล้วหาคำตอบไม่ได้ ก็เริ่มเห็นคำตอบชัดขึ้น ผมเรียกกระบวนการนี้ว่า ซับไซด์ แอนด์ คริสตัลไลซ์” เขาหันมามองภรรยา
    “ซับไซด์ แอนด์ คริสตัลไลซ์ หมายถึง เวลาความคิดที่ขยายไปเรื่อย ๆ มันเริ่มละเอียดลง เราคิดไปจนขอบเขตมันแคบไปเรื่อย ๆ คือ ความคิดมันเริ่มซับไซด์ลง แล้วมันก็ตกผลึก คริสตัลไลซ์ ปัญหาที่แต่ก่อนเคยคิดวนไปวนมา มันเริ่มมีคำตอบที่น้อยลง ๆ จนเหลือคำตอบเดียว อย่างนี้เรียกว่า ความคิดตกผลึก นี่เป็นกระบวนความคิดนะ เวลาเราผ่านประสบการณ์เยอะขึ้น คำตอบของชีวิตมันจะชัดขึ้น”
    “หลังจากผมป่วยหนัก คำตอบหลายอย่างในชีวิตก็ชัดขึ้น เรียกว่ายังไงดี เรียกว่าหาแกนของตัวเองเจอ หลังจากผมออกจากรามา ฯ ก็ได้มาเจออาจารย์เก่ง เหมือนกับว่า ชีวิตผมได้เปลี่ยนไปอีกมุมนึง”
    “ผมออกจากรามา ฯ แล้ว อาการดีขึ้น แต่น้ำหนักก็ยังต่ำกว่าเดิมเยอะ ก็มีสส.นครปฐม พาอาจารย์เก่งมาหาที่บ้าน แล้วอาจารย์ก็เริ่มรักษาด้วยวิชาอาจารย์ ความจริงไม่ใช่รักษา อาจารย์ท่านเรียกว่า ฝึกพลัง ท่านไม่ใช้คำว่ารักษา ใช่มั้ยอาจารย์ ?”
    “ครับ ผมจะไม่ได้รักษาใคร ผมแค่เพียงบอกวิธีให้คนป่วยฝึกเอง แล้วรักษาตัวเอง แต่ครั้งแรกๆ ผมจะตรวจให้เขาก่อน
    แล้วต่อไป ไปฝึกเอง”
    ---------------------
    ผมเรียนมาหลายวิชา วิชาพลังจักรวาลนั่นก็แค่หนึ่งอย่าง เรื่องหายใจนี่ผมฝึกมาจากพระอาจารย์ของผม ที่ผมสอนคุณแอ๊ดมีหลายวิชา จากหลายอาจารย์”
    “อาจารย์เก่งเล่าให้ฟังได้มั้ยคะ ว่าจะตรวจยังไงว่าเค้ามีสุขภาพเป็นยังไง แล้วต้องฝึกวิชาอะไรถึงเข้ากับโรคนั้น ?”
    “เริ่มต้น ต้องตรวจสมดุลเสียก่อน แต่วิชานี้เป็นวิชาที่เล่าให้ฟังลำบาก”
    “ตรวจสมดุลก็คือ เราจะหาสาเหตุของการเจ็บป่วย วิชานี้ต้องสวมร่างเขาทับในร่างเรา ฟังแล้วจะงงนะ ว่ามันทำกันได้แบบนี้เหรอ คือ คล้าย ๆ กับเราถอดจิตเราไปอยู่ในร่างเขาน่ะ แต่ของผมน่ะ มันไม่ใช่เราไปอยู่ในร่างเขา แต่เราเอาส่วนที่มีปัญหาของเขา มาอยู่ในร่างเรา เดี๋ยวผมแสดงวิธีให้ดู”
    อาจารย์วัยห้าสิบปี ขยับแว่นตา สำรวจร่างกายของทอมโดยใช้สายตากวาด ตั้งแต่หัวลงมาถึงลำตัว ลงมาถึงปลายเท้า เขายื่นมือขวาออกมาข้างหน้า ห่างจากท้องน้อยของเธอประมาณคืบ แล้วค้างมือไว้อย่างนั้นประมาณสิบวินาที “ตรงนี้ปกตินะ ระบบเพศหนูไม่มีปัญหา”
    ---------------------
    อาจารย์เก่งเลื่อนมือขึ้นมาที่ระดับสะดือ “ฐานนี้ปกติ”
    เขาขยับมือขึ้นมาที่ระดับหน้าอก “ตรงนี้มีปัญหานะ จักระนี้หนูผิดปกติ” (จุดพลังงานจักระ Chakra--มีเจ็ดจุด)
    “ต่อมา หนูนั่งตัวตรงนิดนึง ปล่อยปลายนิ้วชี้ลงดิน แบบนี้นะ นั่งสบาย ๆ หายใจเข้าออก ผ่อนคลาย ค่อย ๆ หลับตานะ คิดว่าข้างในร่างกายเราโปร่งใส” “เดี๋ยวผมจะยกจักระที่มีปัญหา มาสวมที่ตัวผม หนูก็หลับตาไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องทำอะไร”
    เขาทำฝ่ามือเป็นท่าคล้ายอุ้มลูกบอลอยู่ด้านหน้าทรวงอกของทอม แล้วดึงฝ่ามือนั้นกลับมาทาบที่หน้าอกของเขา แล้วค่อย ๆ หลับตา รุ่งพอตีความได้ว่า ลักษณะการทำท่านั้น คือ การดึงเอาอวัยวะที่มีปัญหาของทอม เข้ามาที่ตัวเขาเอง เพื่อวิเคราะห์ จะใช่หรือไม่ เขาก็ไม่แน่ใจ แต่หากวิชานี้สามารถทำให้คนฝึกรู้อาการคนป่วยได้จริง นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เป็นอีกศาสตร์ที่เขาไม่เคยรับรู้มาก่อน
    ---------------------
    “ผมก็มีลูกศิษย์มาให้ตรวจมาเป็นสิบปีแล้ว นับไม่ถ้วน ใครเป็นใครบ้างผมก็จำไม่ได้ ก็มีอยู่กลุ่มหนึ่ง มาให้ตรวจ ผมก็ตรวจแล้วก็เจอว่า คนกลุ่มนี้มีอาการเหมือน ๆ กัน คือ เย็นเกินไป หัวใจมีปัญหา ระบบปราณไม่สมดุล ธรรมดาคนที่มากันเป็นกลุ่ม ต่างคนก็มีปัญหาต่างกันไป แต่กลุ่มนี้ ปัญหาเหมือนกันหมดเลย ตอนนั้นมากันประมาณสี่ห้าคน”
    “อาการเป็นยังไงบ้างคะ ?”
    “อาการเหรอ … ก็ อ่อนเพลีย หมดแรง บางคนก็แขนขาชา เหนื่อยหอบ พอพบว่าข้างในเย็น ขาดสมดุล ผมก็ซักถามเรื่องการใช้ชีวิต อาหารการกิน พบว่า คนกลุ่มนี้กินอาหารเหมือนกันหมดเลย ส่วนที่เหมือนกันคือ กินน้ำปั่นผักทุกวัน วันละสองแก้วอย่างต่ำ แล้วก็มีสูตรอาหารที่กินล้างพิษ ผมก็บอกว่า ใช่เลย ถ้าขนาดกินทุกวันนี่ ไม่ต้องสงสัย เลยให้พวกเขางดน้ำผักปั่น งดอาหารล้างพิษที่มีคนบอกให้กิน แล้วก็กินข้าวเหนียวเพื่อเพิ่มความร้อน ผมให้กลับไปกินอาหารตามปกติ พวกเขาก็กลับไป สิบกว่าวัน ก็ยกโขยงมากันเกือบสิบคน บอกว่าพวกที่มากันวันก่อน อาการอ่อนเพลียหายหมดเลย จากคนที่เดินขึ้นบันไดยังเหนื่อย กลับมีแรงเหมือนปกติ ไอ้ที่ยกคนมานี่ คือมีอาการเดียวกัน จะให้มาช่วยดูให้อีก ปรากฏว่า เป็นเหมือนกัน คือ กินแต่น้ำผักปั่น แล้ว ก็สูตรอาหารล้างพิษ”
    “อือ… ค่ะ ใครไปบอกให้พวกเค้ากินสูตรนั้นล่ะคะ ?” ทอมถามต่อ
    “ใครที่ไหนล่ะ คนพวกนี้มีเงิน ก็ไปเข้าศูนย์ธรรมชาติบำบัดบ้านธรรมชาตินี่แหละ เขาก็มีคอร์สของเขา เริ่มต้นเข้าไป ต่างคนก็มีอาการอื่น ๆ พอเริ่มบำบัดไปเรื่อย ๆ อาการกลับแย่ลง ยิ่งเหนื่อยมากขึ้น พวกเขาก็เลยสงสัยว่ารักษาผิดทางหรือเปล่า พอดีเพื่อนเขาเป็นลูกศิษย์ผม ก็พามาหาผม ”
    --------------------
    ผมไปเจอวิชาตรวจสุขภาพด้วยลูกดิ่ง เขาสามารถรู้สุขภาพเราได้โดยไม่ต้องแตะตัวคนป่วย เพียงแต่เอาหินมาจ่อที่ฝ่ามือ มันเป็นวิชาที่ใช้พลังจิต...."
    เขากลับชะงัก เพราะไม่แน่ใจว่าคุณย่าจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ขนาดไหน แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังหาคำอธิบายเรื่องนี้ได้ยาก
    เขาควรจะข้ามเรื่องพลังลี้ลับของวิชานี้ หรือ ควรจะเล่าเพื่อทำให้เกิดศรัทธาก่อน ถ้าหากยิ่งเล่าแล้ว กลับกลายเป็นตัวตลกของคนฟังล่ะ เขาควรหาวิธีพิสูจน์
    แต่เขาจะพิสูจน์อย่างไร ในเมื่อความเชี่ยวชาญในการใช้วิชาลูกดิ่งของเขาก็ยังมีน้อยมาก หากต้องมาพิสูจน์ต่อหน้าคนที่ไร้ศรัทธา ลูกดิ่งคงไม่ทำงานแน่ๆ
    คุณย่าเขย่ามือรุ่งอีกครั้ง "หลาน ว่าไง ? ทำไมเงียบไปล่ะ ?"
    "อธิบายลำบากครับ มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น ต้องมีความเชื่อด้วย"
    "เรื่องความเชื่อเหรอ ? อธิบายยากล่ะสิ ฟังย่าเล่าก่อนดีมั้ย ?"
    ---------------------
    "พี่เพ็ญ ผมจะเล่าให้ฟังว่าผมพบอะไร มีอยู่สามอย่าง ที่เป็นเรื่องสำคัญ อยากให้ช่วยกันจัดการสามเรื่องนี้ก่อน อาการคุณย่าจะดีขึ้นแน่นอน"
    "ได้เลย รุ่ง ว่ามา
    "อย่างแรก คุณย่ามีพยาธิสองชนิด ทั้งตัวกลม และ ตัวแบน พยาธิจะกินเลือดจนทำให้โลหิตจาง มีอาการอ่อนเพลีย ขับถ่ายไม่สะดวก คุณย่าต้องถ่ายพยาธิ ผมเขียนยาที่ต้องไปหาซื้อให้ในกระดาษนี้นะครับ ให้กินตามนี้"
    "พยาธิเหรอ ? อือ ไม่เห็นคุณหมอได้เตือนเรื่องนี้เลย สมัยนี้ก็ไม่ได้ยินว่าใครเขาเตือนให้ถ่ายพยาธิกันแล้ว"
    "เป็นไปได้ เป็นไปได้มากเลย สมัยก่อนเราจะเห็นว่าโบราณจะจับเด็กถ่ายพยาธิกันบ่อย ๆ เดี๋ยวนี้ไม่มีใครพูดถึงพยาธิกันแล้ว"
    "เรื่องที่สอง คุณย่ามีโซเดียมในเลือดสูง จะต้องลดโซเดียม โดยการงดทานของประเภท ถั่ว รวมทั้งอาหารที่ทำจากถั่วด้วย เช่น นมถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ แล้วก็งดของดอง ตัวอันตรายก็คือข้าวเหนียว เพราะมีโซเดียมสูงมาก แล้วคุณย่าต้องทานผักสด ผลไม้สด เพิ่ม เพราะมีโปตัสเซียมสูง หัวใจคนเรา ต้องการระดับโปตัสเซียมกับโซเดียมในปริมาณที่สมดุล ปริมาณที่เหมาะสมนั้น จะต้องมีโปตัสเซียมมากกว่าโซเดียม เอาเป็นว่า คุณย่าต้องงดอาหารจำพวกที่ทำมาจากถั่ว งดของดอง แล้วก็งดข้าวเหนียว รวมถึงอาหารขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะมีโซเดียมสูง "
    "ได้ ๆ คงต้องจัดการกับน้ำนมถั่วเหลืองของคุณมัณ"
    "เรื่องสุดท้าย คุณย่ามีกระดูกเคลื่อน ที่คอ กับ หลัง เดี๋ยวผมจะสอนพี่เพ็ญ ให้ทำให้คุณย่าทุกวัน" "ผมคิดว่า คุณย่าอาจจะหายได้ด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด เพราะผมเคยได้ยินอาจารย์เล่ากรณีแบบนี้ ที่หมอแผนปัจจุบันใช้เวลารักษานาน ส่วนใหญ่ก็พยุงไว้ กำเริบทีนึงก็บำบัดทีนึง แต่อาจารย์ที่สอนผม จะสอนให้แก้ต้นเหตุ แล้วต้นเหตุบางทีมันแก้ได้ง่าย จนไม่มีใครเชื่อ"
    "ย่าเชื่อ" คุณย่าตอบทันที
    "น้องวิก็เชื่อค่ะ คุณย่ารักษาโรคนี้กับหมอมานานแล้ว ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น มีแต่จะแย่ลง แล้วหมอก็ไม่เคยเตือนเรื่องกินข้าวเหนียวเลย ถ้าวันนั้น คุณย่าเป็นอะไรไป หมอคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะข้าวเหนียว"
    ---------------------------

    ************
    รุ่งหยิบลูกดิ่งในกระเป๋ากางเกงออกมา ยืนโน้มตัวเข้าหาคนป่วย ยื่นลูกดิ่งจ่อเหนือหน้าผากของคนไข้ที่กำลังหลับสนิท จิตรวบรวมสัมผัสทั้งหมดในร่างกายเป็นสมาธิได้อย่างรวดเร็ว ในใจยิงคำถามทันที
    "ฉันช่วยคนคนนี้ได้หรือไม่ ?"
    ลูกดิ่งนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว
    รุ่งตั้งคำถามกับตัวเองทันที 'แล้วเราจะถามคำถามนี้ไปทำไม ? ถ้าเรามั่นใจว่าเราช่วยได้ เราก็ไม่ต้องถามคำถามนี้'
    เขาข้ามไปคำถามถัดไป "คนป่วยคนนี้ ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรใช่หรือไม่ ?"
    ลูกดิ่งนิ่ง หมายถึง คำตอบปฏิเสธ

    แล้วเขาก็นึกหัวเราะตัวเองอีกครั้ง 'แล้วกูจะถามคำถามนี้ทำไมอีกวะ ? เปิดโอกาสให้ลูกดิ่งปฏิเสธ โง่จริง ๆ'
    เขาตัดสินใจข้ามคำถามนี้ ตรงไปยังคำถามที่เกี่ยวกับโรคทันที
    คำถามเรื่องหมวดหมู่ของโรคพยาธิ ถูกยิงออกไปทันที ในทุกคำถาม ลูกดิ่งให้คำตอบได้เพียงไม่ถึงสองวินาที คำตอบที่พบคือ
    ...มีพยาธิตัวแบนจำนวนมาก
    คำถามหมวดต่อไป สำหรับจุลินทรีย์ที่ทำลายเม็ดเลือด คำตอบที่พบคือ
    .. มีไวรัสในไขกระดูก มีเชื้อราในระบบดูดซึม
    คำถามหมวดต่อไป สำหรับอุปสรรคในการไหลเวียนของเลือด คำตอบที่พบคือ
    ... มีสะเก็ดเลือดตกค้าง
    อวัยวะส่วนใด ที่สะเก็ดเลือดไปตกค้าง เขาควรจะไล่ถามไล่เรียงตั้งแต่ศรีษะลงมา
    ฉับพลันทันใดนั้น ยังไม่ทันที่คำถามในหมวดอวัยวะที่ติดสะเก็ดเลือดจะออกมาจากจิต ความเจ็บปวดอย่างหนักหน่วง ก็เกิดขึ้นที่กลางหลังของเขา เพียงแค่ชั่ววินาที อาการเจ็บจี๊ดวิ่งแปล๊บขึ้นมาถึงกระโหลกด้านหลัง
    รุ่งรู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว เขารีบยืนตัวตรง เพื่อประคองหลัง
    อาการเจ็บทวีความรุนแรงหนักขึ้น เขาขยับตัวหันหลัง เพื่อหาเก้าอี้ แต่การขยับตัวของเขา ทำให้เกิดอาการเจ็บแปล๊บขึ้นอีกครั้ง จนเขาสะดุ้งเฮือก มือปล่อยให้ลูกดิ่งตกลงบนพื้น "แป๊ก" ลูกดิ่งกระทบพื้น แล้วแตกออกเป็นสามชิ้น กระเด็นออกจากกัน
    รุ่งรู้ตัวว่าเขาคงยันกายในท่ายืนไม่ได้แล้ว เขาค่อย ๆ ย่อขา ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นช้า ๆ แต่ไม่ว่าจะขยับตัวเชื่องช้าสักเท่าไหร่ อาการเจ็บที่กลางหลังก็จะเกิดขึ้นตามการเคลื่อนไหวของเขา ไม่กี่วินาทีถัดมา เขาหย่อนก้นนั่งลงบนพื้นได้สำเร็จ มือสองข้างเท้ายันพื้นไว้ เขาจำเป็นต้องทิ้งกายลงนอนหงายกับพื้นให้ได้ เพื่อไม่ให้กระดูกหลังขยับเขยื้อนได้อีก
    รุ่งค่อย ๆ ขยับมือทั้งสองข้างที่ยันพื้นไว้ออกไปเรื่อย ๆ พยายามประคองหลังเพื่อจะนอนราบ เมื่อขยับตัว ความเจ็บที่หลังก็วิ่งจี๊ดขึ้นมาอีก จนทำให้เขาร้องออกมาเบา ๆ "โอ๊ย !"
    หนึ่งอึดใจผ่านไป รุ่งอยู่ในท่านอนหงายได้เรียบร้อยแล้ว ลมหายใจเริ่มอ่อนระรัวด้วยความเหนื่อย ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เขาถึงกับน้ำตาเล็ด
    *************
    **

    ฮอนด้าซิตี้สีแดง วิ่งบนถนนไฮเวย์ด้วยความเร็วหนึ่งร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง...... โชเฟอร์กำลังใช้ความคิดเดาผลลัพธ์ของลูกดิ่ง หากเธอถามคำถามด้วยใจที่เป็นกลางจริง ๆ เธอเชื่อว่า ลูกดิ่งจะตอบว่า เธอควรรับงานนี้
    แต่หากว่า เธอมีความเชื่อว่าลูกดิ่งจะตอบเช่นนี้ นั่นแสดงว่า ใจเธอกำลังไม่เป็นกลาง แล้วผลลัพธ์ก็อาจจะไม่เที่ยงตรง กลายเป็นว่า เธอได้คำตอบที่เข้าข้างตัวเอง
    แต่หากว่าใช้สติสัมปะชัญญะของตัวเธอเอง แล้วไม่ต้องถามลูกดิ่ง เธอก็ยังนึกเหตุผลใดมาคัดง้างไม่ได้ว่า ทำไมเธอจึงไม่ควรรับงานนี้
    แต่... เมื่อคิดอีกที เพราะงานนี้ เป็นงานที่เธอได้มาเพราะการได้ลูกดิ่งลูกใหม่นี้เป็นที่ปรึกษา ฉะนั้น เธอมั่นใจว่า คำถามทุกคำถามที่เธอใช้มาตลอด และ กำลังจะใช้ต่อไป มีความเป็นกลางเพียงพอแล้ว
    ลูกดิ่งเพนดูลั่ม มันคือเครื่องมือพยากรณ์ จะพยากรณ์อะไรก็ใช้มือจับสายสร้อยไว้ แล้วตั้งคำถาม ลูกดิ่งจะแกว่งไปมา เพื่อตอบว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ ?"
    ******

    "เครื่องมือพยากรณ์ ? เช่น เรื่องอะไรบ้างคะ ?"
    "จริง ๆ ก็พยากรณ์ได้เกือบทุกเรื่อง แต่ที่พี่ถนัดที่สุดคือ เรื่องสุขภาพ"
    "ถ้างั้น หินก้อนนี้ อยู่กับพี่ก็จะเป็นประโยชน์ที่สุด พี่เก็บไว้เถอะค่ะ"
    "นี่ก็คงเป็นลูกดิ่งเหมือนกันใช่มั้ยคะ ? หงส์เจอมันตกอยู่ที่ใต้เตียง"
    ทอมมองที่ฝ่ามือของหงส์ หงส์น้อยเทหินแก้วใสพร้อมสร้อยลงในมือของทอม มันคือลูกดิ่งหินควอตซ์ที่แตกออกเป็นสามชิ้น
    -------------------
    คำถามแรกที่ถูกยิงออกไปคือ "ฉันช่วยชายผู้นี้ได้ ใช่หรือไม่ ?"
    ลูกดิ่งหมุนเป็นวงกลมทันที แทนความหมายว่า 'ใช่'
    เธอรู้สึกแปลกใจ เพราะคำตอบที่ได้ แตกต่างจากครั้งแรกที่เธอเคยประเมินให้เขา
    ทอมถามคำถามทวนอีกครั้ง "หากฉันช่วยชายผู้นี้ได้ ขอให้ลูกดิ่งนิ่ง"
    ลูกดิ่งนิ่งสนิท ตามที่ขอ ทอมพยักหน้าพอใจ
    "ไม่มีเจ้ากรรมนายเวร คอยขัดขวางการตรวจครั้งนี้ ใช่ หรือ ไม่ ?"
    ลูกดิ่งแกว่งเป็นวงกลม... ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรใด ๆ ขัดขวาง
    แต่ทำไม รุ่งถึงถูกเจ้ากรรมนายเวรเล่นงาน ? เธอเอียงคอ และ ขมวดคิ้วกับคำถามที่เกิดขึ้นในใจ
    แต่นั่นคงไม่ใช่ประเด็นสำหรับตอนนี้ เมื่อไม่มีสิ่งใดขัดขวางเธอ เธอก็สามารถเจาะลึกในสาเหตุของโรคได้ ทอมเริ่มพูดให้หงส์จดตาม
    "มีพยาธิตัวแบน ต้องใช้นิโคลซาไมด์ จำนวน 15 แผง"
    "ล้ำไส้รั่ว เชื้อราในลำไส้ในระดับสามสิบวัน"
    "ไวรัสไขกระดูกหลัง ในระดับสิบสี่วัน น้องหงส์จดตามนี้ไปก่อนนะคะ"
    "เลือดเลี้ยงหัวใจหกสิบเปอร์เซนต์ ขาดโปตัสเซียม สะเก็ดเลือดที่สมองส่วนหลัง โยเกิร์ตน้ำมันมะรุมสิบวัน"
    ทอมยิงคำถามไปเรื่อย ๆ ตามแบบแผนที่ได้ฝึกฝนมา แทบจะไม่มีโรคไหนเลยที่ชายคนนี้ไม่เป็น ด้วยต้นเหตุของโรคที่มากมายขนาดนี้ เธอจำเป็นต้องจัดเรียงลำดับความสำคัญ ไม่สามารถบำบัดทุกอย่างได้พร้อมกัน ทอมยื่นมือขอกระดาษจากหงส์มาดู แล้วใช้ปากกาขีดวงกลม
    ---เธอจรดปากกาอยู่ที่คำว่า 'เชื้อรา' นี่ควรเป็นสิ่งแรกที่เธอจะจัดการมันก่อน เพราะระดับเชื้อราที่พบนั้นมากจนทำให้ระบบดูดซึมเสีย แต่หากจะต้องจัดการเชื้อรา เธอจำเป็นต้องห้ามคนป่วยทานของหวานทุกชนิด และ โปรตีนจากสัตว์ รวมทั้งนม ซึ่งหมายถึง คนป่วยก็จะทานโยเกิร์ตเพื่อละลายสะเก็ดเลือดไม่ได้

    แต่ถ้าปล่อยสะเก็ดเลือดติดที่สมองต่อไป อาการอื่น ๆ ที่เกิดจากสมองขาดเลือดอาจจะเกิดขึ้นตามมา
    นี่ยังไม่นับไวรัสในไขกระดูก ซึ่งปกติแล้ว บำบัดด้วยเม็ดมะรุมได้ แต่ เม็ดมะรุมมีความหวานมาก จะทำให้เชื้อรากำเริบได้
    หากผู้ป่วยงดโปรตีน และ ของหวาน เพื่อควบคุมเชื้อรา ร่างกายก็จะได้รับพลังงานไม่พอที่จะต่อสู้กับไวรัสในไขกระดูก
    เธอเลื่อนปากกาไปจรดที่คำว่า 'ไวรัส' แทน
    หากเธอเลือกที่จะจัดการไวรัสก่อน ด้วยการให้โด๊ปเนื้อสัตว์ และ ของหวานเพื่อสร้างพลังงาน ภายในไม่กี่วัน เชื้อราก็จะเติบโตเป็นทวีคูณแน่นอน
    สีหน้าทอมบอกถึงความกังวล เธอไม่เคยรับคนไข้ที่ตรวจเจอสาเหตุของโรคมากมายขนาดนี้มาก่อน ทอมเริ่มมีความลังเลว่าตนเองควรจะแนะนำวิธีการเยียวยาแบบไหนที่จะเหมาะสมที่สุด
    ทอมกำลังนึกถึงความช่วยเหลือจากนักเพนดูลั่มคนอื่น ... อาจารย์นา นักเพนดูลั่มรุ่นพี่ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านประเมินสุขภาพ และ การบำบัดรักษาอาการที่ซับซ้อน การปรึกษาเธอ คงเป็นทางเลือกทางเดียวที่มีอยู่ ณ ขณะนี้
    ---------------------

    "โลชั่นนี้ใช้ทาตัวที่คอ หน้าอก แขน และ กระดูกหลังทั้งหมด หลังอาบน้ำทุกครั้ง โลชั่นจะป้องกันความชื้นเข้าทางผิวหนัง ร่างกายจะอบอุ่นและมีพลังงานสะสม ม้ามจะไม่โดนความชื้น และมีพลังผลิตเม็ดเลือดมาฆ่าไวรัส แต่ที่สำคัญคือ ตอนเช้า ต้องฝืนอาบน้ำเย็น น้ำเย็นจะช่วยไล่เลือดให้หมุนเวียน ช่วงนี้อากาศหนาว น้ำประปาจะเย็นมากในตอนเช้า พี่แอนดี้ต้องทนอาบน้ำเย็นในตอนเช้า แล้วรีบเช็ดตัวให้แห้ง ทาโลชั่น ส่วนตอนเย็น ต้องอาบน้ำอุ่น แล้วทาโลชั่น น้ำอุ่นจะช่วยเรื่องการไหลเวียนของลม"

    "น้องหงส์ซื้อน้ำขิงชนิดไม่ใส่น้ำตาลมาด้วยนะคะ พี่แอนดี้ควรทานน้ำขิงเป็นช่วง ๆ โดยเฉพาะตอนค่ำ น้ำขิงจะช่วยให้ความอบอุ่น ต่อมาเรื่องเชื้อราในลำไส้ เชื้อราจะก่อสปอร์ฝังรากเป็นพังผืดในตัว น้ำที่ดื่มเข้าไปจะเข้าตัวไม่ได้ พี่แอนดี้จะฉี่บ่อย แล้วก็เป็นโรคไต เพราะไตต้องพาน้ำไปทิ้งบ่อยเกินความจำเป็น มันจะอักเสบ

    เชื้อราจะดูดน้ำตาล และ โปรตีนทั้งหมดในร่างกายเพื่อขยายพันธุ์ น้ำตาลจะไม่ขึ้นสมอง จะทำให้มีอาการอ่อนเพลีย สมองไม่แล่น ปวดหัว โปรตีนที่กินเข้าไป จะไม่ได้ใช้งาน ร่างกายจะผอมลง น้ำหนักลด วิธีรักษา ใช้น้ำใบย่านางคั้น ดื่มวันละสองลิตร แทนน้ำเปล่า แต่ถ้าได้ใบย่านางแดง ก็จะได้ผลเร็วกว่า อาหารแสลง คือ ของหวานทุกชนิด และ โปรตีนจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ นม และ ไข่ พี่แอนดี้ต้องอดทนในช่วงนี้ อาหารแสลง จะทำให้เชื้อราเติบโต"

    "คุมอาหารคล้ายกับคนเป็นมะเร็งเลยใช่มั้ยคะ ?"

    "ใช่เลยจ๊ะ เชื้อรานี่คือต้นเหตุใหญ่ของมะเร็ง เมื่อได้โปรตีนจากสัตว์ และ ของหวาน มันจะเติบโตแล้วก็กลายเป็นเนื้องอก และ มะเร็ง"

    ***************<!-- End main-->


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="50%" colSpan=3>Create Date : 19 พฤศจิกายน 2554</TD></TR><TR><TD width="50%">Last Update : 19 พฤศจิกายน 2554 0:50:24 น. </TD><TD></TD><TD align=right></TD></TR><TR><TD>Counter : 73 Pageviews. </TD><TD></TD><TD align=right><TABLE border=0 align=right><TBODY><TR><TD></TD><TD><IFRAME style="POSITION: static; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; MARGIN: 0px; BORDER-LEFT-STYLE: none; WIDTH: 70px; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-RIGHT-STYLE: none; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=I1_1339267026686 title=+1 tabIndex=0 marginHeight=0 src="https://plusone.google.com/_/+1/fastbutton?bsv=pr&url=http%3A%2F%2Fwww.bloggang.com%2Fmainblog.php%3Fid%3Dsecret-world%26date%3D19-11-2011%26group%3D1%26gblog%3D245&size=small&count=true&origin=http%3A%2F%2Fwww.bloggang.com&hl=th&jsh=m%3B%2F_%2Fapps-static%2F_%2Fjs%2Fgapi%2F__features__%2Frt%3Dj%2Fver%3DUXMl-B7bp60.th.%2Fsv%3D1%2Fam%3D!PemfnfjrL2yI81ARQg%2Fd%3D1%2Frs%3DAItRSTOHsJJTeswEXIoNMQn26lie-9BgVQ#id=I1_1339267026686&parent=http%3A%2F%2Fwww.bloggang.com&rpctoken=64329308&_methods=onPlusOne%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe%2C_renderstart" frameBorder=0 width="100%" allowTransparency name=I1_1339267026686 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>

    </TD><TD> [​IMG][​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- <table width=100% border=0 cellspacing=0> <tr> <td>Counter : <script src='http://fastwebcounter.com/secure.php?s= bloggang3224761 '></script> Pageviews. </td> </tr> </table> -->
    <FORM method=post name=reply action=http://www.bloggang.com/reply.php?id=secret-world>
    </FORM>
     
  9. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    --จบแล้วครับ สำหรับวิธีการรักษาแบบองค์รวม ซึ่งมีทั้งแผนไทย แผนจีน วิถีพุทธ อายุรเวท รวมมาเป็นการแพทย์ทางเลือก ที่ผมขอเรียกว่า รวมมิตรวิทยา
    (ศัพท์ตัวนี้ ผมใช้เป็นคนแรก) และวิธีคิดแบบนี้ ก็น่าจะมาจาก คุณสุทธินันท์ ซึ่งประยุกต์เอาวิชา ลูกตุ้ม หรือ เพนดูลั่มเข้ามาในการรักษาด้วย
    --ซึ่งถ้าคุณเพิ่งอ่านเจอ ก็ให้คิดว่า ไม่ใช่นิยาย เป็นสิ่งที่ทำได้ผลจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องลูกตุ้ม หรือไม้ง่ามโดว์ซิ่ง ซึ่งยังเคยมีการเรียน และนำมาใช้โดยกองทัพสหรัฐ ไม่ว่าจะหาตาน้ำ หรือสิ่งแปลกปลอมเช่นอุโมงค์ใต้ดิน มันก็ตรวจพบอย่างไม่มีปัญหา--และที่สำคัญ ลูกตุ้มสามรถหาจุดเหล่านี้จากแผนที่ก้ได้ด้วย ถ้าไม่คิดว่ามหัศจรรย์ ก็สุดจะหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เป็นเรื่องของจิตเหนือสำนึก หรือใต้สำนึกนั่นเอง ซึ่งมองไม่เห็นเป็นรูปธรรมได้ แต่ลูกตุ้มสามารถทำให้เราเห็นได้ ในเรื่องของความสามารถของพลังจิต พลังใจ
    ---ถ้าจะคิดว่าผมเก่ง ก็ไม่ใช่นะครับ ความรู้จุดนี้--ทุกอย่างถูกส่งมาจากพี่สาวผม และก็มาตามเวลา หรือปัจจัยความบังเอิญที่เป็นมาแบบต่อเนื่องกัน
    อย่างน่าแปลก
    --ถ้าจะคิดว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการวิเคราะห์หาสาเหตุจากทุกสาขาวิชาทางการแพทย์(ทางเลือก) แล้วนำมารวมกัน ก็ใช่แล้วครับ บทความที่อยู่ข้างหน้าของคุณนี่แหละ ซึ่งจริงๆแล้ว อาจจะใช้เวลาหลายร้อยปี จึงจะสามารถรวมเอาความรู้หลายๆแขนงจากหลายๆคนมารวมกันได้ แต่เราโชคดีที่มีอินเตอรฺเน็ต และยังเป็นช่องทางให้ผู้รู้หลายร้อยหลายพัรนหลายหมื่นสาขา ได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ทำให้ความรู้ทุกๆสาขา ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วอย่างมากครับ
    ---มีสองสิ่งที่ขอย้ำ ก็คือ เชื้อรา และ พยาธิ ที่ก่อให้เกิดอาการของโรคต่างๆ รวมทั้งมะเร็ง

    --อย่าคิดว่ามันไม่น่ากลัวนะครับ คุณแม่ผม พบมันในกระเพาะ และได้ผ่ากระเพาะ- ตัดทิ้งไป แต่มันกลับแอบอยู่ในถุงน้ำดี จนแพร่ไปทั่วทั้งตัว ในเวลาไม่ถึงปี

    --เขาใช้สารเคมี ชื่อว่า คีโม เป็นสารพิษร้ายแรง ฉีดเข้าไปแล้วผมจะร่วงหมด และทำลายเม็ดเลือดแดง ต้องฉีดสารสร้างเม็ดเลือด แต่ละอย่างราคาเข็มละสองหมื่น-3หมื่นบาท ถ้ารักษาแบบครบๆ ก็คงจะหมดเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อคนไข้แต่ละราย ซึ่งเทียบกับ การป้องกัน--เช่น ใช้ยาถ่ายพยาธิแผงละ20บาท 5 แผง แบบนั้น ก็ต่างกันเยอะครับ ยาที่ว่าจะต้องถ่ายพยาธิได้ทุกชนิดด้วยนะครับ และงดพวกน้ำตาล เนื่อสัตว์ ลองดูสักพักนะครับ ถ้าดีก็เดินตามแนวนี้ไปเลย เช่นการทานอาหารแบบ มาโครไบโอติก คล้ายทานเจ และเขาว่าต้องเปลี่ยนภาชนะอลูมิเนียมเป็นแสตนเลสให้หมด เพราะมีสารอลูมิน่าตกต้างออกมากับอาหาร
    --คนที่ทำบางคนเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย ยังหายได้นะครับ จึงอยากจะบอกว่า ร่างกายเรานี้มหัศจรรย์ สามารถซ่อมตัวเองได้ แม้แต่บางคนยังสารถพิชิตโรคเอดส์ในตัวได้(เพื่อนบอกมา)

    --สนามพลังของดิน ตาน้ำ อะไรพวกนี้เรียกว่า สนามโดวซิ่ง -Dowsing Field การใช้ลูกตุ้มแทนไม้ง่าม เรียกว่า โดวซิ่งด้วยลูกตุ้ม Dowsing with a pendulum และไม้ง่ามที่เขาใช้ล้างป่าช้า เรียกว่า โดวซิ่ง ร็อด--Dowsing Rod ครับ

    --สำหรับผู้เริ่มต้น(ลูกตุ้มมันสามารถพัฒนา รหัสญาณของเราได้ด้วย)
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=IPKUiTmzWMg]Dowsing or divining with a pendulum - a beginners guide - YouTube[/ame]

    -การมองเห็นระยะไกล(รีโมท วิววิ่ง)ด้วยลูกตุ้ม
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=yKMlHzKmCQU&feature=related]The End - Remote Viewing Predictions - YouTube[/ame]

    ตัวอย่างการหาพลังโดวซิ่ง--An introduction to dowsing with a pendulum
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=uPCtoP0ufVw]An introduction to dowsing with a pendulum - YouTube[/ame]

    มีอีกเยอะเชิญค้นดูตามสบายครับ--คืนนี้ขอพักครับ ผู้อ่านก็คงอ่านจนมึนอะดิครับ
     
  10. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ไม้โดวซิ่ง ทำเองจากลวดเก่าๆ อย่าดูถูกนะ ดีกว่าเครื่องการะเบิดอันละล้านสองแสนบาท สามารถหาแก้ว โลหะ แล้วแต่เราจะนำมากำไว้กับไม้นี้ หากมันหมุนมาไขว้กัน หรือหันออกจากกัน ก็แสดงว่า "เจอแล้ว"
    http://www.youtube.com/watch?NR=1&feature=endscreen&v=0R6moIY3pjA



    หาตาน้ำ
    http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=VrrN6UYZj38&feature=fvwp
    หาวัตถุในยางรถเก่าๆ


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=SMU9OWaxnSI"]http://www.youtube.com/watch?v=SMU9OWaxnSI[/ame]

    เทคนิคการนำมันมาใช้ในทางทหาร-หาข้อมูล-วางแผนการรบ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=z_4YsRRl_48"]http://www.youtube.com/watch?v=z_4YsRRl_48[/ame]


    คลิบลับสุดยอดทางทหาร นำไม้โดวซิ่งมาใช้ในการสัมผัส-มองเห็นระยะไกล โดยใช้แผนที่

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=qO3wUtD0rro"]Military Remote Viewing and Dowsing - EXCLUSIVE FOOTAGE! - YouTube[/ame]


    การใช้เสาอากาศวิทยุมาแทนไม้โดวซิ่ง--มีความคล้ายกันมาก
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=d0cJS2HVinw"]Similarities between dipole antennas and dowsing rods: Experimental Evidence - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2012
  11. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ฮือฮา!! ชาวมะกันแห่ซื้อกระสุนปลิดชีพผีดิบ จนแทบผลิตไม่ทัน

    [​IMG]ภาพ © Onpointsupply.com
    ข่าวมนุษย์กินคนทำเอาชาวอเมริกันแตกตื่น...กลัวซอมบี้จนต้องเตรียมพร้อม แห่ซื้อกระสุนปลิดชีพผีดิบมาตุนไว้
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าฮอร์นาดี มานูแฟคเจอริง คอมปานี บริษัทเอกชนผู้ผลิตกระสุนปืนรายใหญ่ที่สุดในโลกโฆษณาว่ากระสุน Zombie Max ผลิตมาเพื่อตอบสนองต่ออาชญากรรมกินเนื้อมนุษย์และกระสุนเหล่านี้เป็นทางเดียวที่จะหยุดยั้งซอมบี้ พร้อมกับอ้างว่ากระสุนนี้ชายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยบางร้านถึงกับขายเกลี้ยงเลยทีเดียว
    ขณะเดียวกันมีรายงานว่าคำว่า "กระสุน ซอมบี้" เป็นคำที่ถูกค้นหาทางอินเตอร์เน็ตมากที่สุด เพราะบางคนมีความตื่นกลัวต่อความต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นปี 2012 ตามคำทำนายของคัมภีร์ซอมบี้นั่นเอง
    ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

    บรื๊อ! ด.ญ.สวมชุดไทยปีนต้นไม้ บอก “พระแม่ธรณีสั่ง”

    [​IMG]ภาพ © สนุกดอทคอม
    เกิดเรื่องประหลาดเจอด.ญ.วัย 13 ปี แต่งชุดไทยปีนต้นไม้พ่อแม่พาไปรักษาที่ รพ.ไม่หาย จนต้องหันไปพึ่งหมอผี
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 1 บ้านรุงน้อย อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านแห่ร่วมพิธีเชิญดวงวิญญาณพระแม่ธรณีออกจากร่างน้องป๋อม (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี โดยพ่อและแม่ของเด็กได้เชิญหมอผีนายวาสนา ดลรัศมี มาประกอบพิธี ทั้งนี้น้องป๋อมเอาผ้าถุงมานุ่งและสวมเครื่องประดับสมัยโบราณ ปีนขึ้นไปอยู่บนต้นลับแลหลังบ้าน ใกล้กันมีศาลเพียงตาสร้างใหม่มีหุ่นรูปพระแม่ธรณีอยู่ภายในศาล น้องป๋อมปีนขึ้นไปอยู่บนต้นลับแลนานกว่า 30 นาที ก่อนจะปีนลงมา จากนั้นนายวาสนาได้นำแผ่นทอง 3 แผ่น มาปิดที่หน้าผากและเอาน้ำมนต์มาลูบที่บริเวณแผ่นทองขึ้นไปถึงกลางศีรษะ ทำให้น้องป๋อมมีอาการปรกติทันที
    แม่ของน้องป๋อมเล่าว่า ลูกสาวได้ไปเก็บดอกบัวที่หนองน้ำใหญ่กลับมาถึงบ้านก็มีอาการผิดปรกติ และล้มลงตอนอยู่โรงเรียน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พูดจาเพ้อเจ้อบอกว่าไม่ใช่คนเดิมและยังพูดจาเหมือนคนสมัยโบราณบอกว่าเป็นแม่พระธรณีมาอาศัยร่างอยู่ชั่วคราว จากนั้นใส่ชุดไทยปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ พาไปหาหมอก็ไม่หายจนกระทั่งเชิญหมอผีมาประกอบพิธีดังกล่าว
    ที่มา : สนุกดอทคอม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2012
  12. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    Thailand



    <HR class=solidline>Thailand will drown, not only during the two years following the pole shift, but during the shift itself. The elevation in this low land bordering several oceans is not high enough to buffer any of it’s lands from the onslaught that will occur, first from one side and then another, and often in concert so that the waters clash and rise up in the center of this narrow land, to the horror of those trying to escape the waves. The forces driving the water, during the shift, include not only a shortening Pacific, which will bring water from that direction, but also the suction that a subducting India and western Australia will bring. As this land dives, it creates an opening for waters elsewhere to seek a lower level, and rush in, from all directions, it will! This will not only pull the water from the Pacific across Thailand, even across the highlands tucked into the mainland, but will also result in violent sloshing when the water from all directions clashes over the bowl the former India occupied, pushing this water back over Thailand and the other countries in the vicinity. Those afloat, in boats, who hoped to ride out the shift in this manner, will be dashed about, their craft in pieces, and drown.
    ZetaTalk

    ข้อมูลล่าสุดของเมืองไทย จากเว็ปซีต้าทอล์ค "เมืองไทยจะจมน้ำ"
    -------------------------------------------------- ------------------------------
    ประเทศไทยจะจมน้ำ ไม่เพียงแต่ในช่วงสองปีต่อไปนี้ ที่มีการเปลี่ยนขั้ว แต่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย ระดับความสูงในแผ่นดินต่ำๆนี้ที่มีพรมแดนติดทะเลหลายที่ ไม่สูงพอที่จะกันส่วนใด ๆ ของดินแดนจากการโจมตีที่จะเกิดขึ้นครั้งแรกจากด้านหนึ่งแล้วอื่นและมักจะอยู่ในเพื่อให้ปะทะกันน้ำและลุกขึ้นในใจกลางของพื้นที่นี้ ที่ดินแคบไป การเสียขวัญของผู้ที่พยายามหลบหนีคลื่น กองกำลังน้ำในระหว่างการเปลี่ยนแปลงรวม ไม่เพียงแต่ทำให้สั้นแปซิฟิกซึ่งจะนำน้ำจากทิศทางที่ แต่ยังดูดที่ subducting อินเดียและออสเตรเลียตะวันตกจะนำมา ในฐานะที่เป็นดำน้ำนี้ที่ดินจะสร้างการเปิดน่านน้ำสำหรับที่อื่น ๆ ที่จะแสวงหาในระดับต่ำและรีบเร่งในการจากทุกทิศทางก็จะ! นี้จะไม่เพียงดึงน้ำจากแปซิฟิกทั่วประเทศไทย แม้ทั่วที่ราบสูงซุกเข้าไปในแผ่นดินใหญ่ แต่ยังจะส่งผลให้ความรุนแรง sloshing เมื่อน้ำจากทุกทิศทางปะทะกันมากกว่าอดีตอินเดีย ผลักดันน้ำนี้กลับมากกว่าประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง ผู้ที่ลอยไปในเรือที่ออกในลักษณะนี้จะเรือของพวกเขาจะกลายเป็นชิ้นๆและจมน้ำ
    ™ ZetaTalk
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2012
  13. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ZetaTalk: Earth Wobble written July 17, 2004


    <HR>[​IMG]The key to the Earth wobble many are now beginning to Notice, and the odd cold spot that lingers over Hudson Bay and in the waters off Nova Scotia, lies in the shape of the Atlantic Rift. We have stated that Planet X is skewed at least 45° along the Sun's magnetic flow lines, pointing its S. Pole away from the S. Pole of the Sun as it rounds this pole, thus putting a tug on the Earth's N. Pole which is attracted and tempted to align with Planet X in an end-to-end arrangement. The tilt of the Earth's N. Pole, leaning somewhat to the right to the side of the Sun Planet X is rounding, has created a false season simulating Summer in the northern hemisphere, were it not for the Constellations being out of place, an almost perfect mask for the approaching monster about to upset life on Earth as its current inhabitants know it. For those with keen eyes and clear eyes, for at least half the world from Japan to Ontario, an Earth wobble has become a reality.
    The Atlantic Rift is skewed to the West in the northern hemisphere, and then to the East in the southern hemisphere, following the deepest cleft between the continents as they rip apart during what is commonly called the Continental Drift. As we have stated, this Atlantic Rift is itself a magnet as the tearing occurred during prior pole shifts and cooling magma was quickly aligned with the reforming poles, and thus becomes a third magnet encouraged to align with the Earth's core and Planet X during their encounters. At the point where the Atlantic Rift either faces or is in opposition to Planet X, this tugging to align occurs, creating the Global Quakes noted on live seismographs only during this past year, for the Earth, when Planet X has been in the vicinity. Why has an Earth wobble developed?

    [​IMG]
    1. When the Atlantic Rift is facing Planet X, high noon over the Atlantic, the tilt and lean of the Earth are tending to align side-by-side with Planet X where it rides on the Sun's magnetic flow lines, rather than the Sun, as the combined pull on the Earth core and the Atlantic Rift is a strong magnetic resonance. Due to the 'S' shape of the rift, leading with its southern edge more toward the East, this tug on the rift tends not only to tilt the Earth's N. Pole toward the Sun but also lean the N. Pole toward Planet X, as Planet X is approaching from the South, below the Ecliptic, from the right, and it grabs at the southern portion first, as nearer at hand. This gives Europe to Ontario a sunrise with a northern tilt, the increasing motion North of the Sun after the Solstice that has been noted.
    2. As this southern portion of the Atlantic Rift disappears around to the side of the Earth at dusk, this grip is relaxed and the Earth tends to align side-by-side with the Sun, moving its N. Pole back away from Planet X slightly. This gives the Western Half of the United States a sunrise location more in keeping with what is expected shortly after the Solstice, the Sun seeming to move South. This also moves the Hudson Bay and waters off Nova Scotia away from direct sunlight, thus the odd cold these regions are experiencing during their Summer. This wobble of the N. Pole away from the Sun and Planet X is most accentuated at this point, because the southern Atlantic Rift disappears and is entirely shielded from the direct grip of Planet X, being blocked by the Earth.
    3. As the southern portion of the Atlantic Rift approaches the dark side of the Earth, where it is again in line with the Earth's core and Planet X as magnets, creating magnetic resonance, the tug to align with Planet X again becomes strong, giving Japan the view of a sunrise moving North after the Solstice. But as the southern portion of the Atlantic Rift swings round to approach its dawn position, it is now more accessible to Planet X than at dusk. Approaching from the South, Planet X can directly grip this southern tip of the Atlantic Rift, so any wobble to align with the Sun is slight, tipping the Earth's N. Pole away from the Sun, is slight. Thus Siberia does not find itself with the lack of sunlight the Hudson Bay region does during its daylight hours.

    <DL><DT>We mentioned, in the Whiplash ZetaTalk, that ricochet effects and twirling are possible. Twirling? What does that mean? Why is the cold spot to the west of Hudson Bay the coldest spot on Earth? That’s not the N Pole. What point is pointing away from the Sun most of the day? Are we going to develop a wobble? Are we going to suddenly lurch about so that the Sun is rising and setting in a place way off from where the public would expect? This is in your future, folks, but we will not give you the date. <DD>ZetaTalk: Twirling Wobble,written May 25, 2004 on the Lou Gentile Show, live <DD><DT>Tilting and leaning or aligning with the bully magnet that Planet X represents will occur, with ricochet effects and twirling possible to an extent we decline to reveal at this time. <DD>ZetaTalk: Whiplash,written April 14, 2004 </DD></DL>
    Hudson Bay Cold Spot

    Cold spot just west of the Hutson Bay noted in May.
    [​IMG] And continuing, temps on Sunday June 20 in Alaska, 89°, in Michigan, 39°.
    [​IMG]
    โลกจะสั่นไหวโคงเคลง--ข้อมูลปี 2004 ว่างๆจะมาแปลให้ครับ
     
  14. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    จะมีเสียงเหมือนว่า"โลก ผายลม"

    ZetaTalk: Earth Farts
    written Jan 9, 2007




    <HR>
    On Monday, Jan 8, 2007 there were reports of what appeared to be a monstrous gas leak in New York City and nearby Jersey City. No gas leak was ever found. Rochester, NY reported 4 broken water mains during this same time frame. Marine tankers report their alarms for methane going off, but no leaks found. About a dozen people were taken to hospitals complaining of breathing problems. Then the reports from around the world started pouring in, all seeming to be happening simultaneously. Italy evacuated people from Genova and Bologna due to gas leaks, an explosion killing one. London closed their tube lines due to suspected gas leaks, smells. Australia had water main breaks in Adelaide, and gas smells evacuated a mall in Perth where several were hospitalized as a result. No gas leak was ever located. Here in the US reports came in from Ohio smells, and a factory explosion, cause unknown. Nashville, TN, gas line leak. Mobile, AL gas leak. Blue Springs, MO gas leak with explosion and evacuation. Dallas, TX smells and in Houston a factory fume leak, cause unknown, and in Austin dead birds, cause unknown. Iowa, a pond bubbling. Albuquerque, MN city evacuated due to gas smells. Half Moon Bay, CA evacuated due to smells, Santa Barbara marine tanker alarms due to methane, no leak found, and Oxnard freeway closed due to gas main break. So what is causing this sudden release of methane, along with obvious gas and water main breaks and factory explosions. Also, is this methane from the Earth making people sick, and killing birds?
    We have detailed from the start of ZetaTalk in 1995, the effect of Planet X on the Earth where land would be stretched, what is called the stretch zone. If compression occurs around the Pacific Ring of Fire, then stretching must likewise occur in other areas. The African Rift valley is pulling apart dramatically in these last couple years, creating great crevasses in the Afar Triangle there. The St. Lawrence Seaway is likewise pulling apart, creating power outages in the region from breaks at the Niagara power station and seismic distress in the Black Hills, which becomes rumpled as the land spreads apart along the Seaway. Florida is being pulled down, as are the western regions of Great Britain, a fact dealt with as rising seas when in fact these rising seas are not registered universally elsewhere. The land is sinking there. London has extreme problems with their tube lines derailing, as do rail lines along the Eastern coast of the US.

    We have explained, in great detail, that the stretch zone does not register great quakes when rock layers pull apart and sink, as this is a silent Earth change. Nancy has carefully documented breaking water and gas mains, derailing trains, dislocating bridge abutments, mining accidents, and outbreaks of factory explosions, showing that these have occurred in rashes on occasion, when the rock layers pulled apart. None of this, of course, in the media, though the pattern is obvious. As one of the symptoms of the Earth changes caused by the influence of Planet X on the hapless Earth, this is on the ban list in the media. Don't talk about this except to treat it as a local event, don't do pattern analysis, don't show the big picture. It is all blamed on Global Warming, on a flare from the Sun, on periodic climate changes that happen naturally to the Earth. Anything but admit the monster planet shrouded in a dust cloud, creeping past the Sun and heading toward the Earth.

    In September-October of 2005, a smell of rotten eggs was sensed from LA to Thunder Bay on Lake Superior to the New England states and throughout the South-Eastern US. We explained at that time that this was due to rock layers being pulled apart, releasing gas from moldering vegetation trapped during prior pole shifts, when rock layers were jerked about, trapping vegetation. We explained in March of 2002 that black water off the coast of Florida was caused by this phenomena. Do these fumes cause people to sicken, and birds to die? Mining operations of old had what they called the canary in a birdcage, to warn the miners of methane gas leaks. Birds are very sensitive to these fumes, and die, and this is indeed what happened in Austin, TX. Were it not for the explosions associated with gas leaks, it would be common knowledge that gas leaks sicken, as the body was not structured to breath such air for long.

    Why were these Earth farts and moving ground experienced from Italy and the UK throughout the US and even in Australia, all seemingly simultaneously? We have explained that the plates of the globe have been loosened up, the rock fingers holding them firmly against one another broken off, so a fluidity has resulted. A major adjustment in one place can thus be translated to an adjustment elsewhere, instantaneously. Italy is on fault lines. London is being stretched. Australia is being snapped in two, to some extent, as India is being plunged under the Himalayas while Australia and New Zealand rise. Where Australia will not actually break in two, at the point where the weight of the land rise to the East puts stress on the continent, there are adjustments, and this line across Australia will thus have rock layer adjustments, thus the stretch stench. But the major incidents of this stretch episode were felt across the US, primarily in New York City. Why was this?

    We have mentioned that the point where sinking land in the Southeastern part of the US is pulling the continent down and the point where the rising New England land is bobbing up will be around Philadelphia, PA. New England rises because it is freed from attachments as the Seaway splits. It is free to bob up, as would be its natural state if not attached along the Seaway and to points South along the Eastern seaboard. As with the continent of Australia, the weight of this rising land puts stress at the snap point, not to the point of snapping the land apart, but adjustments will be made. New England is due to rise 450 feet, all told, where the Southeastern US will drop by 150 feet, no minor adjustment. But primarily the N American continent is being stressed due to a diagonal pull, where the New England states are moving East during the normal rotation of the Earth, but the Southwestern portions of the continent near Mexico are being held back. This Earth Torque, which we detailed in May, 2004 is due to tugging on the South Pole by Planet X, a daily affair as the live seismographs show. This Earth Torque was one of the primary reasons for the massive 9.5 quake in Sumatra on Dec 26, 2004, popping that plate up.

    This Earth Torque will be the cause of continuing adjustments on the New Madrid fault line in the US, as we have likewise detailed recently. Mining accidents, when they have occurred in the US in late 2005, occurred along a line from Ontario to Mexico. Look at these Earth fart incidences, occurring on Jan 8, 2007. New York City, across to Ohio and Nashville and Missouri and Texas. Does this not line up with the mining accidents following the Sago Mine incident in late 2005? From New England to Mexico, that line. This is where the ground is being pulled, diagonally, with land West of the Mississippi going Southwest, land East of the Mississippi going Northeast. Such a diagonal pull certainly exposes rotting vegetation trapped between rock layers to the air. The incidences along the California coast are due to a reaction to the changes to the East, as the fault lines along the West Coast will certainly have to adjust in turn. However, the California adjustments are not caused by compression, during these times, but due to adjusting to the new position of Mexico, to the South.



    <DL><DT>Mysterious gas odor in NYC and Jersey City
    Jan 8, 2007
    http://abclocal.go.com/


    <DD>The odor of natural gas was reported across Midtown Manhattan, prompting hundreds of calls to emergency workers. A very similar smell was also reported in Downtown Jersey City. Con Edison officials said were investing the source of the leak. The NYC Transit Authority is telling us the F station at W. 23rd St and 6th Ave has been evacuated as a precaution. PATH train service has been temporarily suspended between 33rd Street and Journal Square and 33rd Street and Hoboken due to emergency activity. About a dozen people were taken to hospitals complaining of difficulty breathing. <DD><DT>The environmental "surge" you're not hearing anything about.
    Jan 8, 2007
    http://www.waynemadsenreport.com/


    <DD>According to U.S. maritime industry sources, tanker captains are reporting an increase in onboard alarms from hazard sensors designed to detect hydrocarbon gas leaks and, specifically, methane leaks. However, the leaks are not emanating from cargo holds or pump rooms but from continental shelves venting increasing amounts of trapped methane into the atmosphere. Another location experiencing increased venting is the Santa Barbara Channel on the California coast. <DD><DT>Natural Gas Smell Frightens Manhattan
    Jan 08, 2007


    <DD>Con Edison, the New York City power company, was quoted as saying it had detected no leaks in its system but it said it was checking all of its lines. The smell is there. We don't know the source of it, New York City Mayor Michael Bloomberg said at a news conference. <DD><DT>Overnight 'flow adjustments' break 4 water mains
    Jan 8, 2007


    <DD>Broken water mains that closed at least four roads in Rochester this morning have been repaired. Agency workers were doing some flow adjustments. As a result, water pressure was higher than normal and caused several failures at weak points in the system. <DD><DT>Source: Videotext of TV station Canale 5 of Mediaset Group,page 165,166
    http://godlikeproductions.com/


    <DD>In Bologna 100 people were evacuated "for precaution" for a gastube leak this late evening. This afternoon happened a quake of 3,7 Richter there. In December nearby exploded a gas tube and killed 5 people. In Genova also, residents of a Palace were evacuated for a gas tube leak. This happened this early eveneing. <DD><DT>Tube station shut after gas leak
    Jan 8, 2007
    http://news.bbc.co.uk/


    <DD>Services on the Hammersmith and City tube line has been partly suspended due to a gas leak. Hammersmith underground station, which is on the Hammersmith and City line, has been closed since 1540 GMT. An investigation is under way. <DD><DT>Gas fears empty shopping mall
    Jan 08, 2007
    http://www.news.com.au/perthnow/


    <DD>The centre on the corner of Queen and Cantonment streets was promptly evacuated as FESA sought to determine the cause of the symptoms - but Mr Klenner said none had been found. Whatever it was must have dispersed really quickly. Possible causes included leaking cleaning fluid or equipment. Three St John Ambulances treated at least 19 patients for minor injuries - taking four of them to hospital. <DD><DT>Burst Water Main - North Terrace at College Park
    11 December 2006


    <DD>Emergency services crews have been mopping up on North Terrace at College Park where a burst water main has caused flooding to some properties. <DD><DT>http://godlikeproductions.com/<DD>Put Cleveland Ohio on the map for wierd gas leaks. <DD><DT>AEP Ohio plant blast kills one, shuts unit
    Jan 7, 2007
    http://www.alertnet.org/


    <DD>An explosion at American Electric Power Co. coal-fired plant in Ohio killed one person and injured nine on Monday, leading to the shutdown of a coal unit. The blast occurred as hydrogen was being delivered by truck, killing the driver. The explosion occurred outside the plant's walls, and while the cause was unknown it did not involve the unit's boilers. <DD><DT>Charlotte Pike Opened After Methane Gas Leak
    Jan 8, 2007
    http://www.newschannel5.com/


    <DD>Officials have re-opened Charlotte Pike. The road was closed Monday morning after a gas leak. Charlotte Pike was closed as methane gas leaked into the air. Hazmat and fire crews were called out as a precaution. NES was also on the scene. No evacuations were ordered. It was the second time in a month that construction crews have hit a gas line. <DD><DT>Ruptured gas line in Downtown Mobile repaired
    Jan 8, 2007
    http://www.fox10tv.com/


    <DD>Mobile Fire and Rescue tells Fox 10 News a gas line leak at the RSA tower has been stopped. Streets have reopened, and all businesses involved are also open again. No one was injured. <DD><DT>Gas Leak Forces Evacuation In Blue Springs
    January 8, 2007
    http://www.thekansascitychannel.com/


    <DD>A gas leak and small explosion prompted police to evacuate about 50 homes and a preschool in downtown Blue Springs on Monday afternoon. <DD><DD>I was taking some back roads home today and as I drove by a pond along side the road I noticed that is was bubbling. I've driven by this pond many times over the past 12 years that we have lived in this area and I've never seen it do this before. I live in Central Iowa. <DD><DD>Smells like gas in Dallas too. I smell it here in Grand Prairie TX also. I'm in the middle of Dallas / FtWorth. The air really reaks! <DD><DT>Leak At Houston-Area Plant Keeps Kids In School
    January 8, 2007
    http://www.nbc5i.com/


    <DD>A Houston suburb lifted its shelter warning and said it was safe for residents to go outside Monday afternoon, a little more than an hour after white smoke or vapor vented from an industrial plant. It was unclear whether the apparent leak was coming from the facility or from a vehicle at the facility. <DD><DT>Downtown OK after dead bird scare
    Jan 8, 2007


    <DD>Health officials say dozens of dead birds discovered Monday along Congress Avenue in downtown Austin posed no health risk to the public. Air quality tests conducted at the site where the 63 dead pigeons, grackles and sparrows were found have come back negative. <DD><DT>Part of Rio Rancho under voluntary evacuation order.
    08 January 2007
    http://www.abqjournal.com/


    <DD>The Rio Rancho Department of Public Safety has called a voluntary evacuation for part of the city because of a very large gas main break. Public Service Company of New Mexico crews told Rio Rancho DPS that it will be some time before everything is cleared out. The break happened around 11:30 am. <DD><DT>Gas leak forces evacuations on Oak Avenue
    http://www.hmbreview.com/


    <DD>Mandatory evacuations are underway for residences on Oak Avenue in Half Moon Bay following reports of a broken gas main. It was not immediately clear when the leak would be fixed or when residents would return to their homes. <DD><DT>Ruptured SoCal natural gas line forces freeway closure <DD>Calif. Southern California gas crews are fixing a ruptured four-inch natural gas line adjacent to the 101 Ventura Freeway near Oxnard. A private contractor was digging and doing some construction around 11 am and accidentally hit the line, causing a leak. </DD></DL>เมื่อวันที่จันทร์มกราคม 8, 2007 มีรายงานจากสิ่งที่ปรากฏจะมีแก๊สรั่วมหึมาในนิวยอร์กซิตี้และบริเวณใกล้เคียงเจอร์ซีย์ซิตีคือ ไม่มีการรั่วไหลของก๊าซเคยพบ โรเชสเตอร์, นิวยอร์กรายงาน 4 ท่อน้ำเสียในช่วงระยะเวลาเดียวกันนี้ เรือบรรทุกน้ำมันในทะเลรายงานการเตือนภัยของพวกเขาสำหรับก๊าซมีเทนจะปิด แต่ไม่รั่วซึมที่พบ เกี่ยวกับโหลคนถูกนำตัวไปที่โรงพยาบาลบ่นของปัญหาการหายใจ แล้วรายงานจากทั่วโลกที่เริ่มเทในทุกดูเหมือนจะเกิดขึ้นพร้อมกัน อิตาลีอพยพผู้คนจากเจโนวาและโบโลญญาเนื่องจากการรั่วไหลของก๊าซระเบิดฆ่าหนึ่ง ลอนดอนปิดเส้นท่อของพวกเขาเนื่องจากการรั่วไหลของก๊าซสงสัยกลิ่น ออสเตรเลียมีการแบ่งหลักของน้ำในแอดิเลด, กลิ่นและก๊าซที่อพยพห้างสรรพสินค้าในเพิร์ทที่หลายคนในโรงพยาบาลเป็นผล แก๊สรั่วไม่มีที่ตั้งอยู่เดิม ที่นี่ในสหรัฐรายงานมาจากโอไฮโอกลิ่นและการระเบิดของโรงงานทำให้ไม่รู้จัก แนชวิลล์, เทนเนสซี, รั่วไหลของก๊าซเส้น มือถือ, อลาบาม่าก๊าซรั่ว บลูสปริงส์, มิสซูรี่มีแก๊สรั่วที่มีการระเบิดและการอพยพ ดัลลัส, เท็กซัสและกลิ่นในฮูสตันโรงงานรั่วควันทำให้ไม่รู้จักและในนกตายออสติน, ก่อให้เกิดความไม่รู้จัก ไอโอวา, bubbling บ่อ อัลเบอร์เคมินนิโซตาเมืองอพยพเนื่องจากก๊าซกลิ่น ฮาล์ฟมูนเบย์อพยพเนื่องจากกลิ่นเรือบรรทุกน้ำมันในทะเล Santa Barbara สัญญาณเตือนเนื่องจากก๊าซมีเทนรั่วไม่พบและ Oxnard ทางด่วนปิดเนื่องจากก๊าซแบ่งหลัก ดังนั้นสิ่งที่เป็นสาเหตุนี้ปล่อยฉับพลันของก๊าซมีเทนพร้อมกับก๊าซที่เห็นได้ชัดและแบ่งหลักของน้ำและการระเบิดของโรงงาน นอกจากนี้เป็นก๊าซมีเทนจากโลกนี้ทำให้ผู้คนป่วยและฆ่านก?เรามีรายละเอียดตั้งแต่เริ่มต้นของ ZetaTalk ในปี 1995 ผลของ X โลกบนโลกที่ที่ดินจะได้รับการยืด, สิ่งที่เรียกว่าโซนยืด หากการบีบอัดที่เกิดขึ้นรอบ ๆ แหวนแห่งไฟแปซิฟิกแล้วยืดเหมือนกันต้องเกิดขึ้นในพื้นที่อื่น ๆ ระแหงลีย์แอฟริกันจะดึงออกจากกันอย่างมากในปีนี้คู่สุดท้ายสร้าง crevasses ที่ดีในสามเหลี่ยมไกลมี เซนต์ลอว์เร Seaway ถูกเหมือนกันดึงกันสร้างภาวะไฟดับในภูมิภาคจากตัวแบ่งที่สถานีพลังงานไนแองกาและความทุกข์แผ่นดินไหวในฮิลส์สีดำซึ่งจะกลายเป็นยับเป็นที่ดินกระจายออกจากกันตามแนวทะเล ฟลอริด้าจะถูกดึงลงเช่นเดียวกับภูมิภาคตะวันตกของสหราชอาณาจักร, ความจริงกระทำกับเป็นทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นในเมื่อความจริงเหล่านี้เพิ่มขึ้นทะเลไม่ได้ลงทะเบียนทุกแห่งที่อื่น ที่ดินจะจมมี ลอนดอนมีปัญหามากที่มีเส้นท่อของพวกเขา derailing เช่นเดียวกับรถไฟตามแนวชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ เราได้อธิบายในรายละเอียดมากว่าโซนยืดไม่ได้ลงทะเบียนไหวที่ดีเมื่อชั้นหินดึงออกจากกันและจมลงเช่นนี้คือการเปลี่ยนแปลงของโลกเงียบ แนนซี่ได้รับการบันทึกไว้อย่างรอบคอบทำลายท่อน้ำและก๊าซ derailing รถไฟ dislocating abutments สะพานเกิดอุบัติเหตุเหมืองแร่และการระบาดของการระเบิดของโรงงานเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ามีผื่นเกิดขึ้นในบางโอกาสเมื่อชั้นหินดึงออกจากกัน ไม่มีการนี​​้ของหลักสูตรในสื่อแม้ว่ารูปแบบที่เห็นได้ชัด ในฐานะที่เป็นหนึ่งในอาการของการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดจากอิทธิพลของ X โลกบนโลกโชคร้ายนี้อยู่ในรายชื่อห้ามในสื่อ ไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ยกเว้นที่จะรักษามันเป็นเหตุการณ์ในท้องถิ่นไม่ต้องทำการวิเคราะห์รูปแบบไม่แสดงภาพใหญ่ มันเป็นตำหนิทั้งหมดเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนบนเปลวไฟจากดวงอาทิตย์, ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นระยะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติบนโลก อะไร แต่ยอมรับว่าดาวเคราะห์มอนสเตอร์ที่หุ้มในเมฆฝุ่น, คืบคลานผ่านมาอาทิตย์และมุ่งสู่โลก ในเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมของปี 2005 มีกลิ่นหอมของไข่ที่เน่าเสียได้รู้สึกจาก LA ไปทันเดอร์เบย์บนทะเลสาบสุพีเรีไปนิวอิงแลนด์รัฐและทั่วตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ เราอธิบายในเวลาที่ว่านี้เป็นเพราะหินถูกดึงชั้นออกจากกันปล่อยก๊าซจากพืชซึ่งผุพังขังอยู่ในช่วงกะเสาก่อนเมื่อชั้นหินถูก jerked เกี่ยวกับดักพืช เราอธิบายในเดือนมีนาคม 2002 ว่าน้ำสีดำออกจากชายฝั่งฟลอริด้าเกิดจากปรากฏการณ์นี้ อย่าควันเหล่านี้ทำให้คนที่ป่วยและนกที่จะตาย? การดำเนินงานการทำเหมืองแร่เก่ามีสิ่งที่พวกเขาเรียกว่านกขมิ้นในกรงนกเพื่อเตือนคนงานเหมืองของการรั่วไหลของก๊าซมีเทน นกมีความไวต่อควันเหล่านี้และตายและนี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในออสติน, เท็กซัส ไม่ได้สำหรับการระเบิดที่เกี่ยวข้องกับการรั่วไหลของก๊าซก็จะความรู้ทั่วไปที่ก๊าซรั่วไหลแบ็บเนื่องจากร่างกายไม่ได้มีโครงสร้างในการหายใจอากาศดังกล่าวเป็นเวลานาน เหล่านี้ farts โลกและพื้นดินที่กำลังเคลื่อนที่มีประสบการณ์จากประเทศอิตาลีและ UK ทั่วสหรัฐอเมริกาและแม้แต่ในประเทศออสเตรเลียทุกคนดูเหมือนจะพร้อม ๆ กันทำไม? เราได้อธิบายว่าแผ่นของโลกที่ได้รับการหลวมขึ้น, มือถือร็อคอย่างหนักแน่นกับคนอื่นนอกเสียดังนั้นการไหลมีผล ปรับใหญ่ในที่เดียวสามารถทำให้ได้รับการแปลเพื่อการปรับตัวที่อื่นทันที อิตาลีอยู่บนเส้นความผิด ลอนดอนจะถูกยืด ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ถูก snapped ในสองที่มีขอบเขตเช่นอิน​​เดียจะถูกลดลงภายใต้เทือกเขาหิมาลัยในขณะที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น ที่ออสเตรเลียจะยังไม่ทำลายในสองจุดที่น้ำหนักของการเพิ่มขึ้นของที่ดินไป East ทำให้ความเครียดในทวีปที่มีการปรับอยู่และสายทั่วประเทศออสเตรเลียนี้จึงจะมีการปรับชั้นหินจึงกลิ่นเหม็นยืด แต่เหตุการณ์ที่สำคัญของการยืดตอนนี้ได้รู้สึกว่าในสหรัฐอเมริกาเป็นหลักในนิวยอร์กซิตี้ ทำไมนี้คือ?

    เราได้กล่าวว่าจุดที่จมดินแดนในส่วนตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐจะดึงทวีปลงและจุดที่สูงขึ้นนิวอิงแลนด์ที่ดินจะกระดกขึ้นจะมีรอบ Philadelphia, PA นิวอิงแลนด์เพิ่มขึ้นเพราะมันเป็นอิสระจากสิ่งที่แนบมาเป็นทะเลแยก มันมีอิสระที่จะ Bob ขึ้นเป็นจะเป็นสภาพธรรมชาติหากไม่ได้แนบมาพร้อม Seaway และเพื่อจุดใต้ตามแนวชายฝั่งตะวันออก เช่นเดียวกับทวีปออสเตรเลีย, น้ำหนักของที่ดินที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้ความเครียดที่จุดสแนปไม่ถึงจุดที่หักที่ดินนอกเหนือ แต่การปรับเปลี่ยนจะทำ นิวอิงแลนด์เป็นเนื่องจากว่าจะเพิ่มขึ้น 450 ฟุตทั้งหมดบอกที่ Southeastern สหรัฐจะลดลงโดย 150 ฟุตไม่มีการปรับตัวเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ยังไม่มีทวีปอเมริกาจะถูกเน้นเนื่องจากการดึงเส้นทแยงมุมที่รัฐนิวอิงแลนด์กำลังจะย้ายตะวันออกในระหว่างการหมุนตามปกติของโลก แต่ส่วนตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปที่อยู่ใกล้เม็กซิโกกำลังถูกจัดขึ้นมา แรงบิดโลกนี้ซึ่งเรามีรายละเอียดในเดือนพฤษภาคม 2004 คือเนื่องจากดึงบนขั้วโลกใต้โดย Planet X, เรื่องในชีวิตประจำวันเป็น seismographs ถ่ายทอดสดการแสดง นี้แรงบิดโลกเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักของการสั่นสะเทือนขนาดใหญ่ 9.5 ในสุมาตราเมื่อ 26 ธันวาคม 2004, popping จานที่ขึ้น



    แรงบิดโลกนี้จะเป็นสาเหตุของการปรับอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับนิวสายผิดมาดริดในสหรัฐในขณะที่เรามีรายละเอียดเช่นเดียวกันเมื่อเร็ว ๆ นี้ อุบัติเหตุการทำเหมืองแร่เมื่อพวกเขาได้เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในปลายปี 2005 เกิดขึ้นตามแนวเส้นตรงจากออนตาริไปเม็กซิโก ฟอรั่มเหล่านี้อุบัติการณ์ของโลกผายลมที่เกิดขึ้นเมื่อ 8 มกราคม 2007 นิวยอร์กซิตี้, ข้ามไปโอไฮโอและแนชวิลล์และมิสซูรีและเท็กซัส นี้ไม่ได้ขึ้นกับสายการเกิดอุบัติเหตุเหมืองแร่ดังต่อไปนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Mine สาคูในปลายปี 2005? จากนิวอิงแลนด์ไปยังเม็กซิโก, บรรทัดที่ นี่คือที่พื้นดินจะถูกดึงตามแนวทแยงมุมกับที่ดินทางทิศตะวันตกของแม่น้ำมิสซิสซิปปีไปทางตะวันตกเฉียงใต้ที่ดินตะวันออกของแม่น้ำมิสซิสซิปปีไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังกล่าวดึงเส้นทแยงมุมแน่นอนเสี่ยงที่เน่าเปื่อยของพืชที่ติดอยู่ระหว่างชั้นหินที่มีอากาศ อุบัติการณ์ตามแนวชายฝั่งแคลิฟอร์เนียเนื่องจากปฏิกิริยาต่อการเปลี่ยนแปลงไป East เป็นเส้นความผิดตามชายฝั่งตะวันตกอย่างแน่นอนจะมีการปรับในทางกลับกัน อย่างไรก็ตามการปรับแคลิฟอร์เนียไม่ได้เกิดจากการบีบอัดในช่วงเวลาเหล่านี้ แต่เนื่องจากการปรับตำแหน่งใหม่จากเม็กซิโกไปทางทิศใต้




    กลิ่นก๊าซที่เร้นลับในนิวยอร์คและนิวเจอร์ซีย์ซิตี

    8 มกราคม 2007

    ABC Owned Television Stations


    กลิ่นของก๊าซธรรมชาติที่มีรายงานทั่ว Midtown Manhattan กระตุ้นหลายร้อยคนงานโทรฉุกเฉิน กลิ่นคล้ายกันมากยังมีการรายงานใน Downtown เจอร์ซีย์ซิตี เจ้าหน้าที่เอดิสันกล่าวว่า Con ถูกลงทุนแหล่งที่มาของการรั่วไหล NYC ทางพิเศษจะบอกเราที่สถานีเรนไฮน์ที่ดับบลิว 23 เซนต์และ 6 Ave ได้รับการอพยพเพื่อความไม่ประมาท บริการรถไฟเส้นทางถูกระงับชั่วคราวระหว่าง 33 ถนนและวารสารสแควร์และ 33 ถนนและนิวเจอร์ซี่เนื่องจากกิจกรรมฉุกเฉิน เกี่ยวกับโหลคนถูกนำตัวไปที่โรงพยาบาลบ่นของการหายใจลำบาก
    "กระชาก" สิ่งแวดล้อมคุณไม่ได้ยินอะไรเกี่ยวกับ

    8 มกราคม 2007

    WAYNE MADSEN REPORT - Wayne Madsen Report


    ตามที่สหรัฐอเมริกาทางทะเลแหล่งอุตสาหกรรมกัปตันเรือบรรทุกน้ำมันมีการรายงานเพิ่มขึ้นในสัญญาณเตือนจากเซ็นเซอร์ onboard อันตรายที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับการรั่วไหลของก๊าซไฮโดรคาร์บอนและโดยเฉพาะการรั่วไหลของก๊าซมีเทน แต่การรั่วไหลจะไม่เล็ดลอดออกมาจากห้องบรรทุกสินค้าถือหรือเครื่องสูบน้ำ แต่จากการระบายชั้นวางคอนติเนนการเพิ่มปริมาณของก๊าซมีเทนสู่ชั้นบรรยากาศติดกับดัก สถานที่อื่น ๆ อีกประสบการระบายเพิ่มขึ้นเป็นช่องทางใน Santa Barbara ชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย
    กลิ่นก๊าซธรรมชาติ Frightens แมนฮัตตัน

    8 มกราคม 2007


    คอนเอดิสัน, บริษัท New York อำนาจเมืองถูกยกมาเป็นคำพูดที่มันได้ตรวจพบการรั่วไหลในระบบของมัน แต่มันบอกว่ามันถูกตรวจสอบทั้งหมดของเส้นของมัน กลิ่นจะมี เราไม่ทราบแหล่งที่มาของมัน, นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กไมเคิลบลูมเบิร์กกล่าวว่าที่ประชุมข่าว
    'ไหลปรับเปลี่ยน' ค้างคืนทำลาย 4 ท่อน้ำ

    8 มกราคม 2007


    ท่อน้ำเสียที่ปิดอย่างน้อยสี่ถนนในโรเชสเตอร์เมื่อเช้านี้ได้รับการซ่อมแซม คนงานหน่วยงานที่ได้กระทำการปรับเปลี่ยนการไหลบาง เป็นผลให้แรงดันน้ำสูงกว่าปกติและที่เกิดจากความล้มเหลวหลายจุดที่อ่อนแอในระบบ
    ที่มา: Videotext ของสถ​​านีโทรทัศน์ Canale 5 จาก Mediaset กลุ่มเพจ 165,166

    http://godlikeproductions.com/


    ในโบโลญญา 100 คนอพยพ "สำหรับระมัดระวัง" สำหรับรั่ว gastube นี้ยามค่ำ บ่ายวันนี้เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว 3,7 ริกเตอร์มี ในเดือนธันวาคมในบริเวณใกล้เคียงระเบิดท่อก๊าซและฆ่า 5 คน ใน Genova ยังอาศัยอยู่ในพระราชวังอพยพสำหรับการรั่วไหลของท่อก๊าซ เรื่องนี้เกิดขึ้นนี้ eveneing ต้น
    สถานีรถไฟใต้ดินปิดหลังจากที่มีแก๊สรั่ว

    8 มกราคม 2007

    http://news.bbc.co.uk/~~V


    บริการเกี่ยวกับสายท่อแฮมเมอร์และเมืองถูกระงับส่วนหนึ่งเนื่องจากการที่มีแก๊สรั่ว แฮมเมอร์สถานีรถไฟใต้ดินซึ่งอยู่ในสาย Hammersmith และเมืองได้ถูกปิดมาตั้งแต่ 1540 GMT การสอบสวนอยู่ระหว่างทาง
    ก๊าซกลัวช้อปปิ้งมอลล์ที่ว่างเปล่า

    8 มกราคม 2007

    http://www.news.com.au/perthnow/~~V


    ศูนย์บนมุมถนนราชินีและ Cantonment ถูกอพยพทันทีเป็น FESA พยายามที่จะหาสาเหตุของอาการ - แต่นาย Klenner กล่าวว่าไม่มีได้รับการค้นพบ อะไรก็ตามที่มันถูกต้องแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วจริงๆ สาเหตุที่รวมน้ำยาทำความสะอาดรอยรั่วหรืออุปกรณ์ สามรถพยาบาลเซนต์จอห์นได้รับการรักษาอย่างน้อย 19 รายบาดเจ็บเล็กน้อยสำหรับ - สละสี่ของพวกเขาไปโรงพยาบาล
    น้ำแตกออกหลัก - ชานนอร์ทที่คอลเลจพาร์ค

    11 ธันวาคม 2006


    ทีมงานบริการฉุกเฉินได้รับการถูขึ้นไปบนลานระเบียงความเร็วที่คอลเลจพาร์คที่ระเบิดน้ำหลักได้ทำให้เกิดน้ำท่วมถึงคุณสมบัติบางอย่าง
    http://godlikeproductions.com/
    คลีฟแลนด์โอไฮโอวางบนแผนที่สำหรับการรั่วไหลของก๊าซแปลก
    AEP ระเบิดโรงงานในโอไฮโอฆ่าหนึ่งหน่วยปิด

    7 มกราคม 2007

    AlertNet - A Thomson Reuters Foundation Service - AlertNet


    ระเบิดที่อเมริกันไฟฟ้าโรงไฟฟ้​​า จำกัด ถ่านหินในโอไฮโอฆ่าคนคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บและเก้าในวันจันทร์ที่นำไปสู่​​การปิดของหน่วยถ่านหิน ระเบิดเกิดขึ้นเป็นก๊าซไฮโดรเจนที่ถูกส่งโดยรถบรรทุกฆ่าคนขับ การระเบิดเกิดขึ้นนอกกำแพงของโรงงานและในขณะที่สาเหตุคือไม่รู้จักมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับหม้อไอน้ำของหน่วย
    ชาร์ลอหอกเปิดหลังจากการรั่วไหลก๊าซมีเทน

    8 มกราคม 2007

    NewsChannel5.com | Nashville News, Weather & Sports - Home


    เจ้าหน้าที่ได้เปิดให้เล่นใหม่ชาร์ลอ Pike ถนนถูกปิดช่วงเช้าวันจันทร์หลังจากที่มีแก๊สรั่ว ชาร์ลอ Pike ถูกปิดเป็นก๊าซมีเทนรั่วไหลออกไปในอากาศ ทีมงานวัตถุอันตรายและไฟถูกเรียกออกมาเพื่อความไม่ประมาท NES ยังที่เกิดเหตุ พึ้ไม่มีถูกสั่ง มันเป็นครั้งที่สองในเดือนที่ทีมงานก่อสร้างได้ตีสายแก๊ส
    สายก๊าซที่ร้าวในมือถือ Downtown ซ่อมแซม

    8 มกราคม 2007

    Mobile AL, Pensacola, FL News, Weather | Fox10tv.com


    ดับเพลิงและกู้ภัยมือถือบอกฟ็อกซ์ 10 ข่าวรั่วไหลของก๊าซเส้นที่ RSA หอถูกหยุด ถนนที่มีการเปิดและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนอกจากนี้ยังเปิดอีกครั้ง ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
    ก๊าซรั่วอพยพกองกำลังในบลูสปริงส์

    8 มกราคม 2007

    Kansas City News, Kansas City, Missouri News, Weather and Sports - KMBC Kansas Citys Channel 9


    แก๊สรั่วและระเบิดขนาดเล็กที่รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้อพยพประมาณ 50 บ้านเรือนและโรงเรียนอนุบาลในเมืองบลูสปริงส์เมื่อบ่ายวันจันทร์
    ผมกำลังบางส่วนที่บ้านถนนกลับในวันนี้และขณะที่ผมขับรถโดยบ่อข้างถนนผมสังเกตเห็นว่าจะเป็นฟอง ฉันได้แรงหนุนจากบ่อนี้หลายครั้งที่ผ่านมา 12 ปีที่เราได้อาศัยอยู่ในบริเวณนี้และผมไม่เคยเห็นมันทำเช่นนี้มาก่อน ฉันอาศัยอยู่ในภาคกลางของรัฐไอโอวา
    มีกลิ่นเหมือนก๊าซในดัลลัสมากเกินไป ฉันได้กลิ่นมันนี่ในแกรนด์แพรเท็กซัสยัง ฉันอยู่ตรงกลางของดัลลัส / FtWorth อากาศจริงๆ reaks!
    รั่วไหลที่โรงงานฮูสตันพื้นที่เก็บเด็กในโรงเรียน

    8 มกราคม 2007

    Dallas-Fort Worth News, Weather, Sports, Lifestyle, and Traffic


    ชานเมืองฮูสตันยกคำเตือนที่พักพิงและกล่าวว่ามันเป็นที่ปลอดภัยสำหรับผู้อยู่อาศัยออกไปข้างนอกตอนบ่ายวันจันทร์ที่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ควันสีขาวหรือไอระบายอากาศจากโรงงานอุตสาหกรรม มันเป็นความชัดเจนว่าการรั่วไหลที่ชัดเจนมาจากโรงงานหรือจากยานพาหนะท​​ี่อำนวยความสะดวก
    ตกลงหลังจากที่ดาวน์ทาวน์ดีฝ่อนกที่ตายแล้ว

    8 มกราคม 2007


    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่านับสิบของนกที่ตายแล้วค้นพบจันทร์พร้อม Congress Avenue ในย่านใจกลางเมืองออสตินความเสี่ยงต่อสุขภาพไม่ให้ประชาชน เครื่องทดสอบที่มีคุณภาพดำเนินการที่เว็บไซต์ที่ 63 นกพิราบตาย grackles และนกกระจอกพบได้กลับมาในทางลบ
    บางส่วนของริโอแรนตามคำสั่งอพยพโดยสมัครใจ

    8 มกราคม 2007

    ABQJournal Online


    Rio Rancho กรมความปลอดภัยสาธารณะได้เรียกการอพยพโดยสมัครใจเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเมืองเนื่องจากการแบ่งขนาดใหญ่มากก๊าซหลัก บริษัท ที่ให้บริการสาธารณะของลูกเรือนิวเม็กซิโกบอก DPS แรนโอว่ามันจะมีบางเวลาก่อนที่ทุกอย่างจะถูกล้างออก แบ่งที่เกิดขึ้นรอบ 11:30 น.
    ก๊าซรั่วไหลอพยพกองกำลังเกี่ยวกับ Oak อเวนิว

    Half Moon Bay Review : Serving the Coastside since 1898
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2012
  15. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    การโกหกสีขาว

    ZetaTalk: White Lie
    written May 23, 2003



    <HR>As can be seen from the actions of the US and Indonesian governments scant days ahead of and continuing after our announced date of May 15, 2003, they fully intend to harm hundred of millions of their citizens through martial law, declared such in Indonesia and called terrorism level Red by Homeland Security. What is martial law, if not ordering citizens to remain in their homes? What effect does this have on citizens about within cities where buildings will tumble and crush them, or along coast or in lowlands sure to be inundated by tidal waves? Death, injury with no rescue, and massive dieoff. Is this the intent of those in command in those governments, sworn to protect their citizens and collecting taxes to this end? There can be no doubt, and one has only to read the actions of these governments to ascertain this.



    Why did we allow Nancy, who has labored though the mine field and put herself at risk with ZetaTalk, to be so humiliated as to announce to a broad audience live radio show very specific dates, which were promptly missed? At a time when Planet X is so close as to be competing with the Sun at noon, visible by the unaided eye, and well tracked to this point by many sunrise and sunset sightings and photos, in the manner and in the time frame we predicted, and at a time when earthquakes have increased to the point, as we predicted, to being noticeable, affecting population centers so they cannot be denied by underreporting in the quake databases, the bad dates stand as an exception. And what is the effect of this gambit, an acknowledged white lie on our part, on those in the US and Indonesian governments who would murder their citizens by the hundreds of millions?
    • They cannot closely coordinate blocking a city for a specific date and time, thus having to either order a perpetual state of readiness or be prepared to muster a quick blockade, neither workable.
    • They must either share the true agenda with numerous local agencies, in order to have cooperation for a quick muster, or anticipate failure when calling a sudden and unplanned blockage.
    • Local agencies would be sympathetic to the local populace and rebellion would likely ensue.
    • A perpetual state of readiness requires agencies to be focused only on exercises, and not distracted from their regular work, and any natural disaster ensuing would shatter this state.
    • Natural disasters such as imploding buildings in the stretch zone, or strong quakes or volcanoes in compression zones, would divert resources from the ready status waiting to blockade cities.
    • The governments increasingly have to explain the perpetual state of readiness, constant exercises, in the face of a lack of actual terrorism, thus losing credibility among those required to carry out a blockade.
    • Incidences of natural disasters, and increasing visibility of Planet X, change the focus from tearooms to natural disaster and thus an order to remain in their homes would seem inappropriate to citizens, who would rebel.
    And what is the effect on the common man, being denied even at this late date any honest information on what is about to devastate their lives?
    • For those waiting for an undeniable sight that the earth changes we have predicted, rotation stoppage followed by red dusting will be that undeniable sign, and any announced date ignored until such signs are evident.
    • For those wanting to leave for a safe location ahead of rotation stoppage, but having ties to their ordinary life and obligations, rapid earth changes such as earthquakes and volcanic eruptions, as well as a perceptible slowing of rotation, will be their clue, regardless of published dates which are not palpable.
    • For those who have made very early changes in their lives, moving to safe locations and settling in there, an exact date is not crucial.
    • For the vast majority of mankind who has not even heard of a possible pole shift, announcing dates is irrelevant.
    • For the large portion of humanity who cannot move to safe locations or make changes in their lives, as their lives are a struggle for subsistence on a daily basis, announced dates are irrelevant.
    • For those who are traveling, for work or pleasure, they have chosen to be out and about at this time, or to place themselves in such a position by their employment choice, and thus are not taking the message seriously, nor would they despite any announced dates.
    Thus, an announced date, where it would be convenient, does not change the outcome of preparation for the common man, where it would greatly be used by those who would murder their citizens, or take advantage of others, and thus we decline to give any dates. Watching the earth changes, and the behavior of those in the corridors of power, will be the best clues.
    ---เราสามารถเห็นได้จากการกระทำของรัฐบาลสหรัฐและอินโดนีเซียวันที่ขาดแคลนก่อนและต่อเนื่องหลังจากวันที่ประกาศของเราที่ 15 พฤษภาคม 2003, พวกเขาอย่างเต็มที่ตั้งใจที่จะเป็นอันตรายต่อร้อยล้านของพลเมืองของพวกเขาผ่านกฎอัยการศึกประกาศดังกล่าวในประเทศอินโดนีเซียและที่เรียกว่า แดงก่อการร้ายระดับตามความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กฎอัยการศึกคืออะไรหากไม่ได้รับการสั่งซื้อของประชาชนยังคงอยู่ในบ้านของพวกเขา? สิ่งนี้มีผลต่อประชาชนเกี่ยวกับการตั้งอยู่ภายในเมืองที่อาคารจะพังพินาศและความสนใจพวกเขาหรือตามแนวชายฝั่งหรือในที่ราบลุ่มแน่ใจว่าจะถูกน้ำท่วมโดยคลื่นยักษ์? ความตาย, บาดเจ็บกับกู้ภัยไม่มี die off ใหญ่ อันนี้เป็นเจตนาของผู้ที่อยู่ในคำสั่งในรัฐบาลเหล่านั้นสาบานที่จะปกป้องพลเมืองและภาษีการจัดเก็บภาษีของพวกเขาไปยังจุดสิ้นสุดนี้? สามารถมีข้อสงสัยใดและมีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งในการอ่านการกระทำของรัฐบาลเหล่านี้เพื่อยืนยันนี้

    เราไม่อนุญาตให้แนนซี่ที่ได้ลำบาก แต่เขตเหมืองและนำตัวเธอเองที่มีความเสี่ยงที่มี ZetaTalk ที่จะอับอายขายหน้าเพื่อที่จะประกาศให้ผู้ชมในวงกว้างวิทยุสดแสดงวันที่ที่เฉพาะเจาะจงมากที่ถูกพลาดทันทีทำไม?

    ในเวลานี้เมื่อ Planet X อยู่ใกล้เพื่อที่จะต้องแข่งขันกับอาทิตย์เที่ยงที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและติดตามกันมาถึงจุดนี้โดยพระอาทิตย์ขึ้นจำนวนมากและพบเห็นพระอาทิตย์ตกดินและภาพถ่ายในลักษณะและในกรอบเวลาที่เราคาดการณ์ไว้ และในช่วงเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวได้เพิ่มขึ้นไปยังจุดที่เราคาดการณ์ที่จะเป็นที่เห็นได้ชัด---ที่มีผลต่อศูนย์ประชากรเพื่อให้พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธโดย underreporting ในฐานข้อมูลแผ่นดินไหว, วันที่ไม่ดียืนเป็นข้อยกเว้น และเป็นผลของการกลเม็ดนี้โกหกสีขาวได้รับการยอมรับในส่วนของเราเกี่ยวกับผู้ที่อยู่ในรัฐบาลสหรัฐและอินโดนีเซียที่จะฆ่าประชาชนหลายร้อยล้านอะไร?

    พวกเขาไม่สามารถประสานงานอย่างใกล้ชิดการปิดกั้นเมืองสำหรับวันที่และเวลาที่ระบุจึงมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งตลอดกาลของรัฐหรือความพร้อมได้เตรียมที่จะชุมนุมปิดล้อมและรวดเร็วไม่สามารถทำงานได้

    พวกเขาจะต้องร่วมกันระเบียบวาระจริงกับหน่วยงานท้องถิ่นจำนวนมากเพื่อให้มีความร่วมมือเพื่อ Muster ฉบับย่อหรือคาดหวังกับความล้มเหลวเมื่อเรียกการอุดตันฉับพลันและโดยทันที
    หน่วยงานท้องถิ่นจะเห็นอกเห็นใจต่อประชาชนในท้องถิ่นและการจลาจลมีแนวโน้มว่าจะตามมา
    รัฐตลอดกาลของความพร้อมของหน่วยงานที่ต้องใช้จะมุ่งเน้นเฉพาะในการออกกำลังกายและไม่ฟุ้งซ่านจากการทำงานปกติของพวกเขาและภัยพิบัติทางธรรมชาติใด ๆ ที่ตามมาจะแตกรัฐนี้
    ภัยพิบัติทางธรรมชาติเช่น imploding อาคารในโซนยืดหรือไหวอย่างรุนแรงหรือภูเขาไฟในโซนการบีบอัดจะโอนทรัพยากรจากสถานะพร้อมเพื่อรอการปิดล้อมเมือง
    รัฐบาลมากขึ้นต้องอธิบายรัฐตลอดกาลของความพร้อมในการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องในหน้าของการขาดการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นจริงจึงสูญเสียความน่าเชื่อถือในหมู่ผู้ที่จำเป็นในการดำเนินการปิดล้อม
    อุบัติการณ์ของภัยธรรมชาติและการมองเห็นที่เพิ่มขึ้นของ Planet X, เปลี่ยนโฟกัสจาก Tearooms เพื่อภัยพิบัติทางธรรมชาติและทำให้เพื่อที่จะยังคงอยู่ในบ้านของพวกเขาจะดูเหมือนว่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นพลเมืองที่จะก่อการกบฎ

    และเป็นผลกระทบต่อคนทั่วไปสิ่งที่ถูกปฏิเสธแม้ในวันที่สายนี้ข้อมูลใด ๆ ที่ซื่อสัตย์กับสิ่งที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำลายล้างชีวิตของพวกเขา?
    สำหรับผู้ที่รอสายตาปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เราได้คาดการณ์การหยุดหมุนตามด้วยสีแดงปัดฝุ่นจะเป็นไปได้ว่าสัญญาณที่ปฏิเสธไม่ได้และในวันประกาศละเว้นจนกว่าจะมีสัญญาณดังกล่าวจะเห็นได้ชัด

    สำหรับผู้ที่ต้องการที่จะออกสำหรับสถานที่ที่ปลอดภัยก่อนการหยุดหมุน แต่มีความผูกพันกับชีวิตของพวกเขาสามัญและข้อผูกพันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกเช่นการเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดเช่นเดียวกับการชะลอตัวของการหมุนสำเหนียกจะเงื่อนงำของพวกเขาโดยไม่คำนึงถึง วันที่เผยแพร่ที่ไม่ชัดเจน

    สำหรับผู้ที่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเร็วมากในชีวิตของพวกเขาย้ายไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยและปักหลักอยู่ที่นั่นวันที่แน่นอนไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญ
    สำหรับส่วนใหญ่ของมวลมนุษยชาติที่ยังไม่เคยได้ยินแม้แต่การเปลี่ยนขั้วเป็นไปได้การประกาศวันที่ไม่เกี่ยวข้อง

    สำหรับส่วนใหญ่ของมนุษยชาติที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ปลอดภัยหรือทำการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของพวกเขาเป็นชีวิตของพวกเขาจะต่อสู้เพื่อการดำรงชีวิตในแต่ละวันวันที่ประกาศไม่เกี่ยวข้อง
    สำหรับผู้ที่จะเดินทางสำหรับการทำงานหรือความสุขที่พวกเขาได้เลือกที่จะออกและเกี่ยวกับในเวลานี้หรือที่จะวางตนเองในตำแหน่งดังกล่าวโดยทางเลือกการจ้างงานของพวกเขาและทำให้ไม่ได้รับการจดข้อความอย่างจริงจังพวกเขาก็จะไม่แม้จะมีการใด ๆ วันที่ประกาศ
    ---ดังนั้นวันที่ประกาศซึ่งมันจะสะดวกไม่เปลี่ยนแปลงผลของการเตรียมสำหรับคนทั่วไปที่มันจะมากจะใช้โดยผู้ที่จะฆ่าประชาชนของตนเองหรือใช้ประโยชน์จากคนอื่นและทำให้เราปฏิเสธที่จะให้ วันใด เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของโลกและพฤติกรรมของผู้ที่อยู่ในทางเดินของพลังงานจะเป็นเงื่อนงำที่ดีที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2012
  16. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    แม่เหล็กอันที่สาม
    3rd Magnet
    written on June 8, 2003

    <HR>What stress does the Earth experience when rotation slows and stops? We have mentioned that the core wants to continue to turn, the crust, which has been grabbed by the near presence of Planet X at the Atlantic Rift point, resists, slowing and stopping, and that this conflict causes the Earth to moan. During stoppage, and to a lesser degree during dramatic slowing, the Earth’s magnetic field continues as before but exhibits distress. Normally, the magnetic field is a particle flow emerging from the N. Pole and circling round to the S. Pole. The presence of Planet X blocks this flow on that side of the Earth, such that the particles shift to flow more strongly on the Far Side, away from Planet X. When Planet X is close enough to cause agitation and spilling over of the ionized particles that normally group at the poles or around the highly magnetized core of the Earth, these particles flow Along Under the crust of the Earth until they find themselves captured at the Atlantic Rift. This creates a conflict within the Earth’s magnetic field, as it now has yet another magnet to deal with.
    1. the Earth itself
    2. Planet X which is aligned with the Earth but moving gradually past the Earth as it approaches passage
    3. the Atlantic Rift, aligned loosely with the Earth, but due to the bulge of the Equator, not strictly aligned.
    [​IMG]The distress a highly magnetized Atlantic Rift has on the surging magma is to create an irregular outgo at the N. Pole, where the particles flowing through the core are going straight up and out, but the particles that flowed along the Atlantic Rift are emerging at an angle. Thus, the point where this angular outflow emergence occurs is agitated, due to ionized particles under the crust surface in rapid motion. This is an indication that the Atlantic Rift has become magnetized, has gathered the ionized particles that escaped from their normal domain near the poles or surrounding the core, and that rotation slowing can be anticipated shortly.
    ความกดดันอย่างไรที่โลกได้มีประสบการณ์ เมื่อได้หมุนช้าลงและหยุด? เราได้กล่าวว่าหลักที่ต้องการดำเนินการต่อเพื่อเปิดเปลือกโลกซึ่งได้รับการจับตาดู--โดยการแสดงตนที่อยู่ใกล้โลกของ X ที่จุดระแหงแอตแลนติก ต่อต้านชะลอตัวและหยุดและที่ความขัดแย้งนี้ทำให้เกิดโลกที่จะคราง ในระหว่างการหยุดการแข่งขันและ ในระดับน้อยในช่วงชะลอ ตัวละครสนามแม่เหล็กโลกยังคงเป็นมาก่อน แต่การจัดแสดงนิทรรศการความทุกข์ โดยปกติสนามแม่เหล็กคือการไหลของอนุภาคที่เกิดขึ้นใหม่จากขั้วโลก N. และวงรอบที่เอส--ขั้วโลก การปรากฏตัวของการบล็อก Planet X ไหลในด้านของโลกที่นี้ดังกล่าวว่าอนุภาคเปลี่ยนไปไหลมากขึ้นอย่างมากในด้านไกลห่างจากPlanet X.
    เมื่อ Planet X อยู่ใกล้พอที่จะทำให้เกิดการกวนและหกมากกว่าของอนุภาคไอออน ซึ่งปกติกลุ่มที่เสาหรือรอบแกนแม่เหล็กสูงของโลกเหล่านี้ไหลอนุภาคพร้อมภายใต้เปลือกของโลกจนกว่าพวกเขาจะพบว่าตัวเองถูกจับได้ที่แอตแลนติกระแหง นี้จะสร้างความขัดแย้งภายในสนามแม่เหล็กโลกเป็นตอนนี้มี แต่แม่เหล็กที่จะจัดการกับการควบคุม โลกของตัวเอง X โลกซึ่งจะสอดคล้องกับโลก แต่ย้ายค่อยๆผ่านมาโลกมันใกล้ทางเดินรอยแยกระแหงแอตแลนติก ชิดกับโลกอย่างอิสระ แต่เนื่องจากกระพุ้งจากเส้นศูนย์สูตรไม่สอดคล้องอย่างเคร่งครัด ความทุกข์ระแหงแอตแลนติกแม่เหล็กสูงมีแมกมาเมื่อพล่านคือการสร้างที่ผิดปกติออกไปข้างนอกที่ N. ขั้วโลกซึ่งอนุภาคที่ไหลผ่านหลักจะตรงขึ้นและออก แต่อนุภาคที่ไหลไปตามรอยแยกในมหาสมุทรแอตแลนติกที่เกิดขึ้นใหม่ที่ มุม ดังนั้นจุดที่เกิดการรั่วไหลเกิดขึ้นนี้เชิงมุมจะตื่นเต้นเนื่องจากอนุภาคไอออนภายใต้พื้นผิวเปลือกโลกในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นี้เป็นข้อบ่งชี้ว่าระแหงแอตแลนติกได้กลายเป็นแม่เหล็กได้รวบรวมอนุภาคไอออนที่หนีออกจากโดเมนปกติของพวกเขาที่อยู่ใกล้เสาหรือรอบแกน และชะลอ​​การหมุนที่สามารถคาดการณ์ในไม่ช้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2012
  17. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ดาวเอ๊กซ์-นิบิรู-มันอยู่ที่ไหน

    ZetaTalk: Where is Planet X?
    posted Feb 5, 2005, but produced on live radio during the Jan 28 Lou Gentile Radio Show



    <HR>
    People are astonished when we say, and seem to be saying, month after month, it’s right next to the Sun, it’s coming around the Sun, it’s between the Earth and the Sun, but in fact, in December of 2003, when the Earth, trucking along in its orbit, encountered this body coming into its orbit, Planet X, it stopped the way you would if you discovered an elephant in your driveway and that was the only way you could pass. Well why couldn’t the Earth sneak around? Because there are particle flows, as we have described, immense numbers of particles that create a block, and there’s crowding. Planets are swept along in their orbits, and stay at a distance from each other where they are comfortable with the particles that go into and out of the Sun. So Planet X creates a big disturbance in the equilibrium, a crowding of particles around it, behind it, so that the Earth is caught in the cup. Nancy has described this as a stick in the river where you can see the water flow around it on either side, creating a little ridge, a cup in the water in front of that stick. And sometimes you’ll have something bobbling in the water in that cup, it doesn’t go down the river, it’s stuck in that cup. This is where the Earth is, stuck in the cup, and Planet X is that stick, causing ripples in the particle flows that create the cup.
    ผู้ดูประหลาดใจเมื่อเราพูดและดูเหมือนจะพูดว่าเดือนแล้วเดือนเล่า มันก็อยู่ถัดจากดวงอาทิตย์ แล้วก็มารอบดวงอาทิตย์ แล้วก็อยู่ระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ แต่ในความเป็นจริงในเดือนธันวาคมของปี 2003 เมื่อโลกเคลื่อนที่ในวงโคจรของมัน-พบเทหวัตถุที่เข้ามาในวงโคจร, ดาวลึกลับ-Planet X ที่นี้มันหยุด เหมือนวิธีที่คุณจะทำ ถ้าหากคุณค้นพบช้างในถนน ที่รถของคุณแล่นมา และเป็นทางเดียวที่คุณสามารถผ่านไปได้ ทำไมโลกไม่แอบย่องไปรอบๆล่ะ? เนื่องจากมีกระแสอนุภาคที่เราได้อธิบายความมากมหาศาลของอนุภาคที่สามารถบล็อกนิบิรู-และมีความแออัดหนาแน่นมาก ดาวเคราะห์จะวิ่งกวาดไปตามวงโคจรของพวกมัน--และอยู่ที่ระยะห่างจากกันอย่างเหมาะสม โดยที่มันมีความสะดวกที่เกิดจากอนุภาคที่เข้าและออกจากดวงอาทิตย์ ดังนั้น Planet X จะสร้างความวุ่นวายขนาดใหญ่ให้รบกวนภาวะสมดุล, ความแออัด ของอนุภาครอบๆหลังของมันเพื่อที่ว่าโลกจะติดอยู่ในถ้วย แนนซี่ได้อธิบายแบบนี้--เป็นสิ่งคล้ายกิ่งไม้-ในแม่น้ำที่คุณสามารถดูการไหลของน้ำอยู่รอบๆด้านทั้งการสร้างสันเล็กน้อย, ถ้วยในน้ำในบริเวณด้านหน้าของคัน และบางครั้งคุณจะมีบางสิ่งบางอย่าง ในน้ำ---ถ้วยที่จะไปลงแม่น้ำก็ติดอยู่ในถ้วยที่ลอยขึ้นลง คือโลกเหมือนติดอยู่ในถ้วยและ Planet X มันคือไม้อันนั้น--อยูในที่ก่อให้เกิดระลอกคลื่นกระเพื่อมในการไหลของอนุภาคที่สร้างถ้วยขึ้นมา(ขอแก้สำนวนอีกนิดครับ)














    [​IMG]Currently, Planet X is not quite at the mid-point between the Earth and the Sun, very close to the Ecliptic or the Sun’s middle, and consequently you cannot see it because it’s like a dull fuzz ball in front of the Sun and reflects back the light that hits the dust cloud so intensely that it’s a terrific glare. If you were on the Sun’s side, looking at it, you’d be blinded, but if you’re on the Earth side, looking at it, it looks like a gray fuzz ball. So that’s where it is, and it has progressed from being below the Ecliptic in December of 2003 and down near the Sun’s South Pole, to rising up to the Ecliptic, from the right to the left as we have described in its retrograde orbit. This may seem slow, but it’s only been a year. And who’s to say, among human cultures, how fast a large planet, 23 times the mass of Earth, a big magnet who roars into the Sun and comes to a screeching halt as it skids around the Sun because of the Repulsion Force, the anti-gravity force, and gets ready to take off as it punches its way through the Ecliptic which is very crowded with particles going in and out of the Sun. This is something man does not have knowledge of. Numerous prophecies say ‘look at the constellations’ and the Book of Enoch states, ‘the constellations will not be right for the seasons’. They knew this was not going to be a fast process, not this time.
    Nov 2, 2003 photo taken in South Africa, the Second Sun
    [​IMG]
    ขณะที่ Planet X ไม่เชิงว่าอยู่ที่กลางจุดระหว่างโลกและดวงอาทิตย์, ใกล้กับระนาบสุริยะจักร--หรือตรงกลางของดวงอาทิตย์, และดังนั้น--คุณไม่สามารถดูมันได้เพราะมันเหมือนลูกบอลฝอยๆทึบๆในด้านหน้าของดวงอาทิตย์และสะท้อนแสงกลับมา แสงที่ตกกระทบเมฆฝุ่นนั้นอย่างเข้มข้น แสดงว่ามันเป็นตัวแสงสะท้อนที่ยอดเยี่ยม ถ้าคุณอยู่ในด้านของดวงอาทิตย์--สเมือนว่าคุณจะตาบอดได้แน่เลย-- แต่ถ้าคุณอยู่ในฝั่งโลกกำลังมองหา--มันดูเหมือนว่าเป็นลูกบอลสีเทา ดังนั้นที่ที่มันเป็นและจะมีความก้าวหน้าจากการถูก ด้านล่างระนาบสุริยะจักรในเดือนธันวาคมของปี 2003 และลงไปที่ใกล้ขั้วใต้ของดวงอาทิตย์เพื่อที่จะขึ้นถึงระนาบสุริยะจากขวาไปซ้ายตามที่เราได้อธิบายไว้ในวงโคจรของมันว่ามันถอยหลัง นี่อาจดูเหมือนช้า แต่ก็ถู-เพียงหนึ่งปี และ-ใครที่จะพูดในแบบของมนุษย์-ถึงวิธีการวิ่งที่รวดเร็วของดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ เป็น23 ของมวล(น้ำหนัก)ของโลก, เป็นแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่คำรามรอบดวงอาทิตย์และมาหยุด ด้วยเสียงร้องกรี๊ดๆ---มันเลื่อนไหลไปรอบดวงอาทิตย์เนื่องจาก-แรงขับออก-จากการต่อต้านแรงโน้มถ่วง((แอนตี้-กราวิตี้)แรงผลักกันระหว่างวัตถุ)และมีความพร้อมที่จะเริ่มเดินทาง--มันเจาะเส้นทางผ่านระนาบสุริยะจักรซึ่งเป็นที่แออัดมาก มีอนุภาคมากมายวิ่งไปเข้าไปในและออกจากดวงอาทิตย์ นี่คือสิ่งที่มนุษย์ไม่มีความรู้ คำพยากรณ์มากมายบอกว่า 'มองไปที่กลุ่มดาว' และหนังสือของอีน็อคได้แถลงชัดว่า, 'กลุ่มดาวจะไม่เหมาะสมสำหรับฤดูกาล' พวกเขารู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นกระบวนการที่รวดเร็วและไม่ไช่เวลานี้ ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2012
  18. maxttdcv

    maxttdcv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2011
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +760
    ท่านแปลให้อ่านหน่อยซิครับ ขอบพระคุณอย่างสูง กราบ 1 2 3
     
  19. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ถ้าไม่หลับไปซะก่อนนะครับ--อืม ..มีซ้ำกับที่มีคนแปลไว้ด้วยนะครับ

    ตื่น! รากตะเคียนยักษ์ เชื่อมีวิญญาณสิง

    [​IMG]ภาพ © ข่าวสดออนไลน์
    ชาวบ้านบกขี้ยาง จังหวัดศรีษะเกษ ตะลึงพบรากต้นตะเคียนยักษ์ขนาดใหญ่ 3 คนโอบในลำห้วยขะยูง ก่อนนำขึ้นมาประกอบพิธีเพือเสริมศิริมลคลเชื่อมีวิญญาณสิงสถิต
    เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา ชาวบ้านบ้านบกขี้ยาง ต.หนองช้าง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ได้ช่วยกันนำรากต้นตะเคียนยักษ์ขึ้นมาจากลำห้วยขะยูง โดยต้นตะเคียนดังกล่าวมีขนาดประมาณ 3 คนโอบ คาดว่าอายุของต้นตะเคียนต้นนี้ไม่น่าจะต่ำกว่า 600-1,000 ปี หลังจากนำขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านในพื้นที่ ได้ร่วมกันประกอบพิธีเพื่อเสริมศิริมงคล เชื่อว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์และมีวิญญาณเจ้าแม่ตะเคียนสิงอยู่ โดยมีจุดประสงค์หลักทีนำรากต้นตะเคียนขึ้นมาจากน้ำเพราะว่าต้องการสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ต้นตะเคียน
    รากต้นตะเคียนยักษ์อยู่ห่างจากวัดป่าคำเจริญ จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 19 กิโลเมตร คาดว่าส่วนที่หายไปน่าจะเป็นการลักลอบตัดไม้เพื่อนำไปขาย เพราะต้นตะเคียนดังกล่าวเป็นไม้เนื้อดี มีความสวยงาม และทนแดดฝน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2012
  20. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    สัญญลักษณ์การเตือนรูปก้นหอย --มีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์

    Spiral Warnings
    [​IMG]
    The Norway neon spiral that occurred on December 8, 2009 has caused many to question the many prehistoric spirals and spirals in crop circles. Are these warnings of what is to come?

    Spirals have appeared in prehistoric glyphs, drawn on cave walls along with the animals early man hunted. What was the significance of these spirals, which until now had no explanation? Perhaps early man saw them in the sky prior to a pole shift, and this was their way of telling the story. If so, we can expect more massive spirals in the sky as the time of the pole shift approaches.

    [​IMG]
    VIDEO: [ame="http://www.youtube.com/watch?v=oY4f1IwQSSY"]Prehistoric Spirals[/ame]

    Spirals have also shown up in crop circles, such as this dual spiral at Fort Nelson in the UK on June 11, 2004.

    [​IMG]

    At the time, the Zetas made no mention of pending sky spirals with neon spirals clouds emanating from their centers, but did allude to a "magnetic maelstrom"

    ZetaTalk Analysis 6/25/2004: Planet X remains on the flow lines of the Sun, increasingly at an angle to the Sun, causing the Earth's tilt to be more extreme, until, as magnets do, the Earth is in an extreme tilt, almost lateral to the Sun. Again, given the complexity of recent crop circles, not the last dance, but implied in Fort Nelson in the angle of the small bodies, planets, caught in the magnetic maelstrom.

    When pressed they admitted they had withheld the full meaning of the crop circle, in order to discombobulate the establishment so that the cover-up over the presence of Planet X might crack.
    Question: Are the elite now trapped with their cover story of a Russian missile to debunk the latest neon spiral? One might assume that many more such spirals will manifest and it will not be credible for TPTB to suggest misfired Russian missiles will be responsible for the spirals to come. Are the spirals that are so often represented by petroglyphs showing us what man saw during previous Planet X passages?
    ZetaTalk Admission 12/12/2009: Spirals were present in the skies, as signs in the skies, during prior pole shifts, yes. This is a matter we withheld up until now, because of our desire to surprise the establishment as much as possible, to hopefully shake the cover-up and allow admissions of the truth to blurt out. Just as with the frequency of fireballs, which at first were blamed on space junk or on a satellite crash and then on asteroids entering Earth's field, the establishment will cast around for explanations before simply falling silent on the matter. The time is coming when silence will be their only defense, so that the common man looks elsewhere for an explanation.

    Source: ZetaTalk Newsletter,Issue 164, Sunday, December 20, 2009
    Posted by Gerard Zwaan on June 9, 2012 at 12:30pm — 6 Comments
    [Peru: gap earth in Majes, Arequipa

    09.06.12.…
    Posted by Andrey Eroshin on June 9, 2012 at 12:00pm


    [​IMG]
    Venus Transit June 5th/6th - Surprise Resulted! (NEW ZetaTalk)

    [​IMG]

    This coming week, at sunrise or sunset depending upon…
    Continue
    Posted by Nancy Lieder on June 9, 2012 at 7:07am — 53 Comments
    [​IMG]
    China: The ground collapse occurred in Nanning Tanluo

    June 9, 2012…
    [​IMG]
    Continue

    Posted by khan on June 9, 2012 at 4:30am


    [​IMG]
    More evidence of the wobble as weather becomes more unpredictable - devastating hail in Colorado.

    [​IMG]

    Amazing pictures of devastating hail which submerged CARS as it swept Colorado

    By Daily…
    Continue

    Posted by KM on June 9, 2012 at 4:30am — 4 Comments


    [​IMG]
    Sun to Zenith AZ 194° 52' elev +59 57' 2012/05/05 13:50 as the Wafting PX Tail Elements are Curling Mostly Left.

    [​IMG]
    Continue

    Posted by Alberto Cardin on June 8, 2012 at 5:56pm — 6 Comments


    [​IMG]
    Meteor in the skies of Lebanon: Thursday, June 7, 2012

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...