มงคลวัตถุ - เครื่องรางของขลัง (๙)

หนุมานลอยองค์หลวงปู่ชื่น ติคญkโณ วัดบ้านตาอี จ.บุรีรัมย์ ที่กระผมได้หมดลงนานแล้วครับ ขอบคุณครับ

thaiput007@hotmail.com

 

หุ่นพยนต์ ตัวครู เนื้ออาถรรพ์ไม้ตะเคียน ปี53 พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง จ.พัทลุง





หุ่นพยนต์ ตัวครู เนื้ออาถรรพ์ไม้ตะเคียน ปี53 พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง จ.พัทลุง

ในอดีตแต่ครั้งโบราณจนถึงปัจจุบัน ผู้บำเพ็ญพรตทั้งหลาย เช่น ฤาษี-พราหมณาจารย์-นักสิทธิ์วิทยา-พระคณาจารย์ที่แก่กล้า และเชี่ยวชาญในวิชาอาคม โดยคณาจารย์แต่ละท่านนั้นเป็นเหล่าผู้ที่มีสมาธิแก่กล้าสำเร็จภูมิธรรมชั้นสูง ในด้านสมถะหรือวิปัสนากรรมฐานก็ตาม สามารถที่จะแสดงฤทธิ์ออกมาได้หลายรูปแบบ

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ พระคณาจารย์เหล่านั้นท่านจะแสดงฤทธิ์หรือไม่ หรือมีเหตุอันควรสิ่งใดที่จำเป็นจะแสดงฤทธิ์ออกมา ถ้าหากจะแสดงฤทธิ์ออกมา ก็คงเป็นไปเพื่อยังความศรัทธาของพุทธบริษัททั้งหลายที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ให้ศรัทธาในพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้นไปเป็นสำคัญ
การผูกหุ่นพยนต์ของคณาจารย์รูปใดรูปหนึ่ง จะกำหนดให้เกิดอาการ 32 สามารถรับรู้และรู้เห็นเคลื่อนไหวได้ เหมือนกับสิ่งมีชีวิตจริงทุกประการ หรือในลักษณะของการแอบแฝง ซ่อนเร้น อยู่ในวัตถุธาตุ อาถรรพ์ต่างๆ จะแสดงฤทธิ์คอยปกป้องเมื่อมีผู้คิดร้ายหรือถ้าหากเป็นสถานที่ต่างๆที่หุ่นพยนต์ดูแลรักษา หุ่นพยนต์จะแสดงฤทธิ์ในอาการต่างๆ ในหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไปคอยปกป้องเฝ้าทรัพย์สินสิ่งต่างๆ ในบริเวณพื้นที่นั้นๆ

หุ่นพยนต์มีหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่สัตว์เล็กไปจนถึงสัตว์ และอมนุษย์ก็ตามขึ้นอยู่กับพลังกะแสจิตของคณาจารย์ท่านนั้น กำหนดให้หุ่นพยนต์ออกมาในรูปแบบใด เพื่อประโยชน์สิ่งใดสิ่งหนึ่งในการใช้พระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายเขาอ้อเคยกล่าวไว้ว่าหุ่น คือ รูปตุ๊กตา รูปแบบที่จำลองจากของจริงแบบต่างๆรูปปั้นหรือรูปแกะสลักที่ทำไว้เป็นแบบพยนต์ คือสิ่งที่ผู้ทรงวิทยาคมปลุกเสกให้มีชีวิตขึ้น "หุ่นพยนต์" แปลรวมๆ ได้ความว่าตุ๊กตารูปแบบต่างๆที่จำลองมาจากของจริงได้รับการปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมให้มีชีวิตจิตวิญญาณขึ้น

การสร้างหุ่นพยนต์ จัดพิธีกรรมตามตำราเขาอ้อทุกประการโดยเริ่มแรกกำหนดเรียกรูปเรียกนามจากธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟจนให้เกิดอาการ 32 สามารถรับรูปเห็นเป็นเคลื่อนไหวได้เหมือนสิ่งมีชีวิตหรือผูกจิตซ่อนเร้นอยู่ในวัตถุธาตุอาถรรพ์นั้น ดวงจิตจะคอยแอบแฝงแสดงฤทธิ์ปกป้องคุ้มครองผู้ที่เป็นเจ้าของหุ่นพยนต์ เมื่อมีผู้คนคิดปองร้ายหรือมีเจตนาที่ไม่ดีถ้าเป็นสถานที่ต่างๆ หุ่นพยนต์จะแสดงฤทธิ์ดูแลรักษาเฝ้าทรัพย์สินในพื้นที่นั้นๆ
นอกจากพิธีการสร้างแบบเข้มขลังสายเขาอ้อพ่อท่านคล้อยยังนำวัตถุอาถรรพณ์เช่น ตะปูตอกโรงผี 2 ปีบ 200 กว่าศพ จากเมรุเผาศพ 10 วัด, แผ่นยันต์จากโลหะ 9 ชนิด108 แผ่น, ประกอบด้วยทองคำ-เงิน-ทองแดง-ทองเหลือง-ตะกั่วเถื่อน-สังกะสี-เหล็กละลายตัว-ลงหิน-สัมฤทธิ์, ชนวนเก่าพ่อท่านปาน พ่อท่านเอียด เกจิดังสายเขาอ้อ, แร่เหล็กบริเวณเขาอ้อพ่อท่านคล้อยตั้งชื่อของอาถรรพณ์เหล่านี้ว่า "มหาเวทย์มหามงคล"หุ่นพยนต์ตาปะขาวนุ่งแดง จะแสดงอิทธิฤทธิ์เกี่ยวกับปกป้องคุ้มครองภัย ทำให้ผู้คิดร้ายเห็นไปในรูปแบบต่างๆ ทั้งยังเฝ้าบ้านเฝ้ารถ รักษาผลประโยชน์ให้ผู้เป็นเจ้าของผู้ครอบครองหุ่นพยนต์

"พ่อท่านคล้อย" พระเกจิอาจารย์ดังสายเขาอ้อวัดภูเขาทอง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้สร้าง "หุ่นพยนต์ตัวครู" รูปคนแก่โบราณด้วยเนื้อตะปูโรงผี ที่ใครๆ ยอมรับว่าเข้มขลัง เมื่อกลางปี 2548 ปัจจุบันเป็นที่แสวงหาของนักสะสมวัตถุมงคลประเภทนี้เป็นอย่างมาก
ตามประวัติพ่อท่านคล้อย ท่านเกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2472 อายุ 79 ปี อุปสมบทเมื่อวันที่1 มีนาคม 2493 ณ วัดดอนศาล ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยมีพระครูสิทธยารัตน์ (พ่อท่านเอียด) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า"อโนโม"
ปัจจุบันท่านได้สมณศักดิ์ที่ พระครูพิพิธวรกิจ เป็นเจ้าคณะอำเภอควนขนุน เจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง
พ่อท่านเอียด วัดดอนศาลา นับเป็นเกจิอาจารย์ยุคแรกๆของสำนักเขาอ้อ ท่านสร้างวัตถุมงคลแจกทหารที่ไปรบในสงครามอินโดจีนซึ่งเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ และยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดเขาอ้อในถ้ำฉัตรทันต์บรรพต
พ่อท่านคล้อย เป็นหลานของพ่อท่านเอียดจึงได้รับการถ่ายทอดตำราวิทยาคม สายเขาอ้อของพ่อท่านทองเฒ่า พ่อท่านเอียดพ่อท่านปาน อย่างเต็มที่ สำหรับพิธีกรรมการสร้างหุ่นพยนต์นั้นมีหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป
พุทธคุณ เน้นในเรื่องเมตตามหานิยม โชคลาภ เรียกเงินเรียกทอง ขับไล่สิ่งอัปมงคลอำนาจชั่วร้ายและภูติ ผี ปีศาจ กันคุณไสย ลมเพลมพัด กันและแก้ของไม่ดี บูชาไว้ติดตัวได้หญิงและชาย บูชาไว้ในรถ สำนักงานร้านค้าเฝ้าเรือกสวนไร่นา กันขโมย ปกป้องกันภัยให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

หัวใจธาตุทั้ง4 ดิน น้ำ ลม ไฟ นะ มะ พะ ทะ คือการ “ปิด” มิให้เสนียดจัญไรมกร้ำกราย
นะ โม พุท ธา ยะ คือการ “ปัด” เหตุร้ายทั้งปวงให้พ้นตัวด้วยคุณแห่งพระเจ้ห้าพระองค์
หัวใจพระรัตนตรัย นะ มะ อะ อุ คือการ “กัน” คุณไสยภัยร้ายที่มองไม่เห็น
“แก้” ด้วยหัวใจพระสีวลี นะ ชา ลี ติ ให้พ้นทุกข์พ้นความยากให้มั่งมีศรีสุข (โทรสอบถามได้ครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้พี่ สมเกียรติ จ.กรุงเทพ ขอบคุณครับ)

 

พระพุทธชินราชหน้าตัก ๓ นิ้ว ฐาน ๕ นิ้ว..








พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.พิษณุโลก

เนื้อโลหะผสมขัดเงา หน้าตัก ๓ นิ้ว รวมฐาน ๕ นิ้ว นัมเบอร์ ๒๕๖๖

สภาพสวยพร้อมกล่องเดิมๆจากวัด เหมาะสำหรับบูชาในบ้าน

สำนักงานร้านค้าเป็นมงคลอยย่างยิ่ง บูชาองค์ละ 1,999 บาท

(พร้อมจัดส่งครับ)

thaiput007@hotmail.com โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้คุณ วิบูล จ.อุดรธานี ขอบคุณครับ)

 

พระผงพิมพ์แหวกม่านหลวงพ่อกวย..





พระผงพุทธคุณพิมพ์แหวกม่าน หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม (บ้านแค) อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท พระชุดนี้จัดสร้างเป็นยุคปลายของหลวงพ่อกวย ซึ่งท่านอธิษฐานจิตไว้เมื่อปี 2521 สภาพสวยเดิมๆๆ สวยพลาสติคกันน้ำพร้อมใช้แบ่งบูชา 1,850 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้พี่ สมเกียรติ จ.กรุงเทพ ขอบคุณครับ)

 

เจ้าสัวรุ่นแรก หลวงปู่แผ้ว ปวโร..





พระพิมพ์เจ้าสัว "รุ่นแรก" หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม.. พระพิมพ์เจ้าสัวเนื้อดินรุ่นแรก ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่แผ้วซ้อนกับเจ้าสัว ด้านหนังจารึกยันต์ครูกำกับ พร้อมคำอวยพร หลวงปู่แผ้วเมตตาเจิมให้พร้อมประสิทธิให้อีกครั้ง เลี่ยมพลาสติคพร้อมใช้ แบ่งบูชา 450 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้คุณ อัญชนา จ.กรุงเทพ ขอบคุณครับ)

 

กำแพงแก้ว..





"พ่อท่านคล้อย" พระเกจิอาจารย์ดังสายเขาอ้อวัดภูเขาทอง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้สร้าง "หุ่นพยนต์ตัวครู" รูปคนแก่โบราณด้วยเนื้อตะปูโรงผี ที่ใครๆ ยอมรับว่าเข้มขลัง เมื่อกลางปี 2548 ปัจจุบันเป็นที่แสวงหาของนักสะสมวัตถุมงคลประเภทนี้เป็นอย่างมาก
ตามประวัติพ่อท่านคล้อย ท่านเกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2472 อายุ 79 ปี อุปสมบทเมื่อวันที่1 มีนาคม 2493 ณ วัดดอนศาล ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยมีพระครูสิทธยารัตน์ (พ่อท่านเอียด) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า"อโนโม"
ปัจจุบันท่านได้สมณศักดิ์ที่ พระครูพิพิธวรกิจ เป็นเจ้าคณะอำเภอควนขนุน เจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง
พ่อท่านเอียด วัดดอนศาลา นับเป็นเกจิอาจารย์ยุคแรกๆของสำนักเขาอ้อ ท่านสร้างวัตถุมงคลแจกทหารที่ไปรบในสงครามอินโดจีนซึ่งเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ และยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดเขาอ้อในถ้ำฉัตรทันต์บรรพต
พ่อท่านคล้อย เป็นหลานของพ่อท่านเอียดจึงได้รับการถ่ายทอดตำราวิทยาคม สายเขาอ้อของพ่อท่านทองเฒ่า พ่อท่านเอียดพ่อท่านปาน อย่างเต็มที่ สำหรับพิธีกรรมการสร้างหุ่นพยนต์นั้นมีหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป
พุทธคุณ เน้นในเรื่องเมตตามหานิยม โชคลาภ เรียกเงินเรียกทอง ขับไล่สิ่งอัปมงคลอำนาจชั่วร้ายและภูติ ผี ปีศาจ กันคุณไสย ลมเพลมพัด กันและแก้ของไม่ดี บูชาไว้ติดตัวได้หญิงและชาย บูชาไว้ในรถ สำนักงานร้านค้าเฝ้าเรือกสวนไร่นา กันขโมย ปกป้องกันภัยให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

หัวใจธาตุทั้ง4 ดิน น้ำ ลม ไฟ นะ มะ พะ ทะ คือการ “ปิด” มิให้เสนียดจัญไรมกร้ำกราย
นะ โม พุท ธา ยะ คือการ “ปัด” เหตุร้ายทั้งปวงให้พ้นตัวด้วยคุณแห่งพระเจ้ห้าพระองค์
หัวใจพระรัตนตรัย นะ มะ อะ อุ คือการ “กัน” คุณไสยภัยร้ายที่มองไม่เห็น
“แก้” ด้วยหัวใจพระสีวลี นะ ชา ลี ติ ให้พ้นทุกข์พ้นความยากให้มั่งมีศรีสุข

หุ่นพยนต์ขนาดห้อยคอ รุ่นกำแพงแก้ว พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง จ.พัทลุง เนื้อตะปูโลงผีสังขวานร เลี่ยมพลาสติคกันน้ำอย่างดี (โทรสอบถามได้ครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้คุณ อัญชนา จ.กรุงเทพ ขอบคุณครับ)<!-- google_ad_section_end -->

 

รายกายนี้ยังมีเหลือไหมครับ ถ้ายังเหลืออยู่ขอจอง 1 องค์ครับ ขอบคุณครับ

 

จัดส่งให้แล้วครับ (04/08/53)

<!-- google_ad_section_end -->

เรียนคุณ อัญชนา จ.กรุงเทพ (04/08/53) กระผมได้ทำการจัดส่ง "พระขุนแผนรุ่นแรก หลวงปู่มี วัดมารวิชัย, นกคุ้มหลวงพ่อขวัญ วัดบ้านไร่, พระพุทธชินราชจักพรรดิ์ 15, พระพิมพ์เจ้าสัวหลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน, และหุ่นพยนต์พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง" พร้อมของที่ระลึกไปให้เป็นพัสดุแบบอีเอ็มเอสเรียบร้อยแล้วครับ (EH 1348 4718 6 TH)

เรียนคุณ วิชชุพงศ์ จ.นครศรีธรรมราช (04/08/53) กระผมได้ทำการจัดส่ง "พระพุทธชินราชเนื้อดินพิมพ์หยดน้ำ พิธีจักรพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก ปี 2515" พร้อมของที่ระลึกไปให้เป็นพัสดุแบบอีเอ็มเอสเรียบร้อยแล้วครับ (EH 1348 4719 0 TH)

เรียนคุณ จาตุรนต์ จ.กรุงเทพ (04/08/53) กระผมได้ทำการจัดส่ง "รูปเหมือนปั้มปี 05 หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี" พร้อมของที่ระลึกไปให้เป็นพัสดุแบบอีเอ็มเอสเรียบร้อยแล้วครับ (EH 1348 4720 9 TH)

เรียนคุณ นพ.จิมมี่ จ.ชลบุรี (04/08/53) กระผมได้ทำการจัดส่ง "ชุดเหรียญเพ็ชรกลับ หลวงพ่อผอง วัดพรหมยาม, รูปหล่อเนื้อเงิน หลวงปู่เดินหน วัดตาเจี่ย, รูปหล่อปั้มเหล็กไหล หลวงปู่จันทร์ วัดท่งเฟื้อ, พระพุทธชินราชเนื้อดิน พิธีจักรพรรดิ์ปี 15, และผ้ายันต์รอยฝ่ามือฝ่าเท้า หลวงปู่จันทร์ วัดท่งเฟื้อ" พร้อมของที่ระลึกไปให้เป็นพัสดุแบบอีเอ็มเอสเรียบร้อยแล้วครับ (EH 1348 4721 2 TH)

เรียนคุณ วิบูล จ.อุดรธานี (04/08/53) กระผมได้ทำการจัดส่ง "พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เนื้อโลหะผสมขัดเงา หน้าตัก ๓ นิ้ว รวมฐาน ๕ นิ้วนัมเบอร์ ๒๕๖๖" พร้อมของที่ระลึกไปให้เป็นพัสดุแบบอีเอ็มเอสเรียบร้อยแล้วครับ (EH 1348 4722 6 TH)<!-- google_ad_section_end -->
<!-- google_ad_section_end -->

 

รับทราบครับผม..

รับทราบครับ ถ้ามีมาใหม่จะเรียนให้ทราบอีกครั้งครับ ขอบคุณครับ..

thaiput007@hotmail.com

 

ได้รับวัตถุมงคลเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ

 

พระกริ่ง "ไล่ฝน ตัดรุ้งขาดได้" หลวงพ่อขวัญ ปวโร (4)







พระกริ่ง "ไล่ฝน" ที่หลวงพ่อขวัญท่านสร้างไว้ด้วยเหตุที่ท่านได้ตำราการสร้าง "พระกริ่งปวเรศ" มาด้วยบุญบารมี ซึ่งท่านได้ถวายพระนามไว้อย่างเป็นทางการว่า "พระกริ่งเพ็ชรหลีก" หลวงปู่เล่าว่า "ฉันได้ตำราสร้างพระกริ่งปวเรศมา พระกริ่งนี้ตัดรุ้งขาดได้ ฉันจะสร้างพระกริ่ง" ผมได้ยินตอนนั้นหูผึ่งเลยติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดตลอด จนใกล้วันออกพรรษาหลวงปู่พูดกับผมว่า "ฝนมันตกแล้วแต่ยังไม่เห็นมีรุ้งสักที" ผมได้ฟังแล้วยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หลวงปู่เมตตาพูดแบบนี้ให้ฟัง ผมรู้ว่าคืออะไร และไม่กล้าที่จะถามอะไรท่านต่อไป

เรื่องพระกริ่งนี้ป้าเป้าซึ่งเป็นหลานหลวงปู่และเป็นคนจำหน่ายวัตถุมงคลให้กับวัดบอกว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะว่าหลวงปู่ท่านกำหนดราคาพระกริ่งเองว่าให้จำหน่ายองค์ละ 1,000 บาท (ราคาออกจากวัดในอดีต) ซึ่งเป็นราคาที่แพงมากสำหรับหลวงปู่ เพราะขนาดพระที่จำหน่ายอยู่ราคาแค่ 50 บาท หลวงปู่ยังบ่นว่า"ทำไมไปเอาเขาแพงจัง"

พระกริ่งเพชรหลีกหรือพระกริ่งตัดรุ้ง "พิมพ์กลาง" ถือดอกบัว นิยมตอกโค๊ตเลข ๙ อาราธนาตัดรุ้งไล่ฝนได้อย่างอัศจรรย์ ของหลวงพ่อขวัญ ปวโร วัดบ้านไร่ พิจิตร หายากแล้วครับ (โทรสอบถามได้ครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้คุณ จิตติณ จ.กรุงเทพ ขอบคุณครับ)

 

พระกริ่ง "ไล่ฝน ตัดรุ้งขาดได้" หลวงพ่อขวัญ ปวโร (5)







พระกริ่ง "ไล่ฝน" ที่หลวงพ่อขวัญท่านสร้างไว้ด้วยเหตุที่ท่านได้ตำราการสร้าง "พระกริ่งปวเรศ" มาด้วยบุญบารมี ซึ่งท่านได้ถวายพระนามไว้อย่างเป็นทางการว่า "พระกริ่งเพ็ชรหลีก" หลวงปู่เล่าว่า "ฉันได้ตำราสร้างพระกริ่งปวเรศมา พระกริ่งนี้ตัดรุ้งขาดได้ ฉันจะสร้างพระกริ่ง" ผมได้ยินตอนนั้นหูผึ่งเลยติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดตลอด จนใกล้วันออกพรรษาหลวงปู่พูดกับผมว่า "ฝนมันตกแล้วแต่ยังไม่เห็นมีรุ้งสักที" ผมได้ฟังแล้วยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หลวงปู่เมตตาพูดแบบนี้ให้ฟัง ผมรู้ว่าคืออะไร และไม่กล้าที่จะถามอะไรท่านต่อไป

เรื่องพระกริ่งนี้ป้าเป้าซึ่งเป็นหลานหลวงปู่และเป็นคนจำหน่ายวัตถุมงคลให้กับวัดบอกว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะว่าหลวงปู่ท่านกำหนดราคาพระกริ่งเองว่าให้จำหน่ายองค์ละ 1,000 บาท (ราคาออกจากวัดในอดีต) ซึ่งเป็นราคาที่แพงมากสำหรับหลวงปู่ เพราะขนาดพระที่จำหน่ายอยู่ราคาแค่ 50 บาท หลวงปู่ยังบ่นว่า"ทำไมไปเอาเขาแพงจัง"

พระกริ่งเพชรหลีกหรือพระกริ่งตัดรุ้ง "พิมพ์กลาง" ถือดอกบัว นิยมตอกโค๊ตเลข ๙ อาราธนาตัดรุ้งไล่ฝนได้อย่างอัศจรรย์ ของหลวงพ่อขวัญ ปวโร วัดบ้านไร่ พิจิตร หายากแล้วครับ (โทรสอบถามได้ครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้คุณ สมเกียรติ จ.กรุงเทพ ขอบคุณครับ)<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

พระกริ่ง "ไล่ฝน ตัดรุ้งขาดได้" หลวงพ่อขวัญ ปวโร (6)







พระกริ่ง "ไล่ฝน" ที่หลวงพ่อขวัญท่านสร้างไว้ด้วยเหตุที่ท่านได้ตำราการสร้าง "พระกริ่งปวเรศ" มาด้วยบุญบารมี ซึ่งท่านได้ถวายพระนามไว้อย่างเป็นทางการว่า "พระกริ่งเพ็ชรหลีก" หลวงปู่เล่าว่า "ฉันได้ตำราสร้างพระกริ่งปวเรศมา พระกริ่งนี้ตัดรุ้งขาดได้ ฉันจะสร้างพระกริ่ง" ผมได้ยินตอนนั้นหูผึ่งเลยติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดตลอด จนใกล้วันออกพรรษาหลวงปู่พูดกับผมว่า "ฝนมันตกแล้วแต่ยังไม่เห็นมีรุ้งสักที" ผมได้ฟังแล้วยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หลวงปู่เมตตาพูดแบบนี้ให้ฟัง ผมรู้ว่าคืออะไร และไม่กล้าที่จะถามอะไรท่านต่อไป

เรื่องพระกริ่งนี้ป้าเป้าซึ่งเป็นหลานหลวงปู่และเป็นคนจำหน่ายวัตถุมงคลให้กับวัดบอกว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะว่าหลวงปู่ท่านกำหนดราคาพระกริ่งเองว่าให้จำหน่ายองค์ละ 1,000 บาท (ราคาออกจากวัดในอดีต) ซึ่งเป็นราคาที่แพงมากสำหรับหลวงปู่ เพราะขนาดพระที่จำหน่ายอยู่ราคาแค่ 50 บาท หลวงปู่ยังบ่นว่า"ทำไมไปเอาเขาแพงจัง"

พระกริ่งเพชรหลีกหรือพระกริ่งตัดรุ้ง "พิมพ์กลาง" ถือดอกบัว นิยมตอกโค๊ตเลข ๙ อาราธนาตัดรุ้งไล่ฝนได้อย่างอัศจรรย์ ของหลวงพ่อขวัญ ปวโร วัดบ้านไร่ พิจิตร หายากแล้วครับ (โทรสอบถามได้ครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้คุณ จิตติณ จ.กรุงเทพ ขอบพระคุณฒากครับ)<!-- google_ad_section_end -->

 

ปิด ปัด กัน แก้ (นวโลหะชุดกรรมการ)







"พ่อท่านคล้อย" พระเกจิอาจารย์ดังสายเขาอ้อวัดภูเขาทอง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้สร้าง "หุ่นพยนต์ตัวครู" รูปคนแก่โบราณด้วยเนื้อตะปูโรงผี ที่ใครๆ ยอมรับว่าเข้มขลัง เมื่อกลางปี 2548 ปัจจุบันเป็นที่แสวงหาของนักสะสมวัตถุมงคลประเภทนี้เป็นอย่างมาก
ตามประวัติพ่อท่านคล้อย ท่านเกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2472 อายุ 79 ปี อุปสมบทเมื่อวันที่1 มีนาคม 2493 ณ วัดดอนศาล ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยมีพระครูสิทธยารัตน์ (พ่อท่านเอียด) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า"อโนโม"
ปัจจุบันท่านได้สมณศักดิ์ที่ พระครูพิพิธวรกิจ เป็นเจ้าคณะอำเภอควนขนุน เจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง
พ่อท่านเอียด วัดดอนศาลา นับเป็นเกจิอาจารย์ยุคแรกๆของสำนักเขาอ้อ ท่านสร้างวัตถุมงคลแจกทหารที่ไปรบในสงครามอินโดจีนซึ่งเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ และยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดเขาอ้อในถ้ำฉัตรทันต์บรรพต
พ่อท่านคล้อย เป็นหลานของพ่อท่านเอียดจึงได้รับการถ่ายทอดตำราวิทยาคม สายเขาอ้อของพ่อท่านทองเฒ่า พ่อท่านเอียดพ่อท่านปาน อย่างเต็มที่ สำหรับพิธีกรรมการสร้างหุ่นพยนต์นั้นมีหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป
พุทธคุณ เน้นในเรื่องเมตตามหานิยม โชคลาภ เรียกเงินเรียกทอง ขับไล่สิ่งอัปมงคลอำนาจชั่วร้ายและภูติ ผี ปีศาจ กันคุณไสย ลมเพลมพัด กันและแก้ของไม่ดี บูชาไว้ติดตัวได้หญิงและชาย บูชาไว้ในรถ สำนักงานร้านค้าเฝ้าเรือกสวนไร่นา กันขโมย ปกป้องกันภัยให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

หัวใจธาตุทั้ง4 ดิน น้ำ ลม ไฟ นะ มะ พะ ทะ คือการ “ปิด” มิให้เสนียดจัญไรมกร้ำกราย
นะ โม พุท ธา ยะ คือการ “ปัด” เหตุร้ายทั้งปวงให้พ้นตัวด้วยคุณแห่งพระเจ้ห้าพระองค์
หัวใจพระรัตนตรัย นะ มะ อะ อุ คือการ “กัน” คุณไสยภัยร้ายที่มองไม่เห็น
“แก้” ด้วยหัวใจพระสีวลี นะ ชา ลี ติ ให้พ้นทุกข์พ้นความยากให้มั่งมีศรีสุข

หุ่นพยนต์ขนาดห้อยคอ รุ่นกำแพงแก้ว พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง จ.พัทลุง ปิด ปัด กัน แก้ " นัมเบอร์ 48 นวโลหะชุดกรรมการ" หายากสุดๆๆ (โทรสอบถามได้ครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้คุณ อัญชนา จ.กรุงเทพ ขอบคุณครับ)<!-- google_ad_section_end -->

 

ปิด ปัด กัน แก้ (ตะปูโลงผีสังขวานร)





"พ่อท่านคล้อย" พระเกจิอาจารย์ดังสายเขาอ้อวัดภูเขาทอง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้สร้าง "หุ่นพยนต์ตัวครู" รูปคนแก่โบราณด้วยเนื้อตะปูโรงผี ที่ใครๆ ยอมรับว่าเข้มขลัง เมื่อกลางปี 2548 ปัจจุบันเป็นที่แสวงหาของนักสะสมวัตถุมงคลประเภทนี้เป็นอย่างมาก
ตามประวัติพ่อท่านคล้อย ท่านเกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2472 อายุ 79 ปี อุปสมบทเมื่อวันที่1 มีนาคม 2493 ณ วัดดอนศาล ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยมีพระครูสิทธยารัตน์ (พ่อท่านเอียด) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า"อโนโม"
ปัจจุบันท่านได้สมณศักดิ์ที่ พระครูพิพิธวรกิจ เป็นเจ้าคณะอำเภอควนขนุน เจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง
พ่อท่านเอียด วัดดอนศาลา นับเป็นเกจิอาจารย์ยุคแรกๆของสำนักเขาอ้อ ท่านสร้างวัตถุมงคลแจกทหารที่ไปรบในสงครามอินโดจีนซึ่งเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ และยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดเขาอ้อในถ้ำฉัตรทันต์บรรพต
พ่อท่านคล้อย เป็นหลานของพ่อท่านเอียดจึงได้รับการถ่ายทอดตำราวิทยาคม สายเขาอ้อของพ่อท่านทองเฒ่า พ่อท่านเอียดพ่อท่านปาน อย่างเต็มที่ สำหรับพิธีกรรมการสร้างหุ่นพยนต์นั้นมีหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป
พุทธคุณ เน้นในเรื่องเมตตามหานิยม โชคลาภ เรียกเงินเรียกทอง ขับไล่สิ่งอัปมงคลอำนาจชั่วร้ายและภูติ ผี ปีศาจ กันคุณไสย ลมเพลมพัด กันและแก้ของไม่ดี บูชาไว้ติดตัวได้หญิงและชาย บูชาไว้ในรถ สำนักงานร้านค้าเฝ้าเรือกสวนไร่นา กันขโมย ปกป้องกันภัยให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

หัวใจธาตุทั้ง4 ดิน น้ำ ลม ไฟ นะ มะ พะ ทะ คือการ “ปิด” มิให้เสนียดจัญไรมกร้ำกราย
นะ โม พุท ธา ยะ คือการ “ปัด” เหตุร้ายทั้งปวงให้พ้นตัวด้วยคุณแห่งพระเจ้ห้าพระองค์
หัวใจพระรัตนตรัย นะ มะ อะ อุ คือการ “กัน” คุณไสยภัยร้ายที่มองไม่เห็น
“แก้” ด้วยหัวใจพระสีวลี นะ ชา ลี ติ ให้พ้นทุกข์พ้นความยากให้มั่งมีศรีสุข

หุ่นพยนต์ขนาดห้อยคอ รุ่นกำแพงแก้ว พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง จ.พัทลุง ปิด ปัด กัน แก้ เนื้อตะปูโลงผีสังขวานร มีโค๊มนัมเบอร์ทุกตน (โทรสอบถามได้ครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

 

แหวนตะกร้ออันลือลั่น





หลวงพ่อขวัญ ปวโร วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร (เจ้าตำรับแหวนตะกร้ออันลือลั่น)

หลวงพ่อขวัญ หรือ พระครูพิมลธรรมานุศิษฐ์ เดิมชื่อ ขวัญ หมอกมืด เกิดเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๔๕๑ ที่บ้านไร่ ตำบลสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๐ เดือน ๔ แรม ๘ ค่ำ ที่วัดบ้านนา ตำบลบ้านนา อำเภอสามง่าม (ปัจจุบันอยู่ที่อำเภอวชิรบารมี) ท่านเป็นพระนักพัฒนาและพระนักก่อสร้าง ท่านให้ความช่วยเหลือสังคมโดยการบริจาคทรัพย์ในการก่อสร้างที่ศาสนสถาน สถานศึกษา โรงพยาบาล และหน่วยงานทางราชการต่าง ๆ โดยท่านได้สร้างวัตถุมงคลให้ไว้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมบริจาคสมทบ ได้แก่ พระสมเด็จเพชรหลีก ,ตะกรุด และที่นิยมโดยทั่วไป ได้แก่ แหวนพระพิรอด แต่คนส่วนมากมักจะเรียกว่า แหวานตะกร้อ ท่านละสังขารเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๔๘ รวมสิริอายุได้ ๙๗ ปี

พระเถระผู้ใหญ่พูดถึงหลวงปู่ขวัญ

คำพูดที่ฮือฮามากในช่วงนั้น (20 กว่าปีมาแล้ว) คือคำพูดของหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่คนพิจิตรมักจะพูดถึงคือ มีคนพิจิตรไปกราบหลวงพ่อเกษมแล้วหลวงพ่อเกษมพูดว่า "มาทำไมถึงที่นี่ ที่พิจิตรก็มีหลวงพ่อขวัญ" ประโยคนี้แม้แต่ "คุณฉวีวรรณ ขจรประศาสน์" ภริยาท่านพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ ยังเคยพูดกับผมในช่วงนั้นเลย ซึ่งช่วงนั้นเสธฯหนั่นกำลังเป็น ม.ท.1 ด้วย คุณฉวีวรรณเล่าให้ผมฟังว่า "ป้าได้ไปกราบหลวงพ่อขวัญมาแล้ว ไปเช่าแหวนท่านมาด้วย หลวงพ่อเกษมยังบอกให้ไปกราบหลวงพ่อขวัญเลย" (ผมเพิ่มเติมว่าหลวงพ่อขวัญท่านเคยไปเรียนวิชาทำน้ำมันสมุนไพรคุณพระรักษา ที่ จ.ลำปาง ครับ) ครั้งหนึ่งมีพิธีปลุกเสกพระหลวงพ่อเงิน ที่วัดบางคลาน ผมมีโอกาสได้รับ-ส่งหลวงพ่ออุตตมะจากสนามบินพิษณุโลกและวัดบางคลาน(ทำให้มีบุญได้พาหลวงพ่อมาพักผ่อนที่บ้านหลังเสร็จพิธีด้วย) ในครั้งนั้นผมจึงถวายแหวนหลวงพ่อขวัญเป็นที่ระลึกกับหลวงพ่ออุตตมะด้วย หลังจากนั้นผมได้ไปกราบหลวงพ่ออุตตมะที่พุทธมนฑลสาย 2 หลวงพ่อหยิบแหวนหลวงพ่อขวัญแล้วพูดกับผมว่า "ของดีนะ" แล้วท่านก็เอาแหวนของหลวงพ่อขวัญมอบให้กับลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดกับท่าน โดยใส่แหวนให้ที่นิ้วด้วยมือของหลวงพ่อเอง แต่ปรากฏว่าแหวนหลวมไป หลวงพ่อท่านก็หาด้ายมาพันที่ท้องวงแหวนให้ เมื่อหลวงพ่อพันด้ายเสร็จก็เอาแหวนมาใส่ให้ด้วยมือของท่านเองอีก คราวนี้ใส่ได้พอดี หลวงพ่ออุตตมะท่านยิ้มแล้วบอกว่า "ของดีนะใส่ติดตัวไว้นะ" แค่นี้ก็คงพอแล้วนะครับ แต่เท่าที่ทราบก็ยังมีครูบาอาจารย์อีกหลายองค์ที่พูดถึงหลวงปู่ขวัญอีกเช่น หลวงปู่ครูบาหล้าตาทิพย์, หลวงพ่อแพ, หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (หลวงพ่อท่านมอบข้าวตอกพระร่วงให้หลวงพ่อขวัญด้วย) แต่บังเอิญผมไม่มีข้อมูลอ้างอิงครับ ท่านที่มีข้อมูลตรงนี้กรุณาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ

แหวนตะกร้อ หรือแหวนพิรอดปลอดภัย ของดีมีประสบการณ์ที่สร้างชื่อให้กับหลวงพ่อขวัญอย่างมากที่สุด รุ่น สร้างศาลา เป็นแหวนยุคต้นๆๆของหลวงพ่อขวัญซึ่งปัจจุบันหาพบเจอได้ยาก สภาพสวยๆ ไม่ผ่านการใช้ แบ่งบูชา 999 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

 

พระผงพุทธคุณพิมพ์แหวกม่าน หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม (บ้านแค) อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท พระชุดนี้จัดสร้างเป็นยุคปลายของหลวงพ่อกวย ซึ่งท่านอธิษฐานจิตไว้เมื่อปี 2521 สภาพสวยเดิมๆๆ สวยพลาสติคกันน้ำพร้อมใช้แบ่งบูชา 1,850 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้พี่ สมเกียรติ จ.กรุงเทพ ขอบคุณครับ)

ชอบองค์นี้จังครับ

 

พระกริ่ง "ไล่ฝน ตัดรุ้งขาดได้" หลวงพ่อขวัญ ปวโร

งดงามจริงๆครับ

 

ประสบการณ์พระขุนแผนรุ่นแรกหลวงปู่มี วัดมารวิชัย..

เรื่องทั้งหมดที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ มาจากเรื่องจริงของเพื่อนผมคนนึง ผมเองบอกตามตรงว่าไม่อยากจะเล่า เพราะ คิดว่ามันอาจจะเป็นเสมือนดาบสองคม และอันที่จริงยังมีเรื่องราวประสบการณ์ลักษณะคล้ายๆกันแบบนี้ เกิดขึ้นและมีคนเล่าให้ฟังเสมอๆ ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านมากๆด้วยนะครับ

สาบสาว

"พล... วิ จะพาน้องสาวมาเรียนที่กรุงเทพ พลว่าดีไม๊"
"ก็ดีนะ ที่นู่นเรียนลำบาก มันไกลตัวเมือง เอ แล้วน้องวิคนไหนล่ะ"
"น้องแก้มไง จบม.2แล้ว วิอยากให้มาเรียนม.3ที่กรุงเทพก่อน จะได้ทันเพื่อนๆ"
"แก้มเหรอ เอาซิ แล้วจะมาเมื่อไหร "
"วิว่าสิ้นเดือนนี้ไปรับแก้มที่บ้านนะ"
ผมเองยังไมได้รับปาก แต่ก็นึกภาพเด็กสาวตัวดำๆเกเรๆได้ ผมเองยังเคยโดนแกล้ง นี่ไม่ได้เจอตั้ง3ปี ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง หลังจากนั้นอาทิตยืนึง วิแฟนผมก็บอกว่าให้เขาทำเรื่องย้ายโรงเรียนเรียบร้อย และหาโรงเรียนใหม่ให้ได้แล้ว ผมก็ตามใจแฟนผม เพราะตอนนี้เราสองคนตั้งตัวกันได้แล้ว อาชีพวิศวกรของผมตอนนี้มันมั่นคงพอสมควร ส่วนวิ มีกิจการค้าขายรายรับสวนทางกับกระแสเศรษฐกิจตกต่ำของปี2539
"เฮ้ย นี่น้องแก้มเหรอ........."
ผมร้องเฮ้ยจริงๆ แต่ก็ดังอยู่แค่ในใจ เพราะเด็กหน้าตามอมแมมเมื่อ3ปีก่อน บัดนี้เป็นเด็กสาวรุ่นหน้าตาจิ้มลิ้ม ผิวพรรรขาวนวล หน้าตาของเด็กสาวไม่ได้ดูเป็นเด็กบ้านนอกเลยแม้แต่นิดเดียว ตรงกันข้าม กลับดูดีกว่าเด็กสาวๆที่ผมพบเจออีกหลายๆคน
ผมเองพยายามรักษาอาการ ไม่ให้วิแฟนของผมรู้ ว่าผมแอบปลื้มน้องสาวของเธอ จนกลับมาที่บ้าน สองพี่น้องพากันไปช๊อปปิ้ง น่าเสียดายที่ผมติดงานด่วนเลยอดไปด้วย
"พี่พลไปส่งแก้มที่โรงเรียนก็ได้นะ........."
"ไม่ต้อง........."
"แก้มจะได้ไม่ต้องลำบากนั่งรถเมล์ไง....."
"ไม่ แก้มอยากนั่งรถเมล์............."
หลายครั้งที่ผมพยายามแอบชวนน้องแก้มให้ขึ้นรถไปด้วย แม้แต่วิแฟนผมยังพูดกับน้องสาวเธอให้ไปกับผมเพราะเป็นทางเดียวกัน จะมีก็แต่วันฝนตกเท่านั้นที่แก้มยอมขึ้นรถผม วันนั้นมันก็จะเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุด แต่ถึงแม้จะพยายามชวนคุยอะไร แก้มก็ดูเหมือนจะรู้ทันและไม่ยอมพูดกับผม บางทีก็จะแกล้งหลับ แต่ก็นั่นแหละ พอเธอหลับ ผมก็แอบลอบมองใบหน้าคิ้วคาง ตลอดจนสัดส่วน โอ้อนิจา ทำยังไงดีหนอ..........................
ผ่านไปสองอาทิตย์ ผมเองรู้สึกผิดหูผิดตา กับไอ้พวกแซมขนติ่งที่ชอบเสือก แถมยังมีจิ้งเหลนจิ้งจกมาเพ่นพ่านหน้าบ้าน
"ลุง...แก้มอยู่ไม๊......"
"กูเป็นพี่ของพ่อมึงตั้งแต่เมื่อไหรกันวา ถึงได้มาเรียกกูว่าลุง......."
"โห ทำไมลุงพูดยังงั้นล่ะครับ ผมถามดีๆ........"
"อ้าวไอ้ฉัด....ไปให้ไกลเลยนะ เดียวกูยิงไส้แตก......."
ผมเองพูดไปด้วยแรงโทโส หามีสักกระบอกไม่ แต่ก็ได้ผลที่ไล่ไอ้พวกกระจั๊วที่มาเกาะหน้าบ้านยั้วเยี้ยไม่มีใครรอหน้าติดสักคน แต่บางทีเพื่อนกันก็มีบ้าง
"เฮ้ยพล น้องเมียมึงนี่ไม่เบาเลยนา...ยังไงๆก็นึกถึงกูบ้าง....."
"ถ้ารักจะคบกัน อย่าพูดถึงน้องเมียกูในทางที่ไม่ดี.....กูเอ็นดูเหมือนน้องเหมือนนุ่ง..."
"นั่นแน่ เอ็นดูเด็ก มึงเอ็นดูเด็กได้ แต่อย่าเสือกให้เด็กดูเอ็นล่ะ เดี๋ยวจะยุ่ง..........."
นั่นก็เพื่อน ว่ากันไปตามความคะนองปาก แต่วิแฟนผมจะรู้ไหมหนอว่าผมรู้สึกหึงหวงน้องแก้ม แทนพี่สาวเขา หากแต่แก้ม ไม่เคยเปิดโอกาสให้ผมได้แสดงน้ำใจเลยสักครั้ง
"เฮ้ยพล ข่าวว่าน้องเมียมึงนี่น่ารัก นั่นแน่ จะเทครัวหรือไง......"
"พวกมึงนี่ปากหมาดีนะ น้องนุ่งกูไม่คิดอะไรเลยเถิด......."
"เออว่ะ ถ้าน้องมันไม่นุ่ง มึงก็คงคิด.... ไอ้พล กูเพื่อนมึงมึงทำอะไรทำไมจะไม่รู้..........."
"น้องวิมันนะโว้ยกูคงไม่กล้าหรอก เดี๋ยววุ่นวาย แล้วอีกอย่าง แก้มมันไม่เคยเปิดโอกาสให้เลยสักที เด็กมันคงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร.........."
มิใยที่ผมจะบอกกับใครๆว่าไม่สนใจ แต่ส่วนลึกด้านมืดของจิตรใจ มันเรียกร้อง ยิ่งครั้งไหน แก้มยอมขึ้นรถไปด้วยกัน ผมแอบดมกลิ่นหอมอ่อนๆของแป้งที่เธอทา หรือบางทีจังหวะดีที่กลับบ้านแล้วผมรับเธอมาด้วย กลิ่นสาบสาว ชวยมากระทบฆาณประสาท เล่นเอาใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
"พี่พล แก้มจะลงซื้อของ...........พี่พลเข้าบ้านไปก่อน...."
"แต่.........."
ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร น้องเมียคนสวยเปิดประตูพรวดลงไปแล้ว ผมได้แต่ดมกลิ่นสาวที่ค้างอยู่ในรถ
"มีอะไรออกใหม่มั่งวะ กูไม่ได้ตามเลย...."
"หลายอย่างนะ แล้วก็ ขุนแผน......กำลังดัง...."
"ดังยังไง......"
"ก็เขาว่าเรื่องผู้หญิงดี เมตตามหาเสน่ห์ดี เฮ้ย เขาว่าแรงดีจริงๆนะ......"
"กูไม่อยากเชื่อ เคยไปกราบท่านหลายหน ไม่เคยได้ยินว่าท่านจะทำพระแนวนี้...."
"ศิษย์สร้างถวาย เขาว่ามวลสารดี..เสกนานด้วย...."
"เอาดิ จัดมาเลย...."
"มีสองสี...เทากับเหลือง และก็กรรมการ แต่กรรมการ คนสรางเขาเก็บหมด แจกเฉพาะ วีไอพี เท่าน้น...."
"แล้วยังไงล่ะ เอาอย่างละห้าก็แล้วกัน......ดีจริงเหรอวะ..."
"เฮ้ยพล ของหลวงปู่ เสกยังไงก็ดี ไม่ว่าทางไหน แต่คราวนี้เขาว่าเอาทางเมตตามหาเสน่ห์จีบสาวเป็นอันดับแรก......."
"เออๆ....... ."
หลังจากนั้นอาทิตย์นึง เพื่อนผมเอาพระขุนแผนมาให้ ผมเองนับถือหลวงพ่อท่านอยู่แล้ว เพราะมีเพื่อนนึงเป็นศิษย์ แต่ผมเองไม่ค่อยเชื่อเรื่องเสน่ห์
อะไรเทือกนั้น จะเชื่อก็เรื่องคุ้มครองปลอดภัยมากกว่า แต่ผมก็ไม่ได้เอาไปเลี่ยมเพราะไม่มีเวลา แต่พกในกระเป๋าเสื้อเอาไว้
"พี่พล...แก้มอยากไปทะเล......."
"..............."
"อ้าว จริงๆนะ สอบเสร็จเบื่อๆ...."
"แล้วชวนพี่วิแล้วหรือยัง....."
"ชวนแล้ว....พี่วิให้มาถามพี่พลดู......"
ผมเองไม่นึกว่าจะเป็นอานุภาพของพระขุนแผนหรือเปล่า แต่ก็แอบเอามือลูบที่กระเป๋าเสื้อ....ปรกติน้องเมียไม่เคยพูดจาดีๆกับเรา เอ หรือว่า เพราะจะให้เราพาไปทะเลกันแน่ หลังจากนั้นตกลงไปกันหลายคน แต่สุดท้าย เหลือผมกับแก้ม เพราะวิมีนัดกับลูกค้า สั่งออเดอร์ของจากต่างประเทศ ผมเลยต้องพาน้องเมียไประยองคนเดียวโดยที่ วิและเพื่อนอีกสองคนจะตามมาในตอนเย็น ผมเองยอมรับว่า ลั้นลาที่สุด สิ่งที่ผมหยิบไปชิ้นแรกก็คือแว่นดำ และมันก็มีประโยชน์จริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาววัน16 จะมีเรือนร่างสะโอดสะอง ผมรู้สึกเสยียวในหัวใจ เมื่อมีหนุ่มๆ ทั้งหัวหงอกหัวดำ มองมาที่ผมด้วยความอิจฉา แน่ละผมเองย่อมมีความสุขกว่าใครไหนอื่น ผมเอาขุนแผนไปเลี่ยมก่อนมาทะเล และแขวนตลอดเวลา ในใจก็คิดไปต่างๆนาๆ ตกเย้น วิโทรมาเลื่อน บอกว่าจะตามมาตอนเช้า
"พล วิตามไปเช้าก็แล้วกัน อ้อ แล้วอย่าทำอะไรแก้มมันล่ะ เอาตายเขียวนะฮะๆ........."
"ไม่หรอก นอนกันคนละห้องนี่นา จองไว้สองห้องไง........"
"โอเค ยังดูแก้มมันด้วยนะ........."
"จ้ะๆ....."
ผมแทบจะร้องไชโยออกมาดังๆ อย่างน้อยก้มีเวลาได้อยู่ใกล้น้องเมียโดยลำพังอีกสักพักนึง
"พี่พล แก้มอยากลงทะเล พาไปนะๆ....."
"ได้ๆ ไปซิ....."
ผมไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้หรือ ที่แก้มเปลี่ยนท่าทีไปจากเดิม ผมเลยลองถอดพระออกจากคอ แล้วก็ลงไปกับแก้ม ปรากฏว่า แก้มแทบจะไม่พูดกับผมเลย และทำท่าเฉยเมย ผิดกับเมื่อช่วงเช้าและบ่าย หยั่งกับหน้ามือเป็นหลังตีนเลยทีเดียว ผมเลยไปหยิบพระขุนแผนมา แล้วก็แอบท่องคาถาที่เพื่อนฝากมาด้วย ในใจคิดว่าเป็นไงเป้นกัน ผมรับผิดชอบทุกอย่าง
"พี่พลกินตอนเย็นอะไรดี....."
"ตามใจน้องแก้มจ้ะ......"
เราขับรถเข้ามานั่งที่ร้านอาหาร สายตาไอ้เข้ไอ้โขงมองมาอย่างอิจฉาอีกแล้ว ผมไม่สนใจ นั่งดวดเบียร์อย่างสบายอารมณ์
"อร่อยเหรอพี่พล ไอ้พวกเบียร์กับเหล้าเนี่ย...."
"มันก็ไม่หรอก แต่กินแล้วอารมณ์ดีน่ะ..."
"ขอแก้วดิพี่....."
"เอ้ย เดี่ยวพี่วิรู้พี่ซวย...."
"แล้วจะไปบอกพี่วิทำไมเล่า...ซื่อจริง.."
นั่นโดนย้อนเข้าให้ด้วย เฮ้อ เด็กหนอเด็ก สองแก้วเท่านั้น คอพับคออ่อน ผมพากลับโรงแรม พอถึงห้อง แก้มล้มตัวลงนอนหลับไปในทันที ผมผมนี่ซิ จิตวิญญาณซาตานมันยังไม่หลับ ยิ่งบังคับให้มันไปซาย แต่ก็กลับไปทางขวา ยิ่งบอกให้มันกลับห้อง แ ต่ก็พ่ายแพ้ความเลวทรามในส่วนลึก ผมเดินไปนั่งข้างๆน้องเมียคนสวย พยายามข่มใจ ด้วยว่าน้องเมียยังเด็กนัก แต่แล้วก็พ่ายแพ้แก่ด้านมืด ผมค่อยก้มลงสูดดมกลิ่นสาบสาวตามซอกคอ ซอกนั้นซอกนี้ สองมือค่อยลูบคลำไปตามเรือนร่าง เสื้อยืดตัวน้อย บัดนี้มันไม่อยู่ในสภาพเสื้อแบบเดิมอีกแล้ว สติกลับมาเป็นระยะๆ แต่ก็ยังพ่ายแพ้แก่ซาตาน ด้วยว่ากลิ่นสาบสาวมันเย้ายวนใจ
"อือ..........พี่พล....."
"................."
"พี่พลขา อย่าทำแก้มนะคะ...........อูย..............อือ"
"...................."
"ไม่ทำความดี ห้อยพระก็เหมือนห้อยกระเบื้อง.............."
เหมือนหูของผมจะแว่วๆ คลับคล้ายคลับคลาว่าได้ยินเสียงจากไหนสักแห่ง ผมดึงใบหน้าออกจากซอกคอของน้องเมีย มือจับไปยังพระขุนแผนในคอ
"ตายละ กุทำอะไรลงไปวะเนี่ย"
ผมจัดทุกอย่างใหเรียบร้อย แล้วเดินกลับไปห้องของตัวเอง ถอดเสื้อผ้าเปิดน้ำเย็นปล่อยให้มันชะล้างความชั่วร้ายที่เกาะอยู่ออกไป
...
ปัจจุบัน เพื่อนผมคนนี้ แต่งงานกับน้องแก้ม อยู่กินด้วยกัน ส่วนวิคนพี่ แต่งงานกับสามีฝรั่ง
คำพูดนึงของเพื่อนผมคนนี้ ที่มันบอกกับผมว่า
"ล้อเล่นไม่ได้นะมึง....ขุนแผนหลวงปู่เนี่ย....แต่กูทำแล้วกูรับผิดชอบนะ.......หลวงปู่คงไม่ว่า"
ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมได้ยินมา แต่ละคนได้ผลที่แตกต่างกันออกไป แม้แต่ตัวของผมเองเคยใช้ได้ผลมาแล้วกับเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ แต่กลัว่ามันจะทำให้ชีวิตยุ่งวุ่นวาย ฉะนั้นผมของแนะนำสำหรับคนที่โสด หรือชอบ รักจริง ไม่ใช่ทำเล่นๆนะครับ กรรมมันมีจริง

(ขอบคุณนามปากกา มันตรัย ครับผม)

thaiput007@hotmail.com