*** พ.ศ.2556 ผลการกระทำ กรรมที่เหลือเชื่อ ****

จะไม่เอาทั้งความดี ไม่เอาทั้งความชั่ว โลกคงวุ่นวาย มนุษย์ก็คงไม่มีค่าทำตามสัญชาตญาณไม่ต่างจากสัตว์

ทำความดี ละความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ โลกจึงสงบ จึงมีค่าสมเป็นสัตว์ประเสริฐ

เห็นใครทำความชั่ว ก็หาทางยับยั้งเสีย แต่ให้ระวังตัวไว้จงหนัก ทุกคนร่วมมือกันทำความดี เมื่อนั้นก็มีความสุข

 

คงน่าจะหมายถึง ละชั่ว และไม่ติดดี (ทำดีแต่ไม่ไปติดในการทำความดีนั้น)มั้งครับ ใช่ไหมครับ คุณหนุมาน

 

ตั้งแต่ผมเข้ามาอ่านที่ห้อง ภัยพิบัติและการเตรียมการ จะเห็นคุณ " หนุมาน ผู้นำสาร " <O</O
พูดถึงเรื่องสัจจะบ่อยๆ และมักจะแนะนำเพื่อนๆในเวบฯให้ถือสัจจะ<O</O
ส่วนตัวผมก็ว่าแปลกๆ ( โง่อะนะ )ว่าทำไมเน้นแต่ สัจจะ
<O</O
<O</O
มาวันนี้ผมนั่งเฉยๆสงบๆอยู่หน้าคอมฯ ............ อ่าว ปัดโธ่ แล้วกัน<O</O
<O</O
สัจจะ ที่คุณ " หนุมาน ผู้นำสาร " เน้นย้ำเสมอๆนี่เป็นข้อที่7ของ ทศบารมีนี่เองมองข้ามไปซะได้
เมื่อเราบำเพ็ญบารมีข้อใดข้อหนึ่งในทศบารมี ก็ลากข้ออื่นๆไปด้วย<O</O
เป็นอัตโนมัติ ( เคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อฤษีลิงดำ )
ในเมื่อเราบำเพ็ญทศบารมีความดีที่เราบำเพ็ญเพียรนี้ก็จะค้ำจุนให้เราปลอดภัยจากภัยพิบัติ ( ถ้าไม่มีกรรมจากปาณาติบาตเยอะ )<O</O
<O</O
ที่เขียนมานี่ไม่ใช่อะไรครับ ผมโง่อยู่นาน และจะถามคุณ " หนุมาน ผู้นำสาร "ด้วยครับว่าที่ผมเข้าใจนี้ถูกต้องไหมครับ<O</O

 

เมื่อวาน วันพฤหัส ผมได้ตั้งสัจจะว่าจะกิน มังสวิรัติ งดเนื้อสัตว์....เเล้วผมก็ทำได้...

พอมาวันนี้ (6 พ.ค 54) ช่วงเวลา บ่าย2 กว่าๆ ผมได้ไปนอนงีบหลับบนเตียง หันหัวนอนไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

ความรู้สึกมันเหมือน..ครึ่งหลับ ครึ่งตื่น..(ก่อนนอน ผมลองขอให้ฝันเห็นภัยพิบัติ)หลับไปสักพัก...ร่างกายขยับไม่ได้ เหมือนตัวมันจะลอย จากที่นอน ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่หาย..เสียงเริ่มดังขึ้น คลืนๆ เสียงฝนตก ฟ้าผ่า..น่ากลัวมากๆครับ มาเเต่เสียง ไม่เห็นภาพครับ..

ทุกอย่างนี้สัมผัสได้ ตอนลืมตา ครับผม..บรรยากาศภายในห้อง เหมือนปกติทุกอย่าง จนรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวเเล้ว..นึกว่าโดนผีอำ..เลยสวดนะโมตัสสะ..ก็ไม่หาย...สักพักผมก็ตื่นขึ้นมา...เหงื่อออก เต็มตัว..เหมือนจริงมากๆ..


ลักษณะเเบบนี้เรียกว่าอะไรครับ...ขอผู้รู้ช่วยชี้เเนะข้าพเจ้าด้วยครับ..สาธุ...

 

*** ท่านก็เลือกหยิบข้อธรรมมาปฏิบัติ ให้ตรงสถานการณ์ชีวิต ****

โดย...มี
สัจจะ.... เป็นผู้นำ
นำ ... ให้เกิดขึ้นจริงในชีวิต
ธรรมอื่นๆ... เป็น ข้อปฏิบัติ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ขอบพระคุณพี่หนุมาน ผู้นำสาร มากๆ ครับ ผมจะนำไปปฎิบัติ ครับ...

 

...ขอบพระคุณ คุณ หนุมานมาก สิ่งที่คุณหนุมานได้โพสต์ลงในกระทู้นี้ ล้วนมีประโยชน์และ รับทราบถึงความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน..

 

*** เมื่อกรรมมา ต่อให้เก่งแค่ไหนก็แก้ไม่ตก ****

เหล่าผู้นำชน...ขาดสัจจะ
ผู้คนผู้ตาม....ขาดสัจจะ
บ้านเมือง...ขาดสัจจะ
วิบัติ....จะเกิดไปทั่ว
บารมี...ไม่พอ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ส่วนตัวผมชอบความคิดของจขกท.นะ เพราะว่าอาจจะชอบธรรมะแบบเข้มๆ หรือว่าจัดหนัก หรือธรรมะฮาร์ดคอร์แบบหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ถูกจริตผมดี
แต่โลกมนุษย์แห่งความจริง หรือภาพข้างหน้าคนเรามันก็มีกิเลสตัณหาฯด้วยกันทั้งนั้น เปรียบดั่งคนยืนอยู่ที่สูงต่ำไม่เท่ากัน การมองเห็นจึงต่างกัน หรือพระอริยเจ้า ท่านก็จะเห็นอีกอย่างนึง คือมองเห็นกิเลสตนและรู้วิธีกำจัดกิเลสตนให้สิ้นซาก แต่ปุถุชนหรือคนไม่ได้ถูกฝึกจิตมาดี ยากแท้ที่จะชนะตนหรือกิเลสตน ผมพูดแบบภาษาชาวบ้านจะได้เข้าใจกันง่าย เพราะว่าธรรมะคือธรรมชาติ ธรรมชาติก็คือธรรมะ นั่นเอง
หรืออาจจะเป็นจิตคนเราละเอียดต่างกันด้วย
และขอแนะนำธรรมทานนี้ด้วย ���ҷ��ǧ����Ѵ��ҫا

 

แน่แท้ล่ะท่าน
เพราะปัญญาของคนเราต่างกัน
เพราะผมพิจารณาจิต ดูจิตตัวเองเช่นไร อาจได้แค่สติ
ไม่กล้าบอกว่าตัวเองคือผู้มีปัญญา

 

*** สัจจะ การปฏิบัติเยี่ยงอย่างพระพุทธเจ้า ****

เรื่องสัจจะของโลกุตตระ ...ใครรับได้ก็เอาไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** พ.ศ.๒๕๕๕ กรรมรุมเร้า ****

เรื่อง "สัจจะ" เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
ใครไม่เอา ใครไม่รับ ใครไม่มี ก็ไม่มีใคร ไม่มีอะไรมาช่วยได้
เราสอน "สัจจะ" เพื่อนำสัตว์โลกให้หลุดพ้น จากเกิด แก่ เจ็บ ตาย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ตัวใครตัวมัน ของใครของมัน ****

หาทางก้าวข้ามกรรมไม่เจอ !!!!
เพราะ...ไม่เอาสัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ทรงศาสนา ****

ผู้ปฏิบัติตนด้วยสัจจะ
มีสัจจะนำชีวิต ปลดนิสัยตนเอง
เป็นผู้ทรงศาสนา....

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** โลกไม่เอา คนไม่เอาไหน ****

ไม่มีที่ว่าง สำหรับคนไม่เอาสัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** พ.ศ.2556 ผลการกระทำ กรรมที่เหลือเชื่อ ****

เมื่อหมดเวลา อะไรก็เอาไม่อยู่
ถึงต่อให้รู้ ก็ไม่มีใครแก้ไขได้
ทุกอย่างเป็นไปตาม โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** มีสัจจะ เป็นสรณะ ****

อยู่ด้วยหลักตนพึ่งตน
เดินสายกลาง
ไม่หวังผลตอบแทน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เลิกเจ้อ กันทีเถิด***

ภัยพิบัติเลื่อนออกไปอีกแล้ว
ไม่คลาดแคล้วดั่งที่คาดไม่แปรผัน
มีแต่พวกงมงายกันทุกวัน
ได้แต่ฝันให้มันมาเร็วทันใจ

-"เมาแล้วคลาน "

 

คนยุคนี้ไม่ต้องการความจริงสักเท่าไหร่ เขาต้องการความเชื่อต่างหาก เชื่อ ศรัทธา ผมคิดว่าชาวพุทธยุคนี้อยู่กับศรัทธามากกว่าความจริงเพราะความจริงมันเห็นยาก ดูจากพิธีกรรมและอุปกรณ์ประกอบและสิ่งกล่าวอ้างมากมายกว่าศาสนาอื่นๆ ความจริงของทุกศาสนาคือการพัฒนาจิต แต่ไม่เคยมีใครเคยเห็นหรือรู้จักจิตจริงๆสักคน แล้วก็ตกม้าตายตั้งแต่เริ่ม เลยไปประกอบพิธีกรรมเชื่ออิฐหินปูนทรายว่ากายสิทธิ์จะบันดาลนู่นนี่ ถ้ายอมรับว่าเราไม่รู้อะไรจริงแล้วเริ่มใหม่ให้ถูกต้องก็ง่ายกว่า แต่เราอ่อนแอเพราะถ้าศรัทธาเดิมพังทลายก็เหมือนสูญเสียตัวตนไป เราควรเริ่มที่จิตจบที่จิต ถ้ามีพิธีกรรมควรน้อยที่สุดเอาไว้เสริมกำลังใจก็พอ อะไรๆก็ทำในกายยาววาหนาคืบนี้พอ เพราะการฝึกจิตจริงๆเป็นงานหนักที่สุดแล้ว ถ้าเอาโยคะอื่นๆเสริมมันจะถ่วงช้า เปิดใจกว้างยอมรับความจริงยอมรับธรรมะ(ชาติ) ไม่ใช่ธรรมของพวกนั้นพวกนี้อย่างที่เราเข้าใจ ตั้งแง่ว่ามีแต่พวกนั้นพวกนี้ที่ทำใด้ พวกนี้มันของกลางทั้งนั้นใครเข้าถึงก็ทำใด้ ไม่ว่าขาวว่าดำหรือกลางๆ บางอย่างใช่มีแต่ในบางพวก แต่ขอโทษทีพวกอื่นที่ว่าไม่มีกลับมีของอย่างอื่นที่ดีกว่าอีก ใจเราคับแคบก็มองแคบ สุดท้ายก็ตัวเองนั่นเองที่ติดในหนทางคับแคบเสียเอง เราต้องสางความรู้ทั้งหมดเอาให้เห็นภาพรวมกว้างๆก่อนว่าจิตคืออะไร พัฒนาไปทางใดได้บ้าง แล้วค่อยตั้งเป้าแล้วค้นวิธีปฏิบัติ ถ้าปักใจเชื่อว่าหนทางเก่าๆดีแล้วก็ยากจะค้นเจอหนทางใหม่ที่ดีกว่าใด้ เหมือนคนทั้งโลกถ้าเชื่อว่าโนเกีย3310เลิศสุดคงไม่มีไอโฟนในทุกวันนี้ แล้ววันหน้าต้องมีดีกว่านี้ จิตก็เช่นเดียวกัน ด้วยความเคารพครับ

 

*** พิจารณา เป็นข้อคิด ****

เรื่องสัจจะ ทุกคนมีสิทธิที่จะทำ มีสิทธิที่จะปฏิบัติ
เรื่องสัจจะ ทุกคนมีโอกาสที่จะทำ มีโอกาสที่จะสำเร็จ
อยู่ที่ตนเอง ต้องคิดเอง ต้องพิจารณาเอง
ตัดสินใจเอง เลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้กับตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "