พิธีตัดกรรมฤๅวิถีของชาวพุทธ

เมตตาเค้าเถอะ

 

อีกเรื่องนะครับคุณธรรมทิพย์ สำหรับคนที่เขายังต้องการวัตถุมงคล หรือวิธีการแปลกๆ ที่ชักนำไปสู่ธรรมฝ่ายกุศล ก็อย่าไปคิดว่าเขาโง่เขลาเบาปัญญาหรือเขาไม่ดีเลยนะครับ เพราะผมเห็นอยู่บ่อยมากครับ คนที่เริ่มต้นด้วยพระเครื่อง แล้วไปจบลงที่การสวดมนต์เจริญภาวนา รักษาศีล 8 อย่างอุกฤษฏ์ อย่างบางทีก็ในเว็บนี้แหละครับ ที่็เห็นมีคนมาเล่าประสบการณ์ในทำนองนี้ให้ได้อ่านอยู่เสมอ อย่าไปคิดว่าเป็นทางอ้อมหรือทางตรงเลยครับ เพราะถ้าพวกเขาเหล่านั้นไม่อาศัยวัตถุเหล่านี้ บางทีทุกวันนี้เขาอาจจะยังไม่รู้จักแม้กระทั่งศีล 5 ด้วยซ้ำไปครับ

ดูปฏิปทาขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเป็นตัวอย่างนะครับ ท่านไม่ได้แสดงธรรมให้ฟังเพียงหัวข้อเดียวนะครับ ท่านดูอุปนิสัยก่อนท่านจะแสดง บางกลุ่มท่านก็เล่นมรรคมีองค์ 8 เลย บางกลุ่มท่านก็สอนเรื่องนรก-สวรรค์ บางกลุ่มท่านก็สอนเรื่องการแยกแยะพิจารณาถูกผิด บางกลุ่มท่านก็ยกเรื่องอดีตชาติของพระองค์มาส่วน บางคนท่านก็สอนด้วยการโยนผ้า หรือดอกบัวให้นำไปพิจารณาเอาเอง อันนี้เป็นต้น

 

เราต้องพิทักษ์หลักพระไตรปิฎกให้ลุกหลานให้มากที่สุดอย่าบิดไปจากหลักธรรมที่แท้จริง

โอ้, การใช้คำว่า " ตัดกรรม " โดยให้ความหมายที่ต่างจากการสิ้นสุดกรรมของพระอรหันต์ทั้งหลายนั่นคือการ" บิด "หรือ "เคลื่อน"ไปจากพระไตรปิฎกหรือไม่....เพราะให้ผู้อื่นที่มิใช่ตัวเรามาตัดกรรมของเราเองได้แล้วทุกคนในสามภพทั้งหมดนี้คงหมดกรรมแล้วใช่หรือไม่.....หลักสัจจะธรรมที่ว่า " ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด"....และ จากสิ่งที่ได้รับจากคำสอนว่า" เราเป็นเพียงผู้ชี้ทางส่วนการกระทำนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลจะทำหรือไม่"..." ไม่มีใครทำให้ใครเป็นผู้บริสุทธิ์ได้นอกจากตัวผู้นั้นเอง".....การตัดกรรมเปลี่ยนเป็น"หนีกรรม" โดยการทำความดีโดยถ้าเร่งจะหนีให้ไกลโดยการ ทำอนันตริกรรมด้านดีคือการกรรมฐาน-วิปัสนาก็จะกระโดดหนีกรรมได้อย่างรวดเร็ว....ซึ่งหมายถึงกรรมดีให้ผลก่อน....แต่อย่างไรกรรมชั่วที่เคยทำไว้ก็ยังมีเหมือนเดิมแต่เจือจางลงเปรียบคือ....น้ำสีดำ 1ส่วนอยู่ในแก้วอย่างเดียวก็จะดูเป็นสีดำมากแต่เมื่อเติมน้ำบริสุทธิเข้าไป100 ส่วน น้ำก็จะเปลี่ยนสีเกือบจะใสคือจางลงมาก..แต่น้ำดำ 1 ส่วนก็ยังอยู่เหมือนเดิม..ก็คือกรรมชั่วยังมีอยู่แต่กรรมดีให้ผลมากกว่า..อย่าตีความหลักธรรมให้เพี่ยนนักเพราะนั่นหมายถึงการบิดเนื้อหาในหลักธรรมยังมาซึ่งความเสื่อม...

 

สวัสดีค่ะ เพื่อนสมาชิกที่ร่วมแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมทุกท่าน

ขออภัยไม่มีเวลาตอบเป็นรายบุคคลค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะที่ร่วมแสดงความคิดเห็นซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งแวดล้อม ประสบการณ์ชีวิต และทิฏฐิที่แตกต่างของแต่ละท่าน

อนึ่งเรื่องของ ความเชื่อ ศาสนา และการเมือง เป็นสิ่งที่ไม่ควรนำ
มาพูดถกเถียงกันในทุกเวที เพราะเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่จะยอมรับในความเห็นที่ต่างกันได้ง่าย ๆ หากแต่เป็นการสนทนา
แลกเปลี่ยนมุมมองย่อมเกิดประโยชน์

อย่างไรก็ตามต้องขอบพระคุณ คุณ Chati ผู้มีใจกว้างและ
มองเห็นวิถีของชาวพุทธที่แตกต่างอย่างเข้าใจ อาจเป็นเพราะ
ดิฉันศรัทธาพระนักปฏิบัติ จึงละเลย และมองข้ามบางสิ่งซึ่ง
หลายคนยังหลงใหล เพราะสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน บางทีก็มักใช้มาตรฐานตัวเองวัดผู้อื่นนี่ก็เป็น
สักกายทิฏฐิอีกข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นสังโยชน์ที่ควรลดละ

ขอชื่นชมในเรื่องความรู้ทางพระพุทธศาสนาของคุณที่ดูเหมือน
ลึกซึ้ง ไม่ธรรมดา ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สำหรับการแลกเปลี่ยน
มุมมองที่ก่อให้เกิดประโยชน์เชิงสร้างสรรค์

ขอบคุณ ผู้มาเยือน ที่ช่วยสรุปเรื่อง "การตัดกรรม" ได้อย่างชัดเจน แสดงว่าท่านเป็นผู้รู้ซึ้งเข้าถึงธรรม และถึงแก่นเป็นอย่างดี ขอคารวะด้วยความศรัทธาค่ะ

สุดท้ายต้องกราบขออภัย ในข้อเขียนบางคำบางประโยคอาจแรงไปบ้างสำหรับใครบางคนที่ร้บไม่ได้ (ก็อย่ารับค่ะ เพราะจะทำให้หนัก) สาเหตุก็เพราะ"ธรรมทิพย์" มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่รู้ตัวว่าต้องปรับเปลี่ยน เพราะเล่นเอาหลายคนเข็ดขยาดไปตาม ๆ กัน
มาแล้ว ต่อไปจะระมัดระวังมากขึ้นค่ะ

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ให้เกียรติติดตามอ่านมุมมองทางธรรม
จนมาถึงบรรทัดนี้ ขอให้ "พระธรรมคุ้มครอง บุญรักษา"
ทุกท่านตลอดไปค่ะ


;aa40

"เมตตาธรรมค้ำจุนโลก"

 

นานาจิตตังนะครับ
ถ้าทำอะไรแล้วมีความสุข ก็ทำไปเถอะครับ
คนเราย่อมมีความคิดเห็นแตกต่างกันครับ
ทำไมถึงมีสีดำ-ขาว บวก-ลบ ดี-เลว ฉลาด-โง่ล่ะ
นี่แหละ มนุษย์ เข้าใจหรือยังล่ะครับ เพื่อนๆทุกท่าน
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม
----------------------------------------------------------------
อนุโมทนาบุญ นะครับ

 

จงทำวันนี้ให้ดีที่สุดเถิด ทำแล้วต้องยอมรับผลของมัน กรรมคือการกระทำ