พระโมคคัลลานะไปพบพระพุทธเจ้าอีกองค์ที่อีกโลก อยู่ในพระไตรปิฎกเล่มไหน?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย donn, 19 กันยายน 2005.

  1. ผู้ใฝ่บุญ

    ผู้ใฝ่บุญ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    .........ผมได้อ่านบทสวดมนต์แปล อยู่บทหนึ่ง คือ บท สัมพุทเธ ที่แปลโดยสรุป ( ตามความเข้าใจของผมนะครับ ) ....ว่า.....พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้มาแล้ว มากกว่า เม็ดทรายในมหาสมุทธ ......และอ้างถึง สหัสสธารีโลก ก็คือ นับล้าน โลกธาตุ และ พระชนมายุ ของพระพุทธเจ้า แต่ละพระองค์ ก็ต่างกันมากมาย........ ในความคิดของผม น่าจะ น่าจะเป็นไปได้นะครับ..........แต่พระพุทธองค์ตรัสห้ามไว้แล้วว่า เป็นอจินไตย ไม่เกิดประโยชน์ในการนำมาขบคิด.......ยังไงก็ขอโมธทนาต่อผูสนใจใฝ่ธรรมทุกๆท่านครับ
     
  2. ปราณยาม

    ปราณยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,638
  3. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    เหตุการณ์เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล เมื่อพระมหาปชาบดีโคตมี ซึ่งเป็นพระน้านางแห่งองค์สมเด็จศรีศากยะมุนึสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระทัย
    ชื่นชมโสมนัสยินดี ได้จัดทำผ้าเนื้อละเอียดมีค่ามาก ด้วยวิริยะอุตสาหะอันยิ่งให_่ ด้วยน้ำพระทัยเจาะจงถวายแด่องค์สมเด็จพระศาสดา แต่เมื่อได้
    นำผ้านั้นมาน้อมถวาย พระองค์ไม่ยอมรับ เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ผันผายหันไปจะถวายแด่องค์อรรคสาวกทั้งสอง แต่ก็ไม่รับเช่นกัน แล้วพระนางก็
    น้อมถวายแด่พระเถรานุเถระพระสงฆ์องค์อรหันต์ทั้งหลาย แต่ก็ไม่มีท่านผู้ใดรับผ้านั้น จวบจนกระทั่งถึงภิกษุใหม่รูปหนึ่ง นามว่า " อชิตะ"
    นั่งอยู่ข้างท้ายปลายแถว
    ในที่สุด ท่านก็รับผ้านั้น สร้างความเสียพระทัยให้แก่พระนางเป็นอันมาก หากแม้ว่า พระพุทธองค์ไม่ทรงรับ แต่องค์อรรคสาวกทั้งสอง
    ท่านใดท่านหนึ่งรับ ก็คงจะสมพระทัยอยู่ไม่น้อย แต่นี่กระไร พระภิกษุบวชใหม่ ไม่ได้สำเร็จมรรคผลใด ๆ เป็นผู้รับ
    พระบรมศาสดา เพื่อจะเปลื้องความกังขาสงสัยในน้ำพระทัยของสมเด็จพระน้านางแห่งพระองค์ที่ได้เคยฟูมฟักรักษาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เยาว๋วัย
    จึงได้ทรงอธิษฐานบาตรของพระองค์ให้อัตรธานหายไป แล้วได้ตรัสถามพระภิกษุทั้งหลายว่าท่านผุ้ใดสามารถหาบาตรของตถาคตเจอบ้าง ก็เห็นแต่
    พระมหาโมคคัลลานะเถระ องค์เดียวที่มีฤทธิ์มาก จึงห่มผ้าเฉลียงบ่าประคองอั_ชีทูลพระชินศรีบรมศาสตา เพื่อออกแสวงหาบาตรใบนั้น
     
  4. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    การหาบาตรของพระมหาโมคคัลลานะเถระ
    การออกไปหาบาตรของพระเถระนั้น ได้ใช้มหาฤทธานุภาพเป็นอันมาก หลวงปู่ตื้อ อาจารธมฺโม ได้เล่าในการแสดงพระธรรมเทศนาที่
    วัดอโศการามว่า พระมหาโมคคัลลานะเถระนั้น ต้องใช้ฤทธิ์ของท่านระเบิดวงล้อมแห่งจักรวาลออกไป อาจารย์ นายแพทย์ ตันม่อเซี้ยง ได้เล่าเรื่องนี้
    ไว้ในการบรรยาย"วิชามหายาน" ของท่าน ในสมัยที่ผู้เขียนกำลังศึกษาอยู่ในชั้นเตรียมศาสนศาสตร์ มหามกุฏราชวิทยาลัย ว่า
    "พระพุทธองค์ได้ตรัสบอกแก่พระมหาโมคคัลลานะเถระว่า เมื่อท่านออกห่างจากชมพูทวีปไป เมือหันมามองดูชมพูทวีปเห็นเท่าผืนนา
    ของชาวมคธแล้วให้รีบกลับมา หรือไม่หากท่านไปไกลกว่านั้น จนกระทั่งที่สุดเห็นชมพูทวีปเป็นจุดเล็ก ๆ แล้วให้รีบกลับมา"
    เมื่อได้กราลทูลลาพระพุทธองค์แล้ว พระเถระก็ออกเดินทางแสวงหาบาตรไปทั่วสากลภิภพ ไกลออกไปจนพ้นเขตจักรวาล
     
  5. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    แดนสุขาวดีพุทธเกษตร
    การหาบาตรดำเนินไปทั่วสากลจักรวาล ลุถึงแดนหนึ่งที่เรียกว่า " สุขาวดีพุทธเกษตร" เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความสุข ในดินแดน
    แห่งนี้มีแต่การศึกษาธรรมะ แม้แต่เสียงนกที่ร้องออกมาก็เป็นธรรมะ ณ ดินแดนแห่งนี้เอง มีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งดำรงอยู่ ทรงพระนาามว่า
    " อมิตาภะพุทธเจ้า" ขณะนั้น พระพุทธองค์กำลังประทับอยู่ท่ามกลางพระภิกษุสงฆ์เป็นจำนวนมาก พระวรกายให_่โตมาก พระโมคคัลลานะเถระ
    ได้เหาะเข้ามาในที่ประชุมสงฆ์มีพระรพุทธเจ้าเป็นประมุข ได้เข้าไปยืนอยู่บนขอบบาตรของพระพุทธเจ้า ( แสดงว่าบาตรให_่โตมาก สามารถขึ้น
    ในยืนอยู่บนขอบบาตรนั้นได้) พร้อมประคองอั_ชุลีถวายความเคารพ เมื่อพระภิกษุทั้งหลายเห็นเช่นนั้น ก็ได้กราบทูลพระพุทธเจ้าว่า
    "นี่คืออะไรหนอ ? รูปร่างเล็ก ๆ "
    พระพุทธองค์ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี่ไม่ใช่อื่นไกลเลย เธอทั้งหลายอย่าได้ประมาท ภิกษุรูปนี้ เป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายแห่งพระสมณ
    โคดมพุทธเจ้าแห่งชมพูทวีป ผู้มีฤทธิ์มาก กำลังแสวงหาบาตรของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นอยู่ แล้วก็หลงเข้าสู่แดนของเรา
    จากนั้น พระมหาโมคคัลลานะเถระได้ทูลถามทางที่จะกลับสู่ชมพูทวีป พระอภิตาภาะพุทธเจ้าตรัสว่า ดูกรโมคคัลลานะ เธอจงไปตาม
    พุทธรัสมีแห่งเรา เมื่อพ้นขอบจักรวาลแห่งนั้น เธอก็จะเห็นพุทธรัสมีแห่งพระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้เธอตามพระพุทธรัสมีนั้นไป เธอก็จะ
    สามาถเข้าสู่ชมพูทวีปได้ เหตุการณ์ตอนนี้เองที่คนทั้งหลายกล่าวกันว่า " โมคคัลลาหลงทีป" คือหลงแดน(หาทางกลับไม่ได้)นั่นเอง
    เมื่อได้ฟังพุทธดำรัสแห่งองค์อภิตาภะพุทธเจ้าเช่นนั้นแล้ว พระมหาโมคคัลลานะเถระเจ้าก็ได้กราบทูลลาออกจากแดนสุขาวดีพุทธเกษตร
    ตามพระพุทธรัสมีแห่งพระองค์ เมื่อพ้นจากแดนสุขาวดี ก็เห็นพระพุทธรัสมีแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งเราทั้งหลาย เข้าสู่ชมพูทวีปแล้ว
    เข้าถวายอภิวาทพระบรมศาสดาทูลว่า
    ข้าพระองค์ได้ออกแสวงหาบาตรไปทั่วแดนจักรวาลไม่พบเห็นเลยพระเจ้าข้า เมื่อพระพุทธองค์ตรัสถามพระภิกษุรูปอื่น ๆ ก็ไม่มีผู้ใด
    สามารถหาบาตรพบได้ จนถึงภิกษุบวชใหม่รูปหนึ่งชื่ออชิตะ ยังไม่ได้บรรลุฌานอภิ__าเหาะเหินเดินอากาศก็ไม่ได้ จึงได้ออกไปยืนพร้อมอธิษฐาน
    ว่าขอให้บาตรของพระพุทธองค์จงปรากฏบนมือของข้าพเจ้าบัดนี้เถิด พลันบาตรของพระพุทธองค์ก็ปรากฏบนมือของท่าน แล้วนำไปถวาย
    พระพุทธองค์ตรัสว่า อชิตะภิกษุรูปนี้ ไม่ใช่พระธรรมดา แต่เป็นหน่อเนื้อพุทธรางกูรบำเพ็_บารมีเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าใน
    อนาคตพระนามว่า " พระศรีอาริยเมตไตรย" แล้วตรัสปลอบใจแด่สมเด็จพระน้านางประชาบดีโคตมีว่า พระองค์นั้นได้ลาภอันประเสริฐแล้วที่
    ได้ถวายผ้าแด่พระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ทำให้พระนางมีพระทัยแช่มชื่นเบิกบาน
     
  6. โปเต้ผู้ใฝ่ธรรม

    โปเต้ผู้ใฝ่ธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    639
    ค่าพลัง:
    +573
  7. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    Copy มาให้อ่านครับ

    http://palungjit.org/showthread.php?t=600

    พระมหาโมคคัลลานะเถระ พบพระพุทธเจ้า ในจักรวาลอื่น
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ความเป็นมา
    --------------
    เหตุการณ์เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล เมื่อพระมหาปชาบดีโคตมี ซึ่งเป็นพระน้านางแห่งองค์สมเด็จศรีศากยะมุนึสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระทัย
    ชื่นชมโสมนัสยินดี ได้จัดทำผ้าเนื้อละเอียดมีค่ามาก ด้วยวิริยะอุตสาหะอันยิ่งให_่ ด้วยน้ำพระทัยเจาะจงถวายแด่องค์สมเด็จพระศาสดา แต่เมื่อได้
    นำผ้านั้นมาน้อมถวาย พระองค์ไม่ยอมรับ เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ผันผายหันไปจะถวายแด่องค์อรรคสาวกทั้งสอง แต่ก็ไม่รับเช่นกัน แล้วพระนางก็
    น้อมถวายแด่พระเถรานุเถระพระสงฆ์องค์อรหันต์ทั้งหลาย แต่ก็ไม่มีท่านผู้ใดรับผ้านั้น จวบจนกระทั่งถึงภิกษุใหม่รูปหนึ่ง นามว่า " อชิตะ"
    นั่งอยู่ข้างท้ายปลายแถว
    ในที่สุด ท่านก็รับผ้านั้น สร้างความเสียพระทัยให้แก่พระนางเป็นอันมาก หากแม้ว่า พระพุทธองค์ไม่ทรงรับ แต่องค์อรรคสาวกทั้งสอง
    ท่านใดท่านหนึ่งรับ ก็คงจะสมพระทัยอยู่ไม่น้อย แต่นี่กระไร พระภิกษุบวชใหม่ ไม่ได้สำเร็จมรรคผลใด ๆ เป็นผู้รับ
    พระบรมศาสดา เพื่อจะเปลื้องความกังขาสงสัยในน้ำพระทัยของสมเด็จพระน้านางแห่งพระองค์ที่ได้เคยฟูมฟักรักษาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เยาว๋วัย
    จึงได้ทรงอธิษฐานบาตรของพระองค์ให้อัตรธานหายไป แล้วได้ตรัสถามพระภิกษุทั้งหลายว่าท่านผุ้ใดสามารถหาบาตรของตถาคตเจอบ้าง ก็เห็นแต่
    พระมหาโมคคัลลานะเถระ องค์เดียวที่มีฤทธิ์มาก จึงห่มผ้าเฉลียงบ่าประคองอั_ชีทูลพระชินศรีบรมศาสตา เพื่อออกแสวงหาบาตรใบนั้น

    การหาบาตรของพระมหาโมคคัลลานะเถระ
    ------------------------------------------------
    การออกไปหาบาตรของพระเถระนั้น ได้ใช้มหาฤทธานุภาพเป็นอันมาก หลวงปู่ตื้อ อาจารธมฺโม ได้เล่าในการแสดงพระธรรมเทศนาที่
    วัดอโศการามว่า พระมหาโมคคัลลานะเถระนั้น ต้องใช้ฤทธิ์ของท่านระเบิดวงล้อมแห่งจักรวาลออกไป อาจารย์ นายแพทย์ ตันม่อเซี้ยง ได้เล่าเรื่องนี้
    ไว้ในการบรรยาย"วิชามหายาน" ของท่าน ในสมัยที่ผู้เขียนกำลังศึกษาอยู่ในชั้นเตรียมศาสนศาสตร์ มหามกุฏราชวิทยาลัย ว่า
    "พระพุทธองค์ได้ตรัสบอกแก่พระมหาโมคคัลลานะเถระว่า เมื่อท่านออกห่างจากชมพูทวีปไป เมือหันมามองดูชมพูทวีปเห็นเท่าผืนนา
    ของชาวมคธแล้วให้รีบกลับมา หรือไม่หากท่านไปไกลกว่านั้น จนกระทั่งที่สุดเห็นชมพูทวีปเป็นจุดเล็ก ๆ แล้วให้รีบกลับมา"
    เมื่อได้กราลทูลลาพระพุทธองค์แล้ว พระเถระก็ออกเดินทางแสวงหาบาตรไปทั่วสากลภิภพ ไกลออกไปจนพ้นเขตจักรวาล

    แดนสุขาวดีพุทธเกษตร
    --------------------------
    การหาบาตรดำเนินไปทั่วสากลจักรวาล ลุถึงแดนหนึ่งที่เรียกว่า " สุขาวดีพุทธเกษตร" เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความสุข ในดินแดน
    แห่งนี้มีแต่การศึกษาธรรมะ แม้แต่เสียงนกที่ร้องออกมาก็เป็นธรรมะ ณ ดินแดนแห่งนี้เอง มีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งดำรงอยู่ ทรงพระนาามว่า
    " อมิตาภะพุทธเจ้า" ขณะนั้น พระพุทธองค์กำลังประทับอยู่ท่ามกลางพระภิกษุสงฆ์เป็นจำนวนมาก พระวรกายให_่โตมาก พระโมคคัลลานะเถระ
    ได้เหาะเข้ามาในที่ประชุมสงฆ์มีพระรพุทธเจ้าเป็นประมุข ได้เข้าไปยืนอยู่บนขอบบาตรของพระพุทธเจ้า ( แสดงว่าบาตรให_่โตมาก สามารถขึ้น
    ในยืนอยู่บนขอบบาตรนั้นได้) พร้อมประคองอั_ชุลีถวายความเคารพ เมื่อพระภิกษุทั้งหลายเห็นเช่นนั้น ก็ได้กราบทูลพระพุทธเจ้าว่า
    "นี่คืออะไรหนอ ? รูปร่างเล็ก ๆ "
    พระพุทธองค์ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี่ไม่ใช่อื่นไกลเลย เธอทั้งหลายอย่าได้ประมาท ภิกษุรูปนี้ เป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายแห่งพระสมณ
    โคดมพุทธเจ้าแห่งชมพูทวีป ผู้มีฤทธิ์มาก กำลังแสวงหาบาตรของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นอยู่ แล้วก็หลงเข้าสู่แดนของเรา
    จากนั้น พระมหาโมคคัลลานะเถระได้ทูลถามทางที่จะกลับสู่ชมพูทวีป พระอภิตาภาะพุทธเจ้าตรัสว่า ดูกรโมคคัลลานะ เธอจงไปตาม
    พุทธรัสมีแห่งเรา เมื่อพ้นขอบจักรวาลแห่งนั้น เธอก็จะเห็นพุทธรัสมีแห่งพระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้เธอตามพระพุทธรัสมีนั้นไป เธอก็จะ
    สามาถเข้าสู่ชมพูทวีปได้ เหตุการณ์ตอนนี้เองที่คนทั้งหลายกล่าวกันว่า " โมคคัลลาหลงทีป" คือหลงแดน(หาทางกลับไม่ได้)นั่นเอง
    เมื่อได้ฟังพุทธดำรัสแห่งองค์อภิตาภะพุทธเจ้าเช่นนั้นแล้ว พระมหาโมคคัลลานะเถระเจ้าก็ได้กราบทูลลาออกจากแดนสุขาวดีพุทธเกษตร
    ตามพระพุทธรัสมีแห่งพระองค์ เมื่อพ้นจากแดนสุขาวดี ก็เห็นพระพุทธรัสมีแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งเราทั้งหลาย เข้าสู่ชมพูทวีปแล้ว
    เข้าถวายอภิวาทพระบรมศาสดาทูลว่า
    ข้าพระองค์ได้ออกแสวงหาบาตรไปทั่วแดนจักรวาลไม่พบเห็นเลยพระเจ้าข้า เมื่อพระพุทธองค์ตรัสถามพระภิกษุรูปอื่น ๆ ก็ไม่มีผู้ใด
    สามารถหาบาตรพบได้ จนถึงภิกษุบวชใหม่รูปหนึ่งชื่ออชิตะ ยังไม่ได้บรรลุฌานอภิ__าเหาะเหินเดินอากาศก็ไม่ได้ จึงได้ออกไปยืนพร้อมอธิษฐาน
    ว่าขอให้บาตรของพระพุทธองค์จงปรากฏบนมือของข้าพเจ้าบัดนี้เถิด พลันบาตรของพระพุทธองค์ก็ปรากฏบนมือของท่าน แล้วนำไปถวาย
    พระพุทธองค์ตรัสว่า อชิตะภิกษุรูปนี้ ไม่ใช่พระธรรมดา แต่เป็นหน่อเนื้อพุทธรางกูรบำเพ็_บารมีเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าใน
    อนาคตพระนามว่า " พระศรีอาริยเมตไตรย"
    แล้วตรัสปลอบใจแด่สมเด็จพระน้านางประชาบดีโคตมีว่า พระองค์นั้นได้ลาภอันประเสริฐแล้วที่
    ได้ถวายผ้าแด่พระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ทำให้พระนางมีพระทัยแช่มชื่นเบิกบาน

    ถ้าจะอ่านต้องอ่านให้ครบครับ ข้อความนี้ คือ เฉลยทุกอย่างครับ

    พระพุทธองค์ตรัสว่า อชิตะภิกษุรูปนี้ ไม่ใช่พระธรรมดา แต่เป็นหน่อเนื้อพุทธรางกูรบำเพ็_บารมีเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าใน
    อนาคตพระนามว่า " พระศรีอาริยเมตไตรย"


    อาจให้จบแล้วจะรู้ว่า "พระ" ที่ไปเจอ คือ "หน่อพุทธางกูร" ซึ่งอนาคตจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านามว่า "พระศรีอาริยเมตไตรย"

    เพราะเท่าที่ทราบมา พระพุทธเจ้าที่มีเพียง 1 พระองค์เท่านั้นใน 3 โลก

    หากผมเข้าใจผิดประการใด โปรดชี้แนะด้วยครับ

    ขออนุโมทนา
     
  8. Kawinphat P.

    Kawinphat P. สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ลองอ่านดู พระวัดอโศการาม เคยเล่าให้ฟัง ประมาณนี้แหละ

    เหตุการณ์เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล เมื่อพระมหาปชาบดีโคตมี ซึ่งเป็นพระน้านางแห่งองค์สมเด็จศรีศากยะมุนึสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระทัย
    ชื่นชมโสมนัสยินดี ได้จัดทำผ้าเนื้อละเอียดมีค่ามาก ด้วยวิริยะอุตสาหะอันยิ่งให_่ ด้วยน้ำพระทัยเจาะจงถวายแด่องค์สมเด็จพระศาสดา แต่เมื่อได้
    นำผ้านั้นมาน้อมถวาย พระองค์ไม่ยอมรับ เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ผันผายหันไปจะถวายแด่องค์อรรคสาวกทั้งสอง แต่ก็ไม่รับเช่นกัน แล้วพระนางก็
    น้อมถวายแด่พระเถรานุเถระพระสงฆ์องค์อรหันต์ทั้งหลาย แต่ก็ไม่มีท่านผู้ใดรับผ้านั้น จวบจนกระทั่งถึงภิกษุใหม่รูปหนึ่ง นามว่า " อชิตะ"
    นั่งอยู่ข้างท้ายปลายแถว
    ในที่สุด ท่านก็รับผ้านั้น สร้างความเสียพระทัยให้แก่พระนางเป็นอันมาก หากแม้ว่า พระพุทธองค์ไม่ทรงรับ แต่องค์อรรคสาวกทั้งสอง
    ท่านใดท่านหนึ่งรับ ก็คงจะสมพระทัยอยู่ไม่น้อย แต่นี่กระไร พระภิกษุบวชใหม่ ไม่ได้สำเร็จมรรคผลใด ๆ เป็นผู้รับ
    พระบรมศาสดา เพื่อจะเปลื้องความกังขาสงสัยในน้ำพระทัยของสมเด็จพระน้านางแห่งพระองค์ที่ได้เคยฟูมฟักรักษาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เยาว๋วัย
    จึงได้ทรงอธิษฐานบาตรของพระองค์ให้อัตรธานหายไป แล้วได้ตรัสถามพระภิกษุทั้งหลายว่าท่านผุ้ใดสามารถหาบาตรของตถาคตเจอบ้าง ก็เห็นแต่
    พระมหาโมคคัลลานะเถระ องค์เดียวที่มีฤทธิ์มาก จึงห่มผ้าเฉลียงบ่าประคองอั_ชีทูลพระชินศรีบรมศาสตา เพื่อออกแสวงหาบาตรใบนั้น

    การหาบาตรของพระมหาโมคคัลลานะเถระ
    ------------------------------------------------
    การออกไปหาบาตรของพระเถระนั้น ได้ใช้มหาฤทธานุภาพเป็นอันมาก หลวงปู่ตื้อ อาจารธมฺโม ได้เล่าในการแสดงพระธรรมเทศนาที่
    วัดอโศการามว่า พระมหาโมคคัลลานะเถระนั้น ต้องใช้ฤทธิ์ของท่านระเบิดวงล้อมแห่งจักรวาลออกไป อาจารย์ นายแพทย์ ตันม่อเซี้ยง ได้เล่าเรื่องนี้
    ไว้ในการบรรยาย"วิชามหายาน" ของท่าน ในสมัยที่ผู้เขียนกำลังศึกษาอยู่ในชั้นเตรียมศาสนศาสตร์ มหามกุฏราชวิทยาลัย ว่า
    "พระพุทธองค์ได้ตรัสบอกแก่พระมหาโมคคัลลานะเถระว่า เมื่อท่านออกห่างจากชมพูทวีปไป เมือหันมามองดูชมพูทวีปเห็นเท่าผืนนา
    ของชาวมคธแล้วให้รีบกลับมา หรือไม่หากท่านไปไกลกว่านั้น จนกระทั่งที่สุดเห็นชมพูทวีปเป็นจุดเล็ก ๆ แล้วให้รีบกลับมา"
    เมื่อได้กราลทูลลาพระพุทธองค์แล้ว พระเถระก็ออกเดินทางแสวงหาบาตรไปทั่วสากลภิภพ ไกลออกไปจนพ้นเขตจักรวาล

    แดนสุขาวดีพุทธเกษตร
    --------------------------
    การหาบาตรดำเนินไปทั่วสากลจักรวาล ลุถึงแดนหนึ่งที่เรียกว่า " สุขาวดีพุทธเกษตร" เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความสุข ในดินแดน
    แห่งนี้มีแต่การศึกษาธรรมะ แม้แต่เสียงนกที่ร้องออกมาก็เป็นธรรมะ ณ ดินแดนแห่งนี้เอง มีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งดำรงอยู่ ทรงพระนาามว่า
    " อมิตาภะพุทธเจ้า" ขณะนั้น พระพุทธองค์กำลังประทับอยู่ท่ามกลางพระภิกษุสงฆ์เป็นจำนวนมาก พระวรกายใหญ่โตมาก พระโมคคัลลานะเถระ
    ได้เหาะเข้ามาในที่ประชุมสงฆ์มีพระรพุทธเจ้าเป็นประมุข ได้เข้าไปยืนอยู่บนขอบบาตรของพระพุทธเจ้า ( แสดงว่าบาตรใหญ่โตมาก สามารถขึ้น
    ในยืนอยู่บนขอบบาตรนั้นได้) พร้อมประคองอัญชุลีถวายความเคารพ เมื่อพระภิกษุทั้งหลายเห็นเช่นนั้น ก็ได้กราบทูลพระพุทธเจ้าว่า
    "นี่คืออะไรหนอ ? รูปร่างเล็ก ๆ "
    พระพุทธองค์ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี่ไม่ใช่อื่นไกลเลย เธอทั้งหลายอย่าได้ประมาท ภิกษุรูปนี้ เป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายแห่งพระสมณ
    โคดมพุทธเจ้าแห่งชมพูทวีป ผู้มีฤทธิ์มาก กำลังแสวงหาบาตรของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นอยู่ แล้วก็หลงเข้าสู่แดนของเรา
    จากนั้น พระมหาโมคคัลลานะเถระได้ทูลถามทางที่จะกลับสู่ชมพูทวีป พระอภิตาภาะพุทธเจ้าตรัสว่า ดูกรโมคคัลลานะ เธอจงไปตาม
    พุทธรัสมีแห่งเรา เมื่อพ้นขอบจักรวาลแห่งนั้น เธอก็จะเห็นพุทธรัสมีแห่งพระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้เธอตามพระพุทธรัสมีนั้นไป เธอก็จะ
    สามาถเข้าสู่ชมพูทวีปได้ เหตุการณ์ตอนนี้เองที่คนทั้งหลายกล่าวกันว่า " โมคคัลลาหลงทีป" คือหลงแดน(หาทางกลับไม่ได้)นั่นเอง
    เมื่อได้ฟังพุทธดำรัสแห่งองค์อภิตาภะพุทธเจ้าเช่นนั้นแล้ว พระมหาโมคคัลลานะเถระเจ้าก็ได้กราบทูลลาออกจากแดนสุขาวดีพุทธเกษตร
    ตามพระพุทธรัสมีแห่งพระองค์ เมื่อพ้นจากแดนสุขาวดี ก็เห็นพระพุทธรัสมีแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งเราทั้งหลาย เข้าสู่ชมพูทวีปแล้ว
    เข้าถวายอภิวาทพระบรมศาสดาทูลว่า
    ข้าพระองค์ได้ออกแสวงหาบาตรไปทั่วแดนจักรวาลไม่พบเห็นเลยพระเจ้าข้า เมื่อพระพุทธองค์ตรัสถามพระภิกษุรูปอื่น ๆ ก็ไม่มีผู้ใด
    สามารถหาบาตรพบได้ จนถึงภิกษุบวชใหม่รูปหนึ่งชื่ออชิตะ ยังไม่ได้บรรลุฌานอภิญญาเหาะเหินเดินอากาศก็ไม่ได้ จึงได้ออกไปยืนพร้อมอธิษฐาน
    ว่าขอให้บาตรของพระพุทธองค์จงปรากฏบนมือของข้าพเจ้าบัดนี้เถิด พลันบาตรของพระพุทธองค์ก็ปรากฏบนมือของท่าน แล้วนำไปถวาย
    พระพุทธองค์ตรัสว่า อชิตะภิกษุรูปนี้ ไม่ใช่พระธรรมดา แต่เป็นหน่อเนื้อพุทธรางกูรบำเพ็ญบารมีเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าใน
    อนาคตพระนามว่า " พระศรีอาริยเมตไตรย" แล้วตรัสปลอบใจแด่สมเด็จพระน้านางประชาบดีโคตมีว่า พระองค์นั้นได้ลาภอันประเสริฐแล้วที่
    ได้ถวายผ้าแด่พระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ทำให้พระนางมีพระทัยแช่มชื่นเบิกบาน
     
  9. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    คุณเรียบเรียงกระทู้ผิด มีคนเข้าชม 1032 คน

    [​IMG]
    คุณdonnเรียบเรียงตั้งคำถามกระทู้ผิด มีคนเข้าชม 1032 คน
    ใครพอจะทราบมั้ยครับ ผมอยากจะไปอ่านในพระไตรปิฎก แต่ไม่ทราบว่าอยู่เล่มไหน
    (u) (u) (u) (u) (u) ที่มีว่าพระโมคคัลลานะเหาะข้ามโลกไปพบพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง [​IMG] [​IMG] [​IMG]มีรูปร่างหน้าตาเหมือนพระพุทธเจ้าสมณโคดมแต่อยู่ต่างดาวกัน[​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] พอเข้าไปกราบแล้วท่านบอกว่า พระโมคคัลลานะ เธอมาผิดที่แล้ว.....[​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]พระพุทธสมณะโคดม หรือ พระพุทธเจ้าองค์ประจุบันนี่แหละที่ทรงใช้อภิญญายกเอาเชตวันวิหารจากอินเดียไปปรากฏที่จักรวาลอื่นเพื่อนำทางพระโมคคัลลานะกลับมายังโลก....


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    (*) เรื่องมีอยู่ว่า พระโมคคัลลานะสงสัยว่า เเสนจักรวาลนี้ใหญ่เพียงไรมีที่สิ้นสุดหรือไม่ จึงนำบาตรบรรจุเมล็ดงา ไปจักรวาล1ก็เอางา 1 เมล็ดใส่ไว้เป็นสัญญลักษ์ว่าผ่านมาแล้วจนงาหมดบาตรก็ยังไม่เห็นที่สุด จนกลับมายังจักรวาลโลกนี้ไม่ถูกจึงระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยวาระจิต จึงใช้อภิญญายก เชตวันวิหารไปปรากฎยังจักรวาลนั้นทันที เมื่อพระโมคคัลลาพบก็ดีใจ เอาผ้าอาบน้ำที่พาดบ่าไปพาดไว้บันไดวิหารเชตวันแล้วเข้าไปกราบทูลให้พระพุทธเจ้าทรงทราบ ทรงมีดำรัสสอนเกี่ยวกับจักรวาลมีใจความพอสรุปว่า(*) อากาโส อนนฺโต (อากาศไม่มีที่สุด) (*) จกฺกวาฬานิ อนนฺตานิ (จักรวาลไม่มีที่สุด)(*) สตฺตนิกาโย อนนฺโต (หมู่สัตว์ไม่มีที่สุด)(*) พุทฺธญาณํ อนนฺตํ (พุทธญาณไม่มีที่สุด).แล้วพระพุทธเจ้าทรงตรัสให้พระโมคคัลลานะ เหาะตามฉับพรรณรังษี กลับมายังโลกแล้ว เมื่อพระโมคคัลลานะเข้าไปกราบพระพุทธเจ้าทรงดำรัสทักเตือนว่า "ดูก่อนโมคคัลลานะเธอลืมผ้าอาบน้ำไว้ที่บันไดขึ้นเชตวันวิหาร นี้แล......สาธุ

    [​IMG]จักรวาลไม่มีที่สุดเปรียบอุปมาได้ดังนี้
    [​IMG]ท้าวมหาพรหมทั้ง ๔ ผู้เกิดในอกนิฏฐภพ ผู้ประกอบด้วยความเร็ว ผู้สามารถผ่านแสนจักรวาล ไปด้วยเวลาเพียงเท่าที่ลูกศรที่เร็วมากของนายขมังธนู ผู้มีกำลังแข็งแรงผ่านเงาต้นตาลด้านขวาง พึงวิ่งไปโดยเร็วนั้น ด้วยคิดว่า เราจักดูที่สุดจักรวาลดังนี้ ท้าวมหาพรหมเหล่านั้น ไม่ทันเห็นที่สุดแห่งจักรวาล ก็จะพึงปรินิพพานเสียโดยแท้ชื่อว่า จักรวาล ทั้งหลายเป็นอนันตะ (คือไม่มีที่สุด) อย่างนี้.


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG] [​IMG][​IMG][​IMG] [​IMG][​IMG]

    ส่วนคุณจะสืบค้นให้ค้นจากอรรถกฐา คาถาธรรมบท
     
  10. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,632
    มีในหนังสือใบลานจารด้วยอักษรธรรมอิสานครับชื่อว่า พระโมคคัลลานะหลงทีป (ทีป=ทวีป) เข้าใจว่าเป็นพระอรรถกถาที่พระภิกษุสมัยก่อนแต่งขึ้นภายหลังไม่มีปรากฎในพระไตรปิฎกครับ
     
  11. firsthand

    firsthand สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +7
    กาลามสูตร แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล เรียกว่า เกสปุตตสูตร ก็มี

    กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อ ไม่ให้เชื่องมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดี ก่อนเชื่อ มี ๑๐ ประการคือ

    ๑. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา

    ๒. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา

    ๓. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ

    ๔. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา

    ๕. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา

    ๖. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา

    ๗. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล

    ๘. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน

    ๙. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้

    ๑๐.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

    เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ

    ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่

    จาก - [urli="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3"]วิกิพีเดีย[/urli]
     
  12. มนุษย์พลังจิต

    มนุษย์พลังจิต สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=14072
    จากลิ้งค์นี้ทำให้ทราบว่า เรื่องดังกล่าวมีการแต่งเติมในพระไตรปิฎกของมหาญาณ ทั้งได้นำบทความจากแหล่งที่มาทั้งสองแหล่งมาเปรียบเทียบกันอยู่ในกระทู้นั้นแล้ว

    ทั้งเถรวาทและมหาญาณต่างก็มีมานนานแล้วจนกระทั่งถึงยุคของเรา คำสอนของทั้งสองก็มีการสอนกันมาหลายสมัย ดังนั้นเรื่องที่บางท่านเคยได้ยินมาซึ่งเป็นส่วนที่แต่งเติมมา จึงเป็นส่วนที่ปู่ย่าเล่ามาจากคำภีร์มหายานครับ เถรวาทนั้นเป็นไปไม่ได้เพราะจะขัดกันอย่างที่ว่า พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ได้ที่เดียว คือชมพูทวีปอันหมายถึงจักวาลอันเป็นที่อยู่แห่งระบบหนึ่งอันมีชื่อว่าระบบสุริยะจักวาลอันมีดวงอาทิตย์เป็นจุดศูนย์และมีดาวเคราะห์ที่ชื่อว่าโลกเป็นที่อยู่แห่งสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่ามนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธ์เดียวที่สามารถบรรลุธรรมได้ครับ

    อีกประการหนึ่งก็คือจะมีพระพุทธเจ้าสัมมาสัมพุทธเพียงองค์เดียวเท่านั้น ในแต่ระยุคจะไม่สามารถมีได้หลายองค์ แต่ถ้าเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า หรืออนุพุทธนั้นมีหลายองค์ได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2018

แชร์หน้านี้

Loading...