พระโพธิสัตว์ ไม่จำเป็นต้องเป็นพระพุทธเจ้า เป็นอย่างอื่นก็ได้ ง่ายและสบายกว่าค่ะ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย น้องหน่อยน่ารัก, 23 มิถุนายน 2008.

  1. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>วิมุตติ, ฐาณัฏฐ์+ </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975

    เวลาโพธิจิตเกิดแล้ว บุคคลควรตั้งปณิธานเพื่อนำทาง
    แล้วทำตามปณิธานนั้นๆ ค่ะ การตั้งปณิธานนี้ ต่างจากความอยาก
    แบบคนมีกิเลสนะคะ


    เช่น นักวิทยาศาสตร์ ทุ่มเทชีวิต ละลาภยศ เพื่อค้นหา
    ทฤษฎีใหม่ๆ อันนี้เป็น "ปณิธาน" ค่ะ


    ถ้าไม่มีปณิธาน มันจะเคว้งมากๆ เมื่อก่อนหน่อยก็ทำบุญไม่หวัง
    อะไรเลย ละกิเลสอย่างเดียว แต่พอรู้ตัวว่าชาตินี้ไม่จบ พรหมจรรย์ยังไม่สิ้น
    เลยกลับมาถามตนเองว่าเราต้องการทำอะไรในชาตินี้ จากนั้น จึงตั้งปณิธานค่ะ
     
  3. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    การตั้งปณิธาน คือคนที่รับอนุตรธรรมแล้ว ตั้งปณิธาน ต่อหน้าพระโพธิสัตว์
     
  4. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    จะไปเคว้งทำไมละกับการไม่ได้สมใจอยากในความต้องการส่วนตัว

    ปณิธาน มันจะเกิด ก็เพราะ ยังเห็นคนอื่นเขาไม่ได้สมใจอยาก ไม่ใช่
    ที่ตัวเองสักกะหน่อย เพราะเล็งเห็นเขานั้นทุรนทุรายอยู่กับสิ่งนั้นไม่
    อาจมองข้าม หรือ พ้นไปได้ จึงจำต้องยื่นให้ โดยเอาจากไหน ก็แล้ว
    แต่จะมี ถ้าตัวมีก็ยื่นให้ ซึ่งจะทำได้ไหมก็ขึ้นกับ บารมี 10 โดยเฉพาะ
    ทานะบารมี นี่แค่ บารมีตัวแรกใน ทศบารมี ยังมะงุมมะงาหรา ไม่เห็นทาง
    มาทางไปของเหตุปัจจัย น้องหน่อยจะสอนให้คนอื่นเป็นโพธิจิตได้อย่างไร

    แล้วปณิธานนี้ไม่ได้เกิดเอาตอนจะตาย พ้น 7 ขวบ ก็เริ่มระลึกได้แล้ว
    เพียงแต่เคว้งคว้างไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นในจิตใต้สำนึกของตคนเองเท่านั้น

    อ้อ อีกอย่างนะ คือ ดูละครมากไป อันนี้ก็ทำให้เริ่มมีโพธิจิตได้ แต่เรียกว่า
    เริ่มจาก -1000 คือ ไปดูจากละครมายา แทนที่จะดูจากผู้มีปณิธานที่มี
    ชีวิตอยู่ เพราะมันจะทำให้เข้าใจเหตุปัจจัยในปัจจุบัน ไม่จมไปกับสิ่งที่ไม่
    ตรงสถานการณ์ความเป็นจริง หรือ เรียกสั้นๆ ว่า ฝัน
     
  5. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    นานาจิตตัง พระโพธิสัตว์ต้องการช่วยเหลือสัตว์โลกให้มาก ๆ โดยเสียสละอย่างสูง แต่ก็เป็นวิสัยปุถุชนที่จะเบื่อสังสารวัฏฏ์ ยอมลาพุทธภูมิก่อนเช่นกัน
     
  6. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975

    ได้ค่ะ แบบนั้นได้พิธีถูกต้องครบดี แบบอนุตรธรรมฟาอี
    แต่ถ้าเราไม่มีโอกาส ต่อหน้าฟ้าดินก็ได้ค่ะ ที่ไหนก็ได้ค่ะ
    พระพุทธองค์ทรงสถิตย์ทุกที่ ทรงรับรู้ค่ะ
     
  7. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    เปิดเผยมากไป... ไม่อาจเกิดโพธิจิต
    อุบายมากไป ... ล่อแหลมต่อการปฏิบัติผิดทาง

    ....................................................


    ครั้งหนึ่ง ท่านใบลานเปล่า ไปขอธรรมจากเณรน้อยผู้อรหันต์แล้ว
    ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของตน ท่านเณร บอกว่าไม่สอนให้ ถ้าจะให้สอน
    ต้องทำตามสั่ง ไหนลงไปในน้ำสิ... ปรากฏว่า ท่านใบลานเปล่า
    เดินลงไปทันที


    แต่ท่านเณร ก็กลับบอกให้หยุดไว้แค่นั้น? นี่เพราะอะไร?
    บางท่านบอกเราว่า "ฆ่าตัวตาย แล้วไปลงนรกซะ" เพราะอะไร?


    เพราะอะไรนะ เพราะอะไร?...
     
  8. ตติยะ

    ตติยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +127
    คุณ น้องน้อยน่ารัก ให้แง่คิดที่แตกต่างดี มีส่วนที่ไปตรงกับผู้ที่ปรารถนาที่ปรากฏให้ผมได้รับรู้

    คือ ปรารถนาเป็นอย่างพระโพธิสัตว์ในปัจจุบันชาติ เพราะมีจิตที่ประสงค์ช่วยสรรพสัตว์เป็นสำคัญด้วยฤทธิ์แห่งตนที่สามารถดำเนินไปได้ เพราะด้วยการเวียนวายตายเกิดมาหลายชาติ ก็ย่อมไม่รู้ในฐานะตนเองที่เป็นจริงที่ผ่านมาเนินนานแล้ว และหาได้รับพุทธพยากรณ์ซ้ำกับพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จนบังเกิดความประจวบเหมาะขึ้น จึงรู้ว่าเป็นผู้ประสงค์ที่จะเป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายมีฤทธิ์เป็นเลิศที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว .....

    ดังนั้นผู้ที่ปรารถนาในพุทธศาสนา นั้นโดยหลักใหญ่จะแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือ

    1.ปรารถนาบรรลุมรรคผลนิพพานโดยไม่ช้า
    2.ปรารถนาเป็นอย่างพระโพธิสัตว์ เพราะมีจิตที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์บังเกิดขึ้น

    การปรารถนาเป็นอย่างพระโพธิสัตว์ ไม่ใช่ว่าจำต้องเป็นพระพุทธเจ้าทุกท่าน ดังที่คุณ น้องน้อยน่ารักเสนอ
    แต่เมื่อท่านผู้ปรารถนาเป็นอย่างพระโพธิสัตว์ แม้จะไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า แต่คุณธรรมท่านจะสูง เมื่อบรรลุ ก็จะเป็น พระปัจเจกพุทธเจ้าบ้าง พระอัครสาวกเบื้องซ้ายขวาบ้าง เป็นพระมหาสาวกผู้เป็นเลิศทรงเอคทัตคะบ้าง เป็นมหาสาวกผู้มีปฏิสัมภิทาญาณหรือทรงอภิญญา 6 บ้าง อย่างน้อยที่สุดก็เมื่อสิ้นพุทธองค์ไปแล้วก็จะ เป็นพระมหาเถระทรงปฏิสัมภิทาญาณ หรือทรงอภิญญา 6 สืบสานให้พุทธศาสนารุ่งเรื่องขึ้นตามยุคนั้นๆ บ้าง ตลอดจนสิ้นอายุของพุทธศาสนา..

    เป็นแนวความคิดเห็น... ที่เป็นไปได้ และน่าจะเป็นเช่นนี้.

    เพราะการสร้างบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้านั้น มีสรรพสัตว์ส่วนมากจะก้าวไปไม่ถึง เพราะบารมีสมบูรณ์ในการบรรลุเป็นพระอรหันต์เสียก่อน จึงทนอยู่ไม่ได้ก็จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่สัตว์ทั้งหลายอย่างมากมายในพุทธศาสนานั้นๆ

    หรือกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า กว่าถั่วจะสุก งาก็สุกไปเสียก่อนแล้ว

    หมายเหตุ ไม่ใช้คำว่า งาก็ไหม้ เพราะสิ่งที่จะปรากฏนั้นย่อมเป็นประโยชน์แก่สัตว์ทั้งหลายที่ปรารถนานิพพานทั้งนั้น หาได้เสียไปไม่
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ปณิธาณ เป็นสิ่งดี หากสามารถทำได้

    หากยังเป็นปุถุชนอยู่ การมีปณิธาน

    ย่อมหวังได้ว่ามีโอกาสสำเร็จ ในสิ่งที่มุ่งหวังไว้

    บางคนยังไม่มีปณิธาน ก็ไม่ผิดเพราะยังไม่รู้

    ว่าเกิดมาเพื่ออะไร หรือไม่รู้ว่ามีไปเพื่ออะไร

    นานาจิตตัง ใครระลึกปณิธานได้แล้ว

    ก็ขออนุโมทนาสาธุ ในความตั้งใจค่ะ
     
  10. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    มันก็เป็นเรื่องดี ที่จะมาชักชวนให้เป็นผู้ตื่นกัน แต่มันต้องชักชวนให้ตื่นจากกิเลส

    ไม่ใช่ ตื่น ในกิเลส คือ ไปชี้ชวนว่า ให้มี ให้อยากให้สุดๆ อย่างการเป็นสาวกที่เป็น
    เลิศในด้านต่างๆ แท้จริงในพระไตรปิฏกไม่เห็นมีประวัติพระสาวกคนไหนที่ปราถนา
    จะมีอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะในสมัยที่ยังดำเนินนั้น ถ้าไม่ไปเป็นสัตว์ที่เคยได้อุปการะ
    ระหว่างกันและกัน ก็ได้เป็นบุคคลที่เกื้อกูลกันมา หรือ มีกรรมเกี่ยวเนื่องอย่างอุกฤติ
    ไม่ได้มีพุทธวัจนะเล่าตอนไหนเลยที่แต่ละสาวกจะแสดงความปราถนา เว้นแต่กรณี
    การเป็นเลิศในเรื่องปลีกย่อย

    ทั้งนี้ทั้งนั้น การแต่งตั้ง หรือ ประกาศ ก็ใช้ว่า จะเป็นเรื่องทีผุดออกมาจากปากสาวก
    ที่เป็นเลิศในแต่ละบุคคล แต่ละบุคคลก็ล้วนได้รับพุทธโองการ หาใช่เรื่องอยากเป็น
    โดยส่วนตัว
     
  11. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    สมัยพุทธกาล สาวกมีความปรารถนาใคร่รู้เป็นฐาน
    พระพุทธองค์ทรงเทศนา พร้อมขมวดปมเป็นปริศนาธรรม
    (โกอาน) ไว้ในคำเทศนาที่แสนเรียบง่ายนั้น เช่น คำว่า "ก้าวล่วง"
    พระสาวกก็นำไปขบคิดต่อ จนบรรลุในภายหลังก็มี


    แต่ปัจจบัน จริตของคนไม่มีวิสัยอยากคิดค้น รู้แจ้งด้วยตนเอง
    นิยมฟังบรรยายจากครูนานๆ แล้วจำไปสอบเอาคะแนน หลายครั้ง
    การเทศนาธรรมที่ดี กระจ่างจนเกินไป กลับกลายเป็น ไม่ดี เพราะ
    ไม่ช่วยกระตุ้นให้ผู้ฟังใช้ปัญญา เอาแต่นั่งฟังน้ำลายไหลย้อย


    ดังนั้น การเทศนาที่แยบคายในยุคปัจจุบัน อาจเป็นลักษณะ "เปิดประเด็น"
    ให้เกิดความใคร่รู้ แล้วขบคิดจนแจ้งด้วยตนเอง ซึ่งต้องมีพลังน่าท้าทาย
    ให้ผู้ฟังอยากเข้ามาสืบหาความจริงด้วย
     
  12. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975

    เรื่องการ "วางจิต" เป็นศิลปะที่ละเอียดอ่อน
    สมมุติ ต้องการวางจิตว่า "ต้องการเป็นพุทธมารดา"
    มันก็อาจต่างกันได้มากเลยทีเดียว คือ


    คนที่วางจิตได้ถูก ก็ได้เป็นจริงๆ
    คนที่วางจิตผิด ก็ได้เป็นคู่อริ ตัวอิจฉา ช่วยในการบำเพ็ญ
    แต่ไม่อาจสมหวังได้เลยทีเดียว


    ทั้งนี้ ยังไม่อาจตัดสินง่ายๆ จำต้องบำเพ็ญแข่งขันกันยาว
    อนาคตข้างหน้า ตัวพวกเขาเองนั่นแหละ จะตัดสินความปรารถนาของตนเอง


    จริงๆ แล้ว โพธิจิต ไม่ได้เกิดขึ้นตรงๆ แบบนี้ได้เลย
    ล้วนเกิดจาก "กลอุบายแยบยล" ของอาจารย์ผู้สอน หรือสถานการณ์สร้างมาทั้งสิ้น
    แต่ที่จำต้องบรรยายตรงๆ ก็เพราะ หลายท่านยังเข้าใจผิดอยู่มาก ในการบำเพ็ญนั่นเอง
     
  13. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ล้าหลังไปมากนะครับคุณน้องหน่อย

    ตอนนี้ในพุทธศาสนาเรา มีการตั้งมั่นต่อธรรมเป็นรายบุคคลแล้ว ไม่ได้ลำพัง
    แค่การฟังธรรมบรรยาย เรียกได้ว่า ตอนนี้การต่อธรรมแบบสมัยพุทธกาลได้บัง
    เกิดแล้ว และมีพยานในทางปฏิบัติแบบนี้เรือน 1000 เรือนหมื่นแล้ว ซึ่งอนาคต
    ข้างหน้าจะตั้งมั่นกว่านี้เรื่อยๆ เป็นการต่อธรรมที่มีลักษณะแบบตัวต่อตัว หรือ คล้ายๆ
    MLM ถ้าเราเงี่ยหูฟังไม่ดี ก็คลาดไป น่าเสียดาย

    การฟังธรรมบรรยาย ดูหนัง ฟังเพลง ดูละคง ละคร แล้วคิดเอง ผุดเอง รู้เอง สรุปเอาเอง
    นั้นเชยมาก เป็นการคิดไปเองว่าโพธิจิตนั้น ต้องคิดเอาเองล้วนๆ ซึ่งจริงๆไม่เกี่ยว
    เลย คนที่เป็นโพธิจิตก็ไปฟังเทศน์ฟังธรรมที่ตรงทางได้เสมอๆ ไม่ใช่คิดเอาเอง

    พระสมณะโคดมก็ยังได้มีโอกสพบพระพุทธเจ้าองค์ก่อนหน้าหลายครั้ง

    พระศีรอารย์ในครั้งเป็นพระอชิตะ ก็บวชในร่มกาสวภัตรด้วยซ้ำ

    หนทางก็ไม่มีอะไร แค่การภาวนา ดูจิต ดูกาย ดูเวทนา ธรรม เพื่อเข้า
    ถึงความเป็นจริงที่มีไตรลักษณ์เป็นเครื่องบ่งชี้การเข้าถึง

    ลองวางลงก่อน แล้วมาฟังธรรมของเหล่าคนที่เริ่มปฏิบัติภาวนาก่อนไม่
    เสียหาย ก็เหมือนการไปฟังธรรมจากเณร นั้นแหละ

    อย่างสมัยพระพุทธองค์เป็นช่างปั้นหม้อนามโชติปาละ ก็ยังให้เพื่อนชื่อฆฏิการะ
    เป็นผู้แสดงธรรมก่อน ก่อนที่จะศรัทธา แล้วไปฟังธรรมจากพระกัสสปพุทธเจ้า

    แนะนำคุณ ขวัญ นั่นเลย ลองไปฟังธรรมจากเธอดู ฟังเล่นๆ ต่อธรรมเล่นๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2008
  14. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    คงใช้วิธีแบ่งภาคดีกว่าค่ะ
    แต่ละภาคก็ทำหน้าที่ต่างกันไป


    เรื่องกรรมฐานนั้น ใครควรได้ก็ได้เจอภาคแบ่งนั้นเอง
    แต่สำหรับ "หน่อย" อย่าลืมนะคะ

    ปณิธาน พุทธมารดาของพระอมิตาภะค่ะ คงทราบนะคะ ว่าหน่อยจะพูดเรื่องอะไร?
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เมื่อเกิดแรงบันดาลใจ หรือมีการตั้งปณิธานแล้ว

    ก็จะขวนขวาย แสวงหาด้วยตนเอง

    วันหน้า ก็อาจมีการเปลี่ยนใจ เมื่อรู้ตัวว่า

    สิ่งใดเหมาะสมกับตัวตนแห่งตน

    ก็จะเลือกอีกครั้งเมื่อถึงเวลา

    บางทีการได้ฟัง ได้อ่าน ข้อมูลนั้น

    อาจไปสะกิดใจ หรือกระตุ้นให้สนใจ

    แต่มิใช่ว่า จะหลงงมงาย

    คิดว่านั้นคือเรื่องราวของตนเสมอไป

    นอกจาก ว่าจะ "อิน" มากไป

    ก็เพราะกรรมเก่าส่งผลให้เข้าใจผิด ก็เดินทางผิดไป

    จึงควรมีสติเสมอ จะได้ไม่เผลอไปสร้างกรรมใหม่

    ให้หลงวนเวียน ไม่พบทางของตนเองซักที
     
  16. ครูอ้วน

    ครูอ้วน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +11
    เชิญมาฝึกร้องเพลงด้วยลมปราณ กับครูอ้วนกันดีกว่านะคะ

    เชิญลิงค์นี้ค่ะ...
     
  17. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    แหม เข้าใจครับ หวังไม่เกิดยาวไกลมาก แต่สังเกตไหมครับว่าแย้งธรรม
    ที่เสนอมาเองทั้งหมด ว่าควรเร่งอย่างนู้น ควรเร่งอย่างนี้ ควรหวังเป็นองค์
    ที่เท่านั้น องค์ที่เท่านี้ ต้องตกนรกเพื่อไปเร่ง เพื่อไปกวาดสาวกของตัวเอง
    แต่ละอันมีแต่ทยานอยากสะสม แต่ส่งให้คนอื่น ก็ไม่แปลกหรอกครับที่สุด
    ท้ายมันจะสะสมจนเป็นตัวผลักดันให้คิดอยู่ยาวไกลถึงเพียงนั้น

    การเป็นพุทธมารดานั้น ต้องมีศีลบริสุทธิทั้งกาย วาจา ใจ ต้องไม่เคยสอน
    ใครผิดๆ ต้องไม่เคยสอนบุตร หรือ พุทธบุตรผิดๆ

    คุณมั่นใจว่าตอนนี้ได้สอนถูกหรือเปล่า แน่ใจหรือเปล่าว่า ไม่ผิดศีลข้อ 4

    ถ้ามั่นใจ ก็ดีไป ครับ แต่ถ้ายัง มีลังเล มีลองเชิง ทำทีเป็นลองเชิงคนอื่น
    เพื่อให้คนอื่นคิด แทนที่จะมั่นใจในธรรมฟันธงลงไปเลย มีกล้าๆกลัวๆ ก็
    ถือว่ามีสงสัย หรือ วิจิกิจฉา

    แบบนี้ในทางพระวินัยท่านให้ละกรรมนั้นไว้ก่อน เพราะทำไปทั้งๆที่สงสัย นั้น
    คือ อาบัติเรียบร้อยไปแล้ว หรือ ผิดศีลไปแล้วนั่นเอง
     
  18. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    เนียะ คุณน้องหน่อย ลองดูธรรมที่แสดงโดย เคขวัญ สิครับ
    มีที่ผิด หรือ ควรกังขาไหม

    ถ้าไม่มี แบบนี้แหละ โอกาสจะแสดงวจีกรรม แล้วผิดศีลจะมีน้อย

    แล้วถ้าเคขวัญเขาแสดงธรรมแบบนี้บ่อยๆ ถ้าเธอไม่กล้าแกร่งไป
    กว่านี้ จนมีโอกาสหลุดเป็นเพศชายได้ ผมก็จะปวารณาเป็นบุตร
    ของเธอ
     
  19. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975

    ทำไมพระสังข์จึงต้องสวมหัวเงาะ?


    จิตเดิมแท้ยังไม่ถึงวาระเปิดเผยแก่สาธารณชน
    การครอบขันธ์ไว้ จึงจำเป็น เพื่อ "รอเวลาที่ควร"
     
  20. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975

    ยุทธพิชัยสงคราม

    จะหลอกศัตรู ต้องหลอกพวกเดียวกันก่อน
     

แชร์หน้านี้

Loading...