"พระเจ้าจักรพรรดิราช"

ดูดวงไม่ค่อยเป้นคะ ดิฉันมีญานหยั่งรุ้อดีต ปัจจุบัน อนาคต เท่านั้นคะ ทราบมั้ยคะการเข้าฌานสมาบัติ8 นะคะ ถ้าตายในขณะที่กำลังเข้าฌานเป็นอารมณ์ คุนจะเป้นสหายแห่งพรหมโลกทันทีเลยคะ ดุดวงไม่เป้นคะ แต่ถ้าเห้นรุปใบหน้าคุนปัจจุบันชาตินี้ สามารถบอกได้คะ ชาติก่อนเกิดเป้นอะไรคะ

 

ผมว่าที่แน่ ๆ ชาติก่อนนี่ ผมไม่น่าจะมีชาติภพที่ดีเท่าไร เพราะ มาแบบสายโหด ฆ่าสัตว์ทรมานสัตว์โดยไม่รู้เดียงสา ตอนนี้พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็พยายามฆ่าสัตว์เบียดเบียนสัตว์ให้น้อยที่สุดแทน รูปในปัจจุบันชาติของผมไม่ค่อยจะมีบนโลกออยไลน์ครับ ๕๕๕ อดรู้สินะ ไม่เป็นไรมั้ง เพราะรู้ตัวอยู่ว่าทางที่ผมเลือกเดิน มันยังเหลืออีกยาว เมื่อเทียบกับใครหลายคนในที่นี้ ...

พุทธภูมิ
แต่คิดว่าเคยเป็น ผู้ชายอายุสัก หกเจ็ดสิบได้มั้ง ถ้าผมไม่ได้หลอนตัวเองว่าเคยจำชาติที่แล้วได้ตอนแบเบาะอ่านะ

 

60-70ปีกว่า แล้วหราคะ อายุเป้นเพียงตัวเลขคะ การละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งปวง จะทำให้มนุษย์มีสุขภาพแข็งแรง ครบ32ประการ ไม่เจ้บไข้ได้ป่วย ไม่ต้องหวาดระแวงในตอนกำหนดมรณานุสติก่อนตาย เจ้ากรรมนายเวรสัตว์ทั้งปวงที่คุนฆ่า มันมีจำนวนเกือบทั้งชีวิตคุนเป้น100-200ตัว มันแค้นมากคอยหลอกหลอนปรุงแต่งในจิตเราให้นึกถึงพวกมัน ทั้งกลัว ทั้งไล่พวกมัน จิตที่มีความตระหนกตกใจเศร้าหมองกับสัตว์ที่เราไปฆ่าไว้ ตายในขณะหวาดกลัวนี้จะลงอบายภุมิ นรกทันทีคะ
เลิกฆ่าสัตว์เถอะคะ ยังมีเวลาที่เหลือเพื่อปฏิบัติธรรม แผ่เมตตา ทำบุญให้พวกเขาทั้งชีวิตของคุน สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงรวมคนด้วย มีจิตที่มันไปเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ สัตว์บางตัวเป้นถึงพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมียุ บาปมากนะคะ
ทุกๆสรรพสัตว์น้อยใหญ่ล้วนรักตัวกลัวตาย กลัวเจ็บ มีเลือด เนื้อ มีครอบครัวมันรอยุ อยากอายุยืนยาว ความรุสึกที่เหมือนกับเราทุกอย่าง แต่สัตว์เดรัจฉาน น่าสงสาร น่าเวทมามาก ทำบุญไม่ได้ บรรลุธรรมไม่ได้ ทำกับข้าวกินไม่ได้ อะไรก้อยาก แถมพวกเขาไม่เคยมายุ่งกับมนุษย์เลย มีแต่มนุษย์ไปเบียดเบียนพวกเขา
ดิฉันไม่ฆ่าสัตว์คะ ยุงมดก้อเป่าไล่ไป เผลอเกาบางครั้งมดยุงก้อตายคามือเรา ทุกชีวิตล้วนมีกรรมเป้นของๆตน คุนต้องถือศีล5ให้ได้นะคะ ถ้าอยากไปเจอพระศรีอารยในยุคนุ่น เพื่อบรรลุธรรมขั้นใดขั้นนึง เป้นกำลังใจให้คะ

 

555 มีความบกพร่องทางการอ่านเหมือนผมเลย ... ว่าแต่ นี่ ร.8 มาอีกคนแล้วเหรอ

 

ศีล5 นี่ผมผิดน้อยครับที่ผิดบ่อยมี มุสา กะปานา แต่ก็ผิดน้อยมากมั้ง ส่วนใหญ่จะเจตนาฆ่าพวกเห็บ กับมด ส่วนยุงนี่มาตอมก็ปัด ๆ ออก แถวบ้านผมดีหน่อยไม่ค่อยมีไข้เลือดออกระบาด ปล่อยมันดูดเลือด สบาย ผมเพิ่ง สามสิบสี่ ย่างสามสิบห้านะ แต่รู้สึกว่า ก่อนมาเป็นผมในปัจจุบัน ผมเคยรู้สึกเหมือนตัวเองเคยเป็นคนแก่ในร่างทารกมาก่อน ตอนนี้ลืมแล้ว ว่าชาติก่อนเป็นใคร รู้แต่ว่าเคยมีความคิดเหมือนผู้ใหญ่ ในตอนแบเบาะ พอโตขึ้นก็ลืมชาติที่แล้ว

แต่ตอนนี้กลับกัน ผมรู้สึกเหมือนเด็ก อายุสิบสี่ในร่างคนอายุ 34 ๕๕๕

 

อสุรินทราหูโพธิสัตว์ นามนี้เป้นนามเจ้ากรรมนายเวรของเรา ร.8, เมตไตรย(สุริยเทพบุตร) และน้องชายของเรา ร.9 (จันทรเทพบุตร) ในสมัยยุคต้นกัปป์ของการบำเพ็ญเพียรของเหล่าอาภัสรพรหมทุกๆองค์ หาทางออกจากสังสารวัฏ เรา3คนเกิดเป้นพี่น้องชายล้วน3องค์
เราและน้องหน้าตาเหมือนกัน,ชอบทำบุญเหมือนกัน ในอดีตชาติในบาดาลพิภพ เราทั้งคู่ก้อเกิดเป้นพญานาคราชฝาแฝดกัน เราแฝดพี่ชื่อพญาสุริยคุปต์นาคราช กายสีแดง หงอนทอง
เก่งในด้านรบ,จิตแข็งใครก้ออ่านญานในไม่ออกถ้าเราไม่อนุญาติ,วาจาศักดิ์สิทธิ์,รักษาสัจจะ, ไสยเวท
แฝดน้องคือ ในหลวง ร.9 พญาจันทรคุปต์นาคราช กายสีน้ำเงิน หงอนทอง (สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆได้อย่างรวดเร้ว, ล่องหนได้, รักสันโดษ,เงียบๆ, เก่งด้านวิศวกรรมทั่วเทวโลก,บาดาล
ราหูเป้นน้องชายคนเล้ก(ชาตินี้เขาคือ อดีตนายก ทักษิณ ชินวัตร) เห้นพี่ๆทั้ง2งามทั้งการทำบารมี งามสมเป้นบรมโพธิสัตว์เจ้า วิริยาธิกะทั้งคู่
จึงคอย กลั่นแกล้งพวกเราในยามทำหน้าที่ เราคือพระอาทิตย์ ราหูมักจะมาคอยอมคอยจะกินเราให้ได้ เรียก สุริยปราคา
น้องชาย คือพระจันทร์ ก้อคอยกลั่นแกล้งอมจันทร์ให้มืดมืด เป้น จันทรุปราคา พระพุทธเจ้าโคตมะจึงประทานคาถา อสุรินทราหู กับเราพี่น้องต้องท่องเวลาราหูจะมาฆ่าและกินเราทั่ง2
พระโพธิสัตว์บางองค์ทำไมจึงเข้าสยามประเทศไม่ได้ เพราะคอรัปชั่น เอาเงินกองคลังเข้ากระเป๋าตน, คิดไม่ดีต่อในหลวง ร.9 จะล้มระบอบกษัตริย์อยากเป้นประธานาธิบดี ฝันไปเถอะ
1 ในพระสยามเทวาธิราช ประจำดวงเมืองคือเราอีกองค์นึง ตั้งแต่ถวายสัตย์รับธรรมจักรจาก พระพุทธเจ้าโคตมะมาปุ้บ รีบเหาะมาดุเมืองที่ตั้งสยามประเทศทันทีร่วมกับวิษณุกรรม หลักดวงเมืองคือ วันเกิดเรา พฤหัสบดี ที่ 25 ปี มะโรง ที่ 5 เวลาเกิด 08.00โมงเช้า เวลามังกรรึพญานาคราชมาเกิด นี้คือที่มาของเพลง กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์
เราได้ร่ายมนต์คาถาร่วมกับเหล่า พระสยามเทวาธิราชทุกองค์ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าพ่อเจตคุปต์ ท่านกลอง พระกาฬไชยศรี
บุคคลใดคิดคดทรยศ เป้นกบฏต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรย์ มันผุ้นั้นจะไม่สามารถเดินล่วงล้ำเข้ามาในแดนสยามได้อีกชั่วกัลป์ วาจาของเราและเหล่าสหาย มีวาจาศักดิ์สิทธิ์มาก แต่ยุคนี้มันเสื่อมเกินจะเยียวยา จึงมีพระบัญชาจากเบื้องบน ให้เหล่าเทพทำการล้างโลกได้ตั้งแต่ เดือนนี้
ปี2562 จะมีสึนามิใหญ่กว่าเดิม ที่เดิม, แกนขั้วโลกจะหมุนขั้ว ไทยจะมีหิมะ หนาวมาก, แผ่นดินไหวรุนแรง,สึนามิ,อุกกาบาต,สงครามโลกที่3
ยุโรป อเมริกา รัสเซีย จะหายไป, จะมีโรคติดต่อร้ายแรงไม่เกิน7วันตาย, ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก
พระพุทธเจ้าโคตมะบอกผ่านเราให้เตรียม เครื่องนุ่งหม,อาหาร,น้ำ, ด่างทับทิม, ยาคาลาไมล์ ทาได้ทุกโรค หาย ท่านบอก, ให้รักษาศีล5 นึกถึงบุญบารมีที่ตนเคยทำไว้ทุกลมหายใจเข้าออก,เป็นคนดี จึงจะรอด ช่วงพฤษภาคมปีนี้ต้องรักกันนะ เรื่มล้างโลกแล้วคะ จะมีแผ่นดินไหวอีก สึนามิสูงมากที่เดิม อพยพไปจ.อื่นให้หมดนะพี่น้องชาวไทย จงแคล้วแคลาดทุกท่านเถิด สาธุ สาธุ สาธุ...

 

ว้าวใจฟูเลยทีเดียว ซึ่งดีหรือเปล่าไม่รู้ ผมเอาหน้าตอนหนุ่มๆ มาให้ช่วยดูทีครับ ดูอดีต ปัจจุบัน อนาคตให้หน่อยครับ แล้วต้องทำอย่างไรต่อไปครับ ทายเหตุที่ทำให้ตายด้วยสิครับ
ขอบพระคุณ คุณ grace ด้วยครับ

 

ดิฉันยังไม่ได้ตรัสรุ้เป้นพระพุทธเจ้าในชสฝาตินี้นะคะ คงไม่สามารถจะพุดความตายคุนได้คะ เอาเป้นว่าคุนป่วยไม่แน่ใจมะเร็งเม้ดเลือดขาว รึ โรคแพ้ภุมิตัวเองคะ คิดว่า1ใน2นี้ละคะ รึเป้นมะเร็งคะ เห้นก้อนเนื้อมะเร้งข้างในไม่ปอด ก้อตับสักอย่างคะ สู้ๆนะคะ คนเราทุกคนเกิดมาก้อต้องมี เกิด แก่ เจ้บ ตาย ทุกคนต้องตาย ไม่ต้องกลัวความตายนะคะ ดิฉันเป้นคนปากศักดิ์สิทธิ์มาก ขอให้โรคภัยอุปัทาวะสัพเคราะห์ สัพะโศก สัพะโรคสัพะภัย สัพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย จงหายไป สิ้นไป ด้วยอำนาจแห่งบารมีธรรมที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมา80อสงไขยแสนมหากัปป์ ขอแผ่พลังบารมีแห่งฉัพพรรนรังสีของข้าพเจ้าจงแผ่ไปถึงท่านด้วยเถิด สาธุ

 

กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมสนอง

เมื่อต้องการเสวยสุข เพราะต้องการปัจจัยบางอย่าง ด้วยการประพฤติผิด ย่อมทำให้ผู้กระทำตกอบายภูมิพร้อมผู้ร่วมก่อกรรมไม่ว่าจะให้คำแนะนำใดๆก็ตาม ผู้กระทำกรรมย่อมรู้แก่ใจ เพราะ "ไม่รู้และไม่เห็น" พอถึงคราวจะเห็นย่อมสายไปเสียแล้ว

พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า
อานนท์ ! เราไม่พยายามทำกะพวกเธอ อย่างทะนุถนอม
เหมือนพวกช่างหม้อ ทำแก่หม้อ ที่ยังเปียก ยังดิบอยู่
อานนท์ ! เราจักขนาบแล้ว ขนาบอีก ไม่มีหยุด
อานนท์ ! เราจักชี้โทษแล้ว ชี้โทษอีก ไม่มีหยุด
ผู้ใดมีมรรคผลเป็นแก่นสาร ผู้นั้นจักทนอยู่ได้.
อุปริ. ม. ๑๔/๒๔๕/๓๕๖.

 

พระยาธรรม พิสูจน์ได้ด้วยธรรมะ ที่ท่านผู้นั้นเทศนาออกมา

ส่วนตัวผมมองว่าพระยาธรรมตามคำทำนายยุคนี้ อาจจะต้องบรรลุเป็นอรหันต์ไม่งั้นก็นำพาให้ศาสนาพุทธเจริญรุ่งเรืองเหมือนครั้งพุทธกาลไม่ได้ แต่อีกทางก็อาจจะเป็นคนที่เทศนาให้คนทั่ว ๆ ไป เข้าใจหลักการดำเนินชีวิตในแบบศาสนาพุทธได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนมีคนหันเข้ามานับถือและศึกษาศาสนาพุทธอย่างจริงจังก็เป็นได้มั้ง

 

อิตถีรัตนะ (นางแก้ว)​

​

ด้วยพระบุญญาธิการของพระยามหาจักรพรรดิราช จะมีนางแก้วนาง หนึ่งมาเป็นคู่พระบารมี หรือบางครั้งจะมีหญิงผู้ได้ทำบุญกุศลแต่ปางก่อนไว้มาก มาเกิดในแผ่นดินชมพูทวีปนี้ ในตระกูลกษัตริย์ในเมืองมัทราช คนทั้งหลายกล่าวขานกันว่า พระนางประสูติมาเพื่อทรงเป็นพระอัครมเหสีคู่พระบารมีของพระมหาจักรพรรดิโดยแท้ ถ้าไม่มีนางแก้วผู้มีบุญญาธิการมาเกิดในแผ่นดินนี้ไซร้ เดชอำนาจพระบุญญาบารมีของพระมหาจักรพรรดิ จะบันดาลให้นางแก้วในแผ่นดิน อุดตรกุรุทวีป มาเป็นพระอัครมเหสีคู่บารมีพร้อมด้วยอาภรณ์เครื่องประดับตกแต่งทุกอย่าง ประกอบด้วยรัตนะ ๗ ประการ รุ่งเรืองสดใสงดงามยิ่ง โดยเหาะ มาเฝ้าทางอากาศ เหมือนนางฟ้าเหาะไปเฝ้าพระอินทร์ฉะนั้น แล้วเข้าเฝ้าพระยามหาจักรพรรดิราช

พระนางแก้วนั้น ทรงมีพระสิริโฉมงดงามยิ่ง พระวรกายไม่สูงไม่ตํ่าเกิน ไป พระฉวีไม่ดำไม่ขาวเกินไป ทรงไม่อ้วนไม่ผอมเกินไป ทรงเป็นที่เจริญตาเจริญใจแก่ผู้ได้พบเห็น ทรงมีพระฉวีวรรณสะอาดหมดจดเกลี้ยงเกลางดงามยิ่ง ปราศจากมลทินสิ่งเศร้าหมองทุกอย่าง ฝุ่นละอองธุลีแม้น้อยนิดก็มิได้แปดเปื้อนเลย เหมือนดอกบัวถูกนํ้าแล้วไม่ติดนํ้าฉะนั้น พระสิริรูปโฉมของพระนางแก้ว มีลักษณะอันงามครบถ้วนทุกประการ เป็นที่ติดตาตรึงใจของคนทั้งหลายในมนุษยโลกนี้ แม้กระนั้นก็ดี เมื่อเปรียบเทียบกับความงามของนางฟ้าเทพธิดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว ความงามของพระนางแก้วจัดว่ายังเป็นรอง เพราะรัศมีในพระวรกายของพระนางแก้วมีน้อยกว่าของนางฟ้ามาก

เหล่านางฟ้าในสำนักของ พระอินทร์มีรัศมีแผ่ซ่านกระจายออกไปไกลมาก ส่วนรัศมีของพระนางแก้ว แผ่ซ่านออกไปไกลได้เพียง ๑๐ ศอกเท่านั้น รอบๆ พระวรกายแม้จะมืดสักเพียงใด ไม่ต้องใช้แสงสว่างจากแสงเทียนหรือตะเกียงนำทางเลย พระนางแก้วทรงมีพระพักตร์ผ่องใสโสภาเกลี้ยงเกลายิ่งนัก พระนางทรงมีพระวรกายอ่อนนุ่มดังสำลีบริสุทธิ์ที่วางทับซ้อนกันเป็นร้อยชั้น แล้วชุบด้วยนํ้ามันเปรียงโคจามจุรีสิสดใส งดงามยิ่ง พระนางทรงปรนนิบัติพระยามหาจักรพรรดิราชเจ้าเป็นที่ถูกพระราชหฤทัยยิ่งนัก ในเวลาที่พระวรกายของพระยามหาจักรพรรดิราชหนาวเย็น พระวรกายของพระนางแก้วอุ่น แต่ในเวลาที่พระวรกายของพระยามหาจักรพรรดิราชร้อน พระวรกายของพระนางแก้วกลับเย็น

ในเวลาที่พระนางแก้วทรงเจรจาหรือทรงแย้มสรวล กลิ่นที่ฟุ้งออกจาก พระโอษฐ์หอมเหมือนกลิ่นดอกบัวนิลุบลและจงกลนีที่แย้มบานและหอมฟุ้งอยู่ตลอดเวลา ในยามที่พระยามหาจักรพรรดิราชเสด็จมาหาพระนางแก้ว เมื่อพระนางแก้วได้ทอดพระเนตรเห็น พระนางจะไม่ประทับนั่งอยู่ จะเสด็จลุกไปทรงต้อนรับพระยามหาจักรพรรดิราช แล้วตามเสด็จไปยังพระแท่นบรรทมแก้ว ทรงนำหมอนทองมาประทับนั่งถวายงานพัด ทรงปรนนิบัติบีบนวดเฟ้นพระบาทและพระกรของพระราชสวามี แล้วเสด็จลงประทับนั่งอยู่เบื้องตํ่า ไม่เสด็จขึ้นเหนือพระแท่นบรรทมแก้วก่อนพระยามหาจักรพรรดิราช แม้แต่ครั้งเดียว และเสด็จลงจากพระแท่นแก้วก่อนพระราชสวามีเสมอ ไม่ว่าพระนางแก้วจะทรงกระทำการสิ่งใดก็จะทรงกราบทูลให้พระราชสวามีทรงทราบก่อนทุกครั้ง และทรงกระทำเฉพาะสิ่งที่พระยามหาจักรพรรดิราชทรงมีรับสั่งให้ทรงกระทำเท่านั้น

ทรงไม่ฝ่าฝืนหรือละเมิดพระบรรหารของพระยามหาจักรพรรดิราชแม้แต่ครั้งเดียว เพราะฉะนั้น กิจการที่พระนางแก้วทรงกระทำจึงเป็นที่โปรดปรานของพระยามหาจักรพรรดิราชทุกประการ แม้จะทรงทูลเจรจาปราศรัย ก็เป็นที่พอพระทัยของพระยามหาจักรพรรดิราชยิ่งนัก และผู้ที่จะได้เป็นพระราชสวามีของพระนางแก้ว มีเฉพาะพระยามหาจักรพรรดิราชเท่านั้น ไม่ทั่วไปแก่บุรุษเหล่าอื่น พระนางแก้วนั้นทรงมีความจงรักภักดีต่อพระราชสวามีเป็นที่ยิ่ง ไม่ทรงประพฤติล่วงละเมิดนอกพระทัยพระยามหาจักรพรรดิราชเจ้าแม้แต่น้อยเลย

ที่มา http://www.silpathai.net/อิตถีรัตนะ-นางแก้ว/

 

สวัสดีปีใหม่ไทย...เวลาล่วงไปๆ


โชคดีทุกท่านทุกคน..

 

"พระยาธรรมิกราช" คือ "พระเจ้าจักรพรรดิราช"


​

ช่วงปี พ.ศ.2504 หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ เล่าว่า

ในคืนหนึ่ง...เมื่อจิตลงสู่ความสงบแล้วก็เกิดความสว่างอย่างกว้างขวาง เป็นความสว่างที่ไม่มีประมาณ โล่งไปทั้งหมด ในขณะนั้น ก็ปรากฏเห็นรถแก้วคันหนึ่งลอยมาแต่ที่ไกล แล้วก็ลอยตรงเข้ามาหาข้าพเจ้า และหยุดอยู่บนอากาศห่างจากตัวข้าพเจ้าประมาณ 5 วา จึงมองเห็นรถแก้วคันนั้นได้อย่างชัดเจน

รถแก้วคันนั้นมีเครื่องประดับด้วยแก้วนานาชนิด มีแสงสว่างแพรวพราวไปหมด มีรัศมีแผ่ออกไปรอบด้าน ในรถแก้วคันนั้นมี ธนู ศร หอก ดาบ และมีอาวุธอื่น ๆ อีกมากมาย และยังมีพระราชาองค์หนึ่งประทับนั่งอยู่ในรถคันนั้น เครื่องประดับของพระราชาองค์นั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพชรนิลจินดา ประดับเครื่องทรงเจิดจ้าแพรวพราวระยิบระยับอยู่รอบองค์ จากนั้น ก็ได้ประกาศลงมาว่า

นี่ทูล ข้าพเจ้าเป็นพระยาธรรมมิกราช มาครั้งนี้ เพื่อจะเตือนให้รู้ว่า นับแต่นี้ไป โลกมนุษย์เริ่มหมุนไปสู่ความหายนะ มนุษยโลกจะเกิดโกลาหลฆ่ากันตีกันทำลายกันด้วยวิธีต่าง ๆ จะหาผู้มีศีลมีธรรมประจำใจนั้นมีน้อย ทั้งพระสงฆ์ผู้ทรงศีลอันดีงาม ผู้ทรงธรรมที่เป็นสาระแก่นสารก็จะมีน้อย ฉะนั้น ขอให้ออกบวชเสียแต่ในช่วงนี้ เพื่อจะได้เป็นกำลังแก่พระพุทธศาสนาสืบต่อไป

ในยุคต่อไปจะมีภัยเกิดขึ้นในโลกมนุษย์นี้ มากมาย มีอัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย ปฐวีภัย และภัยในสงครามก็จะเกิดขึ้นทุกหนแห่ง เมื่อสงครามมีความรุนแรงอย่างเต็มที่แล้ว มนุษยแเองจะห้ามกันไม่ได้เลย เรานี้แหละจะ มาเป็นผู้ห้ามในสงครามนี้

ข้าพเจ้าถามท่านไปว่า จะห้ามสงครามนี้ด้วยวิธีใด พระยาธรรมมิกราชได้จับไม้กระบองขึ้นมาให้ดูแล้วพูดว่า นี่ไง เราจะเอากระบองทางต้นชี้ลงไปให้มันตายทั้งหมด แล้วจะเอาปลายกระบองนี้ชี้ลงไปให้มันฟื้นคืนมา เขาจะมีความกลัวต่อเรา แล้วเราก็จะบอกให้เขาหยุดทําสงครามกัน

ฉะนั้นขอให้ทูลบวชเสียนะ เพราะถึงเวลาของเราแล้วที่จะได้ช่วยประชาชนได้เข้ามานับถือในพระพุทธศาสนา และความตั้งใจไว้ในชาตินี้ ที่จะได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ก็จะได้สมความตั้งใจในชาตินี้ เมื่อสั่งเสร็จแล้ว รถแก้วก็เลื่อนลอยขึ้นไปสู่อากาศ ลอยสูงขึ้น ๆ จนสุดสายตา จากนั้น ความสว่างก็ค่อย ๆ เลือนลางไป

ในขณะนั้น ก็มีลมพัดมาจากทิศตะวันออก ดังสนั่นหวั่นไหวเหมือนกับต้นไม้โค่นล้มกันไปเป็นทิวแถว แล้วพัดตรงเข้ามาหาข้าพเจ้า แล้วมีคน 6 คนวิ่งมากับลมนั้นด้วย จากนั้น ลมก็พัดตรงเข้าที่บ้านอย่างจัง เหมือนกับบ้านจะพังไป แต่ก็เป็นเพียงโยกคลอนไปมาเท่านั้น ทำให้คนรอบข้างเกิดความสะดุ้งตกใจร้องโวยวายขึ้นว่า นี่อะไรเกิดขึ้น มีลมพัดบ้านเหมือนกับบ้านจะพังไป

ขณะนั้น ใจก็ถอนออกจากสมาธิ จึงได้บอกคนใกล้เคียงไปตามเหตุที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้บอกทั้งหมด เพราะเขากำลังต่อต้านในการออกบวชของข้าพเจ้าอยู่แล้ว แต่ได้บอกเขาไปเป็นบางส่วนเท่านั้น ส่วนตัวข้าพเจ้าเองได้ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะออกบวชอย่างแน่นอน.....

***********************************************************************
ทิพยอํานาจ พระอริยคุณาธาร(เส็ง ปุสโส)

คำทำนายโบราณชิ้นหนึ่งได้เป็นที่ตื่นเต้นสนใจกัน เมื่อประมาณ ๑๐ กว่าปีมานี้มีว่าเมื่อพระพุทธศาสนาถึงกึ่ง ๕,๐๐๐ ปีนับแต่พุทธปรินิพพานมา พระพุทธศาสนาจะกลับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุดคล้ายสมัยพุทธกาล

พระมหาเถระโพธิสัตว์ผู้มีบุญญาภิสมภาร มีอิทธาภินิหาร เชี่ยวชาญทางอภิญญาในสุวรรณภูมิ จะได้เป็นประธานาธิบดีสงฆ์ ทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังนานาประเทศ เริ่มต้นที่อินเดีย ไปยุโรปและอเมริกา ประชาชนชาวโลกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนามากมาย คนทั้งหลายจะนิยมในการฝึกฝนอบรมจิตใจในทางพระพุทธศาสนา ประเทศชาติบ้านเมืองก็จะร่มเย็นเป็นสุข ด้วยร่มเงาของพระพุทธศาสนา ดังนี้

บัดนี้ก็จวนจะถึงสมัยกึ่งพระพุทธศาสนาแล้ว เงาเจริญแห่งพระพุทธศาสนาเริ่มปรากฏแล้ว ชาวอัศดงคตประเทศกำลังหันมาสนใจในพระพุทธศาสนามากขึ้น แต่ใครเป็นตัวการตามทำนายนั้น ยังมิได้เป็นที่ปรากฏแก่วงการพระพุทธศาสนา ขอให้คอยดูต่อไปว่าจะจริงเท็จแค่ไหน ถ้าคำทำนายเป็นจริงขึ้นก็แปลว่า ชาวพุทธผู้ให้คำทำนายไว้นั้นมีทิพพจักขุวิเศษที่สุดได้แน่ๆ ทีเดียว และตัวการในคำทำนายนั้น จะเป็นบุคคลที่น่าอัศจรรย์ที่สุดของโลกสมัยใหม่ด้วย.........

.......มีคำทำนายว่าสมัยกึ่งพระพุทธศาสนา จะมีขึ้นถึงขีดสูงสุดคล้ายสมัยพุทธกาล จะมีผู้บรรลุมรรคผลนิพพานถึงภูมิพระอรหันต์ เชี่ยวชาญทางอภิญญา และพระมหาเถระโพธิสัตว์ผู้มีบุญญาภินิหารในสุวรรณภูมิ จะได้รับเกียรติเป็นประธานาธิบดีสงฆ์สากล จะทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ตั้งต้นที่อินเดียไปยุโรปและอเมริกา มหาชนชาวโลกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก โลกจะร่มเย็นเป็นสุขด้วยร่มเงาของพระพุทธศาสนา ดังนี้

ข้าพเจ้าได้เรียนถามพระอาจารย์ภูริทัตตเถระ (มั่น) ว่าคำทำนายโบราณนี้จะเป็นจริงไหม ท่านว่า เจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันทเถระ จันทร์) บอกว่าจริง เมื่อข้าพเจ้าถามถึงความเห็นเฉพาะตัวของท่าน ท่านก็บอกว่าเป็นจริง เวลานี้ก็จวนถึงแล้ว เราคอยดูต่อไป.

‪#‎พระยาธรรมิกราชคือใคร‬?.....
พระยาธรรมิกราชคือพระเจ้าจักรพรรดิ
ที่เกิดจากการบำเพ็ญเพียรทางธรรม ขั้นอุกฤษฎ์
เอาชีวิตแลกกับธรมจนเกิดอภิญญา
ไม่ได้มาจากการแก่งแย่งตำแหน่ง หรือการเลือกตั้ง
ไม่ใช่กษัตริย์ที่ปกครองประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่มีหน้าที่รบกับใคร....
มีหน้าที่สำคัญคือปกป้องพระพุทธศาสนาให้ครบอายุ 5000 ปี
การเป็นพระมหากษัตริย์ต้องเสียสละชีวิตตัวเอง
เพื่อความสุขของประชาชน เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า
ที่เสียสละ ตำแหน่ง ลาภยศ เสียสละชีวิต เพื่อแลกกับธรรม เครื่องออกจากทุกข์

จักกวัตติสูตร คือหลักธรรมสำคัญ ในการแก้ปัญหาทุกๆด้าน
การบริจาคทานช่วยเหลือคนจน และการสั่งสอนธรรม
สงครามโลกครั้งที่สาม ไม่มีใครแก้ไขได้
พระยาธรรมิกราช เกิดในช่วงนี้ ช่วยเตือนเฉพาะคนที่จะช่วยได้เท่านั้น
ทุกอย่างเป็นไปตามกฏแห่งกรรม เมื่อใดพระยาธรรมิกราชจะปรากฏ...เป็นไปตามพุทธกรณ์ .......

ที่มา https://sites.google.com/site/sujittrawiengin/phyakrn-lok/kha-thanay-phuthth-phyakrn

 

นกไม่เคยอาลัยกิ่งไม้เมื่อจากไป...อดีตที่ผิดพลาดให้รู้จักแก้ไขให้ดี...กรรมเป็นที่อยู่ที่อาศัยของสัตว์โลก...


โชคดีทุกท่านทุกคน...

 

เหตุปัจจัยนั้นเริ่มมาจาก "ความเชื่อ" ถึงเรื่องราวว่าสิ่งนี้ต้องเกิด
และเมื่อเจอผู้คนที่กล่าวถึง "ความเชื่อในเรื่องเดียวกัน" ก็ย่อมเชื่อถือมากขึ้น" โดยไม่รู้ว่า "อนาคตจะเป็นเช่นไร" ผู้ประมาทคือผู้ที่ตายไปแล้ว ในเมื่อไม่สามารถรู้ถึงกุศลและอกุศลกรรมตามความเป็นจริง ย่อมอาศัยความเชื่อ "ซึ่งคนที่เชื่อนั่นแลที่อยู่ในอบายภูมิมากมาย" เพราะไม่รู้ว่า "นรกหรือสวรรค์มีจริงหรือไม่"

กุศล = อารมณ์ที่จิตเสพแล้วมีความสุข(สบายใจ)

อกุศล = อารมณ์ที่จิตเสพแล้วทุกข์(ตั้งมั่นไม่ได้ กดดัน กระวนกระวาย)

ตั้งแต่ที่คุณกระจายข่าวสาร "ที่เชื่อว่าดี" คุณทุกข์กี่ครั้งแล้ว แล้วคุณเคยเสพสุขกี่ครั้ง? การทำที่คุณคิดว่า "ได้บุญนั้นได้จริงหรือ?"

ผู้ที่ไม่รู้ตรงตามความเป็นจริง นับเป็นมิจฉาทิษฏิ

บัวเหล่าที่ 4
ปทปรมะ พวกที่ไร้สติปัญญา(ใช้ความเชื่อนำปัญญา) และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน

เมื่อกำลังตกเป็นอาหารของผู้อื่นสัตว์ยังรู้สึกตัวว่าอันตราย แล้วคุณละรู้สึกตัวหรือยังว่าทางที่คุณเลือกโดยไม่รู้ "จะพาคุณไปไหน" ไม่ต้องเชื่อใครให้ดู กุศล และ อกุศล ที่เกิดขึ้นกับตนนั่นแลจะบอกเอง

 

ความสุขจากการหลอกตัวเองมันช่างหอมหวานยิ่งนัก ผู้ใดพลาดพลั้งหลุดเข้าไปแล้วย่อมยากที่จะถอนคืนสภาวะนั้นได้ ทุกวันนี้เหลือผู้ใดบ้างที่ยังเห็นด้วยกับเขา คำทำนาย ข้อความ ข่าวสาร ของเดิมที่ล้วนแต่เป็นเท็จทั้งสิ้น เอามาโพสซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นเพราะรู้สึกเป็นสุขที่ได้กระทำเช่นนั้นที่ยังติดอยู่ในโลกแห่งจินตการที่จิตตนได้สรรสร้างขึ้นมา หลายท่านก็ได้ตักเตือนกันมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เขาก็หามิได้ฟัง ด้วยจิตเป็นมิจฉาทิฐิ อัตตาสูงล้นเกินเยียวยา ประกอบด้วยอกุศลกรรมดลบันดาลมิให้ดวงตาเห็นธรรม จึงบังเกิดเป็นความจริงดั่งที่ท่านได้เห็นสำหรับคนผู้นี้ ถูกเขาหลอกมาหลายปี ไม่ร้ายเท่าหลอกตัวเองต่อไปว่าจะมีสิ่งที่เกิดขึ้นตามที่ตัวเองปักใจเชื่อเช่นนั้นจริงๆ น่าสงสารลูกหลานที่จักต้องดูแลคนเช่นนี้

 

ถ้าผมเป็นพระจักรพรรดิ์ ผมจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองด้วยการสั่งให้จักรแก้วไปจับผู้นำอำนาจ ผู้นำทางความคิด มาอภิปรายร่วมกัน ในหัวข้อ ระบอบการปกครองแบบ ปชต ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขคืออะไร ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ที่เขาเข้าใจคืออะไร การปกครองแบบประชาธิปไตยที่เสีรีขึ้น จะกระทบต่อสถาบันอย่างไร...

มุมมองของฝ่ายตรงข้ามไม่เป็นประชาธิปไตยแบบไทย ๆ อย่างไร
ระยะเวลาอภิปราย เดือนนึง สองเดือน สามเดือน แล้ว แต่ประเด็นยิบย่อยอื่นที่จะยกมา
แน่นอน ก็เอาหัวหน้าพรรคการเมืองทุกฝั่งทุกฝ่ายมาคุยกันน่ะแหละ

ให้เขาคุยกันให้ประชาชนฟัง แล้วให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน

คนไทยอยู่กันแบบนามธรรมเป็นบ้าเลย นามธรรมยัน...................

คือพอพูดว่าความดี ให้สิบคนพูด สิบคนก็จะอธิบายความดีในแบบของตนออกมา... มีตรงกันบ้างเพราะต่างคนต่างก็มีความเชื่อว่าสิ่งนั้นดี สิ่งนี้ดีในแบบของตนเอง แต่ ก็ไม่สามารถพูดว่าอะไรคือความดี ได้ตรงกันะป๊ะๆ

ทำไมตีองมีคำทำนายพระจักรพรรพิ์ออกมาให้เราติดอยู่ในฝันลม ๆ แล้ง ๆ ว่าจะได้อยู่ในยุคสมัยที่มีแต่สันติสุข แบบไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันกันหนอ
เอ๊ะ ถ้าพระจคกรพรรดิมีจริงจะปกครองโลกยังไงกันนะ เผด็จการ หรือสร้างสังคมที่คนเข้าใจตรงกันไม่มีความขัดแย้ง

อยากมีคอมพ์พิวเตอร์พิมพ์ จะได้พิมพ์อะไรยาว ๆ กว่านี้.

 

จากการสมมุติข้างบน หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมผมไม่เอาจักรแก้วไปยึดอำนาจแทน ง่ายกว่า...

การแก้ไขความขัดแย้งโดยการกด ข่ม ปราม มันไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่แท้จริง เพราะต้นตอของความขัดแย้งมันยังอยู่ คือความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน และอาจจะมี อย่างอื่นแอบแฝงอยู่ ซึ่งผมคงไม่ต้องพูด และคงจะพูดออกมาไม่ได้ 555

 

ถามพระยาธรรม หรือพระศรีอาริย์ ตามความเชือของคุณ ศาสนาพุทธ คืออะไร

ที่ถามเพราะ คนที่จะมาปกป้อง ธำรงค์ศาสนา ควรเข้าใจ สิ่งที่ตนจะปกป้องให้ถูกเสียก่อน และน่าจะต้องรู้และเข้าใจอะไร ๆ มากกว่าคนทั่วไป

ถ้าให้ผมถามตัวเองว่าศาสนาพุทธคืออะไร

ผมขอตอบด้วยความเข้าใจในขณะนี้ว่า

การตื่นรู้ในธรรมชาติ การเข้าใจธรรมชาติ การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ การเห็นความจริงในธรรมชาติ
โดยทต่ศาสนาพุทธโดยทั่วไป มักจะถูกสอนในแง่ของ การทำความเข้าใจต้นตอที่แท้จจิงของความทุกข์ และมีเป้าหมายสูงสุดคือนิพพาน(ผมจึงมีความคิดว่าคนที่จะมาทำให้ศาสนาพุทธมีความรุ่งเรืองคล้ายพุทธกาลอีกครั้งน่าจะเป็นพระอรหันต์มากกว่า เพราะคงไม่มีใครเข้าใจสภาวะนิพพานได้ดีเท่าพระอรหันต์อีกแล้ว)

อย่รงไรก็ตาม... ผมยังไม่คิดว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้องหรือจำกัดความได้ดีสักเท่าไร เพราะผมยังเข้าใจอะไร ๆ ได้น้อย เพราะผมเป็นแค่คนช่างมโนคนนึง...

 

พระโพธิสัตว์ ก็เข้าใจใน พระนิพพาน ได้เหมือนกัน
ก็เหมือนกันเรา ที่เราเรียนหนังสือมา
ก็รู้ว่า ปริญญาเอก มีอยู่ เรียนสอนกันอย่างไร
ก็สามารถรู้ได้ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้เรียนจนจบดอกเตอร์

พระโพธิสัตว์ ก็เหมือนๆกัน
ก็สามารถรู้ได้ว่า เส้นทางไปสู่พระนิพพาน
จะต้องฝึกอย่างไรบ้าง ปล่อยวางอะไรบ้าง
แต่ยังไม่ทำเต็มขั้น แค่เทสต์ดูเฉยๆ
แล้วก็ไป สงเคาะห์คนอื่นก่อน
เรื่องของตนเอาไว้ทีหลังได้
ช่วยผู้อื่นก่อน ตัวเองเดือดร้อนก็ไม่เป็นไร
สามารถรอได้ ยังไม่เร่งรีบ
แต่ต้องช่วยผู้อื่นก่อน