{{{พระเครื่องวัตถุมงคลหลวงพ่อวัดท่าซุง}}} สวยและแท้ แบ่งพี่น้องร่วมบุญบูชา ◕‿◕

1.เห็นว่าร่างกายนี้ประกอบไปด้วยความทุกข์.ไม่ต้องการมันอีก หวังอย่างเดียวคือพระนิพพาน ไม่ต้องการเกิดอีกแล้วไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ สวรรค์หรือพรหม2.ต้องตัดสังโยชน์ให้ได้3ข้อก่อน 2.1 ตัดร่างกาย คื่คิดไว้เสมอว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา. คิดถึงความตายไว้เสมอ 2.2 วิจิกิจฉา. ไม่ลังเลสงใสในคำสอนพระพุทธพระธรรมและพระอริยสงฆ์ 2.3มีศีล5บริสุทธิ์ คือไม่ละเมิดศีลเองและไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นละเมิดศีล

 

ผมเข้าใจว่าคติที่แน่นอนหมายความว่า จะมีภูมิใดเป็นที่ไปครับ คือมีสิทธิจะลงอบายภูมิหรือเปล่าเท่านั้นเอง จำได้ว่าหลวงพ่อใช้คำนี้ตอนเทศน์เรื่องมรณานุสติเกี่ยวพระสูตรเรื่องธิดาของคนทอผ้า ที่มาฟังองค์สมเด็จพระจอมตรัยเทศน์ทั้งแต่ยังวัยเยาว์ พอมาวันนึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้พระญาณตรวจดู แล้วพอหญิงสาวคนนี้ในข่ายพระญาณ ท่านจึงตรวจดูต่อว่าถ้าท่านไม่มาเทศน์ตรัส หญิงสาวผู้นี้จะมีคติแน่นอนหรือไม่ จากพระญาณพระพุทธองค์ทราบว่าถ้าพระองค์ไม่เสด็จคติของหญิงผู้นี้จะไม่แน่นอน ท่านจึงเสด็จมาถามคำถามครับ แล้วเปล่งสาธุการจนหญิงผู้นั้นบรรลุพระโสดาบันครับ คติจึงแน่นอนเพราะไม่ลงอบายภูมิแน่ๆ

ส่วนการจะปิดกั้นอบายภูมิได้ ต้องเป็นพระโสดาบันครับ ต้องได้หลักธรรมสามข้อ 1. มีเบญจศีลบริสุทธิ์ (ทรงศีลเป็นฌานคือระลึกไว้ตลอดว่าเราจะทรงศีลให้บริสุทธ์) 2. เคารพพระรัตนตรัย (ทำให้นึกถึงพระสูตรเรื่องของขอทานที่ท่านเป็นโรคเรื้อนแต่บรรลุโสดาบันได้นะครับ พระอินทร์ท่านลงมาลองใจ) 3 นึกถึงความตายเป็นอารมณ์ คือต้องมั่นในใจว่าความตายเป็นของแน่ แถมตายตอนไหนก็ไม่แน่ ไม่แก่ก็ตายได้

ผิดพลาดมั่วซั่วประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

หมดเวลาค่ะ ขอพัณณ์ตรวจสอบก่อนนะคะ ^___^

 

คุณพัณณ์ ถาม 10.07 น่าจะหมดเวลา 10.22 นะครับ

 

ขอเวลาพัณณ์ตรวจสอบสักครู่ หากยังไม่มีคำตอบที่ถูกทั้งหมด


พัณณ์ถึงจะให้โพสต์ตอบได้ใหม่นะคะ สักครู่ค่ะ​

 

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 26 คน ( เป็นสมาชิก 26 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> Nippanang Sukang, baimin, ouuu99, panchita+, jupiter13, atitap, ลูกเรือ, รัตนภูมินทร์, maharaj, Panda Master, jokemhoo, พรแม่ศรี+, Ton_Ton, pornchai2500, หูกาง, Koratpad, ^^ploy^^, บุตรแก้ว, zukus, กระพี้+, นิลกาล๑๓, sittichaos, นิรัช, หวงจื้อเซวียน, fangaee



โอ้โห พระเจ้า พี่น้องกันทั้งนั้นเลย:VO
</td></tr></tbody></table>

 

ขอโทษนะครับใช้ iphone พิมพ์ อาจขาดตกบกพร่องและเว้นวรรคไม่สวยงาม แถมช้าอีกขออภัยด้วยครับ

 

ถึงตอนนี้ชักงงๆ ครับ จำได้ว่าจะได้พระโสดาบันต้อง ถือพระนิพพานเป็นอารมณ์ด้วย ... แหะๆ อันหลังนี่ไม่นับรวมในคำตอบนะครับ ถืออันแรกที่พิมพ์ไปแล้วเป็นสำคัญ แต่แอบงงครับ รบกวนพี่ๆ ชี้แนะด้วย ขอบคุณครับ

 

ไม่เป็นไรค่า ถ้าโพสต์ก่อนที่พัณณ์บอกหมดเวลา ถือว่าได้ร่วมตอบกันแล้วนะคะ พัณณ์ให้เวลาโดยประมาณ สบายๆค่า ^___^

 

คำว่าคติที่แน่นนอน น่าจะหมายถึงผู้ที่จะก้าวล่วงจากบุคคลธรรมดาสู่ขั้นพระอริยะ ซึ่งหมายความว่าผู้นั้นจะต้องไม่พลาดพลั้งสู่อบายภูมิอีกต่อไป ซึ่งขั้นต้นหมายถึงพระโสดาบัน ซึ่งมีคุณธรรมที่จะปิดอบายภูมิ ได้แก่สังโยชน์ 3 ข้อแรก
1.สักกายทิฎฐิ เห็นว่าร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา
2.วิจิกิจฉา มีความมั่นใจในพระรัตนตรัย ยึดและเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
3.สีลัพพตปรามาส ไม่ลูบคลำศีล รักษาศีล5 ครบถ้วนบริบรูณ์

 

<DIR>คติที่แน่นอนคือ การที่จะไม่กลับมาตกนรกอีก ตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป..
บรรลุมรรคตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป
หลักธรรมที่ปิดกั้นอบายภูมิ ต้องบรรลุสังโยชน์ได้ 3 ข้อ คือพระโสดาบัน
ข้อแรก สักกายทิฎฐิ
ข้อสอง วิจิกิจฉา
ข้อสาม สีลัพพตปรามาส
ข้อแรก 1 สักกายทิฏฐิ มีความรู้สึกว่าร่างกายนี้เป็น เราเป็นของเรา เรามีในร่างกาย ร่างกายมีในเรา หลวงพ่อบอกว่านึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก
ข้อที่ 2 วิจิกิจฉา สงสัยในคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์
ข้อที่ 3 สีลัพพตปรามาส รักษาศีลอย่างจริงจัง ศีล 5 กรรมบถ 10
อุปสมานุสติ..นึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์...
</DIR>

 

น้องพงค์กับน้องพลอยไปไหนเงียบเลย...555

 

คติที่แน่นอนคือ บุคคลนั้นได้ต้องการแสวงหาความหลุดพ้นจากความทุกข์จากดวงจิตที่แท้จริง

ส่วนหลักธรรมที่สามารถปิดกั้นอบายภูมิได้นั้นคือ สังโยชน์ 3 อันประกอบด้วย
1 เข้าถึงพระรัตนตรัย อันประกอบด้วยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอันสูงสุด ไม่สงสัยในคุณแห่งพระรัตนตรัย
2 ขอเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันเป็นที่สุด
3 มีศีล 5 บริสุทธิ์ คือไม่ผิดศีลด้วยตนเอง ไม่ทำให้คนอื่นผิดศิล และไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นผิดศีล

 

ของผมหน้า 148 ครับ ยกธงขาวเลย

 

1.
2.ถ้าปิดอบายแค่ชาติปัจจุบันก็คีล 5 ถ้าปิดถาวรก็สังโยชน์ 3 ข้อแรก สักกายฐิฏิ(คิดว่าตัวเองต้องตายเสมอ) สีลัพปตปรามาส(รักษาศีล5 ด้วยชีวิต) วิกิจิฉา(ยอมรับในความดีพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์)

 

ตาพงค์คงนอนไปแล้วนะครับ เนื่องจากไม่ได้ติวข้อสอบธรรมะมานะครับ
ส่วนคุณพลอย ก้ได้แต่มองๆๆๆ เนื่องจากไม่ค่อยได้อ่านเหมือนกัน ฮิ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

หลวงพ่อได้กล่าวไว้ว่า

คำว่า " คติ " แปลว่า การไป

แน่นอนหรือไม่แน่นอน ก็หมายความว่า ถ้าแน่นอนก็ไม่ไปทุคติ
ไม่ไปเกิดเป็นสัตว์นรก ไปเกิดเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน
ต้องเกิดเป็นคน หรือเป็นเทวดา หรือเป็นพรหม ไปนิพพานอย่างนี้
ชื่อว่ามีคติแน่นอน

การปิดกั้นอบายภูมิได้นั้น ก็ต้องละสังโยชน์ให้ได้ 3 ข้อ คือ

1. สักกยาทิฎฐิ คือ การไม่เข้าไปยึดถือในร่างกาย กายไม่ใช่เราไม่มีใสเรา

2. วิจิกิจฉา คือ การไม่สงสัยในคุณแห่งพระรัตนตรัย

3. สีลัพพตปรามาส คือ การไม่ลูบคลำในศีล มีการเคารพในศีลยิ่งชีวิต

และการมีพระนิพพานเป็นอารมณ์ด้วยค่ะ

 

รอพี่พลอยกับพี่ทศได้รางวัลแล้วเอามาให้ผมครับ

555

 

พลอยมัวแต่งมเรียบเรียงคำพูดอยู่อ่ะจิคะ..ยกธงขาวเหมือนกันค่ะ..ก็พี่ๆเก่งๆกันทั้งนั้นเลยนี่คะ...อิอิ ..ไม่เป็นไรค่ะ ก็เราพี่น้องมาร่วมสนุกกันนี่คะ ไม่ได้มารบกันสักหน่อย..ชิมิคะ

 

เหอๆๆๆๆๆๆ