พระอภิธรรมปิฎก อ่านออกเสียงยาก เชิญสมาชิกสอบถามคำอ่านได้ที่นี่

ดูกร

พระอาจารย์ของดิฉัน(ปธ 8 ) เคยสอนให้อ่าน ว่า ดูก่อน ค่ะ ถ้า ดูกอน กับ ดูกะระ เป็นการอ่านที่ไม่ถูกต้อง

แต่ว่า ทางนี้ให้อ่านว่า ดูกอน หรือ ดูกะระ
ตกลงไม่อ่านว่าดูก่อน หรือคะ แล้วต้องอ่านว่า ดูกอน หรือดูกะระ หรือคะ

 

อ่านอย่างไรคะ

ครั้งนี้แล ท่านพระอานนท์.....พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ อย่าเลย เธออย่าชอบใจให้มาตุคามออกบวเชเป็นบรรพชิตในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้วเลยฯ
แม้ครั้งที่ 2 ฯลฯ
แม้ครั้งที่ 3 ท่านพระอานนท์ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า

ปัญหาคือ

ตรง แม้ครั้งที่ 2 ฯลฯ

อ่านว่าอย่างไรคะ ???

กราบขอบพระคุณผู้ที่มาไขข้อข้องใจค่ะ

 

เรายึด หลักเกณฑ์ พจนานุกรมฉบับราชฯค่ะ

ตกลงคำว่า ดูกร อ่านว่า ดู กะ ระ หรือ ดู กอน ค่ะ

 

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะคุณกบ

แล้วกระทู้ที่ 65 ตรงตัวหนังสือสีแดง อ่านว่าอย่างไรคะ

ขอบพระคุณค่ะ สำหรับคำตอบ

 

เมื่อกี้พิมพ์ตอบไปแล้วแต่เวบหายค่ะ
โพสเลยหายไป

แม้ครั้งที่ 2 ฯลฯ อ่านว่า แม้ครั้งที่ 2 ละ

http://palungjit.org/threads/หลักเกณฑ์ต่างๆ-ของราชบัณฑิตยสถาน-ที่นำมาใช้กับการอ่านพระไตรฯ.191433/

 

ขอบพระคุณค่ะ ^ ^~~

 

- สัมพหุลสูตรที่ ๑ อ่านว่า สัม พะ หุน ละ สูด ที่ ๑ ถูกไหมคะ
- ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหล่านี้เราเรียกว่า เวทนา ฯลฯ (พึงขยายความให้พิสดารเหมือนสูตรต้นๆ )
ในวงเล็บหมายความว่ายังไงคะ ต้องอ่านตามปกติรึเปล่าคะ
ว่า...วงเล็บเปิด พึงขยาย...สูตรต้นๆ วงเล็บปิด ใช่ไหมคะ

- [๔๒๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กามคุณ ๕ เหล่านี้ ฯลฯ (เหมือนข้อ ๔๑๓ ถึงข้อ ๔๒๔)
.....อ่านว่า.....วงเล็บเปิด เหมือนข้อ ๔๑๓ ถึงข้อ ๔๒๔ วงเล็บปิด.....ต้องอ่านแบบนี้รึเปล่าคะ
แล้วหมายความว่ายังไงคะ

ขอความกรุณาแนะนำให้เอ๊ะด้วยนะคะ
สาธุ_/|\_อนุโมทามิ

 

ขอเสริมพี่ผ่อนว่า เคยมีสมาชิกสอบถามตรงนี้มาแล้ว
และพี่กบได้ไปค้นหาพระไตรปิฎกต้นฉบับมาดู จะเห็นว่าในเวบ 84000 จะพิมพ์ตามเนื้อความในพระไตรปิฎกเลย

สำหรับเราก็ทำหน้าที่เปลี่ยนจากอักษรออกมาเป็นเสียงคือแทนที่ผู้ศึกษาจะอ่านพระไตรปิฎกเองเราก็ทำหน้าที่อ่านให้ฟังค่ะ ส่วนความเข้าใจในเนื้อความนั้นก็เหมือนการศึกษาพระไตรปิฎกตามปกติ คือคงต้องฟังซ้ำไปซ้ำมา(หรืออ่านซ้ำไปซ้ำมา) เมื่อไม่เข้าใจก็ถามผู้รู้อีกครั้ง

 

สัลเลขสูตร อ่านว่า สัน ละ เล ขะ สูด หรือสัน ละ เลข สูด คะ??
</pre>

 

ขอบพระคุณค่ะ __/|\__

 

อัฏฐสตปริยายวรรคที่ ๓ อ่านว่า อัด ถะ สะ ตะ ปะ ริ ยา ยะ วัก ถูกไหมคะ​

สิวกสูตร อ่านว่า สิ วะ กะ สูด ถูกไหมคะ​

พระวิหารเวฬุวัน กลันทกนิวาปสถาน อ่านว่า กะ ลัน ทะ กะ นิ วา ปะ สะ ถาน ใช่ไหมคะ​

โมฬิยสิวกปริพาชก อ่านว่า โม ลิ ยะ สิ วก ปะ ริ พา ชก / โม ลิ ยะ สิ วะ กะ ปะ ริ พา ชก​

สมุฏฐาน อ่านว่า สะ มุด ตะ ถาน / สะ หมุด ตะ ถาน / สะ หมุ ตะ ถาน​

เสมหะ ๑ อ่านว่า เสม หะ / เส มะ หะ​

รบกวนลุงๆ ป้าๆ พี่ๆ น้องๆ มิตรธรรม เมตตานะคะ __/|\__ ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
(เอ๊ะไม่อยากอ่านผิด เดี๋ยวจะโดนครูใหญ่ตีค่ะ)​

 

มีอีกค่ะ เหอๆๆ
ญาณสูตร อ่านว่า ยาน นะ สูด ถูกไหมคะ

สมณพราหมณสูตรที่ ๑ อ่านว่า สะ มะ นะ พรัม มะ นะ สูด ใช่ไหมคะ

สุทธิกสูตร อ่านว่า สุด ทิ กะ สูด รึเปล่าคะ

นิรามิสสูตร อ่านว่า นิ รา มิ สะ สูด

สาธุ_/|\_อนุโมทามิ

 

คุณพี่ผ่อนฯ / คุณพี่กบค่ะ
รบกวนถามค่ะ ว่าเจอบทพระสูตร ดังที่ทำสีแดงไว้แล้วนี้ คืออะไรค่ะ (Refer ?)
และต้องอ่านอย่างไรค่ะ
กราบขอบพระคุณค่ะ

********************************************

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
สุญญตวรรค
๕. ทันตภูมิสูตร (๑๒๕)<O</O​

“ …………………….
<O</O
[๓๙๘] ตถาคตจึงแนะนำเธอให้ยิ่งขึ้นไปว่า ดูกรภิกษุ มาเถิด เธอจง …. (๑. เหมือนข้อ ๙๕ ถึงข้อ ๙๙ ) เป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ แต่อย่าตรึกวิตกที่เข้าประกอบกับกาย ….

[๓๙๙] เธอ เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีกิเลส เครื่องยียวนปราศจากอุปกิเลส เป็นจิตอ่อนโยน ควรแก่การงานตั้งมั่น ถึงความไม่หวั่นไหวอย่างนี้แล้ว ย่อมน้อมจิตไปเพื่อปุพเพนิวาสานุสติญาน ระลึกขันธ์ที่อยู่อาศัยในชาติก่อนได้เป็นอเนกประการ คือระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง ฯลฯ <SUP>๑-</SUP> เธอย่อมระลึกขันธ์ที่อยู่อาศัยในกาลก่อนได้เป็นอเนกประการ พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศเช่นนี้ ฯ<O</O

[๔๐๐] เธอ เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีกิเลส เครื่องยียวนปราศจากอุปกิเลส เป็นจิตอ่อนโยน ควรแก่การงานตั้งมั่น ถึงความไม่หวั่นไหวอย่างนี้แล้ว ย่อมน้อมจิตไปเพื่อญาณเครื่องรู้จุติและอุปบัติของสัตว์ทั้งหลายมองเห็นหมู่สัตว์กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ฯลฯ <SUP>๒-</SUP> ย่อมทราบชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรมเช่นนี้ ฯ<O</O

[๔๐๑] เธอ เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีกิเลสเครื่องยียวนปราศจากอุปกิเลส เป็นจิตอ่อนโยน ควรแก่การงานตั้งมั่น ถึงความไม่หวั่นไหวอย่างนี้แล้ว ย่อมน้อมจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ รู้ชัดตามเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ @๑. เหมือนข้อ ๒๔ ฯ ๒. เหมือนข้อ ๒๕ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ที่ดับทุกข์ นี้ปฏิปทาให้ถึงที่ดับทุกข์ รู้ชัดตามเป็นจริงว่า<O</O

……………………. ”<O</O




</PRE>

 

<CENTER>ขอรบกวนถามคำนเหล่านี้ด้วยค่ะ</CENTER><CENTER>มณิถูณวิมาน อ่านว่า...........................
</CENTER><CENTER> มัฏฐกุณฑลีวิมาน อ่านว่า......................................</CENTER><CENTER>อุโลก อ่านว่า.................................................</CENTER><CENTER>

อเนกวัณณวิมานที่ อ่านว่า.............................​

กัณฐกวิมาน อ่านว่า.....................................
สุวรรณวิมานอ่านว่า สุ-วัน-วิมานหรือสุ-วัน-นะ-วิมาน

รูปิยะ อ่านว่า...............................

อุปัสสยทายกวิมาน อ่านว่า.....................
ยวปาลกวิมาน อ่านว่า.............................
กุณฑลีวิมาน อ่านว่า...................


</CENTER>

 

เขตตูปมาเปตวัตถุ อ่านออกเสียงว่า....................
ปูติมุขเปตวัตถุ . อ่านออกเสียงว่า....................
สูกรเปตวัตถุ อ่านออกเสียงว่า.........................
ปิฏฐธีตลิกเปตวัตถุ อ่านออกเสียงว่า....
โคณเปตวัตถุ อ่านออกเสียงว่า....
อุรคเปตวัตถุ. อ่านออกเสียงว่า................................
ติโรกุฑฑเปตวัตถุ อ่านออกเสียงว่า..................................
โคณเปตวัตถุ
อ่านออกเสียงว่า...............................
มหาเปสการเปตวัตถุ
อ่านออกเสียงว่า.................................






ปัญจปุตตขาทิกเปตวัตถุ
สัตตปุตตขาทิกเปตวัตถุ



ขลาตยเปตวัตถุ

 

<CENTER>คำนี้ด้วยค่ะ............... สังสารโมจกเปตวัตถุ</CENTER><CENTER>ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ</CENTER>