พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <TABLE class=tborder id=post1076105 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] วันนี้, 03:17 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#16361 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พุทธันดร<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1076105", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:25 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    ข้อความ: 360 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 1,483 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 4,081 ครั้ง ใน 361 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 451 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1076105 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG] [​IMG]
    การมอบพระประจำตัวนี่ เป็นเรื่องวาระครับ หาที่เข้ากับดวงชาตาค่อนข้างลงตัวยากมากครับ ของคุณแด๋นจนป่านนี้ยังไม่ลงตัวเลย ส่วนของผมเลือกองค์ที่เน้นธาตุน้ำเป็นตำแหน่งศรี ธาตุดินเน้นตำแหน่งมนตรี สีฟ้าในตำแหน่งกัมมะอาชีพการงานนั่นเอง สีขาวเป็นธาตุทอง สีเขียวกลับไม่เน้นมากเพราะทักษาเดิมเป็นสีเขียวในตำแหน่งบริวารแล้วนั่นเอง เรียกว่าเสริมจุดอ่อนให้แข็งแรงมากขึ้น...


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    รอนานเท่าไหร่ก็ได้ค่ะคุณเพชร
    มีค่าปรับเป็นองค์ขวามือนะ อิอิ
    <!-- / message -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เป็นความตั้งใจที่จะมอบค่าปรับให้คุณแด๋นเป็นพระสมเด็จปัญจสิริไตรโลกอุดรอยู่แล้วจริงๆครับ และรู้สึกว่าองค์พระที่มีธาตุทอง(สีขาว)นี้น่าจะเหมาะกับคุณแด๋นด้วยนะครับ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อันที่จริง ผมพึ่งค้นพบพิมพ์ที่ 5 ซึ่งเป็นพิมพ์ที่มีฐาน 9 ชั้น ดูออกนักเลงนะครับ

    ผมยังไม่ได้จัดชุดเลยครับ ยุ่งๆอยู่ทั้งเสาร์และอาทิตย์ ไว้วันที่เราไปพบกัน ผมจะนำไปให้ชมกัน(ถ้าไม่ลืม) ฝากน้องเอเตือนด้วยนะครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณรบช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    http://palungjit.org/showthread.php?t=21733&page=98

    <TABLE class=tborder id=post1071997 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">29-03-2008, 05:16 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1946 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1071997", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 12:17 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 3,578 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 74 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 31,326 ครั้ง ใน 3,424 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3491 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1071997 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->
    โต(กุมาน้อย) ขออนุโมทนาบุญเป็นอย่างยิ่ง....ตอนนี้ได้เจ้าภาพไว้แล้ว 26 รูป และขออนุโมทนาบุญ..ถึงคุณอ้อ (ที่อยู่ประเทศอเมริกา) ที่แจ้งมารับเป็นเจ้าภาพ "บวชสามเณร เพื่อเรียนหนังสืออีก..น่าจะ 10 รูป เพราะพระ อ. ท่านบอก...ถ้ารวมของคุณอ้อด้วยก็ 30 กว่ารูปแล้ว....
    อานิสงส์ที่ทุกท่านรับเป็นเจ้าภาพบวชเณร..1.000 บาทนั้น อีกส่วนหนึ่งที่เหลือจากการจัดงานบรรพชา..ก็นำมาซื้อหนังสือเรียน..โยมได้บุญสองประการ..สาธุ...สาธุ..สาธุ....

    [​IMG]


    <!-- / message -->โต๊ะไม้สักเป็นโต๊ะนักเรียนชุดละ 1,200 บาท ทางสำนักเรียนต้องการสร้างทั้งหมด 100 ชุด..
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียน พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่าน


    สำหรับพระบรมสารีริกธาตุ (วรรณะสีทองอุไร วรรณณะสีขาวนวล และพระเสโทธาตุ) และพระธาตุ (พระโมคคัลลานะเถระเจ้า ,พระสารีบุตรเถระเจ้า ,พระอนุรุทเถระเจ้า ,พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า ,พระธาตุหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ) ,พระพุทธรูปปางลีลา ,พระพุทธรูปปางนาคปรก ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(นั่งตอไม้) ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ,หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า(เนื้อหิน) ,พระอานนท์เถระเจ้า(เนื้อหิน) ,พระสังกัจจายนะ และพระควัมปติ ที่ผมจะอัญเชิญไปสรงน้ำและพระพุทธรูป(หินเขียวโขง) ที่พี่ท่านนึงจะอัญเชิญไปสรงน้ำนั้น

    การสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุ ผมจะใช้น้ำเปล่าสรง ส่วนพระพุทธรูป,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ฯลฯ ผมจะใช้น้ำอบไทยสรง

    ดังนั้น พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่าน ขอให้นำขวดน้ำที่ไม่ได้ใช้ไปด้วยนะครับ จะได้ขอต่อน้ำที่สรงพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุกลับไปบ้าน ไว้ดื่มหรืออาบได้ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตนเองและครอบครัว

    ส่วนน้ำอบไทยที่สรงพระพุทธรูป,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ถ้าท่านต้องการน้ำที่สรง ขอให้นำขวดเปล่าอีกขวด เพื่อไปต่อน้ำที่สรงด้วยนะครับ

    ผมยังมีตะกรุดแจกสำหรับทุกๆท่านด้วยนะครับ

    มาย้ำห้ามพลาดโดยเด็ดขาด ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งสิ่งที่เป็นสิริมงคลกลับบ้าน ได้ทั้งมาพบหน้า มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ผมเองแทบจะเร่งวันเร่งคืนให้ถึงไวๆ (ไม่ใช่มาม่า) นะครับ



    ผมมาแจ้งข่าวเพิ่มเติมเรื่องของการไปร่วมทำบุญและพบปะสังสรรค์กันในครั้งหน้า ผมได้รับข่าวดีมาก เนื่องจากพระอาจารย์รูปหนึ่งที่ผมได้ติดต่อนิมนต์มาร่วมในงาน ทางพี่ท่านนึงแจ้งข่าวมาว่า พระอาจารย์จะลงมา เพื่อแจ้งข่าวงานบุญสร้างศาลาปฎิบัติธรรมที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งยังขาดงบประมาณในการก่อสร้าง ประมาณหนึ่งแสนกว่าบาท

    ดังนั้น ผมจึงมาเรียนพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่าน ว่า ผมจะนำล็อคเก็ตหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ด้านหลังเป็นหลวงพ่อเงิน 1 องค์ ไปมอบให้กับผู้ร่วมทำบุญ 7,777 บาท ,ล็อคเก็ตหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ด้านหลังเป็นหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก 1องค์ มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญ 6,666 บาท ,พระสมเด็จ(เนื้อปูนเพชรผสมพระธาตุ) มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 4,444 บาท ,สมเด็จกลักไม้ขีด มอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญ 5,000 บาท และพระสมเด็จอกครุฑ(รุ่น2) มอบให้กับผู้ที่ร่วมทำบุญ 2,000 บาท ,พระสมเด็จ(ที่สร้างก่อนปี พ.ศ.2415 และทันสมเด็จพระพุฒจารย์โต พรหมรังสี ซึ่งแต่เดิมผมจะแจกฟรี) มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 300 บาท อีกทั้งยังมีตะกรุดซึ่งพระอภิญญาใหญ่ท่านอธิษฐานจิต(เช่นหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ,หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าฯลฯ) แจกฟรี ซึ่งหลังจากงานในวันนั้น ผมจะเก็บแล้ว และคงไม่นำออกมาแล้วจนกว่าจะถึงวาระและเหตุอันควร

    และขอเรียนเชิญพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่านไปร่วมงานบุญนี้กัน ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดนะครับ

    ส่วนท่านใดจะมาและมากันกี่ท่าน โปรดแจ้งผมก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2551 นี้นะครับ ผมจะได้เตรียมเรื่องอาหารให้เพียงพอกับจำนวนท่านที่จะไปร่วมงานกัน

    สำหรับท่านที่แจ้งเข้ามาแล้วที่จะไปร่วมงานบุญและพบปะสังสรรค์กัน
    1.คุณตั้งจิต 4 ท่าน
    2.คุณพุทธันดร 2 ท่าน
    3.พี่ตุ่น 1 ท่าน
    4.คุณปุ๊ 1 ท่าน
    5.น้องเอ 1 ท่าน
    6.จาน chaipat 2 ท่าน
    7.เพื่อนผม(รัช) 1 ท่าน
    8.คุณkaicp 2 ท่าน
    9.คณะพี่แอ๊ว 3 ท่าน
    10.คุณnongnooo 2 ท่าน
    11.คุณtawatd 1 ท่าน
    12.คุณkwok 1 ท่าน
    13.คุณkhongbeng 1 ท่าน
    14.คุณdrmetta 2 ท่าน
    รวม 24 ท่าน

    ส่วนท่านอื่นๆที่ประสงค์จะไปร่วมงานบุญและพบปะสังสรรค์กัน ผมรบกวนแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ (โพสลงบอร์ดก็ได้หรือโทร.หาผมก็ได้ครับ)

    เรื่องของอาหารที่จะถวายพระภิกษุ 2 รูป และอาหารที่จะเลี้ยงผู้ที่ไปร่วมงาน ผมจะขอให้ทุกๆท่านที่ไปร่วมงาน ช่วยกันเฉลี่ยค่าใช้จ่ายนะครับ ผมไม่อยากจะรบกวน 2 -3 ท่านที่นำอาหารมาให้เราทานกันทุกๆครั้ง

    ขอขอบคุณและโมทนาสาธุครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผมได้น้ำมนต์จากคุณเพชรมาเรียบร้อยแล้วครับ

    ในวันที่นัดพบกัน ผมจะนำไปเพื่อสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ ,พระธาตุ ,พระพุทธรูป และพระบูชาองค์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และพระสังกัจจายนะ

    โมทนาสาธุครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    "พระสมเด็จ"

    มีผู้คนมากมายที่ประสงค์ที่อยากได้เป็นเจ้าของ นับตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พระองค์ท่านมีพระเมตตาที่ให้ช่างชาวบ้าน ช่วยกันสร้างพระสมเด็จขึ้น ซึ่งการสร้างพระสมเด็จนี้ มีไม่น้อยกว่า 12 ทีมผู้สร้าง อีกทั้งในวังหน้ามีการสร้างพระสมเด็จเช่นกัน ซึ่งรวมแล้วมีอยู่ 13 ทีมผู้สร้าง และพระองค์ท่านก็มีพระเมตตาอธิษฐานจิตให้ เพื่อที่จะไว้แจกจ่ายให้กับพุทธศาสนิกชน ผู้ที่ใจใฝ่ในธรรมะและไว้เพื่อปกป้องตนเองจากภัยอันตรายต่างๆ

    หลังจากนั้นก็ได้มีการศึกษากันมา ผู้ที่ศึกษาในอดีต เป็นเพียงแต่ผู้ที่ได้มี ได้เห็นพระสมเด็จเพียงบางรุ่น ที่ได้ค้นพบจากวัดระฆัง ,จากวัดบางขุนพรหม และจากวัดไชโย (วัดเกษไชโย ไม่มีในสารบบวัดของประเทศไทย) ไม่ได้ศึกษาอย่างจริงๆจังๆ ,ไม่ได้ศึกษาถึงมวลสาร ,ไม่ได้ศึกษาถึงกรรมวิธีการสร้าง ,ไม่ได้ศึกษาถึงพิธีพุทธาภิเษก(ไม่ว่าจะเป็นพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงหรือพิธีพุทธาภิเษกธรรมดา) ,ไม่ได้ศึกษาวิธีการลบผงว่า ลบกันอย่างไร และผงที่ลบได้มีกี่ประเภท จึงได้ตั้งกฎเกณฑ์ก็คือ กติกลุ่มกูขึ้นมาเป็นบรรทัดฐานว่า พระสมเด็จต้องมีพิมพ์นี้ เนื้อนี้เท่านั้น หากแตกต่างกันออกไป ต้องตีว่า "เก๊" ไว้ก่อน และมีการสร้างความต้องการ พระสมเด็จ ขึ้นมา เพื่ออัพราคา จึงทำให้พระสมเด็จบางรุ่น บางพิมพ์ และบางเนื้อ มีราคาที่สูงมากจนบุคคลทั่วไป ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ไว้บูชา ซึ่งผิดกับเจตนาที่องค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านมีพระเมตตาอธิษฐานจิตไว้ให้เพื่อให้บุคคลทั่วๆไป ได้มีโอกาสมีพระสมเด็จไว้เพื่อบูชาและปกป้องคุ้มครองตนเอง

    จากเหตุดังกล่าว(การสร้างความต้องการพระสมเด็จ)นี้ จึงเป็นเหตุทำให้กลุ่มบุคคลที่ทำมาหากินกับพระสมเด็จ จึงต้องยืนพื้น,ยืนยันและนอนยันเกี่ยวกับเนื้อหาทรงพิมพ์ที่กลุ่มตนเองได้สร้างขึ้นไว้ และพระสมเด็จที่กลุ่มตนเองได้ซื้อไว้ในราคาแพง ไม่ให้ราคาตกต่ำ จะทำให้ขาดทุนกันอย่างมโหฬาร

    แต่ในความเป็นจริง พระสมเด็จที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พระองค์ท่านมีพระเมตตาอธิษฐานจิตไว้ให้นั้น มีผู้สร้างถึง 13 ทีม มีพระสมเด็จเป็นจำนวนมาก ผู้ที่มีวาสนาบารมี ก็มีไว้ได้เช่นกัน ไม่ต้องไปหาซื้อในราคาแพงๆ อีกทั้งมีพระสมเด็จบางรุ่น ซึ่งสร้างขึ้นไว้เป็นกรณีพิเศษเช่นกัน เช่น พระสมเด็จ(ปีระกาป่วงใหญ่) ,พระสมเด็จ...1 หรือ 2 ,พระสมเด็จกลักไม้ขีด เป็นต้น

    เรื่องของการประกวดเช่นกัน หากนำพระเข้าประกวดแล้ว การได้รางวัลหรือไม่ได้รางวัลก็ตาม หากนำไปบูชาก็เป็นการบูชาผงปูนเปล่าๆ ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้นเลย

    ผมเคยบอกไปแล้วว่า วิธีการที่จะตรวจสอบว่า ใช่หรือไม่ใช่ ผมว่าไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย แค่นำพระสมเด็จไปให้พระที่ได้วิปัสนาญาณสัก 5 องค์ ขอความเมตตาจากท่านให้ตรวจสอบดูให้ ผลที่ได้นั้นต้องตรงกันทั้ง 5 องค์ แค่นี้ก็รู้แล้วว่า พระสมเด็จแท้หรือไม่แท้

    วันนี้มาบอกเล่าเพียงเท่านี้นะครับ

    โมทนาสาธุครับ

     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หากไม่มีความรู้จริง หรือรู้เพียงแค่ในตำราที่กติกู(หนังสือเซียนพระ) ผมขอเตือนอีกครั้งว่า อย่าได้แสดงความคิดเห็นว่า องค์นี้แท้ องค์นั้นเก๊ องค์โน้นปลอม


    เหตุเนื่องจาก หากไปบอกจากพระแท้ เป็นพระเก๊ หรือบอกจากพระเก๊ เป็นพระแท้ จะเกิดกรรมแก่ตนเอง เมื่อตายไปก็ไปอยู่ในนรกอีกนาน พอกลับขึ้นมาจากนรก ก็ไปเกิดเป็นเปรตอีกนาน ขอให้ท่านผุ้อ่านระวังและพึงสังวรไว้ให้ดี


    แต่หากไม่เชื่อ ก็ไม่มีปัญหา ต้องพิสูจน์เอง พิสูจน์ด้วยตัวเอง ของจริงย่อมพิสูจน์ได้เสมอ 12447 11247 11982


    คนโง่ ย่อมเป็นเหยื่อของ คนฉลาด(ทั้งการปั่นราคาพระ ,ทั้งการสร้างนิทาน ,ทั้งการสร้างความต้องการของตลาด ฯลฯ)


    ผมจะยกตัวอย่างเรื่องของกรรมมาให้อ่านกัน เป็นเรื่องของกรรมที่พระโมคคัลลานะท่านต้องประสบ ไม่มีใครที่สามารถพ้นกรรมได้ หากยังทำกรรมอยู่ครับ

    <TABLE class=tborder id=post1066875 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">27-03-2008, 08:21 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#16299</TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระมหาโมคคัลลานเถระ
    http://www.dhammathai.org/monk/monk59.php

    ท่านมหาโมคคัลลานะ เป็นบุตรพราหมณ์ผู้เป็นนายบ้านชื่อว่า โกลิตะ มารดาชื่อนางโมคคัลลี แต่เดิมชื่อว่า โกลิตะ ตามโคตรแห่งบิดา และถูกเรียกชื่อเพราะ เป็นบุตรนางโมคคัลลีว่า โมคคัลลานะ พอเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาแล้ว พวกภิกษุเรียกกันว่า พระโมคคัลลานะ ทั้งนั้นท่านเกิดใน โกลิตคามไม่ห่างจากเมืองราชคฤห์ สมัยเป็นเด็กได้เป็นสหายที่รักใคร่กันกับอุปติสสมาณพ ผู้มีอายุคราวเดียวกัน และตระกูลของทั้งสองนั้นมั่งคั่ง สมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์และบริวารเท่า ๆ กัน มีความคุ้นเคยสนิทสนมกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เมื่อโกลิตมาณพเจริญวัยขึ้นก็ได้ำปศึกษาเล่าเรียนศิลปะด้วยกันกับอุปติสสมาณพ แม้จะไปเที่ยวหรือไปทำธุระอะไรก็มักจะไปด้วยกันอยู่เสมอ จนกระทั่งเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาก็บวชพร้อมกัน ต่างกันแต่ว่าได้ดวงตาเห็นธรรมครั้งแรกนั้นไม่พร้อมกัน เรื่องราวต่าง ๆ ก่อนอุปสมบทคล้าย ๆ กับพระสารีบุตรตามที่ได้บรรยายมาก่อนหน้านี้
    หลังจากอุปสมบทแล้ว ๗ วัน ได้ไปทำความเพียรอยู่ที่บ้านกัลลวาลมุตตคาม แขวงมคธ เกิดความอ่อนใจนั่งโงกง่วงอยู่ พระบรมศาสดาเสด็จไปที่นั่น ทรงสั่งสอน และแสดงอุบายสำหรับระงับความง่วง ๘ ประการ คือ
    ๑. โมคคัลลานะ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างไร ความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้ เธอควรทำในใจถึงสัญญานั้นให้มาก จะละความง่วงนั้นได้
    ๒. หากยังละไม่ได้ เธอควรตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ตนได้ฟังและได้เรียนมาแล้วด้วยใจของเธอเอง จะละความง่วงได้
    ๓. หากยังละไม่ได้ เธอควรสาธยายธรรมตามที่ตนได้ฟังและได้เรียนมาโดยพิสดาร จะละความง่วงได้
    ๔. หากยังละไม่ได้ เธอควรยอนหูทั้งสองข้างและลูบด้วยฝ่ามือ จะละความง่วงได้
    ๕. หากยังละไม่ได้ เธอควรลุกข้นยืน ลูบนัยน์ตาด้วยน้ำ เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์ จะละความง่วงได้
    ๖. หากยังละไม่ได้ เธอควรทำในใจถึงอาโลกสัญญา คือความสำคัญในแสงสว่าง ตั้งความสำคัญว่ากลางวันไว้ในใจ ให้เหมือนกันทั้งกลางวันและกลางคืน มีจิตใจแจ่มใสไม่มีอะไรห่อหุ้ม ทำจิตอันมรแสงสว่างให้เกิด จะละความง่วงได้
    ๗. หากยังละไม่ได้ เธอควรอธิษฐานจงกรม กำหนดหมายว่าจะเดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ มีจิตไม่คิดไปภายนอก จะละความง่วงได้
    ๘. หากยังละไม่ได้ เธอควรสำเร็จสีหไสยาสน์ คือนอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมกัน มีสติสัมปชัญญะ ตั้งใจว่าจะลุกขึ้น พอเธอตื่นแล้วควรรีบลุกขึ้น ด้วยการตั้งใจว่าจะไม่ประกอบสุขในการนอน จะไม่ประกอบสุขในการเอนหลัง จะไม่ประกอบสุขในการเคลิ้มหลับ
    ครั้นตรัสสอนอุบาย สำหรับระงับความง่วงอย่างนี้แล้ว ทรงสั่งสอนให้สำเหนียกอย่างนี้ว่า "เราจักไม่ชูงวง (คือการถือตัว) เข้าไปสู้ตระกูล จักไม่พูดคำที่เป็นเหตุให้คนเถียงกัน เข้าใจผิดต่อกัน และตรัสสอนให้ยินดีด้วยที่นั่งที่นอนอันเงียบสงัด และควรเป็นอยู่ตามลำพังสมณวิสัยไ เมื่อตรัสสอนอย่างนี้แล้ว พระโมคคัลลานะกราบทูลถามว่า "โดยย่อข้อปฏิบัติเพียงเท่าไร ภิกษุชื่อว่าน้อมไปแล้วในธรรมที่สิ้นตัณหา มีความสำเร็จล่วงส่วนเกษมจากโยคะธรรม เป็นพรหมจารีบุคคลยิ่งกว่าผู้อื่น มีที่สุดกว่าผู้อื่น ประเสริฐสุดกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายไ พระบรมศาสดาตรัสตอบว่า "โมคคัลลานะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ไดเสดับแล้วว่า ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น เธอทราบชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันวิเศษ ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวงได้ เธอได้ประสบเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ดี เธอพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง พิจารณาเห็นด้วปัญญาเป็นเครื่องหน่าย เป็นเครื่องดับ เป็นเครื่องสละ คืนในเวทนาทั้งหลายนั้น เมื่อพิจารณาเห็นดังนั้น ย่อมไม่ยึดมั่น ถือมั่น สิ่งอะไร ๆ ในโลกไม่มีความสะดุ้งหวาดหวั่น ย่อมดับกิเลสให้สงบได้ด้วยตนเอง และทราบชัดว่า ชาตินี้สิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่จะต้องทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะทำอย่างนี้อีกมิได้มี ว่าโดยย่อข้อปฏิบัติเพียงเท่านี้แหละ ภิกษุได้ชื่อว่าน้อมไปแล้วในธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา" ท่านพระโมคคัลลานะได้ปฏิบัติตามโอวาท ที่พระบรมศาสดาตรัสสั่งสอน ก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในวันนั้น
    ครั้นได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว พระโมคคัลลานะได้เป็นกำลังสำคัญของพระบรมศาสดาในการดำเนินกิจการต่าง ๆ ตามที่พระองค์ทรงดำริให้สำเร็จเพราะท่านเป็นผู้มีฤทธิ์มาก จึงได้รับการยกย่องจากสมเด็จพระบรมศาสดาว่า "เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางเป็นผู้มีฤทธิ์" และทรงยกย่องว่าเป็นคู่พระอัครสาวก คู่กันกับพระสารีบุตรในการอุปการะภิกษุผู้เข้ามาบวชในพระธรรมวินัย ดังกล่าวในประวัติพระสารีบุตรว่า สารีบุตรเปรียบเหมือนมารดาผู้ยังบุตรให้เกิด โมคคัลลานะเปรียบเหมือนนางนมผู้เลี้ยงทารกที่เกิดแล้ว สารีบุตรย่อมแนะนำให้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล โมคคัลลานะแนะนำให้ตั้งอยู่ในคุณเบื้องบน ที่สูงกว่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีคำยกย่องว่าพระสารีบุตรเป็นพระอัครสาวกฝ่ายขวา พระโมคคัลลานะเป็นพระอัครสาวกฝ่ายซ้าย พระธรรมเทศนา ของพระโมคคัลลานะไม่ค่อยจะมีที่เป็นโอวาทให้แก่ภิกษุสงฆ์มีเพียงแต่อนุมานสูตร ซึ่งว่าด้วยธรรมินทำให้คนเป็นผู้ว่ายากหรือง่าย ในมัฌิมนิกายกล่าวว่า ท่านพระโมคคัลลานะเข้าใจในนวกรรมคือการก่อสร้าง เพราะฉนั้นเมื่อนางวิสาขามหาอุบาสิกาสร้างบุพพาราม ในเมืองสาวัตถี พระบรมศาสดารับสั่งให้ท่านเป็นนวกัมมาธิฏฐายี คือผู้ควบคุมการก่อสร้าง
    ท่านพระโมคคัลลานะ ปรินิพพานก่อนพระบรมศาสดา มีเรื่องเล่าว่า ครั้งเมื่อท่านพำนักอยู่ ณ ตำบลกาฬศิลา แคว้นมคธ พวกเดียรถีย์ปรึกษากันว่า บรรดาลาภสักการะ ทั้งหลายที่เกิดขึ้นแก่พระบรมศาสดาในครั้งนั้น ก็เพราะอาศัยพระโมคคัลลานะ เพราะสามารถนำข่าวในสวรรค์และนรกมาแจ้งแก่มนุษย์ ชักนำให้ประชาชนเกิดความเลื่อมใส ถ้าพวกเรากำจัดพระโมคคัลลานะเสียได้แล้ว ลัทธิของพวกเราก็จะเจริญรุ่งเรืองขึ้น ลาภสักการะต่าง ๆ ก็จะมาหาพวกเราหมด เมื่อปรึกษากันดังนั้นแล้วจึงจ้างโจรผู้ร้ายให้ลอบฆ่าพระโมคคัลลานะ เมื่อโจรมาท่านพระโมคคัลลานะทราบเหตุนั้นจึงหนีไปเสียสองครั้ง ครั้งที่สามท่านพิจารณาเห็นว่ากรรมตามทันจึงไม่หนี พวกโจรผู้ร้ายจึงได้ทุบตีจนร่างกายแหลกเหลว ก็สำคัญว่าตายแล้ว จึงนำร่างท่าน ไปซ่อนไว้ในพุ่มไม้แห่งหนึ่งแล้วพากันหนีไป ท่านพระโมคคัลลานะยังไม่มรณะ เยียวยาอัตภาพให้หายด้วยกำลังฌานแล้วเข้าไปเฝ้าสมเด็จพระบรมศาสดา แล้วทูลลากลับปรินิพพาน ณ ที่เกิดเหตุ ในวันเดือนดับ เดือน ๑๒ หลังพระสารีบุตร ๑๕ วัน สมเด็จพระบรมศาสดาได้เสด็จไปทำฌาปนกิจแล้วรับสั่งให้นำอัฐิธาตุ มาก่อเจดีย์บรรจุไว้ ณ ที่ใกล้ประตูวัดเวฬุวัน
    http://palungjit.org/showthread.php?t=22445&page=815
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2008
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อันที่จริง ผมพึ่งค้นพบพิมพ์ที่ 5 ซึ่งเป็นพิมพ์ที่มีฐาน 9 ชั้น ดูออกนักเลงนะครับ

    ผมยังไม่ได้จัดชุดเลยครับ ยุ่งๆอยู่ทั้งเสาร์และอาทิตย์ ไว้วันที่เราไปพบกัน ผมจะนำไปฝากน้องเอ น้องเอเตือนด้วยนะครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ่า อาชามchaipat ผิดแล้วครับผิดแล้ว อ้างอิงผิดแล้วครับ

    ตอนนี้ทั้งพี่.... ทั้งพี่สองท่านที่วัดไ.... ได้ยกย่อง "จานchaipat" ให้เป็น "อาชามchaipat" แล้วครับ

    ยินดีด้วยครับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แต่ความพยายามเป็นเลิศจริงๆ ไปนั่งรอเลี่ยมพระเป็นวันๆ
    คราวหน้า น่าจะเรียนเรื่องการเลี่ยมพระ น่าจะดี มีอุปกรณ์เป็นของตนเอง พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ในคณะจะได้ให้เลี่ยมกัน แถมมีรายได้พิเศษอีกทางนึงด้วย
    (tm-love)

    แต่อย่าลืมพี่นะครับ "อาชามchaipat"
    อ๋อ อย่าไปคิดมากด้วยนะครับ

    (evil)
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ chaipat [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อันที่จริง ผมพึ่งค้นพบพิมพ์ที่ 5 ซึ่งเป็นพิมพ์ที่มีฐาน 9 ชั้น ดูออกนักเลงนะครับ

    ผมยังไม่ได้จัดชุดเลยครับ ยุ่งๆอยู่ทั้งเสาร์และอาทิตย์ ไว้วันที่เราไปพบกัน ผมจะนำไปฝากน้องเอ น้องเอเตือนด้วยนะครับ

    .

    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    เข้าใจว่า ครึ้มอก ครึ้มใจ และใจดี แบ่งปันให้น้องครับ
    พี่ปาทาน

    ผมจะเป็นอะไรช่างเถอะ ขออยู่ทางดีๆ ครับ
    แต่รู้อะไร แล้วแอบเนี้ยซิ ผมกลัวครับ



    สาธุครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    กาลามสูตร
    วกเวียนวนวุ่นวาย
    ให้พิสูจน์เองดีที่สุดครับน้องเอ พี่คงไม่พูดแล้วครับ
    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    แต่ความพยายามเป็นเลิศจริงๆ ไปนั่งรอเลี่ยมพระเป็นวันๆ
    คราวหน้า น่าจะเรียนเรื่องการเลี่ยมพระ น่าจะดี มีอุปกรณ์เป็นของตนเอง พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ในคณะจะได้ให้เลี่ยมกัน แถมมีรายได้พิเศษอีกทางนึงด้วย
    (tm-love)

    แต่อย่าลืมพี่นะครับ "อาชามchaipat"
    อ๋อ อย่าไปคิดมากด้วยนะครับ

    (evil)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอคิว เบอร์ 1 คร๊าบบบบบบบบบบบบบ

    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การศึกษาค้นคว้าเรื่องของพระวังหน้าหรือพระวังหลวง หรือวัตถุมงคลของวังหน้าและวังหลวง อีกทั้งพระพิมพ์ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านเมตตาอธิษฐานจิตไว้ให้นั้น มีความแปลก ,มีความมหัศจรรย์ มากขึ้นไปอยู่ทุกขณะ

    สิ่งที่ค้นพบ สิ่งที่ได้เจอเมื่อก่อน เราคิดว่า พิมพ์นี้หรือรุ่นนี้ ดีแล้ว เยี่ยมแล้ว ยอดแล้ว แต่ก็มาเจอในสิ่งที่ดีกว่า เยี่ยมกว่า ยอดกว่า ...... แล้วอนาคตคิดหรือว่าจะไม่มีอีกหรือ เป็นสิ่งที่น่าคิดมากครับ

    เรื่องของการศึกษาค้นคว้า การเรียนรู้นั้น ไม่มีวันจบสิ้นจริงๆ อย่างที่ผมเคยนำคำพูดของ "ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร" มาเล่าสู่กันฟังแล้วนั้น บอกได้คำเดียวว่า "จริงและถูกต้องตามนั้น"

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  13. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  14. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ความรู้ไม่มีวันศึกษาหมดครับ เหมือนอย่างที่เมื่อครู่คุยกับท่านปา-ทาน เราพบว่าอันนี้ดีสุดยอดหายาก แต่ก็ไปเจอสิ่งที่เหนือกว่าเสมอ เปรียบเหมือนเหนือฟ้ายังมีฟ้าครับ หรือภาษาวัยรุ่นหน่อยก็ เหนือกระดาษยังมีซาลาเปาครับ(deejai)
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ aries2947 [​IMG]
    เบอร์ 2 ครับ(evil)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "ท่านโด" เจอหนวดลุงหนุ่มถึงจั๊กจี้แลยนะเนี่ย
    น่าฟัดจริงๆเลย "ท่านโด" ;)

    (tm-love)
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    การศึกษาค้นคว้าเรื่องของพระวังหน้าหรือพระวังหลวง หรือวัตถุมงคลของวังหน้าและวังหลวง อีกทั้งพระพิมพ์ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านเมตตาอธิษฐานจิตไว้ให้นั้น มีความแปลก ,มีความมหัศจรรย์ มากขึ้นไปอยู่ทุกขณะ

    สิ่งที่ค้นพบ สิ่งที่ได้เจอเมื่อก่อน เราคิดว่า พิมพ์นี้หรือรุ่นนี้ ดีแล้ว เยี่ยมแล้ว ยอดแล้ว แต่ก็มาเจอในสิ่งที่ดีกว่า เยี่ยมกว่า ยอดกว่า ...... แล้วอนาคตคิดหรือว่าจะไม่มีอีกหรือ เป็นสิ่งที่น่าคิดมากครับ

    เรื่องของการศึกษาค้นคว้า การเรียนรู้นั้น ไม่มีวันจบสิ้นจริงๆ อย่างที่ผมเคยนำคำพูดของ "ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร" มาเล่าสู่กันฟังแล้วนั้น บอกได้คำเดียวว่า "จริงและถูกต้องตามนั้น"

    โมทนาสาธุครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ซาลาเปา ต้องร้านแถวๆ ศาลเจ้าพ่อเสือ(เสาชิงช้า) อร่อยจริงๆ
    แหะๆ จำชื่อร้านไม่ได้แล้ว แต่ไปถูกน๊ะคร๊าบบบบบบ

    .
     
  17. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เสียดายไปไม่ทันท่านโดที่ว่า แต่ท่านก็เหน็บได้แสบสันต์นะ ขนาดไม่เคยพบกันมาก่อน หึ...หึ...
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นี่คือรูปของ ...
    สมเด็จพระวันรัต(ทับ) วัดโสมนัส
    และกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์(น.ม.ส.)

    http://palungjit.org/showthread.php?p=602767#post602767
    <TABLE class=tborder id=post602767 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">21-06-2007, 08:55 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#98 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ภาพปริศนา ? "พระสงฆ์สอนหนังสือเด็ก" ความเข้าใจผิดอันคลาดเคลื่อน
    [​IMG]

    ใครก็ตามที่ผ่านสายตาไปยังหนังสือซึ่งรวบรวมเรียบเรียงเรื่องราวของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม มาบ้างแล้ว อย่างน้อยต้องพบภาพพระสงฆ์สอนหนังสือเด็ก

    ภาพที่เข้าใจกันว่าเป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)

    อันเป็นภาพที่ปรากฏบนหน้าหนังสือเกี่ยวกับอัตโนประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) อยู่บ่อยๆ จนมีบางท่านเข้าใจคลาดเคลื่อนตลอดมา แท้จริงภาพนี้มีการเข้าใจผิดมาอย่างเนิ่นนาน

    ในนิตยสาร "ชุมนุมจุฬาฯ" ปีที่ 14 เล่มที่ 3 ฉบับ 23 ตุลาคม พ.ศ.2503 ปรากฏการตีพิมพ์ภาพนี้ทั้งบรรยายว่า

    "พระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระปิยมหาราช เมื่อทรงพระเยาว์กำลังทรงพระอักษรกับสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม

    ภาพโดยความเอื้อเฟื้อของ พล.ร.ต.หลวงสุวิชาแพทย์"

    หากสังเกตจะพบว่าสมณศักดิ์ของท่านนั้นผิด สมณศักดิ์ของท่านซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะที่ "พระธรรมกิติ" ในปี พ.ศ.2395 ขณะนั้นท่านมีอายุได้ 64 ปีแล้ว

    ในปี พ.ศ.2397 ทรงแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะที่ "พระเทพกวี" จนกระทั่งปี พ.ศ.2407 ทรงสถาปนาเป็น "สมเด็จพระพุฒาจารย์"

    ขณะเดียวกัน ในคำแถลงจากสาราณียกรของหนังสือ "ชุมนุมจุฬาฯ" ดังกล่าว ก็ว่า "พระบรมฉายาลักษณ์ขององค์สมเด็จพระปิยมหาราชในสมัยยังทรงพระเยาว์อันเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่หาดูได้ยาก อัญเชิญมาประดับเป็นศรีแก่เล่ม เนื่องในวาระสำคัญนี้ด้วย" ยิ่งเสริมความเชื่อเป็นอันมากว่า คือ พระบรมฉายาลักษณ์ ร.5 ครั้งทรงพระเยาว์

    แท้จริงภาพนี้มีที่มาในนิตยสาร "ศิลปวัฒนธรรม" ปีที่ 2 ฉบับที่ 7 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2524 หน้า 33 ปรากฏการตีพิมพ์ภาพใบนี้ พร้อมคำอธิบายจาก "นิวัติ กองเพียร" ว่า รูปนี้ไม่ใช่รัชกาลที่ 5 กับสมเด็จพระพุฒาจารย์ เหตุผลประกอบดังนี้

    1. รูปนี้ได้มาจากหนังสือฝรั่งชื่อ "SIAM"

    2. พัดรองที่วางพิงผนังอยู่นั้น เป็นพัดที่นิยมทำก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาไม่มีความนิยมในการทำพัดรองอีกเลย

    3. ถ้ารูปนั้นเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์จริง ท่านต้องห่มดองและรัดประคดอก มิใช่อย่างที่เห็นในรูป แม้แต่พระรุ่นเก่าที่วัดระฆังโฆสิตาราม ที่เคยเห็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ก็ยืนยันว่ามิใช่สมเด็จแน่

    4. เจ้านายหลายพระองค์ ที่เป็นพระธิดาหรือพระโอรสก็ยืนยันว่า มิใช่พระราชบิดาแน่นอน

    หนังสือฝรั่ง "SIAM" ที่ว่า ก็คือ หนังสือชื่อยาวเฟื้อยว่า "TWENTIETH CENTURY IMPRESSION OF SIAM : ITS HISTORY, PEOPLE COMMERCE, INDUSTRIES, AND RESOURCES WITH WHICH IS INCORPORATED AN ABRIDGED EDITION OF TWENTIETH CENTURY IMPRESSIONS OF BRITISH MALAYA"

    แปลชื่อเป็นไทยว่า "เรื่องน่ารู้ของสยามในศตวรรษที่ 20 ว่าด้วยประวัติศาสตร์ พลเมือง พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม และทรัพยากร รวมเรื่องน่ารู้ของบริติชมลายาในศตวรรษที่ 20 โดยสังเขป" อันเป็นหนังสือที่ตีพิมพ์จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ.2452 อันเป็นช่วงปลายรัชกาลที่ 5 ทั้งยังให้คำอธิบายรูปนี้ไว้ว่า "Buddhist Priest and Disciple"



    นอกจากนี้ ในการจัดทำหนังสือเล่มดังกล่าว สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระกรุณาประทานภาพส่วนพระองค์ อันเกี่ยวเนื่องกับประเทศสยามให้กับผู้จัดทำหนังสือเล่มนี้ด้วย

    อย่างไรก็ตามแต่ ในหนังสือที่ระลึกงานสงกรานต์ชลบุรี ประจำปี พ.ศ.2507 ในเรื่อง "สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)" อันเขียนโดย อธึก สวัสดิมงคล ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ภาพพระสงฆ์สอนหนังสือเป็นภาพที่เข้าใจผิดและคลาดเคลื่อน ดังในหน้า 11 ที่ให้ข้อมูลความเป็นมาของภาพใบนี้จากลายพระหัตถ์หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตอบคำถามของ อธึก สวัสดิมงคล ว่า

    "สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) นั้นไม่ช้าจะเป็นอะไรๆ สักร้อยอย่างเป็นเรื่องหากินทั้งนั้น เดี๋ยวนี้ใครอยากรู้อะไร ก็นั่งวิปัสสนาเอาได้ ไม่ช้าคงต้องร้อนถึงทางการเข้าเล่นด้วยเป็นแน่ มีผู้เอาภาพพระแก่กับเด็กลูกศิษย์สอนหนังสือกัน ฉันจำได้ว่า "โรเบิร์ต เลนส์" ขอประทานให้เสด็จพ่อทรงช่วยทำโปสการ์ดเผยแพร่เมืองไทย และท่านได้ถ่ายรูปฉันแต่งลาวน่าน หญิงเหลือส่องกระจก พร้อมกับทำรูปนี้ด้วย แต่บัดนี้กลายเป็นรูปสมเด็จโตสอนหนังสือพระพุทธเจ้าหลวง แย่จริงๆ น่ากลัวพงศาวดารจะเลอะเทอะกันใหญ่เสียแล้ว"

    สำหรับ โรเบิร์ต เลนส์ เป็นช่างภาพชาวเยอรมัน เจ้าของห้องถ่ายรูปโรเบิร์ต เลสน์ ดำเนินธุรกิจถ่ายรูป เมื่อ พ.ศ.2437 ได้รับพระบรมราชานุญาตให้เป็นช่างภาพราชสำนักรัชกาลที่ 5

    นอกจากนี้ ยังมีผู้กล่าวว่า พระภิกษุในภาพคือ พระครูวิมลคุณากร (ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งภาพดังกล่าวอาจจะไม่ได้ถ่ายที่ชัยนาท ถ้าหากเป็นหลวงปู่ศุขจริง อาจจะถ่าย ณ ตำหนักเหลืองในวังพลเรือเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ก็เป็นไปได้

    ทั้งนี้ เพราะหลวงปู่ศุข จะมาพำนักที่ตำหนักเหลืองเป็นประจำทุกปี เพื่อมาร่วมงานในพิธีไหว้ครูประจำปีของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งทรงเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข

    อย่างไรก็ตาม ไม่อาจสรุปได้ว่าเป็นภาพของหลวงปู่ศุข ทั้งนี้ หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล เมื่อครั้งทรงตอบคำถามของ อธึก สวัสดิมงคล ก็มิได้เอ่ยถึงว่าเป็นพระภิกษุรูปใด

    .......บทความคัดลอกจาก มติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1302
    <!-- / message --><!-- attachments --><!-- / message --><!-- sig -->

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ aries2947 [​IMG]
    เบอร์ 2 ครับ(evil)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    "ท่านโด" เจอหนวดลุงหนุ่มถึงจั๊กจี้แลยนะเนี่ย
    น่าฟัดจริงๆเลย "ท่านโด" ;)

    (tm-love)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    จริงๆ ผมก็เกรงใจ "ลูกน้องท่านโด" อยู่เหมือนกัน แต่เห็นหน้า "ท่านโด"แล้ว อดใจไม่ไหวก็เลยต้องฟัดซะหน่อย
    (||) (||) (||)

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุณตั้งจิต โทร.มาแจ้งผมว่า ได้มาถึงกรุงเทพฯแล้ว แถมตั้งตำแหน่ง "ท่านจ้าว-เมือง"ให้อีกด้วย บอกผมว่า ต้องโทร.มารายงานให้ท่านจ้าวเมืองทราบ

    อ่า นอกจากตำแหน่ง "ท่าน ปา-ทาน"แล้ว คุณตั้งจิตได้ตั้งตำแหน่ง "ท่าน จ้าว-เมือง"อีกตำแหน่งนึง สงกะสัยว่า น่าจะมีตำแหน่งอื่นๆอีกแน่เลย เช่น "ท่าน ปา-กิน" หรือ "ท่าน ปา-รับทาน" หรือไม่ก็ "ท่าน จ้าว-ตำบล" หรือ "ท่าน จ้าว-หมู่บ้าน"

    กลัวอยู่ตำแหน่งเดียว ที่ไม่กล้ารับ คือตำแหน่ง "อา-ชาม" ไม่กล้าวัดรอยกับ อา-ชามchaipat"ครับ หุหุหุ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...