พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างมณฑปครอบ "หลวงพ่อหายโศก"
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=62649


    <TABLE class=tborder id=post414494 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 01:34 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>นักเดินทาง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_414494", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:02 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 38 ปี
    ข้อความ: 893 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,765 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 5,223 ครั้ง ใน 805 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 725 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_414494 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->[​IMG] ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างมณฑปครอบ "หลวงพ่อหายโศก"
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->[​IMG]



    ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญบริจาคปัจจัย เป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างมณฑปเพื่อประดิษฐาน "หลวงพ่อหายโศก" วัดป่าโนนจ่าหอม จ.อุบลราชธานี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สักการะของประชาชนทั่วสารทิศ ว่ากันว่าหากใครแต่งงานแล้วไม่มีบุตร ถ้าได้ไปกราบสักการะอธิษฐานขอความเมตตาจากท่าน จะได้ลูกสมปราถนาทุกรายไป หรือใครมีความทุกข์เรื่องใดแล้วไปกราบขอพรจากท่านก็มักจะประสบความสำเร็จแทบทุกราย

    [​IMG]

    ด้วยเหตุนี้พระอาจารย์ชยางกูร เจ้าอาวาสวัดป่าโนนจ่าหอม จึงมีดำริที่จะสร้างมณฑปเพื่อประดิษฐาน "หลวงพ่อหายโศก" บนอาคาร 2 ชั้น ตรงกลางระหว่างพระพุทธรูปใหญ่ 2 องค์

    [​IMG]

    โดยชั้นล่างจะเป็นห้องสมุดธรรมะ เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชนได้ศึกษาพระธรรม

    [​IMG]

    พระพุทธรูปใหญ่ 2 องค์นี้ก็พิเศษ พระอาจารย์ชยางกูรได้นำเอาเพชรพญานาคขนาดใหญ่พิเศษ ติดไว้บนก้นหอยพระเกศาจนทั่ว และมีเพชรพญานาคสีดำขนาดประมาณฝ่ามือติดที่กลางหน้าผาก เคยมีคนถ่ายรูปแล้วติดดวงเทพมากมาย

    หากท่านใดมีปัญหาเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยด้วยโรคแปลก ๆ ลองไปปรึกษาพระอาจารย์ชยางกูรได้ครับ ท่านเมตตาช่วยรักษาหายมาหลายรายแล้ว

    หากท่านใดสงสัยว่าท่านได้เพชรพญานาคมาอย่างไร ก็ลองไปกราบท่านซักครั้ง ท่านยินดีจะเล่าที่มาให้ฟัง ผมเองก็เคยไปมา 1 ครั้ง ท่านเมตตาพ่นเพชรพญานาคออกมาจากปากให้ผม ตอนที่ท่านพ่นออกมาท่านเคี้ยวหมากอยู่เต็มปาก มันก็น่าแปลกว่าท่านเก็บเอาไว้ในปากได้ยังไง

    เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของท่านผู้ใจบุญ พระอาจารย์ได้มอบเพชรพญานาคสีต่าง ๆ ขนาดเล็กประมาณ 1 ซม ให้แก่ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท ดังนี้

    1. สีแดงรูปทรงรี ขนาด 1 ซม

    [​IMG]
    มีจำนวน 3 เม็ด

    2. สีชมพูอ่อน ทรงรี 1 ซม

    [​IMG]
    มีจำนวน 1 เม็ด

    3. สีขาว ทรงกลม 1 ซม

    [​IMG]
    มีจำนวน 1 เม็ด

    4. สีเหลืองอำพัน ทรงรี 1 ซม

    [​IMG]
    หมดแล้ว

    5. สีเขียวอ่อน ทรงรี 1 ซม

    [​IMG]
    มีจำนวน 6 เม็ด


    การบริจาค
    โดยการโอนเงินเข้าบัญชีของพระอาจารย์
    ชื่อบัญชี พระชยางกูร โชติช่วง
    ประเภทบัญชี ออมทรัพย์
    หมายเลขบัญชี 4750762819
    ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนสรรพสิทธิ์
    โทรศัพท์พระอาจารย์ 083-1254450, 084-8291852


    เมื่อโอนเงินแล้ว แจ้งชื่อที่อยู่เพื่อจัดส่งไว้ในกระทู้ หรือส่งข้อความส่วนตัวมาที่คุณนักเดินทาง หรือติดต่อคุณอนุชา 081-9665710 คุณอนุชาจะเป็นผู้จัดส่งให้ครับ

    ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุกับทุกท่านครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างมณฑปครอบ "หลวงพ่อหายโศก"
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=62649

    <TABLE class=tborder id=post414509 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 01:50 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>นักเดินทาง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_414509", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:02 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 38 ปี
    ข้อความ: 893 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,765 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 5,223 ครั้ง ใน 805 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 725 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_414509 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ความหมายของเพชรพญานาคสีต่าง ๆ

    สีขาวใส เกิดจากนาคราชที่บำเพ็ญเพียรถือศีลปฏิบัติธรรมมานานจนจิตสมาธิแก่กล้า มีความสะอาดค่อนข้างบริสุทธิ์หมดจด มีฤทธิ์มีพลังอันเข้มข้น แต่หนักไปทางเมตตา และปล่อยวาง ผู้ใดมีไว้ครอบครองจะส่งเสริมในด้านพลังสมาธิ จะมีสมาธิจิตดี สงบและมั่นคง อันก่อให้เกิดปัญญาญาณขึ้นตามลำดับ มีความก้าวหน้าในทางธรรม เรียกว่าเป็นพลังธรรมทางบริสุทธิ์และให้ผลในทางเมตตามหาลาภทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ดึงดูดใจผู้คนรอบข้างได้อย่างดี ใครได้อยู่ใกล้แล้วจะรู้สึกสบายใจ ผู้ครอบครองสมควรที่จะเป็นนักปฏิบัติธรรม และต้องสร้างบุญมาพอสมควร มีความใจกว้างพร้อมเสียสละ

    สีแดง เป็นสีแห่งฤทธิ์อำนาจ มีตบะเดชะอันทรงพลัง เป็นที่เกรงขามแก่ผู้ที่ได้พบเห็น ใช้ในทางเสริมสร้างบารมีเกิดกำลังใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยว มีความองอาจน่ายำเกรงยิ่งขึ้นทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเองและมั่นใจแน่วแน่ในความคิดอ่านของตน เพราะสีแดงนี้เป็นสีของนาคราชในวรรณะหัวหน้าระดับผู้นำ เปรียบเสมือนผู้นำทางทหารการปกครอง เป็นอัศวินปกป้องรักษาเมืองบาดาลย่อมมีฤทธิ์อำนาจมากเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบในทางฤทธิ์ทางพลังของฌานสมาธิ มีความเป็นผู้นำซึ่งจะช่วยส่งเสริมสง่าราศี แต่ผู้นั้นต้องเป็นผู้มีคุณธรรมในใจด้วยเพราะมีผลในด้านปกปักรักษาป้องกันแคล้วคลาด ช่วยให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ ได้ด้วย จะได้ไม่เอาไปใช้ในทางผิดๆ

    ชมพู ส่วนใหญ่เกิดจากนาคราชเพศเมีย จึงเหมาะสำหรับผู้หญิง เพราะจะเป็นที่ดึงดูดใจของเพศตรงกันข้าม เนื่องจากมีอนุภาพในทางเมตตามหานิยม สร้างเสริมสง่าราศีมีความโดดเด่นสะดุดตาของผู้ที่ได้พบเห็น ดึงดูดใจผู้อื่นได้ดีและยังบันดาลด้านโชคลาภชื่อเสียง เกียรติยศเงินทอง ยิ่งถ้าเป็นสีชมพูเข้มออกหวาน ซึ่งค่อนข้างหายากด้วยแล้วจะยิ่งมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากขึ้นชนิดที่อาจเรียกได้ว่า รักจนหลงก็ว่าได้ เปรียบเสมือนนางพญาผู้งดงาม อันเป็นที่พึงปรารถนาแก่คนทั้งหลาย ใครเห็นใครรัก ใครเห็นใครหลง เพราะมีพลังดึงดูดสารพัดในทางที่ดีได้อย่างประหลาด เหมาะกับคนที่ต้องการความเด่นเป็นสง่า มีเสน่ห์เรียกความสนใจจากผู้คนรอบข้าง

    สีม่วง สีม่วง หมายถึง พลังที่มีอำนาจลึกลับยากที่จะหยั่งถึงได้ ดังคำว่า”รู้หน้าไม่รู้ใจ” เกี่ยวข้องจิตวิญญาณโอปาติกะภูติผีปีศาจทำให้เกิดความเกรงกลัวไม่กล้าที่จะคิดไม่ดีกระทำไม่ดี เหมือนมีพลังลึกลับจ้องมองอยู่ ยิ่งสีที่เข้มจนเกือบดำไม่ต้องพูดถึงมีพลังลึกลับอานุภาพมากขึ้นเป็นทวีคูณ ป้องกันภูติผีปีศาจคุณผีคุณคนคุณไสยการกระทำย้ำยีต่างๆให้เสื่อมสลายหายไป และเป็นสีที่สามารถดูดซับพลังอำนาจลึกลับทั้งดีและไม่ดีได้ขึ้นอยู่กับผู้ที่เป็นเจ้าของ
    หมายเหตุ…บุคคลที่มีวาสนาครอบครองเพชรนาคาสีม่วงนี้ จะเป็นคนที่มีพลังลึกลับหรือมีสัมผัสพิเศษเรื่องลึกลับบางคนอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้และเป็นคนที่ช่างคิดช่างตรึกตรองเจ้าวางแผน ถ้ามีมากจนกระทั่งออกไปทางหน้ากลัว อาจจะเกิดผลเสียหรือเกิดพลังที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น ควรที่จะฝึกปฏิบัติจิตให้มีความเมตตาหนักแน่นปล่อยวางจากอารมณ์ที่มากระทบ ให้จิตมีแต่ความโปร่งใสบริสุทธิ์จะทำให้อานุภาพของเพชรนาคาสีม่วงนี้จะเปล่งประกายออกมาครอบคลุมทั่วร่างตลอดเวลา เสมือนเกราะแก้วคุ้มครอง


    สีเหลือง มีตั้งแต่สีเหลืองอ่อนจนกระทั่งสีเหลืองเข้าอย่างบุษราคัมหรืออำพัน เป็นสีที่ดึงดูดใจ นำโชคนำลาภได้ดีเช่นกันตามกำลังความเข้มของสี ยิ่งเข้มยิ่งดีมีเมตตามหานิยมในตัวและเป็นสีแห่งการบำเพ็ญ กล่าวคือผู้ที่มีไว้จะชอบที่จะทำบุญให้ท่าน สนใจธรรมะและชอบช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากจะดึงดูดโชคลาภเงินทองแล้ว ก็จะเกิดความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีความราบรื่นในชีวิต ปราศจากอุปสรรค เพราะมีผู้ยินดีช่วยเหลือเกื้อกูล สีเหลืองเป็นสีแห่งการพึ่งพาและการต้อนรับช่วยเหลือ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตการงานราบรื่นสำเร็จและสมหวังในทรัพย์สินเงินทองตา
    มแต่จะอธิฐานใช้ บุคคลโดยทั่วไปจึงมีไว้ได้ตามใจปรารถนา

    สีเขียว มีความเกี่ยวเนื่องกับพวกเทพ พรหม และวิญญาณ อันมีฤทธิ์ มีพลังทางจิตเป็นแก้วสารพัดนึกอย่างดีตามแต่จะอธิฐานขอ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นจะเมตตาสงเคราะห์ช่วยเหลือ อาจใช้เป็นสื่อทางจิตในด้านการติดต่อสื่อสารกับพวกที่อยู่ในโลกทิพย์หรือภพภูมิต่างๆ
    ด้วยดีเพราะสีเขียวของเพชรพญานาคนี้จะช่วยในด้านสมาธิจิตด้วย มีเดชตบะอำนาจ ทำให้จิตสงบรวมลงเป็นสมาธิได้เร็วมีความมั่นคงไม่ค่อยหวั่นไหวโดยง่าย ทั้งยังช่วยคุ้งครองเกิดความแคล้วคลาดปลอดภัยอีกด้วย มีสีเขียวอ่อน เขียวตองและเขียวเข้มแบบเขียวไข่กา ยิ่งเข้มยิ่งมีพลังฤทธิ์มาก ทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ แม้กระทั่งปัญญาความรู้เปรียบเสมือนอำมาตย์ราชครูที่ปรึกษาย่อมมีความรอบรู้และขมังเ
    วทย์เก่งในทุกด้าน จะพูดจาก็เป็นที่น่าเชื่อถือ ทำให้เกิดความเคารพและก่อให้เกิดศรัทธาแก่ผู้ที่ได้ยินด้วยบารมีธรรม
    สีฟ้า หมายถึง ถึงผู้ที่มีบุญวาสนาที่ได้สร้างสมมาในอดีต มีน้ำใจกว้างขวางใสสะอาด น่าเคารพนอบน้อมดังเพื่อนสนิทมิตรสหายสนิทชิดเชื้อกันมานาน พูดจาเจรจาพาทีเข้าทีเข้าท่าติดต่อค้าขายคล่องตัวลื่นไหลสะดวก เป็นผู้ที่
    มีบุญฤทธิ์ที่เหล่าเทพยดาดูแลค้ำชู เดินทางไปไหนมาจะมีความสะดวกสบาย

    สีน้ำเงิน หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจวาสนาบารมีสูงมีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์บารมี เป็นผู้นำผู้ปกครองมีทั้งเดชตบะบารมีเป็นที่เคารพน่าเกรงขามมีขุมทรัพย์มหาศาลที่ซ้อนเร้นอยู่ ดังร่มโพธิ์ร่มไทรที่แผ่กิ่งก้านร่มเย็นที่พักพิงแก่สรรพสัตว์ มีพลังที่ป้องกันศัตรูภัยอันตรายต่างๆทั้งแปดทิศ จะต้องมีเทพพรหมเทวดาดูแลปกปักรักษาตลอดเวลาเสริมสร้างบารมียิ่งขึ้น
    หมายเหตุ…ผู้ที่บุญวาสนาได้ครอบครองจะต้องเป็นผู้ที่บุญวาสนาบารมีมาในอดีตชาติที่สร้างสมมานาน และต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมประจำใจ มิฉะนั้นจะเกิดอาถรรพ์ที่ไม่ดีแก่ผู้ที่ครอบครองเกิดความวิบัติ อย่าหลงอดีตอย่าบ้าอำนาจอย่าอวดเก่งหลงตัวเอง จงทำจิตให้เป็นธรรมชาติมากที่สุดคือการปล่อยวางจากกิเลสตัณหาอุปทาน


    สีส้ม หมายถึงพลังแห่งการป้องกันภัยจากอาวุธภัยอันตรายต่างๆ เป็นพลังที่มีความคิดเด็ดเดียวกล้าหาญกล้าคิดกล้าทำกล้าที่จะเผชิญและเป็นผู้ที่มีความคิดก้าวหน้ายุติธรรมไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เป็นกระแสพลังที่ป้องกันและลดสลายอุปสรรคพลังที่ไม่ดีที่เข้ามากระทบ กระทำให้บุคคลใดผู้ใดที่คิดจะมาเบียดเบียนต้องพ่ายแพ้ตนเองไปในที่สุด มีเทพที่มีคุณธรรมดูแลปกปักรักษา และเป็นสีแห่ง”พระบารมีขององค์พระสยามเทวาธิราช”องค์มหาเทพที่ดูแลปกปักรักษาคุ้มครองประเทศชาติ,ศาสนา,พระมหากษัตริย์ จากภัยอันตรายจากศัตรูผู้ไม่เป็นมิตรที่คิดมากระทำย้ำยี

    สีชา(สีพิเศษ) หมายถึง สีที่มีพลังอานุภาพสามารถที่จะยับยั่งอารมณ์ความคิดที่ใช้แต่อารมณ์ ทำให้สติปัญญาความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ถูกที่ควรที่ตามไม่ทัน จนกระทำพลาดพลั้งผิดพลาดไปจนเกิดความเสียหาย เหมาะกับผู้ที่ขาดแหล่งพึงพิงทางจิตใจหรือผู้ที่มีจิตใจเลื่อนลอยเสร้าเสียใจผิดหวังท้อแท้ และมีความพิเศษก็คือจะมีอานุภาพทางมีโชคมีลาภอย่างที่คาดไม่ถึง ( เป็นสีที่หาพบได้ยาก )

    แต่ตามความเป็นจริงแล้วในการบูชาเพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงนั้น มิใช่บูชาตามความหมายของสีว่าสีนี้ดีอย่างนี้แบบนั้นหรือสีที่เหมาะกับวันเกิดเดือนเกิดแล้วจะได้ตามนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับบุญวาสนาบารมีที่ได้สร้างสมกันตั้งแต่ในอดีตชาติและเคยได้เป็นเจ้าของกันมาก่อน ผนวกในปัจจุบันเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในศีลในธรรมเป็นที่ตั้ง มิฉะนั้นแล้วจะเกิดอาถรรพ์เพทภัยไม่ดีกับตนเอง จึงจำจะต้องมีการอธิษฐานจิต”เสี่ยงบารมี”ตามกำลังบุญวาสนาบารมีของตนเองว่า”สีใดแบบใด”จะคู่ควรกับบุญวาสนาบารมีของตัวเรา หรือได้คำแนะนำจากครูบาอาจารย์ผู้รู้เท่านั้น.

    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างมณฑปครอบ "หลวงพ่อหายโศก"
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=62649

    <TABLE class=tborder id=post414509 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 01:50 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#2 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>นักเดินทาง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_414509", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:02 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 38 ปี
    ข้อความ: 893 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,765 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 5,223 ครั้ง ใน 805 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 725 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_414509 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ความหมายของเพชรพญานาคสีต่าง ๆ

    สีขาวใส เกิดจากนาคราชที่บำเพ็ญเพียรถือศีลปฏิบัติธรรมมานานจนจิตสมาธิแก่กล้า มีความสะอาดค่อนข้างบริสุทธิ์หมดจด มีฤทธิ์มีพลังอันเข้มข้น แต่หนักไปทางเมตตา และปล่อยวาง ผู้ใดมีไว้ครอบครองจะส่งเสริมในด้านพลังสมาธิ จะมีสมาธิจิตดี สงบและมั่นคง อันก่อให้เกิดปัญญาญาณขึ้นตามลำดับ มีความก้าวหน้าในทางธรรม เรียกว่าเป็นพลังธรรมทางบริสุทธิ์และให้ผลในทางเมตตามหาลาภทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ดึงดูดใจผู้คนรอบข้างได้อย่างดี ใครได้อยู่ใกล้แล้วจะรู้สึกสบายใจ ผู้ครอบครองสมควรที่จะเป็นนักปฏิบัติธรรม และต้องสร้างบุญมาพอสมควร มีความใจกว้างพร้อมเสียสละ

    สีแดง เป็นสีแห่งฤทธิ์อำนาจ มีตบะเดชะอันทรงพลัง เป็นที่เกรงขามแก่ผู้ที่ได้พบเห็น ใช้ในทางเสริมสร้างบารมีเกิดกำลังใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยว มีความองอาจน่ายำเกรงยิ่งขึ้นทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเองและมั่นใจแน่วแน่ในความคิดอ่านของตน เพราะสีแดงนี้เป็นสีของนาคราชในวรรณะหัวหน้าระดับผู้นำ เปรียบเสมือนผู้นำทางทหารการปกครอง เป็นอัศวินปกป้องรักษาเมืองบาดาลย่อมมีฤทธิ์อำนาจมากเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบในทางฤทธิ์ทางพลังของฌานสมาธิ มีความเป็นผู้นำซึ่งจะช่วยส่งเสริมสง่าราศี แต่ผู้นั้นต้องเป็นผู้มีคุณธรรมในใจด้วยเพราะมีผลในด้านปกปักรักษาป้องกันแคล้วคลาด ช่วยให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ ได้ด้วย จะได้ไม่เอาไปใช้ในทางผิดๆ

    ชมพู ส่วนใหญ่เกิดจากนาคราชเพศเมีย จึงเหมาะสำหรับผู้หญิง เพราะจะเป็นที่ดึงดูดใจของเพศตรงกันข้าม เนื่องจากมีอนุภาพในทางเมตตามหานิยม สร้างเสริมสง่าราศีมีความโดดเด่นสะดุดตาของผู้ที่ได้พบเห็น ดึงดูดใจผู้อื่นได้ดีและยังบันดาลด้านโชคลาภชื่อเสียง เกียรติยศเงินทอง ยิ่งถ้าเป็นสีชมพูเข้มออกหวาน ซึ่งค่อนข้างหายากด้วยแล้วจะยิ่งมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากขึ้นชนิดที่อาจเรียกได้ว่า รักจนหลงก็ว่าได้ เปรียบเสมือนนางพญาผู้งดงาม อันเป็นที่พึงปรารถนาแก่คนทั้งหลาย ใครเห็นใครรัก ใครเห็นใครหลง เพราะมีพลังดึงดูดสารพัดในทางที่ดีได้อย่างประหลาด เหมาะกับคนที่ต้องการความเด่นเป็นสง่า มีเสน่ห์เรียกความสนใจจากผู้คนรอบข้าง

    สีม่วง สีม่วง หมายถึง พลังที่มีอำนาจลึกลับยากที่จะหยั่งถึงได้ ดังคำว่า
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างมณฑปครอบ "หลวงพ่อหายโศก"
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=62649

    <TABLE class=tborder id=post414782 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 08:38 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#8 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>นักเดินทาง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_414782", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:02 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 38 ปี
    ข้อความ: 893 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,765 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 5,223 ครั้ง ใน 805 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 725 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_414782 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พรหมประกาศิต [​IMG]
    ขอทราบประวัติความเป็นมาของเพชรพญานาคและที่มาของความหมายครับ
    ผมขอร่วมทำบุญด้วย ๑,๐๐๐ บาท ครับ แล้วถ้าจะนำเงินไปมอบให้คุณโต้งในงาน "บุญคุณแผ่นดิน" ที่อยุธยา วันเสาร์นี้ ไม่ทราบว่าจะสะดวกหรือเปล่าครับ
    เอ้อ..แล้วก็ขอทราบวิธีบูชาด้วยครับ และถ้านำไปเลี่ยมเป็นหัวแหวนจะสมควรหรือไม่ อย่างไรครับ.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เรื่องที่มาคงต้องถามคุณอนุชา ส่วนความหมายของสีผมเอามาจากที่อื่นครับ ผมเดาว่าคงเป็นไปในลักษณะของสีออร่าของคน เอาปัจจัยมาให้ผมวันงานได้ครับ อีกไม่กี่วัน จะได้โอนไปพร้อมกันกับของผม ประหยัดค่าโอน ในความคิดเห็นส่วนตัวผมทำหัวแหวนไม่น่าจะมีปัญหา เพียงแต่เวลาล้างมือควรถอดออก

    การบูชา(เอามาจากที่อื่น) ถ้าต้องการรายละเอียดมากกว่านี้ คงต้องโทรไปถามหลวงพ่อเองนะครับ

    การอธิษฐานจิตบูชา.

    การอธิษฐานจิตบูชา
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องของคุณ ( ต่อ 9 ) โดยปรัศนี ประชากร<O:p</O:p


    ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร สงวนลิขสิทธิ์<O:p</O:p


    <O:p</O:p

    <O:p</O:p


    ประเภทของคุณไสย<O:p</O:p

    <O:p></O:p
    1. ลมเพลมพัด การเล่าเรียนอวิชาช้ำทำร้ายผู้คน มีกำหนดปล่อยเพื่อความชำนาญหรือตามกฎข้อบังคับของแต่ละสำนักอาจารย์ เมื่อผู้ใดดวงตก มีเคราะห์กรรม หรือมีวิบากสืบเนื่องจากการนี้ ก็จะถูกคุณไสยที่ถูกปล่อยมาตามลมตามแล้งโดยปราศจากเจตนา เข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่คาดฝัน และผมได้ประสพมาด้วยตนเอง คือเมื่อตอนเป็นเด็กเล็ก ๆ ผมจะไม่นอนกับคุณแม่ จะนอนมุ้งเดียวกับคุณยายและจำความได้ว่าที่บ้านมีแต่คนโดนของถูกคุณไสย เห็นคุณยายท่านนำแป้งเสกมานวดเคล้ากับน้ำมนต์พอกที่ตรงเจ็บปวดก่อนนอนครั้นรุ่งเช้าก่อนล้างหน้าจะแกะแป้งที่พอกออก ผมก็นั่งดูอยู่ทุกคราว จะพบขนหมูป่าเส้นหยาบ ๆ และขนเม่นน้อยใหญ่บ้างขนก็มีลักษณะหงิกงอน่าเกลียดและมากับแป้งมนต์ และต้องพอกอยู่เสมอจนกวาอาการจะบรรเทาเบาลางลง ท่านว่ามันวิ่งได้และเกิดอาการเจ็บปวด จะไม่เชื่อก็ไม่ได้ และทางบ้านได้เคยนิมนต์หลวงพ่อวัดสัตหีบมาทำการรักษาคุณไสยถึงบ้านพัก ผมก็นั่งดูอยู่ด้วย เห็นท่านใช้ปิ๊บใส่น้ำเดียวไฟกลางบ้านพอควันขึ้นท่านก็ใช้น้ำนั้นเสกลาดลงบนตัวคนไข้ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า มีอาการดิ้นไปตามแรงของสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในตัว เห็นสิ่งหนึ่งผุดออกจากศรีษะของน้าสาวลักษณะคล้ายเนยเป็นก้อนขนาดปลายนิ้วก้อย แต่ก็ไม่หายขาดทีเดียว และต้องตายด้วยโรคนี้เป็นที่ทรมานน่าสงสาร ของมันแก่กล้ามันยิ่งสู้หนัก
    <O:p</O:p
    2. คุณคน ผู้ใช้วิชานี้จะเสกของใหญ่ให้เป็นของเล็กแล้วปล่อยให้บินไปสู่ที่ ๆ ต้องการเล่ากันหมอต่อหมอนี้แหละ เกิดคันไม้คันมือขึ้นมาก็ทดสอบกันบ้างเป็นบางครั้ง ทั้ง ๆ ที่บ้านอยู่ห่างกันคนละถิ่นฐานกันยังกระทำถึงกันได้ เพื่อแย่งชิงความเป็นเจ้าเป็นใหญ่ในด้านอวิชามาร หมอคนหนึ่งใช้หัวควายที่ตายจนเหลือเพียงหัวกะโหลกชาวโพลนเห็นแกนั่งเสกจนเหลือนิดเดีวเหมือนตุ๊กตา แล้วปล่อยไปยังหมออีกคนหนึ่ง หมอคนนั้นก็ไม่ใช่เล่นมีการเตรียมพร้อมอยู่เสมอและสามารถถรับไว้ได้ปล่อยคืนเจ้าของเดิมไป บางครั้งคนที่มี......ประพฤติทางนี้ ตนเองไม่เชื่อไมกลัวตัวเองก็อาศัยเรือเป็นที่พำนักตามคลองหลอดในสมัยก่อน เพื่อนบอกว่าวันนี้จะลองของนะแต่ไม่ทำให้เอ็งตายหรอก ทำให้เห็นว่าเป็นของจริงเท่านั้น แล้วก็ปล่อยคุณเนื้อวัวมาโปะที่หัวเรือ วันหลังจึงตามมาถามข่าว เพื่อนที่อาศัยเรือบอกว่าดีว่ะกำลังถังแตกได้เนื้อวัวมาแกงกินอร่อยดี คือ มีเคล็ดอยู่ว่า ถ้าของนั้นไม่เข้าสู่ตัวตนหากนำไปรับประทานเป็นเคล็ดแก้ในการป้องกันกระทำยำยีได้ สับปะเหร่อบางคนเมื่อเผาศพคนทีตายด้วยการถูกกระทำและถ้าเป็นชิ้นเนื้อจะเก็บไว้กินโดยไม่รังเกียจและผมได้รับฟังจากท่านมหามนูญ ยวดยิ่ง ข้าราชการกรมศุลกากร เมื่อครั้งทานยังอยู่ในสมณเพศสำนักวัดเทพศิรินทรวาส เล่าให้ฟังว่า วันหนึ่งมีชายผู้หนึ่งเป็นชาวอิสาญเดินเข้ามาในวัดตรงไปหาท่านที่กุฏิ ขณะนั้นท่านกำลังนั่งสนทนากับพระเณรในวัดหลายองค์ด้วยกัน ชายคนนั้นบอกความประสงค์ว่าจะกลับภาคอิสาญและไม่มีเงินค่ารถหวังจะมาขอเงินจากท่าน ๆ ก็พยายามพูดจาบ่ายเบี่ยงจนชายผู้นั้นเกิดความไม่พอใจ ขู่ว่าจะทำคุณไสยใส่ท่านท่าก็หัวเราะและไม่ยอมเชื่อ ชายผู้นั้นจึงหยิบรองเท้าแตะของท่านมาข้างหนึ่งแล้วเสกอยู่พักหนึ่งรองเท้าแตะนั้นหกตัวลงเหลือเท่าปลายนิ้วก้อยและจะดีดใส่พระเณรเหล่านั้น ท่านจึงยอมเชื่อว่าวิชาเช่นนี้มีอยู่จริง
    <O:p</O:p
    อวิชามารนี้ หากมองอย่างผิวเผินคล้ายจะเก่งกว่าพระคณาจารย์ที่ว่าเก่ง ๆ เสียอีกซ้ำไป เช่นในคราวหนึ่งหลายปีมาแล้วมีการพุทธาภิเษกพระเครื่องที่วัดสว่างฟ้า อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ทางวัดได้เชิญอาจารย์<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]อิน ไม่ทราบนามสกุล</st1:personName> ดูเหมือนจะอยู่ทางจังหวัดอยุธยา มาร่วมเป็นพิธีกร ขณะที่การปลุกเสกดำเนินไปไม่นานพระพิธีธรรมจตุวรรคสวดยังไม่ทันได้ครึ่งจบ กระเป๋าบันจุพระเครื่องของท่านเจ้าคุณวัดอ่าศิลา ซึ่งนำมาเข้าพิธีด้วยวิ่งเกรียวกราวคล้ายหนูวิ่งไล่กัน ครั้นเสร็จพิธีทางวัดขอให้อาจารย์อินลองแสดงให้ดูใหม่ อาจารย์อินบอกว่าก็ได้แต่ให้ตัดสายสิญจ์ออกให้หมดก่อนมิฉะนั้นพระประธานจะกระดอนออกจากแท่นชุกชี ทางวัดจึงจัดการตามสั่งและนำพระปิดตาของวัดใส่พานแว่นฟ้าให้อาจารย์อินลองแสดงให้ดู ปรากฏว่าพระเครื่องนั้นบินออกจากพานแว่นฟ้าขึ้นสู่อากาศเกือบจรดเพดานพระอุโบสถบินตามกันเป็นกลุ่มแลคล้ายฝูงแมลงผึ้ง สักพักพระก็ล่วงลงสู่พื้น แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าพระเครื่องนั้นมีอิทธิฤทธิ์ขึ้น มันคนละเรื่องจะเสกในไม้ให้บินก็ได้และมันก็คงเป็นใบไม้หาใช่ของขลังอะไรไม่
    <O:p</O:p
    เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2496 ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี มห้กระทำพิธีปลุกเสกพระเครื่องที่วัดเขาไชยสน พัทลุง และที่ดังมากคือพระพิมพ์นาคปรกเทพนิมิต คือเสกจนพระดิ้นได้และแปรรูปเป็นพญานาคเมื่อสวดบทภุชงค์บริพัตร เมื่อสร้างเสกจนจบครบพิธีกรรม ฟ ไตรมาส จะทำการส่งไปถึงหิ้งบูชาของผู้ที่ประสงค์จะรับพระก็ได้ ครั้นแล้วได้ปลูกศาลเพียงตาขึ้นและนำพระพิมพ์ทั้งหลายไปทิ้งไว้เป็นระยะทางไกลประมาณ 5 กิโลเมตรโดยทิ้งลงในลำคลอง ในเรื่องนี้มีผู้ที่เชี่ยวชาญทางจิตได้นั่งพิจารณาด้วยญาณแลเห็นพระเครื่องวิ่งอยู่ใต้น้ำเหมือนฝูงปลาเสร็จแล้วกระโดดขึ้นบนศาลเพียงตา หรือที่อาจารย์<st1:personName ProductID="ฉลอง เมืองแก้ว">ฉลอง เมืองแก้ว</st1:personName> นำตะกรุดไปทิ้งกลางทะเลห่างจากฝั่งประมาณ <st1:metricconverter ProductID="2 กิโลเมตร">2 กิโลเมตร</st1:metricconverter> แล้วเรียกวิ่งเข้าสู่ฝั่ง กระแสจิตระดับนี้สามารถเรียนคุณไสยได้ คือสมาธิระดับกลาง ฉะนั้นการที่เราไปเห็นเกจิอาจารย์รูปใดรูปหนึ่งนำพระเครื่องใส่ในบาตรแล้วปลุกจนพระเครื่องนั้นวิ่งเกรียวกราว อย่าตื่นเต้นนัก มันคงละเรื่องคนละวิชา มิใช่จะทำให้พระนั้นขลังหนักขึ้นไปผู้ที่ทำได้เขาเรียกว่าเล่นกล หลอกกันนี่หว่า คือทำให้คานที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงเห็นเข้าแล้วเกิดศรัทธา ทีนี้มาลองพลังจิตของมุสลิมดูกันบ้าง เช่นหม่อนเจ้าเฉลิมศรี จันทรทัต ได้ทรงเล่าถึงเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นให้พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ฟัง มีใจความว่าเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2460 เสด็จพีอของท่านได้สร้างวัดใหม่ขึ้นที่บางลำพู วันหนึ่งขณะที่ช่างกำลังก่อสร้างอยู่ดี ๆ ได้ปรากฎกาฝูงใหญ่พากันบินตรงมายังวังที่กำลังก่อสร้างส่งเสียงร้องเซ็งแซ่ไปหมด คนทั้งหมดต่างพากันมองดูกา ขณะเดียวกันนั้นปรากฏมีลวดหนามสำหรับขึงกั้นรั้วลอยมาในอากาศ ตรงเข้าพันเสาวังตรงช่องลมห่างจากชายคาลงมาเล็กน้อย ขณะที่ลวดหนามตวัดพันเสาบังเกิดเสียงในอากาศคล้ายคนใช้ไม้เรียวหวดไปมาดังเควี้ยว ๆ ผู้คนในวังพากันแตกตื่นโกลาหล รอจนเหตุการณ์สงบลงแล้ว จึงได้ช่วยกันแกะลวดหนามออกจากคอเสานำมาวัดได้ความยามถึง <st1:metricconverter ProductID="40 เมตร">40 เมตร</st1:metricconverter> คิดเป็นนำหนักหลายกิโลกรัม สืบสวนได้ความว่ามีผู้ไม่หวังดีว่าจ้างพวกมุสลิมใช้วิชาคุณไสยมาทำร้าย แต่แพ้บารมีท่านต่อมาเกิดมีเปลวหมูลอยมาตกในวังอีกนำไปชั่งหนักถึง <st1:metricconverter ProductID="3 กิโลกรัม">3 กิโลกรัม</st1:metricconverter> แสดงว่าคนที่รับจ้างกระทำวิชามารร้ายรายนี้มิใช่ชนชาวมุสลิม เพราะมุสลิมจะไม่ยอมแตะต้องกันมันหมู น่าจะเป็นลาวหรือเขมรเสียหลายส่วน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    (เป็นความเชื่อ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องของคุณ ( จบ ) โดยปรัศนี ประชากร<O:p</O:p


    ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร สงวนลิขสิทธิ์<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    3. คุณผี เป็นคุณไสยที่ใช้วิญญาณช่วยจะเป็นวิญญาณคนหรือวิญญาณสัตว์ก็ได้ ปรากฏตามบันทึกของ พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ มีว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี พ.ศ. 2500 เหตุเกิดที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยครอบครัวชาวประมงครอบครัวหนึ่งเป็นลูกจีนเกิดในประเทศไทย หัวหน้าครอบครัวชื่อนาย.......นับถือคริสต์ศาสนา ภรรยาของยานเองเกิดทะเลาะมีปากเสียงกับภรรยาของเพื่อนบ้านชาวมุสลิม ซึ่งมีอาชีพทำการประมงเช่นกัน หลังจากเกิดเหตุได้ 3 วันจนถึงวันที่ 4 เวลา 18.00 น.เศษ เหตุการณ์ประหลาดได้ปรากฏขึ้นที่บ้านของนายเฮง กล่าวคือมีควันสีขาวคล้ายกลุ่มหมอกลอยเข้ามาทางประตูบ้าน พอควันจางปรากฏเห็นหนูสีขาวตัวใหญ่ขนาดแมววิ่งเข้ามาในบ้าน ขณะที่หนูวิ่งไปในทิศทางใดจะปรากฏหมอกควันขาวกระจายไปทั่วตัวหนูนั้น และหากหมอกควันไปกระทบผู้ใดเข้าจะเกิดอาการคล้ายวิกลจริตชั่วระยะหนึ่ง เช่นหัวเราะหรือร้องไห้ขึ้นมาเฉย ๆ ปราศจากเหตุผล คนในบ้านของนายเฮงทั้งครอบครัวและลูกจ้างมีอยู่ด้วยกัน 30 คน เกิดอาการวิกลแก้ผ้าร้องรำทำเพลงตะโกนโหวกหวากกลั่นไปหมดถึง 20 คน นายเฮงเกิดการตกใจสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าให้ช่วยเหลือ โอมายกิอดเฮลต์มี เรียกจนปากแหกถึงใบหูท่านก็ทำไขสือเสียไม่ลงมาช่วยเพราะนับถือพระคริสต์แต่ไม่รู้จักพระคริสต์จะเอาสื่ออะไรมาช่วย สู้ผมนอกศาสนาคริสต์ยังจะดีกว่า คือรู้จักก๊อดหรือพระเจ้านั้นหลังพระพุทธกาล 500 ปี ไม่มีมาเกี่ยวข้อง ก๊อดคำนี้มาจากคำว่า โกฐิฏะ มหาโกฐิฏะเป็นพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล บรรลุปฏิสัมภิทาญาณ 4 ไม่มีชื่อในประภทฉฬภิญญาหรืออภิญญาหก ได้จารึกไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาในแคว้นยูรูซาเล็ม จารึกไปถึงทะเลทรายแล้วหายสาบสูญไป เข้าใจว่าทนความลำบากยากเข็นของธรรมชาติไม่ไหว และอาหารการขบฉันน่าจะไม่สะดวกเท่าที่ควร และดับขันธ์นิพพานในที่สุดได้จารึกคำสอนลงในแผ่นศิลา เมื่อพุทธกาลล่วงไปได้ 500 ปี จึงมีผู้ค้นพบคำสอนดังกล่าวแล้วตั้งเป็นศา...พระเจ้า และในบัญญัติสิบประการมีข้อความบางตอนคล้ายคลึงกับศีลในพุทธศาสนา ผั้ไม่เข้าใจคิดไปว่าเป็นการลอกเลียนศาสนาพุทธ ความจริงไม่ใช่เท่านั้น เรื่องนี้เป็นความลับของโลกและได้ความรู้จากพระอริยคุปธาร ได้พบกับกายทิพย์ของท่านที่หนองหาร จ.สกลนครและสนทนากันจึงทราบความเป็นมาดังกล่าวแล้ว
    <O:p</O:p
    อาการวิกลจริตของคนในบ้านจะเป็นอยู่เพียง 2-3 ชั่วโมง เมื่อหนูขาวหายไป อาการวิกลจริตของคนป่วยในบ้านจะเริ่มดีขึ้น ต่อมาอีก 3-4 ชั่วโมงก็จะปกติดังเดิม อาการที่เกิดขึ้นแก่ครอบครัวนายเฮงติดต่อกันถึง 7 วัน ไม่มีผู้ใดแก้สถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ บังเอิญลูกศิษย์ของโยคีฮาเล็ม ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ทางจังหวัดสมุทรปราการดืทราบเรื่องเข้าก็ไปเยี่ยมครอบครัวนายเฮง และพานายเฮงมาหาท่านอาจารย์<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]โยคีฮาเล็ม ขณะนั้น</st1:personName> พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์กำลังนั่งคุยกับอาจารย์อยู่พอดีท่าอาจารย์โยคีได้นั่งตรวจดูทางฌานสมาบัติแล้ว ได้บอกว่าพวกมุสลิมแกล้งเอา และให้นายเฮงไปจับหนูขาวมาให้ท่าน โดยท่านทำยันต์ผ้าขาวให้นายเฮงไปปิดไว้ที่หน้าประตูบ้าน ต่อมาอีก 2-3 วัน ขณะที่ พ.ต.อ.ชลอ นั่งคุยกับอาจารย์เห็นนายเฮงพร้อมด้วยบริวารราว 20 คน ได้มาเยือนท่านอาจารย์โยคี และได้นำกลุ่มด้ายดิบเป็นรูปหมูแต่ไม่มีเท้ายาวประมาณ 10 นิ้วฟุตมาวางต่อหน้าท่านอาจารย์โยคี และบอกกับท่านอาจารย์ว่าจับหนูขาวได้แล้วแต่มันกลายเป็นผ้าดิบไป นายเฮงเล่าต่อไปว่าในวันต่อมาจากวันที่ได้รับผ้ายันต์จากท่านอาจารย์ไป ได้นำยันต์ไปปิดไว้ที่ขอบประตูตอนบน และประชุมสมาชิกในครอบคัวและเพื่อนบ้านใกล้เคียงคอยสังเกตุการณ์ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ครั้นถึงเวลาประมาณ 18.15 น. ปรากฏกลุ่มควันขาวแป็นกลุ่มหมอกขึ้นที่หน้าประตูบ้านก่อน ครั้นแล้วกลุ่มควันได้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาในบ้านและมีหนูขางตัวเดิมลอยเข้าประตูมา พอผ่านประตูซึ่งมีผ้ายันต์ติดอยู่ หนูขาวตัวใหญ่ก็มีอันเป็นไป กล่าวคือตกลงหน้าประตูนั้นเอง และยืนตัวสั่นอยู่สักครู่หนึ่งก็ล้มลงนอนหงาย และตัวหนูหายวับไป กลายเป็นกลุ่มด้ายดิบผูกเป็นรูปหนูขึ้นแทน นายเฮงกับพวกในบ้านพากันไชโยโห่ร้องกันสนั่นหวั่นไหว และโดดเข้าเก็บกลุ่มด้ายดิบรีบเช่ารถยนต์พาพรรคพวกและครอบครัวมาแสดงความเคารพท่านอาจารย์โยคีในคืนนั้น ต่อมาได้ทราบว่าเหตุการณ์ในบ้านของนายเฮงเป็นปกติสุขตลอดมา ท่านอาจารย์ได้อธิบายว่าที่ใช้ด้ายดิบแปลงเป็นหนูนั้น เขาใช้วิชานัพนาพีผสมกับวิชาวูดู และวิญญาณของผีและวิญญาณของหนูพากลุ่มด้ายดิบให้ลอยเคลื่อนที่เข้ามาในบ้าน เพื่อก่อความโกลาหลพอสมควรและผู้ใช้วิชาลึกลับจะเรียกหนูขาวกลับไป และจะปล่อยกลับมาอีกในเวลาย่ำค่ำ หากแก้ไม่ตกอาจจะเกิดวิกลจริตกันทั้งบ้าน ส่วนผ้ายันต์ซึ่งท่านอาจารย์โยคีได้ให้นายเฮงไปปิดประตูบ้านนั้น เป็นมนต์ถอนวิชาลึกลับเรื่องนี้หนูจึงกลับกลายเป็นกลุ่มด้ายดิบตามเดิม ฝ่ายผู้ใช้วิชาลึกลับกลั่นแกล้งผู้อื่นนั้นเมื่อรู้ตัวว่ามีผู้ที่มีวิชาเหนือกว่าตนแล้ว เพราะหนูไม่กลับไปหา จึงมีความกลัวไม่กล้าทำอีก ผู้ที่แก้ของนี้หากไม่มีศีลธรรมอาจส่งของกลับไปหาผู้ปล่อย และผู้ที่ปล่อยของจะถึงแก่ความตายในทันที แต่ท่านอาจารย์โยคีไม่ได้ส่งหนูกลับไป และสั่งให้นายเฮงนำกุ่มด้ายดิบไปฝังดินเสีย และสั่งสอนไม่ให้จองเวรจองกรรมกันต่อไปอีก นับแต่วันนั้นเป็นต้นมานายเฮงและครอบครัวทั้งหมดหันมานับถือพุทธศาสนาและทำบุญเข้าวัดเช่นเดียวกันพุทธศาสนิกชนทั่ว ๆ ไป
    <O:p</O:p
    4. คุณยา ท่านอาจารย์โยคีฮาเล็บได้เล่าให้ พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ฟังว่า การใช้วิชาลึกลับในประเทศไทยยังไม่รุนแรงเท่าประเทศอินเดีย มีการทดลองกับคนจริง ๆ ว่าผู้ศึกษาจะมีความสำเร็จถึงขั้นใด ตัวท่านเองเคยติดตามคณะเกจิอาจารย์ไปดูการทดลองกับเขาด้วย เหตุเกิดในเขตเมืองกัลกัตตาเวลาเที่ยงตรง เกจิอาจารย์บอกล่วงหน้าว่าจะใช้วิชาคุณยาแก่หญิงแม่ลูกอ่อนคนหนึ่งซึ่งอยู่บ้านตรงข้ามกับบ้านของเกจิอาจารย์ผู้จะทำการทดลองเพียง <st1:metricconverter ProductID="10 เมตร">10 เมตร</st1:metricconverter> มองเห็นหน้ากันชัดเจน ขณะทดลองนั้น เกจิอาจได้ให้หญิงแม่ลูกอ่อนเดินออกมายืนหน้าบ้านของตนก่อน ผู้ที่ไปร่วมทดลองจะได้เห็นเหตุการณ์ถนัดตา พอดี.....ผู้เคราะห์ร้ายเดินอุ้มลูกออกมายืนอยู่หน้าประตูบ้านของนางพอดี เกจิอาจารย์ผู้นั้นเริ่มหยิบขมิ้นผงใส่โถแล้วนำมาวางตรงหน้าเริ่มบริกรรม สักครู่ขมิ้นผงนั้นก็ปลิวขึ้นสู่อากาศเป็นปล่อง และมุ่งตรงไปที่ศรีษะของหญิงเคราะห์ร้ายนั่น พอขมิ้นหมดโถหญิงนั้นก็ล้มลงชักดิ้นชักงอ โลหิตไหลออกจากปากจมูกเปรอะไปหมด และขาดใจตายในเวลาต่อมา ชั่วครู่เดียวลูกน้อยกระเด็นไปนอนร้องไห้อยู่ทางหนึ่ง อาจารย์โยคีเล่าว่ารู้สึกสังเวชสลดใจเหลือเกิน ที่เห็นผู้มีวิชาใช้วิชาลึกลับฆ่าคนปราศจากความผิดไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ ชั้นเดิมท่านตั้งใจว่าจะไม่ศึกษาหาความรู้ถึงวิชาลึกลับนี้เป็นอันขาด ภายหลังเมื่อประสพเหตุการณ์ด้วยตนเองเช่นนี้ ท่าจำไปศึกษาเพิ่มเติมวิชาลึกลับเหล่านี้ไว้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อประสพเคราะห์กรรมดังกล่าวมาแล้ว
    <O:p</O:p
    อีกครั้งหนึ่งเมื่อท่านอาจารย์โยคีก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย ท่านได้ท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ได้พบสำนักเกจิอาจารย์สำนักหนึ่งเป็นชาวมุสลิม มีอาชีพรับจ้างทำร้ายผู้อื่นด้วยวิชาลึกลับ และตั้งตนเป็นอาจารย์รับสอนผู้อื่นที่จะมาเรียนวิชานี้ โดยเรียกค่าสอนเป็นเงิน เมื่อศิษย์ผู้ใดเรียนสำเร็จวิชาแล้วจะต้องทดลองวิชาให้อาจารย์ดู เพื่อให้เป็นที่แน่ใจก่อนจะออกไปหากิน ครั้นอยู่มวันหนึ่งมีผู้มาแจ้งกับท่านอาจารย์โยคีว่าบ่าย 3 โมงเย็นวันนี้ เขาจะทดลองวิชาวูดูและนัพนาพีกัน โดยใช้ยินหมแกไปกินคน อาจารย์โยคีได้ติดตามคณะทดลองไปสังเกตการณ์ด้วยว่าจะเป็นความจริงเพียงไร ปรากฏว่าเกจิอาจารย์คณะนั้นได้เดินทางร่วมกันด้วยกันรวม 4 คน อาจารย์ 1 ศิษย์ 3 ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านกำลังเกี่ยวข้าวกันอยู่อย่างชุลมุนทั้งหญิงและชายสรวมใส่เสื้อผ้าหลากสี ตัวอาจารย์ใหญ่ทำทีเป็นนั่งพักผ่อนใต้โคนต้นไม้ห่างจากผู้คนประมาณ <st1:metricconverter ProductID="10 เมตร">10 เมตร</st1:metricconverter> พอนั่งลงเรียบร้อยเกจิอาจารย์ก็ชี้มือไปยังชายผู้หนึ่งสรวมเสื้อโพกศรีษะขาว ให้ศิษย์ผู้หนึ่งทดลองวิชา ศิษย์คนหนึ่งในคณะเริ่มบริกรรมมนต์ประมาณ 10 นาที ชายผู้นั้นก็ร้องโอ๊ยแล้วล้มลงสิ้นใจตาย และเขาให้ศิษย์อีก 2 คน ทดลองวิชากับหญิงและเด็กผู้ชายอย่างละคน ศิษย์คนที่ 2 และคนที่ 3 ก็ลงมือปฏิบัติการอย่างศิษย์คนแรก ปรากฏว่าต่อจากนั้นประมาณ 15 นาที ปรากฎว่าหญิงคนหนึ่งและเด็กชายคนหนึ่งได้ล้มขาดใจตายเช่นเดียวกับชายคนแรก ครั้นทดลองเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์แล้ว อาจารย์ก็อนุมัติให้ไปทำมาหากินโดยลำพังได้
    <O:p</O:p
    แผ่นดินจีนนอกกำแพงใหญ่มีการนับถือศาสนามุสลิมกันมาก ประกอบด้วยชนหลายเผ่าแย่งที่ทำกิน แย่งทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงปศุสัตว์ในทะเลทราย ( กล่าวในสมัยโบราณ ) แน่นอนที่สุดอวิชาชนิดนี้ย่อมเกิดมีขึ้น และแพร่กระจายไปในหมู่ชนชาวนักเลง ชิงความเป็นใหญ่ด้วยมิจฉาทิฐิ ฆ่าฟันกันไม่มีการหยุดผู้ชนะคือผู้อยู่ผู้แพ้คือผู้ตาย จึงเกิดมีทั้งวิชามารและวิชาฝ่ายธรรมะ นับแต่ประเทศจีนตอนใต้จากบู่ซัว หรือสิงสองยอด ( คือสิบสองเจ้าไทย ) ไปจรดแคว้นซินเกียงภาคเหนือและทิเบต ภิกษุนักพรตทุกสำนักต่างฝึก.......วิชาป้องกันตัวโดยจัดเป็นหลักสูตร ไมยกเว้นแม้ในพงไพรป่าลึกและเกาะในทะเลที่ห่างไกลผู้คน หากจะการศึกษาของการฆ่าคนยกตัวอย่างให้ดู นับว่าไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะใช้ได้ เพราะการศึกษามีกำหนดเป็นขั้นตอนถึง 10 ขั้นตอน ฝึกฝนตั้งแต่เยาววัยจนถึงระยะเวลา 20 ปี จัดอยู่ในขั้นที่ 2-3 หากเป็นวิชาขั้นสูงอาจยังไม่ได้ขั้นที่ 1 ด้วยซ้ำไป ฝึกกันจนถึง 60 ปี จัดเป็นขั้นปรมาจารยหรือหัวหน้าสำนัก และยิ่ง......นี้ยังมีอีก การฝึกของสำนักมาตรฐานเช่นนักพรตช่วนจินก้า หรือนักพรตบู๊ตึงซัว นิยมใช้พลังลมปราณดาวเหนือเป็นมาตรฐาน นอกนั้นใช้วิชากสิณฝึกปรือเป็นวิชาพิเศษเช่นการฝึกเตโชกสิณทำให้เกิดความร้อนจนสามารถเผาไหม้วัตถุหรือทำอันตรายผู้คนได้รังสีที่แผ่ออกเป็นสีแดงขั้นต่ำสุดเรียกฝ่ามือทรายแดง สูงสุดเรียกสุริยันสยบฟ้า ถ้าฝึดด้วยโลหิตกสิณเรียกฝ่ามือโลหิต ถ้าฝึกจากความร้อยระอุของทะเลทรายเรียกฝ่ามือสุริยัน ถ้าสถานที่ฝึกมีอากาศหนาวเย็นจัดเช่นการฝึกของลานะในทิเบตเรียกลุ้ยเท้งอิ้นหรือประทับหัตถ์ใหญ่ จะมีรอยดำเกรียมสำหรับผู้ถูกกระทำร้าย นอกนั้นก็ดัดแปลงเอาจะเป็นนฝ่ามือเย็นเช่นยินหมอกก็ใช้นิลกสิณออกพลังสีเขียว พวกที่อยู่ในดินแดนที่หนาวจัดฝึกได้ผลมาก พลังหยุ่นหลังดึงดูด พลังผลักดัน จนถึงพลังรีลักษณ์คือเพ่งจนเป็นสูญยากาศอากาศเกิดช่องว่างเมื่อดึงพลังกลับคืนอากาศที่ล้อมอยู่ภายนอกจะหมุนตัวและบีบทำลายวัตถุต่าง ๆ จนมีสภาพเป็นผุยผง สำหรับการฝึกของสำนักเส้าหลินมักใช้พลังร้อนเป็นหลัก ส่วนฝ่ายมารฝึกโดยวิธีลัดจากฝ่ามือพิษต่าง ๆ เช่นฝ่ามือซากอสุภะ มีกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ฝ่ามือพิษโดยสะพิษร้ายต่าง ๆ มาสะสมในกายตัวทีละน้อยจนเกิดการต้านทางอยู่ได้ มีรังสีดำและใช้ทำร้ายศัตรูขนาด......ออกจากทวารทั้ง 7 เช่นกันต่อมาวิชาที่ว่านี้เสื่อมลงปราศจากการถ่ายทอด และหมดลงเมื่อสงครามฝิ่นเรียกว่ากบฏอกเซอร์ หรือกบฏมวย จะเอฝ่ามือไปสู้ปืนใหญ่ของอังกฤษมันสู้ไม่ไหวแน่ เอากันว่าของเช่นนี้มีจริง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สงวนลิขสิทธิ์ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร สงวนลิขสิทธิ์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    (เป็นความเชื่อ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมขอฝากเรื่องสำคัญไว้กับทุกๆท่านครับ ในวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2549 นั้น จะมีงานทดแทนบุญคุณแผ่นดินขึ้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันนั้น ผมรบกวนทุกๆท่าน ขอทุกๆท่าน ขอให้ทุกๆท่านนั่งสมาธิเพียงแค่ 5 นาทีก็ยังดี แล้วแผ่เมตตา กรวดน้ำให้กับพระมหากษัตริย์ในอดีตและปัจจุบัน ,บรรพชนของเรา รวมทั้งผู้ที่เสียสละชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อผืนแผ่นดินไทยของพวกเราทุกๆคนด้วยครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .<!-- / message --><!-- sig -->
     
  8. khongbeng

    khongbeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +657
    [​IMG]


    สาธุครับ ผมก็มีอยู่ 1 วง แต่ไม่รู้ว่าใช่เพชรพญานาคหรือเปล่า

    มีคนบอกว่าคนเกิดพฤหัส เหมาะกับสีน้ำเงินหรือม่วง เลยติดตัวประจำ...
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ศิษย์พี่ดูไม่เป็นอะ เรื่องเพชรพญานาคนี้ (f)

    ต้องให้คุณนักเดินทางดูให้แล้วละ


    <TABLE class=tborder id=post415409 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 12:14 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2633 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>โสระ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_415409", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 12:14 PM
    วันที่สมัคร: Sep 2005
    อายุ: 29 ปี
    ข้อความ: 32 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 6 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 219 ครั้ง ใน 27 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_415409 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เกิดวันพฤหัส สีน้ำเงินก็ok แต่สีม่วงอย่าใส่เชียวนะครับ สีกาลีของวันพฤหัส
    <!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("415409")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --><!-- Start Post Thank You Hack -->[​IMG] <!-- End Post Thank You Hack --><!-- Start Post Groan Hack -->[​IMG] <!-- End Post Groan Hack -->[​IMG] [​IMG] [​IMG] <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post 415409 popup menu -->
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead>โสระ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ดูรายละเอียดของ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ โสระ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ โสระ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>เพิ่ม โสระ ในรายชื่อคู่หูของคุณ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / post 415409 popup menu --><!-- / close content container --><!-- / post #415409 --><!-- Start Post Thank You Hack --><SCRIPT type=text/javascript><!--function post_thanks_give_415409(){ fetch_object('post_thanks_button_415409').style.display = 'none' fetch_object('post_groan_button_415409').style.display = 'none' do_thanks_add = new vB_AJAX_Handler(true) do_thanks_add.onreadystatechange(thanks_add_Done_415409) do_thanks_add.send('showthread.php?do=post_thanks_add_ajax&p=415409')}function thanks_add_Done_415409(){ if (do_thanks_add.handler.readyState == 4 && do_thanks_add.handler.status == 200) { fetch_object('post_thanks_box_415409').innerHTML = do_thanks_add.handler.responseText }}function post_thanks_remove_all_415409(){ do_thanks_remove_all = new vB_AJAX_Handler(true) do_thanks_remove_all.onreadystatechange(thanks_remove_all_Done_415409) do_thanks_remove_all.send('showthread.php?do=post_thanks_remove_all_ajax&p=415409') fetch_object('post_thanks_button_415409').style.display = '' fetch_object('post_groan_button_415409').style.display = '' }function thanks_remove_all_Done_415409(){ if (do_thanks_remove_all.handler.readyState == 4 && do_thanks_remove_all.handler.status == 200) { fetch_object('post_thanks_box_415409').innerHTML = do_thanks_remove_all.handler.responseText }}function post_thanks_remove_user_415409(){ do_thanks_remove_user = new vB_AJAX_Handler(true) do_thanks_remove_user.onreadystatechange(thanks_remove_user_Done_415409) do_thanks_remove_user.send('showthread.php?do=post_thanks_remove_user_ajax&p=415409') fetch_object('post_thanks_button_415409').style.display = '' fetch_object('post_groan_button_415409').style.display = '' }function thanks_remove_user_Done_415409(){ if (do_thanks_remove_user.handler.readyState == 4 && do_thanks_remove_user.handler.status == 200) { fetch_object('post_thanks_box_415409').innerHTML = do_thanks_remove_user.handler.responseText }}//--></SCRIPT><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat></TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29></TD></TR><TR><TD class=alt1></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <!-- End Post Thank You Hack --><!-- Start Post Groan Hack --><SCRIPT type=text/javascript><!--function post_groan_give_415409(){ fetch_object('post_groan_button_415409').style.display = 'none' fetch_object('post_thanks_button_415409').style.display = 'none' do_groan_add = new vB_AJAX_Handler(true) do_groan_add.onreadystatechange(groan_add_Done_415409) do_groan_add.send('showthread.php?do=post_groan_add_ajax&p=415409')}function groan_add_Done_415409(){ if (do_groan_add.handler.readyState == 4 && do_groan_add.handler.status == 200) { fetch_object('post_groan_box_415409').innerHTML = do_groan_add.handler.responseText }}function post_groan_remove_all_415409(){ do_groan_remove_all = new vB_AJAX_Handler(true) do_groan_remove_all.onreadystatechange(groan_remove_all_Done_415409) do_groan_remove_all.send('showthread.php?do=post_groan_remove_all_ajax&p=415409') fetch_object('post_groan_button_415409').style.display = '' fetch_object('post_thanks_button_415409').style.display = '' }function groan_remove_all_Done_415409(){ if (do_groan_remove_all.handler.readyState == 4 && do_groan_remove_all.handler.status == 200) { fetch_object('post_groan_box_415409').innerHTML = do_groan_remove_all.handler.responseText }}function post_groan_remove_user_415409(){ do_groan_remove_user = new vB_AJAX_Handler(true) do_groan_remove_user.onreadystatechange(groan_remove_user_Done_415409) do_groan_remove_user.send('showthread.php?do=post_groan_remove_user_ajax&p=415409') fetch_object('post_groan_button_415409').style.display = '' fetch_object('post_thanks_button_415409').style.display = '' }function groan_remove_user_Done_415409(){ if (do_groan_remove_user.handler.readyState == 4 && do_groan_remove_user.handler.status == 200) { fetch_object('post_groan_box_415409').innerHTML = do_groan_remove_user.handler.responseText }}//--></SCRIPT>
    <!-- End Post Groan Hack --><!-- start adv-->



    <!-- / close content container --><!-- / post #415409 --><!-- post #415423 --><!-- open content container -->
    <TABLE class=tborder id=post415423 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date -->[​IMG] วันนี้, 12:26 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2634 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>นักเดินทาง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_415423", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 12:26 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 38 ปี
    ข้อความ: 898 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,767 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 5,247 ครั้ง ใน 811 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 728 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_415423 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ศิษย์พี่ดูไม่เป็นอะ เรื่องเพชรพญานาคนี้ (f)

    ต้องให้คุณนักเดินทางดูให้แล้วละ

    .

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ดูแต่รูปตอบไม่ได้หรอกครับ ต้องได้เห็นได้สัมผัสถึงจะรู้ แค่เราเชื่อมั่นกับของที่เรามีก็ดีแล้วครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2006
  10. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Chayutt [​IMG]
    และ...โดยส่วนตัวผมเอง ผมไม่เคยลืมเลยว่า ผมพาตัวเองมาเกี่ยวข้องกับพระศิวพลเพราะเหตุใด เพื่อสร้างบุญบารมีของตัวผมเอง เพื่อช่วยท่านสร้างพระ 81 องค์ ซึ่ง 9 องค์ในนี้คือหลวงปู่เทพโลกอุดรนี้นั่นเอง

    ผมไม่เคยรู้จักท่านพระศิวพลมาก่อน ผมไม่ค่อยสนใจว่าท่านจะบรรลุอะไรระดับไหน อีกทั้งไม่สนใจว่าท่านจะรู้จริงเรื่องประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดรหรือไม่อย่างไร และก็อย่างที่ผมเคยเล่าให้คุณสิทธิพงษ์ฟังนั่นแหละครับ ว่าผมเองก็แทบไม่เคยถามข้อธรรมะกับท่านเลย (มีถามอยู่ครั้งเดียว เมื่อไม่นานมานี้) เพราะสายที่ผมฝึกไม่ตรงกับท่าน และผมไม่ใช่คนที่เอะอะอะไรก็เอาแต่ถามครูบาอาจารย์อย่างเดียว ผมเป็นประเภทชอบดั้นด้นหัวชนฝาแบบสุดกำลังเอาเองก่อน ให้รู้ก่อนว่าไม่ได้จริงๆแล้วค่อยถาม อะไรทำนองนั้น

    ที่ผม"ไม่เห็นด้วย" กับคุณไม่ใช่เพิ่งจะไม่เห็นด้วยหรอกนะครับ แต่ไม่เห็นด้วยทุกครั้งที่คุณโทรมาเล่าเรื่องจับผิดพระศิวพล หรือไม่เชื่อพระศิวพลให้ผมฟังอยู่เนืองๆ เหตุผลที่ไม่เห็นด้วยเพราะ
    1. ผมเชื่อว่าท่านมีศรัทธาที่จะสร้างพระ 81 องค์ ตามบัญชาเบื้องบน เพื่อลดภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นเร็วๆจริง

    2. ผมเชื่อว่าท่านเป็นพระปฏิบัติดีอีกองค์หนึ่ง จริง

    ดังนั้นประเด็นที่ว่าท่านจะรู้จริงเกี่ยวกับประวัติหลวงปู่ใหญ่หรือไม่ เป็นเรื่องขี้ประติ๋วมากสำหรับผม นั่นไม่ระคายเคืองศรัทธาที่ผมตั้งใจจะช่วยท่านสร้างพระ 81 องค์นี้เลย

    3. ทุกครั้งที่จิตคุณคิดจับผิดพระศิวพล ผมและคนอื่นๆก็พอจะเดาออกว่าจิตของคุณเองหนะแหละที่จะขุดหลุมฝังตัวเองลึกลงไปเรื่อยๆ ดังนั้น แรกๆที่คุณพูดให้ผมฟังว่า "มันไม่มีประโยชน์ที่จะไปเถียงกับพระ เพราะมีแต่เสียกับเสีย" ผมจึงเห็นด้วย และสนับสนุนความคิดนั้นเสมอมา

    ....

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    แยกให้ถูกคุณชยุตทำบุญก็ส่วนทำบุญ ผมขออนุโมทนา สาธุด้วยครับ

    ศรัทธาแล้วต้องมีปัญญาด้วยครับ

    ศรัทธาที่บุคคลท่านนี้นำมาเป็นจุดขาย
    1.หลวงปู่ใหญ่
    ในหนังสือของบุคคลท่านนี้ ส่วนใหญ่คัดลอกจากหนังสือหลายเล่ม

    2.หลวงปู่ทวด
    หลวงปู่ดู่วัดสะแก และ หลวงปู่ทิม วัดช้างไห้ ก็นิมิตรเห็นหลวงปู่ทวด คำสอนของท่านก็นำมาจากในพระไตรปิฎก ไม่เห็นท่านจะบอกว่าเป็นของหลวงปู่ทวด

    3.มโนมยิทธิ
    "ท่านเห็นหลวงปู่ใหญ่โดยการนั่งมโนมยิทธิ และเห็นหลวงปู่ทวดและได้เรียนการปฏิบัติจากหลวงปู่ทวดแต่ไม่เคยได้พบหลวงพ่อฤๅษีและหลวงพ่อปานสักครั้ง แม้แต่เด็ก ป.4 นั่งก็เห็นเหมือนกัน" นี้คือสิ่งที่ท่านพูดคุยกับผม

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมขอเก็บกระทู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรไว้นะครับ

    ขอเชิญเททองหลวงปู่เทพโลกอุดร 9 องค์+ฉลองสมโภชองค์ปฐม 9 องค์และหลวงปู่ทวด 1 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พรุ่งนี้ท่านสามารถสร้างบุญกับหลวงปู่โลกเทพอุดรข้ามชาติได้ง่ายๆครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านที่ผูกพันธ์-มีประสบการณ์-เคยพบหรือสัมผัสญาณบารมีหลวงปู่โลกเทพอุดรขอเชิญ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านที่ศรัทธา - เคารพ - นับถือในหลวงปู่โลกเทพอุดร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    มีเรื่องเล่า ชานหมากหลวงปู่ใหญ่(หลวงปู่โลกเทพอุดร)กลายเป็นพระธาตุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ญาณหลวงปู่โลกเทพอุดรผ่านที่ออสเตรเลีย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ทราบหรือไม่ แค่ท่านรู้จักหลวงปู่โลกเทพอุดรก็นับว่ามีบุญผูกพันธ์แล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ญาณบารมีหลวงปู่เทพโลกอุดร และเรื่องอัศจรรย์บนถ้ำวัวแดง

    .
     
  12. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    เกิดวันพฤหัส สีน้ำเงินก็ok แต่สีม่วงอย่าใส่เชียวนะครับ สีกาลีของวันพฤหัส
     
  13. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    ดูแต่รูปตอบไม่ได้หรอกครับ ต้องได้เห็นได้สัมผัสถึงจะรู้ แค่เราเชื่อมั่นกับของที่เรามีก็ดีแล้วครับ
     
  14. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระสมเด็จองค์นี้สร้างที่วัดระฆัง หรือกรุวังหน้า และเจ้าประคุณสมเด็จโตท่านเสกโดยกายเนื้อ(ระหว่าง พ.ศ.2400-2415 หรือไม่) หรือกายทิพย์(หลังพ.ศ.2415)ครับ...
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมขอนำประวัติโดยย่อของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรมาลงอีกครั้งนะครับ เผื่อท่านใดไม่อยากเข้าไปอ่านในกระทู้(ที่ยาว)ครับ

    ลิขสิทธิ์ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร

    กาลามสูตร

    ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมครู<O:p</O:p



    1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา <O:p</O:p
    2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆกันมา<O:p</O:p
    3. อย่าปลงใจเชื่อ ค้วยการเล่าลือ <O:p</O:p
    4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์<O:p</O:p
    5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก <O:p</O:p
    6.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน<O:p</O:p
    7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล <O:p</O:p
    8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฏีที่พินิจไว้แล้ว<O:p</O:p
    9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ <O:p</O:p
    10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา<O:p</O:p
    เรื่องราวเกี่ยวกับพระเทพโลกอุดร มีมาช้านานแล้ว เริ่มต้นในยุคสมัยสุวรรณภูมิ หริภุญไชย สุโขทัย อยุธยา และตนโกสินทร์ หลักฐานที่ปรากฏชัดแต่ขาดการค้นคว้า อย่างจริงจังรู้ในชนกลุ่มน้อยทางเจโตบ้าง เช่น พระอริยคุณาธาร (ปุสโสเส็ง) และหลวงปู่คำคะนิง ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า คณะพระเทพโลกอุดร เคยมาพำนัก ณ ถ้ำดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวไปก็ไม่มีผู้ใดเห็นอย่างท่าน บางท่านที่มีวาสนาก็พบเห็นท่านและยืนยัน ครั้นจะเอาเข้าจริงก็ไม่สามารถพบเห็นท่าน คล้ายคนหนึ่งเคยเห็นผีแต่หลายคนอยากเห็นบ้างก็ไม่เห็น จนเกือบจะเป็นเรื่องอจิณไตย (คือเรื่องที่ไม่ควรนึกคิด) แต่ก็ไม่ใช่นิยายท่านมักอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง สามารถปรากฏได้ในสถานที่ต่าง ๆ ไม่จำกัด ทั้งผู้ที่พบเห็นก็ปราศจากความรู้ว่าเป็นพระเทพโลกอุดรองค์ใดกันแน่ เพราะมีอยู่ด้วยกันถึง 5 พระองค์ และอาจมาในรูปต่าง ๆ ไม่ซ้ำกัน หรือปรากฏรูปเดิม แต่ที่มีวาสนาบารมีสูงส่งก็คือ คุณดอน นนทะศรีวิไล คนลาวไปประกอบอาชีพที่ประเทศแคนาดา ท่านผู้นี้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด ถือเอกามังสะวิรัติมานานกว่าสิบปีซึ่งบรมครูพระเทพโลกอุดรโปรดปรานมาก คุณดอนและครอบครัว นับถือบรมครูพระเทพโลกอุดรมาก และเล่าให้ฟังว่าได้พบเห็นบรมครูพระเทพโลกอุดรด้วยตาเนื้อ 2 ครั้ง <O:p</O:p
    ครั้งแรกหลังจากเสร็จจากการนั่งสมาธิประจำวัน เป็นเวลาทางประเทศแคนาดา 00.02 น. ปรากฏพระภิกษุชรารูปหนึ่งเดินเข้ามาในบ้าน คุณดอนทราบทางจิตว่าเป็นบรมครูพระเทพโลกอุดรแน่ จึงก้มลงกราบและเรียนถามว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2006
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ลิขสิทธิ์ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร

    ปริเฉทหนึ่ง<O:p</O:p
    กล่าวย้อนไปถึงอดีตกาล พุทธศักราชผ่านพ้นไป 303 ปี (ตามหลักฐานบันทึกในหนังสือมหาวงศ์พงศาวดารลังกา คำบรรยายของ หลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ อดีตภัณฑารักษ์เอกกรมศิลปกร ) และตามหลักฐานของวัดเพชรพลี (บันทึกอักษรเทวนาครี ขุดค้น พบ ณ ซากศิลา วัดคูบัว ตำบลคูบัว จังหวัดราชบุรี) ว่าพระพุทธศาสนาได้เริ่มแพร่เข้าสู่แคว้นสุวรรณภูมิในปีพุทธศักราช 235 ซึ่งมีระยะเวลาห่างกันถึง 68 ปี พระเจ้าอโศก มหาราชได้ทรงกระทำตติยสังคายนาพระไตรปิฎก คือ การชำระพระไตรปิฎกขึ้นเป็นครั้งที่ 3ครั้นแล้วจึง อาราธนาพระโมคคัลลีบุตร ติสสเถระองค์อรหันต์เป็นประธานคัดเลือกบรรดาพระอรหันต์เถระออกทำการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆดังนี้ <O:p</O:p
    1. พระมัชฌันติกเถระ ปยังกัสสมิรและคันธารประเทศ (คือประเทศแคชเมียร์และอัฟฆานิสสถานปัจจุบัน) แห่งหนึ่ง <O:p</O:p
    2. พระมหาเทวะเถระ ไปยังมหิสมมณฑล (คือแว่นแคว้นทางใต้ ลำน้ำโคทาวดี อันเป็นประเทศไมสอหรือไมเซอร์ ์ในปัจจุบัน) แห่งหนึ่ง <O:p</O:p
    3. พระรักขิตเถระ ไปยังวนวาสีประเทศ (คือแว่นแคว้นกะนาราเหนืออันเป็นเขตเมืองบอมเบย์ปัจจุบัน แห่งหนึ่ง <O:p</O:p
    4. พระธรรมรักขิตเถระ ไปยังปรันตกประเทศ (คือแว่นแคว้นตอนชายทะเลด้านเหนือเมืองอมเบย์ปัจจุบัน)แห่งหนึ่ง <O:p</O:p
    5. พระมหาธรรมรักขิตเถระ ไปยังมหารัฐประเทศ (คือแว่นแคว้นตอนเหนือของลำน้ำโคทาวารี) แห่งหนึ่ง <O:p</O:p
    6. พระมหารักขิตเถระไปยังโยนกประเทศ (คือบรรดาหัวเมืองต่างๆที่พวกโยนกได้ครองความเป็นใหญ่ใน ดินแดน ประเทศเปอร์เซียปัจจุบัน) แห่งหนึ่ง <O:p</O:p
    7. พระมัชฌิมเถระ ไปยังหิมวันตประเทศ (คือมณฑลซึ่งตั้งอยู่เชิงเขาหิมาลัย มีเนปาลราช เป็นต้น) แห่งหนึ่ง <O:p</O:p
    8. พระโสณเถระกับพระอุตร เถระ ไปยังสุวรรณภูมิประเทศ <O:p</O:p
    ข้อถกเถียงเรื่องสุวรรณภูมิเป็นมาช้านานฝ่ายไทยอ้าง นครปฐมเป็น ราชธานีของสุวรรณภูมิ พม่าอ้างเมืองสะเทิมอันเป็นมอญฝ่ายใต้เป็นสุวรรณภูมิ เขมรและลาวต่างก็อ้างว่าประเทศของตน คือสุวรรณภูมิ แต่ใครจะอ้าง อย่างไรก็ล้วนมีส่วนถูกด้วยกันทั้งสิ้น คือท่านศาสตราจารย์เดวิดส์ อธิบายว่าเริ่มแต่รามัญประเทศไปจรด เมืองญวนและตั้งแต่พม่าไปจรดแหลมมะลายูหรือที่เรียกว่าอินโดจีนเป็นสุวรรณภูมิทั้งนั้น สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงรับ สั่งว่า คำที่เรียกสุวรรณภูมิประเทศนั้น จะหมายรวมดินแดน ที่มีเป็นประเทศมอญและไทยภายหลังทั้งหมด เหมือนอย่างที่เราเรียกว่า อินเดีย เป็นชมพูทวีปกก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นใคร ในแหลมอินโดจีนจะอ้างว่า ประเทศของตนเป็นสุวรรณภูมิ จึงเป็นการถูกต้องด้วยกัน ทั้งนั้นไม่มีปัญหา ที่ไทยอ้างนครปฐม เป็นราชธานีนั้นก็เพราะจังหวัดนครปฐมมีเนื้อที่ภูมิประเทศ กว้างขวางและ มีโบราณวัตถุสถานสร้างไว้มาก แต่จะเรียกชื่อเมืองหลวงว่ากระไรในครั้งกระนั้นได้แค่สันนิษฐานเห็นจะเรียกสุวรรณภูมินั่นเองชื่อนี้จึงได้แต่เป็นที่รู้กันแพร่หลายไปถึงอินเดียและลังกาจนเป็นเหตุให้ใช้ชื่อนี้ในหนังสือมหาวงศ์ฯ ว่า พระโสณกับพระอุตรได้อัญเชิญพระพุทธศาสนามาประดิษฐานสถานที่เมืองสุวรรณภูมิ และเป็นเหตุให้เรียกชื่อมหาสถูปที่เมืองนั้นว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2006
  18. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มิกล้าครับ..ผมแอบเข้ามาศึกษาหาความรู้แบบครูพักลักจำครับ..ได้ความรู้ดีครับ

    เรื่องที่คุณหนุ่มนำเสนอ เป็นเรื่องปัจจัตตังครับ ผมขออนุญาตไม่ออกความเห็นนะครับ
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ลิขสิทธิ์ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร

    ปริเฉทสอง<O:p</O:p
    พระอุตรเถระเจ้าอวตารเป็นพระอุทุมพรมหาสวามีในสมัยพระเจ้าลิไทแห่งราชวงศ์สุโขทัยปี พ.ศ.1900 ห่างจากระยะแรกประมาณ1600ปีมีบางท่านกล่าวว่าในสมัยหริภุญไชยท่านมาเกิดเป้นครูบาบุญทาแต่เป็นเรื่องของความฝันไม่ปรากฏหลักฐานแจ้งชัดและมีผู้เล่าให้ฟังว่าในครั้งกระนั้น ผมเป็นสามเณรอาศัยอยู่กับท่านมีชื่อว่าb
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2006
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ลิขสิทธิ์ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร
    ปริเฉทสาม<O:p</O:p

    เริ่มสมัยรัตนโกสินทร์ในราชกาลที่ 4 ประมาณปี พ.ศ.2395 ในขณะที่พระองค์เจ้ายอดหรือพระองค์เจ้ายอดยศ บวรราโชรสราชกุมารประสูติ ณ วันพฤหัสบดี เดือน 10 แรม 2 ค่ำปีจอสัมฤทธิศก จุลศักราช 1200 พุทธสกราช 2381ในรัชกาลที่ 3 เป็นพระเจ้าลูกยาเธอนับเป็นพระราชโอรสองค์ต้นในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระชนมายุได้ 14 พรรษาปี 2395 เป็นการปรากฎทั้งคณะพระธรรมฑูตมีดังนี้ <O:p</O:p
    1. พระอุตรเถระเรียกกันว่าพระครูโลกอุดรหลวงปู่ใหญ่หรือหลวงพ่อดำเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต)พรหมรังสีเรียกท่านว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 00000001.JPG
      00000001.JPG
      ขนาดไฟล์:
      515.2 KB
      เปิดดู:
      1,176
    • pic24370.gif
      pic24370.gif
      ขนาดไฟล์:
      1.9 KB
      เปิดดู:
      1,179
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...