พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    แล้วบุทองคำกับการปิดทองนี้แตกต่างกันไหมครับบุทองหมายความว่าอย่างไรครับ
     
  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ใช่ครับ พระผงยาวาสนาปัญจสิริ พิมพ์คะแนนร้อย ขอบชิดซุ้ม และไม่ได้ล้างคราบออก รักษาไว้ดีๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2008
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    น่าจะหมายถึง"ช้" ใช่ไหมครับ..

    เป็นงานของช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า การบุทอง บุเงิน บุนาค ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ ในสนามพระให้ระมัดระวังเรื่องของการบุ เคยเห็นเขานำกระดาษเงินของซองบุหรี่มาบุ ซึ่งฝีมือยังไม่เข้าขั้น ยังอ่อนมาก หากเทียบฝีมือของช่างสิบหมู่ 10 คะแนน ของปลอม ติดลบ (20) ส่วนใช้อะไรยึดติดนี่ ต้องถามผู้รู้ครับ การเข้ามุม เข้าซอก เนียนจริงๆ ภูมิปัญญาการบุทอง บุเงิน บุนาคนี้ ไม่ใช่คนทั่วไปจะทำได้ครับ...
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หากเคยเห็นจะทราบว่า ต่างกันมาก
     
  5. สำรวจโลก

    สำรวจโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +579
    ปฏิบัติธรรมแบบสบาย สบาย
    ในแต่ละวันเราย่อมมีอารมณ์มากระทบหลายๆอย่าง ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติเป็นกิจจะลักษณะหลังจากหมดภารกิจทางโลกแล้ว ดังมีหลายๆท่านบอกว่านั่งไม่ค่อยดีหรือไม่ค่อยสงบ หลวงปู่ท่านกล่าวว่า
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เป็นพระสมเด็จ (เนื้อปัญจสิริ ผงยาวาสนา) ครับ

    เป็นพระสมเด็จ (เนื้อผงยาวาสนา คะแนนร้อย ทั้งคู่) ครับ
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระสมเด็จอรหัง ที่มอบให้คุณ katicat ... ลองนำไปขอให้ครูอาจารย์ตรวจสอบทางสมาธินะครับว่าเป็นอย่างไร...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010302.JPG
      P1010302.JPG
      ขนาดไฟล์:
      252.8 KB
      เปิดดู:
      141
    • P1010304.JPG
      P1010304.JPG
      ขนาดไฟล์:
      267 KB
      เปิดดู:
      122
  8. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ขอบพระคุณสำหรับความรู้ครับ
     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ไม่ใช่คะแนนพัน แต่เป็นคะแนนร้อย ขอบไม่ชิดซุ้มครับ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    น่าจะอ่านกันไม่ละเอียด

    อ่านกันอีกครั้งนะครับ

    โพสในแต่ละกระทู้ ต้องเป็นโพสไม่เหมือนกัน และการโพสธรรมะ ต้องอธิบายด้วยว่า ตนเองกระทำตามธรรมะที่โพสไว้อย่างไร

    เพราะว่า หากโพสไม่ถูกต้องตามกติกา จะไม่มีการโหวตนะครับ

    ผมจะมาแจ้งรายชื่อ สำหรับท่านที่มีสิทธิ์ให้สมาชิกวังหน้า และสมาชิกชมรมพระวังหน้า โหวตอีกครั้งครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  11. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ท้องผูกมาจากไหน ท้องผูกมาจากอะไร อึดอัดจริง.. ตั้ง 3 วันแล้ว ยังไม่ยอมถ่ายออกไปเสียที สาวๆ ที่กำลังมีอาการท้องผูก รู้ไหมว่าโรคผูกๆ นี้มีสาเหตุมาจากอะไร 1. ไม่สนใจอาหารเส้นใย อาหารที่มีเส้นใยมากๆ จะเป็นเหมือนไม้กวาดที่เข้าไปกวาดล้างของเก่าหมักหมมให้สลายตัวออกไปจากลำไส้ของคุณ ร่างกายต้องการเส้นใยวันละ 20-25 กรัม เพื่อช่วยในการขับถ่าย แต่ทุกวันนี้ ข้าวขาว ขนมปัง เบเกอรี่ ช็อกโกแลตเป็นอาหารที่มาแรงได้ใจสาวๆ ซะจนอาหารเส้นใยแทบไม่มีโอกาสได้แจ้งเกิดเลย ท้องน้อยๆ เลยผูกเอา ..ผูกเอา 2. ความเครียด ศัตรูตัวร้าย ความเครียดจะทำให้ระบบทุกส่วนในร่างกายรวนเร ไม่เว้นแม้แต่ระบบขับถ่าย เพราะเมื่อเกิดความเครียด ลำไส้จะหยุดบีบตัวชั่วคราว ทำให้เบื่ออาหารพร้อมกับถ่ายไม่ออก เมื่อไรที่หยุดเครียด นั่นล่ะ .. ถึงจะกลับมากินง่ายถ่ายสะดวกเหมือนเดิม 3. การกลั้นอุจจาระ ก็ร่างกายร่ำร้องว่าจะถ่ายแล้วกลับไม่ยอมให้มันได้ทำงานเอง แล้วจะไปโทษใครได้ถ้าร่างกายจะเกิดความเคยชิน ไม่บีบตัว และไม่ถ่ายไปซะดื้อๆ นอกจากนี้ อุจจาระเก่าๆ ที่คุณกลั้นไว้ก็จะถูกดูดน้ำออกไปทุกวันๆ ทำให้มันเป็นก้อนแข็ง อุดตันปิดกั้นการเคลื่อนตัวของของเสียในลำไส้ จึงยิ่งทำให้ท้องผูกถ่ายลำบากยิ่งกว่าเดิม 4. ไม่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญอาหารที่ดีที่สุด เพราะการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องจะทำให้กล้ามเนื้อลำไส้บีบตัวและเกิดการขับถ่ายของเสียออกมา คนที่นั่งหรือนอนทั้งวัน โอกาสที่ระบบขับถ่ายจะทำงานได้ดีก็ยากหน่อยนะ 5. ทานยาระบายบ่อยครั้ง ถ้าเป็นไปได้สาวๆ ไม่ควรจะใช้ยาถ่ายเลย เพราะการใช้สารแปลกปลอมเข้าไปช่วยในการระบาย จะไปสร้างความเคยชินให้กับลำไส้ ทำให้หยุดทำงานตามปกติ และจะบีบตัวขับถ่ายอุจจาระก็ต่อเมื่อกินยาเข้าไปกระตุ้นเท่านั้น คนที่ใช้ยาถ่ายติดต่อกันนานๆ จึงจะมีปัญหาท้องผูก ถ่ายเองไม่ได้ถ้าไม่ได้ทานยา
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG] [​IMG]

    รางวัลที่ 2 ก็พระสมเด็จอรหัง (เนื้อวัดระฆัง) เนื้อนี้ แต่คนละพิมพ์ครับ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=158403

    <TABLE class=tborder id=post1656956 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 03:24 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>[​IMG] WebSnow<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1656956", true); </SCRIPT>
    เว็บมาสเตอร์, ผู้ก่อตั้ง (วีระชัย)

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Apr 2003
    สถานที่: London, England
    อายุ: 33
    ข้อความ: 6,667
    <IF condition="1"><!--############# AWCoding Back-End created by AWNetwork, Inc. ######################################## Version 3.0.8 ##############################-->[​IMG] <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
    </IF>พลังการให้คะแนน: 50000 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1656956 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ปุ่มอนุโมทนาหายไป
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ปุ่มอนุโมทนาและ feature บางหายไป

    ไม่ต้องตกใจนะครับว่า หายไปไหน แค่ disable ไว้ เนื่องจากวันนี้คนเข้าเว็บเป้นจำวณมาก ทำให้เว็บโหลดช้า

    disable สักระยะ
    เดี่ยวก็กลับมาตามปกเมือ่ถึงเวลาอีันสมควร
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=158326
    <TABLE class=tborder id=post1655810 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 02:09 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>[​IMG] WebSnow<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1655810", true); </SCRIPT>
    เว็บมาสเตอร์, ผู้ก่อตั้ง (วีระชัย)

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Apr 2003
    สถานที่: London, England
    อายุ: 33
    ข้อความ: 6,667
    <IF condition="1"><!--############# AWCoding Back-End created by AWNetwork, Inc. ######################################## Version 3.0.8 ##############################-->[​IMG] <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
    </IF>พลังการให้คะแนน: 50000 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1655810 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ยุติการใช้งาน รูปใต้ลายเซ็น
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เนื่องรูปใต้ลายเซ็นจะปรากฏทุกกระทู้
    พอคนเข้าเยอะๆจะทำให้ทำให้เว็บโหลดช้า
    จึงขอยุติการใช้รูปใต้ลายเซ็น แต่คงเหลือไว้ ให้ใส่ ข้อความได้
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ ครั้งที่ 13
    5-6-7 ธันวาคม 2551 ณ อาคารจักรพันธ์ เพ็ญศิริ
    มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ



    http://www.intermindscience.org/

    [​IMG]

    บริเวณชั้น 1 โถงใต้อาคาร ปลอดโปร่งสบาย

    [​IMG]

    บริเวณชั้น 2 ปรับอากาศอย่างเย็นฉ่ำ


    ส่วนข้อมูลครั้งที่ 12 ตามนี้ครับ
    มหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ ครั้งที่ 12
    โดยลุงเม้า (MOUNTAIN)<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_796830", true); </SCRIPT>
    คลิ๊กๆๆๆๆๆ

    ปีนี้ คงนัดพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ไปเที่ยวกัน ไว้ใกล้ๆ นัดวันและเวลากันอีกครั้งนะครับ
     
  17. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    สงสัยปีนี้ จะเตรียมสวมใส่พระ ๕ องค์ที่ updated intend สุดครั้งนี้ไปถ่ายแสง Aura อีกแหงๆ อิ..อิ...อิ...รู้นะคิดไรอยู่
     
  18. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    วันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ได้รับการสั่งสอนจากพี่ที่เคารพทำให้ได้คิดได้มองตัวเองอีกครั้ง
    ประเด็นนี้ชี้ชัดว่า ถ้ากลุ่มนี้ไม่ได้หวังดี ไม่ได้มีเจตนาดีจะทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร
    สิ่งที่ได้รับนั้นผมพอจะสรุปสิ่งได้ ได้ดังนี้

    1. ความละเอียดรอบคอบ ในการวิเคราะห์ประโยค หรือสิ่งที่ได้รับ ยอมรับตรงๆว่าด้อยปัญญา คิดไม่ถึงว่าแม้จะเป็นเพียงสิ่งที่ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ สำหรับกระทู้นี้ได้ซ่อนอะไรไว้
    ให้ได้เรียนรู้มากมายกว่าที่คิด มันไม่ใช่เพียงชั้นเดียวเสมอไป จึงขอยกคำที่ได้รับมาในวันนี้มากล่าวไว้ ณ ที่นี้ อันเป็นคำสอนของพระสมเด็จพุฒาจารย์โตท่านกล่าวว่า "คนเราเดี๋ยวนี้รู้จักส่องแต่กระจกเพียงด้านเดียว ให้หัดนำกระจกหกด้านมาส่องดูเสียบ้าง"
    คำๆนี้ได้น้อมมาสู่ตนแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้ได้เห็นซึ้งถึงคำๆนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งคงไม่เป็นประโยชน์เพียงแต่การศึกษากระทู้นี้เท่านั้น แต่จะรวมไปถึงการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย

    2. ตลอดเวลาที่ได้เข้ามาเวปนี้ ช่วงที่เข้ามาใหม่ๆก็รู้สึกจะมีกระแสมากมายที่หลายหลาก แต่ด้วยความที่ไม่หลงเชื่อไปกับเพียงคำเขาบอก จึงโชคดีที่สุดท้ายแล้วรู้สึกว่าตนเองตัดสินใจได้ถูกต้อง
    เพราะพี่ๆในกระทู้นี้ทุกคนล้วนมีเมตตาและปรารถนาที่จะเผยแพร่สิ่งต่างๆที่ตนบากบั่นเสาะหามาด้วยความยากลำบาก ให้ได้มีการสืบต่อกันไปจริงๆ
    ซึ่งก็นับเป็นที่น่าเสียใจที่คนรุ่นหลังนั้น ไม่ได้มีความมานะพากเพียรเท่าที่พี่เคยได้ทำกันมา ทั้งๆที่มีแหล่งข้อมูลอันมีค่าให้ได้ศึกษากันอยู่ตรงหน้าแท้ๆ ส่วนตัวเองก็ขอสัญญาว่าจะพยายามศึกษาให้เต็มที่ เพื่อหวังว่าสักวันเมื่อถึงวาระที่ตนเองต้องมีหน้าที่ถ่ายทอดต่อไป จะได้ไม่ทำให้พี่ๆผิดหวัง

    3. เรื่องของโครงการดีๆที่พี่ๆร่วมกันจัดขึ้นนั้น ได้รับรู้ว่านอกจากที่คิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีแล้ว ภายใต้สิ่งที่ดีนั้น ยังมีความหวังดีอันเป็น อจิณไตย ซ่อนอยู่อีก
    นี่เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงเจตนาที่ผู้ที่รู้มากกว่า ได้มองและมุ่งหวังให้ผู้ที่จักร่วมกิจกรรมนั้นได้รับและประสบกับสิ่งที่ดี ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่ยังไม่พบผู้ที่เข้าใจเจตนา และทำได้อย่างที่มุ่งหวังจริงๆ
    สำหรับเรื่องอจิณไตยนั้น คงบอกได้เพียงว่า กระทู้นี้มีอะไรมากกว่าที่วิทยาศาสตร์จะอธิบายได้ หากทำไม่ดีก็จะเป็นผลเสียแก่ตน หากทำดีก็จะเป็นเหมือนการบันทึกความดีของตน จะได้นำไว้ใช้ในภายภาคหน้า

    4. กับคำที่ว่า โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงประโยคนี้ซึ่งเดิมเข้าใจอยู่แล้ว แต่ก็อยากจะถือโอกาสนำมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง เพื่อผู้ที่เข้ามาใหม่จะได้รับฟังกัน
    สำหรับพระเครื่องหรือวัตถุมงคลต่างๆที่พี่ๆในกระทู้นี้นั้นมีบุญวาสนาได้ครอบครองอยู่ ทุกๆท่านล้วนไม่ได้มาฟรีๆ ออกจะเป็นการยากลำบากเสียด้วยซ้ำไปเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่เพียรตามหา และทำการศึกษาทั้งหมดแล้ว
    ดังนั้น หากผู้ใดที่มีใจศรัทธาจริงๆต่อสิ่งที่ท่านคิดจะศึกษาแล้ว เมื่อมีผู้ที่เมตตารวบรวมไว้ให้ขนาดนี้ ท่านเองจะไม่พยายามที่จะศึกษาเสียหน่อยหรือ จะหวังอยากแต่เพียงได้พระไว้บูชา แต่ศรัทธายังไม่มี จะเข้ากระแสโลกอุดรนี้ได้อย่างไร ในเมื่อสายบุญนี้เป็นสายบุญที่เปี่ยมด้วยศรัทธา และ เจตนาที่จะสืบพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ต่อไป ไม่ใช่เพียงแต่การสร้างพระ หรือ แจกพระเท่านั้น

    5. หากจะมองแต่เพียงกระทู้นี้เป็นเพียงกระทู้เกี่ยวกับพุทธศาสนานั้น คงจะทำไม่ได้จริงๆแล้ว ทุกๆวันก็จะมีการแทรกเกร็ดความรู้ด้านต่างๆไว้มากมาย อย่างที่หลายๆคนเปรียบกระทู้นี้เหมือนบ้าน เปรียบเหมือนวารสารดีๆสักเล่ม เปรียบเหมือนนิยายเรื่องยาวที่มีครบทุกรส
    นอกจากจะได้เรียนรู้แล้ว กระทู้นี้ยังเป็นเหมือนสนามให้เราได้ฝึกตนเอง ทั้งในด้านการใช้ชีวิต หัดให้เรารู้จักการนำเสนอ การคิด การอ่าน การค้นคว้า ความพยายาม ความอดทน ความมุ่งมั่น ความศรัทธา
    ได้ประสบการณ์ในการเรียนรู้คนที่หลากหลาย ได้พบกับมิตรที่ดี ได้พี่ได้น้อง กระทู้นี้ยังมีสิ่งดีๆมากกว่านี้อีกมากสุดแต่ใครจะจับประเด็นขึ้นมาได้
    นั่นก็เป็นเพราะกระทู้นี้ถูกสร้างขึ้นด้วยเจตนาที่ดีและมุ่งหวังจะให้เป็นกระทู้ที่ดีจริงๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่สัมผัสได้อยู่แล้ว แต่วันนี้ได้รับการพูดย้ำ จึงนำมาบันทึกไว้ ณ ที่นี้อีกครา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2008
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คงถ่าย 4 รูปครับ

    ใส่พระ 3 องค์ๆละรูป ก็ถ่าย 3 ครั้ง ส่วนอีกครั้งก็ไม่สวมพระครับ

    รู้ทันจริงๆน๊ะเนี่ย
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=91379

    ประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดร
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->[​IMG]

    รูปคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตร)

    1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า

    2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า
    3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า (หลวงปู่อิเกสาโร)
    4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า (หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา ลพบุรี)
    5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า (หลวงปู่หน้าปาน หรือหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด วัดโอภาสี กรุงเทพฯ)


    โดยปกติที่เห็นหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรกันทั่วๆไปนั้น จะเป็นรูปของหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)ครับ

    [​IMG][​IMG]


    ประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    ลิขสิทธิ์ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร

    กาลามสูตร
    ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมครู
    <O:p</O:p

    1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา <O:p</O:p
    2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆกันมา<O:p</O:p
    3. อย่าปลงใจเชื่อ ค้วยการเล่าลือ <O:p</O:p
    4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์<O:p</O:p
    5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก <O:p</O:p
    6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน<O:p</O:p
    7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล <O:p</O:p
    8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฏีที่พินิจไว้แล้ว<O:p</O:p
    9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ <O:p</O:p
    10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา<O:p</O:p

    เรื่องราวเกี่ยวกับพระเทพโลกอุดร มีมาช้านานแล้ว เริ่มต้นในยุคสมัยสุวรรณภูมิ หริภุญไชย สุโขทัย อยุธยา และตนโกสินทร์ หลักฐานที่ปรากฏชัดแต่ขาดการค้นคว้า อย่างจริงจังรู้ในชนกลุ่มน้อยทางเจโตบ้าง เช่น พระอริยคุณาธาร (ปุสโสเส็ง) และหลวงปู่คำคะนิง ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า คณะพระเทพโลกอุดร เคยมาพำนัก ณ ถ้ำดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวไปก็ไม่มีผู้ใดเห็นอย่างท่าน บางท่านที่มีวาสนาก็พบเห็นท่านและยืนยัน ครั้นจะเอาเข้าจริงก็ไม่สามารถพบเห็นท่าน คล้ายคนหนึ่งเคยเห็นผีแต่หลายคนอยากเห็นบ้างก็ไม่เห็น จนเกือบจะเป็นเรื่องอจิณไตย (คือเรื่องที่ไม่ควรนึกคิด) แต่ก็ไม่ใช่นิยายท่านมักอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง สามารถปรากฏได้ในสถานที่ต่าง ๆ ไม่จำกัด ทั้งผู้ที่พบเห็นก็ปราศจากความรู้ว่าเป็นพระเทพโลกอุดรองค์ใดกันแน่ เพราะมีอยู่ด้วยกันถึง 5 พระองค์ และอาจมาในรูปต่าง ๆ ไม่ซ้ำกัน หรือปรากฏรูปเดิม แต่ที่มีวาสนาบารมีสูงส่งก็คือ คุณดอน นนทะศรีวิไล คนลาวไปประกอบอาชีพที่ประเทศแคนาดา ท่านผู้นี้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด ถือเอกามังสะวิรัติมานานกว่าสิบปีซึ่งบรมครูพระเทพโลกอุดรโปรดปรานมาก คุณดอนและครอบครัว นับถือบรมครูพระเทพโลกอุดรมาก และเล่าให้ฟังว่าได้พบเห็นบรมครูพระเทพโลกอุดรด้วยตาเนื้อ 2 ครั้ง <O:p</O:p
    ครั้งแรกหลังจากเสร็จจากการนั่งสมาธิประจำวัน เป็นเวลาทางประเทศแคนาดา 00.02 น. ปรากฏพระภิกษุชรารูปหนึ่งเดินเข้ามาในบ้าน คุณดอนทราบทางจิตว่าเป็นบรมครูพระเทพโลกอุดรแน่ จึงก้มลงกราบและเรียนถามว่า “หลวงปู่คือพระเทพโลกอุดรใช่ไหม” ท่านตอบว่า “ใช่” คุณดอนไม่ทันได้เตรียมตัวและไม่ได้ถามถึงข้อปฏิบัติธรรม จึงถามว่า “พระพิมพ์ที่อาจารย์ประถมฝากมาให้เป็นของหลวงปู่อธิฐานจิตจริงหรือเปล่า” ท่านตอบว่า “จริง” ต่อจากนั้นคุณดอนก็ตื่นเต้นไม่ทราบจะถามอะไรอีกต่อไปครั้นแล้วหลวงปู่ก็หายไป การที่ท่านปรากฏเช่นนั้นเรียกว่าปรากฏกายธรรม สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อและสัมผัสได้ จึงเกิดปัญหาถกเถียงกันสำรับผู้มีภูมิปัญญาไม่ถึงขั้น ไม่รู้จักคำว่า กายทิพย์ กายธรรม <O:p</O:p
    ครั้งที่สองเป็นการนั่งทำสมาธิทั้งคณะประมาณ 5 คนด้วยกัน หลวงปู่โลกอุดรมาปรากฏอีก ท่านยืนไม่ได้เตรียมอาสนะไว้ต้อนรับ ท่านแสดงธรรมย่อ และว่าคณะปฏิบัติธรรมพอจะทราบอะไรบ้างแล้วพอสมควร ต่อไปท่านอาจจะไม่มาอีก จะให้ของไว้เป็นเครื่องระลึก แล้ท่านก็มองไปยังแก้วน้ำปรากฏเป็นแสงสีเขียว พุ่งออกจากดวงตาข้างหนึ่ง ทันใดนั้นน้ำในแก้วได้จับตัวแข็งเป็นก้อนเล็ก ๆ หลายก้อนด้วยกันท่านบอกว่าให้แบ่งกันเก็บเอาไว้เป็นของดี มีอะไรคุณดอนก็เล่าสู่กันฟัง เป็นที่เชื่อถือได้ และมีตัวตนจริง <O:p</O:p
    หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เคยได้พบท่านโดยที่ไม่ทราบว่าเป็นบรมครูพระเทพโลกอุดรพบที่โคนต้นไทรใหญ่ โดยได้รับกราบอกเล่าจากเจ้าของที่ดินว่า ถึงปีหลวงปู่จะมาปักกลดอยู่ชั่วระยะหนึ่งเจ้าของที่เล่าว่าตั้งแต่จำความได้จนถึงอายุได้ 80 ปีเศษ หลวงปู่ก็ยังคงทรงลักษณะเดิมไม่แปรเปลี่ยนหลวงพ่อจรัล เรียกท่านว่า “หลวงพ่อดำ” ได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานากท่านพอสมควร บางทีคนมีวาสนาได้พบท่านแล้วไม่รู้จักว่าท่านเป็นใครมีอยู่มาก คณะพระโลกอุดร เป็นชาวเปาล อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นคนไทยการที่ท่านพูดภาษาไทยได้ก็เนื่องจากบรรลุปฏิสัมภิทาญาณ สามารถรู้ภาษาคนและสัตว์ได้ท่านชอบปรากฏองค์ทางป่าเมืองกาญจนบุรี เช่น อำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ ครั้งล่าสุดท่านปรากฏองค์ที่เขาใหญ่ ท่านอภิชาโต ภิกขุ และท่านพันเอกชม สุคันธรัต ไปเฝ้าท่านอยู่นานวันและท่านอภิชิโต ภิกขุได้มรณภาพได้ไม่นาน เรื่องราวบางตอนได้อาศัยท่านอภิชิโต ภิกขุเป็นผู้บอกเล่า มิได้เป็นนวนิยายเลื่อลอยไม่จำเป็นต้องรอการพิสูจน์ และโปรดเข้าใจด้วยว่าภาพพระโลกอุดรองค์ที่สาม นามว่า “พระอิเกสาโร หรือหลวงปู่โพรงโพธิ์” ารปรากฏกาธรรมในปัจจุบัน ส่วนมากมักจะเป็นพระโลกอุดรองค์ที่สาม และแทรกซ้อนด้วยหลวงปู่แจ้งฌาน ซึ่งเป็นศิษย์เอกคู่กับกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ท่านทั้งสองท่านอภิชิโต เรียกว่า “ครูฝึ” ปกติหลวงปู่ไม่ได้ลงมือสอนวิชาด้วยตนเอง ให้ศึกษากับครูฝึก เมื่อจบขั้นแล้วท่านจึงจะทำการทดสอบทุกครั้งไป
    <!-- / message --><!-- sig -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...