พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo
ผมเปล่าปั่นกระทู้นะครับ เพียงแต่มันคนละเรื่องกันครับ วันนี้ผมได้ รีเสิรตช์จาก ภัทรมานะครับเป็นสรุป วิกฤตการณ์และแนวทางในการแก้ไขบ้าง ขออนุญาต ภัทร นะครับเพื่อเผยแพร่ความรู้ดีๆให้ชาววังหน้ากัน แต่ผมขอบอกนิดนะครับ ว่านี่ไม่ใช่ความเห็นผมนะครับ กรุณาอ่านด้วยวิจารณญานมากๆครับ ...

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ake7440
แล้วถ้าคนอ่าน(ผมเอง)ไม่ค่อยมีความรู้จะทำยังไงล่ะครับนี่ เล่นพูดแบบนี้เป็นงง

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo
ค่อยๆอ่านครับ ผมบอกเป็นการป้องกันตัวเองไว้ครับ เดี๋ยวอ่านแล้วไม่ดีจามาโทษผมครับ หุ หุ เพียงแต่ว่าผมกรองให้แล้วณ.ระดับหนึ่ง ครับ เขาจะเล่าเรื่องต้นเหตุของปัญหา ต่อมาก้ จะลดผลกระทบ อย่างไร ลงทุนที่ใดน่าจะปลอดภัยครับ ส่วนตัวเลขจากตารางสำหรับมือใหม่ผมว่าอย่าเพิ่งไปสนใจครับ ให้อ่านแล้วเข้าใจปัญหาก็ ok.แล้วครับ ใจเย็นครับ จะให้เหมือนพวกผมที่อ่านมาทุกวัน 20กว่าปีต้องใช้เวลานิดครับ อ่านเอาไอเดียครับ ....

แต่ไม่ใช่ว่า คนไม่มีเงิน จะเรียนรู้ไม่ได้ เรียนรู้เพื่อเพิ่มมูลค่าของเงินที่ตัวเองมีอยู่ให้มากขึ้นครับ

 

แหะๆ โชคดีด้วยความบังเอิญที่ผมแอบไปเรียน บริหารสมัยที่ยังพอมีเวลา แต่พอยุ่งก็เลยเรียนไม่จบ เหอๆ
ยังดีที่วิชาชั้นต้นๆนั้นได้เรียนพวกนี้มาบ้าง ส่วนเรื่องการลงทุนต่างๆก็ศึกษาด้วยความชอบส่วนตัว ก็พอจะมีความรู้อยู่บ้าง
ก่อนนี้เวลาเห็นคุณ nongnooo มาโพสก็รู้สึกตื่นเต้นดี เพราะไม่มีในตำรา อาจจะเป็นสิ่งที่คนในวงการทราบกันดีอยู่แล้ว หรือไม่อันนี้ผมไม่แน่ใจแต่สำหรับผมเป็นความรู้อย่างยิ่ง เพราะผมรู้แต่ในตำราที่เคยอ่าน
แต่ถึงอย่างไรผมก็เป็นแค่หนอนหนังสือ ยังไม่มีความรู้จริง ผมจึงกลัวว่าวิจารณญาณผมยังไม่ดีพอ พอเห็นผู้รู้เตือนมา จึงต้องสอบถามด้วยความระมัดระวังครับ

 

แนะนำเบื้องต้น

คนที่มีเงิน มีรายได้เดือนละ 1 - 10,000 บาท ไม่มีภาระหนี้
เก็บเงินไว้ 50 % สำหรับคนโสด ส่วนคนที่มีครอบครัว เก็บเงินไว้ 20 %
เงินที่เก็บไว้นั้น แรกๆก็ฝากธนาคาร หรือซื้อกองทุนต่างๆ (รวมทั้ง RMF และ LTF)

เมื่อเก็บเงินได้มากขึ้น ก็ขยับไปซื้อประกันชีวิต เพื่อเป็นหลักประกันส่วนหนึ่งในอนาคต และเผื่อไว้ในกรณีที่เจ็บป่วย

มีเงินเก็บมากขึ้นไปอีก ก็ซื้อทองคำ เก็บไว้ เนื่องจากทองคำเป็นสิ่งที่แปรสภาพเป็นเงินได้เร็วที่สุด

มีเงินเก็บมากแล้วก็สร้างหนี้ ซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งบางท่านก็ไม่ต้องสร้างหนี้เนื่องจากเงินเก็บมีเยอะ

มีเงิน และมีหนี้ ก็ต้องรู้จักการบริหารเงินที่มี และหนี้ที่ยังค้างให้เป็น

ถึงแม้มีหนี้ ก็สามารถซื้อประกันชีวิตได้นะครับ

เงินที่เราถืออยู่ทุกวันนี้ ลดค่าลงทุกวัน ทุกเดือน และทุกปี ก๋วยเตี๋ยว(อีกแล้วครับ แนะนำรวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา หรือรวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา ) ตอนนี้ราคาชามละ 25 หรือ 30 หรือ 35 หรือ 40 บาท สมัยเด็กๆ ผมกินชามละ 1 บาท แต่อีก 20 ปี ชามละเท่าไหร่?

ลองไปคิดเป็นการบ้านของแต่ละคนเองว่า เมื่ออายุ 60 ปี เราต้องการที่จะทำอะไร ใช้เงินเดือนละเท่าไหร่ เช่น ตั้งเป้าไว้ บวชตอนอายุ 60 ปี ก็ไม่ต้องใช้เงินเยอะ แต่จะบวชได้หรือเปล่าอีกเรื่อง หรือจะไปเที่ยวรอบโลก หรือนั่งๆนอนๆอยู่กับบ้าน ดูพระวังหน้าให้ตาอักเสบ ตั้งเป้าให้ตนเองหรือยัง กำหนดให้ตนเองหรือยังว่า เราจะทำอะไร ใช้เงินเดือนละเท่าไหร่

ไม่ต้องตอบผมนะครับ ผมไม่รู้ ลองถามคุณnongnooo หรือคุณเพชร ดูนะครับ

 

แนะแหน ผมหรือเปล่าครับท่าน ปาทาน หุ หุผมแค่รู้วิธี กับช่วยเจ้านายเท่านั้นครับ หุ หุ

 

55555ผมว่าสงสัยกำลังว่าอ่านแรกๆน่าตื่นเต้น อ่านไปอ่านมา ไม่มีอารายนี่หว่าใช่มั้ยครับ หุ หุ ผมรู้น้อยครับ ท่านเพชร กับ ท่านปาทาน เยี่ยมกว่าผมเยอะครับ เทียบกันแล้วผมเด็กๆครับ หุ หุ อีกที

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
เล่นแบบ Advance มือใหม่หัดขับก็งงสิครับ ผมงงอ่ะ อธิบายได้ป่าวครับ

แนะนำสำหรับมือใหม่หัดขับ ไปซื้อหนังสือจุลภาคเบื้องต้น และมหภาคเบื้องต้น มาอ่านก่อน ต่อไปก็ไปอ่านเกี่ยวกับเรื่องหุ้น ,ตราสารหนี้ ,กองทุนประเภทต่างๆ เป็นอย่างไร ต่อไปก็ลองเข้าไปอ่านเรื่องของทองคำ ,น้ำมัน และเรื่องเงิน บทความผมว่ามีค่อนข้างเยอะ แต่ดูผู้เขียนหรือผู้วิจารณ์สักนิดนะครับ

ไม่ว่าเราเป็นใคร ทำงานที่ไหน มาจากไหน แต่หากรู้เรื่องเหล่านี้ ก็จะเป็นเรื่องที่เรามักจะได้เปรียบกว่าคนที่ไม่รู้เยอะครับ ยิ่งมีเงินมากเท่าไหร่ ต้องรู้จักการบริหารเงินให้เป็นมากเท่านั้น

อีกประการที่สำคัญ ต้องเรียนรู้เทคนิคเรื่องของการลัดคิว การโกงแบบถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายไว้ เพื่อไว้ป้องกันตัวเอง แต่ไม่ใช่ไปทำซะเองครับ

.

ผมจะไปกล้าแนะแหนคุณnongnooo ได้ไง ผมเด็กอนุบาล จะไปสู้กับเด็กมหาลัย แนะนำผมด้วยนะครับ

ที่ผมบอกไปนั้น เป็นพื้นฐานที่ควรรู้แค่นั้นเองครับ

 

ที่ผม ,คุณnongnooo และคุณเพชร ได้คุยกันเรื่องเกี่ยวกับเงิน เป็นเรื่องที่ทุกๆคนควรรู้ เป็นเรื่องที่อยู่กับตัว ไม่ใช่อยู่ใกล้ตัว

และเรื่องของสุขภาพ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ หากสุขภาพเราไม่ดี หาเงินก็ลำบาก ทำบุญก็ลำบาก

แต่สำคัญที่สุด ทาน ศีล ภาวนา ครับ

 

ขอต่างในองค์ความรู้ครับ

องค์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านไม่ได้เก่งมากขนาดที่จะดำรงขันธ์อยู่ได้ หลวงปู่จึงไม่พ้นความตายไปได้ หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ท่านมรณภาพทั้งหมดแล้ว

แต่ต้องมีคำถามมาถาม ซึ่งได้บอกหลายๆครั้งแล้วว่า องค์หลวงปู่ท่านเป็นอทิสมันกาย แต่เนื่องด้วยฤทธิ์ของท่าน จึงทำให้ปรากฎเป็นกายธรรม(กายเนื้อ)ได้

ส่วนพระพิมพ์ที่หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิต ก็มีตั้งแต่สมัยทวาราวดี ,สุโขทัย ,อยุธยา และกรุงรัตนโกสินทร์ นอกเหนือจากการอธิษฐานจิตในประเทศไทยแล้ว ยังมีการอธิษฐานจิตที่เนปาล ในภูเขาหิมาลัย เช่น กรุเนปาลที่เคยนำมาให้ชมกันครับ

.

 

10 วิธีดูแลสมอง

http://hilight.kapook.com/view/30000

​

เทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นก้าวหน้าไปไกลมาก วิวัฒนาการใหม่ๆ เข้ามามีส่วนช่วยให้เกิดความสะดวกสบายมากขึ้น แต่การที่คนเราสะดวกสบายมากขึ้น ก็ทำให้ใช้สมองน้อยลงและพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น แต่สมองนั้นเหมือนมีดที่ยิ่งลับยิ่งคม ยิ่งไม่ได้ใช้ยิ่งทื่อ สุขภาพกายฉบับนี้จึงมีวิธีดูแลสมองของเราให้พัฒนาอยู่ตลอดเวลามาฝากกัน ​

กินเพื่อสมองดี ​

หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า "กินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น" ทั้งๆ ที่รู้ แค่คนส่วนใหญ่ก็มักจะละเลยอาหารเช้า เพราะความเร่งรีบที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน การกินอาหารเข้านั้นจะทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยในเรื่องภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เนื่องจากอดอาหารมาตลอดคืน หากใครที่กินอาหารเช้าเป็นประจำก็จะทำให้ความจำดีขึ้น อย่างไรก็ตามควรเลือกกินอาหารที่ดี และงดอาหารขยะอย่างเด็ดขาด ​

คิดเพื่อสมองดี ​

ลองสังเกตว่าวันไหนที่เราตื่นขึ้นตอนเช้า แล้วรู้สึกว่าอารมณ์ดี วันนั้นเราจะรู้สึกดีไปตลอดวัน แต่ถ้าวันไหนเรารู้สึกเบื่อๆ หรือเจอเรื่องแย่ๆ แต่เช้า ความรู้สึกนี้ก็จะคิดตัวไปตลอดทั้งวัน ทำอะไรก็จะติดขัดไปหมด ดังนั้นหากอยากให้มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้น และทำให้สมองรู้สึกปลอดโปร่งคิดอะไรออก ก็ต้องคิดถึงแต่เรื่องดีๆ ส่วนเรื่องร้ายๆ ก็ลืมมันซะ ​

พักผ่อนหันหาอากาศบริสุทธิ์ ​

การพักผ่อนหย่อนใจหลังจากทำงานหนัก ถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะสมองจะได้พักผ่อนจากเรื่องสำคัญมากๆ และเรื่องราวความเครียดต่างๆ ที่ต้องเจออยู่เป็นประจำ ในหนึ่งปี อาจจะมี 2-3 วัน ที่คุณควรเลือก ที่จะเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อหาที่พักตากอากาศแบบสบายๆ เงียบสงบ ให้สมองได้พักผ่อน รวมทั้งหาอากาศที่ปราศจากมลพิษ เพื่อเติมพลังให้สมอง ​

เรียนรู้สิ่งใหม่ ​

การพัฒนาสมองให้ได้ผลดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ พยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา จะได้พัฒนาสมอง เช่น เทคโนโลยีใหม่ๆ เรื่องราวการแพทย์ใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งเมนูอาหารอร่อยๆ ที่คุณไม่เคยลอง ก็ถือว่าเป็นการทำให้สมองได้พัฒนาเช่นกัน การเล่นเกมส์ปริศนาอักษรไขว้ หรือสแครบเบิล ก็สามารถที่จะทำให้ความจำดีขึ้นได้ถึง 40% (จากผลการทดลองของอาสาสมัครในรายการบีบีซี ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2549) ​

เขียนหนังสือด้วยมือที่ไม่ถนัด ​

การเขียนถือเป็นการพัฒนาสมองได้เหมือนกัน เพราะสมองซีกซ้ายของเรานั้นเป็นส่วนบังคับการเขียน หากใครที่ถนัดมือไหนอยู่ ก็ให้หัดลองใช้มืออีกข้างเขียนหนังสือ หรือวาดภาพ เพื่อให้สมองได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพิ่มเติม และยังมีส่วนช่วยให้ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นด้วย ​

ยิ้มไว้โลกจะแตกก็ยิ้มไว้ ​

เวลาที่เราทำอะไรก็ตาม หากเรายิ้มคนรอบข้างก็จะได้รับทราบถึงความรู้สึกดีๆ ของเรา แต่ควรจะยิ้มจากภายใน ไม่ต้องฝืน เพราะแววตาของรอยยิ้มนั้นหลอกกันไม่ได้ หากคุณรู้จักที่จะยิ้ม ก็จะทำให้สมองมีแต่เรื่องดีๆ มีความสุข การยิ้มอย่างเป็นประจำและต่อเนื่องมีโอกาสที่ร่างกายจะหลั่งเอ็นโดรฟินออกมา ซึ่งสารนี้จะไปออกฤทธิ์ให้ม่านตาขยายและทำให้ตาเป็นประกาย ​

หายใจช่วยให้สมองใส ​

การหายใจอย่างถูกวิธี มีส่วนช่วยพัฒนาสมองให้ได้ผลดีมากทีเดียว เพราะสมองของเรานั้นใช้ออกซิเจนมากถึง 20-25% ของทั้งหมดที่เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นหากเรารู้จักหายใจ เข้า-ออก ช้าๆ ลึกๆ เพียงแค่วันละ 15 นาที ก็จะทำให้สมองได้รับพลังงานอย่างเต็มเปี่ยม ​

เข้านอนแต่หัวค่ำ ​

ภายในร่ายกายคนเรามีนาฬิกาชีวภาพอยู่ ดังนั้นหากเราเข้านอนในช่วงเวลาที่ร่างกายหลั่งสารเมลาโทนิน ก็จะทำให้ร่ายกายและสมองได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ​

นั่นสมาธิ จิตมีพลัง ​

การนั่งสมาธิ จะส่งผลให้สมองเข้าสู่ช่วงที่เป็นคลื่น Theta (ธีค้า หรือการที่สมองได้เข้าสู่การเข้าสมาธิแบบลึก) ทำให้สมองได้ผ่อนคลายสุดๆ และเกิด Mental Imagery (ภาพจินตนาการที่สมองสร้างขึ้น) ส่งผลให้สมองเกิดความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการที่ดีออกมา ทำให้สามารถแก้ปัญหาในเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างสร้างสรรค์ ​

เสริมวัตามิน กินไขมันดี ​

กินไขมันดี หรือที่เราเรียก โอเมก้า 3 เพื่อเข้าไปทดแทนส่วนของสมองที่เป็นในไขมันที่สึกหรอไป นอกจากนี้ยังมีวิตามินบำรุงสมองอื่นๆ อีก เช่น สารสกัดจากใบแปะก๊วย วิตามินบี1 บี6 บี12 น้ำมันพริมโรสที่ช่วยให้เซลล์ชุ่มน้ำและวิตามินซีที่ทำให้กระปรี้กระเปร่า ​

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ​

 

อันนี้ผมก็ไม่รู้นะครับ ประมาณว่าหลวงปู่เจริญ อิทธิบาท4<ตรงคำคำสอนของพระพระพุทธเจ้าผู้ที่เจริญอิทธิบาท 4 สามารถอธิษฐานให้มีชีวิตอยู่เป็นกัลป์ก็ย่อมได้> และอธิฐานให้คงอยู่ดูแลพระพุทธศาสนามั่งครับ เพราะว่าว่าหลังจาก2500ปียุคของพญานาคพญามารดูแลศาสนาแต่คงไม่ไหวแน่ท่านจึงต้องอยู่คอยค้ำจุนพระศาสนา ให้ครบ 5000 ปี
และก็สรีระพระมหากัสสปะ ท่านก็ยังคงอยู่ไม่เน่าไม่เปื่อยเนื่องจากท่านมีบุญเกี่ยวพันหรือมีวาสนาร่วมกันอะไรสักอย่างครับเกี่ยวกับพระศรีอริยเมตตรัยและที่ลาวตอนนี้มีหมู่บ้านเผ่าหรึ่งดูแลดาบเจื้องหรือชื่ออะไรไม่รู้ครับจำมะได้ดูแลดาบศักดิ์สิทธิ์คู่กายของพระศรีอริยชึ่งหลวงปู่ขาวท่านได้ไปเจอในป่าที่ลาว
เด๋วผมจะเอาของครูบาลุ่มมาลงอีกนะครับศิษย์หลวงปู่เทพโลกอุดรเหมือนกัน

 

ตามที่ครูบาลุ่มบอกหลวงปู่เทพโลกอุดรท่านไม่ค่อยชอบอยู่ว่างๆๆท่านมักจะสอนศิษย์เสมอเวลามีค่าหลวงจากท่านคอยสอนกรรมฐานครูบาลุ่มท่านว่างๆๆก็จะมักมีอะพไรทำอยู่เสมอเช่น ทำธูป ปั้นพระ
สังเกตุคำนี้ครับสีแดง

 

บางท่านอาจะเคยได้อ่านเรื่องของกรมวังหน้าที่ถามอายุหลวงปู่หลววงปู่ก็บอกว่าอายุเท่าไหร่จำไม่ได้แล้วเอางี้ทวดของวังหน้าอายุเท่าไหร่เอามารวมกันร้อยคนยังไม่ได้อายุหลวงปู่อะไรประมาณนี้แหละครับ

 

ขอก็อปมาจากหน้าแรกตามข้อมูลที่ช่วงนี้คล้ายคลึงกันมาหอ่าน


จะเห็นได้ว่าตามหลักฐานบันทึก กล่าวเพียงพระโสณเถระ ไม่ได้กล่าวถึงพระอุตตรเถระ

ลองไปหาช่วงหนึ่งที่หน้าแรกเอานะครับ

 

เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่เทพโลกอุดรมีมาช้านานแล้ว เริ่มตั้งแต่ยุคสมัยสุวรรณภูมิ หริภุญไชย สุโขทัย และรัตนโกสินทร์ หลักฐานที่ปรากฏชัดเจนแต่ยังขาดการค้นคว้าอย่างจริงจัง รู้อยู่ในคนกลุ่มน้อย รู้ทางเจโตปริญาณ เช่น พระอริยาคุณาธาร(ปุสโสเส็ง)และหลวงปู่คำคะนิง จุลมณีต่างเห็นพ้องกันว่า"หลวงปู่เทพโลกอุดรคือพระอุตตระเถระ"ผู้ที่เคยได้พบท่านได้ถามท่านว่า"หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านคือพระอุตตระเถระใช่ไหม"ท่านก็ไม่ได้ปฏิเสธ
หลวงปู่เทพโลกอุดรคือใครเป็นคำถามที่ยังหาคำตอบมี่สมบูรณ์ยังไม่ได้เพราะท่านมักจะสอนลูกศิษย์เสมอว่า อดีตเป็นเรื่องที่ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ต้องนำมาคิด อนาคตเป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ไม่ควรไปสนใจให้เสียเวลา ปัจจุบันสำคัญที่สุดให้เร่งศึกษา เร่งปฏิบัติ

 

เหอๆ...ขยันโพสจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจขัดน่ะครับ แต่โพสติดๆกันมากๆระวังข้อหาปั๊มกระทู้ไว้ด้วยนะครับ ผมกลัวกระทู้นี้โดนหางเลขครับ ยิ่งมีคนจ้องอยู่

 

เห็นมั้ยครับ หมอเอกนี่ก็ไม่ธรรมดาแค่ผมคิดในใจก็โพสแล้วครับ หุ หุ

 

555 พี่ nongnooo ล้อผมอีกแล้วครับ อย่างนี้เขาเรียกคอเดียวกันครับ

 

งั้นผมจะเลิกพิมดีกว่าเด๋วกระทู้จะถูกปิด ส่วนรวมตจะซวยเอาเพราะผม

 

ช่วงนี้เห็นคุยกันแต่เรื่องพระ ถือโอกาสถามคำถามที่คาใจ คือผมอยากรู้ว่าทำไมขนมกรุบกรอบ
เวลาอยู่ข้างนอกเปิดถุงแล้ว มันนิ่ม แต่พอเอาใส่ตู้เย็นแล้วมันรักษาความกรอบได้ดีกว่าน่ะครับ
แหะๆ เป็นความสงสัยมานาน จึงวานผู้รู้ช่วยไข ขอบคุณคร้าบ

 

ม่ายรู้ง่ะเหมือนแอปเปิ้ลมั่งครับถ้าโดนอากาศจะกลายเป็นสีชา