พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

1566. พระผู้เฒ่าปากพระร่วง รูปเหมือนปั้ม รวยทันใจ รุ่นแรก "ไตรมาส ๕๗" เนื้อมหาชนวน no.๙๕๗ หลวงปู่จันทร์ วัดซับน้อย ให้บูชา 800 บาท

​

รูปเหมือนปั้มอนันตะโลหะธาตุ ฐิตาจาโร สร้างจากโลหะธาตุ ที่มีความหมายในด้านการให้ผลและรับพลังพุทธคมได้อย่างง่ายดาย และเต็มพลัง แร่ธาตุต่างๆที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีความเป็นเอกในด้าน อิทธิคุณต่างๆ หลากหลายชนิด ผสมผสานให้เป็นอนันตะโลหะธาตุ ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยมงคล เป็นความหมายของพลังแห่งอิทธิปาฏิหาริย์อย่างอุดมสมบูรณ์ในทุกๆด้านของอิทธิคุณ เช่น ทองคำ ทองนพเก้า ทองฝาบาตร ทองเหลือง ตะกั่ว ดีบุก แร่น้ำพี้ แร่เหล็กไหล แร่จักรวาล แร่ฟ้าฟื้น แร่บางไผ่ แร่เกาะล้าน แร่เขาพนมไพร และแร่ธาตุที่หลวงปู่เก็บสะสมไว้ตั้งแต่สมัยเดินธุดงค์ แร่ธาตุและโลหะต่างๆ ได้ผ่านการปลุกเสกมายาวนาน จนกลายเป็น อนันตะโลหะธาตุ ที่มีพลังแห่งพุทธคมมากมายมหาศาล จึงทำให้รูปเหมือนหลวงปู่จันทร์ แห่งวัดซับน้อย มีพลังอำนาจของแร่ธาตุโลหะต่างๆ รวมเป็น อนัตะโลหะธาตุที่ดีที่สุดในการหล่อปั้มให้เป็นวัตถุมงคลอย่างเข้มแข็ง เข้มขลัง ยิ่งใหญ่ ฝากไว้บนแผ่นดินพุทธานุภาพแห่งสยาม อีกวาระหนึ่ง ที่ผ่านการปลุกเสกของ หลวงปู่จันทร์ ฐิตาจาโร แห่งวัดซับน้อย มหามนต์จากขุนเมืองผา ดินแดนแห่งอาริยะธรรมศรีเทพด้วยพุทธคม วิทยาคมแห่งบรมครูเถราจารย์ อันเกรียงไกร ในอดีตให้ได้มาในวัตถุมงคล วาจาประกาศิต ทำจริง ใช้ได้จริง ได้ผลจริง

จัดสร้าง
เนื้อเงินหน้าทองคำแท้สร้าง 88 องค์
เนื้อเงินสร้าง 116 องค์
เนื้อเหล็กน้ำพี้สร้าง 417 องค์
เนื้อนวะโลหะสร้าง 520 องค์
เนื้ออัลปาก้าสร้าง 567 องค์
เนื้อขวานฟ้าแช่น้ำมนต์สร้าง 1,055 องค์
เนื้อมหาชนวนโลหะธาตุ สร้าง 2,060 องค์
เนื้อตะกั่วหน้ากากทองระฆังสร้าง 318 องค์ แจกกรรมการ

 

1567. พระสมเด็จขี่สิงห์ รุ่น๑ หลังยันต์ใบพัด ปี๒๕๑๒ หลวงพ่อหอม จันทโชโต (พระครูภาวนานุโยค) วัดซากหมาก ให้บูชา 1450 บาท องค์นี้แบบผิวทาเคลือบเดิมจากวัด พบน้อยกว่าแบบเนื้อผงไม่เคลือบ

​

หลวงพ่อหอม ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดชากหมาก ตั้งอยู่ทางฝั่งชายทะเลตะวันออกชื่อเสียงของท่านเคยโด่งดังมาในอดีต ท่านมีคุณวิเศษต่างๆจนเป็นที่เคารพนับถือแก่บรรดาศิษยานุศิษย์ทั่วไป

นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๐ ไม่ว่าพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลสำนักต่างๆทุกครั้งจะต้องปรากฎชื่อของท่านนั่งปรกปลุกเสกทุกครั้งไป แม้แต่พิธีที่ยิ่งใหญ่ นับเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย คือ ปี พ.ศ.๒๕๐๐ เรียกว่า กึ่งพุทธกาล รัฐบาลในยุคสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานจัดงานฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษขึ้น โดยการจัดพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพุทธอาณาจักร โดยทางราชการได้จัดสร้าง พระพุทธปางลีลา มีทั้งเนื้อโลหะและเนื้อดินเผาจำนวนมากมายมหาศาล พระชุดนี้ที่พวกเรารู้จักกันในนามพระ ๒๕ พุทธศตวรรษนั้นเอง
พิธีพุทธาภิเษกในครั้งนั้น ทางราชการได้จัดขึ้น ณ ประรำพิธีที่ท้องสนามหลวง และวัดสุทัศนเทพวนาราม พระคณาจารย์ที่ทางราชการนิมนต์มาปลุกเสกจำนวนมากมายมหาศาลถึง ๒,๐๐๐ กว่าองค์ทั่วทุกทิศ ในพิธีนี้หลวงพ่อหอมก็เป็นพระเกจิอาจารย์องค์หนึ่งที่ได้รับนิมนต์มานั่งปรกร่วมด้วย

กล่าวกันว่า เมื่อหลวงพ่อหอมมานั่งปรกในครั้งนั้นได้มีสาธุชนทั่วไปเข้าไปกราบนมัสการวัตถุมงคลจากท่าน บ้างก็ขอให้ลงกระหม่อมเป่าหัว และลงเหล็กจารแผ่นโลหะต่างๆ ตลอดเป่าปลุกเสกพระเครื่องต่างๆหลังจากเสร็จพิธีหลวงพ่อหอมได้มาพักผ่อนที่สำนักวัดสุทัศฯ ได้มีศิษยานุศิษย์ติดตามไปหาไม่ขาดระยะ จนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนศิษย์ผู้ติดตามทำหน้าที่อุปัฎฐากถึงกับขอร้องเหล่าสาธุชนขอให้หลวงพ่อหอมมีเวลาพักผ่อนบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะหลวงพ่อกลับพูดออกมาด้วยเสียงอันเต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตากรุณาว่า “ช่างเขาเถอะลูก” และคำพูดคำนี้ ท่านก็ได้ใช้เรื่อยมาจนตลอดอายุขัยของท่าน

 

1568. สุดยอดผงอิทธเจ พระสมเด็จเนื้อว่านสาวหลง โรยเส้นเกศา หลวงปู่ปรง สาสโน วัดห้วยเจริญสุข จ.สิงห์บุรี ให้บูชา 699 บาท พิเศษ ฝังพลอยและแบงค์500 ธนาคาชาติ

​

พระสมเด็จสาวหลง หลวงปู่ปรง วัดห้วยเจริญสุข สิงห์บุรี จัดสร้างเมื่อท่านอายุได้ 94-95 ปี
เป็นพระผงที่หนุ่มๆ แถวทัพทันและละแวกนั้นนิยมห้อยบูชาติดตัวกัน เพราะมีอิทธิคุณสมชื่อ
พระรุ่นนี้ถึงแม้จะเป็นยุคท้ายๆ ของท่าน แต่ก็มีความพิเศษอยู่มาก
เพราะท่านได้รวบรวมผงต่างๆ ที่ท่านลบไว้และเก็บสะสมไว้มานาน มาผสมอยู่ในสมเด็จรุ่นนี้อยู่มาก
ทั้งผงปถมัง แบงค์ห้าร้อยเก่าป่น ว่านสาวหลง และผงอิทธิเจมหาเสน่ห์ที่โด่งดังของท่าน

ผงวิเศษต่างๆ ท่านจะเขียนลบเอง โดยเฉพาะผงอิทธิเจของท่านถือว่าสุดยอดมากๆ เด็ดขาดทางมหานิยม มหาเสน่ห์
ขนาดที่ว่าเวลาที่ท่านลบผงและทำผงอิทธิเจ จะมีพวกแมลงต่างๆ มากมายมารุมเกาะตามตัวและใบหน้าของท่านเต็มไปหมด

พระเครื่องส่วนใหญ่ของท่านจะกดพิมพ์เอง ทำแบบโบราณที่วัด ปลุกเสกนานมากแบบทิ้งทวน

ในสมัยท่านยังอยู่เคยไปกราบท่านที่วัด ตอนนั้นท่านย้ายจากวัดะรรมเจดีย์มาอยู่ที่วัดห้วยเจริญสุข
ท่านเป็นพระใจดี มีเมตตา แต่ตามีอำนาจมาก ท่านชอบทำของขลังเอง
ตอนไปกราบท่านก็เห็นท่านนั่งจารตะกรุด เหลาปลัดขิกเอง ท่านถนัดทำเครื่องรางมาก
เครื่องรางท่านทำได้หลายประเภทและทำได้ขลังไม่แพ้เกจิเก่าๆ แต่อย่างใด

 

1569. ของดีนอกวัดของหลวงพ่อกวย พระสรรค์นั่ง วัดโพธิ์ทอง เนื้อดิน ปี ๒๕๑๑ ปิดรายการครับ

​

เมื่อปี2511 ทางวัดโพธิ์ทอง อำเภอสรรคบุรี ชัยนาท ซึ่งใกล้ๆกับวัดโฆสิตาราม ที่หลวงพ่อกวย เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ได้มีการทำบุญบูรณะปฏิสังขรณ์ และได้ทำพิมพ์พระสรรค์นั่ง มีทั้งเล็กและใหญ่ โดยให้หลวงพ่อกวย ท่านปลุกเสก และมีพระเกจิในยุคนั้นเสกด้วย แต่หลวงพ่อกวย ท่านตั้งใจเสก ในพิธีมีเหตุการณ์แปลกๆมากมาย หลวงพ่อบอกว่าดีนอกและดีใน เหมือนกับพระสรรค์ ยุคเก่า ประสบการณ์ชาวบ้านต่างหวง ต่างหากัน อย่างมาก ขอได้ กันลมเพลมพัด คุณไสย์ สิ่งอาถรรพ์ แคล้วคลาดมีเห็นบ่อย

 

1570. ตะกรุดถักเชือก ยาว ๒.๕ นิ้ว ยุคต้น หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร วัดนาอุดม อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี ให้บูชา 899 บาท

​

หลวงปู่ญาท่านสวน นามนี้ในปัจจุบันน้อยคนที่จะไม่รู้จักท่าน ด้วยประสบการณ์ในวัตถุมงคลที่ท่านได้อธิฐานจิตปลุกเสกไว้อย่างเข้มขลัง จนเกิดประสบการณ์มากมาย จนทำให้สื่อหลายสำนักได้นำประวัติ และวัตถุมงคลของท่านมาลงอย่างแพร่หลาย และที่สำคัญ หลวงพ่อคูณ ปริสฺทโธ แห่งวัดบ้านไร่ ยังเอ๋ยปากถึงความเก่งของหลวงปู่ญาท่านสวน หรือแม้กระทั่ง หลวงปู่ทิม วัดพระขาว ยังเอ๋ยกับลูกศิษย์ ถึงว่า หลวงปู่ญาท่านสวน ว่าหลวงปู่ญาท่านสวนเป็นพระอรหันต์ และยังมีการกล่าวถึงอีกมากมายอีกมากมาย
หลวงปู่ญาท่านสวน ท่านสร้างวัตถุมงคลแต่ละครั้งจำนวนไม่มาก แต่เน้นพิธีกรรมที่ถูกต้องตามหลักโบราณ ดังนั้นวัตถุมงคลใดที่ผ่านการอธิฐานจิตจากท่าน จึงสามารถเชื่อมั่นในพุทธคุณได้อย่างสนิทใจ เรียกว่าดังเพราะประสบการณ์ล้วนๆ
ตะกรุดของหลวงปู่ญาท่านสวน หาไม่ง่าย ด้วยพุทธคุณ ในวัตถุมงคลเครื่องราง ประเภท ตะกรุด ของหลวงปู่ญาท่านสวน แล้ว ถ้าเป็นตะกรุดแค่ดอกเดียวก็ครบเครื่องแล้วครับ เรื่องประสบการณ์ของตะกรุดนั้นมีมากมาย

 

​

 

1571. เหรียญดี พิธีใหญ่ เหรียญพระเจ้าตาก รุ่นกู้ชาติวัดใจ วัดราชบพิตร กรุงเทพฯ ปี 2521 ให้บูชา 550 บาท

​

เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เหรียญระฆัง องอาจ กล้าหาญ สู้เพื่อชาติ เนื้อทองแดงรมดำ ฉิมพลี สร้างที่วัดเวฬุราชิน
เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ปี พ.ศ.2521 พระดีพิธีใหญ่ จัดสร้างเพื่อนำไปแจกทหารไปรบในสมัยนั้น พิธีมหาพุทธาภิเษกโดยมีสมเด็จพระสังฆราชทรงจุดเทียนชัย พิธีปลุกเสกใหญ่ 5 วัน 5 คืน โดยคณาจารย์ในยุคนั้น 108 รูป
รายชื่อพระคณาจารย์ที่เข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก ได้แก่
- สมเด็จพระสังฆราช ทรงจุดเทียนชัย
- หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
- หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
- หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต
- หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง
- หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
- หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร
- พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรง
- หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์
- หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
- ครูบาวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม
- ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
- หลวงพ่ออุตตมะ วัดวิเวการาม
- หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม
- หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง
- หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
- หลวงปู่เครื่อง วัดเทพสิงหาร
- หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
- หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
และคณาจารย์อื่นๆ อีกมากมาย

 

1572.พระผู้ที่ได้ชื่อว่า ผู้มีอภิญญา เป็น พระอรหันต์ผู้มากไปด้วยฤทธิ์ คล้ายกับ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม เหรียญใบโพธิ์ หลวงปู่บุญทัน ฐิตปัญโญ วัดป่าประดู่ จ.ปราจีนบุรี เป็นเหรียญ รุ่นที่ 3 ของท่าน ปี 2517 ให้บูชา 699 บาท

​

หลวงปู่บุญทันฯ ท่านเป็นองค์หนึ่งที่มีบารมีด้านฤทธิ์สูงไม่ธรรมดารูปหนึ่งในสายพ่อแม่ครูจารย์ฯ แต่ท่านมักจะ "ห้าม" ลูกศิษย์ลูกหาเรียนทางด้านนี้ ท่านว่า มันเป็นของเล่นทำให้เสียเวลาเว้นแต่เป็นบารมีเก่ามาเดิม ( การสร้างบารมีด้านนี้ คนทั่วไปไม่ค่อยเข้าใจและมักคิดกันเอาเองตามแต่จริตของแต่ละคน,แล้วแต่จะว่ากันไปตามประสาเขา) เนื่องจากไม่เคยศึกษาให้ลึกซึ้งหรึอให้ความสำคัญของ "บารมีสิบทัศน์" , กล่าวคือ เราสะสม หรือสร้าง สัจจบารมี ( ขั้นกลาง หรึอ ขั้นสูง ) บวกกับ ขันติบารมี ( เหมือนกัน, คือทั้ง อุปจารบารมี หรือ ปรมัตถบารมี ) ที่เป็นที่ยอมรับกันในหมู่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหมดของสายของหลวงปู่มั่นฯว่าถ้าพูดถึงบารมีด้านนี้ ท่านกล่าวยกย่อง หลวงปู่ตื้อฯ และหลวงพ่อลี วัดอโศการาม
หลวงปู่บุญทัน(ชื่อจริงๆคือบุญธรรมครับ, พวกโยมเรียกเพี้ยนไปเอง ผมเองก็ต้องเรียกท่านในชื่อ บุญทัน ครับ ไม่อย่างนั้นคุยกับใครไม่รู้เรื่องกันครับ) ถ้าไม่ได้เรื่องอย่างไร จะหาจังหวะกราบถามครูบาอาจารย์พระผู้ใหญ่อีกทีนะครับ ฉายาฐิตปัญโญ เป็นฉายาท่านครับ หลวงปู่บุญทัน ท่านเกรงกลัวหลวงปู่ตื้อฯมาก หลวงปู่ตื้อฯท่านเคยกล่าวตำหนิแรงๆหลายครั้ง ยกตัวอย่างนะครับ" อรหันต์ผีบ้า อรหันต์เวียนว่ายตายเกิด (ภาษาอิสาน, ผีบ้าหมายถึงผู้เหลาะแหละ, ไม่จริงจัง) หลวงปู่บุญทันต่อมาท่านถึงได้เข้าใจว่าท่านเสียเวลาไป ๘- ๑๐ปีไปเรียนฤทธิ์ในสายสมเด็จลุ้น สูญเปล่าไปไม่มีประโยชน์ ถ้าไปเชียงใหม่,มีเวลาลองแวะไปกราบคุยกับพระอาจารย์แอฯ ท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยน้ำริม ที่อ.แม่ริม ซิครับ, ท่านเคยอยู่กับหลวงปู่บุญทันมาก่อนตั้งแต่เป็นเณร และวัดห้วยน้ำริน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นวัดที่หลวงปู่ตื้อฯท่านสร้างไว้เองครับ. (ป.ล.เมื่อหลวงบุญทันมรณภาพลง ลูกศิษย์ของท่านมาอยู่กับหลานของหลวงปู่ตื้อฯเกือบหมดครับ เพราะท่านเคยบอกไว้ว่าถ้าท่านมรณภาพไปแล้ว ให้ลูกศิษย์ของท่านนี้ไปกราบอยู่กับหลานของหลวงปู่ตื้อองค์นิ้ หรือ หลวงปู่ท่อนแล้วแต่ใครจะสะดวกไปที่ไหน และหลานของหลวงปู่ตื้อองค์นี้ครับ,แม้แต่ท่านพระอาจารย์แอก็มาเป็นลูกศิษย์และหลวงปู่บุญทันท่านก็มักจะนิมนต์ไปในงานพิธีพุทธาภิเษกของวัดป่าประดู่บ่อยๆ ถ้าไม่ติดกิจนิมนต์อื่นท่านก็จะรับนิมนต์ เพราะท่านก็สนิทสนมกันมากกับหลวงปู่บุญทัน)

จากเว็ปบอร์ด วัดป่าพระอาจารย์ตื้อ

หลวงปู่แกล้งพญานาค
พระอาจารย์ประยุทธ ธมฺมยุตฺโต ได้ถ่ายทอดเรื่องที่ หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม เคยเล่าให้ฟังในสมัยที่ท่านออกธุดงค์กับ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ว่า
หลวงปู่มั่น ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านเคยพบพญานาค หลวงปู่ตื้อคิดค้านในใจว่าไม่เชื่อ ใครๆ ก็พูดถึงพญานาคได้โดยไม่เคยเห็นตัวตน
หลวงปู่มั่น ท่านรู้วาระจิต จึงสั่งหลวงปู่บุญ ซึ่งจำมิได้ว่าฉายาอะไร ว่า “จงพาท่านตื้อ พระขี้ดื้อ ไปกรรมฐานบนเขา ให้อยู่กันคนละลูกเขานะ”
หลวงปู่บุญก็พาหลวงปู่ตื้อไป เมื่อถึงเขาที่จะนั่งกรรมฐานลูกแรก หลวงปู่ตื้อท่านพบรูดินใหญ่เข้ารูหนึ่ง คิดในใจว่าถ้าพญานาคมีจริงก็จะลองดู ท่านจึงแอบเอาก้อนหินใหญ่มาวางไว้ปากรู แล้วไปกับหลวงปู่บุญเพื่อไปดูที่ปักกลดยังเขาอีกลูกหนึ่ง
เมื่อส่งหลวงปู่บุญแล้ว หลวงปู่ตื้อก็กลับมายังที่เดิม ผลักก้อนหินให้กลิ้งลงไปในรู แล้วพูดว่า ถ้าพญานาคมีจริง หินตกถูกก็ขอโทษด้วย”
แล้วท่านก็เอาผ้ารองนั่งปิดรู กางกลดลง ณ ที่ตรงนั้น
คืนนั้น ขณะที่หลวงปู่ตื้อนั่งทำสมาธิภาวนาภายในกลด ก็ได้ยินเสียงขู่ฟู่ๆ อย่างขัดเคือง เสียงฟู่ๆ นั้นดังมาจากงูใหญ่จำนวนมากมาแผ่พังพานอยู่รอบๆ กลดของท่าน

หลวงปู่บุญทัน ฐิตปญฺโญ
หลวงปู่จึงหยิบก้อนหินมาปลุกเสก แล้วโยนออกไปนอกกลดได้ยินเสียงงูเลื้อยหนีกันเกรียวกราวกระจัดกระจายกันออกไป
พอรุ่งเช้า หลวงปู่บุญท่านมาบ่นให้ฟังว่า “เมื่อคืนผ่านไปเล่นอะไรกับพวกงู พวกเขาจึงไปฟู่ๆ อยู่กับผม ไม่ต้องหลับนอนกันละ”
ครั้นถอนกลด กลับไปหาหลวงปู่มั่น ขณะก้มกราบ ก็ถูกหลวงปู่มั่นชี้หน้าบอกว่า “ท่านไปเล่นกับงูมาละซิ”

 

.........

 

1573. พระท่ากระดาน วัดต้นลำใย พิมพ์ใหญ่ ให้บูชา 650 บาท

​

พระท่ากระดาน วัดต้นลำใย กาญจนบุรี ปี2536 วัดต้นลำใย สร้างจากตะกั่วนม ตะกั่วนี้ขุดค้นพบในกรุถ้ำลั่นทม อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ลักษณะคล้าย
ฝาหม้อ หรือนมสาว เป็นตะกั่วพันปีที่ใช้ในการสร้างพระท่ากระดานกรุเก่า กรุศรีสวัสดิ์ และนำมาสร้างพระท่ากระดานของหลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะฯ พระเกจิชื่อดัง
แห่งกาญจนบุรีในเวลาต่อมา ตะกั่วนมเก่ามีอายุมากเป็นพันปี เป็นตะกั่วที่มีพุทธคุณสูงเพราะผ่านการทำพิธีปลุกเสกแล้ว เชื่อกันว่าผู้สร้างพระท่ากระดานกรุเก่าศรีสวัสดิ์
(ฤาษีตาไฟ)เป็นผู้ทำพิธีปลุกเสกไว้แล้ว ในปีพ.ศ.๒๕๓๖ วัดต้นลำใยได้นำตะกั่วเก่ามาจัดสร้างด้วยกัน ๓ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก ใช้วิธีการกดลงแม่พิมพ์ทั้งก้อน ไม่ได้หลอมใหม่ จึงคงความเก่าตามธรรมชาติไว้
ได้สวยงามมาก ใครหลงใหลคราบ ไขและสนิมแดงแท้ๆ ควรหาไว้ส่องไว้ศึกษา จำนวนการสร้างพระท่ากระดานของวัดต้นลำไยรุ่นนี้ พระครูกาญจนกิตติสาร
เจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลบ้านใหม่ เล่าให้ฟังว่าสร้างไว้จำนวนพอประมาณ ไม่มากนัก เพราะต้องใช้ตะกั่วเก่าล้วนๆ มากดพิมพ์ จึงมีจำนานจำกัด เมื่อสร้างพระท่า
กระดานชุดนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางวัดก็ได้ทำลายบล็อกแม่พิมพ์เลยเพื่อไม่ให้มีการใช้บล็อกเดิมมากดพิมพ์พระ ขึ้นมาใหม่ ทำให้รู้ว่าวัดต้นลำไยมีพระท่ากระดานรุ่น
เพียงรุ่นเดียว พระรุ่นนี้ได้นำเข้าพิธีพุทธาพิเษก ในโบสถ์เก่าแบบ"มหาอุต"ของวัดต้นลำใย ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยา อายุราว ๔๐๐ ปี ทำพิธีใหญ่เป็นเวลา ๙ วัน
๙ คืน พระเกจิร่วมในการพุทธาพิเษก ประกอบด้วย
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
หลวงพ่ออุตตะมะ วัดวังก์วิเวการาม
หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง
พระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี
หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง,
หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า,
หลวงพ่อเล็ก วัดเขาดิน กาญจนบุรี,
หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม นครปฐม,
หลวงพ่อทองสุก วัดท่าตะคร้อ เป็นต้น

 

รูปถ่ายศักดิ์สิทธิ์ รูปนิโรธสมาบัติ หลวงพ่อกัสสปมุนี ยุคต้น ยันต์เส้นเล็ก

​

รูปถ่ายของหลวงพ่อกัสสปมุนีที่อินเดียมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ?
ตอบ เมื่อปี พ.ศ. 2507 หลวงพ่อกัสสปมุนีได้เดินทางไปยังชมพูทวีปหรือประเทศอินเดีย และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนานถึง 5 เดือน ตลอดเวลาที่ท่านเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน ท่านจะห่มดองหรือห่มลดไหล่ตลอด ในขณะที่พระเถระองค์อื่น ๆ จะห่มคลุมตามพระวินัยบัญญัติว่า เมื่อภิกษุออกนอกบริเวณวัด ต้องห่มคลุมให้เป็นปริมณฑลคือข้างบนจีวรต้องติดคอ ด้านล่างต้องคลุมครึ่งแข้งจึงถูกต้อง แต่การที่หลวงพ่อห่มดองตลอดรายการนั้น ท่านให้เหตุผลว่าชมพูทวีปเป็นดินแดนแห่งพระพุทธองค์ ทุกหนแห่งล้วนแต่เป็นแผ่นดินของพระองค์ที่ทรงจาริกไปแสดงธรรม จึงถือว่าเป็น ‘เขตพุทธาวาส’ ทั้งสิ้น ท่านจึงไม่ห่มคลุม
และทุกแห่งที่ท่านไปนมัสการ ตามพุทธประวัติก็ดี ตามโบราณาจารย์กล่าวอ้างก็ดี ตามที่แขกอินเดียเล่าให้ฟังก็ดี ว่าสถานที่นี้พระพุทธเจ้าทรงกระทำพุทธกิจอย่างนั้นอย่างนี้ หลวงพ่อท่านยังไม่เชื่อทีเดียว หากท่านลงมือนั่งภาวนา ‘ตรวจสอบ’ ด้วยองค์ท่านเองในที่ทุกแห่ง
กระทั่งจิตท่านเห็นชัดว่า ณ สถานที่นี้พระพุทธองค์ได้ทรงทำกิจดังกล่าวอ้างมาแล้วจริง ๆ ท่านจึงปลงใจเชื่อ และเป็นที่น่ายินดีว่าเมื่อท่าน ‘พิจารณา’ ด้วยอำนาจฌาน-ญาณ อันสูงยิ่งของท่านแล้ว ปรากฏว่าในทุกสถานที่ล้วนเป็นของจริงทั้งสิ้น ทุกแห่งแฝงเร้นด้วยพระพุทธบารมีที่ยังคงอบอวลแผ่รัศมีอยู่ทุก ๆ เวลา รอคอยผู้มีบุญญาธิการมานมัสการให้เกิดมหาบุณย์-มหากุศล
ดังนั้นท่านใดที่คิดจะไปหรือไปมาแล้ว...
ก็จงสบายใจและจงอิ่มบุญในใจให้เต็มที่เถิด
ดังภาพถ่ายหน้าสถูปที่ถาม หลวงพ่อท่านกำลังนั่งภาวนาอยู่ที่ถ้ำอจันตา ขณะที่ใช้อำนาจจิต ‘ตรวจสอบ’ อยู่นั้น ก็มีฝรั่งคนหนึ่งผ่านมาเห็นท่านเข้า เวลานั้นท่านเปลื้องจีวรและสังฆาฏิออกแล้วคงเหลือเพียงสบงและอังสะ อีกทั้งยังพาดลูกประคำเส้นเบ้อเริ่ม ทำให้ฝรั่งนายนั้นนึกว่าท่านเป็นเณร จึงเกิดความเอ็นดูและทำการบันทึกภาพท่านไว้
ภายหลังฝรั่งก็ได้นำรูปนั้นมาให้ท่านดู ปรากฏว่าท่านไม่พอใจมาก คงเพราะแอบถ่ายโดยไม่ขออนุญาตท่านก่อนประการหนึ่ง และคงเพราะท่านแต่งตัวไม่เรียบร้อยประการหนึ่ง ท่านจึงดุเขา(เพราะท่านพูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม) และยึดทั้งรูปทั้งฟิล์มกลับมา
ครั้นกลับเมืองไทยแล้ว คณะศิษย์อยากได้ของที่ระลึกจากท่าน ท่านจึงให้นำฟิล์มนี้ไปอัดออกมาเป็นรูปใบน้อย และยังเมตตาเขียนยันต์วิเศษที่ชื่อว่า ‘ยันต์พุทธเกษตร’ มอบให้ด้วยลายมือท่านเอง (ท่านได้มาเมื่อครั้งไปเที่ยววิเวกภาวนาใน จ.ลพบุรี ยันต์พุทธเกษตรได้ปรากฏขึ้นในนิมิตท่าน ท่านบอกว่ายันต์นี้มีอานุภาพครอบจักรวาล ตามแต่ผู้ใช้จะอธิษฐานให้เป็นไปดังปรารถนา)
ศิษย์ได้นำยันต์พุทธเกษตรลายมือท่านไปบันทึกเป็นภาพถ่ายใบน้อยออกมาอีก 1 ใบ จากนั้นก็นำรูปหลวงพ่อกับรูปยันต์พุทธเกษตรนี้ประกบเข้าด้วยกัน แล้วนำมาถวายให้ท่านอธิษฐานจิตแจกผู้ศรัทธาในราวปี พ.ศ. 2508 –2509
ต่อมาเมื่อท่านประสงค์จะตอบแทนคุณของเสี่ยไซ โยมอุปการะเป็นที่ยิ่ง ท่านก็ดำริเข้า ‘สัญญาเวทยิตนิโรธ’ เป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2510 เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน
และรูปนี้ก็อยู่ในวาระนิโรธสมาบัติด้วย
หลวงพ่อเคยบอกว่า นิโรธสมาบัตินี้มีอานุภาพมากนัก มิใช่แต่กุฏิของท่านเท่านั้น แต่กำลังแห่งนิโรธยังครอบคลุมไปทั่วภูเขา ‘สุนทรีบรรพต’ อันเป็นที่ตั้งวัด อย่าว่าแต่ของในกุฏิท่านเลย แม้กรวดหินหน้าวัดหากจะหยิบขึ้นมาแล้วตั้งจิตระลึกถึงท่านก็ยังมีอานุภาพได้
อะไรจะขนาดนั้น
เชื่อท่านไหม ?
ถ้าเชื่อ....! รูปใบน้อยและพระเครื่องต่าง ๆ ที่ผ่านการเข้านิโรธจากท่านมาตั้งแต่ปี 2510 กระทั่งท่านละสังขารจากไปในวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2531
จะขลังเพียงไหน !?
ผมยังเดาไม่ถูกเลย
ดังนั้น ท่านจึงไม่ใคร่แจกรูปนี้ให้ใครง่าย ๆ แม้มีคนขอกันมาก ท่านก็ยังเลือกคนให้ ท่านบอกว่า ของดีต้องให้กับคนดีและนับถือเราจริงเท่านั้น
หากจะมีคนขอเหรียญรุ่นแรกของท่านที่สร้างในปี พ.ศ. 2518 บางทีท่านก็มอบรูปนี้ให้ ครั้นคนนั้นบ่นว่าอยากได้เหรียญต่างหากเล่า ท่านจะบอกดุ ๆ ทันทีว่า
“อะไร ให้ของดีแล้วยังไม่รู้จัก รูปนี่เก่งกว่าเหรียญอีกนะ”
คือคนโบราณเมื่อจะกล่าวชมมงคลวัตถุใด ๆ ว่าขลัง ว่าศักดิ์สิทธิ์เหลือกำลัง ท่านมักใช้วลีว่า ‘เก่ง’ ก็เป็นอันรู้กัน

 

1574.พระสมเด็จวาสุกรีซุ้มเรือนแก้วพิมพ์ใหญ่ วัดชิโนรส พิธีใหญ่ ปี 2512 สุดยอดเกจิ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง หลวงพ่อกวย หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อเงิน ร่วมปลุกเสก ปิดรายการครับ

​

​

พระสมเด็จวาสุกรีซุ้มเรือนแก้วพิมพ์ใหญ่ วัดชิโนรส
ประวัติ พระชุดนี้ จัดสร้างโดย พระปลัดมานพ วัดชิโนรสาราม กรุงเทพฯ (มี
พระฝากพิธีของ อาจารย์แก้ว และ พระมหาประดับด้วยครับ)ได้จัดสร้างเมื่อปี 2512 พิธีพุทธาภิเษก 22 - 31 ส.ค.2512 จัดเป็นชุดพระเครื่องที่มีรูปแบบสวยงาม พิธีใหญ่ มีพระเกจิดังๆ ร่วมงานเพียบ อาทิ...

หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง
อาจารย์นำ วัดดอนศาลา
หลวงพ่อมิ่ง วัดกก ธนบุรี
หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อดี วัดพระรูป
เป็นต้น

 

1575. ผงวิเศษของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ พระปิดตาหลังยันต์ดวงธรรมกาย หลวงปู่อินทร์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ปี๒๕๒๔ ให้บูชา 450 บาท

​

หลวงปู่อินทร์ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ เรียนกับหลวงพ่อสดจนสำเร็จวิชชาธรรมกายและยังเป็นผู้สร้างพระผงของขวัญวัดเกาะจันทร์ที่ปัจจุบันราคาเช่าบูชาสูง
พระปิดตาหลังยันต์ดวงธรรมกาย หลวงปู่อินทร์รุ่นนี้มีส่วนผสมของผงสร้างพระของขวัญท่านหลวงพ่อสดจำนวนมาก ทั้งยังมีเส้นเกศาและจีวรของหลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นมวลสารอันเป็นมงคลยิ่ง จำนวนสร้าง ๕,๓๑๙ องค์

 

1576. พระกริ่งทรงเครื่อง (รุ่นแช่น้ำมนต์)พระราชสังวรญาณ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา จารหมายเลขกำกับ ใต้ฐานสร้างปี2538 ให้บูชา 1250 บาท

​

 

.....

 

แรไอเท็ม พระดีที่น่าบูชา
สมเด็จ เนื้อผงพรายสัตตมาส หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง หลวงพ่อจิตร จิตรปัญโญ เป็นผู้สร้าง กดพิมพ์ในป่าช้า วัดชากหมาก จ.ระยอง

​

โดยใช้พิมพ์สมเด็จขี่สิงห์ของหลวงพ่อหอม ผงพรายสัตตมาส เนื้อเดียวกันกับ ขุนแผนผงพรายสัตตมาส ซึ่งราคาไปไกลแล้ว สมเด็จนี้พิธีเดียวกัน มวลสารเดียวกัน เมตตามหานิยมมาเป็นหนึ่งครับ ผู้ที่เคยใช้ขุนแผนแล้วทราบกันดี เป็นของดีราคาเบา ใช้แทนขุนแผนผงพรายสัตตมาสได้เลยครับ พระพิมพ์สมเด็จประทับสิงห์ หลวงพ่อสมจิตร ท่านได้ทำการกดพิมพ์และผสมเนื้อเองทุกอย่าง โดยท่านจะทำการกดพิมพ์พระเฉพาะวันจันทร์เพียงวันเดียว และจะต้องเป็นวันจันทร์ที่มีพระจันทร์เต็มดวงอีกด้วย เพราะท่านต้องการให้พระพิมพ์มีความเข้มขลังทางด้าน เมตตามหานิยม ดังนั้นด้วยปริมาณของมวลสารที่มีอยู่รวมทั้งข้อกำหนดในการสร้างต่างๆ ทำให้พระพิมพ์สมเด็จประทับสิงห์ของท่านมีจำนวนไม่มากนักคาดกันว่าคงจะไม่ เกิน 2000 องค์ และเมื่อกดพิมพ์พระเสร็จสิ้นแล้ว ท่านได้นำพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นนี้ไปให้หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ซึ่งท่านนับถือเป็นอาจารย์ให้ช่วยอธิษฐานจิตปลุกเสก จากนั้นจึงได้นำพระชุดนี้มาเข้าพิธีปลุกเสกใหญ่ที่ วัดชากหมาก โดยมี หลวงพ่อหอม เป็นประธานเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2521 โดยมีรายนามของพระเกจิอาจารย์ที่เข้าร่วมพิธีดังต่อไปนี้ - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี - หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า - หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ ระยอง - หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม - หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง - หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส - หลวงพ่อจิตร วัดชากหมาก - หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า - และหลวงพ่อหอม เป็นเจ้าพิธี โดยพิธีปลุกเสกนี้ดำเนินการกันจนถึงเช้าเลยครับ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีแล้ว หลวงพ่อสมจิตรท่านได้นำพระชุดนี้กลับเข้าไปในป่าช้าที่ท่านจำวัดอยู่ และทำการปลุกเสกด้วยด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งจนพอใจ จึงจะนำออกมาแจกจ่ายให้ลูกศิษย์ลูกหาได้นำไปบูชาติดตัวกันต่อไป สมเด็จผงพรายสัตตมาสได้จัดสร้างพร้อมกับขุนแผนผงพรายสัตตมาส ได้กดพิมพ์ในป่าช้า วัดชากหมาก จ.ระยอง โดยมีหลวงพ่อจิตร จิตรปัญโญ เป็นผู้สร้าง และนำมาตากบนฝาโลงพระสมเด็จชุดนี้จึงแรง และพิศดารมาก พระชุดนี้จะแก่น้ำมันแลดูเหมือนเปียกตลอดเวลา เมื่อสร้างเสร็จแล้วนำไปตากลมไว้บนกระดานธรรมดาก็ไม่แห้ง ตากที่ไหนก็ไม่แห้ง กลับแตกหักชำรุดเสียหายหมด จนหลวงพ่อต้องนำมาตากบนฝาโลง เป็น ของดี ที่ผีร่วมสร้าง ผงที่ใช้ในพระสมเด็จโลงผีคือ ผงพลายสัตตมาส ของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดระหารไร่ โดยมีการนำผงจากพระเก่าที่แตกชำรุดมาบดเป็นผง ให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกนาน7เดือน ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ และก่อนหลวงปู่จะปลุกเสกผงเหล่านั่น หลวงปู่ได้เอาผงของหลวงปู่เอง ใส่เข้าไปด้วย ปลุกเสกนาน7เดือน จึงเรียก ว่า ผงพลายสัตตมาส พระชุดนี้ได้นำไปให้หลวงปู่คร่ำวัดวังหว้าเสกตลอดไตรมาส จำนวนสร้าง 800 องค์ รับประกันความแท้
พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

คาถาของหลวงปู่ทิม
"มะอะอุ ทุกขัง อนิจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ"
หลวงปู่ทิมท่านว่าเป็นคาถาที่ดีและก็สั้น และพุทธคุณของคาถาบทนี้ก็สูงมากอยู่ที่คนปฏิบัติ ท่านยังกรุณาเล่าให้ฟังว่า มีใครคนหนึ่งที่อยู่ตลาดมาปรับทุกข์ให้ท่านฟังว่า ขายของก็ไม่ดีทะเลาะกับเมีอยู่ที่บ้านแทบทุกวัน ญาติพี่น้องต่างเกลียดชัง อยากจะขอคาถาให้เขารัก หลวงปู่จึงให้คาถาบทนี้ไป ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ ชายผู้นั้นมีความสุขแล้ว จะไปไหนเมียก็ตามไปด้วย ญาติพี่น้องก็รักใครกันดี ผู้เขียนจึงมั่นใจว่าพุทธานุภาพในคาถาบทนี้จะประสบผลสำหรับผู้ที่ปฏิบัติเป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าผู้ใดได้รับคาถานี้ไป ขอให้นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และคุณหลวงปู่ทิมเป็นที่ตั้งทุกอย่างก็จะอำนวยโชคพอสมควรกับบุญกรรมของบุคคลนั้น

 

1577. จัดแพ๊คคู่ ชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ เหรียญรูปเหมือนมหาจักรพรรดิ์มงคล รุ่นแรก พิมพ์เล็ก เนื้อทองแดงรมดำ หลวงพ่อลำใย วัดสะแก และ เศียรพรหมรุ่นแรก เนื้อผงมหาจักรพรรดิ ให้บูชา 899 บาท

​

หลวงพ่อลำใย แห่งวัดสะแก ถือเป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์และดำเนินรอยตามหลวงปู่ดู่ วัดสะแกผู้เป็นอาจารย์ โดยหลวงพ่อลำใยรูปนี้แหละที่ถือเป็นมือขวาของหลวงปู่ดู่ เรียนกรรมฐานจากหลวงปู่ดู่จนเชี่ยวชาญและมีส่วนช่วยหลวงปู่ดู่สร้างวัตถุมงคลหลายต่อหลายรุ่น อีกทั้งเมื่อหลวงปู่ดู่ท่านมรณภาพลงก็ได้หลวงพ่อลำใยนี่แหละที่สืบทอดวิชาการปฏิบัติสมาธิและสอนแก่บรรดาลูกศิษย์แทนหลวงปู่ดู่
หลวงพ่อลำใยท่านเป็นพระที่เน้นแนวทางปฏิบัติตามสายวัดสะแก ท่านไม่สะสมเงินทองหรือปัจจัยทุกครั้งที่ท่านได้รับมาท่านนำไปใช้จ่ายทางด้านพระพุทธศาสนาและสาธารณะกุศลจนหมดสิ้นอาทิสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล และด้วยความสมถะนี้เองจึงทำให้ท่านเป็นที่เคารพศรัทธาและเป็นที่พึ่งของชาวบ้านแถบอำเภออุทัยและใกล้เคียง
ลูกศิษย์ของหลวงพ่อลำใยเคยขอร้องให้ท่านสร้างเหรียญรูปเหมือนของท่านขึ้นเมื่อหลายสิบปีมาแล้วเพื่อห้อยคอบูชาเป็นสังฆานุสติแต่หลวงพ่อลำใยท่านไม่ยอมสร้างโดยท่านกล่าวว่าให้เลยอายุ 80 ไปก่อนจึงจัดสร้างซึ่งลูกศิษย์ก็ต่างเฝ้ารอกันว่าเมื่อไหร่เวลานั้นจะมาถึง
กาลลุล่วงมาถึงปี 2555 ปีที่อายุกาลของท่านเลย 80 พรรษา ท่านจึงได้จัดสร้างเหรียญรูปเหมือนขึ้นซึ่งถือเป็นเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรกของท่านโดยนำปัจจัยที่ได้ทั้งหมดไปสร้างศาลาปฏิบัติธรรมบนพระพุทธบาทเขาสะแกกรังและกำแพงวัดคานหามที่กำลังก่อสร้างอยู่ให้แล้วเสร็จ โดยท่านสั่งให้ช่างแกะพิพม์ด้านหลังเป็นยันต์มหาจักรพรรดิ์มงคลตามสายวัดสะแก
ด้านชนวนมวลสารนั้นหลวงพ่อลำใยท่านได้นำเอาชนวนพระเก่าของหลวงปู่ดู่หลายต่อหลายรุ่นมาเป็นชนวนมวลสารหลักอีกทั้งท่านยังได้ผสมแผ่นจารยันต์จักรพรรดิ์มหามงคลที่ท่านเพียรจารขึ้่นตลอดระยะเวลาหลายปีจำนวนหลายสิบแผ่นมาเป็นส่วนผสวมอีกด้วย
การปรกปลุกเสกหลวงพ่อลำใยท่านได้ทำการอธิษฐานจิตเดี่ยวตามสายวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาจากหลวงปู่ดู่เป็นระยะเวลากว่า 7 ราตรีอีกทั้งยังขอบารมีหลวงปู่ดู่ให้ช่วยอธิษฐานจิตอีกแรงจึงเสร็จสิ้นสมบูรณ์เป็นเหรียญรูปเหมือนจักรพรรดิ์มงคลรุ่นแรกของท่านความตั้งใจ อีกทั้งด้านหลังเหรียญทุกเหรียญยังมีการตอกโค้ดรูป "วัว" กันการปลอมแปลงในอนาคตอีกด้วย
เหรียญรูปเหมือนจักรพรรดิ์มงคลรุ่นแรกของหลวงพ่อลำใยนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะสร้างตามจำนวนสั่งจอง ส่วนพิมพ์เล็กนี้ก็สร้างไม่มาก

 

1578.พระดีที่น่าบูชา ศิษย์ในองค์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระผง พิมพ์พุทธกวัก หลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์ ปิดรายการครับ

​

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านให้ความเคารพนับถืออีกองค์หนึ่งและหลวงพ่อเคยเขียนเรื่องของท่านไว้ในหนังสือเรื่องจริงอิงนิทาน ลองไปหาอ่านกันดูครับ
วิธีสร้างพระของพระปฐมเจติยาทร หรือหลวงพ่อบุญธรรม ท่านสร้างตามแบบฉบับตำรับพิธีสมัยโบราณ คือ สร้างเนื้อเอง กดพิมพ์เอง ปลุกเสกเอง ในกุฏิที่ท่านพักอาศัยอยู่ ท่านจะไม่ยอมทำนอกวัดเหมือนการสร้างพระในปัจจุบัน โดยท่านจะเริ่มต้นตั้งแต่สร้างผงวิเศษด้วยการเขียนอักขระยันต์คาถาลงบนแผ่นกระดานดำด้วยดินสอพองกำหนดจิตเขียนทีละตัวจนครบสูตรของท่าน แล้วลบออกเก็บผงเลขยันต์ไว้ทำผงวิเศษ (เขียนแล้วก็ลบกระทั่งได้ผงตามที่ต้องการ) ในตัวยันต์ที่เขียนนั้นจะต้องมียันต์สำคัญของอาจารย์ท่าน เช่น ยันต์เกราะเพชร ที่ท่านร่ำเรียนถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อปาน อยุธยา เลขยันต์ของท่านเจ้าคุณธรรมวโรดม (โชติ) พระอุปัชฌาย์ของท่านเป็นต้น ขั้นตอนต่อไปท่านใช้หัวว่าน ๑๐๘ ชนิดมา บดให้เป็นผงละเอียดรวมทั้งผงธูปหน้าพระประธานในพระอุโบสถและรอบ ๆ องค์พระปฐมเจดีย์ทั้ง ๔ ทิศ ผงธูปที่ท่านจุดบูชาพระอาจารย์ นำมาผสมรวมกับน้ำมนต์ตั้งอิ้วเมื่อเข้ากันดีแล้วได้ฤกษ์ดีแล้ว ท่านก็นำเนื้อนี้ลงแม่พิมพ์กดเป็นรูปพิมพ์พระตามพุทธลักษณะต่าง ๆ คือ พิมพ์พระสมเด็จปางสมาธิ ฐานสามชั้น ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ พระสมเด็จแบบพระพุทธกวัก พระพิมพ์พระนางพญา พิมพ์พระพุทธโสธร ลักษณะรูปสามเหลี่ยม ฯลฯ ที่ด้านหลังจะกดด้วยตัวอักษร “ธ” จมลงในเนื้อหมายความว่า “หลวงพ่อบุญธรรม” (ถ้าท่านผู้อ่านไม่มีพระเนื้อดินของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จะใช้พระผงของหลวงพ่อบุญธรรม แทนรับรองพุทธคุณไม่แพ้กัน เพราะสร้างตามแบตำราเดียวกัน )
นอกจากพระเครื่องเนื้อผง ท่านยังได้ทำสิ่งมงคลสำหรับบูชาประจำบ้านเรือนที่ลูกศิษย์นิยมกันมากในสมัยนั้นคือ ผ้ายันต์ประจำบ้านเรือนหรือโรงงานป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ ผ้ายันต์สามเหลี่ยมชายธงที่หลวงพ่อสักอักขระเลขยันต์ด้วยลายมือท่านเอง ทางด้านเมตตามหานิยมก็มี สาลิกา และเทียนสีผึ้งสำหรับทาริมฝีปาก เพื่อความมีเสน่ห์ในการเข้าหาพบปะผู้ใหญ่ เป็นต้น ส่วนบทพระคาถาต่าง ๆ ที่ลูกศิษย์ลูกหาเรียนไป เพื่อไว้อธิษฐานใช้ประจำตัวนั้น ผู้ที่นำไปใช้ห้ามลักขโมย ไม่ให้ปล้น ไม่ให้ดื่มเหล้า จึงจะมีคุณต่าง ๆ ตามความประสงค์
ในช่วงที่หลวงพ่อบุญธรรมท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านยังได้ทำเหรียญเนื้อโลหะรูปเหมือนของท่านด้วยตามความปรารถนาของบรรดาลูกศิษย์รวม ๓ รุ่น เป็นเนื้อทองแดงกะไหล่ทองทั้งหมด และสิ่งที่จะขาดเสียมิได้นั้นคือการลงจารตัวยันต์เกราะเพชรลงในแผ่นเงิน แผ่นทอง หลอมละลายเป็นชนวนสำคัญในเนื้อเหรียญทั้ง ๓ รุ่น
สิ่งมงคลวัตถุมงคล และพระเครื่องต่าง ๆ ของหลวงพ่อบุญธรรม เมื่อเวลาท่านนำมาแจกให้แก่ลูกศิษย์ หรือผู้ที่นับถือท่านหลวงพ่อจะเสกเป่าประสิทธิ์ประสาทมอบให้กับมือเองอีกครั้งหนึ่ง และไม่มีการตั้งราคาว่าจะต้องทำบุญองค์ละเท่าไร! เพราะหลวงพ่อท่านถือว่าสร้างขึ้นเพื่อแจก นอกจากว่าท่านที่รับพระเหล่านั้นจะทำบุญเองตามความสมัครใจของแต่ละคน ก็สุดแต่ความศรัทธา ด้านพระพุทธคุณ ของ ๆ ท่านดีเด่นทางเมตตามหานิยม ให้โชค ให้ลาภ แคล้วคลาดจากภัยพิบัติอันตรายใด ๆ ทั้งปวง และโดยเฉพาะในทางมหาเสน่ห์ด้วยแล้วหากปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม นับว่าของของท่านเป็นที่เชื่อถือได้ มีความนิยมกันมากในหมู่บรรดาลูกศิษย์และคนที่ทราบประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อบุญธรรม แต่ในบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องวงนอกอย่างเช่นปัจจุบัน ไม่ทราบทั้งประวัติของท่านและก็ไม่ทราบว่ามีพระเครื่องพิมพ์ต่าง ๆ อยู่ด้วย เนื่องจากขาดการประชาสัมพันธ์จึงไม่แพร่หลาย ไม่เหมือนพระที่สร้างขึ้นใหม่ ๆ ที่มีบุคคลในวงการเกี่ยวข้องทุ่มเทลงทุนโฆษณาพุทธคุณและปาฏิหาริย์ ให้คนได้รู้จักกันไปทั่วประเทศและต่างประเทศคล้ายสินค้าทาง...ธุรกิจ

มงคลขลัง
2 ธันวาคม 2021 ·
หลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม
ผู้เป็นร่างประทับทรง สมเด็จโต,หลวงปู่ทวด,เเละเทพเจ้าอีกหลายองค์
ประวัติจากหนังสือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่เขียนไว้เกี่ยวกับหลวงพ่อบุญธรรมใน หนังสือเรื่องจริงอิงนิทาน ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าวว่า พระครูธรรมาภิรามองค์นี้ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์นี้ชอบเล่นฤทธิ์ ชอบนัก ไอ้เรื่องแสดงฤทธิ์แสดงเดชน่ะชอบ ทำหน้าให้เป็นผู้หญิงบ้าง หน้าให้เป็นผู้ชายบ้าง หน้าสวยบ้าง หน้ายักษ์บ้าง แบบนี้เพียงแค่แกเสกแป้งผัดหน้า หน้าแกจะเปลี่ยนไปทันที แล้วก็เปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดเจน เขาเรียกว่าเรียนพรหมสี่หน้า แต่ความรู้ของแกเยอะ องค์นี้จิปาถะ บอกไม่ถูก
เรื่องคาถามอาคมนี่เก่งจริงๆ ดีทุกด้าน แต่ว่ามีดีพิเศษอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือเรื่องเล่นโชว์ชาวบ้าน ได้แก่การแต่งหน้าแบบหนึ่ง อีกแบบหนึ่งแขนสั้นแขนยาว ไอ้แขนสั้นแขนยาวน่ะชอบเล่นเป็นปกติ บางทีแกนั่งๆ อยู่แกหยิบอะไรไม่ถึงแกก็เอามือตบๆ แขน แล้วแกก็ร้องว่า ยาวๆๆ ในที่สุดขาแกก็ยาวยาวจนกระทั่งหยิบของอันนั้นถึง แกขี้เกียจใช้ชาวบ้าน เวลาอยากจะดูแขนสั้นแขนยาวแกก็ชอบทำให้ดู ไอ้นี่เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ว่าตาสีตาสาเท่านั้นนะที่รู้ว่าพระครูธรรมาภิรามเป็นคนทำแขนสั้นแขนยาวได้ ใครๆ ก็ดูได้ถ้าปรารถนาจะดู ท่านทำให้ดูเสมอ ถ้าจะถามว่านี่เป็นวิชาอะไรก็บอกได้ว่าเป็นวิชาสมาธิ สมาธิอะไรก็ช่าง จะเป็นกสิณหรืออะไรก็ช่าง ถ้ากำลังสมาธิดีก็ทำได้ ถ้าอยากจะทำกันนะ แต่มันก็ไม่มีอะไรทำให้ชาวบ้านดีขึ้นมาหรอก นอกจากว่าจะทำให้ดูแบบเล่นกลเท่านั้น

 

สวัสดียามเช้าครับ

 

​