ผลที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ล้วนมาจาก “กรรม” ทั้งสิ้น

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 26 สิงหาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    LpJarunPic.jpg
    ผลกรรมของหลวงพ่อ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)

    อาตมามีประสบการณ์เกี่ยวกับกฎแห่งกรรม ที่เราจะต้องรับใช้
    เมื่อเรามีจิตมีปัญญาเกิด จะรู้กฎแห่งกรรมทันที จากการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
    เวรกรรมตามสนองอาตมา จึงรู้บุญบาป เมื่อก่อนนี้อยู่กับยาย
    อาตมาไม่สนใจกับพระตลอดกาล เวลาไปวัดหาบของไปทำบุญที่วัด
    ยายก็ต้องให้เก็บเอาก้อนดินไปด้วย ใส่กระบุงไปข้างละ ๓ ก้อน
    ไปถึงวัดแล้วให้ไปโยนไว้ที่มันเป็นบ่อ เป็นหลุมอยู่ในวัด ยายบอกได้บุญ
    อาตมาบอกว่าคนอื่นเขาไม่หาบดินไปวัดกันหรอก มีบ้านเราบ้านเดียวอายเขาตาย
    ยายบอกว่าเราไปวัดเหยียบดินติดเท่ามานี่เป็นกรรมนะ เป็นบาป ใช้หนี้สงฆ์
    เป็นหนี้สงฆ์มากเป็นบาปเป็นกรรม แต่แกก็ไม่ได้อธิบาย
    เขาเล่ากันมาอย่างนี้แกก็จำมาอย่างนี้ ก็ทำมาอย่างนี้ไม่เหมือนคนเดี๋ยวนี้ว่าไม่บาป
    บาปได้ยังไงเหยียบแค่นิดเดียวพระก็ถมเอาเองซิ นี่คนรุ่นใหม่เข้าใจอย่างนี้
    แต่คนรุ่นเก่าถือนักถือเชื่อเข้าไว้ก่อนมันมีประโยชน์ มันได้กำไรชีวิต คือเชื่อกฎแห่งกรรม

    อาตมาเป็นเด็กเมื่อมาบวชใหม่ ๆ ไปบ้านญาติที่เขาเป็นนักเลง เป็นโจร เป็นเสือ
    เขากินเหล้ากัน พอเห็นพระมาเขาเก็บแก้วหมดเลย เอาหล้าแอบเลย ยังกลัวบาปนะ
    เดี๋ยวนี้ไม่ต้อง กินต่อหน้าพระเลยสบายมาก แถมงานศพเล่นไพ่หน้าศพอุทิศส่วนกุศล
    แล้วพระก็สวดไป ไม่ได้เกรงกลัวต่อบาปกรรมแต่ประการใด
    เขาว่าบาปกรรมไม่มีแน่นอนเข้าใจอย่างนี้


    สร้างกรรม-กินอาหารที่ยายถวายพระ

    ตอนอยู่ที่โรงเรียนมัธยม ยังอยู่กะยาย ยายให้เอาอาหารไปถวายพระ
    แล้วเราก็เอาไปทานเสียเองทั้งคาว ทั้งหวาน แล้วก็บอกว่าไปถวายสมภาร
    เดินจากบ้านไปไม่มีรถหรอก เดินไปเป็นระยะทาง ๑ กิโลเมตร
    อาตมาไปก็ไปเจอเพื่อนนักเรียนที่สร้างความดีมาด้วยกัน หนีโรงเรียนกันสะบัด
    เพื่อนบอกว่ายังไม่ได้กินข้าวเลย เราก็นึกเลยว่าจะเอาไปให้พระทำไม
    เราก็ยังไม่ได้กินเลย พรรคพวก ๔-๕ คนด้วยกัน ก็เห็นด้วย
    เลยตั้งวงกินกันเสียเลยเรียบร้อยล้างปิ่นโตเสร็จกลับบ้าน
    ยายถาม ไปวัดเจอสมภารไหมล่ะ บอกยายว่าผมไม่ได้ขึ้นกุฏิหรอก
    ให้เด็กมันถ่ายปิ่นโตให้แล้วผมก็มา ยายบอกว่าต่อนี้ไปต้องรับพรด้วยนะ
    รับพรสมภารมาแล้วก็มาบอกยาย
    ยายจะได้ชื่นใจแล้วบอกท่านด้วยว่ายายให้เอาอาหารมาถวาย

    วันหลังเอาอีกแล้ว ให้ไปอีกก็เจอเพื่อนอีก โรงเรียนปิด ก็แบบเดิม
    กินเสร็จแล้วไปตีผึ้งต่อ ยายถามว่า “เจอสมภารมั้ย” เจอครับ
    รับพรเสร็จผมก็มา แท้ ๆ สมภารดันมาอยู่บนบ้านเรา มาไม่บอกเราเลย
    มานั่ง นั่งตั้งนานแล้ว วันนั้นสมภารไปฉันบ้านใต้
    ฉันเสร็จแล้วก็มานั่งคุยกับยาย แวะมาเยี่ยมยาย เราไม่รู้ ไม่บอกเรา
    เราไม่ทันแหงนดูบนบ้าน สมภารนั่งยิ้ม ยายเป็นคนใจบุญ พระชอบมาเยี่ยม
    แต่อาตมารำคาญ พอสมภารกลับไปแล้วโดนหนัก บอกว่าบาป
    ถามว่านี่กี่เที่ยวแล้ว เราบอกว่า ๒ เที่ยวแล้วครับ
    ยายบอกว่า นี่ต้องเป็นเปรต ปากเท่ารูเข็ม กินข้าวไม่ลง
    เราก็ถามว่าเปรตสูงกว่าต้นตาลมั้ย ยายบอกว่าไม่เห็น
    เราไม่เชื่อหรอก ว่าหลอกเราแต่เราไม่พูด เถียงไม่ได้


    โกงค่าเรือจ้าง

    ในเวลากาลต่อมาไปโรงเรียนต้องนั่งเรือจ้างข้ามฟากเดือนละ ๒๕ สตางค์
    อาตมาโกงค่าเรือจ้างไม่ให้ค่าเรือจ้าง กินก๋วยเตี๋ยวผัดไทย
    แถมเลี้ยงเพื่อนด้วยนะ ก็โกงค่าก๋วยเตี๋ยวเขาอีก


    ยิงนก-หักคอ-หักขานก

    ในเวลาต่อมา โรงเรียนปิดหลายวันเทอมสุดท้ายแล้ว
    ครูใหญ่โรงเรียนประชาบาลเขามาขอแรงอาตมาไปยิงปืน ไปยิงนก
    เราก็ไม่รู้บุญบาปมันมีจริงอย่างไร สนุกดีก็เอาปืนลูกซองดาวกระจาย ๕ นัด
    บอกกับโยมว่าจะไปติดวิชาตอนโรงเรียนปิด อยู่สัก ๗ วันจะกลับมา
    ขอสตางค์สัก ๑๐๐ แม่ก็ให้ตังค์ไป เราจะเอาปืนไปได้ยังไง
    ก็เอาที่นอนไปด้วยเอาเสื่อออกมาเอาปืนไว้ข้างใน
    เช้ากินข้าวแล้วก็ออกตามทุ่งตามหนองยิงนกเป็ด นกกระสา
    พอยิงได้จับหักคอใส่ตะข้อง พอนกมันจิก จิกก็ถลกหนังเลย ทรมานเหลือเกิน
    เราไม่ทราบว่ามันจะมีบาปกรรมแต่ประการใด
    ล่วงมาอีกวันหนึ่ง ก็ไปยิงนกกระสาถูกปีกมันหักแล้วมันบินไม่ได้เราก็ขับมัน
    เหนื่อยมาก แล้วก็จับได้ ทำไง หักขาเลย
    นกก็ดิ้นร้องไห้ตาย สรุปให้ฟังที่อาตมาทำบาปกรรม

    ต่อมาได้บวชในพระพุทธศาสนา พ่อแม่ให้บวชโดยไม่ได้เลื่อมใส
    ไม่ได้คิดว่าจะมาอยู่อย่างนี้ก่อนที่จะบวชก็ไปเรียนหนังสืออยู่ที่กรุงเทพฯ
    ไปอยู่โรงเรียนหลายโรงเรียนอยู่วัดก็ตั้งหลายวัด
    พอเสร็จจากเรียนหนังสือก็มาบวช กะว่าจะบวชสักพรรษาเดียว
    ท่องเรียนหนังสือไปจนจบหลักสูตร ก็ไปเจริญพระกรรมฐานออกป่าดงพงไพร
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    (ต่อ)
    ใช้หนี้ค่าก๋วยเตี๋ยว

    เริ่มมารักษาการเจ้าอาวาสที่วัดนี้ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ ปี พ.ศ. ๒๕๐๐
    ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่นี่ ก็เริ่มใช้กรรมมาตามลำดับ
    โดยที่ว่าในปีต่อมาใช้เรื่องก๋วยเตี๋ยวก่อน เรามานั่งสมาธิของเรา
    มันก็เกิดไปเข้าญาณวิถีของเขาชื่อว่า นางกลุ่ม นางกลุ่มมีสามีชื่อตากิ๊ม
    เขาไม่รู้ว่าเราโกงก๋วยเตี๋ยวเขา แม่กลุ่มกับตากิ๊มเกิดฝันพร้อมกัน
    ฝันว่าเทวดามาบอกว่าถ้าต้องการให้ลูกชายหายเกเร แล้วกลับมาเรียนหนังสือละก้อ
    ให้ไปตามลูกชายมาแล้วให้ไปบวชเณรที่วัดอัมพวัน รับรองแก้ได้แน่
    เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว โยมกลุ่มก็เอาลูกมา ตากิ๊มมาด้วย
    อาตมาก็จำได้คลับคล้ายคลับคลาเดินขึ้นมาสามคน
    บอกว่าจะเอาลูกมาฝากบวชเณร อาตมาก็ถามว่า ทำไมไม่บวชที่วัดอื่น
    โยมกลุ่มก็เลยเล่าให้ฟังว่าที่พาลูกมานี่เพราะฝันไปว่า
    เทวดามาบอกว่าให้มาบวชที่นี่ ช่วยรับไว้หน่อย

    เรานึกแล้วว่าจะต้องได้ใช้หนี้ค่าก๋วยเตี๋ยวเขาแน่ แต่ไม่บอกก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจัดการให้
    แล้วก็จัดการส่งโยมทั้งสองกลับแล้ว ก็จัดแจงโกนหัวเลย
    เรามีเรือยนต์ลำหนึ่งก็วิ่งไปตามพระอุปัชฌาย์ ซื้อผ้าไตร ซื้อรองเท้า
    ซื้อเสื่ออ่อน ซื้อบาตร ซื้อร่ม ทั้งหมด ๒๐๐ บาท
    แล้ววิ่งไปหาอุปัชฌาย์บอกเอาเด็กมาบวชเณรครับ
    บวชเสร็จแล้วก็กลับมาให้นั่งกรรมฐานเดินจงกรม

    พอได้ ๗ วัน ก็เลยเล่าเรื่องเของอาตมาให้เณรฟังว่าอาตมานี่โกงค่าก๋วยเตี๋ยวแม่เจ้า
    แม่เจ้าก็ไม่รู้ แล้วไอ้ผ้าไตรที่นะ อะไรต่ออะไร ๒๐๐ นี่
    กระซิบบอกแม่นะบอกว่าเจ๊ากันไปนะ ไม่ต้องเอามาให้ ถือว่าใช้ค่าก๋วยเตี๋ยวกันไป
    พอเล่าเสร็จแล้วเณรบอกว่าผมเกิดศรัทธาเสียแล้ว ก็ตั้งใจปฏิบัติ

    ต่อมาก็ขอสึกว่าจะไปเรียนหนังสือแล้ว ก็สอบได้ในปีนั้น
    แล้วไปเป็นทหารอากาศต่อมาก็ได้เลื่อนเป็นนายทหารอากาศไปเลย

    นี่คือใช้หนี้ค่าก๋วยเตี๋ยว ถ้าไม่ได้ใช้ในชาตินี้ก็ต้องใช้ดอกชาติหน้านะ กฎแห่งกรรมมีจริง
    แต่กฎแห่งกรรมที่อาตมาประเมินผลและได้ประสบการณ์มารู้ล่วงหน้าได้
    เพราะใช้สติระลึกก่อนเป็นตัวรู้ล่วงหน้า ตัวสัมปชัญญะตัวผลักดัน
    ทำให้แก้ไขเหตุการณ์ได้ทันเฉพาะหน้า เรียกว่า ตัวสัมปชัญญะ
    ที่อาตมารู้นี้ก็เนื่องจากว่าเราเจริญสมาธิ เจริญสติอยู่ตลอดเวลา
    ขอให้ท่านไปพิจารณาด้วยตนเอง ด้วยเจริญกุศลภาวนาไปเรื่อย ๆ
    ไม่จำเป็นต้องมีเวลาว่าง เวลาที่ท่านทำงานก็ภาวนาไป
    หูได้ยินเสียงภาวนาไว้ เขียนหนังสือภาวนาไว้ ตั้งสติไว้ตลอดกาล
    กรรมฐานมีความสำคัญต่อหน้าที่การงาน

    ในเวลาต่อมา อาตมาก็นั่งเจริญภาวนาโดยไม่ได้ขาด
    แล้วก็มีการอโหสิกรรม และแผ่เมตตา ขอให้ท่านเอาไปใช้กันทุกท่าน
    ก่อนที่จะแผ่เมตตาออกไปต้องอโหสิกรรมก่อนนะ
    ถ้าไม่อโหสิกรรมออกก่อนท่านจะแผ่ไม่ออก อโหสิกรรมให้ใจสบาย
    ไม่โกรธใคร ไม่เกลียดใคร ไม่อิจฉาริษยาใคร แผ่เดี๋ยวนั้นถึงเดี๋ยวนั้น
    แล้วก็มีการรับตอบด้วยนะ อันนี้มันเป็นของใครของมัน
    อาตมาจะบอกกรรมวิธีแบบวิชาการนั้นคงไม่ได้ เพียงแต่แนะแนววิธีปฏิบัติเท่านั้น
    จากอำนาจของจิตด้วยการใช้สตินั่นเอง
    มันอยู่ในวงแคบของการปฏิบัติกว่างเข้ามาหาแคบโดยวิธีนี้

    ในเวลาต่อมาที่อาตมามาอยู่ที่นี่แล้วก็เจริญภาวนาและก็แผ่เมตตา
    แต่ควรจะมีหลักการแผ่เมตตา แล้วก็อโหสิกรรมให้ได้
    ที่เราทำวัตรสวดมนต์นั่นมีความหมายมาก กาเยนะวาจา ทั้งกาย วาจาใจ
    ขออโหสิกรรมต่อคุณพระศรีรัตนตรัย ที่หมิ่นเหม่ต่อคุณพระศรีรัตนตรัย
    กำหนดอโหสิกรรม แล้วแผ่ออกไปได้ผลแน่


    ใช้หนี้ค่าเรือจ้างตาก้อย

    พอมาเจริญสมาธิ จิตสงบก็นึกขึ้นมาได้บอกรีบใช้หนี้ค่าเรือจ้าง
    นึกไปนึกมาถูกต้องที่เคยโกงเขามา อาตมาก็ไม่ได้ไปบ้านเขานาน
    จนมาบวชเป็นสมภารเจ้าวัด ก็เอานมไป เอาโอวัลตินไป
    เอาสตางค์ใส่ซอง ๒๐๐ บาท ถือราคาก๋วยเตี๋ยวเป็นเกณฑ์ ชื่อตาก้อย แก่แล้ว
    อาตมาเอาเรือจอด เขาก็ตกใจว่าพระมาทำไม แกเจ็บหนักเป็นอัมพาตจะตายแล้ว
    ก็เอาสตางค์ไปใส่มือกระซิบบอกที่หูว่า โยมก้อย
    อาตมาตอนเป็นเด็กเคยโกงค่าเรือจ้างโยม เดือนละ ๓๐ สตางค์จำได้มั๊ย
    แล้วเอานมโอวัลตินมาด้วย บอกลูกสาวว่าช่วยชงให้โยมด้วย อโหสินะโยมนะ
    อาตมาเป็นเด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แหมบุญของเราเหลือเกินเขาแปลกใจกันว่า
    พระก็มาหลายวัดแล้วมีแต่มาบอกบุญ องค์นี้แปลกเอาสตางค์มาให้
    วันหลังลูกสาวเอาข้าวสารมาให้ที่วัดเรานี่ เรียกว่าบุญงอกได้
    คนที่มีจิตดีต้องมีมารต้องใช้หนี้ มีอุปสรรคตลอดเวลากาล
    คนที่มีความดีต้องมีอุปสรรคแน่นอน ไม่ใช่ดีไปตลอด
    เราเข้าใจผิดคิดกันว่า เราสร้างกรรมดีเหมือนมีกรรมมาบัง
    ข้อเท็จจริงก็คือใช้เวรใช้กรรม เป็นความดีแล้ว


    ใช้หนี้ค่าเรือจ้างยายนวม

    อยู่มาอีก ๒-๓ เดือน อาตมานั่งสมาธิตั้งสติ นึกต่อกันไปได้ว่า
    เคยโกงค่าเรือจ้างยังอยู่อีกท่าหนึ่ง ชื่อยายนวม อาตมาก็ไปแกก็จะตายเสียอีกแล้วขึ้น
    ไปกระซิบที่หูบอกโยม อาตมาเมื่อเป็นเด็กเคยโกงค่าเรือโยม
    อาตมามาขอให้อโหสิกรรมอาตมาด้วยนะ เสร็จแล้วก็ให้ ๒๐๐ บาท
    พร้อมกับนม โอวัลตินตามเดิม วันหลังเขาทำบุญ ๗ วัน ยังเอาสตางค์มาถวายเราอีก
    ได้มากว่า ๒๐๐ อีก พอกลับมาได้ ๒ วัน โยมนวมก็ตาย
    อาตมาก็ได้ใช้หนี้ตลอดนี่มันเป็นบุญเป็นกรรมของเราโดยเฉพาะ

    เวลาผ่านมา พอดีจะไปเยี่ยมร้านเบ๊เต็กเส็งที่บางปะอิน เคยแวะไปกินอาหารบ่อย ๆ
    ต่อมาก็ไม่เอาสตางค์ เพราะทุกครั้งไปอาตมาก็จ่ายสตางค์
    เขาบอกว่า ตั้งแต่อาตมาไปฉันร้านเขานี่ทำให้ร้านเขาขายดีเลยไม่เอาสตางค์
    ก็ชอบพอกันอยู่ด้วย มาตอนหลังมีคนไปผ่าท้องที่สุขศาลาอนามัยชั้น ๑
    บางปะอิน ที่ริมน้ำ อาตมาก็ตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมเขา

    พอดีคืนนั้นอาตมาก็แผ่เมตตาอโหสิกรรม สติบอกอีกแล้วว่าจะต้องไปใช้หนี้เต่า
    ที่รับจ้างต้ม เต่าตัวละ ๑ บาท ให้พวกขี้เมา ปรากฏว่าเต่ามันมีความสามัคคี
    ดิ้นเสียจนหม้อดินแตกหนีเข้ากอไผ่ไปหมด กรรมเหล่านี้เราลืมไปหมดแล้ว
    สติอันหนึ่งก็บอกว่า ระวังพรุ่งนี้อย่าเอาใครไป
    อาตมาก็ไปกับคนขับรถปิคอัพ ถ้าไปก็ตายหมดเลย ตายหมดแน่นอน
    อาตมาก็หาเรื่องเพทุบาย เขาก็โกรธอย่างร้ายแรงว่าไปชวนเขามาแล้วก็ไม่เอาเขาไป
    อาตมาก็บอกกะคนขับรถว่า ไปเยี่ยมเขานี่เจ้าคอยตั้งเวลาไว้ว่าแค่ ๑๕ นาทีนะ คอยเตือน
    อาตมาให้รีบกลับด่วน โดยเราคิดแล้วถ้าไม่กลับตามเวลา ๑๕ นาที
    รถจะคว่ำที่พระนครศรีอยุธยาและเราจะต้องตาย เลยผลสุดท้ายไม่เอาใครไปเลย
    พอได้ ๑๕ นาทีก็บอกเจ๊ชื่อศรีนวล ร้านเบ๊เต็กเส็ง อาตมาขอลาละ
    บอกมีธุระ รีบกลับ ขึ้นรถได้ก็บึ่งเลยความเร็วขนาด ๑๒๐ ก.ม./ ชั่วโมง
    ขับเป็นการใหญ่ถนนเอเชียเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ ฝนตกฟ้าร้องเป็นการใหญ่
    มาถึงอ่างทองฝนก็หยุด ฝนที่อำเภอพรหมฯ มันยังตกอยู่ถนนมันลื่น
    ตรงโค้งตรงวัดคูรถมาด้วยความเร็วก็หมุนเลย รถเสียหลักพวงมาลัยหลวมหมดเลย
    คว่ำ ๘ รอบ ศีรษะโดนทั้งบนทั้งล่าง ล็อคประตูไว้ จีวรขาด รถบี้ ถลอกปอกเปิดหมด
    ต้องมาปวดแสบปวดร้อนอยู่เป็นเวลาแรมเดือน
    อาตมาไม่กล้าไปโรงพยาบาลเพราะอายเขา รถบี้หมดต้องเอาแชลงงัด
    พวกรถมาจอดดูเป็นแถว ดีว่ารถข้างหน้าไม่สวน ถ้าสวนก็คงตายหมด
    เสียค่าซ่อม ๓-๔ หมื่นบาท ปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัวเลย มันถลอกหมด
    อันนี้ก็ได้ใช้หนี้เต่าแต่ยังใช้ไม่หมด


    ใช้หนี้หักคอนก

    ในเวลาต่อมา อาตมาก็นั่งสมาธิ ๖ เดือนเศษที่จะถึงวาระแห่งความตาย
    ก็มีนิมิตบอกอาตมาให้ทราบว่า พระเดชพระคุณท่าน วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๑
    เที่ยงสี่สิบห้าต้องจากวัด ตายไปใช้หนี้นกที่หักคอ
    วันที่ ๑๖ ตุลาคมออกพรรษา อาตมาก็มานึกดูว่าเราต้องลาเขา
    ก็ประชุมสงฆ์มอบอัฐบริขาร เสียสละปลงบริขารให้หมด มอบให้องค์อื่น
    เงินวัดมีเท่าไรมอบให้มัคทายกแล้วก็องค์ไหนจะเป็นสมภารต่อไปก็มอบ
    อาตมาก็บอกให้พวกโยมผู้หญิงมานั่งกรรมฐานคนละเดือน
    พอโยมหญิงกลับแล้ว เอาโยมผู้ชายมานั่งแทน ต่อไปก็จะไม่มีคนสอน
    จะขอลาแน่นอน วันที่ ๑๔ ตุลาคม

    นี่มันรู้ล่วงหน้าได้ มันมีประโยชน์มากนะ ท่านทั้งหลายถ้ารู้ล่วงหน้าไม่ได้ลำบากมาก
    สติตัวนี้เป็นการรวมผลงาน สัมปชัญญะมันบอกได้ดังนี้
    อาตมาก็ขอลาเขาหมดแล้ว แบ่งงานแบ่งภาระหน้าที่แล้ว

    อาตมาก็คิดว่าตามหลักพระพุทธเจ้าสอนไหน ๆ เราจะตายแล้วก็ขอลาเขาเสีย
    แล้วคนที่มาเราก็บอกได้ คนที่ไม่มาจะทำยังไงเขาจึงจะรู้ได้
    ก็เจริญกรรมฐานเดินจงกรม นั่งกรรมฐาน

    มีโยมท่านหนึ่งชื่อโยมชาญ กรศรีทิพา ที่รู้จักอาตมาเนื่องจากว่า
    บริษัทนายสุเมธ เตชะไพบูลย์ คุณชาญ กรศรีทิพา เขามีโรงงานน้ำตาลที่สิงห์บุรี
    เขาก็ฝันว่า รัชกาลที่ ๕ ไปเข้าฝันบอกให้เขามาที่วัดนี้
    พระบรมฉายาลักษณ์ของท่านที่วัดนี้ เขาก็พูดลักษณะได้ถูกต้องโดยที่ ร.๕
    เคยเสด็จทางชลมารคสมัย ร.ศ. ๑๒๕ และพระองค์ได้ถวายพระบรมฉายาลักษณ์
    ตอนพระองค์ขึ้นเสวยราชย์ในวันนั้นท่านสมภารก็อยู่ด้วย

    คุณชาญ พร้อมด้วยคุณสุเมธ ก็เดินเข้ามา อาตมาก็ไม่รู้จัก บอกโยมมีธุระอะไร
    เมื่อทั้งสองมาเห็นรูปก็เลยเล่าเรื่องที่ฝันให้ฟัง ก็เลยรู้จักกันเป็นเวลาหลายปี
    ในเวลาต่อมาอาตมาเห็นว่าคนนี้มีประโยชน์ต่อวัด ถ้าหากเราจะเป็นอะไรไป
    เราต้องบอกเขาเสียก่อน อันนี้เอาไปใช้ได้เวลาจะแผ่เมตตา
    กระแสจิตนี่เป็นพลังงานอันหนึ่ง อาตมาพิสูจน์ได้ เช่นเอาผ้าขาวมากอง
    แล้วเราเอากระดาษสีมาทับแล้วเอาพลังงานกระแสแดดหรือไฟฟ้าส่อง
    จะทำให้กระแสนี่ไปติดผ้าขาวได้ เหมือนอย่างแผ่ส่วนกุศล
    ขอให้ท่านทำจิตดี ๆ ติดได้ แต่ก็หาคนทำไม่ได้ง่าย ๆ นัก ต้องทำจิตใจให้ถึงก่อน
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    (ต่อ)
    ส่งกระแสจิตลาตายกลายเป็นตัวหนังสือ

    อาตมาก็เริ่มต้นว่าใกล้วันที่ ๑๔ ตุลาคมแล้ว
    เราก็มาสวดมนต์ไหว้พระแล้วแผ่เมตตาบอกโยมชาญ
    ว่าโยมกับอาตมาก็ชอบกันมาหลายปีแล้ว อาตมาขอลานะ วันที่ ๑๔ ตุลาคม
    อาตมาคอหักแน่ ตายอยู่โรงพยาบาลสิงห์บุรี ก็บอกเขาอย่างนั้น ขอลา
    ในเวลาต่อมาคุณชาญเขาก็ไปทำงานบริษัท ไปนั่งเขียนหนังสือ
    ไอ้ข้อความที่เราแผ่เมตตาไป ไปติดที่กระดาษเขา
    ลายมืออาตมาด้วยตามที่เราแผ่เมตตาตรงกับตัวหนังสือ

    วิธีการแผ่ส่วนกุศลท่านทั้งหลายจำตํารานี้ไว้ให้ดี
    สามารถทำเป็นตัวหนังสือได้สามารถติดที่โน่นที่นี่ได้

    ครั้นถึงวันที่ ๑๔ ตุลาคม เที่ยงสี่สิบห้านาที อาตมาก็จำเป็นต้องไปประชุมที่วัดกวิศราราม
    จังหวัดลพบุรีในวันนั้นด้วย หลวงพ่อธรรมญาณ เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี
    ท่านมีหนังสือมาว่า เขาจะประชุมเจ้าคณะอำเภอกันทั้งหมดที่จังหวัดลพบุรี
    พอดีวันนั้นนายแพทย์ศิริราชมาเลี้ยงเพลที่วัด พอเลี้ยงเพลเสร็จ
    อาตมาก็เตรียมตัว รู้แล้วว่าวันนี้เราไม่ได้กลับวัดแน่นอนตามที่เรามีสติรู้ล่วงหน้า ๖ เดือน
    ว่าเราต้องใช้หนี้นก จะใช้อย่างไรกันแน่ คงจะไม่ได้กลับ
    มอบหมายการงานเรียบร้อยแล้ว โยมผู้หญิงมานั่งกรรมฐาน ๑ เดือน
    แล้วโยมผู้ชายด้วยมาแทนหลังจากโยมผู้หญิงกลับไปแล้ว
    โยมผู้ชายจะได้ช่วยกันเอาศพไปไว้วัดเตรียมงานครัวทำนองนี้เป็นต้น

    อาตมาก็ลาเขาหมดแล้วก็ขึ้นรถเที่ยงกว่าแล้ว จะตกเที่ยงสามสิบ เปลี่ยนจีวรใหม่หมด
    เตรียมหนังสือขึ้นรถ คิดว่าไม่ได้กลับ แล้วมีนาวาตรีวาด เกษแก้ว
    ใส่เสื้อขาวกางเกงขาวก็อาศัยรถไปด้วย ก็คงจะตายพร้อมกับอาตมา
    ออกจากวัดเลี้ยวขวาเข้าลพบุรี ถึงหลังตลาดปากบาง
    ตอนนั้นพอถึงปั๊มน้ำมันรถเขาก็เปิดไฟเลี้ยวขวารถตามหลังมา ๓ คัน
    แซงซ้ายรถทัวร์ทันจิตออกจากปั๊มน้ำมันวิ่งเข้าชนทันที เที่ยงสี่สิบห้า
    พอดีนาวาตรีวาด เกษแก้ว ลอยขึ้นหลังรถทัวร์ไปเลย
    พวกตลาดนึกว่าหนังสือพิมพ์ลอยไปก็เนื่องจากแกใส่เสื้อขาวกางเกงขาวนี่หลังหัก

    อาตมาไหล่ชนเหล็กหักไปเลย แล้วกระจกครูดเอาหนังหัวไปอยู่ตรงท้ายทอยหมด
    หัวขาวเลย คอพับไปที่หน้าอก หมุนได้เลยเลือดเต็มจมูก กระจกมันบาด
    อาตมาก็บินออกไปแบบนก ออกห่างรถไปประมาณ ๒๐ วา
    แต่เดชะบุญว่ามือดีอยู่มือนึงจับขึ้นมา อาตมาก็ลองคลำว่าเราคอหักไปหรือนี่ตาไม่สัมผัส
    หูไม่สัมผัส ตายหมดแล้วทั้งตัว แต่มือดีสติดี แต่กลับไปหายใจได้ที่ท้อง
    พองหนอ ยุบหนอ ใช้ได้นะ ใครอยากจะรู้ว่าสะดือหายใจได้ลองไปคอหักดูนะ
    คนขับก็สลบ อาตมายังพูดได้เพราะสติดีอยู่ที่ลิ้นปี่จำไว้ แล้วหายใจทางสะดือได้
    ทำไมหายใจได้ นึกถึงในท้องได้ที่เราอยู่ในท้องแม่กินอาหารทางสะดือแน่นอน
    หายใจได้ พองหนอ ยุบหนอ ตลอดเวลาเลย ได้ตำราเพิ่มขึ้น
    แต่ต้องทำได้ก่อนนะต้องมาฝึกกันให้รู้สติ ตื่นมีสติ หลับมีสติ รู้แน่
    อาตมาก็พูดว่าโยมช่วยอุ้มหน่อย ไอ้พวกที่ไปมุงดูกันก็ไม่ยอมอุ้ม
    หัวเละแต่ยังพูดได้ ที่เข้าใจว่าหัวเละเพราะหนังไม่มี
    จนตำรวจทางหลวงมาบอกว่าไม่ตาย ถ้าตำรวจไม่มาเราก็คงจะจมอยู่ตรงนั้น


    กรรมต้มเต่ามาซ้ำ

    พอดีตรงนั้นเขาทำอิฐ เถ้าแก่เขาก็ขับรถมา อาตมามือยังดีอยู่อกข้างก็เสยค้างไว้
    มันไม่มีความรู้สึก พอรถแล่นถึงวิทยาลัยเกษตร ได้ยินเสียงแว่วแผ่วมาแต่ไกล เสียงดังนี้
    สมน้ำหน้า ๆ ได้ยินมาเรื่อย ๆ เดี๋ยวต้องซ้ำ ๆ คอหักแล้วยังไม่สงสารจะมาซ้ำ
    สักประเดี๋ยวเห็นเต่า พอเห็นเต่าเท่านั้นแหละฝาหม้อน้ำรถอยู่ตรงนั้นหลุดพรวด
    ลวกเอาเราคนเดียว ตายจริงเปียกหมดเลย ไอ้แขนยังดีอยู่ก็ร้อนนะซิ
    แล้วกระเด็นไปถูกคนขับ ไอ้คนที่ประคองอาตมาไปบอกว่าหยุด ๆ
    เดี๋ยวคนหลังจะตาย ไอ้เต่ามาซ้ำเราอีก สงสัยใช้หนี้ตอนนั้นยังไม่หมด
    รถไปถึงโรงพยาบาลน้ำแห้งพอดีหมดพอดีเลย

    อาตมาก็ขออธิษฐานว่า ข้าพเจ้าขอให้ไปสบาย รู้แล้วเข้าใจแล้ว
    ขออโหสิกรรมทุกอย่างกับโลกมนุษย์
    ในเมื่อข้าพเจ้ายังใช้หนี้ในโลกมนุษย์ไม่หมดขอให้ข้าพเจ้าไปใช้ในชาติต่อไป
    ประการที่ ๒ ถ้าข้าพเจ้าใช้หนี้ในโลกมนุษย์หมดแล้ว
    อย่าได้ทรมานต่อไป อธิษฐาน ๒ ข้อ

    วันนั้นพอดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไม่อยู่ เขาไปบ้านเขาทางวัดเกษ
    อยู่แต่นายแพทย์ใหญ่หมอสมหมาย ก็วิ่งไปจากบ้านรู้ข่าวว่ารถชนอาตมา
    ก็เอาเข้าห้องฉายเอ๊กซเรย์ เขาพูดกันได้ยินแว่ว ๆ บอกไม่มีทางหมอใหญ่บอกไม่มีทาง
    หมอใหญ่สั่งให้อาตมานอนตรง ๆ บนรถ ซึ่งมีลูกล้อเล็ก ๆ
    ให้บุรุษพยาบาลเอาเข้าห้อง ไอ.ซี.ยู. โดยด่วน จัดการเย็บหนังที่มันถลกไปนี่ก่อน

    อาตมาก็อธิษฐานไปเรื่อย ๆ มือดียังมีอยู่อีกมือหนึ่ง นอกนั้นตายหมดแล้ว
    แต่ยังหายใจได้ที่ท้องพองหนอ ยุบหนอตลอด ก็แบ่งวาระบุรุษพยาบาล ๒ คนก็ไสรถเต็มที่
    รถก็เกิดตกร่องประตูเหล็ก โครม! ล้อพังหมดแพทย์อีกคนบอกตายเสียแล้วละมังหว่า
    เปล่าเลย คอลั่นกร๊วบเข้าที่เลย คือติดเลย ลืมตาเห็นเลย หายใจไม่ออก
    พอคอติด ปวดก้นแทบหลุด เลยทำให้ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีก ๒ ข้อ ได้ความรู้ยังไง
    หมายความว่าถูกจุดประสาท ประสาทคอกับประสาทก้นเป็นเส้นเดียวกัน
    เข้าไปในห้องฉุกเฉิน เขาก็เริ่มดึงหนังมาเย็บ หมอก็สงสัยว่าอาตมาจะเป็นอัมพาตไม่ดีขึ้น
    บุรุษพยาบาลบอกว่าเป็นเพราะอั๊วนะ ถ้าอั๊วไม่ไสรถตกร่องคอจะต่อติด
    หรือกลับมีบุญคุณเสียอีก อาตมาก็นึกว่าเราใช้เวรใช้กรรม
    ในเวลาต่อมาหมอไม่สามารถจะรักษาได้ เพราะมีแรงขาแข็งถีบได้ทั้งนั้น
    นางพยาบาลหมอ ก็ให้เราลองบีบมือ หากว่าเราจะไม่มีแรง อันนี้ก็เป็นบุญวาสนา

    พอรุ่งเช้า คุณชาญมา ถือหนังสือโทรจิตมาด้วย
    บอกนี่ท่านทำไมต้องเขียนหนังสือมาวันก่อนผมไปพบ ท่านทำไมไม่บอกผม
    ทำไมต้องเขียนหนังสือฝากเขาไป
    อาตมาบอกเปล่าว่าไม่ได้เขียน เขาว่านี่ไงละลายมือท่าน!

    ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงห์บุรีก็ไม่รู้จะทำยังไงก็โทรศัพท์
    ไปหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน อาจารย์เขาคือ หมอประดิษฐ์
    ถามว่าหลวงพ่อองค์นี้คอหักแล้วไม่ตายทำไงดี
    หมอประดิษฐ์บอก ผมก็ไม่เคยเห็น ขอให้เอาตัวมาดู

    รุ่งขึ้นเขาก็หามอาตมาขึ้นรถไปโรงพยาบาลเลิดสิน หามไปอาตมาพลิกไม่ได้
    ยกแข้งยกขาได้ลุกไม่ได้ก็หามขึ้นไปชั้น ๒ หมอประดิษฐ์ก็มาตรวจเอาแพทย์มาวิจัยกันใหญ่
    หมอประดิษฐ์ก็บอกขอทำเอง ก็เอาผ้ามาแช่น้ำ มาพันใส่เฝือก ๑๕ นาที
    อาตมาเดิน ลุกขึ้นได้ ขากลับขึ้นรถกลับจังหวัดสิงห์บุรี มันก็แปลกดี
    แขกมาเยี่ยมกันมากมาย ต่างจังหวัดมากันเยอะ เขาลือกันว่า อาตมาคอหักไม่ตาย
    ขนมนมเนยเยอะแยะไปหมด อาตมานึก เวลากินได้ไม่มาเยี่ยม
    เวลาจะตายจะซื้อมาทำไม รู้ว่ากินไม่ได้ก็เอามาให้กิน คนกินได้ไม่ค่อยให้

    พอกลับมาวัดได้ อาตมาก็คุยทั้งวัน เพราะมีคนมาเยี่ยมมากมาย
    หมอประดิษฐ์ก็สั่งมาบอกว่า อย่าให้คุยมาก คุยมากแล้วแผลจะหายช้า
    ให้ฉันยานอนหลับก็นอนไม่หลับ ฉีดยานอนหลับก็ไม่หลับ
    จนนางพยาบาลว่า หลวงพ่อสู้ยา หมอประดิษฐ์รู้ก็ออกอุบายว่า
    ให้เขามาโรงพยาบาลเลิดสินจะถอดเฝือกให้ อาตมาก็ดีใจรีบไป
    พอไปถึงก็ถอดเฝือกให้จริง ๆ พอตัดเฝือกออกก็เลยเป็นลมครั้นพอพักสักประเดี๋ยว
    หมอบอกหลวงพ่อเดี๋ยวใส่ใหม่ ผมหลอกท่านมาไม่งั้นท่านไม่มาเลยใส่ใหม่
    เพิ่มอีก ๔ กิโล พอใส่ได้สัก ๑๕ นาที อ้าปากไม่ออกเป็นฤาษีเลย


    เปรตปากเท่ารูเข็ม

    พอกลับไปถึงสิงห์บุรี เราก็จะแย่อ้าปากไม่ขึ้น ผลสุดท้ายก็หิวน้ำเหลือเกิน
    กินไม่ได้ต้องหยอดด้วยหลอดกาแฟ ต้องดูด ดูดก็ไม่เข้า
    เวลาฉันเช้าก็ใส่เข้าไปข้าง ๆ เลยมานึกในใจ นึกถึงยายได้ เจ้าต้องเป็นเปรต
    ปากเท่ารูเข็ม กินอะไรไม่ได้จริง ๆ ตั้ง ๕๐ วัน
    นอกเหนือจากกินไม่ได้แล้ว พูดไม่ได้ด้วย พออ้าปากมาก ๆ
    ไอ้ข้างบนขบแล้วเลือดไหล จะกินอะไรก็ต้องป้อนเราต้องมาทรมานเป็นเปรต
    ก็เลยนึกถึงคำยายว่าต้องเป็นเปรตเพราะไปกินข้าวที่ให้ไปถวายพระ

    หลังจากที่อาตมากลับจากโรงพยาบาลแล้ว ๕๐ วันเท่านั้น
    กลับมานึกในใจว่า เราต้องใช้หนี้โลกมนุษย์ก็เริ่มถมดินรอบวัด
    ก็เริ่มสร้างหอประชุมนี้เพื่อจะอบรมต่อไป ตั้งใจไว้อย่างนั้น
    ต้องใช้หนี้โลกมนุษย์ด้วยการเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
    จะไม่ขอสร้างวัตถุต่อไปแล้ว ในที่สุด มีการทำบุญรับขวัญ โยมก็มาทำบุญกันมาก
    ในครั้งสุดท้าย นายชาญ กรศรีทิพา กับนายสุเมธ เตชะไพบูลย์
    ทั้งสองท่านนี้ก็มาทำบุญรับขวัญให้อาตมา แล้วนำเอากระดาษที่มีตัวหนังสือมาด้วย
    วันนั้นแกก็พับอย่างดีมา พอทำบุญเสร็จเรียบร้อยอุทิศกุศลเรียบร้อยดีแล้ว
    แกก็เอากระดาษออกมาว่าจะเอามาอ่านให้เขาฟัง
    ปรากฏว่าตัวหนังสือไม่มี มีแต่กระดาษเปล่า เดี๋ยวนี้ก็ยังเก็บใส่กรอบไว้ดูเป็นที่ระลึก


    คัดลอกจาก...หนังสือกฎแห่งกรรมธรรมปฏิบัติเล่ม ๑

    http://www.jarun.org
    :-http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=77&t=54205
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    20 เรื่องราวที่พิสูจน์ว่า เวรกรรมติดจรวดนั้นมีอยู่จริง
    วันนี้เพชรมายาอยากพาทุกท่านมาชมเรื่องราวที่อาจบอกได้ว่า “เวรกรรมมีอยู่จริง” จากผลของการกระทำของพวกเขาเอง มาดูกันว่าแต่ละเรื่องราวจะเป็นอย่งไร

    1. หนุ่มวัย 24 ปีที่ถือมีดบุกเข้าบ้านของคุณปู่อายุ 73 ปีกับภรรยาของเขา โดยที่ไม่รู้ว่าคุณปู่เคยเป็นทั้งนักมวย ทหารเรือ และอาจารย์สอนการต่อสู้ด้วยมือเปล่า
    2. ประธานบริษัท AICC ทวิตว่า “ชายที่ขับรถมาแย่งที่จอดที่ผมรออยู่และด่าว่า F* ให้ผม คือคนต้องมาสัมภาษณ์งานกับผม”
    3. สุนัขที่เดินทางมามากกว่า 100 กิโลเมตรเพื่อกัดเจ้าของ หลังเอามันไปทิ้ง
    4. พรานล่าช้างเสียชีวิตหลังยิงช้างจนล้มทับตัวเอง
    5. ชายที่ยิงตัวอาร์มาดิลโลแต่กระสุนกลับสะท้อนไปโดนหน้าตัวเอง
    6. สิงโตรุ่มขย้ำพวกลักลอบล่าสัตว์ที่บุกรุกป่าสงวนเพื่อล่าแรด
    7. คนขับรถเตะสุนัขจรจัด จนมันพาเพื่อนกลับมาแก้แค้น
    8. ทนายที่ตบหน้าตำรวจหญิงในเมือง Ferzowala ถูกจับกุมและถูกพาตัวไปศาลโดยตำรวจหญิงคนเดียวกัน
    9. น้ำท่วมที่หลุยเซียนาได้พังบ้านผู้นำศาสนาคริสต์ที่เคยบอกว่า “พระเจ้าจะส่งภัยธรรมชาติมาลงโทษผู้คนที่เป็นเกย์”
    10. หญิงสาวที่ถูกขโมยจักรยาน ไปพบจักรยานตัวเองวางขายบนเว็บไซต์หนึ่ง เธอติดต่อคนขายให้มาพบที่ร้านแม็กโดนัลด์จนแน่ใจ 100% ว่าเป็นจักรยานของเธอ เธอขอลองขี่ โดยที่หัวขโมยบอกว่า “ได้ อย่าขี่ไปเลยล่ะ” ซึ่งเธอก็ทำมันจริง ๆ เธอขโมยมันกลับคืน
    11. ตำรวจสาวที่หยุดรถตรงทางม้าลายเพื่อให้คนข้าม ชายที่ขับตามหลังบีบแตร และขับผ่านมาเพื่อตะโกนด่าหยาบคายใส่รถ SUV ที่ไม่มีตราของเธอ เธอขับรถตาม และเขาต้องประหลาดใจเมื่อเธอเปิดไซเลน
    12. เว็บไซต์ Mugshots ได้นำรูปถ่ายหน้าตรงของนักโทษมาเผยแพร่บนออนไลน์ และคุณต้องจ่ายเงินถ้าต้องการให้พวกเขาลบ สุดท้ายผู้ก่อตั้งถูกจับข้อหากรรโชกทรัพย์ และนี่คือรูป Mugshot ของพวกเขา
    13. สภาเมืองเวนิสถูกน้ำท่วมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังสมาชิกสภาปัดตกมาตรการรับมือโลกร้อน
    14. หัวขโมยพยามทำกาลักน้ำดูดน้ำมันรถ แต่จบลงตรงที่เขาไปดูดสิ่งปฏิกูลจากถังเก็บของเสีย
    15. เด็กที่นอนเล่นมือถือกินที่ไป 3 ที่นั่งบนรถไฟฟ้า เจอชายคนนี้นั่งทับลงบนขาของเขา
    16. ครูเท็กซัสพยายามติดต่อทรัมป์เพื่อต้องการเนรเทศนักเรียนของเธอ สุดท้ายถูกไล่ออกเอง
    17. คนขับรถพยายามทำลายตุ๊กตาหิมะขนาดใหญ่ โดยไม่รู้มาก่อนว่ามันทำจากท่อนไม้ขนาดใหญ่ถึง 3 อัน
    18. ชายที่พยายามปาอิฐใส่กระจกรถ โดนมันเด้งกลับมากระแทกหน้าตัวเอง
    19. ชนแล้วหนี แต่ดูเหมือนเขาจะลืมสิ่งสำคัญบางอย่างเอาไว้

    instant-karma-pics-19.jpg

    20. ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านสะดวกซื้อ วางธนบัตร 20 ดอลลาร์เพื่อขอแลกเงิน เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดลิ้นชัก เขาควักปืนออกมาบอกว่าส่งเงินในลิ้นชักมาให้หมด เจ้าหน้าที่เอาเงินทั้งหมดให้ไป เขาคว้ามันแล้วรีบหนีไปทันทีโดยทิ้งธนบัตร 20 ดอลลาร์เอาไว้ ส่วนเงินในลิ้นชักที่เขาเอาไปมีแค่ 15 ดอลลาร์
    :--> https://petmaya.com/20-instant-karma/











     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    หลวงปู่จันทา ถาวโร
    หญิงเปรต
    สมัยหนึ่ง ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่ วัดป่าช้าบ้านหัวดง อ.เมือง จ.นครพนม กับ พระอาจารย์อ่ำ (ธัมมกาโม) ที่นั้นเป็นป่าช้าเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยเริ่มตั้ง จ.นครพนม เมื่อไปอยู่แล้วก็ตั้งใจทำความเพียร เพราะเราจากครูบาอาจารย์มาแล้วจะประมาทไม่ได้ ในพรรษานั้นก็ตั้งใจไม่นอนตลอดไตรมาส ๓ เดือน ทำความเพียรอยู่ใน ๓ อิริยาบถเท่านั้น คือ เดิน ยืน นั่ง ทำอยู่อย่างนั้น ไม่ลดละ ไม่หวั่นไหวต่อชีวิตสังขาร เพราะหวั่นไหวแล้วก็ไม่ได้ตามใจหมายทั้งนั้น ทำคุณงามความดีให้เกิดมีขึ้นในตนเสียดีกว่า
    วันหนึ่ง เดินจงกรมถึง ๓ ทุ่ม แล้วก็ยืน ยืนกำหนดลมหายใจเข้าว่า พุท ออกว่า โธ อยู่กับ อานาปานสติกรรมฐาน ไม่ลดละ ไม่นานจิตก็วางพุทโธ จิตก็รวมพึบเกิดแสงสว่างกระจ่างแจ้งในท่ายืนนั้น ไม่นานก็มีกลิ่นเหม็นลอยมา กลิ่นอะไรหนอ เขาฝังศพไม่ลึกแล้วหมาไปคุ้ยกินหรือเปล่า หรือว่ากลิ่นอะไร ไม่นานก็ปรากฏเป็นหญิงเปรต ๓ ตน ร่างกายใหญ่โต ตัดผมสั้นทรงดอกกระทุ่มเหมือนคนโบราณในภาคอีสาน ไม่มีผ้าปกปิดร่างกาน มายืนอยู่ตรงหน้าห่างประมาณ ๒ วาเท่านั้น มีหนอนตัวดำๆ ใหญ่ๆ ขนาดเท่านิ้วมือเจาะไชของลับเต็มไปหมด แทงงัดๆ บิดซ้ายบิดขวาเจ็บปวด มีน้ำเน่าไหลโทรมกายโทรมขา โทรมก้น ส่งกลิ่นเหม็น ไม่นานก็เอาของลับไปถูไถกับเครือไม้ กิ่งไม้ ต้นไม้ หนอนหลุดออก แล้วก็ไต่เข้าไปอีก กำหนดถามไปว่า “ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?” เขาก็ตอบว่า “ท่านอาจารย์ ตั้งแต่เริ่ม จ.นครพนม พวกข้าพเจ้าทั้ง ๓ คนนี้เล่นชู้นอกใจผัว ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทำให้ผัวคับแค้นอัดอั้นตันใจ ได้ไม่พอกินไม่อิ่มเป็นคนมักมาก ขี้โลภในกิเลสกาม นั่นแหละ พระเทศน์ให้ฟังว่า กาเมสุมิจฉาจาร นั้นไม่ให้ทำ เป็นบาปชั่วช้าลามกก็เฉย ไม่เชื่อฟัง เอาแต่สนุกสนานในการคบชู้สู่ชาย ไม่เลือกทั้งฆราวาสทั้งพระเอาหมดทั้งนั้น เมื่อตายแล้วจึงมาเกิดเป็นเปรต มีหนอนเจาะของลับอยู่ในป่าช้านี่แหละท่าน” ถามว่า จะพ้นจากเวรกรรมได้เมื่อไร ก็ไม่รู้ ทำอย่างไรจึงจะพ้นจากเวรกรรม ก็ไม่รู้อีก จึงได้กำหนดถามพระธรรมตัวเองว่า “หญิงเปรต ๓ ตนนี้ เป็นญาติของเราบ้างไหมหนอ?” พระธรรมพูดขึ้นมาที่ใจว่า “เป็น...เป็นญาติกันมาหลายภพหลายชาติแล้ว ครั้นเมื่อเราตกทุกข์ได้ยาก เขาก็ช่วยเหลือสงเคราะห์ด้วยปัจจัย ๔ เมื่อเขาตกทุกข์ได้ยาก เราก็ช่วยเหลือสงเคราะห์ ต่างคนก็ต่างสงเคราะห์กันมาอย่างนี้ มาชาตินี้ภพนี้ต่างคนต่างทำกรรมไม่เหมือนกัน ต่างคนก็ต่างไปคนละภพ แต่กรรมเก่าที่เคยสงเคราะห์กันมา ก็ดลบันดาลให้มาจำพรรษาอยู่ที่นี่ ฉะนั้น จงช่วยเหลือสงเคราะห์เขาเสีย” จากนั้นก็พูดกับหญิงเปรตนั้นว่า “โยมทั้ง ๓ กับอาตมา เคยเป็นญาติกันมาแต่ปางก่อนโน้น หลายภพหลายชาติแล้ว ต่างคนต่างทำกรรมไม่ดี มาชาตินี้ก็เปลี่ยนแปลงภพชาติเป็นอย่างนี้ แต่กรรมเก่าก็ส่งผลให้มาสงเคราะห์ อาตมาจะสงเคราะห์ให้เอาไหม?” “เอา...เมตตาสงเคราะห์บ้างเถิดท่าน เป็นเปรตทุกข์ยากทรมานมานานแสนนาน ตั้งแต่เริ่มตั้ง จ.นครพนม แล้วละท่าน” “เอ้า...นั่งลง เจ็บปวดก็ทนเอานะเพราะตนเองทำไว้ ทำอย่างไรก็ให้ผลอย่างนั้น นั่นแหละ
    อัตตะนา วะกะตัง ปาปัง อัตตะนา สังกิสิสสะติ อัตตะนา อะกะตัง ปาปัง อัตตะนา วะ วิสุชฌะติ ทำบาปเองย่อมเศร้าหมองเอง ไม่ทำบาปเองย่อมหมดจดเอง ความหมดจดและความเศร้าหมองเป็นของเฉพาะตน คนอื่นยังคนอื่นให้หมดจดและเศร้าหมองหาได้ไม่ ฉะนั้น บุญก็ดี บาปก็ดี ตนของตนเองหรอกเป็นผู้กระทำสะสมไว้ และให้ผลเป็นทุกข์แน่นอน” เขาก็นั่งลง กราบไหว้ เสร็จแล้วก็ให้เขารับ พระไตรสรณคมน์ และศีล ๕ ธรรมทั้งสองรวมกันเข้าแล้วก็ได้ชื่อว่า มนุสสธัมโม จะได้ภพชาติกับมาเป็นมนุษย์อีก ต่อจากนั้น ก็ให้เขาเดินจงกรมบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เอาบุญ ยืนภาวนาบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เอาบุญ พระไตรสรณคมน์และศีล ๕ กับการเดินจงกรม นั่งภาวนา เป็นการบำเพ็ญบุญเพื่อล้างบาป พวกท่านทำบาปใหญ่โตมโหฬารแล้วใครๆ ก็ไม่ต้องการทั้งนั้น ฝนตกก็หนาว ลมพัดก็หนาว แดดออกก็ร้อน เป็นทุกข์ยากลำบากแสนกันดารนานแล้ว นั่นแหละจะบอกให้ชาวบ้านหัวดง เขาทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ เขาก็เป็นญาติของเราของท่านเหมือนกัน พอรุ่งเช้าเสร็จจากการบิณฑบาตแล้ว ก็เล่าให้โยมฟังว่า “เมื่อคืนได้พบหญิงเปรต ๓ ตนมาหา ไม่มีเสื้อผ้าใส่ มีแต่หนอนเจาะไชของลับ เจ็บปวดแสนทุกข์ยากทรมาน ดูแล้วน่าสังเวชสลดใจ พวกเขาเหล่านั้นก็เคยเป็นญาติพี่น้องกับพวกท่านมา ฉะนั้น จงทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เขาเสีย” ชาวบ้านเขาทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ แล้วเปรตเหล่านั้นก็มารับส่วนบุญ พอถึงวันพระ ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ ก็ให้เขามารับพระไตรสรณคมน์ และศีล ๘ ตามอย่างมนุษย์ นั่นแหละ เทศน์แนะนำพร่ำสอนเขาอยู่อย่างนั้น กรรมชั่วช้าลามกใครเล่าทำให้ เราเองหรอกเป็นผู้มักมาก มักใหญ่ใฝ่สูง ไม่ยอมทำความดี ทำแต่ความชั่วใส่ตัวอยู่เป็นนิจ นี่แหละทำลงไปแล้วก็ให้ผลเป็นทุกข์อย่างนี้ ต่อจากนั้น บางคืนสงบสงัดก็ได้ยินเสียงร้องไห้อยู่กลางป่าช้า (บางทีกลางวันสงบสงัดก็ได้ยิน)
    “โอ๊ย!...เจ็บเหลือเกิน เจ็บเด๊...ปวดเด๊...พ่อเอ๊ย...แม่เอ๊ย...เมื่อไหร่หนอจะพ้นจากกรรมเวร”
    ได้ยินแล้วน่าสงสาร น่าสังเวชสลดใจ เวลาล่วงเลยไปถึงเดือนตุลาคม ขึ้น ๑๐ ค่ำ ไปยืนภาวนาอยู่กลางป่าช้า ไม่นานจิตใจก็สงบ เห็นหญิงเปรต ๓ ตนนั้นมาหา ใส่เสื้อผ้าและมีผ้าเฉลียงบ่าเรียบร้อยดี เข้ามากราบแล้วพูดว่า “ท่านอาจารย์ พวกดิฉันพ้นบาปกรรมจากกำเนิดเป็นเปรตแล้ว เพราะว่าท่านมาโปรด หนอนเจาะของลับนั้นตายหมดแล้ว เพราะอำนาจของพระไตรสรณคมน์และศีล ๕ สังหารล้างบาปเคราะห์เข็ญเวรร้ายได้หมด และอำนาจที่ไปอนุโมทนากุศลกับญาติทั้งหลายที่อุทิศให้ และท่านอาจารย์อุทิศให้ นั่นแหละ ก็พ้นทุกข์จากกำเนิดเป็นเปรตได้ รวมทั้งที่พวกข้าพเจ้าทั้งหลายได้น้อมเอาพระไตรสรณาคมน์และศีล ๕ ไหว้พระสวดมนต์ ภาวนา เดินจงกรมอย่างที่ท่านสอนนั่นแหละ บาปทั้งหลายก็หมดไปสิ้นไป ไม่เหลือเศษอยู่ได้ เมื่อก่อนนี้ก็มีพระมาจำพรรษาอยู่ที่นี่เป็นร้อยๆ ก็ไม่มีใครโปรดได้ ไปหาแล้วก็เฉย ผลสุดท้ายเขย่าต้นไม้ถาม ก็วิ่งหนีขึ้นกุฏิไปเลย บางทีก็หันกลับมาด่าว่าและขว้างปาใส่อีก แต่สำหรับท่านอาจารย์มาหาแล้วก็คุยกันรู้เรื่องและโปรดสงเคราะห์ช่วยเหลือได้ ต่อแต่นี้ไปพวกดิฉันทั้ง ๓ จะขอลาไปเกิดยังเมืองมนุษย์”
    อาตมาจึงว่า “พวกพระเหล่านั้นเขาไม่ใช่ญาติของโยม และก็ไม่เคยมีอุปการคุณต่อกันมา อีกทั้งจิตของเขาก็ไม่สงบลงสู่ภพเดียวกัน มันก็ไม่เห็นกันหรอก แต่อาตมากับพวกท่านเป็นญาติกันมาหลายภพหลายชาติแล้ว กรรมเก่าจึงบันดาลให้มาโปรดนะ และถ้าจะไปเกิดยังเมืองมนุษย์ก็ขอให้ไปเกิดที่ จ.สกลนคร โน่น เพราะมีพระกรรมฐานมาก มี หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ และอีกหลายองค์ หรือไม่ก็ไปที่ จ.อุดรธานี ก็มีพระกรรมฐานมากเช่นกัน ขอให้ภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆ ไปนะ อย่าได้ประมาท อำนาจของพุทโธ ธัมโม สังโฆ จะพาไปเกิดในตระกูลของนักปราชญ์ จะได้แนะนำพร่ำสอนแต่ในทางที่ดี ไปเกิดเป็นมนุษย์แล้วขอให้เข็ดหลาบและจดจำผลของความชั่วช้าลามก ที่ทำให้มาเกิดเป็นเปรตนี้ไว้ให้ดี อย่าดื้ออย่าด้าน อย่าล่วงประเวณี เล่นชู้นอกใจผัวอีกนะ” เขาก็ว่า “เข็ดแล้วกลัวแล้ว จะไม่ทำอีกต่อไป” จากนั้นก็กราบลาแล้วออกเดินทางไป นั่นแหละ

    ในพระไตรปิฎก ใน มหาวิบากสูตร และ พระมาลัยสูตร ก็ว่าไว้อย่างนั้นว่า
    หญิงก็ดี ชายก็ดี นอกใจสามีภรรยา ตายแล้วไปตก มหาตาปนะนรก ถูกนายยมบาลต้มด้วยน้ำร้อน สังหารด้วยหอกด้ามกล้าพร้าด้ามคมแสนปี พ้นจากนั้นเวรกรรมยังไม่สิ้น มาตก คูถนรก จมในหลุมมูตรหลุมคูถท่วมศีรษะ มีหนอนเจาะไชอยู่อย่างนั้นเป็นแสนๆ ปี พ้นจากนั้นมาตก สิมพลีนรก ถูกนายยมบาลบังคับให้ปีนต้นงิ้วสูงใหญ่มีหนามยาว สัตว์นรกขึ้นไปแล้วก็ถูกหนามงิ้วทิ่มแทง เป็นบาดแผลตามหน้าตามเนื้อตัว และแขนขาเป็นทุกขเวทนาสาหัส พอขึ้นไปถึงยอดก็ถูกแร้งกาปากเหล็กจิกหน้า ตา ตกลงมาถูกหมาขย้ำฉีกเนื้อกินเป็นอาหาร
    เหลือจากนั้นหนอนก็เจาะไชกินเป็นอาหาร พ้นจากนั้นเวรกรรมยังไม่สิ้น ไปเกิดเป็นเปรต ผู้หญิงก็ไปเกิดเป็นเปรตของลับใหญ่ เต็มหว่างขามีไฟไหม้ เดินไปไหนมาไหนก็ลำบาก ผู้ชายก็ไปเกิดเป็นเปรตมีของลับใหญ่ มีไฟนรกเผาไหม้อยู่ปลายของลับนั้น เดินไปไหนมาไหนก็ลำบาก ทุกข์ยากแสนเข็ญ นั่นแหละบาปกรรมเวรเป็นอย่างนั้น ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย เป็นอยู่อย่างนั้นอีก ๕๐๐ ชาติ พ้นจากนั้นไปเกิดเป็นสุนัขทั้งตัวผู้ตัวเมียเป็นกามโรค เป็นทุกข์จนตาย ตายแล้วเกิดอีกเป็นอยู่อย่างนั้นอีก ๕๐๐ ชาติ พ้นจากนั้นมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็หน้าด้านเสพกามไม่เลือก เป็นกามโรคตายแล้วตายเล่าอีก ๕๐๐ ชาติ พ้นจากนั้นมาเกิดเป็นมนุษย์ธรรมดา ก็ทุกข์ยากลำบาก นอกใจผัวนอกใจเมียเป็นทุกข์อยู่อย่างนั้นอีก ๕๐๐ ชาติ นี่แหละ โทษกรรมของกามคุณทั้งหลาย
    Cr.ธรรมะเหนือโลก
    blinkingskull.gif
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    karma.jpg
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    วิธีใช้หนี้พ่อแม่ (ฉบับหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน)

    ๑. จงสร้างความดีให้กับตัวเอง
    และ นี่ก็เป็นการใช้หนี้ตัวเอง
    ตัวเราพ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในตัวแล้ว
    จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไปแสวงหาแม่ที่ไหน
    บางคนรังเกียจแม่ ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม
    พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรังเกียจ
    จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อกันต่อไปอีก

    ๒. ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้ว
    ก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน
    และถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนกุศลไป
    การทำเช่นนี้ถือว่าได้บุญมากที่สุด ทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ

    ๓. ผู้ใดก็ตาม
    ที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้กลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าขอพรจากท่าน
    จะได้มั่งมีศรีสุข ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน
    ก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรม
    ล้างเท้าให้ท่านด้วย เป็นการขอขมาลาโทษฯ

    ๔. ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน
    อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก
    แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ๊ง
    ท่านต้องแก้ปัญหาก่อนคือ ถอนคำพูด ไปขอสมาลาโทษเสีย
    แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่ฯ

    ๕. บางคนลืมพ่อลืมแม่
    อย่าลืมนะการเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดี ขอบิณฑบาต
    สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อกับแม่
    ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร
    ก้าวถอยหลังดำน้ำไม่โผล่ฯ ท่านยกตัวอย่าง (เรื่องจริง)

    ตัวอย่างที่ ๑
    บ้านหนึ่งพ่อมีเมีย ๔ คน เมียหลวงบอกลูกว่าพ่อเจ้าไม่ดี
    ลูกก็ไปด่าพ่อว่าพ่อ แล้วมาบวชวัดนี้
    บวชแล้วเดี๋ยวเป็นโน่นเป็นนี่ จนจะกลายเป็นโรคประสาท
    นี่แหละบวชก็ไม่ได้ผล หลวงพ่อก็ให้ไปถอนคำพูด
    และขอสมาลาโทษกับพ่อเขาก่อน แล้วกลับมานั่งกรรมฐานจึงได้ผล
    (กรณีนี้ หลวงพ่อจะเตือนผู้เป็นลูกบ่อยๆไม่ให้ว่าพ่อ)
    แต่ให้เป็นเรื่องของแม่ที่จะแก้ปัญหานี้ ซึ่งหลวงพ่อสอนไว้แล้ว


    ตัวอย่างที่ ๒
    เมื่อเร็วๆนี้ลูกฆ่าพ่อ แม่สงสารพามาเจริญกรรมฐาน
    พอเข้าวัดมันร้อนไปหมด ปวดหัวเข้าไม่ได้นี่เวรกรรมตามสนอง
    ปิตุฆาต มาตุฆาต ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน
    ทำกรรมฐานไม่ได้แน่นอน ต้องหันรถกลับ นี่เรื่องจริงในวัดนี้ฯ

    ๖. คนที่มีบุญวาสนา จะกตัญญูกับพ่อแม่
    คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้
    คนไม่พูดกับพ่อแม่ นั่งกรรมฐานร้อยปี ก็ไม่ได้อะไร?
    ถ้าไม่ขออโหสิกรรมฯ ขออโหสิกรรม ที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่
    คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ คิดไม่ดีกับพี่ๆ น้องๆ
    จะไม่เอาอีกแล้ว เอาน้ำไปขันหนึ่ง เอาดอกมะลิโรย
    กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส
    อันว่าโทษทัณฑ์ใด ความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป
    ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
    ขอให้คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย
    คุณพี่คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย แล้วเอาน้ำรดมือรดเท้าฯ
    นี่แหละ ท่านทั้งหลายเอ๋ย เป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่มากมาย
    ยังจะไปทวงนาทวงไร่ ทวงตึก มาเป็นของเราอีกหรือ
    ตัวเองก็พึ่งตัวเองไม่ได้ สอนตัวเองไม่ได้
    เป็นคนอัปรีย์จัญไรในโลกมนุษย์ไปทวงหนี้พ่อแม่ พ่อแม่ให้แล้ว
    (ให้ชีวิต ให้….ให้….ให้….ฯลฯ)
    เรียนสำเร็จแล้ว ยังช่วยตัวเองไม่ได้ มีหนี้ติดค้าง รับรองทำมาหากินไม่ขึ้นฯ
    หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่ เหลือจะนับประมาณ
    นั่นคือหนี้บุญคุณของบิดา มารดา

    ตัวอย่างที่ ๓
    "หนามแหลมใครเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงใครไปกลึง"
    เด็กประถม ๔ พ่อเมาเหล้า เมากัญชาเล่นการพนัน แม่เล่นหวย
    ปัจจุบันเป็นดอกเตอร์อยู่อเมริกา หลวงพ่อสอนครั้งเดียวจำได้
    บอกวันเกิด หนูซื้อขนม ๒ ห่อ เรียกพ่อแม่มานั่งคู่กัน แล้วกราบนะลูกนะ
    แล้วก็บอกพ่อแม่ว่า ความผิดอันใดที่ลูกพลั้งเผลอ
    ด้วยกาย วาจา ใจ ที่คิดไม่ดีต่อคุณพ่อคุณแม่
    ขอให้คุณพ่อคุณแม่อโหสิกรรมให้ แล้วล้างเท้าให้พ่อแม่
    ลูกไม่มีสตางค์ ลูกซื้อขนมมา ๒ ห่อ
    ให้ แม่ก่อน ๑ ห่อ เพราะอุ้มท้องมา แล้วจึงให้พ่ออีก ๑ ห่อ
    ลูกขอปฏิญาณตนว่า ลูกขอเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่
    แล้วจะเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ลูกจะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง...
    พ่อฟังแล้วน้ำตาร่วงสร่างเมา ส่วนแม่ก็ร้องไห้เลย
    พ่อแม่ก็ให้สัญญากับลูกเลิกอบายมุขทั้งหมด

    ๗. ลูกหลานโปรดจำไว้
    เมื่อแยกครอบครัวไปมีสามีภรรยาแล้ว อย่าลืมไปหาพ่อแม่
    ถึงวันว่างเมื่อไรต้องไปหาพ่อแม่
    ถึงวันเกิดของลูกหลาน อย่าลืมเอาของไปให้พ่อแม่รับประทาน
    อย่ากินเหล้า เข้าโฮเต็ล

    ๘. ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้เป็นมงคลนาม
    ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะชื่อเป็นเพียงนามสมมุติแทนตัวเรา
    อย่างหลวงพ่อชื่อจรัญ ปู่ตั้งให้ หมอดูบอกเป็นกาลกิณี
    แต่ทำไมเจริญรุ่งเรือง ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าทำดีได้ดี

    ๙. ของดี ของ ปู่ ย่า ตา ยาย อย่าไปทำลายเลย
    ของพ่อแม่อย่าไปทำลายนะ หนีได้แน่นอน
    โยมมีกรรมฐาน มีทรัพย์ มีชื่อเสียง ความรัก
    บูชาทรัพย์ บูชาชื่อเสียง
    ความรักของพ่อแม่ได้ เงินจะไหลนองทองจะไหลมา...
    พ่อแม่ให้อะไรเอาไว้ก่อน อย่าไปทำลายเสีย
    ถึงจะเป็นถ้วยพ่อแม่ให้มา ก็ไว้เป็นที่ระลึกก็ยังดีอย่าเอาไปทิ้งขว้างฯ

    ๑๐. ถ้าต้องการเจริญก้าวหน้าขอฝากไว้ด้วย
    คนเรามี ๒ ก้าว จะก้าวขึ้นหรือก้าวลงดำน้ำไม่โผล่
    ก้าวลงมันง่ายดี ก้าวขึ้นมันต้องยาก ของชั่วมันง่าย
    หลั่งไหลไปตามที่ต่ำ นี่บอกสอนลูกหลาน
    ต้องการจะบรรจุงานไม่ต้องไปวิ่งเต้น
    ดูลูกเสียก่อน กุศลเพียงพอหรือเปล่า ต้องเพิ่มกุศล
    ตัวอย่างเรียนจบครู สวดมนตร์เข้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นครู
    ทำงานธนาคารก็ได้ บริษัทก็ได้เดี๋ยวมีคนรับ
    บางรายทั้งสอบทั้งสมัครหลายแห่งไม่เคยเรียกเลย
    อาตมาให้นั่งกรรมฐาน พอ ๗ วันผ่านไปพวกมาตามให้เข้าไปทำงานแล้ว
    :- http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=77&t=54274
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    เปิดดูไฟล์ 6241349
    ทำบุญหนีบาป

    .....ไม่ใช่ทำบุญล้างบาป ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ที่ไม่ทำความชั่วเลยน่ะไม่มี

    .....ดังนั้นถ้าเราจะชดใช้บาปก็คงจะชดใช้กันไม่ไหว
    มีทางเดียวในกิจของพระพุทธศาสนาคือ หนีบาป ด้วยการปฏิบัติดังนี้
    ๑) การคิดถึงคุณพระรัตนตรัยคือ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระอริยสงฆคุณ
    ๒) ทรงศีล ๕ ให้บริสุทธิ์
    ๓) มีพรหมวิหาร ๔ ให้ครบถ้วน
    ๔) มีอิทธิบาท ๔ ทรงตัว
    ๕) มีการภาวนาให้จิตทรงตัว
    ๖) พยายามรวบรวมบารมี ๑๐ ประการให้มีในจิตให้ครบถ้วน
    ๗) พยายามตัดสังโยชน์ ๑๐ ประการให้หมด
    ๘) จรณะ ๑๕ ปฏิบัติให้ครบถ้วน

    .....เมื่อมีการทรงตัวดังกล่าวมาแล้วนี้ได้ทั้งหมด ก็เป็นอันว่าไม่ต้องเกิดกันอีกต่อไป
    นั่นคือตายเมื่อใดก็ไปพระนิพพานอันเป็นแดนที่มีความสุขที่สุด.."

    โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (วัดท่าซุง)
    :-
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    หนี้กรรมข้ามภพ - ข้ามชาติ จากเรื่องจริง โดยหลวงพ่อจรัญ ชุดกรรมกำหนด Ep.4/13

    Siammelodies
    May 6, 2022

    เล่าเรื่องจริงชุด... กรรมกำหนด โดยหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน
    EP.4/13 หนี้กรรมข้ามภพ - ข้ามชาติ
    เสียงอ่านโดย อ.วิษณุกร
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    กฏแห่งกรรม “คนปากเสีย”โดยท่านชาตวโร เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือความชั่วช้า ยังมีกฏแห่งกรรม

    Siammelodies
    Jul 12, 2020
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    กฏแห่งกรรม “เดินทางผิด” โดยท่านชาตวโร เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือความชั่วช้ายังมีกฏแห่งกรรม

    Siammelodies
    Jul 9, 2020

    กรรมนี้มีผล เรื่อง เดินทางผิด เล่าเรื่องจริง โดย ท่านชาตวโร
    เดินทางผิด เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับคนดี มีครอบครัวที่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดี แต่เมื่อไปคบกับเพื่อนที่ไม่ดี จะเกิดอะไรขึ้นกับเขาและครอบครัว กฏแห่งกรรม ไม่มีวันหมดอายุ แม้ว่าเราจะละสังขารจากโลกนี้ไปแล้ว แต่กฏแห่งกรรมยังคงตามเราไปทุกภพทุกชาติ สำหรับคนที่ร่างกฏนี้คือ ตัวเราเอง ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ กฏของกระจกคือสะท้อนภาพกลับมา กฏของเวลาคือไม่ย้อนกลับหลัง กฎของชีวิตคือทุกอย่างไม่จีรัง กฏที่ยุติธรรมเสมอ คือกฏแห่งกรรม คนหลายคนอาจอยู่เหนือกฏหมาย แต่ทุกคนไม่มีใครอยู่เหนือกฏแห่งกรรม ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม บุญที่เราทำ กรรมที่เราก่อ ไม่ต้องร้องขอ ถึงเวลาจะตอบแทนเราทุกการกระทำ
    เวรกรรมไม่มีในแผนที่ ไม่มีใน Gps แต่เชื่อไหมว่า กรรมหาเราเจอเสมอ ท่านสาธุชนทั้งหลาย ที่ได้รับฟังเรื่องกรรมนี้มีผลแล้วโปรดช่วยกันแชร์และส่งต่อ ให้กับญาตสนิทมิตร สหาย เพื่อเป็นการเตือนสติบุคคลที่ท่านรู้จัก ให้ดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท พึงละบาปบำเพ็ญบุญนับแต่บัดนี้เถิด สาธ สาธุ สาธุ
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    “เปรต” ผู้หิวโหย|เพราะ “กรรม” ที่กระทำไว้ ส่งผลเมื่อตายไป #เปรต #กรรม

    คนเล่า ธรรม
    133,748 views Sep 8, 2023
    เปรตผู้หิวโหย กว่าจะคิดได้…เพราะกรรมที่ทำไว้แท้ๆ ส่งผลเมื่อตายไป

     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    สมภาร “เปรต” ชอบกินของสงฆ์ฟังไว้!! “หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย”

    คนเล่า ธรรม
    122,663 views Sep 19, 2023
    สมภาร “เปรต” ชอบกินของสงฆ์ ตายไปเป็นเปรต ทนทุกข์ทรมาน


     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    กฏแห่งกรรม “กรรมทันตาเห็น” โดยท่านชาตวโร กฏแห่งกรรม มีความยุติธรรมเสมอ

    Siammelodies
    May 17, 2020
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
  21. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    กฏแห่งกรรม ลำดับ๖ ใครจะอยู่ค้ำฟ้า ท.เลียงพิบูลย์ โดย ท่านชาตวโร กฏแห่งกรรม ไม่มีวันหมดอายุ

    Siammelodies
    May 21, 2020
    กฏแห่งกรรม เรื่อง ใครจะอยู่ค้ำฟ้า เขียนโดย ท.เลียงพิบูลย์ | เล่าเรื่องจริง โดย ท่านชาตวโร ใครจะอยู่ค้ำฟ้า เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ซึ่งไม่อาจจะหลีกหนีพ้น เป็นความแน่นอนของทุกชีวิตที่เกิดมา เพียงแต่ว่าตะช้าหรือเร็วเท่านั้น สำหรับเรื่องนี้ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เร็วจนคนรู้จักและใกล้ชิดคาดไม่ถึง


     
  22. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    กฏแห่งกรรม “หนี้ชีวิต-๒” โดย ท่านชาตวโร เหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือความชั่วช้า ยังมีกฏแห่งกรรม

    Siammelodies
    Jun 8, 2020
     
  23. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,541
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    กฏแห่งกรรม “หนี้ชีวิต๓” โดยท่านชาตวโร เหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือความชั่วช้า ยังมีกฏแห่งกรรม

    Siammelodies
    Jun 9, 2020
     

แชร์หน้านี้

Loading...