ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

สาธุๆ


สวัสดีครับอาจารย์ลุง พี่ๆ และเพื่อนๆ นักเรียนทุกคนครับ ^_^
ด้วยสมองอันน้อยนิดของผมอ่านแล้วก็ยังมึนๆ จริงๆ ด้วยครับ สงสัยต้องอ่านซ้ำอีกรอบ เพราะจินตนาการมันยังมัวๆ อยู่ครับ ^^!

 

***ตามมาเกาะติดครับ ***

 

...หวัดดี anoldman..และ Rungaran...
......มันยากก็บอกแล้ว..ถึงต้องบอกให้อ่านซ้ำ..เดี๋ยวพอผมทดลองทำ..ก็จะเข้าใจ.
.ดีขึ้น....
.....มาต่อ..หนังรอบดึก......
.........................................
...ที่มา...ที่ไป...แล้วทำ(เอง)...ยังไงละ
............................................
...........................................................................................................
.........อุปกรณ์..ที่ใช้...สำหรับ..การแกะ..อคริลิคที่เลี่ยมไว้...สำหรับทุกรูปแบบ
.................ซึ่ง..ผมคิดว่า..มีเผื่อ..ไว้..สำหรับ..ทุกรูปแบบ..จะดีที่สุดเพราะ..
ตอนนี้..เรามีปัญหา..กับการเลี่ยมแบบนี้...ต่อไปภายหน้า..เรา..อาจจะมีปัญหา
...กับ..การเลี่ยม..แบบอื่นๆที่คาดไม่ถึงก็ได้..เราจะได้รับมือได้ทั้งหมด....
.........ผมจะยังไม่พูดถึงประโยชน์..ของแต่ละอย่าง..เอาไว้ตอนที่จะใช้...
..ผมถึงจะบอกแล้วกัน......
๑. น้ำยาเชื่อมอคริลิค..ก็ไอ้แบบเดียวกับ..ที่เข้าใช้เลี่ยมพระ..นี่แหละ
....เดี๋ยวนี้..หาซื้อง่าย...ร้านคุรุสภาทุกแห่ง..ทั้ง..กทม...และ..ต่างจังหวัด...
..อยู่แผนกอุปกรณ์..ด้านงานศิลป์....ร้านขายเครื่องเขียน..อุปกรณ์..ด้านศิลป์
ขนาดใหญ่..กรุงเทพ...ก็..เซ็นทรัล B2S..แผนกอุปกรณ์..เครื่องเขียน...
...ร้านขายเครื่องเขียน..หน้ามหาวิทยาลัย..หรือ..วิทยาลัย..ต่างๆ....
................และย่าน..วงเวียน ๒๒ กรกฎาคม..............
......ซื้อขวดเล็ก..ก็..พอ..(ขนาดขวด ..ใกล้เคียงน้ำยาชูกำลัง)....
๒. คัตเตอร์..แบบใบใหญ่...เพราะจะได้ไม่เปราะ..หัก..ง่าย
๓. ตะไบใช้กับงานไม้..แบบแบน..มีฟัน..๒ ด้าน..หน้า-หลัง..
..และ..ด้านข้างทั้ง ๒ ขนาดกลาง..ยาวประมาณ ๖ -๘นิ้ว..หน้ากว้าง ๑ นิ้ว
๔. ตะไบ..งานไม้..หรือ..เหล็ก...โค้ง ๑ ด้าน แบน ๑ ด้าน..ยาว
๔-๖ นิ้ว...หน้ากว้าง..ประมาณ ๑ ซม.
๕. ไขควงปากแบนด้ามสั้น...ความกว้างปาก ๕-๘ มิลิเมตร..
..พยายามเลือกแบบ..ที่ปาก..แบนมากๆ..คือ..ความหนาปลายปากน้อยที่สุด
เท่าที่จะหาได้.....
๖. ผ้าขนหนู ๑ ผืน....
๗. คีมตัด..สายไฟ..แต่ไม่ใช่..คีมปากนกแก้ว..
๘. แป้งฝุ่นเด็กธรรมดา..แบบไม่มีสารเคมี...หรือ..แป้งดินสอพอง
๙. ถุงมือหนัง..สำหรับงานก่อสร้าง (สำหรับ..ถ้าสุภาพสตรี..อยาก
ทดลองทำเอง..แต่ดูแล้วถ้าจะเหนื่อย..ใช้สามี..ทำให้ก็ได้)
๑๐. เกือบลืม...พุ่กันระบายสีน้ำ หัวขนาดปานกลาง...๑ อัน
.....ทั้งหมดนี้..เพียงแต่..บอกให้ทราบ..ยังไม่ต้องซื้อ..จะทดลองใช้..ถึงค่อยซื้อ
..................................ต่อตอนหน้าครับ..................................

 

สวัสดีค่ะ คุณลุง และผู้ร่วมศึกษาทุกๆท่านค่ะ งานยุ่งๆสองวันเลยไม่ได้แว๊บมาศึกษา วันนี้พอเริ่มจะมีเวลาก็ต้องรีบเข้ามาศึกษาเพิ่มพูนปัญญา และมาให้กำลังใจในงานเขียนของคุณลุงค่ะ อากาศเริ่มเย็นอีกแล้วนะคะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณลุง ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีครับพี่modpong
มาเก็บเกี่ยวความรู้ครับ

 

...หวัดดี...หลานลินน์"...และ..Joenok....
....ไปย้อนอดีต..กันต่อ.....

...................ผมสังเกตได้..ชัดเจนเลย..ว่า..ด้านหลังนี่..เรียบไป..ยันขอบเลย
...ทุกด้าน...ต่างจากด้านหน้า..ที่ริมขอบ..เกือบทั้งหมด..จะต้องมี..เนื้อที่..ปลิ้น
สูงขึ้นไป..อาจจะไม่ทั้งหมด..แต่อย่างน้อย..ก็จะเห็นได้..ซักส่วนนึง..และ..ก็มี..
ไม่น้อย..ที่เนื้อปลิ้น..ขึ้นไป..ทั้ง..๔ ด้าน.........
..............ด้วยหลักวิทยาศาสตร์...มันชัดเจนว่า..หลังจาก..การปาดหลังมาแล้ว..
..องค์พระ..ต้องวางอยู่..บนแผ่นอะไร..ซักอย่างที่..เรียบ..และ..พระ..จะต้องถูก
ตาก..บน..พื้นที่เรียบ..จนแข็งตัว....มันถึงจะ..ทำให้เป็นเช่นนั้นได้..พระ..บางองค์
หลัง..เรียบมาก..นั่นแสดงว่า..พระเนื้อไม่แห้งเกินไป..ส่วนที่ยังเหลว..มันค่อยลง
มาเบื้องล่าง..ตามแรง..โน้มถ่วง..เนื้อพระจะค่อยๆหย่อน..ลงมา..จนติด..พื้นที่..
วางพระ...(..อันนี้..ไม่ต้องห่วง..เพราะ..หลังจากตัด..และ..จะตากพระไว้..ให้..
แข็งตัว..ช่างเขา..ก็ต้อง..ใช้แป้งโรยพิมพ์บางๆไว้..เพื่อกัน...ไม่ให้..พระนั้น..ติดกับ
พื้น..เวลามายก..พระออกไป..เราจะสังเกตว่า..เราแทบไม่เห็น..แป้งโรยพิมพ์....
ด้านหลัง..นั่นเพราะ..เขาไม่ต้องโรยหนา..เหมือนตอนเทเนื้อพิมพ์พระ..ใหม่ๆ..
เพราะตอนนั้น..เนื้อพระ..เปียกมาก...อีกอย่างที่..เป็นสาเหตุคือ..พิมพ์พระมีสูงๆ
ต่ำๆ...มันจะติดพิมพ์ได้..ง่ายกว่า....แต่นี้เนื้อพระค่อนข้างแห้ง..และ..พื้นเรียบ..
..แค่..โรยบางๆ..แล้วเกลี่ย..ก็ใช้ได้แล้ว...แป้งที่บาง..มันก็จะกลืน..เข้าไปในเนื้อพระ
บางส่วน..ที่เหลือ..อาจติดบางๆบ้าง..ซึ่ง..มันก็ร่วงหลุด..ได้ง่ายเพราะ..ความเรียบ)
..........เนื้อด้านหลัง..ก็เลยถูกพื้นบังคับไว้...ทำให้..เสมอกันหมด....
........เท่าที่ปรากฎ..มา..พระต้นแบบแท้..ทุกองค์..ด้านหลัง..จะเรียบเสมอ..ขอบ...
.....................แล้ว..มาดู..ด้านหน้า..ชัดเจนว่า..หลังจาก..ถอดพิมพ์ออก..ด้านหน้า..
ไม่มีอะไร..มาบังคับ..เมื่อถูกการ..กระทำ..บางอย่าง..เนื้อที่ริมขอบ..จึงปลิ้น..ขึ้น..
ข้างบน..ได้..อิสสระ..แต่..ด้านหลัง..มีพื้นเรียบ..บังคับไว้..เนื้อจึงปลิ้น..ลงไป..ไม่ได้
....แถม..พื้นบริเวณ..ตั้งแต่..กรอบพิมพ์..ถึง..ซุ้ม..ก็..ไม่ราบเรียบด้วย..ทั้งๆที่ควรจะ
เรียบ..ที่ริมขอบ..สูงกว่า..ด้านในบ้าง..(ลาดเอียง..ลงไป)..หรือไม่..ก็มี..นูนขึ้น..นิดๆ
...ซึ่ง..แม่พิมพ์ไม่เป็น..อย่างนั้นแน่..เพราะ..บางองค์..ที่เนื้อปลิ้นที่ขอบ..ขึ้นมา..น้อยๆ
(ในพิมพ์เดียวกัน)...ก็ดู..ราบเรียบ..เสมอกัน..ก็มี....................
...............เมื่อ..ผมสังเกต..วิเคราะห์..ความน่า..จะเป็นในจุดนี้...ผมจึงเชื่อ..ในวิธี
การทำขอบ..ให้เหมือน..พระต้นแบบ..ว่า..น่าจะสามารถทำได้จริง..เพราะหลักการ
เป็นไป..สอดคล้อง..ทางฟิสิกส์วิทยาศาสตร์.............................
...................ผมจะเชื่อได้..ผมก็ต้อง..พิสูจน์..มันเป็นรูปแบบ..ของผม..อยู่แล้ว....
..ผมจึงเริ่ม..ตระเตรียม..อุปกรณ์..เครื่องมือ..วัสดุ..เพื่อ..การทดลองทำ..จะได้
มั่นใจ..ต่อไป
..............................ต่อตอนหน้าครับ................

 

สวัสดีครับคุณอา...และสมาชิกทุกท่าน มาติดตามบทความ ความรู้สาระดีๆเหมือนเดิมครับ

 

...หวัดดี...เฉียวฟง....ก็มาดู
..หนังรอบดึกกันต่อ................................
.........ที่มา...........ที่ไป..........แล้วทำ(เอง)ยังไงละ......
.........................................................................
.................................................................
.......ที่บอกไปคราวที่แล้ว..ยังขาดอีก...นึกขึ้นได้..อีกอันคือ...
๑๑. สำลี..แบบแผ่น..ที่ผู้หญิง..ใช้เช็ดเครื่องสำอางค์..มีขายเป็นถุง.....
..........................................................................................................
..............ก่อนอื่นขอย้ำ..และ..ทำความเข้าใจก่อนว่า...นี่เป็นวิธีการ
...สำหรับเอาพระ..ที่..ชำรุดอยู่..จะเนื่องด้วยการเลี่ยมก่อนหน้านี้..หรือ
ชำรุดอยู่เดิม..แล้วเอาไปเลี่ยม...ดังนั้นบางท่าน..อาจแปลกใจว่า..ทำไม
ต้องทำแบบนี้..ผมเคยทำอีกแบบ..ก็..ออก...ใช่ครับ..ถ้าพระ..ไม่ชำรุด
...หรือ..พระองค์นั้น..ไม่มีความหมาย..กับคุณเท่าไหร่....คือ..พร้อมที่จะ
.................................เสี่ยง...............................................................
.......แต่ผมถามคุณว่า....ถ้าพระองค์นั้น...ถึงแม้จะ..ไม่ใช่สมเด็จ..
วัดพลับ..วัดเงิน....ราคาเป็น..แสน..เป็นล้าน....แต่พระนั้นคุณห้อยติดตัว
มาตลอด..เคยมีประสพการณ์ด้วย..หรือไม่ก็เป็น..พระที่..พ่อ..หรือ..แม่ให้
..และบอกให้คุณห้อยและเก็บรักษาไว้..อย่างดี....หรือ..คุณมีSENSE..ที่
ผูกพัน..กับ..พระองค์นี้มาตลอด.....แล้วพระ..แตกร้าว..หรือ..บิ่นอยู่...
หรือ..เป็นพระผงที่ไม่มีความเหนียว..เนื้อเปราะมาก......
.........................คุณจะกล้าเสี่ยง..แบบไม่ควรเสี่ยง....มั้ย...................
.....การเสี่ยง..หรือ..อีกอย่างเรียกว่า..วัดดวง....นั่น..คือ..การพร้อมที่
...รับ..ถ้ามันออกมา..เป็น..ลบ......ถ้ามีทางเลือกอื่น..จะเสี่ยงทำไม....
...พวกที่จะเสี่ยงแบบไม่รับผิดชอบ..ก็ไอ้ร้านเลี่ยมพระ..แบบที่ผมด่า
ไป..เมื่อตอนต้นเรื่อง...เพราะไม่ใช่ของมัน..ถ้าออกมาเป็น..ลบ...
ยังไง...มันก็แถ..ไม่ยอมรับผิดชอบอยู่ดี...เค้าไม่ได้ติดป้ายไว้ก่อนว่า
รับประกัน..แกะพระออก..ปลอดภัย ๑๐๐ เปอร์เซนต์นี่...ถ้าหยั่งงี้
คุณ..ถึงจะฟ้องร้อง..ดำเนินคดีได้....นั่นคือ..เมื่อคุณให้มันแกะให้
...แสดงว่า..คุณพร้อมที่จะยอมรับความเสี่ยง......ช่วยไม่ได้.....
...............ที่ผมจะมา..นำเสนอวิธีการ..ก็คือ..ทำยังไง..ก็ได้ที่..เสี่ยง
น้อยที่สุด...โดยเฉพาะ..เจ้าของพระทำเอง...ย่อมรู้จักจะหยุด...
เมื่อควรหยุด...เวลาคุณไปนั่งเฝ้าไอ้พวกนี้..แกะพระคุณ..ถึง
ตอนช่วงวิกฤต..คุณยังลุ้นเหงื่ออก..กลัวพระจะพังเลย..เพราะ
มันจะเลยจุดที่..คุณคิดว่า..น่าจะหยุด............
.......ถ้าคุณสังเกต....อุปกรณ์ที่ผมแจงมาก่อนหน้านี้...คุณจะเห็นว่า
..................ไม่มี........"คีมจับ".....ไม่มี......"ไฟ"..........................
..........................ไม่มี...."เลื่อย"..............
........ก็..เพราะ..ไอ้พวกนี้...เป็นที่มาแห่ง..ความเสี่ยง..ทั้งสิ้น....
.................แม้ว่า...คุณจะชำนาญ...ก็ตาม....ตอนหน้า..ผมจะมา
บอกว่า....มันเสี่ยงยังไง.......................
................................ต่อตอนหน้าครับ......................

 

สวัสดีครับคุณครู ติดตามอยู่นะครับ

 

...หวัดดี MAstertest.....
....มาถึงตอนนี้..ก็ครึ่งเรื่องแล้ว..และอย่างที่บอก..ก็ได้เวลาปิดรับ..นักเรียน...
.........ที่ผมเล่า..ต่อไป..นั่นคือย้อนเวลาไปในตอนที่..ผมทำการทดลองเมื่อ
ในอดีต..นานช้ามาแล้ว..นะครับ

......................ผมจะขอ..บอกนักเรียน..ให้ทราบ..ถึง..ขั้นตอน..การทำของผม
เอง..เมื่อ..สมัยก่อน..ก่อน..ทีละ..ข้อ...แล้ว..ผมจะมาอธิบาย..แต่ละข้อ..ถึง..ที่
มา..ที่ไป..ในภายหลัง...เพราะ..สาเหตุ..ที่..แต่ละข้อ..มันมี..ที่ไปที่มา..ยาว...
รวมถึง..แนวคิด..การเลือกปฏิบัติ..วัสดุที่เลือก...ถ้า..ผมอธิบายไป..พร้อมกัน..
มันจะยาว..มาก..และ..ไม่ต่อเนื่อง....หวังว่า..นักเรียนทุกท่านคงเข้าใจ..ใน
เจตนาผม..แต่ละข้อนี่..ถ้าอธิบาย..ก็เป็นหน้า..หรือ..เป็นตอนย่อยไปเลย..
..กว่าจะทำ..จนเสร็จ..ก็ล่อไป..เป็น ๑๐ ตอนย่อยเลยมั้ง..และไม่ต้องรีบถาม
ก่อน...เพราะที่บอก..คือ..จะอิบาย..อย่างละเอียด..ต่อไป..............
......เริ่มที่..วัสดุ..............
.........เนื้อพระ........
...ผมใช้..ปูนยาแนวห้องน้ำ..แทนเนื้อ....
.....แม่พิมพ์.......
...ตัวที่ทำ..เป็น..แม่พิมพ์ด้านหน้า(รูปพระ)...ผมใช้แผ่นหินอ่อน..ปูพื้น..นำมาแกะ..
...ตัวที่ทำ..เป็น..แม่พิมพ์บังคับ..ความหนา..และ..ด้านข้าง....ผมใช้...ไม้อัดการฝีมือ
ของเด็ก(..สีขาว..ทีใช้เอามาเลื่อย..ทำแบบ..อัดกรอบพระ...)
..ตัวปาดหลัง..
....ผมใช้..เกรียงเหล็ก..ฝน..ข้างจน..ค่อนข้างคม.....
...ตัวตัดข้าง...
...ผมใช้..มีดทำครัว..ขนาดใหญ่..คมตรง..และ..บาง..
...แป้งโรยพิมพ์...
..แป้งเด็ก..อย่างถูก..ที่เป็น..กระบอกกลมๆ..ทำด้วยกระดาษ..ฝาปิดบน
เป็น..พลาสติก..สีชมพู
..อุปกรณ์แกะพิมพ์
สิ่วใหญ่..สิ่วเล็ก..ตะไบหางหนู..กระดาษทรายน้ำ...
..อุปกรณ์เสริม..
..สว่าน(เอาไว้..เจาะหมุดล็อกแม่พิมพ์กันขยับ..)
..ตะปู ๓ นิ้ว ๘ ตัว..(..ตัดหัวออก..แทนหมุดล็อค)
..เลื่อยเหล็ก..ตะไบ..(..เอาไว้ทำหมุดฯ)
......ฯลฯ...
......ครับ..ความจริง..มันก็ยังมี..ของ..กระจุก..กระจิก..อีกพอสมควร
....แต่..ผมเอาไว้..แค่นี้..พอ....
.........ตอนนี้..ผมโตแล้ว..และอยู่คนเดียว...ดังนั้นจึง..ต่างจาก..การ
ทำพระ..สมัยเด็ก...เพราะผม..ก็..ค่อยๆเตรียมอุปกรณ์ไว้..ไม่รีบ..จน
ครบ..เวลา..ที่ทำ..ก็เลือกทำวันหยุดทำงาน..ได้..สบาย....
....ผมจะเริ่ม..เข้า..การทำ..ในครั้งหน้าครับ.......
..............ต่อตอนหน้าครับ......................

 

สวัสดีครับ...มาติดตามอ่านเช่นเดิมครับ

 

สาธุๆ



สวัสดีครับอาจารย์ลุง และเพื่อนๆ ทุกท่าน
ถ้าพระองค์นั้น...ถึงแม้จะ..ไม่ใช่สมเด็จ..
วัดพลับ..วัดเงิน....ราคาเป็น..แสน..เป็นล้าน....แต่พระนั้นคุณห้อยติดตัว
มาตลอด..เคยมีประสพการณ์ด้วย..หรือไม่ก็เป็น..พระที่..พ่อ..หรือ..แม่ให้
..และบอกให้คุณห้อยและเก็บรักษาไว้..อย่างดี....หรือ..คุณมีSENSE..ที่
ผูกพัน..กับ..พระองค์นี้มาตลอด.....แล้วพระ..แตกร้าว..หรือ..บิ่นอยู่...
หรือ..เป็นพระผงที่ไม่มีความเหนียว..เนื้อเปราะมาก......
.........................คุณจะกล้าเสี่ยง..แบบไม่ควรเสี่ยง....มั้ย...................
.....การเสี่ยง..หรือ..อีกอย่างเรียกว่า..วัดดวง....นั่น..คือ..การพร้อมที่
...รับ..ถ้ามันออกมา..เป็น..ลบ......
โอ้ยโดนใจครับ เพราะตอนนี้พระที่ผมอาราธนาติดตัวประจำ ก็เหลี่ยมตายแบบนี้ แบบว่าขึ้นเขาลงห้วยไปด้วยกันทุกที่ มีประสบการณ์ก็พอสมควร

ถ้าถึงเวลาไปเหลี่ยมใหม่นี้ คงต้องรออ่านวิธีจากอาจารย์ลุงนี้แหละครับ เพราะพระชุดนี้คู่ชีวิตรักมากเลย ^_^!

 

พบมีเวลาปุ๊บ แอบมาไล่ติดตามต่อปั๊บ
พี่มดพงษ์ สบายดีไหมเอ่ย

 

...แป้งโรยพิมพ์...
..แป้งเด็ก..อย่างถูก..ที่เป็น..กระบอกกลมๆ..ทำด้วยกระดาษ..ฝาปิดบน
เป็น..พลาสติก..สีชมพู

มันคือ "แป้งฝุ่นหอมฮอลลีวู๊ด"
ตอนเด็ก ๆ ใช้ประจำครับ

 

.........
.....หวัดดี..Ebee และ ANoldman......
.....ขอบคุณครับ..สบายดี..คุณMontana
......ขอบคุณ..ที่บอก..ผมลืมชื่อยี่ห้อไปนานแล้ว..คุณSTEP&TIME..
...........................................................
........เอ้ามา..พบกับ..หนังรอบดึกต่อกันได้.............
......................................................
.....ที่มา...ที่ไป..แล้วทำ(เอง)ยังไงละ..............
.....................................................
.........................................................................................................
........ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจ..กันก่อนว่า....
....พระที่อยู่ในกรอบ..อคริลิค...นั้น...ถ้าพระไม่คลอน...
อยู่แบบไหนบ้าง.....
....๑. ถ้าพระที่เลี่ยมมาแล้วรุ่นเก่า..บางที..ท่าน..จะได้พบ..กับ
การใช้..พระเป็น..แบบในการทำ..กรอบหน้าและหลัง..คือ...
เอา..แผ่นอคริลิค..ที่อ่อนตัว(หลังจากผ่านการ..ลนไฟมาหมาดๆ)
...วางทาบที่..องค์พระเลย..แล้วเอา..กรอบไม้อัด..ที่เลื่อยไว้ใหญ่กว่า
องค์พระ..หน่อยนึง..(ใหญ่พอที่จะรับ..ความหนาของแผ่นฯ..แทรก
ตัวลงไปได้..)...กดทับลงไป..ไม่ว่า..หน้า..หรือ..หลัง..จะเป็น..แบบ
๒ ชั้นธรรมดา..หรือ..๓ ชั้น(มีใส้กลาง).......
............พระเหล่านี้..ส่วนใหญ่..กรอบไม้อัด..ที่เป็น..แบบ..ไม่จำเป็น..ต้อง
ทำให้ชิดองค์พระมาก..เพราะ..ส่วนที่บังคับ..ไม่ให้พระ..คลอน..หรือ
ขยับ..คือ..แผ่นอคริลิค..ด้าน..หน้าและ..หลัง...
....ซึ่งแบบนี้..จะส่งผล..ให้พระชำรุด..ง่ายที่สุด..คือ..เริ่มเป็น..ตั้งแต่...
ตอนกด...เพราะพระ..จะถูกแรงกด..ตลอดเวลา...อาจจะเริ่มจาก...
ร้าว..และมาแตกในภายหลัง..แต่ตอนเลี่ยมมาใหม่ๆ..ถ้าไม่สังเกตดีๆ
...อาจไม่เห็น..เพราะรอยร้าวเล็กมาก....
......แต่แบบนี้...เราสามารถแกะ..ออกได้..ง่ายกว่าเพื่อน..(ผมจะเล่าในตอนหลัง)
๒. ไม่ได้ใช้..พระเป็นแบบ..สำหรับกด...จะใช้ตัวแผ่นอคริลิค..ทำเป็นแบบ
หรือ..ไม้อัดทำเป็น..แบบแทนองค์พระ..เพื่อความสวยงาม...แต่ยึดพระอยู่ได้..
โดยที่..แผ่นอคริลิค..หน้า-หลัง..กดองค์..พระ..ในส่วนที่นูนที่สุด..เช่น..จมูก...
แบบนี้..จริงๆ..สาหัสกว่าแบบแรก..เพราะแรงกด..ไม่กระจาย...แรงที่จุดนั้นจะ
มาก..แต่ที่แรกๆ..รับพระมา..คุณจะสังเกตไม่ชัด..เพราะกดไปนิดเดียว...แต่พอ
ใช้ห้อยไป..สักพัก..จมูกพระ..คุณจะบี้ไปเรื่อยๆ...จนกระทั่ง...เนื้อพระยุบลงไป
..หรือบิ่นไป..แรงกดจะหายไป..แต่ที่แย่กว่า..มาแทนคือ..ไม่มีตัวบังคับพระ..
..พระจะหลวม..และ..คลอน..ยิ่งเป็นพระผงแบบไม่เหนียว..หรือ..พระเนื้อดิน
..คุณก็แทบ..จะมองไม่เห็น..พระของคุณ..เพราะ..ผง..หรือ..ดิน..ที่ถูกแรงกระแทก
..หลุดออกมาเป็น..เหมือนฝุ่น..กระจายไปทั่ว....
๓. ใช้ใส้กลางช่วยบังคับพระ...โดยมี..แผ่นอคริลิค..ด้านหลัง..ช่วยดันพระ
ไว้....แบบนี้..แผ่นอคริลิคด้านหน้า..จะไม่สัมผัสองค์พระเลย....เพราะใส้กลางที่
เขาฉลุไว้..ขนาดใกล้เคียงองค์พระ..แต่ไม่คับ..เขาจะเลื่อยให้มัน..สอบ..คือ...
ด้านหน้า..เล็กกว่า..ด้านหลัง..เวลาเอาพระใส่เข้าไป...พระจะขยับไปด้านหน้าไม่ได้
เพราะช่องมันเล็กกว่า..องค์พระ...โดยที่มีแผ่นอคริลิคด้านหลัง..กด..องค์พระไว้..
...แบบนี้..ด้านจะไม่ชำรุด...ส่วนใหญ่..จะชำรุด..ด้านข้าง..เพราะ..แรงกดที่เกิด..
จะมาอยู่ที่..ขอบๆของพระ..และ..ด้านหลัง...
๔. ใช้ใส้กลางเป็น..ตัวบังคับ..ยึดพระไว้...ซึ่งแผ่นอคริลิค..หน้า-หลัง..จะไม่
สำผัส..พระ...พวกนี้..จะฉลุใส้กลางให้แนบ..พอดีกับด้านข้างพระ..แบบนี้...
แน่นอน..ใส้กลางจะต้องคับพอดี..ไม่คับมากเกินไป...เพราะแรงกดจะมาก..
ถ้าช่างฝีมือไม่ถึง..ก็คือ..ไม่ดูว่า..พระเนื้อผง..หรือ..พระเนื้อดินองค็นี้..สภาพ
เป็นยังไง....วิธีที่ง่ายมาก..ที่พวกนี้ทำกันคือ..ทำให้..พอดีนิดๆ..ไม่ถึงกับ..คับ
..ก่อนจะ..ใสพระลงไป..เขาจะเอา..น้ำยาเชื่อมอคริลิคทา...ในช่อง....
...เพื่อ..ทำให้..ผิวตรงนั้นมันละลาย..และนิ่ม(ใช้พู่กันไล้เอา)..พอเอาพระใส่
เข้าไป...เนื่องจากตอนนั้นผิวสัมผัสของอคริลิคนิ่ม..ก็จะจับไปกับ..ผิวองค์
พระ..พอเวลาไม่นาน..อคริลิค..ก็เริ่มแข็งตัว..มันก็จะล็อค..ด้านข้างองค์พระ
ไว้ได้...
...................................ต่อตอนหน้าครับ........................

 

สวัสดีครับคุณอา และสมาชิกทุกท่าน มาติดตามอ่านบทความ สาระดีๆเหมือนเช่นเดิมครับ

 

ต้องใจเย็นมากมากเลยนะนี่

 

หวัดดี...เฉียวฟง..และ MONTANA....
......ก็มาทำขอบพระกันต่อ....

..............เริ่มต้น...ผมทำการ..เตรียมแบบแม่พิมพ์ก่อน..โดย..นำพระสมเด็จ..
รุ่นใหม่ๆ..นี่แหละครับ..มาทาบบน..แผ่นหินอ่อนที่..ผมเตรียมไว้..แล้วก็ใช้..
ปากกาเคมีปากเล็ก(แบบคล้ายๆ..ที่..นักเรียน..เอาไว้เขียน..บนแผ่นซีดี).......
...เอามาเขียนลงบนแผ่น..หินอ่อน..โดยลากชิด..ขอบพระ................
......ผมก็..ได้..รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า..๑ รูป..ที่..ขนาดเท่ากับ...พระสมเด็จ.....
..จากนั้น..จากนั้น..ผมก็..ลากเส้นขนาน..เส้นที่ลากไว้เดิม..โดยให้มันอยู่..ข้างใน
...ห่างจาก..เส้นเดิม..ประมาณ ๒ มม....ก็จะได้..รูปสี่เหลี่ยม..ผืนผ้า..ขึ้นมา..อีก
๑ รูป..ซ้อนกัน..อยู่ข้างใน..............
..................อันนี้..คือ..แนวเส้น..กรอบพิมพ์..ที่ผม..กำหนดไว้................
........แล้วผม..ก็เริ่มใช้..สิ่วใหญ่..ค่อยๆแกะ..ที่ส่วนใน..ของเส้นกรอบพิมพ์..
โดย..ผมแกะ..ลึกลงไปเท่ากัน..หมดคือ..๑ มม. ใช้เวลานานมากครับ..เพราะ
กลัวจะเสีย..และไม่เป็น..ระนาบเดียวกัน..ใช้ปลายสิ่วขูด..ตบแต่งจน..ผมว่า
ได้แล้ว..ผมก็..เอากระดาษทรายน้ำอย่างละเอียด..ลงตบแต่งผิว..อีกที..จน
เนียน.......................................
....จากนั้น..ผมก็ใช้..FREE HAND ลากเส้นซุ้ม..โดยเลียนแบบ..พระต้นแบบ..
โดยแนวเส้น..ระยะห่างจากกรอบพิมพ์..ความหนา..ก็ทำแบบให้..ใกล้เคียงที่สุด
........แล้วผม..ก็ได้..เส้นซุ้ม..ของผม..ออกมา..ซ้อนอยู่ใน..เส้นกรอบพิมพ์..อีกที..
............................แล้วก็...จบ.......................................
..อย่าแปลกใจ...ผมเคยเล่าไปแล้วว่า..ผมเคยลอง..แกะ..หินลับมีด..(..หินลับมีด..
ที่ว่า..นี่..คือ..หินลับมีด..แบบโบราณ..นะครับ..เดี๋ยวนี้..ในกรุงเทพคงหายาก..มาก
ต่างจังหวัด..คงพอหาได้...หินลับมีด..มี ๒ แบบ..คือ..แบบหยาบ..ส่วนใหญ่..จะทำ
มา..คือ..ตัดมาจาก..แท่งหินทราย..ขนาดใหญ่..สีจะออกแดง..ก็เอาไว้..ลับ..ขวาน
..ลับ...พร้า..ลับมีด..ตัดต้นไม้....ส่วน..แบบละเอียด..นี่เนื้อแน่น..เขาก็จะตัด..มาจาก
หินที่เรียกว่า..SILT STONE..หรือ..หินอื่นที่ใกล้เคียงกัน..แต่มีคุณสมบัติคือ..เนื้อละเอียด
..เพราะ..จะเอาไว้ลับ..มีดทำครัว..มีดบังตอ..มีดแล่เนื้อ..หั่นผัก....หินลับมีดแบบละเอียด
นี้..ที่คนยุคก่อน..เขาจะเอาไว้..แกะเป็น..แม่พิมพ์..เพราะทนทาน..แกะได้ละเอียด..และ..
เนื้อแน่น...จนเนื้อพระ..ไม่ว่า...จะเป็น..พระผง..หรือ..พระเนื้อดิน..แทรกลงไปไม่ได้....
..เรียกว่า..เนื้อเนียน.....)..แล้วต้องเลิก..เพราะ..แข็ง..และ..เมื่อยมือ..จะแกะเป็นรูปพระ..
ก็คง..เละเทะ..ซะก่อน.....แม้ว่า..ครั้งนี้..ผมใช้หินอ่อน..เนื้ออ่อนกว่าเยอะ..แต่..เนื่องจาก
ที่ผม..จะ..ลองทำคราวนี้..ไม่ได้เกี่ยวกับ..ข้างในซุ้มพระ..ผมก็เลยไม่รู้..จะแกะไปให้..เมื่อย
ตุ้ม..ทำไม.............................
.................แล้ว..ผมก็..ลงมือใช้..ทั้ง..สิ่วเล็ก..ตะไบหางหนู..ค่อยๆไปตามเส้น..จน..เป็น..
..เส้นขนมจีนผ่าครึ่ง..ยาวไปตลอดแนว..(แกะ..เป็นร่อง..ที่เป็นทรง..ครึ่งวงกลม)..แล้วผม
ก็..เอากระดาษทรายน้ำ..ค่อยๆ..ฝนถูร่อง..จนเนียน.....
..............การแกะพิมพ์ด้านหน้า..ก็เป็น..การสิ้นสุด..............
...........ต่อตอนหน้าครับ..................

 

มาตามอ่านครับคุณครู สงสัยว่าที่เลือกใช้หินทำแม่พิมพ์เพราะจำทำให้ผิวของชิ้นงานออกมาได้ใกล้เคียงกับต้นแบบ ใช่หรือเปล่าครับ

 

...เพราะ..
๑. หิน..คงทน...ใช้งานได้..หลายครั้ง..หลายวาระ...แทบไม่สึกหรอ..
....ไม้ไม่ทน..ใช้งานได้ครั้งเดียว(ทำรวดเดียว)..เก็บไว้..เอามาใช้ใหม่..ก็..ผิดเพี้ยน..เพราะ..สึก..กร่อน....
๒. หิน..ไม่..ยืดหด...แต่..ไม้ยึด-หด..และ..บิด..ตาม..อุณหภูมิ..และ..ความชื้น..ทำ..ผลงานออกมา..ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน.....
๓. หินสามารถ..แกะทำแบบ..ได้..ละเอียดกว่า..ไม้..แกะละเอียดได้จริง..แต่ถ้า..ทำเป็นพิมพ์กด..พระ..ส่วนที่ละเอียด..จะล้มหมด..เพราะโดนแรง..กด..ซ้ำซาก...ไม้จะใช้เป็นแม่พิมพ์..สำหรับในกรณี..ที่..แบบ..ไม่ละเอียด..ทำพระเสร็จแล้ว..ก็ไม่นำ..มาใช้อีก...
๔. หิน..จะทำให้..ผิวองค์พระเนียนได้..แต่ไม้..ผิวจะไม่เนียนเท่า..เพราะ..ไม้..ต่อให้เนื้อละเอียดยังไง..ก็จะมีเสี้ยน..กดแล้วจะเห็น..รอยเสี้ยน..เว้นแต่ว่า..จะเอาไปลงรักหุ้มอีกที...
............นี่เป็น..เหตุผล..สำหรับในยุคก่อน..ที่วิเคราะห์ออกมาแล้ว..ตามหลักความจริง....