ปิด :::พระกริ่งสิงห์เชียงแสน ::: ท่านใดยังไม่ได้โอนเงินรีบด่วน ก่อนตัดสิทธิ์

ครับผม
ขอขอบพระคุณครับที่ร่วมบุญกัน
ขออนุโมทนาน่ะครับผม

 

พระกริ่ง สิงห์เชียงแสนยังมีให้ท่านทั้งหลายได้ร่วมบุญอยู่น่ะครับ
รายละเอียดอยู่หน้าแรกน่ะครับ ท่านสามารถร่วมบุญได้ตลอดครับ
รายละเอียดจะอัพเดท หน้าแรกเสมอครับ

ขอขอบพระคุณครับ

 

ได้รับแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

 

ขอจองด้วยค่ะ 1องค์
อัจจิมา จันทา
ซอย อุดมสุข 26 ถนน สุขุมวิท 103 บางนา กทม. 10260 (กฤษณุห้องเช่า ห้อง)

 

ขอจองด้วยนะครับ โอนแล้วจะ pm บอก

ขออนุโมทนาด้วยนะครับ ที่ข่วยบอกบุญ

 

ขอจองครับ
โอนแล้วจะแจ้ง

 

โอนเงินให้แล้วครับ
14/08/2553
ที่อยู่แจ้งทาง PM ครับ

 

ขออนุโมทนาด้วยครับทุกท่าน สาธุ สาธุ สาธุ

เชิญชวนทุกท่านร่วมทำบุญสร้างพระสิวลี สร้างเจดีย์ศรีรัตนแก้วก้าวมิ่งมงคล
และเครื่องอัฐบริขารแก่วัดร้างเพิ่งบูรณะใหม่ด้วยครับดูจากลิงค์นี้นะครับ
http://palungjit.org/threads/ด่วน-เ...ัตนแก้วก้าวมิ่งมงคล.250348/page-2#post3669845

เชิญร่วมถวายพระพุทธรูป เพื่อเป็นพุทธอทุยานต่อไปครับ ดูจากลิงค์นี้ครับ
http://palungjit.org/threads/@@@ท่านใดต้องการถวายพระพุทธรูป-เชิญทางนี้ครับ@@@.253002/

นิพพานะ ปัจจโย โหตุ

 

วันที่ ผมโอนเงินที่ ธ.ทหารไทย สาขาอาคารญาดา สีลม 120 บาท ให้เรียบร้อยแล้วครับ
ภูมิพัฒน์ จีระนันตชัย (jeeraa)
54(1014/2) ซ.บางนาตราด 5(บัวเกิด 2/1) ม.12 ถ.บางนาตราด แขวง/เขตบางนา กทม 10260

 

ขออภัยคุณ Nakraksa ที่ผมลืมจัดส่งให้ครับ
เดี่ยวยังไงอาทิตย์นี้จะจัดส่งในน่ะครับ
ช่วยนี้เบลอดจริงๆครับ

ขออภัยครับผม

 

รับทราบการโอนครับผม คุณ jeeraa
ขออนุโมทนาครับ

 

วันนี้แจ้งโอนแล้วนะครับรายละเอียดใน pm (ให้ดูทั้ง 2 ข้อความนะครับ เพราะข้อความแรกลืมที่อยู่ แต่มีในข้อความที่ 2 ครับ)

 

ได้โอนเงินเรียบร้อยแล้วครับ เมื่อวันที่ 17 สิงหา เวลา 8.55 น. จำนวน 120.01 บาท
ชื่อบุญชัย หะรารักษ์ 53/25 หมู่ 5 ซอยบ้านในตรอก ถ.เจ้าฟ้านอก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83130

 

รับทราบการโอนเงินทุกท่านครับผม

ขออนุโมทนา
และขออนุโมทนาครับผม

 

ตำนานพระปริตร ตอนมงคลปริตร

[SIZE=-1] โดย พรหมญาณี









เมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับน้อง ๆ ลูกหลานกัลยาณมิตรหลายท่าน มีการกล่าวถึงเรื่องการสวดพระปริตรที่เป็นที่นิยมกันอยู่ในขณะนี้ สาเหตุหนึ่งที่ได้รับความนิยมก็เพราะหลายปีที่ผ่านบ้านเมืองของเราต้องประสบ ปัญหามากมาย จนมาถึง พ.ศ. นี้ ก็ต้องประสบกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยซ้ำเติมเข้ามาอีก ทำให้คนไทยซึ่งเป็นชาวพุทธส่วนใหญ่พยายามหาที่พึ่งทางใจ จะเห็นได้จากคนเข้าวัดทำบุญ ฟังพระเทศน์ ปฏิบัติธรรมทั้งการสวดมนต์ภาวนาและสมาธิกัมมัฏฐานมากขึ้น สมกับที่พูด ๆ กันอยู่ว่า “ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม“ จะอย่างไรก็ตาม นับว่าเป็นสิ่งทีดีที่คนที่มีความทุกข์หันหน้าเข้าหาพระธรรม ดีกว่าหันหน้าเข้าหาอบายมุข พูดถึงเรื่องการสวดพระปริตร หลาย ๆ ท่านที่ได้คุยกันในวันนั้น ก็ได้ให้ข้าพเจ้าสอนวิธีการสวดบ้าง ถามไถ่ถึงที่มาและคำแปลกันบ้าง ก็เลยคิดว่าน่าจะนำเรื่องราวของพระปริตรมาเล่าให้เพื่อน ๆ ในบล็อกได้อ่านกันบ้าง เพราะคิดเอาเองว่าหลายท่านอาจจะไม่เคยให้ความสนใจเรื่องนี้ หรืออาจจะไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน ซึ่งอันที่จริงบทสวดหรือแม้กระทั่งความเป็นมาของพระปริตรนั้นสามารถหาอ่าน หรือดาวน์โหลดได้จากอินเตอร์เน็ต ส่วนจะมีคำแปลครบทุกบทหรือไม่ อันนี้ข้าพเจ้าไม่ทราบเพราะไม่เคยไปเซิร์ทดู ทีนี้เราก็มาเริ่มเรื่องตำนานพระปริตรกันเลยดีกว่า

โดยปกติทั่วไป พุทธศาสนิกชนที่ทำบุญ จะนิมนต์พระสงฆ์มาสวดสาธยายบทพุทธมนต์ในพิธีมงคลต่าง ๆ ซึ่งถ้าจะเรียกกันให้ถูกต้องก็ต้องเรียกว่า พิธีเจริญพระพุทธมนต์ คำว่า “ พุทธมนต์ “ หมายถึง พระ พุทธพจน์ซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่มี่อยู่ในพระไตรปิฎกบ้าง เป็นคำที่แต่งขึ้นมาภายหลังบ้าง โดยมีความเชื่อกันว่าพระพุทธมนต์นั้นเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ สามารถป้องกันอันตรายต่าง ๆ ได้ จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ พระปริตร “ ซึ่งแปลว่า เครื่องคุ้มครอง คือ ป้องกันอันตรายภายนอกมี โจร ยักษ์ สัตว์เดรัจฉาน และป้องกันอันตรายภายในมี โรคภัยไข้เจ็บ เป็นต้น เท่าที่รวบรวมไว้มีทั้งหมด ๗ บท จึงเรียกว่า “ เจ็ดตำนาน “ ตามปกติคำว่า “ ตำนาน “ หมายถึงเรื่องราวนมนานที่เล่ากันต่อ ๆ มา แต่ในที่นี้นำมาเรียกพระปริตรแต่ละบทว่าตำนาน ซึ่งมีผู้สันนิษฐานว่าน่าจะแผลงมาจากคำว่า “ ตาณ “ ในภาษาบาลีที่แปลว่า ต้านทาน หรือป้องกัน เช่นเดียวกับคำว่าปริตร หรืออาจจะหมายถึงตำนานอันเป็นที่มาของพระปริตรแต่ละบทก็เป็นได้


การสวดพระปริตรนี้เกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศลังกาในราว พ.ศ. ๕๐๐ เนื่อง จากชาวลังกาที่นับถือพุทธศาสนาในขณะนั้นต้องการให้พระสงฆ์ช่วยเหลือตนเองให้ มีความสิริมงคลและช่วยป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ด้วยการสวดมนต์หรือคาถาแบบพวกพราหมณ์ซึ่งมีความเชื่อว่าคนที่มีเวทย์มนต์ สามารถทำให้เกิดความเป็นมงคลและป้องกันภยันตรายแก่คนทั่วไปได้ ดังนั้นพระสงฆ์ลังกาจึงได้คิดหาวิธีสวดพระปริตรขึ้น โดยเลือกเอาพระสูตรหรือคาถาที่สรรเสริญคุณพระรัตนตรัยอันเกิดขึ้นจาก เหตุการณ์ต่าง ๆ มาสวด เช่น สวดเพื่อความเป็นมงคลก็นำมงคลสูตรมาสวด สวดให้คนเจ็บป่วยก็นำบทโพชฌงค์มาสวด เป็นต้น ต่อมาได้รับความนิยมมากขึ้น พระเจ้าแผ่นดินลังกาจึงได้รับสั่งให้คณะสงฆ์ปรับปรุงพระสูตรและคาถาต่าง ๆ และมีการเพิ่มพระสูตรให้มากขึ้นเรียกว่า “ ราชปริตร “ แปลว่ามนต์คุ้มครองพระราชา และต่อมาประชาชนทั่วไปนำมาสวดจนเป็นที่นิยมแพร่หลายมาจนทุกวันนี้

พระปริตรเจ็ดตำนาน มีอยู่ด้วยกัน ๗ พระสูตร แต่ ละพระสูตรก็มีความเป็นมาที่แตกต่างกัน ดังจะนำมากล่าวทีละพระสูตร เพราะหากนำมากล่าวไว้ทีเดียวทั้ง ๗ พระสูตร ความจะยาวเกินไป อาจจะเกิดความเบื่อหน่ายในการอ่านไปเสียก่อน วันนี้ขอเริ่มจากสิ่งที่ มนุษย์เทวดาทั้งหลายปรารถนา นั่นคือความเป็นมงคล ในเรื่องของ “ มงคลสูตร “ หรือ “ มังคลปริตร “ (อ่านว่า มัง-คะ-ละ-ปะ-ริด)

คำว่า “ มงคล “ แปลตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เอาแบบสั้น ๆ ว่า เหตุที่นำมาซึ่งความเจริญ, สิ่งซึ่งถือว่าจะนำสิริและความเจริญมาสู่และป้องกันไม่ให้สิ่งที่เลวร้าย มากล้ำกราย, เรียกงานที่จัดให้มีขึ้นเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข เช่น งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ งานทำบุญวันเกิด ว่าเป็นงานมงคล เป็นต้น

สำหรับ “ มงคลสูตร “ นี้ว่าด้วยเหตุที่จะทำให้เกิดสิริมงคล มี ความเป็นมาโดยมีเรื่องเล่าว่า ในกาลก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสมงคลสูตรนั้น ได้เกิดปัญหาถกเถียงกันในโลกมนุษย์ว่า อะไรเป็นมงคล บางคนก็ว่ารูปที่เห็นดีเป็นมงคล บ้างก็ว่าเสียงที่ได้ยินดีเป็นมงคล บ้างก็ว่ากลิ่น รส สัมผัสที่ดีเป็นมงคล ต่างก็ยืนยันว่าความเห็นของตัวเองถูกต้อง แต่ไม่สามารถอธิบายให้อีกฝ่ายหนึ่งยอมรับได้ ปัญหานี้ได้แพร่ไปทั่วถึงเทวโลกและพรหมโลกจนเทวดาและพรหมได้แบ่งแยกเป็น ๓ ฝ่ายเหมือนมนุษย์ และหาข้อยุติไม่ได้นานเป็นเวลาถึง ๑๒ ปี ต่อมาเทวดาชั้นดาวดึงส์ได้ทูลถามปัญหานี้กับพระอินทร์ พระอินทร์จึงให้เทพบุตรตนหนึ่งไปทูลถามพระพุทธเจ้า แล้วเสด็จมาเฝ้าพร้อมกับเหล่าเทวดาเพื่อสดับมงคล พระพุทธองค์ได้ให้คำตอบว่า สิ่งอันเป็นมงคลในชีวิตมี ๓๘ ประการ เช่น ไม่คบคนพาล คบบัณฑิต การบูชาผู้ที่ควรบูชา เป็นต้น ซึ่งธรรมอันเป็นมงคลนี้ไม่ว่ามนุษย์หรือเทวดาปฏิบัติได้ก็เป็นสิริมงคลแก่ตัวเองทั้งสิ้น

ในส่วนของบทสวดและคำแปลมีดังนี้ คือ

เอวัม เม สุตัง
ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วดังนี้ (ข้าพเจ้าในที่นี้หมายถึงพระอานนท์)

เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตะวัน อารามของอนาถบิณฑกิเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี

อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา
เยนะ ภะคะวา เตนุปะสังกะมิ
ครั้งนั้นแล, เมื่อปฐมยามแห่งราตรีล่วงแล้ว เทวดาตนหนึ่งทรงรัศมีงามยิ่ง
ทำพระเชตะวันโดยรอบทั้งหมดให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค

อุปะสังกะมิตวา ภะคะวันตัง อะภิวาเทตวา เอกะมันตัง อัฏฐาสิ
เมื่อถึงที่ประทับ ได้ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค แล้วยืนอยู่ข้างหนึ่ง

เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวะตา ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิ
ครั้นแล้วเทวดาได้กราบทูลพระผู้มีพระภาค ด้วยคาถาว่า

พะหู เทวา มะนุสสา จะ มังคะลานิ อะจินตะยุง อากังขะมานา โสตถานัง พรูหิ มังคะละมุตตะมัง
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเป็นอันมาก มุ่งคิดหามงคลเพื่อความสวัสดีอยู่
ขอพระองค์จงตรัสสิ่งที่เป็นมงคลอันประเสริฐเถิด

( พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า )

อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัม มังคะละมุตตะมัง
การไม่คบคนพาล การคบแต่บัณฑิต และการบูชาผู้ที่ควรบูชา นี้เป็นมงคลอันสูงสุด

ปะติรูปะเทสะวาโส จะ ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ เอตัม มังคะละมุตตะมัง
การอยู่ในสถานที่เหมาะสม การได้บำเพ็ญบุญมาก่อน และการวางตัวถูกต้อง นี้เป็นมงคลอันสูงสุด

พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตัม มังคะละมุตตะมัง
การมีความรู้มาก การทำงานช่าง การมีวินัยอย่างดี และการพูดถ้อยคำไพเราะ นี้เป็นมงคลอันสูงสุด

มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะทารัสสะ สังคะโห อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัม มังคะละมุตตะมัง
การเลี้ยงดูมารดาบิดา การสงเคราะห์บุตรภรรยา และการงานสับสนไม่ยุ่งเหยิง นี้เป็นมงคลอันสูงสุด

ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ ญาตะกานัญจะ สัคะโห อะนะวัชชานิ กัมมานิ เอตัม มังคะละมุตตะมัง
การให้ทาน การประพฤติธรรม การสงเคราะห์ญาติ และการทำงานที่ปราศจากโทษ นี้เป็นมงคลอันสูงสุด

อาระตี วิระตี ปาปา มัชชะปานา จะ สัญญะโม อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัม มังคะละมุตตะมัง
การอดใจไม่กระทำบาป การระวังตนห่างจากการดื่มน้ำเมา และการประพฤติตนไม่ประมาท นี้เป็นมงคลอันสูงสุด

คาระโว จะ นิวาโต จะ สันตุฏฐิ จะ กะตัญญุตา กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัม มังคะละมุตตะมัง
ความเคารพ การไม่ทะนงตน ความสันโดษ ความรู้บุญคุณ และการฟังธรรมในเวลาที่เหมาะสม นี้เป็นมงคลอันสูงสุด

ขันตี จะ โสวะจัสสะตา สะมะณานัญจะทัสสะนัง กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา เอตัม มังคะละมุตตะมัง
ความอดทน ความเป็นคนว่าง่าย การได้พบเห็นสมณะ และการสนทนาธรรมในเวลาอันควร นี้เป็นมงคลอันสูงสุด

ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ เอตัม มังคะละมุตตะมัง
การบำเพ็ญตบะ การประพฤติพรหมจรรย์ การเห็นแจ้งอริบสัจจ และการทำนิพพานให้เห็นแจ้ง นี้เป็นมงคลอันสูงสุด

ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัม มังคะละมุตตะมัง
จิตของบุคคลผู้ถูกโลกธรรมมากระทบแล้วไม่หวั่นไหว ไม่เศร้าโศก ไม่ขุ่นมัว เบิกบานอยู่ นี้เป็นมงคลอันสูงสุด

เอตาทิสานิ กัตวานะ สัพพัตถะ มะปะราชิตา สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ ตัง เตสัง มังคะละมุตตะมัง
ผู้ปฏิบัติเช่นนี้ได้แล้ว จะไม่พ่ายแพ้ในที่ทุกสถาน ถึงความสวัสดีทุกแห่ง นี้เป็นมงคลอันสูงสุดของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย












ขอขอบคุณ

ข้อมูล จาก หนังสือวรรณคดีขนบประเพณีฯ
โดย อาจารย์เบญจมาศ พลอินทร์

ไลน์สวย จาก ญามี่

ภาพประกอบเรื่อง จาก กูเกิ้ล
โดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆสิตพิพัฒน์

(ขออนุโมทนา : เว็บตำนานพระปริตร)
​

[/SIZE][SIZE=-1] [/SIZE]​

 

ไม่ทราบว่ายังพอมีหรือเปล่าครับ
ถ้ามีผมขอจอง 1 องค์ครับ
แล้วจะส่งซองไปให้ครับ
ขออนุโมทนาครับ

 

พอเหลือยู่ครับแต่ไม่มาก
ขออนุโมทนาด้วยน่ะครับ
ผม

 

ขออนุโมทนาบุญขอรับ 1 องค์ค่ะ
ณวภัทส์ ไชยวงค์
108 ม.9 ซ.3
ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง
จ.เชียงใหม่ 50160
ขอบคุณค่ะ
ส่งซองพร้อมค่าส่งไป ได้รับหรือยังค่ะ

 

ผมโอนเงินค่าส่งพระกริ่งให้แล้วนะครับ วันที่ 21/8/2010 เวลา 5:51 120 บาท

ส่งชื่อที่อยู่ไปทาง PM ช่วยเช็ค PM ด้วยครับ ยามา จองไว้ลำดับที่ 8 ครับ

 

ได้รับแล้วครับ
เดี่ยวจัดการส่ให้น่ะครับ
ขอขอบพระคุณครับ