ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ต้องขอบพระคุณพี่มากมากครับที่กรุณามอบให้ ก็ขอน้อมรับไว้ด้วยความยินดียิ่งครับ _/\_
บังเอิญจัง ยังไม่มีสีน้ำเงินครับ

 

ตอนนี้ที่เว็บวัดท่าขนุนมีโครงการบูชาวัตถุมงคลส่วนตัวเพื่อร่วมโครงการหล่อพระพุทธรูปทองคำ ฉลองอายุ ๖๐ ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรมอยู่ค่ะ
ตามลิงค์นี้เลย...

ขอเชิญบูชาวัตถุมงคลส่วนตัวเพื่อร่วมโครงการหล่อพระพุทธรูปทองคำ ฉลองอายุ ๖๐ ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

สำหรับบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอกที่วัดท่าขนุนนั้น
ทราบมาว่าปิดรับร่วมบุญทางตรงไปแล้ว
แต่หากสามารถโอนร่วมบุญกับบัญชีตรงของวัดได้อีกก็ขอโมทนากับพี่ด้วยเจ้าค่ะ

โอ้โห บุญนี้ฮือฮาถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เลยหรือเจ้าคะ อิอิ


สาธุ สาธุ ขอโมทนาบุญกับท่าน Ricky ด้วยค่ะ
ที่ประมูลดวงแก้วได้นะคะ กระทู้ร้อนฉ่าเลยเจ้าค่ะ
และขอโมทนากับคุณมีนัมด้วยค่ะ ได้ของขวัญปีใหม่ด้วย อิอิ

 

เรื่องบุญสร้างพระ ๒๑ ศอก นั้น ความจริงพี่ทราบว่า ปิดบุญไปนานแล้ว แต่เหตุจากมีเทวดาใหม่มาขอบุญนี้ ต่อมาท่านอนัตตกะเทวบุตรก็มาขอให้ทำบุญนี้ให้อีกค่ะ

หากไม่ใหญ่จริง ท่านอนันตกะคงไม่ขอเอง ปกติท่านไม่เคยให้ทำบุญอะไรให้เลย เพียงแต่บอกว่า "ท่านทำบุญอะไร ผมโมทนาบุญนั้นขอรับ"

แต่คราวนี้ท่านขอให้อุทิศให้ท่าน และเทวดาต่างจักรวาลเป็นการส่วนตัวค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาลด้วยเช่นเดียวกันค่ะ

Numsai

 

...ประวัติดวงแก้วโภคนวบดินทร์ ตอนที่ ๕ พระอังคุสุคตปัจเจกพุทธเจ้า ผู้เป็นหัวหน้า..

​

เมื่อพญานาคราชทั้ง ๓ ได้ติดตามพระโภคสุคตปัจเจกพุทธเจ้า (อ่านว่า โพ-คะ-สุ-คะ-ตะ) ถึงบริเวณเขาสิริคันธมาทแล้ว ก็พบกับความปลื้มปิติอย่างยิ่ง เมื่อได้พบพระปัจเจกพุทธเจ้าอีกจำนวนมาก กำลังบำเพ็ญสมณธรรมในอิริยาบถต่าง ๆ กันออกไป

พระโภคสุคตปัจเจกพุทธเจ้าให้พาไปกราบพระอังคสุคตะปัจเจกพุทธเจ้า ผู้เป็นหัวหน้าของพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งปวง พญาโภคบดีพงศานาคราชได้อาราธนาพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๙๐๐ รูป เพื่อรับภัตตาหาร และการถวายทานของเหล่านาคราชทั้งหลายในอีก ๓ วันข้างหน้า


พระอังคสุคตปัจเจกพุทธเจ้า ทรงแย้มพระโอษฐ์ เป็นการรับอาราธนานั้น พญาโภคฯนาคราช และคณะได้กราบลาพระปัจเจกพุทธเจ้า เพื่อบอกกล่าวงานบุญนี้แก่พญานาคทั้ง ๙ เมือง

จากนั้นพญานาคราชทั้ง ๓ ได้ประชุมแบ่งงานกันทำ พญาโภค ฯนาคราชได้ทำหน้าที่จัดหาเรื่องการถวายทาน ต่าง ๆ พญาอัศดงนาคราชนั้น ได้ทำหน้าที่การเนรมิตเสนาสนะที่เหมาะสมแก่สมณธรรม ส่วนพญาโยชนนาคราชนั้น ทำหน้าบอกกล่าวงานบุญครั้งนี้แก่กษัตริย์นาคพิภพอีก ๖ เมืองที่เหลือ เมื่อแบ่งหน้าที่กันเรียบร้อยแล้ว จึงแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน

ครั้นพญาโภคฯนาคราช ได้มาถึงเมืองสัตตรัตนนครแล้ว ก็ได้กราบทูลแก่พญาโภคนวบดี ถึงการอาราธนาพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๙๐๐ รูป สร้างความปิติยินดีแก่พญาโภคนวบดีเป็นอย่างยิ่ง หลังจากสั่งงานแก่ผู้รับผิดชอบแล้ว พญาโภคนวบดีจึงได้แจ้งแก่พระมเหสีและพระโอรสว่า ..

“การถวายทานครั้งนี้ เป็นบุญใหญ่ และเป็นบุญครั้งสุดท้ายของเราในการสร้างบารมี ก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลภาคหน้า เราจะเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๓ วัน(ตามเวลาโลกมนุษย์ยุคนั้น) เพื่อรวบบุญต่าง ๆ ในอดีตในการถวายทานครั้งนี้ จะมีแต่สิ่งที่เลิศที่สุด เพื่อให้ทุกคนที่ร่วมบุญครั้งนี้ได้ปิติใจ ขอเธอทั้งสองช่วยจัดแจงเรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อย”

พระนางมันทรี นั้นมีความยินดีอย่างยิ่ง จึงตรัสว่า... “ข้าฯแต่พระสวามี มหาทานครั้งนี้ ท่านมิต้องเป็นห่วง หม่อมฉัน และพระโอรสจะเตรียมการเป็นอย่างดียิ่ง ขอพระองค์ทรงวางพระทัยได้เพคะ”

พญาโภคฯ นาคราชได้กล่าวว่า “ข้าฯแต่พระบิดา หม่อมฉันต้องกราบขออภัยที่ไม่ได้ปรึกษาพระองค์แต่แรก การอาราธนาครั้งนี้ เกิดจากความปิติอย่างสูง จึงตัดสินใจอย่างฉับพลันทันที เกรงว่า หากไม่อาราธนาคราวนั้น อาจจะพลาดโอกาสที่ไม่ได้พบพระปัจเจกพุทธเจ้าอีก เพราะสิ่งใดในโลกนี้ ย่อมมีความแปรปรวน ไม่เที่ยงแท้แน่นอน”

พญาโภคนวบดี ตรัสตอบว่า “โภคฯ ลุกรัก พ่อมิได้ตำหนิเจ้าแต่อย่างใด ขออย่าได้กังวล ตรงข้ามพ่อกลับปลื้มปิติที่มีโอรสอย่างเจ้า ทำให้พ่อได้สร้างบุญใหญ่อีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ชาตินี้พ่อลงมา เพื่อทำตามหน้าที่ที่เคยตั้งสัจจวาจาไว้ในกาลก่อนเท่านั้น
ก่อนที่พระโพธิสัตว์ทุกองค์จะรอลงมาตรัสรู้ในชาติสุดท้าย หากติดพันธะสัญญาใด ๆ จะลงมาทำหน้าที่นั้น ๆ ให้เรียบร้อย ยกเว้นประการเดียว คือ การลาจากการทำหน้าที่นั้น มิฉะนั้นจะไม่สำเร็จในความปรารถนานั้นได้”

พญาโภคฯ นาคราชนั้น แม้ไม่ค่อยเข้าใจที่พระบิดากล่าวแต่ก็มิได้ปฏิเสธ เมื่อสั่งความเรียบร้อย พญาโภคนวบดี จึงทรงชุดสีขาวล้วน เข้าสมาบัติในถ้ำแก้ว เป็นที่เฉพาะสำหรับเชื้อพระองค์เมืองสัตตรัตนนคร เป็นเวลา ๓ วัน ยังมีต่อ...

 

..ประวัติดวงแก้วโภคนวบดินทร์ ตอนที่ ๖ เรื่องราวของพญาโยชนนาคราช...

กล่าวถึงพญาโยชนนาคราชนั้น ทรงเกิดในเมืองวิญญูสุทธิ์นคร มีพระบิดานามว่า พระสุทธิตาปะนาคราช พระมารดาพระนามว่า พระนางจามปาวดี พญาโยชนนาคราช เป็นพระโอรสองค์แรก

เหตุที่พญาสุทธิตาปะนาคราชได้ตั้งพระนามท่านว่า “โยชน” หมายถึง เครื่องพันธการ หรือเครื่องผูกร้อยรัด เกิดจากก่อนที่พญาสุทธิตาปะจะประสูติมานั้น พระองค์ทรงมีนิมิตเห็น ช้างเผือกเชือกหนึ่งลอยลงมากลางอากาศ และกล่าวแก่พระองค์ว่า “เราจะเป็นผู้ปลดเครื่องพันธการทั้งปวง”

ครั้นตื่นจากพระบรรทม ได้ให้โหรหลวงทำนายดวงชะตา โหรหลวงทำนายว่า ..

“พระโอรส ผุ้มีบุญญาธิการจะมาจุติ พร้อมเป็นผู้ปลดปล่อยพันธนาการของท่าน และบริวาร ท่านจะได้เคลื่อนภพจากนาคพิภพ หลังสร้างบุญใหญ่”

เมื่อพญาสุทธิตาปะได้ยินดังนั้น ก็ปลื้มปิติ กล่าวแก่อย่างยิ่ง จึงได้ตั้งใจรักษาศีล ประพฤติพรหมจรรย์ เป็นเวลา ๑๕ วัน หลังจากนั้น พระโอรสองค์แรกก็มาจุติแบบโอปปาติกะ บนตักของพระองค์ จึงให้นามว่า “โยชนนาคราช”

ต่อมา พระองค์ได้รับสาส์นจากพญาโภคนวบดี ถึงพระโอรสของกษัตริย์ต่างเมืองอีก ๘ เมืองว่า ล้วนเป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด ทำให้พระองค์ และพระมเหสีต่างยิ่งปิติใจเป็นอย่างมาก จึงได้ส่งพระโอรสไปเข้าพิธีอัญเชิญดวงแก้วมณีพร้อมกับเจ้าชายเมืองอื่น ๆ อีก ๘ เมือง

หลังพญาโยชนนาคราชได้จุติได้ไม่นาน ก็ทรงมีพระโอรสมาจุติอีก ๒ พระองค์ พระนามว่า “เจ้าชายสุทธมังตระ และเจ้าชายโสธนะมังตระ”

ภายหลังพญาโยชนนาคราชได้ขอเดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองมนุษย์กับพระสหาย พระองค์ทรงอนุญาตอย่างไม่ลังเล ครั้นพญาโยชนนาคราชนั้น กลับมาพร้อมข่าวดีในการอาราธนาพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๙๐๐ รูป สร้างความปิติเป็นอย่างยิ่ง ท่านพร้อมจะช่วยเหลือพระโอรส โดยการจัดราชทูต บอกกล่าวบุญไปยังเมืองต่าง ๆ อีก ๖ เมือง และนอกจากนั้นท่านได้เตรียมเครื่องถวายทานทั้งสิ้น ๙๐๐ ชุด เพื่อถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าด้วยความปิติยินดียังมีต่อ...

หมายเหตุ พญาโยชนนาคราช ในชาตินี้ คือ พระอาจารย์ขันธ์ สิริจฺนโท เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทหริภุญไชย(ห้วยทรายขาว) จ.ลำพูนค่ะ

 

อาตมาขออนุโมทนากับโยมน้ำใสที่นำเงินส่วนหนึ่งจากการประมูลทั้งหลายมาช่วยเหลือพระศาสนา และเพราะเหตุนี้ล่ะอาตมาถึงได้ทุ่มให้สุดตัว และอาตมายังเชื่ออีกว่า โยมน้ำใสยังจะต้องนำเงินมาช่วยอุปัฏฐากพระศาสนาอีกมากไม่เพียงแค่ในส่วนที่อาตมาได้ประมูลไป

ขอบุญทั้งหลายที่ได้บังเกิดขึ้นแล้วจงบังเกิดเป็นมหาอานิสงค์ ชักนำพาสิ่งที่เป็นมงคลทั้งหลายมาสู่โยมน้ำใส ครอบครัวโยมน้ำใส เทพเทวาที่เกี่ยวข้องกับโยมน้ำใสทั้งหลายทั้งมวลด้วยเทอญ

 

ความจริงก็เป็นอย่างที่ท่านกล่าวไว้ดีแล้วทุกประการเจ้าค่ะ ขอน้อมรับพรทั้งหลายที่พระคุณเจ้ามอบให้เจ้าค่ะ ปลื้มปิติใจที่ท่านเมตตาเจ้าค่ะ

ขอกราบอนุโมทนาบุญในความเมตตาของพระคุณเจ้าอีกครั้งเจ้าค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสด้วยค่ะ และท่าน widya ด้วยเจ้าค่ะ สาธุๆ

จันทรกาล

 

กราบมนัสการพระคุณเจ้า Ricky และขออนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาทุกประการค่ะพี่น้ำใส นู๋ดีอ่านยังได้ปลื้มปิติด้วย
นู๋ดี

 

กราบนมัสการพระคุณเจ้า Ricky เจ้าค่ะ
และขออนุโมทนาบุญที่เป็นเจ้าของดวงแก้ว ในการประมูลครั้งนี้เจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

จันทรกาล

 

ภาษาอังกฤษของคุณ BOROUGE ไม่งู ๆ ปลา ๆ เลยน่ะครับ ^^

ขออนุโมทนาบุญด้วยน่ะครับ ^^

 

สาธุ ๆ กราบอนุโมทนาบุญกับพระคุณเจ้าด้วยขอรับ... _/\_ _/\_ _/\_

 

ประวัติดวงแก้วโภคนวบดินทร์ ตอนจบ ถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า ๙๐๐ รูป..

​

หลังจากที่พญาสุทธิตาปะ และพญาโยชนนาคราชได้ทำหน้าที่บอกกล่าวงานบุญแก่กษัตริย์ทั้ง ๖ เมือง เมื่อถึงวันต่างก็ไปชุมนุมงานที่ลานหน้าท้องพระโรงแห่งเมืองสัตตรัตนนคร พร้อมเครื่องไทยทาน เครื่องประดับ อาหารทิพย์ที่ต่างก็ใช้ฤทธิ์บันดาลให้เกิดขึ้นตามความปราณีตในบุญของพญานาคราชแต่ละเมือง
กล่าวถึงพญาโภคนวบดีนั้น เมื่อครบกำหนด ๓ วัน จึงได้ออกจากสมาบัติอธิษฐานดวงแก้วมณีคู่บุญบารมี นามว่า ดวงแก้วสัตตรัตนราช(ยังไม่ปรากฏขึ้นในยุคนี้) พร้อมทั้งภัตตาหารอันเลิศรส เพื่อน้อมถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า

ส่วนพระนางมันทรีนั้น ได้นำดอกบัวชมพู อันเกิดในสระโบกขรณี กลิ่นหอมเย็นใจ นำมาประดับตกแต่งสถานที่ เพื่อให้มีความงดงาม พระนางนำเกสรบัวไปบดเป็นเครื่องหอม ไว้โปรยยามพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงเสด็จผ่านมา
ส่วนพญาโภคบดีพงศานั้น ได้นำแก้ว ๗ ประการ ถวายพระมารดาเพื่อให้เป็นมาลัย จำนวน ๙๐๐ พวง งดงามตระการตา เพื่อถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า

ส่วนกษัตริย์จากเมืองอื่น ๆ ได้แก่

พญาชารวางค์นาคราช ได้ภัตตาหาร และผลไม้ทิพย์จากดินแดนของตน เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้า ได้ฉันแล้ว หากปรารถนามีอายุยืนยาวก็สามารถทำได้ พร้อมทั้งนำเครื่องประดับต่าง ๆ นำมาตบแต่งประดับประดาให้สวยงาม

ส่วนพญาศิรสีห์นาคราชนั้น ได้นำเครื่องยานอันเป็นทิพย์มารอรับการเสด็จชมเมืองนาคพิภพทั้ง ๙ เมือง อีกทั้งนำยาอายุวัฒนะจากเมืองของงตนมาถวายด้วย
พญาศุรปัตต์นาคราชนั้น ได้นำผ้าแพรแก้ว ถวายเป็นจำนวน ๙๐๐ ผืน พร้อมทั้งภัตตาหารอันเป็นทิพย์เพื่อถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าในครั้งนี้

พญาปชารัตนบดีนาคราช นั้นได้นำพระทองคำจากคลังสมบัติ อีกทั้งได้นำภัตตาหารทิพย์เป็นข้าวเลิศรส มาถวายพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๙๐๐ รูป

พญาศุรมงคลนาคราช นั้นได้นำทิพย์อาภรณ์เป็นที่รองพระบาท และทิพย์อาภรณ์สำหรับเช็ดพระบาทพระปัจเจกพุทธเจ้า และภัตตาหารทิพย์เพื่อถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า ๙๐๐ รูป

ส่วนพญาศรีสรรเพชรนั้น ได้นำเครื่องบริวารอื่น ๆ พร้อมภัตตาหารทิพย์ ถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๙๐๐ รูปเช่นกัน

เมื่อกษัตริย์ทั้ง ๙ เมืองได้มาพร้อมเพรียงกันแล้ว ก็ปรากฏแผ่นน้ำแยกออกเป็น ๒ ฝั่ง เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายลอยมาแต่ไกล ค่อย ๆ ชัดเจน และปรากฏอยู่ตรงหน้า

พญาศุรมงคลนาคราช และบริวารได้นำทิพย์อาภรณ์เช็ดพระบาทพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๙๐๐ รูป จากนั้นพญาศิรสีห์นาคราชได้นำเครื่องยานอันเป็นทิพย์มารอรับ พญาศุรปัตต์นาคราชได้นำผ้าแพรแก้วถวายเพื่อให้เป็นผ้าเช็ดหน้าแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า

พระนางมันทรี และเหล่านาคีทั้งหลายได้นำกลีบดอกบัวชมพู และของหอม โปรยระหว่างทางที่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายเสด็จไปยังเสนาสนะอันเป็นที่ประทับ และถวายภัตตาหาร

เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายได้รับการถวายภัตตาหาร และเครื่องไทยทานจากกษัตริย์ทั้ง ๙ เมืองแล้ว พระอังคสุคตปัจเจกพุทธเจ้า ทรงโมทนาสาธุการ และได้ทรงเทศนาผลของการถวายทาน ส่งผลให้เคลื่อนภพได้ และไปเกิดในสุคติภูมิ
ส่งผลให้พญาโภคนวบดี พระนางมันทรี พญาสุทธิตาปะ พระนางจามปาวดี และบริวาร จุติทันที พญาโภคนวบดี และพระนางมันทรีนั้นจุติบนสวรรค์ชั้นดุสิต อยู่วิมานคนละที่ ส่วนพญาสุทธิตาปะ พระนางจามปาวดี และบริวาร จุติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานอยู่ใกล้เคียงกัน ต่างก็ปิติยินดีในบุญกุศลที่ตนได้ทำ

ส่วนพญาโภคบดีพงศา และกษัตริย์อีก ๙ เมือง ก็ได้อยู่ถวายทานจนครบกำหนด ๗ วัน จากนั้นก็ตั้งตนอยู่ในศีล ๕ ตามที่พระปัจเจกพุทธเจ้าได้สอนไว้

สำหรับประวัติของกษัตริย์แต่ละเมือง ขออนุญาตนำเสนอตอนต่อไป ในประวัติดวงแก้วอื่น ๆ ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

ขอเฉลยท่านผู้เกี่ยวข้องกับประวัติดวงแก้วโภคนวบดินทร์ค่ะ..

​

๑. พญาศุรปัตต์นาคราช คือ ท่าน Ricky
๒.พญาศุรมงคลนาคราช คือ เจ้าของดวงแก้วนวมินทร์สิทธิมงคล –น้องเทวบุตร2532 เกิดเป็นพระโอรสของท่านชาตินั้น

๓.พญาโยชนนาคราช คือ พระอาจารย์ขันธ์

๔.พญาชารวางค์นาคราช คือ คุณ mooom

๕ พญาศิรสีห์นาคราช คือ คุณ prapaanpong

๖. พญาปชารัตนบดีนาคราช คือ คุณ BOROUGE3

ส่วนพญาอัศดงนาคราช และพญาศรีสรรเพชรนาคราช ขณะนี้ได้เคลื่อนภพเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช สายนาค แต่ยังทำหน้าที่รักษาทรัพย์แผ่นดินอยู่

และพญาโภคนวบดี คือ พระอุศรวงศ์โพธิสัตว์ ผู้ดูแลดวงแก้วนั่นเอง ปัจจุบันท่านอยู่สวรรค์ชั้นดุสิตค่ะ

สำหรับคุณมีนัมนั้น ท่านบอกว่าเคยเกิดเป็นพระโอรสของท่านในสมัยเป็นมนุษย์ ก่อนชาตินั้นไป 2-3 ชาติค่ะ

สำหรับท่าน widya และคุณ am12 ยังอยู่สวรรค์ชั้นดุสิตไม่ลงมาเกิดค่ะ จากชาตินั้น คุณ am12 ลงมาเกิดเป็นมนุษย์นามว่า ศิลปัตรมานพ เป็นบุตรเศรษฐี

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

ได้ยินแล้ว รู้สึกเป็นปลื้มมาก ผมมีโอกาสได้ร่วมทำบุญกับหลวงพ่อ วัดท่าขนุน บ่อยครั้งมากและครั้งนี้ผมและคุณแม่ก็ได้มีโอกาสร่วมบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐมกับหลวงพ่อด้วยเช่นกัน และที่พิเศษผมได้น้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐมกับหลวงพ่อท่าน เพื่อให้ประดิษฐานในองค์พระด้วย ขอน้อมนำบุญนี้มาฝากกับทุกท่านด้วย

ปล. วันนี้หลังจากสวดมนต์ ไหว้พระ ผมได้น้อมอุทิศถวายบุญในครั้งนี้ (ร่วมบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม) พร้อมทั้งผลบุญทั้งหมดที่ผมได้ปฏิบัติมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันให้กับท่านอนัตตกะเทวบุตร เทวดาต่างจักรวาลที่พี่น้ำกล่าวถึงและเทวดาทั้งหมดที่สงเคราะห์พี่น้ำอยู่ หวังว่าทุกท่านคงได้รับ ฝากขอโทษท่านด้วยผลบุญที่ให้อาจจะไม่ประณีตนัก

 

สาธุ ๆ ขออนุโมทนาบุญกับคุณ ta2498 ด้วยน่ะครับ ^^

 

กราบมนัสการพระคุณเจ้า Ricky และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

 

ขอแสดงความยินดีกับท่าน Ricky และอนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ

 

สาธุ ขอน้อมโมทนาด้วยคนเจ้าค่ะ

 

นำภาพสมเด็จองค์ปฐมฯ ประดิษฐาน ณ วัดท่าขนุนมาฝากค่ะ
เครดิตภาพจากเว็บวัดท่าขนุนนะคะ
ปล. รูปถ่ายในวันลอยกระทงที่ผ่านมา