ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในมือหมอสุวิ มีภาพต้นหญ้าเกล็ดหอย พร้อมชื่อวิทยาศาตร์ ๕ ตัวแล้ว
แต่ตรวจพลังยาแล้ว

โหล่เท้ย ! เทียบไม่ได้กับต้นที่ขอพลังยาจากพิษณุโลก เลย

สรุปยังต้องล่ากันต่อปาย
เอ้า...หาแหหาอวนมา
ไปไล่จับปลาหมอนากัน
เอ้าเฮ....

วิชาของหอมอินเทวดา นี่ดีเนาะ
ไม่ต้องเข้า Labs เทสกันอุตลุด แบบเภสัชแผนปัจจุบัน
ใช้นึกๆเอาก็รู้แฮะ ...ว่าใช่ตัวจริงเสียงจริงหรือเปล่า
ดีวุ้ย
แล้วใครจะเชื่อเนี่ย

 

ฮิฮิ...จาเปนนน สาวววสองพันปีนะ

ก่อนเป็นนะ ช่วยไปถกเขมร เตรียมลงท้องนาไล่จับปลาหมอนา กับสุวิก่อนนะ
จาเอาเหงือกมัน
ก็ต้องหาตัวมันให้เจอก่อนซิ

 

ได้ลองเข้าไปค้นดูในกูเกิล ในชื่อ เกล็ดปลาหมอ
ตายละวา คนละเรื่องคนละราวกันเลย

ลองจับพลังยาดู ในสูตรยากันยุงกัด(ฟ้าทะลายโจร บอรเพ็ดตัวผู้ ต้นนมแมว เกล็ดปลาหมอ)
โดยใช้เกล็ดปลาหมอ ทุกตัวที่พบในกูเกิล เข้าแทนตัวยา เกล็ดปลาหมอในสูตรยา (ใช้แทนเข้าไปทีละตัว)
ปรากฎว่า ล้วนใช้ไม่ได้ทั้งสิ้น

แต่หากเป็นเกล็ดปลาหมอที่หมายถึงเหงือกปลาหมอนา
ยาสูตรนี้จะใช้ได้ตามที่กล่าวจริง คือกันยุงกัดและยังแก้โรคไข้ป่า(ไข้จับสั่นได้อีกด้วย)

โอ้ย!..เหนื่อยวุ้ย เล่นตั้งชื่อต้นไม้กันแบบนี้

 

ผมพบเว็บที่กล่าวถึงเหงือกปลาหมอนาไว้ จากต้นเรื่องเดียวกันเลยครับ ไม่รู้ว่าจะใช่ตามที่เขาคาดไว้หรือเปล่าครับ
thaiforestherbs: เหงือกปลาหมอนากับการวิเคราะห์ของหมอพื้นบ้าน

 

ผมได้ตามลิ้งที่ให้มา เข้าไปดูแล้ว
ข้อมูลเป็นตัวเดียวกัน

แต่ต้นที่เขาเอามาให้ดู พลังยาใกล้กัน แต่ขอยังไม่ระบุว่าใช่หรืไม่


ส่วนคำอธิบาย (ขอcopy มาก็แล้วกัน)

ในส่วนของชื่อ หญ้าเกล็ดปลา รวมทั้งชื่อวิทยาศาสตร์
ทดสอบแล้ว ยืนยันเลยว่า ไม่ใช่ หญ้าเกล็ดหอย ที่เราตามหากันแน่นอน​

ส่วนคำอธิบาย ลักษณะต้น (เราเอาจิตเข้าจับ และตัดชื่อที่กำกับด้านบนออก เหลือเพียงลักษณะของต้นเท่านั้น)
พลังยาก็คล้ายกับเหงือกปลาหมอนาที่เราตามหากันมาก
(อิฮิ ...ถูกตัดต่อเอาด้วยความเข้าใจผิดเป่าหว่า)​

และเมื่อคืนนี้ ได้เซอร์ดูในกูเกิลและ เวปต่างๆ​

สนใจหญ้าเกล็ดหอยอยู่ตัวหนึ่ง[มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hydrocotyle sibthorpioides Lamk.(UMBELLIFERAE)]​

ทั้งชื่อและลักษณะต้น พลังยาแทบจะกล่าวได้ว่า ทับกันสนิท กับเหงือกปลาหมอนา (ของทดสอบลึกๆอีกสักหลายๆครั้งก่อน จึงจะยืนยัน) ​

ก็เขาสอนมาให้ทดสอบแล้วทดสอบอีก ในทุกแง่ทุกมุม สิ้นความสงสัยแล้วให้วางอุเบกขาเสีย-แนะยังไม่ยอมให้เชื่ออีก​

ชื่อพื้นเมือง :หญ้าเกล็ดหอย (ภาคกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ :Hydrocotyle sibthorpioides Lamk.
ชื่อวงศ์ : APIACEAE (UMBELLIFERAE)
ชื่อสามัญ : -
ลักษณะ :ไม้ล้มลุกทอดขนานกับพื้นดินแตกแขนงมาก
มีรากตามข้อ ยาว 10-50 ซม.ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับรูปไต หรือค่อนข้างกลม
ขอบหยักมนตื้นๆ 5-7 หยัก แต่บางครั้งถึง 9 หยักเส้นใบออกจากโคนใบ จำนวนเท่ากับหยักของแต่ละใบ
ช่อดอกแบบช่อซี่ร่มเป็นกระจุกแน่น ช่อละ 3-10 ดอก ออกตามง่ามใบ
ดอกสีเขียวอ่อน เล็กมาก กลีบดอก 5 กลีบเกสรเพศผู้ 5 อัน รังไข่มี 2 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 1 เม็ด
ยอดเกสรเพศเมียมี 2 อันผลกลมแบน เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-2 มม.
เมล็ดเล็กมาก​

ใครสามารถหารูปของเจ้าต้นนี้ได้ชัดๆ ขอดูหน่อยก๊าบบบ<O</O​

 

มีผู้ต้องการรายการยา ที่หมอสุวิทำ
จึงขอเอามาแปะไว้ในที่นี้
รายการยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร ยังต้องแก้ไขอีก

 

แก้ไขเพิ่มเติมหลังจาก POST ถาม อ.suwi ตอนนี้หายไปเยอะแล้วครับ สงสัยจะกลัว อ.suwi
ครั้งก่อนปวดคอ พอ post ถามก็หายเหมือนกัน ขอบคุณครับ
............................
มีเรื่องมารบกวน อ.suwi อีกแล้วครับ
เมื่อก่อนนั่งสมาธิหลังอาบน้ำจะคัน+จักจี้ในหู ความคิดส่วนตัวคิดว่าตอนนั่งสมาธิขนหูจากที่มันนอนราบเพราะชื้นติดขี้หู..แล้วขนในหูคงลุกชันขึ้นตอนนั่งสมาธิเลยทำให้คัน+จักจี้ เลยเปลี่ยนเวลาที่นั่งอาการนี้ก็หายไป
แต่ช่วงประมาณปลายเดือนสค.ที่ผ่านมา นั่งสมาธิแล้วจะได้ยินเสียงวี้ๆในหูเหมือนเสียงลมเสียงแมลงในป่าแข่งกันส่งเสียงครับ ช่วง4-5วันแรกได้ยินเฉพาะตอนนั่งสมาธิเท่านั้น
พอช่วง1อาทิตย์ผ่านไปเดินเข้าห้องพระหรือตอนขับรถก็ได้ยินแล้วครับ แล้วจะได้ยินชัดขึ้นเรื่อยๆ
แต่ตั้งแต่วันที่9กย. ที่ผ่านมาจะเริ่มได้ยินเบาๆตลอดทั้งวันเลยครับ ก็ได้แต่ฟังเฉยๆ ไม่ได้รำคาญอะไร... แต่สงสัย...ครับ
เท่าที่สังเกตุตอนนี้ข้างขวาจะดังกว่าข้างซ้าย รบกวนขอคำแนะนำครับ คือมันจะดังขึ้นเรื่อยๆ จนรำคาญหรือเป็นอันตรายอะไรไม๊ครับ

 

ขอสูตรยารักษาโรคสะเก็ดเงินที่ศรีษะครับthaxx

 

ผมเจออีกตัวที่มีชื่อวิทยาศาสตร์คล้ายกันมาก Hydrocotyle sibthorpioides Lam.
อาจเป็นตัวเดียวกันหรือเป็นญาติสนิทกันก็ได้ รูปร่างหน้าตาก็คงคล้ายๆกันมั้งครับ เป็นพันธุ์พืชที่อินโดนีเซียครับ ดูที่นี่ครับ อยู่ช่วงกลางๆหน้า สังเกตที่ชื่อวิทยาศาสตร์นะครับ

ANEKAPLANTASIA.cybermediaclips

อีกรูปหนึ่งต้นเดียวกันครับ มีข้อมูลเพิ่มเติมอีก
http://www.iptek.net.id/ind/pd_tanobat/view.php?mnu=2&id=57

 

จากลิ้งที่ 2 ผมค้นโดยใช้ชื่อท้องถิ่นจากกูเกิลว่า Semanggi Gunung จะขึ้นเป็นรายการแรกเลย แล้วให้โปรแกรมกูเกิลช่วยแปลหน้านี้จากภาษาอินโดนีเซียเป็นภาษาไทย
เลือกที่ลิ้งแปลหน้านี้ต่อจากหัวเรื่อง จะแปลให้อัตโนมัติ เราจะทราบถึงลักษณะและคุณสมบัติทางยาเป็นภาษาไทยครับ

คำแปลจะเพี้ยนๆไปบ้างแต่พออ่านรู้เรื่องครับ
S. ดีซ่าน (ตับอักเสบ) หินดี, หินและติดเชื้อ kencing; Batuk dan sesak nafas, Sariawan, Radang tenggorokan; Amandel, Infeksi telinga tengah; ปัสสาวะ; ไอและความสั้นของหายใจป่วงเจ็บคอ; tonsils, โรคหูกลาง;

องค์ประกอบ:
SIFAT KIMIAWI DAN EFEK FARMAKOLOGIS: Rasa manis sedikit pedas, sejuk. เคมีสมบัติและผลเภสัชวิทยา: หวาน, รสเผ็ดเล็กน้อย, เย็น. Menghilangkan bengkak (anti swelling), anti radang (anti-inflammasi), peluruh air seni, anti biotika, penurun panas, menetralisir racun (detoxificans), peluruh dahak (ekspektoran). KANDUNGAN KIMIA: Mengandung minyak menguap, coumarin, hyperin. ขจัดอาการบวม (anti-บวม) ป้องกัน (ป้องกันการเป็นโรคผื่นคัน-inflammasi) ปัสสาวะ peluruh, ป้องกันไข้ biotika, แก้พิษ (detoxificans) เสมหะ peluruh (expectorant). KANDUNGAN เคมี: มีน้ำมันระเหย, coumarin, hyperin

 

ผมอ่านหนังสือเล่มหนึ่งท่านบอกว่า มียารักษามะเร็งทุกชนิด เป็นสมุนไพรที่ดูเหมือนเป็นไม้ไร้ค่า มีชื่อว่าม่านพระอินทร์ อีกชื่อหนึ่งคือสาบแร้ง พอดีผมค้นเจอต้นที่ว่า มีลักษณะดอกคล้ายๆดอกสาบเสือแต่เป็นสีม่วงอ่อน ใบมีกลิ่นสาบ แต่ในเว็บบางแห่ง ชื่อม่านพระอินทร์กลายเป็นต้นที่เรียกว่าหญ้าหมอน้อย แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ น่าจะเป็นต้นแรกมากกว่า ทีนี้ที่สุพรรณบุรีแถวบ้านภรรยา มีต้นนี้เยอะขึ้นเป็นดงเลย ต้นคล้ายในรูปจากเว็บนี้ครับ
http://www.hilltribe.org/thai/lahu/lahu-herbs.html

ทีนี้อยากทราบว่ามีสรรพคุณรักษามะเร็งทุกประเภทจริงตามที่กล่าวหรือไม่ครับ จะได้เอามาขยายพันธุ์ปลูกที่กรุงเทพฯด้วย เผื่อใครสนใจจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ตอนนี้ในสวนผมต้นผักแครดดอกสีเหลืองเล็กๆขึ้นรกไปหมดแล้ว จะโล๊ะออกไปบ้างครับ ไม่รู้แก้อะไรได้มั่ง 555

 

มีหญ้าเกล็ดหอยอีกลักษณะหนึ่งมาให้ดูครับ มีคนเขาปลูกไว้โพสในช่วงเดือนสิงหา-กันยานี้เอง
http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J8266672/J8266672.html

ภาพนี้มีรูปขนาดใหญ่ให้ดูจากลิ้งอันข้างบน คล้ายพืชตะกูลถั่ว ขนาดเล็ก ต่างจากที่สนใจที่คล้ายกลุ่มใบบัวบกครับ ดูในลิ้งถัดไปน่าจะใช่พันธุ์ที่สนใจครับ
http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J8296541/J8296541.html

อีกอันหนึ่งคล้ายกับหญ้าเกล็ดหอยที่อินโดนีเซีย รูปใหญ่ดีครับ
http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J8225716/J8225716.html

ถ้าเข้าลิ้งที่ 3 ไม่ได้ให้เข้ามาลิ้งนี้ครับ ต้นเดียวกัน
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tummydeday&date=29-06-2009&group=3&gblog=1

 

สาธุ..สาธุ..สาธุ

 

ในลิ้งทั้งหมดที่เอามาให้ดู มีเจ้าต้นนี้น่าสนใจที่สุด
เห็นว่าชื่อหญ้าเกล็ดหอย

ต้นหญ้าเกล็ดหอย หรือเรียกชื่อจีนว่า โพวตี่กิ้ม, เทียงโอ่วซุย (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hydrocotyle sibthorpioides Lam.
ชื่อวงศ์ : UMBELLIFERAE
ลักษณะทั่วไป : ไม้ล้มลุก ขนาดเล็ก ลำต้นมีลักษณะ เป็นเส้นเล็กยาวแผ่สาขา ปกคลุมดินเป็นแผ่น ลำต้นมีข้อจะแตกรากฝอยยึดดิน
ใบ : ใบมีลักษณะขอบใบเป็นหยัก ๆ โค้ง ๆ ค่อนข้างกลม โคนใบเว้าเหากัน เป็นรูปหัวใจ ริมขอบใบมีรอยหยัก 5-7 รอย
พื้นผิวหลังใบเป็นสีเขียวเข้ม เป็นมันเงา ใต้ใบเป็นสีเขียวมีขนสั้นอ่อนนุ่มขึ้นเล็กน้อย ขนาดของใบมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-1.6 ซม. ก้านใบเป็นเส้นบางเล็กยาว ประมาณ 0.5-3 ซม.
ดอก : ดอกออกเป็นช่อ หรือเป็นกระจุกคล้ายร่ม ออกตามบริเวณข้อลำต้น ดอกช่อหนึ่งมีดอกย่อยประมาณ 10-15 ดอก
ลักษณะของดอกมีสีเขียวออกขาว กลีบดอกเป็นรูปกลมรีไม่มีก้านดอก
ผล : ผลมีลักษณะเป็นรูปคล้ายรูปหัวใจ ผลมีขนาดยาวประมาณ 1-1.25 มม. กว้างประมาณ 1.5-2 มม.
ส่วนที่ใช้ : ทั้งลำต้นนำไปล้างให้สะอาด จนรากเป็นสีขาว แล้วนำไปต้มในน้ำเดือดใส่น้ำตาลอ้อยแดงบดละเอียดเล็กน้อยเวลาจะดื่ม (น้ำตาลที่ใส่ในเต้าฮวย)
ขอบอกว่าสูตรนี้ แก้ร้อนใน ป้องกันไข้ในยามอากาศเปลี่ยนฤดูได้
และสรรพคุณอื่น ๆ มากมาย จาก ลำต้น ใช้ลำต้นสด ประมาณ 15-30 กรัม (แห้ง 10-15 กรัม) นำมาต้มเอาน้ำกิน
เป็นยาแก้บวม แก้ไข้ ดีซาน ขับปัสสาวะ เจ็บคอ ต้อตา ตาแดง ตับอักเสบ โรคบิดถ่ายเป็นมูกเลือด ไอกรน นิ่วในไต
หรือคั้นเอาน้ำทาบริเวณที่ผื่นคัน บวม ฟกช้ำจากหกล้ม แผลมีหนองเรื้อรัง หูอักเสบมีหนอง แผลเป็นตุ่มพองรอบเอว


ไอ้เจ้าต้นนี้ตามรูป ได้ทดสอบพลังยาแล้ว ไม่ไช่ไอ้เจ้าหมอนาที่เราตามหากัน
พลังยา สมุนไพรตัวนี้อยู่ก่ำกึ่งระหวาง เหงือกปลาหมอนา กับใบบัวบก
ถ้าจะใช้แทนปลาหมอนา จะได้ในบางอาการเท่านั้น
และถ้าจะใช้แทนใบบัวบก มันแก้ช้ำในได้ดีกว่าใบบัวบกมาก

 

มังกร เอยมังกร หายหน้าไปซะนาน
มาถึงก็สาธุๆ ซะลั่นบ้านเลย

ชาวบ้านเลยรู้กันทั่ว ว่าการเทศธรรมมาสนี้จบแล้ว
ขบวนการตามล่าปลาหมอนาก็คงต้องจบเพียงเท่านี้
เอวัง กิ่ม ๒สลึง ตาเฟื้อง ๑ไพ

 

ฮิฮิ..
งานนี้ อินเนอร์สมาย จามีหูที่สามเป่าหว่า
หรือว่าจาเปนโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
หรือจาเป็นโรคที่เขาว่ามีเสียงรบกวนในหู

ไปหาหมอแผนปัจจุบันเขาก็จะให้ยาละลายลิ่มเลือด เบบี้แอสไพริน ยาลดไขมันในเลือด มากิน อาจแถมยาคลายเคลียดมาอีกตัว

ถ้ามาหาหมอแผนไทย แบบหมอสุวิก็จะได้ยา ปลูกเตโช ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 1 และผลาธิกะ 7 ไปกิน
อาจแถมยาที่แพงๆให้ขลังเข้าไว้ เช่น เห็ดหลินจื้อสกัด ใบแปะก้วยสกัด และน้ำมันปลาโฮเมก้า ๓ อีกตัว

ถ้าไปหาหมอแบบ อ.สามตา ก็จะได้พลังซักล้างกายทิพย์ ปั้งๆๆๆๆ...ปั้ง
แล้วบอกว่า กะลังมีหูที่สามงอกขึ้นมาแล้ว
ให้หัดรดน้ำพรวนดินเข้าไว้ รอมันงอก
แล้วร้องเพลงรอ "มันจะโตมันจะโตๆๆๆๆ"

อ้างอิง:

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นาย เอ
สวัสดีและรบกวน คุณอาสุวิครับ
ไม่ทราบว่าจะยังพอจำผมได้บ้างหรือเปล่า ช่วงนี้ผมค่อนข้างฝึกสมาธิบ่อยๆ รวมต่อวันวันละ ประมาณ 1-3 ชั่วโมง เวลาทำสมาธิก็ ว่าง เบา สบาย ปกติ แต่เวลาที่ไม่ทำสมาธิก็จะปวดหน่วงๆด้านหลังศรีษะ ไม่โล่ง กำหนดจิตก็หายหากเผลอก็จะปวด หน่วงๆ อาจเป็นเพราะเพ่งกำหนดจิตมากไปหรือเปล่า
รบกวนคุณอาช่วยแนะนำวีธีดีๆครับ
ขอบคุณและอนุโมทนาบุญล่วงหน้าครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เรื่องการฝึกใช้ลมปราณ รักษาโรค น่าสนใจค่ะ

ขอไล่อ่านกระทู้นี้ก่อนนะคะ ยังไม่เคยอ่านเลย^^

 

อาการนี้ผมเคยตอบไว้แล้ว จำไม่ได่ว่าอยูตรงใหน
ลองย้อนหลังไปหาดู

มียาต้มชุดหนึ่ง ขจัดกิมิชาติ(ไวรัส)ที่กัดกินภายใน(กินหนึ่ง-สองหม้อ)
และกินยาที่มีส่วนผสมของ ฟ้าทะลายโจร เหงือกปลาหมอ(ทะเล) ผักเสียนผี เป็นยาหลัก
และตัวยาช่วย ใบบัวบก กระชาย น้ำมะนาว หรือน้ำมะกรูด และอ้อยแดง เพื่อลดแผลเป็น ด่างดำ เมื่อแผลที่ตกสะเก็ดหาย


ต้องไปเพชรบูรณ์แล้ว
กลับมา ว่างๆจะช่วยค้นให้
ถ้าเอาง่ายเข้าว่า ก็ซื้อยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 3 ไปกิน

 

ค้นให้ค่ะ
อ้างอิงกระทู้ของ อ.suwi 23-01-2009, 09:21 AM

โรคสะเก็ดเงิน แผนปัจจุบันถึอเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง การรักษาจะเน้นมุ่งกำจัดเชื้อที่ทำให้เกิดโรค
ที่ผิวหนัง และกล่าวกันว่ารักษาไม่หาย จะเพียงค่อยยังชัว ดีขึ้น แล้วกลับเลวลง ทรงๆทรุดๆอยู่เช่นนั้น

แต่ในแผนไทย ถึอว่า โรคนี้มีกิมิชาติ(เชื้อโรค)หลบซ่อนอยู่ในกาย ทีอวัยวะภายใน
เมื่ออยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ย่อมขับถ่ายของเสียออกมา อยู่ในกระแสเลือด และน้ำเหลือง
ของเสียที่เชื้อเหล่านี้ขับออกมา ร่างกายมนุษย์เราจะขับออกมาที่ผิวหนัง
ทำให้ลักษณะของผิวหนังผู้เป็นโรคจะนูนแข็ง แตกเป็นขุย มีน้ำเหลืองไหล
การักษาต้องกินยาเข้าไปไล่เจ้าเชื้อกิมิชาติที่หลบอยู่ภายในให้เหลือน้อยสุด
และให้ยาที่ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทาน สามารถขจัดของเสียที่เจ้ากิมิชาติเหล่านี้
สร้างไว้ในระบบโลหิตและน้ำเหลือง

ยาที่จะใช้มี ๓ ขนาน

ขนานที่ ๑ ยาต้ม ขจัดกิมิชาติภายใน
ตัวยาประกอบด้วย

ตำรับยา
๑. รากชุมเห็ดเทศ หนัก ๕ บาท
๒. รากทองพันชั่ง หนัก ๕ บาท
๓. ขันทองพยาบาท หนัก ๕ บาท
๔. หัวหนอนตายอยาก หนัก ๕ บาท
๕. แก่นปรู หนัก ๕ บาท
๖. ข้าวเย็นเหนือ หนัก ๕ บาท
๗. ข้าวเย็นใต้ หนัก ๕ บาท
๘. กำมะถันเหลืองหนัก๓บาท
๙. ผักเสี้ยนผีหนัก ๓ บาท

วิธีทำกิน(ยาที่ให้ไว้ต้มกินได้ประมาน ๒-๓วัน) ให้กินติดต่อกัน ๑ อาทิตย์ แล้วเว้น ๑ อาทิตย์ อาทิตย์ต่อไป(อาทิตย์ที่ ๓) ต้มกินอีกครั้ง สลับกันไปเช่นนี้
ต้มกินทั้งหมด ประมาณ ๓-๔ ครั้ง(อาทิตย์เว้นอาทิตย์)
ล้างฝุนผง ใส่น้ำท่วมตัวยา ต้ม ๓ เอา ๑ (ใส่น้ำ ๓ ส่วนต้มเหลือ ๑ ส่วน)
กินครั้งละ ๑-๓ ถ้วย ตะไล(ถ้วยชาจีน) ถ่ายมากให้ลดยาลงไม่ถ่ายให้เพิ่มยา
กินวันละ ๓ ครั้ง ก่อนอาหาร

ขนานที่ ๒ ยาชำระน้ำเหลืองแก้ภูมิแพ้
ตัวยาประกอบด้วย
๑. ฟ้าทะลายโจร ๒ ส่วน
๒. เหงือกปลาหมอ ๒ ส่วน
๓. ผักเสียนผึ ๑ ส่วน
๔. ใบบัวบก ๑ ส่วน
๕. กระชาย ๑ ส่วน
๖. ดีปลี ๑ ส่วน
๗. พริกไทยร่อน ๑ ส่วน

วิธีทำกิน ตากแห้งบดผง ผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเม็ดในมะยม
กินครั้งละ ๕-๗ เม็ด วันละ ๔ ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน
กินทุกวัน

ขนานที่ ๓ เป็นยาประสะผิวชำระโรคที่ผิวหนัง
ยาประกอบด้วย
๑ น้ำมัมะพร้าว (เวอร์จิ้นออย) ๑ ขวดเล็ก ๒๐๐ ซีซี
๒.ข่าแก่
๓.กระเทียมไทย
๔.ขมิ้นชัน

วิธีทำ ยา ในข้อ ๒ ๓ ๔ เท่าๆกัน พอประมาณ ทุบให้แตก ต้มในน้ำมันมะพราวในข้อ ๑ ด้วยไฟอ่อนมากๆ (ใช้เทียนต้ม)
กะพอให้ตัวยาละลายออกมามากพอควร(สัก ๑/๒-๑ ชัวโมง)
กรองเอาน้ำมันใสๆไว้
ทาบ่อยๆที่ผื่นตามตัว ขุยสะเก็ดแข็งจะค่อยๆล่อนออกมา

 

อาจารย์คะ...ได้งัยคะ แนนยังไม่รู้เลยว่า จะหาซื้อเหงือกปลาหมอได้ที่ไหน...

คุณมังกร น๊า คุณมังกร.....







............................................................................................
"ขอเชิญร่วมบุญกฐินครูบาคำเป็ง
และขอเชิญร่วมเดินทางไปถวายกฐินวันที่ 1/11/2009
คลิกดูรายละเอียดที่กระทู้นี้ คลิก