ปรียนันท์ธรรมสถาน เพื่อปฏิบัติและหลบภัย

วันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค. 53 นี้

มีผู้ร่วมเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ปรียนันท์เพียง 1 คันนะครับ

โมทนา

 

ทริปนี้คุณ Namsai มอบแก้วจุลจักรพรรดิ์ให้ร่วมจับรางวัลเพิ่ม 1 รางวัลครับ

และคนที่ได้รับlสมเด็จองค์ปฐมแก้วใส ประดับเพชร พร้อมครอบแก้วที่
คุณ prapang มอบให้ก็ คือ คุณ Namsai นั่นเอง

ส่วนฉลากใบสุดท้ายที่เหลือในมือพี่คลิก เป็นของ Komodo
ซึ่งเปิดออกมาก็ได้รับ แก้วจุลจักรพรรดิ์ นั่นเอง หุหุ

โมทนาครับ

 

ทริปประจำเดือนสิงหาคม จัดวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม 53 ครับ
โดยจัดรถตู้ปรับอากาศ 2 คันเช่นเดิมครับ

ตอนนี้มีผู้จองทริปแล้ว 10 ที่ครับ

โมทนา

http://palungjit.org/posts/3542023

 

เมื่อวันที่ ๑๑ ก.ค. ๕๓ ผมจัดทริปไปวัดท่าซุงและบ้านสบายใจ โดยมีรายละเอียดการร่วมบุญ และขอแจ้งให้ทุกท่านได้ร่วมโมทนาบุญกันครับ

ก่อนเดินทางมีผู้ที่ไม่สามารถร่วมเดินทาง ๘ ราย ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเจอกรณีนี้มาก่อน แต่รถที่จัดก็ยังคงเป็น ๒ คันเหมือนเดิม และเจ้าของรถได้ลดราคาให้คันละ ๑,๐๐๐ บาท (ต้องขอโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้ด้วย)

ในการทำบุญครั้งนี้ ผมตั้งใจนำสมเด็จเงินไหลมาทองคำ ที่ทุกท่านได้ร่วมบุญในกองบุญทองคำกองแรกไปถวาย และตั้งใจนำสมเด็จเงินไหลมาทองคำ ๙ นิ้ว ซึ่งตั้งใจบูชาไปถวาย "สมเด็จเงินไหลมาทองคำ" ที่จัดสร้างในครั้งนี้ เป็นเงินจากการร่วมบุญของพวกเรา ซึ่งพระอาจารย์เล็กท่านได้กล่าวก่อนวันสืบชะตา ๑ วัน ว่า "ชอบมาก และเป็นของขวัญวันเกิดที่ถูกใจมาก" และในวันอาทิตย์ที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมาก็เป็นวันเกิดท่านจิตโต หรือ หลวงพี่สมปอง ซึ่งก็ถือโอกาสนี้ในการถวายท่านเช่นกัน และต้องขอโมทนาบุญกับผู้ที่นำไปถวายด้วยครับ

สำหรับรายละเอียดกิจกรรมทริปนี้

ช่วงเช้า

ผมได้กราบเรียนท่านจิตโตถึงกองบุญทองคำ และได้เรียนท่านว่า ลูกหลานจากเว็บพลังจิตและเว็บวัดท่าขนุน รวมทั้งเว็บอื่น ๆ ได้ร่วมบุญกัน
สร้างสมเด็จเงินไหลมาทองคำ ถวาย ๗ บูรพาจารย์ โดยผมได้ถวายสมเด็จเงินไหลมา ๙ นิ้ว ซึ่งหลวงพี่โรจน์สร้างขึ้น
ให้แก่ท่านจิตโต พร้อมด้วยอาสนะสงฆ์ ๑ ผืน ธูปและเทียน ๑ คู่ รวมทั้งแผ่นทองคำเปลว ๑๐๐ % จำนวน ๑,๐๐๐ แผ่น (จากกองบุญนี้) พร้อมปัจจัยจำนวนหนึ่ง
โดยท่านจิตโตได้เมตตาให้พรมาว่า "ขอให้อานิสงส์ที่ทุกท่านร่วมถวายพระพุทธปฏิมากรและของบริวารแก่พระศาสนา
ขอให้ทุกท่านได้ถึงซึ่งความปรารถนาจนกว่าจะตราบท้าวเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน"
จากนั้นท่านบอกว่า "ทองคำเปลว ๑,๐๐๐ แผ่นนี้ อาตมาจะนำไปปิดทองพระชำระหนี้สงฆ์ จำนวน ๑๙ องค์"


(ผมคิดในใจ)

เนื่องจากทริปนี้มีผู้ยกเลิกการเดินทางหลายท่าน แต่ก็ยังมีเงินค่ารถเพียงพอ
(แต่ไม่พอค่าสังฆทานชุดใหญ่ และถวายโต๊ะหมู่ ชุด ๓,๐๐๐ บาท แด่สมเด็จองค์ปฐมได้)
ซึ่งตอนแรก ผมตัดสินใจจัดรถเพียง ๑ คัน แต่สุดท้ายก็จัด ๒ คัน เพื่อให้ทุกท่านนั่งสบาย
และได้แจ้งให้คนตกงาน หรือ ไม่มีเงิน ให้ร่วมเดินทาง "ฟรี" และคิดว่า บางคนอาจขอติดรถกลับจากวัดท่าซุงมากรุงเทพ ฯ
แต่ในใจก็ยังคิดว่า "น่าจะจัดแค่คันเดียว เพราะจะมีเงินไปทำอย่างอื่นได้อีก เพราะจัด ๑ คัน มีกำไร แต่จัด ๒ คัน จะขาดทุนนิด ๆ)

ท่านจิตโต (ท่านรู้วาระจิตของผม) ท่านเลยเมตตาสั่งสอน หลายเรื่อง

เรื่องแรก ผมคิดว่า ท่านเมตตาสอนผมตรง ๆ แม้จะไม่ได้ระบุชื่อก็ตาม ท่านสอนว่า ในการทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา ให้มองว่า "การขาดทุน คือ กำไร" และท่านได้เมตตาสอนว่า "หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ" ของเรา ได้เมตตาแสดงให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว ในการที่ท่านเดินทางไปสอนมโนมยิทธิในต่างประเทศ และเสียค่าใช้จ่ายเป็นล้าน แต่ก็ถือว่า "คุ้ม" ถ้ามีสัก ๑ คนได้รู้จักพระนิพพาน ซึ่งผมขอกราบนำแนวทางที่ท่านจิตโตได้เมตตาตักเตือนไปปรับใช้ต่อไป

เรื่องที่สอง ท่านสอนคนทั่วไปที่บอกบุญ หรือ เป็นต้นบุญว่า "การบอกบุญเป็นเรื่องที่ดี แต่ให้ระวังเรื่องอย่าทำตัวเด่น" โดยท่านเมตตาสอนว่า กำลังใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้น ย่อมมีคนที่อาจมองคนที่เด่นว่า ไม่ดี ซึ่งท่านก็หัวเราะและบอกว่า "โชคดี อาตมาไม่ชอบเด่น"

เรื่องที่สาม ท่านพูดถึงเว็บพลังจิตและเว็บพระศาสนาอื่น ๆ ว่า เป็นเรื่องดีที่มีเว็บเหล่านี้มาช่วยในการเผยแพร่ศาสนา แต่เว็บก็ต้องช่วยกรองหลักคำสอนที่ถูกต้องด้วย โดยเฉพาะการนำคำสอนแบบ "ย่อ" มาเผยแพร่นั้น บางคนอ่านแล้วอาจจะไม่เข้าใจ และตีความผิดได้ ดังนั้นควรนำเสนอ "สาระ" หรือ "หลักธรรม" ที่มากพอที่คนอ่านแล้วจะเข้าใจได้ โดยท่านเมตตาให้ข้อสังเกตมาว่า

"คนที่ฟังผ่านเว็บ แม้จะมีความสะดวก แต่ปัญหาคือ ไม่มีโอกาสใกล้ชิดครูบาอาจารย์ ดังนั้นจึงไม่มีใครช่วยชี้แนะและสอนสั่ง ซึ่งบางครั้งอาจมีการตีความคำสอนผิด และปฏิบัติแบบผิด ๆ ได้" ดังนั้น ท่านจึงขอโมทนากับผู้ที่จัดรถหรือจัดทริปในการนำคนไปฟังธรรมกับครูบาอาจารย์ต่าง ๆ ด้วย โดยท่านยกตัวอย่างว่า "คนโบราณดั้นด้นมาไกลเพื่อฟังธรรม ดังนั้นความตั้งใจในการฟังธรรมจึงสูงมากและมักจะนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง แต่คนปัจจุบันมักมองว่า คำสอนหาง่าย จึงไม่ค่อยสนใจเท่าที่ควร ดังนั้นคนที่ใกล้ชิดกับครูบาอาจารย์จึงมีโอกาสที่จะก้าวหน้าในการปฏิบัติมากกว่า"

สิ่งที่น่าสนใจ คือ ทริปที่ไป ไม่ทราบมาก่อนว่า จะมีบุญพิเศษอื่น ๆ เช่น

๑. มีการจัดทำพานธูปเทียนแพมากราบขอขมาท่านจิตโต
๒. มีการจัดผ้าป่ามาถวาย ๒ กอง (เช้า ๑ กอง บ่าย ๑ กอง)
ซึ่งท่านจิตโตจะนำปัจจัยทั้งหมดไปบูรณะวัดแห่งหนึ่ง (ผมจำชื่อไม่ได้)

เรื่องที่ท่านจิตโต (คิดในใจ) แต่ท่านบอกว่า "ท่านคิดดังไปหน่อย (ท่านเลยเล่าให้ผู้ที่ไปบ้านสบายใจฟัง)" ว่า

ท่านจะทำซุ้มหลังคาให้พระพุทธรูป (ผมจะชื่อไม่ได้) ที่วัดพระธาตุดอยตุง และจะทำให้ "ในหลวงโดยเฉพาะ" ซึ่งท่านเน้นว่า
"ท่านจะขอให้เรื่องต่าง ๆ ที่ไม่ดีเกี่ยวกับในหลวงให้มลายหายไป และขอให้จบทุกอย่างที่นี่" ซึ่งมีคนถามว่า "แล้วในหลวงจะดีขึ้นหรือไม่" โดยท่านจิตโตเมตตาตอบว่า "จะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวท่าน (ในหลวง) และท่านไม่อยู่ในสถานะที่พวกเราต้องเป็นห่วง ในหลวงท่านดีกว่าเราเยอะ และเราควรจะห่วงตนเองก่อน (ความหมาย คือ ทำตัวเองให้ดี อย่าสร้างภาระให้ท่าน) เพราะถ้าท่านตัดสินใจจะทำอะไรแล้วจะต้องสำเร็จ โดยบุคคลที่พูดแล้วจะต้องเป็นจริงเสมอ คือ พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญในระดับปรมัตถบารมี"

ช่วงบ่าย

มีบุญพิเศษในการสร้างวิหารทาน โดยพี่ที่บ้านสบายใจที่ขอกลับด้วย ได้แนะนำให้ไปกราบหลวงพี่จำเนียร
ซึ่งท่านอยู่ที่ป่าหลังวัด (ปกติห้ามคนนอกเข้า) ซึ่งในวันนี้มีคนนำกุฏิมาถวาย จึงอนุญาตให้เข้าไปร่วมถวายได้
โดยผมเพิ่งทราบมาว่า พระชำระหนี้สงฆ์ของวัดท่าซุงมีจำนวนมากจริง ๆ เพราะตลอดแนวที่รถวิ่งเข้าไปนั้น
มีพระชำระหนี้สงฆ์เป็นแนวยาว และนึกถึงคำสอนของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำว่า "อาตมาจะไม่ให้พระตากแดด"

ในการถวายวิหารทานกับหลวงพี่จำเนียรนั้น ท่านได้เมตตาสอน ๓ เรื่อง

๑. เรื่องบางเรื่อง ต้องรอ "เวลาที่เหมาะสม" จึงจะทำได้สำเร็จ ถ้ายังไม่ถึงเวลา ก็จะทำไม่ได้ เช่น ปลูกต้นไม้ เราคงไม่สามารถใส่ปุ๋ยให้โตในวันนี้ได้ แต่เราต้องหมั่นเพียรดูแลต้นไม้ไปเรื่อย ๆ เป็นต้น ซึ่งท่านโยงไปเรื่องที่ ๒ คือ

๒. เรื่องบารมี ๑๐ ท่านสอนว่า เราต้องทบทวนบารมี ๑๐ ของเราอยู่เสมอว่า ด้านใดพร่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไข เพราะถ้าเรามีบารมี ๑ หรือ ๒ ด้านมากเกินไป แต่ด้านอื่นพร่องก็อาจจะยังไม่สามารถนำมาใช้ได้ ดังนั้น เราต้องเริ่มปฏิบัติ โดยอาจจะเริ่มจาก "สัจจะบารมี" ซึ่งถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรแล้ว เราก็ต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งจะโยงถึงบารมีตัวอื่น ๆ ด้วย และจะเป็นห่วงโซ่ในการใช้งาน โดยท่านบอกว่า ห่วง ๑ ห่วง อาจใช้งานไม่ได้ หรือ ใช้งานได้น้อย แต่ถ้าเอาห่วงมาร้อยเป็นเส้น ก็สามารถใช้งานได้หลากหลาย

๓. ท่านสอนให้ "รักษากำลังใจ" โดยท่านยกตัวอย่างสมัยที่ท่านมาบวชว่า ท่านตั้งใจจะมาสะเดาะเคราะห์กับหลวงพ่อฤๅษี เพราะมีเรื่องไม่สบายใจหลายเรื่อง และสุดท้ายท่านก็บวช ซึ่งท่านบอกว่า ต้องขอบคุณคนรอบข้างที่ช่วยให้ท่านได้บวช หรือกรณีที่ท่านต้องออกจากวัด ท่านก็บอกว่า ต้องขอบคุณที่ช่วยให้ท่านได้ไปทำกิจทางศาสนาที่มีความคล่องตัว

ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ท่านสอนพวกเราว่า ต้องรักษากำลังใจให้ดี โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของการเป็นมนุษย์มีความซับซ้อนมาก บางครั้งชาติที่แล้วเคยเป็นพ่อแม่กันมาก่อน ชาตินี้มาเป็นสามีภรรยาหรือพี่น้องกัน เป็นต้น ซึ่งพวกเราก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดกันหลายชาติกว่าที่จะออกจากวัฎจักรนี้ได้
สุดท้ายท่านได้บอกว่า ท่านจะไปบูรณะพระพุทธบาท ๔ รอย (พระบาทข้างซ้าย) ซึ่งคณะที่ร่วมทริปได้ขออนุญาตร่วมบุญกับท่าน

ช่วงเย็น

ได้พาคณะไปที่ปรียนันท์ธรรมสถาน เพื่อกราบพระและไปนมัสการพระธาตุบนยอดเขา ซึ่งพระอาจารย์เล็กได้เมตตามาบรรจุให้
จากนั้น "พี่คลิก" ได้แนะนำการปฏิบัติกรรมฐานให้ผู้ร่วมทริป (บางราย) ซึ่งถือเป็นวาระที่ต้องเกื้อกูลกัน
โมทนาครับ

หมายเหตุ : รายละเอียดทั้งหมดนั้น ผมสรุปจากความจำมา ซึ่งอาจจะไม่ตรงตามคำพูดของพระอาจารย์แต่ละท่าน
แต่ที่ต้องใส่เครื่องหมายคำพูด เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ดังนั้นความบกพร่องใด ๆ ที่เกิดขึ้น ผมกราบขออภัยและขอขมา
ทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ รวมทั้งขอความกรุณาอย่านำโพสต์นี้ไปอ้างอิงที่ใดครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE id=post3532761 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>12-07-2010, 08:16 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #52 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Numsai<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3532761", true); </SCRIPT>
ทีมงานเว็บพลังจิต (น้ำใส)



วันที่สมัคร: Jun 2007
ข้อความ: 1,232
Groans: 16
Groaned at 4 Times in 4 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 12,012
ได้รับอนุโมทนา 12,362 ครั้ง ใน 1,159 โพส
พลังการให้คะแนน: 638


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3532761 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->..ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ร่วมเดินทางทุก ๆ ท่านค่ะ...<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->เริ่มออกเดินทางจากจุดนัดพบเวลาตีห้ากว่า ๆ ไปถึงบ้านสบายใจเวลา ๐๘.๐๓ น. ได้ร่วมถวายหลวงพ่อเงินทองมาปิดทอง ๙ นิ้ว ถวายลูกแก้วจุลจักรพรรดิขนาด ~ ๒ กก. อาสนะ และเครื่องบริวาร ถวายท่านพระอาจารย์สมปอง (บ้านสบายใจ) ค่ะ ได้ฟังธรรมะของท่านเรื่อง "อกายโน-ทางเดินของบุคคลผู้เดียว" ทำให้เข้าใจว่า เพราะเหตุใดหลวงพ่อฤาษีฯ จึงสอนว่า "ไม่ให้สอนใจจริยาของผู้อื่น" ขอนำรายละเอียดมาเล่าให้ฟังในภายหลังนะคะ

จากนั้นก็ไปกราบสมเด็จองค์ปฐม กราบหลวงพ่อเงินไหลมา (พระพุทธรูป ๓๐ ศอก) กราบพระพุทธชินราช ที่วิหาร ๑๐๐ เมตร และกราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่วิหาร ๑๐๐ เมตร กราบพระองค์ที่ ๑๐ และ พระองค์ที่ ๑๑ วิหารท่านท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ ณ.วัดท่าซุง

ช่วงบ่าย บางท่านก็ฝึกมโน ฯ ที่วิหาร ๑๐๐ เมตร ส่วนดิฉันกลับไปนั่งสมาธิที่บ้านสบายใจ แล้วก็หลับ ครอกฟี๊ อิอิ..

ตื่นขึ้นมา พวกเราก็เดินทางในป่า ที่แรกก็งง ๆ ว่า คุณคมน์พาเราไปไหนกันนี่ ไปแบบงง ๆ สุดท้าย เมื่อถึงสถานที่นั้น เห็นหลวงพ่อองค์หนึ่ง ท่านนั่งบนเก้าอี้ ผิวพรรณวรรณผ่องใสมาก พวกเราเข้าไปกราบ และได้มีโอกาสได้ร่วมบุญกับท่าน

หลวงพ่อ ท่านถือธุดงค์วัตร หลายปี เพิ่งออกจากป่า นอกจากนี้ยังได้ร่วมบุญบูรณะพระพุทธบาท ๔ รอยกับท่าน เป็นบุญที่ไม่ได้ตั้งใจไปทำ หลวงพ่อท่านเทศน์ให้ฟังว่า...

"วันนี้เป็นวันดี พวกเราได้มาร่วมสร้างวิหารทาน เป็นบุญที่ไม่ได้ตั้งใจมาก่อน อานิสงส์นี้จะทำให้เป็นผู้มีโชคลาภ และสำหรับการสร้างวิหารทานนั้น ผู้สร้างเกิดมาชาติใดจะเป็นผู้มีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตนเอง เช่น ได้บ้านเป็นของตนเอง หรือหายตายไปจากชาตินี้ ก็จะเกิดมารวย มีบ้าน มีที่ดินเป็นของตนเอง"

หลวงพ่อได้กล่าวถึง "การสั่งสมบารมีทั้ง ๑๐ ทัศน์ การจะทำให้บารมีเต็มเร็วนั้น เราต้องสำรวจว่า บารมีข้อไหนเราพร่องอยู่ให้เข้างวดในข้อนั้น เมื่อเราได้ ๑ ข้อ บารมีข้ออื่น ๆ จะตามมา ให้เร่งเอานะเวลาไม่คอยท่า"

แล้วท่านก็พูดต่อไปว่า "การเป็นผู้ทรงฌาณอยู่เสมอ อย่างนี้ดีมาก ตายไปอย่างน้อยก็เกิดเป็นพรหม หากยังไม่เข้าพระนิพพานเกิดมาชาติหน้าก็เป็นผู้มีปัญญาสูง ทรงฌาณอย่างนี้ดีแล้ว ทำต่อไปนะ"

(ท่านคงหมายถึง บุคคลผู้ทรงฌาณยังไม่ปรารถนาที่จะเข้าพระนิพพาน)

สุดท้ายไปปรียานันท์ธรรมสถานได้สนทนาธรรมกับท่านผู้ทรงภูมิสูงท่านหนึ่ง ได้แนะนำเกี่ยวกับการทรงอานาปานสติ ได้ตอบข้อสงสัยหลาย ๆ ประการแก่เพื่อนสมาชิกที่ได้ไปเยี่ยมเยียนค่ะ

และขออนุญาตนำภาพพระแก้วใสที่ได้รับมาให้ชมกันนะคะ ..<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

มีผู้จองการเดินทาง ทริปวันที่ 22 ส.ค.53 จำนวน 24 คนแล้วครับ

ยังเหลือเวลาอีกเกือบ 1 เดือน สงสัยรอบนี้อาจจะถึง 40 คนครับ

โมทนา

 

วันที่ 22 ส.ค.53 ช่วงเช้า จะจัดผ้าป่าไปถวายท่านจิตโตด้วยครับ

ถ้าพี่ ๆ ท่านใดว่างก็เชิญได้นะครับ

โมทนา

 

มีผู้จองการเดินทางวันที่ 22 ส.ค.แล้ว 33 ราย

1. Komodo (ช.) 1 ที่
2. ซามิ้น (ญ.) 1 ที่
3. kunnainok (ญ.) 1 ที่
4. PORNPIMOL (ญ.) 1 ที่
5. คุณติ๋ว จากนอกเว็บ (ญ.) 2 ที่
6. Pongroch (ญ.) 1 ที่
7. vietnam (ช.) 1 ที่
8. พรพ่อให้ (ช.) 1 ที่
9. ปาริสุทธิ์ (ญ.) 2 ที่
10. Kindly (ญ. & ช.) 2 ที่
11. เพียงธรรม (ช.) 1 ที่
12. blert (ญ. 2 & ช. 1) 3 ที่
13. เดือนยี่ (ญ.) 2 ที่ (จ่ายแล้ว)
14. tamsak (ช.) 1 ที่
15. ธรรมวิวัฒน์ (ช.) 1 ที่
16. spthong2000 (ญ. & ช.) 2 ที่
17. เด็กอนุบาล (ช.) 1 ที่
18. ณิช (ญ.) 2 ที่ (มีคนท้อง 6 เดือน)
19. skaey (ญ.) 3 ที่ (อายุ 40 ปี)
20. faidaravee (ญ.) 3 ที่
21. CEFFY (ช.) 1 ที่

รอบนี้น่าจะคึกคักนะครับ
คงต้องหากิจกรรมให้ทำระหว่างที่อยู่ที่ปรียนันท์ธรรมสถานครับ

โมทนา

 

มี 39 คนแล้วครับ สงสัยรอบนี้ คนล้นปรียนันท์แน่ ๆ ครับ

โมทนา

 

กระทู้นี้เลยครับ

http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...อาทิตย์ที่-22-ส-ค-53-คัน-3-ว่าง-2-ที่.248222/

 

ภาพวันที่ 22 ส.ค.53

ปรียนันท์ธรรมสถาน

ด้านล่าง<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>





</FIELDSET>

 

<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

 

<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

 

ภาพประกอบเวอร์ชั่นเต็ม

http://palungjit.org/threads/ประมวล...จิตโต-22-ส-ค-53-ยอดผ้าป่า-131-000-บาท.253952/

 

เรียน พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ และสมาชิกกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติทุกท่าน

ตามที่พวกเราได้ร่วมกันสร้างปรียนันท์ธรรมสถานและพัฒนาสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้มาเป็นลำดับ พร้อมกับได้ยกถวายสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ไว้ในพระพุทธศาสนาแล้ว แต่ยังขาดพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาจำพรรษา เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ "วัด" นั้น

บัดนี้ นับว่าเป็นวาระและโอกาสอันดีที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้จะได้มีพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และมีความเคารพในครูบาอาจารย์ อาทิ หลวงปู่ปาน และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ฯลฯ เช่นเดียวกับพวกเรา มาจำวัดอยู่ ณ ปรียนันท์ธรรมสถานแห่งนี้ หลังจากที่พวกเรารอคอยกันมาเป็นเวลานาน

สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา ผมได้ไปถวายสังฆทานที่บ้านอนุสาวรีย์ และหลวงพี่เล็กท่านได้แนะนำให้ผมไปกราบนิมนต์ ท่านครูบาวิฑูรย์ แห่งวัดวังมุย จ.ลำพูน ให้มาจำวัดที่นี่ เพื่อเป็นมิ่งขวัญและเป็นหลักชัยในการปฏิบัติธรรม ตลอดจนพัฒนาปรียนันท์ธรรมสถานให้เป็น "วัด" สมดังเจตนารมย์ของพวกเราต่อไป

เรื่องการนิมนต์ท่านครูบาวิฑูรย์นี้ ผมได้ติดต่อไปยังลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่านให้ช่วยกราบเรียนให้ท่านทราบเป็นการล่วงหน้าแล้ว และผมจะได้ไปกราบนิมนต์ท่านหลังจากออกพรรษา ยังไม่ทราบว่าท่านจะพิจารณาอย่างไร แต่ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะเมตตารับนิมนต์ตามที่เราปรารถนา หากมีความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างไร ผมจะมาแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อทราบ



.