ปรียนันท์ธรรมสถาน เพื่อปฏิบัติและหลบภัย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย thavornsiripat, 8 มิถุนายน 2007.

  1. thavornsiripat

    thavornsiripat สิ่งใดไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มี เป็นธรรมดา เช่นนั้นเอง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    2,072
    ค่าพลัง:
    +13,918
    ไม่รู้ใครจะลากใครนี่สิพี่น้อง :VO
     
  2. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    ขอบคุณมากมาก ค่ะ พี่ ,,,
    เรื่องไปที่เชียงใหม่ เดียวเจนตอบกลับทาง pm อีกทีนะค่ะ
     
  3. เช้าใหม่

    เช้าใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +5,754
  4. เช้าใหม่

    เช้าใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +5,754
    เห็นช่วงนี้หลายคนมาสนใจเรื่องกรรมบถ10 กัน เลยเอาเรื่องนี้ที่หลวงพ่อได้สอนไว้ มาให้อ่านกันจ้า

    กรรมบถ 10 มีอะไรบ้าง กรรมบถ 10 ญาติโยมบางคนไม่เข้าใจ ยังไม่ทราบ ก็จะบอกให้ทราบ
    กรรมบถ 10 ทางกายมี 3 คือ
    1. ไม่ฆ่าสัตว์
    2. ไม่ลักทรัพย์
    3. ไม่ประพฤติผิดในกาม
    ทางวาจา มี 4 คือ
    1. ไม่พูดปด
    2. ไม่พูดคำหยาบ
    3. ไม่พูดส่อเสียดยุยงให้เขาแตกร้าวกัน ไม่นินทา
    4. ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล
    ทางใจ มี 3 คือ
    1. ไม่คิดอยากได้ทรัพย์สมบัติของบุคคลอื่น โดยไม่ชอบธรรม
    2. ไม่จองล้างจองผลาญใคร คือ ไม่พยาบาท ความโกรธยังมี
    3. มีความเห็นถูกคือ สัมมาทิฏฐิ มีความเห็นตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่คัดค้าน
    นี่ กรรมบถ 10 แบ่งไปตาม กาย วาจา ใจ ก็เอาสติเข้าไปควบคุมว่า ศีล 5 ก็ดี กรรมบถ 10 ก็ดี มีกี่สิกขาบท มีอะไรบ้าง คุมไว้ไม่ยอมลืม ใหม่ ๆ ก็ลืมบ้าง เป็นของธรรมดา

    <TABLE width="50%" align=center border=1 hspace="100"><TBODY><TR bgColor=#ffff99><TD>[SIZE=+1]อานิสงส์กรรมบถ ๑๐ [/SIZE]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    ท่านที่ปฏิบัติในกรรมบถ ๑๐ ประการนี้ ท่านเรียกชื่อเป็นกรรมฐานกองหนึ่งเหมือนกัน
    คือ ท่านเรียกว่า สีลานุสสติกรรมฐาน หมายความว่าเป็นผู้ทรงสมาธิในศีล

    ท่านที่ปฏิบัติในกรรมบถ ๑๐ ประการได้นั้น มีอานิสงส์ดังนี้
    ๑. อานิสงส์ข้อที่หนึ่ง จะเกิดเป็นคนรูปสวย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีอายุยืนยาว ไม่อายุ
    สั้นพลันตาย
    ๒. อานิสงส์ข้อที่สอง เกิดเป็นคนมีทรัพย์มาก ทรัพย์ไม่ถูกทำลายเพราะโจร , ไฟไหม้ ,
    น้ำท่วม , ลมพัด จะมีทรัพย์สมบัติสมบูรณ์บริบูรณ์ขั้นมหาเศรษฐี
    ๓. อานิสงส์ข้อที่สาม เมื่อเกิดเป็นคนจะมีคนที่อยู่ในบังคับบัญชาเป็นคนดี , ไม่ดื้อด้าน
    อยู่ภายในคำสั่งอย่างเคร่งครัด มีความสุขเพราะบริวาร
    และการไม่ดื่มสุราเมรัยเมื่อเกิด เป็นคนจะไม่มีโรคปวดศีรษะที่ร้ายแรง, ไม่เป็นโรค
    เส้นประสาท, ไม่เป็นคนบ้าคลั่ง จะเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์, มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด

    เรื่องของวาจา
    ๔. อานิสงส์ข้อที่สี่, ข้อห้า, ข้อหก และข้อเจ็ด เมื่อเกิดเป็นคน จะเป็นคนปากหอม
    หรือมีเสียงทิพย์ คนที่ได้ยินเสียงท่านพูด เขาจะไม่อิ่มไม่เบื่อในเสียงของท่าน ถ้าเรียกตามสมัย
    ปัจจุบัน จะเรียกว่าคนมีเสียงเป็นเสน่ห์ก็คงไม่ผิด จะมีความเป็นอยู่ที่เป็นสุข และทรัพย์สินมหา-
    ศาลเพราะเสียง

    เรื่องของใจ
    ๕. อานิสงส์ข้อที่แปด ,ข้อเก้า และข้อสิบ เป็นเรื่องของใจ คืออารมณ์คิด ถ้าเว้นจาก
    การคิดลักขโมย เป็นต้น ไม่คิดจองล้างจองผลาญใคร, เชื่อพระพุทธเจ้า และปฏิบัติตามคำสอน
    ของท่านด้วยความเคารพ, ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะเป็นคนมีอารมณ์สงบ, มีความสุขสบายทางใจ
    ความเดือดเนื้อร้อนใจในกรณีใดๆ ทุกประการจะไม่มีเลย มีแต่ความสุขใจอย่างเดียว

    <TABLE width="42%" align=center border=1 hspace="100"><TBODY><TR bgColor=#ffff99><TD>[SIZE=+1]อานิสงส์รวม[/SIZE]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    เมื่อกล่าวถึงอานิสงส์รวมแล้ว ผู้ที่ปฏิบัติกรรมฐานในขั้นนี้ ถึงแม้ว่าจะทรงสมาธิไม่ได้
    นาน ตามที่เรียกว่า ขณิกสมาธิ นั้น ถ้าสามารถทรงกรรมบถ ๑๐ ประการได้ครบถ้วน ท่านกล่าวว่า
    เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิอีกต่อไป บาปที่ทำไว้ตั้งแต่สมัยใดก็ตาม ไม่มี
    โอกาส นำไปลงโทษในอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น อีกต่อไป
    ถ้าบุญบารมีไม่มากกว่านี้ ตายจากคนไปเป็นเทวดาหรือพรหม เมื่อหมดบุญแล้วลงมา
    เกิดเป็นมนุษย์ จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้น แต่ถ้าเร่งรัดการบำเพ็ญเพียรดี , รู้จักใช้ปัญญา
    อย่างมีเหตุผล ก็สามารถบรรลุมรรคผลเข้าถึงพระนิพพานได้ในชาตินี้

    <TABLE width="64%" align=center border=1 hspace="100"><TBODY><TR bgColor=#ffff99><TD>[SIZE=+1]แนะวิธีรักษากรรมบถ ๑๐ ประการ[/SIZE]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    การที่จะทรงความดีเต็มระดับตามที่กล่าวมาให้ครบถ้วน ให้ปฏิบัติดังนี้ ๑. คิดถึงความตาย ไว้ในขณะที่สมควร คือไม่ใช่ทุกลมหายใจเข้าออก เมื่อตื่นขึ้นใหม่ ๆ
    อารมณ์ใจยังเป็นสุข ก่อนที่จะเจริญภาวนาอย่างอื่น ให้คิดถึงความตายก่อน คิดว่าความตายอาจ
    จะเข้ามาถึงเราในวันนี้ก็ได้ จะตายเมื่อไรก็ตามเราไม่ขอลงอบายภูมิ ที่เราจะไปคือ อย่างต่ำไป
    สวรรค์ , อย่างกลางไปพรหม ถ้าไม่เกินวิสัยแล้วขอไปนิพพานแห่งเดียว คิดว่าไปนิพพานเป็นที่
    พอใจที่สุดของเรา
    ๒. คิดต่อไปว่า เมื่อความตายจะเข้ามาถึงเราจะเป็นเวลาใดก็ตาม เราขอยึดพระพุทธเจ้า
    พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต คือไม่
    สงสัยในความดีของพระพุทธเจ้า ยอมเคารพด้วยความศรัทธา คือความเชื่อถือในพระองค์ ขอ
    ปฏิบัติตามคำสอน คือกรรมบถ ๑๐ ประการโดยเคร่งครัด ถ้าความตายเข้ามาถึงเมื่อไร
    ขอไปนิพพานแห่งเดียว
    เมื่อนึกถึงความตายแล้ว ตั้งใจเคารพ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวกแล้วตั้งใจ
    นึกถึงกรรมบถ ๑๐ ประการว่ามีอะไรบ้าง ตั้งใจจำ และพยายามปฏิบัติตามอย่าให้พลั้งพลาดคิด
    ติดตามข้อปฏิบัติเสมอว่า มีอะไรบ้าง ตั้งใจไว้เลยว่า วันนี้เราจะไม่ยอมละเมิดสิกขาบทใด
    สิกขาบทหนึ่งเป็นอันขาด เป็นธรรมดาอยู่เองการที่ระมัดระวังใหม่ๆ อาจจะมีการพลั้งพลาด
    พลั้งเผลอในระยะต้นๆ บ้างเป็นของธรรมดา แต่ถ้าตั้งใจระมัดระวังทุกๆ วันไม่นานนักอย่าง
    ช้าไม่เกิน ๓ เดือน ก็สามารถรักษาได้ครบ มีอาการชินต่อการรักษาทุกสิกขาบทจะไม่มีการ
    ผิดพลาดโดยที่เจตนาเลย เมื่อท่านใดทรงอารมณ์กรรมบถ ๑๐ ประการได้โดยไม่ต้องระวัง
    ก็ชื่อว่าท่านทรงสมาธิขั้นขณิกสมาธิได้ครบถ้วนเมื่อตาย ท่านไปสวรรค์หรือพรหมโลกได้แน่
    นอนถ้าบารมียังอ่อนเกิดเป็นมนุษย์อีกชาติเดียว ไปนิพพานแน่ ถ้าขยันหมั่นเพียรใช้ปัญญา
    แบบเบา ๆ ไม่เร่งรัดเกินไป รักษาอารมณ์ใจให้เป็นสุขไม่ติดในความโลภ ไม่วุ่นวายในความ
    โกรธ มีการให้อภัยเป็นปกติ ไม่เมาในร่างกายเรา และร่างกายเขาไม่ช้าก็บรรลุพระนิพพาน
    ได้แน่นอน เป็นอันว่าการปฏิบัติขั้นขณิกสมาธิจบเพียงเท่านี้
    ที่มา
    http://www.kanlayanatam.com/Mybookne...uddha_200_.jpg
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2009
  5. Teerasak :< ao >:

    Teerasak :< ao >: สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +16
    สวัสดีพี่ๆเว็ปพลังจิต ปรียนันท์ธรรมสถาน ทำไมเงียบๆกันละครับ
    สบายดีกันทุกคนไหมครับ ดูแลตัวเองกันดีๆนะครับ
     
  6. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    -Happy Smile_

    ใผ๋อยู่ใกล้ ..ใผ๋ไปกราบพระ..ใผ๋ไปปฏิบติธรรม
    ที่ปรียนันท์
    ลงรูปให้ดูม้างงงงง ..เอาตั้งแต่ทางเข้าเลยน่ะ ไม่ได้ไปนานแล้ว
    เป็นไงบ้าง..คนชอบหลงทาง คิดถึงคิดถึงคิดถึง
    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  7. เช้าใหม่

    เช้าใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +5,754
    ช่วงนี้พี่คลิกไม่ค่อยอยู่และว่างเท่าไร่ครับ เห็นว่าตอนนี้ก็ลงไปทางภาคใต้ เด๋วคงมีรูปมาให้โมทนากันครับ
     
  8. thavornsiripat

    thavornsiripat สิ่งใดไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มี เป็นธรรมดา เช่นนั้นเอง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    2,072
    ค่าพลัง:
    +13,918
    [​IMG]


    "จำเนียรกาลผ่านไหล เสียอะไรไป
    ได้อะไรมา สุดท้าย...ได้แต่ดู"

    <input id="gwProxy" type="hidden"><!--Session data--><input onclick="jsCall();" id="jsProxy" type="hidden">
     
  9. Teerasak :< ao >:

    Teerasak :< ao >: สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +16
    ในรูปพี่ๆทำอะไรกันหรอครับ ที่ไหนหรอครับ
    พี่ๆสบายดีกันใช่ไหมครับ
     
  10. thavornsiripat

    thavornsiripat สิ่งใดไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มี เป็นธรรมดา เช่นนั้นเอง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    2,072
    ค่าพลัง:
    +13,918
    ในรูปพี่ๆทำอะไรกันหรอครับ ที่ไหนหรอครับ

    ในรูป เป็นการลองทดสอบสภาพ ในกระทู้ "ทริปถึกฯ" ครับ ใกล้ๆ ปรียนันท์แหละครับ
    แต่ตอนที่ไปเดินกันยังไม่มีปรียนันท์ ไปพบร่องรอยเจดีย์เก่า ก็เลยทำการสักการะ
    แล้วก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกครับ
    ผมเข้าใจเอาเองนะครับว่าทุกคนสบายดีตามอัตภาพ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปปฏิบัติภารกิจ
    ส่วนตัว เมื่อถึงเวลาเหมาะ ก็มาพบปะ รวมตัวกันแหละครับ ;aa44

    <input id="gwProxy" type="hidden"><!--Session data--><input onclick="jsCall();" id="jsProxy" type="hidden">
     
  11. เช้าใหม่

    เช้าใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +5,754
    ได้ข่าวว่า พี่เปิ้ลเดินทางไปสะสมความดีแถวชัยภูมินี่ครับ ได้อะไรดีๆมาสอนน้องๆบ้างนะครับพี่

    ตอนนี้ผมยังเตาะแตะเหมือนเดิมเลย

    จากคนทางซ้ายในรูปภาพ
     
  12. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172

    คิดเหมือนกันเลย...ว่าน่าจะจัดงานครั้งที่ 2 ขึ้น ยังพูดถึงเรื่องนี้อยู่กับคนใกล้ตัวเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ก็เล็งเอาไว้ว่า โอกาสที่น่าจะเหมาะสมคือ วันที่ฉลองพระเจดีย์ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่นานนี้

    หากเห็นตรงกันว่า ปรียนันท์ธรรมสถาน ซึ่งเคยเป็นสถานที่ที่จัดงานครั้งแรกยังมีความเหมาะสม ก็ฝากไว้พิจารณาด้วยครับ



    .
     
  13. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    :VO B_with_U

    catt7


    .....................he llo _car.........
     
  14. thavornsiripat

    thavornsiripat สิ่งใดไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มี เป็นธรรมดา เช่นนั้นเอง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    2,072
    ค่าพลัง:
    +13,918
    ไปกับกลุ่มครับ ช่วงไปได้ก็ไป ว่าแต่ว่าเตาะแตะนี่หมายถึง วิ่งเตาะแตะหรือเปล่า(smile)rabbit_ ช่วงนี้อีลุ่ยฉุยแฉกมากเลยครับ (tm-love) ไว้พบกันที่ปรียนันท์สิ ไม่ได้ไปนานแล้ว คิดถึง ;aa55
     
  15. ขิก

    ขิก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,338
    ค่าพลัง:
    +18,756

    ;ปรบมือ ได้อะไร เสียอะไร.....เป็นคำถามและคำตอบในตัวเอง

    sleeping_rb กาลเวลาผ่านไปหลายปี ร่วมกันก่อตั้งปรียนันท์ธรรมสถาน เราได้อะไร เราเสียอะไร

    ;k02 กาลเวลาล่วงไป ในสื่งที่ผ่านมา พี่คลิก คุณคลิก จานคลิก
    ก็ต้องกราบขออภัยกับทุกรูปนาม ที่ได้ล่วงเกินด้วย กายกรรม วจีกรรม
    มโนกรรม สิ่งใดที่ประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน คงต้องขออโหสิกรรม

    _Love+U_ ด้วยเจตนาที่ดี ต่อกัน มีโอกาสสนท
    นาธรรมกับพวกเรา หลาย ๆ คน แบบชนิดข้ามคืนข้ามวัน นับเป็นวาสนา ที่ไม่ถอยทั้งคนสาธยายและคนฟัง นับถือ จริง ๆ สามารถอดทนได้ยันแจ้ง

    รู้สึกถึงความผุกพันปารถนาดีต่อกัน หลายรูปแบบ หลายลีลา จากคนที่ไม่รู้อะไรเลยและคนที่รู้มากมายเสียจนฟุ้งซ่าน ฝึกมโนมายี่สิบปีก็มี มาสาธยายธรรมกัน บางคนถึงกับเอ่ยว่า ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่

    ;ปรบมือ ลมหายใจ .....สิ่งที่พวกเราเน้นกันจริง คือ อานาปานุสติ นั่นเอง

    เราพลาดจากการระลึกถึงเมื่อไหร่ เราก็ขาดทุน เสียชาติเกิด ต้องฝึกกันให้รู้อยู่ตลอดที่ตื่นอยู่ นี่เขาเรียกว่าเอากันจริง ๆ ทำกันจริง ๆ ไม่ได้ปฏิบัติธรรมตามตารางเวลา

    ถ้าเราทรงอานาปานุสติได้ เรื่อง ฌาน ญาณ นิมิตต่าง ๆ ก็จะมาเอง ถ้าเราทรงลมหายใจไม่ได้ เรื่อง ฌาน ญาณ ต่าง ๆ ไม่ต้องพูดถึง อารมณ์พระอริยเจ้าขั้นโสดาบันก็เลิกคุยกันไปเลย ยังไกลมาก

    ;ปรบมือ ตอนยาก ๆ ก็ทรงสมาธิในขณะพุด เห็นว่าจะยาก แต่ถ้าลองกันจริง ๆ ก็น่าจะทำได้ ถ้าเราทำไม่ได้ เราก็สอนธรรมคนอื่นไม่ได้ เพราะจะพูดเรื่องอะไรเราก็ต้องทรงอารมรณ์นั้นในขณะที่พูด ถ้าเราไม่ทรงอารมณ์พูด พวกผีที่มาแอบฟังก็จะขำกลิ้ง ไป

    ;ปรบมือ ศีล ๕ น่ะ สำคัญ ถ้าไม่เอามาทรงอารมณ์ให้เป็นฌานได้ ก็ไปยาก คนที่ปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่มักมองข้าม


    sleeping_rb นิพพาน นั่งนึก นอนนึกเอาไม่ได้แน่ ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่แจ้งที่ใจ เราก็เข้าข่ายใช้อารมณ์คิดปรุงแต่งใจไปรู้ไปเห็นแล้วเหมาโมเมว่า เป็น มโนยิทธิ ห้าปี สิบปี ก็แหมะที่เดิม

    (f) สิ่งที่คุย ๆ กันไป มากมายที่จะเล่าขาน วันนี้เราทำไม่ได้ วันข้างหน้าก็ต้องเป็นวันของเรา
     
  16. ขิก

    ขิก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,338
    ค่าพลัง:
    +18,756
    sleeping_rb ปรียนันท์ธรรมสถาน ไม่ใช่พี่คลิก และพีคลิกก็ไม่ใช่ปรียนันท์ธรรมสถาน

    ;ปรบมือ บางคนก็ว่า ปรียนันท์ธรรมสถาน เป็นสายผี สายเทพ ไม่ใช่สายพระพุทธเจ้าโดยตรง ต้องเขานี่สายพระโดยตรง เรื่องนี้ก็ได้ยินมา


    ;ปรบมือ ปรียนันท์ธรรมสถานทำงานในวงแคบเฉพาะกลุ่ม ไม่ได้ทำงานสงเคราะห์คนทั่วประเทศ อย่างนี้ก็ได้ยินมา

    ;ปรบมือ เรื่องแบบนี้ก็ไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะตัวเองก็ยังงง ๆ อยู่ ว่าเรามาทำอะไร เรื่องสายผีนี่ก็ต้องคิด ผีนี่ก็คือคนที่ตายไปแล้ว คนมีธาตุทั้งสี่ ผีไม่มีธาตุทั้งสี่ คนกับผีก็คือ ๆ กัน เทวดาก็ผี พรหมก็ผี ท่านที่ตายไปแล้วก็ผีทั้งนั้น แต่ความบริสุทธิ์อาจต่างกัน เรามาเกิดก็มาจากผี ฉะนั้นเราก็มีเพื่อนผี น้องผี พี่ผี พ่อผี แม่ผี ครูบาอาจารย์เป็นผี

    ;ปรบมือ เรื่องปรียนันท์ธรรมสถานสงเคราะห์คนเฉพาะกลุ่ม แบบนี้ก็ไม่รุ้เหมือนกันว่าปรียนันท์ธรรมสถานเป็นใคร ใครคือปรียนันท์ธรรมสถาน ถ้าเป็นพี่คลิกเองคงไม่สามารถไปสงเคราะห์ใครได้ เพราะยังไม่หมดกิเลส และก็ไม่หลอกตัวเอง และก็ไม่หลอกคนอื่นด้วย ทำได้แค่ไหนก็พูดแค่นั้น ทำได้แล้วจึงพูดให้ฟัง ไม่ได้สอนใคร ชี้ทางให้ แต่ละคนก็ต้องสอนตัวเอง อบรมตัวเอง ตัวใครตัวมัน ภาวนาเป็นแล้วอย่ามาอยู่ติดกันมีแต่จะฟุ้งซ่าน ถ้ายังงอแงเป็นเด็กอยู่ก็เอาดีไม่ได้


    ;ปรบมือ พี่คลิกช่วยได้แต่ผีข้างถนน ของเขานี่สามารถใช้วิชามโนยิทธิไปช่วยทั่วประเทศ ช่วยได้หมดเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อเขียว ไปโน่นเลย อันนี้ต้องขอบอกว่า ไม่ว่าผีที่ไหน ๆ พี่คลิกก็ช่วยไม่ได้ ถ้าไม่เนื่องกันมาก่อน และไม่ถึงเวลาพ้นกรรมของเขา

    ;ปรบมือ มีคนแสดงตัวเป็นผู้ทรงธรรมนัยว่าระดับพระอนาคามีผลมาคุยด้วยกล่าวว่า ทำอะไรไม่ไปบอกกล่าวพระผู้ใหญ่ และก็อบรมสั่งสอนพี่คลิกหลายเรื่องเป็นเวลานานกว่าสองสามชั่วโมง ทีแรกก็ฟังอย่าง งง ๆ .... ฟังไปก็พอเข้าใจ

    ก็พูดเหมือนเราเป็นเจ้าสำนัก..... แล้วจะไปบอกกล่าวพระผู้ใหญ่ที่ไหน เราไม่รู้จักพระผู้ใหญ่ แล้วทำไมเราต้องไปบอก เราไม่ได้เป็นพระ เราไม่ได้บิณฑบาตรทับเส้นทางใคร นี่นา

    แนะนำเราให้ทำเสื้อยืดมีสกรีนด้านหลังโปรโมตสถานธรรม จะได้มีคนรู้จักเขาจะได้มาทำบุญ ฟัง ๆ ไปก็คิดในใจว่า ถ้าตูคิดแบบนี้ตูรีบตายดีกว่า ความเลวจะได้ไม่ติดตัวมาก

    แนะนำให้ไปฝึกอยู่ธุดงค์สักสิบวัน จะได้รู้จักการนอนกลด นอนกลางดิน รู้ถึงความลำบากจะได้ไปสอนเขา แล้วมโนยิทธิ ฝึกเขาแล้วก็ต้องรู้เทวดาแต่งตัวสีอะไรเดี๋ยวเราเห็นไม่เหมือนลูกศิษย์ ว่ากันไปโน่นเลย.....
    เรื่องนี้ต้องขอบอกว่า ไม่เคยสอนวิชา มโนยิทธิ และไม่คิดจะสอนด้วย ด้วยว่าไม่มีความรู้จริง สิ่งที่คุย ๆ กันกับพวกพ้องก็หยิบยกมาจากหนังสือหลวงพ่อทั้งนั้น คุยกันแค่พื้นฐานแค่ สติ สัมปชัญญะ พื้น ๆ เท่านั้น และเราก็ไม่ได้เป็นครูบาอาจารย์ของใคร ไม่มีลูกศิษย์ มีแต่เขาเรียก จานคลิก หยอก ๆ กันเล่นเท่านั้นเอง


    เรื่องการนอนกลด นอนกลางดินกินกลางทราย ให้ผจญกับความลำบาก นี่ คิดว่า ให้ท่านที่เดินธุดงค์มาสักสิบปี ก็ไม่น่าจะมีความทุกยากลำบากเท่ากับพี่คลิกที่ผจญมา เพราะอาชีพที่ต้องแบกเป้ถือปืนเดินป่าภูเขามาเกือบยี่สิบปี เป็นมาตั้งแต่พลปืนเล็ก จนถึงหัวหน้าชุดรบขนาดเล็กปฏิบัติการเป็นอิสระ

    ฟัง ท่านสาธยายให้ฟัง เราก็ฟังด้วยความเคารพ เพียรทรง อานาปานุสติ อย่างสม่ำเสมอ แต่ท่านผู้พูดไม่ได้ทรงสมาธิเลย เราก็ยังฟังได้ ถ้าเป็นพวกปรียนันท์พูดแบบนี้ จะให้คะแนน ติดลบ เพราะขาด สติ สัมปชัญญะ ขาดอารมณ์ที่เป็นสมาธิ คือไม่ทรงสมาธิพูด กลายเป็นเพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่านไป


    ;ปรบมือ ด้หลายอย่างเหมือนกัน ข้อสำคัญคือเรา ทรง สติ สัมปชัญญะ แล้ววางอารมเฉย ๆ ได้ไหม เท่านั้นเอง เฉยได้ เย็นได้ ก็สบายไป เอาตัวรอดไปวัน ๆ

     
  17. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    พี่คลิกมาแว้วววว........


    .
     
  18. thavornsiripat

    thavornsiripat สิ่งใดไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มี เป็นธรรมดา เช่นนั้นเอง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    2,072
    ค่าพลัง:
    +13,918

    ;aa10catt13 ใช่ครับ พี่คลิกมาแว้วววว แล้วก็มาเป็นชู๊ดดดด ด้วย rabbit_eatingล่วงเกินท่านใดไป ทั้งทางกาย วาจา ใจ ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขออโหสิกรรมด้วยครับ แล้วก็อโหสิกรรมให้ อภัยให้กัน เลิกแล้วต่อกันครับ :z3<input id="gwProxy" type="hidden"><!--Session data--><input onclick="jsCall();" id="jsProxy" type="hidden">
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2009
  19. ขิก

    ขิก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,338
    ค่าพลัง:
    +18,756
    ;k03 ช่างกำลังวางท่อประปาจากแยกถนนสายเอเซีย ผ่านบ้านผู้การ ผ่านปรียนันท์ไปจนถึงสำนักสงฆ์เขารัง

    (rose) ปรียนันท์และสำนักสงฆ์เขารังก็เลยได้ใช้น้ำประปา โดยความอนุเคราะห์การดำเนินเรื่องของผู้การ

    ;ปรบมือ ต้องกราบอนุโมทนา


    ;k03 ท่านผู้การบอกว่าเรื่องไฟฟ้าอาจเดินเข้าประมาณกลางปี ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง


    rabbit_rest ช่างวางท่อประปาได้มาพักที่บ้านพักที่ปรียนันท์ โดยการดูแลของท่านผู้การ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF0681.JPG
      DSCF0681.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      53
    • DSCF0683.JPG
      DSCF0683.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      55
    • DSCF0682.JPG
      DSCF0682.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      46
    • DSCF0686.JPG
      DSCF0686.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      86
    • DSCF0687.JPG
      DSCF0687.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      47
    • DSCF0685.JPG
      DSCF0685.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      55
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กันยายน 2009
  20. ขิก

    ขิก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,338
    ค่าพลัง:
    +18,756
    :z7 เ่ล่าให้ฟัง......

    (^) ห้วงเดือนสิงหาคมมีโอกาสไปปิดทองพระพุทธรูปในโบสถ์วัดสวนขัน

    อยู่ยาวไปเกือบเดือน นับว่าโชคดีที่มีโอกาสไปภาวนาที่วัดสวนขัน พ่อ
    ท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ได้รับฟังเรื่องเล่าของคนรุ่นเก่าเกี่ยวกับความเมตตา
    ของพ่อท่านคล้ายมากมาย

    พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ถ้าจำไม่ผิดพ่อท่านมรณภาพปี ๒๕๑๓ สมัยนั้นถนนหนทางคงไม่มี ถนนเกือบทุกสายเป็นถนนที่พ่อท่านสร้างไว้ให้ลูกหลาน ตามมุมถนน มุุมสะพาน จะมีศาลาประดิษฐานรูปพ่อท่าน ที่วัด มีพระเจดีย์ที่พ่อท่านสร้างร่วมกับชาวบ้าน ในสมัยนั้น


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF0016.JPG
      DSCF0016.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      55
    • DSCF0001.JPG
      DSCF0001.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      56
    • DSCF0005.JPG
      DSCF0005.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      49
    • DSCF0037.jpg
      DSCF0037.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      50
    • DSCF0102.jpg
      DSCF0102.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      53
    • DSCF0100.jpg
      DSCF0100.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      48
    • DSCF0047.jpg
      DSCF0047.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      53
    • DSCF0280.jpg
      DSCF0280.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      53
    • DSCF0281.jpg
      DSCF0281.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      50
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กันยายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...