ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** ยุคศาสนาที่กำลังเริ่มต้นใหม่ ****

โลก...ยังคงอยู่
หลักสัจจะธรรม....อยู่เหมือนเดียว
ผู้ทำได้...จะกลับมาสานต่อศาสนาด้วย สัจจะทำ
ใครบ้างที่สัญญาจะทำ ?

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** คำที่จดจำได้แม่นยำ ****

"คนที่ไม่เชื่อสัจจะ โลกเขาไม่ปล่อยไว้หรอก"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เกิดแผ่นดินไหว 6.2 ริกเตอร์ ที่อินโดนีเซีย ​

​

จาการ์ตา 13 ต.ค. - สำนักธรณีฟิสิกส์ในอินโดนีเซีย รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.2 ริกเตอร์ ทางเกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซีย ในวันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานทรัพย์สินเสียหายและประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ

สำนักธรณีฟิสิกส์ แจ้งข่าวผ่านการส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ และระบุว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.38 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 18.38 น.ที่ผ่านมา ตามเวลาในไทย ในจังหวัดสุลาเวสีเหนือ และอยู่ที่ความลึกประมาณ 18 กิโลเมตร. - สำนักข่าวไทย

2009-10-13 19:21:19

เมฆประหลาดก่อตัวเป็นวงแหวนขนาดใหญ่เหนือท้องฟ้ารัสเซีย ​

​

ยาฮู ดอท คอม 14 ต.ค.-เ กิดปรากฏการณ์ประหลาด เมฆก่อตัวเป็นวงแหวนขนาดใหญ่เหนือท้องฟ้ากรุงมอสโก นครหลวงของรัสเซีย มีลักษณะคล้ายกับที่ปรากฏอยู่ในฉากภาพยนตร์เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวบุกโลก

นักอุตุนิยมวิทยา ยืนยันว่าเมฆประหลาดที่มีผู้ถ่ายรูปไว้ได้นี้ ไม่ได้เกิดจากการตัดแต่งด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร อย่างไรก็ตามผู้ที่คลั่งไคล้จานบินจากนอกโลก เชื่อว่าเป็นยานอวกาศขนาดยักษ์ที่ลอยอยู่เหนือพื้นโลกเหมือนกับในภาพยนตร์เรื่อง Independence Day

โฆษกสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของกรุงมอสโก กล่าวว่า เมฆทรงวงแหวนขนาดใหญ่น่าจะเกิดจากคลื่นความเย็นที่พัดผ่านกรุงมอสโกเมื่อไม่นานมานี้ ผนวกกับมวลอากาศที่พัดมาจากเขตอาร์กติก และแสงอาทิตย์ที่ส่องมาทางทิศตะวันตก

ประชาชนที่สนใจและติดตามเหตุการณ์ได้นำภาพดาวน์โหลดลงบนเว็บไซด์ยูทูบ ซึ่งได้รับความสนใจมากมายจากนักท่องอินเทอร์เน็ต ล่าสุดมีผู้สนใจเปิดเข้าไปชมแล้วนับแสนครั้ง ดูภาพความมหัศจรรย์ได้ที่ The Buzz Log - A Halo Over Moscow - Yahoo! Buzz - สำนักข่าวไทย

2009-10-14 11:06:06

ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากแผ่นดินไหวอินโดนีเซียทะลุ 1,100 คน​

​

จาการ์ตา 14 ต.ค. - อินโดนีเซียลงทะเบียนชาวบ้านหลายร้อยคนที่ถูกดินถล่มฝังร่างจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนให้เป็นผู้เสียชีวิตแล้ว ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากแผ่นดินไหวในอินโดนีเซียพุ่งแตะ 1,115 คน

นายปรียาดี การ์โดโน โฆษกหน่วยจัดการภัยพิบัติอินโดนีเซีย เผยวันนี้ว่า ได้ยุติการค้นหาผู้สูญหายราว 300 คนจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ในจังหวัดสุมาตราตะวันตก และประกาศให้ทั้งหมดเป็นผู้เสียชีวิต นายการ์โดโน กล่าวว่า เขาได้ร้องขอให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 250 ดอลลาร์สหรัฐ (8,250 บาท) ส่วนผู้ไร้ที่อยู่อาศัยจะได้รับเงินช่วยเหลือวันละ 50 เซนต์ (ราว 16.50 บาท) เป็นเวลาสูงสุด 1 เดือน

ขณะนี้ทางการอินโดนีเซียกำลังเร่งภารกิจบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่ ทั้งเรื่องที่พัก และอาหารให้ผู้ประสบภัยหลายพันคนที่ไร้ที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ เงินช่วยเหลือจำนวนหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐจากรัฐบาลต่างชาติ และองค์กรบรรเทาทุกข์ได้หลั่งไหลไปยังพื้นที่ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

2009-10-14 15:17:09

ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุในฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 712 คน​

​

มะนิลา 14 ต.ค.- รัฐบาลฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุที่พัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เพิ่มขึ้นเป็น 712 คนแล้ว

สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนฟิลิปปินส์แถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุโซนร้อนป้าหม่าซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักทางตอนเหนือของประเทศเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพิ่มขึ้นเป็น 375 คน มากกว่าการประเมินการก่อนหน้านี้ถึง 60 คน

พายุป้าหม่าเริ่มพัดถล่มเกาะลูซอนเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาขณะเป็นไต้ฝุ่น อิทธิพลของพายุดังกล่าวทำให้เกิดแผ่นดินถล่มหลาย 10 ครั้ง และน้ำท่วมในหลายพื้นที่ซึ่งถูกฝนกระหน่ำ พายุป้าหม่าพัดถล่มฟิลิปปินส์เพียง 1 สัปดาห์หลังจากพายุกิสนา ทำให้เกิดฝนตกหนักที่สุดในรอบกว่า 40 ปีในกรุงมะนิลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 337 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-10-14 14:05:28

อินโดนีเซียฝึกซ้อมระบบเตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย​

​

บันดา อาเจะห์, อินโดนีเซีย 14 ต.ค. – อินโดนีเซียฝึกซ้อมอพยพหนีภัยคลื่นสึนามิจากมหาสมุทรอินเดียในวันนี้ โดยมีสัญญาณเตือนภัยและเสียงจากเครื่องกระจายเสียงตามมัสยิดสั่งให้ประชาชนในเมืองบันดา อาเจะห์ เมืองเอกของจังหวัดอาเจะห์ อพยพไปยังที่ปลอดภัย

การฝึกซ้อมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ เพื่อทดสอบระบบเตือนภัยและเตรียมความพร้อมโดยรวมของหลายประเทศในภูมิภาค โดยจำลองสถานการณ์การเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.15 ริกเตอร์ ซึ่งเคยก่อให้เกิดความเสียหายในจังหวัดอาเจะห์เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 และก่อให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดยักษ์ตามมา

เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและภูมิศาสตร์กายภาพของอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตา ประกาศการทดสอบระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว โดยการส่งข้อความทางโทรศัพท์เพื่อแจ้งเตือนการเกิดแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งจังหวัดอาเจะห์ล่วงหน้า และตามด้วยการทดสอบระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิ

ในระหว่างการจำลองสถานการณ์ มีการนำประชาชนซึ่งแกล้งพันแผลขึ้นเปลหาม ขณะที่คนอื่นๆ แกล้งทำเป็นเสียชีวิต ก่อนที่คณะแพทย์จะออกค้นหาผู้รอดชีวิตบนชายหาด และส่งเรือยนต์ออกไปยังสะพานซึ่งสมมติว่าพังทลายลงมา นอกจากนี้ยังมีการนำเครื่องจักรขนาดใหญ่มาใช้เพื่อให้ความช่วยเหลือการกู้ภัยอีกด้วย แม้ในระหว่างการฝึกซ้อมเจ้าหน้าที่บางคนเกิดความสับสน แต่รองผู้ว่าราชการจังหวัดอาเจะห์ เปิดเผยว่า การฝึกซ้อมดังกล่าวประสบความสำเร็จด้วยดี. -สำนักข่าวไทย

2009-10-14 17:22:57

พายุป้าหม่าทำให้ต้องอพยพชาวบ้าน 3 หมื่นคนในเวียดนาม​

​

ฮานอย 14 ต.ค. - ทางการเวียดนามอพยพประชาชนราว 30,000 คน ตามแนวชายฝั่งทางตอนเหนือของประเทศ ขณะที่พายุโซนร้อนป้าหม่าเคลื่อนตัวเข้ามา ภายหลังพัดกระหน่ำฟิลิปปินส์และจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน

ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติเวียดนาม รายงานคาดว่า พายุจะลดระดับลงเป็นดีเปรสชั่น ขณะเคลื่อนตัวเข้ามาตามแนวชายฝั่งของจังหวัดทางภาคเหนือในค่ำวันนี้ โดยมีรายงานฝนตกในพื้นที่ดังกล่าว แต่ไม่มีแนวโน้มว่าจะทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่

พายุป้าหม่าทำให้มีผู้เสียชีวิต 375 คน และสูญหาย 48 คน ช่วงพัดถล่มฟิลิปปินส์ เมื่อต้นเดือน ก่อนเคลื่อนตัวเข้าเกาะไหหลำ ทางใต้ของจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน. - สำนักข่าวไทย

2009-10-14 16:20:26

บังกลาเทศเสริมกำลังแนวชายแดนติดพม่า​

​

บังกลาเทศ 14 ต.ค. - บังกลาเทศเสริมกำลังทหารตามแนวพรมแดน หลังรัฐบาลทหารพม่ามีการเคลื่อนไหวทางทหาร

กองทัพบังกลาเทศส่งกำลังทหารประจำการเพิ่มตามแนวพรมแดนทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งติดกับพม่า การเสริมกำลังทหารของบังกลาเทศครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ทางฝั่งพม่ามีการเคลื่อนไหวทางทหาร อาทิ การส่งกำลังทหารชุดใหม่เข้าประจำการเพิ่มรวมทั้งปืนใหญ่ด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศบังกลาเทศ ระบุว่า การเคลื่อนไหวของทหารพม่าครั้งนี้ มีขึ้นตามปกติ แต่ทางกองทัพบังกลาเทศก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ

ขณะที่ชาวบ้านตามแนวพรมแดนตกอยู่ในอาการหวาดผวา เนื่องจากเคยถูกทหารพม่าจี้ชิงทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีปัญหาชาวมุสลิมโรฮิงยาหลบหนีเข้ามาในบังกลาเทศ. -สำนักข่าวไทย

2009-10-14 16:18:03

เด็กหญิงนิวซีแลนด์ได้รับยกย่องหลังเตือนภัยคลื่นสึนามิ​

​

เวลลิงตัน 14 ต.ค. - เด็กหญิงชาวนิวซีแลนด์ วัย 10 ขวบ ได้รับการยกย่องจากวีรกรรมที่เธอเห็นคลื่นยักษ์สึนามิที่กำลังเคลื่อนเข้าใกล้ประเทศซามัว แล้วเตือนให้บรรดานักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่อยู่บริเวณชายหาด หนีเอาชีวิตรอด

กระทรวงป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนนิวซีแลนด์ มอบประกาศนียบัตรยกย่อง ด.ญ.แอ็บบี วัตซ์เลอร์ เด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเวลลิงตัน จากวีรกรรมที่เธอเตือนภัยคลื่นสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งวันเกิดเหตุ ด.ญ.วัตซ์เลอร์ อยู่ที่ชายหาดของหมู่บ้านลาโลมานู แล้วสังเกตเห็นน้ำทะเลลดลงผิดปกติ เธอจึงวิ่งตะโกนไปทั่วชายหาดให้ผู้คนทราบว่า คลื่นสึนามิกำลังจะพัดถล่ม ด.ญ.วัตซ์เลอร์ สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ ขณะที่บิดาและพี่ชายของเธอถูกคลื่นยักษ์กวาดลงทะเล แต่โชคดีที่ทั้งคู่รอดชีวิตมาได้ โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ

ครูที่เคยสอน ด.ญ.วัตซ์เลอร์ บอกว่า เธอสอนให้เด็กนักเรียนทราบถึงวิธีเอาตัวรอดในเหตุภัยพิบัติ และรู้สึกมั่นใจเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่เป็นครูว่า สิ่งที่เธอสอนให้เด็ก ๆ นั้นได้ซึมลึก และสามารถนำมาใช้ในยามคับขันได้ เหตุคลื่นสึนามิจากแผ่นดินไหวครั้งนั้น คร่าชีวิตผู้คนในซามัวไปอย่างน้อย 143 คน และในดินแดนอเมริกันซามัว 32 คน ส่วนอีก 9 คน เสียชีวิตในตองกา. - สำนักข่าวไทย

2009-10-14 15:19:53

วัยรุ่น 3 ใน 4 อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอินเทอร์เน็ต​

​

ลอนดอน 14 ต.ค.- ผลสำรวจวัยรุ่นในอังกฤษพบว่า 3 ใน 4 รู้สึกว่าอยู่ไม่ได้หากไม่มีอินเทอร์เน็ต 4 ใน 5 ค้นหาคำแนะนำจากเว็บไซต์ และ 1 ใน 3 เห็นว่าไม่จำเป็นต้องปรึกษาปัญหากับใครแบบต่อหน้าเพราะหาข้อมูลจากโลกออนไลน์ได้

ยูธเน็ต องค์กรการกุศลออนไลน์ของอังกฤษเผยผลสำรวจวัยรุ่นอายุ 16-24 ปีว่า แม้มีเหตุละเมิดความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่เกิดขึ้นหลายครั้ง เช่น อีเมล์หลอกลวง ผู้ตอบร้อยละ 76 ยังคงมั่นใจว่าการท่องอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องปลอดภัยตราบใดที่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ด้านนักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเปิดชี้ว่า กลุ่มเสี่ยงภัยอินเทอร์เน็ตมากที่สุดคือวัยกลางคนเพราะต้องใช้เวลาอีกมากเรียนรู้โลกออนไลน์ ขณะที่วัยรุ่นและเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี โตมากับเทคโนโลยีจึงเข้าใจลึกซึ้งกว่า แต่ปัญหาใหญ่ประการหนึ่งของวัยรุ่นคือ พ่อแม่ไม่ทราบว่าลูก ๆ ทำอะไรอยู่.-สำนักข่าวไทย

2009-10-14 10:43:29

ที่มา http://news.mcot.net

 

ภัยพิบัติมีแน่แต่ไม่รู้ตอนไหน

 

วิเคราะห์พุทธทำนาย
"คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน"​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ตไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อหาที่โพสต์​

ข้อความบางตอนจากพุทธทำนาย ในศิลาจารึกที่ประเทศอินเดีย:-​

" เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน "​

วิเคราะห์พุทธทำนาย​

จากพุทธทำนายข้างต้นนี้ ผมมาลองวิเคราะห์ดูแล้ว น่าจะเป็นการบอกสภาพของผู้คนที่จะต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์อะไรบางอย่าง ที่จะทำให้ผู้คนทั้งโลก ต้องมีสภาพล้มลุกคลุกคลานในปี พ.ศ.2555 หรือปีในพุทธทำนาย 2507(ปีมะโรง) ทำให้ไม่สามารถยืนเดิน ทรงตัวได้ตามปกติในการใช้ชีวิตประจำวันโดยทั่วไป คงไม่ใช่เป็นการใช้คำอุปมาอุปมัยแต่อย่างใด​

ผมได้ไปลองค้นคว้าดู พบว่าสิ่งที่จะทำให้คนทั้งโลก ต้องล้มลุกคลุกคลานได้ ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงของโลกเรานี่เอง ถ้าในปี พ.ศ.2555 เกิดเหตุการณ์สนามแม่เหล็กโลกพลิกกลับขั้วเกิดขึ้น หรือเกิดเหตุการณ์ดาวเรียงตัวกันในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 นอกจากจะเป็นวันสุดท้ายของปฏิทินชนเผ่ามายันแล้ว ยังมีข้อมูลทางดาราศาสตร์ที่ระบุไว้ว่า จะเกิดพลังงานลึกลับที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล ​

โดยในเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุด ในช่วงฤดูหนาวของปี 2012 นั้น ดวงอาทิตย์จะอยู่ระนาบเดียวกับใจกลางของทางข้างเผือกเป็นครั้งแรกในรอบ 2.6 หมื่นปี ซึ่งหมายความว่า พลังงานทุกประเภทจากใจกลางของทางช้างเผือก จะถาโถมและเกิดการปะทะกับพลังงานทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นของโลก ในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เวลา 23.11 น. (11.11 pm ตามเวลาสากล) ​

ที่นี้เรามาลองศึกษาเรื่องของแรงโน้มถ่วง ที่เกิดขึ้นกับนักบินอวกาศ เพื่อมาศึกษาเปรียบเทียบดูว่า ถ้าคนเราต้องเจอแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนั้น คนเราจะต้องมีสถาพเป็นเช่นใดบ้าง​

เวชกรรมอวกาศ​

​

การท่องอวกาศเป็นเรื่องต้องเสี่ยงอันตรายนานัปการต่อสิ่งที่ไม่เคยเผชิญบนโลก.. สูงขึ้นไปจากผิวโลก 12 ไมล์ก็ต้องพบกับอากาศที่มีความกดต่ำ ของเหลวภายในกายจะเดือดพล่านพาลหาทางออก ผ่านตาและปากให้ได้..​

สมัยก่อนแทบไม่มีใครเสียเวลาคิดถึงเรื่องสุขภาพในอวกาศให้รกสมองเลย แต่ปัจจุบันเราต้องหันมาสนใจกันแล้ว เพราะการมีชีวิตอยู่ในอวกาศอย่างสุขสบายไม่ป่วยไม่ไข้นั้น เป็นสิ่งที่เราต้องการ ผู้มองอวกาศในแง่ร้ายเคยคาดหมายว่า หัวใจของนักบินอวกาศคงไม่สามารถแทนได้ต่อการถูกบีบอัดจากแรงกระแทกกระทุ้งที่เกิดขึ้นพร้อมกับความเร่งสูงๆเป็นแน่ ในนาทีวิกฤติขณะยานพุ่งทะยานจะออกนอกโลก และเจออีกครั้งตอนขากลับสู่โลก สภาพไร้น้ำหนักในอวกาศเป็นสาเหตุแห่งความเจ็บป่วย และไหนจะโดนรังสีจากนอกโลกชนเข้าให้

แม้เราจะเห็นกันมาบ้างแล้วว่า นักบินอวกาศเคยทดสอบในอวกาศในช่วงเวลาสั้นๆปลอดภัยมาแล้วนับพันๆชั่วโมง แต่ปัญหาอันตรายและความคิดหาทางป้องกันมันก็จำเป็นต้องทำกันอยู่ วิธีการที่ดีคงไม่พ้นต้องหาทางสร้างสภาพแวดล้อมเทียมในยานให้คล้ายของโลกมากๆ เพื่อรักษาสุขภาพให้ดีเมื่ออยู่ในอวกาศ ในทางปฏิบัติไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ถ้ามีความพยายามซะอย่างก็ย่อมเห็นทางที่จะไปอยู่ในอวกาศได้อย่างสุขสบายเป็นเวลานานๆ

​

ปัญหาเริ่มจากความเร่งสูงๆ

เมื่อจรวดหรือยานเริ่มหลุดพ้นจากผิวโลกก็ต้องเผชิญปัญหาแล้ว เพียงเสี้ยววินาทีที่ยานทะยานฟ้าพ้นจากฐานตั้ง นักบินอวกาศจะได้รับแรงผลักอัดให้ไปข้างหลังอย่างรุนแรง คล้ายกับคนนั่งในรถยนต์ที่เร่งสุดขีดจะถูกผลักดันไปข้างหลัง แต่แรงถีบตัวในยานอวกาศนั้นมีความรุนแรงกว่าหลายเท่านัก

การบอกความเร่งให้เห็นภาพพจน์ง่ายๆก็ต้องคำนวณเป็นจำนวนเท่าของค่า g ถ้า 1g เป็นความเร่งอันเกิดจากความโน้มถ่วงของโลก 5 นาทีแรกที่จรวดเริ่มขึ้น 1 g กลายเป็น 7g (ความหน่วงตอนขากลับขากลับลงสู่โลกมีค่า 14 g ในเวลาสั้นๆ ) ถ้าความเร่งมีค่ามาก น้ำหนักร่างกายก็มากตาม แค่ 2g-3g ก็ยังไม่เท่าไรแต่ถ้ามากกว่านี้มีปัญหาตามมาแน่ ถ้านักบินอวกาศเลือกทิศทางดีๆ ก็จะทนอยู่สู้ความเร่งสูงๆนั้นได้ เพราะความเร่งมีผลต่อคนที่ยืนและคนที่นอนในขณะยานพุ่งทะยานฟ้าต่างกัน เมื่อเจอความเร่งสูงๆ การเคลื่อนไหวต่างๆของร่างกายจะเริ่มมีปัญหา ยกมือยกไม้ก็ลำบาก หน้าตาก็ดูชอบกลเมื่อเนื้อหนังถูกดึงลง ที่ความเร่ง 3 g หายใจเริ่มติดขัด มองอะไรใช่ว่าจะเห็นได้อย่างสบาย

​

เพราะออกซิเยนมายังตาและสมองไม่เท่าเดิมเสียแล้ว ความคมและความไวของการมองจึงเลวลง ถ้ายืนขึ้นที่ความเร่งค่า 4g เลือดจะมาออกันระหว่างอกและศีรษะมาก ปัญหาหัวใจเริ่มเกิดทันที เมื่อหัวใจเริ่มทำงานหนักเพื่อปั้มเลือดไปสู่สมอง ถ้าความเร่งเพิ่มขึ้นอีก สมองก็จะขาดออกซิเจนทันที จึงเกิดอาการหน้ามืดในบัดนั้น ค่อยยังชั่วที่ความเร่งสูงๆเกิดขึ้นได้ไม่นาน

สติสตัง พลันกลับคืนมาเมื่อความเร่งลดต่ำลง หากความเร่งมีทิศทางตรงข้าม จะเกิดอาการหน้าแดงแทนหน้ามืด ถ้าเจอความเร่งสูงๆ การนอนลงจะสบายกว่ายืน เพราะหัวใจไม่ต้องทำงานมากในการสูบฉีดเลือดไหลต้านแรงโน้มถ่วง แม้ความเร่งจะสูงถึง 10g-25g ก็พอจะทนอยู่สู้ได้สบายมาก เพื่อให้เลือดมารวมตัวอยู่ที่ลำตัวและขา เสื้อผ้าพิเศษที่ทำขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะอาจช่วยได้

เคยมีการทดลองให้นักบินอวกาศลอยในถังน้ำบนพื้นโลก เพื่อหวังเป็นวิธีช่วยรักษาเนื้อเยื่อของร่างกายให้คงสภาพเดิม แล้วก็เป็นผลสำเร็จเมื่อพบว่าร่างกายสบายดีแท้ แม้อยู่ในที่ๆผลิตความเร่งสูงขนาด 30g ก็ตาม ในที่สุดเราได้พบวิธีที่ดี สู้ความโน้มถ่วงค่าสูงๆได้

ที่มา http://sites.google.com​

 

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6895 ข่าวสดรายวัน


กรุงยังจม "นศ.ราม" ขาดสอบ!



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ลุยน้ำ - สภาพถนนศรีนครินทร์ตั้งแต่วัดศรีเอี่ยมถึงแยกสวนหลวง ยังคงมีน้ำท่วมขัง บางจุดท่วมสูงถึง 80 ซ.ม. ประชาชนต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมเกือบถึงหัวเข่า นอกจากนี้ถนนบางนา-ตราดก็ยังมีน้ำท่วมขังเช่นกัน เมื่อวันที่ 14 ต.ค.


</TD></TR></TBODY></TABLE>"ในหลวง-พระเทพฯ" พระราชทานความช่วยเหลือชาวบ้านอ่างทองที่ถูกน้ำท่วม กรุงยังอ่วม ฝนถล่มซ้ำอีกรอบ ถนนศรีนครินทร์หนักสุด น้ำยังไม่ลด บางแห่งท่วมสูง 80 ซ.ม. การจราจรอัมพาต น.ศ.ราม 2 โอดรถติดหนักไปสอบไม่ทัน อธิการบดียันไม่เลื่อนสอบ "สุขุมพันธุ์ บริพัตร"สั่งสำรวจถนนที่ไม่มีท่อระบายน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 14 ต.ค. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.และคณะลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมบริเวณ ถ.ศรี นครินทร์ ซึ่งมีน้ำท่วมขังสูงเป็นวันที่ 2 แล้วหลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยนายสัญญา ชีนิมิตร รองผอ.สำนักการระบายน้ำ (สนน.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมว่า ปริมาณน้ำฝนสะสมตลอด 24 ชั่วโมงสูงถึง 150 ม.ม. ส่งผลให้น้ำท่วมสูงบนผิวจราจร 80 ซ.ม.ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ซึ่ง สนน.ระบายน้ำลงคลองเคล็ด ซึ่งเป็นคลองหลักของ ถ.ศรีนครินทร์ ก่อนระดับน้ำจะลดลงในเวลาต่อมา ขณะที่คลองตาช้าง และคลองขวางซึ่งเป็นแก้มลิงในพื้นที่ดังกล่าวน้ำล้นตลิ่งหมดแล้ว จึงไม่สามารถระบายน้ำได้ สนน. จึงแก้ปัญหาด้วยการเปิดประตูระบายน้ำคลองประเวศบุรีรมย์ รวมทั้งพร่องน้ำในคลองแสนแสบ เพื่อรอรับน้ำฝน ทำให้ช่วงเช้าที่ผ่านมาเรือด่วนในคลองแสนแสบไม่สามารถวิ่งได้ หลังจากนั้นช่วงสายจึงระบายน้ำจากคลองต่างๆ ลงคลองแสนแสบสู่ระดับปกติ เรือจึงสามารถวิ่งได้ตามปกติแล้ว

นายสัญญากล่าวต่อว่า ขณะนี้ สนน.เร่งระบายน้ำจนสภาพการจราจรบน ถ.ศรีนครินทร์ กลับสู่ภาวะปกติเมื่อเวลา 01.00 น. แต่หลังจากนั้นมีฝนตกลงมาซ้ำอีกในปริมาณ 80 ม.ม. ทำให้ 2 วันมีปริมาณฝนรวม 220 ม.ม. ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 25 ปี มีหมู่บ้านเสียหาย 2 หมู่บ้าน คือหมู่บ้านกาญจนาภิเษก และหมู่บ้านทุ่งเศรษฐี สนน. จึงเตรียมกระสอบทรายจำนวน 20,000 ใบ และเจ้าหน้าที่ 100 คนเพื่อเรียงกระสอบทรายสองข้างทางถนน เพื่อกั้นไม่ให้น้ำล้นทะลักเข้ามาบนผิวจราจร และนำเครื่องสูบน้ำมาอีก 5 เครื่องรวม 12 เครื่อง หากไม่มีฝนตกลงมาอีกทุกอย่างจะเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม จากการติดตามการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าวันเดียวกันนี้ฝนจะตกในพื้นที่ กทม.อีกร้อยละ 70 ของพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าตำรวจ สน.บางนาตั้งด่านช่วงแยกศรีอุดมเพื่ออำนวยความสะดวกและกันรถไม่ให้เข้า ถ.ศรีนครินทร์ เนื่องจากน้ำท่วมสูง เกรงว่ารถจะเสีย ทำให้จราจรเป็นอัมพาตหนัก แต่ยังมีรถจอดเสียจำนวนมาก ซึ่งกองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง (สนค.)ตั้งจุดอำนวยความสะดวกซ่อมรถบริการประชาชนตลอด 24 ช.ม.ซึ่งมีผู้ใช้รถใช้ถนนนำรถจักรยานยนต์จำนวนมากมาใช้บริการ เนื่องจากน้ำท่วมทำให้เครื่องยนต์เสียหายหลายคัน

ด้านม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า เนื่องจากฝนตกหนักทำให้ กทม.ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ตนต้องขออภัยชาว กทม.ที่ไม่ได้รับความสะดวก หลังจากนี้ กทม.จะก่อสร้างปรับปรุง ถ.ศรี นครินทร์ ช่วงแยกพัฒนาการถึงแยกอุดมสุข ระยะทาง 6.5 ก.ม. งบ 800 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี พร้อมกันนี้ กทม.จะดูแลให้การก่อสร้างถนนทุกสายให้ดีขึ้น แม้จะไม่ใช่โครงการของกทม. แต่จะเข้มงวดหน่วยงานต่างๆ ที่จะสร้างถนนในพื้นที่กทม. โดยต้องทำท่อระบายน้ำใต้ถนนด้วย เพื่อไม่ให้มีปัญหาเหมือน ถ.ศรีนครินทร์ ที่กรมทางหลวงชนบทไม่ได้สร้างท่อระบายน้ำ

"ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมในพื้นที่ ถ.ศรีนครินทร์ นั้นคือ กทม.เสียพื้นที่แก้มลิงหนองงูเห่า ซึ่งเป็นบึงรับน้ำขนาดใหญ่เมื่อรัฐบาลสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ รัฐบาลต้องพิจารณาเรื่องนี้และควรหาทางแก้ไขในระยะยาวด้วย เพราะการสร้างสนามบินทำให้พื้นที่โดยรอบเกิดน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ในอนาคตผมมอบให้นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.สำรวจเส้นทางใน กทม.ที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่นๆ ว่ามีกี่เส้นทาง และทำท่อระบายน้ำถูกต้องหรือไม่ หากไม่มีการทำท่อ กทม.จะประสานให้หน่วยงานทำให้ถูกต้อง หากหน่วยงานใดไม่พร้อม กทม. พร้อมจะรับโอนงานมาทำเอง และหางบประมาณก่อสร้างเองด้วย" ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นม.ร.ว.สุขุมพันธุ์นั่งรถกระบะจาก ถ.ศรีนครินทร์ โดยใช้เส้นทาง ถ.อุดมสุข ตรวจสภาพน้ำท่วมขังที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ซึ่งมีน้ำท่วม 50 ซ.ม. แต่การจราจรติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากนักศึกษาอยู่ในช่วงสอบ ทำให้จราจรเป็นไปอย่างทุลักทุเล ทั้งนี้ สำนักอนามัย (สนอ.) นำยาน้ำกัดเท้าและยาเกี่ยวกับการแก้โรคที่มากับน้ำท่วมขังจำนวน 10,000 ชุดแจกจ่ายประชาชนที่เดือดร้อนด้วย ช่วงที่ผู้ว่าฯ กทม.ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมที่ ถ.อุดมสุข มีชาวบ้านที่กำลังกั้นกระสอบทรายร้องเรียนให้ผู้ว่าฯ กทม.ช่วยดูแลจุดที่มีน้ำท่วม และช่วยระบายน้ำให้กลับสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด

วันเดียวกัน นายคิม ไชยแสงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงเหตุการณ์ฝนตกอย่างหนักในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะถนนบางนา-ศรีนครินทร์ มีน้ำท่วมขัง ทำให้การจราจรถติดขัดอย่างมาก จนนักศึกษารามคำแหงหลายรายไม่สามารถเดินทางไปเข้าสอบที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา หรือราม 2 ได้ทันตามเวลาที่กำหนดนั้นว่า เท่าที่ตนได้รับรายงานมีนักศึกษาจำนวนหนึ่งที่ขาดสอบ คาดว่าอาจจะเกิดจากปัญหาฝนตกหนักช่วงเช้าวันนี้ และเกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยแก้ปัญหา โดยขยายเวลาสอบให้นักศึกษา อนุโลมให้นักศึกษาเดิมทางมาถึงห้องสอบเกินเวลาที่กำหนดเข้าสอบได้ พร้อมทั้งนำรถบัสของทาง มหาวิทยาลัยกว่า 10 คันออกให้บริการรับ-ส่งนักศึกษาในเส้นทางต่างๆ ด้วย

"นักศึกษาที่ขาดสอบวันนี้อาจจะมีบ้าง แต่คงจำนวนน้อยมาก เท่าที่สอบถามจากคณะกรรม การคุมสอบ แจ้งว่าจำนวนนักศึกษาที่ขาดสอบไม่ได้อยู่ในระดับที่น่าผิดสังเกต หากเทียบกับช่วงที่ไม่มีปัญหาฝนตก ถือว่าจำนวนนักศึกษาที่ขาดสอบอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะถ้านักศึกษาคนไหนมาสายแต่เมื่อมาถึงแล้วอาจารย์ก็อนุโลมให้เข้าสอบได้ ดังนั้น ที่ขาดสอบคงเป็นนักศึกษาที่ดูแล้วไม่สู้ หันหลังกลับไปมากกว่า อย่างไรก็ตามนักศึกษากลุ่มนี้สามารถเข้าสอบรอบใหม่ได้ เพราะทางมหาวิทยาลัยมีเปิดให้สอบซ่อมได้อยู่แล้ว" นายคิมกล่าว

นายคิมกล่าวอีกว่า แม้ช่วงนี้จะเกิดฝนตกหนักทำให้เป็นอุปสรรคต่อนักศึกษาในการเดินทางมาสอบที่มหาวิทยาลัย แต่ทางมหาวิทยาลัยมีมาตรการเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษาอย่างเต็มที่อยู่แล้ว สำหรับการสอบของนักศึกษารามคำแหงนั้นจะยังคงจัดให้มีสอบไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยคงไม่มีการเลื่อนสอบ และยืนยันตามตารางเดิมที่กำหนดไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพการจราจรบนถนนศรีนครินทร์หลังจากมีฝนตกหนัก ทำให้น้ำท่วมขังยาวไปตลอดสายถนนศรีนครินทร์แยกศรีอุดมและแยกศรีเอี่ยมไปถึงในเขตพื้นที่ของสำโรงใต้ จ.สุมทรปราการ ติดขัดอย่างมาก เนื่องจากมีน้ำท่วมขังสูง 30-50 ซ.ม. รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสน.บางนา และเจ้าหน้าที่สำนักบรรเทาป้องกันสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร คอยอำนวยความสะดวกจราจร พร้อมประชาสัม พันธ์แจ้งให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว ซึ่งมีรถยนต์หลายคันขับลุยฝ่าน้ำท่วมจอดเสียกลางถนน เจ้าหน้าที่นำช่างมาช่วยเหลือแก้ไขเบื้องต้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝากประชาสัม พันธ์ผ่านรายการวิทยุให้ประชาชนทราบและหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณหน้าห้างเสรีเซ็นเตอร์ซึ่งมีน้ำท่วมสูง

ทางด้านจ.สมุทรปราการ บ้านเรือนใน ต.บางแก้ว ต.บางพลี อ.บางพลี ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะสภ.บางพลีน้ำท่วมหนัก รถเล็กไม่สามารถเข้าไปติดต่อราชการได้ ส่วนบริเวณถนนสุขาภิ บาล 6 ต.บางพลี อ.บางพลี มีน้ำท่วมตลอดสาย จนชาวบ้านเขตบางพลีต้องขนของหนีน้ำ ซึ่งท่วมขังมา 2 วันแล้ว แต่ระดับน้ำยังไม่ลด ทางอำเภอบางพลีระดมเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านเพื่อไปกันน้ำ พร้อมกันนี้นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อสูบน้ำออก แต่ระดับน้ำยังไม่ลดลง เพราะระดับน้ำในคลองสำโรงสูงกว่าระดับน้ำที่ท่วม ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนจนได้รับความเสียหาย

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง พล.ต.ต.สมเกียรติ ธรรมนิยาย ผบก.ตชด.ภาค 1 พร้อมด้วยนางสุรีรัตน์ ตันประเสริฐ รักษาการนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ นำสิ่งของพระราช ทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มามอบให้ราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมใน ต.โผงเผง จำนวน 364 ครอบครัว และมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประสบภัยน้ำท่วม 86 ครอบครัว

ต่อมาเวลา 11.30 น. นายสมพงษ์ อนุยุทธพงษ์ ที่ปรึกษาโครงการภูฟ้าพัฒนาตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำถุงยังชีพพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จำนวน 364 ชุดมามอบให้กับประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนใน ต.โผงเผง มีนายวิศว ศะศิสมิต ผู้ว่าฯ อ่างทอง กล่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น

นายสมพงษ์กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.อ่างทอง และจังหวัดอื่นๆ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน มีรับสั่งให้นำเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวของเครื่องใช้มามอบให้กับประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

นางแอ่นไซบีเรียบุก-น่านผวาหวัดนก



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
กันไว้ก่อน - เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดน่านออกฉีดพ่นยาป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดนก หลังจากมีนกนางแอ่นจากไซบีเรียจำนวนมากหนีหนาวมาอาศัยเกาะนอนตามสายไฟ และตามบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาล


</TD></TR></TBODY></TABLE>น่าน - นายนพพร มหากันทา ปศุสัตว์จังหวัดน่าน เปิดเผยว่า สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ออกฉีดพ่นยาป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดนกและไข้หวัด 2009 หลังมีนกนางแอ่นจากไซบีเรียหนีหนาวมาอาศัยเกาะนอนตามสายไฟ และตามบ้านประชาชนเขตเทศบาลเป็นบริเวณกว้าง ถ่ายมูลสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา พร้อมกับชะล้างมูลนกในที่ที่มีความสกปรก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของไข้หวัดนกซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

นายนพพร กล่าวว่า ช่วงปลายฝนต้นหนาว นกนางแอ่นจากไซบีเรียหนีหนาวมาหลายจังหวัดทางภาคเหนือรวมทั้ง จ.น่าน เป็นประจำทุกปี และมาอาศัยสายไฟในเขตเทศบาลเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางสำนักงานปศุสัตว์ได้มาดำเนินการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรค ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกและเก็บตัวอย่างนกนางแอ่นส่งศูนย์จังหวัดลำปางตรวจสอบหาเชื้อไข้หวัดนกเพื่อป้องกันต่อไป







"น้ำท่วม-ฝนถล่ม-กินเจ"เป็นเหตุ ผักโคราชราคาพุ่งเท่าตัว



นครราชสีมา - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะที่อำเภอพิมาย น้ำในลำน้ำมูลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรเสียหายนับพันไร่ ล่าสุดระดับน้ำทรงตัวและเริ่มที่จะลดระดับลงบ้างแล้ว แต่ยังคงส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่อยู่ติดกับริมลำน้ำมูล ซึ่งถูกน้ำท่วมขังมานานกว่า 4 วัน พื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายกว่าพันไร่ ล่าสุดทางอำเภอได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว

ขณะเดียวกันภายหลังจากที่เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ ประกอบกับเทศกาลกินเจกำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 17 ต.ค. ส่งผลให้ราคาผักตามตลาดสดในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เช่น ที่ตลาดแม่กิมเฮง อ.เมืองนครราชสีมา ขยับตัวสูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะผักที่เป็นที่นิยมที่จะใช้ในช่วงเทศกาลกินเจ อาทิ ผักขึ้นฉ่าย ปรับราคาสูงขึ้นจากเดิมก.ก.ละ 60 บาท เป็นก.ก.ละ 135 บาท ผักคะน้า จากเดิมก.ก.ละ 20 บาท เป็น 40 บาท ผักกาดหอม จากเดิมก.ก.ละ 20 บาท ขยับขึ้นเป็นก.ก.ละ 70 บาท เห็ดฟางจากเดิมก.ก.ละ 60 บาท ไปเป็น 80 บาท เห็ดหอม จากเดิมก.ก.ละ 130 บาท ขยับขึ้นเป็นก.ก.ละ 170 บาท

น.ส.พงษ์เพชร สังคพงษ์ แม่ค้าขายผักในตลาดแม่กิมเฮง กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาผักสูงขึ้นนั้น เนื่องมาจากเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตผักส่งจำหน่ายขนาดใหญ่ และขณะเดียวกันฝนที่ตกชุกอยู่ในช่วงนี้ ทำให้แหล่งผลิตผักส่งขายในจังหวัด นครราชสีมาได้รับผลกระทบ เพราะผักที่เพาะปลูกช้ำ ไม่เจริญงอกงาม เน่าเสียง่าย นอกจากนี้ ในช่วงนี้ยังเริ่มจะเข้าสู่เทศกาลถือศีลกินเจ จึงทำให้ราคาผักปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเมื่อถึงช่วงเทศกาลราคาผักจะปรับตัวสูงขึ้นอีกมาก

"ออสการ์"เด็กอังกฤษยอดอัจฉริยะ! ไอคิว160เท่า"ไอน์สไตน์-ฮอว์กิ้ง"



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>สถาบันเมนซา สมาคมเด็กอัจ ฉริยะชื่อดังของอังกฤษ ต้อนรับ สมาชิกใหม่ เด็กชายออสการ์ ริงลีย์ วัย 2 ขวบ 5 เดือน 11 วัน ในฐานะชาวอังกฤษที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้รับเกียรติเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม ภายหลังผลการทดสอบ "ไอคิว" หรือความเฉลียวฉลาดทางสติปัญญาของหนูน้อยพุ่งทะลุจุดเดือด 160 คะแนนเต็ม เป็นระดับไอคิวเท่ากับ 2 อัจฉริยะฟิสิกส์โลก ทั้งอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และสตีเฟน ฮอว์กิ้ง

ดร.ปีเตอร์ คอนดอน เจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเด็กพรสวรรค์เป็นเลิศของอังกฤษ ซึ่งมีส่วนร่วมในขั้นตอนทดสอบไอคิวเด็กชายออสการ์ กล่าวว่า เด็กอัจฉริยะคนนี้ทำคะแนนสูงถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่ทำได้ แต่ต้องรอทดสอบซ้ำอีกครั้งเมื่ออายุมากขึ้น

นายโจ ริงลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีไอที วัย 29 ปี พ่อหนูน้อยออสการ์ กล่าวว่า ลูกชอบตั้งคำถามถึงสิ่งรอบๆ ตัวตลอดเวลา พอเริ่มรู้เรื่องก็ชอบศึกษาชีวิตสัตว์โลกและประวัติศาสตร์อาณาจักรโรมันโบราณ ล่าสุด เพิ่งเล่าให้แม่ ฟังถึงวัฏจักรการสืบพันธุ์ของนกเพนกวิน

"พ่อแม่ทุกคนก็ต้องคิดว่าลูกของตัวเองเป็นคนพิเศษ แต่กับออสการ์เรารู้ว่าลูกเราพิเศษไม่เหมือนใครจริงๆ" โจระบุ

ด้านนางฮันนาห์ วัย 26 ปี แม่เด็กชายออสการ์ เผยว่า ลูกเริ่มพูดได้ตั้งแต่อายุ 9 เดือน พออายุ 18 เดือนเริ่มอ่านออกและท่องศัพท์ได้คล่อง แคล่ว กระทั่งอายุ 2 ขวบก็รู้คำศัพท์มากมายหลายพันคำ ตนกับสามีพยายามส่งเสริมให้ลูกมีโอกาสได้ลองทำกิจกรรมทุกอย่างที่ลูกสนใจ นอกจากนั้น ยังมีพรสวรรค์ด้านดนตรี เพียงแค่นั่งฟังเพลงคลาสสิคก็แยกแยะเครื่องดนตรีแต่ละชนิดที่บรรเลงอยู่ในเพลง

"เมื่อเร็วๆ นี้เพื่อนมาเยี่ยมเราที่บ้าน ตอนนั่งเล่นอยู่ในสวนเขาชี้ให้ออสการ์ดูนกบนต้นไม้แล้วถามว่า "นกร้องจิ๊บๆ ใช่ไหม?" แต่ออสการ์ตอบว่า "นั่นไม่ใช่นกร้องจิ๊บๆ ครับ แต่เป็นนกพันธุ์บลูติ๊ด" ความจำด้านคำศัพท์ของลูกเรามันน่าอัศจรรย์จริงๆ และยังพูดรูปประโยคยากๆ ได้เกินเด็กทั่วไป" ฮันนาห์กล่าว

แฮอุนแด มหาวินาศมนุษยชาติ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีเรื่อง "HAEUNDAE" (แฮอุนแด มหาวินาศมนุษยชาติ) พูดถึงมหันตภัยจากคลื่นยักษ์ สึนามิ ที่เข้าโจมตีชายหาดแฮอุนแด

ชายหาดชื่อดังซึ่งเป็นจุดพักร้อนที่มีชื่อเสียงทางชายฝั่งตอนใต้ของเกาหลี

ในฤดูกาลท่องเที่ยวของแต่ละปีชายหาดแฮอุนแดจะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนนับล้านคน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

แต่ในฤดูร้อนปีนี้ช่วงเวลาแห่งความสุขของผู้คนบนชายหาด จะถูกพรากไปด้วยคลื่นยักษ์สึนามิ พวกเขามีเวลาเอาตัวรอดเพียง 10 นาทีเท่านั้น

หนังนำแสดงโดย ซุลยุงกู, ฮาจีวอน, ปักจุงฮุน, อึมจุงฮวา, ลีมินคี, คังยีวอน, คิม อินวอน

ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นเนื้อหาดราม่าที่จับใจ แวดล้อมด้วยตัวละครหลักซึ่งผูกพันกันด้วยความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยง

มันซิก ซึ่งเตรียมจะขอ ยอนฮี แฟนสาวแต่งงาน แต่ก็ถูกขัดขวางจากมหันตภัยที่ไม่มีใครคาดคิด

คิมวี ซึ่งพบกับลูกสาววัย 7 ขวบเป็นครั้งแรก แต่ไม่สามารถบอกสาวน้อยได้ว่าเขาเป็นพ่อ และ ฮุงซิก ซึ่งเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยคนที่เขารัก ส่วน ฮีมิ ตกหลุมรัก ฮุงซิก แม้ว่าเพื่อนๆ จะไม่เห็นด้วยก็ตามที

แฮอุนแดฯ เข้าฉายให้ชมเฉพาะโรงในเครือเอเพ็กซ์ ตั้งแต่ 15 ต.ค.นี้

บุชชมเอเชียฟื้นศก.โลก



เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ของสหรัฐ กล่าวระหว่างเยือนเกาหลีใต้ ในที่ประชุมองค์ความรู้โลก 2009 กรุงโซล ชื่นชมประเทศในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่า จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น และไทย มีส่วนหลักในการช่วยฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาให้กลับขึ้นมาอยู่ในภาวะที่ดีขึ้น เนื่อง จากประเทศเหล่านี้มีนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ

รณรงค์ปลูกจิตสำนึกลดภัยพิบัติ



พล.ท.น.พ.อำนาจ บาลี ผอ.สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย กล่าวระหว่างแถลงข่าวการจัดโครงการปลูกจิตสำนึกในวันลดภัยพิบัติโลก ซึ่งสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ ร่วมกับสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ จัดขึ้น เนื่องในโอกาสที่องค์การสหประชาชาติประกาศให้ทุกวันพุธที่ 2 ของเดือนต.ค.ของทุกปีเป็นวันลดภัยพิบัติโลก ปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 14 ต.ค.

พล.ท.น.พ.อำนาจ กล่าวต่อว่า ปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้วที่มีการจัดกิจกรรม เพื่อตอกย้ำให้ประชาชนตระหนักในการเรียนรู้และพร้อมรับภัยที่มาใกล้ตัวมากขึ้น ตั้งแต่ที่บ้าน ที่ทำงาน เช่นการเกิดอัคคีภัย ตึกถล่ม และแผ่นดินไหวที่ไม่มีเหตุบอกล่วงหน้า รวมถึงอุทกภัยน้ำท่วม น้ำป่าดินโคลนถล่ม ดังนั้นประชาชนในแต่ละพื้นที่ ต้องดูแลสิ่งใกล้ตัวและเตรียมการป้องกัน เช่น โรงเรียน โรงแรม ห้องจัดเลี้ยง ที่มีตึกสูง ต้องมีทางหนีไฟพร้อมติดป้ายบอกทางชัดเจน รวมทั้งติดไฟส่องสว่างนำทางที่มีแสงเพียงพอ ตลอดจนจัดซ้อมระบบและผู้อยู่อาศัย ส่วนบ้านหรือตึกแถวที่ติดเหล็กดัดต้องมีการซ้อมหนีไฟและมีจุดวางกุญแจที่ชัดเจน เพื่อที่เวลาตกใจคนในบ้านจะไม่สับสน

พล.ท.น.พ.อำนาจ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินกิจกรรม แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 ในโรงเรียนต้นแบบของพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิ ส่วนที่ 2 พื้นที่ในจังหวัดที่มีสถานีกาชาดตั้งอยู่ 12 สถานี ได้แก่การจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้านภัยพิบัติ กิจกรรมถาม-ตอบ รณรงค์คัดแยกขยะ บอกเล่าเรื่องภัยพิบัติผ่านรายการวิทยุและโทรทัศน์ การอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขเรื่องภัยพิบัติและภาวะโลกร้อน และส่วนที่ 3 ดำเนินการในส่วนกลาง กรุงเทพฯจัดกิจกรรมเดินรณรงค์เนื่องในวันลดภัยพิบัติโลก ที่ลานตะวันยิ้ม สวนลุมพินี ในวันเสาร์ที่ 17 ต.ค. โดยเริ่มลงทะเบียนและตั้งขบวนเดินรณรงค์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น.

 

[19:09:36] Chachawal: 7 Sins บาป 7 ประการ
[19:10:45] Chachawal: 1.ความลุ่มหลงในกามคุณ 2.ความตะกละ 3.ความโลภ 4.ความทุกข์ ท้อแท้ ขมขื่นใจ 5.ความโกรธ อาฆาต เกรี้ยวกราด 6.ความอิจฉาริษยา 7.ความยิ่งยโสโอหัง มานะทิษฐิ
[19:11:11] Chachawal: แบ่งเป็นราคะ โทสะ โมหะ ได้แก่
[19:12:31] Chachawal: ราคะ 1.ความลุ่มหลงในกามคุณ 2.ความตะกละ 3.ความโลภ โทสะ 1.ความโกรธ อาฆาต เกรี้ยวกราด 2.ความอิจฉาริษยา โมหะ 1.ความทุกข์ ท้อแท้ ขมขื่นใจ เสียกำลังใจ 2.ความยิ่งยโสโอหัง มานะทิษฐิ
[19:57:02] Chachawal: ซึ่ง บาป7ประการ ตามกระบวนการล้างโลก
[19:57:25] Chachawal: จะมีโรคภัยไข้เจ็บแต่ละประเภทออกมา เพื่อกำจัด คนที่มีบาปประการนั้นๆ โดยเฉพาะ
[19:57:42] Chachawal: เช่น ความลุ่มหลงในกามคุณก็ AIDS
[19:57:54] Chachawal: ความอิจฉาริษยา ก็มะเร็ง
[19:58:38] Chachawal: ความทุกข์ ท้อแท้ ขมขื่นใจ จะเป็นโรคเกี่ยวกับจิต โรคซึมเศร้า

 

เตือนอีก 10 ปี น้ำแข็งขั้วโลกเหนือช่วงฤดูร้อนจะละลายหมด​

​

อังกฤษ 15 ต.ค. - ทีมนักสำรวจของอังกฤษ ระบุขั้วโลกเหนือในช่วงฤดูร้อนจะปราศจากน้ำแข็งในอีก 10 ปีข้างหน้า

ทีมนักสำรวจชาวอังกฤษ เปิดเผยข้อมูลหลังการสำรวจขั้วโลกเหนือเป็นเวลา 3 เดือนว่า ภายใน 10 ปีข้างหน้า ขั้วโลกเหนือจะกลายเป็นทะเลในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากทีมสำรวจพบว่าพื้นที่ที่เป็นน้ำแข็งส่วนใหญ่ของขั้วโลกเหนือมีความหนาเพียง 1.8 เมตร และจะละลายในช่วงฤดูร้อน ซึ่งตามปกติแล้วน้ำแข็งจะมีความหนามากกว่านี้และจะไม่ละลายอย่างรวดเร็ว

ความเห็นของนักสำรวจอังกฤษครั้งนี้ มีขึ้นก่อนที่การประชุมเพื่อร่างข้อตกลงว่าด้วยโลกร้อนฉบับใหม่จะเปิดฉากขึ้น ที่กรุงโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก ในเดือนธันวาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

2009-10-15 09:34:56

สหประชาชาติเผยผู้คนทั่วโลกพันล้านคนกำลังอยู่ในภาวะอดอยาก ​

​

สหประชาชาติ 15 ต.ค. - รายงานฉบับล่าสุดของสหประชาชาติ ระบุว่า ผู้คนทั่วโลกมากเป็นประวัติการณ์ถึง 1 พันล้านคน กำลังอยู่ในภาวะอดอยากหิวโหย และจำนวนผู้คนที่อดอยากนี้จะเพิ่มขึ้นอีกหากรัฐบาลไม่มีการทุ่มงบประมาณมากขึ้นในด้านการเกษตร

รายงานของสหประชาชาติ ระบุด้วยว่า ขณะนี้ประเทศต่างๆ ราว 30 ประเทศ กำลังต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน ซึ่งรวมไปถึงประเทศในแอฟริกา 20 ประเทศ ทั้งนี้ ตัวเลขผู้คนที่อดอยากทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ผู้นำโลกจะมีการกำหนดเป้าหมายเมื่อ 9 ปีก่อน ว่าจะลดจำนวนผู้คนที่อดอยากลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2558 หรือในอีก 6 ปีข้างหน้า .-สำนักข่าวไทย

2009-10-15 09:36:23

แคลิฟอร์เนียจะจัดการฝึกซ้อมรับมือแผ่นดินไหวขนาดใหญ่​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

​

ลอสแองเจลิส 15 ต.ค.- ประชาชนหลายล้านคนในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐลงชื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแผนการฝึกซ้อมรับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหว และนับเป็นการฝึกซ้อมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ

ในวันนี้โรงเรียนและธุรกิจหลายแห่งจะซ้อมการ “หมอบ หลบ และจับยึด” คำสั่งพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเข้าร่วมการฝึกซ้อม ส่วนโรงพยาบาลและหน่วยดับเพลิงบางแห่งจะจำลองสถานการณ์ให้เหมือนจริงที่สุดด้วยปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ขณะที่ประชาชนจะแสดงท่าทางเป็นเหยื่อแผ่นดินไหว โดยในขณะนี้มีประชาชนถึง 6,700,000 คนแล้วที่ลงชื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมดังกล่าว

เมื่อปีที่ผ่านมา รัฐแคลิฟอร์เนียจัดการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีประชาชนเข้าร่วมถึง 5,500,000 คน องค์กรจัดงานจึงตัดสินใจจัดการฝึกซ้อมดังกล่าวขึ้นเป็นประจำทุกปี
สำหรับในปีนี้การฝึกซ้อมจะถูกจัดขึ้นในสัปดาห์เดียวกันกับการครบรอบ 20 ปี ของแผ่นดินไหวโลมาพรีตา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 63 คน และทำให้เกิดความเสียหายมูลค่าเกือบ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 201,120 ล้านบาท) ในพื้นที่รอบอ่าวซานฟรานซิสโก. -สำนักข่าวไทย

2009-10-15 16:57:07

เร่งดับไฟป่าออสเตรเลีย ​

​

ออสเตรเลีย 15 ต.ค. - เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมกำลังสกัดไฟป่าในรัฐควีนส์แลนด์ และรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย

สถานการณ์ไฟป่าในรัฐควีนส์แลนด์และรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ล่าสุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งดับไฟป่ากว่า 20 จุด ขณะที่ในอีกหลายพื้นที่ ทางการยังคงมาตรการเตือนภัยระดับสูงติดต่อกันเป็นวันที่สอง ที่เมืองมินเดน ทางตะวันตกของเมืองบริสเบน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังจับตาดูสถานการณ์ไฟป่าอย่างใกล้ชิด หลังไฟป่าลุกลามมายังบ้านเรือนหลายหลังจนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ในการควบคุมเพลิง

ส่วนที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลาทั้งคืนพยายามควบคุมไฟป่าไม่ให้ลุกลามมายังบ้านเรือนของผู้คน อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่เริ่มเย็นลงในรัฐนิวเซาท์เวลส์ อาจช่วยให้การดับไฟป่ามีประสิทธิภาพมากขึ้น. -สำนักข่าวไทย

2009-10-15 15:05:42

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดโจมตีปากีสถานพุ่งเกือบ 40 คน​

​

ลาฮอร์ 15 ต.ค. - เจ้าหน้าที่ปากีสถาน กล่าวว่า เหตุระเบิดโจมตีพร้อมกันหลายจุดที่เมืองลาฮอร์และโกฮัตในวันนี้ พุ่งขึ้นเป็น 39 คนแล้ว

ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่นในปากีสถาน แถลงว่า กลุ่มมือปืนหลายสิบคนพร้อมอาวุธและระเบิด บุกเข้ามายังโรงเรียนนายร้อยคอมมานโด โรงเรียนตำรวจ และสำนักงานสืบสวนกลางปากีสถาน ผู้เสียชีวิตในจำนวนดังกล่าวประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ ผู้ก่อการร้ายและประชาชน เหตุก่อการร้ายโจมตีหลายจุดพร้อมกันในปากีสถานยิ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มติดอาวุธมีกำลังโจมตีใจกลางปากีสถานได้มากขึ้น และสะท้อนให้เห็นถึงความบกพร่องด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในปากีสถาน.-สำนักข่าวไทย

2009-10-15 17:34:52

เด็กต่ำกว่า10 ปีควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 2 ชุด​

​

สหรัฐ 15 ต.ค. – บริษัทซาโนฟี ปาสเตอร์ ผู้ผลิตวัคซีนเปิดเผยว่า ผลการทดลองวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่บ่งชี้ว่า เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีควรได้รับการฉีดวัคซีน 2 ชุดเพื่อให้เกิดการป้องกันโดยสมบูรณ์

เจ้าหน้าที่ส่วนกลางของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า ข่าวดังกล่าวไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะเด็กวัยดังกล่าวต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดตามฤดูกาล 2 ชุดอยู่แล้ว ด้าน ดร. แอนโธนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผลการทดลองนี้สนับสนุนผลการทดลองของรัฐบาลที่พบว่าการฉีดวัคซีนเพียงหนึ่งชุดให้แก่เด็กเล็กนั้นได้ผลพอประมาณแต่ไม่เพียงพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันโดยสมบูรณ์

บริษัทซาโนฟี เป็นเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับใบอนุญาตในสหรัฐ เพื่อผลิตวัคซีนสำหรับเด็กอายุต่ำสุด 6 เดือน บริษัทนี้ได้ทดลองฉีดวัคซีนจำนวน 2 ชุด ห่างกัน 21 วัน ให้แก่เด็ก 474 คน อายุระหว่าง 6 เดือน -9 ปี จากผลการทดลองพบว่า มีเพียงครึ่งหนึ่งของเด็กอายุ 6 เดือน – 3 ปี และ 3 ใน 4 ของเด็กอายุ 3-9 ปี ที่เกิดภูมิคุ้มกันเพียงพอหลังได้รับวัคซีนเข้มข้นสูง 1 ชุด แต่สำหรับผู้ใหญ่ วัคซีนความเข้มข้นสูงเพียงหนึ่งชุดก็เพียงพอแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-10-15 14:02:25

ที่มา http://news.mcot.net

 

มหันตภัยของโลก​

​

มหันตภัยที่กำลังคุกคามโลกมนุษย์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต พอสรุปได้ดังนี้

1. ภัยจากน้ำท่วม และมลภาวะสิ่งแวดล้อม
2. ภัยจากสงครามเศรษฐกิจ
3. ภัยจากสงครามพลังจิต
4. ภัยจากสงครามโลกครั้งที่ ๓
5. ภัยจากสงครามจักรวาลระหว่างดวงดาว
6. ภัยจากอุกกาบาตขนาดยักษ์ที่หลุดจากดวงอาทิตย์ กำลังเดินทางมาชนโลก

"ถึงเวลาแล้วที่มนุษย์เราควรจะดำรงชีวิตอยู่อย่างธรรมชาติ ปฏิบัติยึดมั่นในปัญจศีล พัฒนาจิตใจให้มีคุณธรรม ศีลธรรม เพื่อให้ธรรมนำโลก ก็คงจะช่วยผ่อนคลายจากหนักเป็นเบา ในการที่มนุษย์จะเผชิญมหันตภัยข้างต้นได้ไม่มากก็น้อย..." เชื่อหรือไม่เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนตัวของท่าน?

คัดจากหนังสือ" วิธียุติสงครามจักรวาล " พล.ต.ต. พิบูลย์ ภาษวัธน์ รวบรวม

http://www.4floor.com/nextcom/sawasdee3/2000/book1-4.html

 

ภัยจากสงครามจักรวาลระหว่างดวงดาว
โดยคุณ wincha

​

เรื่องของเกรย์(มนุษย์ต่างดาว)ในอีกมุมนึง แปลโดย คุณ jesdath​

---การลักพาตัว จะเกิดมากที่สุดในอเมริกา เพราะการยินยอมจากรัฐบาลเหตุผล เพื่อการวิจัยยีนส์ และการผสมข้ามพันธุ์--ว่ากันว่า ชาวเกรย์ ให้ทุนสถาบันในอเมริกา 10 แห่ง เพื่อการวิจัยโตลนนิ่งอย่างเดียว--เพราะพวกเขาต้องพึ่งการสืบพันธุ์แบบนี้ --แต่มีข้อเสียคือรุ่นหลังจะอ่อนแอลง ชื่อของพวกเขา มาจากสีผิวที่เราจะเห็นเป็นสีเทา--แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ ​

1. มาจากกลุ่มดาว โอเรี่ยน เป็นโอเรียนเกรย์ชนิดที่ 1
2. โอเรียนเกรย์ชนิดที่ 2
3. เกรย์สปีชี่ย่อย​

นอกจากนี้จะมีพวก เกรย์สปีชี่ย่อยลงไปอีก 22 แบบ จากดาว ริเกล -Rigel,เออร์ซ่า เมเจอร์-Ursa Major ,ดราโคนิส- Draconis และ ซีต้า เร็ตติคิวลั่ม-Zeta Reticulum​

--เราต้องพยายามเข้าใจพวกเขา เพราะพวกเขามีจุดประสงค์เพื่อเข้าครอบครองโลก โดยเหตุผลของความเห็นแก่ตัว-โลภ​

เกรย์ จากโอเรี่ยน มี 2 แบบ แบบตัวใหญ่ และอีกแบบตัวเล็ก ตัวเล็กจะถูกโคลนนิ่งจากพวกตัวใหญ่ ซึ่งเรามองดูจะเหมือนกันราวกับตุ๊กตา-หรือปั๊มออกมาเป็นล็อตๆ ​

--เกรย์ จะมีจุดอ่อนในระบบทางเดินอาหาร และมีจิตสำนึกร่วมกัน ต่างกันกับพวกเราที่มีจิตสำนึกเดี่ยวเฉพาะบุคคล​

--ศาสนาของเกรย์ คือวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ทางจิตวิญญาณ​

--โครงสร้างทางสังคม คือการเคารพเชื่อฟัง และทำหน้าที่​

--การยึดโลก จะใช้การควบคุมจิตมนุษย์มากกว่าใช้กำลัง- -ตามความเห็นของผม ในอเมริกา น่าจะเกิน 80 เปอร์เซนต์ที่เขาควบคุมได้--บางประเทศแถบฝรั่งเศส ถึง 100 เปอร์เซนต์-ที่มีอุปกรณ์ฝังอยู่ในตัวคน​

---ตามข้อมูลล่าสุด เค้าได้ขายประเทศให้กับเกรย์เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในภาวะจำยอม เนื่องจากเทคโนโลยี่ทางอาวุธ ยังห่างชั้นจากเกรย์มากนัก ประมาณว่า ดร.กับเด็กอนุบาล​

---ในโครงการ รัดจ์ ได้เกิดการวิวาทกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ ที่เห็นพวกเกรย์เอาคนไปผ่าทำเป็น มนุษย์แมงมุมหกขา อะไรต่างๆ(จะมองมนุษย์เหมือนคนใจบาปมองดูเป็ดไก่ เตรียมชำแหละ) จนหน่วยเอ็มเจ-12 ได้เข้ามาเคลียร์ อาวุธทุกชนิด ทำอันตรายพวกเขาไม่ได้ หน่วยเอ็มเจ 60 คน เสียชีวิตทั้งหมด--องค์การลับได้สั่งหยุดการทดลองร่วมทันที- -นักวิทยาศาสตร์ ได้กลับบ้าน และแอบเอาเอกสารลับออกมา บอกญาติว่าถ้าพวกเขาถูกฆ่าตายให้แฉเอกสารทันที​

---นี่คือที่มาของการรั่วไหลของข่าวจาก แอเรีย 51 และที่อื่นๆ​

--โดย ที่อเมริกามีกฏหมายใหม่ ให้คนทั่วไปสามารถขอดูเอกสารของทางการได้แต่เอกสารเกี่ยวกับยูเอฟโอ จะถูกลบด้วยหมึกสีดำ ดูได้ที่เวป The black Vault แต่ก็พอมีเค้าเงื่อนให้ติดตามได้ ว่ามีจานบิน และเอเลี่ยนอยู่จริง​

---อำนาจ และเทคโนโลยี่เป็นสิ่งจำเป็น ในที่สุดองค์กรลับ ที่ชื่อเหมือนสีทาบ้าน ก็ยอมกลับไปทำงานกับพวกเกรย์อีก ทิ้งช่วงไป 2 ปี​

--ใต้ดินแถวแอเรีย 50 มีฐานใต้ดิน 7 ชั้น มีชาวต่างดาวกว่าหมื่นคน ทำงานวิจัยร่วมกับมนุษย์ เช่นการส้ร้างเครื่องบินเร็วกว่าเสียง 8 เท่า วิศวพันธุกรรมอะไรต่างๆ โดยมีงบลับ ที่ถ้ารู้ตัวเลขแล้วจะสลบ มะกันทุ่มสุดตัว--เพราะอยากเป็นเจ้าโลก-ทั้งงบที่มาจากกลุ่มเศรษฐียุโรป เงินที่ได้จากการขายยาเสพติด--ให้กับคนในชาติของตัวเอง​

--นักวิทยาศาสตร์ ที่เคยทำงานในนั้นถึงกับบอกว่า หมดหวังกับอนาคตของโลกแล้ว เพราะพวกนี้เข้าคุมทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องเงินทอง-ไอเอ็มเอฟ แม้กระทั่งรายได้จากเว็ปโป๊-ที่มากมายมหาศาล​

--เด็กผู้หญิงคนหนึ่งออกมา โวยวายบอกว่า เพื่อนหล่อนทั้ง 7 คน น่าจะเป็นตัวโคลนนิ่งทั้งหมด--อีกคนเคยทำงานองค์กรลับ บอกว่า พ่อเค้าก็เป็นตัวโคลนนิ่งเหมือนกัน​

--จานบินตกที่รอสเวลล์ เป็นการจัดฉาก เพื่อจะอ่อยเหยื่อให้องค์การลับ เข้ามาดูแลเรื่องนี้ และก็สมใจ เกรย์สยายปีกไปทั่วโลกแล้ว​

--เกรย์ได้ติดต่อลับๆกับรัฐบาลของมหาอำนาจประมาณ 5 ชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนในแบบเดียวกัน--- เทคโนโลยี่กับชีวิตมนุษย์ตาดำๆ ​

การกินอาหารของเกรย์ จะใช้เครื่องชูรส และต่อมต่างๆ ที่มีฮอร์โมน ได้จากการสกัดจากอวัยวะมนุษย์ และสัตว์ โดยจะอมไว้ใต้ลิ้น บางข่าวบอกว่าเกรย์จะลงอาบในสารละลายที่ว่านี้ เพื่อให้ซึมเข้าในตัว​

--เดิม ทีเกรย์ก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ แต่เนื่องจากการรบกันเอง โดนรังสีโดยตรง และตกค้างหลายพันปี จนยีนส์เสื่อม--นอกจากนั้น อะตอมที่รับ รังสีอย่างแรงนานๆ ทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของเวลา-อวกาศ ทำให้ดวงดาวของพวกเขาเหมือนยานอวกาศ ที่สามารถวาร์ปผ่านรูหนอนเข้ามาใกล้โลก มากขึ้น​

--เนื่องจากการแบ่งแยกอัตตา ทำให้เกิดสงคราม พวกเขาจึงสร้างจิตสำนึกร่วม โดยใส่ไว้ในยีนส์--รวมทั้งเกรย์บางพวกก็ใส่ ยีนส์ของพืชเข้ามาด้วย--จึงกินอาหารน้อยมาก ใช้พลังงานน้อยแบบพืช--มีแร่ในหินแถบเนวาด้า ที่เป็นพวกเหล็ก ที่เขาต้องใช้เป็นอาหาร จึงนับว่าเหมาะสมที่อยู่แถบนั้น​

--เกรย์คิดว่า รักร่วมเพศแบบโฮโมเซ็กชวล-ชายรักชาย ไว้ประโยชน์ จึงร่วมกับองค์กร คิดเชื้อโรคเอดส์ขึ้นมาสำเร็จ และทดลองในเขตสงวนของอืนเดียน 4 จุด นอกนั้นส่งให้เป็นวัคซีนของ องค์การอนามัยโลก---จนแพร่มากในแถบอัฟริกา- -ซึ่งไม่ได้มีสังคมมั่วเพศ จนคนที่นั่นสังเกตว่า คนที่ไปหาหมอ ถูกฉีดยามา จะเป็นเอดส์ทุกคน และอเมริกาก็ขายยาต้านเอดส์แพงๆอีก- --จริงๆแล้ว-เอดส์หาย ได้โดยไม่ต้องใช้ยา--ใช้สนามไฟฟ้าแรงสูง ความถี่สูงหลายจิกะเฮิทซ์ วันละ 2 ชั่วโมง ประมาณ 10 ครั้ง เอดส์จะหายไปเอง--ข้อมูลจากเว็ปอังกฤษ เกี่ยวกับ เอเลี่ยนเบส--บอกไว้ละเอียดว่า ไรส์ไทม์ ฟอลล์ไทม์เท่าไหร่ --ข้อมูลที่ผมหายไปแล้ว​

---แล้วไวรัส หวัดนก หวัดหมู ซาร์ โรคสมองฝ่อ --ซึ่งมนุษญ์เรายังไม่มีเทคโนโลยีดัดแปลงไว้รัสได้- -จุดประสงค์คือทำลาย มนุษย์และแหล่งอาหาร คือ เนื้อวัว เนื้อไก่--ให้พวกเราอดตาย​

---มี เทคโนโลยีการถอดวิญญาณของมนุษย์ออกมาขังไว้ เก็บข้อมูลความทรงจำและดีเอ็นเอ ไว้ในเครื่องคล้ายๆคอมพิวเตอร์ -สร้างตัวโคลนนิ่งได้ ใน 3 ชั่วโมง แล้วอัดความจำและวิญญาณกลับไป โดยจะฝังพวกชิป และฉีดยาบล็อคสมองไว้ (การฝังมี 2 แบบ ฝังเป็นวัตถุ และ ไม่มีวัตถุ เป็นก้อนพลังงาน)ร่างเดิมเอาไว้ทดลองต่อไปได้อีก- -รีไซเคิ่ล ​

เกรย์ชั่วร้าย ก็ร้ายจริงๆ แต่เป็นเพียง 5 เปอร์เซนต์ของชาวต่างดาวที่เราได้พบนะครับ- -บางพวกอยู่ในโลกมาเป็นแสนปี --โดยอยู่ใต้ทะเล เป็นเมือง มีประชากรเป็นแสนๆ--คนที่ได้พบมนุษย์ต่างดาว จะถูกข่มขู่ โดยชายชุดดำ บางพวกก็มีนามบัตรของ ทางนาซ่า หรือเอ็นเอสเอ​

--แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่อยู่ใต้ทะเล พวกนี้จะโหดเหี้ยมมาก พวกที่มาจากดาวพลีอิดเดี้ยนจะดี เป็นผู้หญิงก็จะสวยน่ารัก อายุยืนราว 400 กว่าปี​

--เดิมที ในสมัยของทรูแมน ได้พวบยานบินตกที่เมกซิโก แต่ทางการอเมริกาได้ขอเอาซากยานและศพมาดื้อๆ พบว่า เป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายแมลง และพบว่าไม่มีความรู้พอที่จะวิเคราะห์ระบบขับเคลื่อนของยานได้​

--ต่อมา ได้พบยานตกอีก มีสิ่งมีชีวิตรอดตายมา 1 ตัว พบว่าไม่ค่อยกินอาหาร ใช้พลังงานน้อย ได้พา ดร.ด้านสัตว์ไปวิเคราะห์ ปรากฏว่า งง ครับ ดร.ว่า ระบบเหมือนพืช จึงให้ ดร.ทางพืชเข้าไปดู พบว่า โอเค เหมือนพืชมาก ปีแรกๆ พยายามสื่อสาร แต่เขาจะพูดไปอีกทาง หรือหลบเลี่ยง ปีที่ 2 พูดมากขึ้น ตั้งชื่อว่า EBE(extra-terrestrial biological entities)-- สิ่งมีชีวิตทางชีววีทยา จากต่างดาว ซึ่งก็คือ เกรย์ตัวแรกนั่นเอง ปีที่ 3 EBE ตายเรียบร้อย อาจจะทดลองกะเค้ามากมาก เฉามือตายเลย​

Dr. Joshua David จบทางจิตวิทยา ได้ค้นคว้าเรื่องลี้ลับต่างๆ ทางศาสนา องค์กรลับทางศาสนา และเรื่องต่างดาว ได้พบกับคนทรง แบบแชนเนิลลิ่ง โดย วิญญาณชื่อ Vynnamus ได้พูดภึงภารกิจที่ชั่วร้ายของเกรย์เช่นกัน​

---ชาวพลีอิเดี้ยนได้กล่าว ถึงการแกล้งทำจานบินตกที่รอสเวลเช่นกัน เป็นการยืมดาบฆ่าคนของชาวเกรย์ ใช้องค์กร์ลับปั่นป่วนไปทั่วโลก สร้างสงครามกลางเมือง เพื่อขายอาวุธ เข้ายึดแหล่งทรัพยากร เชื่นเหมืองทอง เหมืองเพชร น้ำมัน​

-- สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่เป็นกายเนื่อ มองเห็นได้ มีเป็นบางส่วน บางส่วนเป็นพวกกายทิพย์ บางทีจะเห็นเป็นเงาๆ หรือจะเห็นได้ในรูปถ่าย เนื่องจากพวกเกรย์ หรือพวกอื่นมีอุปกรณ์ที่สามรถสลายร่างให้เป็นพลังงานได้ แต่ก็อาจเห็นได้จากกล้องถ่ายรูป ตาเรามองไม่เห็น ​

ปี 1989-1973 จากรายงานของ MJ-12 มีการลักพาตัวประมาณหลายพันรายแล้ว​

-ปี 1979 หน่วยเดลต้าฟอร์ซพยายามจะลงไปปล่อยคนที่ถูกจับมาทดลอง บางรายเป็นเด็กถูกฆ่าเอาอวัยวะเป็นอาหารของเกรย์ ทหาร 66 ถูกฆ่าตายทั้งหมด ไม่เหลือรอดสักคน​

--1984หน่วย MJ-12 ส่งสครืปท์เรื่อ อีที และ Close Encounter of the third kind พร้อมช่วยโปรโมทอย่างลับๆ เพื่อสร้างภาพ ให้ชาวต่างดาว ดูน่ารักสำหรับมนุษย์และการแลกเปลี่ยนประชากรตามหนังเรื่องที่ 2 ก็เกิดขึ้นจริงๆ​

---ภาพยนต์ ดิเอ็กซ์ไฟล์ ส่วนใหญ่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง--ล่าสุด Takenจาก สปิลเบริก ผู้สร้างเรื่อง อีที ก็สับแหลก การกระทำของเกรย์ และองครฺกรลับที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีทั้งกองทัพสามเหล่า ,หน่วยความนั่นคง, หน่วยราชการลับ--องค์กร อิลลูมิเนตติ -ไตรเลทเทอราล และ พวกบิลเดอร์เบอร์เกอร์(บิลเกตต์และเชื้อพระวงศ์ยุโรปก็เป็นพวกนี้- กุมบังเหียนโลก-สำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิส)---อันนี้เพิ่มเติมจากผมเองครับ ​

ขอแก้ข่าวเรื่องรอสเวลล์ ในยานลำนั้นมีเกรย์ 4 ตัวครับ ตายทันที 1 ตัว และช่วง 1984 MJ-12 ก็เตรียมจะแถลงความจริงเรื่อง EBE สู่สาธารชนเช่นกัน และยังมี นายมัวร์ ได้เขียนเรื่องจานบินตกที่รอสเวลล์ไว้อย่างละเอียด จึงได้เชิญนาย มัวร์ มาอัดวีดิโอไว้ด้วย มีการอ้างถึงพระเยซูคริสต์ EBE ก็รับมุขทันที โดยอ้างว่าพวกตนนี่แหละได้ทำการการสร้างพระคริสต์ขึ้นมา โดยวิธีทางพันธุกรรม และมีการฉายวีดิโอโฮโกรมสามมิติ ​

ตั้งแต่กำเนิดของโลก จนกระทั่งการถูกตรึงการเขน แต่ภาพไม่ได้ชัดเจนนัก เพราะระบบของภาพยนต์ไม่เข้ากันทางความเร็ว แต่ผลกระทบนี้ มีมากมายมหาศาลต่อชาวโลก เพราะความเชื่อทางศาสนาที่มีมานับพันปีจะถูกสั่นคลอน และถอนออกไปจากจิตใจมนุษย์ ทำให้เรารู้สึกเคว้งคว้างว่างเปล่า-- ทำไมพระเจ้าจึงกลายเป็นชาวต่างดาวไปได้เล่า หลังจากพวกนักวิชาการได้วิเคราะห์แล้ว จึงงดการเผยแพร่ภาพยนต์ดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง ​

จากการสำรวจของทางกองทัพอเมริกัน แยกเกรย์เป็น 3 แบบ​

1. เกรย์ ชนิดที่ 1 สูง 3 ฟุตครึ่ง หัวโต ตาโต หัวตาเฉียงลง เก่งและเคารพเทคโนโลยีเป็นศาสนา ไม่คิดร้ายต่อมนุษย์​

2. ชนิดที่สอง นิ้วมือมีรูปแบบต่างออกไป หน้าตาต่างออกไปเล็กน้อย จะมีความซับซ้อนทางจิตใจ ใช้สามัญสำนึกเป็น และไม่ต้องการสารจากอวัยวะสัตว์ก็อยู่ได้​

3.เกรย์ชนิดที่ 3 ปากจะบางกว่า และเชื่อฟังคำสั่งของ สองพวกแรกเป็นอย่างดี​

--พวกอื่น เรียกว่า พวกผมบลอนด์ ชาวสวิส หรือ นอร์ดิกส์ เหมือนมนุษย์เราแต่ ไม่ค่อยปรากฏตัว หรือจุ้นจ้านกับมนุษย์ เพราะถือกฏสมาพันธ์กาแลคติก คือการไม่แทรกแซงสังคมมนุษย์ ยกเว้น เมื่อการกระทำของเกรย์ส่งผลร้ายต่อสังคมมนุษย์อย่างรุนแรงและเฉียบพลัน​

--มนุษย์หลากหลายมิติ--สามารถมาในรูปร่างต่างๆ นิสัยรักสงบ
--คนแคระ สูง 4 ฟุต หนัก 35 ปอนด์ มีหนวดเครา ไม่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตที่ฉลาด
--พวกตัวสูง สูง 7-8 ฟุต ผมบลอนด์
--ตัวคล้ายมนุษย์ อาจจะเป็นลูกผสม หรือแอนดรอย์ เป็นลูกมือของเกรย์
--ชายชุดดำ ใส่หมวก ใส่แว่นดำ ผิวซีด ไวต่อแสง ไม่ชอบแสงสว่าง บางทีก็เป็นภาพลวงสามมิติ(โฮโลแกรม)
--บางทีก็เดินหลบพวกเดียวกันไม่ได้ ต้องบอกให้คน ช่วยย้ายออกไป-และมีสายไฟโผล่มาจากรองเท้า- -อาจเป็นหุ่นยนต์ หรือตัวโคลนนิ่ง--ผมเคยอ่านมาน่ะครับ ​

อืม ลืมบอกไป นอกจากพวกที่อาศัย ใต้ดิน ใต้ทะเลแล้ว มีอีกพวกที่อยู่ ใจกลางโลกเลย พวกนี้มีหลายเผ่า พลังจิตสูงมาก มีผู้เข้าไปและถ่ายภาพยนต์ไว้ แต่ทางการสหรัฐพยายามปิดข่าว และโต้แย้ง แบบร้อนตัว ---ทุกวันนี้ ลูกหลานของนายพลที่ถ่ายหนังไว้ ก็สืบทอดเจตนารมย์อยู่ครับ เขากล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐต้องรู้เรื่องพวกนี้ดี และรู้มานานแล้วด้วย​

--มนุษย์หลายมิติ พวกเขาบอกว่า โลกของก้อนหิน-ไม่มีชีวิต ถือเป็นมิติที่ 1สำหรับเขา พวกพืชก็เป็นมิติที่สอง พวกสัตว์ มนุษย์ ก็เป็นมิติที่สาม บางครั้ง พวกเขาก็ติดต่อไปยังมิติที่หนึ่งเหมือนกัน ถ้าไม่นับมิติกาลเวลาเป็นมิติที่ 4 ให้แยกออกมาเสีย มนุษย์กำลังก้าวเข้ามิติที่ 4 หรือความหนาแน่นที่ 4 โดยพวกเขาจะทำการล้ายโลกบางส่วน และ ดวงอาทิตย์ไปด้วย​

พวกเขาบอกว่า โดยทำการกลับสปินของอะตอม ไป 90 องศา ก็จะเกิดสิ่งใหม่ คือเราจะเข้าสู่กาล-อวกาสใหม่ของมิติอื่น พวกเขาบอกว่าสามารถย้าย สสารและมนุษย์ได้โดยวิธีนี้ ส่วนใหญ่จะพาไปที่ใต้ทะเล เพื่อตรวจสอบ แล้วส่งกลับมาแบบเดิม มิติที่พวกเขาอยู่ จะมีความเร็วของอะตอมมากกว่าของเรา 17 เท่า และมีความเล็กละอียดมากกว่า รวมทั้งแสงในมิตินั้นก็เร็วประมาณ 17 เท่าของมิติเรา​

---ปัจจุบันการ คำนวณทางทฤษฎีสตริง พบว่ามี มิติ ที่ 10 11 และมีถึง 26 มิติ จากการคำนวณ แต่ในทางการมองเห็น หรือความเข้าใจ เราไม่อาจเข้าใจได้ เช่น เราวางกระดาษบางมาก บนโต๊ะ มองลงไป ก็จะเห็นแผ่นกระดาษ เป็นสองมิติ กว้าง-ยาว แต่มองขนานกับขอบโต๊ะ ก็จะไม่เห็นกระดาษ เพราะเรามองดูมิติที่ 3 ซึ่งกระดาษมีแค่สอง เมือเข้าสู่มิติสูงๆ ประมาณ 7 เราก็จะเห็นสิ่งรอบตัวหายไป เพราะกาล-อวกาศ(ที่ว่าง)-time-space ม้วนตัวกลับสู่จุดกำเนิด ทั้งจักรวาลกลายเป็นจุดสามมิติเล็กนิดเดียว หรือหายไปเลย​

--ลองค้นในยูทิวบ์ก็มีครับ วัสดุ 4 -5 มิติ และ คลิป 10 มิติ
http://www.youtube.c...feature=related​

หา ในยูทิวบ์สิครับ เยอะมาก แล้วที่เดินตัวเป็นเป็นๆ เค้าถ่ายคลิปมาได้จะให้เรียกว่าอะไรครับ มนุษย์พิการหรือ ความจริงที่ Mr.Terran เขียนไว้ยังแปลกกว่านี้อีกนะครับ เช่น จานบินแบบต่างๆ หน่วย MJ-12 ยังได้การตอบรับที่ดีกว่านี้มาก หรือว่า เราจะไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ ก็โยนโทรศัพท์มือถือของคุณทิ้งไปเถอะครับ เพราะการใช้ความถี่ต่างๆนี่ พวกเกรย์คิดเอาไว้ให้ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ เตาไมโครเวฟด้วยครับ--บางท่านยังภูมิใจกับการยึดสนามบิน เอ๊ย การยึดครองโลกอย่างเงียบๆ ของเกรย์ หรือชาว ซีต้า ก็ตามใจพวกท่านเถอะ ไม่มีใครบังคับ​

--เจ้าลัทธิ ฟาหลุนกง กล่าวว่า คอมพิวเตอร์ที่เราใช้ มนุษย์ต่างดาวคิดทำไว้ให้ พวกนี้จริงๆ หน้าตาเหมือนผี และปลอมตัวอยู่ปะปนกับพวกเรา​

---แล้วเอกสารเกี่ยวกับยูเอฟโอ กองพะเนินเทินทึก จะอธิบายว่าอย่างไร แม้แต่คู่มือของหน่วย MJ-12 ก็บ่งบอกถึงการทำงานกับพวกมนุษย์ต่างดาวไว้อย่างชัดเจน ผมเคยมีภาพแบบแปลนของจานบิน เป็นภาษาเยอรมัน เพราะนาซีก็ได้สร้างจานบินไว้หลายแบบ​

--สิ่งเหล่านี้รอพวกท่านค้นพบอยู่ครับ เพราะท่านก็มีสิทธิที่จะรู้ และมีเน็ต มีเครื่องที่เร็วกว่าของผมอีกครับ รู้เพื่อให้เกิดปัญญา ไม่สนใจก็คิดว่าเป็นนิยายก็แล้วกันครับ ​

เกรย์จากดาว ริเกล-Rigel คือพวกที่ติดต่ออย่างลับๆ กับรัฐบาลอเมริกาพวกนี้จะมีผิวสีเหลืองแกมเขียว จะเปลี่ยนเป็นสีเทา เมื่อป่วยหรือตายเท่านั้น
-วิธี ตรวจสอบ โดยใช้สามัญสำนึกเบื้องต้นนะครับ --ทำไม รัฐบาลอเมริกัน จึงสามรถแซกแซง เข้าโจมตี ทำลายทุกประเทศ ที่สงสัยว่าจะมีการซ่องสุม วางกำลังเพื่อจะทำร้ายประเทศของตน โดยที่ประเทศอื่นมีการคัดค้านน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหประชาชาติ พี่ใหญ่ของเรา กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่-ทำหลับตาอุเบกขาซะได้ บางประเทศ เช่น อินโดนีเซีย กับการต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน ​

ซึ่งทำอย่างโหดเหี้ยม สหประชาชาติได้จัดการนำกองกำลังร่วมเข้าไปหย่าศึกโดยทันที มันจะต้องมีการเมืองลับๆ อยู่เบื้องหลังการกระทำของชาติต่างๆ รวมทั้งการโจมตีค่าเงินบาท ค่าเงินสกุลต่างๆ ตามด้วยไอเอ็มเอฟ ว่ากันว่า ก็คือแผนยึดประเทศต่างๆ ให้เป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจนะครับ เดิมทีไทยก็เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากอเมริกาทางการต่อต้านยาเสพติด แต่หลายสิบปีนี้ไม่ได้เลย เพราะทางอเมริกาไม่นิยมเสพยาบ้า--องค์กรลับนี้ได้มีกองเรือติดอาวุธ และการค้าฝิ่นในลาว ผ่านในรูปของ บ.แอร์อเมริกา ก็มีมานานแล้ว-พูดมากไปก็อันตรายต่อตัวผมเอง​

---พี่สาวผมดูจะไม่ค่อย เชื่อเรื่องชาวต่างดาว แต่ในฐานะที่เธอก็อยู่ในประเทศอเมกามาหลายปี เธอบอกว่า มันน่าแปลกใจ ที่สมัย 100-200 ปีก่อน ไทยกับอเมริกาเจริญเท่ากัน มีปืนสั้น ปืนยาว ปืนใหญ่ แต่ ในช่วงหลัง อเมริกาเจริญในด้านเทคโนโลยีอย่างผิดสังเกต พวกเค้าเอาความรู้ต่างๆมาจากไหน รู้ด้วยว่าเทคโนโลยี่จะเติบโตไปในทิศทางใด ซึ่งถ้าไม่มีแนวทาง ลองผิดลองถูก ก็ยังไปได้ช้า--เรียกว่าจากสมัยทรูแมน มาถึงปัจจุบัน การเติบโต เป็นไปอย่างก้าวกระโดดจากเครื่องคิดเลขเอามือโยก กลายเป็นคอมพิวเตอร์ จากโทรเลข กลายเป็นโทรศัพท์มือถือ​

--ส่วนนี้เรา สามารถมองได้จากทางฝั่งยุโรปอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำของยุโรป-เชื้อพระวงศ์ยุโรปบางประเทศ ได้เป็นสมาชิกกลุ่มบิลเดอร์เบอร์เกอร์ ซึ่งเราสามราถค้นย้อนหลังไปได้ว่ามีการประชุมมากี่ครั้งแล้ว จัดขึ้นในยุโรปบ่อยมาก-สื่อต่างๆก็พยายามติดตามอยู่ จริงๆแล้วพวกนี้ไม่ง้อเทคโนโลยี่จากกลุ่มของเกรย์ก็ได้ เพราะคิดต่ออยู่ประมาณ 35 ดวงดาว ตลอดเวลา-เหล่านี้แหละคือกลุ่มชั่วของจักรวาล เรียกว่า กลุ่มภราดรภาพดำ ก็ได้--และกลุ่มภราดรภาพขาว-White Bratherhood ก็มี ซึ่งคอยเฝ้าดูพฤติกรรมของพวกนี้อยู่ รวมถึงสมาพันธ์กาแลกติก พลีอิเดี้ยน,อาร์คทอเรี่ยน ดาวอังคาร ,กลุ่มดาวพิณ-Lyra อีกมากมาย ​

เกรย์จาก Zeta Retticulum มีความสามารถทางโทรจิต สามารถขยายสนามพลังจิตเพื่อให้ควบคุมจิตใจมนุษย์ได้ กลุ่มของพวกเกรย์ทั้งหมด ไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกันนัก เพียงแต่คบหากันอย่างหลวมๆ โดยจุดประสงค์ร่วมกัน คือการยึดครองโลก โดยจะมองโลกในฐานะแหล่งเพาะมนุษย์-สัตว์ เพื่อใช้เป็นอาหาร ตลอดจนยังอาศัยเทคโนโลยี่บางออย่างที่มนุษย์ทำไว้เยอะมากในราคาถูกๆ เช่น RFID --ชิปขนาดจิ๋วที่รับ-ส่งข้อมูลวิทยุได้ ปัจจุบันมักใช้ในฉลากเสื้อผ้า ตามห้างใหญ่ๆ หรือตั๋วคอนเสริท ตั๋วทางด่วน -พวกเขาเอามาฝังในร่างกายมนุษย์ เพื่อ ตรวจสอบการเต้นของหัวใจ ภาวะของเลือด--ต่างๆ​

ส่วนหุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์ของมนุษย์นั้น ยังอ่อนด้อยในทางเทคโนโลยี่- -พวก เขาแนะนำว่า การเขียนโปรแกรมให้หุ่นยนต์ทำงานนั้น มันไม่สามารถทำให้ถึงจุดที่มีสติปัญญาเทียมได้หรอก เพราะถ้าเขียนสักหมื่นบรรทัดเราก็งง และล้าแล้ว--การคอมไพล์ การรัน มันก็มีข้อจำกัด พวกเขายกตัวอย่างเช่น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ มีขนาดเท่าซองบุหรี่ ในขณะที่เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ของเราขนาดเกือบเท่าสนามฟุตบอล และของเขาไม่ได้ใช้สารกึ่งตัวนำพวกซิลิกอน- -แต่เป็นพวกสารอินทรีย์ ซึ่งเดิมพวกเขาก็ใช้ได้ดี แต่ตอนหลังๆ มีชาวต่างดาวฝ่ายตรงข้ามสามรถทำการแฮก เจาะข้อมูลได้แล้ว จึงต้องมีการระวัง ควบคุมข้อมูลรั่วไหล ​

คนที่เก่งมากๆ เช่นโปรแกรมเมอร์ระดับๆ อาจจะมียีนส์จากต่างดาวก็ได้ครับเรียก ว่า Starseed ทับศัพท์เดี๋ยวจะเป็นเรื่องทะลึ่งไป พวกนี้มักฝันเห็นนรก หรือสวรรค์ รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า มีความคิดสร้างสรรค่อนข้างสูงกว่าปกติแต่มักปวดหัวบ่อย ไม่ทนต่อดินฟ้าอากาศในโลกนัก ในหนังสือของ ดร.โจเซฟ บอกไว้เยอะมาก ของไทยก็มีนะคิดว่าผ่านตา ผมเคยอ่านแล้ว--ถ้าสนใจก็บอกเอาไว้ก็แล้วกันครับ​

----ลืมไปอีกอย่างคือ ในฐานทัพใต้ดิน แถวแอเรีย 51--ปัจจุบันคงย้ายมาแถว Groom Lake แถวๆนั้น มีชาวต่างดาวอีกกลุ่มคือพวก เรปติเลียน-Reptilian(ผมชอบเรียกเป็นแบบ ฉพาะตัวว่า มนุษย์กิ้งก่า)อยู่ด้วยกัน ทั้งสองพวกนี้ใช้ตัวอักษรเหมือนกัน--เป็นพวกอักษรภาพ หรือ เฮียโรกริฟฟิก--แต่ในเอกสารของทางการสหรัฐบางชุด กับในหนังสือ เล่มนี้ไม่ได้ระบุเอาไว้ คาดว่าคงไม่สำคัญเท่าพวกเกรย์--(บางกระแสก็บอกว่า เป็นภาษาเดียวกันกับภาษาดั้งเดิมภาษาแรกของมนษย์ที่ได้สาบสูญไปแล้ว- ชื่อว่า ภาษากูโบส -ใครชอบทางเจ้าเข้าทรงก็ลองไปสอบถามดู ถ้าเป็นเทพจริงจะต้องรู้ภาษากูโบสชั้นสูง เพราะ ภาษากูโบสมี 5 ระดับ 300 กว่าแม่ภาษา) ​

ในฐานใต้ดิน 7 ชั้นมีอุโมงต์ วิ่งไปหากันได้ทั่วประเทศสู่ฐานใต้ดินต่างๆ จำได้ว่าใช้ระบบลม และสูญญากาศ ทำให้กระสวยวิ่งไปได้เร็วมาก--(บ.ที่รับจ้างขุด ชื่อ แรนด์คอร์เปอเรชั่น) และลิฟท์ที่ใช้ จะไม่มีสายลวดสลิงให้รำคาญ แต่ใช้ระบบของแม่เหล็กไฟฟ้าที่ชาวต่างดาวออกแบบแบบไว้​

ในหนังสือนี้ยังพุดถึงยีนส์ของมนุษย์ว่า มีส่วนของยีนส์ขยะ ยีนส์จากเชื้อแบคทีเรีย อะไรต่างๆ ซึ่งมีส่วนทำให้เราคิดว่า มนุษย์ถูกสร้างขึ้นโดยเทตนิควิศวพันธูกรรม- -เพราะว่าสิ่งมีชีวิตที่ใกล้ เคียงกับมนุษย์คือลิง ก็จะไม่มียีนส์แบบนี้อยู่ ยิ่งยีนส์ที่เราเรียกว่ายีนส์ขยะ เพราะไม่แสดงผลต่อรูปร่างลักษณะ หรือความฉลาด แต่มันมีประโยชน์ คือเอาไว้เพื่อลักษณะพิเศษ เช่นการมีพลังจิต โทรจิต อะไรต่างๆ ซึ่งปกติคนทั่วไปไม่ได้มี คือหายาก เราจึงขาดการทดลองในจุดนี้ไป​

---จริงๆ แล้วที่เราเคยอ่านบทความทั่วไป เขาจะพูดว่า มนุษย์มียีนส์ของสัตว์แทบทุกอย่าง--แต่ไม่ได้เอามาเปรียบเทียบกับสัตว์อื่น ให้เห็นจะๆ ผมก็เพิ่งได้คิดตอนที่เขาเอามาเทียบให้ดู และเราลองนึกดูซิว่า ลิงตามป่าเขา ขาดซึ่งอาหารที่ครบ 5 หมู่ ตากแดดตากฝน แต่เราไม่เคยเห็นลิงเป็นหวัด หรืออ่อนแอ อะไรทำนองนี้ สุนัขตัวเล็กๆอย่างรอดไวเลอร์ ลากรถ 6 ล้อได้สบายๆ ขณะที่มนุษย์จอไอฝนนิดเดียวเป็นหวัดเอาง่ายๆ อ่อนแอ ไร้สมรรถภาพเมื่อเทียบกับขนาดร่างกาย อะไรคือต้นเหตุของสิ่งเหล่านี้ นักพันธูวิทยาก็จะบอกว่า พวกสัตว์มียีนส์ ที่บริสุทธิ์กว่านั่นเอง ถ้าจะให้วิเคราะห์พวกเค้าคงบอกว่า เป็นคลิปหลุด เอ๊ยไม่ใช่ ยีนส์หลุดจากห้องแล็บหมาดๆ ยังไม่ผ่านการทดสอบคิวซีเลย--อันนี้ต้องโทษชาวแอนนูนากิ ที่สร้างพวกเรามาไม่ดีพอ​

---มีหลายอย่างที่ทำไปแล้วไร้คำตอบ เหมือนโครงการฟิลาเดลเฟีย--อืม เรือฟิลาเดลเฟียที่หายไป และปรากฏขึ้นที่เดิมนั้น มันได้ย้อนกลับตามกระแสของเวลา ไปอยู่ที่โรงงานที่สร้างมันขึ้นมา แต่ผลที่ตามมานั้น มีทหารเรือหลายคนถูกฝังอยู่ในเหล็กกระดูกงูเรื่อ และตายทันที บางคนเสียสติ บางคนที่ถูกกักตัวไว้ หายตัวได้เป็นพักๆ--ที่แปลกอีกอย่างคือถูกปลดล็อคเวลา- (Time Lock)คือใน 1 เดือน จะแก่ขึ้น 1 ปี และตายอย่างเร็ว เพราะนาฬิกาในตัวถูกตั้งให้เดินเร็วเกินไปดังกล่าว ไม่ใช่แต่มนุษย์ พวกต่างดาวที่ใช้จานบิน ก็มีอาการเช่นนี้อยู่เหมือนกัน(ผู้เล่าเป็นน้องชายนายทหารที่ตายในการทดลอง)​

-ขอประนาม องค์การ SETI ชื่อย่อนี้มาจากคำว่า ค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาวอะไรทำนองนี้ ตั้งมาหลายสิบปี้ ใช้เงินไปมากมาย แต่ไม่สามราถหาร่องรอยมนุษย์ต่างดาวมาได้สักรายเดียว หรือว่าอาจจะมีมากๆแล้วปิดข่าว--แม้กระทั่งทุกวันนี้ เซติก็เรียไรในทุกๆสื่อ แต่จะเอาเงินไปทำอะไร ไม่มีทั้งโครงการและผลงาน--เป็นคำถามที่ไร้คำตอบ- -พูดแล้วเซ็งในหัวใจครับ​

--ดูภาพยนต์อินเดีย เรื่องมหาภารตะยุทธ์ เพิ่งนึกได้-- เมื่อฤาษีทำนายไว้ว่า ทางฝ่ายเการพ หรืออะไรนี่จะมีพี่น้องเกิด 108 คน จากแม่คนเดียว ถึงเวลาคลอด แม่เค้าคลอดออกมาเป็นก้อนเนื้อครับ แล้วฤาษี ก็นำก้อนเนื่อนี้มาแบ่งใส่ภาชนะ คือหม้อดิน 108 ใบ เก็บไว้ 1 ปี ทุบหม้อออกมาก็จะเป็นทารกชายทั้งหมด--ถ้าพูดไป อันนี้พวกนักเลงกล้วยไม้ทราบดี ว่าเป็นการเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือกับพืชอื่นๆ เราเรียกว่า ไม้ปั่นตา ถ้าเป็นทางคน-สัตว์ ก็คือการโคลนนิ่งเราดีๆนี่เอง เห็นไหมครับ​

บอกแล้วว่า โคลนนิ่งไม่ใช่เรื่องใหม่--ในคัมภีร์รามายณะกล่าวถึง อาวุธของพระราม คือศรที่ไม่มีสาย แต่มีอำนาจทำลายล้างร้ายแรงเช่นเดียวกับหัวรบนิวเคลียร์- -มีนักวิทยาศาสตร์ อินเดีย พยายามถอดคำพูดในคัมภรีที่กล่าวถึงวิมาน ก็ได้ภาพยานบินหลายชนิดหลายขนาด มีตัวกำเนิดพลังงาน เยเนอร์เรเคอร์ มีโลหะหลายชนิดที่ไม่มีในโลกนี้--ผมเคยมีรูป แล้วถ้าหาเจอจะนำมาให้ชมครับ--เรื่องชาวเกรย์จะจบแล้ว แต่ยังมีเรื่องชาวดาวอังคารในทำเนียบขาว 3ปี​

ชาวมอธแมนไม่มีศรีษะ แต่บินได้ มีตาที่ไหล่ โปนโตสีแดง ชอบอยู่ตามป่าช้าเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า จนนำมาสร้างเป็นหนังไปแล้ว ,ชาวแอชตาร์คอมมานด์กับการแทรกแซงสื่อโทรทัศน์- -ชาวอาร์คทอเรียนมาปกป้องโลก ในรูปของวิญญาณกุมารนับร้อย--เออันนี้เข้าห้องศาสนาดีกว่ามั้ง- -ท่านสามารถ เข้าถึงเรื่องลึกลับทำนองนี้ได้อีกแบบหนึ่งคือ ถามจากผู้รู้ ผู้เก่งเรื่องสมาธิ ถ้าเก่งจริง ท่านจะต้องทราบอย่างแน่นอนครับ เพราะความจริงก็คือความจริง จะมองจากมุมไหน ก็ต้องเห็นวันยังค่ำ​

--ผมเองโชคดีที่มีคนที่เก่งพลังจิตอยู่ใกล้ๆ สอบถามได้ทันที แต่ต้องเลือกเวลาหน่อยไม่งั้นเจอ จานบิน สากครกบิน​

---กระทู้ นี้อยู่ในเรื่องลี้ลับ-รอการพิสูจน์ ยิ่งค้นก็ยิ่งรู้ครับ บริหารสมอง ยิ่งเรารู้ทันต่างดาวพวกนี้ ก็จะทำให้แผนการของพวกมันเปลี่ยนไป--ผู้อำนวยการคนแรกขององค์กรลับ เมื่อเตรียมจะบอกข้อมูลจริง ถูกจับยัดโรงพยาบาลทหาร โดยสงสัยว่าบ้า และถูกแขวนคอลงมาจากหน้าต่าง อำพรางว่าฆ่าตัวตายเอง​

--มีพวกนักวิทยาศาสตร์มากมายถูกฆ่า เช่นฆ่าแล้วเผาในรถยนต์ คนทั่วไปถูกข่มขู่ กระบวนการรักษาความลับยังดำเนินต่อไป​

--บิล ลี่ เมียร์ เป็นผู้ที่เผยแพร่การติดต่อกับชาวต่างดาว- -พลีอิเดี้ยน ทุกวันนี้ก็ถูกตามฆ่าจากกลุ่มต่างดาวที่เป็นศัตรู ,ชายชุดดำ และหน่วยงานทหารบางประเทศ--นี่เป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวที่มาจาก พร็อกซิมา เซ็นจูรี่ กาแลกซี่ ซึ่งอยูใกล้ๆเรา ห่างไป 55 ล้านไมล์ บอกกับชายชาวเยอรมันที่ตั้งแค้มป์ในป่า (สื่อสารกันด้วยภาษาเยอรมัน โดยใช้เครื่องแปลภาษาที่เหน็บไว้ที่เข็มขัด)​

--มีผู้นำศาสนาใหม่ๆ เช่น ภิกษุณีชิงไห่ ตลอดจนผู้รับสาสน์จักรวาลแบบแชลเนลลิ่ง เช่น Kryonเข้าสู่สหประชาชาติ ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี มีการให้สัมภาษณ์ ปาฐกถา นับว่าโลกนี้ไม่สิ้นหวังเลยทีเดียว มีขบวนการยุคใหม่ ที่เรียกว่า นิวเอจ พวกนี้จะใช้ผลึกอัญญมณีในการรักษาสุขภาพ ความรู้ทางโยคะ แม้แต่ดนตรีก็ต้องเป็นนิวเอจ ว่ากันว่าคนพวกนี้เคยเกิดในทวีปแอตแลนติส​

---รู้จัก คำว่า ระเบียบโลกใหม่- New World Oder ไหมครับ คำว่า Globalization หรือ Alternative III ผมว่ามันออกมาจากปาก-หรือเป็นแนวคิดชาวต่างดาวทั้งนั้น มันเป็นองค์ความรู้แบบใหม่ครับท่าน พอๆกับทฤษฎี โกหลาหล Chaos ที่ว่าผีเสือขยับปีกทำให้แผ่นดินไหว เด็ดดอกไม้สะเทิอนถึงดวงดาว ​

เกรย์มีความสามารถทางการย้ายสสาร ที่สามารถเปลี่ยนสสารให้เป็นพลังงานแล้วย้ายไปสู่ที่อื่นๆโดยอุปการณ์ ที่เหมือนกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว--ที่ผมได้กล่าวอ้างถึงความละเอียดของ อะตอมในมิติของพวกเขาที่มีความเร็วในการสั่นสะเทือนถึง 17 เท่าของโลกเรา พูดง่ายๆ ว่าอาจจะสูงกว่าเราประมาณ 17 มิติ ทำให้พวกเขาเดินทะลุกำแพง หลังคา หรือส่งเหยื่อที่ถูกลักพาตัวไปได้ ทั้งๆที่นอนอยู่ในบ้านแท้ๆ​

---อีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้ท่านสับสน คือ ที่ว่า มิติที่ 1 คือ พวกก้อนหิน มิติ ที่สอง ก็พืช เอาเป็นว่าใช้คำว่าความหนาแน่น(ทางจิตวิญญาณ)ก็แล้วกันครับ และหลายๆแหล่งยืนยันว่า พวกเรากำลังเริ่มเข้าสู่ความหนาแน่นที่ 4 โดยจะเห็นได้ว่า จะมีคนสนใจเรื่องลี้ลับ ผี เทพ นางฟ้า เรื่องจิตวิญญาณมากขึ้น ส่วนดาวดวงอื่นนะ เขาเข้าสู่ระดับ 4 กันหมดแล้ว รอพวกเราอยู่ครับแหะๆ​

--ตาม ทฤษฎีไกอา ถือว่าทุกๆสิ่งมีความรู้สึก โลกก็คือสิ่งมีชีวิตแบบหนึ่ง ต้องการจะยกระดับจิตวิญญาณแบบนี้เช่นกัน สิ่งที่เป็นตัวถ่วงก็คือมนุษย์ ดังนั้น โลกจึงพยายามชำระล้างตัวเอง โดยการทำลายชีวิตมนุษย์บางส่วนออกไปบ้าง- -อันนี้เป็นคำบอกจากต่างดาวผสมกับ ทฤษฎีไกอา--ไม่ได้อ่านการ์ตูน MMR มากนะนี่ รอบเดียวเอง--และจีโนมโปรเจค-ถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ ก็ทำเสร็จแล้วด้วย​

--ชาว อันโดรเมดา หญิงสาวชื่อ ไลอา เข้าพบนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวเม็กซิกัน บอกว่า ผลการตรวจสอบ และคำนวณ คะเนชะตาของโลก นั้นเสร็จแล้ว และบอกว่าชาวโลกกำลังทำลายสิ่งแวดล้อมและตัวเอง เช่น การทดลองนิวเคลียร์บ่อยๆ เกิดความร้อนสูงๆ ทำให้พายุหมุนจะมีความเร็วสูง การทำลายล้างที่รุนแรง--(อันนี้ผมกำลังนึกเรื่องโลกร้อนอยู่ เรื่องอัตราการรับและสะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์ อัตราการใช้น้ำมัน ถ่านหิน--แต่จุดนี้ลืมไปเลยจริงๆ--คนที่ทำไม่มีจิตสำนึกร่วมเลยนะ)- --และตอก ย้ำว่า การทดลองสงครามเคมีของอเมริกาก่อให้เกิดเชื้อโรคเอดส์- -ก็มีส่วนจริง เพราะไวรัสจริงๆเป็นแค่ผลึกโปรตีน ไม่ใช่เซลแบคทีเรีย​

--มนุษย์จะพบพลังงานจากอวกาศ มันมาของมันเอง ไม่ได้เกิดจากอะไร (ว่า กันว่า เทสลา ได้ค้นพบแล้ว ทุกหลังคาเรือน มีเสาอากาศ รับพลังงานมาใช้สบายไป--แต่พวกบิลเดอร์เบอร์เกอร์ขัดขวางเอาไว้ เพราะเก็บเงินค่าไฟไม่ได้)​

--2015 จะพบพลังงานที่มาจากเสียง เธอบอกว่าที่ดาวของเธอสามารถใช้เสียง อุ่นให้ทั้งตึกมีความอบอุ่น โดยผู้อาศัยก็ไม่รำคาญเสียงนี้ (มีข่าวว่าอเมริกาได้ทดลอง ใช้ตลื่นเสียงกำจัดฝุ่นควันในอากาศ โดยไม่แจ้งสาธารณชน และผู้คนพากันพูดว่า อากาศสะอาดขึ้นมากอย่างผิดสังเกต) ​

ความสามรถทางสะกดจิตของพวกนี้ ทำให้การเข้าควบคุมประเทศต่างๆ ได้ง่าย เพราะแค่สะกดจูงจิตผู้นำคนเดียวก็เพียงพอแล้ว และยิ่งเมื่อใช้วัตถุ ที่ฝังเข้าในตัว-implants-จะยิ่งง่ายขึ้นอีก เคยอ่านที่เก็นเป็นชิปในโพรงจมูก ตรงต้นคอ-เคยเห็นแท่งแก้วผลึกที่ฝังไว้แถวหน้าแข้ง -บางอย่างเป็น ก้อนพลังงาน แต่ทำหน้าที่ได้เช่นกัน​

--เกรย์ผสมพันธุ์โดยตรงกับมนุษย์ไม่ได้ แต่ทำได้ในแล็บ ดังนั้น จึงมี ลูกผสมต่างดาว--พวกหุ่นกึ่งมนุษย์-android​

-- มีการลักพาตัวผู้หญิงจำนวนมากเรือนหมื่นเรือนแสน และทำให้ท้อง---อย่าคิดลึก--และยังโขมยลูกในท้องอีก การตัดอวัยวะสัตว์-Cattle Mutilation เกิดขึ้นทั่วไป เคยเห็นในยูทิวบ์ว่า วัวทั้งตัวถูกดูดลอยขึ้นไปด้วยลำแสงสีขาว- -และบางแหล่งข่าวบอกว่ามีการ ชำแหละมนุษย์--อาจจะที่ WTC ด้วย--มีคลิปยูทิวป์ที่ไฟใหม้โรงแรมในปักกิ่งอย่างรุนแรง แต่ตึกไม่ยุบลงมา ทีเวิลด์เทรด ชึ้นล่างแทบจะเป็นโครงเหล็กทั้งหมด ไฟก็ยังไม่มาก ดันยุบลงมาได้--น่าคิดครับ​

--ถือได้ว่าระดับการแทรกแซงสังคมมนุษย์ของพวกนี้ เข้าสูระดับสูงสุดแล้ว​

--พวกนี้มีฐานทัพอยู่ทั่วโลก มากที่สุดในอเมริกา และมีในส่วนด้านมืดของดวงจันทร์ด้วย---มีข่าวว่านักบินอะพอลโลก็ไปนั่งจิบ กาแฟกันมาแล้ว แถมยังไม่ต้องใช้หน้ากากออกซิเจนอะไร ผักก็ปลูกให้เชียวพรืดไปหมด ไม่ต้องกลัวใครเห็น เพราะด้านนี้ไม่เคยหันไปทางโลกเลย​

--เกรย์ ตัวสูง จะมีอำนาจเหนือพวกซีต้า และพวก Beetletrax โดยจะมีฐานใหญ่ที่ใกล้เกาะ Aleutian สิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าด้อยกว่ามนุษย์ ก็คือสืบพันธุ์เองไม่ได้ การโคลนนิ่งก็จะได้ตัวที่เล็อกกว่า อ่อนแอกว่าเดิม​

---จบ อรรถธิบาย เรื่อง Greys มา ณ ที่นี้--ขอบคุณผู้อ่าน เพราะถ้าไม่มีพวกท่านผมก็ขี้เกียจนั่งแปล และถือโอกาสก็อปใส่บล็อกไว้ เพราะขี้เกียจเขียน​

--สำหรับความเห็นที่ไม่ชอบใจผม ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะท่านไม่ได้จ่ายค่าเน็ตแทนผมอยู่แล้วครับ- -ฮา--ท่านที่อยากอ่านต่อ ต้องบอกว่าอยากอ่านเรื่องอะไร-เพราะผมจบทางไสยศาสตร์บัณฑิตโดยตรงครับ- ไม่ ถนัดทางวิทย์​

ขอบคุณ Lyssa Rayal
จากหนังสือ Prism of Lyra และ Valdimar Valerian
จากหนังสือ Matrix I,II,และ III​

โพสต์โดยคุณ wincha Posted <ABBR class=published title=2009-07-25T14:39:21+00:00>25 July 2009 - 09:39 PM</ABBR>
<ABBR class=published title=2009-07-25T14:39:21+00:00></ABBR>
<ABBR class=published title=2009-07-25T14:39:21+00:00>ที่มา มีสักกี่คนในโลกที่รู้เรื่องแบบนี้ - ชุมชนฟ้าเดียวกัน - Page 3</ABBR>​

<!-- google_ad_section_end -->

 

มีสักกี่คนในโลกที่รู้เรื่องแบบนี้?

​

ANNUNAKI มันเป็น Reptilians อีก specie หนึ่ง เป็นเผ่าพันธุ์ Reptilians super race and governed by elite หรือเรียกอีกทีว่าเป็น ผู้นำ หรือชนชั้นสุง หรือ กษัตริย์ ของ เผ่าพันธุ์ Reptilians ครับ ไม่ได้เป็นผู้สร้างมนุษย์ แต่อย่างใด (พวกนี้เกลียดเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างที่สุด)

ตรงกันข้าม พระเจ้าหรือพลังงานต้นแบบก็สร้างเผ่าพันธุ์ นี้มาเหมือนกัน แต่พวกเขาเลือกที่จะหันหลังให้พระเจ้า อยากเป็นเหมือนพลังงานต้นแบบหรือเรียกอีกทีว่า กบฏ เพราะอย่างที่บอกไป ผู้สร้างนั้นมีความสมบูรณ์แบบ มีทั้งขั้วบวกและลบ ทั้งสองขั้วนี้ทำให้พลังงานนั้นสมดุล

แต่พวก Reptilians เลือกที่จะเป็นขั้วลบ หรือดำ และพวกนี้เองที่ทำการเปลี่ยนแปลงยีนส์ของมนุษย์จากยีนส์ดั้งเดิมที่สมบูรณ์แบบ (ย้อนกลับไปอีกที) มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้นั้น มียีนส์ของมนุษย์สายพันธ์อื่นๆ รวมกันอยู่ในตัวเราทั้งหมด 22 DNA

แต่พวก Reptilians ได้ทำการดึงเอา DNA ของมนุษย์ออกไปตั้ง 10 DNA โดยวิธีต่างๆผ่าน อาหารบ้าง ยา บ้าง น้ำหรือเครื่องดื่มบ้าง หรือการทดลองในแลป ฯลฯ จึงส่งผลให้พิการบ้าง จิตไม่ปรกติบ้าง(เพราะมันส่งผลโดยตรงกับสมอง)

ฉนั้นมนุษย์ในยุคปัจจุบันนั้น จากที่ถูกสร้างมาอย่างสมบูรณ์ตอนนี้ก็ไม่เหมือนเดิมแล้วครับ เพราะนั้นเอง (pinealgland) ของเราจึงทำงานไม่ปรกติไม่สามารถ จดจำได้ว่าเราเป็นใคร และจำผู้สร้างของเขาไม่ได้ (พวกนี้เกลียดเผ่าพันธ์มนุษย์อย่างที่สุด) ไม่มีวันที่พวกมันจะช่วยอะไรมนุษย์ และพวกมันมองมนุษย์ไม่ต่างจากสัตว์ใช้งานหรือ อาหารเท่านั้น

พวกมันมาครองโลก ไม่ได้มีเจตนาที่ดีต่อมนุษย์ แต่ล่าอาณานิคม เราเป็นเหมือนเชลยศึกและอาหารด้วย ในบางครั้ง (เพราะพวกนี้มีแยกย่อย ถึง 7 specie มีทั้งพวกดื่มเลือดมนุษย์และกินมนุษย์)เพราะในเลือดมนุษย์ มี DNA ที่พวกมันต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก ประจำเดือนผู้หญิง(ฮอร์โมน) ครั้งแรก (พวก Illuminati Royal bloodlines {bohemian}นิยมดื่มมาก) และบาง specie ที่ต่ำลงมา ก็เป็นพวกที่ชอบบริโภคทั้งเลือดและ เนื้อมนุษย์ และสัตว์ โดยไม่เลือกเหมือนกัน(ที่คนไทยเราอาจเรียกกระสือหรือปอบ)

และเรื่อง ปี 2012 อาจจะไม่ตรงเป๊ะ (เพราะไม่มีใครสามารถคาดเดาเวลาได้ เพราะเวลาของโลกกับเวลาจักรวาลไม่เท่ากัน จักรวาลนั้นมันไม่มีเวลา มันคงที่ ) และปี 2012 ที่ใครๆต่างพูดถึงกันนี้ เอาตามความเข้าใจของผมนะครับ จากที่ศึกษามามันจะเกิดขึ้นจริง แต่จงอย่ากลัว พูดอีกทีว่าอย่ากลัวไปเลย มันไม่มีอะไรที่น่ากลัว ให้เราเข้าใจเอาเถิดว่าโลกนี้มันเป็นโลกสมมุติ เราอยู่ใน Matrix แล้วเราก็เป็นพลังงาน เราไม่ได้ตายจริงๆ เรานั้นถูกควบคุมอยู่

จึงทำให้จดจำความเป็นตัวเราไม่ได้ ในโลกของความเป็นจริง (แต่วันหนึ่งพวกมันจะมีแผนที่ควบคุม เราถาวรโดย microchip จงอย่ารับมันครับ )แต่ถ้าใครที่ไม่รับ ในตอนนี้พวกคุณยังมีโอกาศที่จะตื่นอยู่ และลุกขึ้นมาสู้กับพวกมันโดยใช้พลังงานที่ผู้สร้างให้มา คือพลังงานความรัก ให้เกิดประโยชน์ ฝึกให้เป็นชีวิตของเราเลย ถ้าทำไม่ได้ มนุษย์ทุกคนนั้นมีผู้สร้าง บอกกับผู้สร้างของเราสิ ว่าเราจะต้องทำยังไงบ้าง เราสามารถคุยกับผู้สร้างของเราได้ทุกคน เปิดใจของเราสิ แล้วเราจะเข้าใจ..

ในปี 2012 โดยประมาณ พวก Reptilians มันจะดิ้นถึงที่สุด เพราะเวลาของมันเหลือน้อย(ที่พวกมันจะเก็บเราไว้เป็นทาส) มันจะหลอกเราทุกทางให้ไขว้เขว ข้อมูลบางอย่างบางครั้งนั้นเกือบใช่แต่มันไม่ใช่

ยกตัวอย่างเช่น HARRP PROJECT BLUE BEAM เป็นต้น จงร้องขอบอกให้ผู้สร้างของเรานำทางเรา ให้เรามีสติปํญญาที่จะมองเห็นความจริง จำไว้ว่าเรานั้นเป็นพลังงานไม่มีสิ่งไดที่เราจะทำไม่ได้

ในปี 2012 (โดยประมาณ ) มันไม่ใช่วันสิ้นโลก อย่างหลายคนคิด แต่ภัยพิบัติต่างๆนั้นจำต้องเกิด และจะเกิดขึ้นจริง แต่มันจะเป็นการพัฒนา consciousness ทางด้าน spiritual (เพราะเราคือพลังงานที่มีชีวิต)

คนมากมายจะตื่นขึ้น และพัฒนาขึ้น ซึ่งเหมือนโรงเรียนอนุบาลที่ต้องเข้าระดับ ป.1 นะครับ แต่ก็มีคนเป็นจำนวนมากเหมือนกันที่ไม่ตื่นและไม่ผ่าน และบ้างก็ตกไปเป็นทาสถาวรของพวก Reptilians เพราะนั้นจงอย่ากลัวครับ และเตรียมตัวให้พร้อมและตื่นอยู่เสมอ ทางด้าน physical way เราก็ต้องเตรียมตัวด้วยเหมือนกัน

โดยคุณ QUARK Posted <ABBR class=published title=2009-08-28T12:39:20+00:00>28 August 2009 - 07:39 PM</ABBR>

ที่มา http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=34464&st=0

หมายเหตุ

ท่านผู้อ่านที่สนใจเรื่องภัยจากมนุษย์ต่างดาว(ฝ่ายชั่ว) เหล่านี้ยังมีข้อมูลอีกมากมาย ที่ท่านไม่เคยรู้ ติดต่ามอ่านได้จากลิ้งค์ที่มาที่ผมได้แจ้งเอาไว้ข้างบนนี้ครับ มีทั้งหมด 6 หน้า อ่านให้ครบทุกหน้านะครับ รับรองว่าได้ความรู้มากมายจริงๆ

ส่วนมนุษย์ต่างดาว(ฝ่ายดี) ที่ต้องการมาช่วยเหลือโลกมนุษย์อย่างจริงใจนั้น มีข้อมูลให้ท่านได้อ่านอยู่แล้วในเว็บพลังจิตแห่งนี้ ติดตามอ่านได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะครับ และอย่าได้เหมารวมไปหมดว่า ถ้าขึ้นชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวแล้ว จะต้องมายึดครองโลกนี้อย่างเดียว มนุษย์ต่างดาวที่มีจิตใจดีงาม ก็ยังมีอยู่นะครับ

ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)( 12345678910111213141516171819202122232425 ... หน้าสุดท้าย)

 

ภัยจากอุกกาบาตขนาดยักษ์ที่หลุดจากดวงอาทิตย์ กำลังเดินทางมาชนโลก

​

วิเคราะคำทำนาย​

คำทำนายเรื่องอุกกาบาตที่หลุดมาจากดวงอาทิตย์นี้ บางท่านอาจจะคิดว่าดวงอาทิตย์เป็นเพียงกลุ่มก๊าซของเหลวที่ติดไฟ แล้วจะมีก้อนอุกกาบาตซึ่งเป็นของแข็งหลุดออกมาได้อย่างไร แต่ในความจริงแล้วภายในดวงอาทิตย์เป็นของแข็งที่ติดไฟอยู่ครับ คงคล้ายๆกับถ่านหิน ที่เราเอามาเผาไฟเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้านั่นแหละครับ เรื่องนี้ท่านสามารถหาอ่านดูได้จากหนังสือ จุไรท่องเที่ยวดวงดาวต่างๆ ครับ​

คัดลอกบางตอนมาจาก จุไรท่องเที่ยวดวงอาทิตย์​

หลังจากนั้นก็เข้าไปสู่ภายในดวงอาทิตย์ (เข้าไปในโลกอาทิตย์) เข้าไปถึงแล้วก็ปรากฏว่าในนั้นเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ท่านบอกว่า มีแร่ชนิดหนึ่งที่มีสภาพเหมือนคล้ายแร่แมงกานีส แต่เขาเรียกจริง ๆ ไม่ทราบว่าอะไร มันเป็นเชื้อไฟ มีความลุกโชนอยู่ตลอดเวลา แต่การลุกนาน ๆ น่าจะเผาผลาญตัวเอง ทั้งตัวนี่เป็นเชื้อเพลิงหมด แต่ทว่าพระพุทธเจ้าท่านทรงอธิบายว่า "ความร้อนต่าง ๆ ในโลก(พระอาทิตย์)นี้มันแปลก มันไหม้ก็จริงแหล่ แต่ว่ามันสร้างตัวเอง แทนที่มันจะสลายตัว สิ่งที่ไหลเป็นเชื้อเพลิง แล้วมันก็สร้างตัวเองให้เกิดขึ้นมา และความร้อนที่ระเหยออกมาก็ไปเป็นดวงไฟตามที่ปรากฏ"​

ที่มา http://www.watpanonvivek.com/index.php?option=com_content&view=article&id=632:--1​

การเกิดพลังงานในดวงอาทิตย์และดาวฤกษ์ ​

ดวงอาทิตย์ ที่ได้สร้างความฉงนให้กับบรรดานักวิทยาศาสตร์เป็นเวลาช้านานแล้ว ก่อนหน้าปี พ.ศ. 2481 นักวิทยาศาสตร์ต่างก็คิดกันว่าดวงอาทิตย์ประกอบด้วยถ่านหิน (หรือสารที่คล้ายคลึงกัน) ที่กำลังลุกไหม้ การลุกไหม้ของถ่านหินดังกล่าวเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานความร้อนในดวงอาทิตย์นั่นเอง ในทำนองเดียวกับการลุกไหม้ที่เกิดขึ้นบนโลก แต่พอนักวิทยาศาสตร์ทราบขนาดมวลของดวงอาทิตย์ เขาก็สามารถคำนวณได้ว่า ถ้าดวงอาทิตย์ประกอบด้วยถ่านหินดังกล่าวจริง ถ่านหินขนาดมวลของดวงอาทิตย์ก็จะเผาไหม้หมดภายในเวลา 200 หรือ 300 ปีเท่านั้นเอง ​

ผลของการคำนวณนี้จึงขัดแย้งกับความเป็นจริงที่ว่า ดวงอาทิตย์ได้เผาไหม้มานานกว่าเวลาดังกล่าวอย่างมากมาย อย่างไรก็ตาม ขบวนการการเกิดพลังงานในดวงอาทิตย์ก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ ตราบจนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบขบวนการทางนิวเคลียร์ รวมทั้งเรื่องรางของอัตราเร็ซของปฏิกิริยาที่ให้พลังงานนิวเคลียร์ออกมา ความมืดมนดังกล่าวจึงกระจ่างขึ้น ​

ในปี พ.ศ. 2481 เบธ (Bethe) และ ไวซซักเกอร์ (Weixsacker) ได้ศึกษาถึงปัญหาดังกล่าวโดยไม่เกี่ยวข้องเลย และต่างก็ได้สร้างสมการแท้จริงสำหรับขบวนการทางนิวเคลียร์ ที่เอาไปใช้กับปัญหาการเกิดพลังงานในดวงอาทิตย์ กล่าวคือเขาได้ค้นพบว่า ปฏิกิริยาฟิวชันที่เกิดขึ้นบนดวงอาทิตย์ ประกอบด้วยขบวนการทางนิวเคลียร์ที่ต่อเนื่องของการรวมไฮโดรเจนนิวเคลียส 4 อัน (โปรตอน 4 ตัว) เพื่อเป็นนิวเคลียสของธาตุฮีเลียม (โปรตอน 2 ตัว กับนิวตรอน 2 ตัว ) และเพราะว่ามลของฮีเลียมนิวเคลียสน้อยกว่าผลรวมของมวลของไฮโดรเจนนิวเคลียส 4 อัน ประมาณ 7/10 ของหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ​

ดังนั้นมวลที่ขาดหายไปจำนวนนี้จึงต้องเปลี่ยนไปเป็นพลังงานบนดวงอาทิตย์เบธและไวซซักเกอร์ จึงได้ใช้สมการ (5) คำนวณหาอัตราของการเกิดพลังงานดังกล่าวสำหรับมวลของดวงอาทิตย์ทั้งดวง แล้วนำค่าที่คำนวณได้ไปเปรียบเทียบกับปริมาณที่วัดได้ของการแผ่รังสีจากดวงอาทิตย์ที่โลกเราได้รับ ปรากฏว่าสอดคล้องกันเป็นอย่างดี ดังนั้น การศึกษาของเบธและไวซซักเกอร์ นอกจากจะเป็นการเปิดเผยความลี้ลับของขบวนการเกิดพลังงานของดวงอาทิตย์แล้ว ยังเป็นการยืนยันสนับสนุนทฤษฎีพิเศษในเรื่องสมมูลของมวลและพลังงานอีกต่อหนึ่งด้วย ​

เนื่องจากขบวนการการเกิดพลังงานของดวงอาทิตย์ ต้องมีการสูญเสียมวลบางส่วนไป จึงทำให้มวลของดวงอาทิตย์ลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดวาระสุดท้ายของดวงอาทิตย์ก็ต้องมาถึง อย่างไรก็ตาม จากอัตราการใช้ไฮโดรเจนในปัจจุบันของดวงอาทิตย์ นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถคำนวณออกมาได้ว่า กว่าที่ดวงอาทิตย์จะใช้มวลของมันหมดไป ประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ก็ต้องกินเวลานานถึง 1,000 พันล้านปี ดังนั้นดวงอาทิตย์ของเราจึงยังให้ความร้อน และแสงสว่างไปอีกนานแสนนาน ​

ที่มา http://www.doodaw.com/article/index.php?topic=relative28​

 

วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เวลา 08:22:13 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->

<CENTER>
</CENTER>
[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ผู้เชี่ยวชาญคาดอาจเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุดที่อินโดฯ ทำเกิดสึนามิ-มีคนตายมากกว่าที่ผ่านมา[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
เจ้าหน้าที่ศูนย์แผ่นดินไหวอินโดนีเซีย รายงานว่า เมื่อเวลา 02.33 น. วันที่ 16 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลาประมาณ 01.33 น.วันเดียวกันของในไทย ได้ เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.1 ริกเตอร์ บริเวณทะเลห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองในสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย 216 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไป 10 กิโลเมตร หลังจากเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,115 คน และไร้ที่อยู่อาศัยราว 500,000 คน

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่อินโดนีเซียภายใน 30 ปีนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิและมีผู้เสียชีวิตมากมายกว่าแผ่นดินไหวที่ผ่าน ๆ มา

[/FONT]

 

ตำรวจ-ทหารประชุมเตรียมรับมือการชุมนุมของคนเสื้อแดงวันพรุ่งนี้​

​

กรุงเทพฯ 16 ต.ค. - พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น.ประชุมร่วมกับตัวแทนกองทัพภาคที่ 1 และผู้ควบคุมกำลังทั้งฝ่ายทหารและตำรวจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงการทำงานและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามหลักกฎหมายและหลักสากล โดยได้จัดทำแผ่นพับแจกจ่าย ให้ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับ เพื่อเป็นแนวทางในการรักษาความสงบเรียบร้อย เบื้องต้นจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 44 กองร้อย หรือ ประมาณ 6,600 คน เป็นทหาร 28 กองร้อย และ ตำรวจ 16 กองร้อย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของ กทม. อีก 350 คน แต่หากเกิดความวุ่นวายขึ้น จะมีกำลังเสริม ณ ที่ตั้งอีกจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้จะมีการตั้งจุดตรวจรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ทั้งหมด 8 จุด ได้แก่ แยกวังแดง , แยกสี่เสาเทเวศร์ , แยกลานพระบรมรูปทรงม้า ,แยกวัดเบญจมบพิตร, แยกเทวกรรม , แยกนางเลิ้ง, สะพานมัฆวานรังสรรค์ และแยกสวนมิสกวัน โดยจะมีการบันทึกคำปราศัยไว้ตลอด จึงขอให้ผู้ชุมนุมเคารพกฎหมาย หากฝ่าฝืนจะออกหมายจับในภายหลัง ส่วนผู้ชุมนุมบางคนที่อยู่ในระหว่างการประกันของศาล หากพบว่าทำผิดจะเพิกถอนประกันทันที.- สำนักข่าวไทย

2009-10-16 12:17:22

ศอ.รส.ยังห่วงมือที่สามแทรกชุมนุมเสื้อแดง​

​

กรุงเทพฯ 15 ต.ค.-พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเป็นประธาน โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมเน้นประเด็นความปลอดภัยของประชาชนที่มาร่วมชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร และประชาชนทั่วไปในวันที่ 17 ตุลาคมนี้

โดยเจ้าหน้าที่พยายามสร้างบรรยากาศ สภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยที่สุด เพื่อยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะยับยั้งการชุมนุม พร้อมกับดูแลไม่ให้มีใครสร้างสถานการณ์ก่อให้เกิดความวุ่นวาย โดยก่อนเริ่มชุมนุมจะมีเจ้าหน้าที่คอยชี้แจงประชาชนถึงสิ่งที่ปฏิบัติได้และไม่ได้ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและอำนวยความสะดวก

นอกจากนี้นายสุเทพสอบถามเกี่ยวกับความเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่กรณีเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม ซึ่งพล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่าได้ซักซ้อมกำลังพลเรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ จะแจกเอกสารแผ่นพับขั้นตอนการปฏิบัติให้เจ้าหน้าที่ติดตัวไว้

“เจ้าหน้าที่ชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติกรณีเกิดการกระทบกระทั่งกัน ทุกขั้นตอนตั้งแต่การใช้โล่ การฉีดน้ำการใช้แก๊สน้ำตา กระบอง กระสุนยาง ซึ่งเป็นการปฏิบัติตั้งแต่ขั้นเบาที่สุดไปหาหนัก รวมถึงขั้นตอนความแตกต่างของการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมที่เป็นผู้หญิงและผู้ชายให้เป็นไปอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น พรุ่งนี้(16 ต.ค.) เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกส่วนรวมทั้งสุนัขทหารจะตรวจออกพื้นที่ที่คาดว่าจะใช้ในการชุมนุมอย่างละเอียดทุกจุด และเวลา 16.00 น.กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจจะเข้าประจำการตามจุดต่าง ๆ ในสถานที่สำคัญ

อยากขอวิงวอนประชาชนให้ร่วมกันเป็นหูเป็นตา แจ้งข่อมูลข่าวสาร หากมีบุคคลใดจะสร้างสถานการณ์หรือก่อความไม่สงบ เพื่อความไม่ประมาท แม้ว่าจะไม่มีการข่าวระบุก็ตาม แต่ช่วงที่ผ่านมามีการสร้างสถานการณ์โดยการลอบวางระเบิดที่สำนักงานป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญเดิม เราเป็นห่วงเรื่องมือที่สามที่จะมาแทรกแซงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง”โฆษกกองทัพบก กล่าว.-สำนักข่าวไทย

2009-10-15 19:19:37

สุเทพ ปัดวิจารณ์คำพูด พล.อ.เปรม ฝากถึง พล.อ.ชวลิต ​

​

ทำเนียบฯ 16 ต.ค.- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ไม่ขอให้ความเห็น กรณีที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ฝากคำเตือนถึง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่า พล.อ.เปรม ให้สัมภาษณ์ชัดเจนแล้ว

“ผมได้ดูข่าว และได้ยินทุกคำพูด ผมคิดว่าท่านให้สัมภาษณ์ชัดเจนดี และบอกว่า ประสงค์จะพูดแค่นั้น ผมคงไม่วิจารณ์ เพราะเป็นเด็ก” นายสุเทพ กล่าว
ส่วนคำพูดของ พล.อ.เปรม จะยิ่งทำให้คนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรุนแรงขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้พูดถึงคนเสื้อแดง พูดถึงแต่ พล.อ.ชวลิต เท่านั้น เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดงก็เป็นเนื้อเดียวกัน นายสุเทพ กล่าวว่า “ผมฟังเท่าที่ท่านพูด และคิดเท่าที่ท่านพูดให้ได้ยิน”

ต่อข้อถามว่า หลังจากที่ พล.อ.ชวลิต เข้าพรรคเพื่อไทย จะทำให้องค์ประกอบของเหตุการณ์เดือน พ.ค. 2535 ครบ จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกหรือไม่ นายสุเทพ ย้อนถามว่า “บิ๊กจิ๋วไปทำอะไร คำพูดนี้ผมไม่ได้พูด แต่สื่อพูดเอง” และว่า อย่าห่วงอะไร บ้านเมืองเราต้องช่วยกัน ใครมีหน้าที่อะไร ก็ช่วยกันทำหน้าที่ ถ้าเห็นอะไรที่ไม่ถูกต้องก็บอกกัน

“ผมเห็นใจประชาชน เพราะข่าวมีมาก บางข่าวอาจทำให้ไม่สบายใจ ทั้งข่าวจริง ข่าวลือ ข่าวที่เต้าขึ้นมาใหม่บ้าง ก็ขอให้ประชาชนตั้งสติกันให้มั่น ในวันเวลาอย่างนี้ พวกเราต้องกอดคอฝ่าฟันวิกฤติการณ์นี้ และต้องทำให้บ้านเมืองอยู่รอดปลอดภัยให้ได้” นายสุเทพ กล่าว.- สำนักข่าวไทย

2009-10-16 10:18:23

ที่มา http://news.mcot.net/

 

คิดว่าคงจะเป็นภาพหาดูได้ค่อนยากมากมาก นะจ๊ะบอกให้ .. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวช



รูป ภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวช หามาเพิ่มให้แล้ว.......จ้า

อนุโมทนาครับ

 

*** ทรยศสัจจะ สัญญาใจตนเอง ****

ทรยศประเทศชาติ ทำลายบ้านเมือง
ตายแล้วยิ่งกว่า หมาข้างถนน ...ไม่ดีอย่าทำ
อย่าเอาไฟเผาตัว....ความดีที่เคยทำ เหมือนสลายหายไปหมด ช่วยอะไรไม่ได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** คนขาดสัจจะ ****

ชาตินี้ ชาติก่อน ชาติไหนๆ...
นิสัยตัวท่าน ก็ไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่....

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ภัยจากสงครามพลังจิต​

​

tossapornk<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_827341", true); </SCRIPT> สมาชิก​

อภิญญาเป็นเหมือนดาบ 2 คม คมหนึ่งอาจจะใช้ไปในทางสร้างสรรค์(สัมมา) แต่อีกคมหนึ่ง ก็สามารถใช้ไปในทางทำลายตัวเราเองและผู้อื่นได้(มิจฉา ทำลายตัวเองหมายถึง นำพาตัวเองไปลงนรกอเวจี) ตัวเราเองมั่นใจแล้วหรือว่าเราสามารถควบคุมอภิญญาได้ดีมีสติไม่บกพร่อง หรือคิดแค่เพียงว่าขอให้กูได้มันก่อนก็แล้วกันอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง ​

เท่าที่ผมรู้สึกได้ก็คือจะมีคนที่ได้อภิญญาใหญ่แล้วควบคุมมันไม่ได้ จากนั้นจิตก็จะถูกจิตมารเข้าสิง จนลงมือใช้อภิญญา ในทางทำลายผู้อื่นจนเกิดเป็นสงครามอภิญญาขนาดย่อมๆ ในหลายพื้นที่ และมีการประลองกำลังของอภิญญาระหว่าง ฝ่ายสร้างสรรค์กับฝ่ายทำลาย จนมีการบาดเจ็บของคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีกมากมาย สิ่งพวกนี้เป็นเพียงภาพที่เกิดขึ้นในจิตของผม ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิด ผมไม่ขอออกความเห็น ผมแค่เพียงนำภาพที่ผมเห็นมาบอกพวกเราให้ระวังกันให้มากๆ ผมขอโมทนาสาธุให้กับคนที่เห็นธรรมยิ่งใหญ่กว่าอภิญญา จนปัญญาญานสว่างชัด ...สาธุ​

kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_827549", true); </SCRIPT> สมาชิก​

ควรระวังครับ การได้อภิญญานั้น ผู้ใช้ควรได้และเข้าใจในสัมมาทิฏฐิกันก่อนเพราะ อภิญญาที่ได้อนุญาตให้ใช้นั้น เป็นไปเพื่อการช่วยเหลือการสงเคราะห์ กันในทางโลก(ให้ปลดให้เบาจากทุกข์ทางกาย ขันธ์ห้า )​

และการสงเคราะห์ในธรรม (โดยการสร้างศรัทธาที่ไม่เกิดให้เกิด ที่ไม่ตั้งมั่นให้ตั้งมั่น) ปราบจิตที่เป็นมิจฉาทิฏฐิให้อ่อนลง ปราบมานะทิฏฐิให้สลายตัวลง จนจิตน้อมอ่อนโยนสมควรแก่ธรรม จากนั้นจึงใช้อนุสาสนีปาฏิหาริย์ น้อมนำธรรมสู่จิตจนบรรลุธรรมในที่สุด​

หากใช้ในทางที่ผิดก็จะกลายเป็นตัวมานะทิฏฐิ ไปจนถึงมิจฉาทิฏฐิ หากดูใจตนเอง มีความเห็นว่าเก่งกว่าพระพุทธเจ้าเมื่อไหร่ ก็แสดงว่า ตีตั๋วลงนรกแล้ว แม้ว่าจะเป็นพุทธภูมิก็ตาม​

หากรู้ตัวทัน ก็พึงกราบขอขมาพระรัตนตรัย บ่อยๆทุกวัน อธิษฐานจิตเข้าสู่สัมมาทิฏฐิ เอาไว้กลับจิต กลับตัว กลับใจได้ ยังมีโอกาสรอดจากนรก​

จากนั้นปฏิบัติในองค์พระโสดาบันเพื่อปิดอบายภูมิไว้ ดังนั้นพรหมวิหารสี่สำคัญที่สุด​

ดังนั้นก่อนได้อภิญญานั้น ถามใจตนเองก่อนว่า ต้องการได้อภิญญาไปเพื่ออะไร หากคำตอบแรกของใจบอกว่าอยากเก่ง อยากเป็นฮีโร่ ก็นั่นล่ะ คงรู้ที่ไป​

๑กุหว่าใจ๋๑<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_826123", true); </SCRIPT> สมาชิก​

ในพระพุทธศาสนานี้ พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องปาฏิหาริย์ไว้มี 3 อย่างคือ​

1. อิทธิปาฏิหาริย์ คือ ปาฏิหาริย์ในเรื่องการแสดงฤทธิ์ แสดงความเป็นผู้วิเศษ ดลบันดาลสิ่งต่างๆ เหาะเหินเดินอากาศ นิรมิตกายให้เป็นหลายคนได้ มีหูทิพย์ ตาทิพย์ เป็นต้น​

2. อาเทศนาปาฏิหาริย์ คือ การทายใจ ทายความรู้สึกในใจ ทายความคิดของผู้ถูกสอนได้​

3. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คือ คำสอนที่แสดงความจริงให้ผู้ฟังรู้และเข้าใจ มองเห็นความเป็นจริงของโลก ให้ผู้ฟังได้ปฏิบัติตามอย่างนี้ ละเว้นการปฏิบัติอย่างนั้น และยังสามารถนำไปประพฤติปฏิบัติตาม จนรู้เห็นได้ผลจริงด้วยตนเอง​

ปาฏิหาริย์ทั้ง 3 อย่างนี้ พระพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญ 2 อย่างแรก คือ อิทธิปาฏิหาริย์ และอาเทศนาปาฏิหาริย์ หากแสดงเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งและไม่นำไปสู่อนุศาสนีปาฏิหาริย์ซึ่งเป็นปาฏิหาริย์ที่พระองค์ทรงสรรเสริญมากที่สุด ​

ก็ขอฝากไว้เป็นข้อคิด สำหรับพี่น้องทุกท่านด้วยครับ​

ที่มา ร่องรอยอภิญญาใหญ่ โรดแมปสู่อภิญญาสาธารณะ​

 

คำพยากรณ์ที่ 8 ของนอสตราดามุส
อุกกาบาตยักษ์ตกลงสู่พื้นโลก

​

La grande montagne ronde de sept stades,
Apres paix, guerre, faim, inondation,
Roulera loin abimant grands contrades,
Memes antiques, et grande fondation. (I,69)

คำแปล

ในขณะที่เอเชียประสบกับความเดือดร้อนทั่วทุกหย่อมหญ้า ทุกหนทุกแห่งกำลังตกอยู่ในภาวะสงคราม เกิดทุพภิกขภัย และอุทกภัยอยู่นั้น จะมีหินกลมขนาดยักษ์ (ก้อนอุกกาบาต) ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งไมล์ หมุนลอยละล่องตกจากท้องฟ้าลงมาสู่โลก ผลจากการตกลงมาของหินยักษ์นี้ จะทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในประเทศใหญ่ ๆ ที่มีอายุเก่าแก่ในโลกหลายประเทศ

<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O>ตีความและวิเคราะห์</O>
<O></O>
<O></O><O>พร้อม ๆ กับที่สันติภาพกำลังถูกคุกคามอย่างหนักเพราะเกิดสงครามในตะวันออกไกลอยู่นั้น จะมีอุกกาบาตลูกหนึ่งตกลงมาในมหาสมุทรอินเดีย และจะเกิดผลทำลายล้างอย่างกว้างขวาง โดยทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่และรุนแรงในมหาสมุทรซัดเข้าไปท่วมชาติต่าง ๆ ในอาณาบริเวณรอบ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาติต่าง ๆ ในแอฟริกาตะวันออก ออสเตรเลีย และเอเชียใต้ จะประสบกับอำนาจทำลายล้างของอุกกาบาตยักษ์จากฟากฟ้าลูกนี้อย่างเต็มที่ ดินแดนต่าง ๆ ในแถบนี้ซึ่งมีภาวะสงครามอยู่แล้วก็จะเกิดความสับสนวุ่นวายมากยิ่งขึ้น</O>
<O></O>
<O></O><O>ในต้นฉบับของคำพยากรณ์ นอสตราดามุสไม่ได้บอกว่าเป็นอุกกาบาต แต่บรรยายไว้ว่าเป็นภูเขากลมขนาดใหญ่ ขนาดของภูเขาลูกนี้เขาบรรยายว่าใหญ่เจ็ดสแต๊ด จากรูปลักษณ์และขนาดที่บรรยายไว้นี้ เราพอจะอนุมานภูเขาลูกนี้ได้ สแต๊ดเป็นมาตราวัดของกรีกในสมัยโบราณ ซึ่งความยาวของมันจะแตกต่างไปตามกาลเวลาและสถานที่ แต่โดยทั่วๆไป หนึ่งสแต๊ดมีความยาวประมาณ 607-738 ฟุต เมื่อภูเขากลมลูกนี้มีขนาดเจ็ดสแต๊ด ก็จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางวัดได้ประมาณ 1 ไมล์ แต่ในที่นี้เราวิเคราะห์ว่า ภูเขา ได้แก่ ลูกอุกกาบาต ทั้งนี้เพราะในบรรทัดที่ 3 ของคำพยากรณ์ได้ชี้ชัดโดยระบุว่า ภูเขาจะหมุนลอยละล่องลงมาและในการหมุนลงมานั้นจะทำให้ชาติใหญ่ ๆ จมอยู่ใต้น้ำ</O>
<O></O>

<O></O>
<O>Jean dixon</O>​

<O></O>
<O>เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง คือ บรรดาโหรในยุคปัจจุบันหลายต่อหลายคน ต่างก็พยากรณ์ไว้ในทำนองเดียวกันกับนอสตราดามุส เช่น นางจีน ดิกสัน กล่าวไว้ว่า</O>
<O></O>
<O>ดิฉันเห็นดาวหางดวงหนึ่ง โคจรมาปะทะกับโลกของเรา… ผลของการปะทะกันระหว่างโลกกับดาวหางครั้งนี้ จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว และเกิดคลื่นอย่างรุนแรงในมหาสมุทรแห่งหนึ่ง ผลที่ติดตามมาก็คือความหายนะครั้งร้ายแรงที่สุด เท่าที่โลกเคยประสบมา</O>
<O></O>
<O>นางจีน ดิกสัน ไม่ได้ระบุชื่อของชาติต่าง ๆ ที่จะได้รับผลกระทบกระเทือนจากปรากฏการณ์ตามธรรมชาติครั้งนี้ แต่นอสตราดามุสได้พยากรณ์ไว้ชัดเจน โดยกล่าวว่า ชาติเก่าแก่และมีอายุมานานมากหลายชาติ จะประสบกับความหายนะจากดาวหางดวงนี้ เมื่อศึกษาตามประวัติศาสตร์จะเห็นว่าแหล่งอารยธรรมโบราณมีศูนย์กลางอยู่ที่ ลุ่มแม่น้ำไนล์ในประเทศอียิปต์ ที่ลุ่มแม่น้ำเมโสโปเตเมียในประเทศอิรักในปัจจุบัน และที่ลุ่มแม่น้ำสินธุในประเทศปากีสถาน และเมื่อมองดูในแผนที่โลกแล้ว จะเห็นว่าดินแดนในลุ่มแม่น้ำดังกล่าวอยู่ติดกับมหาสมุทรอินเดีย หรือไม่ไกลจากมหาสมุทรอินเดียมากนัก จึงเป็นไปได้ว่าภัยที่เกิดจากดาวหางหรืออุกกาบาตจะครอบคลุมไปถึงดินแดนตะวันออกกลาง แอฟริกาตะวันออกและเอเชียใต้ รวมทั้งประเทศไทย (โปรดดูจากแผนที่)</O>
<O></O>
<O></O><O>ดังได้กล่าวมาแล้วว่า หลังจากองค์การระหว่างประเทศประสบกับความล้มเหลว จนสลายตัวไปในที่สุดแล้ว จะเกิดสงครามในตะวันออกไกล พร้อมกับเกิดโรคระบาด ทุพภิกขภัย อัคคีภัยและอุทกภัยอย่างร้ายแรง เมื่อต้องประสพเคราะห์กรรมอันเนื่องจากคลื่นในมหาสมุทรอินเดียซ้ำเข้าอีก จะทำให้ฉากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเอเชียเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ผลที่จะติดตามมาจากภัยพิบัติครั้งนี้ ได้แก่ เกิดภาวะอ่อนแอทางด้านการทหารในประเทศแถบเอเชียใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ อินเดียซึ่งเป็นศัตรูของจีน สถานการณ์เช่นนี้จะยิ่งเอื้ออำนวยให้กองกำลังรุกรานจากตะวันออกไกลภายใต้การนำของจีน บุกและยึดครองประเทศในย่านเอเชียใต้ได้ในที่สุด<O></O>
<SCRIPT type=text/javascript><!--playSound();showPoll();//--></SCRIPT>
ที่มา http://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=344835&chapter=15</O>

 

"ซาตาน"
อาจเป็นเพียงมนุษย์ต่างดาวที่มีนิสัยชั่วร้าย !!!​

​

เรื่องน่าคิดเกี่ยวกับ.....พระเจ้า ซาตาน และมนุษย์ต่างดาว​

ที่นำเรื่องนี้มาเสนอเพื่อแสดงความคิดเห็น ไม่ได้คิดลบหลู่ศาสนาคริสต์หรือคริตจักรแต่อย่างใด เพียงแต่มีเหตุการณ์ที่ชวนให้น่าคิดหลายอย่าง เช่นการกำเนิดของพระเยซูเจ้าและคัมภีร์ไบเบิ้ล หลายอย่างทางทีมงานขออภัยด้วย กับการกล่าวพาดพิงถึงศาสนาของท่าน เพียงแต่ต้องการนำเสนอความคิดเห็นต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังหัวข้อต่อไปนี้

1. ในคัมภีร์ไบเบิ้ล นักบุญมัธธิว บันทึกไว้ว่า ในวันที่ พระเยซูประสูติ ได้มีดวงดาวสุขใสดวงหนึ่ง ปรากฎเหนือหมู่บ้านเบทเลแฮม แต่ในปัจจุบันยังไม่มีนักดาราศาสตร์คนใด ยืนยันได้ว่าดาวดวงนั้นคือดาวอะไร เป็นไปได้ไหมในวันที่พระเยซูประสูติดาวดวงนั้น แท้จริงคือ ยาน UFO ที่กำลังเฝ้าดูผลงานการส่งพระเยซูประสูติ​

2. พระนางมารีย์ผู้เป็นมารดาของพระเยซู เป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ตั้งครรภ์ได้เอง มีความเป็นไปได้ไหมทางวิทยาศาสตร์ แท้จริงแล้วพระนางมารีย์อาจถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไปและทำการทดลอง เหมือนในวิทยาการสมัยปัจุบัน ในการฝากครรภ์โดยการผสมเทียม แล้วถูกลบความจำส่งตัวลงมาเพื่อให้กำเนิด พระเยซู​

3. พระเยซูเป็นบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระเจ้า ที่ถูกส่งมาเพื่อไถ่ปาปแก่มนุษย์ พระเยซูอาจเกิดจาก การโคลนนิ่ง DNA ของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งที่เรานึกกันว่าเป็นพระเจ้านั่นเอง แล้วจึงนำมาฝากไว้ไนครรภ์ของพระแม่มารีย์ ก่อนที่จะลบความทรงจำและส่งลงกลับมาบนโลก​

4. ในวันที่พระเจ้าสร้างโลกตามพระคำภีร์ไบเบิ้ลกล่าวว่า พระเจ้าสร้างโลกขึ้นใน 7 วัน หลังจากนั้นจึงสร้างอดัมขึ้นมาก่อน และจึงสร้างอีฟขึ้นมา พระเจ้าอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวดวงใดดวงหนึ่ง ซึ่งมีวิทยาการที่ก้าวไกลและล้ำหน้ากว่ามนุษย์ในปัจจุปัน ได้ขนตัวอย่างพืชและสัตว์ มาทดลองสร้างสิ่งมีชีวิตไว้บนพื้นผิวโลก และตรงที่พระเจ้าได้สร้างต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ไว้บนโลกที่แรกก็คือสวนอีเดน ตามในคำภีร์ไบเบิ้ลกล่าวไว้ ในวิทยาการของมนุษย์ปัจจุบัน ก็มีการทดลองนำสิ่งมีชีวิตอย่างลิง สุนัข และพืชต่างๆ ส่งยานอาวการขึ้นไป ทดลองในดวงดาวต่างๆ เช่นดวงจันทร์ ดาวอังคาร มนุษย์เราอาจจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวที่เราเรียกว่าพระเจ้าสร้างขึ้น ก่อนที่จะสร้างมนุษย์พืชและสัตว์ขึ้นมา ดาวโลกของเรามีสิ่งมีชีวิตอยู่ก่อนแล้วคือไดโนเสาร์ พระเจ้าหรือมนุษย์ต่างดาว กลัวว่าจะเป็นภัยต่อสิ่งที่จะทดลองเลยทำการล้างเผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์ก่อน​

5. ในวันสุดท้ายที่พระเจ้าได้สร้างโลก พระเจ้าได้สร้างอดัม มนุษย์คนแรกขึ้นมาตามในคำภีร์ไบเบิ้ลกล่าวว่า อดัมถูกสร้างมาให้คล้ายกับพระเจ้า คิดว่ามนุษย์ต่างดางมีหน้าตาคล้ายๆกับมนุษย์เรา​

6. หลังจากสร้างอดัม มนุษย์ผู้ชายคนแรกขึ้นมา พระเจ้าได้สร้างอีพขึ้นมาจากกระดูกซีกโครงด้านซ้ายของอดัม ในวิทยาการปัจจุบันมีความสามารถไกล้เคียง คือ การ Clone เซลล์หรือเนื้อเยื่อ​

7. พระเจ้าได้ให้อดัมและอีฟเฝ้าสวนอีเดน และสั่งห้ามไม่ให้กินแอปเปิ้ล แต่อดัมและอีฟถูกซาตานล่อลวง จึงกินแอปเปิ้ล ทำให้พระเจ้าโกรธและขับไล่อดัมและอีฟออกจากสวนอีเดน สวนอีเดนคือสวนทดลองที่มนุษย์ต่างดาวสร้างขึ้นมา และสร้างอดัมและอีฟขึ้นมาเพื่อจะศึกษาว่ามนุษย์ต่างดาวนั้น สามารถมีชีวิตอยู่ในบรรยากาศโลกนี้ได้หรือไม่ แต่เกิดเหตุผิดพลาดเพราะบรรยากาศของโลกมนุษย์ ไม่สามารถมีอายุยืนยาวได้เหมือนร่างแม่คือมนุษย์ต่างดาวหรือพระเจ้า จึงมีอายุเพียงไม่เกิน 100 ปี และซาตานพระเจ้าบอกว่าคือปีศาจร้าย ซาตานอาจเป็นมนุษย์ต่างดาว หรือสัตว์ทดลองที่ผิดผลาดมีนิสัยชั่วร้าย หรือมนุษย์ต่างดาวที่มาด้วยกัน (มนุษย์เรายังมีทั้งคนดีและไม่ดี) ไม่ถูกกัน เพราะในไบเบิ้ลซาตานคือคู่ปรับของพระเจ้านั่นเอง​

8. พระเจ้าหรือมนุษย์ต่างดาวยังมีความห่วงและสนใจต่อมนุษย์ทดลองหรือมนุษย์ จึงได้ส่งศาสดาหรือของศาสนาผู้นำ ลงมาเพื่อสั่งสอนธรรมให้คนเป็นคนดี ในคำภีร์กล่าวว่าพระเจ้าอยู่ทุกหนทุกแห่งไม่มีใครมองเห็นพระเจ้าได้ แสดงว่ามนุษย์ต่างดาวจับตามองดูเราอยู่​

9. ในคัมภีร์ไบเบิ้ลตอนที่ศาสดาโมเสส เดินข้ามทะเลได้ร้องขอพระเจ้า ( ในเวลาเดินทางตามคำภีร์กล่าวว่า มีไฟส่องสว่างจากบนฟ้านำทางให้โมเสสเดินทาง) และพระเจ้าได้แหวกทะเลเพื่อให้ โมเสสได้เดินข้าม ลูกไฟที่คอยนำทางให้โมเสสคือยาน UFO ในตอนที่แหวกทะเลยาน UFO น่าจะยิงอาวุธอะไรลงมา หรือทำให้น้ำทะเลแหวกออกจากกันด้วยแรงอะไรบางอย่าง​

10. ในคัมภีร์ไบเบิ้ลตอนศาสดาโมเสส แม้แต่พระเยซูเองเวลาพบพระเจ้าต้องขึ้นไปที่ภูเขาโดยคนอื่นไม่สามารถขึ้นไปได้ (จำชื่อภูเขาไม่ได้ ) แสดงว่ายาน UFO ของมนุษย์ต่างดาวหรือพระเจ้านั้นจะลงจอดอยู่ในที่สูง และจะปล่อยรังสีอะไรสักอย่างออกมาเพื่อไม่ไห้มนุษย์ขึ้นไปและหากใครถูกรังสีนั้นจะต้องตาย พระเยซูและโมเสสขึ้นไปได้เพราะได้รับอนุญาติหรือมนุษย์ต่างดาวมารับนั่นเอง​

11. ในคำภีร์ไบเบิ้ลเวลาที่พระเจ้าปรากฏตัว อย่างในตอนที่ปรากฏแก่ เปาโล กล่าวว่ามีแสงสว่างล้อมรอบตัวเปาโลลงมาจากฟากฟ้าเป็นแสงสว่างมากพร้อมด้วยเสียงของพระเจ้า แสงที่ส่องส่งมานั้นมาจากยาน UFO เพื่อใม่ให้เปาโลได้เห็นตัวยาน และเสียงที่ถ่ายทอดลงมาจากฟ้าก็คือเสียงที่มนุษย์ต่างดาวส่งโทรจิตลงมาคุย​

12. ในคัมภีร์ไบเบิ้ลพระวิญญาญบริสุทธิ์หรือทูตสวรรค์ ที่ปรากฏตัวต่อสาวกหรือแม้แต่พระเยซู มีร่างโปร่งใสมีแสงสว่างหน้าตาเหมือนมนุษย์คิดว่านั่นคือมนุษย์ต่างดาว และตัวมนุษย์ต่างดาวเองมีรูปร่างเช่นนี้​

13. ในตอนที่พระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขนก่อนที่จะสิ้นพระชนม์ ได้แหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้าและร้องว่า " พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย " และกล่าวคำว่า "สำเร็จแล้ว" หลังจากนั้นจึงสิ้นพระชนม์ วันที่พระองค์สิ้นพระชนม์ท้องฟ้ามืดเหมือนกลางคืนทั้งที่ไม่มีเมฆ เพราะนั้นเป็นเงาของยาน UFO ของพระเจ้าบังแสงของพระอาทิตยไว้อยู่และพรางตัวไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็น พระเจ้าหรือมนุษย์ต่างดาวได้มองดูจากบนยานอวกาศอยู่ ดังนั้นพระเยซูจึงร้องเรียก เมื่อพระเยซูสิ้นลม พระเจ้าหรือมนุษย์ต่างดาวจึงโกรธยิงอาวุธใส่วิหาร แต่ระงับความโกรธเอาไว้ได้ จึงทำให้ฝ้าม่านในวิหารขาด​

14. พระเยซูฟื้นจากความตาย ศพของพระเยซูถูกเก็บไว้ในอุโมงค์โดยมีก้อนหินขนาดใหญ่ปิดไว้ ในวันที่พระองค์พื้นก้อนหินถูกกลิ้งออกจากอุโมงค์โดยที่ยาน UFO ได้นำร่างของพระเยซูขึ้นไปทำการรักษาและชุบชีวิตด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า​

15. ในวันที่พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ ได้กล่าวสัญญาว่าเราจะกลับมา สาวกทั้งหลายเห็นพระเยซูลอยขึ้นไปบนทองฟ้า ก็คือ UFO ได้ดูดพระเยซูขึ้นไปบนยานนั่นเอง​

16. คัมภีร์ใบเบิ้ลเป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวสร้างขึ้น เพราะได้ซ่อนคำทำนายและเหตุการณ์ต่างๆ ที่ยังไม่เกิดขึ้นและเกิดขึ้นแล้วไว้ข้างในโดยแยบยลและไร้ร่องรอย อย่างน่ามหัศจรรย์ มนุษย์สมัยก่อนยังไงก็มองไม่เห็นอนาคตได้แบบนั้น ซึ่งคัมภีร์นี้อยู่มาเป็นพันๆปีแล้ว ต้องผ่านการประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ออกมา จนปัจจุบันเมื่อมีคอมพิวเตอร์ จึงใจถอดความในนั้นออกมาได้ ​

แต่อย่างไรก็ตามทุกศาสนาก็สอนให้คนเราเป็นคนดี ไม่ให้ประพฤติชั่วเราจะนับถือศาสนาอะไร ทุกคำสอนก็จะยังคงคล้ายและเหมือนกัน ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ถ้าไม่เห็นในชาตินี้ก็จะส่งผลกรรมตามมาในชาติหน้า ดังนั้นเราควรจะทำความดีเอาไว้ เงินทองมีมากมายตายไปก็เอาไปไม่ได้ แต่คนเราตายไปความดีความชั่วเท่านั้น ที่คงอยู่ชั่วนิรันดร์จะสลายสูญหายไปตามกาลเวลาเท่านั้น แต่ก็ยังจะจารึกแก่คนรุ่นหลังต่อไปๆ​

พระเจ้าและพระเยซูคือใคร ทำไมถึงพระเยซูลอยได้ ทำไมถึงต้านแรงโน้มถ่วงของโลกได้ คัมภีร์ไบเบิ้ลทำไมถึงรู้เหตุการณ์ต่างๆล่วงหน้าได้มากมาย ยังคงเป็นปริศนาต่อไปแล้วคุณล่ะเชื่อหรือไม่ ​

จั่นเจา [ จันทร์ ที่ 26 ธ.ค. 2548 เวลา 10:57 น. ]​

ที่มา http://www.tamdee.net/note/view.php?No=631​