ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** พยายามแปลงกาย ****

เรื่องพ้นทุกข์...ก็อยู่ที่ใครทำได้ ใครทำไม่ได้
ท่านต้องมีสัจจะ....ยื่นคำขาดให้ตนเอง ในสิ่งที่ไม่ควรทำ

สิ่งไม่ดีเราก็รู้...แต่ก็ยังชอบทำ
ที่ไม่เลิก เพราะอะไร ?

เพราะ ... เรามักจะ เสียดายความรู้สึกที่เคยได้รับ
มันเป็นเพียงความรู้สึก เท่านั้นเอง

สูบบุหรี่ กินเหล้า เจ้าชู้ มั่วกาม เล่นพนัน เสพยา....แล้วได้อะไร ?
รู้ว่าไม่ดี แต่ก็ยังชอบทำ
แล้วเมื่อไหร่ถึงเราถึงจะเลิกได้

หยุดเลิกแบบตามใจ ...ไม่จริงจัง เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ผีเข้า ผีออก
เลิกด้วยสัจจะ....ดินฟ้าอากาศเป็นพยานในการทำความดี
ผู้ทำได้ ... ก็หลุดพ้นได้จริง

พยายามทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ตนเอง...แปลงกายซะใหม่

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เหนือความคาดหมาย ****

สัจจะ...เปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้จริง
........ เปลี่ยนแปลงโลกได้จริง

ขอให้ทุกท่าน เป็นผู้ทำได้
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ที่หัวหินมีคุณวีนัสครับ vnss

 

วันนี้ผมอยู่ๆก็คิดเรื่องนี้ขึ้นมาแต่ยังไม่ได้พิมพ์ ออกความเห็น

ไม่ยักจะรู้ว่ามีคนคิดเหมือนกัน

แล้วที่ท่าน เกษม ออกมาพูดก็ถูกว่า
พวกเค้าเงินหมด ท้องร้องก็จะต้องขายของเพื่อให้ท้องหนักขึ้นเป็นธรรมดา

แต่ผมให้แง่คิดนิดนึงว่า

ของอะไรก็ตามที่พวกเค้าได้มาง่ายๆสบายๆ และได้เรื่อยๆทุกๆปี
ต่อให้รู้ว่ามันมีประโยชน์สำหรับเค้า ในยามขาดแคลน
พวกเค้าก็พร้อมที่จะขายสิ่งนั้น(แทนการขายสิ่งอื่นๆที่เค้าซื้อมาด้วยเงินตัวเอง)
เพราะรู้เพียงว่า ทุกๆปีจะมีคนเอาของฟรีมาให้ เค้าเอาไปขายอีกแน่นอน(ของฟรี มันอร่อยกว่าเยอะ)

 

ช่าย

 

อัลกออิดะห์ขู่โอบามาอาจเจอสงครามศักด์สิทธิ์​

​

20 พ.ย. - การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ผ่านไปแล้วหลายสัปดาห์ แต่เพิ่งจะมีความเคลื่อนไหวจากเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ โดยเป็นการโจมตีชี้ชวนให้ชาวมุสลิมและโลกอาหรับเห็นว่า ว่าที่ผู้นำผิวสีไม่ได้คิดเปลี่ยนแปลงนโยบายใด ๆ ของสหรัฐ

นายไอยมาน อัล-ซาวาห์รี ผู้นำหมายเลข 2 ของเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ออกมาแสดงความเห็นต่อผู้นำสหรัฐคนใหม่เป็นครั้งแรกผ่านทางเว็บไซต์ของกลุ่ม โดยกล่าวดูหมิ่นว่า บารัค โอบามา เทียบไม่ได้เลยกับคนอเมริกันผิวดำที่เคยสร้างเกียรติประวัติและทำคุณงามความดีให้แก่ชนผิวดำด้วยกันอย่าง มัลคอม เอกซ์ ผู้นำเรียกร้องสิทธิเพื่อคนผิวสีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน นอกจากนี้ อัล-ซาวาห์รี ยังกล่าวว่า โอบามา รวมทั้ง พลเอกโคลิน พาวเวลล์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และ ดร.คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศคนปัจจุบัน ซึ่งล้วนเป็นคนผิวสีด้วยกันทั้งหมด ไม่ต่างอะไรไปจากทาสรับใช้ในเรือนที่ต้องทำเพื่อคนผิวขาว

ผู้นำหมายเลข 2 ของอัลกออิดะห์ ระบุว่า การเลือกนายโอบามาเป็นผู้นำสหรัฐ ไม่ได้ทำให้นโยบายของสหรัฐที่มุ่งปราบปรามมุสลิมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม พร้อมทั้งเตือนโอบามาให้ดูชะตากรรมของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และ พลเอกเปรเวซ มูชาราฟ อดีตผู้นำปากีสถาน เป็นตัวอย่าง หากคิดส่งกำลังทหารเข้าไปยังอัฟกานิสถานเพื่อทลายกลุ่มก่อการร้ายตามแผนการ แม้อัล-ซาวาห์รีไม่ได้พูดเจาะจงเรื่องการขู่โจมตี แต่ก็เตือนโอบามาว่า อาจต้องพบกับสงครามศักด์สิทธิ์หรือจีฮัด หากยังไม่รับรู้ถึงบทเรียนของการข่มเหงโลกมุสลิม

ด้านนายฌอน แมคคอร์แมค โฆษกกระทรวงต่างประเทศ และนางดานา เปอริโน โฆษกทำเนียบขาว ออกมาประสานเสียงโต้อัลกออิดะห์ ว่า คำวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวเป็นเพียงพฤติกรรมปกติของพวกก่อการร้าย เมื่อเห็นว่ารัฐบาลสหรัฐไม่ว่าจะกำลังจะพ้นวาระหรือรัฐบาลใหม่ล้วนยึดมั่นในแนวทางการต่อต้านการก่อการร้าย. -สำนักข่าวไทย

2008-11-20 12:36:41

แมนพาวเวอร์เตือนให้ระวังการปรับลดคนงานครั้งใหญ่ทั่วโลก ​

​

นิวเดลี 20 พ.ย.- แมนพาวเวอร์ บริษัทจ้างงานชื่อดังของสหรัฐที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก เตือนให้ระวังว่า หลายประเทศแถบตะวันตกจะมีการตัดลดพนักงานลงอย่างรุนแรง เพื่อประหยัดต้นทุน หวังให้องค์กรอยู่รอดได้ในช่วงที่เกิดวิกฤติการเงินโลก

นายเจฟฟรี โจเออร์เรส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแมนพาวเวอร์ ยังระบุว่า การเลิกจ้างพนักงานจะมีมากขึ้นในช่วง 6 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ซึ่งเป็นช่วงที่หลายบริษัทจะต้องจัดทำร่างงบประมาณให้แล้วเสร็จสำหรับปีหน้าที่ใกล้เข้ามา และเนื่องจากคาดว่า เศรษฐกิจปีหน้าจะซบเซาเช่นเดียวกับปีนี้ ส่งผลให้บางบริษัทต้องปกป้องสถานภาพองค์กรล่วงหน้า ด้วยการตัดลดคนงานทิ้ง แม้ว่า จะยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้เลยก็ตาม

ด้วยเหตุนี้ ซีอีโอของแมนพาวเวอร์ จึงคาดการณ์ว่า สถานการณ์การจ้างงานจะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น ซึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อน ซิตีกรุ๊ป ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ก็เพิ่งประกาศจะลดตำแหน่งงานลง 53,000 ตำแหน่ง เพื่อประหยัดการใช้จ่าย ชดเชยกับการขาดทุนมหาศาล จากวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ หรือซับไพร์ม
นายโจเออร์เรส ซีอีโอของแมนพาวเวอร์ ยังระบุว่า แม้ขณะนี้ สหรัฐจะมีตัวเลขการว่างงานสูงสุดในรอบ 4 ปี คือ ร้อยละ 6.5 แต่คาดว่า ต่อไปตัวเลขการว่างงานในสหรัฐจะพุ่งถึงร้อยละ 7.5 หรืออาจจะเป็นร้อยละ 8 ส่วนประเทศในแถบยุโรปตะวันตก ตัวเลขการว่างงานก็จะพุ่งขึ้นด้วยเช่นกัน เช่น ฝรั่งเศสที่ตัวเลขการว่างงานอาจพุ่งขึ้นจากร้อยละ 7.2 เป็นร้อยละ 9

นายโจเออร์เรส ยังไม่เห็นด้วย ที่บางคนมองว่า ความซบเซาของเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่กระทบกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยระบุว่า แม้วิกฤติเศรษฐกิจจะเริ่มจากสหรัฐ แต่ตอนนี้ ก็ได้แผ่ลามไปยังยุโรป ส่งผลให้เศรษฐกิจยุโรปทรุดอย่างรวดเร็ว และยังทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นถดถอยไปแล้ว และขณะนี้ให้จับตาดูกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเฉพาะดูไบ ที่ภาคธุรกิจก่อสร้างเริ่มประสบปัญหา ดังนั้น จึงไม่มีประเทศใดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจนี้. -สำนักข่าวไทย

2008-11-20 11:27:02

ชี้เสถียรภาพการจ้างงานเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกของจีน​

​

ปักกิ่ง 20 พ.ย. - รัฐมนตรีจีนชี้ว่า การสร้างเสถียรภาพด้านการจ้างงานเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกของจีนเนื่องจากตัวเลขคนว่างงานกำลังเพิ่มขึ้นเพราะภาคการส่งออกอ่อนตัวลงทำให้เกิดการประท้วงอยู่เนือง ๆ

นายอิ่น เว่ย หมิน รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรบุคคลและประกันสังคมของจีน กล่าวว่า ตัวเลขคนว่างงานเมื่อเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น เพราะวิกฤติเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต ซึ่งเป็นภาคสำคัญของจีน คาดว่าตัวเลขนี้จะสูงขึ้นอีกในปีหน้า ดังนั้น การสร้างเสถียรภาพด้านการจ้างงานจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกในขณะนี้ โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้มีคนว่างงานรายใหม่ 10.2 ล้านคน สูงกว่าตัวเลขทั้งปีที่ทางการคาดการณ์ไว้ร้อยละ 2

นายอิ่นระบุว่า สถานการณ์การว่างงานในปีนี้โดยรวมถือว่าปกติ แต่ในเดือน ต.ค.เริ่มเห็นได้ชัดว่าได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจโลก บริษัทขนาดกลางและเล็กที่เน้นใช้แรงงานหนักเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด หลายแห่งปิดตัว หลายแห่งลดกำลังผลิต มีการเลิกจ้างจำนวนมาก ทำให้คนงานที่ถูกลอยแพประท้วง จนวิตกกันว่าอาจลุกลามจนกลายเป็นการลุกฮือก่อความไม่สงบ.- สำนักข่าวไทย

2008-11-20 11:07:35

โรลส์ รอยซ์ มีแผนลอยแพพนักงานถึง 2,000 ตำแหน่งในปีหน้า​

​

ลอนดอน 20 พ.ย. - บริษัทโรลส์-รอยซ์ ผู้ผลิตรถยนต์ของอังกฤษ แถลงว่า บริษัทเตรียมลดจำนวนพนักงานตั้งแต่ 1,500-2,000 ตำแหน่งทั่วโลกในปีหน้า หรือประมาณร้อยละ 5 ของพนักงานบริษัทโรลส์-รอยซ์ ทั่วโลก

แถลงการณ์ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลขและสำนักงานสาขาของบริษัทที่จะต้องถูกลดจำนวนพนักงานได้แน่ชัด เพียงแต่ประเมินว่า ในปี 2552 จำเป็นต้องลดพนักงานประมาณ 1,500-2,000 ตำแหน่งทั่วโลก ทั้งนี้ บริษัทโรลส์-รอยซ์ มีพนักงาน 39,000 คนทั่วโลก โดยร้อยละ 60 อยู่ในอังกฤษ.-สำนักข่าวไทย

2008-11-20 15:28:57

อีซูซุของญี่ปุ่นจะลดตำแหน่งงาน 1,400 ตำแหน่ง​

​

โตเกียว 20 พ.ย.- บริษัท อีซูซุ มอเตอร์ส จะลดตำแหน่งงาน 1,400 ตำแหน่ง และตัดลดกำลังการผลิตภายในประเทศญี่ปุ่นลงร้อยละ 10 ถือเป็นค่ายรถญี่ปุ่นล่าสุดที่ตัดสินใจปรับคนออก เพื่อรับมือกับวิกฤติการเงิน

อีซูซุ มอเตอร์ส เป็นบริษัทผู้ผลิตรถบรรทุกใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น โฆษกของอีซูซุยืนยัน บริษัทไม่มีทางเลือก นอกจากต้องปรับเปลี่ยนกำลังคนและกำลังการผลิตภายในองค์กร โดยจะลดกำลังการผลิตรถภายในประเทศญี่ปุ่นให้เหลือเพียงแค่ 249,000 คัน ในปีงบประมาณซึ่งจะไปสิ้นสุดในเดือน มี.ค.ปีหน้า

นอกจากอีซูซุแล้ว เมื่อวานนี้ ค่ายรถชั้นนำในญี่ปุ่น อย่างโตโยต้า มอเตอร์ ก็ยืนยันจะยุติการผลิตเพิ่มอีก 2 วัน ในเดือนหน้า สำหรับโรงงานโตโยต้าทุกแห่งที่ตั้งอยู่ในสหรัฐและแคนาดา เนื่องจากยอดขายตกต่ำ ส่วนนิสสัน มอเตอร์ ตัดสินใจจะลดกำลังการผลิตเช่นกัน และจะลดพนักงาน 3,500 ตำแหน่งทั่วโลก

ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐก็กำลังย่ำแย่เช่นกัน โดยเฉพาะสามค่ายรถยักษ์ใหญ่ คือ ฟอร์ด เจเนรัล มอเตอร์ส และ ไครสเลอร์ ที่กำลังขอความช่วยเหลือจากภาครัฐไม่ให้กิจการต้องล้มละลาย. -สำนักข่าวไทย

2008-11-20 14:33:42

พายุกระหน่ำรัฐควีนส์แลนด์ลูกที่ 2 ในรอบสัปดาห์​

​

ออสเตรเลีย 20 พ.ย.-ผู้คนในรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลียต้องเผชิญกับพายุที่มีความรุนแรงเป็นลูกที่ 2 ในรอบสัปดาห์นี้

ความรุนแรงของพายุลูกที่ 2 ที่เคลื่อนเข้าโหมกระหน่ำพื้นที่ชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ทางภาคตะวันออกของออสเตรเลีย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังตามถนนสายต่าง ๆ ขณะที่ตำรวจเร่งค้นหาสตรีเคราะห์ร้ายคนหนึ่งที่ถูกกระแสน้ำพัดพาหายไปขณะกำลังขับรถ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ
ที่เมืองบริสเบน

อิทธิพลของพายุลูกนี้ก่อให้เกิดฝนตกหนักเป็นปริมาณเกือบ 8 นิ้ว รวมทั้งมีกระแสลมแรงจัดบริเวณพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ ความรุนแรงของพายุยังทำให้บ้านเรือนและร้านค้าหลายร้อยหลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ขณะที่ทางการรัฐควีนส์แลนด์เตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

2008-11-20 14:16:55

ที่มา http://news.mcot.net

 

เรื่องแจกเสื้อ กับ ผ้าห่มกันหนาว ส่วนตัวผมก็มีความคิดเหมือนทุกท่าน
คือ ทั้งอยากจะช่วย เพราะ ชาวบ้านหนาวมาก ลำบากอยู่ แต่ก็ไม่อยากช่วย
เพราะว่ากลัวว่าเค้าจะเอาเสื้อ กับผ้าห่มไปขายหลังจากหมดหน้าหนาว แล้วปีหน้าก็ไม่มีอีก

พยายามหาเหตุผลให้กับตัวเอง
แต่สุดท้ายสรุปกับตัวเองว่า ถ้ามีโอกาสยังก็คงต้องช่วย
เหมือนกับคนที่ไม่ดี หรือเป็นโจร เราไม่สนับสนุนเค้าแต่ถ้าเค้ากำลังอดตาย
ยังไงก็ต้องให้ข้าวเค้ากินสักมื้อ เพื่อให้อยู่รอดไปก่อน

 

น้ำใจคนไทย ยังไงก็ต้องช่วยเหลือกันนั้นแหละ ดีที่สุด

แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เราจะทำอย่างไรให้ เค้า ไม่ขายเสื้อที่เราให้ แล้ว เค้ามีกิน
ตามแบบพอเพียง นี้คือ โจทย์ที่ ยากพอสมควร

เพราะว่า ถ้าอดยากจริงๆๆๆๆๆพอเข้าใจ แต่บางครั้งความไม่พอเพียงนี้สิ แก้ยาก

จิตใจเราที่ให้เค้า ย่อมบริสุทธิ๋ โดยแท้จริงผู้ให้ คาดหวังเพียงแค่ให้เค้าคลายหนาวได้บ้าง นี้คือการช่วยเหลือเพียงเบื้องต้น

แต่การช่วยเหลือที่ ยั่งยืนนี้ สิ ต้องช่วยกันคิด ว่า

จะมีปีไหนบ้าง ที่อากาศหนาวแล้ว พวกเค้าพึ่งตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอพวกเรา

 

<TABLE class=tborder id=post1676335 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_1676335 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">

แบบฟอร์มขันธ์ห้า
<O</Oโดย คุณสุดใจเขากะลา
<O</O
​

กลไกของธรรมชาติก็มีการจัดสรร กำหนดกฏเกณฑ์เป็นแบบฟอร์มขันธ์ห้าขึ้นมา แบบฟอร์มแต่ละแบบฟอร์มนั้น จะมีความเหมือนกันในแต่ละแบบฟอร์ม<O</O
<O</O
อย่างเช่นแบบฟอร์มขันธ์ห้าของนกแก้ว แบบฟอร์มนี้มีสองขา มีปีก สีเขียว จะมีลักษณะบินได้ และพูดได้ถ้ามีการสอนให้พูด
<O</O
แบบฟอร์มของนกยูง มีปีกแต่บินไม่ได้ มีสีสรรสดใส หางลำแพนสวยงาม ถึงจะสอนก็พูดไม่ได้
<O</O
แบบฟอร์มของปลาฉลาม จะมีลักษณะดุร้าย กินปลาเล็ก ๆ เป็นอาหาร
<O</O
แบบฟอร์มของปลาทู จะไม่ดุร้าย จะตกเป็นอาหารของปลาต่าง ๆ จึงมีการอยู่กันเป็นฝูงใหญ่ การว่าย การแสดงออกจะเหมือน ๆ กัน
<O</O
แบบฟอร์มของลิง ของแมว ของเต่า ของกระต่าย ของอะไรก็ตาม ก็จะมีลักษณะเฉพาะของแต่ละแบบฟอร์มแตกต่างกันไป<O</O
<O</O
ดังนั้น เมื่อการประมวลผลของการบันทึกไว้ออกมาเป็นเช่นไร ถ้าผลของการประมวลผลออกมาไม่ถึงเกณฑ์ที่จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แต่เข้าได้กับแบบฟอร์มไหน ก็จะต้องไปยังแบบฟอร์มนั้น
<O</O</O
สมมุติว่า สร้างอกุศลมากกว่า แล้วได้แบบฟอร์มปลาทู เมื่อเข้าไปอยู่ในแบบฟอร์มนั้นแล้ว ก็ต้องคิดรู้ทำไปตามแบบฟอร์มนั้นเลย เพราะมันมีแค่ชั้นเดียว คือมีแค่การทำตามสัญชาตญาณเท่านั้น เมื่อออกมาเป็นลูกปลา ก็ต้องเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณ เมื่อโตขึ้นมาก็เข้าไปในฝูงแหวกว่ายไปหาอาหารตามกลุ่มของปลา เมื่อฉลามมาสัญชาตญาณเอาตัวรอดก็ว่ายหนี แล้วมารวมฝูงกันใหม่ ก็เป็นอยู่อย่างนี้ตามแบบฟอร์ม จะไม่มีการคิดได้ว่า จะรวมกันสู้ฉลาม จะฉลาดรู้เท่าทันไม่ว่ายไปเข้าอวนที่มนุษย์วางไว้ เพราะแบบฟอร์มนี้ไม่ได้มีไว้ให้คิดซับซ้อนได้ จึงมีการคิดได้แค่ชั้นเดียว คือเป็นไปตามสัญชาตญาณของแบบฟอร์มนั้น ๆ <O</O
<O</O
ดังนั้น ถ้าตอนเป็นมนุษย์ แม้คน ๆ นั้นจะเก่งกล้าสามารถ เป็นใหญ่เป็นโตไม่กลัวใคร สร้างสิ่งไม่ดีไว้มากมาย แต่ถ้าผลที่ส่งไปลงแบบฟอร์มของปลาทูแล้ว แบบฟอร์มนั้นคิดรู้ได้ตามแต่สัญชาตญาณเท่านั้น แบบฟอร์มปลาทูขี้กลัว เมื่อไปอยู่ในแบบฟอร์มนั้นก็ต้องขี้กลัวไปด้วยตามแบบฟอร์มที่ธรรมชาติออกแบบไว้แล้ว<O</O
<O</O
มดที่เราเห็นเดินกันเป็นแถว ๆ นั้น เมื่อไปเกิดในแบบฟอร์มนั้น ก็ต้องเดินเป็นแถว ๆ ตามกันไป ไม่มีการที่จะคิดว่าฉันนอนดีกว่าจะเดินตามเขาไปทำไม จึงคิดรู้ได้ตามสัญชาตญาณของแบบฟอร์มเท่านั้น<O</O
<O</O
แม้ก่อนตายจะเป็นคนรวดเร็วว่องไว ทำงานเก่ง แต่มีด้านอกุศลมากกว่า หากเมื่อละขันธ์มนุษย์ไป การประมวลผลส่งไปอยู่ในแบบฟอร์มของเต่า แบบฟอร์มนั้นเชื่องช้า คลานไปเรื่อย ๆ ต้วมเตี้ยม ๆ เขาก็ต้องต้วมเตี้ยมตามแบบฟอร์มนั้น ตามสัญชาตญาณของเต่านั่นเอง จะไม่มีการคิดได้ว่า ไม่เอาแล้ววิ่งดีกว่า เบื่อเดินช้า ๆ เบื่อนอนในน้ำ เบื่อ ฯลฯ ไม่สามารถคิดรู้ได้ ซึ่งก็เป็นไปตามแบบฟอร์มนั้นในส่วนมาก<O</O
<O</O
แต่สำหรับมนุษย์ ก็เป็นแบบฟอร์มขันธ์ห้าเช่นกัน แต่แบบฟอร์มนี้มีลักษณะพิเศษมากกว่าแบบฟอร์มอื่น ๆ มีความซับซ้อน มีคุณสมบัติคิดรู้ได้เอง ดังนั้น จึงเรียกว่า สัตว์ประเสริฐ เพราะเป็นแบบฟอร์มที่นอกจากจะมีสัญชาตญาณตามธรรมชาติแล้ว ยังสามารถมีปัญญาคิดรู้ได้ ที่นอกเหนือไปจากแบบฟอร์มอื่น ๆ คือมีสติยั้งคิด มีการพิจารณา มีการไตร่ตรอง มีการควบคุมอารมณ์ที่เกิดตามสัญชาตญาณ ดังนั้น จึงสามารถที่จะพิจารณาธรรม และบรรลุธรรมได้
<O</O
ดังนั้น การที่จะเกิดมาได้แบบฟอร์มของมนุษย์นั้น จึงเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก <O</O
<O</O
การมองให้เห็นกลไกตามธรรมชาตินั้น ก็ต้องมองให้รอบ มองให้เห็นความเป็นธรรมดาของกลไกของสัตว์เหล่านั้นด้วย จิ้งจกมันก็เกิดมาอยู่ในแบบฟอร์มของมัน มันต้องกินแมลง มันต้องอยู่ตามบ้านเราเพราะรอกินแมลง เรารำคาญอยากไล่มันเราก็ทำได้ แต่ถ้ามันมาอีกเราก็ไล่อีก มันมาอีก เราโมโห ความทุกข์ก็เป็นของเรา ความพยาบาทที่จะทำร้ายมันก็ถูกบันทึกไว้ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทำ ก็บันทึกไปเรียบร้อยแล้วตามเจตนา ตามความคิดที่เรายึดว่าเราเป็นผู้คิดนั่นเอง<O</O
<O</O
แมลงเม่า เมื่อมีไฟที่ไหนมันก็พากันบันเข้าไป แล้วมันก็ตายกันเป็นฝูง ๆ เมื่อเรามองดูเราก็ปลงสังเวชที่มันพากันบินเข้าไปตาย แต่เมื่อมันอยู่ในแบบฟอร์มนั้น มันไม่สามารถคิดได้ว่าอย่าเข้าไปในไฟเลยเดี๋ยวตาย แต่แบบฟอร์มนั้นมันก็ทำตามสัญชาตญาณของแบบฟอร์มเท่านั้น เกิดปัญญาคิดรู้ไม่ได้<O</O
<O</O
ดังนั้น การที่ไปเกิดเป็นสัตว์ต่าง ๆ นั้น ก็เป็นการเกิดมาใช้กรรม <O</O
<O</O
ที่ว่า เกิดมาใช้กรรม ก็เพราะ ไม่สามารถที่จะคิดรู้ พาตัวเองออกจากความทุกข์ได้ ก็ทำไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น เป็นนก ออกจากไข่แล้ว ก็หัดบิน ออกไปหากิน มีสัญชาตญาณเอาตัวรอดจากภัย สืบพันธุ์ ออกไข่ เลี้ยงลูก แล้วก็ตาย
<O</O
ถ้าเกิดมาในแบบฟอร์มนกอีก ก็ออกจากไข่แล้ว ก็หัดบิน ออกไปหากิน มีสัญชาตญาณเอาตัวรอดจากภัย สืบพันธุ์ ออกไข่ เลี้ยงลูก ถูกคนยิง บาดเจ็บ แล้วก็ตาย
<O</O
วัฏฏะจักรของนกก็มีแค่นี้ เกิดมาแต่ละชาติก็เท่าเดิม ก็คือเกิดแค่ไหน ก็ตายแค่นั้น เพราะไม่มีความคิดซับซ้อนให้เกิดปัญญาได้ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแบบฟอร์มไปยังแบบฟอร์มอื่น ๆ ที่มีกลไกซับซ้อนมากขึ้นไปอีกเท่านั้น
<O</O
(หมายเหตุ ที่กล่าวมานี้เป็นแบบฟอร์มขันธ์ห้าของสัตว์ตามธรรมชาติที่เห็นกันทั่ว ๆ ไป มิได้กล่าวรวมถึงการอธิฐานจิตมาสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ในชาติภพที่ผ่านมา ที่ท่านมีปัญญาไตร่ตรองและคิดรู้ได้ตามการอธิฐานจิตนั้นๆ )<O</O​

​

</TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("1676335")</SCRIPT>ดังนั้น การที่จะมองเห็นธรรมชาติ แล้วปล่อยวางตามความเป็นจริงนั้น ต้องเข้าใจในหลาย ๆ เรื่อง และมองเห็นความเป็นเช่นนั้นเองของทุกสรรพสิ่ง<O</O
<O</O
แบบฟอร์มของเสือ เกิดมาต้องดุร้าย กินสัตว์เป็นอาหาร เมื่อจิตที่เข้ามาอยู่ในแบบฟอร์มนี้ คิดอะไร ก็ทำไปตามนั้น เมื่อหิว สัญชาตญาณก็ต้องหาอาหาร ก็ต้องไปล่าสัตว์ เมื่อเห็นกวาง ก็ต้องคิดจะฆ่ากวางตามสัญชาตญาณ แล้วดำเนินการตามที่คิด นั่นคือสัญชาตญาณหากินตามธรรมชาติ
<O</O
แบบฟอร์มของมนุษย์ เมื่อหิว หันไปเห็นคนกำลังกินข้าวในร้าน อยากเข้าไปแย่งอาหารนั้น แต่มีสติยั้งคิด มีการไตร่ตรองก่อน ดังนั้น ความหิวจึงไม่สามารถผลักดันให้มนุษย์ทำในสิ่งที่เห็นว่าไม่ถูกต้องได้ เพราะมีความคิดอีกด้านหนึ่งที่ซับซ้อนกว่าสัญชาตญาณ มาคอยขวางกั้นการทำตามอารมณ์นั้น ๆ อีกชั้นหนึ่งนั่นเอง<O</O
<O</O
แต่ไม่ใช่ไปมองว่าเสือผิด ที่คิดแล้วก็ไปล่ากวางกินเป็นอาหาร แต่เพราะเป็นสัญชาตญาณที่มีอยู่ในแบบฟอร์มนั้น กวางก็อยู่ในแบบฟอร์มที่ต้องคอยระวังตัว คอยหนีตลอดเวลา เมื่อแบบฟอร์มนั้นมีสัญชาตญาณหนีอย่างเดียว ตอนเป็นมนุษย์เคยกล้าไม่กลัวใคร ถ้าไปอยู่แบบฟอร์มกวางก็จำไม่ได้ ก็ต้องคิดไปตามกลไกของแบบฟอร์มนั้น <O</O
<O</O
ดังนั้น การมองเห็นว่าหมาน่ารัก แมวน่ากอด หนูน่าเกลียด จิ้งจกน่าเบื่อ งูน่ากลัว ไส้เดือนน่าขยะแขยง นั้น ก็เป็นการมองที่ไม่เข้าใจในความเป็นจริงของธรรมชาติ จึงมีความเห็นที่ไม่เท่าเทียมกัน<O</O
<O</O
สัตว์ต่าง ๆ มันก็ไม่สามารถเลือกเองได้ มันไม่อยากเป็นหมา ไม่อยากเป็นแมว ไม่อยากเป็นหนู ไม่อยากเป็นกิ้งกือไส้เดือน แต่เมื่อวิบากส่งไปลงในแบบฟอร์มขันธ์ห้านั้นแล้ว เขาก็ต้องไปตามแบบฟอร์มนั้น <O</O
<O</O
แบบฟอร์มแมวน่ารัก ขี้ประจบ เขาก็เล่นไปตามกลไกของแบบฟอร์มนั้น แบบฟอร์มนั้นจึงมีขนสวย น่ารัก สะอาด ประจบเก่ง<O</O
แบบฟอร์มหนู ชอบลักขโมย ชอบคุ้ยเศษอาหาร สกปรก เแบบฟอร์มนั้นจึงมีขนสีดำหรือทึม ๆ หางแหลมน่าเกลียด เพราะต้องอยู่ในท่อสกปรก เราเห็นก็รังเกียจเหมือนกันหมด
<O</O
มดชอบขึ้นอาหาร มดกี่ตัวกี่ตัวเดินเรียงแถว จะมารุมกินแต่เศษอาหารที่ทิ้งไว้ ก็เพราะแบบฟอร์มเขาเป็นอย่างนั้น จมูกได้กลิ่นไกลมากและมาเป็นขบวน ซึ่งเขาอยู่ในแบบฟอร์มนั้น ๆ ก็ไม่สามารถเลือกได้ ต้องเป็นไปตามกลไกของแบบฟอร์มนั้น
<O</O
แม้แต่มนุษย์ก็ไม่สามารถเลือกเองได้เช่นกัน ดังนั้น ทำไมจึงต้องสร้างกุศล สร้างบารมีไปเรื่อย ๆ เพราะในขั้นที่ไม่สามารถปล่อยวางขันธ์ห้าได้ ยังมีตัวตนของตนอยู่นั้น การที่จะบันทึกสิ่งใดเข้าไป ก็ควรที่จะบันทึกในสิ่งที่เป็นกุศลดีกว่า เพื่อป้องกันการไปอยู่ในแบบฟอร์มที่ไม่สามารถคิดรู้ได้เองเหล่านั้น
<O</O
<Oความจริงทุกสิ่งมันก็เป็นของมันอย่างนั้นแหละตามกลไกของธรรมชาติ แต่เราก็เลือกที่จะอยู่กับสิ่งใด ๆ ก็ได้ แต่อย่าได้ไปยึดว่าสิ่งนี้ดีกว่าสิ่งนี้ เรารักแมวก็อยู่กับแมวไป แต่อย่างไปว่าคนที่เขารักสุนัข ถ้าสุนัขมันวิ่งไล่แมวเรา ก็ต้องรู้ว่าสัญชาตญาณของสุนัขมันเป็นอย่างนั้นเอง เราก็ช่วยแมวไปตามเรื่อง ตามความเมตตาเท่าที่ทำได้ แต่การที่จะไปขุ่นแค้น อาฆาต แล้วฆ่าสุนัขตัวนั้น ก็เพราะเราเห็นว่าสิ่งนี้เรารัก สิ่งนี้เราเกลียด เราต้องกำจัดสิ่งที่เราเกลียดไป แต่ถ้าแมวเราไปไล่จับหนูก็ต้องรู้ว่าสัญชาตญาณมันเป็นอย่างนั้นเอง เราก็ช่วยหนูไปตามเรื่องตามความเมตตาที่เรามี ไม่ใช่ไปโกรธแค้นแมวเราเพิ่มอีก หาว่าเราก็เลี้ยงอาหารอย่างดีแล้วก็ยังไปกินหนูอีก ซึ่งสิ่งนี้เป็นกลไกของแบบฟอร์มของมัน ซึ่งก็ไม่มีอะไรผิดอะไรถูกเช่นกัน เพราะมันเป็นธรรมชาติของแต่ละแบบฟอร์มนั่นเอง<O</O
<O</O
นกต้องจิกกินหนอน ไก่ต้องกินไส้เดือน งูก็ต้องกินกบกินเขียด เราไม่สามารถไปช่วยสัตว์เหล่านั้นได้ทั้งโลก แต่ถ้าสิ่งนั้นเราสามารถช่วยเหลือได้ มาเกิดตรงหน้าเรา เรามองเห็น ก็ช่วยกันไปตามธรรมดา ตามความเมตตากรุณาที่มีอยู่ แต่บางสิ่งที่ไม่สามารถช่วยได้ ก็ต้องปล่อยวาง ต้องเห็นความเป็นไปของธรรมชาติ จิตจะได้ไม่ไปหดหู่เศร้าหมองกับธรรมชาติเหล่านั้น<O</O
<O</O
<Oก็เป็นมุมมองอีกมุมหนึ่งของการเห็น ความเป็นเช่นนั้นเอง ของธรรมชาติ เราจะได้ไม่ไปมีอคติกับสิ่งใด ๆรอบตัว ที่อันนี้ชอบ อันนี้ไม่ชอบ รักแมว เกลียดหมา รักนก เกลียดหนู หรือมองเห็นสิ่งนี้ ดีกว่าสิ่งนี้ ทำให้จิตของเราโอนไหวไปตามความเห็นที่เอียงไปในด้านใดด้านหนึ่งนั่นเอง
</TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=86674&page=268

 

ถวายในหลวง รางวัลผู้นำโลก [17 พ.ย. 51 - 04:15]
​

องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ทูล เกล้าฯถวายรางวัลในหลวง

นางพวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยเมื่อเร็วๆนี้ ว่า ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ นายฟรานซิส เกอร์รี่ ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) จะเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทูลเกล้าฯถวายรางวัลโกลบอล ลีดเดอร์ อวอร์ด (Global Leader Award) ซึ่ง ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระ บรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับการทูลเกล้าฯแทน

โดยเหตุผลที่ WIPO ทูลเกล้าฯถวายรางวัลดังกล่าว เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงอุทิศตน และใช้งานทรัพย์สินทางปัญญาส่งเสริมและพัฒนาประเทศ รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยให้ดีขึ้นได้อย่างโดดเด่น เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก อีกทั้งยังทรงเป็นผู้นำของประเทศพระองค์แรก ที่ได้รับการทูลเกล้าฯถวายรางวัลนี้ นอกจากนี้ จากการหารือกันของสหพันธ์สมาคมนักประดิษฐ์ระหว่างประเทศ (International Federal of Inventor Association : IFIA) ซึ่งมีสมาชิก 84 ประเทศทั่วโลก มีมติให้วันที่ 2 ก.พ. ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ทรงได้รับการจดสิทธิบัตรกังหันน้ำชัยพัฒนา จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เป็นวันนักประดิษฐ์โลกด้วย<o></o>

“ในโครงการพระราชดำริต่างๆ มีหลายโครงการที่ได้ทรงประดิษฐ์ คิดค้นเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการใช้งาน และมีพระบรมราชานุญาตให้ยื่นจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่าพระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถในการประดิษฐ์ คิดค้น และเข้าพระทัยถึงระบบงานทรัพย์สินทางปัญญาอย่างดี”<o></o>

สำหรับผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้รับการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา และจดแจ้งแล้วต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา ด้านสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร ได้แก่ สิทธิบัตรเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย (กังหันน้ำชัยพัฒนา) เครื่องกลเติมอากาศแบบอัดอากาศและดูดน้ำ การใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล การใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์สองจังหวะ การดัดแปรสภาพอากาศเพื่อให้เกิดฝน (ฝนหลวง) ภาชนะรองรับของเสียที่ขับออกจากร่างกาย อุปกรณ์ควบคุมการผลักดันของเหลว กระบวนการปรับปรุงสภาพดินเปรี้ยว เพื่อให้เหมาะต่อการเพาะปลูก (โครงการแกล้งดิน)

ด้านเครื่องหมายการค้า ไม่มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในพระปรมาภิไธย แต่พระราชทานให้บริษัท สุวรรณชาด จำกัด และมูลนิธิชัยพัฒนา จดทะเบียนเครื่องหมายการค้ารวม 13 คำขอ ได้แก่ เครื่องหมายการค้าสุวรรณชาด 1 คำขอ, ทองแดง 2 คำขอ, โกลเด้นเพลส 4 คำขอ, ธรรมชาติ 5 คำขอ และมุมสบายๆ 1 คำขอ ด้านลิขสิทธิ์ ผลงานที่ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ เช่น เพลงพระราชนิพนธ์ หนังสือต่างๆ ภาพถ่ายและภาพวาดฝีพระหัตถ์ เป็นต้น และที่ทรงจดแจ้งต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญามี 4 ผลงาน คือ ด้านวรรณกรรม 3 ผลงานคือ หนังสือแนวคิดทฤษฎีใหม่, โครงการทฤษฎีใหม่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพระมหาชนก ด้านศิลปกรรม 1 ผลงานคือ ประติมากรรมเหรียญพระมหาชนก<o></o>

ส่วนผลงานที่ได้รับการถวายการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาในต่างประเทศ ได้แก่ ฝนหลวง ซึ่งได้รับการจดทะเบียนที่ยุโรป และเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง ส่วนในสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานสิทธิบัตรสหรัฐฯ

นาง พวงรัตน์กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2550 หลายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาได้เคยทูลเกล้าฯถวายเหรียญ รางวัล และประกาศนียบัตรต่างๆ แด่พระองค์มากมาย ได้แก่ IFIA ประเทศฮังการี ทูลเกล้าฯถวายถ้วยรางวัล IFIA CUP 2007 สำหรับผลงานกังหันน้ำชัยพัฒนา เหรียญ Genius Prize สำหรับผลงานทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง


ที่มา - http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=111701

 

อย่ามองแต่ในด้านลบเลยครับ มองในแง่ดีกันบ้างก็ดีเหมือนกันนะครับ เช่นพวกเขาขาดการศึกษาเรียนรู้การดำรงชีพแบบเศรฐกิจพอเพียงของในหลวงท่าน ทำให้พวกเขาตัดสินใจขายผ้าห่มไปเพื่อการยังชีพ

 

ตรงมากๆทั้งเศรษฐกิจและการเมืองเลย

 

รัฐประกาศ พื้นที่ประสบภัยหนาวซ้ำซาก ที่จริงน่าจะประกาศ พื้นที่ที่ไม่รู้จักต้านภัยหนาวซ้ำซาก มากกว่า น่าจะแจกถุงพลาสติกที่เป็นเสื้อสวมได้ ที่หลายคนบอกกันหนาวได้ดี ขายก็ไม่คุ้มก็น่าจะดีนะ

 

เห็นด้วยกับความคิดเห็นข้างบนนะ ผมคนนึงละที่ไม่เข้าใจว่่าเข้าหน้าหนาวทีไร ต้องแจกผ้าห่มกันทุกทีไม่เคยเห็นมันพอซักที หรือว่าที่เห็นในข่าวนั้นแค่ผักชีโรยหน้า ทีนี้ถ้ามีใครหัวใสทำถุงพลาสติกที่เป็นเสื้อสวมได้ขาย หรือแจกก็ได้หรือสอนวิธีทำแบบง่ายๆให้เค้าต่อไปก็คงไม่มีปัญหาแบบนี้ให้เห็นซ้ำซากอีก (คิดว่าน่าจะใช้ได้จริงนะครับเพราะเคยได้ยินว่าเสื้อแบบนี้เป็นที่นิยมกันมากในญี่ปุ่นคือใส่ไว้ข้างในแล้วสวมเสื้อผ้าปรกติทับอีกชั้น เห็นว่ากันความหนาวได้ดีมากทีเดียว)

 

;aa25
ถ้าเราตั้งใจจะทำบุญทำไมต้องไปคิดอะไรกันมากมายขนาดนั้นด้วยครับ..
เราทำเราก็ได้...ส่วนเค้าจะเอาไปทำอะไรก็มันก็เป็นเรื่องของเค้า...อย่างน้อยก็ต้องมีคนที่ใช้จิงๆอาจจะมีบางคนที่ทำอย่างที่คุณคิดแต่มันก็เป็นส่วนนอ้ย...อย่าไปคิดเล็กคิดน้อยเลยครับ

 

ข่าวสั้นจากหมอนิด
(คัดลอกมาเฉพาะใจความสำคัญๆ)​

​

การปะทะคงจะหลีกเลี่ยงยาก คงจะต้องเกิดขึ้นเร็วๆนี้ และขอให้จับตามอง...
หากเกิด

 

เลิกคุยเรื่องผ้ากันหนาวกันดีกว่า

ในสภาพสังคมที่ทุรกันดาร ในเมืองไทยเป็นเมืองร้อน จะมีสักกี่หนาวเชียว ผ้าห่มกันหนาวเสื้อผ้ากันหนาว หากไม่ได้ใช้ก็เปลี่ยนเป็นทุนซะ ปากท้องมันต้องกินทุกวันนี่ครับ ใช่ว่าจะมาโจมตีกันในเรื่องพวกนี้ พวกท่านเป็นอริยะแล้วหรือไร? หากเป็นอริยะย่อมจะเข้าใจรากหญ้า มวลชนส่วนใหญ่ของพวกเรา พวกท่านมีกินมีใช้เหลือเฟือก็ควรจะแจกจ่ายออกไป เมื่อท่านได้แจกจ่ายออกไปแล้ว จะพิรี้พิไร คิดเล็กคิดน้อย ... มาร จะสิงหัวท่านตลอดไป นะเอ้อ เดี๋ยวจะหาว่า "หล่อ" ไม่เตือน

กระทู้นี้คืออะไร? ภัยพิบัติที่จะเกิดกับประเทศไทยใช่หรือไม่?
ฉะนั้น ฤดูกาลก็คือฤดูกาลสิครับ ..ร้อน ... ฝน ... หนาว ...

มีอยู่แค่นี้ จะอะไรกันนักกันหนา หรือครับ พี่น้อง

ขอให้ทุกท่าน ควรอยู่ในประเด็นด้วย และควรให้เกียรติกับผู้ที่ตั้งกระทู้ด้วย

 

​

 

*** เพียงความรู้สึก ****

เพียงความรู้สึก เสียดาย...เลยปิดกั้นการกระทำที่ดี
เสียดายเงิน
เสียดายของ
เสียดายความรู้สึกตนเอง

วัตถุ...เป็นของนอกกาย
การกระทำ....คือที่พึ่งของตนเองต่อไป
มีเกินพอเพียง ก็ให้เขาได้กินได้ใช้...อย่าไปหวังผลตอบแทน !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "