ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

วัดเนรมิตวิปัสสนา(วัดป่าหัวนายูง) แหล่งหลบภัยธรรมชาติ?
<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=3 width=750 align=center bgColor=#e6f2e6 border=0><TBODY><TR bgColor=#e6f2e6><TD colSpan=3></TD></TR><TR bgColor=#e6f2e6><TD width=23></TD><TD width=673>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=3 width=750 align=center bgColor=#e6f2e6 border=0><TBODY><TR bgColor=#e6f2e6><TD colSpan=3></TD></TR><TR bgColor=#e6f2e6><TD width=23></TD><TD width=673>


</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=3 width=750 align=center bgColor=#e6f2e6 border=0><TBODY><TR bgColor=#e6f2e6><TD colSpan=3></TD></TR><TR bgColor=#e6f2e6><TD width=23></TD><TD width=673>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
พระครู ภาวนาวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อ มหาพันธ์สีลวิสุทโธ)อดีตเจ้าอาวาสวัดเนรมิตวิปัสสนา


วัดเนรมิต วิปัสสนา ตั้งอยู่ที่ ต. ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย เป็นวัดที่พระมหาพันธ์ พระอาจารย์ที่มีความเคร่งครัดในเรื่องการประพฤติปฏิบัติ ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเลื่อมใสศรัทธา โดยเฉพาะลูกศิษย์ลูกหาในภาคอีสานใต้ได้จัดสร้างขึ้นความสง่างามของวิหารมูลค่า 80 ล้านบาทที่ตั้งตระ หง่านอยู่บนยอดเขามีความงดงามวิจิตรบรรจง

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=post-date align=left width="50%"></TD><TD width="50%"></TD><TD class=posttop vAlign=top align=left width=23></TD><TD class=post-buttons vAlign=top noWrap></TD></TR></TBODY></TABLE>

พระอาจารย์บุญ จันทโก ลูกศิษย์พระมหาพันธ์ แห่งวัดเนรมิตวิปัสสนา(วัดป่าหัวนายูง) อ.ด่านซ้าย จ.เลย


พระอาจารย์บุญจะดังยิ่งกว่าพระทุกองค์ในไทย (จากคำบอกเล่าของนักปฏิบัติธรรมท่านหนึ่ง)

คำพยากรณ์นี้ "หลวงปู่มหาพันธ์"ทำนายไว้ว่า ต่อไป พระอาจารย์บุญจะเป็นพระที่ดังมากๆ ดังมากกว่าพระทุกองค์ที่ดังมาแล้วในประเทศไทยในยุคนี้.

ในสมัยนั้น ข้าพเจ้าฟังแล้วก็ไม่ได้ชื่นชมยินดี ทั้งออกจะคิดว่า มันเป็นไปได้ยากอยู่เหมือนกัน เพราะ พระที่ดังๆ ที่ข้าพเจ้ารู้จักก็คือ หลวงปู่มั่น แล้วพระอาจารย์บุญท่านเก่งขนาดที่จะดังกลับหลวงปู่มั่นไปได้ด้วยหรือ? ดังกลบพระองค์อื่นๆที่ข้าพเจ้าได้ยินชื่อมาแล้วอีกด้วยงั้นหรือ?

ลูกศิษย์ของพระอาจารย์บุญเล่าว่า ห้องที่สร้างไว้ใต้ฐานโบสถ์(บริเวณข้างเนินดินที่ใช้เป็นฐานปลูกโบสถ์) หลวงปู่มหาพันธ์ให้สร้างไว้ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ท่านเร่งสร้าง โดยบอกไว้ว่า ลูกหลานจะได้ไม่ลำบากในยามที่ต้องได้ใช้. และ ห้องพวกนั้น ท่านสร้างไว้รองรับผู้คนหลังเหตุการณ์ภัยพิบัติ.

ข้าพเจ้าก็ฟัง แล้วจากที่ไปเห็นมา มันก็เป็นแค่ห้องพักธรรมดาๆ และมีไม่มากมายอะไรด้วย จึงคิดว่า การที่ว่า คนจะไปหาพระอาจารย์บุญเยอะมาก จนเป็นเหตุให้พระอาจารย์บุญดังมากๆนั้น จะเป็นไปได้อย่างไร? ห้องรับรองแขกที่จะจรไปวัด ก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง

ในสมัยต่อมา เมื่อลูกศิษย์ท่านนี้ได้ไปบวชอยู่กับพระอาจารย์บุญ ก็ได้ถามพระอาจารย์บุญว่า "อาจารย์ เมื่อไหร่อาจารย์จะดัง"
อาจารย์บุญก็ตอบว่า "เมื่อผู้มีบุญเขามาอยู่ด้วยก่อน ถึงจะดัง"

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

หมายเหตุ คำว่า "เมื่อผู้มีบุญเขามาอยู่ด้วยก่อน ถึงจะดัง" ผมคิดว่าน่าจะหมายถึง พระยาธรรมิกราช โพธิสัตว์ หรือพระศรีอารย์ในกึ่งกลางพุทธศาสนานี้นั่นเอง

 

นิมิตจะเกิดสงครามนิวเคลียร์
คัดลอกมาจาก http://www.konmeungbua.com/webboard/

<TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>สืบเนื่องจาก ท่านผู้มีพระคุณ เตือนภัยมา
http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=11996

3.นิมิตจะเกิดสงครามนิวเคลียร์
.../..อาจจะเกิดภายใน ๒ เดือน
.....หรือ แผ่นดินไหวแรงมาก คลื่นใต้น้ำ รอยต่อไหล่ทวีป อินโดนิเซีย-ฟิลลิบปิน-มาเลเซีย-เวียดนาม.....จุดตัด..
จากคุณ คนเมืองบัว เมื่อวันที่ 16/5/2549 11:16:47

 

งง

 

อุตรดิตถ์ยังอ่วมสังเวยน้ำป่าแล้ว 29 ศพ สูญหายอีกนับร้อย

ข่าวในประเทศ

อุตรดิตถ์ 24 พ.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.อุตรดิตถ์ ขณะนี้ยังมีพื้นที่ 3 อำเภอ ที่ประสบภาวะวิกฤติจากน้ำป่าไหลหลาก ได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุด คือ อ.ลับแล อ.ท่าปลา และ อ.เมืองอุตรดิตถ์ โดยมีชาวบ้านกว่า 23,500 ครัวเรือน ใน 18 ตำบล ได้รับความเดือดร้อน ด้าน นพ.บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า จนถึง

ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 29 คน สูญหายอีกไม่น้อยกว่า 100 คน ทางกระทรวงสาธารณสุขกำลังระดมทีมแพทย์และพยาบาลจากจังหวัดใกล้เคียงมาให้ความช่วยเหลือ แต่ปัญหาในเวลานี้ คือ เรื่องการสื่อสาร โดยเฉพาะที่ อ.ลับแล ไม่สามารถติดต่อกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้ ทั้งนี้ มีการตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และตั้งโต๊ะรับบริจาคสิ่งของ ทั้งน้ำดื่มและอาหาร เพื่อลำเลียงไปช่วยเหลือตามจุดต่าง ๆ ที่ค่ายพระยาพิชัยดาบหัก.- สำนักข่าวไทย

[ 2006-05-24 : 10:55:54 ]

องคมนตรีหารือ กทม. รับมือน้ำเหนือเข้ากรุง

ข่าวในประเทศ

กรุงเทพฯ 25 พ.ค.-

 

จริง ๆ ผมว่าควรจะทำการแก้ไขโดยการป้องกันตามที่ ผมได้เคยเสนอไว้ สังเกตุได้ว่าความเดือดร้อนมาจาก เมื่อเกิดภัยขึ้น ต่างคน ต่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี วันแรกที่น้ำท่วมทางภาคเหนือที่ผ่านมา ผมฟังทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยตอบคำถาม นักข่าวสด ๆ ว่าจะให้การช่วยเหลือ หรือ มีจุดประสานงาน ตรงไหน ท่านรัฐมนตรี ท่านว่าผมก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ไฟฟ้าก็ดับ โทรศัพท์ ก็โทรไม่ได้ ถนนก็ขาดเข้าไปไม่ได้ ไม่รู้จะติดต่อใครอย่างไร .... ผมว่าเราควรทำอะไรบางอย่างกระตุ้นหน่วยงานรัฐ ให้มีความเข้าใจในการแก้ไขเหตุการณ์หลังภัยพิบัติดีกว่า ผมเป็นห่วงครับ จริง ๆ ตัวอย่างมีอยู่อย่างชัดเจนแล้ว หรือต้องทำคู่มือปกขาวเรื่องการบริหารและจัดการแก้ปัญหาก่อนและหลังจากภัยพิบัติ ส่งให้รัฐบาลซะเลย ...

 

เมื่อถึงเวลานั้น

ก็ต้องเตรียมตัวซ้อมวิ่งซ้อมว่ายน้ำเข้าไว้ ซ้อมกลั้นใจนานๆ ด้วย

 

กรุงเทพจะอ่วมกว่าเพื่อน
เพราะดินจะทรุดตัวเมื่อชุ่มน้ำมากๆ
น้ำจากทางเหนือจะไหละมาจ่อคอที่ประตูน้ำ
น้ำทะเลก็จะหนุนขึ้น
น้ำอาจจะท่วมได้เร็ว
ตอนนี้ที่จ.อุบล ฯ เทศบาลกำลังลื้อท่อน้ำเสีย ทำการซ่อมบำรุงเป็นการใหญ่
จ.อุบลถ้าจะโดนก็น่าจะเป็นอิทธิพลของแม่น้ำโขง ถ้าอุบลจะเจอหนักเมื่อใหร่คิดว่าให้สังเกตุประเทศจีนก่อนเลย

 

น้ำจะท่วมอยู่ กทม.ได้นานเป็นเดือน ก็น่าจะไม่เกิน 2 เดือนนะถ้าน้ำไม่เกิน 5 เมตรตามที่มีคนคาดการณ์ไว้

 

วิกฤตของภัยธรรมชาตินั้นมาเยื่อนบ่อยนะ
ไม่ต้องตกใจจนขวัญกระเจิง สารที่พิมพ์ให้อ่านก็ขอให้อ่านช่างใจไว้บ้างไม่ต้องเชื่อหมดหรอกเพราะทุกอย่างไม่แน่นอนอยู่แล้ว

ช่วงนี้ขอให้ซ้อมกำลังสติไว้ก่อนคือ
เห็น ได้ยิน ข่าวเหตุการณ์อะไรก็อย่าไปนึกใส่อารมณ์กับมันมากนัก ทำใจปลงนึกถึงหลักธรรมที่ ว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
แค่นี้ก็จะเบาใจ ไม่จุกอกมากจนเกินไป

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" background=file:///C|/Inetpub/wwwroot/gerd_web/picture/icon/head/background3.jpg border=0><TBODY><TR><TD class=fontbig vAlign=center>

</TD><TD></TD></TR><TR><TD height=15></TD><TD>

ธรณีภัย : มหันตภัยใกล้ตัว
​

</TD><TD></TD></TR><TR><TD height=885></TD><TD vAlign=top><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body>ปลายปี 2547 ต่อเนื่องต้นปี 2548 ที่ผ่านมา ประเทศไทยและประเทศในภูมิภาครอบมหาสมุทรอินเดีย ได้เผชิญกับมหันตภัยจาก คลื่นยักษ์สึนามิ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินใหญ่หลวง ทั้งนี้เป็นเพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีมหันตภัยคลื่นยักษ์นี้เกิดขึ้นในบริเวณมหาสมุทรอินเดีย แม้ว่าจะมีผู้เคยเตือนไว้บ้างก็ตามที



</TD></TR><TR><TD class=body>

​

</TD></TR><TR><TD class=body>คลื่นยักษ์สึนามิ เป็นพิบัติภัยธรรมชาติที่เป็นผลพวงจาก ธรณีภัย (Geohazard) หรือภัยจากพื้นโลกของเรา ที่ผ่านมาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเป็นที่รู้จักกันดี เช่น อุทกภัย วาตภัย และอัคคีภัย เป็นต้น แต่สำหรับธรณีภัยอาจจะไม่คุ้นเคยนัก ทั้งที่นับได้ว่าเป็นมหันตภัยใกล้ตัว เนื่องจากเราทุกคนอยู่บนพื้นโลก และเมื่อเกิดแต่ละครั้งจะส่งผลกระทบรุนแรง ธรณีภัยเหล่านี้ เช่น



</TD></TR><TR><TD class=body>

​

</TD></TR><TR><TD class=body>1. แผ่นดินไหว เกิดจากการเคลื่อนตัวของพื้นผิวโลก เนื่องจากความเค้นภายในเปลือกโลก ทำให้หินแตกออกเป็นแนวและปลดปล่อยพลังงานในรูปของการสั่นไหว แม้ประเทศไทยจะไม่ได้ตั้งอยู่บนแนวแยกใหญ่ของผิวโลกโดยตรง แต่ก็มีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากแนวแยกใกล้เคียงสูงมากพอควร เช่นบริเวณภาคเหนือ และด้านทิศตะวันตกของประเทศ


</TD></TR><TR><TD class=body>ผลของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ถ้าเกิดบนพื้นทวีปจะมีอำนาจทำลายล้างบ้านเมืองให้พินาศได้เป็นวงกว้าง โครงสร้างอาคารพังทลายหากไม่มีการออกแบบป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้ คลื่นการสั่นสะเทือนอาจทำให้พื้นดินทราย แปรสภาพเป็นของเหลว (Liquefaction) คล้ายทรายดูด ทำให้อาคารบ้านเรือนจมลงได้ เช่นที่เคยเกิดขึ้นกับเมือง Niigata ประเทศญี่ปุ่น หากเกิดในพื้นมหาสมุทรก็อาจส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ดังที่ปรากฏ


</TD></TR><TR><TD class=body>

​

</TD></TR><TR><TD class=body>2. แผ่นดินยุบ เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ เนื่องจากมีโพรงใต้พื้นดินระดับลึก เช่นในพื้นที่ที่อยู่บนชั้นหินปูนที่ถูกน้ำใต้ดินกัดเซาะ เมื่อโพรงมีขนาดใหญ่และกินวงกว้าง ก็อาจเกิดการยุบตัวลงเป็นหลุมยักษ์

หรือเมื่อพื้นดินได้รับแรงสะเทือนจากแผ่นดินไหว ก็อาจเกิดยุบลงก็ได้ เช่นบริเวณพื้นที่จังหวัดสตูลที่เพิ่งเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ และในอีกหลาย ๆ พื้นที่ นอกจากนี้โพรงใต้ดินก็อาจเกิดในพื้นที่หินเกลือ ที่มีการสูบน้ำลงไปละลายเกลือใต้ดิน ก็อาจทำให้เกิดแผ่นดินยุบเช่นกัน เช่นในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดอุดรธานี จังหวัดสกลนคร เป็นต้น


</TD></TR><TR><TD class=body>

​

</TD></TR><TR><TD class=body>3. แผ่นดินถล่ม เกิดจากการเคลื่อนที่ของดินและหินลงมาตามลาดเขาด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก โดยมักมีน้ำเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ เช่นจากน้ำป่าไหลหลาก ฝนตกหนักต่อเนื่อง จนทำให้ดินที่เป็นของแข็งเปลี่ยนเป็นของไหลได้

ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งประเทศไทยได้ประสบมาแล้วหลายครั้ง เช่น ในพื้นที่น้ำก้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช


</TD></TR><TR><TD class=body>

​

</TD></TR><TR><TD class=body height=218>

​

</TD></TR><TR><TD class=body>จากตัวอย่างของธรณีภัยที่กล่าวมานี้ จะเห็นได้ว่าพิบัติภัยเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย แม้ว่าจะเป็นพิบัติภัยธรรมชาติด้วยสาเหตุจากสภาพธรณีวิทยา การป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นคงเป็นไปได้ยาก แต่การป้องกันหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เช่นการศึกษาให้เข้าใจถึงธรรมชาติเพื่อคาดการณ์และประเมินความเสี่ยงของพื้นที่ การให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป การมีระบบเฝ้าระวังและระบบเตือนภัย


และการกำหนดมาตรการบรรเทาผลกระทบจากพิบัติภัยที่ชัดเจน นอกจากนี้การเกิดธรณีภัยหลายกรณี ก็มีส่วนจากการกระทำของมนุษย์ด้วยเช่นกัน เช่นการทำเหมืองเกลือ การตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งถ้าทุกคนตระหนักถึงพิบัติภัยที่จะติดตามมาและร่วมกันแก้ไข ธรณีภัยก็จะไม่เป็นมหันตภัยอีกต่อไป



</TD></TR><TR><TD class=body></TD></TR><TR><TD class=bodysmall bgColor=#ffffcc>ผู้เขียน : ผศ.ดร. ก่อโชค จันทวรางกูร และ รศ.ดร. วรากร ไม้เรียง
หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
</TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา http://www.gerd.eng.ku.ac.th/information/geohazard-tsunami/tsunami.html

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผ่นดินไหวอินโดฯตายทะลุ 4 พันคนแล้ว ผวาเจออาฟเตอร์ช็อก 450 ครั้ง!</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 พฤษภาคม 2549 17:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ทหารอินโดกำลังเก็บซากศพออกมาจากซากปรักหักพังจากฤทธิ์ของแผ่นดินไหว

เอเอฟพี - เกิดอาฟเตอร์ช็อกกว่า 450 ครั้ง หลังจากเมื่อวานนี้ แผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ถล่มบนเกาะชวาของอินโดนีเซีย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 4,000 คน แล้ว

เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซีย รายงานว่า วัดการสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรือ อาฟเตอร์ช็อก ได้กว่า 450 ครั้ง หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 6.3 ริกเตอร์ เมื่อวันเสาร์ บนเกาะชวาของอินโดนีเซีย

โดยอาฟเตอร์ช็อกที่รุนแรงที่สุดจากที่เกิดขึ้นราว 470 ครั้ง วัดได้ 5.2 ริกเตอร์ แรงสั่นสะเทือนยิ่งทำให้แมกม่าของภูเขาไฟเมราปี ปะทุมากขึ้นบริเวณพื้นที่ประสบภัย หลังจากที่ภูเขาไฟลูกนี้พ่นก๊าซและเถ้าถ่านในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวบ้านนับหมื่นต้องอพยพหนี ขณะที่เจ้าหน้าที่เกรงว่าภูเขาไฟอาจปะทุขึ้นครั้งใหญ่เมื่อไรก็ได้

ด้านยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทางการอินโดนีเซีย เผยว่า มีผู้เสียชีวิต 4,285 คน ขณะที่โรงพยาบาลกำลังดิ้นรถจัดการกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมีถึงประมาณ 20,000 คน โดยมีจำนวนมากที่ต้องนอนนอกโรงพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งจัดหาอาหารและเวชภัณฑ์ส่งให้แก่ผู้ที่ไร้ที่อยู่อาศัยนับ 200,000 คนที่ได้รับผลกระทบ

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอิโดนีเซียได้ร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ โดยกาชาดสากลได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินเพื่อให้ความช่วยเหลือเกือบ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ชาติต่างๆ ประกาศมอบเงินความช่วยเหลือแก่อินโดนีเซียแล้ว


​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9490000069927

 

ความรู้เรื่องยุค "สามร่มโพธิ์ศรี"
(จากนักปฏิบัติธรรมท่านหนึ่ง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้)

ถึงคุณ เกษม เรื่อง "สามร่มโพธิ์ศรี" นั้นที่จริงคือเรื่องของพระจักรพรรดิ์ ที่พระศรีฯ จะลงมายกยอพระศาสนา ที่พระศรีฯท่านมาเป็นพระยาธรรมิกราช ปกครองโลก พระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่งทำหน้าที่เป็นคล้ายพระสังฆราชของโลก และพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่งทำหน้าที่คล้ายนายกของโลก โดยมีเหล่า อัญญาสิทธิ์ และ อัญญาธรรม ซึ่งเป็นผู้ที่ลงมาทำหน้าที่ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ปฎิบัติรอพระจักรพรรดิ์ กันทั้งนั้นและมักอยู่ในที่ลี้ลับ แต่ถ้าปฏิบัติจิตถึงก็สื่อกันได้

รายละเอียดเรื่องสามร่มโพธิ์ศรี ผมกำลังรวบรวมจากคนในคณะหลายๆคน เพราะฟังมา ต่างวาระกัน แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังทีหลังครับ

ที่สำคัญก็คือกาลของยุคพระจักรพรรดิ์ ใกล้เข้ามามากแล้ว ครูบาอาจารย์ ท่านมาบอกบ่อยๆให้เร่งปฏิบัติกัน พระศรีฯใกล้จะลงมาทำหน้าที่พระจักรพรรดิ์ แล้ว คำว่า "ใกล้" นี้ ในโลกภายในนั้นหากเป็น 5-10 ปีมนุษย์นั้น ถือว่าน้อยมาก

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ที่ผมกำลังกังวลก็คือ กาลของพระจักรพรรดิ์ จะมาเร็วกว่าที่คิดมาก ครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้ทำหลายสิ่งหลายอย่าง ผมยังทำไม่เสร็จอีกมาก ครูบาอาจารย์ท่านบอกไว้ว่าเมื่อกาลของพระจักรพรรดิ์ใกล้เข้ามา หายนะจะเกิดขึ้นกับโลก เทวดาเขาจะทำฤทธิ์ โลกจะปั่นป่วนเท่าที่จำได้ ท่านบอกว่า "ประเทศอเมริกาจะเป็นเกาะเป็นแก่ง" ยุโรปต่อไปก็จะหายนะอยู่ไม่ได้ ต้องมาพึ่งแผ่นดินไทย (ต่อไป ไทยกับลาวจะกลับมารวมกัน) ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น หายไป ฯลฯ และประเทศไทยจะดีได้ ก็ต่อเมื่อ "เกิดเหตุใหญ่" เสียก่อน การเมืองไทยคนจะฆ่ากันตายเป็นเบือ แต่ที่เป็นอยู่ทางภาคใต้ตอนนี้คิดว่ายังไม่ใช่เหตุการณ์ที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ เคยถามท่านว่า "ไม่ให้เกิดไม่ได้หรือ" ท่านว่า "ปู่ยีเว่าไว้แล้ว ปานพระเจ้าเว่า เปลี่ยนแปลงไม่ได้"

หากใครสังเกตดีๆ ลมพายุนั้นคล้ายจักรหมุน หากใครเคยขี่จักรภายในจะเข้าใจว่าเป็นยังไง เท่าที่เห็นตอนนี้คือภายใน ปราบภายใน ก็ล้นออกมาภายนอก ใครมีกรรม เป็นเชื้อสายของพวกที่เขาปราบภายในก็จะได้รับผลกระทบ ถ้าจะไล่ลำดับ ก็ต้องไปตั้งต้นศึกษาระบบจิตวิญญาณที่หมุนเวียนอยู่บนโลกตั้งแต่ยุครามเกียรติ์แหละ

เอาเป็นว่าพวกอิสลามคือเชื้อยักษ์พวกนึง ฝรั่งก็เชื้อยักษ์อีกพวกนึง ทางเอเชียก็เป็นพวกเทวดา นาค ฯลฯ รวมทั้งลูกผสมเชื้อยักษ์ก็มีเช่นกัน ศาสตร์วิชาการที่มนุษย์ใช้อยู่บนโลกปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นวิชาของพวกเชื้อยักษ์เป็นคนคิด (ยิวกับยักษ์ เป็นภาษาลัญญลักษณ์) สุดท้ายศาสตร์วิชาการที่มนุษย์เอามาใช้ก็จะทำลายเบียดเบียนมนุษย์กันเอง

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

หมายเหตุ เรื่องยุคสามร่มโพธิ์ศรีนี้ ผมได้รับคำยืนยันมาจากลูกศิษย์ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง ว่าหลวงพ่อฤาษีฯ ท่านได้บอกเล่าให้ลูกศิษย์ของท่านฟังเมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ว่า

พระจักรพรรดิ ในตอนนี้ได้ลงมาเกิดในประเทศไทยแล้วท่านมาเกิดเป็นคนรูปร่างหน้าตาขึ้ริ้วขึ้เหร่ เมื่อตอนที่ท่านมาเกิดมารดาของท่านได้ฝันว่ามีเทวดาได้นำแหวนทองคำมาให้ และท่านมีชื่อที่เรียกกันว่า "เทพ"

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]เรื่องยุคสามร่มโพธิ์ศรีอาริย์ นี้เป็นเรื่องที่ได้รับการทำนายกันมาแต่โบราณ แล้วว่าในอนาคต เมื่อมนุษย์ไม่ประพฤติตัวอยู่ในศีลธรรมอันดี มีราคะ โทสะ และโมหะอย่างแรงกล้า จะเกิดการรบราฆ่าฟันกันอย่างรุนแรง และภัยจากธรรมชาติก็จะมากวาดล้างมนุษย์ผู้ไร้ศีลธรรมเหล่านี้ให้ตายจากโลกนี้ไปจนหมด เหลือไว้แต่คนดีมีศีลธรรม ที่มีความกตัญญูรู้คุณบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ เชื่อมั่นและปฎิบัติตนอยู่ในหลักแห่งพระศาสนา

[/FONT]เมื่อโลกประสบกับมหันตภัยครั้งใหญ่นั้น จะทำให้โลกมนุษย์มืดสนิทไร้แสงจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆ ไปถึง ๗ วัน ๗ คืน ตำนานบางแห่งบอกว่านานถึง ๔๙ วันเลยทีเดียว ในเวลานั้นจะเกิดภัยพิบัติทั้งจาก ดิน น้ำ ลม ไฟ เข้ากวาดล้างผู้คนที่ไร้ศีลธรรมให้ตายไปจากโลกนี้ คนที่จะรอดจากภัยพิบัติได้ต้องปฎิบัติตนอยู่ในศีล ๕ อย่างเคร่งครัดและปฎิบัติตนในช่วงเวลาคับขันดังนี้

ทางรอดจากภัยพิบัติ

 

เราควรที่จะต้องใช้ศักยภาพของเราผู้ปรารถนาพุทธภูมิเพื่อช่วยเหลือผู้คนให้มากที่สุดโดยขั้นแรก จัดการประชุมสัมมนาพุทธภูมิสโมสร ครั้งที่ 1 เพื่อพบปะ สัมมนา แลกเปลี่ยน ประสบการณ์ ข่าวสารข้อมูล ระหว่างกัน และ เพื่อเป็นการประสานงานเพื่อให้การทำงานมีระบบเพิ่มขึ้น ถ้าเป็นไปได้ เพื่อเป็นประโยชน์กับคนหมู่มาก สิ่งที่ผมจะบอกเกี่ยวกับความร่วมมือกันของเหล่าพุทธภูมินั้นในเบื้องต้น ผมขอเน้นสิ่งที่เป็นความช่วยเหลือและสงเคราะห์คนในรูปธรรมมากกว่า เช่นการรวบรวมสถานที่ปลอดภัย การทำเครือข่ายวิทยุสื่อสาร การรวบรวมสนับสนุนสถานีวิทยุชุมชนเพื่อเผยแผ่ธรรมมะ การสอนสมาธิ และเพื่อการกระจายข่าวสารข้อมูลเพื่อช่วยเหลือผู้คนเมื่อเกิดภัยพิบัติ การรวมกลุ่มเพื่อฝึกการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การเล่าประสบการณ์ดำรงชีวิตในป่า การฝึกสมาธิรวดเร็วอย่างง่าย การฝึกสมาธิเพื่อการบำบัดรักษาผู้ป่วย การฝึกอภิญญากลุ่มเพื่อปกป้องคน การอบรมการเอาชีวิตรอดจากฤดูหนาวนิวเคลียร์ และอื่นๆ นอกเหนือจากการฝึกจิตรักษาศีล ผมเชื่อว่าบรรดาพุทธภูมิหลายๆท่านเป็นผู้มีบุญบารมีและบางท่านอาจจะทรงอภิญญาระดับสูง ย่อมมีพลังอำนาจที่จะช่วยคนได้หลายแบบ หลายวิธี แต่ผมเชื่ออยู่อย่างเดียวว่า ภาระกิจสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด "เราเกิดมาก็เพื่อจารึกพระพุทธศาสนาให้ครบ ห้าพันปี " และเรามีหน้าที่ช่วยคนในช่วงสงครามครั้งนี้ เรื่องอื่นไม่สำคัญสำหรับเรา ดังนั้นที่ผมนัดการจัดพุทธภูมิให้รู้จักกันนั้นก็เพื่อแบ่งปันข้อมูล การช่วยคน เทคโนโลยี่ในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมหลังภัยพิบัติ ส่วนท่านใดจะเป็นท่านผู้ใดผมโมทนา"บุญ"ด้วยครับผม ส่วนผมเป็นพุทธภูมิขี้เรื้อนธรรมดาอย่างหลว(verygood) งพ่อท่านว่า อภิญญาก็ไม่ได้ดีอะไรกับเขาได้แต่ถวายศรีษะให้พระพุทธองค์เช็ดพระบาท เป็นเครื่องเตือนตน และหลักใหญ่ๆเลยก็คือหลายๆท่านเราได้รู้จักกันข้างบนแล้ว เมื่อถึงเวลาเราคงได้ร่วมงานกัน

 

เจได แห่งกองทัพธรรม


หลัง มหกรรม Episode I (ภัยธรรมชาติครั้งใหญ่) ระยะแรกจะมีปัญหาเรื่องคนตายนับแสน เรื่องไม่มีอาหาร การอดอยาก และ โรคระบาด จึงน่าจะมีหน่วยกองทัพธรรมเข้ามาช่วยเหลือในบางส่วน

คนที่จะเป็นสมาชิกกองทัพธรรมได้จะต้องมี

1. ความสามารถพลังจากตา(ที่สาม) เพื่อ ฆ่าเชื้อโรค
มองเห็นเหล่าวิญญาณ คนที่ตาย และส่งพลังให้ไปเกิดใหม่
2. ต้องมีมือที่มีพลัง ในการแตะต้องบาดแผล ความเจ็บปวด ที่เมื่อแตะ จะบรรเทาความเจ็บ หรือให้หายทันที

คนที่จะเป็น เจไดของกองทัพธรรมต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้

1. มีศีล ครบห้าอย่างเคร่งครัด
2.ปฎิบัติสมาธิ ดี มาตลอด จน ที่จุดหว่างคิ้วเต้นตุบๆๆ
3. เดินไปตามสถานที่ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถสัมผัสได้ ด้วยจิต หรือมือ แขนชา
4.ออร่าสีสวยและแรง โดยเฉพาะสีแดงหรือ สีม่วง จะดีที่สุด
5. กำลังภายใน(แบบเสียวลิ้มยี่ วัดเส้าหลิน) ไม่ต่ำกว่า 15 เมตร
6.คนมีตาทิพย์/จิตทิพย์/หูทิพย์ อยู่แล้ว

จะเห็นว่าเริ่มมีคนพูดถึงการเปิดตาที่สามกันประปราย ซึ่งก็เป็นความจริง เพราะเมื่อผม พบ คนที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ก็จะทำให้เขาเป็น เจได แห่งกองทัพธรรม

ทำโดย
เปิดตาที่สามให้ ฝึกให้ สายตาที่เป็นแสง ส่องได้ไกลเกิน 100 เมตร เพื่อความสามารถได้กว้างไกล มีรัศมี 100 เมตร ผลพลอยได้ ของการมีตาที่สาม คือ การมองเห็นออร่า เห็นอดีต เห็นอนาคตเห็นโลกอีกมิติ

ติดพลังที่มือ ให้มือที่มีพลังเพื่อใช้ในการรักษาคนป่วยคนบาดเจ็บ เมื่อพลังเข้าที่มือ มือนั้น จะเรืองแสง มองเห็นได้ชัด เหมือนมีดาบในมือ ใน"สตาร์วอ" ต้องมีกล่องแล้วกด จึงจะมีดาบยืดออกมายาว แต่เจไดของกองทัพธรรม แค่คิด ดาบก็ออกมาแล้ว เรืองแสงยาว พอๆ กับดาบใน สตาร์วอ

มือดาบของ เจไดแห่งกองทัพธรรม ใช้ในการรักษาคน ไม่ใช่ใช้ฆ่าคน แบบในหนังสตาร์วอ จากฟ้ากำหนด เจไดแห่งกองทัพธรรม จะมีกำลังพลประมาณ 1000 (หนึ่งพันคน) ปัจจุบันได้ไปแล้วประมาณ 15 คน ( เพิ่งเริ่มเมื่อ 8 มิย.48 )

คนที่จะเป็นเจได แห่งกองทัพธรรม จะค่อยๆ ทะยอยมาติดดาบเอง คนที่มา เป็นเพราะ ฟ้ากำหนด เมื่อ มา เมื่อ เห็น ก็จะรู้ได้ทันทีว่า เป็นเขา ทั้งนี้เพื่อความสุขและความอยู่รอด ของผู้มีบุญ แค่นี้ก่อน นะ ครับ

จากคุณ : ตาที่สาม(The Third Eyes ) - [ 12 มิ.ย. 48 07:09:17 ]

หมายเหตุ

อาจารย์อาชวิน(The Third Eyes) มาให้ความรู้ในเว็บพลังจิตแล้ว ผู้มีปณิธานจะช่วยเหลือโลก ติดต่ออาจารย์ได้เลยครับที่กระทู้ กำเนิดและทางอยู่รอดของคน ขอเชิญคลิ๊กเข้าไปสนทนากับอาจารย์ได้เลยครับ
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=38008

 

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">ชาวบ้านแตกตื่นพายุลูกเห็บถล่มบ้านเรือนที่นครศรีฯ

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำใส่บ้านเรือนชาวบ้านบริเวณ ต.บางจาก อ.เมือง และมีลูกเห็บตกลงมาใส่หลังคาบ้านพังเสียหายหลายหลังคาเรือน นอกจากนี้ บริเวณถนนสายหนองนก-ปากพนัง ม.10 ต.บางจาก มีต้นไม้ใหญ่ถูกลมพายุพัดหักโค่นล้มลงมาขวางถนน ส่งผลให้รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ ทำให้รถติดยาวเหยียดกว่า 2 ก.ม.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยได้เข้าไปจัดการเคลื่อนย้ายต้นไม้ออกจากถนน เพื่อเปิดเส้นทางจราจรให้แก่ประชาชน ส่วนบ้านเรือนราษฎรที่พังเสียหายนั้นยังไม่สามารถประเมินได้ว่ากี่หลังคาเรือน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชาวบ้านบริเวณบ้านหนองนกต่างพากันแตกตื่นจากการที่มีลูกเห็บตกลงมา และละลายกลายเป็นวุ้นเมือก ๆ ซึ่งชาวบ้านระบุว่าไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

</TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=8161</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

​

666 ตัวเลขแห่งซาตาน จะมีอะไรร้ายๆ เกิดขึ้นกับโลกใบน้อยๆ จริงหรือ? โดยคุณศรีวรุณะอิสโร


<!--MsgIDBody=0-->อันเนื่องมาจาก ผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้น อันเป็นผลข้างเคียงจากปรากฏการณ์

 

สัตว์ร้ายหมายเลข 666
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="50%"></TD></TR></TBODY></TABLE>

ในพระคัมภีร์ไบเบิล กล่าวว่าสิ่งที่ทรง พลานุภาพ จนพระเจ้าต้องหวั่นพระทัยมีอยู่สองประการ หนึ่งคือผลไม้แห่งความรู้-แอปเปิล และอีกหนึ่งก็คือสัตว์ร้ายที่จะเข้าครอบงำโลกในช่วงปี 2000 สัตว์ร้ายที่มีเลขประจำกายเป็น 666 อำนาจมหัศจรรย์ประการใดฤาที่ทำให้ข้อความในไบเบิลเป็นจริงขึ้นมาในยุคปัจจุบัน?

เริ่มจากสัตว์ร้ายหมายเลข 666 มันจะกำเนิดขึ้นมาท่ามกลางสายตาที่ชื่นชมในความสำเร็จของมัน ชั่วไม่นาน เจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้จะมีบริวารไปทั้งโลก ประชาชนต้องตกอยู่ในอำนาจของมัน ผู้ที่แข็งข้อมิยอมอยู่ในอาณัติจะอยู่ในสังคมอย่างลำบาก ทำไม่ได้แม้แต่จะซื้อ-ขายของเพื่อประทังชีวิต ตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 4 เป็นต้นมา มีคนตีความหมายของเลข 666 นี้กันอย่างหัวร้างข้างแตก แต่ก็สรุปไม่ได้ว่ามันคืออะไร จนเมื่อไม่นานนี้แหละที่ผู้เชี่ยวชาญบางคน เอาปัจจัยหลายอย่างมาประกอบกันเข้า จึงถึงบางอ้อว่า แท้ที่จริงแล้ว สัตว์ร้าย-งูร้าย-ซาตาน แล้วแต่จะเรียกขานนั้น ตัวตนจริงๆของมันคืออะไร

บังเอิญรึเปล่าที่ ปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ที่เชื่อกันว่ามีประสิทธิภาพที่สุดในโลก เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีจากมหาอำนาจทางเศรษฐกิจร่วมกันผลิตขึ้น ตั้งอยู่ในสำนักงานใหญ่ขององค์กรตลาดร่วมยุโรป มันมีชื่อเสียโก้เก๋ซึ่งตั้งให้จากผู้สร้างมันว่า Mark of Beast หรือเครื่องหมายแห่งสัตว์ร้าย ... ตรงตามไบเบิลเป๊ะๆ คุณยินดีลองเอาวิธีคำนวณแบบเดิมมาใช้กับ Mark of Beast เหลือเชื่อเลยมะหละ ผลของมันคือเลข 666!!!

ความบังเอิญข้อสุดท้าย ไบเบิลนั้นเรารู้ๆกันอยู่ว่า เป็นคัมภีร์ที่รจนาโดยชนชาติฮีบรูว์หรืออิสราเอลในปัจจุบัน ในไบเบิลระบุเวลาเอาไว้อย่างชัดเจนว่า วาระสุดท้ายของโลกจะมาถึงภายในเวลาไม่ช้าไม่นาน หลังจากชนชาวอิสราเอลรวมกันได้เป็นชาติ ก็ปลายศตวรรษที่ 20 หลังสงครามโลกครั้งที่สองมาหมาดๆนี้เอง สิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับชนชาติอิสราเอลนี้ก็คือ รหัสโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศของอิสราเอลคือ 666 !!!!

อะไรคือมารร้ายหมายเลข 666?

เหตุใดพระเจ้าจึงเตือนนักเตือนหนาเกี่ยวกับอันตรายและพิษสงของมารร้ายตนนี้ ไม่ว่าจะเป็นความบังเอิญหรือไม่ก็ตาม จากความพยายามควานหาต้นตอของหมายเลข 666 มานับร้อยนับพันปี ในที่สุด ในยุคปัจจุบัน เมื่อวิทยาการของเราเจริญก้าวหน้าขึ้น เมื่อเวลาที่เคยระบุไว้ในไบเบิลมาถึง (ตรงนี้อยากเลี่ยงคำว่าปาฏิหารย์ออกไป แต่ก็ไม่มีคำอธิบายอื่นที่ดีกว่านี้) เจ้าสัตว์ร้ายหมายเลข 666 ก็เผยโฉมแล้ว

หลังจากค้นหากันมานานนมอย่างวุ่นวาย ในที่สุดก็มีคนฉุกใจคิดว่า สัตว์ร้ายหรือมารร้าย 666 นี้ น่าจะหมายถึงอะไรบางอย่าง ที่สามารถครอบคลุมและเข้าถึง รวมทั้งมีอิทธิพลกับมนุษย์ในช่วงปี 2000 (ตามที่ระบุไว้ในไบเบิล) อย่างมากมาย ซึ่งเจ้าสิ่งที่ว่าคงต้องยกให้สมองกลคนเก่ง ที่เราคุ้นเคยกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันก้อเจ้า COMPUTER ไงล่ะ พิสูจน์กันง่ายๆ ลองเรียงอักษรคำว่า COMPUTER จากบนลงล่างตามวิธีการเรียงอักษรโบราณ พร้อมกำกับลำดับพยัญชนะ เช่น A=1 , B=2 ไปเรื่อยๆจนถึง Z=26 จากนั้นเอาลำดับทุกตัวมาคูณด้วย 6 แล้วรวมผลลัพธ์ออกมา เห็นมั๊ยล่ะจากตัวอย่างข้างล่าง มันได้ 666 พอดิบพอดี

C = 3 x 6 ===> 18
O = 15 x 6 ===> 90
M = 13 x 6 ===> 78
P = 16 x 6 ===> 96
U = 21 x 6 ===> 126
T = 20 x 6 ===> 120
E = 5 x 6 ===> 30
R = 18 x 6 ===> 108
COMPUTER ===> 666

เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้แล...

คัดลอกมาจาก http://72.14.203.104/search?q=cache:ks-QxwWJtLUJ:thaiastro.nectec.or.th/webboard/message.asp%3FMsgCode%3D1300+%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%99+666&hl=th&gl=th&ct=clnk&cd=20

 

โห จริงด้วย

 

โลกมนุษย์มีทุกข์เป็นเบื้องต้น มีทุกข์เป็นมัธยม ตลอดจนทุกข์ในบั้นปลาย
ผู้รักษาธรรมเท่านั้นที่จะมีโอกาสรอดจากภัยพิบัติ

 

โห เจ้าโก้ ภาพเข้ากับเนื้อเรื่องมาก น่ากัว