ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ขอความอนุเคราะห์รบกวนช่วยกันครับ

นายจรัญ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมฯ ยังพิจารณาออกคำสั่งห้ามจำหน่าย ซ่อมเครื่องทำน้ำเย็นและน้ำอุ่น ที่มีการใช้สารตะกั่วในการบัดกรีตัวถัง หรือท่อสูบน้ำ เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์พบว่าสารตะกั่วเป็นอันตรายต่อสมอง และระบบประสาท และส่งผลกระทบต่อสุขภาพอื่นๆ สคบ.ได้มีคำสั่งชั่วคราวห้ามใช้เครื่องทำน้ำเย็นน้ำอุ่นในโรงเรียนและโรงงานที่มีการใช้เครื่องดังกล่าวแล้ว เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวยังครอบคลุมถึงเครื่องต้มน้ำ หม้อก๋วยเตี๋ยว เครื่องชงกาแฟด้วย

ด้าน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นด้วยกับ สคบ.และสนับสนุนให้สั่งห้ามขายสารไอโอเทคนิค เครื่องทำความเย็นและหม้อก๋วยเตี๋ยวที่ใช้สารตะกั่วทำ เนื่องจากเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งที่ผ่านมามีการพิสูจน์ทางด้านวิชาการที่ชัดเจนออกมาแล้วว่าสารเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะที่น่าเป็นห่วงมากสุด คือในสถานศึกษาบางแห่งที่ใช้ตู้ทำความเย็นจากตะกั่ว เพราะเด็กนักเรียนจะได้รับสารพิษนี้เข้าไปในร่างกายจากการดื่มกิน และอยากให้ สคบ. ผลักดันให้โรงเรียนที่ว่าเหล่านี้เลิกใช้ โดยไม่ต้องรอการตั้งงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ และคิดว่าไม่น่าจะใช้งบจำนวนมาก ที่สำคัญจะต้องพูดคุยกับผู้ประกอบการให้รับทราบปัญหานี้ด้วย
เหมือนกับท่อไอเสียรถยนต์เวลาโดนความร้อนก็เสียดสีกับควันที่ปล่อยออกมาจากเครื่อง ก็ปล่อยสารตะกั่วออกมา ซึ่งก็เหมือนกับหม้อก๋วยเตี๋ยวของถูกทำด้วยสารที่ทำจากตะกั่ว โดนความร้อนมาก็ปล่อยตะกั่วออกมา ความจริงน่าเสนอให้ทั่วโลกเขาห้ามใช้สารไบโอเทค ที่เครื่องทำความเย็นเวลาโดนความร้อนมันก็เสียดสีกับสารตัวนี้ออกมามีสารตะกั่วปนอยู่ ซึ่งมีคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยนะครับสำหรับเครื่องทำความเย็นความจริงมาตรฐานเหมือนแอมเวย์เครื่อง ทำน้ำเย็นเขาทำสุดยอดเป็นโครเมี่ยมเหล็กอย่างดี มีแท่งคาร์บอนหลายชั้นมีfilture มีแสงอุลตร้าไวโอเลต มีการใช้รังสีหลายอย่าง หลายขั้นตอนในการทำไม่ให้สารฟรีออนทำความเย็นไหลออกมาได้ ซึ่งการที่เขาไม่ใช้ของสารที่ปรอบบางง่ายเพราะเขารู้ว่าโดนความร้อนมากก็จะปล่อยตะกั่วออกมาเหมือนท่อไอเสียโดนความร้อนก็ปล่อยตะกั่วออกมา ซึ่งการที่หม้อก๋วยเตี๋ยว80%ทั่วไทยปล่อยออกมาหมดครับแต่การที่จะใช้filture หรือยกเลิกหม้อก๋วยเตี๋ยวทั่วไทยทำได้ยาก เพราะอนาคตคนไทย89%ตายด้วยมะเร็งสะสมไปเรื่อยๆเพราะกินสารตะกั่ววันละนิดจากก๋วยเตี๋ยวข้างถนน แผงลอย ซึ่งการที่จะรณรงค์ใช้ของแพงจากสารที่ทำด้วยteplon นี่แหละครับสุดยอดเคลือบด้วยสารนี้ในหม้อก๋วยเตี๋ยวโดนความร้อน1000องศาเซลเซียสก็ไม่ปล่อยสารตะกั่วออกมา ซึ่งเครื่องทำความเย็นน้ำเย็นของทุกโรงเรียนทุกแห่งทั่วไทย ก็ทำจากตะกั่วเป็นสังกะสีก็มีตะกั่วอยู่แล้วครับแต่ส่วนมากมีสีโครเมี่ยม แต่หม้อก๋วยเตี๋ยวก็เป็นสังกะสีมีสารโครเมี่ยม มีใช้กันอยู่ทั่วโลกวิธีป้องกันก็ตามนั้นแหละครับรื้อทำใหม่เอาสารเทปลอนใส่ผสมเหล็กเบอร์หนาชนิดพิเศษกันความร้อน1000องศาได้ กันความเย็น-100องศาได้สำหรับเครื่องทำน้ำเย็นใช่ไหมครับเหมือนกับท่อไอเสียรถยนต์ถ้าเคลือบด้วยสารเทปลอนผสมเหล็กที่ทำเหมือนปล่องไอพ่นเครื่องบินนั้นจะดีมากครับเพราะไม่มีผุถึงแสนปีก็ไม่ผุก็ไม่ปล่อยสารตะกั่ว คาร์บอนไดออกไซด์ด้วย ถ้าเทปลอนในท่อไอเสียมีการดูดซับสารมีเครื่องfilture คล้ายๆใยแก้วก็ยัดใยแก้วในลักษณะคล้ายๆหม้อกรองอากาศของเครื่องมอไซด์ครับแต่มีใยแก้วคอยซับไม่ให้คารบอนไดออกไซด์และทุกสารพิษออกมาได้แค่นี้ก็เคลือบด้วยสารเทปลอนอีกทีในใยแก้วด้วยเพราะอนาคตต้องเปลี่ยนหม้อกรองใยแก้วเคลือบเทปลอนทุกๆ15ปีเพราะมันจะสะสมมากไปแล้วจะกำลังเร่งจะตกครับ เพราะท่อสูตรมอไซด์นี่ถ้าผ่าท่อแล้วยัดใยแก้วเข้าไปจากเดิมเร่งสุดได้120กม/ชม จะได้เป็นเร่งสุดได้180กม/ชมเพราะเบาหวิวเลยครับอัตราเร่งดีสุดยอดครับ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

Thank you so much for help the world
Best Regards
Mr.Pongpan Rodjanan
the Head of Peace organization in Thailand



นายธรรมยศ ฤทธิ์ไกรอนันต์

ขออนุญาติคัดลอกมา
ระวัง 5 ปีโลกวิกฤต!! แม่เหล็กเปลี่ยนขั้ว -

 

คำว่า "สันดาน" ในภาษาไทยมาจากคำภาษาบาลี ว่า "สนฺตาน" หรือ"สนฺตติ" ซึ่งหมายถึงการเกิดดับสืบต่อกัน จิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสเป็นผลของอดีตกรรม เมื่อกรรมได้สุกงอมพร้อมที่จะให้ผล คือประกอบพร้อมด้วยปัจจัยต่างๆ ก็ทำให้วิบากๆจิตประเภทต่างๆเกิดขึ้นทำกิจต่างๆ เช่น เห็น ได้ยิน เป็นต้น วิบากจิตไม่สั่งสมสันดาน เพราะวิบากจิตแต่ละขณะเกิดขึ้นเพราะกุศลกรรมหรืออกุศลกรรมที่สะสมมาแล้วนั้นเป็นปัจจัยให้เกิดขึ้นและดับไปแล้วก็ไม่เป็นเหตุให้วิบากใดๆเกิดขึ้นเลย

หนังสือปรมัตถธรรมสังเขป จิตสังเขป และภาคผนวก หน้า 93
โดย สุจินต์ บริหารนเขตต์

 

อยากทำบุญ ไม่รู้จะรอดหรือปล่าวอะ

 

อ้าวตกลงไทยไม่มีภูเขาไประเบิดเหรอเห็นน้าเราดูข่าวอ่ะบอกว่าทางภาคอีสานอ่ะ หรือน้าจะมั่งนี่

 

ยุคพระศรีอารย์(พระเจ้าจักรพรรดิ์)
จะปกครองทั้งมนุษย์โลกและมนุษย์ต่างดาว​

​

ฉบับนี้ผู้เขียนขอนำเอาเรื่องราวของพระเจ้าจักรพรรดิ์ผู้เป็นใหญ่ในโลกทั้ง ๔ มาเล่าสู่ท่านผู้อ่านได้รับประดับความรู้กันว่า พระเจ้าจักรพรรดิ์ที่แท้จริงนั้น มีความยิ่งใหญ่ สามารถปกครองคนทั้งโลกได้อย่างไร ในมหาสุทัสสนสูตรได้กล่าวไว้ว่า พระเจ้าจักรพรรดิ์พระนามว่ามหาสุทัสสนะ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว ขุนคลังแก้ว และขุนพลแก้ว​

ทรงปกครองทวีปทั้ง ๔ ตั้งแต่ชมพูทวีปคือโลกที่เราอาศัยอยู่ รวมไปถึงโลกอื่นๆ ที่เรียกว่าอุตตรกุรุทวีป ปุพพวิเทหะทวีป และอปรโคยานทวีป ​

แต่ละทวีปก็มีสิ่งมีชีวิตมีมนุษย์อาศัยอยู่เหมือนกัน แต่มีความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันออกไป ผิวพรรณวรรณะ รูปร่างหน้าตาก็แตกต่างกันไป จะไปรู้ไปเห็นหรือติดต่อสื่อสารถึงกันได้ ในสมัยนี้ต้องอาศัยใจที่หยุดนิ่งอย่างเดียว จะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างไรก็ไปไม่ถึง แต่ในสมัยก่อนพระเจ้าจักรพรรดิ์ ท่านไปถึงได้ เพราะท่านเป็นผู้มีบุญที่อำนวยความสะดวกให้ท่าน มีจักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว สามารถนำพระองค์พร้อมด้วยบริวารออกตรวจตราดูความสงบเรียบร้อยของคนทั้ง 4 ทวีป ทรงปกครองด้วยทศพิธราชธรรม มนุษย์สมัยนั้นมีศีล ๕ ทำให้โลกเกิดความสงบร่มเย็น​

ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=76987

​

ชมพูทวีป หมายถึง โลกมนุษย์ทั้งหมด ไม่ใช่อินเดีย-เนปาล อย่างที่หลายๆคนเข้าใจ ดังมีหลักฐานที่พระพุทธเจ้าแสดงดังนี้

ชมพูทวีป อยู่ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมร(เขาสึเนรุ)

-ซึ่งมีธาตุมรกตอยู่ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมร ทำให้ทองฟ้าและมหาสมุทรของชมพูทวีปมีสีน้ำเงิน
-มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ คือ มนุษย์โลกนี้เอง อายุยิ่งหย่อนขึ้นอยู่กับคุณธรรม มีอายุ ประมาณ ๑๐๐ ปี
-มนุษย์ที่ชมพูทวีป มีความสูง ๔ ศอก
-ดอกไม้ประจำชมพูทวีปคือ "ชมพู (ไม้หว้า)"

อมรโคยานทวีป อยู่ทางทิศตะวันตกของเขาพระสุเมร(เขาสึเนรุ)

-ซึ่งมีธาตุแก้วผลึกอยู่ทางทิศตะวันตกของเขาพระสุเมร ทำให้ทองฟ้าและมหาสมุทรของอมรโคยานทวีปมีสีแก้วผลึก
-มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีใบหน้าวงกลม คล้ายวงพระจันทร์ มีอายุ ประมาณ ๕๐๐ ปี
-มนุษย์ที่อมรโคยานทวีป มีความสูง ๖ ศอก
-ดอกไม้ประจำอมรโคยานทวีปคือ "กะทัมพะ (ไม้กระทุ่ม)"

บุพวิเทหทวีป อยู่ทางทิศตะวันออกของเขาพระสุเมร(เขาสึเนรุ)

-ซึ่งมีธาตุเงินอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาพระสุเมร ทำให้ทองฟ้าและมหาสมุทรของบุพวิเทหทวีปมีสีเงิน
-มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีใบหน้าตอนบนโค้งตัดลงมาเหมือนบาตร มีอายุ ประมาณ ๗๐๐ ปี
-มนุษย์ที่บุพวิเทหทวีป มีความสูง ๙ ศอก
-ดอกไม้ประจำบุพวิเทหทวีปคือ "สิรีสะ (ไม้ทรึก)"

อุตรกุรุทวีป อยู่ทางทิศเหนือของเขาพระสุเมร(เขาสึเนรุ)

-ซึ่งมีธาตุทองอยู่ทางทิศเหนือของเขาพระสุเมร ทำให้ทองฟ้าและมหาสมุทรของอุตรกุรุทวีปมีสีทอง
-มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีลักษณะใบหน้าเป็นรูป ๔ เหลี่ยม รักษาศีล ๕ เป็นนิจ ไม่ยึดถือสมบัติ บุตร ภรรยา สามี ว่าเป็นของตน มีอายุประมาณ ๑,๐๐๐ ปี
-มนุษย์ที่อุตรกุรุทวีป มีความสูง ๑๓ ศอก
-ดอกไม้ประจำอุตรกุรุทวีปคือ "กัปปรุกขะ (กัลปพฤษ์)"

ที่มา http://web.schq.mi.th/~dabos/webboard/view.php?No=3136

​

หมายเหตุเรื่องพระเจ้าจักรพรรดิ์​

พระบรมจักรพรรดิ์ คือ พระราชาผู้มีบุญญาธิการและบุญฤทธิ์สูงสุดประมาณ ทรงเป็นพระราชายิ่งกว่าพระราชา จัดเป็น ๑ ใน ๔ บุคลควรบูชาอันหาได้ยากยิ่งในโลก คือ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระบรมจักรพรรดิ์​

คำว่าพระบรมจักรพรรดิ์นั้น บางครั้งก็เรียกว่า พระเจ้าจักรพรรดิ์ พระบรมจักร หรือ พระเจ้าธรรมิกราช การที่จะได้เป็นพระบรมจักรพรรดิ์นั้น ไม่ใช่ได้มาด้วยตระกูล ไม่ได้มาด้วยอำนาจ และไม่ได้มาด้วยกำลัง แต่ได้มาด้วยบุญบารมีที่สร้างสมไว้อย่างเพียงพอในอดีต รักษาทศพิธราชธรรมในปัจจุบัน และสามารถรักษาจักรวรรดิวัตรอันเป็นวัตรปฏิบัติสำหรับพระบรมจักรพรรดิ์โดยเฉพาะได้สมบูรณ์​

พระบรมจักรพรรดิ์ทุกพระองค์ จะทรงอุบัติขึ้นในชมพูทวีปเท่านั้น เนื่องจากพระบรมจักรพรรดิ์ไม่ได้อุบัติโดยตระกูล ดังนั้น พระบรมจักรพรรดิ์ทุกพระองค์จึงเริ่มจากการเป็นพระราชาธรรมดาก่อน เมื่อรักษาทศพิธราชธรรมและรักษาจักรวรรดิวัตรได้สมบูรณ์แล้ว รัตนะ ๗ ประการคู่บุญบารมีก็จะบังเกิดขึ้น คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว คหบดีแก้ว และขุนพลแก้ว​

จักรแก้ว เป็นยานพิเศษสำหรับพระบรมจักรพรรดิ์ สามารถนำพาพระบรมจักรพรรดิ์เสด็จดำเนินไปได้ในนภากาศ และสามารถเสด็จราชดำเนินไปยังทวีปใหญ่ทั้ง ๔ ตั้งแต่ชมพูทวีปคือโลกที่เราอาศัยอยู่ รวมไปถึงโลกอื่นๆ ที่เรียกว่าอุตตรกุรุทวีป ปุพพวิเทหะทวีป อปรโคยานทวีป และทวีปน้อยสองพันได้โดยง่ายดาย ​

ช้างแก้ว เป็นช้างมงคลอันประเสริฐ สีขาวสะอาด มีอิทธิฤทธิ์พาพระบรมจักรพรรดิ์เหาะไปได้​

ม้าแก้ว เป็นม้ามงคล ลักษณะงดงาม มีอิทธิฤทธิ์พาพระบรมจักรพรรดิ์เหาะไปได้​

แก้วมณี เป็นดวงแก้วขนาดโต ๔ ศอก แวดล้อมด้วยดวงแก้วเล็กๆ ๘๔,๐๐๐ ดวง มีรัศมีส่องสว่างดุจกลางวัน มีอิทธิฤทธิ์ช่วยบันดาลให้มหาชนสำเร็จสมความปรารถนา​

นางแก้ว เป็นสตรีคู่บารมีของพระบรมจักรพรรดิ์​

คหบดีแก้ว หรือขุนคลังแก้ว เป็นผู้มีตาทิพย์ สามารถมองเห็นขุมทรัพย์ได้ชัดเจนทั้งในดินและในน้ำ​

ขุนพลแก้ว เป็นบัณฑิต มีปัญญาเฉลียวฉลาดเกินคนทั้งหลาย เป็นผู้มีเจโตปริยญาน เป็นผู้รู้ใจของมหาชนในขอบเขต ๑๒ โยชน์ได้อย่างชัดเจน​

ที่มา http://www.intania82.com/index.php?

<!-- THE POST -->

 

นางแก้ว สุภัททาเทวี​

ภาพประกอบจาก www.dmc.tv/​

ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์บังเกิดเป็นพระราชาในกุสาวดีนคร ทรงพระนามว่า พระเจ้ามหาสุทัสสนะเ มื่อพระเจ้ามหาสุทัสสนะขึ้นครองราชย์สมบัตินั้น พราหมณ์ปุโรหิตก็แนะนำให้พระองค์ทรงรักษาจักรวรรดิวัตร เพื่อจะได้สำเร็จเป็นพระเจ้าบรมจักรพรรดิ์​

เมื่อพระเจ้ามหาสุทัสสนะบำเพ็ญจักรวรรดิวัตรได้ครบถ้วนสมบูรณ์ รัตนะทั้ง ๗ ประการก็บังเกิดแก่พระองค์ เริ่มจากการอุบัติของจักรแก้วที่ลอยล่องมาจากนภากาศ ตามด้วยช้างแก้ว ม้าแก้ว และแก้วมณี​

เมื่อพระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงมีจักรแก้วแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปยังทวีปใหญ่ทั้งสี่ คือ ปุพพวิเทหทวีป ชมพูทวีป อปรโคยานทวีป และอุตตรกุรุทวีป ซึ่งพระราชาในแดนต่างๆ ในทวีปทั้งสี่นั้นต่างก็ยอมสามิภักดิ์ในบุญญาธิการของพระองค์ ในครั้งนั้น พระนางพิมพาได้เกิดมาเป็นราชธิดาตระกูลมัททราช ในอุตรกุรุทวีป และได้มาเป็นนางแก้วแห่งพระมหาสุทัสสนะบรมจักรพรรดิ์​

พระนางสุภัททาเทวี เป็นผู้มีพระสิริโฉมงดงาม ทรวดทรงสมบูรณ์ ไม่สูงเกินไม่ต่ำเกิน ไม่ผอมเกินไม่อ้วนเกิน ไม่ดำเกินไม่ขาวเกิน เป็นผู้งามน่าชม ใครเห็นต้องถูกตาติดใจ ใครเห็นจะต้องเลื่อมใส ผิวพรรณวรรณะของพระนางนั้นนุ่มเนียนดุจปุยนุ่น ผิวกายมีไออุ่นยามเมื่อพระบรมจักรพรรดิ์เย็น และผิวกายจะเย็นในยามที่พระบรมจักรพรรดิ์ร้อน และมีรัศมีสว่างประมาณ ๑๒ ศอก​

ผิวกายของพระนางมีกลิ่นหอมระเหยออกมาตลอดเวลา กลิ่นหอมนั้นเหมือนกลิ่นหอมแห่งดอกนิลุบลที่บานแย้ม วาจาของพระนาง เป็นวาจาที่นุ่มนวลอ่อนหวาน และมีกลิ่นหอมพุ่งออกจากปากในเวลาไอหรือพูด ต่อมาก็บังเกิดคหบดีแก้วและขุนพลแก้ว ทำให้พระเจ้ามหาสุทัสสนะเป็นพระบรมจักรพรรดิ์โดยสมบูรณ์​

อำนาจของพระเจ้ามหาสุทัสสนะนั้นยิ่งใหญ่มาก เมื่อพระองค์ทรงดำริสิ่งใด สิ่งนั้นก็สำเร็จสมบูรณ์ ทำให้กุสาวดีนครในสมัยของพระองค์บริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์ต่างๆ สำหรับบำรุงมหาชน พระเจ้ามหาสุทัสสนะบรมจักรพรรดิ์ ทรงปกครองกุสาวดีและทวีปทั้งสี่อยู่นานแสนนานกว่า ๘๐,๐๐๐ ปี วันหนึ่ง พระองค์ก็ทรงเสด็จทรงจากสุธัมมาปราสาทไปประทับในป่าตาล​

พระนางสุภัททาเทวี ทอดพระเนตรเห็นพระอาการจึงตามเสด็จ กราบทูลให้พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงพอพระทัยในราชสมบัติ แต่พระเจ้ามหาสุทัสสนะดำรัสตอบว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์ในวันนี้ พระนางสุภัททาเทวีทรงพระกรรแสงร่ำไห้ เหล่าสตรีแปดหมื่นสี่พันนางก็พากันร้องไห้ร่ำไร แม้หมู่อำมาตย์ทั้งปวงก็ไม่มีแม้คนเดียวที่อดกลั้นความโศกไว้ได้ ต่างร้องไห้ระงมทั่วกัน​

พระเจ้ามหาสุทัสสนะบรมจักรพรรดิ์ จึงทรงสั่งสอนพระเทวีและอำมาตย์ทั้งหลายว่า​

​

 

หลายจังหวัดยังประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลวังทอง จังหวัดพิษณุโลก

​

หลายจังหวัดยังประสบอุทกภัย โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจในเขตเทศบาลตำบลวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี

ระดับน้ำในแม่น้ำเข็ก หรือแม่น้ำวังทองเอ่อล้นเข้าท่วมเขตเทศบาล ตำบลวังทอง ศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของอำเภอ ทำให้ร้านค้าและชุมชนถูกน้ำท่วมขังและนับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่ถูกน้ำท่วม ขณะที่น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลเข้าท่วมถนน สายพิษณุโลก

 

ระนองเขตอำเภอเมืองน้ำท่วมครั้งใหญ่เป็นวงกว้าง โดนพายุฝนถล่มหนักตั้งแต่ตี3 พอ8โมงเช้าน้ำทะเลหนุน ท่วมมากที่สุดตั้งแต่ที่ผมอยู่ระนอง

 

อำนาจแห่ง "สัจจะอธิษฐาน"​

​

<TABLE><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc>ในวันรุ่งขึ้นพระพุทธเจ้าก็พาองคุลีมาลโจรร้าย ซึ่งตอนนี้ได้บวชเป็นพระภิกษุแล้วออกบิณฑบาตร ไปที่ไหนผู้คนก็จำได้ว่า ภิกษุรูปนี้คือองคุลีมาลจอมโจรผู้โหดร้าย ที่เตรียมข้าวของจะใส่บาตรก็พากันวิ่งหนี ทิ้งข้าวของเตลิดเปิดเปิงปิดประตูแน่นหนาไม่ยอมโผล่หน้าออกมาพระภิกษุองคุลีมาลออกไปบิณฑบาตรที่ไหน ก็ถูกปาด้วยก้อนหินก้อนกรวดจนหัวร้างข้างแตกจีวรขาดบาตรทะลุ นี้เรียกว่ากรรมมันตามมาทัน ทำให้พระภิกษุองคุลีมาลต้องอดอยากและถูกทำร้ายร่างกายพระพุทธเจ้าก็ปลอบว่า ต้องอดทนเอาเพราะต้องชดใช้กรรมเสียในชาติปัจจุบันนี้ ไม่ต้องไปชดให้กรรมในปลายภพน้อยภพใหญ่อีกต่อไปบางคนก็มีจิตเลื่อมใสต่อภิกษุองคุลีมาล บางคนก็โกรธแค้นแค้นดุด่าว่า ขว้างปาด้วยก้อนกรวดก่อนดินก็มาก

บางคนมิได้มีเจตนาจะทำร้ายแค่ขว้างปาไปในอากาศด้วยความประสงค์อย่างอื่น(คือเพื่อขับไล่สัตว์ต่างๆ เช่นกาสุนัขและสุกรเป็นต้น)แต่ก้อนหินก้อนดินนั้นกลับหวนมาถูกพระเถระทั้งขาไปและขากลับ

</TD></TR><TR><TD align=middle>

พระองคุลีมาลตามเสด็จพระพุทธเจ้าไปยังเชตวันมหาวิหาร

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ccffff>บางคราท่านไปบิณฑบาตรไม่ได้อาหารแม่แต่ทัพพีเดียวและยิ่งร้ายกว่านั้นพระที่ไปบิณฑบาตรร่วมทางเดียวกับท่าน เลยพลอยไม่ได้อาหารไปด้วย

จนกระทั้งมาวันหนึ่งหญิงท้องแก่ออกมาใส่บาตร เพื่อต้องการจะให้ลูกที่จะเกิดมาเป็นคนที่ยึดมั่นในความดี พอเหลือบแลเห็นพระภิกษุองคุลีมาลเดินมารับบิณฑบาตรหญิงท้องแก่นั้นก็ตกใจกลัวตาย วิ่งเข้าไปในระหว่างกอไผ่ ผลที่สุดศีรษะมันไปได้แต่ท้องไปไม่ได้ดิ้นกระแด่วๆ อย่างนั้น ทีนี้พวกสามีคนข้างเคียงนั้นก็ทำใจดีสู้เสือ ช่วยกันเอาหญิงนั้นออกมาแล้วเอาม่านกั้นเข้าไปกราบเรียนพระภิกษุองคุลีมาลว่า ขอให้ช่วยนางนี้พ้นทุกข์ทรมานจากการเจ็บปวดในครรภ์ด้วยเถิด พระภิกษุองคุลีมาลนั้นก็ตั้งอธิฐานกล่าวว่า

 

ภัยใหญ่จะเกิดเมื่อไหร่ไม่มีใครรุ้ แต่ที่เราทั้งหลายควรรู้คือการทำความดีให้ถึงพร้อม ทำใจให้บริสุทธิ์ ละจากความชั่ว เมื่อทำได้ดังนี้ต่อให้ขึ้นชื่อ่านาทีใดโลกจะแตก เราก้อจะขึ้นชื่อว่าผุ้อยุ่โดยไม่ประมาท
แก่นแท้ของภัยพิบัตืนี้ คือการเตือนผุ้คนให้อยู่ในศีลในธรรม

 

ยังไม่เกิดขึ้นแน่นอนครับ.เชื่อได้เลย แต่ถ้าผ่าน 5000 ปี ของอายุพุทธศาสนาอันนี้เรียกว่าเข้ากุลียุค เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจะหนักว่าที่ทำนายหลายร้อยเท่า(b-evil) จงหมั่นทำดีไปเกิดบนสวรรค์หนีกุลียุคในช่วงเวลานี้ รอจนกว่าพระศรีอริยะเมตไตยลงมาโปรดโลกกันดีกว่า สาธุ....

 

​

ภัยพิบัติได้เกิดขึ้นแล้วครับ และจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าได้ติดตามข่าวในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด จะเห็นว่าแผ่นดินไหวเกิดถี่มากขึ้น และจำนวนริกเตอร์ก็มากขึ้น พายุก็ทวีความรุนแรงและเกิดบ่อยมากกว่าในอดีต ข่าวน้ำท่วมประเทศโน้นบ้าง ประเทศนี้บ้างก็มีให้เห็นกันอยู่ทุกวัน ข่าวการทำสงครามก็มีแนวโน้มว่าจะใช้กำลังทหารเข้าตัดสินปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โรคระบาดก็กำลังลุกลามแผ่ขยายออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ก็นั่นแหละครับ สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดกับขึ้นตัวเอง ก็ยังไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร แต่เมื่อมันเริ่มเข้ามาถึงตัวเองเมื่อไหร่นั่นแหละครับ ถึงจะเชื่อว่าเรากำลังเข้าสู่กลียุคแล้วจริงๆ ในวันใดที่อยู่ดีๆ ก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างชนิดไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิตนี้ น้ำจากที่ไหนก็ไม่รู้ไหลเข้ามาท่วมบ้านอย่างรวดเร็ว เสียงหวีดร้องด้วยความตกใจกลัว ของคนในครอบครัวของท่าน มันจะทำให้ท่านตระหนักได้ว่าเรานี้ได้ประมาท ชะล่าใจจนเกินไปเสียแล้ว เห็นว่าคำเตือนของผู้อื่นเป็นเรื่องเหลวไหล ทำให้ไม่สามารถจะแก้ไขอะไรได้ทันแล้วในเวลานี้

 

ช่วยเหลือ น้องใบหม่อน บ้านเฟื่องฟ้า-เด็กพิการซ้บซ้อน

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->


ข้อมูลตามนั้นเลยครับ ผมได้ทำการตรวจเช็กกับทางสถานสงเคราะห์ฯแล้ว ว่ามีเด็กหญิงคนนี้จริง
และทางสถานสงเคราะห์ฯได้อุปการะไว้ ถ้าอยากจะทำบุญกับน้องใบหม่อน ก็บริจากตามเลขบัญชีนั้นได้เลยครับ ตามที่ระบุไว้
แต่ถ้าเกิดอยากบริจากนอกเหนือกับเด็กพิการซับซ้อนรายอื่นๆ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่

สถานที่ตั้งในปัจจุบัน เลขที่ 78/9 หมู่ 1 ซอยติวานนท์ 1 ถนนติวานนท์
ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รหัสไปรษณีย์ 11120
โทรศัพท์ 02-583-6815 , 02-583-4000 , 02-583-4031
โทรสาร 02-583-4000


อ้อ ทางสถานสงเคราะห์ฯ บอกว่าไม่มีหนังสือขอบคุณนะครับ ด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบ
ทำบุญเอาสบายใจดีกว่า ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม หรือยังไงสอบถามเอาที่สถานสงเคราะห์ฯนะครับ
[b-wai] [b-wai] [b-wai]

 

...อันตรายจากน้ำอัดลม
คุณแม่ยังสาวคนหนึ่งเสียชิวิตเนื่องจากไตวายทั้งสองข้าง เธอได้รับการรักษาที่รพ.เพอร์ทามิน่าเป็นเวลาหนึ่งเดือน โดยได้รับอนุญาตให้กินได้แค่นํ้า 1 แก้วในหนึ่งวันเท่านั้น หมอให้การรักษาเธอ แต่ดูเหมือนว่าจะสายไปเสียแล้ว เธอเล่าว่าเธอดื่มนํ้าอัดลมตอนทานอาหารกลางวันทุกวัน แต่แม้ว่าเธอจะดื่มนํ้าอัดลมเพียงวันละ 1 แก้ว มันก็สามารถทำลายอวัยวะภายในของเธอได้ ท้ายที่สุดเธอเสียชีวิตลงเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว โดยทิ้งบุตรชายวัย 1 ขวบไว้ นํ้าอัดลมอันตราย!!!

หัวข้อนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ" โค้ก" ซึ่งน่าสนใจมาก สำหรับผู้ที่ชอบดื่มโค้กหรือเป๊ปซี่ซึ่งคิดว่าคุณรู้เรื่องเกี่ยวกับนํ้าอัดลมดีแล้ว นํ้าอัดลมสามารถ....

.........ทำความสะอาดห้องนํ้าโดยการรินโค้กลงในโถชักโครก ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงแล้วจึงกดชักโครก กรดซิติกในโค้กจะขจัดคราบสกปรกได้อย่างดี

.........ใช้ขัดจุดสนิมบนกันชนรถโดยการขัดกันชนด้วยแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ขยําเป็นชิ้นเล็ก ๆและจุ่มโค้ก ใช้ทำความสะอาดรอยกัดกร่อนบนสายแบตเตอรี่รถโดยการรินโค้กให้ทั่วสายแบต ฟองที่เกิดขึ้นจะช่วยขจัดรอยดังกล่าวได้ ช่วยทำให้รอยสนิมบนผ้าจางลงโดยการจุ่มผ้าในโค้กประมาณ 2-3 นาที

.........ช่วยอบแฮมที่ชื้นได้ โดยการเทโค้ก 1 กระป๋องลงในกระทะซึ่งตั้งไฟไว้แล้วใส่แฮมที่ห่อด้วย อลูมิเนียมฟอยล์ลงไป แกะฟอยล์ออก 30 นาทีก่อนแฮมสุก และผสมแฮมกับโค้กจะได้นํ้าเกรวี่สีนํ้าตาล ช่วยขจัดรอยฝังแน่นจากผ้าโดยการเทโค้ก 1 กระป๋องลงบนผ้าสกปรก เติมนํ้ายาซักผ้าและซักตามปกติ โค้กจะช่วยทำให้คราบฝังแน่นจางลง

.........และยังช่วยทำความสะอาดรอยนํ้าซึ่งกระเด็นจากถนนบนกระจกรถได้อีกด้วย แล้วเราก็ดื่มสิ่งนี้ลงไป!!! ข้อมูลเกี่ยวกับโค้กและเป๊ปซี่ นํ้าอัดลม เช่น โค้ก หรือ เป๊ปซี่มีค่ากรดด่างเท่ากับ 3.4 โดยประมาณซึ่งค่าความเป็นกรดนี้สามารถกัดกร่อนฟันและกระดูกได้

............ร่างกายคนเราจะหยุดสร้างกระดูก เมื่อเรามีอายุประมาณ 30 ปี หลังจากนั้นกระดูกจะกร่อนลงประมาณ 8-18% ในแต่ละปี โดยขึ้นอยู่กับความเป็นกรดของอาหารซึ่งบริโภคเข้าไป(ค่าความเป็นกรดไม่ได้ขึ้ นกับรสชาติของอาหาร แต่ขึ้นกับค่าของธาตุโปแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม เช่นฟอสฟอรัส เป็นต้น) และจะถูกขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะ ส่วนประกอบของแคลเซียมซึ่งมีศักยภาพในการกัดกร่อนกระดูกจะไหลเวียนอยู่ในเส้น เลือดฝอย เส้นเลือดใหญ่เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของตับ

............นํ้าอัดลมไม่มีคุณค่าทางโภชนาการแต่อย่างใด (ในแง่ของวิตามิน และแร่ธาตุ) แต่จะมีส่วนผสมของนํ้าตาล มีกรดสูงมาก และมีสารปรุงแต่งจำพวก วัตถุกันเสียและสีมากกว่า บางคนชอบดื่มนํ้าอัดลมเย็นๆหลังทานอาหารแต่ละมื้อ ลองเดาสิว่าคนเหล่านั้นได้รับผลกระทบอะไรบ้าง

............ร่างกายของคนเราขณะย่อยอาหารจะมีอุณหภูมิ 37 องศา แต่นํ้าอัดลมเย็นๆ ที่ดื่มเข้าไปมีอุณหภูมิตํ่ากว่า 37 องศามาก และมีอุณหภูมิเกือบจะ 0 องศาในบางครั้ง กรณีเช่นนี้ทำให้ประสิทธิภาพในการย่อยอาหารของร่างกาย ตํ่าลง การย่อยอาหารทำได้ยากขึ้นและย่อยอาหารได้น้อยลง ในความเป็นจริงแล้ว อาหารในร่างกายจะเสียและส่งแก๊สซึ่งมีกลิ่นเหม็นออกมา อาหารจะเน่าเปื่อย และทำให้เกิดสารพิษซึ่งจะถูกดูดซึมในลำไส้และจะไหลเวียนในระบบเลือดไปทั่วร่างก าย สารพิษซึ่งแพร่ออกไปทั่วร่างกายนี้จะส่งผลให้เชื้อโรคต่างๆเจริญเติบโตได้ดีขึ้น คิดให้ดีก่อนที่คุณ จะดื่มโค้ก เป๊ปซี่ หรือนํ้าอัดลมประเภทอื่น

...........คุณเคยคิดเวลาคุณดื่มนํ้าอัดลมหรือไม่ว่าคุณดื่มอะไรเข้าไป คุณกำลังกลืนสารคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่ไม่มีใครในโลกจะแนะนำให้คุณดื่ม สองเดือนต่อมา D2 มีการแข่งขันในมหาวิทยาลัย เดลีว่า "ใครดื่มโค้กได้มากที่สุด" ผู้ชนะดื่มโค้กเข้าไป 8 ขวด และเสียชีวิตทันทีเพราะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด มากเกินไป และมีก๊าซออกซิเจนในเลือดไม่เพียงพอ

...........หลังจากนั้น ผู้อำนวยการจึงสั่งห้ามขายนํ้าอัดลมในห้องอาหารของมหาวิทยาลัยอีก มีคนใส่ฟันซึ่งหลุดแล้วลงไปในขวดเป๊ปซี่ และมันถูกกัดกร่อนในเวลา 10 วัน ฟันและกระดูกเป็นอวัยวะในร่างกายเพียงอย่างเดียวซึ่งสามารถคงอยู่ได้ อีกหลายปีหลังจากที่มนุษย์เสียชีวิตลง ลองคิดดูสิว่านํ้าอัดลมจะมีผลอย่างไรต่อลำไส้อ่อนๆ และกระเพาะอาหารของเรา

http://www.forest.ku.ac.th/webboard/for_print.asp?qNo=555&page=

...........ถ้าตัดเล็บแช่ในน้ำโค้ก 4 วัน จะละลายหมด
...........บริษัทขายน้ำโค้ก ใช้น้ำโค้กทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรถ truck
มานานประมาณ 20 ปีแล้ว ท่านยังอยากดื่ม โค้ก หรือดื่มน้ำกัน เลือกเอาเอง
...........เวลาขนย้ายน้ำโค้กเข้มข้นเพื่อส่งตามโรงงานทั่วโลก
ที่รถ truck จะต้องติดป้ายไว้ว่า "มีวัตถุที่มีกรดกัดกร่อนได้ เป็นอันตราย"

http://gotoknow.org/blog/bonlight/47946
[b-nurse] [b-nurse] [b-nurse]

 

หวัดนกกลายพันธุ์ [b-nurse] มันมาแล้ว


Bird flu virus mutating into human-unfriendly form

Fri Oct 5, 2007 5:3


<SCRIPT language=javascript> var intSlideshowPosition = 0; var arrArticleImageIds = new Array(); var arrArticleImages = new Array(); var intSlideshowTracking = false; arrArticleImageIds.push(1887593); var re = /\\/gi; var strippedPhotoHTML = ''; arrArticleImages.push(strippedPhotoHTML.replace(re, "")); function loadInlineImage(intIndex) { document.getElementById("articlePhoto").innerHTML = '' + arrArticleImages[intIndex] + ''; document.getElementById("slideshowStatus").innerHTML = (intIndex + 1) + " of " + arrArticleImageIds.length; if (intSlideshowTracking == true) { dcsMultiTrack('DCSext.VirtualEvent', '1', 'DCSext.rChannel','Inline Slideshow','WT.cg_n','Inline Slideshow - Photo','WT.cg_s','','DCSext.DartZone','','DCSext.ContentType','Pictures'); } } function launchArticleSlideshow() { commonPopup('/news/pictures/articleslideshow?articleId=USN0439354420071005&start='+(intSlideshowPosition+1),920,585,3,'reutersSlideshow'); } function drawControls() { if (arrArticleImageIds.length > 1) { document.write(''); document.write(''); document.write(''); document.write('1 of ' + (arrArticleImageIds.length) + ''); document.write('Full Size
'); document.getElementById("articlePhoto").className = "articlePhoto"; } else { document.write(''); document.write('1 of 1'); document.write('Full Size
'); document.getElementById("articlePhoto").className = "articlePhoto"; } } function nextSlide() { if (intSlideshowPosition < arrArticleImageIds.length - 1) { intSlideshowPosition++; } else { intSlideshowPosition = 0; } intSlideshowTracking = true; loadInlineImage(intSlideshowPosition); } function prevSlide() { if (intSlideshowPosition > 0) { intSlideshowPosition--; } else { intSlideshowPosition = arrArticleImageIds.length - 1; } intSlideshowTracking = true; loadInlineImage(intSlideshowPosition); } function buttonMenu() { return false; } function buttonPush(e) { if (!e) var e = window.event; if (e.button != 2) { document.getElementById(this.id).style.cssText = "margin: 2px 0px 0px 2px;"; } } function buttonRelease(e) { if (!e) var e = window.event; if (e.button != 2) { document.getElementById(this.id).style.cssText = "margin: 1px;"; } } function initSlideshow() { if (arrArticleImageIds.length > 1) { document.getElementById("slideshowL").onclick = prevSlide; document.getElementById("slideshowR").onclick= nextSlide; document.getElementById("slideshowL").oncontextmenu = buttonMenu; document.getElementById("slideshowR").oncontextmenu= buttonMenu; document.getElementById("slideshowL").onmousedown = buttonPush; document.getElementById("slideshowR").onmousedown = buttonPush; document.getElementById("slideshowL").onmouseup = buttonRelease; document.getElementById("slideshowR").onmouseup = buttonRelease; } }</SCRIPT><TABLE style="FLOAT: left" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD class=articlePhoto id=articlePhoto vAlign=center align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT language=javascript> drawControls(); </SCRIPT>




Bird flu spreading
Play Video



powered by Sphere


<!-- END:: Broker Center Advert Module -->
By Maggie Fox, Health and Science Editor
NEW YORK (Reuters) - The H5N1 bird flu virus has mutated to infect people more easily, although it still has not transformed into a pandemic strain, researchers said on Thursday.