ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

อยากได้ภาพแนวนี้ครับ ท่านใดพอมีบ้างครับ ( เอาภาพใหญ่ๆ )

 

7 ก.ย. 54

เย็นนี้ผมได้ดูข่าวจากช่อง 3 กรมอุตุฯแจ้งว่าตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันจันทร์จะมีฝนตกหนักเป็นบางแห่ง ตกกระจายโดยทั่วไปทั้งภาคกลางรวมกรุงเทพฯ อาจตกตลอดทั้งวันและคืน ขอให้ระวังเรื่องน้ำท่วม

ตามภาพนิมิตที่ผมได้แจ้งไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเห็นน้ำท่วมประมาณ 1เมตร ท่วมไม่นานน้ำก็ยุบหมด เพื่อความไม่ประมาทควรมีอาหาร น้ำดื่มติดบ้านไว้สัก 10วัน

องค์อินทร์ ๙๗

ทำการแทน

 

พายุกำลังก่อตัวที่ มหาสมุทรแปชิฟิก ใกล้ฟิลิปินส์ จะมีผลต่อร่องความกดอากาศที่ผาดพ่านประเทศไทย หรือถ้าพายุนี้เข้าไทยและก็คงท่วมมากแน่ๆ ดังท่าน k 97 แจ้งไว้

 

​

​

บทความ HAARP ผู้ต้องหากรณีสร้างหายนะทางธรรมชาติ​

<TABLE><TBODY><TR><TD>จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์ เขย่าเฮติ เมื่อวันที่ 12 มกราคม สังหารชีวิตพลเรือนไปราว 100,000 ถึง 200,000 คน และในขณะที่เฮติกำลังมองหาความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานจากทั่วโลก

ทางการได้ยอมรับว่าภัยคุกคามที่อันตรายที่สุดสำหรับผู้รอดชีวิต คืออาการบาดเจ็บที่ไม่ได้รับการรักษาและโรคติดต่อที่เริ่มระบาดไปทั่ว ตามหลังเหตุแผ่นดินไหว ความช่วยเหลือด้านมนุษยชนถูกส่งมาจากทั่วทุกมุมโลก อย่างไรก็ตามเฮติกลับต้องประสบความปัญหาด้านความรุนแรงและปล้นชิงสิ่งของ เหตุเพราะความช่วยเหลือไม่เพียงพอ ต่อประชาชนผู้ไร้ที่อยู่อาศัยหลายแสนคน​

​

(ที่โคเปนเฮเกนเมื่อ ธันวาคม 2552 - ฮูโก ซาเวซ ผู้นำเวเนซุเอลา กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมโลกร้อน โทษลัทธิทุนนิยมเป็นสาเหตุสำคัญที่นำมาซึ่งปัญหานี้)​

มีข่าวออกมาว่า ฮูโก ชาเวซ ผู้นำเวเนซุเอลากล่าวว่าเหตุแผ่นดินไหวครั้งกระหายเลือดนี้ เกิดขึ้นตามหลังการทดสอบ "อาวุธแห่งแผ่นดินไหว" ใกล้ชายฝั่งเฮติ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้แจกแจงแหล่งข่าวที่ใช้กล่าวหาสหรัฐฯครั้งนี้​

สื่อมวลชนของเวเนซุเอลา รายงานว่าแผ่นดินไหวเขย่าเฮติ "อาจเกี่ยวเนื่องกับโครงการ HAARP ระบบที่สามารถก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างรุนแรงและแบบไม่คาดฝัน" ทั้งนี้โครงการ HAARP(High Frequency Active Auroral Research Project) คือศูนย์วิจัยไอโอโนสเฟียร์ในมลรัฐอะแลสกา มีจุดมุ่งหมายสำรวจทรัพยากรชั้นบรรยากาศโลก เพื่อพัฒนาระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม​

โครงการ HAARP ของสหรัฐอเมริกา​

ในปี 1997 วิลเลียม โคเฮน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯขณะนั้น ได้แสดงความกังวลต่อเครื่อง HAARP นี้ ในกรณีที่มันสามารถก่อความเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ จุดชนวนแผ่นดินไหวและควบคุมการปะทุของภูเขาไฟด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า​

HAARP เป็นโครงการทดลองทางวิทยาศาตร์ของรัฐบาลสหรัฐ เพื่อสร้างและควบคุมสภาพ ภูมิอากาศโดยการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ ขึ้นไปที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ แล้วให้สะท้อนกลับมายังพื้นผิวโลก ไปยังเป้าหมายที่ต้องการ ในจำนวนนั้นรวมไปถึงส่งพลังงานนั้นลงไปสู่ชั้นหินใต้ดินเพื่อก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนหรือแผ่นดินไหวนั่นเอง​

อนึ่งเครื่อง HARRP นี้ ยังสามารถประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีร่วมกับดาวเทียม และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อควบคุมกระแสลมกรด ซึ่งเป็นกุญแจของธรรมชาติที่จะนำพากลุ่มเมฆ น้ำฝน ความร้อน ความแห้งแล้งและความหนาวเย็น และอื่นๆ อีกมาก​

ไม่เพียงแต่กรณีแผ่นดินไหวที่เฮติ HAARP ยังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เสฉวน ประเทศจีน เมื่อ พฤษภาคม 2008 ด้วย โดยมีผู้อ้างถึงคลิปวีดีโอที่ถ่ายไว้ ใน 30 นาทีก่อนเกิดแผ่นดินไหว เป็นภาพแสงประหลาดที่ปรากฏให้เห็นในท้องฟ้าเหนือเสฉวน ว่ากันว่าแสงนี้เกิดขึ้นเพราะเจ้า HAARP (High Frequency Active Auroral Research Project)​

​

​

เดือนสิงหาคมที่จีน เกิดพายุไต้ฝุ่นรานานิม (Typhoon Rananim) พายุที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบ 48 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 164 คน บาดเจ็บกว่า 1,800 คน และคาดว่าถึงกว่า 13 ล้านคนได้รับผลกระทบ
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

ที่มา http://atcloud.com/stories/75282

 

หมองูตายเพราะงู
ผู้สร้าง HAARP ตายเพราะ HAARP ?​

​

วิวรณ์บทที่ 18

18:8 เหตุฉะนั้น ภัยพิบัติต่างๆของนครนั้น จะเกิดขึ้นในวันเดียว ความตาย และความระทมทุกข์ การกันดารอาหาร และไฟจะเผานครนั้นให้พินาศหมดสิ้น เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้า ผู้ทรงพิพากษานครนั้น ทรงอานุภาพยิ่งใหญ่" กษัตริย์และพ่อค้าแห่งแผ่นดินโลกคร่ำครวญต่อบาบิโลน

18:9 บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกที่ได้ล่วงประเวณีกับนครนั้น และได้มีชีวิตอย่างหรูหราร่วมกันนั้น เมื่อได้เห็นควันไฟที่ไหม้นครนั้น ก็จะพิลาปร่ำไห้คร่ำครวญเพราะนครนั้น

18:10 พวกกษัตริย์จะยืนอยู่แต่ห่างๆ เพราะกลัวภัยแห่งการทรมานของนครนั้น และจะกล่าวว่า "อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย บาบิโลนมหานครที่ยิ่งใหญ่ นครที่แข็งแรง เพราะเจ้าได้รับการพิพากษาโทษให้พินาศไป ภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น"

******************************************************************************
หมายเหตุ

HAARP เป็นโครงการทดลองทางวิทยาศาตร์ของรัฐบาลสหรัฐ เพื่อสร้างและควบคุมสภาพ ภูมิอากาศโดยการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ ขึ้นไปที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ แล้วให้สะท้อนกลับมายังพื้นผิวโลก ไปยังเป้าหมายที่ต้องการ ในจำนวนนั้นรวมไปถึงส่งพลังงานนั้นลงไปสู่ชั้นหินใต้ดินเพื่อก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนหรือแผ่นดินไหวนั่นเอง

ถ้าคำทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลนี้ถูกต้อง น่าจะเกิดการผิดพลาดอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเครื่องสร้างแผ่นดินไหวนี้ จนทำให้ชั้นบรรยากาศเหนือประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดเป็นช่องโหว่ ไม่สามารถกรองรังสีจากดวงอาทิตย์ได้ตามปกติ รังสีจากดวงอาทิตย์ จึงสามารถทะลุผ่านชั้นบรรยากาศของโลก ลงมาเผาไหม้เมืองหลวงของประเทศสหรัฐอเมริกาให้มอดไหม้ไป ภายในเวลาเพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้น -เกษม-

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>สั่งทบ.ดูแลปชช. 24 ชั่วโมง </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
“ประยุทธ์” ยันทบ. ช่วยเหลือชาวบ้านประสบอุทกภัยตั้งแต่วันแรก สั่งดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง


วันนี้ ( 7 ก.ย. ) พล. อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ. ทบ. ให้สัมภาษณ์กรณี การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ว่าทบ.ให้ความช่วยเหลือมาทุกครั้ง เพราะเป็นนโยบายของกระทรวงกลาโหมที่สั่งการไว้แล้วว่า เมื่อใดก็ตามที่ประชาชนมีความเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภัยพิบัติก็ไม่ต้องรอคำสั่ง และทางทบ. ก็ปฏิบัติการมาโดยตลอดว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ใดก็ตาม. ทหารจะต้องเป็นหน่วยแรกที่เข้าไปถึงประชาชนในบริเวณนั้น จากนั้นก็คงต้องส่งมอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบโดยตรงไป และเราก็จะไปเปิดงานในพื้นที่อื่นๆ

ผบ. ทบ. กล่าวต่อว่า ในครั้งนี้มีพื้นที่น้ำท่วมเป็นวงกว้าง โดยรวมทั้งประเทศก็ประมาณ 39 จังหวัด ซึ่งทหารทุกหน่วยได้รับคำสั่งไปแล้วชัดเจนว่า จะต้องไปดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดตลอด 24ชม. ซึ่งในอนาคตตั้งแต่ที่ปริมาณน้ำเหนือไหลลงมามากขึ้นเรื่อยๆ ก็คงจะต้องปรับเรื่องการวางแผนเอาทั้งหมดมารวมการณ์กันดูว่า ในพื้นที่ของแต่กองทัพจะแบ่งความรับผิดชอบกันอย่างไร

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>รับมือเจ้าพระยาตอนล่างน้ำขึ้นวันละ15ซม. </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมชลฯเตือนชาวบ้าน2ฝั่งเจ้าพระยารับสถานการณ์น้ำเพิ่มระดับต่อเนื่อง 4อำเภอสารคามระทมประสบภัยพิบัติอ่วม


วันนี้ (7ก.ย.) กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,055 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 32 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 68 ซม. มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท 2,438 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 48 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อน อยู่ในระดับตลิ่ง 17 ม. ท้ายเขื่อนต่ำกว่าตลิ่ง 0.84 ม.

จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,361 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 29 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 5 ซม. จ.อ่างทอง มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,281 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 29 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 95 ซม.

จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,129 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 5 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 11 ซม. ส่วนที่คลองบางหลวง(คลองโผงเผง) มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 857 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 16 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.99 ม. คลองบางบาล มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 273 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 2 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.21 ซม. และที่ อ.บางไทร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,626 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 17 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.48 ม.

สำหรับสถานการณ์แนวโน้มในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เนื่องจากเกิดฝนตกหนักกระจายในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน ในช่วงวันที่ 1-4 ก.ย. ที่ผ่านมา ประกอบกับมีปริมาณน้ำในแม่น้ำยมจำนวนมากเอ่อล้นอ้อมลงสู่แม่น้ำน่านที่ อ.เมืองนครสวรรค์ ทำให้มีน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นจากช่วงสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นไปอยู่ในเกณฑ์สูงสุดระหว่าง 3,300 – 3,500ลบ.ม.ต่อวินาที นับจากวันนี้ไปจนถึงกลางเดือน ก.ย.นี้ จากสภาพปัญหาน้ำเหนือที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ไปเป็น 2,800 ลบ.ม.ต่อวินาที นับจากวันที่ 5 ก.ย. ไปจนถึงกลางเดือน ก.ย. ระดับน้ำจะเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันวันละ 10-15 ซม.โดยประมาณต่อเนื่องกันไปอีกหลายวัน


ด้านนายทองทวี พิมเสน ผวจ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง กันทรวิชัย โกสุมพิสัย และอำเภอเชียงยืน รวมทั้งหมด 9 ตำบล 54 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 34,897 ไร่ ราษฎรเดือดร้อน 2,679 ครัวเรือน ขณะที่ระดับในแม่น้ำชี ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 10-15 เซนติเมตร เพราะปริมาณน้ำฝนสะสม และน้ำเหนือจาก จ.ชัยภูมิและขอนแก่นไหลมาสมทบ ซึ่งหากเกิดฝนตกต่อเนื่อง พื้นที่ใน 4 อำเภอที่ติดริมฝั่งแม่น้ำชี อาจประสบปัญหาน้ำท่วมได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดประดู่โลกเชษฐ์ หมู่ 5 ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมหนักสูงเกือบ 2 เมตรเข้าไปถึงฐานพระประธานในพระอุโบสถ ขณะที่พื้นที่ด้านนอกวัดมีบ้านเรือนราษฎร23หมู่บ้านต้องผจญกับภาวะน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมสูงเฉลี่ย10ซม. บางหลังปลูกในพื้นที่ต่ำระดับน้ำเกือบถึงหลังคาบ้าน และแนวโน้มยังจะเพิ่มระดับสูงขึ้นอีก


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีหมายกำหนดการจะออกเดินทางโดยรถยนต์ ไปยังเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เพื่อดูสถานการณ์น้ำ และการระบายน้ำในพื้นที่ภาคกลาง จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังวัดคงคาราม ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบอุทกภัย และมอบถุงยังชีพ เรือ สุขา เคลื่อนที่ สุขาลอยน้ำ ก่อนจะไปเยี่ยมประชาชนต่อที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาต่อไป


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เผย‘เจ้าใหญ่’ของไทยใหญ่กว่าโคตรไอ้เข้ฟิลิปปินส์ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>จากกรณีที่ประเทศฟิลิปปินส์ จับโคตรไอ้เข้ ได้มีความยาว 6.4 เมตร หนัก 1 ตันนั้น

ส่วนของไทยที่ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการปัจจุบันก็มีจระเข้ขนาดใหญ่ ซึ่งเคยบันทึกในกินเนสบุ๊คออฟเวิลด์เร็คคอร์ด ปี 1989 จากการสอบถามพนักงานที่อยู่ในฟาร์ม กล่าวว่า ‘เจ้าใหญ่’ เป็น จระเข้ พันธุ์น้ำจืด ปัจจุบันมีอายุ 32 ปี มีความยาว 6 เมตร หรือ 19 ฟุต 8 นิ้ว หนัก 1,114 ก.ก. หรือ 2,465 ปอนด์
เจ้าใหญ่มักจะกบดานอยู่ใต้น้ำไม่ยอมโผล่ขึ้น จะโผล่ขึ้นเหนือน้ำเมื่อเวลาหิวเท่านั้น โดยจระเข้ขนาดยักษ์ความยาวประมาณ 5–6 เมตร ของทางฟาร์มจระเข้ มีจำนวนถึง 5,000 ตัว


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ไฟป่าสหรัฐเผาบ้านเท็กซัสหลายร้อยดับอีกสอง </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นายรอนนี แมคโดนัลด์ ผู้พิพากษาเขตบาสทรอบในรัฐเท็กซัสของสหรัฐประกาศวานนี้ว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ศพ

จากเหตุไฟป่าหลายสิบจุดที่เผาทำลายบ้านเรือนราษฎรกว่า 700 หลังในช่วงระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้เมื่อวันอังคารมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ศพ หลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงพบศพอีก 2 รายในสภาพไหม้เกรียม ขณะที่ ทีมดับเพลิงกำลังต่อสู้กับไฟป่าที่ยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภัยแล้งเป็นประวัติการณ์ที่เปลี่ยนรัฐเท็กซัสกลายเป็นวัตถุที่สามารถจุดไฟติดง่าย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ พื้นที่กว่า 350 ล้านไร่ในรัฐเท็กซัสถูกเผาโดยไฟป่านับหมื่นจุด นับตั้งแต่ฤดูไฟป่าเริ่มต้นเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

ส่วนความเสียหายในเขตบาสทรอบจากไฟป่านั้น มีบ้านเรือนถูกทำลายเกือบ 600 หลัง พื้นที่ป่าถูกเผา 3.5 ล้านไร่ จากไฟป่าดังกล่าวทำให้นายริค แพร์รี ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ที่ลงสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า ต้องยกเลิกการหาเสียงในรัฐเซาท์แคโรไลนา

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>



กะโหลกศีรษะของนายอันเดร
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สุนัข 7 ตัวถูกจับใส่ถุง เพราะต้องสงสัยว่าพวกมันอาจกินเจ้าของของมันเอง หลังจากที่นายอันเดร ลุมโบก้า ชายวัย 50 ปี เดินทางกลับบ้านเกิดไปประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนสุนัขของเขาถูกขังไว้ในบ้าน ไม่สามารถออกไปหาอะไรกินได้
โดยเพื่อนบ้านของนายอันเดร กล่าวว่า นายอันเดรกลับมาที่บ้านเมื่อวันพุธที่แล้ว แต่กลับมีกระเป๋าของเขาวางอยู่ที่หน้าบ้าน และเริ่มมีกลิ่นเหม็นออกมาจากบ้าน จึงแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบภายในบ้านพักของนายอันเดร ในเมืองบาตัม จังหวัดบาตัม บนเกาะขนาดเล็กนอกชายฝั่งเกาะสุมาตราของประเทศอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ ตำรวจพบกระโหลกศีรษะของนายอันเดรอยู่ในครัว ขณะที่ร่างกายที่ถูกกัดแทะอยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงสงสัยว่าสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้ กัดเจ้าของ และกินด้วยความหิวโหย เพราะถูกทิ้งไว้นานถึง 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ตำรวจยังพบโครงกระดูกสุนัขอีก 2 โครง คาดว่าพวกมันอาจโดนกินไปก่อนหน้านี้
Mthai News
เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย

ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com


Photo:: krobkruakao.com


MThai News : องค์การนาซ่าได้เผยแพร่ภาพจุดการลงจอดของยานอพอลโล 12 ,14 และ 17 บนดวงจันทร์ ซึ่งเป็นภาพหลุมบนพื้นผิวดวงจันทร์ เมื่อครั้งที่นักบินอวกาศไปสำรวจ ซึ่งเป็นภาพที่ชัดที่สุดเท่าที่เคยปรากฏมา ถ่ายโดยกล้อง ของ LRO (Lunar Reconnaissance Orbiter)

ภาพจุดจอดยานอพอลโล 12
สำหรับยานอพอลโล 12 นั้น เป็นภารกิจลำดับที่ 6 ของ โปรแกรมอพอลโลอเมริกา และเป็นลำที่ 2 ที่ลงจอดบนดวงจันทร์ ถูกปล่อยออกจากท่าอากาศยานเมื่อวันที่ 14 ฟศฤจิกายน 2512 หลังจากยานอพออลโล 11 เพียง 4 เดือน มีนักบินประจำการคือ ชาเลส พีท คอนราด และ อะเลน แอล. บีน
จุด A คือ ALSEP Equipment
จุด D คือ Head Crater
จุด E คือ Bench Crater
จุด F คือ Surveyor 3 Spacecraft

ภาพจุดจอดยานอพอลโล 14
ยานอพอลโล 14 เป็นภารกิจลำดับที่ 8 ของ โปรแกรมอพอลโลอเมริกาและเป็นลำที่ 3 ที่ลงจอดบนดวงจันทร์ ถูกปล่อยออกจากท่าอากาศยานเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2514 เมื่อเวลา 04.04 น.
จุด A คือ ALSEP Equipment
จุด B1 คือ Antares Descent Stage

ภาพจุดจอดยานอพอลโล 17
ส่วนยานอพอลโล 17 เป็นภารกิจลำดับที่ 11และถือเป็นลำดับสุดท้ายของโปรแกรมอพอลโลอเมริกา ถูกปล่อยออกจากท่าอากาศยานเมื่อวันที่ 12.33 น.ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม2515
จุด A คือ ALSEP Equipment
จุด C2 คือ Geophone Rock
จุด C3 คือ Challenger Descent Stage

Mthai News

 

ฤาษีพุทธจรัล ฤาษีลอยตัว
ที่อาศรมอมราวดีอายุเวท อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้มีการสาธิตเหาะลอยตัวของฤาษีพุทธจรัลหรือฤาษีปรองดองขึ้น โดยการสาธิตดังกล่าวฤาษีพุทธจรัลจะนั่งขัดสมาธิพนมมืออยู่บนฟูกที่ปูไว้ เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานท่านฤาษีก็ได้ดีดตัวขึ้นไปในอากาศสูงประมาณ 80-90 ซม. ก่อนที่จะร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก สร้างความประหลาดใจให้กับลูกศิษย์ลูกหาที่ไปเฝ้าชมเป็นอย่างมาก
โดย ฤาษีพุทธจรัล กล่าวว่า ฤาษีลอยตัว หรือการเหาะลอยตัวครั้งนี้เป็นการทำ โยคะสูตร ซึ่งการทำโยคะสูตรนี้มนุษย์ทุกคนก็สามารถทำได้เพียงมีจิตใจ และฌานสมาบัติ เป็นพื้นฐานที่เข้มแข็งและแน่วแน่ จนจิตและกายประสานสัมพันธ์กัน เมื่อคิดอะไรทำอะไรก็ได้สมใจนึก
นอกจากนี้ ฤาษีพุทธจรัล ยังได้กล่าวต่ออีกว่าการสาธิตลอยตัวดังกล่าวจะทำเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะมีอายุมากการทำการเหาะลอยตัวแต่ละครั้งใช้พลังมาก ทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องมีสมาธิ จิตใจต้องแน่วแน่อย่างสูง รวบรวมพลัง ทั้งฌาน ลมปราณ จิตใจ ร่างกายให้เป็นหนึ่ง ก่อนดีดตัวให้ลอยขึ้นไปในอากาศได้
“ในอดีตสังคมยุคหนึ่ง บุคคลที่เกิดมาในโลกนี้ก็มีความพร้อมสมบูรณ์ ทั้งจิตและกาย เขาเรียกว่า มีสิทธิ มีฤทธิ์ สิทธิหรือฤทธิ์ นั้นเป็นเรื่องปกติของสัตว์โลก เหมือนนกที่บินได้ แมวที่กระโดดไปเกาะสิ่งต่าง ๆ ที่สูงถึง 2-3 เมตร สัตว์เหล่านี้มีสิทธิ และมีฤทธิ มนุษย์เองเกิดมาก็มีสิทธิมีฤทธิ์ มากกว่าสัตว์พวกนี้ด้วยซ้ำไป เมื่อก่อนที่ประเทศจีนเขาก็เอามาใช้ แต่เป็นในลักษณะของกำลังภายใน”

ฤาษีลอยตัว

Photo/เชียงใหม่นิวส์
Mthai News




จากการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจฯ กับผู้ตรวจการแผ่นดิน ในการพิจารณาถึงปัญหาและผลกระทบ กรณีการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติผ่านตัวแทนอำพราง
โดยการเปิดเผยข้อมูลของ ศ.ศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน และ รอง รศ.ปิยะนุช โปตะวณิช อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พบว่า ปัจจุบันมีชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทย กว่า 100 ล้านไร่ โดยเฉพาะพื้นที่ริมชายหาด เช่น เกาะสมุย ภูเก็ต เกาะช้าง รวมไปถึงริมทะเลฝั่งอ่าวไทย
ทั้งนี้ กลุ่มต่างชาติได้ใช้วิธีหลีกเลี่ยงกฎหมายโดยผ่านตัวแทนอำพราง ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ
Mthai News



Mthai News : สำนักข่าวต่างประเทศเผยภาพ ตำรวจและนักดับเพลิงกำลังช่วยกวางตัวใหญ่ที่ติดอยู่กับต้นแอปเปิ้ล ในประเทศสวีเดน ซึ่งสันนิษฐานว่ามันมีอาการมึนเมาจากการกินแอปเปิ้ลเน่าบนต้น และพยายามยื่นคอขึ้นไปกินลูกที่อยู่สูงกว่าจึงทำให้ลำตัวติดอยู่ดังภาพ
ทั้งนี้ ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นได้โทรแจ้งให้ตำรวจมาช่วย หลังจากพบมันติดอยู่สักพัก จากนั้นพนักงานดับเพลิงต้องตัดกิ่งไม้ทิ้ง เพื่อให้ตัวของเจ้ากวางหลุดออกมา ขณะนี้ถูกนำตัวคืนสู่ป่าเป็นที่เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม สัตว์หลายชนิด เช่น ลิง จะเกิดอาหารเมาได้ หากมันกินผลไม้เน่าที่ตกลงกองบนพื้น ซึ่งพอมันทับถมกันจะเกิดแอลกอฮอล์ขึ้นมา
Mthai News
เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย

ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com

แท็ก : กวาง, ติดบนต้นไม้, สวีเดน, เมา

 

วันที่ 08 กันยายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7588 ข่าวสดรายวัน


บันทึกเด็กญี่ปุ่นเช็ดน้ำตา ครบ6เดือนสึนามิ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
บันทึกเด็ก - เด็กผู้ประสบภัยสึนามิคุยกับเคน โมริ นักข่าวผู้เก็บบันทึกจากเด็กจัดทำเป็นหนังสือชื่อ "สึนามิ" เขียนด้วยภาษาง่ายๆ แต่กินใจ เป็นหนังสือขายดีจนพิมพ์เพิ่มเป็นครั้งที่ 3 แล้วในวาระครบ 6 เดือนมหันตภัยสึนามิ (ภาพเล็ก) ที่จะมาถึงวันที่ 11 ก.ย. (เอเอฟพี)

</TD></TR></TBODY></TABLE>(d)เมื่อ 7 ก.ย. เอ็นเอชเครายงานว่า สถานีเตรียมแพร่ภาพรายการพิเศษวาระครบรอบ 6 เดือนแผ่นดินไหว และสึนามิถล่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น รายการจะนำเสนอสภาพชีวิตที่เปลี่ยน แปลงตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา การคุกคามของสึนามิในมุมต่างๆ มีกำหนดแพร่ภาพทั่วประเทศในวันที่ 10-11 ก.ย.นี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 10 ปีเหตุการณ์วินาศกรรมสหรัฐ 11 กันยาฯ พอดี

ด้านเอเอฟพีรายงานว่า สำนักพิมพ์ญี่ปุ่นจัดพิมพ์หนังสือ "สึนามิ" บันทึกเรื่องราวสึนามิ จากเรียงความของนักเรียนในพื้นที่ประสบภัย สะท้อนให้เห็นความกลัวของภัยธรรมชาติ และเรื่องราวสะเทือนใจในการสูญเสียคนในครอบครัว หนังสือตีพิมพ์ครั้งที่ 3 แล้วนับจากเดือนมิ.ย. มียอดขาย 140,000 เล่ม สร้างความประทับใจให้ผู้อ่านด้วยภาษาง่ายๆ แบบเด็ก มีเนื้อหากินใจ

เคน โมริ นักข่าววัย 43 ปี บรรณาธิการหนังสือเล่มนี้ กล่าวว่า ต้องการให้เรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติครั้งนี้ผ่านมุมมองของคนที่จะไปเป็นอนาคตของญี่ปุ่น ผู้อ่านมองเห็นความหวังในตัวเด็กเหล่านี้ เพราะมีหลายคนที่จบเรียงความด้วยการเช็ดน้ำตาและพร้อมจะยิ้มในวันใหม่

จิโยะ ยาฮาตะ วัย 11 ขวบ ในเมืองโอสึจิ เขียนว่า "ฉันไม่เคยคุยกับพ่อถึงความรู้สึกที่สูญเสียแม่ และตอนนี้ฉันจะเช็ดน้ำตา อำลาการร้องไห้เงียบๆ นี้ ฉันจะอยู่ด้วยความเชื่อว่ายังมีพรุ่งนี้อยู่เพื่อใบหน้าที่มีรอยยิ้ม" ด้านยูอิ มุโตะ อายุ 11 ขวบ เขียนว่า "มันเริ่มขึ้นด้วยเสียงพื้นดินร้องดังลั่น ตอนนั้นคิดว่าโลกจบสิ้นแล้ว" ส่วนฮารุนะ ซาโตะ วัย 7 ขวบ เขียนอำลาถึงเพื่อนที่จากไปและคนอื่นๆ ที่พลัดพรากจากครอบครัว เด็กหญิงบรรยายความรู้สึกว่า "สึนามิช่างสวาปามเหลือเกิน"

วันเดียวกัน ทางการสเปนประกาศมอบรางวัลอัสตูเรียส คอนคอร์ด ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติของประเทศ ให้กับเหล่าทีมกู้ภัยชาวญี่ปุ่นที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปแก้ไขวิกฤตการณ์นิวเคลียร์รั่วไหลในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ อันเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวและสึนามิ โดยไม่เกรงกลัวความตาย

 

เราเคยฝันว่าเราติดอยู่(ในฝันเห็นว่าเราอยู่ที่ สนามบินชาร์ล เดอ โกลล์)
...ผู้คนหายไป หรือตายไป 3ส่วน4 เราคือ1ส่วน4ที่เหลือ ถ้าเราไม่เหลือก็เเสดงว่าเราคือ 1ส่วน4ที่ตาย
หลังจากนั้นจะมีเณรมาจากไทย10รูปขี้ม้ามาช่วย เราพูดว่า เนื้อนาบุญของโลก และเราพาคน1ส่วน4กราบเขาก็กราบกันแบบงงๆเเต่ก็กราบ แล้วหันไปดูดวงดาวบนฟ้ากำลังเปล่งแสงสวยงาม

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> อุตุเตือนภัย ฝนตกหนักถึงหนักมากอีสาน-ตอ.และกทม. 9-12 ก.ย.นี้ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 3 เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 9 ก.ย.

เรื่อง "ฝนตกหนักถึงหนักมา บริเวณประเทศไทย" รายงานว่า ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ในช่วงวันที่ 9-12 กันยายน 2554 ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

สำหรับพื้นที่ราบลุ่มริมน้ำบริเวณภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกให้เตรียมป้องกันระวังอันตรายจากปริมาณน้ำท่วมที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัด นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง มีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง มีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เชียงใหม่ 25 อำเภอเร่งเยียวยาผู้ประสบภัย 5,441 ครอบครัว </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
เชียงใหม่ 25 อำเภอเร่งรัดเยียวยาผู้ประสบภัย 5,441 ครอบครัว รองผู้ว่าฯ สั่งเตรียมรับมือฝนตกหนัก 9-11 ก.ย. นี้

<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px">
นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการทั้ง 25 อำเภอผ่านระบบวีดีทัศน์ทางไกล โดยเร่งรัดให้สำรวจความเดือดร้อนของราษฎรจากสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-3 ก.ย. ซึ่งมีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 34 จังหวัด รวมกว่า 147,000 ครัวเรือน โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 ก.ย.นี้
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px">
ในการประชุมครั้งนี้ได้ทำความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือนร้อนจาก 3 กรณี คือ กรณีน้ำท่วมถึงบ้านพักอาศัยโดยฉับพลันและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย กรณีบ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7 วันและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และกรณีบ้านพักอาศัยได้รับความเสียหายจากอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเงื่อนไขทั้ง 3 กรณี ต้องเป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัยประจำในพื้นที่ประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินและมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่ท้องถิ่นออกให้เท่านั้น กรณีที่มีผู้ประสบภัยซ้ำซ้อนทั้ง 3 กรณีให้ได้รับการช่วยเหลือเพียงกรณีเดียว และกรณีประสบภัยจากพายุไหหม่า นกเตน ร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำให้ได้รับความช่วยเหลือเพียงเหตุการณ์เดียว
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px">
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทั้ง 25 อำเภอ มีราษฎรได้รับความเสียหาย รวม 5,441 ครัวเรือน โดยให้นายกเทศมนตรีตำบล หรือ นายก อบต. ซึ่งเป็นผู้อำนวยการท้องถิ่นออกหนังสือรับรองความเสียหายก่อนที่จะนำข้อมูลส่งอำเภอเพื่อนำเข้าที่พิจารณาในที่ประชุม กชพอ. โดยให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 11 ก.ย. และจัดส่งข้อมูลให้จังหวัดภายในวันที่ 12 ก.ย. เพื่อนำเสนอที่ประชุม กชพจ. ต่อไป



</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว)
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุดินถล่ม น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 3 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 2 , 3 และ 4 ต. น้ำไผ่ อ.น้ำปาด จ. อุตรดิตถ์ เป็นเหตุให้บ้านเรือนเสียหาย 5 หลัง มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ผู้สูญหาย 1 ราย หลังจากฝนตกหนักจนดินจากภูเขาถล่มลงมาทับบ้านเรือนประชาชนกว่า 300 ครอบครัวถูกตัดขาด
เบื้อต้น เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังและประสานจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ และอาสมัครกู้ภัยอุตรดิตถ์ นำเรืออุปกรณ์ช่วยชีวิต เรือท้องแบน เข้าไปยังตำบลน้ำไผ่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ แล้ว
โดย นายสุรชัย ธัชกวิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ เผยว่าเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ได้เกิดน้ำป่าจากภูเขาไหลหลากทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ในขณะที่ชาวบ้านกำลังนอนหลับ และไม่มีการเตือนภัยใดๆ จึงทำให้บ้านชั้นเดียวในพื้นที่ลุ่ม ถูกกระแสน้ำพัดทรัพย์สินและอุปกรณ์ทำกินต่างๆ เสียหาย และบางส่วนลอยไปกับกระแสน้ำ
นอจากนี้ ยังทำให้สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กบ้านห้วยเดื่อ ที่เชื่อมถนนเข้าทั้ง 3 หมู่บ้านพังเสียหาย ชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือนถูกตัดขาด กระแสไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ จนเกิดเป็นเหตุแสนสลดดังกล่าว
Mthai News
เกาะติดทุกข่าวเด่น



เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) ร.ต.ท.ศุภิชัย กันหา ร้อยเวรสภ.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งเหตุเด็กตกน้ำเสียชีวิต บริเวณหนองต้นผึ้ง ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย- พม่า บ้านริมเมย หมู่ที่ 2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ mujเกิดเหตุ พบศพเด็กนอนเสียชีวิตในหนองน้ำต้นผึ้ง เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำศพขึ้นมา สภาพศพไม่นุ่งกางเกง คาดว่า หลุดไปในน้ำ สวมเสื้อลายแขนยาวผ้าสำลี มีบาดแผลบริเวณกกหู และหัวเข่า ทราบชื่อในภายหลังคือ ด.ช.จ่ออ่าง อายุ 10 ขวบ บุตรชายของนางซานวิน อายุ 50 ปี แม่ค้าชาวพม่าจากจังหวัดเมียวดี
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าขณะกำลังจัดร้านขายของเด็กชายจ่ออ่างซึ่งปกติจะช่วยกันจัดร้าน แต่วันนี้ไม่ยอมช่วยทำงาน ตนจึงดุด่า แต่ลูกกลับเถียงคำไม่ตกฟาก จึงคว้ามีดอีโต้ข้างตัวขู่วิ่งไล่ฟัน เด็กชายจ่ออ่างตกใจจึงวิ่งหนีไปข้างสะพานหนองต้นผึ้ง และเห็นพลัดตกลงไปในคลองหายไป
นางซานวิน เห็นว่าลูกชายว่ายน้ำเป็น จึงไม่ลงไปช่วยเหลือ แต่เนื่องจากด.ช.จ่ออ่างเกิดอุบัติเหตุตกลงไปประกอบกับระดับแม่น้ำในหนองน้ำสูงขึ้น จึงทำให้ด.ช.จ่ออ่างเสียชีวิต
Mthai News



สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ได้พบเด็กหญิงวัยแค่ 12 ขวบ ได้ป่วยเป็นโรคโพรจีเรีย หรือโรคประหลาดที่ทำให้เด็กกลายเป็นคนแก่ก่อนวัยอันควร ซึ่งโรคนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินอายุยี่สิบต้นๆ เท่านั้น
สำหรับเด็กหญิงคนดังกล่าวมีชื่อว่า ออน-ทลาเม็ตซี ฟาลัตซี โดยเธอมีใบหน้าและผิวหนังคล้ายคนแก่อายุ 90 ทั้งที่ตัวเธอยังเล็กเหมือนเด็กเพิ่งหัดเดิน
และแม้ว่าอาการป่วยของเธอจะปรากฎให้เห็นชัดเจนแต่เธอก็ไม่ย่อท้อ ยังใช้ชีวิตได้อยู่อย่างมีความสุข แถมเธอยังเรียกตัวเองว่า “First Lady” ด้วย เนื่องจากทั่วโลกมีเธอเป็นหญิงผิวดำคนเดียวที่ป่วยเป็นโรคนี้ ส่วนเคล็ดลับของการมองโลกในแง่ดีของเธอก็คือ ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
โพรจีเรียถือเป็นโรคที่หายากมาก แพทย์ประเมินว่ามีผู้ป่วยโรคนี้เพียง 1 คน ทุกๆประชากร 8 ล้านคน
Photo/ครอบครัวข่าว 3
Mthai News

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>กทม.เตรียมรับน้ำเจ้าพระยา คาดปีนี้ปริมาณถึง 3,000 ลบ.ม/วินาที </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ (สนน.) กรุงเทพมหานคร (กทม.)

เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้อยู่ที่ 1.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนปริมาณน้ำไหลที่เขื่อนพระรามหก และแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณ 2,927 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่าอยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงนี้มีปริมาณฝนตกลงมาในพื้นที่ทุกวัน คาดการณ์ว่าอีกไม่นานปริมาณน้ำที่จะไหลมายังกรุงเทพฯ จะถึง 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีอย่างแน่นอน เนื่องจากกรมชลประทานได้เริ่มระบายน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์ซึ่งอยู่ในระดับวิกฤติแล้ว

ดังนั้น กทม.จึงได้เตรียมมาตรการพร่องน้ำในคลองต่าง ๆ และแก้มลิงทั้ง 21 แห่ง

ในพื้นที่กรุงเทพฯ ไว้เพื่อรองรับน้ำฝนในพื้นที่ และเปิดเดินเครื่องเครื่องสูบน้ำตลอดเวลาในบางจุด โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำสถานีสูบน้ำอยู่ประจำตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้ยังไม่มีปัญหา แต่ได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.- สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> น้ำป่า-ดินโคลนถล่ม3หมู่บ้านสูญหาย7คน </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>

น้ำป่า-ดินโคลนถล่ม 3 หมู่บ้านในอุตรดิตถ์ ชาวบ้านสูญหาย 7 คน บ้านเสียหายกว่า 30 หลัง สะพานขาดอีก 2 แห่ง


เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 9 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดน้ำป่าดินโคลน จากเทือกเขาภูเมี่ยงภูทอง ไหล ถล่มเข้าท่วม 3 หมู่บ้านได้แก่บ้านน้ำไผ่ หมู่ 2 บ้านต้นขนุน หมู่ 3 บ้านห้วยคอม หมู่ 4 อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ส่งผลให้บ้านพังเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน เบื้องต้นมีสูญหายจำนวน 7 ราย หลังเกิดเหตุตำรวจกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระดมกำลังกว่า 50 นายเข้าค้นหาผู้สูญหาย และเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในบ้านพัก พร้อมกับเร่งขนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บไปอยู่ในที่ปลอดภัย สำหรับผู้สูญหายทั้ง 7 ราย ทราบชื่อคือ 1.นายประสิทธิ์ อินดีสี 55 ปี 2.นางพริก อินดีสี อายุ 46 ปี 3.ด.ช.ยิงศักดิ์ อินดีสี อายุ 5 ปี 4.นายขาน คำไว 63 ปี 5.นางพา คำไว 70ปี 6.นางกัญญาณี ซ้อมพิมพ์ อายุ 43 ปี และนางนาปั้น คำไว อายุ 80 ปี

หลังเกิดเหตุนายคณิต เอี่ยมระหงส์ รองผวจ.อุตรดิตถ์ ได้นำกำลัง อส.ลงไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งค้นหาผู้สูญหายทั้ง 7 ราย แต่การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว อีกทั้งถนนหลายจุดถูกดินโคลนถล่มปิดทับเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีสะพานพังเสียหายอีก 2 แห่งคือสะพานบ้านห้วยเดื่อ และสะพานบ้านป่าขนุน ที่ถูกน้ำป่าพัดจนคอสะพานพังเสียหายใช้การไม่ได้.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เปิด"ลพบุรีโมเดล" แก้น้ำท่วม ใช้บ้านหมี่ทำแก้มลิง </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีได้นำเจ้าหน้าที่กรมชลประทานและเจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลงพื้นที่สำรวจน้ำ

และแนวป้องกันน้ำท่วมในเขตตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมืองลพบุรีและประตูระบายน้ำสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ หลังจากที่ทางกรมชลประทานได้มีการผันน้ำเข้าสู่คลองชัยนาท-ป่าสักเพิ่มมากขึ้นจากวันละ250ลูกบาตรเมตรต่อวินาที เป็นวันละกว่า 300 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะระบายลงสู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจนทำให้หลายจังหวัดทั้ง ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ร่วมถึงพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

<DD>
จากการผันน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสักเพิ่มขึ้นทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกือบล้นตลิ่งข้าท่วมพื้นที่การเกษตรหลายจุด

ทำให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เร่งเสริมแนวคันดินและกระสอบทรายให้สูงขึ้น พร้อมสั่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ทั้งพื้นที่นาข้าวและสูบน้ำออกจากบริเวณหลังหมู่บ้านสิรัญญา เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมสูงเหมือนปีที่ผ่านมา และ ไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่นาข้าวอีกหลายหมื่นไร่ที่ยังเก็บเกี่ยวไม่เรียบร้อย โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีขอเวลาอีก 5 วันเพื่อให้ชาวนาเกี่ยวข้าวเรียบร้อยก่อน พร้อมเปิดน้ำเข้าเพื่อลดมวลน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลงก่อนที่จะนำทุ่งนาข้าวอำเภอบ้านหมี่จำนวน4หมื่นไร่ และทุ่งอำเภอท่าวุ้งอีก 6 หมื่นไร่ที่เก็บเกี่ยวข้าวแล้วนำเป็นแก้มลิงเก็บน้ำชั่วคราว ได้ประมาณ 2-3 ร้อยล้านลูกบาตรเมตร เก็บในพื้นที่ชะลอความเดือดร้อน
<DD>
ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีได้เตรียมเปิดลพบุรีโมเดลหากเกิดน้ำท่วมขึ้นในพื้นที่

โดยหากเป็นน้ำที่ผันมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาทางจังหวัดรับได้สบายเพราะมีการวางแผนไว้อย่างดีแล้วแต่หากมีฝนตกลงมาเพิ่มขึ้นก็จะจัดลพบุรีโมเดลใน3แนวทางคือ แยกเป็น 3 แนวทาง โดยการจัดให้มีการบรูณาการของทุกส่วนราชการร่วมกัน แนวทางที่ 1. มีการวางแผนใช้พื้นที่นาข้าวของเอกชนที่เก็บเกี่ยวแล้วเป็นแก้มลิงรับน้ำ ซึ่งแบ่งออกเป็นทุ่งท่าวุ้งจำนวน6หมื่นไร่ และทุ่งฝั่งซ้ายของคลองชัยนาท-ป่าสัก จำนวน 4 หมื่นไร่ เช่นตำบลหนองเมือง หนองทรายขาว พุคา โดยทั้งหมดนี้จะสามารถเก็บน้ำที่จะมาได้ประมาณ 2-3 ร้อยล้านลูกบาตรเมตร ซึ่งเป็นจำนวนน้ำที่มากพอสมควร

ส่วนแนวทางที่ 2.ของลพบุรีโมเดล คือหลังหาที่ให้น้ำอยู่แล้วก็จะมีการหาเส้นทางสำหรับให้น้ำลงกลับสู่แม่น้ำโดยไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งถนนสายไหนปิดทางน้ำก็จะมีการขุดและฝังท่อให้น้ำเดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนแนวทางที่ 3 คือการหาอาชีพเสริมให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไม่สามารถออกไปรับจ้างได้ เช่นการปลูกผักทำน้ำ ด้วยการปลูกผักบุ่ง ผักกระเชด ร่วมถึงการปลูกผักสวนครัวลอยน้ำด้วยการปลูกผักในแพ และอีกส่วนก็คือการส่งเสริมการทำประมงให้กับชาวบ้านซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดีในช่วงน้ำท่วม ซึ่งหากชาวบ้านมีรายได้ก็จะทำให้ไม่เกิดอาการเคลียดขึ้นมาได้ ก่อนที่ภาครัฐจะมีการชดเชยช่วยชาวบ้านที่หลัง

</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ผู้นำสหรัฐประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่อุทกภัยรัฐนิวยอร์ก </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>วอชิงตัน 9 ก.ย. - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐนิวยอร์ก

เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นภายหลังฝนตกหนักท่วมพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน

ทำเนียบขาวสหรัฐแถลงว่า

การประกาศภาวะฉุกเฉินที่รัฐนิวยอร์กอย่างเป็นทางการมีผลให้หน่วยงานจากรัฐบาลกลางได้ประสานกับหน่วยบรรเทาทุกข์เพื่อเข้าช่วยเหลือ ดูแลทรัพย์สิน สุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนได้ ด้านผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กแถลงว่า สถานการณ์น้ำท่วมจะรุนแรงขึ้นและแนวโน้มสภาพอากาศทางตะวันออกเฉียงเหนือยังไม่ปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> “ไอรีน”คร่า5มะกัน-ไร้บ้านนับแสน </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>

“ไอรีน” คร่า 5 มะกัน น้ำท่วมหนัก คนไร้บ้านนับแสน


วันนี้ (9 ก.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฟิลาเดเฟีย รัฐเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า ได้เกิดพายุฝนตกหนักทำให้หลายพื้นที่ต้องจมอยู่ใต้กระแสน้ำเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเคยได้รับความเสียหายมาแล้วจากอิทธิพลของพายุเฮอริเคน “ไอรีน” พัดถล่มเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ศพ จากน้ำท่วมฉับพลันและต้องอพยพประชาชน 100,000 คนออกจากบ้านเรือนที่พักอาศัย ขึ้นไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

ทั้งนี้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐ ได้ออกประกาศเตือนภัยเรื่องอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันในรัฐนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซี, เพนซิลวาเนีย, คอนเนคติกัต, แมรี่แลนด์ และ เวอร์จิเนีย เพราะหลายเมืองจมอยู่ใต้น้ำ เส้นทางสัญจรเช่นทางหลวงถูกตัดขาด และการให้บริการอินเตอร์เน็ตมีปัญหาติดขัด

ด้านประธานธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐนิวยอร์ก พร้อมกับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐประสานความร่วมมือกัน ในการช่วยเหลือเพื่อปกป้องชีวิตและคุ้มครองทรัพย์สิน รวมถึงดูแลด้านสาธารณสุขและความปลอดภัยด้วย.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ใครรู้จักอิลลูมินาติ คงต้องรู้จักกับเกมส์ไพ่อิลลูมินาติด้วย และคงพอจะเดาเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในระดับโลกจากภาพวาดปริศนาที่อยู่ในไพ่แต่ละใบ เพราะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการวางแผนของคนโลภมากและคิดครอบครองโลกด้วยอุดมการณ์ของการมีรัฐบาลเดียวปกครองคนทั้งโลก ไร้ประเทศ ไร้อาณาเขตไร้พรมแดนด้วยแผนที่เรียกว่า New World Order

หนึ่งในแผนทั้งหมดก็คือเรื่องของระบบการเงินระดับโลก ที่ถูกทำให้เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขและสถานการณ์ต่างต่างๆ และสุดท้ายก็ต้องเป็นไปตามแนวทางที่ตั้งใจไว้ ดังไพ่ด้านบน ที่ท่านจะเห็นรูปของปลาใหญ่กินปลาเล็ก ดูจากภาพจะเห็นปลาดอลลาร์กินปลาเงินยูโร -จากนั้นปลา public Fund ของกฤษกินปลาดอลลาร์-และต่อมาก็จะถูกเงินหยวนกิน- และสุดท้ายปลาเงินหยวนก็จะถูกกินจากปลาตัวใหญ่ที่สุด(ในโลก) คืออิลลูมินาติ นั่นเอง อ่านรายละเอียดได้ใน
SMOKING GUN PROOF THAT ILLUMINATI PLANNED TERRIBLE EVENTS MANY YEARS AGO TO BRING DOWN OUR CULTURE: Part 3<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>

 

9 ก.ย. 54

น้ำปาด ปาดบ้าน ไปหลายหลัง
คงยัง ปาดคน เป็นว่าเล่น
ธรรมชาติ เร่งกวาด อย่างที่เห็น
อย่าใจเย็น เร่งความดี ไว้ป้องกัน

เขียนซ้ำ ย้ำเตือน ช่างน่าเบื่อ
แต่ทำเพื่อ คนดี มีคุณธรรม
ให้อยู่รอด ปลอดภัย จะได้จำ
เร่งกระทำ แต่ความดี ให้เร็วไว

คิดแต่แทง กึ๊ก กึ๊ก และกั๊ก กั๊ก
ยึ๊กยัก ว่าเกิด หรือไม่เกิด?
คิดเช่นนี้ ขอให้ ระวังเถิด
ถ้าหวยเปิด จะแก้ กันไม่ทัน

บ้างขอดู ผู้นำ และพื้นที่
จั๊กจี้ ตัวเอง เป็นนักหนา
อะแซวุ่นกี้ ขอดูตัว อตีตา
หรือเพราะว่า ต้องการ ปิคนิคกัน

บ้างเสียดาย เงินทอง ที่ต้องออก
ต้องขอบอก ไม่ออก กินอะไร?
ทุกพื้นที่ ต้องมี ของกิน ใช้
เก็บเอาไว้ ใช้จ่าย ยามจำเป็น

มีบางราย นำเงิน มาเป็นล้าน
ขอแบ่งปัน ที่ดิน ออกไปใช้
ต้องขอโทษ เช่นนี้ ทำไม่ได้
ขอขัดใจ แบ่งให้ ไม่ได้จริง

ที่ตรงนี้ คือที่ ที่กำหนด
ไม่โป้ปด ท่านแม่ ช่วยซื้อให้
อีกทั้งท่าน ดูแล คอยป้องภัย
มีเอาไว้ รองรับคน ยามมารมา

นี่คือเหตุ ที่ท่าน ไม่ได้ไป
มัวห่วงใย แต่ตัวเอง และทรัพย์สิน
ไม่คิดห่วง เพื่อนพ้อง ร่วมแผ่นดิน
เป็นเรื่องจริง ที่ตัวข้าฯ ประสบมา

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

เป็นกำลังใจให้ คุณ k97 ปัญหาเรื่องคนคงจะเยอะ ติดตามอ่านทุกข้อความที่คุณ โพสต์ นะคะ

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อุตุเตือนฉ.7ไทยตอนบนฝนตกหนัก </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center>ภาพจาก innnews</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 7 เรื่อง "ฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณประเทศไทย" ขณะ ชาวบ้านอุตรดิตถ์ยังผวากับเหตุน้ำป่าพัดถล่ม ด้าน จนท.เร่งเชื่อมต่อเส้นทาง -ทำบ้าน100หลังช่วย


ในช่วงวันที่ 9 - 12 กันยายน 2554 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก หลายพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในบริเวณ จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.ชัยภูมิ จ.นครราชสีมา จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.ยโสธร จ.ร้อยเอ็ด จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี จ.นครนายก จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาด เชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนพื้นที่ราบลุ่มริมน้ำบริเวณภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ให้เตรียมป้องกันระวังอันตรายจากปริมาณน้ำท่วมที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 2 - 4 วันนี้

ขณะชาวบ้านห้วยเดื่อ ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ 1 ใน 4 หมู่บ้าน หลายคนยังหวาดผวา หลังถูกน้ำป่าพัดถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย สูญหาย 7 ราย บ้านเรือนเสียหายกว่า 60 หลัง โดย ชาวบ้านซึ่งถูกน้ำป่าพัดถล่มจนบ้านพังเสียหายไปกว่า 20 หลัง บางส่วนไปพักอาศัยอยู่ ตามบ้านญาติ ส่วนอีกหลายครอบครัว รวมทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ไปพักอาศัยชั่วคราวในอาคารเรียนโรงเรียนบ้านห้วยเดื่อ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่เข้าไปตักเศษหินและเศษไม้ตลอดทั้งคืนเพื่อเชื่อมเส้นทางจากหมู่บ้านห้วยเดื่อไปยังบ้านต้นขนุน รวมทั้งอีก 2 หมู่บ้านที่ถูกน้ำป่าพัดถล่ม เพื่อให้การช่วยเหลือสะดวกขึ้น

ด้านนายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ อ.น้ำปาด เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้ง 4 หมู่บ้าน โดยกำชับให้เชื่อมต่อเส้นทางระหว่างหมู่บ้านให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งให้นำบ้านสำเร็จรูป 100 หลัง ไปให้ผู้ประสบภัยพักอาศัยชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ข้าวไทยโดนคุกคาม </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center>ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
เสาร์สบายๆ จะพาไปส่องกล้องดูเพื่อนบ้านใกล้เคียงเร่งเครื่องปลูกข้าวเพื่อส่งออกแข่งกับไทยขนานใหญ่ ไล่ตั้งแต่พม่าอดีตผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก 40 ปีที่แล้วราว 2 ล้านตัน/ปี ถือว่ามากในยุคนั้น

รายงานข่าวระบุว่าพม่าเริ่มส่งออกข้าวจากเมืองพะสิม ซึ่งเป็นศูนย์กลางเขตที่ราบลุ่มขนาดใหญ่เป็นแหล่งปลูกข้าวใหญ่ที่สุดของแม่น้ำอิรวดี ข้าวล็อตแรกส่งออก จำนวน 3,100 ตันไปฟิลิปปินส์

อาจจะไม่มากแต่นี่เป็นจุดเริ่มต้นหลังจากไม่มีการส่งออกมานาน

ที่สำคัญรัฐบาลพม่าสั่งเพิ่มผลผลิตข้าวและสินค้าเกษตรในลุ่มแม่น้ำอิรวดีอีก 30% ตั้งเป้าหมายส่งออกข้าวให้ได้ 2 ล้านตันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

น่าสนใจตรงที่พม่ายังมีแหล่งที่ปลูกข้าวพันธุ์ดีและใหญ่ที่สุดที่เขตพะโคใกล้ๆ กับกรุงย่างกุ้งซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำใหญ่ที่สุดและเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมพันธุ์ดีหลายชนิดอีกด้วย

ไม่ต้องพูดถึงเวียดนามที่เป็นรองแชมป์ส่งออกข้าวก็เร่งสปีดหวังกระชากแชมป์จากไทยให้ได้ ล่าสุดมีกลุ่มธุรกิจข้าวรายใหญ่ 2 กลุ่มเร่งตั้งโรงงานผลิตข้าวเพื่อส่งออก โดยกลุ่มแรกกำลังเร่งก่อสร้างโรงงานผลิตข้าวขนาดใหญ่อีก 2 แห่งในจังหวัดโด่งทาปเพื่อส่งออก โรงงานแรกผลิตได้ปีละ 4 แสนตัน โรงงานที่ 2 จะผลิตได้ประมาณปีละ 8 แสนตันมีพื้นที่ปลูกข้าว 1.5 หมื่นไร่คอยป้อน

ส่วนกลุ่มที่สองมีแผนจะตั้งโรงงานผลิตข้าวรวดเดียวอีก 4 แห่งภายในปี 2563 ในเขตปลูกข้าวแหล่งใหญ่ที่สุดของเวียดนามซึ่งข้าวที่ส่งออก 80% มาจากที่นี่

ขณะที่กัมพูชาก็เริ่มหันมาฟื้นนโยบายปลูกข้าวเพื่อ ส่งออกแข่งกับไทย ซึ่งมีนักลงทุนจากจีนมาตั้งโรงสีข้าวคุณภาพดีออกสู่ตลาด 2 แห่ง นอกจากนี้นักลงทุนฝรั่งเศสก็ขออนุญาตสร้างโรงสีขนาดใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดระดับมาตรฐานยุโรปในกัมพูชา

รัฐบาลกัมพูชาตั้งเป้าส่งออกให้ได้ 2 ล้านตัน/ปีในอีก 4 ปีข้างหน้า แถมยังโม้ว่าจีนชอบทานข้าวกัมพูชามากถึงขั้นให้เอ็กซิมแบงก์ของจีนปล่อยกู้เพื่อตั้งธนาคารข้าวกันเลยทีเดียว แม้แต่ลาวก็ไม่น้อยหน้าตั้งเป้าหมายส่งออกให้ได้ 1 ล้านตันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเช่นกัน

ตอนนี้ไทยกำลังจะโดนรุมกินโต๊ะหลังเป็นแชมป์มานาน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ฮุนเซนทูลขอพระเทพ ฯช่วยการศึกษา/สธ.กัมพูชา </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
(9 ก.ย.)สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงาน นายกมนตรีกัมพูชา "ฮุนเซน"ทูลขอสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ ให้ความช่วยเหลือประเทศกัมพูชาด้านการสาธารณสุขและการศึกษา ต่อไป

นับเป็นครั้งแรกที่ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากไทย หลังจากที่ 2 ประเทศเกิดการปะทะกัน บริเวณชายแดน เมื่อเดือนก.ค. 2551 จากการที่ปราสาทเขาพระวิหารได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยโฆษกนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เผยกับผู้สื่อข่าว หลังนายฮุน เซน หารือกับพล.อ.วาภิรมย์ มนัสรังษี รองสมุหราช องครักษ์ ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรี วานนี้ ( 8 ก.ย. )ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน รู้สึกเป็นพระกรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงช่วยพัฒนาภาคการสาธารณสุขและการศึกษาของกัมพูชา มาโดยตลอด จึงทูลขอพระองค์ให้การสนับสนุนต่อไป โดย พล.อ.วาภิรมย์ รับปากว่าจะนำความขึ้นกราบทูลต่อไป
สำนักข่าวซินหัว ระบุอีกว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงช่วยเหลือเรื่องการศึกษาของกัมพูชามานานกว่าทศวรรษ ด้วยการสร้างโรงเรียน และให้ทุนการศึกษา เช่นเดียวกับเรื่องสาธารณสุข โดยเฉพาะการต่อสู้กับโรคไข้มาลาเรีย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

สื่อนอกเผยคลิป ยูเอฟโอโผล่ ขณะเครื่องบินฮอกกีน้ำแข็งของรัสเซียตก
Mthainews: ภายหลังที่เครื่องบินรุ่น ยัค-42 ซึ่งโดยสารทีมโลโคโมทีฟ ยาโรสลาวิล ซึ่งเป็นแชมป์กีฬา ฮอกกีน้ำแข็งของรัสเซีย ประสบอุบัติเหตุ จนตกสู่พื้นโลก ใกล้แม่น้ำวอลกา เมืองยาโรสลาวิล เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 43 รายและรอดชีวิตเพียง 2 คน ซึ่งเครื่องบินลำดังกล่าว กำลังจะเดินทางไปยังกรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส เพื่อแข่งขันนัดแรก แต่ก็ประสบกับเคราะห์ร้ายเสียก่อน
<IFRAME height=345 src="http://www.youtube.com/embed/qCugES5K-3o" frameBorder=0 width=420></IFRAME>
ซึ่งวินาทีที่เครื่องบินลำนี้ก่อนที่ตกสู่พื้น มีการเผยแพร่ภาพวีดิโอที่อ้างว่า เป็นภาพยูเอฟโอ ปรากฎอยู่ที่บริเวณดังกล่าว โดยทางเว็บไซต์ UFO- the awareness of humanity ได้ระบุรายละเอียดของคลิปดังกล่าวว่า
ผู้บันทึกภาพคือนายยอเลกซีย์ วัย 30 ปี ผู้ซึ่งสนใจในเรื่องราวพิศวงของยูเอฟโอ หากสังเกตในวีดิโอ จะเห็นภาพยูเอฟโออยู่ข้างๆกลุ่มควันที่ลอยพุ่งขึ้นสู่องฟ้า

ทั้งนี้ นำไปสู่การคาดเดากันว่า ยูเอฟโอ มักจะสนใจเหตุการณ์สำคัญๆของชาวโลกอยู่บ่อยๆ โดยก่อนหน้านี้ยังพบว่า ยูเอฟโอ ปรากฎอยู่เหนือท้องฟ้าขณะที่ญี่ปุ่นประสบภัยสึนามิครั้งที่ผ่านมา

ซีเอ็นเอ็นได้รายงานว่า มีการพบวัตถุลึกลับ หรือ ยูเอฟโอ กลุ่มหนึ่งบริเวณสนามบินฮาเนดะ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ก่อนที่จะเกิดสึนามิ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม

<IFRAME height=345 src="http://www.youtube.com/embed/bDznPw4TFf0" frameBorder=0 width=420></IFRAME>
นอกจากนี้ เหตุการณ์พระราชพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมและเคต มิดเดลตัน ก็มีคยบันทึกภาพ ยานยูเอฟโอปรากฎเหนือมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ แอบเบย์ด้วยเช่นกัน
Mthainews




น่าเชิดชู ครูชนบทพิการแขน กับหน้าที่ ที่เป็นมากกว่าครู
Mthainews: เว็บไซต์ไชน่าเดลี่ นำเสนอเรื่องราวของครูพิการคนหนึ่ง ที่แม้สภาพร่างกายไม่เอื้อำนวยนัก แต่ก็ตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้แก่เด็กๆอย่างเต็มที่ที่สุด
เส้า จุน ครูชนบทวัย 43 ปี ผู้สูญเสียแขนขวา เมื่อ25 ปีที่ผ่านมาขณะที่ทำงานเป็นแรงงานต่างด้าว ด้วยความพิการทำให้ไม่สามารถทำงานหนักได้เหมือนคนอื่นๆ เขาจึงกลับมายังบ้านเกิดเมื่อ13ปีที่แล้ว โดยประกอบอาชีพเป็นครูชนบทในโรงเรียนประถม ตงซัน เขตส่านปิง มณฑลอานฮุย ทางตะวันออกของจีน
ทั้งนี้ ในโรงเรียนดังกล่าว มีนักเรียนทั้งหมด 13 คน ประกอบด้วยระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สิบคน และประถมศึกษาปีที่2 อีกสามคน

โดยครูเส้่า ทำหน้าที่สอนในระดับชั้น ป.2 ในทุกวิชา

เด็กๆที่เป็นลูกศิษย์ของครูเส้า กล่าวว่า นอกจากคุณครูจะให้ความรู้อบรมสั่งสอนแล้ว คุณครูยังเตรียมกับข้าวมาแบ่งปันแก่ลูกศิษย์ แถมยังเดินไปส่งกลับบ้านหลังจากเลิกเรียนอีกด้วย

คุณครูผู้พิการรายนี้ กล่าวว่า ตนมีความสุขในสิ่งที่เป็น แม้ว่าจะมีเงินเดือนเพียง 700 หยวน หรือประมาณ 3500 บาท แต่ก็ภูมิใจในหน้าที่ของความเป็นครู

ครูเส้ากล่าวเสริมว่า ที่โรงเรียนแห่งนี้ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือุปกรณ์ครบครัน แต่เด็กนักเรียนก็ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ซึ่งตนก็ตั้งมั่นว่า จะให้การศึกษาแก่เด็กน้อยเหล่านี้ อย่างดีที่สุด

Mthainews

 

เป็นกำลังใจ ให้คุณ K 97 ด้วยครับ ไม่ว่ายุคไหน ปีไหน ปัญหาเรื่องคน เป็นปัญหาที่กวนใจตลอดจริงๆ

 

ภัยพิบัติจะำไม่เกิด...ถ้าทุกๆคน ทำแต่กรรมดี...

​

ถาม : กรุงเทพฯ น้ำจะท่วมไหมคะ ?

ตอบ : กรุงเทพฯ น้ำท่วมเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ปีนี้ประหลาด..ประเทศจีน แล้งที่สุดในรอบ ๑๐๐ ปี อยู่ๆ ก็น้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ ๕๖ ปี พูดง่ายๆ ว่าแล้งจนชาวบ้านเขาจะตายกันหมดแล้วน้ำค่อยท่วม

ถาม : เราจะทำอะไรได้บาง ?

ตอบ : จะไปทำอะไรได้ เกิดจากการกระทำตัวเองทั้งนั้น สิ่งที่คุณทำคุณก็ได้ ช่วยกันทำเยอะๆ ก็ซวยมากหน่อย การกระทำทุกอย่างเป็นพลังงาน เมื่อเกิดพลังงานขึ้นก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง พลังงานในด้านดีก็ดึงแต่สิ่งดี ๆ เข้ามา พลังงานในด้านที่ไม่ดีก็เอาแต่สิ่งที่ไม่ดีเข้ามา ซึ่งส่วนใหญ่คนทำไม่ดีเสียมากกว่า

อย่าง วัดท่าขนุน อยู่ปากเขื่อนเลย ถ้าเขื่อนแตกเดี๋ยวนั้น รู้ตัวเดี๋ยวนั้น ก็หนียังไม่ทันเลย..!

ถาม : ถ้าเขื่อนแตก กี่นาทีน้ำจะมาถึง

ตอบ : ประมาณสัก ๒๐ วินาทีก็ถึงแล้ว จากแบบจำลองคอมพิวเตอร์ ตูมแรกที่มาจะสูง ๓๕ เมตร กี่ช่วงตัวของเราล่ะ ? ก็ประมาณตึก ๑๒ ชั้นหลังจากนั้นประมาณ ๓ ชั่วโมงครึ่ง น้ำจะไปถึงกาญจนบุรีด้วยความสูงที่เหลือ ๑๑ เมตร ถัดจากนั้นอีก ๒ ชั่วโมง มาถึงกรุงเทพฯ เหลือราวๆ ๖ เมตร คนอยู่กรุงเทพฯ มีเวลาเตรียมตัว ๕ ชั่วโมงกว่า

อย่าไปกังวลอะไรในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง พระพุทธเจ้า ท่านตรัสไว้ อตีตัง นานวาคะเมยยะ นัปปฏิกังเข อนาคะตัง อย่าไปกังวลถึงอดีต และอย่าฟุ้งซ่านถึงอนาคต ปัจจุปันนัญ จะ โยธัมมัง ตัตถะ ตัตถะ วิปัสสะติ อยู่กับปัจจุบันธรรมเท่านั้นจึงจะรู้แจ้งได้

สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔

ที่มา www.watthakhanun.com

 

10 ก.ย. 54

ขอขอบคุณ ทุกคุณ ที่ติดตาม
ในบทความ ที่ลง ให้ได้อ่าน
ส่งน้ำใจ ฝากมา ให้ชื่นบาน
ช่วยประสาน กำลังใจ ให้ยืนยง

องค์อินทร์ ๙๗

ปล. ปกติผมจะส่งบทความผ่านคุณ Lazaza แนวร่วมขอนแก่น พอดีวันนี้ Hotmail มีปัญหา เลยลงมาเล่นเฉพาะกาล

 

น้ำจากภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน ที่มาขณะนี้
ก็พยายามบอกว่า จะพยายามช่วยกทม.
แต่ หลายจังหวัดที่ทำเขื่อนกันน้ำ กลับพบว่าน้ำบนดินกั้นได้โดยสร้างเขื่อนให้สูงไว้
แต่น้ำใต้ดินมาเมื่อใด ก็น่าคิด
กทม. กัันเขื่อนไว้เพื่อน้ำบนดิน แต่น้ำใต้ตินคิดแล้วหรือยัง (ก็ท่อระบายน้ำ คลองระบายน้ำ)