ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ภัยจากสงครามจักรวาลระหว่างดวงดาว !!!​

​

มหันตภัยของโลก

มหันตภัยที่กำลังคุกคามโลกมนุษย์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต พอสรุปได้ดังนี้

1. ภัยจากน้ำท่วม และมลภาวะสิ่งแวดล้อม
2. ภัยจากสงครามเศรษฐกิจ
3. ภัยจากสงครามพลังจิต
4. ภัยจากสงครามโลกครั้งที่ ๓
5. ภัยจากสงครามจักรวาลระหว่างดวงดาว
6. ภัยจากอุกกาบาตขนาดยักษ์ ที่หลุดจากดวงอาทิตย์ กำลังเดินทางมาชนโลก

"ถึงเวลาแล้วที่มนุษย์เราควรจะดำรงชีวิตอยู่อย่างธรรมชาติ ปฏิบัติยึดมั่นในปัญจศีล พัฒนาจิตใจให้มีคุณธรรม ศีลธรรม เพื่อให้ธรรมนำโลก ก็คงจะช่วยผ่อนคลายจากหนักเป็นเบา ในการที่มนุษย์จะเผชิญมหันตภัยข้างต้นได้ไม่มากก็น้อย..."

**เชื่อหรือไม่เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนตัวของท่าน**

คัดจากหนังสือ" วิธียุติสงครามจักรวาล " พล.ต.ต. พิบูลย์ ภาษวัธน์ รวบรวม

ที่มา http://www.4floor.com/nextcom/sawasdee3/2000/book1-4.html

เรียบเรียงข้อมูลการวีวของผมทุกบทความ มีทั้งปริศนา Nibiru/2010-2012/NWO/Fallens..etc.

โดยคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->echonight<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3680685", true); </SCRIPT> สมาชิกเว็บพลังจิต

ต่อไปนี้คือข้อมูลของการวีวของผมจากบทความที่ผ่านมาของผม ตอนนี้จะนำมาเรียบเรียงให้เป็นกระทู้เดียวเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนะครับ

บทความนี้เป็นช่วงที่ผมเริ่มวีวครั้งแรกๆนะครับ

ฟังนะครับ อีกไม่เกิน 2 เดือนจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในอเมริกา น่าจะบริเวณแคลิฟอร์เนีย ส่วนสิ่งที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ผมเห็นเสากระแสไฟฟ้าแรงสูง หลายต้นในอลาสก้า ปล่อยสนามพลังงานทีี่ยิ่งใหญ่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์นี้ ประมาณเดือน สิงหาหรือกันยายน จะเกิดสึนามิขนาดใหญ่ทางฝั่งตะวันตก ของอเมริกา พัดกระจายเข้าประเทศต่างๆ ในแถบนั้นย่อยยับไปด้วย เช่น ฮาวาย ฟิจิ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ ฯลฯ หลังจากนี้ไม่นาน จะเกิดสงครามครั้งใหญ่ ผมไม่แน่ใจว่าอาจจะเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ภูเขาไฟหนึ่งในลูกที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างภูเขาไฟที่เยลโลวสโตนส์ จะระเบิดครั้งใหญ่ โลกจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็งขนาดย่อม แกนแม่เหล็กโลกจะลดเหลือไม่กี่เกาท์ ทะเลและแหล่งน้ำจะเดือดเป็นบางจุด!!

หลังจากนั้นน่าจะสองสามปี แทบไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆเหลืออยู่บนผิวโลก พวกผู้คนและสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ใต้อุโมงค์ขนาดใหญ่ ทุกที่ทั่วโลกจะออกมาจัดตั้งประเทศอีกครั้ง แต่มีแค่ประเทศเดียวและรัฐเดียวปกครองทั้งโลก และหลังจากนั้นผมเห็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากเหนือสิ่งที่เคยพบเห็นมาก่อน มันคืออภิมหาสงครามขนาดใหญ่ ที่กระจายอยู่ทุกหย่อมหญ้าบนโลก ดิน น้ำ บนอากาศ เต็มไปด้วยแสงเลเซอร์และเปลวเพลิง มันน่าขนลุกมากที่ได้เห็นว่ามนุษย์เปลี่ยนไปได้ยังไง?? พวกเขาบางคนมีคนตัวใหญ่มาก มีเขา มีปีกอีกด้วย!! มียานอวกาศลอยเต็มฟ้าไปหมด ให้ตายเถอะ!! และเมื่อสงครามจบลง .... ผมเห็นโลกใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง แต่มันแปลกมาก ดูเหมือนรีโมท วีวอิ้งของผมจะมาได้ไกลสุดแค่นี้

เมื่อคืน ผมวีวเลยไปดูอีก 6 ปีนับจากนี้ คือปี 2016 ตอนนั้นมีเมืองที่ใหญ่มากได้ยินเรียกขานกันว่า อัสตาน่า มีคนตัวใหญ่มีเขา มีปีกยืนอยู่บนแท่นคล้ายๆกับเป็นการปราศัย เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษในช่วงแรก ได้ยินประมาณว่า นิวเวิร์ล ออเดอร์ คำเนี้ยได้ยินบ่อย (น่าจะแปลว่ารายการหรือระเบียบโลกใหม่) และคำว่า ฟอลเล็น แองเจิ้ล ที่ได้ยินบ่อยพอหลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นภาษาอะไรไม่รู้ เขาพูดท่ามกลางฝูงชน ที่มีแถวของมนุษย์อย่างเราและแถวของคนที่ตัวใหญ่มาก บ้างก็มีปีก มีเขา ผมเห็นมีธงที่เหมือนธงของอิสราเอล แต่ตรงกลางธงเป็นรูปสามเหลี่ยม มีดวงตาอยู่ข้างในและรูปดาวหกแฉกอยู่ในวงกลมอยู่ข้างๆกัน ธงนี้ตั้งตระหง่านอยู่หน้าตึกรูปหกเหลี่ยม

น่าแปลกที่ผมไม่เคยเห็นเครื่องบินที่มีปีกเหมือนอย่างในปัจจุบันแม้แต่ลำเดียว ผมเห็นแต่เครื่องบินทรงกลมแบนลำใหญ่และมันบินเร็วกันมากๆ! ทำให้ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าหลังจากเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆผ่านไป 4-5 ปีสิ่งที่ผมเห็นอยู่เบื้องหน้าคือ โลกที่เปลี่ยนไปอย่างมาก โลกที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้ามากชนิกตรงกันข้ามกับปัจจุบันโดยสิ้นเชิง แต่ผมเห็นค่ายทหารขนาดใหญ่จำนวนมาก มากกว่าที่จะเห็นเมืองที่เต็มไปด้วยฝูงชนแออัดยัดเยียดเหมือนในปัจจุบัน มีเครื่องบินรูปทรงกลมและอาวุธขนาดใหญ่อยู่เต็มค่ายหทารไปหมด! ดวงจันทร์และดาวอังคารก็มีโดมอยู่มากมาย และในปี 2020 สงครามก็ได้เกิดขึ้น

เมื่อผมเห็นยานอวกาศขนาดใหญ่ ประมาณดวงจันทร์ได้ หรืออาจใหญ่กว่าซะอีกจำนวน 11 ลำลอยอยู่ไกล้โลก ไม่รู้ว่ามันมาจากไหนกันแน่ ตรงตัวยานปรากฎสัญลักษณ์รูปจานกลมๆมี ปีกและมีตัวอักษรภาษาอะไรไม่รู้อยู่ ด้านล่างตรานั้น มีจานบินได้บินว่อนออกมาไล่ยิงกันเต็มท้องฟ้าไปหมด ผมเห็นลำแสงขนาดใหญ่ถูกยิงจากโลกขึ้นไปเป็นระยะๆ และแล้วยานลำใหญ่ 4 ลำก็ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ปรากฎเป็นภาพลูกไฟขนาดใหญ่อยู่ในอวกาศ ยานที่เหลืออีก 7 ลำจึงถอยร่นออกไปอยู่บริเวณดาวอังคาร แต่ยังมียานขนาดเล็กบินออกมาอยู่เป็นระยะๆเต็มห้วงอวกาศไปหมด ทำให้สงครามขยายวงกว้างออกไปไกลขึ้น

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะ ดูเหมือนว่าพวกเรากำลังถูกกองทัพมนุษย์ต่างดาวรุกราน และเหมือนว่าเรากำลังสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกมนุษย์ต่างดาวอีกกลุ่มด้วย พวกเรากำลังสู้กับพวกที่มีปีกและมีเขา รูปร่างเหมือนกับพวกที่ร่วมสู้กับเรา อย่างไรอย่างนั้น และมีพวกที่หัวโต ดาโตสีดำใหญ่ตัวเล็กๆด้วย ทำให้ผมนึกถึงเอเลี่ยนเกรย์ขึ้นมาทันที! ใช่เลย เกรย์แน่ๆ! ..สงครามครั้งนี้ยืดเยื้ออยู่อีกประมาณ 2 วันจนกระทั่งได้ยุติลง ผมไม่สามารถบอกได้ว่ามันยุติลงอย่างไร แต่มันช่างสะเทือนใจผมมากจริงๆ ผมบอกได้เพียงว่า อีกไม่นาน โลกใบนี้กำลังจะเปลี่ยนไป...ตลอดกาล

--------------------------------------------------------------------------------------

บทความนี้ผมได้ไปวีวย้อนดูหลายครั้ง และได้ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจนกระจ่างแล้ว หลังจากวิวย้อนไปดูอดีตจึงทราบมาว่า ในอดีต ยานยักษ์พวกนี้ถูกใช้ขนาบโลกเพื่อ ใช้แรงดึงดูดดึงน้ำให้ไหลท่วมไปตามทวีปต่างๆ ทั่วโลก และนั่นคือยุคของโนอาห์นั่นเอง ยุคน้ำท่วมโลกในสมัยพระคำภีร์ไบเบิ้ล

ผมไม่สามารถรู้ได้ว่าหลังจากดูอนาคต แล้วมันจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ไหมนะ รู้แต่ว่าถ้ามันไม่เปลี่ยน พวกเราจบเห่แน่ ๆ ตอนนี้มีมนุษย์หลายกลุ่มพยายามจะต่อต้านและต่อสู้กับฝ่ายมืด (ขอเรียกแบบนี้ละกัน) และมีอยู่กลุ่มนึงที่เรียกว่า กลุ่ม Indigo ซึ่งเคลื่อนไหวใต้ดินอย่างลับๆ พวกนี้เป็นพวกที่ปลุก DNA แล้วและมีความสามารถพิเศษต่างๆ ซึ่งผมไม่สามารถมองได้ไปไกลมาก เลยไม่รู้ว่าในอนาคตพวกนี้จะรอดเงื้อมมือ ฝ่ายมืดไปได้หรือไม่ พวกนี้อาจจะเป็นความหวังหนึ่งเดียวของพวกเรา ที่จะรักษามนุษย์เจนเนอเรชั่น นี้ให้ดำรงอยู่และสร้างอารยธรรมของ พวกเราต่อไปตราบนานเท่านาน...

<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->echonight<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3680685", true); </SCRIPT> 19-08-2010, 09:02 PM

อะไรคือ วีว อ่ะค่ะ งง ???

ภาษาอังกฤษคำว่า View หรอ ??

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->mamboo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3681028", true); </SCRIPT> 20-08-2010, 01:51 AM

เรื่องวีว ของจขกท. มีอ่านที่กระทู้นี้ จ้ะ
Remote Viewing และการฝึกพลังจิตขั้นพื้นฐาน<!-- google_ad_section_end -->

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->k.kwan<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3681041", true); </SCRIPT> 20-08-2010, 01:54 AM

ที่มา http://palungjit.org/threads/เรียบเรียงข้อมูลการวีวของผมทุกบทความ-มีทั้งปริศนา-nibiru-2010-2012-nwo-fallens-etc.253533/

 

ที่ไม่ให้เข้าใกล้ เพราะคนจมน้ำมีอาการ Panic

บางครั้งผู้ช่วยชีวิต สามารถต่อยให้สลบได้ครับ หรือ ต้องเข้าด้านหลัง ดีที่สุด อยู่ที่การประเมินสถานการณ์ด้วย ให้เราปลอดภัยที่สุดครับ

 

ผู้บริโภคโอย!! พาณิชย์เล็งไม่ตรึงราคาสินค้า
ในวันที่ 30 กันยายนนี้ จะครบกำหนดระยะเวลา มาตรการขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้า ซึ่งนางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้เตรียมหารือกับผู้ผลิตสินค้าในชีวิตประจำวัน กลุ่มของใช้ส่วนตัว กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อที่จะรับทราบสถานการณ์ต้นทุนการผลิต
ทั้งนี้ คงจะไม่มีการขยายเวลาบังคับใช้มาตรการต่อไป เนื่องจากได้ต่ออายุมาแล้วถึง 4 ครั้ง เพื่อความเป็นธรรมในการดูแลราคาสินค้ากับทุกฝ่าย
หากสินค้ารายใดมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจริง ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการขึ้นราคาได้ ก็คงต้องพิจารณาเป็นรายๆไป แต่ตนเชื่อว่าผู้ผลิตจะไม่ปรับราคาสินค้าให้สูงมากนัก แม้กำลังซื้อของประชาชนจะมีแนวโน้มสูงขึ้น
นอกจากนี้นค้าหลายรายการอยู่ในภาวะที่แข่งขันสูงในตลาด ทำให้การพิจารณาปรับขึ้นราคาสินค้า ต้องเป็นไปตามภาวะตลาด มิเช่นนั้นแล้ว อาจทำให้ยอดจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการปรับตัวลดลงได้
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>บินจีนหลุดรันเวย์รอด 49 ดับอื้อ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เครื่องบินโดยสารของจีน พุ่งออกนอกรันเวย์ ส่งผลดับเพียบ เดชะบุญรอด 49 คน

วันนี้ (25 ส.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เครื่องบินโดยสารของสายการบิน "เหอหนาน แอร์ไลน์" ของจีน

ได้ประสบอุบัติเหตุพุ่งออกนอกรันเวย์ระหว่างลงจอด ที่สนามบินหลินตู มณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อเวลา 21.36 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 20.36 น. ตามเวลาประเทศไทย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 คน บาดเจ็บ 49 ราย

สำหรับเครื่องบินลำดังกล่าว เป็นเครื่องบินโดยสารรุ่น เอ็มเบรเออร์ อีอาร์เจ-190 ซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 91 คนและลูกเรือ 5 คน เดินทางออกจากเมืองฮาร์บิน เมืองหลวงของมณฑล ก่อนประสบอุบัติเหตุ.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หมอมึน!ตี๋วัย10เดือนหนัก20ก.ก.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เอเอฟพีรายงานว่า วันที่ 24 ส.ค. แพทย์จีนในเมืองฉางชา มณฑลหูหนาน ตอนกลางของจีน

พยายามหาทางรักษาทารกเพศชายวัยเพียง 10 เดือน แต่กลับมีน้ำหนักตัวมากถึง 20 กิโลกรัม เทียบเท่ากับเด็กอายุ 6 ขวบ มีสุขภาพแข็งแรงดี คลิปตี๋น้อยร่างยักษ์เผยแพร่บนเว็บข่าวของมณฑลหูหนานเป็นภาพของเด็กรูปร่างอ้วนจ้ำม่ำนั่งอยู่ในเปล เล่นของเล่นและยิ้มแย้มอย่างมีความสุขให้กล้อง มีคนตั้งฉายาให้ว่า "เด็กมิชลิน" เพราะแขนเป็นลอนจ้ำม่ำคล้ายตัวมาสคอต สัญลักษณ์ของยางยี่ห้อมิชลิน

ทารกดังกล่าว ถูกนำตัวมาที่โรงพยาบาลเด็กตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา เพราะป่วยเป็นไข้หวัด

พ่อแม่กล่าวว่า ลูกชอบดูดนมจากอกแม่และนอนหลับ แพทย์กล่าวว่า ยังไม่พบสาเหตุที่ทำให้ทารกรายนี้รูปร่างใหญ่โตผิดปกติ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นผลพวงจากปัญหาโรคอ้วนของเด็กสมัยนี้และเตือนผู้ปกครองให้ควบคุมน้ำหนักตัวลูกๆ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคต
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

"มินดอลเล" ถล่มเวียดนาม สังเวยแล้ว 4 ศพ

• 25 สิงหาคม 2553 เวลา 11:21 น.

<SCRIPT>var fbShare = {url: 'http://bit.ly/9Nr8Wp' }</SCRIPT><SCRIPT src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.js"></SCRIPT>

<!-- end facebook-share --><!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->พายุโซนร้อนมินดอลเล ที่พัดถล่มเวียดนามเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีผู้สียชีวิตแล้ว 4 ราย สูญหายอีก 10 ราย
รัฐบาลเวียดนาม เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน "มินดอนเล" ที่พัดถล่มเวียดนามวานนี้ ได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 4 ราย ขณะที่มีผู้สูญหายอีก 10 ราย
คณะกรรมการควบคุมพายุและน้ำท่วมแห่งชาติเวียดนามเปิดเผยว่า พายุโซนร้อนมินดอนเลยังทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 20 คน หลังจากพัดถล่มชายฝั่งทางตอนกลางค่อนไปทางเหนือของประเทศ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ภัยพิบัติในเมืองดานัง ระบุว่าของทางการยังคงพยายามค้นหาชาวประมง 10 คนที่สูญหายไป ขณะพยายามหาที่หลบพายุ พร้อมกันนี้ ยังระบุด้วยว่า พายุดังกล่าวได้ทำลายบ้านเรือนกว่า 4,000 หลัง และพื้นที่นาข้าวถึง 62,000 เอเคอร์
รายงานยังระบุด้วยว่า ล่าสุดพายุโซนร้อนมินดอนเลได้อ่อนกำลังลงกลายเป็นดีเปรสชั่น และคาดว่าจะค่อย ๆ สลายตัวไป

 

พระราชทานสิ่งของ ช่วยเหลือชาว"แพร่"

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมว่า ชาวจังหวัดแพร่ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ คืออำเภอสอง อำเภอลอง อำเภอร้องกวาง และอำเภอวังชิ้นกว่า 3,065 ครอบครัว ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์นำสิ่งของมามอบให้กับผู้ประสบภัยโดย เมื่อเวลา 10.00 น.ที่วัดบุญภาค หมู่ที่ 5 ต.แม่ยางร้อง อ.ร้องกวาง นาย<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1ersonName>แผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ผู้แทนพระองค์ฯ นำถุงยังชีพมาแจกจ่าย ให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยมีนาย<st1ersonName w:st="on" ProductID="สมชัย หทยะตันติ">สมชัย หทยะตันติ</st1ersonName> ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวรายงาน และต้อนรับ <O</O​

เวลา 12.30 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร และ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดเกล้าให้ พลอากาศตรีสรชัย ชีวกลินศักดิ์ ผู้อำนวยการ กองงานพระวรชายาฯ ผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพและสิ่งของจำนวน 850 ถุง มามอบให้กับประชาชนที่องค์การบริหารส่วนตำบลแม่พุง อ.วังชิ้น โดยมีนาย เสรี คัมภีรธัมโม รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวต้อนรับ <O</O
และเวลา 14.00 น. นาย<st1ersonName w:st="on" ProductID="อภัย จันทนจุลกะ">อภัย จันทนจุลกะ</st1ersonName> รองประธานมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย ผู้แทนพระองค์ นำสิ่งของมามอบให้กับประชาชนที่หอประชุมโรงเรียนวังชิ้นวิทยา และ มอบสิ่งของให้ประชาชนที่อำเภอวังชิ้นด้วย โดยมีนายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวรายงานและให้การต้อนรับคณะ ซึ่งผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดแพร่ โดยเฉพาะในอำเภอวังชิ้น ตั้งแต่วันที่ 2-11 สิงหาคม และ วันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและ ที่ทำกิน นาข้าว บ่อปลา พื้นที่การเกษตร แต่ทางจังหวัดแพร่ได้เข้าไปสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือแล้ว ขณะที่ชาวจังหวัดแพร่ ทุกคน ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยพสกนิกรที่ประสบภัยในครั้งนี้

<O</O​

"สกลนคร"ฝนถล่มทั้งวัน <O</O​

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สกลนคร ว่า จากสภาพอากาศที่มึดครึ้มปรากฏว่า มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และตลอดทั้งวัน ครอบคลุมไปทั่วบริเวณพื้นที่ 18 อำเภอ ทำให้แหล่งน้ำหลายแห่งมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหนองหาร ปริมาณกักเก็บ 266 ล้านลูกบาศก์เมตร <O</O
ขณะนี้มีปริมาณน้ำ 100 เปอร์เซ็นต์ ที่เขื่อนน้ำอูน ระดับน้ำกักเก็บ 520 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้ปริมาณน้ำ 182 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 38 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่มีอยู่ 34 เปอร์เซ็นต์ และเขื่อนน้ำพุงปริมาณกักเก็บ 165 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำ 78 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 49 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากฝนตกติดต่อกันเหนือเขื่อนอย่างนี้ คาดว่าจะได้น้ำเข้าเขื่อนอย่างเต็มที่ โดยในภาพรวมปริมาณน้ำทั้งเขื่อน และอ่างเก็บน้ำ 33 แห่ง มีปริมาณน้ำทั้งหมด 1,070 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้ปริมาณน้ำ 592 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 57 เปอร์เซ็นต์ <O</O
ทางด้านนาย<st1ersonName w:st="on" ProductID="สมจิต เข็มทอง">สมจิต เข็มทอง</st1ersonName> ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยา สกลนคร กล่าว ออกประกาศเตือนว่าเนื่องจากมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายวัน จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และที่ราบลุ่ม ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม

<O</O​

เขื่อนดินพังท่วม"สุโขทัย"​

มีรายงานข่าวจาก แจ้งว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ได้ไหลเข้ากัดเซาะเขื่อนดินคลองต้นข้อ หมู่ 8 บ้านบางคลอง ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย จนทรุดตัวพังลงมา ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่นาข้าว หมู่ 1 , 3 , 6 , 7 , 8 ของ ต.ปากแคว , ต.ตาลเตี้ย และ ต.บ้านสวน อ.เมืองสุโขทัย ได้รับความเสียหายกว่า <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="10,000 ไร่">10,000 ไร่</st1:metricconverter> <O</O
ขณะที่ชาวบ้านหมู่ 3 และหมู่ 8 ที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองต้นข้อ ต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินภายในบ้าน ไปไว้ในที่ปลอดภัย เพราะกลัวว่าบ้านจะพังถล่มลงมา เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลทะลักเข้าท่วมมีความแรงมาก ด้าน องค์การบริหารส่วนตำบลปากแคว ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากเขื่อนดินคลองต้นข้อ อาจถูกกระแสน้ำพัดพังขยายวงกว้างมากขึ้น <O</O
สำหรับความเสียหายทั้งจังหวัด ล่าสุดพบมี 6 อำเภอ 45 ตำบล 379 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 74,482 คน หรือ 17,877 ครัวเรือน ส่วนพื้นที่การเกษตร เช่น นาข้าวได้รับความเสียหาย <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="68,957 ไร่">68,957 ไร่</st1:metricconverter> , พืชไร่ <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="622 ไร่">622 ไร่</st1:metricconverter> และพืชสวน <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="450 ไร่">450 ไร่</st1:metricconverter> นอกจากนี้ยังมีถนน 112 สาย , ฝาย 37 แห่ง และคันดินริมแม่น้ำยมเสียหาย 4 แห่ง <O</O

อุตุฯเตือนพายุมินดอนเล <O</O​

เย็นวันเดียวกัน สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศเตือนภัยฉบับที่ 6 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2553 เกี่ยวกับพายุ "มินดอนเล " (Mindulle)" ว่า เมื่อเวลา 16.00 น. พายุโซนร้อน"มินดอนเล " (Mindulle) บริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="200 กิโลเมตร">200 กิโลเมตร</st1:metricconverter> ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดนครพนม ประเทศไทย หรือที่ละติจูด 18.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 106.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง <O</O
คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองวิญ ประเทศเวียดนามในคืนวันเดียวกัน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ในภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งที่อาจเกิดขึ้น ในระยะนี้

 

ข้อสิบ คนไทยเลี้ยงลูกไม่เป็น


เห็นด้วยอย่างแรง ถึงยอมออกจากงาน ขาดรายได้ มาปลูกฝังลูกตั้งแต่เริ่มวัยอนุบาล
เมื่อเวลาผ่านไปสักครึ่งปี สิ่งที่ปลูกฝังในจิตใจเขาก็เริ่มงอกงาม เราก็เริ่มชื่นใจ


ถ้ามีโอกาส อยากมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการศึกษาเหมือนกัน เพราะคนวางหลักสูตรไม่ได้เรียน ส่วนคนที่เรียนจริงๆก็ไม่มีโอกาสได้มีส่วนร่วมในหลักสูตรการศึกษา เมื่อฐานไม่ดี ยิ่งเรียนสูงยิ่งโงนเงน เอาเป็นว่าเราขอเริ่มที่ลูกเราก่อนแล้วกัน เพราะเราเองก็เป็นประชาชนธรรมดา ไม่มีสิทธิ์ไปแก้กฏหมาย ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ

 

วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 13:02 น. ข่าวสดออนไลน์


น่าน-ฝนตกหนัก ภูเพียง รับมือน้ำท่วมฉับพลัน

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>

หลังฝนตกหนักติดต่อกันตลอดทั้งคืน จนถึงขณะนี้ ส่งผลให้วันที่ 25 ส.ค. เกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยที่วัดทุ่งน้อย ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน ชาวบ้านต้องช่วยกันนำกระสอบทรายกว่า 50 ลูก มาปิดกั้นน้ำไม่ให้ไหลทะลักเข้าท่วมในบริเวณวัด ป้องกันโบราณสถานได้รับความเสียหาย ขณะที่ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยแฮด และอ่างเก็บน้ำบ้านนิคม ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และน้ำเริ่มล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้วกว่า 50 หลังคาเรือน

ล่าสุดเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ฝายแก้ว เร่งออกสำรวจสถานการณ์น้ำและช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ พร้อมเฝ้าระวังสะพานไม้ในหมู่บ้านทุ่งน้อย ที่กำลังถูกกระแสน้ำเชี่ยวกราก และหากทรุดพัง จะส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 20 หลังคาเรือน อาจถูกตัดขาดจากโลกภายนอกได้

นายอำนวย กันฟอง รองนายก อบต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง เปิดเผยว่า ในพื้นที่ตำบลฝายแก้ว มี 9 หมู่บ้านที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน ได้แก่ บ้านแสงดาวพัฒนา ม.17 บ้านแสงดาว ม.2 บ้านดงป่าสัก ม.10 บ้านทุ่งน้อย ม.4 บ้านแหด ม.12 บ้านบุปผาราม ม.9 บ้านนิคม ม.15 บ้านปัวชัย ม.7 และ บ้านท่าล้อ ม.1 ราษฎรกว่า 2,000 ครัวเรือน อาจได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำป่าหลากและน้ำท่วมฉับพลัน


ชาวนาวังชิ้นเดือดร้อนหนักน้ำป่าพาหินท่วมนา

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>

จากกรณีที่ฝนตกหนักติดต่อกันในพื้นที่จ.แพร่ ล่าสุดชาวนาใน บ้านแม่พุงหลวง ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ กว่า 100 ครอบครัว เรียกร้องให้ทางการเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูนาข้าวที่ได้รับความเสียหายจากน้ำป่าโดยเร็วก่อนที่จะหมดฤดูกาลทำนาปีนี้ เนื่องจากน้ำป่าพาหินภูเขาทับต้นข้าวที่กำลังจะโต ชาวนานอกจากจะถูกน้ำป่าท่วมนาข้าวและพื้นที่เกษตรแล้วยังถูกก้อนหินทำลายพืชไร่ด้วย


ด้านนายติ๊บ หล้าบือ ชาวนาที่ได้รับผลกระทบในบ้านแม่พุงหลวง กล่าวว่า นาข้าวของตนที่กำลังเจริญเติบโตดี ได้รับความเสียหายจากน้ำป่าไปกว่า 5 ไร่พื้นที่นาของเพื่อนบ้านก็เช่นกันเสียหายไปกว่า 100 ราย




หนุ่มอ้วน 350 ก.ก. วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

ท้องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กลัวแตก

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
เมื่อ 24 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบผู้ป่วยโรคอ้วน น้ำหนักตัวกว่า 350 กิโลกรัม ล้มป่วยลง นอนรอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ ที่บ้านเลขที่ 153/0 ถ.ศรีธรรมโศก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ป่วยทราบชื่อนายอรรฐพณ หรือปิ๊ก แดงค้ำคุณ อายุ 32 ปี เป็นบุตรชายคนที่ 4 ของนายถวัลย์ และนางจินตนา แดงคำคุณ ซึ่งได้เสียชีวิตแล้ว ในพี่น้อง 5 คน นอนทรมานอยู่บนเตียงในบ้าน โดยอาศัยเครื่องช่วยหายใจประทังชีวิตมากว่า 1 เดือนแล้ว

นายพิภพ แดงค้ำคุณ อายุ 38 ปี พี่ชายของนายอรรฐพณ อยู่บ้านเดียวกัน อาชีพขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กล่าวว่า น้องชายเป็นโรคอ้วนมาตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ จนกระทั่งถึงวัยหนุ่ม น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยน้ำหนักตัวกว่า 350 กิโลกรัม แต่ก็ยังเป็นกำลังหลัก ทำงานอาชีพค้าขายพ่อค้าขายน้ำเร่ เพราะเขาเป็นคนอัธยาศัยดี มีลูกค้ามากมาย ซึ่งคนในตัวเมืองนครศรีธรรมราชรู้จักเขาดี ซึ่งนายอรรฐพณจะหารายได้เจือจุนครอบครัว เป็นผู้ส่งเสียให้น้องสาวคนสุดท้อง คือนางสาวเปรมวดี แดงค้ำคุณ เรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี

กระทั่งเมื่อประมาณต้นเดือนมิถุนายน 2553 นายอรรฐพณมีอาการหน้าท้องแข็งหายใจไม่ออก ท้องเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่สามารถเดิน ยืนหรือนั่งได้ตามปกติ ทำให้ต้องหยุดขายน้ำตนและน้องๆ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หรือโรงพยาบาล มอ.สงขลา ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่า เป็นโรคอ้วน โดยมีน.พ.ศิวศักดิ์ จุทอง อาจารย์แพทย์เป็นหัวหน้าทีมแพทย์ผู้รักษา ซึ่งคณะแพทย์ได้ทำการรักษาตามหลักการแพทย์และให้ลดอาหาร ไปจนถึงอดอาหาร ให้ยาลดไขมัน เป็นเวลา 20 วัน แต่ความอ้วนยังไม่ลดลงแต่อย่างใด

ล่าสุดได้รับคำยืนยันจากแพทย์ที่ทำการรักษาว่าทางโรงพยาบาล ไม่สามารถรักษาน้องชายให้หายจากโรคอ้วนเป็นปกติได้ จึงได้ตัดสินใจนำตัวนายอรรฐพณมาพักรักษาตัวที่บ้าน อย่างไรก็ตามยังได้รับความเมตตาและความอนุเคราะห์ จากทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ให้ยืมเครื่องช่วยหายใจมาใช้เป็นการชั่วคราว เนื่องจากช่วงเวลาที่ท้องแข็งและท้องโตเขาจะหายใจไม่ออก

เมื่อกลับมาบ้าน นายอรรฐพณมีสภาพหน้าท้องแข็งขึ้นตามลำดับ มีน้ำเหลืองไหลเยิ้มออกมาจากลูกอัณฑะแทบตลอดเวลา ไม่สามารถนอนตะแคงไปทางด้านขวาได้ ขาด้านขวาลีบเพราะต้องรองรับน้ำหนักหน้าท้องตลอดเวลา ที่ห่วงที่สุดคือที่ท้องของเขาที่โตและขยายใหญ่ขึ้นทุกวันจนมีลักษณะเหมือนกระดองเต่ายักษ์หรือท้องกระทะขนาดใหญ่ และมีเส้นเลือดเส้นโลหิตฝอยปรากฏที่ต้องเต็มไปหมด เกรงว่าจู่ๆ เขาท้องแตกขึ้นมาจะยุ่งกันใหญ่

นายอรรฐพณเอง กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกวิตกกังวลมาก เพราะน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะท้องโตขึ้นเรื่อย กลัวว่าท้องจะระเบิด ท้องแตก กลัวมาก ผมรู้ว่าในท้องผมนอกจากตับไตไส้พุงและไขมันแล้ว มันมีลมเข้าไปอยู่มากด้วย ไม่รู้ว่าลมเข้าไปอยู่ได้อย่างไร ยิ่งมีลมมากท้องโตมาก ท้องยิ่งแข็งแล้วมีอาการปวด และการที่ต้องนอนโดยไม่ได้ทำงานมันทรมานมาก อยากให้มีผู้ใจบุญช่วยนำตัวไปรักษาให้หายจากโรคโดยเร็ว อยากมีสภาพร่างกายเหมือนคนอื่นๆ จะได้ทำงานช่วยเหลือครอบครัวได้ เงินที่เก็บไว้ ก็นำมาใช้จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลจนหมดสิ้น พี่น้องที่เหลือ 4 คน แต่ละคนหาเช้ากินค่ำ บ้านที่อยู่นี้เช่าเขาอยู่ แต่ละคนยังไม่มีครอบครัว ลงขันกันจ่ายค่าเช่าบ้าน พ่อแม่เสียชีวิตไปหมดแล้ว ทุกวันนี้ ต้องละทิ้งการงานไว้ก่อน

ทางครอบครัวกล่าวว่า ถ้าหากมีผู้ใจบุญยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ก็ขอขอบพระคุณ อยากให้น้องชายมีชีวิตยืนยาวกว่านี้ อยากจะไปรักษาที่กรุงเทพฯ แต่ไม่มีเงิน หากมีหน่วยงานหรือองค์กรการกุศล ที่พอจะมีกำลังหรือพอจะให้ความช่วยเหลือให้ความอนุเคราะห์ด้วย




เครื่องบินโบราณ




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>



</TD></TR></TBODY></TABLE>
กัปตัน มิกาเอล คาร์ลสัน ชาวสวีเดน เตรียมนำเครื่องบินรุ่น เบลรอยต์ XI ซึ่งบูรณะแล้ว เหินโชว์ในกรุงสตอกโฮล์ม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงานรำลึก 100 ปีเที่ยวบินที่หนักกว่าอากาศ หรือ heavier-than-air flight ในประเทศสวีเดน (ภาพ-เอเอฟพี)






เรือย้อนยุค



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>



</TD></TR></TBODY></TABLE>เรือคลิปเปอร์ สตัด อัมสเตอร์ดัม และเรือโกเธบอร์ก จากสวีเดน เรือใบสมัยศตวรษที่ 18 ท <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>



</TD></TR></TBODY></TABLE>ี่นำมาสร้างใหม่นำมาอวดโฉมในขบวนแล่นเรือใบ วันเปิดเทศกาลเดินทะเลอัมสเตอร์ดัม 2010 ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจัดขึ้นทุก 5 ปี งานดังกล่าวมีเรือกว่า 500 ลำล่องมาเป็นขบวน ทั้งเรือรุ่นมรดกของชาวดัตช์ เรือรบ เรือร่วมสมัย คึกคักอยู่ในแม่น้ำเมืองอัมสเตอร์ดัม

แข่งตากล้อง

เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>



</TD></TR></TBODY></TABLE>นายไซมอน ซาปป์ ตากล้องผู้นิยมบันทึกภาพชีวิตสัตว์ป่า เตรียมตั้งกล้องไว้ ถ่ายรูปลูกสุนัขจิ้งจอก เพศเมีย อายุ 5 เดือน ชื่อ เจสซี่ ในอุทยานเมืองแอส เฮิร์สต์ เกาะอังกฤษ

แต่ยังไม่ทันเล็งโฟกัส เจ้าจิ้งจอกออกอาการอยากจะกดชัตเตอร์เองซะแล้ว!!

"ผมหันไปแป๊บเดียว หันมาอีกที เจ้าหล่อนก็สำรวจกล้อง แล้วก็ขึ้นไปเอาขาหน้าวางที่กล้อง พอผมเอาเมมโมรี่การ์ดไปดู ทึ่งมากเลย เพราะมีรูปที่เจสซี่ถ่ายรูปผม ย้อนที่ผมถ่ายรูปมันด้วย" ไซมอนกล่าว

...ไงล่ะ เจอ"ปาปาราซซี่"น้องใหม่ไฟแรงเข้าให้!!

ซากสัตว์ 100 ตัวโผล่แม่น้ำ



เมื่อ 24 ส.ค. เดลี่เมล์รายงานว่า กองทุนการกุศลซีเคร็ต เวิลด์ เผยว่าพบสัตว์กว่า 100 ตัว แต่ละตัวผอมโซ ถูกนำมาทิ้งในแม่น้ำซอมเมอร์เซ็ตให้อดตาย เป็นภาพที่ชวนสลดเวทนาต่อผู้ที่พบเห็น ตำรวจกำลังสอบสวนหาต้นตอเจ้าของสัตว์เหล่านี้ ซากสัตว์กว่า 100 ตัว มีทั้งเป็ด แมวและพังพอน พอลีน คิดเนอร์ เจ้าหน้าที่องค์กรกล่าวว่า พังพอนกำลังแทะซากแมวตายอยู่ในกรงตอนที่ไปพบ เป็นภาพที่เห็นแล้วหดหู่ใจมาก ที่สัตว์ถูกปล่อยทิ้งให้อดตาย สภาพแต่ละตัวแย่มาก

พบน.ร.ขายตัวหาเงินท่องราตรี



ชุมพร - นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการพัฒนากลไกศูนย์ประสานงานประชาคมเอดส์ จังหวัดชุมพร กล่าวในตอนหนึ่งว่า ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งและยังไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้คือ กลุ่มแอบแฝงที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวนอกจากพนักงานหญิงบริการและแรงงานข้ามชาติแล้ว คือเด็กนักเรียนและนักศึกษาหญิงที่เช่าบ้าน เช่าหอพัก และอพาร์ตเมนต์อยู่กันอย่างอิสระไม่มีผู้ปกครองดูแล

เนื่องจากอยู่ห่างไกลบ้านและสายตาผู้ปกครอง มีความเชื่อผิดๆ ที่มองว่าการเป็นหญิงบริการหาเงินได้ง่ายและสุจริตไม่ผิดกฎหมาย ได้รับการถ่ายทอดและติดต่อกันทางอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่จะนัดเจอกันตามร้านอาหาร เมื่อได้เงินอย่างง่ายๆ จะนำเงินที่ได้ไปเที่ยวกลางคืนและซื้อของใช้ราคาแพงตามกระแสแฟชั่นนิยม ถือว่าเป็นกลุ่มที่เข้าถึงได้ยากที่สุด เพราะมีการระวังตัวกันเป็นอย่างดี มีแกนนำเป็นหญิงประเภทสองและไม่เปิดเผยตัว เท่าที่ทราบโรงแรมม่านรูดบางแห่งจะมีรูปหญิงที่ให้บริการ

"โคราช"พร้อมรับโลว์คอสต์แอร์



นครราชสีมา - นายประวัติ ดวงกันยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่ต.หนองเต็ง อ.เฉลิมพระเกียรติ เผยถึงการเตรียมความพร้อม กรณีบริษัท แฮปปี้แอร์ ทราเวิลเลอร์ส จำกัด ผู้ให้บริการสายการบินไม่จำกัดเส้นทางทั้งในและต่างประเทศ ที่จะมาลงทุนเปิดเส้นทางการบินในรูปแบบโลว์คอสต์แอร์ กทม.-นครราชสีมา และเชียงใหม่-นครราชสีมา ว่าทุกอย่างมีความพร้อม เนื่องจากที่ผ่านมา สนามบินนครราชสีมาไม่ได้ปิดตามที่หลายฝ่ายเข้าใจ ยังคงเปิดให้บริการตลอดทุกวัน เพียงแต่ไม่มีเครื่องบินพาณิชย์มาใช้บริการมาตั้งแต่ก.ค.ปี" 47 ที่ผ่านมา ระบบเกี่ยวข้องกับการบินทุกอย่างจึงมีการตรวจสอบและได้รับการบำรุงรักษามาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็มาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ด้านนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครราชสีมา กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า นับเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับจังหวัดนครราชสีมา ที่เป็นเมืองหน้าด่านของเส้นทางสู่ 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีศักยภาพความพร้อมในการคมนาคมทั้งรถยนต์ และรถไฟ ขาดแต่เพียงสายการบินเท่านั้น หากแฮปปี้แอร์สามารถผ่านปัญหา อุปสรรค ที่สายการบินอื่นๆ เคยมาลงทุนแล้วล้มพับกลางคัน จากสาเหตุจำนวนผู้โดยสารไม่คุ้มกับต้นทุนการบิน ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการจะมองแต่เพียงเส้นทางกทม.-โคราช ที่ใช้เวลาการเดินทางไม่ต่างจากการเดินทางด้วยรถยนต์ จึงมีจำนวนผู้โดยสารไม่คุ้มกับต้นทุนการบินแต่ละเที่ยว

เส้นทางการบินนี้ จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับภาคธุรกิจ ต่อยอดไปถึงจำนวนนักท่องเที่ยว และการประชุม สัมมนา จากหน่วยงานต่างๆ ที่เรามีโรงแรม ที่พัก และแหล่งท่องเที่ยวรองรับไว้ เมื่อมีความสะดวกสบายในการเดินทาง ผลที่ตามมาก็จะมีคนมาเยือนเพิ่มมากขึ้น เงินก็จะไหลเข้าสู่ท้องถิ่น

ครม.อนุมัติ 6.2 หมื่นล้าน พัฒนาโครงการ สุวรรณภูมิ เฟสสอง
หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 24 สิงหาคม 2553 13:58:55 น.<STYLE>.expanded { width: 620px; z-index: 9999 }</STYLE>
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในปีงบประมาณ 2554-2559 ในวงเงิน 6.2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ นายโสภณ กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นการดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์เชื่อมอาคารหลัก และการสร้างหลุมจอดเครื่องบินเพิ่มเติม แต่ไม่มีการสร้างรันเวย์ที่ 3 แต่อย่างใด เนื่องจากเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นในขณะนี้ เพราะรันเวย์ที่มีอยู่สามารถรองรับได้ถึง 76 เที่ยวบิน แต่มีเที่ยวบินจริงๆ เพียง 40 เที่ยวบินเท่านั้น

 

หลัง 30 ก.ย.

ราคาสินค้า อุปโภค บริโภค คงปรับตัวสูงขึ้น

ไหนจะเรื่องภัยพิบัติ พายุ น้ำท่วมอีก พืชผล การเกษตร คงเดือดร้อน ไปตามๆ กัน

ถ้าราคามันขึ้นสูงจริง น่าจะรีบๆซื้อมากักตุนใช้เอง น่าจะดีครับ

 

ทอร์นาโด ที่บราซิล น่ากลัวมาก

<embed id="flashPlayer" src="http://video.sanook.com/player/playerver1.swf" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" flashvars="contentId=415991&embed=true&autoplay=false&repeats=false" width="425" height="305">

 

*** อนาคต น้ำจะมากเหมือนในอดีต ****

ลดทิฐิมานะ...
ต้องฟังเหตุผลหลายๆฝ่าย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "




สภาวะโลกร้อน ทำให้น้ำทะเลท่วมสูง
<!-- Main -->[SIZE=-1]สภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งขั้นโลกละลายและน้ำทะเลท่วมสูง เป็นเรื่องที่พูดกันบ่อยๆ และมักจะถามกันว่าเมื่อถึงเวลานั้น น้ำจะท่วมประเทศไทยมากแค่ไหน

[SIZE=-1]เรื่องนี้อาจหาได้จากหลักฐานโบราณ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาที่โลกร้อนครั้งก่อนหน้านี้ คือในสมัย Medieval Warm Period ช่วงเวลาที่ไวกิ้งเข้าไปตั้งถิ่นฐานบนเกาะกรีนแลนด์ ช่วงนั้นโลกน่าจะร้อนกว่าปัจจุบันพอสมควร น้ำแข็งแถบขั้วโลกน่าจะละลายไปมาก ทำให้น้ำทะเลท่วมสูง [/SIZE]



ช่วงที่โลกร้อนในสมัย Medieval Warm Period ตรงกับสมัยทวารวดี จะเห็นว่าแผนที่สมัยทวารวดี ทะเลกินแดนลึกเขาไปถึงอ่างทอง แต่พอถึงสมัยสุโขทัยโลกก็เย็นลง และเข้าสู่ยุค Little Ice Age น้ำแข็งเริ่มสะสมตามขั้วโลกอีกครั้ง ทำให้ระดับน้ำทะเลลดลง และที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่างก็โผล่พ้นน้ำอีกครั้ง



ทะเลเคยท่วมภาคกลางจริงหรือ

ประเด็นที่น้ำทะเลเคยท่วมที่ราบลุ่มภาคกลางในสมัยทวารวดี แต่กลับกลายเป็นแผ่นดินในสมัยปัจจุบัน มักจะถูกแย้งว่าเกิดจากการทับถมของตะกอน ไม่ใช่เกิดจากการที่ระดับน้ำทะเลลดลง

เราคงต้องดูแผนที่โบราณประกอบ แผนที่ข้างล่างนี้มาจากจดหมายเหตุลาลูแบร์ ราชฑูตที่มาเยือนกรุงศรีอยุธยาในสมัยพระนารายณ์มหาราช พศ 2230 จะเห็นว่าปากแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อ 320 ปีก่อนอยู่แถวๆ อ.เมืองสมุทรปราการ



ลองเทียบดูกับแผนที่ปากน้ำเจ้าพระยาในสมัยปัจจุบัน



[/SIZE]จะเห็นว่า 320 ปีผ่านไป แผ่นดินบริเวณปากแม่น้ำงอกออกมาได้ไม่กี่กิโลเมตร ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ทะเลโบราณในสมัยทวารวดีเมื่อพันปีก่อน จะถูกตะกอนทับถมจนเต็มในสมัยสุโขทัยซึ่งห่างกันประมาณสามร้อยปี ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาพอๆกันกับจากอยุธยาตอนปลายจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ตำแหน่งเมืองโบราณในสมัยทวารวดี จะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปัจุบันประมาณ 3-3.5 เมตร รวมทั้งบางเมืองยังมีหลักฐานการขุดคูคลองออกสู่ทะเลในช่วงเวลาคาบเกี่ยวที่น้ำทะเลเริ่มลด เป็นหลักฐานที่ควรสันนิษฐานว่าระดับน้ำทะเลได้ลดลง ไม่ใช่เกิดจากทะเลตื้นเขินจนกลายเป็นแผ่นดิน<!-- End main-->

<TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="50%">[SIZE=-1]Create Date : 04 ธันวาคม 2550 [/SIZE]</TD></TR><TR><TD width="50%">[SIZE=-1]Last Update : 9 ธันวาคม 2550 22:20:55 น.[/SIZE]

BlogGang.com : : ������


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ไขปมปริศนามนุษย์ต่างดาว เชื่อ เป็นมนุษย์หุ่นยนต์ มากกว่า สิ่งมีชีวิต
เป็นปริศนารอการพิสูจน์กันอยู่ สำหรับมวลมนุษย์เกี่ยวกับ มนุษย์ต่างดาว โดยดร.เซ็ธ โชสแท็ค ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์จากสถาบันวิจัยด้านสิ่งมีชีวิตนอกโลกในมลรัฐแคลิ ฟอร์เนียของสหรัฐฯ หรือ “เอสอีไอไอ”ออกมาระบุว่า
มวลมนุษย์ของเรามีโอกาสได้พบเจอกับมนุษย์ต่างดาวที่เป็นหุ่นยนต์ หรือ “เครื่องจักรกลไก” ที่มีความคิดอ่าน มากกว่าที่จะพบกับสิ่งมีชีวิตแบบตัวเป็นๆ
เนื่องจากในโลกของพวกต่างดาวนั้น มีความ เจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอย่างมาก และความก้าวหน้าดังกล่าว น่าจะทำให้เผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่อยู่ในจักรวาลมีความสามารถในการสร้างหุ่นยนต์หรือ “เครื่องจักรที่มีความคิด” คล้ายกับภาพยนตร์เรื่อง “A.I. Artificial Intelligence” เมื่อปี 2001
แนวคิดนี้สอดคล้องกับความเชื่อของ ไบรอัน วิลสัน แอลดิสส์ นักเขียนนิยายแนววิทยาศาสตร์ชื่อดังของอังกฤษ วัย 85 ปี ซึ่งเขาออกมาสนับสนุนว่า มีความเป็นไปได้ เนื่องจากการสร้างเครื่องจักรที่มีความคิดเหล่านี้ดูจะเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพในการสืบทอดอารยธรรมของเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในจักรวาล มากกว่าการส่งผ่านอารยธรรมผ่านสิ่งมีชีวิตรูปแบบเดิมๆ
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ที่ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก ส่วนใหญ่ยังคงเชื่อว่าพวกต่างดาวสามารถสัมผัสจับต้องได้เหมือนกับตัว “อีที” ในภาพยนตร์เรื่องดังของฮอลลีวูดเมื่อปี 1982 ซึ่งดร.เซ็ธ โชสแท็ค มองว่าไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานหรือการพิสูจน์ใดๆว่า มนุษย์ต่างดาวนั้น มี “เนื้อหนังมังสา” ที่สามารถจับต้องได้ตามจินตนาการของมนุษย์บนโลก
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ไทยตอนบนฝนตกชุก กทม.ร้อยละ60ของพื้นที่มีฝน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ลักษณะอากาศเช้าวันนี้(26 ส.ค.)ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เตือนอันตรายน้ำท่วมฉับพลัน ขณะที่ กทม. ร้อยละ 60 ของพื้นที่ มีฝนตกหนัก....

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 26 ส.ค.เมื่อเวลา 04.00 น. ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคเหนือตอนบน และประเทศลาว

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนัก บางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านโดย เฉพาะพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะ 1-2 วันนี้

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะลันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้คลื่นลมบริเวณทะลันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือระยะนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคเหนือ
มีฝนเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปางลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย นครพนม และสกลนคร อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตะลึงชาวบ้านอินเดียถูกฟ้าฝ่าตายมากถึง25 ศพ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>พบชาวอินเดีย ถูกฟ้าผ่าตายในรัฐพิหารและรัฐฌาร์ขัณฑ์ ทางตะวันออก ตายมากถึง 25 ศพ


วันนี้ 26 ส.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่เปิดเผย ว่าวันที่ 25 ส.ค. พบชาวบ้านอย่างน้อย 25 ราย

ถูกฟ้าผ่าตายในรัฐพิหารและรัฐฌาร์ขัณฑ์ ทางตะวันออกของอินเดีย ระหว่างที่มรสุมฤดูฝนกำลังซัดถล่มพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ฝนอันเชี่ยวกรากและลมกรรโชกแรงขุดรากถอนโคนต้นไม้ ก่อความเสียหายแก่บ้านเรือนราษฎร และกวาดสายไฟฟ้าลงมากองกับพื้นถนนทั่วรัฐที่ยากแค้นแห่งนี้เมื่อค่ำคืนวันอังคาร(24)

ส่วน นิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ก็ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักนานนับเดือนเช่นกัน และทำให้การเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาเครือจักรภพในเดือนตุลาคม ล่าช้ากว่ากำหนด


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>จยย.ปาหิน! โดนคืนเดียว5คัน ตร.เร่งล่าตัว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วัยรุ่นกำแพงเพชร ซิ่งจยย.ปาหินใส่รถบรรทุกกระจกเสียหาย คืนเดียว 5 คันรวด เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจสอบ ขณะที่ผู้เสียหายเมินแจ้งความ หลังต้องรีบไปส่งของตามที่นัดหมาย.....

เมื่อวันที่ 26 ส.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุ รถบรรทุกพ่วง 5 คันรวด

ถูกรถจักรยานยนต์ย้อนศรขว้างหินใส่กระจกเสียหายที่ จ.กำแพงเพชร จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบ รถบรรทุกพ่วง ยี่ห้อฮีโน่ สีแดง หมายเลขทะเบียน 80-3857 ตาก จอดอยู่ข้างถนนบริเวณด่านชั่งน้ำหนัก ถ.พหลโยธิน ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร สภาพกลางกระจกหน้ารถมีรอยถูกกระแทกด้วยของแข็งอย่างแรง จนกระจกร้าวเป็นวงกว้างประมาณ 50 ซม.

นายสมชาย พิมพ์สวรรค์ คนขับรถพ่วง เล่าว่า เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณปากทางเข้าวัดทรัพย์นิมิต ถ.พหลโยธิน

ซึ่งเป็นเนินทางขึ้น จึงชะลอความเร็ว มีชายลักษณะวัยรุ่น 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน แยกกันขับด้วยความเร็วย้อนศรสวนมาบนไหล่ทางทั้งสองฟากถนน คันที่อยู่ไหล่ทางด้านขวาใช้ก้อนหินขว้างใส่หน้ากระจกกระทบดังสนั่น จนกระจกร้าวเป็นรอยดังกล่าว ตนจึงขับรถต่อไปจนถึงด่านชั่งน้ำหนัก แล้วโทรศัพท์แจ้งศูนย์กู้ชีพ

ขณะที่รถบรรทุกพ่วงอีกคัน ซึ่งบรรทุกปูนซีเมนต์จาก จ.สระบุรี เพื่อไปส่งที่ จ.ตาก ก็ถูกหินปาใส่เช่นกัน

สภาพคิ้วกันน้ำบนขอบประตูด้านคนขับแตกเสียหาย และไฟราวด้านบนหลังคาห้องโดยสารแตก โดยนายแสงจันทร์ ก๋องป๊ก เล่าว่า ขับรถมาเป็นคันที่ 3 ไม่รู้ว่า 2 คันหน้าถูกขว้างหินก่อนแล้ว จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า มีรถบรรทุกถูกขว้างหินใส่จำนวน 5 คัน มีคันหนึ่งกระจกแตกหลุดออกมาทั้งบานเกลื่อนถนน แต่คนขับต้องรีบไปรับลำไยตามเวลานัดที่ จ.เชียงใหม่ จึงไม่ได้อยู่แจ้งความ.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สหรัฐห้ามยุ่ง มาร์คกร้าว ต้องรอส่งบูท</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>นายกรัฐมนตรี กร้าวรัฐบาลสหรัฐไม่มีสิทธิ์กดดันไทย ชี้ ต้องจอดเครื่องบินตบยุงรอ ป้อง"ศิริโชค โสภา" มีสิทธิ์เปิดห้องขัง พบ "วิกเตอร์ บูท" ยันไม่มีต่อรองให้ป้ายสี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

นายอภิสิทธิ์ เวชชาวชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาส่งเครื่องบินมารอรับตัวนายวิคเตอร์ บูท ผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามข้ามชาติว่า มันเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องบินมาเมื่อไหร่ดังนั้นเครื่องบินต้องจอดรอ เพราะว่าเราต้องมีกระบวนการที่จะต้องไปทำงานของเราอยู่ เพราะมีทั้งข้อกฎหมาย มีทั้งคดีที่สองที่สหรัฐยื่นมาและประเด็นรายละเอียดเรื่องแนวปฏิบัติด้วย สำหรับคดีที่สองที่สหรัฐยื่นถอนฟ้องนั้น นายกฯ กล่าวว่า อัยการเป็นผู้ส่งฟ้องฉะนั้นส่วนนี้ต้องไปหารือกันว่าจะเดินต่อไปอย่างไร

ส่วนตามกระบวนการที่ค้างอยู่แบบนี้ภายในเวลา 3 เดือนจะพิจารณาทันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าไม่ทันกฎหมายอนุญาตขยายเวลาในคดีแรกได้อยู่แล้ว ถ้าสมมติว่าถ้าคดีที่สองมันเดินไป คดีแรกก็ไม่ได้มีปัญหาว่าจะต้องส่งตัวกลับภายใน 90 วัน จริงๆแล้วมันยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องได้ข้อยุติก่อน ตนก็จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจะได้พูดคุยซักซ้อมทำความเข้าใจกัน

ด้านทางการสหรัฐจะเข้าใจกระบวนการดังกล่าวของฝ่ายไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สหรัฐฯควรจะเข้าใจว่าจริงๆแล้วกระบวนการยังไม่จบตามกฎหมายเป็นดุลพินิจของฝ่ายบริหารอีกชั้นหนึ่งด้วย ดังนั้นไม่ควรจะเข้าหรือมากดดันอะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นเรื่องที่เราจะดำเนินการของเรา

ส่วนหาก สหรัฐฯถอนคดีไปตอนนี้จะทันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องไปถามอัยการและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องอีกที อัยการเป็นผู้ส่งฟ้อง ส่วนการจะแสดงเจตนาถอนฟ้องเข้าใจว่าสหรัฐจะไปยื่นที่กระทรวงการต่างประเทศ แต่คนถอนต้องเป็นอัยการ ซึ่งจะปรึกษาหารือกันก่อนเพราะมันมีหลายแง่มุม ดังนั้นรัฐบาลยังพอมีเวลา เรื่องนี้เป็นดุลพินิจของฝ่ายไทย และเป็นไปตามกฎหมายของเราไม่เกี่ยวกับว่าเครื่องบินมาจอดรอนานเท่าไร และไม่มีการการเตะถ่วงมันเป็นสิทธิ์ของเราว่าเราจะดำเนินการตามความเหมาะสมอย่างไร ตนว่าทุกประเทศต้องเคารพอธิปไตยและสิทธิของแต่ะประเทศที่มีตามกฎหมาย ตามสนธิสัญญา เราไม่ไปบิดพลิ้วไม่ไปปฏิบัติตามกฎหมายหรืออะไรทั้งสิ้น เราจะทำตามกฎหมายตามข้อตกลง แต่อะไรที่เป็นดุลพินิจของเราเรามีเวลาในการดำเนินการมันป็นสิทธิ์ของเรา ด้านจำเป็นต้องพูดคุยกับทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีการสอบถามมาจะยืนยันไปตามนี้ เพราะเป็นสิทธิของเราที่จะพิจารณา และเงื่อนเวลามีอยู่ในกฎหมาย ซึ่งเราดำเนินการตามเงื่อนไขของกฎหมาย

ต่อข้อถามว่า ฝ่ายของรัสเซียมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เนื่องจากเรื่องนี้มีความกระทบกระเทือน ซึ่วเราก็ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ดังนั้นจะมาบอกว่าต้องยุติภายใน 1-2 วันมันเป้นไปไม่ได้ เพราะเราต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศของเราก่อน ส่วนจะกลายเป็นว่าขณะนี้ประเทศไทยอยู่ตรงกลางระหว่างประเทศมหาอำนาจสองประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่ ก็เป็นธรรมดา แต่ถ้าเราสามารถทำทุกอย่างได้ตรงไปตรงมาและสามารถอธิบายได้หรือหาทางออกที่ดีได้จะเป็นประโยชน์ที่สุด ตนจึงได้ย้ำกับทุกหน่วยงานว่าอย่าไปตกอยู่ภายใต้การกดดันของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เราต้องพิจารณาตามกฎหมายและสนธิสัญญา รวมถึงการยึดถือผลประโยชน์ของชาติ ในฐานะรัฐบาลมีหน้าที่ในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกมิตรประเทศ และมิตรประเทศของเราก็ควรจะต้องเข้าใจถึงการที่เราต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้

ต่อข้อถามว่าทำไมทางการสหรัฐฯ และรัสเซียจึงมีความต้องการตัวนายบูทเป็นพิเศษ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามทั้ง 2 ประเทศว่าทำไมจึงมีความวิตกกังวลกันมาก ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศก็ยืนยันว่าผู้ต้องหาคนดังกล่าวมีความสำคัญกับทั้งสองประเทศ ซึ่งเราก็ทราบมาตั้งแต่ต้น ตนจึงย้ำว่าเราจะดำเนินการตามข้อตกลงและกฎหมาย รวมถึงยึดผลประโยชน์ของชาติโดยจะดำเนินการด้วยความรอบคอบและคำนึงถึงสัมพันธไมตรีกับมิตรประเทศทุกประเทศ และเราก็คาดหวังว่ามิตรประเทศจะเข้าใจเราเช่นกันว่าการดำเนินการใดๆเมื่อมีความละเอียดอ่อน มีกฎหมายและมีสนธิสัญญากำกับอยู่เราต้องดำเนินการตามความถูกต้อง

ส่วนกรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ คนสนิทเดินทางไปพบกับนายบูทในเรือนจำจนถูกวิจารณ์ว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีประเด็นเรื่องการไปใช้อำนาจอะไรทั้งสิ้น แต่เรื่องนี้คงต้องถามนายศิริโชค ทั้งนี้ตนเข้าใจว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ออกมายืนยันทั้งหมดแล้วว่าไม่มีกรณีที่ไปใช้อำนาจ หรือการไปต่อรองอะไรทั้งสิ้น แต่คนที่ต้องรับผิดชอบคำพูดมากกว่าคือคนที่สร้างเรื่องขึ้นมา และสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลและกระบวนการยุติธรรม เพราะมันใช่เรื่องจริง เมื่อถามว่า ส.ส.สามารถเข้าไปผู้ต้องหาในเรือนจำได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาชนธรรมดาก็เข้าไปได้ เพราะทุกอย่างมีระเบียบอยู่

แต่การที่ นายบูท เป็นผู้ต้องหาคดีสำคัญและคดีระหว่างประเทศถือว่าเหมาะสมที่นายนศิริโชคจะเข้าไปหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีสิทธิ์และกฎระเบียบอยู่ ส่วนการเข้าไปเยี่ยมนายบูทคงต้องถามนายศิริโชคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตนไม่ได้เป็นคนมอบหมายให้นายศิริโชคไปพบกับนายบูท แต่เมื่อไปพบมาแล้วตนก็ได้สอบถามเรื่องที่นายศิริโชค พยายามอธิบายต่อสภาฯเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา และเห็นได้ว่าแม้จะมีผู้เสนอข้อมูลมามากเกี่ยวกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐบาลไม่เคยปรักปรำอะไรต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเราฟังข้อมูลจากทุกด้าน

ด้านคดีของนายบูท เกี่ยวโยงกับคดีเครื่องบินสัญชาติจอร์เจียที่ขนอาวุธจากเกาหลีเหนือมาจอดที่ประเทศไทยอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูด เมื่อเรารับข้อมูลอะไรมาเราก็นำมาพิจารณาเท่านั้นและไม่เคยไปกล่าวหาใคร แต่คนที่กล่าวหารัฐบาลถ้ามาอยู่ในฐานะเดียวกับพวกตนและได้เห็นข้อมูลหลายอย่าง ป่านนี้คงสร้างเรื่องใหญ่โตไปแล้ว แต่เราให้ความเป็นธรรมกับทุกคนว่าถ้าแม้มีผู้ส่งข้อมูลเข้ามา หลักฐานและพยานไม่ชัดเจนเราก็ไม่ไปกล่าวหาและปรักปรำใคร
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ชาวนาวังชิ้นเดือดร้อนหนักน้ำป่าพาหินท่วมนา

<STYLE>P { MARGIN: 0px}</STYLE>

จากกรณีที่ฝนตกหนักติดต่อกันในพื้นที่จ.แพร่ ล่าสุดชาวนาใน บ้านแม่พุงหลวง ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ กว่า 100 ครอบครัว เรียกร้องให้ทางการเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูนาข้าวที่ได้รับความเสียหายจากน้ำป่าโดยเร็วก่อนที่จะหมดฤดูกาลทำนาปีนี้ เนื่องจากน้ำป่าพาหินภูเขาทับต้นข้าวที่กำลังจะโต ชาวนานอกจากจะถูกน้ำป่าท่วมนาข้าวและพื้นที่เกษตรแล้วยังถูกก้อนหินทำลายพืชไร่ด้วย


ด้านนายติ๊บ หล้าบือ ชาวนาที่ได้รับผลกระทบในบ้านแม่พุงหลวง กล่าวว่า นาข้าวของตนที่กำลังเจริญเติบโตดี ได้รับความเสียหายจากน้ำป่าไปกว่า 5 ไร่พื้นที่นาของเพื่อนบ้านก็เช่นกันเสียหายไปกว่า 100 ราย




อันนี้ ดูจากภาพแล้วเป็นการไปทำนาในทางน้ำ หรือเรียกว่า ห้วย ที่ไหลลงมาจากภูเขา ถ้าน้ำมาก็ต้องท่วมอยู่แล้ว เพราะน้ำก็ต้องไหลมาตามทางของเขา ระวังหน่อยเน้อ อย่าไปทำนาที่แบบนี้อีก แล้วจะไม่เสียหายค่ะ

 

ดินเค็มอีสานขยายตัว กรมพัฒนาที่ดินเร่งเดินหน้าแก้วิกฤตสกัดการเป็นทะเลทราย

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2553 09:02:41 น.

นายฉลอง เทพวิทักษ์กิจ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เผยว่า ปัญหาดินเค็มมีการขยายพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรบางแห่งถูกทิ้งร้างเกิดความแห้งแล้ง และมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการแปรสภาพเป็นทะเลทรายได้ในอนาคต ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างถูกหลัก ทั้งนี้จากผลการสำรวจพบว่าดินเค็มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอยู่ประมาณ 11.5 ล้านไร่ แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ดินเค็มจัด 0.3 ล้านไร่ ซึ่งพื้นที่นี้ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ พื้นที่ดินเค็มปานกลาง 3.8 ล้านไร่ และพื้นที่ดินเค็มน้อย 7.3 ล้านไร่ ที่สำคัญยังพบพื้นที่รับน้ำอีกจำนวน 19.4 ล้านไร่ ที่สามารถแพร่กระจายความเค็มได้หากมีการจัดการไม่เหมาะสม
กรมฯจึงมีนโยบายแก้ปัญหาดินเค็มแบบบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยในพื้นที่ดินเค็มจัด ไม่สามารถทำการเกษตรได้ จะเร่งฟื้นฟูด้วยการปลูกไม้ยืนต้นทนเค็มและหญ้าชอบเกลือ ทำคูคลองระบายน้ำ เพื่อชะลอเกลือออกจากผิวดินและควบคุมระดับน้ำใต้ดินไม่ให้อยู่ใกล้ผิวดิน ส่วนพื้นที่ดินเค็มน้อยและปานกลางนั้นส่วนใหญ่เป็นนาข้าวจะใช้วิธีล้างดินเค็มด้วยน้ำฝน คือขังน้ำฝนไว้ในนาให้ซึมลงใต้ดินจนอิ่มตัวแล้วระบายน้ำทิ้งประมาณ 2-3 ครั้งแล้ว จึงไถพรวนและเพิ่มอินทรียวัตถุให้ดิน เช่น ปุ๋ยคอก แกลบ หรือปุ๋ยพืชสดเพื่อให้ดินอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ส่วนพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายดินเค็มนั้นจะจัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำและปลูกไม้ยืนต้น เพื่อป้องกันการเพิ่มเติมระดับน้ำใต้ดินเค็มบนพื้นที่รับน้ำ

ทั้งนี้กรมฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ดินเค็มภาคอีสานมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่และพืชเจริญเติบโตได้ดี ช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตข้าวนาปีเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 288.2 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 318.4 กิโลกรัมต่อไร่

 

น่าจะฉวยวิกฤติเป็นโอกาสที่ดี
เก็บหินสวยๆมาขาย น่าจะดีกว่า
...

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ดินสไลด์ทรุดตัว 12 จุด!! ผวจ.น่านสั่งเตรียมอพยพชาวบ้านขึ้นที่สูง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 สิงหาคม 2553 17:49 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000119319&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เหตุดินสไลด์ทรุดตัว 12 จุด เกิดขึ้นตามแนวภูเขาที่ล้อมหมู่บ้านห้วยตึม หมู่ 3 ต.บ้านพี้ อ.บ้านหลวง จ.น่าน โดยแต่ละจุดนั้นมีแนวยาวประมาณ 120 เมตร และพื้นที่ตามแนวภูเขาส่วนใหญ่ชาวบ้านทำไร่ข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ โดยใช้สารเคมี ซึ่งอาจจะกระทบต่อโครงสร้างดิน ทำให้ดินอุ้มน้ำได้ไม่ดี ประกอบกับไม่มีต้นไม้ใหญ่ตามแนวสันเขา ทำให้เมื่อเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ดินจะสไลด์และยุบตัวลงมา
ซึ่งนายวีระวิทย์ วิวัฒน์วานิช ผู้ว่าราชการ จ.น่าน ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมสำหรับอพยพชาวบ้านกว่า 200 คน ขึ้นไปอยู่บนที่สูง หากว่าสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปากีฯ เร่งอพยพ ปชช.เกือบครึ่งล้าน หวั่นเกิดน้ำท่วมครั้งใหม่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 สิงหาคม 2553 17:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000119303&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ทางการปากีสถานสั่งอพยพประชาชนเกือบครึ่งล้านคนในหลายเมืองวันนี้ เนื่องจากเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมครั้งใหม่
ทั้งนี้ปากีสถานกำลังเผชิญกับน้ำท่วมรุนแรง โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 1,500 คน และส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 17 ล้านคน อีกทั้งขณะนี้ยังเกิดความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคระบาดและการขาดแคลนอาหารด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เครื่องบินตกกันบ่อยๆ หรือว่าสนามแม่เหล็กโลกมีปัญหา

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เครื่องบินตก!! ที่คองโก เสียชีวิตราว 20 คน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 สิงหาคม 2553 09:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000118863&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เครื่องบินใบพัดคู่ แอลอีที- 410 ของสายการบินฟิลแอร์ ประสบอุบัติเหตุตก ขณะพยายามลงจอดที่สนามบินบันดันดู เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ตามเวลาในไทยเมื่อวานนี้ แต่ไม่สำเร็จ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน ในจำนวนนี้มีนักบินรวมอยู่ด้วย 2 คน และมีผู้รอดชีวิต 2 คน
ผู้สื่อข่าวของบีบีซี รายงานว่า เครื่องบินลำดังกล่าว ประสบอุบัติเหตุห่างจากรันเวย์ราว 2 กิโลเมตร ขณะกำลังพยายามลงจอด และชนบ้านหลังหนึ่งบริเวณใกล้เคียง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บภาคพื้นดิน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://www.fndwc.org/index.php?option=com_content&view=frontpage&Itemid=1

http://palungjit.org/threads/แจ้งข่าวเตือนภัยทางอีเมลผ่าน-googlegroups-เชิญที่นี่.77959/



สองที่ข้างบน ถ้าประสานงานกันได้ คงจะดีนะ เชียร์ๆๆๆๆ

 

*** หัวทะเล ทำไมถึงอยู่โคราช ****​

ทะเลโบราณ อยู่ที่ไหนบนประเทศไทย
โลกปรับตัวได้ คนที่ราบต้องระวัง​

- " หนุมาน ผู้นำสาร "​

​

ฮือฮาพบรอยคล้ายพญานาคเลื้อยในโรงรถ (คมชัดลึก)

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจาก นายไพศาล พวงในเมือง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 400 หมู่ 7 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่า พบร่องรอยประหลาดคล้ายกับรอยพญานาค ซึ่งพบกับบ่อยในแถบภาคอีสานที่มีพื้นที่ติดกับริมลำน้ำโขง ภายหลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ


<DD>เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว โดยพบว่า ภายในโรงเก็บรถของ นายไพศาล ซึ่งสร้างเป็นห้องด้านหนึ่งมีพนัง แต่อีกด้านหนึ่งไม่มี ฉาบพื้นด้วยปูนซีเมนต์ บนพื้นมีร่องรอยถูกน้ำท่วมขัง เต็มไปด้วยโคลน ทั่วบริเวณพบว่ามีรอยประหลาดคล้ายสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ในลักษณะที่เลื้อยวกไปวนมาอยู่ภายในโรงเก็บรถหลายรอย ซึ่งแต่ละรอยจะมีความกว้าง 4-5 นิ้ว สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ด้านหลังโรงเก็บรถ ยังมีสระน้ำขนาดความกว้างประมาณ 50 เมตร ยาว 100 เมตร อีกด้วย


<DD>จากการสอบถาม นายไพศาล เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้ที่พบรอยเป็นคนแรก เล่าว่า ร่องรอยที่พบคล้ายกับรอยพญานาคนี้ ตนเองได้พบเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่เกิดฝนตกหนัก โดยตนเองกำลังจะไปถอยรถออกมาจากโรงรถเพื่อไปทำธุระ ก็พบว่ามีร่องรอยคล้ายกับสัตว์เลื้อยคลานเลื้อยไปมาอยู่ข้างรถ แต่ก็ไม่ได้สนใจ จากนั้นก็นำรถกลับมาเก็บไว้ตามปกติ และไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง จนกระทั่งตอนรุ่งเช้าของวันนี้ ตนจะไปถอยรถออกไปทำธุระนอกบ้าน ก็พบว่ามีรอยดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาอีกกระจายอยู่ทั่วบริเวณโรงรถ จึงเรียกเพื่อนบ้านให้มาดูด้วยความสงสัยว่าเป็นรอยอะไร โดยหลายคนก็เชื่อว่าอาจจะเป็นรอยพญานาคที่ขึ้นมาจากสระน้ำด้านหลัง


<DD>นายไพศาล กล่าวอีกว่า ตนเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ แต่ก็ไม่ได้หลบหลู่ แต่ก็ไม่ได้ตื่นตกใจอะไรมากนัก และคงจะปล่อยให้เป็นอยู่อย่างนี้ โดยไม่มีการจุดธูปไหว้ขอพรอะไร เพราะอาจจะเป็นที่แตกตื่นของชาวบ้านได้


<DD>ด้านนางสาววาสนา พวงในเมือง อายุ 33 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกันที่พบเห็นร่องรอยพญานาคครั้งแรก ตนได้นอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้านแล้วเกิดนิมิตในความฝัน ว่าพบเห็นองค์พญานาคขนานใหญ่ มีเกร็ดเป็นสีเขียวมรกต โผล่ขึ้นมาจากบ่อน้ำใกล้เคียงศาลาเก็บของที่พบร่องรอย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะนำโชคลาภมาสู่ครอบครัว


<DD>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านจำนวนหลายสิบคนต่างรับทราบจากคำบอกเล่าปากต่อปาก ได้ทยอยเดินทางมาดูอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่บ้านแน่นขัดขนัดไปด้วยกลุ่มไทยมุงที่อยากรู้อยากเห็น มีส่วนหนึ่งพากันนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ โดยเฉพาะเซียนหวย พากันตีเลขเด็ด บรรยากาศรอบๆ บ้านที่มีพ่อค้าหัวใสนำสิ่งของ ประเภทอาหาร และน้ำดื่มมาขายมาตั้งวางขาย และนำสลากกินแบ่งรัฐบาลมาให้เสี่ยงโชค


<DD>http://hilight.kapook.com/view/36944
</DD>