ประสบการณ์มโนมยิทธิ กรรม และเรื่องยุ่งๆของผม

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย softkid9, 18 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    สำหรับเรื่องอุปาทานและกิเลสมารที่เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าพูดกันตามความจริงแล้วก็มีอยู่ในทุกคนและทุกสายการปฏิบัติธรรม เพียงแต่ว่าโจทย์หรือรายละเอียดปลีกย่อยนั้นจะแตกต่างกันไปตามสายการปฏิบัติ และตามบุญบารมีและกรรมของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ในส่วนของการปฏิบัติธรรมแบบมโนมยิทธิของพี่นั้น ก็จะขอกล่าวตั้งแต่ในช่วงเริ่มแรกของการปฏิบัติเลยคือ


    ครั้งแรกที่พี่มาปฏิบัตินั้น พี่ก็ไม่รู้หรอกว่ามโนมยิทธิคืออะไร แต่ด้วยความที่ชอบธรรมะก็เลยติดตามพุทธภูมิรุ่นพี่มาที่บ้านซอยสายลม แล้วก็ได้มีโอกาสมาฝึกมโนมยิทธิ ทีนี้ถ้าพูดกันแบบชาวบ้านก็คือ ถ้าเป็นการปฏิบัติธรรมอ่ะ พี่จะเป็นคนที่ว่าง่ายมาก แล้วยิ่งเด็กขนาดนั้นด้วยก็ไม่รู้ว่าจะเอาปัญญาที่ไหนมานั่งตรวจสอบคำสอนหรือความถูกต้องของแต่ละสายการปฏิบัติ พี่ก็เลยปฏิบัติไปแบบไม่ได้คิดอะไรเลย ทีนี้ตอนแรกที่ฝึกนั้น หลวงพ่อท่านสอนว่าอะไรพี่ก็พยายามทำตามนั้นหมด แต่ก็อย่างว่าแหละคนเราฝึกแรกๆจิตก็ไม่ชิน ความเป็นสายกลางมันก็ไม่ค่อยจะมี มันก็เลยจริงจังมากไป ทีนี้โชคดีที่ว่าตอนที่ครูฝึกให้พี่ไปพระจุฬามณี จิตพี่ก็นึกขึ้นไปที่สวรรค์ แล้วก็เห็นกำแพงสวรรค์แล้วมีเจดีย์สีทองๆอยู่ ตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าคืออะไร ก็คิดว่านี่เราคิดไปเองหรือ่เปล่าเหมือนกัน จนตอนหลังพี่ถึงรู้ว่านั่นคือพระจุฬามณีแล้วก็ไม่ได้คิ่ดไปเอง ซึ่งพี่ก็แปลกใจที่เห็นอย่างชัดเจนถูกต้องโดยที่ไม่เคยอ่านหนังสือใดๆของหลวงพ่อท่านมาก่อนด้วยซ้ำ


    ทีนี้พอฝึกเสร็จพี่ก็มานั่งทบทวนการฝึกของตัวเอง โดยอิงคำสอนของหลวงพ่อ แล้วพี่ก็พบว่า เอ๊ะ ตอนนั้นจิตเรามีนิวรณ์ตัวฟุ้งซ่านกับลังเลสงสัยนี่หน่า เอ๊ะ ตอนนั้นจิตเราเครียดเกินไปเป็นการสุดโต่งทางการทรมานตนนี่หน่า พี่ก็เลยเริ่มรู้ว่าสิ่งไหนที่หลวงพ่อท่านสอนไว้ เราต้องพยายามทำตาม แล้วการรู้เห็นนั้นจะตามมายืนยันให้เรารู้ในที่สุดนั่นเอง


    ทีนี้ช่วงแรกๆจิตมันอยู่กับกิเลสมานาน ให้ไปฝึกแค่ครั้งเดียวแล้วกลับมาทำต่อที่บ้านนี่ใจคอมันชักจะไม่ค่อยดี เพราะมันรู้สึกไม่มั่นใจและยังงงๆกับการฝึกแบบมโนมยิทธิอยู่(อันนี้ตัวเองเป็น ไม่รู้ว่าคนอื่นๆเป็นเหมือนกันไหม) อีกทั้งตัวพี่เองก็ประเภทขี้เกียจนั่งสมาธิด้วย แต่แล้วไม่รู้ว่าเพราะอะไร เกิดความรู้สึกว่าเราต้องพยายามไปฝึกใหม่เพื่อให้เกิดความเคยชิน มั่นใจ และคล่องตัวมากกว่านี้ พี่เลยไปฝึกห้องคนฝึกใหม่(ชั้น 3)ซะหลายรอบเลย โดยทำตามที่หลวงพ่อท่านบอกทุกอย่าง(ว่าง่าย/ฝึกแบบคนโง่ๆ) ครูฝึกว่ายังไงก็ว่าตามนั้นทุกอย่าง จนสุดท้ายพอครูฝึกบอกว่าให้พยายามจดจำอารมณ์พระนิพพานไว้และให้ขึ้นไปพระนิพพานทุกวัน พี่กลับมาก็พยายามทำนะ แต่บอกตรงๆมันก็รู้สึกแปลกๆเหมือนอารมณ์ยังไม่ได้ทั้งๆที่ทำตามสเต็ปเดียวกับตอนฝึกที่บ้านสายลมทุกอย่าง จนสุดท้ายก็เลิกไป(เพราะขี้เกียจ)


    เผอิญโชคดีที่พี่มาฝึกกับอ.ฆราวาสเป็นประจำทุกเดือน แล้วอ.ฝึกทั้งครึ่งกำลังและเต็มกำลังในวันเดียวกัน เลยเป็นการบังคับพี่ไปในตัวให้เริ่มเคยชินไปทีละเล็กทีละน้อย ตรงนี้พี่เลยอยากจะบอกว่าช่วงแรกๆ ถ้าเราไม่รีบเกาะติดเพื่อให้เครื่องยนต์มันติดสตาร์ทเราจะลำบากอ่ะจ้า ดังนั้นถ้าฝึกได้แล้วให้ไปฝึกชั้นญาณ ๘ บ่อยๆ ฝึกแล้วก็เก็บเล็กผสมน้อยมาปฏิบัติเรื่อยๆ แล้วจะเริ่มดีขึ้นเอง


    ทีนี้ถ้าถามพี่ว่าเริ่มติดสตาร์ทเครื่องยังไง ก็ต้องบอกเลยว่าต้องมาทบทวนนิวรณ์ ๕ ประการก่อนว่ามีอยู่ในจิตของเราไหม ถ้ามีก็ต้องพยายามละให้ได้ ยิ่งละได้ดีมากเท่าไหร่จิตก็จะทรงตัวมากเท่านั้น เวลาพิจารณาในวิปัสสนาญาณฐานสมาธิเราจะแน่นและทรงตัวอยู่ได้นาน ดังนั้นพี่ก็เลยฝึกตัวเองในเรื่องนิวรณ์ ๕ นี้เป็นการด่วน โดยการจับอานาปานสติ+ภาพพระให้เคยชินบ่อยๆเท่าที่จะทำได้ ส่วนวิปัสสนาญาณนั้นก็อาศัยตอนไปฝึกกับอ.ฆราวาสนี่แหละให้ท่านเป็นคนสอนเราแล้วนำเราไปทั้งครึ่งกำลังและเต็มกำลัง


    ปล. ตรงนี้ถือว่าเป็นกิเลสมารในตัวพี่เองที่เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติธรรมในระยะตั้งไข่(ติดสตาร์ทเครื่องยนต์)จ่ะ ซึ่งจะกินเวลาประมาณ 1-2 ปี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2014
  2. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    พี่เก่งค่ะ พิมพ์ยาวเฟื้อยเลย เฟมต้องขออภัยด้วยนะคะ หุหุ


    ขอต่อเลยนะคะ - ทีนี้พอพี่เริ่มจับต้นทางคือนิวรณ์ ๕ แล้ว น้องกฤษณ์อาจจะสงสัยว่าแล้วตัววิปัสสนาญาณล่ะไปไหน? เพราะถ้าไม่มีวิปัสสนาญาณก็จะไม่สามารถพิจารณาตัดกาย(ละสักกายทิฐิ)ได้ ตรงนี้ต้องขอบอกเลยว่าช่วงติดสตาร์ทเนี่ยพี่อาศัยหากินกับอ.ตอนฝึกครึ่งกำลังและเต็มกำลังเดือนละครั้งอย่างเดียวจ้า เพราะช่วงนั้นนิวรณ์ ๕ ยังกินใจอยู่มากเลย จะให้ไปทำวิปัสสนาเองก็ไม่ไหว และนี่เองกระมังที่เป็นสาเหตุที่ทำให้พี่ไปฝึกต่อเองที่บ้านไม่ได้ ทำยังไงก็รู้สึกไม่เหมือนฝึกกับครูที่บ้านสายลม (อันนี้มองจากตัวพี่เองนะ แต่น้องกฤษณ์อาจจะไม่ติดตรงนี้ก็ได้)


    ทีนี้พอหลังจากที่พี่เริ่มตัดนิวรณ์ ๕ ได้ดีบ้างแล้ว พี่ถึงค่อยมาเริ่มจับสังเกตการพิจารณาตัดกาย(ละสักกายทิฐิ)และอารมณ์จิต(สภาวะ)ในขณะนั้นแล้วถึงเริ่มปฏิบัติด้วยตนเองจ้า ซึ่งตอนที่ทำใหม่ๆด้วยความที่เพิ่งหัดเดินด้วยตนเอง เด็กน้อยอย่างพี่ก็เลยเกิดความคิดเข้ามาบั่นทอนการปฏิบัติว่านี่คือพระจุฬามณีจริงหรือเปล่า? นี่คือนิพพานหรือเปล่า? พี่ก็เลยถามอ.ฆราวาส ซึ่งท่านก็บอกว่าให้ค่อยๆหมั่นปฏิบัติไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งใจร้อน เดี๋ยวจะค่อยๆดีขึ้นเอง โดยให้พยายามจดจำอารมณ์พระนิพพานไว้ แล้วไปบ่อยๆคือไปทุกวัน พูดตรงๆว่าพี่กังขากับคำตอบของอ.ท่านมากๆเลย ในใจตอนนั้นรู้สึกว่าไม่เคลียร์และไม่ช่วยอะไรพี่จากความเสี่ยงที่จะเกิดอุปาทานจากการฝึกด้วยซ้ำ จนตอนหลังนี่แหละถึงเพิ่งจะมารู้ว่าทุกๆอย่างนั้นต้องอาศัยระยะเวลา ในการที่จะฝึกฝนจนเกิดความเคยชิน ความมั่นใจ และความคล่องตัวนั่นเอง


    ดังนั้นถึงแม้ว่าพี่จะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่อ.พี่บอก แต่พี่ก็ทำตามนะ(แปลกดีเหมือนกัน) ว่าแล้วพี่ก็เริ่มกลับมาทำที่บ้าน โดยเหตุที่ทำให้พี่มีกำลังใจในการปฏิบัติมากที่สุดก็คือคำสอนของหลวงพ่ออันนี้...


    [​IMG]

    อันนี้แหละเป็นคำสอนที่พี่อ่านแล้วรู้สึกว่าท่านเมตตามาก คล้ายกับท่านรู้ว่าพี่เป็นคนที่ขี้เกียจฝึกสมาธิท่านเลยส่งผ่านคำสอนนี้มาให้ ซึ่งพอพี่อ่านแล้วพี่รู้สึกเกิดแรงบันดาลใจในการปฏิบัติธรรมขึ้นอย่างมากมายเลย และแล้วพี่ก็ทำตามที่ท่านสอนจริงๆคือ นึกได้เมื่อไหร่หรือเกิดอารมณ์ผ่อนคลายเว้นว่างจากภาระการงาน(การเรียน)เมื่อไหร่ พี่ก็จะนั่งภาวนาจับภาพพระเลย ซึ่งพี่ก็ไม่ทำเยอะมาก ทำนิดๆหน่อยพอให้ใจมีความสุข จนพอเริ่มติด(ใจ)ขึ้นมาบ้าง ก็จะค่อยๆเพิ่มความถี่มากขึ้นโดยอัตโนมัติเอง


    ทีนี้พอเริ่มจับทางได้บ้างแล้วในสมถะและวิปัสสนา ก็เริ่มฝึกจับภาพพระ+ขอบารมีพระ+แล้วตัดกาย แล้วเอาจิตไปพระจุฬามณีหรือพระนิพพาน ซึ่งจุดสำคัญก็คือกำลังของสมถะและวิปัสสนาต้องดีพอจึงจะไปได้ ทีนี้ถ้าถามว่าแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าไปได้? พี่ก็ขอตอบว่าพี่เอาอารมณ์จิตตอนฝึกที่บ้านสายลมหรืออ.ฆราวาสเป็นเกณฑ์ ถ้าคล้ายๆกันแต่ภาพมืดตื๋อหรือเห็นไม่ชัดก็ใช้ได้ แล้วก็ไม่ต้องไปสงสัยด้วยว่าจริงหรือไม่จริง เพราะตรงนั้นจะเป็นจุดที่กิเลสมารหรือนิวรณ์เค้าเข้ามาโจมตีขัดขวางการปฏิบัติของเราจ่ะ (ประมาณว่าเค้าเห็นว่าเรากำลังจะไปได้ดีแล้ว เค้าเลยต้องรีบเข้ามาขวางอ่ะ)


    ปล.1 ตรงนี้พี่ก็ขอจบเรื่องของกิเลสมารในการปฏิบัติระยะเริ่มแรกของพี่เพียงเท่านี้นะ

    ปล. 2 ในตอนที่พี่กลับไปฝึกเองนี่ เวลาพี่ไปหาพระท่าน มีคนแนะนำให้พี่ไปกราบถามท่านถึงข้อธรรมที่เราควรปฏิบัติ/เหมาะกับตัวเรา หรืออาจจะเป็นจุดที่เราต้องแก้ไขอ่ะจ่ะ พอทราบแล้วก็ให้นำกลับมาและตั้งใจปฏิบัติต่อแบบสายกลางคือไม่เครียดเกินไปหรือหย่อนเกินไปแล้วจะดีกับตัวเราอ่ะจ่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2014
  3. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    [​IMG]

    ไม่เป็นไรครับน้องเฟรม ลูกหลานหลวงพ่อกันทั้งนั้น กำลังของสมาธิพี่นี่ก็ลุ่มๆดอนๆยิ่งกว่าพวกน้องๆซะอีก คือมโนมยิทธิก็ไปฝึกแล้วไม่เห็นอะไรเลยนอกจากวิมานในชาติที่แล้วกับชาตินี้แค่นั้น ลองมาทำเองที่บ้านก็เหมือนกัน มืดตื๋อ แต่พี่ใช้วิธีนี้คือตอนที่ว่างจากงานก็ใช้ใจตามนึกถึงพระพุทธองค์ แล้วก็เอาอารมณ์นั้นมาพิจารณาความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ในชีวิตประจำวันของพี่ที่เห็นอยู่ทุกวัน ลูกที่แท้งในท้องของแฟนพี่บ้าง เห็นลูกหลานของเพื่อนเกิดบ้าง เห็นแม่เราแก่บ้าง เห็นพ่อเราตายบ้าง ส่วนตัวเองก็มีเจ็บป่วยไปตามธรรมดาของมัน ไม่ประมาทในความตาย ทำทาน สวดมนต์ นั่งสมาธิทุกวันวันละ 5-10 นาทีก็พอ พี่ทำอารมณ์อย่างนี้ทุกวัน เพราะไม่ต้องการเกิดมาให้มันมีร่างกายมารองรับความทุกข์หรือทุกขังอีก ถ้าได้ลาออกจากการเป็นคนเมื่อไหร่ก็สบายพี่ละครับ เป็นกำลังใจให้พี่ๆน้องๆทุกท่านถึงจุดหมายปลายทางคือพระนิพพานกันทุกท่านนะครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 777_n.jpg
      777_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.5 KB
      เปิดดู:
      1,836
    • 666_.jpg
      666_.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.4 KB
      เปิดดู:
      1,979
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2014
  4. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    อนุโมทนากับพี่เฟมและพี่เก่งด้วยนะครับ

    อาการที่ว่าไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองว่าสิ่งที่ได้พบได้เห็นนั้นเป็นของจริงหรือไม่นั้นผมก็เป็นนะครับ จนต้องไปฝึกใหม่ถึงสองครั้งในระยะเวลาอันไล่เรี่ยกัน (ช่วง3ปีที่แล้ว) เรื่องการพยายามจดจำอารมณ์ตอนที่ไปฝึกที่บ้านสายลมนั้น เป็นเรื่องที่น่าแปลกอีกเรื่องนึงเหมือนกันครับ เพราะทุกๆครั้งที่ผมไปฝึก ผมตั้งใจจะไปฝึกทุกครั้งและพยายามจดจำอารมณ์ว่าอะไรเป็นอะไทุกครั้ง แต่พอจะกลับมาทำเองที่บ้าน ผมกลับจดจำอารมณ์ได้ไม่ค่อยดีจนบางครั้งก็เลือนๆไปบ้าง และกลายเป็นความไม่แน่ใจ สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ปฎิบัติต่อยอดไป เพราะพื้นฐานสมถะภาวนาของผมนั้นยังไมแน่นหนาพอ การจะทำให้จิตสงบได้ต้องใช้เวลานานพอสมควร จากปัจจัยนี้บวกกับเวลาที่จะสามารถปฎิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นน้อยลง ทำให้ทุกอย่างมันลงอิหรอบเดิม การจะไปฝึกครั้งต่อไป ผมว่าผมควรที่จะทำให้สมถะภาวนานั้นแน่นก่อนน่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่รู้ว่ามันต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน
     
  5. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    680
    ค่าพลัง:
    +603
    สอบถาม ตอนฝึกมโน ที่วัดแบบเต็มกำลัง ผมลองปล่อยดู เกิดอาการหายใจเร็ว รั่วๆ เกิดกลัวขึ้นมาเลย เฟือนตัวเอง ให้หยุดอาการนั้น เพราะคิดว่า เป็นตัวเราแกล้งหรือป่าว หรือว่าเราอุปทานมัง อยากถามว่า อาการอย่างนี้คืออะไรครับ
     
  6. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    ไม่ได้เข้ามาอัพเดทซะนาน ขอตอบคุณสิบหกก่อนนะครับ ผมเข้าใจว่าการที่คุณสิบหกฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลังนั้น แล้วจิตเราในขณะนั้นกำลังจะยกจิตออกไปจากร่างกาย แต่เนื่องด้วยอารมณ์ของผู้ฝึกกลัวตายขึ้นมา จึงทำให้เกิดอาการแบบนั้นครับ วิธีแก้ผมเข้าใจว่าเราต้องตัดสักกายทิฏฐิ คือความไม่กลัวตาย ถือว่ากายนี้ไม่ใช่ของเรา มันต้องตายสักวันหนึ่ง วันนี้เราอาจจะตายก็ได้ ถ้าเราตัดตัวนี้ได้ผมเข้าใจว่าน่าจะแก้อาการที่คุณสิบหกเป็นได้นะครับ (ด้วยสติปัญญาอันน้อยนิดของผม ถ้าผมตอบผิด เผื่อผู้รู้ท่านใดที่ผ่านเข้ามาอ่าน สามารถแชร์ธรรมะความรู้กันนะครับ)

    ช่วงนี้ก็สะสมบุญบารมีไปเรื่อยๆครับ ประเภทเก็บเล็กผสมน้อย แต่ก็ทำเป็นประจำ พอดีมีเรื่องแปลกๆมา ถือว่าเป็นประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังละกันนะครับ (แฮะๆ ผมมิได้มีเจตนาจะมอมเมาเรื่องอบายมุขแต่อย่างใด และยังมิใช่คนดี ยังโต๋เต๋อยู่ปากขุมนรกอยู่เป็นปกติ แต่เนื่องด้วยตัวเราเป็นผู้ที่มีภาระหน้าที่อยู่ ก็คือยังมีกายสังขาร มีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ฉะนั้นยังต้องกินต้องใช้จ่ายเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ถ้าท่านใดที่คิดว่ามิได้มอมเมาและมองว่าเป็นเคล็ดลับในการเลี้ยงชีพแล้วละก็ลองอ่านกันดูนะครับ เผื่อท่านจะมีโชคเพราะล็อตเตอรี่นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย รัชกาลที่ 5 ท่านทรงริเริ่มขึ้นมาในไทย เพื่อนำเงินมาใช้ในราชการแผ่นดิน)

    [​IMG]

    ลายมือหลวงพ่อท่านจากหนังสือ"ตามรอยพระพุทธบาท เล่ม 3" หลวงพ่อเขียนไว้ว่า "ลงกระดานเรือน หรือ รอดบ้าน เงินไม่ขาดบ้าน"

    พอดีเมื่อเมื่อวันที่ 29 มกราคม 58 ผมบูชาเหรียญเศรษฐี(เงินไม่ขาดบ้าน)เนื้อเงินเล็กมา 1 เหรียญและพิมพ์ใหญ่เนื้อชุบทองมา 4 เหรียญ ผมถูกล็อตเตอรี่งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเลขท้ายสองตัว 79 ท้ายรถผมหนึ่งใบครับ (ลืมถ่ายรูปล็อตเตอรี่ มัวแต่ดีใจ ขึ้นเงินเรียบร้อยแล้วก๊าบ) เนื่องด้วยเหรียญนี้หลวงพ่อปลัดอนันต์ท่านสร้างขึ้นมาเพื่อแจกงานทำบุญวันเกิดหลวงพ่อพระราชพรหมยานในเดือนตุลาคม 2557 เข้าพิธีพุทธาภิเษกวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2557 แจกแก่ผู้ทำบุญทำสังฆทานในงานทำบุญคล้ายวันเกิดหลวงพ่อที่บ้านสายลมวันที่ 5 ตุลาคม และงานทำบุญกฐินวัดท่าซุง 11-12 ตุลาคม 2557 หลังจากจากเหรียญนี้ออกมาไม่นาน ก็มีผู้ที่มีประสบการณ์โชคลาภเรื่อยๆ ในห้องของพี่วรรณชัย กระทู้นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน มีผู้ที่เอามาแชร์กันเรื่อยๆ ผมเชื่อในบารมีของหลวงพ่อท่านจริงๆ ท่านใดอยากได้ไว้บูชาสอบถามได้ที่วัดท่าซุงและบ้านซอยสายลมนะคร้าบ เหรียญเนื้อชุบทองราคาไม่กี่สิบบาทเอง

    [​IMG]

    *(ขอยืมภาพพี่วรรณนะคร้าบ ถ่ายสวยสู้พี่ไม่ได้)

    [​IMG]

    ภาพนี้เลขท้ายรถผมเองคร้าบ

    [​IMG]


    ภาพนี้คือขื่อห้องที่ผมนำเหรียญเงินไม่ขาดบ้านไปติดไว้เพื่อลอดขื่อบ้านทุกวันตามตำราหลวงพ่อท่านคร้าบ


    ผมมีเคล็ดลับเรื่องโชคลาภหรือลาภลอยมาฝากกันอีกอย่างนึงนอกจากการภาวนาคาถาเงินล้านของหลวงพ่อท่านแล้ว หลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านเคยเมตตากล่าวไว้ว่าผู้ที่จะมีโชคลาภลอยนั้นต้องเคยทำบุญแบบที่ไม่ได้ตั้งใจมาก่อน แต่พอผ่านไปเจอที่ที่เค้าทำบุญกันก็ตัดสินใจทำบุญทันที จะมากจะน้อยไม่เป็นไร ถึงจะได้โชคแบบลาภลอยครับ แล้วเวลาถ้ามีโชคแบบลาภลอยนั้นแนะนำให้แบ่งเงินใส่มือพระอรหันต์ในบ้าน คือพ่อแม่ของเราเอง หรือถ้าท่านไม่อยู่แล้วก็ให้ทำบุญในเขตพระพุทธศาสนา โดยปกติผมชอบทำวิหารทาน หรือทำทั้งสองอย่างเลยก็ได้ครับ แล้วเงินที่เราลาภลอยที่เราได้มานั้นจะมีประโยชน์สามารถนำไปใช้จ่ายเป็นชิ้นเป็นอันที่จะเกิดประโยชน์กับตัวเราเองสูงสุดครับ

    ผมเคยมีประสบการณ์คือเมื่อ 4-5 ปีก่อน พอดีไปเดินเล่นแผงพระแถวชลบุรี แล้วเจอพระสมเด็จวัดเฉลิมพระเกียรติพิมพ์สามชั้นยันต์ห้า ผมบูชามาแค่ 200 เองแต่พอดีองค์พระน่าจะผ่านการเข้ากรอบพระแบบกรอบเงินสมัยโบราณ แล้วถูกแกะออก เนื้อองค์พระเลยบิ่นไปนิดนึง พอดีผู้ใหญ่ท่านนึงกำลังอยากได้อยู่พอดี ผมเลยให้ท่านบูชาไป 5,500 ผลเป็นไงรู้ไหมครับ เงิน 5,500 นั้นไม่เป็นโล้ไม่เป็นพายเลย คือเอาไปใช้อะไรหมดก็ไม่รู้ กลายเป็นเบี้ยหัวแตกไปหมด ทุกวันนี้ยังงงอยู่เลยว่าตูเอาเงินไปใช้อะไรหมดว้า นี่ละครับผลของการที่ได้เงินมาแบบลาภลอยหรือนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปให้ผู้อื่นเช่าบูชา ถ้าไม่แบ่งเงินทำบุญแบบที่กล่าวมาแล้วละก็ มีสิทธิงานเข้าคร้าบ

    ที่ผมกล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้ ท่านใดที่ได้ผ่านเข้ามาแล้วไม่เห็นด้วย โปรดอย่าได้ด่าผมเลยนะก๊าบ เพราะมันเป็นประสบการณ์และมุมมองของผมเท่านั้นเอง และผมมักจะย้ำกับตัวเองและญาติธรรมทุกท่านว่า ผมยังมิใช่คนดี ยังไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลยซักอย่าง แต่ตั้งใจว่าถ้าถึงเวลาที่สังขารมันไม่สามารถทรงตัวได้อีกต่อไป มันทรงตัวต่อไปไม่ไหวแล้ว ธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ มันแตกแล้วก็กะว่าจะขอเอาตัวรอดไปอยู่กับพระใหญ่และหลวงพ่อท่านละคร้าบ ( คำเตือน: โปรดอย่าถือเจ้าของกระทู้มากนัก เพราะเจ้าของกระทู้ยังมองเห็นผู้หญิงสาวๆ ขาวๆ หมวยๆ ว่าสวยอยู่ ฉะนั้นยังมีสิทธิลงนรกได้ทุกเวลา โปรดใช้สติพิจารณาคร้าบ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2015
  7. thekiss

    thekiss สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +24
    เข้ามาอ่่านความรู้ในการปฏิบัติ จากพี่ๆทุกท่านแล้วรู้สึกดี
    สัญญากับตัวเองว่าจะหาเวลาไปบ้านสายลม และไปฝึกให้ได้ซักหน

    ชอบสำนวนการเขียนของพี่ เจ้าของกระทู้จังครับ เข้าใจง่ายถ่ายทอดดีมากๆ
    เป็นไดอารี่ที่น่าอ่านจริงๆ แถมรู้สึกตัวอย่างของกิเลส มักจะเน้นพูดถึง ขาวๆหมวยๆ บ่อย นะครับช่วงนี้
    555555 (แซวครับ) :):cool:
     
  8. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    แฮะๆ ต้องขออภัยคุณmamaboyz และพี่ๆน้องๆญาติธรรมทุกท่านด้วยนะครับ ช่วงนี้เน้นบุญวิหารทานเลย ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านกระทู้ตัวเอง พูดง่ายๆว่าทำบุญเพลินไปหน่อยน่ะคร้าบ

    ต้องออกตัวกับคุณmamaboyz และพี่ๆน้องๆญาติธรรมทุกท่านว่ากิเลสนั้นเค้ามักจะรู้จุดอ่อนเราและเล่นงานตรงจุดครับ นี่ประสบการณ์ตรงเลย ช่วงไหนที่มีสติรู้ตัวว่าเรายังเลวอยู่ และตรวจหาจุดเสียหรือข้อด้อยของเรา กิเลสมารท่านมักจะเล่นงานจุดนั้นละคร้าบ ของผมนี่แพ้ของขาวๆ หมวยๆ เป็นจุดอ่อนปกติของผมเลย ฉะนั้นวิธีแก้ของผมคือถ้าช่วงที่เจอกิเลสมารขาวๆหมวยๆ ก็นึกถึงซากศพหรือก็คือพิจารณาอสุภกรรมฐานและมรณานุสสติกรรมฐานควบกันไปนั้นเอง และเพิื่อเป็นการป้องกันชั้นที่สองคืออัญเชิญภรรยาของกระผมไปทำงานด้วย แฮ่ๆ!เป็นไงครับ เค้าเรียกหนามยอกเอาหนามบ่งครับ แต่ผมยังงงๆกับตัวเองอยู่คือแฟนผมเป็นผู้หญิงนะครับ แต่ดันชอบมองสาวๆขาวๆแบบเดียวกับผมด้วยอีก ฮ้อ!งงกับภรรยาท่านจริงๆ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2015
  9. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    สวัสดีค้าบบ พี่เก่ง พี่เฟม และพี่ๆน้องๆญาติธรรมทุกๆคนครับ

    ไม่ได้แวะเวียนเข้ามาเสียนานเลย แหะๆ ผมคิดถึงบรรยากาศเก่าๆจังครับ พี่เก่งหายไปนานเลยนะครับ สบายดีนะครับ ช่วงนี้ผมก็เรื่อยๆครับ เรื่อยๆไหลๆไปตามกระแสโลกเสียมาก :'( การปฎิบัติธรรมหยุดนิ่งไปนานเสียแล้ว เห้อ....

    และเนื่องในโอกาสสงกรานต์(ที่พิ่งจะผ่านพ้นไปไม่นาน) ผมขออำนวยพรให้ทุกๆท่านเจริญจตุรพิธพรชัย ทั้ง ๔ มี อายุ วรรณะ สุขะ พลัง กันทุกๆท่านนะครับ ได้เป็นเศรษฐีผู้ใจบุญค้ำยันพระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระประทีบแก้วพระสมณโคดมให้อยู่ได้ครบถึง ๕๐๐๐ ปีตามพระพุทธพยากรณ์ทุกๆท่านนะค้าบบ

    สาธุ
     
  10. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    แฮ่ๆ! สบายดีเช่นกันครับน้องกฤษณ์ แล้วก็แฟนพี่ฝากขอบคุณน้องเฟมสำหรับคำอวยพรด้วยนะครับ ส่วนพี่แม้จะขี้เกียจ ขี้เบื่อ และอีกสารพัดตามประสาคนขวางโลกหน่อยๆ อากาศก็ร้อน คนก็ร้อน ก็ทำไปเรื่อยๆครับ ทำบุญกับพระอรหันต์ในบ้านบ้าง ทำบุญวิหารทานและทานทุกประเภทที่มีโอกาสตามกำลังเงินในกระเป๋า สวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิแบบกระจุ๋มกระจิ๋ม คือทำวันละเล็กวันละน้อยค่อยๆสะสมไป เพราะรู้ตัวดีว่ายังกระด๊อกกระแด๊กอยู่แถวๆที่ทำงานของท่านปู่พระยายมท่านอยู่ วันไหนที่ได้ทำบุญถ้าไม่ลืมก็จะเอ่ยปากฝากท่านไว้เป็นพยานบุญกันตกนรกด้วย ทำทุกอย่างก็เพื่อบ้านใหม่ครับ

    ช่วงสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยปีนี้สำหรับผมแล้วแปลกดี ปกติผมจะไปเล่นน้ำกับเพื่อนทุกปี ปีนี้ดูท่าทรัพย์จางไปเยอะ เลยกลับไปไหว้และรดน้ำดำหัวแม่ดีกว่า พอกลับไปก็สวดคาถาเงินล้านทุกวัน พอกลับบ้านไปได้ 4-5วัน ลูกค้าโทรหาให้ไปเอาเงินค่าอะไหล่คอม กำไรเจ้าแรกสามร้อยห้าสิบ เจ้าที่สองเกือบเจ็ดพันแน่ะ เอ่อๆ! ดีแฮะ คาถาของพ่อเราใช้ได้ทุกสถานการณ์จริงๆ เดี๋ยววันจันทร์หน้าก็ไปส่งของลูกค้าได้กำไรอีกเกือบสองพัน ก็ได้เรื่อยๆจริงๆครับ คาถาเงินล้านนั้นถ้าสวดตอนที่สมาธิเราอยู่ในฌานตั้งแต่ 1-4 แล้วละก็ ไม่มีทางอดแน่นอน ผมก็ทำแบบคนไม่ค่อยฉลาด คือสวดไปเรื่อยๆ ตอนไหนที่ใจว่างๆ หรือออกกำลังกายก็สวด แต่ตอนสวดห้ามหวังลาภยศเงินทองนะครับ หลวงพ่อท่านเมตตาบอกไว้ ท่านบอกว่าให้ระลึกแค่ว่าเป็นของที่ระลึกจากท่านก็พอ ผมว่ากิเลสก็จะได้ไม่ฟุ้งด้วย พ่อของพวกเราท่านมีความเมตตา แนะนำวิธีดำรงชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรมทุกอย่างไว้ให้กับพวกลูกหลานแล้ว รวมทั้งศิษย์รุ่นจิ๋ว บ๋อต๋อ ไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างผมด้วยครับ

    สำหรับปีใหม่ไทยเรานี้ผมขออาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าพระพุทธสิกขีที่ 1 เป็นประธานจนถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นที่สุด อำนาจคุณพระธรรม พระอริยสงฆ์ ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลจักรวาล หลวงปู่ปานวัดบางนมโค หลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นที่สุด จงปกปักรักษาลูกหลานของหลวงพ่อทุกคน จงประสพแต่ความสุข ความเจริญ ด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณธนสารสมบัติ คำว่าไม่มีและไม่รู้จงอย่าได้บังเกิดแก่ทุกท่านตลอดไป ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ สาธุๆ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2015
  11. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399

    "
    เดินทางไกล ผ่านชาติภพน้อยใหญ่ วันเวลาล่วงเลยผ่านไป ตัวเราทำอะไรอยู่"



    [​IMG]

    [​IMG]
     
  12. audchukiat

    audchukiat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +665
    โมทนาในความดีของทุกๆท่านทั้งหมดทั้งมวลสาธุ สาธุ สาธุ
     
  13. taudom

    taudom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +45
    สวัสดีครับ ได้เข้ามาอ่านกระทู้ในนี้แล้วอยากแชร์ประสบการณ์การฝึกมโนมยิทธิให้ญาติธรรมได้อ่านกันบ้าง เพื่อเป็นกำลังใจให้ท่านๆทั้งหลายมีใจยึดมั่นในคำสอนของหลวงพ่อและไม่ละทิ้งการปฏิบัติ
    ข้าพเจ้าเคยไปฝึกมโนมยิทธิอยู่ที่วัดเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ระหว่างอยู่ที่วัด นอกจากฝึกสมาธิแล้วข้าพเจ้าก็อุทิศตัวช่วยงานวัดทุกอย่างรวมถึงเป็นธุระจัดหา วัตถุมงคลและหนังสือของหลวงพ่อให้กับญาติธรรมที่อยู่แดนไกลที่ไม่สามารถมาที่วัดได้ เดือนแรกของข้าพเจ้าช่างมืดบอดยิ่งนัก ข้าพเจ้าไม่รู้เลยว่าข้าพเจ้าได้มโนหรือไม่ ข้าพเจ้าเข้าฝึกในห้องสำหรับผู้ปฏิบัติเพียงแค่ขั้นสอง ข้าพเจ้าก็ออกมานั่งข้างนอกตลอด ซึ่งข้างนอกจะเป็นที่ฝึกสำหรับคนที่ได้ญาณ8 แต่ตัวข้าพเจ้านี่คงจะเป็น ญาณเสา หรือไม่ก็ญาณหลับ การฝึกในห้องผู้ปฏิบัติสำหรับตัวข้าพเจ้า ได้หรือไม่ได้ข้าพเจ้าไม่สามารถรู้ได้เลยเพราะไม่มีใครบอก จะถามอาจารย์ผู้ฝึกก็ไม่กล้าถาม ช่วงที่ฝึกขั้นสอง เค้าไปไหนเราก็เฮไปกะเค้า อาจารย์ผู้ฝึกถามอะไรมาก็ตอบไปเท่าที่พอจะเห็นได้เท่านั้น ตรงไหนไปไม่ได้ตัวข้าพเจ้าก็จะแอบมานั่งเล่นที่ศาลาห้าวิมานของข้าพเจ้าเอง การฝึกมโนมยิทธิสิรงที่ข้าพเจ้าเห็นชัดที่สุดคือวิมานและศาลาหน้าวิมานของข้าพเจ้า นอกนั้นก็ลางเลือนมาก ซึ่งการเห็นของข้าพเจ้าในช่วงแรกนี้ข้าพเจ้าไม่ได้มีความมั่นใจอะไรเลยว่าสิ่งที่เห็นมันคือการได้มโนมยิทธิ อีกอย่างการฝึกครั้งแรกของข้าพเจ้า สิ่งที่ข้าพเจ้าเห็น มันคือเด็กน้อยหน้าตาหน้าเอ็นดู ผู้ฝึกจะพาไปตรงไหนก็จะไปกับเค้าพร้อมๆกับใช้มือน้อยดึงแขนนางฟ้าองค์นึงตามไปด้วยตลอด ตรงไหนที่น่ากลัวก็จะกระโดดให้นางฟ้าอุ้มกอดแขนกอดขาด้วยความกลัว ตรงไหนสวยงามก็จะวิ่งเล่นเป็นลิงทะโมนจนนางฟ้าองค์ที่มาด้วยวิ่งไล่จับแทบไม่ทัน นั่นคือสิ่งที่ตัวข้าพเจ้าเห็นครั้งแรกในการฝึกมโนมยิทธิ เลยพลอยทำให้ตัวข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้านั้นฝึกไม่ได้ ก็เลยต้องหนีมานั่งอยู่ข้างนอกตลอด เค้าฝึกญาณ 8 กัน ตัวข้าพเจ้าเองก็นั่งฝึกกรรมฐานตามแนวทางของหลวงพ่อ บางวันก็นั่งจับภาพลูกแก้วเล่น บางทีก็นึกสนุกแปลงร่างตัวเองเป็นลูกแก้ว กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในวิหารแก้วหลังๆข้าพเจ้าชักกลัวบาปที่ทำ เลยเลิกเล่นแปลงร่างเป็นลูกแก้วหันมาฝึกกรรมฐานอย่างเดียว แต่ก็มีอยู่บ่อยๆที่แอบตามคนที่เค้าฝึกญาณ 8 ไปบ้าง ตรงไหนไปไม่ได้ก็แว้บบบแอบมานั่งเล่นที่ศาลาหน้าวิมาณตัวเอง ถึงขณะนั้นตัวข้าพเจ้าเองก็ยังคิดว่าข้าพเจ้ายังไม่ได้มโน จนกระทั่งวันนึง ข้าพเจ้าเลยกลับเข้าไปฝึกมโนขั้นสองในห้องกับผู้ฝึกใหม่คนอื่นๆอีกครั้ง ถึงได้รู้ว่า มโนมยิทธิเป็นยังไง วันนั้นข้าพเจ้าก็เข้าไปฝึกกับคนอื่นๆตามปกติ และก็เหมือนเคยทุกครั้งที่ข้าพเจ้าเข้าห้องฝึกจะมีคนที่ได้มโนชัดๆเข้ามาฝึกด้วยเสมอ ซึ่งจะทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกไม่อยากฝึกขึ้นมาทันที**** เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับ
    ดังนั้นข้าพเจ้าก็เลยนั่งทำใจพร้อมๆกับปลง ไหนๆก็เข้ามาแล้ว ก็ยังดีกว่านั่งข้างนอกล่ะนะ ข้างในมีแอร์เย็นนี่ ช่วงที่ฝึกก็ทำตามขั้นตอนอาจารย์ผู้สอนตามปกติ ตัวข้าพเจ้าเองก็ปกติเหมือนเดิม คือนั่งเล่นที่ศาลาหน้าวิมานตัวเองตามปกติ ^_^ เพราะถ้ามีคนที่ได้มโนชัดมานั่งฝึกด้วย ข้าพเจ้าจะไปไหนไม่เป็นเลย จนมาถึงช่วงนึง อาจารย์ผู้สอนพากลับมาที่วิหารแก้ว บอกกับนักเรียนทุกคนว่าที่วิหารของที่นี่จะมีเทวดาเยอะ ลองดูสิ ว่าเห็นไหม ถ้าเจอแล้วให้เข้าไปกราบท่านด้วย ณ ขณะนั้นตัวข้าพเจ้าเองเห็นว่า เอ๊ะ วหารแก้วอยู่ใกล้ๆนี่สบายเลย เลยแว้บจากศาลามาโผล่ที่วิหารแก้วทันที ก็เห็นเยอะนะครับ แต่เห็นแบบมืดๆไม่ชัดมาก แต่ก็ถือว่าเห็น ^_^ ทีนี้ตอนเห็นนี่สิ มีหลายองค์ อาจารย์บอกให้เข้าไปกราบ แล้วกราบองค์ไหนล่ะ เต็มศาลาไปหมดเลย หันซ้ายหันขวา ก็เห็นอยู่องค์นึงมีเครื่องประดับเต็มยศมากกว่าองค์อื่นๆก็วิ่งเข้ากราบอยู่แทบเท้าท่าน ทีนี้อาจารย์ผู้สอนก็ถามผู้ฝึกทุกคนว่า เห็นรึยังถ้าเห็นก็เข้าไปกราบเลยนะ รับหน่อย ดูสิ "นายนะโมวิ่งเข้าไปกราบคนแรกเลย" คนอื่นเห็นรึยัง .................... ความรู้สึกแรกของข้าพเจ้าอึ้งมากกกก เพราะตลอดเกือบเดือนที่ผ่านมาข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าไม่ได้อะไรเลย ไม่มีใครบอกไม่มีใครทัก มาวันนี้สิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นสิ่งที่ข้าพเจ้าทำในมโน มีคนเห็นมีคนรับรู้ นับจากนั้น ..........ตัวข้าพเจ้าก็ยังแอบไปนั่งเล่นที่ศาลาเช่นเดิม 55555 ^_^ แต่ก็ยังคงไปกราบหลวงพ่อบ่อยๆ
    นับจากนั้นจนถึงวันนี้ วันที่ข้าพเจ้ากลับมาอยู่บ้านมาทำหน้าที่ทางโลกเช่นเดิม หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่หาย คือข้าพเจ้ายังคงยึดมั่นในคำสอนหลวงพ่อ ยังคงยึดมั่นสะสมความดี สะสมบุญกุศลต่อไป
    จนกว่าลมหายใจของข้าพเจ้าจะดับลง
     
  14. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    โมทนาสาธุกับคุณ taudom มากๆครับห่างหายกันไปนาน ช่วงนี้ยุ่งๆเกี่ยวกับทางโลกและการใช้ชีวิตแล้วยังหาเรื่องเขียนนิยายออนไลน์ด้วยอีก ว่างๆมาทักทายกันได้ครับพี่น้องทุกท่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...