บุญที่ีถูกมองข้าม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย หัวมัน, 22 ตุลาคม 2013.

  1. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,947




    ^ ^

    จ๋าจ๊ะ
     
  2. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    กระทู้นี้ดีมาก ให้แง่คิดดีๆตั้งแต่แรกๆ ที่เข้ามาอ่าน
    การทำบุญแต่ไร้น้ำใจพบเห็นทั่วไปในหมู่ชาวพุทธ
    การทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทน คือการช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ยากเดือดร้อนทั้งๆ ที่เขาไม่สามารถให้คุณให้โทษแก่เราได้ เป็นการทำบุญที่ประเสริฐศรี
     
  3. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,951
    ชอบมากค่ะ
    เคยอ่านเรื่องนี้ ในหนังสือ อยู่อย่างสง่า (ของ ดร.อะไร จำไม่ได้ค่ะ)

    ก็วิจารย์คนไทยในลักษณะนี้เหมือนกัน ชอบทำบุญแต่แล้งน้ำใจ และเลือกบุคคล เน้นไปที่พระสงฆ์ เสียมากกว่า
    ยิ่งหากวัดไหนพระดัง พระดี คนก็จะไปมากกว่า วัดจนๆ ไม่มีชื่อเสียง

    และในหนังสือก็มีเขียน เรื่อง มุทิตา
    คนไทย มักมีเมตตา แต่ขาด มุทิตา ไม่ค่อยยินดีในความสุขของผู้อื่น มักจะหลุดปากเสมอๆว่า น่าอิจฉาจังนะ
     
  4. mayamo

    mayamo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +120
    ทุกวันนี้เราสอนให้รักษาศีล โดยเฉพาะศีล 5 แต่เราไม่ได้สอนเรื่องคุณธรรม
    1.ห้ามฆ่าสัตว์ ใช่เราห้ามแล้วต้องสอนให้มีเมตตาสงสารสัตย์ด้วย
    2.ห้ามลักทรัพย์ เราต้องคอยระวังทรัพย์ให้ผู้อื่นที่เป็นเพื่อนบ้านเราด้วย
    3.ห้ามประพฤติผิดในกาม ต้องสอนลูกเราที่เป็นผู้ชายให้มีและรู้จักความรับผิดชอบ
    4.ห้ามพูดปด ห้ามพูดให้ร้ายผู้อื่น
    5.ห้ามดื่มสุรา ถ้าดื่มเมื่อไรจะเป็นต้นเหตุทำลายศีลทุกข้อ
     
  5. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,947
    Suwanna Thongyoo ปุจฉา
    - นมัสการค่ะพระคุณเจ้า หนูสงสัยมานานมากแต่ยังหาคำตอบไม่ได้สักที

    หนูเห็นคนรอบตัวที่เข้าวัด สวดมนต์ ไปถือศีลปฏิบัติธรรม

    แต่ทำไมเขาถึงยังขี้โมโห เหวี่ยง วีน ไม่ปลง เพราะอะไรคะ


    พระไพศาล วิสาโล วิสัชนา
    - มีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าวัดเพราะสนใจแต่พิธีกรรมหรือรูปแบบ

    เพราะคิดว่าถ้าทำตาม พิธีกรรมหรือรูปแบบแล้ว จะประสบความสุขความเจริญ

    แต่ไม่ได้มุ่งขัดเกลาจิตใจของตนอย่างแท้จริง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่เข้าใจจุดมุ่งหมายของการปฏิบัติธรรม นั้น

    เช่น สวดมนต์ ก็สวดแต่ปาก ส่วนใจกลับลอยไปที่อื่น อีกทั้งไม่เข้าใจความหมายของบทสวดมนต์ด้วย จึงไม่ได้ทั้งสติ สมาธิ และปัญญา

    ส่วนคนที่ถือศีลนั้น ก็ถือเพียงรูปแบบ คิดว่าทำแล้วจะประสบโชคลาภ ร่ำรวย หรือไปเกิดเป็นเทวดาในภพหน้า

    ไม่เข้าใจว่าศีลนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดละขัดเกลากิเลส เมื่อถือศีลด้วยความเข้าใจที่ผิด กิเลสจึงไม่ได้ลดลง แถมมีทิฐิมานะมากขึ้น

    คือ คิดว่าต้องถือศีลแบบฉันเท่านั้นจึงจะถูกต้อง หรือหลงตนว่าถือศีลบริสุทธิ์กว่าคนอื่น เกิดอาการยกตนข่มท่าน

    ยังไม่ต้องพูดถึงว่า บางคนต้องกดข่มความอยากหรือกิเลสเอาไว้ จึงทำด้วยความเครียด ผลก็คือหงุดหงิดง่าย และพร้อมจะระบายความเครียดใส่คนอื่นโดยไม่รู้ตัว

    ดังนั้นลำพังการเข้าวัด สวดมนต์ ถือศีล ยังไม่ใช่หลักประกันว่าจะทำให้เป็นคนดี ใจเย็น มีเมตตา โอบอ้อมอารี หรือปล่อยวาง

    จะต้องทำมากกว่านั้น คือมีความเข้าใจจุดมุ่งหมายของการปฏิบัติ อีกทั้งปฏิบัติได้ถูกต้องตามจุดมุ่งหมายนั้น

    การปฏิบัติดังกล่าว เรียกว่า "ธัมมานุธัมมปฏิบัติ" คือ ปฏิบัติธรรมโดยสมควรแก่ธรรม

    หาไม่แล้วแม้ถือศีลแปด ก็กลายเป็น “ศีลแปดเปื้อน” ได้ หาใช่ศีลแปดอริยะไม่

    อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าคนที่คุณเห็นว่าขี้โมโห หงุดหงิด ไม่ปล่อยวางทั้ง ๆ ที่เข้าวัดปฏิบัติธรรมนั้น ที่จริงเขามีพัฒนาการดีขึ้นแล้วจากการไปวัด

    หากไม่ได้ไปวัดอาจจะมีอาการยิ่งกว่านี้

    เราไม่ควรคาดหวังว่าใครที่เข้าวัดปฏิบัติธรรมแล้ว จะต้องกลายเป็นคนสงบเยือกเย็นปล่อยวางในทันที

    ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินว่าเขาได้ประโยชน์จากการไปวัดหรือไม่

    ควรเปรียบเทียบว่าก่อนและหลังไปวัดมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับเขามากน้อย เพียงใด อย่าดูเพียงแค่ หลังจากไปวัดแล้วเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...