นรก-สวรรค์มีจริงไหมครับ ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย okใช่เลย, 26 พฤษภาคม 2015.

แท็ก: แก้ไข
  1. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    เทียบสถานการณ์คนในอดีต กับ สถานการณ์ (...) ในปัจจุบัน

    พุทธพจน์แสดงหลักศรัทธา


    ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าเสด็จจาริก ถึงเกสปุตตนิคมของพวกกาลามะ ในแคว้นโกศล ชาวกาลามะ ได้ยินกิตติศัพท์ของพระองค์ จึงพากันไปเฝ้า แสดงอาการต่างๆกัน ในฐานะยังไม่เคยนับถือมาก่อน และได้ทูลถามว่า

    ชาวกาลามะ: พระองค์ผู้เจริญ มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มาสู่เกสปุตตนิคม ท่านเหล่านั้น แสดงเชิดชูแต่วาทะ (ลัทธิ) ของตนเท่านั้น แต่ย่อมกระทบ กระเทียบ ดูหมิ่น พูดกดวาทะฝ่ายอื่น ชัดจูงไม่ให้เชื่อ สมณพราหมณ์อีกพวกหนึ่ง มาสู่เกสปุตตนิคม ท่านเหล่านั้น แสดงเชิดชูแต่วาทะของตนเท่านั้น แต่ย่อมกระทบกระเทียบ ดูหมิ่น พูดกดวาทะฝ่ายอื่น ชัดจูงไม่ให้เชื่อ พวกข้าพระองค์ มีความเคลือบแคลงสงสัยว่า บรรดาสมณพราหมณ์เหล่านั้น ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ

    พระพุทธเจ้า : “กาลามชนทั้งหลาย เป็นการสมควรที่ท่านทั้งหลายจะเคลือบแคลง สมควรที่จะสงสัย ความเคลือบแคลงสงสัยของพวกท่านเกิดขึ้นในฐานะ กาลามชนทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย...

    (ฯลฯ ตัดออก)

    เมื่อใด ท่านทั้งหลายรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้ เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ มีโทษ ธรรมเหล่านี้ วิญญูชนติเตียน ธรรมเหล่านี้ ใครยึดถือปฏิบัติถึงที่แล้ว จะเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์ เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายพึงละเสีย ฯลฯ เมื่อใด ท่านทั้งหลาย รู้ด้วยตนเองว่า ธรรม เหล่านี้ เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ วิญญูชนสรรเสริญ ธรรมเหล่านี้ ใครยึดถือปฏิบัติถึงที่แล้ว จะเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายพึงถือปฏิบัติบำเพ็ญ ธรรมเหล่านั้น”

    ในกรณีที่ผู้ฟังยังไม่รู้ไม่เข้าใจ และยังไม่มีความเชื่อในเรื่องใดๆ ก็ไม่ทรงชักจูงความเชื่อ เป็นแต่ทรงสอนให้พิจารณาตัดสินเอาตามเหตุผลที่เขาเห็นได้ด้วยตนเอง เช่น ในเรื่องความเชื่อทางจริยธรรมเกี่ยวกับชาตินี้ชาติหน้า ก็มีความในตอนท้ายของสูตรเดียวกันนั้นว่า

    “กาลามชนทั้งหลาย อริยสาวกนั้น ผู้มีจิตปราศจากเวรอย่างนี้ มีจิตปราศจากความเบียดเบียนอย่างนี้ มีจิตไม่เศร้าหมองอย่างนี้ มีจิตบริสุทธิ์อย่างนี้ ย่อมได้ประสบความอุ่นใจถึง ๔ ประการ ตั้งแต่ในปัจจุบันนี้แล้ว คือ

    ถ้าปรโลกมีจริง ผลวิบากของกรรมที่ทำไว้ดีทำไว้ชั่วมีจริง การที่ว่าเมื่อเราแตกกายทำลายขันธ์ไปแล้ว จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ก็ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปได้” นี้เป็นความอุ่นใจประการที่ ๑ ที่เขาได้รับ

    ถ้าปรโลกไม่มี ผลวิบากของกรรมที่ทำไว้ดีทำไว้ชั่วไม่มี เราก็ครองตนอยู่โดยไม่มีทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน เป็นสุขอยู่แต่ในชาติปัจจุบันนี้แล้ว” นี้เป็นความอุ่นใจประการที่ ๒ ที่เขาได้รับ

    ก็ถ้า เมื่อคนทำความชั่ว ก็เป็นอันทำไซร้ เรามิได้คิดการชั่วร้ายต่อใครๆ ที่ไหนทุกข์จักมาถูกต้องเราผู้มิได้ทำบาปกรรมเล่า” นี้เป็นความอุ่นใจประการที่ ๓ ที่เขาได้รับ

    ก็ถ้า เมื่อคนทำความชั่ว ก็ไม่ชื่อว่าเป็นอันทำไซร้ ในกรณีนี้ เราก็มองเห็นตนเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสองด้าน” นี้เป็นความอุ่นใจประการที่ ๔ ที่เขาได้รับ
     
  2. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    เนื่องจากเรื่องนรก สวรรค์ จัดเป็นอจินไตย อย่างหนึ่ง คือเป็นเรื่องผู้ได้ฌาณ ที่จะเห็นรู้ได้เฉพาะตน เป็นเรื่องกฎแห่งกรรม อันจัดว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก หมายถึงอย่าคิดไปกว่าที่ตนรู้ตนเห็น

    ตอนแรกก็ว่า จะแสดงความเห็น แต่ติดว่า นรก สวรรค์ มันเป็นสองเรื่องที่จะพูดกัน คือ พูดกันตามคำสอน ตามพระไตรปิฎก หรือจะพูดในฐานะสิ่งที่รู้ได้ด้วยฌาณ ซึ่งเป็นการรู้เฉพาะตน ถ้าคนนอกพุทธ มาฟัง คนสมัยใหม่มาฟัง พระไตรปิฎกก็เป็นเรื่องบันทึกเล่าขาน แถมเค้าว่าการบอกเล่าสุดท้ายปลายทางมันพี้ยน เค้าทดลองเอาคนแรกบอกสิ่งหนึ่งให้คนที่สอง คนที่สอง บอกคนที่สาม ..จนคนที่หนึ่งร้อยฟัง ความมันจะไม่ใช่สิ่งที่คนแรกบอก คนสมัยใหม่เค้าถืออย่างนั้น การพิสูจน์เรื่องนรก สวรรค์ จึงยาก

    คนนอกพุทธ อาจกล่าวได้ว่า คนสมัยก่อน รับรู้หรือเชื่อเรื่องชาติหน้าชาติหลัง ในเมื่อพุทธองค์ไม่ติดสมุมุติ แต่ต้องสอนคนมีสมมุติ นรก สวรรค์ จิตคนมันสร้างขึ้นทั้งนั้น พุทธองค์จะไปทำลายความเชื่อเค้าทำไม ให้เกิดการสอนยากสอนเย็น ในเมื่อพิจารณาธรรมโดยปรมัตถ์ ไม่มีอะไรเลย นอกจาก ธาตุจากธรรม นรก สวรรค์เป็นความจริงแก่จิตที่ติดสมมุติเท่านั้น

    มีผู้แย้งคำกล่าวคนนอก เพราะถ้านรก สวรรค์ เป็นสิ่งสมมุติของจิต แล้วไซร์ กฎแห่งกรรมจะมีคนฟังหรือครับ โลกทิพย์คือ นรก สวรรค์ จึงต้องมีอยู่จริง เหมือนโลกอื่น จักรวาลอื่น

    ถ้าแม้นคนยอมรับว่าโลกทิพย์มีจริง นรก สวรรค์มีจริง กฏแห่งกรรมก็เป็นไปได้
    แต่ถึงแม้ไม่มี นรก สวรรค์ แต่ถ้าคนยอมรับว่า กฏแห่งกรรม ว่าเป็นกลไกของธรรม ของธาตุ แล้ว จะรู้ว่า นรก สวรรค์ ย่อมมีแก่ผู้ทำดีทำชั่วติดสมมุติ แต่นรก สวรรค์ไม่มีแก่ผู้นิพพานเข้าถึงปรมัตถ์ธรรม กฎแห่งกรรมก็ใช้ได้อยู่ดี เรียกว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ จิตสังขารปรุงแต่งไปตามสมมุติ จริงสำหรับผู้สมมุติ ไม่มีแก่ผู้นิพพาน

    อุตส่าห์ไปตั้งถกเรื่อง ฝัน นิมิต โลกทิพยื เป็นพื้นก่อน แต่แห้วครับ เลยกลับมาแสดงความเห็นนรก สวรรค์ มีจริงหรือไม่ ดีกว่า

    ตัดเรื่องฌาณ ไปเลยดีกว่า

    เอวัง คร้าบบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2015
  3. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    คือมันเหมือนกะการจองห้องโรงแรมไว้

    ในห้องจะมีอาหารคือเจตนา มันมีแบบห้องรวมเหมือนโรงพยาบาลหนะ
    ห้องเตียงรวมห้องเตียงเดี่ยว

    ในตำราในนิทานอาจจะไม่เหมือนที่ผมเล่า

    คนเราพอตาย ถ้าจะไปเกิดในนรก หรือสวรรค์
    จะมีการจองห้องเอาไว้แล้ว มีคิวด้วย
    ห้องเต็มไม่ว่างจะต้องไปรอด้วย
     
  4. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ถ้าเราฝึกจิตตะ
    ให้ไม่กินเนื้อที่ ไม่ขอคืนพื้นที่ ไม่จองเนื้อที่
    โอกาสที่จะต้องไปสวรรค์ นรก พรหมโลก
    เกิดเป็ฯคน สัตว์ อสุรกาย เปรต
    ก็ยาก

    หาแดนกำเนิดยาก

    อาจจะไปสุขาวดีพุทธเกษตรมั้ง

    ผมไปพุทธกำแพงแสน
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    คุณลอกมาแล้วรีไรต์บ้างหรือเปล่าเนี่ย

    ทำไมลุงแมวอ่านไม่รู้เรื่อง ลุงแมวโง่หรือพระสูตรปลอม
    กันแน่

    แต่ถ้าเป็นภาษาในพระสูตรแท้ ก็อ่านไม่งงแบบนี้นะฮะ
    บรรทัดท้ายนี่มันแปลว่าอะไร. งึมงำงึมงำ
     
  6. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าเสด็จจาริก ถึงเกสปุตตนิคมของพวกกาลามะ ในแคว้นโกศล ชาวกาลามะ ได้ยินกิตติศัพท์ของพระองค์ จึงพากันไปเฝ้า แสดงอาการต่างๆกัน ในฐานะยังไม่เคยนับถือมาก่อน และได้ทูลถามว่า

    ชาวกาลามะ: พระองค์ผู้เจริญ มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มาสู่เกสปุตตนิคม ท่านเหล่านั้น แสดงเชิดชูแต่วาทะ (ลัทธิ) ของตนเท่านั้น แต่ย่อมกระทบ กระเทียบ ดูหมิ่น พูดกดวาทะฝ่ายอื่น ชัดจูงไม่ให้เชื่อ สมณพราหมณ์อีกพวกหนึ่ง มาสู่เกสปุตตนิคม ท่านเหล่านั้น แสดงเชิดชูแต่วาทะของตนเท่านั้น แต่ย่อมกระทบกระเทียบ ดูหมิ่น พูดกดวาทะฝ่ายอื่น ชัดจูงไม่ให้เชื่อ พวกข้าพระองค์ มีความเคลือบแคลงสงสัยว่า บรรดาสมณพราหมณ์เหล่านั้น ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ

    พระพุทธเจ้า : “กาลามชนทั้งหลาย เป็นการสมควรที่ท่านทั้งหลายจะเคลือบแคลง สมควรที่จะสงสัย ความเคลือบแคลงสงสัยของพวกท่านเกิดขึ้นในฐานะ กาลามชนทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย...

    (ฯลฯ ตัดออก)

    เมื่อใด ท่านทั้งหลายรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้ เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ มีโทษ ธรรมเหล่านี้ วิญญูชนติเตียน ธรรมเหล่านี้ ใครยึดถือปฏิบัติถึงที่แล้ว จะเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์ เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายพึงละเสีย ฯลฯ เมื่อใด ท่านทั้งหลาย รู้ด้วยตนเองว่า ธรรม เหล่านี้ เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ วิญญูชนสรรเสริญ ธรรมเหล่านี้ ใครยึดถือปฏิบัติถึงที่แล้ว จะเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายพึงถือปฏิบัติบำเพ็ญ ธรรมเหล่านั้น”
    เกสปุตตสูตรหรือกาลามสูตรจบแต่เพียงเท่านี้ครับ
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    อ้อ!!ครับ

    "ของแถม"พูดตามความเห็นแถมความงงให้มึนเล่นๆ
     
  8. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    เคยบอกแล้วว่า ให้เอาระดับพื้นๆ เป็นต้นว่า ตักบาตรพระตอนเช้าๆ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ไปก่อน (deejai)
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ความหมายของข้อความต่อไปนี้
    คืออะไรฮะ
    "“ก็ถ้า เมื่อคนทำความชั่ว ก็ไม่ชื่อว่าเป็นอันทำไซร้ ในกรณีนี้ เราก็มองเห็นตนเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสองด้าน” นี้เป็นความอุ่นใจ
     
  10. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    สงสัยข้อเดียว ยังไม่บอก แต่จะนำข้อความท่อนบนที่ลุงแมวไม่สงสัยมาวางเทียบอีกที ไปๆดูเลย

    ก็ถ้า เมื่อคนทำความชั่ว ก็เป็นอันทำไซร้ เรามิได้คิดการชั่วร้ายต่อใครๆ ที่ไหนทุกข์จักมาถูกต้องเราผู้มิได้ทำบาปกรรมเล่า” นี้เป็นความอุ่นใจประการที่ ๓ ที่เขาได้รับ

    เมื่อเข้าใจข้อนี้แล้ว มันสัมพันธ์กับข้อล่าง ติ๊กต๊อกๆๆๆ(deejai)

    ปล. ลุงแมวเป็นคนศรัทธาจริต ส่ิ่งที่ลุงแมวควรทำ (เจริญ) คือระลึกถึงคุณของพระรัตนไตร คือ คุณของพระพุทธเจ้า คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์ ก็เพียงพอแล้ว คือ นอกจากทำอย่างที่เคยบอกให้แล้ว

    ด้วยความเคารพ
     
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    แน่นอนเลยฮะสิ่งที่แนะนำลุงแมวมานี่ชัวร์มาก
    ได้มาตรฐาน
    สูงสุดแล้วครับและถือเป็น"ที่พึ่งที่ระลึก"อยู่นะฮะ
     
  12. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    เข้าใจที่ถามก่อนหน้าแล้วนะขอรับ :d
     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ไม่เข้าใจนะฮะ
     
  14. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    สาธุ จ้า (deejai)

    (นึกได้) ว่า พรุ่งนี้เป็นวันวิสาขะ ลุงแมวฟังสิ มีคำแปลด้วย

    https://www.youtube.com/watch?v=GyExvdY5tFs
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2015
  15. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    อีกซักหน่อย

    พระพุทธเจ้า เสด็จจาริกถึงหมู่บ้านพราหมณ์ชื่อ สาลา พวกพราหมณ์คหบดีชาวหมู่บ้านนี้ ได้ทราบกิตติศัพท์ของพระองค์ จึงพากันไปเฝ้า แสดงอาการต่างๆ ในฐานะ อาคันตุกะที่ยังไม่ได้นับถือกัน พระพุทธเจ้าตรัสถามว่า

    พระพุทธเจ้า: คหบดีทั้งหลาย พวกท่านมีศาสดาท่านใดท่านหนึ่งที่ถูกใจ ซึ่งท่านทั้งหลายมีศรัทธาอย่างมีเหตุผล (อาการวตีสัทธา) อยู่บ้างหรือไม่ ?


    พราหมณ์คหบดี: ไม่มีเลย ท่านผู้เจริญ

    พระพุทธเจ้า:
    เมื่อท่านทั้งหลาย ยังไม่ได้ศาสดาที่ถูกใจ ก็ควรจะถือปฏิบัติหลักการที่ไม่ผิดพลาดแน่นอน (อปัณณกธรรม) ดังต่อไปนี้ ด้วยว่า อปัณณกธรรมนี้ เมื่อถือปฏิบัติถูกถ้วน จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน หลักการที่ไม่ผิดพลาดแน่นอนนี้เป็นไฉน ?”


    สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะ มีทิฐิว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล การบำเพ็ญทานไม่มีผล
    การบูชาไม่มีผล ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำไว้ดีทำไว้ชั่วไม่มี โลกนี้ไม่มี ปรโลกไม่มี มารดาไม่มี บิดาไม่มี ฯลฯ ส่วนสมณพราหมณ์ อีกพวกหนึ่ง มีวาทะ มีทิฐิ ที่เป็นข้าศึกโดยตรงกับสมณพราหมณ์พวกนั้นทีเดียวว่า ทานที่ให้แล้วมีผล การบำเพ็ญทานมีผล การบูชามีผล ฯลฯ ท่านทั้งหลายเห็นเป็นไฉน สมณพราหมณ์เหล่านี้ มีวาทะเป็นข้าศึกโดยตรงต่อกันมิใช่หรือ “

    พราหมณ์คหบดี: ใช่อย่างนั้น


    พระพุทธเจ้า
    : สมณพราหมณ์ ๒ พวกนั้น พวกที่มีทิฐิว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล การบำเพ็ญทาน ไม่มีผล ฯลฯ สำหรับพวกนี้ เป็นอันหวังสิ่งต่อไปนี้ได้ คือ พวกเขาจะละทิ้ง กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต อันเป็นกุศลธรรมทั้ง ๓ อย่างเสีย แล้วจะยึดถือประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ซึ่งเป็นอกุศลธรรมทั้ง ๓ อย่าง ข้อนั้น เป็นเพราะเหตุอะไร ? ก็เพราะท่านสมณพราหมณ์เหล่านั้น ย่อมไม่มองเห็นโทษ ความทราม ความเศร้าหมอง แห่งอกุศลธรรม และอานิสงส์ในเนกขัมมะ อันเป็นคุณฝ่ายสะอาดผ่องแผ้วของกุศลธรรม”

    ในเรื่องนั้น คนที่เป็นวิญญูชน ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า “ถ้าปรโลกไม่มี ท่านผู้นี้ เมื่อแตกกายทำลายขันธ์ไป ก็ทำตนให้สวัสดี (ปลอดภัย) ได้ แต่ถ้าปรโลกมี ท่านผู้นี้ เมื่อแตกกายทำลายขันธ์ ก็จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เอาเถอะ ถึงว่าให้ปรโลกไม่มีจริงๆ ให้คำของท่านสมณพราหมณ์เหล่านั้น เป็นความจริงก็เถิด ถึงกระนั้น บุคคลผู้นี้ก็ถูกวิญญูชนติเตียนได้ในปัจจุบันี้เองว่า เป็นคนทุศีล มีมิจฉาทิฐิ เป็นนัตถิกวาท ก็ถ้าปรโลกมีจริง บุคคลผู้นี้ก็เป็นอันได้แต่ข้อเสียหายทั้งสองด้าน คือ ปัจจุบัก็ถูกวิญญูชนติเตียน แตกกายทำลายขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก อีกด้วย ฯลฯ
     
  16. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,884
    เทวดาสร้างบุญแล้วยกระดับได้ ถึงไปไหว้จุฬามณีเจดีย์กันบ่อย

    แต่ได้ยาก ถึงพากันลงมาเกิดโลกมนุษย์ทำถือศีลทำบุญภาวนากัน ไปไวกว่า

    แต่ก่อนก็ไม่เชื่อนะ พอของเก่ามามันเห็นนิดๆหน่อยๆก็สงสัย มันอะไรเน้อ

    พอลองทำมโนมยิทธิ ชัดเลยสวรรค์มันสุดยอดกว่าที่เขียนบอกกันซะอีก ส่วนนรกไม่น่าลงไปจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...