ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722


    ผมไม่ได้อยากมาถึงจุดนี้เลย
    แต่ผมถอยกลับไปเป็นปกติ

    ไม่ได้เสียแล้วครับ
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ถ้าผมจะบอกว่า "ผมไม่ได้คิดห่าอัลไลเลย" คุณจะเชื่อไหมละ
    ผมเคยคิด ก็แค่ตอนทำงาน เราทำงาน เราต้องรับผิดชอบ เรา
    จะไม่คิดห่าอะไรเลยไม่ได้ แต่ตอนนี้ ผมไม่ได้ทำงานรับผิดชอบ
    อะไร ผมทำไมต้องเสียแรงคิดอะไรด้วยละ?

    ผมก็ทำไปงั้นๆ รู้สึกยังไง ก็เขียนแม่งไปงั้นๆ
    เหมือนเวลาคุณมีอารมณ์โกรธ คุณก็ด่าเปิงไปเลย

    ไม่เห็นจะยากอัลไลเลยฮะ
     
  3. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ครับท่านดอกไม้แต่ถึงยังไงจะช้าจะเร็วยังไงก็ต้องเดินไปถึงจุดนั้นอยู่ดีไม่ใช่เหรอครับ
    ส่วนสำหรับผมมีความรู้สึกว่า ถ้าต้องรู้ล่วงหน้าว่าภูกระดึงมันมีอะไรยังไงมั่งที่นั้น ผมขอไม่รู้ดีกว่าครับ ขอไปที่ละก้าวค่อยๆซึมซับค่อยๆรู้มันดูสนุกและตื่นเต้นกว่านะครับเหมือนไปดูหนังแล้วมีคนมาบอกตอนจบนางเอกตาย โหขอลุ้นเองดีกว่า และถึงรู้ไปก็ยังเข้าใจสิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ดี เพราะขอบเขตเรายังไปไม่ถึง
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722


    ผมเหมือนถูกหลอก ถูกทำให้มีสภาพเช่นนี้
    ผมไม่ได้คิดจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกเลย

    คุณคงดูออก บางทีผมแสดงธรรม
    ไม่เหมือนพระที่แสดงแล้วน่าศรัทธา

    บางทีผมทำไปด้วยอารมณ์ประชดด้วยซ้ำครับ
     
  5. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ไม่เห็นต้องแสดงให้น่าศรัทธาอะไรเลยเพราะไม่ได้ต้องการให้ใครมาเคารพกราบไหว้อยู่แล้วนี่ครับ แสดงแค่ความจริงก็พอแล้วใครจะพอใจไม่พอใจช่างมันซิครับที่เหลือก็ให้ธรรมชาติคัดสรรกันเองก็พอแล้วละท่านดอกไม้
    เข้าใจครับคนทำหน้าที่มีน้อย คนที่สื่อได้ตรงๆแบบท่านดอกไม้ยิ่งหาแทบไม่ได้เลยก็กดดันหน่อยละครับ
    เหมือนกัลยาณมิตรผมเลย โยนงานคืนไป ตื่นเช้างานกลับมาในหัวอีกละทำเท่าไหร่ก็ไม่พอจริงๆครับ แต่ก็ทำกันต่อไปอยู่ดี
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ธรรมเก่าจะถูก "เก็บคืน" ธรรมใหม่จะมาแทน


    ดังที่เคยได้เขียนบอกไว้แล้วว่าเมื่อถึงกึ่งกลางพุทธกาล จะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย หนึ่งในนั้นคือ การปรับเปลี่ยนธรรมะ และการเก็บคืนธรรมเก่าเหมือนอย่าง "นาลันทา" ที่เคยถูกกวาดล้างและถูกเผานั้น ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะธรรมเก่าใช้กับสายสาวกยาน แต่ยุคใหม่จะไม่มีสายสาวกยานแล้ว จะมีแต่โพธิยาน (ส่วนปัจเจกยานก็ยังไม่ถึงวาระอยู่แล้ว) หรือกล่าวง่ายๆ คือ สายเถรวาทจะถูกกวาดล้างจึงเหลือแต่สายมหายาน ซึ่งเป็นพื้นฐานของ "ธรรมบัวบาน" ตามพระสัทธรรมปุณฑริกสูตร ด้วยก่อนหน้านี้มีพระสูตรสำคัญสองพระสูตรที่ถูกใช้มาก่อน ได้แก่ ปรัชญาปารมิตาสูตรและอวตังสกสูตร ตามลำดับกัน พระสูตรทั้งสองจะถูกเก็บหมดยุคเพื่อเริ่มยุคใหม่ พระสูตรที่ถูกใช้จึงเป็นสัทธรรมปุณฑริกสูตรแทน ดังนั้น เราจะเห็นคนกลุ่มหนึ่งทำหน้าที่ "เก็บกวาดพระธรรมเก่า" ของเก่า จะถูกหักล้างให้สิ้นไป จะถูกทำให้เลือนลางจางหายไป จะถูกสอนใหม่ว่าไม่ใช่หรือไม่ต้องเชื่ออีกต่อไป เช่น การถือศีลของพระสงฆ์ ก็จะมีคนมาหักล้างว่าไม่มีความจำเป็นอะไร ไม่ต้องยึดถืออีกต่อไป อะไรแบบนั้นครับ

    "สัทธรรมปุณฑริกสูตร" จะกลายเป็นพระสูตรสำคัญ หลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป ทว่า ผู้ที่จะรับธรรมนี้ได้ จะต้องมีพื้นฐานที่ดีมาก่อน คือ ได้บำเพ็ญ ได้ปฏิบัติในสายสาวกยานจนถึงที่สุดแห่งธรรม มาแล้วในอดีตชาติ (เคยสำเร็จเป็นพระอรหันต์มาแล้วในอดีตชาติ) ก็จะมาต่อสายธรรม สายโพธิยานไปสู่พุทธะได้ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าพระอรหันต์และพระพุทธเจ้า ละสังขารแล้วจะนิพพาน กลายเป็นความว่างเปล่า หายสูญไป ไม่ใช่นะครับ สมมุติธรรมสิ้นไป แต่วิมุติธรรมก็เป็นเช่นนั้นเองไม่ใช่หายไปไม่ใช่ความว่างสูญ นิพพานไม่สูญนะครับ คำว่า "สูญ" เป็นอุบายที่ปรากฎใน "ปรัชญาปารมิตสูตร" เท่านั้นเอง เรียกว่า "สุญตา" เป็นอุบายเครื่องแก้ความยึดติดก็เท่านั้น อย่ายึดมั่นถือมั่นมากเกินไป ใช้เป็นอุบายคลายความยึดติดก็พอแล้ว ต่อไป เขาจะไม่เน้นแล้ว เพราะจะใช้สัทธรรมปุณฑริกสูตรแทน เขาจะเน้นเรื่องยานทั้งสามและเอกายนมรรคคือ "พุทธะ" ทางเดียวหมายถึง ทุกคนมีศักยภาพในการบรรลุพุทธะได้เท่าเทียมกัน แต่ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไรเลย อยู่ๆ ก็เป็นพุทธะอยู่แล้วนะครับ เช่นนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ไม่ต้องมาสอนธรรมะอะไรใครด้วย ไม่แม้แต่จะพูดเรื่องพุทธะอะไร อย่างนั้นไม่ใช่ ทั้งนี้ ผู้มีบุญวาสนาจะได้รับพระธรรมนี้ จะต้องมีพื้นฐานทำมาแต่กาลก่อนแล้วดังกล่าว

    ดังนั้น เราจะเห็นกลุ่มคนมาเก็บกวาดล้างพระธรรมของเก่าครับ
     
  7. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    คล้ายๆ กับถ้ารับธรรมได้ก็เดินต่อไป ถ้ารับธรรมไม่ได้ก็โดนเก็บกวาดไป
    เหมือนผู้ที่พร้อมก็จะเข้าใจได้โดยไม่ยากอะไรส่วนผู้ที่รับไม่ได้ก็จะอึดอัดขัดข้องเป็นธรรมดาเหรอครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2016
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722


    เก็บกลับคืนเฉพาะธรรมเก่าครับ คนไม่ต้อง
    คนทุกคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน จะได้รับการ
    จัดสรรโดยธรรมชาติให้ไปประจำธรรมชาติ
    ต่างๆ แต่ละจุด บางจุดตำแหน่งว่างเป็นล้าน
    เช่น ในนรก ก็จะมีคนไปประจำตำแหน่งนั้น
    เป็นสัตว์นรก ซึ่งจำเป็นต้องมีทุกจุด ทุกคน
    ทุกตำแหน่งสำคัญไม่ต่างกันแล้วแต่ใครจะมี
    จะได้ จะเป็น จะเลือกเส้นทางเดินกันนะครับ
     
  9. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ไม่ต้องแย่งกันนะฮะ
    ดั๋ยหมดทู้กกกก คน



    [​IMG]
     
  10. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อ่าครับเก็บธรรมละไม่ได้เก็บคนกล่าวผิดขอโทษที
    แบบนั้นก็ต้องมีคนทำหน้าที่ละครับไม่มีคนดูแลควบคุมก็แย่ซิครับ
     
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    พระสมณโคดมละสังขารด้วยนิพพานแบบใด?


    นิพพาน 2 แบบคือ สอุปาทิเสสนิพพาน (นิพพานเหลือเชื้อ) กับอีกอย่างหนึ่ง อนุปาทิเสสนิพพาน (นิพพานไม่เหลือเชื้อ) นั้นต่างกันอย่างไร? ก็ง่ายๆ ครับดูที่ว่า "เหลือเชื้อเกิดหรือไม่?" เช่น ตายแล้วร่างกายไม่เหลืออะไรเลย นิพพานหมดเลย แบบนี้ ไม่เหลือเชื้อแน่ แต่ถ้าตายแล้วเหลือร่างสรีระสลายกลายเป็นธาตุสี่ปกติแบบนี้ก็ไม่มีเชื้อเกิดครับ เพราะธาตุสี่เป็นธรรมชาติ มาจากธรรมชาติแล้วเกิดเป็นสังขารมนุษย์ สิ้นสังขารมนุษย์ก็กลับคืนสู่ธรรมชาติ แต่ถ้าเหลือ "พระธาตุ" ซึ่งไม่ใช่ธาตุสี่ แต่เป็นธาตุอื่นๆ อันเกิดจากสมาธิจิตหรืออะไรก็ตาม แบบนั้นเรียกว่า "เหลือพระธาตุเป็นเชื้อเกิด" นี่ก็เรียกว่า "สอุปาทิเสสนิพพาน" เมื่อเหลือเชื้อเกิด ก็ต้องกลับมารวมธาตุแล้วกระทำ "พระธาตุนิพพาน" ในครั้งปิดยุคพุทธกาลอีกครั้งนี่จึงจะจบกิจนะครับ ดังนั้น จึงมีคำทำนายให้ไว้ว่าพระสมณโคดมจะกลับมารวมธาตุ และกระทำพระธาตุนิพพานอีกครั้ง เมื่อสิ้นอายุพุทธกาล ในครั้งนั้น มนุษย์จะไม่ได้เห็น มีแต่เทวดาเท่านั้นที่เห็น

    หลายคนเข้าใจผิด และสอนกันผิดๆ ว่าสอุปาทิเสสนิพพานนั้นเป็นนิพพานดิบเกิดก่อนตาย ส่วนอนุปาทิเสสนิพพานคือนิพพานสุกที่เกิดตอนตาย ถามว่าไปเอามาจากไหนครับ? สรุปกันไปเอง คิดกันไปเอง เข้าใจกันไปเอง แล้วพอมีคนมาเตือนสติว่ามันไม่ใช่ ก็ออกมาโวยวายปกป้องอุปทานกันไปเอง ในครั้งละสังขารนั้น ท่านไม่มีการนิพพานที่เรียกว่า "อนุปาทิเสสนิพพาน" แต่ท่านละสังขารในระหว่างฌานสามกับฌานสี่ อันนี้มีบันทึกไว้ชัดเจนว่าท่านเข้าฌานแล้วละสังขารระหว่างสององค์ฌานนี้ ไม่มีใครบอก และไม่มีใครบันทึกไว้เลยว่าท่านละสังขารแล้วกระทำอนุปาทิเสสนิพพาน มีแต่ "คิดกันไปเอง" ทั้งนั้น คิดกันไปเองผิดๆ แล้วไปขัดแย้งกับตำราที่เขาบันทึกไว้ด้วยว่าจะทรงกลับมารวมธาตุ แล้วทำพระธาตุนิพพาน แล้วยึดมั่นกันไปผิดๆ หาคำอธิบายและข้ออ้างต่างๆ นานา ให้งงกันไปเองเสียอย่างนั้น มันไม่มีหรอกนิพพานดิบที่ได้ก่อนตายและนิพพานสุกที่ได้ตอนตาย มันมีนิพพานที่ได้ก่อนตายคือ สอุปาทิเสสนิพพาน และนิพพานที่กระทำหลังจากนั้นตอนกลับมารวมธาตุแล้วกระทำพระธาตุนิพพาน เรียกว่า "อนุปาทิเสสนิพพาน" ครับ

    พูดเรื่องนิพพานไป ไม่มีประโยชน์รังแต่จะเถียงกันด้วยอีโก้ครับ
     
  12. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ผมว่ายังไงทุกคนก็ต้องก้าวไปอยู่ดีละครับ อยู่ที่ว่าจะอยู่จุดไหน
    บางทีถ้าท่านไม่อยู่จุดนี้อาจจะเหนื่อยมากกว่านี้ก็ได้ครับ ท่านดอกไม้ยังอยู่ในจุดที่เลือกได้บ้างแต่ทำๆไปผมว่ามันก็จะชินไปเองหรือเปล่าครับ ก็จะกลายเป็นธรรมดา๐ไปก็ใช้เวลาหน่อยมั้งครับ
    เพราะรับหรือไม่รับก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว หาความสุขหาความสนุกจากสิ่งที่ทำดีกว่าครับ เผื่อทีจะปิ้งอะไรก็ได้นะท่านดอกไม้ แล้วท่านจะขอบคุณคนที่นำท่านมายังจุดนี้ก็ได้ครับ
    ความเป็นตัวท่านดอกไม้ + ธรรมมะ =? เอาให้ข้างบนเขางงไปเลยว่าแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ อ่าผมจะพาท่านออกทะเลไปหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่ก็แลกเปลี่ยนจินตนาการกันก็แล้วกันนะครับ
     
  13. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    กรรมประเทศกำลังเข้ามา เตรียมตัวกันอย่างไรบ้าง?


    กรรมประเทศกำลังเข้าช่วงเดือนแปดไปจนถึงสิ้นไปนะครับ
    จริงๆ กรรมตัวนี้มาตั้งแต่เดือนหกแล้ว เป็นกรรมมวลรวม ซึ่ง
    จะกระทบกับคนทั้งประเทศ ไม่ใช่กรรมของใครคนใดคนนึง
    แต่เพราะมีการต้านทานพลังกรรมก้อนนี้ไว้ทำให้กรรมช้าลง
    ไปได้สองสามเดือนเท่านั้น กรรมบางส่วนถูกลดทอนลงไป
    แต่ก็ยังไม่หมดอยู่ดี ดังนั้น ท่านได้เตรียมตัวอะไรแล้วบ้าง?
    ในการรับมือกับกรรมที่จะเข้ามาถึง ซึ่งจะโดนทั้งประเทศ?

    ผมเองก็เตรียมตัวแล้ว พร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดแล้วครับ
     
  14. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,204
    เตรียมใจค่ะ เพราะถ้าเกิดขึ้นจริงมันเป็นกรรมพลังมวลรวมที่ทุกคนช่วยกันปลดปล่อยเหนือลอยขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า ที่แสดงถึงพลังงานรวมของทุกคน หรือ เรียกว่า ของประเทศก็ได้ค่ะ หากจะสลายกรรมนี้ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกัน

    แต่คนตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คือ นอกจากกรรมมวลรวมแล้ว ยังมีกรรมส่วนตนที่ล่อยลอยติดตามตนไปเป็นเหมือนเงาตามตัว ก็คือ พลังงานมืด หรือ พลังงานสว่าง พยายามรักษาความสว่างไสวของจิตใจไว้ค่ะ

    ตนเองรู้สึกแล้ว จะมีปรากฏการณ์มายาให้เห็น รู้ได้ด้วยใจว่ารักษาความสงบปกติสุขสมดุลของใจได้มั่นคงสม่ำเสมอแค่ไหน ตัวเองยังต้องขึ้น ๆ ลงอยู่เลยค่ะ ตอนนี้คิดว่าทำให้ดีที่สุดคงประมาทอะไรไม่ได้แล้วล่ะ
     
  15. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ผมอยู่ยุคโมเสสอยู่เลย ปลดปล่อยทาสยังไงดีเนี่ย ความรู้ก็ลืมหมดแล้ว
    คนอื่นก็เก่งกว่าผมเยอะแยะไม่เลือก คงคิดว่าการนิพพานดีกว่าละมั้ง
    ขอยืมพลังวิเศษเสกก้อนหินเป็นขนมปังจากพระเยซูทีสิครับ
    เรื่องโลกใหม่ไม่รู้เป็นไงมั่ง คงไม่พ้นสงครามเหมือนเดิม มนุษย์หนอมนุษย์
     
  16. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    กระแสน้ำจะไหล ช่วยกันกั้นช่วยกันปิดไว้ มวลน้ำที่สะสมก็ย่อมเพิ่มมากขึ้น ก็ได้แต่มองเขื่อนที่กำลังจะแตก ดีหรือไม่ดีก็ไม่รู้นะครับ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดรักษาตัวเองให้ดีๆไว้ก่อนละกันครับตอนนี้ก็ปลูกฟักปลูกแตงไว้กำลังแตกใบอ่อนอีก 2-3เดือนได้เก็บกินพอดี
     
  17. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เขียน ๑๗.๐๙

    ไม่ได้เตรียม ไม่เห็นรู้เรื่องเลยอ่ะ
    แต่ไม่รู้ว่า "ฝั่งโน้น" เตรียมรึเปล่านะ

    เอ๊ะ..น่าสงสัยแฮะ โดนไล่ให้กลับเกาะ
    โดนนิมิตรมาหลายลูกแล้ว เป็นระยะเลยอ่ะ

    ให้กลับไปที่เกาะนาฬิเกร์ ไปคุ้ยเขี่ยกองคัมภีร์
    อาทิตย์นึง สองอาทิตย์ หกเดือน หรือต้องหนึ่งปี

    เอ้า..ใครที่ "ฝั่งโน้น" จะใช้ร่าง ก็จ่ายล่วงหน้ามาก่อน
    เงินดีงานเดิน เงินเกินงานวิ่ง เงินนิ่งงานหยุด นะจ๊ะ นะจ๊ะ


    กระต่ายป่า แห่งเกาะนาฬิเกร์ / เหล่าเต้บในสวน

    .
     
  18. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    มนุษย์ยังมีโอกาสพัฒนาตัวเองได้
    สงครามก็ต้องได้รับโอกาสที่จะ
    พัฒนาตัวมันเองบ้างนะครับ
     
  19. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    นี่ทำนาบุญสู้นะ หาเนื้อนาบุญ
    แล้วก็ทำบุญกับเขาไป

    จริงๆ ก็มีอย่างอื่นด้วย
    แต่ไม่ค่อยเน้นอะไรเป็นพิเศษ
     
  20. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    มีคนเสียสละกั้นน้ำไว้มันก็ดีครับทำให้มีเวลาเตรียมตัวป้องกันแก้ไขกันได้ แต่น้ำที่ถูกกั้นไว้มันก็อาจจะระบายไปทางอื่นทิศทางอื่นก็ได้ไงครับ ก็ถึงได้กล่าวดีหรือดีก็ไม่รู้เพราะถ้านับโดยเจตนามันก็ดีทั้งหมดละครับ
    ทำก็ดีไม่ทำก็ดี เกิดขึ้นก็ดีไม่เกิดขึ้นก็ดี มองในฐานะคนธรรมดาๆคนนึงครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...