ธรรมกับภัยพิบัติจาก“ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น ”รวบรวมโดย:พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย chunhapong, 18 มกราคม 2014.

  1. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    เวลานี้ภัยพิบัติของธรรมชาติ เริ่มจักเยือนโลกมากขึ้นๆ ทุกๆ ขณะ เพราะคำว่าโลกแปลว่า มีความฉิบหายไปในที่สุด โลกนี้มีทุกขังเป็นเบื้องต้น (ไม่สามารถจะทรงตัวอยู่ในสภาพเดิม สภาวะเดิมได้) มีอนิจจัง (ไม่เที่ยงแท้แน่นอน) เป็นท่ามกลาง มีความอนัตตาไปในที่สุด (สลายตัวไปจากสภาวะหนึ่งไปสู่อีกสภาวะหนึ่ง เช่น วันนี้กินอาหารเข้าไปทางปาก พรุ่งนี้ก็กลายเป็นขี้ สีเหลืองเหมือนกันหมด แยกไม่ออกว่าของเดิมมันเป็นอะไรบ้าง) จิตจักได้เห็นความจริงของโลกให้มาก ทั้งโลกภายนอกและโลกภายใน คือ ขันธโลกหรือร่างกาย หรือขันธ์ ๕ เมื่อเห็นความจริงแล้วจิตจักได้มีความเบื่อโลก ไม่ต้องการเกิดมาในโลกนี้อีก เพราะจิตจักเห็นทุกข์ของการดำรงชีวิตอยู่ในโลกมากขึ้น ในขณะเดียวกันจิตเมื่อรู้ความจริงแล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนไม่เที่ยง (อนิจจา วะตะสังขารา) แต่อุปาทานตัวยึดมั่นถือมั่นมันคิดว่าเที่ยง ทุกข์เกิดขึ้นกับจิตเพราะเหตุนี้ (อุปาทา วะยะมะธัมมิโน) หากวางอุปาทานตัวยึดมั่นถือมันลงได้ จิตก็จักพ้นจากความทุกข์ (อุปปัชชิตวา นิรุชฌันติ) การไม่เกิดมามีร่างกาย (ขันธ์ ๕) อีก จึงเป็นยอดของความสุข หรือพระนิพพานเป็นยอดของความสุข (เตสังวูปะสะโม สุโข)
     
  2. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    เรื่องเหล่านี้ มิใช่พูดให้กลัว แต่พูดเพื่อให้ระมัดระวัง ถ้าหากมีเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ เกิดขึ้น จักได้มีสติ - สัมปชัญญะทรงตัว รับรู้ และสามารถแก้เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าได้ ดีกว่าอยู่อย่างไม่รู้ หรือรู้แล้วไม่เตรียมอะไรเอาไว้เลย ก็เป็นการประมาทอย่างยิ่งเช่นกัน ในกรณีตระเตรียมเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อสู้วิกฤติการณ์ของโลกนั้น จงอย่าเสียดายเงิน เพราะเงินทองแทบจักไม่มีความหมาย เพราะข้าวของจักมีราคาสูงขึ้นมาก และแทบจักหาซื้อไม่ได้ การเกิดมามีร่างกายในโลกใบนี้ จักต้องทนได้ทุกกรณี ให้เห็นเป็นธรรมดาของโลกให้มาก จักได้เบื่อหน่ายแล้วเข็ดจนไม่อยากจักกลับมาสู้กับโลกที่ไม่เที่ยง และเต็มไปด้วยความทุกข์ มีความสลายตัวไปในที่สุดอย่างนี้อีก
     
  3. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    อย่ากังวลใจในเหตุการณ์ที่จักเกิดขึ้นต่อไปในภายภาคหน้าทั้งปวง จงทำทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ จักได้ไม่มีความหนักใจ พึงใช้ปัญญาพิจารณาเหตุการณ์ทั้งหลาย ให้เป็นอารมณ์พระกรรมฐาน และอย่าท้อแท้ให้รักษาอารมณ์ของจิตให้เข้มแข็งเข้าไว้
     
  4. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    การวางอารมณ์จิตเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะบางครั้งหรือบ่อยครั้งที่นิวรณ์ ๕ เข้าแทรก ทำให้คิดผิดปฏิบัติผิดได้ ดังนั้นจึงพึงให้ความสำคัญกับอารมณ์ของจิตให้มาก เวลานี้ทฤษฏี แอลนิโย กับลามิน่าปรากฏกับโลก ภัยธรรมชาติย่อมเกิดขึ้นได้เหนือความคาดหมายเสมอ การตายหมู่จึงมีขึ้นได้หลายรูปแบบ จากดินถล่ม แผ่นดินไหว น้ำท่วมฉับพลัน ฝนตกมากเกินพอดี ลมพัดแรงเป็นพายุหมุนรุนแรง ในระดับต่างๆ ไฟไหม้จากอุบัติเหตุ และจากฟ้าผ่า เป็นต้น จึงพึงสังวรเตือนจิต และเตรียมจิตให้พร้อม และจิตจักต้องพร้อมทิ้ง - พร้อมละวางทุกสิ่งทุกอย่าง โดยไม่ห่วงอะไรทั้งหมด แม้แต่ร่างกาย มุ่งจุดเดียวที่จักไปคือพระนิพพาน จุดนี้จักต้องทำให้ได้ในขณะจิตเดียว ให้ซ้อมจิตปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่ห่วงอะไรทั้งหมด มุ่งสู่พระนิพพานจุดเดียวเท่านั้น พึงหมั่นทำดู ถ้าไม่ไหว ก็พิจารณาศีลข้อไหนพร่องบ้าง สมาธิจิตตรงไหนพร่องบ้าง นิวรณ์ข้อไหนกวนใจ ปัญญารู้แจ้งตามความเป็นจริงของร่างกายตรงไหนพร่องบ้าง แล้วตรวจดูบารมี ๑๐ จุดไหนยังอ่อนแอบ้าง เสริมกำลังใจให้เต็ม ค่อยๆ ทำไปไม่นานก็จักคล่องตัวได้เอง
     
  5. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    ให้คุณหมอแนะนำทุกคนให้นึกถึงคำสอนของท่านฤๅษี คือ นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ไว้เป็นที่พึ่ง ก่อนออกจากบ้าน ให้ภาวนาพุท - โธ แล้วกลืนน้ำลาย ๓ จบก็จะปลอดภัย ถ้าหากไม่แน่ใจ วัตถุมงคลทุกชนิดที่ท่านฤๅษีได้อาราธนาพระพุทธเจ้าทำเอาไว้ ก็ใช้ได้ทุกอย่าง แม้ทรายเสก พระธาตุรวมตัว น้ำมนต์ชาตรีก็สามารถกันสารพิษ หรือกัมมันตภาพรังสีได้ รวมทั้งผ้ายันต์ต่าง ๆ ด้วยเหล่านี้ เป็นต้น แต่อย่าลืมว่าทุกคนต้องตาย ให้เตรียมจิตเตรียมใจให้พร้อม ถ้ากฎของกรรมเข้ามาถึงก็หนีไม่พ้นเช่นกัน ไม่ว่าจักอยู่ที่ไหนในโลก ยกเว้นที่เดียวคือพระนิพพาน
     
  6. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    จงอย่าประมาทในเหตุการณ์ทั้งปวง เพราะความสงบภายนอกจักหาได้ยากเข้าทุกที จงหมั่นรักษาความสงบในจิตให้มาก เพราะภายนอกยิ่งร้อนมากเท่าไหร่ จักต้องรักษาภายในให้เย็นมากเท่านั้น พยายามพิจารณาหาเหตุ - หาผลให้มากด้วยอริยสัจ แล้วจักปล่อยวางเหตุการณ์ภายนอกลงได้ พิจารณาลงในความไม่เที่ยงทั้งหมด ยึดถืออะไรไม่ได้เลยในโลกนี้ มองทุกอย่างให้เห็นตามความเป็นจริง จิตจึงจักวางได้ การปฏิบัติธรรมให้ได้ผล จักต้องเดินตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระตถาคตเจ้า อย่าออกนอกลู่นอกทางจักไม่มีผล โดยให้มุ่งตัดกิเลสที่ใจของตนเป็นสำคัญ อย่าไปสนใจกับกิเลสของบุคคลอื่น มองดูทุกอย่างตามความเป็นจริง จักมีการปล่อยวางความโกรธ - หลงได้ง่าย อย่าไปแบกโลก แล้วอย่าไปแบกธรรม โลกก็เป็นอย่างนี้เป็นปกติ ธรรมก็เป็นอย่างนี้เป็นปกติ อย่าคิดว่ามีอะไรผิดธรรมดาเป็นอันขาด
     
  7. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    อย่ากังวลใจกับเหตุการณ์ใดๆ ทั้งปวง ให้รักษาอารมณ์อย่าให้ดิ้นรนเร่าร้อน จงพอใจ หรือมีความพอดีกับสถานการณ์ทุกๆ อย่าง ไม่ว่าเหตุการณ์เหล่านี้จักมีผลบวกหรือผลลบก็ตาม จงอย่าได้เดือดร้อนใจไปตาม ให้ค้นหาเหตุให้พบ (ให้ใช้อริยสัจ) จิตจักต้องรู้เท่าทันกฎของกรรมทุกเมื่อ แล้วจิตก็จักไม่ดิ้นรนเร่าร้อนไปกับสถานการณ์ทุกรูปแบบ การติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ กับข่าวต่างประเทศ ก็จักเห็นความไม่เที่ยง แปรปรวน รุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นระยะๆ ของสภาวะของดิน - น้ำ - ลม - ไฟ และอารมณ์อันไม่เที่ยงของผู้นำประเทศต่างๆ มากมาย อันเป็นชนวนในการนำไปสู่สงครามใหญ่ได้ทั้งสิ้น จึงควรหมั่นดูแลรักษาสุขภาพของร่างกายให้ดีด้วย เพราะกายนี้ก็ประกอบด้วยดิน - น้ำ - ลม - ไฟ ซึ่งไม่เที่ยง แปรปรวนอยู่เสมอเหมือนกับโลก จงอย่าประมาทในชีวิต ซึ่งสั้นลงทุกขณะจิต ให้หมั่นซ้อมตายและพร้อมตายไว้เสมอ กายพังเมื่อไหร่ จิตก็พร้อมไปพระนิพพานเมื่อนั้น
     
  8. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    อะไรมันจักเกิด มันก็ต้องเกิด ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกฎของธรรมดา เรื่องภัยธรรมชาติภัยจากสงคราม แม้แต่เรื่องใดๆ ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย กับวัด ก็ล้วนเป็นกฎของธรรมดา อย่าไปวิตกกังวล วางจิตให้ยอมรับธรรมดาก็จักไม่เป็นทุกข์ การฝืนโลกฝืนธรรม ฝืนสังขารร่างกาย ล้วนเป็นโทษมากกว่าเป็นคุณ ทุกอย่างต้องเดินสายกลางทั้งทางโลกและทางธรรม ทำใจให้ยอมรับกฎของธรรมดา (กฎของกรรม) ตั้งใจชดใช้กรรมไปเรื่อยๆ ตายเมื่อไหร่ก็มุ่งสู่พระนิพพานเมื่อนั้น การหมดภาระของขันธ์ ๕ ย่อมเป็นสุขอย่างยิ่ง ขอให้พวกเจ้ามุ่งหวังเข้าไว้ อย่าทำอารมณ์ใจให้พร่องไปกับอุปสรรคที่เข้ามาทดสอบจิตใจของแต่ละคน ให้เอาทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมฐาน แล้วจักเกิดประโยชน์ในการปฏิบัติธรรม
     
  9. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    ไม่ว่าภัยธรรมชาติ หรือภัยสงคราม พึงติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด แล้วให้พิจารณาลงเป็นกฎของกรรม พายุ น้ำท่วม - ไฟไหม้ ล้วนแล้วแต่โทษของกรรมอทินนาทานทั้งสิ้น โลกนี้มีคนไม่มีศีลมาก แม้แต่ในอดีตชาติของพวกเจ้าก็เป็นคนไม่มีศีล หรือบกพร่องในศีลมาก่อน มาปัจจุบันชาติแม้จักมีศีลแล้ว แต่กรรมต่างๆ ก็ทวงถามเข้ามาให้ได้รับผลอยู่ดี การเสียทรัพย์สินก็เป็นกรรมอทินนาทาน วิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงขึ้นทุกๆ ขณะล้วนแล้วแต่เป็นกฎของกรรมทั้งสิ้น โลกนี้ไม่เที่ยง โลกนี้เป็นทุกข์ โลกนี้อนัตตาไปในที่สุด อย่าหวังพึ่งโลกอีกต่อไป ให้เห็นโลกตามความเป็นจริง ไม่ว่าโลกภายนอกหรือ ขันธโลก ไม่สามารถพึ่งพาอาศัยได้ ที่อยู่นี้เพียงแค่ชั่วคราว ด้วยจิตมีความทะยานอยาก จึงต้องมาติดกับอยู่กับสภาวะของโลกเหล่านี้ แต่ถ้าเห็นธรรมดาแล้ววางเฉยเสีย เห็นด้วยปกติธรรมนั้น จิตมีแต่ดับตัณหาทั้ง ๓ ประการนั้นเสีย มุ่งหวังพระนิพพานเป็นที่ไปเท่านั้น จิตก็จักพ้นจากโลกทั้งปวง ไม่ต้องกลับมาทุกข์กับสภาพไม่เที่ยง เป็นอนัตตาอย่างนี้อีก
     
  10. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    อย่ากังวลเรื่องอนาคต ให้อยู่กับปัจจุบันธรรมให้มากที่สุด การเตรียมเป็นเรื่องของความไม่ประมาท แต่ให้พอเหมาะ - พอควร แต่จิตต้องลงกับคำว่าธรรมปัจจุบัน ซึ่งอยู่กับความไม่เที่ยงของโลกอยู่เสมอ แต่พยายามทรงจิตให้เที่ยงเข้าไว้ด้วย เพราะการยอมรับคำว่าไม่เที่ยงนั้น ๆ จักทำให้จิตไม่ฝืนธรรมทั้งหลายทั้งปวง และไม่ควรคำนึงถึงอนาคตในแง่เลวร้าย หรือตั้งความหวังไว้ว่าอนาคตจักประสบแต่สิ่งที่ดีๆ เพราะเป็นกามตัณหาหรือความทะยานอยากทั้งสิ้น กรณีต้นมีความอยาก คือไม่อยากให้มันเกิด กรณีปลายก็มีความอยาก คืออยากให้มันเกิด ทั้งสองประการล้วนเป็นกิเลสครอบงำจิต ให้เกิดตัณหาอุปาทาน สร้างอกุศลกรรมให้เกิดขึ้นได้ง่าย ทางที่ถูกควรวางอารมณ์ไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างดีหรือเลว ล้วนเป็นกฎของกรรมบังคับไว้ทั้งสิ้น แล้วให้พิจารณาว่า โลกนี้ดีก็ไม่นาน - ไม่เที่ยง หรือจักเลวก็ไม่นาน - ไม่เที่ยง หมุนเวียนเปลี่ยนไปอยู่เสมอ เป็นวัฏฏะสงสาร ผู้ไม่รู้จิตก็ติดข้องอยู่กับความไม่เที่ยงเหล่านี้ จึงต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏฏะสงสารนี้ ผู้ปรารถนาจักพ้นจากวงล้อนี้ จิตก็จักพยายามตัดสิ่งเหล่านี้ให้ออกไปเสมอๆ เมื่อมีสติระลึกรู้อยู่อย่างนี้บ่อย ๆ การปฏิบัติธรรมก็จักเกิดขึ้นได้ไม่ยากเย็น และจงอย่าลืมอนุสสติสุดท้าย คือ มรณานุสสติควบอุปสมานุสสติ (รู้ลม - รู้ตาย - รู้นิพพาน) ไว้ด้วย
     
  11. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    โลกไม่เที่ยง โลกเป็นทุกข์ โลกเป็นอนัตตา ธาตุ ๔ ประชุมกัน มีความแปรปรวนอยู่อย่างนี้เป็นปกติธรรมของโลก ถ้าหากยังข้องติดอยู่กับโลก ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ เช่น อากาศร้อนมาก, ความเย็นก็เย็นจัด, ไฟไหม้, น้ำท่วม, แผ่นดินไหว, ภูเขาไฟระเบิดคนตายมากมาย เหล่านี้ล้วนเป็นกฎของกรรม เป็นเรื่องของธรรมชาติลงโทษ หากยังไม่เห็นกฎของธรรมดา ก็จักต้องมาจุติให้พบกับโลกที่ไม่เที่ยงอยู่อย่างนี้อีก และจงอย่าคิดว่ากรรมเหล่านี้จักไม่มาถึงเรา โลกนี้แปรปรวนรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจักเป็นภัยธรรมชาติหรือภัยจากมนุษย์ด้วยกันเอง จงทำใจเอาไว้เสมอว่านี้เป็นธรรมดา อย่าไปแก้ไขโลก ให้ปล่อยวาง เบื่อหน่ายในโลกเสีย อย่าเห็นจุดใดจุดหนึ่งว่ามีความสุข จักทำให้หลงโลกและติดโลก ทำให้ต้องจุติอีกต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พิจารณาให้เห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง จนจิตใจยอมรับกฎของธรรมดา จิตเบื่อหน่าย แล้วที่สุดจิตก็จักปล่อยวาง จิตสงบเป็นสุขอย่างแท้จริงด้วยปัญญาที่เห็นทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริงนั้น (ประเทศไทยแม้จักโดนภัยธรรมชาติบ้าง ก็ยังเบากว่าประเทศอื่นมาก)
     
  12. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    เวลานี้เศรษฐกิจทรุดตัวลง ค่าครองชีพสูงขึ้น ให้พิจารณาเห็นทุกข์ให้มากๆ ทุกอย่างราคาจักสูงขึ้น อันเป็นภาระที่จำต้องยอมรับ จงใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงอย่างที่รัชกาลที่ ๙ ทรงตรัสแนะนำไว้ ทุกอย่างให้มันพอดีทั้งรายรับและรายจ่าย ชีวิตในช่วงนี้จึงต้องประหยัด หรือแม้แต่ทนไม่ได้ต้องต้องทนเนื่องจากกฎของกรรมเป็นอย่างนี้ สงครามน้อยใหญ่จักปะทุขึ้นมาตามลำดับ นี่ก็เป็นกฎของกรรมซึ่งหลีกเลี่ยงไม่พ้น ถ้าหากชาติที่แล้วพวกเจ้ากระทำตนให้ถึงซึ่งพระนิพพานเสียก่อน ก็ไม่ต้องเกิดมาพบกับกลียุคเช่นนี้ นี่ก็เป็นกฎของกรรมส่งผลให้เกิดมาในยุคเช่นนี้พอดี จึงมีอันต้องทน แล้วพึงตั้งใจให้มั่นคง ตายเมื่อไหร่ให้ถึงซึ่งพระนิพพานเมื่อนั้น แต่ในขณะที่มีชีวิตอยู่ ก็พึงเตรียมรับสถานการณ์ในทุกรูปแบบ จงจำไว้ว่าเลี่ยงไม่พ้นก็จงอย่าดิ้นรนเพื่อจักให้พ้น เพราะกฎของกรรมนั้นเที่ยงเสมอ จงทำจิตให้ยอมรับในกฎของกรรม และใช้โอกาสที่มีชีวิตอยู่นี้ปฏิบัติความดีเพื่อพระนิพพานด้วย จิตจักได้สงบ มีความเข้มแข็งต่อสู้กับอุปสรรคต่อไป ระหว่างมีชีวิตอยู่นี้ อย่าจริงจังกับงานให้มากนัก จักเกิดอารมณ์เครียด ให้ทำแบบสบายๆ ทำจริงๆ แต่ใจเบาๆ ถือมีความเบาใจในการทำงาน (เดินสายกลางตามหลักพรหมวิหาร ๔ ไม่ตึงไป คือ ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่หย่อนไป คือ ไม่ขี้เกียจไป กลายเป็นเบียดเบียนผู้อื่นเขา) การปฏิบัติกรรมฐานก็เช่นกัน ทำจริงแต่จักต้องมีอารมณ์เบาๆ ถ้าเครียดเมื่อไหร่ก็ไม่ได้ผลเมื่อนั้น อนึ่งการเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมดา จุดนี้สำคัญมาก เพราะจักเป็นเหตุให้จิตใจก้าวไปสู่ความเป็นพระอริยเจ้าเบื้องสูงได้ง่าย ให้ทำความเข้าใจและยอมรับกฎของธรรมดาให้มาก

    (ทุกประเทศทั่วโลกเขากำลังเร่าร้อนด้วยไฟภายใน ๓ กอง คือ โมหะ - โทสะ - ราคะ เมืองไทยก็ร้อนด้วยไฟ ๓ กองนี้ แต่ร้อนน้อยกว่าเขามาก แม้ขันธโลกคือตัวเราก็ยังมีไฟ ๓ กองนี้อยู่ แต่อยู่กับพระพุทธ - พระธรรม - พระอริยสงฆ์ อยู่กับพระรัตนตรัย อันเป็นอัปมาโณ คนฉลาดไม่มีใครทิ้งแก้ว ๓ ดวงนี้ไปจากจิตของเขา เรื่องอนาคตจงอย่าใส่ใจ เพราะยังไม่ถึง อย่าตีตนไปก่อนไข้ อย่าเป็นโรคปอดแหก - กลัวตาย - กลัวทุกข์โดยขาดสติทุกอย่างให้เดินสายกลาง และจงอย่าลืมว่า ทรงตรัสไว้ชัดว่า ภัยพิบัติของโลกเป็นกฎของกรรมซึ่งเที่ยงเสมอ มีทุกจุดในโลก แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว นับว่ายังน้อยมาก หากจักเทียบกับประเทศอื่นๆ ในโลก)
     
  13. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    วางอดีตลงเสีย เพราะคิดครั้งใดขาดทุนทุกที ทำให้เกิดอารมณ์ ๒ พอใจกับไม่พอใจ เป็นวิภวตัณหาสร้างทุกข์ให้เกิดทุกครั้ง เหมือนหอกข้างแคร่ คอยทิ่มแทงจิตทุกครั้งที่ถูกกระทบเข้า คิดให้ดีๆ จึงจักวางทุกข์ได้ ทุกอย่างเป็นกฎของกรรม ในโลกนี้ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎของกรรม หรือกฎธรรมดา หรืออริยสัจล้วนเป็นธรรมอันเดียวกัน เศรษฐกิจไม่ดี - ไฟไหม้, วาตภัย, อุทกภัย,ภัยจากขโมย โจร - ปล้น - จี้ แม้ภัยจากสงคราม ก็ล้วนเป็นกฎของกรรมแก้ไขไม่ได้ จักทนได้หรือไม่ได้ก็ต้องทน ให้เห็นทุกข์ให้มากๆ แล้วจักเบื่อโลก ปล่อยวางการเกาะติดโลก เห็นโทษของการมีขันธ์ ๕ จักทำให้เข้าถึงพระนิพพานได้ง่าย หลังจากเกิดสภาวะสงครามแล้ว พระพุทธศาสนาจักรุ่งเรืองมากขึ้น เนื่องจากคนเห็นทุกข์มากขึ้น มีผู้ปฏิบัติเพื่อให้ถึงหนทางพ้นทุกข์มากขึ้น พระอริยเจ้าก็มีมากขึ้นด้วย จากผลการปฏิบัติธรรมนั้น
     
  14. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    อยู่ในโลกย่อมหนีภัยของธรรมชาติไม่พ้น ฟังข่าวต่างประเทศระยะนี้ ต่างประเทศมีภัยธรรมชาติคุกคามอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้บางจุดในประเทศไทย ภัยธรรมชาติเหล่านี้นับวันจักทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น คนสมัยนี้มักมัวเมาชีวิตคิดว่าตนเองยังไม่ตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าเกิดมาเท่าไหร่ตายหมดเท่านั้น หลงในร่างกายคิดว่ามันเป็นเรา เป็นของเรา ทั้งที่ร่างกายเป็นเพียงธาตุ ๔ เข้ามาประชุมกันชั่วคราวด้วยกิเลส - ตัณหา - อุปาทาน และอกุศลกรรมเป็นเหตุ ไม่ช้าไม่นานธาตุทั้ง ๔ เหล่านี้ก็แตกดับไปตามกาลสมัย จิตที่ยังไม่หมดกิเลส - ตัณหา - อุปาทาน - อกุศลกรรม ก็แสวงหาภพ หาชาติ ไปเกิดตามกรรมต่อไปไม่รู้สิ้นสุด ให้พิจารณากฎของกรรมให้ลึกซึ้ง ทั้งกายกรรม - วจีกรรม - มโนกรรม อันใดจักเป็นปัจจัยให้ต้องไปจุติ ก็จงเพียรลดละซึ่งกรรมนั้น การเกิดก็เพราะกรรม การมีชีวิตอยู่ก็อยู่ด้วยกรรม (การกระทำ ๓ ประการ) จึงต้องควบคุมความประพฤติของกาย - วาจา - ใจ ให้อยู่ในขอบเขตของศีล - สมาธิ - ปัญญา และกรรมบถ ๑๐ ประการ ทำทุกอย่างเพื่อพระนิพพานอย่างเดียว จิตมุ่งตัดกิเลสให้หมดไปจากใจเท่านั้นเป็นพอ
     
  15. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    คำสอนใดๆ ที่เคยสอนแล้ว ให้ใคร่ครวญ - ไตร่ตรองคำสอนเหล่านั้นเอาไว้ให้ดี แล้วพยายามน้อมจิตด้วยปัญญาให้เข้าถึงคำสอนนั้นๆ อนึ่ง สุขภาพไม่ดีเท่าไหร่ พึงไม่ประมาทในชีวิตให้มากเท่านั้น เช่น ประมาทในเรื่องเสียดายเงินซื้อเครื่องกรองน้ำ ซึ่งจักทำให้พิษเบาบางลง น้ำก็จักสะอาดได้พอสมควร ในเบื้องหน้าเมื่อโรคระบาดหนัก หรือกรณีมีสงครามเกิดขึ้นแล้ว แม้น้ำจักผ่านเครื่อง กรองน้ำแล้ว ก็จักต้องต้มน้ำให้เดือด หยดน้ำมนต์ชาตรีลงไปอีกที จึงจักสมควรในกาลนั้น อย่าเสียดายค่าของเงิน ซึ่งต่อไปยิ่งจักน้อยค่าลงไปทุกวัน ให้เสียดายชีวิต ถ้าหากจักเดือดร้อนเพราะน้ำไม่สะอาดไปในเบื้องหน้า
     
  16. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    อันความห่วงใย และกังวลใจ ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ขบวนสงครามเริ่มขึ้นแล้ว ให้ติดตามข่าวต่างประเทศเอาไว้ให้ดี รวมทั้งข่าวภัยธรรมชาติจักเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ให้ทำความเบื่อหน่าย โลกเป็นเช่นนี้เนื่องด้วยความไม่เที่ยงเป็นเหตุ แล้วให้พิจารณาเห็นเป็นธรรมดาของโลก ให้ชำระจิตใจอย่ายึดเกาะสิ่งใดๆ ในโลก รวมทั้งขันธ์ ๕ ของตนเองและผู้อื่น ให้พิจารณาเข้าสู่ทุกข์แห่งอริยสัจให้มาก จิตจักเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง แล้วเกิดการปล่อยวางขึ้นอย่างจริงใจ
     
  17. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    อย่าสนใจในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดเข้ามาในชีวิต ให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดาว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาล้วนแล้วแต่เป็นกฎของกรรม เกิดขึ้น - ตั้งอยู่แล้วก็ดับไป ให้จิตกำหนดรู้ว่าทุกอย่างเป็นกฎของธรรมดา แล้วอย่าพึงไปวิตกว่าเบื้องหน้าเหตุการณ์จักเป็นอย่างไร ให้ปล่อยวางเห็นเป็นกฎของธรรมดา และอยู่ในธรรมปัจจุบัน จิตจักมีอารมณ์สงบและเป็นสุขมากที่สุด
     
  18. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    ร่างกายของใครก็ไม่สำคัญ ให้พิจารณาร่างกายของตนเองเป็นสำคัญ การที่ได้พบกับเหตุการณ์วิกฤติที่อันจักเกิดขึ้นในภายหน้า ก็จักทำให้พบกับความทุกข์หนักยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากพิจารณาร่างกายเหล่านี้มิใช่เรา มิใช่ของเรา จนจิตยอมรับนับถือร่างกายตามความเป็นจริง เมื่อถึงเวลานั้น แม้ชีวิตร่างกายจักแตกดับไปตรงหน้า ก็จักไม่ดิ้นรน เห็นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะความจริงของชีวิตมีเกิดเป็นเบื้องต้น เบื้องปลายก็มีความตายไปในที่สุด ร่างกายของใครก็เช่นกัน ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกก็มีสภาพเหมือนกันหมด อย่าสักแต่ว่าฟังหรือคิดว่าเข้าใจแล้ว การพิจารณาจักต้องให้ถึงที่สุด จนจิตสงบไม่ดิ้นรน ยอมรับกฎธรรมดา จิตเยือกเย็น จิตเป็นสุข มีความปล่อยวางภาระของขันธ์ ๕ หรือรูป - เวทนา - สัญญา - สังขาร - วิญญาณ สักแต่ว่าเป็นเครื่องอยู่ เป็นเครื่องอาศัยชั่วคราว จิตไม่ติดอยู่ด้วยอาการใดๆ ทั้งหมด ให้พยายามพิจารณาวางให้ได้แบบนี้อยู่เสมอ วันนี้ไม่ได้ ทำบ่อย ๆ เข้าโดยนึกได้เมื่อไหร่พิจารณาเมื่อนั้น แล้วต่อไปวันข้างหน้าก็จักได้เอง
     
  19. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    อย่าห่วงอนาคตให้อยู่กับปัจจุบันให้มาก การตระเตรียมเป็นการไม่ประมาท แต่ไม่ควรจักมีอารมณ์กังวลหรือห่วงใย ให้ตระเตรียมแต่ไม่ห่วง ทุกสิ่งทุกอย่างทำเป็นที่สบายใจ อย่าได้เป็นกังวลแม้แต่ชีวิต จงนึกเอาไว้เสมอว่า กฎของกรรมเป็นของเที่ยง ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงกฎของกรรมได้ จึงไม่จำเป็นต้องฝืนกฎของกรรม ทำจิตให้สงบยอมรับกฎของกรรม จิตก็จักเป็นสุข แม้สภาพร่างกาย หรือเหตุการณ์ภายนอกจักสร้างความทุกข์ ก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา จิตจักปล่อยวางลงตรงธรรมดา เห็นความไม่เป็นสาระของร่างกายและเหตุการณ์ภายนอก ไม่ข้องติดด้วยประการใด ๆ ทั้งปวงมีอารมณ์หนึ่งเดียวคือไม่ปรุงแต่งธรรม จิตตั้งมั่นอยู่กับพระนิพพาน ความทะยานอยากในการมีร่างกาย หรือเกาะติดกับเหตุการณ์ภายนอกนั้น ไม่มีเลย ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นทำตามหน้าที่ ร่างกายตายแล้วก็แล้วกัน (คำว่าการพิจารณาจักต้องให้ถึงที่สุด แม้แต่ศีล - สมาธิ - ปัญญา, ทาน - ศีล - ภาวนา การรอบรู้ในกองสังขารแห่งกายและแห่งจิต เรียกว่าปัญญา ถ้าพิจารณาเรื่องทุกข์ ที่สุดแห่งทุกข์ก็คือหมดทุกข์ จะหมดทุกข์จริงๆ ก็ต้องพิจารณาเข้าหาอริยสัจ ๔ คือทุกข์ - สมุทัย - นิโรธ - มรรค เป็นต้น)
     
  20. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    ร่างกายของใครก็ไม่สำคัญเท่ากับร่างกายของตนเอง พึงดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีด้วย อย่าให้เกิดทุกขเวทนาขึ้นมาเบียดเบียนจิตใจของตนเอง ตัวเมตตา - กรุณา จงมีให้กับกาย - วาจา - ใจของตนเองให้มาก การไม่ดูแลร่างกายของตนเองให้ดี เป็นการเบียดเบียนตนเอง อาหาร - เครื่องนุ่งห่ม - ที่อยู่อาศัย - ยารักษาโรค เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตของร่างกาย เหล่านี้จักต้องมีบริหารร่างกายอย่างครบถ้วน อาหารมีไว้กิน เครื่องนุ่งห่มมีไว้ปิดความอาย ยามีไว้รักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ที่อยู่อาศัยมีไว้เพื่อเป็นรังอยู่ - รังนอน ทุกอย่างเพื่อยังอัตภาพให้เป็นไป และเพื่อบรรเทาทุกขเวทนา ขาดอาหารก็หิว ขาดเครื่องนุ่งห่มก็ร้อนหนาว ขาดยาก็ป่วย ขาดที่อยู่อาศัยก็เบียดเบียนอย่างยิ่ง ต่อไปเบื้องหน้าปัจจัยเหล่านี้จักเป็นที่ขาดแคลนกับคนทั้งโลก พวกเจ้ายังโชคดีที่เกิดมาในเขตพระพุทธศาสนา เวลานี้ปัจจัย ๔ ยังอุดมสมบูรณ์ดีอยู่บ้าง แต่ต่อไปยังจักเกิดภาวะขาดแคลนขึ้นมา ก็พึงทำใจเนื่องด้วยเป็นกฎของกรรมของโลก ฝึกเมตตาพรหมวิหาร ๔ ให้ทรงตัวแต่ตอนนี้เป็นต้นไป จักได้มีจิตใจเยือกเย็นสงบลงได้ เมื่อเกิดเหตุไม่สงบขึ้นมากับโลก
     

แชร์หน้านี้

Loading...