ท่านทราบถึงความปรารถนาในโพธิญาณของตนเองเมื่อไหร่...?

ความรู้ วิสัย การบำเพ็ญปฏิบัติของ โคตรภูญาณสาวกภูมิก็ชั้นนึง
ความรู้ วิสัย การบำเพ็ญปฏิบัติของ โคตรภูญาณปัจเจกภูมิก็ชั้นนึง
ความรู้ วิสัย การบำเพ็ญปฏิบัติของ โคตรภูญาณพุทธภูมิก็ชั้นนึง

ต้องก้าวข้ามทุกๆชั้นขั้นตอนก่อน ถึงจะรู้แจ้งชัดว่า โคตรภู มีอาการ ลักษณะ ภาวะ เฉกเช่นใดตามความเป็นจริง
ความน่าจะเป็น มันต่างจากความจริง ของสัจจะโพธิธรรม

ไม่ต้องกลัวว่า ปฏิบัติเลยขั้นนี้ไปแล้ว จิตทั้งหมดจะลาพุทธภูมิ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

แม้ว่า ปฏิบัติเลยข้ามขั้นนี้ไปไกลแล้วก็ตาม จิต 99% จะบริสุทธิ์ตามมรรคผลที่ตนสั่งสมไว้ตามลำดับของแต่ละภูมิ แต่ก็ยังคงเหลือเศษจิตปราถนาเดิมอีก 1ส่วน ที่ยังคงค้างคาอยู่ หวนคำนึงถึงอยู่...ตลอด...ไม่ห่างหาย เพราะนี้คือ ลากเหง้าปฐมต้นจิตปราถนาโพธิญาณเดิมของตน จะปรากฏเด่นชัด เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว ก็จะแจ้งชัดเป็นลำดับๆของญาณต่างๆ ฝ่ายโพธิวิสัยภูมิต่างของการบำเพ็ญ

ถึงขั้นนี้แล้วจะดำรงอยู่ที่ ปัจเจกชน ปัจเจกวิสัย อธิบายหลักวิสัยนี้ให้ชนใดๆฟัง ก็ไม่มีผู้ใดใครๆเข้าใจ จำต้องปิดเงียบ

จึงเรียนมาด้วยความเคารพ.....

 

ผมไม่ได้มั่วโดยใช้หลักความน่าจะเป็น แต่ผมสงสับว่าข้อความสีแดงนี่ท่าจะมั่วไม่มีที่มาอะไร
ผมอยากทราบว่าข้อความสีแดงนี่คิดเอาเองใช่ไหมครับ ไม่งั้นเอาที่มามาให้ผมอ่านด้วย ถ้าแค่
เดาเอาใครก็สามารถทำได้ พูดลอยๆ ใครก็พูดได้ ที่คุณว่าเป็นสัจจะโพธิธรรมน่ะ ที่มีแบบ สาวก
ปัจเจก และพุทธภูมเลย เพราะถ้าไม่มีที่มามั่นแย่กว่าหลักความน่าจะเป็นเสียอีก

 

ท่านทราบถึงความปรารถนาในโพธิญาณของตนเองเมื่อไหร่...?

ตอบ...ตอบยาก เพราะไม่ได้ปรารถนาอะไรเลย แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่อาจจะเริ่มปรารถนาเมื่อกี้นี้ตอนอ่านหัวข้อกระทู้ล่ะ แหะๆ ^^"<!-- google_ad_section_end -->

 

ขออนุโมทนาด้วยครับพอจะเห็นอะไรลางๆ ขึ้นมาบ้างแล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ ใช่แล้วครับ ขนาดเล็กๆยังต้องเรียนรู้ให้หมดเลย ใหญ่ๆแบบนั้นก็คงจะข้ามไปไม่ได้เหมือนกัน
มิน่าล่ะ ที่พระโพธิสัตว์ใหญ่ทั้งหลาย ท่านสามารถสอนลูกศิษย์ถึงมรรคผลได้ แต่ท่านก็ไม่เคยประมาท โดยการส่งไปให้ผู้ที่บรรลุธรรมที่แท้จริงตรวจสอบอีกที