ท่านคิดว่า บอร์ดเริ่มเงียบ เพราะสาเหตุใด

ปลงซะ... ไม่ปลงจะเสียใจ

 

รู้วันนัดพบแล้ว ช่วงนี้ก็ร้องเพลง " รอ " ไปพลางๆก่อน (sing)

 

สงสัยจะรอเก้อแล้วล่ะครับ
เทวสภามีมติให้"เลื่อน"เรียบร้อยแล้ว... ตอนนี้เรามีเวลาเพิ่มอีก 3 ปี และเมื่อครบ 3 ปีค่อยมาดูกันว่าจะมีเวลาเพิ่มอีกหรือไม่

ปีนี้เหตุการณ์ปกติครับ.... ขอให้เที่ยวกันอย่างสบายใจได้

 

pig_cryy

 

รู้สึกเหมือนถูกจับตรึงไว้กับหลักประหาร ก่อนจะถูกเอาผ้าดำผูกคาดปิดตา
ยังได้มองเห็นปลายกระบอกปืนบนเเท่นพร้อมพลประจำปืนเล็งมาทางเรา
ทันทีการผูกตาผ่านไปก็ได้เสียงนับเเว่วเเว่ว 1-2-3 แต่ปืนก็ไม่ลั่นเสียที
รอจนล้าเริ่มจากกลัว....จนหายกลัวปืนก็ไม่ลั่นซักที

ตอนนี้มีความสุขมากมาก เพราะได้รับการผ่อนผันให้รอลงอาญาไปอีก3ปี

 

อธิบายซะเห็นภาพเลย
แต่ผมว่าคุณก็ยัง ไม่หมดทุกข์หรือระแวง จริงๆ เพราะ
1. ถ้าคิดตามที่คุณคิดตอนนี้ อีก 2 ปีคุณก็กลับมาทุกข์ใหม่อีกรอบเพราะใกล้ถึงวันรอลงอาญา (ตามที่คุณบอกมานะ)
2. เกิด วันดีคืนดี คุณระแวงขึ้นมาว่า "เชื่อได้เหรอที่บอกว่าจะอีก 3 ปีน่ะ" คราวนี้ก็กลับมาทุกข์ + ระแวงอีกเหมือนเดิม

ทางที่ดีคือ ปฎิบัติตามคำพระพุทธองค์ดีกว่าครับ เดินทางสายกลาง และดำรงตนด้วยความไม่ประมาณ (ม่ประมาทในที่นี้ผมดีความว่า ให้รู้จักปลงพร้อมรับสถานกาณ์ไม่ใช่เก็บเอามาเป็นทุกข์) จะเกิดก็ดี จะไม่เกิดก็ดี ขอให้เตรียมใจพร้อมรับ ไม่ใช่เตรียมใจกลัว เราก็เป็นสุขครับ

 

รับข้อมูลมามากเกินไปหน่อย เลยออกอาการเพี้ยนมาพักใหญ่ ขอขอบคุณที่ให้อยู่กับสติครับ

 

บอร์ดนี้ไม่เคยเงียบค่ะ

 

ผมว่าคนเรามีการพัฒนาทางด้านสติปัญญากันมาขึ้นหรือไม่ครับ
คือไม่ค่อยหลงเชื่อเรื่องคิดเองเพ้อเอง
มีคนบางคนเค้าบอกผมว่าคนพวกนี้มักเป็นคนที่ไม่ประสพความสำเร็จในชีวิต
มีปมด้อยจากการใช้ชีวิตอันเป็นปรกติประจำวัน ก็เลยมาลบล้างอะไรบางอย่าง
และหาทางเพิ่มคุณค่าตนในโลกคอมพิวเตอร์
ผมเองก็ฟังๆเขาตอบเขาว่าบางคนก็ดีนะแต่ก็ตอบเขาไม่ได้มากนักคงด้วยปัญญาของผมเอง
เรียนน้อย ทำงานมานานแล้วลูกน้องมาหลังๆก็แซงไปมากแล้ว
เค้ายกตัวอย่างว่าถ้าคุณเล่นหมากรุกหรือหมากฮอส์ ถ้าคุณได้เปรียบคุณอยากล้มกระดานไหม
แต่ถ้าคุณสู้เขาไม่ได้คุณก็จะคิดลมกระดานเพื่อเริ่มต้นใหม่เพื่อที่ว่า
จะได้มีโอกาศแก้ตัวใหม่
จะได้เท่าเที่ยมกันใหม่ ในโลกที่ประสพหมายถึงคนคงมีฐานะเท่ากันมีครั้งเซตศูนย์อะไรเทือกนี้
แต่คนที่เขาคุยกับผมนั้นเค้าว่าต่อให้โลกเจอภัยหนักแม้นว่าไม่เหลืออุปกรณ์ที่มีที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ก็ตาม
คนแต่ละคนก็ไม่มีวันเท่าเทียมกันก็ด้วยเหตุ ปัญญาและความเพียร ของคนแต่ละคนไม่เท่ากันนั่นเอง
ดังนั้นคนเพ้อฝันก็ยังคงเพ้อฝ้นและก็จะหาความสำเร็จในชีวิตได้้ไม่ และก็จะทิ้งห่างคนที่มีปัญญาและความเพียรอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า
พี่คนนั้นเขาสอนผมอย่างนี้ ด้วยเหตุนี้ผมก็แสดงความเห็นตอบพี่เขาไม่ได้
ถ้าเป็นท่านท่านจะแนะนำให้ผมตอบพี่คนนั้นอย่างไร แต่ความคิดพี่เขาผมก็ค่อนข้างเห็นด้วยนะหรือท่านๆว่าอย่างไร
ถ้าพิมพ์ขาดตกผิดพลาดไปขออภัยด้วนเนื่องด้วยการศึกษาและสติปัญญาเป็นเหตุ

 

บอร์ดไม่เงียบหรอกครับ เป็นธรรมดาแบบนี้มาตั้งนานแล้วครับ

 

สุดยอดความเห็น เห็นด้วยตามนั้นเลยครับ

หลายคนอ้างตัวว่าเป็นผู้วิเศษ เนื่องจากมีปมด้อยในอดีต เพราะต้องการการยอมรับนับถือจากคนจิตอ่อนที่กำลังหาที่พึ่งทางใจเนื่องจากความทุกข์ความกังวลในทางโลก ยิ่งกังวลมากหรือต้องการหาที่พึ่งมาก ก็ยิ่งหลงเชื่อได้ง่าย

จะสังเกตุว่าเมื่อใดเรามีความเห็นแย้งกับผู้วิเศษ สาวกเหล่านี้จะออกมาปกป้องโดยไม่พิจารณาถึงเหตุและผลด้วยซ้ำ

ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่า หากมีผู้วิเศษจริง ทำไมแต่ละคนพูดไม่เหมือนกันเกี่ยวกับเหตุการณ์และวันเวลาที่จะเกิดภัยพิบัติ???

รู้อย่างเดียว.... คนไหนเดาถูก ก็เตรียมตัวมีสาวกจิตอ่อนเพิ่มขึ้น ส่วนคนไหนเดาผิด สาวกก็จะน้อยลงเป็นวัฎจักร แต่หลังๆมานี้น่ายินดีที่เห็นหลายๆคนเิริ่มได้สติของตัวเองกลับมาแล้ว

 

จีนตอบโต้ยุทธศาสตร์ปิดล้อมของสหรัฐ ..

หนังสือพิมพ์ของกองทัพจีนได้ลงบทความที่เขียนโดยนายพล หลัวหยวน โจมตียุทธศาสตร์ทางทหารของสหรัฐที่วางกำลังรอบเอเชียแปซิฟิคเพื่อปิดล้อมจีน โดยเห็นกันชัด ๆ ว่า นโยบายของสหรัฐที่เพิ่มความร่วมมือทางทหารกับชาติพันธมิตรในเอเชียแปซิฟิค จะเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากการปิดล้อมจีนนั่นเอง ขณะเดียวกัน เ โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนได้ออกมาโจมตียุทธศาสตร์ของสหรัฐ พร้อมทั้งเรียกร้องให้สหรัฐรอบคอบในการตัดสินใจใด ๆ ส่วนกระทรวงต่างประเทศจีนได้ออกมาตอบโต้ยุทธศาสตร์ความมั่นคงใหม่ของสหรัฐว่า วางอยู่บนข้อกล่าวหาจีนที่ไม่มีมูลและไม่ไว้วางใจต่อกัน รวมทั้งยืนยันว่าจีนไม่เคยมีวัตถุประสงค์รุกรานชาติอื่น ขณะเดียวกัน ทั้งกระทรวงต่างประเทศและกองทัพจีนแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า จีนควรต้องกระชับความสัมพันธ์กับชาติต่าง ๆ ในภูมิภาคให้มากขึ้น และโน้มน้าวให้ประเทศเหล่านั้นไม่ยอมอยู่ใต้อิทธิพลสหรัฐ พร้อมกับเตือนชาติที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลสหรัฐและเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กับสหรัฐอยู่บ้างก็ตาม ซึ่งจีนมองว่า ในความเป็นจริงแล้ว ชาติเหล่านั้นไม่ได้มีผลประโยชน่ร่วมกับสหรัฐแต่อย่างใด เหมือนนอนเตียงเดียวกันแต่ฝันกันคนละเรื่อง ซึ่งเป็นวิธีการอุปมาอุปมัยที่คนจีนชอบใช้

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้แถลงยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศใหม่ โดยเน้นว่า สหรัฐยังคงให้ความสำคัญด้านการทหารเป็นอันดับแรก แม้กองทัพจะเพรียวลง แต่ก็คล่องแคล่ว ยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นทุกรูปแบบ สหรัฐจะขยายอิทธิพลทางทหารในเอเชียมากขึ้น ซึ่งแม้ไม่ได้พูดแต่ก็รู้กันดีว่า ผู้นำสหรัฐกังวลกับเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของจีนที่มีการพัฒนาระบบอาวุธใหม่ ๆ ส่วนนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศระบุว่า ?เอเชียแปซิฟิคกลายเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเมืองโลก สหรัฐกำหนดความสำคัญเร่งด่วนลำดับต้น ๆ ที่จะเพิ่มการลงทุน การทูต เศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ และอื่น ๆ อย่างจริงจังในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค? แสดงให้เห็นว่า ปี 2555 สหรัฐเน้นเอเชียมากขึ้น


สหรัฐเป็นมหาอำนาจโลก ซึ่งหมายถึงว่า ผลประโยชน์ของสหรัฐมีอยู่ทั่วโลกรวมทั้งในเอเชียแปซิฟิค

หลังจากสงครามเย็นยุติและการสลายตัวของสหภาพโซเวียด รัสเซียไม่ได้เป็นภัยคุกคามเฉพาะหน้าของสหรัฐเช่นยุคสงครามเย็น ความขัดแย้งจากยุโรปย้ายมายังเอเชียจากการที่จีนผงาดขึ้นมาทั้งทางเศรษฐกิจและการพัฒนาศักยภาพทางทหารจนดูเสมือนท้าทายความเป็นหนึ่งของสหรัฐ ทำให้สหรัฐต้องให้ความสำคัญกับการขยายอิทธิพลของจีนมากขึ้น อย่างไรก็ดี เนื่องมีเหตุการณ์ 9-11 ทำให้รัฐบาลบุชต้องหันไปสนใจอิรักและอัฟกานิสถาน ภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชียใต้ซึ่งเป็นฐานของการก่อการร้าย จนกระทั่งสถานการณ์ค่อยดีขึ้น รัฐบาลโอบามาจึงหันมาให้น้ำหนักเอเชียอีกครั้งหนึ่งจนโอบามาได้รับสมญาว่าเป็น ?แปซิฟิค เพรสิเดนท์? ยิ่งจีนมีการพัฒนากองทัพมีสมรรถภาพสูงขึ้น รวมทั้งกำลังทางนาวีในมหาสมุทรแปซิฟิค สหรัฐถือว่ากระทบต่อผลประโยชน์ของตน ทั้งอิทธิพลดั้งเดิมที่ต้องรักษาไว้ไม่ให้จีนแย่งชิงไปได้ เส้นทางเดินเรือทั้งยาม


สันติและยามสงคราม ยุทธศาสตร์ปิดล้อมจีนจึงเริ่มอีกครั้งหนึ่ง


ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะสมัยสงครามเย็น สหรัฐเคยใช้ยุทธศาสตร์นี้มาแล้ว โดยสร้างเครือข่ายพันธมิตรตั้งแต่เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน มายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านองค์การซีโต้ที่มีออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ร่วมด้วยในการสะกัดกั้นการแพร่ขยายลัทธิคอมมิวนิสต์จากจีน


ปัจจุบัน สหรัฐก็ยังมีพันธมิตรดั้งเดิมตั้งแต่เหนือสุดคือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นซึ่งสหรัฐทิ้งไม่ได้ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และมาเน้นหนักที่อินโดนีเซีย ส่วนสิงคโปร์และไทยเป็นพันธมิตรเก่าแก่อยู่แล้ว วกขึ้นไปยังเวียดนาม สัตรูคู่อาฆาตเก่าที่นำความพ่ายแพ้มาให้สหรัฐในสงครามเวียดนาม แต่วันนี้ เวียดนามกำลังมีปัญหากับจีน

สหรัฐจึงเข้าไปใช้ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศที่มีมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์เพื่อใช้เวียดนามอยู่ในแนวล้อมจีน สหรัฐเข้าหาเขมรและพม่ามากขึ้น โดยเฉพาะพม่าซึ่งอยู่ติดกับจีนมากที่สุด ดึงออสเตรเลียเข้ามาร่วมวงไพบูลย์ปิดล้อมจีน สมัยบุชยกย่องให้ออสเตรเลียเป็น?ผู้ช่วยนายอำเภอ? โดยมีสหรัฐเป็นนายอำเภอ สมัยโอบามาใช้ ?ข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนข้ามมหาสมุทรแปซิฟิค? (Trans-Pacific Partnership-TPP) โดยสหรัฐจะส่งนาวิกโยธิน 2,500 นายมาประจำฐานทัพแห่งใหม่ที่เมืองดาร์วิน ทางเหนือสุดของออสเตรเลีย

วัตถุประสงค์ของสหรัฐในการปิดล้อมจีนครั้งนี้แตกต่างจากสมัยสงครามเย็น โดยที่วันนี้สหรัฐไม่ได้กลัวเรื่องลัทธิคอมมิวนิสต์อีก สหรัฐไม่ได้เกรงเรื่องการขยายตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์เพราะจีนก็กลายเป็นนายทุนมากเข้าทุกที แต่สหรัฐกลัวการขยายอิทธิพลของจีนเหนือประเทศในภูมิภาคซึ่งจะมาแทนที่อิทธิพลดั้งเดิมของตน สหรัฐจึงต้องเข้ามารักษาอิทธิพลดั้งเดิมไว้และสะกัดกั้นอิทธิพลของจีนที่กำลังมีมากขึ้นเหนือประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอิทธิพลด้านเศรษฐกิจการค้า

สหรัฐมองว่า ขณะนี้มีจีนเท่านั้นที่พอจะท้าทายอำนาจของสหรัฐ สหรัฐจึงต้องการสะกัดกั้นการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาคนี้ ซึ่งจีนถือว่าเป็นเขตอิทธิพลของตนเหมือนกับสหรัฐถือว่าละตินอเมริกาเป็นเขตอิทธิพลของตน ในขณะที่จีนให้ความสำคัญกับประเทศในภูมิภาคนี้ซึ่งถือว่าเป็นแนวป้องกันทางประตูหลัง ดังนั้น ความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายจึงมาพบกันที่เอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนั้น สองฝ่ายต้องการปกป้องคุ้มครองเส้นทางเดินเรือในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะจีนซึ่งถือว่าเป็นเส้นทางหลักในการนำเข้าน้ำมัน และการส่งออกสินค้าไปขายยังตลาดโลก ในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ต่างอุดมด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ที่จีนและสหรัฐต่างก็จ้องตาเป็นมัน จีนจึงไม่ประนีประนอมในประเด็นอธิปไตยเหนือดินแดนและน่านน้ำ การขยายกำลังทางนาวีของจีนทำให้สหรัฐไม่สามารถครองอำนาจเหนือน่านน้ำย่านนี้แต่ผู้เดียวอีกต่อไป อย่างน้อยจะเข้าไปโชว์ธงใกล้ชายฝั่งจีนซึ่งยาวตั้งแต่ตะวันออกเฉียงเหนือจรดทางใต้อย่างย่ามใจไม่ได้อีกแล้ว

เอเชียในปี 2555 จะเป็นพื้นที่แข่งอิทธิพลอย่างชัดเจนระหว่างสหรัฐที่ต้องการรักษาอิทธิพลเดิมของตน และจีนที่ต้องการขยายอิทธิพลใน ?เขตอิทธิพลดั้งเดิม? ของตน ส่วนไทยนั้นต้องเข้าใจและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะการแข่งอิทธิพลของสองมหาอำนาจนี้ หนีไม่พ้นที่ไทยจะถูกถึงเข้าไปสู่เวทีความขัดแย้งด้วย ขึ้นกับว่าไทยจะวางตัวอย่างไรให้เหมาะสม


ผู้ส่ง สมบูรณ์ ส่งเมื่อ 24 ม.ค.55 เวลา 18:28 ตท26

 

เริ่มออกทะเลแล้ว กลับมาที่ หัวข้อกันใหม่

 

อ่านแล้วขำ พอดีว่าเส้นตื้นน่ะฮะ.. (ส่วนตัวผมนั้น มองว่าเงียบเป็นช่วงๆคับ)

 

ผู้รู้ข้อมูลหลายท่านคาดว่า อาจจะเข้ามาอ่านแต่เหมือนยืนมองดูห่างๆ ไม่เข้าร่วมกองเชียร์หรือค้านเพราะว่าจะเกิดหรือไม่เกิดมีหลายสาเหตุ แต่รู้เฉพาะกลุ่มเขาจะเตือนเฉพาะคนในกลุ่มเท่านั้น ให้เร่งปฏิบัติทำความเพียรให้มากขึ้น ทำความดีให้มากเตรียมความพร้อมทั้งทางโลกและทางธรรม ทำเหมือนว่าไม่สนใจในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น นอกกลุ่มเขาปล่อยเถียงกันไปเพราะเมื่อถึงเวลาก็ตัวใครตัวมัน;aa8

 

ทำแบบนั้นได้ก็ดีไปครับ ถ้ามีญาณวิเศษจริงก็ไม่จำเป็นต้องโฆษณา หรือเที่ยวไปบอกใครๆว่าตัวเองมีของดีแบบนั้นแบบนี้ ของแบบนี้ดูกันที่เจตนา หากคนจะศรัทธาก็ต้องมาจากศรัทธาในความดีและกระทำดี ไม่ใช่การโฆษณาปาฏิหาริย์

มองอยู่ห่างๆน่ะดีแล้ว และขอให้มองอยู่ห่างจริงๆ เพราะกรรมใครก็กรรมมันครับ

กลัวแต่ว่าพวก"ของปลอม" มาหลอกคนมากกว่า ที่มีเจตนาสร้างกระแสให้ได้ศรัทธาและความเคารพนับถือจากผู้อื่นเพื่อหวังผลในระยะยาว
เท่าที่เห็นจากอดีตถึงปัจจุบัน... คนแบบนี้มี 2 ประเภทครับ
1.ต้องการแค่การยอมรับจากคนอื่นเพราะมีปมด้อยในอดีต
2.พุทธพานิช




.

 

เคยอ่านยังค่ะ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php? newsid=1325411930&grpid=00&catid=00

 

ช่วง นี้ ต่างประเทศ มีเหตุการณ์ทางธรรมชาติ หลายอย่าง น่าว่าอีกสักพัก จะมีผู้วิเศษเอาเรื่องนี้ขึ้นมาเล่นให้น่ากลัว ฟันธง

 

โดยสังเกตุส่วนมาก ผมเจอแต่พวกข้อ 2 ครับ

 

อาจด้วยว่า..ด้วยเครื่องคอมฯของข้าน้อยเป็นรุ่นเก่า..กว่าจะเข้าแต่ละที..ยากกกกก..มากกกก..ต้อง..รอแล้วรออีก..บางทีก็หายไปซะดื้อๆ..ก็ยังต้องตื๊อให้ได้..ด้วยการเปิดแช่ไว้..บางทีเข้าได้แต่ไม่ได้ดูหรอกท่าน...นิ่งงันไปซะเฉยๆ...เพราะไฮเทคกับโลว์เทค..มันต้องตะกายขึ้นไปจ้า..กว่าจะถึง..