ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย visut_p, 28 สิงหาคม 2008.

  1. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +29,753
    ในเวลาที่เห็นความชั่วช้าสามานย์ ความเลว สารพัดเลว ที่หลบซ่อน ในใจตัวเอง มันแทบจะระเบิดทุกอย่าง


    ตัวโง่ ที่หลอกตัวเองให้ว่ายวน ในทะเลทุกข์

    หลอกตัวเอง แล้ว ก็หลอกชีวิตอื่น


    มันเก่งมาก ไอ้อวิชชา ความโคตรโง่ ในตัวเอง

    น้ำตาทั้งหมดที่เป็นทะเล ที่เคยหลั่งไหลในวัฏฏะนี้
    เท่าไรก็ไม่พอ ที่จะดับไฟ แห่งกิเลสของตัวเอง

    ที่ได้จุดไว้เผาตัวเอง เผาชีวิตอื่น


    ..ขอบคุณพระรัตนตรัยและกัลยาณมิตร ที่เป็นเหมือนที่พักในทะเลเพลิงแห่งกองทุกข์...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 มิถุนายน 2010
  2. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +29,753
    พระรัตนตรัย มีค่า ยิ่งกว่าชีวิต

    ตายเกิด ตายเกิด ตายเกิด อีกกี่ครั้ง ขอให้ข้าพเจ้าอย่าคลาดจากพระรัตนตรัย

    อย่าให้ตัวโคตรเลว โคตรโง่ในใจ อันมีอวิชชาเป็นหัวหน้า มาหลอกตัวเอง
    ให้หลงผิด นำทางผิดอีกเลย

    ขอขมากรรมต่อเพื่อนร่วมวัฏฏะสงสารทั้งมวล
     
  3. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    อนุโมทนาสาธุกับท่านพี่พิซซ่าค่ะ
    อ่านเรื่องราวของท่านพี่พิซซ่าเกี่ยวกับเรื่องหลวงพ่อถาวร วัดปทุมวนาราม
    ปราญฯมีเรื่องราวบางอย่างที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับทหารพระองค์ดำเลย แต่อาจเกี่ยวข้องกับวัดปทุมวนารามนิดนึง
    ปราญฯขออนุญาตเล่าให้ทุกท่านได้ฟัง อาจเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดาของทุกๆคน แต่ปราญฯก็อดที่จะแปลกใจเล็กน้อยไม่ได้
    เรื่องมีอยู่ว่า
    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปราญฯนั่งทำงานอยู่ที่หน้าคอมตามปรกติ หน้าจอคอมเปิด webpage ไว้ 3 หน้า คือเรื่องอินทรวิเชียรฉันท์ หน้า hotmail และกระทู้หนึ่งในเวปพลังจิต จากนั้นปราญฯก็ห่างจากหน้าจอคอมไปประมาณ 10 นาที
    เมื่อปราญฯเดินกลับมา ก็มีภาพๆหนึ่งปรากฏขึ้นบนจอคอม เป็นภาพพระพุทธรูป "หลวงพ่อพระใส" ที่ประดิษฐานอยู่ที่ อ.โพธิ์ชัย จ.หนองคาย
    มันน่าแปลกเพราะคอมของปราญฯไม่มีใครมายุ่งเลย และหน้าเวปที่เปิดไว้ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย และหน้าจอก็ค้างอยู่อย่างนั้นจนต้อง รีสตาร์ทคอมใหม่
    เอาละเหวย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนี่ ชีวิตก็เจอเรื่องแปลกๆมาบ้างเล็กน้อย แต่นี่ก็ดูจะแปลกไปสักหน่อย

    เมื่อเป็นเช่นนั้นปราญฯก็เลยลองสืบค้นข้อมูลดูจากลุงกูเกิ้ล จึงได้ข้อมูลมาคร่าวๆว่าหลวงพ่อพระใสเป็นพระสามพี่น้องที่ถูกสร้างขึ้นมา พร้อมหลวงพ่อพระสุกและหลวงพ่อพระเสริม
    หลวงพ่อพระสุกจมอยู่ที่เวินสุก จ.หนองคาย หลวงพ่อพระเสริมประดิษฐานอยู่ที่วัดปทุมวนาราม หลวงพ่อพระใสอยู่ที่ วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย เมื่อรู้ดังนั้นเลยคิดว่าคงมีเหตุบางอย่างให้ต้องหาโอกาสไปกราบ แต่หนองคายก็ไม่มีรถเมล์หรือรถไฟฟ้าผ่าน(ไกลไปอ่ะ)จึงหาโอกาสไปกราบหลวงพ่อพระเสริมที่วัดปทุมวนาราม
    เคยได้ยินอาโอมพูดถึงหลวงพ่อถาวรและวัดปทุมวนารามอยู่ แต่ก็ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับวัดและหลวงพ่อมากนัก รู้เพียงว่าหลวงพ่อพระเสริมนี้ องค์จริงประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ ซึ่งจะเปิดในช่วงวันสำคัญทางศาสนา แต่มีองค์จำลองที่ประดิษฐานอยู่ที่ศาลาราชศรัทธา แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าอยากไปกราบองค์จริง
    เมื่อคืนวันเสาร์ก่อนนอนจึงได้อธิฐานจิตว่า"หากลูกมีความเกี่ยวข้องใดๆก็ตามต่อองค์หลวงพ่อพระใส หรือหากลูกพอจะมีวาสนา ขอให้ลูกมีโอกาสได้กราบท่าน"ตอนนั้นใช้คำนี้จริงๆ ซึ่งท่านก็ตีความหมายได้ว่า อาจเป็นหลวงพ่อพระเสริมหรือหลวงพ่อถาวร แต่ก็คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ทั้งสองอย่างเพราะทราบว่าหลวงพ่อถาวรมีกิจนิมนต์มากอยู่
    แล้ววันนี้ก็ได้มีโอกาสไปวัดปทุมวนารามมาจริงๆ!!!!
    บังเอิญแสนบังเอิญ วันนี้มีงานอุปสมบทพระ พระอุโบสถจึงเปิด!!!!
    ไปนั่งรอเขาบวชพระ เพียงหวังว่าเราอาจมีโอกาสได้กราบหลวงพ่อพระเสริมที่ประดิษฐานในพระอุโบสถสักครั้ง
    เมื่อเขาบวชพระเสร็จ ญาติโยมออกจากโบสถ์จนหมด พระคุณเจ้าก็รีบจะปิดพระอุโบสถ ปานชะนี(อาโอมเรียก)จึงเดินไปกราบเรียนพระคุณเจ้าว่า"โยมขอความเมตตา ขอเข้าไปกราบหลวงพ่อในพระอุโบสถสักครู่ได้ไหมเจ้าคะ"
    หลวงพ่อท่านมองหน้า คงเห็นยายคนนี้มันทำตาแดงๆ จมูกแดงๆ ท่านเลยบอกว่า"เชิญ โยม"
    ที่เหลือต่อจากนี้ขอเก็บไว้เป็นความลับ อิอิ

    ขอขมาท่านเจ้าของกระทู้ที่อาจนำเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทู้ที่ตั้งไว้มาเล่าสู่กันฟังค่ะ

    ป.ล.ได้น้ำมนต์จากวัดมา 1 ขวด เอามาไว้ชงยาหอมดื่มเวลาไม่สบาย อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 มิถุนายน 2010
  4. อบ.

    อบ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,538
    อนุโมทนาทุกข้อความดีๆ เรื่องราวงดงามทั้งหลายทั้งปวงด้วยค่ะ

    ต่อเรื่องที่ค้างไว้นะคะ

    ความเดิม ..
    ทรงดำริดังนี้แล้วจึงทรงปลงอายุสังขาร
    คือ ตั้งพระทัยแน่วแน่ว่า
    พระองค์จะปรินิพพานในวันวิสาขะปูรณมี
    คือ วันเพ็ญเดือนหก


    อันว่าบุคคลผู้มีกำลังกลิ้งศิลามหึมาแท่งทึบ
    จากหน้าผาลงสู่สระ
    ย่อมก่อความกระเพื่อมสั่นสะเทือนแก่น้ำในสระนั้นฉันใด
    การปลงพระชนม์มายุสังขารอธิษฐานพระทัยว่า
    จะปรินิพพานของพระอนาวรณญาณก็ฉันนั้น
    ก่อความวิปริตแปรปรวนแก่โลกธาตุทั้งสิ้น


    มหาปฐพีมีอาการสั่นสะเทือน เหมือนหนังสัตว์ที่เขาขึงไว้
    แล้วตีด้วยไม้ท่อนใหญ่ก็ปานกัน
    รุกขสาขาหวั่นไหวไกวแกว่ง
    ด้วยแรงวายุโบกสะบัดใบอยู่พอสมควร
    แล้วนิ่งสงบมีอาการประหนึ่งว่า
    เศร้าโศกสลดในเหตุการณ์ครั้งนี้
    เหมือนกุมารีน้อยคร่ำครวญปริเวทนาถึงมารดา
    ผู้จะจากไปจนสลบแน่นิ่ง

    ณ เบื้องบนท้องฟ้าสีครามกลายเป็นสีแดงเข้ม
    ดุจเสื่อลำแพนซึ่งไล้ด้วยเลือดสด
    ปักษาชาติร้องระงมสนั่นไพรเหมือนจะประกาศว่า
    พระผู้ทรงมหากรุณากำลังจะจากไปในไม่ช้านี้

    พระอานนท์สังเกตเห็นความวิปริตแปรปรวน
    ของโลกธาตุดังนี้ จึงเข้าเฝ้าพระจอมมุนี
    ทูลถามว่า "พระองค์ผู้เจริญ !
    โลกธาตุวิปริตแปรปรวนผิดปกติไม่เคยมีไม่เคยเป็น
    ได้เป็นแล้วเพราะเหตุอะไรหนอ ?"

    พระทศพลเจ้าตรัสว่า "อานนท์เอ๋ย ! อย่างนี้แหละ
    คราใดที่ตถาคต ประสูติ ตรัสรู้
    หมุนธรรมจักร ปลงอายุสังขารและนิพพาน
    ครานั้นย่อมจะมีเหตุการณ์วิปริตอย่างนี้เกิดขึ้น"

    พระอานนท์ทราบว่า บัดนี้พระตถาคตเจ้า
    ปลงพระชนม์มายุสังขารเสียแล้ว
    ความสะเทือนใจและความว้าเหว่ประดังขึ้นมา
    จนอัสสุชลธาราไหลหลั่งสุดห้ามหัก
    เพราะความรักเหลือประมาณที่ท่านมีในพระเชฏฐภาดา
    ท่านหมอบลงที่พระบาทมูลแล้วทูลว่า

    "ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ !
    ขอพระองค์อาศัยความกรุณาในข้าพระองค์และหมู่สัตว์
    จงดำรงพระชนม์ชีพต่อไปอีกเถิด
    อย่าเพิ่งด่วนปรินิพพานเลย"

    กราบทูลเท่านี้แล้วพระอานนท์ก็ไม่อาจทูลอะไรต่อไปอีก
    เพราะโศกาอาดูรท่วมท้นหทัย

    "อานนท์เอ๋ย !" พระศาสดาตรัส
    พร้อมด้วยทอดทัศนาการไปเบื้องพระพักตร์
    อย่างสุดไกล ลีลาแห่งความเด็ดเดี่ยว
    ฉายออกมาทางพระเนตรและพระพักตร์

    "เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ตถาคตกลับใจ
    ตถาคตจะต้องปรินิพพานในวันเพ็ญ
    แห่งเดือนวิสาขะอีกสามเดือนข้างหน้านี้

    อานนท์ ! เราได้แสดงนิมิตโอภาสอย่างแจ่มแจ้งแก่เธอ
    พอเป็นนัยมาไม่น้อยกว่าสิบหกครั้ง แล้วว่า

    คนอย่างเรานี้มีอิทธิบาทภาวนาที่ได้อบรมมาด้วยดี
    ถ้าประสงค์จะอยู่ถึงหนึ่งกัปป์
    หรือมากกว่านั้นก็พออยู่ได้

    แต่เธอหาเฉลียวใจไม่
    มิได้ทูลเราเลย
    เราตั้งใจไว้ว่า ในคราวก่อนๆ นั้น
    ถ้าเธอทูลให้เราอยู่ต่อไป เราจะห้ามเสียสองครั้ง
    พอเธอทูลครั้งที่สามเราจะรับอาราธนาของเธอ

    แต่บัดนี้ช้าเสียแล้ว เรามิอาจกลับใจได้อีก
    พระศาสดาหยุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตรัสต่อไปว่า
     
  5. อบ.

    อบ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,538
    "อานนท์ ! เธอยังจำได้ไหม ครั้งหนึ่ง ณ ภูเขา
    ซึ่งมีลักษณะยอดเหมือนนกแร้ง
    อันมีนามว่า "คิชฌกูฏ"
    ภายใต้ภูเขานี้มีถ้ำอันขจรนามชื่อ "สุกรขาตา"
    ที่ถ้ำนี้เอง สาวกผู้เลื่องลือว่าเลิศทางปัญญาของเรา
    คือ สารีบุตร ได้ถอนตัณหานุสัยโดยสิ้นเชิง
    เพียงเพราะฟังคำที่เราสนทนากับหลานชายของเธอ
    ผู้มีนามว่า "ทีฆนะขะ" เพราะไว้เล็บยาว

    เมื่อสารีบุตรมาบวชในสำนักของเราแล้ว
    ทีฆนะขะปริพาชกเที่ยวตามหาลุงของตน
    มาพบลุง คือ สารีบุตร
    ถวายงานพัดเราอยู่
    จึงพูดเปรยๆ เป็นเชิงกระทบกระเทียบว่า

    พระโคดม ! ทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าพเจ้าไม่พอใจหมด

    ซึ่งรวมความว่า เขาไม่พอใจเราด้วย
    เพราะตถาคตก็รวมอยู่ในคำว่าทุกสิ่งทุกอย่าง

    เราได้ตอบเขาไปว่า "ถ้าอย่างนั้น เธอก็ควรไม่พอใจ
    ความคิดเห็นอันนั้นของเธอเสียด้วย "

    อานนท์เอ๋ย ! ณ ภูเขาคิชฌกูฏดังกล่าวนี้
    เราเคยพูดกับเธอว่า
    คนอย่างเรานี้ถ้าจะอยู่ต่อไปอีกหนึ่งกัป
    หรือเกินกว่านั้นก็พอได้
    แต่เธอก็หารู้ความหมายแห่งคำที่เราพูดไม่"

    "อานนท์ ! ต่อมาที่โคตมนิโคธร, ที่เหวสำหรับทิ้งโจร,
    ที่ถ้ำสัตตบรรณ ใกล้เวภารบรรพต,
    ที่กาฬศิลาข้างภูเขาอิสิคิลิซึ่งเลื่องลือ มาแต่โบราณกาลว่า
    เป็นที่อยู่อาศัยของพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นอันมาก
    เมื่อท่านเข้าไป ณ ที่นั้นแล้ว
    ไม่มีใครเห็นท่านออกมาอีกเลย
    จึงกล่าวขานกันว่า อิสิคิลิบรรพต,
    ที่เงื้อมเขาชื่อสัปปิโสณฑิกา ใกล้ป่าสีตวันที่ตโปทาราม,
    ที่เวฬุวันสวนไผ่อันร่มรื่นของจอมเสนาแห่งแคว้นมคธ,
    ที่สวนมะม่วงของหมอชีวกโกมารภัจจ์,
    ที่มัททกุจฉิมิคทายวันทั้งสิบแห่งนี้มีรัฐเขตแขวงราชคฤห์"

    "ต่อมาเมื่อเราทิ้งราชคฤห์ไว้เบื้องหลัง
    แล้วจาริกสู่เวสาลีนคร อันรุ่งเรื่องยิ่ง
    เราก็ให้นัยแก่เธออีกถึงหกแห่ง
    คือ ที่อุเทนเจดีย์ สัตตัมพเจดีย์ โคตมกเจดีย์
    พหุปุตตเจดีย์ สารันทเจดีย์ และปาวาลเจดีย์
    เป็นแห่งสุดท้าย คือ สถานที่ซึ่งเราอยู่ ณ บัดนี้
    แต่เธอก็หาเฉลียวใจไม่

    ทั้งนี้เป็นความบกพร่องของเธอเอง
    เธอจะคร่ำครวญเอาอะไรอีก"

    "อานนท์เอ๋ย ! บัดนี้สังขารอัน เป็นเหมือนเกวียนชำรุดนี้
    เราได้สละแล้ว เรื่องที่จะดึงกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่งนั้น
    มิใช่วิสัยแห่งตถาคต

    อานนท์ ! เรามิได้ปรักปรำเธอ
    เธอเบาใจเถิด เธอได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว
    บัดนี้เป็นกาลสมควร ที่ตถาคตจะจากโลกนี้ไป
    แต่ยังเหลือเวลาอีกสามเดือน
    บัดนี้สังขารของตถาคต เป็นเสมือนเรือรั่ว
    คอยแต่เวลาจะจมลงสู่ท้องธารเท่านั้น

    อานนท์ ! เราเคย บอกเธอแล้วมิใช่หรือว่า
    บุคคลย่อมต้องพลัดพราก
    จากสิ่งที่รักที่พึงใจเป็นธรรมดาหลีกเลี่ยงไม่ได้

    อานนท์ ! ชีวิตนี้ มีความพลัดพรากเป็นที่สุด
    สิ่งทั้งหลายมีความแตกไป ดับไป สลายไปเป็นธรรมดา
    จะปรารถนามิให้เป็นอย่างที่มันควรจะเป็นนั้น
    เป็นฐานะที่ไม่พึงหวังได้

    ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไป
    เคลื่อนไปสู่จุดสลายตัวอยู่ทุกขณะ"

    และแล้วพระจอมศาสดาก็เสด็จไปยังภัณฑุคาม
    และโภคนคร ตามลำดับ


    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11417
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2010
  6. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +29,753
    ขอขมากรรม

    ขอยกย่องสรรเสริญ

    ขอบูชา สตรีผู้มีใจงดงามดั่งอัญมณีที่สูงค่า

    ..ขอโทษ ที่เพิ่งระลึกได้

    ว่าได้ปล่อยให้นาง รอจนไม่อาจคงชีวิตไว้ได้

    ร่างกายนี้มีบาดแผลมากเกินไป

    อยากกลับไป

    แต่ ....

    ช้าไป จนทุกอย่างสายเกิน

    แม้น้ำตาที่หลั่งออกทั้งภายนอกภายใน จะเป็นสายเลือด

    นางก็ไม่อาจฟื้นชีพคืน...






    ถูกต้องแล้ว ที่คนส่วนใหญ่ ยกย่องสรรเสริญ เพียงบุรุษที่ออกศึกเป็นส่วนใหญ่

    แต่ลืมสตรีที่อยู่เบื้องหลัง อันเป็นกำลังใจของเหล่าบุรุษนั้น

    ชาติ...นั้นสำคัญกว่าชีพตน และ รักของครอบครัว

    แต่ ..ก็รู้สึกผิดไม่น้อย เกินกว่าเก็บไว้ได้

    สตรีนั้นเข้มแข็ง ใจเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก ในยามที่ใครคาดไม่ถึง

    เป็นมารดา เป็นดวงตา เป็นดวงใจ เป็นฯลฯ...

    หากไม่นับเรื่องของการเดินทางสู่ทางพ้นทุกข์แล้ว

    สตรีที่มีน้ำใจสูงค่า...นับเป็นแทบทั้งหมดของดวงใจ


    ...........ขอขมากรรม ขอสุมากรรม ขอกุศลจงมีแก่นาง....







    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#000000><TBODY><TR><TD><EMBED height=94 type=application/x-shockwave-flash pluginspage=http://www.macromedia.com/go/getflashplayer width=328 src=http://www.esnips.com//escentral/images/widgets/flash/esnips_player.swf flashvars="theTheme=blue&autoPlay=no&theFile=http://www.esnips.com//nsdoc/cf0024d5-d89c-48c7-a81a-91b216c14501&theName=ost. สายโลหิต - สายโลหิต&thePlayerURL=http://www.esnips.com//escentral/images/widgets/flash/mp3WidgetPlayer.swf" bgcolor="#000" quality="high"></EMBED></TD></TR><TR><TD><TABLE style="PADDING-LEFT: 2px; FONT-FAMILY: Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 10px; FONT-WEIGHT: bold; TEXT-DECORATION: none" cellPadding=2><TBODY><TR><TD>Get this widget </TD><TD style="FONT-SIZE: 7px; FONT-WEIGHT: normal">|</TD><TD align=middle>Track details </TD><TD style="FONT-SIZE: 7px; FONT-WEIGHT: normal">|</TD><TD>eSnips Social DNA </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 มิถุนายน 2010
  7. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +29,753
    มีคนสักกี่คน

    ในรุ่นต่อๆมา ที่ทราบถึง การเสียสละของบรรพชน

    ที่แลกด้วยน้ำตา และชีวิต ที่เป็นสายเลือด

    อันไม่อาจตีค่าได้


    ...จงรักษาแผ่นดินนี้ ที่ทรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ ไว้ให้ได้...
     
  8. visut_p

    visut_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,763
    พี่พิซซ่าเิปิดกระทู้ใหม่อีกอันเลย ผมจะได้เป็นขาประจำไปนั่งอ่านทุกวัน กระทู้นี้ผมเปิดขึ้นมาเพื่อหาพวกพ้องที่ต้องเจอชะตากรรมเดียวกัน คือต้องมาเจ็บไข้ได้ป่วยเนื่องจากเคราะห์กรรมที่เคยทำจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ตัวผมเองไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับสมเด็จฯท่านเลย
     
  9. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    วันนี้อาโอมได้มาพูดถึงความเสียสละของสตรีผู้อยู่เบื้องหลัง ทหารหาญที่ได้ออกไปทำศึกสงคราม ดังนั้นปราญฯจึงจะขออนุญาตเจ้าของกระทู้ เขียนนิทานที่ปราญฯแต่งไว้ เกี่ยวกับความเสียสละของสตรี ได้ญาติธรรมได้อ่านกันนะคะ
    หากเจ้าของกระทู้เห็นว่าเนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับเจตนาที่ตั้งกระทู้ขึ้น กรุณาแจ้งโดยตรงกับปราญฯได้ค่ะ ยินดีจะลบออกทันทีค่ะ
     
  10. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    "มิ่งมณี" หญิงสาวชาวบ้าน อายุราว 17 ปี ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายตลอดมาในหมู่บ้านเล็กๆ หญิงสาวกำพร้า บุพการีตั้งแต่เธอเริ่มแตกเนื้อสาว เนื่องจากพ่อและแม่ของเธอทั้งสองเสียชีวิตลงด้วยโรคภัยไข้เจ็บ แต่ชีวิตเธอก็ไม่ได้โชคร้ายไปทั้งหมด เนื่องจากเธอได้รับความเมตตาจาก"อัคนี" ชายหนุ่มรูปงามอายุราว 25 ปี
    อัคนีดูแลมิ่งมณีมาตลอด ด้วยเห็นว่าเธอเป็นเพียงหญิงสาวกำพร้าที่ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง จากความเมตตาก่อให้เกิดความเอ็นดูเล็กๆขึ้นในหัวใจ จากความห่วงใยที่ชายหนุ่มมอบให้ก็ได้เปลี่ยนเป็นความรักและบูชาในหัวใจของหญิงสาว
    ทั้งคู่ใช้ช่วงเวลาที่ได้รู้จักกัน ร่วมกันทำบุญ ตามกำลังศรัทธาที่พอมี
    แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครปรารถนาก็เกิดขึ้น บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะสงคราม ชายชาติทหารถูกเกณฑ์ไปร่วมสู้รบและทำศึก
    อัคนีอดเป็นห่วงมิ่งมณีไม่ได้ เนื่องด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาเคยปกป้องดูแลเธอมาตลอด แต่วันนี้ต้องทิ้งเธอ ด้วยความจงรักและภักดีต่อผืนแผ่นดินเกิด
    "ดูแลตัวเองนะเจ้า แล้วพี่จะกลับมา"นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่มิ่งมณีได้ยินจากปากของชายผู้เป็นดั่งทุกสิ่งของชีวิต
    การเฝ้ารอนั้นแสนเจ็บปวด ข่าวคราวที่เงียบหาย อีกทั้งยังต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้ตนมีชีวิตอยู่รอด แม้จะเป็นห่วงและเจ็บปวดเพียงใด แต่เธอก็ไม่ยอมให้น้ำตาของเธอไหลออกมาให้เขาเห็น เพียงเพราะไม่ปรารถนาจะให้ห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่ปรารถนาให้ตนเองเป็นภาระทางใจต่อคนที่ต้องจากไปเพื่อทำหน้าที่สำคัญ
    แม้คนที่ไปสงครามบางส่วนจะได้กลับมา แม้บางส่วนจะกลับมาเพียงข่าวคราวหรือของที่ได้เก็บไว้ดูต่างหน้า แต่สำหรับเธอ ไม่มีสิ่งใด มีเพียงความหวังรำไรที่เธอยังเฝ้ารอ
    แต่เวลานั้นจะอยู่ได้นานเพียงใดเล่า สำหรับหญิงสาวตัวคนเดียว เมื่อมีชายอื่นหมายจะรุกราน
    เธอเลือกตัดสินใจที่จะปลิดชีพตน เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้แก่อัคนี

    "ดูแลตัวเองนะเจ้า แล้วพี่จะกลับมา"
     
  11. Nakraksa

    Nakraksa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    3,481
    ค่าพลัง:
    +14,350
    บอกได้คำเดียว ขนหัวลุก !!!
     
  12. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393

    อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมจังเลยค่ะ ฟังแล้วต่อมศรัทธาพุ่งกระฉูด.....
     
  13. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    ต้องขอโทษจริงๆค่ะ ไม่มีข้อมูลใดๆเพิ่มเติมจริงๆ อย่างที่บอกไว้ในตอนต้นว่าเรื่องนี้เป็นเหมือนนิทาน ไม่ได้มาจากการบอกเล่าหรือมีการบันทึกไว้แต่อย่างใด แบบว่าอ่านสนุกๆแล้วกันนะคะ
    ปราญฯดีใจหากเรื่องที่ปราญฯเขียนอาจทำให้เพศหญิงอย่างเรารู้สึกเคารพและศรัทธาในหัวใจและความรักของตน ปราญฯเชื่อว่ายังมีผู้หญิงมากมายที่ต้องสูญเสียและรู้สึกเจ็บปวดเพราะการจากไปของคนที่เรารัก
    แต่ปราญฯเชื่อว่าเธอเหล่านั้นทั้งภูมิใจและยินดีในสิ่งที่ชายอันเป็นที่รักได้กระทำ
    ภูมิใจที่เลือดของเขาหลั่งรดลงดิน ภูมิใจที่ผืนแผ่นดินที่เธอได้อาศัยแลกมาด้วยเลือดเนื้อและชีวิต หากปราญฯเป็นหญิงคนนั้น ปราญฯคงกราบลงที่พื้นแม่ธรณีแล้วฝากแม่ธรณีไป ฝากการสักการะนี้ไปสู่ผู้ที่เป็นดั่งชีวิต ปราญฯจะกราบลงที่พระแม่คงคา ฝากท่านสักการะบรรพบุรุษทุกคนที่หลั่งเลือดลงเพื่อให้ปราญฯได้มีแผ่นดิน
     
  14. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    เรื่องที่ 2
    แก้วกัลยา หญิงสาวผู้มีหัวใจมั่นคงยิ่งในความรัก
    เธอมีคู่ชีวิตเป็นชายชาติทหาร มีตำแหน่งหน้าที่สำคัญยิ่งในการปกป้องชาติบ้านเมือง
    เธอใช้ชีวิตร่วมกับสามีโดยมิได้มีบุตรด้วยกัน เธอทำหน้าที่ภริยาที่ดีโดยไม่ขาดตกบกพร่อง ในช่วงการศึกสงคราม แก้วต้องอยู่บ้านดูแลความเรียบร้อยเพื่อรอการกลับมาของสามี แม้ทุกวันตลอดระยะเวลาที่ชายอันเป็นที่รักต้องออกไปทำศึก เธอมิเคยปริปากบ่น ยังคงทำหน้าที่ และรอคอยเขากลับมา และยังคงหวังว่าคงมีสักวันที่บ้านเมืองจะสงบสุข และเธอมีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสามีอย่างสงบสักครั้ง
    วันหนึ่ง ชายผู้นั้นก็ได้กลับมาหาเธอที่บ้าน เนื้อตัวมอมแมมเต็มไปด้วยคราบเหงื่อและคาวเลือด เบื้องหลังชายผู้นั้นมีเด็กคนหนึ่งสะพายอยู่เบื้องหลัง
    แก้วกัลยา ทั้งแปลกใจระคนยินดีที่ได้พบเขาอีกครั้งในขณะยังมีชีวิต แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันนัก เขาเอ่ยขึ้นกับเธอว่า
    "พี่มีหน้าที่ต้องดูแลเด็กคนนี้ให้ปลอดภัย แต่ก็มิวายห่วงเจ้า ไป..เจ้าจงไปพร้อมพี่ ทิ้งเจ้าไว้พี่ก็คงอดห่วงไม่ได้ พี่จะปกป้องเจ้าเอง"
    เธอรีบร้อนตามหลังเขาไป โดยไม่เคยสนใจว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร รู้เพียงว่าเบื้องหน้าเธอคือผู้ชายที่เธอสละทั้งชีวิตให้แล้ว แม้ต้องลงนรกหรือโดดเข้ากองเพลิงก็มิปริปากบ่น
    เมื่อเธอไว้เดินทางรอนแรมไปพร้อมกับเขาได้เพียงไม่ถึงวัน ก็มีข้าศึกกลุ่มหนึ่งไล่ตามหลังมา ทุกอย่างจวนตัวมากเกินกว่าเธอจะคิดอะไรได้ การต่อสู่เกิดขึ้นอย่างชุลมุน ข้าศึกเกือบ 10 คนที่กำลังรุมล้อมรอบชายอันเป็นที่รักยิ่ง เขาไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างถนัดนักเพราะต้องเฝ้าคอยระวังเด็กน้อยที่ต้องดูแล
    แก้วกัลยา ตัดสินใจเอาตัวเองเข้ารับคมมีดที่เข้ามาทางด้านหลังผู้เป็นสามี ดาบคู่ในมือข้าศึก พาดเข้าที่กลางหลังจากไหล่ซ้ายไปทางเบื้องขวา อีกดาบพาดเข้าทางด้านหน้า แต่นั่นคงยังไม่หนำใจพวกมัน คมดาบสุดท้ายปาดเข้าที่คอ
    ชั่ววินาทีนั้น เธอมิได้คิดอื่นใดมากไปกว่า สละชีวิตอันไร้ค่าของตน เพื่อรักษาชีวิตและหน้าที่ที่สำคัญของสามี หากชีวิตหนึ่งแลกไว้ได้ด้วยสองชีวิต รวมไปถึงเกียรติยศและศักดิ์ศรีที่สามีเธอพึงได้รับ นั่นก็คุ้มค่าที่สุดแล้วกับสิ่งที่เธอแลกมา

    ป.ล.แต่งต่อเอาเองน๊า ว่าอยากให้ชายผู้นั้นและเด็กน้อยสามารถรอดชีวิตไปได้หรือไม่
     
  15. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    เป็นไรขนลุกอ่ะ ปี๋หลอกเหรอ:boo::boo::boo:
     
  16. Nakraksa

    Nakraksa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    3,481
    ค่าพลัง:
    +14,350
    ปราญขนลุกทั้งตัวพุ่งขึ้นศีรษะวุ่นวายไปหมด ไม่กล้าอ่านแล้วง่า ยังดีที่เรายังมิได้รู้เห็นสิ่งใด
     
  17. Nakraksa

    Nakraksa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    3,481
    ค่าพลัง:
    +14,350
    อ่านแล้วทำใจไม่ได้ ไม่กล้าอ่านต่อแล้ว ไปนะ
     
  18. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    กำลังว่าจะเขียนอีกซักเรื่อง ท่าทางเรตติ้งไม่ดี งั้นแค่นี้ก็ได้ ไม่เขียนต่อก็ได้อ่ะ:'(
     
  19. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    เอ พี่พิซซ่าสบายดีไหมอันนี้ปราญฯไม่ทราบจริงๆค่ะพี่
    ประเดี๋ยวพี่เขาได้เห็นคงมาส่งข่าวนะคะ
    แล้วพี่เป็นไรมากไหมคะ
    ดูแลรักษาตัวเองให้ดีนะคะ
    เป็นห่วงค่ะ
     
  20. krongkamons

    krongkamons เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +2,571
    คุณเพชร

    แล้วเข้ามาคุยด้วยกันใหม่นะคุณเพชร คนงาม
    น้องปราญฯ มีเพื่อนตามมาด้วย :boo:
     

แชร์หน้านี้

Loading...