ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

แหม ได้ความรู้ใหม่อีกจ้ะ นางฟ้า เพชรออกแนวจะชอบเครื่องเบญรงค์นะ

 

วันนี้เข้าเอฟบี หมอจุ๋มเอาธรรมะมาลงเยอะเลย เอามาฝากนะจ๊ะ


"พระพุทธเจ้าตรัสว่าตถาคตทั้งหล<WBR>ายจะอุบัติขึ้นหรือไม่ก็ตาม
ความ<WBR>จริงของธรรมชาติก็มีอยู่อย่างนั<WBR>้น
ท่านเป็นสื่อชี้ให้เราดูไปที่<WBR>ความจริงนั้น
เป้าหมายอยู่ที่ควา<WBR>มจริงของธรรมชาติ
ไม่ได้อยู่ที่ต<WBR>ัวผู้แสดงหรือสอน"

ป.อ. ปยุตโต



เรื่องน่ายินดี ให้ดูโอกาสก่อนจะพูด
เรื่องน่าเกลียดชัง ให้พูดถึงเรื่อง อย่าพูดถึงคน
เรื่องทำร้ายจิตใจ ไม่ควรพูดกับใคร
เรื่องของคนอื่น ให้พูดอย่างระวัง
เรื่องที่ทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องพูด

Achara Klinsuwan




การที่จะเจริญสมถะและวิปัสสนากร<WBR></WBR>รมฐานนั้น
จำต้องอบรมศีลของตนให้บริสุทธิ์<WBR></WBR>เสียก่อน
ถ้าศีลยังบกพร่อง แม้จะเจริญวิปัสสนา
ก็ไไม่มั่นคงถาวร ดุจไม้ที่ไร้แก่นฉันนั้น ....

หลวงพ่อเพา



ผู้พิจารณา ผู้มีธรรมอยู่ในใจ
ท่านอยู่ในโลก ไม่แปดเปื้อนไปด้วยโลก
เหมือนกับใบบัวอยู่ในน้ำ แต่ทว่า น้ำไม่ซึมซาบเข้าไป
ถึงน้ำจะมาตกค้างอยู่บนใบบัว
เดี๋ยวมันก็หลุดก็หล่นออกไป ไหลออกไป
ใบบัวไม่เคยซึมในน้ำที่ไปถูกไปต<WBR></WBR>้อง

พระอาจารย์สิงห์ทอง


ให้เราปล่อยวางมันลงไป....
ความรัก เกิดขึ้น ก็ปล่อยมันไป
ความโลภ เกิดขึ้น ก็ปล่อยมันไป
ความโกรธ เกิดขึ้น ก็ปล่อยมันไป
กระทั่งความหลงเกิดขึ้น ก็ปล่อยมันลงไป

มันมาจากที่ไหน ก็ให้มันกลับไปที่นั่น
อย่าเก็บมันไว้
เมื่อนั้นจิตของเราก็จะหลุดพ้น.<WBR></WBR>..

หลวงพ่อชา


จิตที่กำหนดรู้ จักเป็นอิสระ
จิตที่มี อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นอาหาร
เป็น “จิตที่กำหนดรู้” เมื่อรู้ว่าอันนั้นเป็นอนิจจัง มันไม่เที่ยง
ทุกขัง เป็นทุกข์อนัตตา ไม่ใช่เราหรือของเราแล้ว

ขอให้มีสติอยู่ เห็นการเกิดดับของใจ
แต่อย่าให้มันมาทำใจให้วุ่นวาย.<WBR></WBR>..

หลวงพ่อชา

 

พุทธพจน์ จากพระไตรปิฎก


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาวาจาเป็นไฉน?

เจตนาเครื่องงดเว้นจากพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ นี้เรียกว่า สัมมาวาจา"


(๑๙/๓๖) #ธรรมะ

 

อนุโมทนาด้วยครับ......

 

- ถ้าแพะเมืองผีน่ะ ไปมาแล้วจ้า ...แต่ไม่มีใครโผล่ออกมาให้เห็น
ส่วนใหญ่จะผูกพันกับเมืองเหนือ น้องชายเราเคยเห็นเราแต่งชุดไทย
จุดธูปถือดอกบัวบูชาพระพุทธชินราช เราจึงเดินทางไปพิษณุโลก
แต่วันนั้นไม่เห็นเลยว่า จะรู้สึกอะไร...แต่ที่พระธาตุลำปางหลวง เรากลับรู้สึกเศร้า
อยากร้องไห้ โดยไม่ทราบสาเหตุ ....พระชัยบอกว่าเคยอยู่ที่นั้น สมัยเขลางค์นคร
- พิษซี่ หาเมืองนายทำไม เคยเกิดเป็นสาวเมืองนาย รึ เรื่องบางเรื่องยังไม่ถึงเวลา ก็หามันไม่เจอหรอก ถ้าถึงเวลามันวิ่งมาชนโครมเลย
- ช่วงนี้ เป็นนักโทษ ไปไหนมาไหนลำบาก รอพ้นช่วงเคอฟิวส์ พิษซี่ชวนไปไหน ไปด้วยเลย ชอบอย่างพิษซี่ว่า เอาแบบแอบไปไม่บอกใคร หิ้วกระเป๋าก้าวขึ้นรถไปเลย

 

สวัสดีค่ะ คุณ นางฟ้า และเพื่อนร่วมกระทู้ทุกท่าน

ขอบใจนะจ๊ะ พิซซ่า ที่หาภาพดอกไม้ลายไทยมาฝากพี่

ลายไทยพวกนี้ตอนเป็นเด็กพี่ไม่ค่อยชอบนะ เห็นแล้วกลัวผี --! (คิดไปโน่น) แถมจำได้ว่าพอถึงชั่วโมงศิลปะทีไร ถูกครูบังคับให้เขียนลายกนก แทบอยากร้องกรี๊ดๆๆ (เป็นผีโดนข้าวสารเสก 555) เพราะมันยากมาก เขียนเองไม่สำเร็จ พี่ก็ทาบกระดาษลอกเอาซะเลย 555

แต่แปลกนะ

พอยิ่งโตกลับยิ่งชอบ พบว่าเป็นความงามพิศโดยแท้ เพราะยิ่งมองก็ยิ่งสวย เห็นความงามละเอียดละออลึกซึ้ง ของฝีมือช่างไทยที่ไม่เหมือนใครในโลก


ที่พิซซ่าหามานี่ ชอบที่สุดคงเป็นลายดอกบัว เพราะแต่ละกลีบโค้งไหว ยังกับกลีบดอกบัวจริงๆ เลย เห็นแล้วนึกถึงนางอะไรนะ ที่เกิดอยู่ใจกลางเกสรดอกบัวน่ะ


ยิ่งเวลาเห็นลายไทยบนศิลปะวัตถุในพิพิธภัณฑ์ที่ต่างประเทศ ถึงไม่มีใครบอกว่ามาจากประเทศไหน เราก็รู้เลยว่าลายนี้ ของบ้านเรา

เพราะจะหาคนเขียนลวดลายประณีตลึกซึ้งอ่อนช้อยเท่าคนสยามไม่มีอีกแล้ว (ในความรู้สึกพี่นะ)

หารูปวาดกนกผักกูดมาให้พิซซ่าไม่ได้

ได้แต่รูปลายกนกผักกูดจากปัฏฏวลีศาขา ประตูเทวาลัยลักษณาเทวี ภรมอร์ ที่ปรากฎในวารสารเมืองโบราณ
กับจากหน้าบานประตูวัดดอนสัก เมืองลับแลจ้ะ
(ภาพจาก free4u bloggang)

ลายกนกผักกูดนี้ เป็นกนกแบบล้านนา...เห็นไหมพิซซ่าเกี่ยวกับหัวเมืองฝ่ายเหนืออีกแล้ว ^^

 

ยังมีอีกรูปมาฝากพิซซ่าอีกสองรูป

วันก่อนพี่หารูปพวงแก้วกุดั่นอยู่...และไปเจอพวงแก้วมณีเข้าบังเอิญ เลยคิดถึงพิซซ่าขึ้นมาบัดเดี๋ยวนั้นเลย

ตั้งใจว่าจะเอามาให้ชม (แต่หนูอาจเคยเห็นแล้ว ^^)

ต้นพวงแก้วมณีนี้ เมื่อนานมากแล้วพี่เคยรู้จักในชื่อ 'พวงวิวาห์'
ตอนนั้น คนคนหนึ่งเขากำลังปลูกเรือนหอให้พี่ พี่ก็อยากปลูกต้นไม้ไว้รอบๆ เรือนหอ กะว่าตอนกลับมาแต่งงานกัน ต้นไม้คงโตออกดอกหอมรอบบ้านพอดี

แล้วพี่ก็ชอบต้นไม้เลื้อยไทยๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอเห็น เจ้าพวงวิวาห์เข้า ก็กรี๊ดสลบ อยากได้มาก

แต่คนๆ นั้นเขาไม่อนุมัติ ด้วยเหตุว่า 'ไม่เอาล่ะ ถ้ามันเกิดตายขึ้นมา ผมขี้เกียจฟังคุณโวยวาย'

คือเขาแอบรู้ใจพี่ ว่าถ้าพี่ปลูก พี่คงแอบตั้งจิตเสี่ยงทายไปด้วยว่า ถ้าต้นพวงวิวาห์ไม่ตาย เราจะได้แต่งงานกัน

แล้วถ้ามันเกิดตายขึ้นมา...ไม่ว่าจะถูกหนอนกิน หอยทากแทะ หรือขาดน้ำ ขาดอาหาร หรือขาดคนดูแล...พี่ก็คงกรี๊ดใส่เขา

ทางที่ดี...อย่าปลูกมันเลย

บ้านพี่เลยไม่มีต้นพวงวิวาห์นับตั้งแต่นั้น...

แต่ถ้าตอนนั้นรู้ว่ามันมีอีกชื่อ ว่าพวงแก้วมณี ก็คงจะปลูกไปแล้ว...

เพราะตอนนี้ถึงอยากปลูกก็ปลูกไม่ได้ เลยทำได้แค่ชื่นชมอยู่ห่างๆ แทน ชมคนเดียวก็ไม่สุขใจ ต้องเอามาแบ่งพิซซ่ากับเพื่อนๆ ในกระทู้ชมด้วย ^^

 

แฮ่ๆ ได้ชมดอกไม่ไปด้วย เชพรชอบดอกไม้มากค่ะ ยิ่งสวยๆ หอมๆ แล้วเป็นกรี๊ดขาดใจ

 

พี่อินฯ ยังไงๆ น้องก็วิ่งข้ามไปข้ามมาน่ะแหละค่ะ
ไม่ต้องห่วงว่ากระทู้จะร้างนะคะ

ว่าแล้วก็ ตามคีตศิลาไป หุหุ (โดนกดไม่เห็นด้วยแน่ๆ เลย)

 

แปลงกาย
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=PnFesvAO9Io"]YouTube - แปลงกาย - บรรณ.mpg[/ame]

 

แวะเอาภาพจิตรกรรมไทยแบบขรัวอินโข่งมาฝากจร้า แถมด้วยจิตรกรรมไทยแต้ๆ แต่โบราณ

จิตรกรรมไทยแต่โบราณหน้าตาแบบนี้



ลักษณะนี้เป็นการลงสีแบบสองมิติ ใช้สามถึงสี่สีเป็นหลัก ลองสังเกตุต้นไม้จะแฟนตาซีมาก


แต่นแต้น.. มาแล้วเริ่มเป็นสามมิติไหมคะ สีจะแนวดูแล้วเคร่งขรึมคนละเรื่องกับภาพที่แล้วอย่างชัดเจน มีการใ้ช้สีโทนเขียวน้ำเงิน ภาพอาจจะเล็กไปนิดเด๋วจะหาภาพใหญ่ๆให้นะคะ ^^


นี่ก็ของขรัวอินโข่งเช่นเดียวกัน จะเห็นว่ามีการเล่นโทนสีเล็กๆน้อยด้านในด้วย อันนี้เล่นพื้นสีเขียวชัดมาก

 

มาหนีตามน้องคีตศิลาค่ะ ^^

ขอบคุณคุณนางฟ้ามากนะคะ สำหรับภาพจิตรกรรมที่นำมาฝาก งามมากค่ะ

 

เขียนไม่ค่อยจะเก่งมีแต่เพลงมาให้เป็นกำลังใจครับ




[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1145080/[/MUSIC]

 

ขออนุโมทนา กับคอมพิวเตอร์ที่มีผู้นำส่งมาให้อาตมา สักวันเมื่อรู้ว่าผู้ส่งเครื่องมือสื่อสาร กับเหล่าสหายธรรม และญาติธรรมของเราในครั้งนี้เป็นใคร อาจจะต้องรอจนสำเร็จในการสร้างสถาณที่ตามความตั้งใจสียก่อน ขออนุโมทนา

 

ถ้าคุณเจอคนขี้โกง คุณจะทำอย่างไรหากเขามาขอเงินคุณหรือคิดจะหาประโยชน์จากคุณอยู่เสมอ
เป็นธรรมดาที่คุณจะตอบปฏิเสธหรือบ่ายเบี่ยง เรื่องอะไรจะยอมให้เขาโกงคุณ เอาเงินไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนยังจะดีเสียกว่า
แต่ “พรชัย”คิดอีกแบบหนึ่ง
[SIZE=+2]วันหนึ่งเพื่อนมาขอสินค้าราคาร่วมหมื่นจากร้านของเขาไปขาย พร้อมกับยืนยันว่าพรุ่งนี้จะเอาเงินมาจ่าย เขารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้นิสัยไม่ซื่อ แต่ก็ยอมให้สินค้าแก่เขาไป แล้วเขาก็หายตัวไปอย่างที่คาดไว้[/SIZE]
[SIZE=+2]หนึ่งเดือนต่อมา พรชัยพบเพื่อนคนนี้โดยบังเอิญ เขาตกใจมาก ขอโทษที่ผิดนัด พร้อมกับแก้ตัวว่า เขากำลังมีปัญหาการเงินเนื่องจากบิดาป่วยหนัก แทนที่พรชัยจะคาดคั้นกลับตอบว่า “ไม่เป็นไรหรอก เราเข้าใจคุณดี ถ้าคุณมีคุณก็คงเอามาจ่ายคืนเราแล้วหละ คนอย่างคุณเป็นคนมีศักดิ์ศรี เงินแค่นี้ไม่โกงเราหรอก” แล้วพรชัยก็ถามถึงอาการของบิดาของเขา จากนั้นก็ควักเงินพันบาทยัดใส่มือ พร้อมกับบอกว่าฝากให้ช่วยซื้อผลไม้และสิ่งจำเป็นให้แก่บิดาของเขาด้วย[/SIZE]
[SIZE=+2]คืนนั้นเขามาหาพรชัย ไม่ได้มาเพื่อคืนเงิน แต่มาขอเบิกสินค้าจากร้านของเขาอีก พร้อมกับยืนยันมั่นเหมาะว่าจะเอาเงินมาส่งในวันรุ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้มาตามนัดเช่นเคย เขาดูเหมือนจะได้ใจเพราะหลังจากนั้นก็ยังทำเช่นนี้อีกสามครั้ง แต่พรชัยก็ให้ของแก่เขาไปทุกครั้ง โดยไม่เคยบ่นหรือด่าเขา แถมยังฝากเงินไปให้บิดาเขาอีก[/SIZE]
[SIZE=+2]ครั้งสุดท้ายที่มาเบิกของ เขาถึงกับอึ้ง มองหน้าพรชัยด้วยความซาบซึ้งใจ แล้วบอกพรชัยว่า “คุณคือเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของผม” แล้วเขาก็จากไป หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พากเพียรหาเงินมาจ่ายพรชัยจนครบ ใช่แต่เท่านั้นยังหาลูกค้ามาให้เขาอีกมากมาย กลายเป็นว่าเขาได้ผลตอบแทนกลับคืนมามากกว่าที่เสียไป พรชัยเล่าว่านับแต่นั้นเขาไม่เคยถูกเพื่อนคนนี้คดโกงอีกเลย[/SIZE]
[SIZE=+2]คนที่มีนิสัยคดโกงย่อมรู้สึกกระหยิ่มใจหากสามารถหลอกคนได้สำเร็จ เขาอาจไม่รู้สึกผิดเพราะคิดว่านี้เป็นเรื่องการชิงไหวชิงพริบ แต่ความรู้สึกของเขาจะเปลี่ยนไปเมื่อเจอคนที่มีน้ำใจกับเขา ไว้เนื้อเชื่อใจเขา สิ่งที่พรชัยทำกับเพื่อนผู้คดโกง ดูเหมือนจะทำให้ฝ่ายหลังได้ใจ แต่ในที่สุดพรชัยต่างหากที่เป็นฝ่าย “ได้ใจ”ของเพื่อน

หลังจากที่หลอกลวงมาได้หลายครั้ง ในที่สุดเขาก็แพ้ความดีของพรชัย แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป ชัยชนะได้เกิดขึ้นแล้วในจิตใจของเขา เขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ก็เพราะความดีในใจเขาสามารถเอาชนะความชั่วร้ายภายในได้ คนทุกคนย่อมมีความดีอยู่ในจิตใจ แต่สาเหตุที่บางคนทำความชั่ว ก็เพราะความดีนั้นไม่มีพลังเพียงพอ ความชั่วร้ายซึ่งมีพลังเหนือกว่า จึงสามารถบงการให้เขาทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่เมื่อใดก็ตามที่ความดีในใจนั้นมีพลังก็สามารถกำราบความชั่วร้าย ส่งผลให้เขาเปลี่ยนมาทำความดีได้[/SIZE]
[SIZE=+2]จะว่าไปสิ่งที่พรชัยทำก็คือการปลุกกระตุ้นความดีในใจเพื่อนให้กลับมามีพลัง จนสามารถมีชัยเหนือความเห็นแก่ตัวในใจเขาได้ แต่แทนที่จะเป็นการกระตุ้นด้วยคำพูด พรชัยกระตุ้นด้วยการทำความดีมีน้ำใจกับเขาอย่างไม่ย่อท้อ[/SIZE]
[SIZE=+2]จะทำอย่างพรชัยได้ต้องมีศรัทธาในความดี ทั้งความดีที่ทำต่อผู้อื่นอย่างบริสุทธิ์ใจ และความดีที่มีอยู่ในใจของผู้นั้น ขณะเดียวกันก็ต้อง “ใจถึง”ด้วย คือไม่เสียดายเงินที่สูญเสียไป พูดอีกอย่างคือกล้าที่จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ[/SIZE]
[SIZE=+2]มิใช่แต่คนคดโกงเท่านั้น แม้แต่คนที่มุ่งร้าย ก็ยังอ่อนไหวต่อความดีที่ได้รับจากอีกฝ่าย[/SIZE]
[SIZE=+2]ไม่กี่วันหลังจากเกิดเหตุการณ์นองเลือด ๑๙ พฤษภา คนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งได้ตอบโต้ด้วยการพยายามเข้าไปบุกเผาชุมชนแห่งหนึ่งในจังหวัดยโสธรซึ่งมีความใกล้ชิดกับสันติอโศก ด้วยความเข้าใจว่าเป็นพวกเสื้อเหลือง [/SIZE]
[SIZE=+2]ชาวบ้านในชุมชนนั้นแทนที่จะแจ้งตำรวจหรือระดมคนมาตรึงต้านผู้บุกรุก กลับเข้าไปพูดคุยด้วย แล้วสอบถามว่า “นี่มากันเยอะแยะ กินอะไรมาหรือยัง คงจะเหนื่อย รอสักครู่นะ จะทำก๋วยเตี๋ยวเลี้ยง” จากนั้นก็ทำก๋วยเตี๋ยวเลี้ยงเป็นการใหญ่ [/SIZE]
[SIZE=+2]กลุ่มคนเสื้อแดงนึกไม่ถึงว่าจะเจอการต้อนรับแบบนี้ จึงชะงัก แทนที่จะบุกเผาก็รอกินก๋วยเตี๋ยวแทน เมื่อกินเสร็จ ก็แยกย้ายกลับไป ชุมชนแห่งนั้นจึงรอดพ้นจากการถูกเผาทำลาย[/SIZE]
[SIZE=+2]เวลาคิดจะเอาชนะผู้อื่น ผู้คนส่วนใหญ่มักนึกถึงการใช้กำลังที่เหนือกว่า ดีกว่านั้นก็คือเอาชนะด้วยเหตุผล แต่ไม่มีชัยชนะใดที่ยั่งยืนและประเสริฐกว่าการชนะใจด้วยความดี[/SIZE]

พระไพศาล วิสาโล www.visalo.org

 

สูตรอาหารลดอุจจาระตกค้าง มีดังต่อไปนี้

1. เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 แก้ว ทิ้งไว้ 30 นาที ดื่มก่อนนอน เม็ดแมงลักจะลากอุจจาระตกค้างออ<WBR></WBR>กมา ทานเป็นปกติได้ทุกวัน หรือ 3-4วันต่อสัปดาห์

2. นมสด 2 กล่อง (รวมจะได้ประมาณ 500 มิลลิตร) และ กล้วยน้ำว้า 2 ลูก ทานก่อน 6 โมงเช้า ช่วงแรกควรทานติดกัน 3 วัน หากถ่ายก่อน 7 โมงเช้าเป็นปกติได้แล้ว ก็ลดมาเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

3. ทานผักบุ้ง 2 กำมือ ผัด หรือ ต้ม ทำอาหารตามใจชอบ


จากเฟซบุคคุณหมอจุ๋ม ทพญ. Achara Klinsuwan ค่ะ

 

เมตตาตัวเองแล้ว ก็เมตตาผู้อื่นด<WBR></WBR>้วย

บางสิ่งบางอย่างรู้ว่ามันดี แต่เ<WBR></WBR>ราทำไม่ได้

บางสิ่งบางอย่างรู้ว่ามันไม่ดี แ<WBR></WBR>ต่อดทำไม่ได้

อันนี้เราเป็นอย่างไร เขาก็เป็นอ<WBR></WBR>ย่างนั้น

จิตใจเรานี้ยังไม่เข้มแข็ง ต้องใ<WBR></WBR>ห้อภัยตัวเอง

เมตตาตัวเองแล้ว ต้องเมตตาผู้อื่<WBR></WBR>นด้วย

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พระธานินทร์จันทาโภ
นี้ขอเริ่มต้นบอกข่าวสณ...เวลา๐๗.๑๙ บัดารในการนี้

บุญเริ่มต้นของการค้นหา รวบรวมค้นหาหมู่สหายธรรมที่จะร่วมสนับสนุนผลักดัน และ ก้าวไปด้วยกัน เพื่อความคิดจากอดีตอันไกล สู่ปัจจุบันสมัย กับคณะผู้ที่รับทราบ และปลาบปลื้มปิติยินดี กับสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ดำ และราชนิกูลของท่าน ร่วมศึกษาค้นคว้า รับรู้เปิดใจไปสัมผัส และเดินทางตามรอย ค้นคว้าหาคำตอบที่ค้างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ในจิตใจตน อีกกลุ่มหนึ่งที่จะเปิดโอกาศให้ เหล่าสหายธรรมที่ต้องการเรียนรู้ทางจิต ตามรู้อาการ แก้ไขสิ่งที่ทำให้สภาวะธรรมไม่เกิด กับกรรมฐานเปิดใจทลายกำแพง (เปิดโลก) แบบผสมผสาน ตามโบราณและสมัยปัจจุบัน และ ร่วมกับอาตมาจัดสร้างสถาณแห่งการรวมกลุ่มธรรมมะเพื่อเพิ่มพูลบารมีแด่ผู้ที่เคารพบูชา และสร้างกุศลบารมีทานมี ร่วมกันตามความคิด จิตเมตตา อาสาช่วย ร่วมด้วยกัน ดังนี้
ขณะปัจจุบันอาตมาเป็นพระเถื่อนเคลื่อนย้าย ไร้รัง เนื่องจากสาเหตุกรรมวิบากขณะพรรษา และจากการปาวรณาที่จะไม่เข้าอยู่ประจำวัดสังกัดกับชุมชนเพื่อความวิเวก สงบ และสมาธิจิตสัปปายะในการภาวนา เรียนรู้ให้ปรากฏแจ้งของการเกิดแห่งจิตเรียนรู้ เพื่อเหตุทั้งปวง แต่เดิมเราอาศัยจำพรรษากับครูบาอาจาย์ต่างๆและได้เรียนรู้ตามหลักธรรมคำสอน ของพระพุทธองค์ ที่วัดบึงช้าง วัดท่านา และย้ายไปช่วยสหธรรมมิกพัฒนาวัดชัยภูมิการาม (เป็นศิษย์เก่าจากพระราชวังจันทร์ที่อุปสมบทเป็นภิกษุเช่นกัน) และได้เข้าออกศึกษาธรรมมะเปิดโลกที่วัดเขาชีและอาศัยของหลวงป่าเขาที่พักพิง ที่เขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี ของหลวงพ่อวิรันนตังภิกขุ และมีสหธรรมมิกพระภิกษุอีกรูปที่เป็นภิกษุศิษย์เก่าพระราชวังจันทร์อีกรูปที่นี่ ให้การดูแล และช่วยเหลือในสมณบริโภค ซึ่งแต่ละสถาณที่มีท่านต่างๆที่ดูแลเอื้อเฟื้อมาตลอด จนเข้าสู่วาระเริ่มในกาลพรรษานี้มีเหตุการณ์ที่บอกกับจิตและมนภาพของการรับรู้สื่อออก บอกให้เห็น ความทุกข์ยาก ความลำบากและ ดวงจิตอ่อนแอ ที่ต้องการสถาณที่แห่งหนึ่ง อันสงบ เงียบ และไร้ซึ่งผู้ที่จะมาขัดขวางกระบวนการความคิต การปฏิบัติธรรม ตามรู้ลมหายใจ เข้า ออก แบบ ผสมผสาน และประกอบด้วย การศึกษาเรียนรู้ รับรู้หาความจริงในตัวตน ของคนที่คิดและเห็นเช่นเรา คือ ท้องทุ่งเหลี่ยมชายเขาในเขตติดต่อไกล้เขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และในที่รกร้างข้างเหลี่ยมเขานั้นๆ
(ทุกสิ่งที่จะเริ่มจะไม่ทำลายธรรมชาติป่าและไม่นำความเจริญอันเกินความจำเป็นเข้าไป แต่ยังคงให้ติดต่อสื่อสารกับโลกเทคโนโลยีได้ และหาผู้ร่วมสร้างสถานีวิทยุเพื่อการเรียนรู้ทางความคิด จิตที่ลึกลับ และเทิดทูนพระบารมีสมัยยุคพระองค์ดำ)

ในตอนนี้อาตมามีผู้ที่ติดต่อและแสดงเจตนาร่วม มอบพระพุทธรูปพระพุทธชินราชขนาดพระประทาน กับ พระปางพระศิวลี พระอุปคุต พระสังกัจจายย์ และอาตมาจะทำพิธีเททองหล่อองค์สมเด็จพระนเรศวร และพระสุพรรณกัลยา พระอชาเอกาทศรศ ขนาดตามแต่บารมีของอาตมาและผู้จะมาร่วมสร้าง และจัดหาสร้างที่พักเล็กๆแบบง่ายๆพอเพียง ศาลากรรมฐาน อาคารโรงทาน โดยตอนนี้มีผู้จะนำมาร่วม แบบบ้านน็อคดาวน์สำเร็จหลังเล้ก ๑ หลัง ทุกอย่างที่จะเริ่มต่อไปนั้นมีเพียงอาตมาที่เป็นพระที่มิมีสมบัติใดๆเป็นส่วนตัว มีเพียง จีวรและเครื่องมือสื่อสารหนังสือธรรมมะเท่านั้น ที่เป็นผู้จะรับหน้าที่จัดหาทุกสิ่งตามขที่กล่าวขึ้นมาแล้ว จึงอยากขออาสมัครที่จะ พบปะแลกเปลี่ยนสนธนาธรรม แนะนำความคิดไปด้วยกัน ร่วมด้วยช่วยกันผลักดันสิ่งที่กล่าวมานี้ไปด้วยกันให้เห็นบรรลุผลตามวาระอันควร
คงต้อง อดทนสู้ เพื่อหมู่วีรชนคนผู้กล้า เพื่อที่รวมกลุ่มปฏิบัติและศรัทธาที่ดีร่วมกัน และเพื่อเจตนารมย์ที่จะฟื้นฟู ช่วยเหลือ ผู้ทนทุกข์เวมนาทางร่างกาย จิตใจ ถูกทำร้าย เอาเปรียบจากสังคมใหญ่ และผู้ที่ถูกอวิชชาครอบงำเพราะกรรมเก่า ให้การศึกษาเด็ก เยาวชน ที่ไร้คนดูแล และเป็นที่พักสงฆ์ รุกมูลจาริกสิกขา ธุดงค์วัตร และ ให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย มาใช้ที่นี่ใว้เป็นที่พักพิงใจ ในร่มธงชัยของพระองค์ดำ ในเมืองสองแคว และร่มโพธิ์ทองของพระศาสดา ขอบอกกล่าว เล่าแจ้ง แถลงการณ์แรกเริ่มประเดิมชัยในวันนี้ ขอพระบารมีพระองค์ท่านที่แผ่ขจรกระจาย ไปทั่วเขตประเทศนี้ จงรับรู้ในการณ์ของเรา (ธ.โชติกะภิกษุ) และดลใจให้พบปะและนำมารวมซึ่งกองทัพธรรม สู่ร่มธงชัยในพระบารมีและขออำนาจบารมี แห่งกรรมฐานและฤทธิ์ของธรรมมะทั่วสรรพจักรวาล ช่วยบันดาลให้สำเร็จ เสร็จสมบูรณ์...........

ขอทุกท่าน..เจริญในธรรม

ในนามดวงจิตอันบริสุทธิ์ ( ธ.โชติกะภิกขุ )


</TD></TR></TBODY></TABLE>
โมทนาในกุศลจิตอันยิ่งใหญ่ของหลวงพี่นะคะ นี่คือการสานปณิธานของ "พ่อ" พระองค์ดำโดยแท้...พบท่านทีไร ท่านมีแต่ตักเตือนลูกหลานให้ประพฤติธรรม เพราะแผ่นดินนี้จะรักษาไว้ได้ก็โดยธรรมเท่านั้น เหมือนกับที่พระองค์ท่านได้เคยทรงปฏิบัติมาแล้วในอดีต ด้วยการสละชีวิต สละความสุขส่วนตัวทั้งหมด เพื่อรักษาแผ่นดิน ด้วยตระหนักดีว่า หากแผ่นดินมีแต่ความเดือดร้อน พระศาสนาก็ตั้งอยู่ไม่ได้ ลูกหลานก็อยู่ไม่ได้...นี่คือการปฏิบัติบำเพ็ญเยี่ยงพระโพธิสัตว์โดยแท้...

เมื่อได้พบท่านครั้งหลังสุด ท่านทรงย้ำให้ลูกหลาน "รักษาจิตไว้ในกาย" สม่ำเสมอ นี่คือการปฏิบัติธรรมและเป็นทางพ้นทุกข์ เพราะเมื่อจิตผูกพันแน่นหนาอยู่กับกาย (เช่น โดยการมีสติรู้ลมหายใจ) จิตย่อมไม่ไปเก็บเกี่ยวความทุกข์ภายนอกมาไว้กับจิต..เมื่อเกิดอารมณ์สุขทุกข์มากระทบ จิตก็กลับสู่ "ฐานที่มั่น" คือภายในกายตน ไม่เลื่อนไหลหรือถูกพัดพาไปโดยสิ่งที่มากระทบนั้น...

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก ความตายก็อยู่ใกล้ตัว ไม่รู้ว่ามันจะจู่โจมเข้ามาวันใด ถ้าเข้าใจอย่างนี้ได้ ความคิดที่อยากจะเก็บดอกไม้ริมทางมันจะน้อยลงทุกทีๆ...

แต่ชีวิตก็เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่..ที่จะพาให้ทั้งตัวเราและผู้อื่นได้เข้าถึงความสุขอันถาวรจริงแท้ เพราะฉะนั้นเมื่อรู้คุณค่าของชีวิตแล้ว ก็จะขอทำชีวิตนี้ให้มีคุณค่าทั้งต่อตนเองและผู้อื่น สมกับที่ได้รับโอกาสทองนี้มา ซึ่งนี่คือการเดินตามรอยบาทพระศาสดา พ่อพระองค์ดำและพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของเราทุกพระองค์ท่าน...

กราบโมทนากับหลวงพี่อีกครั้งหนึ่งค่ะ...

 

มีประโยชน์จริงๆ..ขอบคุณน้อง อบ.มากจ้า ที่เอามาโพส