ทริปสร้างสมเด็จองค์ปฐมทันใจ วัดบางกุ้ง อัมพวา 20 เมษายน 2551

หลวงพ่อนิลมณีศักดิ์สิทธิ์โบสถ์ปรกโพธิ์วัดบางกุ้ง

หลวงพ่อนิลมณีโบสถ์น้อยวัดบางกุ้ง ซึ่งเป็นโบสถ์ปรกโพธิ์ ชาวบ้านมักเรียกขานพระนามของท่านว่า “ หลวงพ่อดำโบสถ์น้อยวัดบางกุ้ง ” เริ่มตั้งแต่การสร้างวัดมาแต่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี วัดบางกุ้งน้อยที่อยู่ห่างไกลจากวัดบ้างกุ้งใหญ่เพียง 3 เส้น ซึ่งเป็นวัดที่ภรรยาของท่านเศรษฐีคนที่ 2 มีศรัทธา และร่วมกันสร้างไว้ใกล้เคียงกัน กับวัดของภรรยาคนแรก ในฐานะของความมั่นคงและความศรัทธาตั้งมั่นแรงกล้าต่อการทำบุญ ด้วยมองเห็นภัยคือ ชราและมรณะเป็นที่ตั้ง ถึงแม้ว่าวัดบางกุ้งน้อย จะสร้างให้เป็นวัดที่มีขนาดย่อมลงมาหน่อยจากวัดบางกุ้งใหญ่ แต่เรื่องโบสถ์ซึ่งเป็นปูชนียสถานที่มีความสำคัญต่อการสังฆกรรมของพระสงฆ์กล่าวได้ว่าเป็นหัวใจของวัด ผู้สร้างวัดด้วยศรัทธาปสาทะที่มั่นคง การสร้างโบสถ์ก็ต้องสร้างเป็นพิเศษ ในความกะทัดรัดมั่นคงและสวยงาม ที่สุดพิเศษกว่าอย่างอื่นก็คือ การสร้าง “ พระประธาน ” ประจำอุโบสถ นอกจากจะสร้างด้วยวัสดุที่มีความทนทานเป็นพิเศษอย่างทันสมัยก่อนเก่า มาก็ว่า ศิลาแลง ก็พอเป็นวัสดุชั้นดี ของราษฎรผู้มีฐานะมั่นคง ที่จะเลือกสรรค์มาจัดสร้างเป็นพระพุทธรูปที่คงทนถาวรได้ ส่วนประกอบของความศรัทธาอย่างอื่น ๆ ที่จะแสดงถึงความมั่นคงเลื่อมใสอย่างมากต่อการสร้างพระปฏิมากรอย่างเช่น ดวงพระเนตรของพระ ก็จะเสียสละสิ่งที่มีคุณค่าสูงที่สุดเหมาะสมและสมควรที่สุดเป็นส่วนของดวงพระเนตร เช่น นำนิลมาสร้างเป็นดวงพระเนตรของพระเป็นต้นในส่วนที่สูงขึ้นไปจากส่วนของพระเกศาคือพระเกศเมาฟีต่าง ๆที่ท่านผู้มีศรัทธาสร้างมักจะนำสิ่งที่มีค่ามมาก เช่น ทองคำ เป็นต้น มาเป็นส่วนประกอบหรือเป็นพิเศษทั้งหมดอย่างปัจจุบัน ของการสร้างพระหล่อพระที่มีขนาดใหญ่หรือหล่อพระขนาดกลางก็ตาม ผู้มีศรัทธาแรงกล้าจะนำทอง นาค หรือเครื่องประดับที่มีค่าของตน เข้ามาเป็นส่วนผสมใส่เข้าไปในเบ้าหลอมหล่อในส่วนที่เป็น “ พระเกศ ” ขององค์พระมากน้อยหรือทั้งหมดตามแต่จะศรัทธา ในส่วนพระเนตรของหลวงพ่อนิลมณี มีท่านผู้เฒ่าคนเก่าแต่ก่อนเล่าว่า “ ดวงเนตรของท่านนั้น ผู้สร้างได้นำนิลชั้นดีมีคุณค่า ที่เก็บรักษาไว้เป็นสมบัติ นำมาสร้างถวายเป็นดวงพระเนตรของพระพุทธเจ้าที่ตนเองสร้างขึ้น ”
หลวงพ่อนิลมณีนี้ แต่ก่อนผู้ใดเข้าไปกราบนมัสการท่านในโบสถ์ปรกโพธิ์ ซึ่งท่านเป็นพระประธานประจำโบสถ์ เมื่อเหลือบขึ้นไปสบพระเนตรกับท่านแววพระเนตรของท่าน เหมือนจะทอดพระเนตรมาด้วยความเมตตาทำให้ผู้ที่เข้าไปกราบท่านมีความสุขอย่างไรบอกไม่ถูก .. ยังมีเล่ากันว่า ส่วนผู้ใดที่มีจิตเป็นอกุศลมีกมลไม่ซื่อตรงไม่มั่นคงในศีลธรรม เหลือบตาขึ้นไปสบพระเนตรกับท่านจะมีอาการตระหนกตกใจกลัวเพราะด้วยว่าตัวนั้นไม่บริสุทธิ์ ประกายพระเนตรของท่านจะเป็นเหมือนเพ่งมองอย่างไม่กระพริบพระเนตร ทำให้ผู้นั้นคิดไปว่า ไม่ควรทำชั่ว อย่ามั่วลืมตน​

 

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>วัดบางกุ้ง


วัดในจังหวัดสมุทรสงคราม </TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR><TR><TD>อยู่ในเขตพื้นที่เดียวกับค่ายบางกุ้งแต่อยู่คนละฝั่งกัน มีถนนตัดผ่านกลาง วัดบางกุ้งนี้มีความมหัสจรรย์อยู่ที่โบสถ์ของวัดจะถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ทำให้วัดบางกุ้งแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand โดยภายในวัดมีโบสถ์เก่าประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้นขนาดใหญ่ ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโบสถ์น้อยและมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ เป็นภาพพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมและภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่ในซุ้มขนาบข้างด้วยอัครสาวกนั่งพนมมือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่วัดบางกุ้ง โทร. 0 3476 1631, 08 9014 5681
การเดินทาง ใช้เส้นทางสายสมุทรสงคราม-บางนกแขวก (เส้นทางเดียวกับอุทยาน ร. 2) ก่อนถึงอาสนวิหารแม่พระบังเกิด เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานสมเด็จพระอัมรินทร์ แล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ตรงไปประมาณ 6 กิโลเมตร


</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>วัดอื่นๆในจังหวัดสมุทรสงคราม </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=100></TD><TD vAlign=top align=left width=500>วัดบางกะพ้อม
ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 37 – 38 ไปตามทางหลวงหมายเลข 325 (สมุทรสงคราม-บางแพ) เป็นวัดเก่าแก่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย สิ่งที่น่าสนใจอยู่ภายในวิหารเก่าของวัด
</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>.....................................................................................................................</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=100></TD><TD vAlign=top align=left width=500>วัดอัมพวันเจติยาราม
อยู่ติดกับอุทยาน ร. 2 เป็นวัดของตระกูลราชินิกุลบางช้าง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 หลังวัดแห่งนี้เคยเป็นนิวาสสถานเก่าของหลวงยกกระบัตร (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) และ คุณนาค (สมเด็จพระอมรินทรามาตย์พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1) และเป็นสถานที่พระราชสมภพของรัชกาลที่ 2 เชื่อกันว่าบริเวณพระปรางค์ของวัดอัมพวันเจติยาราม เดิมเป็นเรือนที่คุณนาคใช้เป็นที่คลอดคุณฉิมบุตรชาย ซึ่งต่อมาได้เป็น พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>.....................................................................................................................</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=100></TD><TD vAlign=top align=left width=500>วัดบางแคน้อย
ตั้งอยู่ที่ตำบลแควอ้อม ริมแม่น้ำแม่กลอง คุณหญิงจุ้ย (น้อย) วงศาโรจน์ เป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2411 เดิมอุโบสถของวัดสร้างบนแพไม้ไผ่ผูกไว้กับต้นโพธิ์ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง
</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>.....................................................................................................................</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=100></TD><TD vAlign=top align=left width=500>วัดศรัทธาธรรมหรือวัดมอญ
ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลบางจะเกร็ง ไปตามถนนธนบุรี-ปากท่อ (พระราม 2) ประมาณกิโลเมตรที่ 64 ไปเส้นทางเดียวกับไปดอนหอยหลอด เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร
</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>.....................................................................................................................</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=100></TD><TD vAlign=top align=left width=500>วัดภุมรินทร์กุฎีทอง
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ตรงปากคลองประชาชื่นฝั่งตะวันตก ตำบลสวนหลวง สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดมีมากมาย ได้แก่ กุฎีทอง ทำด้วยไม้สัก ประวัติเล่าว่า เศรษฐีบิดาของคุณนาค (สมเด็จพระอมรินทรามาตย์พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1)
</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>.....................................................................................................................</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=100></TD><TD vAlign=top align=left width=500>วัดเขายี่สาร
ชุมชนยี่สารเป็นชุมชนโบราณร่วมสมัยกับการเกิดกรุงศรีอยุธยา มีการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง มีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภูมิปัญญาบ้านเขายี่สาร ชีวิตวัฒนธรรมของผู้คน
</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>.....................................................................................................................</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=100></TD><TD vAlign=top align=left width=500>วัดบ้านแหลม หรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป “หลวงพ่อบ้านแหลม” มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้านทั่วไป
</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>.....................................................................................................................</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=100></TD><TD vAlign=top align=left width=500>วัดอินทาราม
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พระพุทธรูปหลวงพ่อโตอายุกว่า 300 ปี พระอุโบสถสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง บานหน้าต่างและบานประตูเป็นไม้สักแกะสลักสุภาษิตสอนใจ ท่าน้ำของวัดเป็นอุทยานปลาตะเพียน
</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>.....................................................................................................................</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=100></TD><TD vAlign=top align=left width=500>วัดจุฬามณี
ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 325 (สมุทรสงคราม-บางแพ) กิโลเมตร 34–35 ตำบลบางช้าง เป็นวัดโบราณริมฝั่งคลองอัมพวาต่อเนื่องกับคลองผีหลอก
</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>.....................................................................................................................</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=100></TD><TD vAlign=top align=left width=500>วัดบางแคใหญ่
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง บริเวณปากคลองบางแค ตำบลแควอ้อม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2357 ภายในวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่น่าสนใจ ได้แก่
</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>.....................................................................................................................</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<CENTER></CENTER>
จากวิหารคริสต์ เราก็ไปโบสถ์พุทธกันต่อค่ะ เราเดินทางต่อไปยัง "วัดบางกุ้ง" ซึ่งอยู่ในค่ายบางกุ้ง ที่นี่จะมีโบสถ์ปรกโพธิ์ นั่นก็คือโบสถ์ที่ถูกปกคลุมโดยต้นและรากของต้นโพธิ์ หลายๆคนคงรู้จักแล้ว เพราะที่นี่ถูกจัดให้อยู่ในสถานที่ UNSEEN THAILAND ด้วย วันที่เราไป คนเยอะมากกกกกกกก เลยไม่สามารถถ่ายภาพโบสถ์แบบชัดๆได้


<CENTER></CENTER>
ถัดออกมาจากวัดบางกุ้งก็จะเป็น "ค่ายบางกุ้ง" ซึ่งจะมีพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถิตย์อยู่ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นทหาร และนักรบในอิริยาบทต่างๆ ซึ่งแสดงเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้แบบไทยๆเอาไว้ค่ะ


<CENTER></CENTER>
จากนั้นพวกเราก็เดินทางต่อไปยัง "วัดบางแคน้อย" ซึ่งผนังภายในพระอุโบสถทำจากไม้สักแกะสลักเป็นเรื่องราวในพุทธประวัติ การประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน และเหตุการณ์สำคัญๆทั้งสิบชาติของพระพุทธเจ้า


<CENTER>

</CENTER>
พวกเราใช้เวลาอยู่ที่นี่นานพอสมควร เพราะความงดงามของผนังและเพดานไม้แกะสลัก ดึงดูดให้พวกเราต้องเก็บภาพความงามเหล่านี้ไว้เยอะๆ ถ้าใครได้ไปเห็นด้วยตาตัวเอง ก็คงจะรู้สึกเหมือนพวกเราแน่ๆค่ะ


<CENTER>

</CENTER>
แล้วก็ถึงเวลาพักเบรคทางธรรมกันเล็กน้อย ด้วยการไปเยือน "บ้านแมวไทย" ที่นี่จะมีแมวไทยที่ถูกเลี้ยงไว้เพื่ออนุรักษ์พันธุ์แมวไทยแท้ๆเอาไว้ ทั้งยังมีประวัติของแมวไทยแต่ละสายพันธุ์ให้ศึกษาด้วยค่ะ คุณลุงที่ดูแลที่นี่บอกว่า ค่าอาหารของน้องแมวทั้งหลายนี่ก็หนักเอาการเหมือนกัน ถ้าใครได้ไปเยือน อย่าลืมไปช่วยบริจาคกันบ้างนะคะ


<CENTER></CENTER>
กลับเข้าสู่โหมดทางธรรมกันต่อค่ะ สถานที่ต่อมาก็คือ "วัดภุมรินทร์กุฎีทอง" (กุฎี หมายถึง กุฏิ) กุฎีทองถูกสร้างขึ้นโดย สมเด็จพระอัมรินทรา พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงสร้างถวายเจ้าอาวาสวัดบางลี่บน ด้วยความศรัทธา ต่อมาวัดบางลี่บนได้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนวัดพังลงน้ำไป จึงได้ย้ายกุฎีทองมาไว้ที่วัดภุมรินทร์ ซึ่งตอนแรกมีกุฎีอยู่ 3 หลัง แต่หลังจากที่ถูกน้ำกัดเซาะ ก็เหลืออยู่เพียงหลังเดียวค่ะ


<CENTER>



</CENTER>
ภายในกุฎี จะมีภาพวาดลายรดน้ำปิดทองบนฝาผนังซึ่งเป็นเรื่องราวพุทธประวัติบางส่วนเอาไว้ และบนเพดานก็จะเป็นลวดลายไทย ปัจจุบัน ภาพวาดเหล่านั้นก็เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา และเสาเก่าที่อยู่มาตั้งแต่สร้างกุฎีก็เหลืออยู่เพียงต้นเดียว (นอกนั้นเป็นเสาใหม่ทั้งหมด) ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเสาต้นนี้มีนางไม้สิงอยู่ เวลาใครมาบนบานและได้ผลสำเร็จ ก็จะนำชุดไทยมาถวายเพื่อแก้บนค่ะ


<CENTER>

</CENTER>
หลังจากเดินทางเข้าวัดนั้น ออกวัดนี้มาทั้งวัน ก็ได้เวลาเข้าที่พัก พวกเราเลือกพักที่ "บ้านกุ้งแม่น้ำโฮมสเตย์" เป็นบ้านพักหลังเล็กๆสีส้มสดใสอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตลาดอัมพวาสักเท่าไหร่ค่ะ


<CENTER></CENTER>
บรรยากาศยามเย็นของที่นี้สวยมากๆเลยค่ะ เราเห็นพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจน อากาศก็ไม่ร้อนด้วยค่ะ ยิ่งตกดึก ลมพัดเย็นสบายสุดๆ ถ้าแหงนมองบนท้องฟ้าก็จะเห็นดาวเต็มท้องฟ้า จนไม่น่าเชื่อเลยว่าที่นี่จะอยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่นิดเดียว เพราะถ้าเป็นกรุงเทพฯ คงมองไม่เห็นดาวสักดวงล่ะค่ะ


<CENTER>



</CENTER>
พอแดดร่มลมตก และอิ่มหนำจากอาหารมื้อเย็นกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกไปตะลุยตลาดน้ำอัมพวาค่ะ ตลาดน้ำอัมพวาจะเปิดแค่วันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 4 โมงเย็นไปจนถึง 3 ทุ่ม ที่นี่เป็นแหล่งรวมของอาหารนานาชนิด ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทยโบราณ ร้านรวงริม 2 ฝั่งคลองที่ยังคงความเป็นไทยๆเอาไว้อย่างสมบูรณ์ มีทั้งร้านขายของเล่นโบราณ ร้านขายของที่ระลึก ถือเป็นเสน่ห์ของตลาดแห่งนี้ อีกทั้งอาหารบางชนิดที่หาไม่ได้ตามตลาดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ก็มาหาได้ที่นี่ อย่างเช่น น้ำอัดลมโบราณ ซึ่งเค้าเรียกกันว่า "น้ำมะเน็ด" เราก็ไม่พลาดที่จะไปลองชิมค่ะ

จากนั้นพวกเราก็นั่งเรือไปชมหิ่งห้อยกันต่อ จากที่เคยเห็นหิ่งห้อยแค่ในหนังไทย แล้วเราก็ได้เห็นของจริง (รึเปล่า??) สิ่งที่เห็นนั้นแตกต่างจากที่เราเคยดูในหนังไทยเลย คือหิ่งห้อยที่นี่จะเกาะอยู่ตามต้นไม้ แบบว่าเกาะจริงๆนะ ไม่มีบินร่อนไปร่อนมาเลย แถมยังกระพริบไฟพร้อมๆกันทั้งต้นอีกต่างหาก (สงสัยฝึกมาดี อิอิ ) จนเราไม่กล้าฟันธงหรอกว่าที่เห็นมันเป็นหิ่งห้อยจริงหรือปลอม เพราะแสงไฟกระพริบมันเล็กมากๆ จนนึกไม่ออกว่าเค้าเอาไฟแบบไหนมาทำ หรือว่ามันเป็นหิ่งห้อยจริงๆที่ชินกับเสียงเรือจนไม่ต้องบินหนีไปไหน ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไง ก็ต้องไปพิสูจน์เอาเองนะคะ ปล. โหมดชมหิ่งห้อย ไม่มีภาพประกอบนะคะ เพราะถ่ายมาก็มีแต่ความมืดค่ะ


<CENTER>

</CENTER>
เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อนเรา 4 คนต้องแยกกลับกทม.ก่อน ส่วนอีก 4 คนที่เหลือก็ไปเที่ยวกันต่อ เราเลือกไปชม "อุทยาน ร.2" (อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) ซึ่งอยู่ติดกับวัดอัมพวันเจติยาราม สร้างขึ้นในพื้นที่ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ภายในอุทยานจะมีเรือนไทยทำด้วยไม้ พิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีไทย โรงละครกลางแจ้ง สวนเกษตรและพันธุ์ไม้ในวรรณคดี


<CENTER></CENTER>
สถานที่สุดท้ายที่เราไปเยือนได้แก่ "วัดจุฬามณี" เป็นวัดที่อยู่ริมคลองอัมพวา ซึ่งตอนที่เราไปดูหิ่งห้อยก็นั่งเรือผ่านค่ะ วัดนี้ในยามกลางคืนสวยงามมากจนพวกเราตั้งใจจะมาเยือนให้ได้ค่ะ


<CENTER>



</CENTER>
วัดจุฬามณี แห่งนี้มีหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อเนื่อง โกวิโท (พระครูโกวิทสมุทรคุณ) ซึ่งหลวงพ่อมรณภาพไปตั้งแต่ปี 2530 แต่ร่างไม่เน่าเปื่อยจนถึงทุกวันนี้ค่ะ

แล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพฯค่ะ แต่ทริปจริงๆยังไม่หมดหรอก เพราะกลับมาถึงกรุงเทพฯแล้ว เพื่อนอีก 4 คนที่กลับมาก่อนก็ตามมาสมทบที่ร้านอาหารแถวๆเสนาฯ แล้วก็มาต่อที่บ้านเราเพื่อรอโหลดรูปทุกกล้องลงคอมแล้วก็ไรท์ลงแผ่นก่อนจะแยกย้ายบ้านใครบ้านมัน ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นทริปโดยสมบูรณ์ค่ะ (แล้วเราจะเล่าส่วนนี้ทำไมฟระ?? )

จริงๆแล้วที่ จ.สมุทรสงคราม ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายที่ค่ะ แต่ด้วยเวลาจำกัด เที่ยวได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเยอะแล้ว ถ้าใครพอจะมีเวลาว่าง ก็แวะเวียนไปเที่ยวชมหรือไปพักผ่อนกันได้นะคะ



<CENTER><OBJECT id=mediaplayer height=60 standby="Loading Microsoft Windows Media Player components..." width=210 classid=CLSID:6BF52A52-394A-11d3-B153-00C04F79FAA6 VIEWASTEXT>
























</OBJECT>

นิทานหิ่งห้อย : เฉลียง
เอกเขนก</CENTER>

 

หาแผนที่ให้อยู่ครับ หายากมากเลย

 

โมทนาด้วยครับคณะทริปบางกุ้ง ขอให้ทุกท่านเดินทางราบรื่นปลอดภัย
เป็นตัวแทนนำบุญกลับมาฝากเพื่อนๆด้วยนะครับ วันนั้นต้องไปฟังบรรยายพอเลยดีครับ
ปล.เห็นรูปวัดบางแคน้อยทึ่งฝีมือช่างจริงๆสวยงามมากครับ

 

หาแผนที่ให้และพาเที่ยวไปพลางๆก่อนครับ

http://www.ezytrip.com/webboard/show.php?id=11918&pages=1

http://www.pantip.com/cafe/gallery/topic/G6193439/G6193439.html

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10>[SIZE=-3] [/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10>[SIZE=-3] [/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ดูจุดที่วัดบางกุ้งนะครับ แผ่นนี้ค่อยดูเป็นแผนที่หน่อย

 

" ขอยืมข้อความของคุณยาล้างตามาใช้นะครับ "
วันนี้(8/4/08)(19:32) ผมนายเพชรลักษณ์ นางณัฐากาญจน์ นางระเบียบรัตน ศีลประสิทธิ
ได้โอนเงินเพื่อร่วมสมทบทำบุญในการสร้างสมเด็จองค์ปฐมทันใจในครั้งนี้ จำนวน 500 บาทถ้วน
โดยโอนเข้าบัญชีคุณคณานันท์ BBL 1510918681
รบกวนคุณเล็ก ช่วยดำเนินการให้ด้วยนะครับ

ด้วยผลบุญในครั้งนี้
1.ขอให้พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ตลอดจน เทพพรหมเทวา มีท่านท้าวสหัมบดีพรหม พระอินทราธิราช ท้าวมหาราชทั้งสี่ พระยายมราช พระสยามเทวาธิราช แม่พระธรณี แม่พระคงคา พญานาคทุกเขตคาม ทั้งในแผ่นดิน และในมหาสมุทร รวมไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล ขอทรงมาร่วมบุญ โมทนาบุญและเป็นพยานบุญ ในมหากุศลในครั้งนี้

2.ขอให้บารมีแห่งพุทธานุภาพนี้ จงปกปักรักษาเขตคาม นี้ตลอดไปจนถึงประเทศไทย ให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอาณาจักรแห่งสัมมาทิษฐิเป็นที่จารึกพระบวรพุทธศาสนาให้ถ้วนทั่วครบ ห้าพันปี ขอให้ผู้มีบารมีธรรมจงเปิด สายบุญ สายสมบัติ ต่อบารมี รวมใจกันในทางแห่งกุศล สร้างเจริญรุ่งเรืองทั้งในทางโลกทางธรรม ทำนุบำรุงชาติ พระพุทธศาสนา องค์พระมหากษัตริย์ ได้สำเร็จ ดังพระราชปณิธาน แห่งองค์สมเด็จพระเจ้าตากสิน และบุรพมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ท่านได้ทรงปณิธานเอาไว้ด้วยเทอญ

3.ขอให้อานิสงค์ในครั้งนี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย จงส่งผล ดลบันดาล ประทานพร ให้ปรากฏผลอย่าง ฉับพลันทันใด ให้สำเร็จในสิ่งปรารถนาในทางกุศลทุกอย่างทุกประการ มากด้วย พละห้า บารมีสามสิบทัศน์ อิทธิบาทสี่ โลกุตรธรรมแปด สัมมาสัมโพธิญาณ สายสมบัติ สายบารมี สายอภิญญา เกิดชาติใดก็จงเกิดในสกุลสูงเป็นสัมมาทิษฐิ มากด้วยปัญญาในธรรม รูปทรัพย์ โภคทรัพย์ อริยทรัพย์ ปิดมิจฉาทิษฐิ และอบายภูมิทั้งปวง มีเพียงสุขคติภูมิเป็นที่ตั้งทุกชาติภพตลอดไปตราบเข้าเข้าถึงพระนิพพานด้วยเทอญ

 

ขอจองที่นั่ง 2 ที่ ค่ะ

ช่วยกรุณาบอกสถานที่ขึ้นรถ ที่ อนุสาวรีย์ ให้ ทราบละเอียดหน่อยได้ไหมค่ะ

เพราะดิฉัน ยังไม่รู้จักใครในสมาชิกพลังจิต เลยค่ะ

เพิ่งอ่านเจอ เรื่อง ทริป สร้างพระสมเด็จองค์ปฐม เกิดศรัทธา อย่างมาก จึงอยากไป

มากๆค่ะ

 

ไปด้วยอีกคนค่ะ ไปกะพี่ต้นค่ะ (Desire)

 

อ่าว พี่ต้นไม่ได้ขับรถไปเองหรอครับ

ในที่สุดก็ปรากฏตัวแล้ว (||)

 

รายชื่อท่านผู้ไปร่วมงานโดยไปกับรถตู้ จำนวน สองคัน ประมาณ 30 ที่นั่งครับ



1. Time_machian
2. ทานะบารมี
3. พิชญ์
4. จิตต์ปภัสสร
5. Da_li 2 ที่
6. Chou
7. khunkik
8.คุณ ณ.
9.คุณดอกขจร 2 ที่
10.คุณ Monsodsai
11.พี่เม้า 2 ที่
12.คุณคมม์ 2 ที่
13.คุณฮุ้ง-หงส์ 1 ที่
14.หลวงพี่นิล
15.ผู้ติดตาม
16.พี่แอ๊ว
17.นัทเดช 2 ที่
18.พี่เคอร์มิท
19.คุณจิตรรัตน์ 0804464718
20.คุณเบญจวรรณ
21.คุณ sare.ewan 2 ที่


ตอนนี้สำหรับรถตู้มียอดจองที่นั่งประมาณ 27 ที่นั่ง เหลือที่นั่งอีกประมาณ 3 ที่นั่งครับ ขาดเกินหรือจองซ้ำขาดตกใครแจ้งให้ทราบด้วยครับผม

ส่วนท่านที่จะนำรถไปเองมีดังนี้ครับ

1. พี่ตั้ม 2 ท่าน
2. catt bewer
3. พี่มารีน 1 ท่าน
4. พี่สนั่น
5. พี่ยาล้างตา
6. คุณลุงชัยมงคลสถาน 2 ท่าน
7. คณะของหลวงพี่โชคชัยจากโคราช
8. คุณพุทธโกมุท 5 ท่าน
9. คุณต้น Desire 2 ท่าน


สำหรับอาหารทางเจ้าภาพได้จัดเตรียม ข้าวต้มปลาให้ในตอนเช้าและ ขนมจีนมื้อกลางวันครับ

ดังนั้นจึงอยากทราบยอดผู้ไปโดยประมาณเพื่อการประสานงานกับคนในพื้นที่ครับ

สำหรับท่านที่จะไปรถตู้ที่ทางเจ้าภาพจัดให้ ขอให้ขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัย บริเวณใต้ทางด่วน ฝั่งบ้านอนุสาวรีย์(ที่หลวงพี่เล็กท่านมา) เวลา 5.30 น.รถออก และของดจุดนัดที่วงเวียนใหญครับ
และขออนุญาตขออาสาสมัครช่วยดูแลรถตู้ที่จะไปด้วย ครับเพราะผมเองต้องไปล่วงหน้า ก่อนหนึ่งวันเพื่อเตรียมการจัดงาน และสร้างฐานพระพุทธรูปเอาไว้เพื่อรอพวกเรา

ส่วนรถยนต์ส่วนตัวหากมีที่ว่างก็ขอให้แจ้งมาเผื่อเพื่อนๆท่านอื่นๆด้วยครับ หากรถตู้เต็ม ก็ยังพอมีที่สำหรับท่านที่แจ้งมาช้าครับ

และจุดรวมพลจุดแรก ขอเป็นที่ อนุสาวรีย์ชัย สำหรับเพื่อนๆพี่ๆที่อยู่ในโซน รังสิต ลาดพร้าว รามอินทรา

จุดที่สอง คือปั๊มเจ็ท บนถนน ธนบุรีปากท่อ ที่เลยจากถนนวงแหวนเป็นปั๊มแรกครับ

เนื่องจากแผนที่ไม่ชัดเจนเท่าไรขับตามกันไป สะดวกกว่าครับ

เส้นทางจากธนบุรีปากท่อ เข้าตัวจ.สมุทรสงคราม ตรงเข้าเมือง เจอทางรถไฟแล้วเลี้ยวขวา มุ่งตามป้ายเพื่อไปอุทยาน ร. 2 เป็นหลัก จากนั้นเลี้ยวซ้ายขึ้นที่ตู้ยามใหญ่ ขึ้นสะพานสมเด็จอัมรินทร์ ตรงไปตามทาง จะมีป้ายบอกทางไปวัดบางกุ้งเป็นระยะๆครับ


<!-- / message --><!-- sig -->

 

<TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Da_li<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:31 PM
วันที่สมัคร: Jul 2007
ข้อความ: 75 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 1,065 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 1,450 ครั้ง ใน 97 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 136


</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ทริปวัดบางกุ้ง
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->สวัสดีค่ะ...คุณคณานันท์

งานทริปวัดบางกุ้ง ดาหลีจอง 2 ที่ค่ะ
เดิมพิชญ์จองให้ดาหลี 1 ที่
ดาหลีจองให้น้องที่ทำงานอีก 1 ที่ รวมเป็น 2 ที่ค่ะ
(ขออภัยค่ะในกระทู้ไม่ได้เขียนว่าจองเพิ่ม)
น้องที่ทำงานจะขอไปร่วมบุญด้วยพร้อมกับลูกสาวอายุ 10 ขวบ (ลูกสาวนั่งตักค่ะ)

ขอบคุณค่ะ..
<!-- / message --><!-- sig -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คุณคณานันท์คะ นับหล่นไป 2 ที่นะคะ รวมตัวดิฉันด้วย เป็น 3 ที่ค่ะ จากกระทู้หน้าที่ 2.... ขอบคุณค่า...

 

งานบุญครั้งนี้ มีนักเรียนพลังยูเรอัส ไปร่วมด้วยไม่ต่ำกว่า 6 คน
อาจจะได้ทดลองใช้วิชาที่เรียนมา รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ตามแต่โอกาสจะอำนวยนะครับ...สาธุๆๆ

 

คุณคณานันท์ ดิฉันขอร่วมทำบุญด้วย 500 บาทโอนจากธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม วันนี้นะคะ อยากไปด้วยจะได้รู้จักทุกๆท่าน แต่ต้องรอถามสามีก่อนว่าเค้าว่างหรือป่าวถ้าว่าง จะไปทั้งครอบครัว 5 คน มีพี่สาวดิฉันอีก 2 คน ลูกชายอีก 1 สามีและดิฉัน

 

ลืมไป สาขาสีลม 118 นะคะ โอนเข้า 855-0-14998-6 นะคะ