ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน

    IMG_6364.JPG
    ผู้ก่อการร้ายชาวซาอุดีอาระเบียกว่า 150 คนถูกจับตัวในเยเมน


    -=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


    โฆษกกองทัพบกเยเมน Yahya Saree กล่าวว่า ทหารรับจ้างของซาอุฯ อย่างน้อย 150 นายถูกจับตัวที่เมือง Ma'rib หลังจากกองทหารของเยเมน เปิดทำการโจมตีตำแหน่งที่ตั้งของพวกเขาในจังหวัดทางตะวันตก

    ทหารเยเมนยังได้ทำลายยานสงครามหลายคันที่เป็นของผู้ก่อการร้ายด้วย


    ซาอุดีอาระเบียและกลุ่มพันธมิตร เข้ามารุกรานเยเมน ได้สังหารหมู่พลเรือนอย่างต่อเนื่องและการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของเยเมนไปเป็นจำนวนมาก เป็นเวลาเกือบสี่ปีแล้ว แต่ริยาดก็ไม่บรรลุเป้าหมายในเยเมน


    BY>>>>>Giant Khan<<<<<


    https://www.tasnimnews.com/en/news/...s-captured-in-ma-rib-yemeni-military-official


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Thanong Fanclub


    ต้องอ่าน!!

    IMG_6365.JPG

    เบื้องหลังทรัมป์ถอนทหารอเมริกันออกจากซีเรีย (1)


    ทรัมป์ช็อคทุกคนด้วยการสั่งถอนทหารอเมริกันออกจากซีเรียในวันที่19ธันวาคมที่ผ่านมา โดยไม่ฟังคำทัดทานของทีมงานด้านทหารและความมั่นคง และไม่ได้หารือกับสถาคอนเกรซ รวมทั้งพันธะมิตรของสหรัฐในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิสราเอล


    คำสั่งถอนทหารอเมริกันออกจากตุรกีของทรัมป์ทำให้นายพลหมาบ้าไม่สามารถจะอยู่ในตำแหน่งรมว กลาโหมได้อีกต่อไป เขายื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งในวันต่อมา นายพลหมาบ้าอยู่ฝ่ายเหยี่ยวที่ต้องการให้สหรัฐคงกองกำลังทหารในซีเรียอย่างไม่มีกำหนด แม้ว่าพวกไอซิสจะถูกปูตินปราบจบแทบที่จะสิ้นซากแล้ว เนื่องจากนายพลหมาบ้ากลัวว่า อิหร่านและรัสเซียจะมีอิทธิพลเหนือซีเรีย ซึ่งต่อไปจะเป็นภัยต่อความอยู่รอดของอิสราเอล


    ก่อนหน้านี้บิ๊กป้อม Mike Pompeo รมวต่างประเทศของสหรัฐและ นายMevlut Cavusoglu รมวต่างประเทศของตุรกีได้หารือกันแล้วระดับหนึ่ง โดยฝ่ายตุรกีบอกจุดยืนที่จัดเจนว่า พร้อมที่จะส่งกองกำลังทหารเข้าไปในทางเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียเพื่อบดขยี้พวกเคิร์ด ที่เป็นชนกลุ่มน้อยและหอกข้างแคร่ของตุรกีมาตลอด กองกำลังเคิร์ดในซีเรียมีความสัมพันธ์กับพวกเคิร์ดในตุรกีที่ทางตุรกีต้องการปราบปราม เนื่องจากพวกเคิร์ดต้องการตั้งรัฐอิสระ โดยได้รับการสนับสนุนจากทางสหรัฐ


    ปัญหาคือ สหรัฐมีกองกำลังอยู่ทางเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยให้การช่วยเหลือพวกเคิร์ดในฐานะที่ปรึกษาทางทหาร ถ้าตุรกีส่งกองทัพเข้าไปโจมตีพวกเคิร์ด จะเท่ากับว่าตุรกีจะต้องมีการปะทะกับทหารอเมริกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากตุรกีและสหรัฐเป็นพันธมิตรนาโต้ด้วยกัน แล้วจะรบกันหรือ แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง2ประเทศเสื่อมลงไปอย่างมากในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา เพราะว่าแอร์โดอันเอาใจออกห่างไปซบอกปูตินก็ตาม


    ต้องเข้าใจว่า ทหารอเมริกันเข้าไปตั้งฐานปฏิบัติการในซีเรียอย่างผิดกฎหมาย ถือว่าเป็นการรุกรานซีเรียที่เป็นประเทศอธิปไตย เพราะว่าไม่ได้รับเชิญให้เข้าประเทศ ไม่เหมือนกับรัสเซียที่ได้รับคำเชิญให้เข้ามาช่วยปราบไอซิสและกองกำลังนักรบที่สหรัฐ นาโต้และกลุ่มประเทศอาหรับที่ให้การสนับสนุนเพื่อโค่นล้มรัฐบาลอัสสาดของซีเรีย


    สถานการณ์ในซีเรียมีความสลับซับซ้อน เพราะว่าสหรัฐให้การสนับสนุนพวกเคิร์ดที่ทำการสู้รบกับรัฐบาลซีเรีย และพวกไอซิสพร้อมๆกัน ในขณะที่สหรัฐให้การสนับสนุนพวกเคิร์ด และพวกไอซิส รวมทั้งพวกก่อการร้ายพ่อพันแม่ในเชิงลับ โดยที่จุดประสงค์หลักของสหรัฐคือล้มรัฐบาลซีเรีย แยกซีเรียออกเป็นส่วนๆ สกัดไม่ให้อิหร่านมีอิทธิเหนือซีเรีย เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่สุดคือ ปกป้องความมั่นคงให้กับอิสราเอลที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการล่มสลายของซีเรีย


    บิ๊กป้อมได้รับแจ้งจาก คู่หูตุรกีว่า การที่ตุรกีจะส่งกองทัพเข้าไปทางตอนเหนือของซีเรียเพื่อปราบพวกเคิร์ดเป็นเรื่องใหญ่ ที่ต้องให้ระดับผู้นำ หรือทรัมป์และแอร์โดอันเท่านั้นที่สามารถจะตัดสินใจได้ ทั้งคู่ตกลงที่จะให้ประธานาธิบดีทั้งสองหารือกันเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการทางทหารของตุรกีเพื่อกวาดล้างกลุ่มนักรบกบฏชาวเคิร์ดในซีเรียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะทำอย่างไรที่จะเลี่ยงไม่ให้มีการปะทะกันกับกองทัพสหรัฐที่หนุนพวกเคิร์ด


    ปูตินนั่งกระดิกเท้าจิบวอดก้าด้วยความใจเย็น ปูตินไม่ขอยุ่งด้วยในประเด็นนี้ เพราะว่าถ้ารัสเซียเข้าไปแทรกแซงในปฏิบัติการทหารทางตอนเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียจะกลายเป็นการปะทะกันโดยตรงระหว่างมหาอำนาจด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเมืองและความมั่นคงของโลก ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียและกองทัพสหรัฐหลีกเหลี่ยงที่จะปะทะกันโดยตรงในสงครามตัวแทนในซีเรีย


    ประธานาธิบดีอัสสาดของซีเรียเล่นตามเกมที่จะให้ตุรกีส่งกองทัพเข้ามาปราบเคิร์ด แม้ว่าในใจยังมีบาดแผลลึกที่ไมิอาจลืมเลือนได้จากการที่แต่แรกเริ่มตุรกีร่วมมือกับสหรัฐในการทำสงครามเพื่อแย่งแยกซีเรีย


    การโทรศัพท์พูดคุยกันระหว่างทรัมป์กับแอร์โดอันเป็นไปตามกำหนดในวันที่ 14ธันวาคม เพื่อชี้ชะตาอนาคตของซีเรีย และบทบาทของกองทัพอเมริกันในซีเรีย และในตะวันออกกลาง


    thanong

    22/12/2018

    https://www.apnews.com/ec2ed217357048ff998225a31534df12


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Thanong Fanclub

    IMG_6366.JPG
    ต้องอ่าน!!

    เบื้องหลังทรัมป์ถอนทหารอเมริกันออกจากซีเรีย (2)


    เฒ่าหนวดเฟิ้ม John Bolton ผู้อำนวยการสภาความมั่นคงสหรัฐรับหน้าที่ประสานงานให้ทรัมป์ และแอร์โดอันพูดคุยกันทางโทรศัพท์ในวันที่ 14ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ทางตุรกีขู่ว่าจะส่งกองทัพเข้าไปบดขยี้กองกำลังเคิร์ดทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นบริเวณที่ทหารอเมริกันมีฐานทัพอยู่


    ตุรกีเดินเกมอย่างหนักหน่วงแบบนี้ โดยขู่ว่าถ้ากองกำลังทหารอเมริกันไม่ถอยออกไป อาจจะเจอลูกหลงได้ และตุรกีจะไม่ขอรับผิดชอบ เพราะว่าได้เตือนแล้ว การเผด็จศึกพวกเคิร์ดจะทำให้ตุรกีกำจัดเสี้ยนหนามไปเสียที แล้วสหรัฐทำอย่างไร อย่างไรเสียสหรัฐยังหวังว่า ตุรกีจะยังคงเป็นพันธมิตรสหรัฐ และนาโต้อีกต่อไป ถ้าหากว่าจะหักดิบตุรกีในสงครามตัวแทนในซีเรีย เท่ากับว่านาโต้จะล่มสลาย เพราะว่าสมาชิกนาโต้รบกันเองในซีเรีย


    บิ๊กป้อมกับนายพลหมาบ้ารับเป็นผู้เขียนบทให้ทรัมป์เจรจากับแอร์โดอันทางโทรศัพท์ โดยร่างบทสนทนาออกมาเป็นข้อๆ ทรัมป์ควรจะพูดอะไร เวลาแอร์โดอันพูดมาอย่างนี้ควรจะตอบว่าอย่างไร โดยสาระแล้ว ต้องทำให้แอร์โดอันเปลี่ยนใจให้ได้ว่าจะไม่ส่งทหารข้ามพรมแดนเข้ามายังซีเรียทางตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อทำสงครามกับพวกเคิร์ด อย่างน้อยต้องสร้างความรู้สึกให้แอร์โดอันว่า สหรัฐกับตุรกีจะความมือกันหาทางออกเรื่องความมั่นคง และตุรกีต้องให้ได้รับชัยชนะบางอย่าง เช่นการได้ครอบครองดินแดนบางส่วนทางตอนเหนือของซีเรีย


    แต่เอาเข้าจริง ทรัมป์กับอึ้งเมื่อโดนแอร์โดอันรุกไล่ เขาบอกทรัมป์ว่า เหตุผลเดียวที่กองทัพสหรัฐอยู่ในซีเรียก็เพื่อที่จะทำสงครามกับพวกไอซิส แต่ตอนนี้ไอซิสโดนทำลายไปแล้ว99% แล้วจะคงฐานทัพอเมริกันในซีเรียอีกต่อไปทำไม ไม่ต้องห่่วงไอซิสที่เหลือประปราย เพราะว่ากองทัพตุรกีสามารถจัดการได้ให้สิ้นซาก


    ในช่วงที่ทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์กับแอร์โดอัน เฒ่าหนวดเฟิ้ม บิ๊กป้อม นายพลหมาบ้า นายJim Jeffrey ทูตพิเศษประจำซีเรีย และนาย Brett McGurk นักการทูตที่ประสานงานด้านการต่อต้านไอซิส นั่งอยู่ด้วยกันทั้งหมด ทรัมป์ปิดปุ่มโทรศัพท์ให้แอร์โดอันรอสายชั่วคราวและไม่ได้ยินสิ่งที่ทรัมป์ต้องการหารือกับทีมงาน ทรัมป์ถามเฒ่าหนวดเฟิ้มว่า เป็นความจริงไหมที่พวกไอซิสพ่ายแพ้ในซีเรียไปแล้วถึง99%เหมือนอย่างที่แอร์โดอันได้กล่าว ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แล้วจะมีประโยชน์อะไรในการคงฐานทัพของสหรัฐในซีเรีย


    เฒ่าหนวดเฟิ้ม บิ๊กป้อม นายหมาบ้า Jeffrey และMcGurkยอมรับแต่โดยดีว่า พวกไอซิสเหลือการครอบครองพื้นที่เพียง1%ในซีเรีย เมื่อเทียบกับแต่ก่อน


    แต่เฒ่าหนวดเฟิ้มยังยืนยันว่า แม้ว่าไอซิสจะอ่อนแรงลงไปมาก แต่ชัยชนะที่แท้จริงเหนือไอซิสจะต้องเป็นเรื่องถาวร และเป็นอะไรมากกว่าการชิงดินแดน หรือพื้นที่คืนจากไอซิส สรุปแล้ว ทีมงานทรัมป์ทั้งหมดต้องการให้กองทัพสหรัฐยังคงฐานทัพในซีเรียในสงครามที่ไม่มีวันจบ เพราะว่าไม่มีใครบอกได้ว่า สงครามซีเรียจะจบเมื่อใด


    ก่อนหน้านี้เฒ่าหนวดเฟิ้มได้ส่งสัญญานว่า กองทัพสหรัฐจะไม่ถอนออกจากซีเรีย จนกว่าภัยของการคุกคามของอิหร่านจะหมดสิ้นไป หรืออิหร่านต้องถอนกองกำลังออกจากซีเรียด้วย


    ทรัมป์ออกนอกบททันที เขาไม่ยอมเล่นตามบทที่คณะทีมงานฝ่ายความมั่นคง ทหาร และการทูตได้แนะนำให้คงฐานทัพอเมริกันและปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย ที่ความจริงแล้วผิดกฎหมาย เพราะว่าเป็นการรุกรานซีเรีย และทำเนียบขาวก่อสงครามซีเรียตั้งแต่สมัยโอบามาโดยไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากสภาคอนเกรซ แม้ว่ารัฐธรรมนูญสหรัฐจะระบุว่า มีเพียงสภาคอนเกรซเท่านั้นที่สามารถประกาศสงครามได้


    ทรัมป์สร้างเซอร์ไพซ์ด้วยการเข้าข้างเห็นดีเห็นงามไปกับแอร์โดอัน ควรจะถอนกองทัพอเมริกันออกไปจากซีเรีย เพราะว่าได้มีชัยเหนือไอซิสแล้ว หรือให้ตุรกีและรัสเซียทำหน้าที่กวาดล้างไอซิสที่เหลือต่อไป ทีมงานทุกคนช็อค ไม่ว่าจะเป็นเฒ่าหนวดเฟิ้ม บิ๊กป้อม และนายพลหมาบ้า แม้แต่แอร์โดอันก็ช็อคตามไปด้วย เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่า ทรัมป์ยอมอย่างง่ายดายอย่างนี้


    ในวันต่อๆมา ทีมงานที่ปรึกษาทรัมป์พยายามเกลี้ยกล่อมให้ทรัมป์เปลี่ยนใจในเรื่องการถอนทหารออกจากซีเรีย อย่างน้อยให้มีการชะลอการถอนทหารเพื่อให้พวกเคิร์ดได้มีโอกาสตั้งหลักเพื่อลดผลกระทบที่จะตามมา แต่ทรัมป์ยืนยันหนักแน่นว่า เขาต้องการให้ทหารอเมริกันออกจากซีเรียอย่างทันที


    ในวันที่ อังคารที่17 ธันวาคมที่ผ่านมา 3ทหารเสือคือ เฒ่าหนวดเฟิ้ม บิ๊กป้อมและนายพลหมาบ้าเข้าพบทรัมป์ที่ทำเนียบขาวอีกครั้ง เพื่อที่จะหาทางสายกลาง แต่นายพลJohn Kelly หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว และนายMick Mulvaney ที่จะมาทำหน้าทีแทนเคลลี่ในต้นปีหน้าว่า ทรัมป์จะไม่มีวันเปลี่ยนใจเรื่องการถอนทหารอเมริกันออกจากซีเรีย ในวันที่ 18 ธันวาคม 3ทหารเสือพยายามล็อบบี้ทรัมป์อีกครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ


    ทำเนียขาวต้องการประกาศการถอนกองทัพอเมริกันออกจากซีเรียในวันนั้นพอดี โดยSarah Sanders โฆษกของทำเนียบขาวกำลังเตรียมเอกสารเพื่อจัดการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ แต่เพนตากอนท้วงว่า ควรต้องแจ้งเรื่องนี้ให้พันธมิตรของสหรัฐ รวมทั้งสมาชิกของสภาคอนเกรซให้ได้รับทราบเสียก่อน นอกจากตุรกีแล้วประเทศที่ได้รับแจ้งเรื่องนี้ก่อนใครคืออิสราเอล


    ในวันพุธที่ 19ธันวาคม เร่ิมมีข่าวกระจายออกไปเกี่ยวกับนโยบายถอนกองกำลังทหารของสหรัฐออกจากซีเรีย นายพลJoseph Votel ผู้บัญชากลางกองทัพสหรัฐได้แจ้งให้นายทหารสหรัฐที่ปฏิบัติงานอยู่ภาคพื้นดินในซีเรียให้ทราบ ในที่สุดพวกเคิร์ดได้รับแจ้งเรื่องนี้ และหนึ่งในผู้นำพวกเคิร์ดบอกว่า โดนสหรัฐแทงข้างหลัง


    ในวันนั้นทรัมป์เขียนทวิทเตอร์ว่า สหรัฐมีชัยเหนือไอซิสแล้ว ได้เวลาถอนทหารออกจากซีเรียเพื่อให้ทหารอเมริกันได้กลับบ้าน


    ในวันพฤหัสบดีที่ 20ธันวาคม นายพลหมาบ้ายื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรมว กลาโหม เพราะว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการถอนทัพออกจากซีเรีย ทรัมป์ไม่แคร์ ออกก็ออก เพราะว่าเขากำลังสะสางทีมงานครมอยู่แล้ว เพื่อตั้งลำการบริหารงานทำเนียบขาวให้ได้ เพราะว่าเหลือเวลาในการเป็นประธานาธิบดีอีก2ปีข้างหน้า


    ก็ต้องดูว่าเฒ่าหนวดเฟิ้ม หรือบิ๊กป้อมจะเอาอย่างไร จะยื่นหนังสือลาออกตามนายพลหมาบ้าหรือไม่ ทั้ง3ทหารเสือ รวมทั้งนายพลเคลลี่ ที่ถูกเด้งออกไป ต่างอยู่สายเหยี่ยวขวาตกขอบที่ทำงานให้พวกค้าอาวุธ (military industrial complex)ที่ต้องการให้สหรัฐก่อสงครามโดยไม่มีวันจบสิ้น


    ยังไม่มีใครอ่านใจทรัมป์ออกว่า ทรัมป์มีแผนการอะไรในตะวันออกกลาง?


    thanong

    22/12/2018

    https://www.apnews.com/ec2ed217357048ff998225a31534df12


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ประมูลปิโตรฯ อุ้ม 'มูบาดาลา' ทุบรายได้หด โดย ฐานเศรษฐกิจ

    9A%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%8A-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%93%20.jpg

    Last updated: 22 ธันวาคม 2561 | 00:37

    ประมูลปิโตรเลียมส่อเค้าวุ่น! หลังเห็นสัญญาณรัฐเปิดทางกลุ่มมูบาดาลาถือหุ้นแหล่งเอราวัณ 40% ชี้! ผิดเงื่อนไขทีโออาร์ที่ให้รัฐเข้าถือหุ้น 25% กระทบรายได้หายปีละเกือบ 5 พันล้าน เอื้อต่างชาติหอบเงินออกนอกประเทศ

    ในการประมูลแหล่งปิโตรเลียมหมดอายุช่วงปี 2565-2566 ของแหล่งเอราวัณและบงกช โดยกลุ่มบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ชนะได้สิทธิ์เป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต หรือ พีเอสซี ไปทั้ง 2 แหล่ง โดยแหล่งเอราวัณเป็นการร่วมทุนของ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในสัดส่วน 60% ร่วมกับบริษัท เอ็มพี จี2 (ประเทศไทย)ฯ ในเครือบริษัทมูบาดาลา จากสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในสัดส่วน 40% และบริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิ์เป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตในแหล่งบงกช 100%

    แต่การประมูลครั้งนี้ กลับสร้างความสงสัยให้กับสาธารณชน กรณีเงื่อนไขที่ระบุไว้ในทีโออาร์ ที่ว่า กระทรวงพลังงานสงวนสิทธิที่จะมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ร่วมลงทุนในสัญญาแบ่งปันผลผลิต (State Participation) ในสัดส่วนการลงทุนไม่เกิน 25% ภายใต้หลักการการร่วมลงทุนอย่างเท่าเทียมกันกับผู้ขอสิทธิที่ได้รับการคัดเลือก โดยผู้ขอสิทธิต้องเสนอหลักการและเงื่อนไขการให้หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ร่วมลงทุนในสัดส่วน 25%

    โดย นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ออกมายืนยันหลังการประกาศผู้ชนะการประมูล ว่า บริษัทในเครือของ ปตท.สผ. ถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ดังนั้น ในส่วนของข้อเสนอดังกล่าว บริษัทที่ชนะการประมูลจึงเข้าเงื่อนไขด้านการเข้าร่วมของหน่วยงานรัฐ แหล่งเอราวัณในสัดส่วน 60% และแหล่งบงกชในสัดส่วน 100% ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทั้ง 2 แปลง อยู่ภายใต้การดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ เพื่อเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างสูงสุดนั้น

    แหล่งข่าวจากวงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หากพิจารณาตามเงื่อนไขทีโออาร์ที่ระบุ ภาครัฐจะต้องเข้าร่วมทุนกับผู้ชนะการประมูลในสัดส่วน 25% หากตีความว่า ปตท.สผ. เป็นรัฐวิสาหกิจ และต้องเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วนดังกล่าว โดยจะมีผลต่อโครงสร้างการถือหุ้นในแหล่งเอราวัณต้องเปลี่ยนแปลงไป โดย ปตท.สผ. จะต้องได้หุ้นในส่วนของภาครัฐขึ้นไป รวมอยู่ที่ 70% และไปลดสัดส่วนหุ้นของ บริษัท เอ็มพี จี2 ลงมาอยู่ที่ 30% ถึงจะเป็นไปตามที่ทีโออาร์ที่กำหนด

    ทั้งนี้ หากกระทรวงพลังงานยังยืนยันที่จะให้ "เอ็มพี จี2" ถือหุ้นในแหล่งเอราวัณที่ 40% จึงเท่ากับว่า รัฐจะเสียผลประโยชน์จากรายได้และกำไรตามสัดส่วนที่ถือหุ้น และเป็นการดำเนินงานที่ผิดเงื่อนไขที่ระบุไว้ในทีโออาร์ด้วย เพราะหากฝ่ายเชฟรอนเป็นผู้ชนะการประมูล กระทรวงพลังงานก็จะต้องส่ง ปตท.สผ. เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 25% ตามทีโออาร์ที่กำหนด ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นในแหล่งเอราวัณเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน โดยที่เชฟรอนฯ จากเดิมที่ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 74% จะลดลงเหลือ 55.5% และบริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น จำกัด จากเดิม 26% จะลดลงเหลือ 19.5%

    ดังนั้น หากภาครัฐไม่นำโควตาตามสัดส่วนของภาครัฐเข้าไปถือหุ้น ก็จะทำให้ภาครัฐเสียผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น การขาดรายได้ หรือ กำไรตามสัดส่วนที่ควรจะเป็น 25% และจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มมูบาดาลามีรายได้หรือกำไร นำเงินออกนอกประเทศมากขึ้น แทนที่รายได้จะตกอยู่กับประเทศเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งการที่รัฐมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีเงินที่จะนำมาอุดหนุนค่าไฟฟ้าไม่ให้ปรับสูงขึ้นได้ เพราะหากคำนวณจากการผลิตก๊าซขั้นต่ำในแหล่งเอราวัณที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ณ ราคาขายปัจจุบันที่ 165 บาทต่อล้านบีทียู แหล่งนี้จะมีรายได้อยู่ที่ 132 ล้านบาทต่อวัน หรือราว 4 พันล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 4.9 หมื่นล้านบาทต่อปี หากภาครัฐถือหุ้นในสัดส่วน 25% โดยไปลดสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มมูบาดาลาได้เหลือ 30% หรือลดลงมา 10% จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีกราว 4.9 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งหากจะให้ประเทศได้ประโยชน์จริง กระทรวงพลังงานจะต้องตัดสินใจในเรื่องนี้ให้รอบคอบ ก่อนที่จะลงนามสัญญากันในช่วงเดือน ก.พ. 2562

    "ในทีโออาร์ได้กำหนดเงื่อนไขให้หน่วยงานของรัฐเข้าร่วมลงทุน 25% ถือเป็นการเตรียมการตั้งแต่แรกที่จะให้ ปตท.สผ. เข้าร่วมลงทุน เพื่อเป็นการกันพลาดหากแพ้ประมูล จากที่ก่อนหน้านั้น ปตท.สผ. เจรจากับเชฟรอนฯ เพื่อขอเพิ่มสัดส่วนหุ้นในแหล่งเอราวัณจากที่ถืออยู่ราว 5% แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ดังนั้น เมื่อทีโออาร์เปิดโอกาสให้รัฐเข้าถือหุ้นได้ และกลุ่มมูบาดาลาก็รับทราบในเงื่อนไขนี้ตั้งแต่แรกที่จะต้องถูกลดทอนสัดส่วนหุ้นของตัวเองลงมา จึงเป็นข้อสงสัยว่า เมื่อรัฐมีเงื่อนไขตรงจุดนี้แล้ว ทำไมไม่ไปร่วมลงทุนเพื่อให้ได้สัดส่วนหุ้นของรัฐเพิ่มขึ้น"

    First posted: 22 ธันวาคม 2561 | 00:36

    Source :

    http://www.thaitribune.org/contents/detail/327?content_id=34123&rand=1545413785
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน

    IMG_6368.JPG IMG_6369.JPG
    สหรัฐเติมเชื้อเพลิงไฟสงครามอีก 10 ล้านเหรียญให้ยูเครน ในเหตุกราณ์ช่องแคบเคิร์ช


    -=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


    สหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมอีก 10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อช่วยให้ยูเครนสามารถเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพเรือได้ ในการตอบโต้เหตุการณ์ช่องแคบเคิร์ช


    กองเรือรัสเซียได้รับคำสั่งให้จัดการทันทีกับเรือยูเครนที่รุกล้ำน่านน้ำโดยผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้เรือยูเครนได้มีการยั่วยุรัสเซีย เป็นเหตุให้เรือยูเครนโดนยึดและลูกเรือถูกกักตัวไว้

    ที่ผ่านมารัสเซียอนุญาตให้เรือยูเครนแล่นอย่างอิสระผ่านทางทางช่องแคบเคิร์ช แต่ต้องขออนุญาติอย่างเป็นทางการ แต่ครั้งนี้ยูเครนได้จงใจละเมิดโดยไม่ขออนุญาติ

    เมื่อไม่นานมานี้ ยูเครนประกาศจะส่งเรือเข้าไปอีกพร้อมขอกองกำลังจากนาโต้ช่วยคุ้มครอง แต่นาโต้ยังไม่ตอบรับอย่างเป็นทางการ


    BY>>>>>Giant Khan<<<<<


    https://www.rt.com/news/447191-us-funds-ukraine-kerch/


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน


    ด่วน......
    IMG_6370.JPG
    สหรัฐเปิดการยั่วยุอีหร่านเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การคว่ำบาตรอีหร่านครั้งล่าสุด


    -=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


    ขณะที่ทั้งสองประเทศได้เป็นไม่เบื่อไม้เมากัน เพนตากอนได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินไปยังอ่าวเปอร์เซีย ในขณะที่อิหร่านทำการฝึกซ้อมทางทหารขนาดใหญ่ในประเทศ


    เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ USS 'John C. Stennis' ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 5 จากบาห์เรน เดินทางถึงอ่าวเปอร์เซียแล้วในวันศุกร์ มันกลายเป็นเรือรบอเมริกันลำแรกที่ข้ามช่องแคบฮอร์มุซและแล่นในน่านน้ำ นอกชายฝั่งอิหร่าน โดยยังไม่ทราบจุดประสงค์


    โดยในครั้งนี้มีกองเรือของกองกำลังปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านประมาณ 30 ลำติดตามอย่างใกล้ชิด และมีรายงานว่าเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐอยู่ในวิถีขีปนาวุธแล้ว ถ้ามีเหตุกราณ์ไม่คากฝันเกิดขึ้น


    BY>>>>>Giant Khan<<<<<


    https://www.rt.com/news/447205-us-carrier-persian-gulf/


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    MOREMOVE

    IMG_6371.JPG
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ปีนี้คงเป็นปีชงของแบรนด์มือถือระดับโลกอย่างหัวเว่ยและแอปเปิลจริงๆ โดยล่าสุด ตามหลังผลการตัดสินของพี่จีน #ศาลเยอรมนีตัดสินว่าแอปเปิลละเมิดสิทธิบัตรQualcommจริง สั่งห้ามขายผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่ละเมิดสิทธิบัตรของ Qualcomm ซึ่งร่วมถึง iPhone รุ่นที่ใช้ชิปโมเด็มของ Intel และ Qorvo ในประเทศแล้ว


    นอกจากจะสั่งให้แอปเปิลหยุดขายผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่ละเมิดสิทธิบัตรของ Qualcomm แล้ว ศาลยังตัดสินว่าแอปเปิลต้องจ่ายค่าเสียหายให้ Qualcomm อีกต่อหนึ่งด้วย #จะมีการประเมินค่าเสียหายในระยะถัดไป


    Source : https://www.blognone.com/node/107134


    อย่างไรก็ตาม #แอปเปิลระบุว่าจะยื่นอุทธรณ์ แต่ระหว่างนี้จะหยุดขาย iPhone รุ่นเก่า คือ iPhone 7 และ iPhone 8 ผ่านหน้าร้าน Apple Store ของตัวเองไปก่อน #ยังขายผ่านโอเปอเรเตอร์และร้านตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ส่วน iPhone X, XS, XR จะยังขายผ่านทุกช่องทางตามปกติ


    ทั้งนี้ Qualcomm แถลงการณ์ว่า #คำตัดสินจากศาลสองประเทศคือจีนและเยอรมนี #เป็นสิ่งยืนยันว่าแอปเปิลละเมิดสิทธิบัตรของตัวเองจริงๆ และ Qualcomm จะรีบเดินหน้าตามกระบวนการของศาลเพื่อให้คำสั่งห้ามขายมีผลบังคับใช้โดยเร็ว.


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Sayan Rujiramora

    IMG_6372.JPG IMG_6373.JPG
    The Green Hilton Agreement - Geneva 1963


    2008 November 28

    from Ayemmo Website


    เรื่องของดอลล่าร์ ยุคที่ยังไม่ได้พิมพ์ออกมาจากกลางอากาศ


    ก่อนปี 1961 คำทำนายของ John Maynard Keynes ..ถึงเรื่องวิกฤติการเงินสกุลหลักของโลกก็มีทีท่าว่าจะเป็นความจริง


    ปัญหาของมันมีสาเหตุจากปริมาณเงินที่เป็นสกุลหลักของโลกมีไม่พอ (โดยเฉพาะยูเอสดอลล่าร์) ที่จะใช้หมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายตัวที่รวดเร็วมากของการค้าโลก ทั่วโลกต้องการยูเอสดอลล่าร์จำนวนมากเพื่อใช้หมุนเวียนทางการค้า.....มากเกินกว่าที่เครดิตของชาวอเมริกันผู้จ่ายภาษีจะสร้างความมั่งคั่งให้เกิดดอลล่าร์จำนวนมากให้ได้


    และก็ไม่สามารถจะยกเลิกสนธิสัญญา Bretton Woods ..(ที่เป็นมาตรฐาน gold exchange standard ไม่ใช่ gold standard..ผู้แปล).. เพราะมันอาจสร้างความเสียหายต่อแกนหลักเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก..ที่อาจนำไปสู่สงครามใหญ่อีกครั้งในโลกได้เลย ...ปัญหามันไปขมวดอยู่ที่ว่าเงินดอลล่าร์ส่วนใหญ่ที่ใช้หมุนเวียนไปอยู่กับธนาคารเอกชนและบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ธุรกิจเอกชนและในบัญชีส่วนตัวกันอีกด้วย ........ถ้าจะเพิ่มปริมาณเงินดอลล่าร์ก็ต้องมีทองคำหนุนจำนวนมากพอ


    ในปี 1963 มีทองคำจำนวนมากที่อยู่ในความดูแลในฐานะทรัสตีของประธานาธิบดีซูการ์โน่แห่งอินโดนีเซีย ..หลายประเทศมีมติให้ใช้ทองคำนี้เป็นฐานเพื่อเพิ่มเงินดอลล่าร์สำหรับใช้เพื่อการค้าของโลก ซึ่งภายใต้ข้อตกลงนี้ ซูการ์โน่ ในฐานะ International Trustee Holder of the Gold จะต้องเริ่มกระบวนการให้ทองคำซึ่งอยู่ในการดูแลของประชาชนอินโดนีเซีย ปรับฐานะให้เข้าอยู่ระบบแบ้งกิ้งเพื่อใช้หนุนค่าในลักษณะ fractional ให้กับยูเอสดอลล่าร์ใหม่ ...(ไม่ใช่ Federal Reserve Note แต่เป็น US Treasury Note...ผู้แปล)


    แรกเริ่ม ..การจัดการจะอยู่ภายใต้อนุญาโตของคณะกรรมการทองคำไตรภาคีที่กรุงเฮก โดยมี International Community ผ่านทางตัวแทนรัฐบาลประเทศต่างๆหลายประเทศจากการประชุมที่ Innsbruck/Schweitzer Conference


    ภายใต้ข้อตกลง Green Hilton Agreement ที่ลงนามโดยปธน.ซูการ์โน่ และปธน.จอห์น เคนเนดี้ ..คือให้การควบคุมดูแลทองคำเหล่านี้สิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติหลังจากปธน.ซูการ์โน่พ้นจากตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นปี 1967


    ความตกลงนี้นำไปสู่คำสั่ง Executive Order 11110 ที่สั่งเมื่อกรกฏาคม 1963 ซึ่งให้อำนาจกระทรวงการคลังสหรัฐผู้เดียวในการตราเงิน United States Dollars ...EO 11110 นี้จะมีผลหลังจากการลงนามใน Green Hilton Agreement (November 14, 1963) สองสัปดาห์


    แต่เคนเนดี้ถูกลอบสังหารไม่ถึงสองสัปดาห์ (November 22, 1963) หลังการลงนาม Green Hilton Agreement ..หลังการอสัญกรรมของเคนเนดี้ อำนาจที่เคยให้ไว้ต่อกระทรวงการคลังยังไม่เคยมีการปฏิบัติเลยจนเดี๋ยวนี้


    ซูการ์โน่ได้รับดอกเบี้ย 2.5% จาก International Community เป็นการตอบแทน เขาส่งผ่านงานทั้งหมดไปยัง his Teacher ***** และทายาทของเขา ** **** ***


    จนถึงวันนี้ agreements นี้ยังรอการรับรองอยู่ (แต่บรรลุข้อตกลงแล้วภายใต้ “RESPECTING THE RIGHTS TREATY - BANGKOK - 2003 ...ทรัพย์สินทั้งหมดนี้อยู่กับ International Collateral Combined Accounts ที่เป็นผู้ก่อตั้ง the Global Debt Facility.


    โดยความหมายแล้ว ข้อตกลง Green Hilton Agreement ถือได้ว่าเป็นร่างข้อตกลงที่ลึกซึ้งที่สุดของสองประธานาธิบดีในรอบศตวรรษที่เคยร่างขึ้นมา หรือในประวัติศาสตร์ของโลกก็ว่าได้ ..โดยเฉพาะจาก ปธน.สหรัฐฝ่ายหนึ่งกับทรัสตีของกองทรัพย์สินลึกลับที่มหาศาลของโลกอีกฝ่ายหนึ่ง


    ทรัพย์สินนี้ไม่ใช่สมบัติของสหรัฐอเมริกา เป็นสมบัติกลางที่อยู่ในอำนาจของระบบส่วนกลาง เพื่อเป็นประโยชน์ของมนุษยชาติของโลกต่อไป


    The Green Hilton Agreement - Geneva 1963

    2008 November 28

    from Ayemmo Website


    By 1961, Keynes predictions of a world monetary crisis began to become a reality.


    This problem was brought about by the lack of sufficient currency (especially US Dollars) in world circulation to support the rapidly expanding international commerce. The World needed US Dollars beyond the capacity of the good faith and credit of the United States Taxpayer in order to facilitate trade.


    It was not possible to break the Bretton Woods treaty due to the possible damage of the stable core of the world’s economy as this had the potential of leading to another major war. To compound the problem, the majority of dollars in circulation were in private banks, multinational corporations, private businesses and individual bank accounts.


    In 1963 the gold that had been entrusted to the care of President Soekarno was recalled by the Nations to underpin the issuance of further US Dollars in order to further facilitate international trade. Under this Agreement, Soekarno (as the International Trustee Holder of the Gold) began the process of repositioning the gold that had earlier been entrusted to the care of the Indonesian People, back into the banking system to create a fractional backing for the US Dollar.


    Initially this was managed under the arbitration of the Tripartite Gold Commission in The Hague as per the decisions of the International Community through their Government representatives at the Innsbruck/Schweitzer Conference and its later revisions.


    Under the agreement signed between President Soekarno and President John Kennedy, was that control of these assets would cede automatically to US upon the fall from power of President Soekarno.


    This occurred in 1967. The potential of this agreement led to Executive Order 11110 issued July 1963, which would have provided the Department of the Treasury the power to issue United States Dollars. Within two weeks after signing the Green Hilton Agreement which would have then enabled consolidation of EO 11110.


    Kennedy was assassinated a few days after his signing of the Green Hilton Agreement. With the death of Kennedy, the authority granted to the Treasury was never taken up.


    Soekarno was awarded a 2.5% interest in the assets by the International Community in return for his services. He willed all the documents of guarantee and obligation to his Teacher ***** ***** ******** and his heir, ** **** *** ********.


    To this day, these agreements stand to be honored (which was accommodated in full under the “RESPECTING THE RIGHTS TREATY - BANGKOK - 2003). The assets were placed into the International Collateral Combined Accounts that form the Global Debt Facility.


    While an apparently innocuous document to read, in it’s proper and full interpretation, The Green Hilton Agreement is one of the most profound agreements made between Presidents of any two countries within the twentieth century, and most probably, in the history of the world, particularly so as this agreement was made between a President of the United States and the Trustee of the hidden, but combined wealth of the world.


    These assets are not the property of the United States, but centralized assets under the authority of a centralized system, to be used as independently deemed to be for the better benefit of the World.


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    The Great Shift

    IMG_6374.JPG
    USGS ถูก SHUT DOWN (ปิดลง)


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6375.JPG
    (Dec 21) เปิดแนวรบไซเบอร์ มะกันฉะจีนล้วงตับไอที : แม้สหรัฐและจีนตกลงพักรบสงครามการค้าชั่วคราว 90 วันก่อนหน้านี้ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติกลับมาสู่จุดตึงเครียดอีกครั้ง เนื่องจากล่าสุดนั้น สหรัฐกล่าวหาว่าทางการจีนอยู่เบื้องหลังการจารกรรมไซเบอร์ขนานใหญ่ ด้วยการสนับสนุนให้กลุ่มแฮ็กเกอร์ล้วงข้อมูลทางการค้าในสหรัฐและอีกหลายชาติทั่วโลก

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เปิดเผยว่า อัยการสหรัฐได้ยื่นฟ้องร้องบุคคลสัญชาติจีน 2 คน ชื่อ จูหัว และจาง ซีหลง ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มเอพีที 10 กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้านข่าวกรองของจีน โดยกลุ่มนี้ได้ จารกรรมข้อมูลสำคัญจากหน่วยงานต่างๆ ของสหรัฐมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว

    คำฟ้องระบุว่า กลุ่มเอพีที 10 ได้ขโมยข้อมูลจากเอกชนในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงภาคธนาคารและการเงิน ไบโอเทคโนโลยี ยานยนต์ การดูแลสุขภาพ และการขุดเหมือง ทั้งยังเจาะข้อมูลกองทัพเรือสหรัฐ ล้วงข้อมูลส่วนตัวมากกว่า 1 แสนคน เจาะเข้าคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการจรวดขับเคลื่อนความดันขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (นาซ่า) โดยรวมแล้วกลุ่มดังกล่าวเจาะระบบของเอกชนสหรัฐ และหน่วยงานราชการ 45 แห่ง เช่นเดียวกับในอีกหลายประเทศ โดยระบุว่าเอพีที 10 เริ่มจารกรรมระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลกตั้งแต่ปี 2006

    นอกจากสหรัฐแล้ว กลุ่มแฮ็กเกอร์ยังจารกรรมข้อมูลจากเอกชนในอย่างน้อย 12 ประเทศ ที่รวมถึงบราซิล แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอังกฤษ

    ขณะที่ ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และคริสเตียน นีลเซน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแห่งสหรัฐ ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลว่าการจารกรรมข้อมูลของเอพีที 10 อาจเป็นการละเมิดข้อตกลงในปี 2015 ที่จีนระบุว่าจะหยุดการสนับสนุนการจารกรรมทรัพย์สินทางปัญญา และข้อมูลทางการค้าของสหรัฐ

    ทั้งนี้ ไมเคิล ฟุคส์ นักวิชาการอาวุโสของเซ็นเตอร์ ฟอร์ อเมริกัน โปรเกรส หน่วยงานคลังสมอง กล่าวว่า การ จารกรรมทางไซเบอร์นับว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับปักกิ่ง และการกระทำดังกล่าวอาจจะยังไม่ยุติภายในระยะเวลาอันใกล้

    "ผมคิดว่าจีนมองว่าการจารกรรมทางไซเบอร์เพื่อวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับยุทธศาสตร์แห่งชาติที่จะผลักดันเศรษฐกิจ และก้าวเป็นชาติมหาอำนาจ" ฟุคส์ กล่าว สอดคล้องกับคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) ที่กล่าวว่า เป้าหมายของจีนคือการชิงตำแหน่งชาติมหาอำนาจของโลกจากสหรัฐ

    อย่างไรก็ดี หัวชุนหยิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า รัฐบาลจีนไม่เคยเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนกลุ่มบุคคลในการขโมยความลับในเชิงพาณิชย์ พร้อมยืนยันว่า ข้อกล่าวหาของสหรัฐไม่มีมูลความจริง และสหรัฐควรถอนการยื่นฟ้องร้องพลเมืองจีน เพื่อเลี่ยงกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองชาติ

    แม้การฟ้องร้อง 2 แฮ็กเกอร์จีนเกิดขึ้นในช่วงพักรบสงครามการค้าชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน แต่ สตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า กรณีฟ้องร้องไม่เกี่ยวข้องกับการเจรจาการค้ากับจีน

    การยื่นฟ้องร้องของทางการสหรัฐยังเกิดขึ้นพร้อมกับที่รอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า แฮ็กเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีน ได้เจาะเครือข่ายของฮิวเล็ตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ และไอบีเอ็ม ก่อนจะเจาะคอมพิวเตอร์ของลูกค้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการ "คลาวด์ฮ็อปเปอร์" และสร้างความกังวลในหมู่บริษัทด้านความมั่นคงไซเบอร์และหน่วยงานรัฐมาตั้งแต่ปี 2017

    รายงานระบุว่า คลาวด์ฮ็อปเปอร์มุ่งเจาะผู้ให้บริการการจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (เอ็มพีเอส) เพื่อเข้าถึงเครือข่ายลูกค้า และขโมยความลับจากเอกชนทั่วโลก ในช่วงที่เอกชนและรัฐบาลทั่วโลกมุ่งใช้บริการเอ็มพีเอสมาก ขึ้น เพื่อช่วยในการควบคุมการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางไกล

    อย่างไรก็ดี ไอบีเอ็มออกแถลงการณ์ระบุว่า ยังไม่พบว่ามีการจารกรรมข้อมูลที่สำคัญของบริษัทและของลูกค้า พร้อมยืนยันว่า บริษัทได้ใช้มาตรการเพื่อป้องกันบริษัทและลูกค้าในการรับมือกับภัยคุกคามแล้ว

    ชาติพันธมิตรร่วมกดดัน

    ด้านคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ออกแถลงการณ์ระบุว่า อีซีได้ขยายการร้องเรียนจีนต่อองค์การการค้าโลก (ดับเบิ้ลยูทีโอ) ไปถึงเรื่องกฎหมายที่จีนบังคับให้ถ่ายโอนเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและ ไบโอเทคโนโลยี ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของอีซีในการกดดันจีนเรื่อง บังคับให้โอนเทคโนโลยีเพื่อตั้งกิจการร่วมค้า

    ขณะเดียวกัน ทาเคชิ โอซูกะ โฆษกกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นพบว่าเอพีที 10 ได้จารกรรมข้อมูลรัฐบาลและสถาบันอื่นๆ มาเป็นเวลานานแล้ว และจะร่วมมือกับต่างชาติในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ต่อไป แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม

    ด้าน มาริส เพย์น รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศออสเตรเลีย และปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในออสเตรเลีย เปิดเผยว่า รัฐบาลออสเตรเลียกังวลเรื่องการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของเอพีที 10 เหมือนกับชาติพันธมิตร เช่นเดียวกับ แอนดรูว์ แฮมป์ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงการสื่อสารรัฐบาลนิวซีแลนด์ ซึ่งระบุว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์พบว่ารัฐบาลจีนและขบวนการจารกรรมทางไซเบอร์มีความเกี่ยวข้องกัน

    ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์


    Source: Posttoday
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6376.JPG
    (Dec 22) ข่าวลือสะพัด! ‘ทรัมป์’กำลังหารือเตรียมปลด “ประธานเฟด”: หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยระลอกสุดท้ายในปีนี้ อีก 0.25% สร้างความผิดหวังให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างมาก


    ล่าสุด “บลูมเบิร์ก” รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา หารือเรื่องการปลดนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ออกจากตำแหน่ง โดยอ้างว่าการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยตลอดทั้งปีนี้ รวมถึงครั้งล่าสุด สร้างความกังวลให้กับตลาดหุ้นโลก และไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ


    ทั้งนี้ รายงานอ้างว่าแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ 2 คน ยืนยันว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้หารือเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับการปลดนายพาวเวลล์หลายครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โฆษกทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้ว


    นักวิเคราะห์มองว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีความไม่พอใจอย่างมาก แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข่าวเตรียมปลดประธานเฟดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่หากเกิดขึ้นจริงอาจจะเป็นหายนะของเศรษฐกิจของสหรัฐมากขึ้น เพราะนั่นหมายถึงธนาคารกลางสหรัฐกำลังถูกการเมืองเข้าแทรกแซง และลดอิสระในการบริหารงานอย่างเต็มที่


    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


    https://www.bloomberg.com/news/arti...ss-firing-fed-s-powell-after-latest-rate-hike
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6378.JPG
    (Dec 21) ปิดฉากขาขึ้น 2018 ดอกเบี้ยเอเชียปีหน้านิ่งยาว : นับเป็นสัปดาห์ส่งท้ายนโยบาย การเงินโลกแห่งปี 2018 อย่างแท้จริง เพราะภายในสัปดาห์ก่อนคริสต์มาส ธนาคารกลางทั่วโลกมักจะประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินกันเป็นนัดสุดท้ายของปี ซึ่งในครั้งนี้ยังอาจถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจปี 2008 เป็นต้นมา



    สำคัญเพราะว่า นอกจากสหรัฐแล้ว นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่แบงก์ชาติทั่วโลกจะได้มีโอกาสปรับนโยบายดอกเบี้ยให้เหมาะสม บนพื้นฐานการดูแลเสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมทั้งระบบ หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่แบงก์ชาติจะได้ "ปรับขึ้นดอกเบี้ย" ก่อนที่ความเสี่ยงทั้งหลายจะเริ่มรุมเร้ากดดันเศรษฐกิจโลกหนักขึ้นในปีหน้านี้ และอาจจะไม่มีโอกาสได้ปรับสมดุลนโยบายไปอีกยาวๆ



    จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็นแบงก์ชาติบางแห่งตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยกันเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ไปอยู่ที่ 1.75% เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ธนาคารกลางสวีเดน ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ไปอยู่ที่ -0.25% (เดิม -0.5%) เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. และธนาคารกลางเกาหลีใต้ ขึ้นดอกเบี้ยในรอบ 1 ปี อีก 0.25% ไปอยู่ที่ 1.75% เมื่อปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา



    เหล่านี้ยังไม่รวมประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่ใช้ระบบตรึงค่าเงินของตัวเองผูกไว้กับเงินดอลลาร์สหรัฐ เช่น ฮ่องกงและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ยูเออี) ที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะขึ้นดอกเบี้ยตามสหรัฐทันที ซึ่งเมื่อวานนี้ฮ่องกงและยูเออีก็ขึ้นดอกเบี้ยกัน รายละ 0.25% หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามความคาดหมายเป็นครั้ง ที่ 4 ของปีนี้ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.



    อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าหลังขึ้นดอกเบี้ยนโยบายส่งท้ายกันในปีนี้ไปแล้ว ปีหน้า 2019 น่าจะเป็นปีที่แบงก์ชาติทั่วเอเชียได้ "พักยาว" แม้ว่าฝั่งสหรัฐจะยังไม่พักเสียทีเดียวก็ตาม



    รอยเตอร์สระบุว่า แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อที่อ่อนแรงลงมาก และการที่เฟดส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเหลือ 2 ครั้งในปีหน้า จะช่วยให้แบงก์ชาติหลายแห่งในเอเชียมีเหตุผลที่จะขึ้นดอกเบี้ยกันน้อยลง ยกเว้นแต่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ เช่น เงินทุนไหลออกกดดันค่าเงินของตัวเองอย่างหนัก ซึ่งจะทำให้ต้องขึ้นดอกเบี้ยสกัดเอาไว้



    แนวโน้มเฟดที่อ่อนท่าทีลง แม้จะไม่มากเท่าที่นักลงทุนคาดหวังไว้ก็ตาม จะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้ค่าเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียกลับมาแข็งค่าขึ้น และผ่อนแรงกดดันให้ต้องเทขายเงินตราต่างประเทศในบางเขตเศรษฐกิจที่เจอปัญหาค่าเงินอ่อนค่าหนักในปีนี้ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอินเดีย โดยประเทศเหล่านี้ยังมีการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วหลายรอบ เพื่อชะลอภาะเงินเฟ้อและเงินทุนไหลออก



    ไอรีน เฉิง นักกลยุทธ์ฝ่ายเอเชียของธนาคารเอเอ็นแซด มองว่า แรงกดดันให้แบงก์ชาติในเอเชียต้องขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าจะลดน้อยลง โดยคาดการณ์บนสมมติฐานว่าเฟดจะผ่อนเกียร์ในปีหน้าลงสู่ทิศทางสายพิราบมากขึ้น แนวโน้มการพักยกขึ้นดอกเบี้ยของเอเชีย ยังอาจช่วยให้มีเงินทุนไหลกลับเข้ามาในตลาดตราสารหนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาเรื่องการกู้ยืมของธุรกิจขนาดไม่ใหญ่มากในเอเชียและอาเซียนได้ด้วย



    ทิศทางเหล่านี้เริ่มสะท้อนออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว เมื่อธนาคารกลางหลายแห่งตัดสินใจไม่ขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มตามทิศทางเดียวกับเฟด ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ เช่น ธนาคารกลางไต้หวัน อินโดนีเซีย และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับติดลบ 0.1%



    ขณะที่ฝั่ง "จีน" นั้นกลับยังเดินหน้านโยบายการเงินเชิง "ผ่อนคลาย" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ได้ออกกลไกกู้ยืมระยะกลางแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (Targeted Medium-Term Lending Facility - TMLF) เพื่อกระตุ้นให้สถาบันการเงินต่างๆ ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทเอกชนขนาดเล็ก นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัว ท่ามกลางข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐ โดยธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ธนาคารร่วมทุน และธนาคารพาณิชย์ตามเมืองใหญ่ สามารถเข้าร่วมกลไก ทีเอ็มแอลเอฟ โดยอัตราดอกเบี้ยของ ทีเอ็มแอลเอฟจะอยู่ที่ 3.15% ลดลง 0.15% จากอัตราดอกเบี้ยกลไกกู้ยืมระยะกลาง (เอ็มแอลเอฟ)



    นอกจากนี้ พีบีโอซียังได้เพิ่มโควตาการให้สินเชื่อกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กอีก 1 แสนล้านหยวน (ราว 4.74 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นการเพิ่มโควตารอบล่าสุด หลังจากเพิ่มไปแล้ว 3 แสนล้านหยวน (ราว 1.42 แสนล้านบาท) ในปีนี้ เพื่อรับมือกับทิศทางปีหน้าที่แย่ลง และสงครามการค้าที่ยังไม่แน่นอนว่าจะจบลงได้



    อย่างไรก็ตาม นอกจากฝั่งจีนที่มีความยืดหยุ่นสูงแล้ว บทบาทของแบงก์ชาติในเอเชียต่อการสนับสนุนหรือพยุงเศรษฐกิจในปีหน้า น่าจะน้อยลงมากจากช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ทางองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (โออีซีดี) ได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า แบงก์ชาติจะเริ่มหมดกระสุนลง และควรถึงคราวของ "รัฐบาล" ที่จะต้องเตรียมแผนการกระตุ้นทางการคลังอย่างเป็นระบบเอาไว้ เพื่อรองรับความเสี่ยงที่มากขึ้นในปีหน้า ซึ่งอาจต้องงัดเอาใช้ในที่สุด



    ไม่ว่าจะไปถึงจุดที่ต้องกระตุ้นกันยกใหม่อีกครั้งนับตั้งแต่วิกฤตปี 2008 หรือไม่ ซึ่งต้องรอลุ้นสถานการณ์สงครามการค้าและเบร็กซิตที่เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักกันอีกที แต่อย่างน้อยที่สุด นอกจากสหรัฐแล้ว ยุคดอกเบี้ยขาขึ้นอาจจะมาถึงชะลอตัวลงแล้วในปี 2019 นี้


    โดย นันทิยา วรเพชรายุทธ




    Source: Posttoday
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6379.JPG
    (Dec 22) บริษัทจีนแห่ IPO ในสหรัฐ : ในช่วงหลายปีก่อนบริษัทเทคโนโลยีของจีนทยอยเข้าตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาต่อเนื่อง ผ่านการเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) เพื่อระดมทุนเสริมความแกร่งให้กับธุรกิจ ทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าบริษัทเพิ่มด้วย แต่ปัญหาสงครามการค้าที่ยังยืดเยื้อ รวมถึง สัมพันธ์ที่ย่ำแย่จากการ "บอยคอต"สินค้าของสองประเทศ อาจทำให้การระดมทุนขายหุ้น IPO ของบริษัทเทคโนโลยีจีนในตลาดสหรัฐไม่สดใสเหมือนเดิม



    ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีของจีนยังมีข้อจำกัดในการเปิดรับทุน จากต่างชาติ โดยกฎหมายระบุห้ามต่างชาติ เข้ามาลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีของจีนโดยตรง การขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ เป็นวิธีหนึ่งที่บริษัทเทคโนโลยีจีนจะสามารถระดมทุนได้อย่างเต็มที่



    การรุกคืบของบริษัทเทคโนโลยีของจีนในสหรัฐปรากฏชัดขึ้น ตั้งแต่ที่ "อาลีบาบากรุ๊ป" ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีน เปิดขายหุ้น IPO ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก เมื่อปี 2014 ด้วยราคาหุ้นละ 68 ดอลลาร์ และระดมทุนไปได้ 21,800 ล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทมีมูลค่าตามราคาตลาดเพิ่ม ขึ้นกว่า 170,800 ล้านดอลลาร์ ในขณะนั้น ซึ่งสูงกว่ามูลค่าตลาดของอีเบย์, ทวิตเตอร์ และลิงก์อิน รวมกัน



    รายงานข่าวระบุว่า จนถึงขณะนี้มีบริษัทเทคโนโลยีเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐกว่า 65 บริษัท นายริงโก โชอี้ นักวิเคราะห์และหัวหน้าฝ่าย IPO ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท Ernst & Young กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัท เทคโนโลยีของจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นมหาศาล และเข้ามาโลดแล่นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐมากขึ้นโดยปีนี้มีบริษัทเทคโนโลยีจีนเข้าขายหุ้น IPO ในสหรัฐแล้วกว่า 40 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2017 อยู่ที่ 17 ราย



    เช่น "iQiyi" แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอจากจีน หรือที่เรียกว่า "Netflix China" บริษัทลูกของ Baidu เสิร์ชเอ็นจิ้นรายใหญ่ของจีน ซึ่งเปิดขายหุ้น IPO ในราคา 18 ดอลลาร์ และระดมทุน ไปได้ทั้งหมด 2,300 ล้านดอลลาร์ โดยมูลค่าตามราคาตลาดของ iQiyi ในปัจจุบันอยู่ที่ 12,700 ล้านดอลลาร์ บริษัทระบุว่า เงินส่วนหนึ่งที่ได้จะนำไปลงทุนขยายคอนเทนต์ให้หลากหลายขึ้นเพื่อเจาะตลาดในต่างประเทศ



    "Pinduoduo" เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซน้องใหม่ของจีน ซึ่งมีอายุเพียง 3 ปี ได้เปิดขายหุ้น IPO ในสหรัฐเมื่อ เม.ย.ที่ผ่านมา ในราคาหุ้นละ 19 ดอลลาร์ และสามารถระดมทุนไปได้ 1,600 ล้านดอลลาร์ โดยมูลค่าตลาดของบริษัทอยู่ที่ 24,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึง "Huya"แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอเกมจากจีน ที่เข้ามาระดมทุนได้ 15,000 ล้านดอลลาร์ และ "Bilibili" สตรีมมิ่งแอนิเมชั่น ที่เปิดขายหุ้น IPO มูลค่า 483 ล้านดอลลาร์



    ขณะที่ "Tencent Music"แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมิวสิกรายใหญ่ของจีน ในสังกัดเทนเซ็นต์ ถือเป็นบริษัทจีนรายล่าสุดที่ประกาศขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ในราคา หุ้นละ 13 ดอลลาร์ ซึ่งสามารถระดมทุน ไปได้ 1,100 ล้านดอลลาร์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เทนเซ็นต์มิวสิก มีมูลค่าอยู่ที่ 21,300 ล้านดอลลาร์



    อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่าสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของบริษัทเทคโนโลยีของจีนแล้ว อาจทำให้การขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐในปีหน้าลดน้อยลงด้วย เพราะอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้ระดมทุนได้ต่ำกว่าเป้าหมาย



    ขณะเดียวกัน "อเล็กซ์ อิบราฮิม"หัวหน้าฝ่ายตลาดทุนระหว่างประเทศ ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก กล่าวว่า สงครามการค้าที่รุนแรงเริ่มส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นบริษัทเทคโนโลยีของจีนบางราย เช่น Pinduoduo ที่ราคาหุ้นลดลงในช่วงหลายเดือนก่อน จนทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทลดลงไปอยู่ในระดับที่มีการจดทะเบียนครั้งแรก



    นอกจากนี้ นายพอล กิลลิซ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจจาก Guanghua School of Management ในปักกิ่ง กล่าวว่า ปี 2019 ความไม่แน่นอนของสงครามการค้าที่มากขึ้น อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในมูลค่าธุรกิจเทคโนโลยีของจีนที่ซื้อขายในตลาดหุ้นต่างประเทศได้ และเศรษฐกิจจีนที่ยังส่อแววชะลอตัว และอาจลากยาวไปจนถึงปี 2020 หากรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ทางการค้า กับสหรัฐได้


    Source: ประชาชาติธุรกิจ


    เพิ่มเติม

    - China's Tencent Music raises $1.1 billion in downsized US IPO

    https://techcrunch.com/2018/12/11/tencent-music-1-1-billion-ipo/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Candy Bella

    IMG_6380.JPG
    # นิทานก่อนนอน


    ... งานศพใคร...


    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชัยภูมิ เมื่อประมาณห้าเดือนที่ผ่านมา ช่วงนั้นเป็นช่วงปีใหม่พอดี คุณมลคลได้มีโอกาศไปเที่ยวที่บ้านแฟนครั้งแรก


    ตอนเย็นก็ได้นั่งล้อมวงผิงไฟกัน แล้วน้องชายของแฟน ก็ได้เอาพระมาให้คุณมงคลดู คุณมงคลเห็นแล้วก็ชอบ จึงขอเช่าต่อ แต่น้องของแฟนก็พูดเหมือนไม่พอใจใส่ เพราะหวงพระ คุณมงคลจึงไม่พอใจน้องของแฟนมาก แต่ก็พยายามเก็บไว้ในใจก่อน


    จนเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม คุณมงคลก็ไปบอกแฟนว่า "จะขอกลับบ้าน" แฟนก็บอกว่า "จะกลับยังไง ไม่มีตัง" คุณมงคลก็บอกว่า "ไม่เป็นไร ขอตังร้อยนึงก็พอ" แต่แฟนก็ไม่ให้ แล้วแฟนก็ขึ้นไปนอนกับคุณแม่ข้างบน


    เวลาประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง คุณมงคลจึงแอบเดินออกจากบ้าน โดยที่ไม่รู้ว่าทางไปถนนใหญ่คือทางไหน พอเดินไปได้สักพัก ก็เจอกลุ่มวัยรุ่น คุณมงคลจึงได้เข้าไปถาม ว่าถนนใหญ่ไปทางไหน


    เด็กวัยรุ่นก็ชี้ไปข้างหน้า คุณมงคลจึงเดินไปตามทางเรื่อยๆ เป็นถนนสองเลน สองข้างทางจะเป็นทุ่งนา วันนั้นเป็นวันฟ้าปิด จึงทำให้มืดและเงียบมาก ระยะการมองเห็นจะไม่เกินสามเมตร สักพักใหญ่ๆ แฟนกับคุณพ่อก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามหลังมา


    พอคุณมงคลเห็นจากไกลๆ ก็ได้วิ่งหลบเข้ากลางทาง ที่เป็นทุ่งนา แล้วรถก็ผ่านไป คุณมงคลหลบอยู่ข้างทางสักพัก จนคุณพ่อกับแฟนขี่รถกลับเข้าไปทางเดิม จึงได้ออกมาเดินต่อ ไม่เกินสิบนาที ก็ได้ยินเสียงรถยนต์ขับตามมาจากข้างหลัง


    เป็นรถกระบะที่คุณพ่อคุณแม่กับแฟนขับมา แต่คุณมงคลหลบไม่ทัน คุณพ่อก็ขับรถมาจอดข้างๆ แฟนจึงขอให้คุณมงคลกลับบ้านไปด้วยกันก่อน แต่คุณมงคลก็ยังคงตั้งใจที่จะไม่กลับ จนยื้นกันอยู่สักพัก คุณมงคลจึงตกลงกลับไปด้วยกัน แต่จะขอนั่งอยู่ท้ายกระบะคนเดียว พอจังหวะที่รถออกตัว คุณมงคลแอบกระโดดลงจากรถ แล้ววิ่งลงข้างทางทันที พอรถขับกลับไปทางเดิม คุณมงคลก็เดินไปตามทางต่ออีกประมาณหนึ่งกิโลเมตร


    เวลาประมาณสามทุ่ม คุณมงคลเดินอยู่บนถนนคนเดียว เวลานี้แทบจะไม่มีคนใช้ถนนเส้นนี้เลย เพราะเป็นชั่วโมงแล้ว ที่ไม่มีรถผ่านมาแม้แต่คันเดียว สองข้างทางยังคงเป็นทุ่งนามืดทึบ ไร้เสียงของสรรพสิ่งใดๆ


    คุณมงคลเดินตามถนนที่สว่างแค่เพียงแสงจันทร์ที่ส่องลงมา สักพักก็ได้ยินเสียง "หืมมมม" ดังมาจากด้านหลัง เป็นเสียงของผู้ชาย น้ำเสียงหนักๆทุ้มๆ ด้วยความตกใจ คุณมงคลรีบหันหลังกลับไปมอง ก็เจอแต่ความมืด คุณมงคลรู้สึกขนลุก ตั้งแต่ขนขาขึ้นไปจนถึงขนหัว จึงได้ยืนมองจ้องเข้าไปในความมืด แต่ก็ไม่พบอะไร จึงพยายามเดินต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ เสียงเพลงจัดงานศพลอยมาตามลม จากที่ไกลๆ


    คุณมงคลรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง เพราะคิดว่า ถ้าเดินตามทางไปเรื่อยๆ คงจะเจองานศพที่มีผู้คนอยู่เต็มงาน เดินไปสักพัก ก็เห็นแสงไฟสีขาวๆอยู่ข้างหน้าไกลๆ พอเดินเข้าไปถึง ก็มีงานศพที่จัดอยู่ข้างทางจริงๆ


    คุณมงคลอยากจะเข้าไปขอน้ำดื่มเย็นๆสักแก้ว แต่มาผิดสังเกตตรงที่ว่า มีเต๊นท์ที่กางไว้สองถึงสามที่ พร้อมทั้งเก้าอี้ตังเรียงรายไว้มากมาย ด้านในมีโลงศพตั้งพร้อมพวงหรีด เปิดเพลงธรณีกรรแสงคลอในงานเบาๆ แต่ไม่มีคนเลย แม้แต่คนเดียว


    คุณมงคลยืนมองดูจากถนนด้านนอกด้วยความสงสัย ปนขนลุก รู้สึกว่าแบบนี้มันไม่ปกติแน่ จึงได้เดินต่อไปตามทาง จนมาถึงปากทางออกถนนใหญ่ เป็นลักษณะของทางสามแพร่ง เป็นจุดที่มืดมาก แทบจะมองไม่เห็นอะไรๆที่อยู่รอบๆตัว


    อยู่ๆคุณมงคลก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว เหมือนมีสายตาหลายๆคู่ จ้องมาทางคุณมงคลจุดเดียว ในใจรู้สึกกลัวอยู่เต็มประดา จึงพูดออกมาว่า "อย่ามาหลอกกันเลยนะ" สักพักมีมอเตอร์ไซค์ วิ่งมาตามทาง คุณมงคลจึงวิ่งออกไปโบก แต่มอเตอร์ไซค์ไม่ยอมจอดให้ แล้วขี่ผ่านไป คุณมงคลจึงเดินต่อไปตามถนนใหญ่ได้สักพัก ก็มีมอเตอร์ไซค์อีกคัน กำลังมาจากทางข้างหน้า คุณมงคลวิ่งออกไปโบกเหมือนเคย มอเตอร์ไซค์คันนี้ก็ขี่ผ่านไป


    แต่ตอนที่ขี่ผ่านตัวของคุณมงคลไปได้สักระยะนึง ก็จอดแล้วคนขี่ก็หันกลับมามอง แล้วก็รีบบิดมอเตอร์ไซค์หนีหายไปทันที คุณมงคลไม่มีทางเลือก จึงต้องเดินตามทางไปเรื่อยๆ สองข้างทางของถนนใหญ่จะมีต้นไม้ต้นใหญ่ขึ้นเรียงรายกันอยู่หลายต้น


    จึงทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าถนนจะดูมืดลงกว่าเดิม บางครั้งเห็นเงาวูบวาบอยู่บนต้นไม้ ทำให้สติของคุณมงคลไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แล้วก็ได้ยินเสียงหอบหายใจแรงๆ มาจากด้านหลัง ลักษณะเหมือนคนที่เหนื่อยหอบเอามากๆ "หือ..ห้า..หือ..ห้า"


    คุณมงคลใจหายแวบ เสียวสันหลังจนเข้าไปถึงกระดูก พยายามกึ่งวิ่งกึ่งเดิน แล้วเหลียวหลังกลับไปมอง ก็เจอแต่ความมืด เสียงประหลาดๆนั่นก็ยังดังไล่หลังมาเรื่อยๆ จนคุณมงคลคิดว่าไม่ดีแน่ จึงรีบเร่งฝีเท้า วิ่งออกจากตรงนั้นทันที จนได้สักระยะหนึ่ง ก็มานั่งเหนื่อยหอบอยู่ข้างทางด้วยความเหนื่อยล้า


    สักพักก็มีรถกระบะ ขับมาจอดเทียบอยู่ข้างๆ ในรถมีคุณพ่อคุณแม่ แฟนและน้องของแฟน ทุกคนจึงลงมากล่อมคุณมงคล ว่าพรุ่งนี้ค่อยกลับ ถ้าไม่นอนที่บ้านก็ไปนอนที่วัดกับหลวงตา แล้วน้องชายก็ได้เข้ามาขอโทษคุณมงคล


    คุณมงคลจึงยอมกลับไปด้วย ขากลับคุณมงคลนอนอยู่ที่ท้ายกระบะ เพราะความเหนื่อย โดยที่มีแฟนนั่งเฝ้าอยู่ด้วย พอกลับถึงบ้าน คุณมงคลก็ถามคุณพ่อว่า "พ่อ บ้านข้างนอกตรงนั้น เค้ามีงานศพเหรอ"


    คุณพ่อบอกว่า "มันไม่มี ถ้าออกไปข้างนอกมันไม่มีบ้านคนแล้ว" แล้วคุณแม่ก็พูดว่า "เมื่อก่อน ไม่นานนี้เอง มีผู้ชายเดินผ่านตรงถนนแถวๆนั้น ตอนดึก ก็เห็นผู้หญิง น่าตาสวยมาก พาไปนั่งกินข้าวกินน้ำในบ้าน มารู้สึกตัวอีกทีตอนเช้า ปรากฏว่าตัวเองนอนอยู่บนต้นไม้ สูงประมาณสี่เมตร"


    เช้าขึ้นมา ตอนที่คุณมงคลนั่งรถกระบะผ่านตรงจุดนั้น ก็เห็นแต่ทุ่งนา ไม่มีบ้านคนเลยสักหลัง และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด


    # Credit


    เรื่องเล่าสยองขวัญ Pantip


    เล่าโดย คุณมงคล


    .................................




    ... ผีข้างวัด...


    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่ง ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อประมาณสี่สิบปีที่ผ่านมา ตอนนั้นคุณสุนทรยังอายุประมาณสิบเอ็ดขวบ วันนั้นเป็นวันหยุด คุณพ่อบอกว่า "เดี๋ยวเย็นๆ จะไปบ้านลุงบ้านป้าหน่อย"


    บ้านของคุณลุงคุณป้า จะอยู่ที่ตําบลหนองขาม ห่างจากบ้านของคุณพ่อประมาณสิบกิโลเมตร หลังจากคุณพ่อเลิกงานประมาณสี่โมงครึ่ง ก็ได้ปั่นจักรยานไปกันสองคนกับคุณสุนทร ถนนจะเป็นลูกรัง และไม่มีไฟ สองข้างทางจะเป็นป่ารกๆ


    จนปั่นมาได้ประมาณครึ่งทาง เวลาประมาณห้าโมงครึ่ง พระอาทิตย์กำลังโพ้เพ้ มีสุนัขสีดำตัวใหญ่วิ่งตัดหน้า แล้วหายเข้าไปในป่าข้างทาง คุณพ่อรีบหยุดจักรยานแล้วบ่นออกมาอุบอิบว่า "มันมายังไงของมันวะ"


    จากนั้นก็ปั่นต่อไปได้อีกสักพัก ปรากฏว่ายางแตก ช่วงเวลานั้นใกล้จะมืดเต็มที สองข้างทางมีแต่ป่า คุณพ่อจึงรีบเอาไขขวงงัดเอายางในออกมา แล้วเอาผ้าขาวม้ายัดเข้าไปแทน กว่าจะเสร็จก็กินเวลาไปจนถึงหกโมง เริ่มจะมองถนนไม่เห็น


    คุณพ่อจึงรีบปั่นไปเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงด้านขวาจะเป็นป่าต้นสัก ส่วนด้านซ้ายจะมีรั้วลวดหนาวขึงไว้ตลอดแนว ด้านในรั้วจะมีแต่เจดีย์เล็กๆที่เอาไว้เก็บกระดูกคนตาย คาดว่าถนนเส้นนี้จะเป็นถนนหลังวัดแห่งหนึ่ง จนเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม


    ความมืดเรื่มปกคลุมไปทั่วบริเวณ จนมองทางไม่เห็น คุณสุนทรจึงหยิบไฟฉายออกมาช่วยส่องไฟไปตามทางข้างหน้า ทำให้สองฝั่งข้างทางดูเป็นภาพมัวๆ มีเงาสะท้อนวิ่งไปมา จนดูน่าขนลุก ไม่ได้ยินทั้งเสียงของนกและแมลงที่ควรจะต้องได้ยิน ต้นไม้ทุกต้นหยุดนิ่ง ไม่ไหวตึง


    คุณสุนทรก็เริ่มมองซ้ายหันขวา ด้วยความฉงน คิดในใจว่าทำไมมันถึงได้นิ่งเงียบขนาดนี้ มันจะไม่มีลมพัดต้นไม้ให้ส่งเสียงกลบความเงียบเลยเชียวเหรอ แล้วป่าทั้งป่าจะไม่มีนกหรือแมลงอาศัยอยู่เลยแม้สักตัวเชียวเหรอ


    สักพักคุณสุนทรได้ยินเสียงของอะไรบางอย่าง ดังอยู่ข้างหลัง แต่เบามากจนฟังไม่ออกว่ามันคือเสียงของอะไร จนต้องพยายามเงี่ยหูฟัง แล้วเสียงก็ค่อยๆใกล้เข้ามา "ตุ๊บๆๆๆๆ" ลักษณะเหมือนอะไรบางอย่าง กลิ่งตามหลังมา จึงได้หันเอาไฟฉายส่องไปดูข้างหลัง คุณสุนทรตกใจจนแทบจะตกจากจักรยาน เห็นเป็นหัวคนสีดำๆ กลิ่งตามหลังมาติดๆ ห่างกันแค่ประมาณสามเมตร


    คุณสุนทรคิดถึงคำพูดของคุณพ่อที่เคยบอก ตอนออกไปหากบหาปลากันตอนกลางคืนอยู่บ่อยๆว่า เจออะไร ห้ามพูดห้ามทัก ให้เฉยไว้ เป็นลูกผู้ชายไม่ต้องกลัว เค้าทำอะไรเราไม่ได้


    คุณสุนทรจึงได้แต่จิกมือลงบนเอวของคุณพ่อ แล้วเอาหน้าซบลงที่แผ่นหลัง และเหมือนคุณพ่อจะรู้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังตามมา จึงพยายามปั่นให้เร็วขึ้นอีก แต่สิ่งนั้นก็ยังคงกลิ่งตามหลังมาอย่างไม่ลดละ


    เวลานั้นได้ยินแต่เสียงจักรยานกับเสียงหัวคนกลิ่งตามหลังมา "ตุ๊บๆๆๆๆ" ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ คุณสุนทรนั่งแกร็งจนสั่นไปทั้งตัว รีบยกเอาข้าขึ้นมานั่งขัดสมาธิ กอดเอวของคุณพ่อไว้แน่น


    คุณพ่อปั่นจนมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน ถนนแถวนี้ยังพอมีแสงสว่างจากตะเกียงเจ้าพายุ ที่ห้อยอยู่ตามหน้าบ้านเรือน เสียงกลิ้งตามหลังก็เงียบหายไป เหมือนว่ามันจะหยุดอยู่แค่ตรงทางแยกเข้าหมู่บ้าน คุณสุนทรจึงรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง


    คุณพ่อก็พูดออกมาเสียงดังว่า "โว้ย เหนื่อยจริงๆ" จึงได้เข้าไปขอน้ำดื่มกินที่บ้านของคนรู้จัก เพื่อนของคุณพ่อก็ถามว่า "จะไปไหนกันเนี่ย" คุณพ่อก็ตอบว่า "มาเยี่ยมลุงกับป้า"


    แล้วคุณพ่อก็หันมาถามคุณสุนทรว่า "เจออะไร" แต่ตอนนั้นคุณสุนทรยังไม่หายจากอาการช็อค จึงไม่กล้าพูดอะไร คุณพ่อจึงบอกว่า "ข้าได้ยินตั้งแต่ตอนที่ปั่นจักรยานผ่านหลังวัดแล้วล่ะ แต่ไม่อยากหันไปดู"


    สักพักก็ได้ออกมาจากบ้านของเพื่อน แล้วปั่นจักรยานต่อไปจนถึงบ้านของคุณลุงคุณป้า คุณพ่อก็ได้เล่าเหตุการณ์ที่เจอมาให้ฟัง คุณลุงบอกว่า "คนแถวนี้โดนกันเรื่อยแหละ พวกเอ็งยังดีที่เห็นแค่หัว บางคนเห็นเป็นตัว คลานตามหลังจักรยานมาก็ยังมี จนนอนจับไข้ไปหลายคนแล้ว ล่าสุด เห็นคนหล่นจากต้นไม้มากองอยู่ข้างหน้า คนเค้าก็คิดว่ากระโดดฆ่าตัวตาย พอวิ่งไปดูใกล้ๆ กลายเป็นศพขึ้นอืดที่ตายมาหลายวันแล้ว ก็วิ่งหนีกันจนป่าแตก" และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด


    # Credit


    เรื่องเล่าสยองขวัญ Pantip


    เล่าโดย คุณสุนทร


    .................................




    ... คืนนั้นจำไม่ลืม...


    เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในอำเภอหาดใหญ่ เมื่อประมาณสองปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่คุณพลอยกำลังศึกษาอยู่ คืนนั้นคุณพลอยได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อน รวมคุณพลอยแล้วเป็นสี่คน ผู้หญิงสอง ผู้ชายสอง โดยนั่งรถเก๋งของเพื่อนไป


    ขากลับ มีเพื่อนคนนึงที่บ้านจะอยู่ไกล จึงคุยกันว่าจะไปส่งเพื่อนคนที่บ้านอยู่ไกลที่สุดก่อน ช่วงที่กำลังขับรถอยู่บนถนน เวลาประมาณตีสอง คุณพลอยและเพื่อนๆปวดท้องเบา จึงแวะปั้มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด


    เป็นปั๊มน้ำมันเล็กๆ ปิดไฟหมดแล้ว เพื่อนจึงขับรถเข้าไปจอดที่หน้าปั้ม เพราะทางเข้าปั๊มจะมีเหล็กกั้นไว้อยู่ คุณพลอยและเพื่อนๆก็ได้ปีนข้ามเหล็กกั้น ตรงไปที่ห้องน้ำ ซึ่งจะอยู่ด้านหลังสุดของปั้มน้ำมัน


    ภายในปั๊มจะดูมืดทึบ ประกอบกับแถวนี้ไม่มีไฟถนน มองเห็นหัวจ่ายน้ำมันเป็นลักษณะเงาลางๆ หลังคาปั๊มเป็นสีดําทะมึนสูงใหญ่ดูหน้าขนลุก และน่าแปลกที่ว่ารอบๆข้างแถวนี้เป็นป่า แต่กลับไม่ได้ยินเสียงของแมลงต่างๆแม้แต่ตัวเดียว มีแค่เสียงฝีเท้าของมนุษย์สี่คน ที่ดังก้องไปมาในความมืด


    คุณพลอยรู้สึกไม่ค่อยดีจนขนลุกเป็นพักๆ ถึงแม้ว่าจะมีกันอยู่หลายคน อาจจะเป็นเพราะความเงียบจนผิดปกติและความมืดรอบๆตัว หลังจากที่กลุ่มของคุณพลอยเดินไปถึงห้องน้ำ ก็คลำหาสวิทช์ไฟในความมืดอยู่พักนึงจนเจอ จึงทำให้ห้องน้ำดูสว่างไสวขึ้นมาทันที ช่วยขับไล่ความกลัวต่างๆได้มากพอดู


    ห้องน้ำหญิงจะมีอยู่สี่ห้อง หน้าห้องน้ำจะมีซิงค์ล้างมือ ด้านบนจะมีกระจกยาวๆ เหมือนห้องน้ำปั้มทั่วๆไป สภาพไม่เก่ามาก แต่ก็ไม่ใหม่ ห้องน้ำจะใช้ได้แค่สองห้องแรก ส่วนอีกสองห้องด้านในจะมีกระดาษเขียนแปะอยู่หน้าประตูว่า ห้องน้ำชำรุด


    คุณพลอยจึงเดินเข้าไปในห้องที่สอง ส่วนเพื่อนอีกคนก็เข้าห้องแรก หลังจากที่คุณพลอยทำธุระเสร็จ ก็เดินออกมาหวีผมแต่งหน้าอยู่ที่กระจกหน้าห้องน้ำ สักพักคุณพลอยรู้สึกถึงกลิ่นสาบของอะไรบางอย่าง เป็นกลิ่นจางๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้กลิ่นมาก่อน


    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรดลใจ จึงมองไปที่ห้องน้ำสองห้องด้านในที่ชำรุดผ่านกระจก ก็เห็นว่าประตูห้องที่สามมันเปิดแง้มไว้เล็กน้อย แต่ที่ทำให้คุณพลอยต้องชะงัก เพราะเหมือนมีหน้าขาวๆของผู้หญิง แอบมองคุณพลอยอยู่หลังประตูห้องที่สาม


    คุณพลอยพยายามเพ่งมองผ่านกระจกหน้าห้องน้ำ เห็นเป็นผู้หญิงหน้าขาวซีด แต่ไม่เห็นลูกกะตา ผมยาวประบ่า เอียงคอไปมาอยู่ในห้องน้ำห้องที่สาม คุณพลอยเห็นเช่นนั้นก็ตกใจสุดขีด กระโดดกลับหลังหันไปมองห้องที่สาม


    ก็เห็นผู้หญิงหน้าขาวซีดคนนั้น ค่อยๆหลบหน้าหายเข้าไปในห้องน้ำ คุณพลอยยืนตัวแข็งทื่อ ก้าวขาไม่ออก ตะโกนหาเพื่อนที่อยู่ในห้องน้ำห้องที่หนึ่ง "ดา!! อยู่ห้องไหน" ในใจขอให้เรื่องนี้เป็นเพียงแค่การแกล้งอำกันเล่นๆของเพื่อนเท่านั้น


    แต่เสียงของคุณดาตะโกนดังออกมาจากห้องน้ำห้องแรก "อยู่ห้องแรกเนี่ย ทำไม" เช่นนั้นแล้ว ใครกันแน่ที่อยู่ในห้องที่สาม กลิ่นสาบที่รับรู้ได้ก่อนหน้านี้ ก็ยิ่งรุ่นแรงขึ้นเรื่อยๆ มันลอยออกมาจากในห้องที่สาม จนเหมือนกับว่าจะมองเห็นเป็นเปลวคลื่น คุณพลอยอยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แต่เพราะความกลัวทำให้ขาทั้งสองข้างตายสนิท ได้แต่ยืนหลับตาปี๋ ร้องตะโกนเร่งเพื่อน "เสร็จหรือยัง เร็วๆ" สักพักคุณดาจึงเปิดประตูออกมา ทำให้คุณพลอยหลุดออกจากอาการขาแข็งทันที คุณพลอยรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ ไปยืนหายใจหอบอยู่หน้าห้องน้ำ


    คุณดายืนจัดทรงผมอยู่หน้ากระจก แล้วหันมาถามคุณพลอยว่า "เป็นอะไร เมาเหรอ" คุณพลอยไม่คิดจะตอบ แต่อยากจะเร่งให้เพื่อนออกมาจากห้องน้ำจนใจจะขาด หางตาก็เหมือนไปจับเข้ากับอะไรบางอย่าง แถวๆหน้าประตูห้องน้ำห้องที่สาม


    ด้วยสัญชาตญาณและความตกใจในขณะนั้น คุณพลอยจึงเหลียวไปมองทันที ปรากฏว่าเห็นผู้หญิงหน้าขาวซีดคนนั้น โผล่หน้าออกมาแหงะมอง ห่างจากคุณดาแค่ไม่ถึงสามเมตร แต่คราวนี้มองเห็นทุกอย่างบนใบหน้าได้อย่างชัดเจน


    ลูกกะตากลมโตสีดำ ทำปากอมยิ้ม จ้องมาที่คุณพลอยแบบตาไม่กระพริบ เหมือนอยากจะเข้ามาคุยมาเล่นด้วย ความกลัววิ่งแล่นไปทั่วร่างกายของคุณพลอยจนรู้สึกคลื่นไส้ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เจอเข้ากับสิ่งที่เรียกว่าความกลัวสุดขีด


    คุณพลอยรีบวิ่งเข้าไปดึงแขนเพื่อนออกมา แล้วชี้มือเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับพูดว่า "นั่นไงๆๆ เห็นมั้ยๆ" คุณดาจึงหันไปมองตามที่คุณพลอยชี้ สิ่งนั้นส่งสายตาเย้าหยอกมาให้คุณพลอย ก่อนจะค่อยๆหลบหายเข้าไปในห้องน้ำ


    สายตาคู่นั้นทำให้คุณพลอยช็อคไปชั่วขณะ คุณดาพูดขึ้นมาว่า "เออ ไปดูกัน" คุณพลอยหันไปมองหน้าคุณดาทันที คิดว่าเพื่อนกล้าหรือว่าบ้ากันแน่ แต่ในใจลึกๆก็อยากรู้ว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร


    คุณพลอยยืนตัวสั่นจับแขนเพื่อนอยู่สักพักใหญ่ๆ จึงพูดออกมาว่า "อย่าวิ่งนะ ห้ามทิ้งกัน" ทั้งสองคนจึงค่อยๆเดินเกาะแขนกันเข้าไปในห้องน้ำ จนไปถึงหน้าห้องที่สาม คุณดาค่อยๆใช้มือดันประตูเข้าไปเบาๆ


    แต่ก็พบแค่ความว่างเปล่า ทั้งสองคนจึงหันมองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาในตอนนั้น จึงค่อยๆเดินถอยหลังกันออกมาจากห้องน้ำ แต่สิ่งที่ทำให้คุณพลอยและคุณดาต้องสะดุ้งเฮือกก็คือ ประตูห้องที่สาม มันค่อยๆดันปิดของมันเอง "แอ๊ดดดดดดด ปั้ง!"


    ความกลัวที่อดกลั้นไว้ก่อนหน้านี้พลั่งพลูออกมาจนหมด คุณพลอยและคุณดาวิ่งเตลิดออกจากห้องน้ำแบบขาดสติ ปีนข้ามเหล็กกั้นแล้วกลับเข้ารถ ซึ่งเพื่อนอีกสองคนนั่งรออยู่บนรถก่อนแล้ว


    เพื่อนก็ได้ถามว่าไปวิ่งหนีอะไรกันมา แต่ตอนนั้นคุณพลอยและเพื่อนยังไม่กล้าเล่าอะไรให้ฟัง เพราะเดี๋ยวเหมือนจะเป็นการไปทัก กลัวว่าสิ่งนั้นจะตามกลับมาด้วย


    วันถัดมาที่มหาลัย คุณพลอยจึงได้เล่าเหตุการณ์ที่พบมาให้เพื่อนอีกสองคนฟัง เพื่อนจึงบอกว่า เดี๋ยวช่วงกลางวันลองขับรถไปดูกัน แต่พอคุณพลอยนึกถึงใบหน้าและดวงตาคู่นั้น ก็ทำให้รู้สึกบิดมวนที่ท้องจนแทบอยากจะอาเจียน จึงได้ปฏิเสธเพื่อนไป และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด


    # Credit


    เรื่องเล่าสยองขวัญ Pantip


    เล่าโดย คุณพลอย


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    John Traczyk

    อัปเดต: อย่างน้อย 20 คนเสียชีวิต (เสียชีวิต 43 คน)และอีก 165 คนได้รับบาดเจ็บ (ผู้ได้รับบาดเจ็บขณะนี้ 600 คน) เมื่อเกิดคลื่นสูง และพัดเข้าฝั่งแบบเดียวกับสึนามิ ปะทะชายหาดรอบช่องแคบซุนดา ในอินโดนีเซีย ในคืนวันเสาร์

    มันเชื่อว่าเกิดจากการถล่มใต้น้ำหลังจาก ภูเขาไฟ krakatoa ปะทุขึ้น

    สึนามิปะทะชายหาด anyer ใน banten, อินโดนีเซียคืนวันเสาร์ 22 ธันวาคม 2018.

    Carita beach ยังลือกันว่ามีหลายถนนข้างกำแพงถล่ม เนื่องจากโดนคลื่นกระแทก ดูจากข้อมูลที่หมุนเวียนบนสื่อโซเชียลคลื่นได้โดยประมาณ ว่าคลื่นที่สูงถึงสองเมตร เวลา 9:15 น. wib ทะเลอยู่ๆในพื้นที่ชายหาด anyer.. กิจกรรมคลื่นหลักๆบนชายฝั่งตะวันตกของชวาตรงข้าม ภูเขาไฟ Anak krakatau บางรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันของผู้บาดเจ็บ

    นอกจากนี้ ภูเขาไฟ krakatoa ซึ่งตั้งอยู่ในช่องแคบซุนดาในครั้งล่าสุดแสดงกิจกรรมที่เพิ่มขึ้น

    IMG_6381.JPG IMG_6382.JPG IMG_6383.JPG IMG_6384.JPG IMG_6385.JPG IMG_6386.JPG IMG_6387.JPG IMG_6388.JPG IMG_6389.JPG 65F13F3A-6DD5-43DD-98EC-05A0A68DDE25.jpeg 066F7DEC-44E8-4921-9326-11675FD0FD3C.jpeg

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี

    IMG_6394.JPG
    04:00 ที่ผ่านมา ดัชนีคุณภาพอากาศของกรุงเทพฯ (AQI) อยู่ที่ 149 ปริมาณฝุ่นขนาด 2.5 ไมครอนอยู่ที่ 55 µg/m3 คนป่วย เด็ก คนชรา ควรอยู่ในอาคาร หรือสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 เมื่อออกนอกเคหสถาน


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี

    IMG_6396.JPG IMG_6399.JPG IMG_6400.JPG IMG_6401.JPG
    07:00 #ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 43 ราย มีผู้บาดเจ็บ 584 คน และผู้สูญหาย 2 ราย อาคารที่เสียหาย 430 แห่ง โรงแรม แห่ง เรือ 10 ลำ จากคลื่นสึนามิในช่องแคบซุนดรา


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ช่วงนี้อินโดนีเซียพบภัยพิบัติมากๆ และเชื่อว่าจะมากขึ้นไปอีก จนกว่าโลกจะปรับสมดุลได้ ประเทศเขา ตั้งอยู่บนแผ่นอินโด -ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นแผ่นเปลือกโลกที่สำคัญที่สุดที่คอยค้ำยันแผ่นเปลือกโลกอื่นๆ ไม่ให้เป็นอิสระจากกัน แต่ช่วงท้ายๆ ของการปรับสมดุล สถานการณ์ก็คงจะรุนแรงไปทั่วโลก กว่าจะถึงเวลานั้นก็คงอีกหลายปี การระเบิดของภูเขาไฟกรากาตัว ก็เป็นเรื่องปรกติ เพราะช่วงนี้ระเบิดหลายครั้งในเดือนหนึ่ง แต่ที่ทำให้เกิดการพังทลายใต้น้ำคงจะครั้งแรก น่าจะในรอบ 50-100 ปีขึ้นไป มีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งต่อไป แผ่นเปลือกโลกแผ่นนี้กำลัง active อย่างรุนแรง


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2018
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี

    IMG_6405.JPG IMG_6407.JPG IMG_6408.JPG
    ศูนย์ข้อมูลสาธารณภัย ปภ ติดตามเหตุน่าสนใจต่างประเทศ เหตุเกิดสึนามิ ประเทศอินโดนิเซีย เวลา 21.30 น.


    // เบื้องต้น สาดหตุแผ่นดินถล่มใต้น้ำเนื่องจากการระเบิดของภูเขาไฟ

    / มีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 500 หลัง

    / มีผู้เสียชีวิต 50 ราย บาดเจ็บ 600 คน

    อยู่ระหว่างช่วยเหลือ และสำรวจความเสียหาย / ห้อง 61


     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี


    เพิ่มเติมครั้งที่ 1 #ศูนย์ข้อมูลสาธารณภัย ปภ

    ติดตามเหตุน่าสนใจต่างประเทศ เหตุเกิดสึนามิ ช่องแคบชุนดา ประเทศอินโดนิเซีย

    เวลา 21.30 น.


    // เบื้องต้น สาดหตุแผ่นดินถล่มใต้น้ำเนื่องจากการระเบิดของภูเขาไฟ ขนาดใหญ่


    / มีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 500 หลัง อาคารขนาดใหญ่ 2 แห่ง พังถล่ม


    / #มีผู้เสียชีวิต 55 บาดเจ็บ 600 คน


    / ได้ผลกระทบใน 3 เมือง

    อยู่ระหว่างช่วยเหลือ และสำรวจความเสียหาย หน่วย BNPB / ห้อง 61 / #ไลน์กลุ่มภาคพื้นแปซิฟิก

    IMG_6409.JPG IMG_6410.JPG IMG_6411.JPG IMG_6412.JPG IMG_6413.JPG IMG_6414.JPG IMG_6415.JPG

     

แชร์หน้านี้

Loading...