ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    IMG_6356.JPG

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ดีใจด้วยครับ คงเห็นงานสมรสในเร็วๆ นี้

    MGR Online Politics


    คนสนิทแจง "เสี่ยไก่-โบว์ อยากเลือกตั้ง" คบกันมานานแล้ว พบรักเพราะ "ถูกกระทำ" ด้วยกันทั้งคู่


    "โบว์ ณัฏฐา" แชร์โพสต์เพื่อนสนิทระบุ คบกับ "วัฒนา" มานานแล้ว เพราะเคยมีครอบครัวและผิดหวังกับความรักด้วยกันทั้งคู่ เมื่อถูกกระทำโดยอำนาจเถื่อนจึงพบรัก แจงไม่ใช่การขโมยกินหรือหักหลังใคร ...


    คลิก >> https://mgronline.com/politics/detail/9610000126713


    #MGROnline #วัํฒนาเมืองสุข #คลิปวัฒนา #โบว์ณัฏฐา



     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สหาย ปิยวุฒิ ปิยาภิชาต


    อีกไม่นานตลาดนี้ก็จะจบเช่นกันตอนนี้สหรัฐเหลือตลาดเดียวที่ดึงดูดเงินเข้าได้ในขณะที่ตลาดหุ้นทิ้งดิ่งอย่างมหาศาล(หมายเหตุ กราฟดอกเบี้ยพันธบัตรถ้าลงหมายความว่ามูลค่าของพันธบัตรกำลังเพิ่ม ตรงกันข้ามถ้าขึ้นมูลค่าของพันธบัตรก็จะลดลง)





    Wealth Station

    IMG_6358.JPG
    IQ> บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวขึ้น ก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสัปดาห์หน้า


    สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ธ.ค. 61)--อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาลในสัปดาห์หน้า

    ณ เวลา 00.31 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.792% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.032%

    ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

    ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐจะทำการประมูลพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 1.31 แสนล้านดอลลาร์ในสัปดาห์หน้า

    นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดอาจทำการทบทวนนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดงบดุลในปีหน้า หากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง

    "เรากำลังฟังตลาด และพิจารณาข้อมูลที่เราได้รับ รวมทั้งพร้อมที่จะทบทวนมุมมองของเรา ขณะที่มีความเสี่ยงว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวต่อไป" นายวิลเลียมส์กล่าว


    --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ดอกเบี้ยของธาคารกลางสหรัฐปัจจุบันอยู่ที่ 2.50% ส่วนดอกเบี้ยไทยก็ยังอยู่ในระดับ 1.75% ช่วงห่างดอกเบี้ยจากที่สหรัฐต่ำกว่า 0.75% พลิกกลับข้างเป็นสหรัฐสูงกว่าไทยเกือบ 0.75% และมุมมองตลาดเชื่อว่า ไม่จบเท่านี้ (1.75%) น่าจะมีอีกอย่างน้อย 1 ครั้ง ในปี 2562 ที่จะทำให้ดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นเป็น 2% (นี่เป็นการคาดการณ์ ณ ดอกเบี้ยของธาคารกลางสหรัฐปัจจุบันอยู่ที่ 2.50% แต่ในปี 2562 ธนาคารกลางสหรัฐ อาจจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง)

    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6359.JPG

    (Dec 21) ธนาคารขึ้นดอกเบี้ยแน่แค่รอจังหวะเหมาะ : สิ้นสุดการรอคอย หลังจากที่ลุ้นผล การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มาหลายต่อหลายรอบของการประชุมว่าจะขึ้นหรือคง ขณะที่เสียงแตกในการโหวตให้ปรับขึ้นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คล้ายเป็นการส่งสัญญาณให้เตรียมตัวอย่างน้อย 2-3 ครั้งที่ผ่านมา

    ในที่สุดการประชุม กนง.ครั้งสุดท้ายของปี 2561 เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) ที่ประชุมได้มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จากระดับ 1.5% เป็น 1.75% โดยให้มีผลทันที

    เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ที่ กนง.ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังจากการปรับขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อกลางปี 2554 ก่อนที่ดอกเบี้ยจะเป็นขาลง เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากทั้งปัญหา น้ำท่วม ปัญหาเศรษฐกิจโลก และความวุ่นวายการเมือง กระทั่งเดือน เม.ย. 2558 ดอกเบี้ยปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.5%

    อัตราดอกเบี้ยนโยบายคงอยู่ระดับ 1.5% ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 3 ปี หรือคิดเป็นการประชุม กนง. 28 ครั้ง เป็นการคงดอกเบี้ยนานที่สุดในรอบ 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2548

    ย้อนกลับไปดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดทิศทางดอกเบี้ยของโลกได้มีการทยอยปรับขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2558 จาก 0-0.25% เป็น 0.25-0.5% ขณะนั้นดอกเบี้ยไทยอยู่ในระดับ 1.5% หลังจากนั้นได้ทยอยขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในช่วง 3 ปี จนอยู่ที่ 2.25% ส่วนดอกเบี้ยไทยก็ยังอยู่ในระดับ 1.5% ช่วงห่างดอกเบี้ยจากที่สหรัฐต่ำกว่า 1% พลิกกลับข้างเป็นสหรัฐสูงกว่าไทยเกือบ 1%

    การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) มีขึ้นในวันที่ 19 ธ.ค. 2561 ตามเวลาท้องถิ่น หรือวันที่ 20 ธ.ค. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะที่ประชุมจะยังปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง เป็นครั้งที่ 4 ของปีนี้ สู่ระดับ 2.5% แต่ก่อนที่ส่วนต่างดอกเบี้ยไทยกับสหรัฐจะถ่างออก 1% ที่ประชุม กนง.ได้ชิงขึ้นดอกเบี้ยไปก่อน 0.25%

    ทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วย ผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการ กนง. กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำ ต่อเนื่องเป็นเวลานานช่วยสนับสนุน ให้เศรษฐกิจขยายตัวในระดับที่สอดคล้องกับศักยภาพและกรอบ เป้าหมายเงินเฟ้อ

    "กรรมการส่วนใหญ่ จึงเห็นว่าความจำเป็นในการพึ่งพานโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับที่ผ่านมาลดน้อยลง และเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งเพื่อสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy Space) สำหรับอนาคต" เลขา กนง. กล่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง.ครั้งนี้ แม้จะไม่เหนือความคาดหมาย แต่เห็นได้ถึงความพยายามตรึงดอกเบี้ยต่ำให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจให้มากที่สุด เพราะแม้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) จะทยอยดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เปราะบางเกินกว่าจะถอนการผ่อนคลายออกไปได้ ซึ่งโชคดีที่ไทยมีกันชนจากเสถียรภาพต่างประเทศที่สะสมไว้พอสมควร จึงมีความแข็งแกร่งต้านแรงกดดันจากความผันผวนตลาดเงินตลาดทุนภายนอก เน้นให้น้ำหนักปัจจัยในประเทศได้อย่างเต็มที่

    ทว่า ธปท. และ กนง.ก็ไม่สามารถทวนกระแสโลกได้นานนัก เมื่อหลายประเทศทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว และกลุ่มประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหภาพยุโรปก็ส่งสัญญาณชัดเจนออกมาว่าจะทยอยลดคิวอี และปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2562

    ความผันผวนภายนอกมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งตลาดเงินตลาดทุน และ "ตลาดการค้า" ที่สงครามการค้ากำลังคุกรุ่น

    ขณะที่กระสุนของ ธปท.มีจำกัด จำเขี่ย หากสงครามการค้าฉุดเศรษฐกิจ ทั่วโลกดิ่งลง หรือเกิดวิกฤตที่ไม่คาดฝันขึ้นมา นโยบายการเงินจะกลายเป็น "กระสุนด้าน" ไม่สามารถช่วยเหลือเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองนี้หลายคนจึงมองว่า "เป็นการขึ้นเพื่อลง"เพราะเมื่อผู้คนชินกับดอกเบี้ยต่ำจนกลายเป็นหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้วจะลดอีก 0.25% ก็คงไม่รู้สึกกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ตรงกันข้ามจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่สะสมไว้ในช่วง ที่ดอกเบี้ยต่ำนาน โดยเฉพาะการแสวงหาผลตอบแทนสูง (เสิร์ชฟอร์ ยิลด์) และประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร ที่ซ้ำเติมความเปราะบางก็เป็นได้

    5 ต่อ 2 เสียง ที่ให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ประเมินข้อมูลต่างๆ แล้ว น้ำหนักในฝั่ง "เสถียรภาพของระบบการเงิน" จึงชนะเงินเฟ้อและการ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยปริยาย และมุมมองตลาดเชื่อว่า ไม่จบเท่านี้ น่าจะมีอีกอย่างน้อย 1 ครั้ง ในปี 2562 ที่จะทำให้ดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นเป็น 2%

    ทิตนันทิ์ ย้ำในการแถลงผลการประชุม กนง. ว่า "กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับที่ 1.75% ยังเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง" ซึ่งหมายถึง แม้จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ระดับ 1.75% ก็ถือเป็นระดับต่ำ เป็นนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอยู่ เพียงแต่ไม่ได้ผ่อนคลายมากเป็นพิเศษเหมือนในอดีต

    การปรับดอกเบี้ยนโยบาย ย่อมคาดหวังการส่งผ่านไปยังตลาดเงินตลาดทุนด้วย แต่ต้องยอมรับว่า ประสิทธิภาพของนโยบายการเงินลดลงเรื่อยๆ จากโครงสร้างระบบเศรษฐกิจ ที่เปลี่ยนไป โลกเชื่อมโยงกันแบบ โลกาภิวัตน์ (Globalization) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ได้ปรับขึ้นไปรอดอกเบี้ยแล้วล่วงหน้า ส่วนดอกเบี้ยธนาคาร นั้น คงต้องปรับขึ้นตามแน่ เพียงแต่ไม่ใช่ทันทีทันใด

    "เรายังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ตอนนี้ยังพอไหว ดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นไม่ขึ้นก็ตามใจ และไม่เป็นผู้นำขึ้นดอกเบี้ย โดยระบบธนาคารไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ไม่ต้องเร่งระดมเงินฝาก และสินเชื่อไม่ได้ปล่อยมากมาย" บัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย กล่าว

    สภาพคล่องในระบบธนาคาร ผ่านอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วบี/อี ตัวเลขล่าสุดในเดือน ต.ค. 2561 อยู่ที่ 97.18% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 96.08% เมื่อสิ้นปี 2560 สะท้อนสภาพคล่องส่วนเกินยังมีอยู่ และทิศทางปล่อย สินเชื่อไม่ได้เติบโตพุ่งแรง ไม่เป็นแรงกดดันให้ธนาคารพาณิชย์ต้องรีบขึ้นต้องดอกเบี้ยตามในทันทีทันใด

    แต่บรรดาลูกหนี้ทั้งหลายอย่าชะล่าใจ เพราะดอกเบี้ยธนาคารคง จะยืนอยู่ระดับต่ำได้ไม่นานนัก ช่วงนี้อาจจะเป็นโค้งสุดท้ายของการบริหารจัดการต้นทุน วางแผนปรับโครงสร้างการเงิน มองหาการรีไฟแนนซ์คุมดอกเบี้ยจ่ายที่ต่ำที่สุด

    แม้ไม่ได้ "หมดยุคดอกเบี้ยต่ำ" แต่ดอกเบี้ยจะไม่ต่ำเป็นพิเศษอีกต่อไป ลูกหนี้ต้องตื่นรู้และเตรียมรับภาระดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นในไม่ช้า

    โดย ศุภลักษณ์ เอกกิตติวงษ์
    Source: Posttoday
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    คดีนี้ นี้นายอัจฉริยะ ไปไหน ทำไมไม่ออกมาช่วยเหยื่อ

    ทันข่าว กระบี่


    ผอ.โรงเรียน ใจเหี้ยม? ข่มขู่เด็กสาวเหยื่อ 5ทรชน บังคับให้ลาออก อ้างทำโรงเรียนเสียชื่อเสียง!


    https://www.tnews.co.th/contents/dz/487778





    จากกรณีเฟซบุ๊กชื่อว่า ก๊อดส์ เดนด์เด้ฮ์ ร้านสัก สระบุรี ได้โพสต์เตือนภัยที่เกิดขึ้นในจ.สระบุรี โดยระบุว่า “อยากเตือนภัย ชาวสระบุรี บ้านเรา อยู่ยากแล้ว” พร้อมเล่าว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นกับลูกสาวของตนเอง โดนวัยรุ่น 5 คน ฉุดไปรุมโทรม ข่มขืน เบื้องต้นรู้เพียงว่า ลูกสาวเดินอยู่ข้างถนนแล้ว ถูกฉุดเข้าไปในร้านขายของ 20 ทุกอย่าง แล้วร่วมกันกระทำชำเรา พร้อมระบุด้วยว่า ยังมีอีก 2 คลิป ช่วงแรก ประมาณ 23.00 ของวันที่ 16 ธันวาคม ซึ่งตนเองอยู่ กทม.เพื่อนโทรมาบอกว่า ลูกสาวเราถูกข่มขืน แต่จับตัวเด็กที่ทำได้หมดแล้ว ตอนนี้กำลังเคลียร์กับพ่อแม่ของเด็กอยู่ โดยหนึ่งในนั้น มีชายคนหนึ่ง เป็นญาติของเด็กทั้ง 5 อ้างว่าเป็น อบต. แล้วจะมายัดเงินให้เรื่องจบ ตอนแรกบอกว่าจะให้ 30,000 คุยไปคุยมาต่อรองเหลือ 10,000 ตนบอกเพื่อนให้แจ้งความ เพราะจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด


    ต่อมาพ่อของน้องเจนได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้งระบายความเครียดที่เกิดขึ้นพร้อมสัญญาว่าจะยิ้มสู้และเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแต่ที่ห่วงคือสภาพจิตใจของลูกสาว


    ตอนนี้ กูแม่งเครียด ชิ...หาย กับปัญหา หลายๆอย่าง ที่เกิดขึ้นกับกู ในตอนนี้ แต่กูจะสู้ และยิ้มรับมัน ไปให้ถึงที่สุด กูไม่ท้อ กูไม่ถอยแน่นอน


    ผมอยากให้ทุกคนที่ เครียด ท้อถอย ประสบปัญหากับชีวิตต่างๆ อย่าท้อ อย่าถอย จงเข้มแข็ง เหมือนผมเถอะครับ ปัญหามีไว้แก้ และยอมรับมัน ครับ


    ตอนนี้ผมมีเรื่องให้เครียดหลายเรื่องมากทั้งเรื่อง คดีความที่เกิดกับลูกสาว คดีทำร้ายร่างกายของผม รถแจ๊สก็เสียจากที่โดนชนมา เรื่องงานที่ต้องหยุดรับงานช่วงนี้เพื่อไปดำเนินคดี เรื่องจิตใจลูกสาวในอนาคต เรื่องยายที่ป่วยเป็นอัมพาทที่ต้องดูแลที่บ้าน เรื่องการเป็นอยู่ของลูกในอนาคต เรื่องรายจ่ายที่ต้องใช้ต่าง เรื่องรายได้ที่ไม่เพิ่มขึ้นเพราะต้องหยุดทำงาน เรื่องนักข่าว ทนายความในคดี โทรศัพท์ก็เล่นไม่ได้เพราะมีคนโทรมาตลอดเฟซก็เล่นไม่ใด้เพราะแจ้งเตือนเยอะ โทรศัพท์ค้าง เรื่องการเป็นอยู่ของฮาน้ะ และครอบครัว และอื่นๆ อีกมากมาย


    แต่ผมสู้ครับ ผมไม่ท้อไม่ถอยแน่นอนครับ ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมก็เตรียมคิดเตรียมการแก้ปัญหาต่างๆไว้ล่วงหน้าพอสมควรแล้ว


    เรื่องลูก ก็น่าจะให้ย้ายที่อยู่ก่อนเพื่อความปลอดภัย ส่วนเรื่องจิตใจ ก็จะต้องหาทีมหมอผู้ชำนานการเรื่องนี้ช่วยอีกแรงครับ


    เรื่องคดี ผมก็ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดตามเดิมครับ สุดแน่นอนครับ


    เรื่อง รถแจ๊ส ตอนนี้ก็น่าจะต้องเอาเข้าไฟแนนซ์ก่อน เพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายต่างๆ ในหลายๆเรื่อง ก่อนในตอนนี้ แล้วค่อยทำงานหาเงินมาใช้หนี้ต่อไปในอนาคต


    เรื่องงาน ตอนนี้ ก็ต้องหยุดงานไปก่อน พอเรื่องเบาลงก็จะทยอยรับงานเหมือนเดิมคับ ทางลูกค้า ไม่ต้องกังวลนะครับ ว่าจิตใจผมจะไม่ดีและจะทำงานไม่ได้ ผมฝีมือเต็ม100แน่นอน


    เรื่องยายที่ป่วย ก็ต้องจ้างคนมาดูแล และอยู่เป็นเพื่อนก่อน เพราะสภาพจิตใจยายผมตอนนี้ แย่มาก กังวลว่าแกจะดูข่าวแล้วคิดมาก และเป็นอะไรขึ้นมาอีก


    เรื่องทนายความ ก็ต้องหาผู้ที่ชำนานการในด้านนี้จริงๆมาช่วยเพื่อให้เกิดประโยชมากที่สุด


    เรื่องโทรศัพท์ ตอนนี้ถ้าใครโทรมา แชทมาหาผม ผมไม่ได้รับสายไม่ได้ตอบแชท ก็ต้องขอโทษด้วย เพราะ ไม่มีเวลารับสายจริงๆ ยังไงก็จะติดต่อกับไปถ้ามีเวลาครับ


    ส่วนเรื่องน้องฮาน้ะ ตอนนี้ก็ฝากครอบครัว ช่วยกันดูแลก่อนครับ


    ยังไงผมต้องขอขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ที่เข้ามาช่วยเหลือ ที่เป็นกำลังใจให้นะครับ ผมไม่อยากจะเครียดเพิ่มมากไปกว่านะ จะพยายามทำตัวเองให้มีความสุขที่สุด ครับ


    สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น ก็เหมือนเรื่องดังกล่าวยิ่งทำร้ายพ่อเด็กและคนไทยทั้งประเทศขึ้นไปอีกเมื่อ เพจชื่อดังอย่าง ล่า ได้มีการนำข้อมูลมากแฉความฉาวของ ผอ.โรงเรียน โดยระบุว่า


    ยาวนะ เเต่อ่านให้จบ จะได้รู้ความอัปยศ ที่ลูกเราก็มีสิทธิ์พบเจอ ... เคสนี้นอกจากทรชน เดนนรกเเล้ว ก็ยังมีผู้ใหญ่ชั่วๆ ที่มีพฤติกรรม ข่มขืนเด็กซ้ำๆ ทางจิตใจ #ขอพื้นที่ยืน #ขออ้อมกอด #ขอกำลังใจ ให้เด็กบ้าง ให้ไม่ได้ ?!


    เฮ่ย !! ป้าคะ !! เด็กหญิงคนนี้เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ซ้ำเธอเป็นเหยื่อ ใครทำให้เธอต้องเป็นเเบบนี้ ไอ้พวกชั่วนั้นต่างหาก ที่ผิด ที่เป็นผู้กระทำให้เกิดเรื่องราวสุดอัปยศนี้ขึ้น ป้า คิดใหม่นะคะ ป้าควรปกป้องใคร


    ป้าเป็น ผอ.เป็นครู เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งป้าแก่ๆ ที่เป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลทั้ง 2 คนนั้นด้วย เเถมยังเป็นผู้หญิง เเละด้วยวัย น่าจะมีหัวใจของความเป็นเเม่ ทำไม ?! สุดชั่วร้าย กับเด็กขนาดนี้


    #เริ่มกันที่ ... ผอ.โรงเรียนวัดทองพุ่มพวง "ครู" มีหน้าที่คุ้มครองเด็กตามกฎหมาย เเต่นี่ ผอ.พาคนเเปลกหน้า เข้ามาในโรงเรียน มาคุย มากดดัน มาข่มขู่นักเรียนชั้น ป.5 ที่อยู่ในความปกครองของตัวเอง โดยที่พ่อเเม่เด็กเองก็ไม่รับรู้ข้อมูลนี้ เเละไม่ได้รับการอนุญาตจากพ่อเเม่ของเด็กด้วย


    มาที่ ... ป้าแก่ๆ 2 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เทศบาล ถ้ามาตามหน้าที่ ก็คงจะเป็นฝ่ายกองการศึกษา


    เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ... เด็กเล่าว่า วันนี้เธอตัดสินใจไปโรงเรียน เมื่อไปถึง ผอ.ก็เรียกเข้าไปในห้อง ผอ.เเล้วในนั้นมีคนเเปลกหน้ามาด้วย 2 คน บอกว่ามาจากเทศบาล ถามต่อว่า จำชื่อได้ไหมเธอบอกไม่ได้ เเต่จำได้ว่า เป็นป้าแก่ๆ ในห้องนั้นมี ผอ.โรงเรียนอยู่ด้วย


    เขาบอกหนูว่า เขารู้จักกับพวกผู้ชายพวกนั้น พวกผู้ชายพวกนั้นบอกว่าเขารู้จักหนูมาก่อน เเล้วเขาก็พูดกับหนูว่า ก็เธอยอมเขาเองไม่ใช่เหรอ จะให้เป็นเรื่องเป็นราวทำไม ให้ยุติเรื่องนี้ โรงเรียนเสียชื่อเสียง หนูบอกเขาว่า หนูไม่เคยรู้จักพวกผู้ชายพวกนั้นเลย เเต่เขาไม่เชื่อ เขาพูดว่า ก็หนูยอมเอง เเต่หนูก็เถียงเขาว่า หนูไม่ได้ยอม ไม่รู้จักกันมาก่อนเลย เขาให้หนูลาออก วันนี้หนูก็ไม่ได้เรียน จนเเม่มารับ


    อยากให้เป็นลูก ผอ. อยากให้เป็นลูกเจ้าหน้าที่เทศบาล ที่ถูกรุมโทรมข่มขืน ไม่ได้เเช่ง เเต่ต้องการสื่อความว่า จะได้เข้าใจว่า คนที่มันถูกย่ำยีจนบอบช้ำไปทั้งกายใจ รู้สึกอย่างไร


    ผอ.ไม่ควรเป็นครูอีกต่อไป ควรโดนไล่ออก หรือ ไปทำงานเอกสาร ไม่เหมาะจะอยูากับคนที่ต้องบริหารจิตใจ ควรอยู่กับ สัตว์ หรือ สิ่งของ


    เจ้าหน้าที่เทศบาล 2 คน ควรให้ออกจากการเป็นพนักงานราชการ เเละใครที่เป็นผู้อนุมัติลงนามหรือสั่งให้มาคุยกับเด็ก คนนั้นต้องรับผิดชอบพฤติกรรมของป้าแก่ๆ 2 คนนี้ด้วย ท่านนายกเทศมนตรี สั่งมาหรือเปล่าคะ หรือ #ป้าเผือก มาเอง เพราะรู้จักหรือเป็นญาติทรชน


    โดยนอกจากนี้ชาวเน็ตมีการเปิดเผยหน้าตาของ ผอ.โรงเรียนด้วย โดยระบุว่า คนต่อไปที่จะไม่มีที่ยืนในสังคม เพราะความโง่เขลาส่วนบุคคล โตมาจนป่านนี้ แก่ขนาดนี้ คิดยังไงมาขุดหลุมฝังตัวเอง
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Wealth Station

    IMG_6361.JPG
    เมื่อคนทั้งตลาดขาย ดาวนโจนส์ก็เป็นน้ำตก


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นสพ.แนวหน้า
    ทำไมจะ’จ้ำจี้’ไม่ได้!‘จ่านิว’โผล่แจมคลิปฉาว อ้างนักการเมือง-นักกิจกรรมไม่ใช่ผู้ทรงศีล
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เจนจิรา จันทรเสนา
    หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ บางแห่งจะปิดให้บริการชั่วคราว หลังวุฒิสภายังไม่ลงมติรับรองร่างงบประมาณประจำปี
    (ข่าวPNC)
    รัฐบาลสหรัฐอเมริกา จะปิดให้บริการชั่วคราว หรือทำการชัตดาวน์ เป็นบางส่วนตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ส่งผลให้หน่วยงานบางแห่งปิดให้บริการชั่วคราว นับเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่รัฐบาลสหรัฐฯ ปล่อยให้เกิดภาวะชัตดาวน์ขึ้น 3 ครั้งในรอบระยะเวลา 1 ปี บรรดาผู้นำและสมาชิกสภาคองเกรส รวมถึงนาย"พอล ไรอัน" ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา และนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากวุฒิสภาฯ ได้เดินทางออกจากรัฐสภาสหรัฐโดยไม่มีการลงมติใดๆ เกี่ยวกับร่างงบประมาณ
    แมคคอนเนลล์ ระบุว่า การเจรจาเรื่องงบประมาณประจำปีของรัฐบาลยังคงไม่เสร็จสิ้น และยังคงต้องรอทั้งการลงมติของวุฒิสมาชิก ซึ่งวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต ยังยืนกรานไม่เห็นด้วยกับแผนงบประมาณประจำปีของรัฐบาลที่บรรจุงบประมาณในการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนอเมริกา กับเม็กซิโกมูลค่า $1,600 ล้านเหรียญไว้
    วุฒิสภา มีกำหนดประชุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้วุฒิสภา ได้ลงมติรับรองร่างกฎหมายจ่ายเงินย้อนหลังให้กับเจ้าหน้าที่รัฐในช่วงการชัตดาวน์แล้ว แต่ยังคงต้องรอการลงมติจากสภาผู้แทนราษฎรด้วย
    ก่อนหน้าที่จะมีการเลื่อนการลงมติร่างงบประมาณไม่นาน ปธน.ทรัมป์ ได้ลงภาพโต๊ะทำงาน พร้อมปากกาเตรียมลงนามในร่างงบประมาณในทวีตเตอร์ส่วนตัว กดดันวุฒิสมาชิกเดโมแครต ให้ผ่านร่างงบประมาณ และระบุว่ากำลังรอให้พรรคเดโมแครต ช่วยปกป้องพรมแดนทางตอนใต้สหรัฐอเมริกา
    Credit: https://www.cnn.com/2018/12/21/politics/cornyn-no-vote-government-shutdown/index.html
    BREAKING: Government partially shuts down for the third time in a year after Congress adjourns for the night https://t.co/GSa3QDeOeG
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Ch7HD News
    FB_IMG_1545468412617.jpg
    สหรัฐฯชัตดาวน์!!! หน่วยงานรัฐปิดชั่วคราว หลังเลื่อนถกงบ 1.8 แสนล้าน สร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก
    คลิกอ่านข่าว http://s.ch7.com/317474
    #สหรัฐ #ชัตดาวน์
    #Ch7HDNews #ข่าว7HD
    คลิกอ่านข่าวอื่น news.ch7.com
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    CrisisMan

    ใครเป็นผู้ถือหนี้ใหม่รัฐบาลสหรัฐฯ กว่า 1.33 ล้านล้านเหรียญ
    ตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
    จนถึงเดือนธันวาคม หนี้รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.33 ล้านล้านเหรียญ แตะระดับ 21.8 ล้านล้านเหรียญ
    เมื่อมีหนี้เพิ่ม ก็ต้องมีเจ้าหนี้เพิ่ม ดังนั้นใครกันคือเจ้าหนี้เหล่านี้?
    เริ่มต้นกันที่นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
    1. กลุ่มสถาบันภาครัฐต่างชาติ เช่น ธนาคารกลาง, หน่วยงานภาครัฐ
    ย้อนไป 12 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2018 ลดการถือครองลง 132,000 ล้านเหรียญ ลงมาที่ระดับ 3.95 ล้านล้านเหรียญ
    2. กลุ่มนักลงทุนภาคเอกชนต่างชาติ
    ย้อนไป 12 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2018 เพิ่มการถือครอง 7,000 ล้านเหรียญ สู่ระดับ 2.25 ล้านล้านเหรียญ
    หากแบ่งเป็นรายประเทศ ก็จะพบว่า
    - จีน ลดการถือครองไป 50,000 ล้านเหรียญ จากปีก่อนหน้า เหลืออยู่ 1.14 ล้านล้านเหรียญ (มีบางส่วนขายเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินหยวน)
    - ญี่ปุ่น ลดการถือครองไป 76,000 ล้านเหรียญ จากปีก่อนหน้า เหลืออยู่ 1.02 ล้านล้านเหรียญ จากที่เคยถืออยู่ 1.24 ล้านล้านเหรียญ
    ขณะที่นักทุนต่างชาติอื่นๆ สามารถดูการถือครองได้ในรูปที่.3
    ส่วนที่น่าสนใจ คือ มีชาติอื่นๆ เทขายหนี้ออกมาเพิ่มเติม เช่น
    สหราชอาณาจักรที่ลดการถือครองจาก 276,300 ล้านเหรียญ
    เหลือประมาณ 264,000 ล้านเหรียญ (รูปที่.4)
    เช่นเดียวกับ ซาอุดิอาระเบีย ที่เทขายออกมา 5,000 ล้านเหรียญ
    เมื่อเดือนตุลาคม เป็นการขายมากที่สุดในเดือนเดียวตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ ปี 2016 เหลือการถือครองอยู่ 171,300 ล้านเหรียญ
    (รูปที่.5)
    แล้วใครเป็นผู้ซื้อหนี้เหล่านี้กัน?
    จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม หนี้รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.26 ล้านล้านเหรียญ แตะระดับ 21.7 ล้านล้านเหรียญ
    - นักลงทุนต่างชาติ
    ลดการถือครอง 125,000 ล้านเหรียญ เหลืออยู่ 6.2 ล้านล้านเหรียญ คิดเป็น 28.6% ของหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ
    - หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ (กองทุนบำนาญ, ประกันสังคม)
    เพิ่มการถือครอง 168,000 ล้านเหรียญ สู่ระดับ 5.9 ล้านล้านเหรียญ เป็นการถือครองแบบ อัฐยายซื้อขนมยาย เงินของรัฐ รับประโยชน์
    จากรัฐ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 27.0% ของหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ
    - FED
    การถือครองลดลง 190,000 ล้านเหรียญ เนื่องจากลดขนาดงบดุล
    ลงไปแตะระดับ 2..27 ล้านล้านเหรียญ คิดเป็น 10.5% ของหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ
    - สถาบันในสหรัฐฯ และนักลงทุนรายย่อย
    เพิ่มการถือครอง 1.41 ล้านล้านหรียญ ทั้งทางตรง และทางอ้อมผ่านกองทุน โดยขึ้นมาที่ระดับ 7.37 ล้านล้านเหรียญ คิดเป็น 34% ของ
    หนี้รัฐบาลสหรัฐฯ
    อีกปัจจัยที่น่าจะส่งผลให้การถือครองของต่างชาติลดน่าจะมาจากต้นทุนการ hedge ที่มากขึ้น จากรูป.7
    จะเห็นได้ว่า อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯ 10 ปี ได้ประมาณ 3.15% แต่เมื่อ hedge ค่าเงินแล้วได้รับผลตอบแทนติดลบ
    เกิดจากความต่างของอัตราดอกเบี้ยนโยบายระหว่าง FED, ECB
    และ BOJ
    FB_IMG_1545468834167.jpg FB_IMG_1545468837349.jpg FB_IMG_1545468840604.jpg FB_IMG_1545468844175.jpg FB_IMG_1545468847705.jpg FB_IMG_1545468851439.jpg FB_IMG_1545468854835.jpg FB_IMG_1545468860438.jpg FB_IMG_1545468847705.jpg
    Source : https://wolfstreet.com/2018/12/17/w...w-us-government-debt-over-the-past-12-months/
    https://www.zerohedge.com/news/2018...suries-they-liquidate-record-amount-us-stocks
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Thanong Fanclub
    FB_IMG_1545469450403.jpg
    ชาวจีนถูกสหรัฐจับข้อหาขโมยความลับทางการค้า
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่าชาวจีนคนหนึ่งถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหาขโมยความลับทางการค้าจาก บริษัท ปิโตรเลียมอเมริกันที่จ้างเขาทำงาน โดยความลับทางการค้ามีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    Hongjin Tan ถูกกล่าวหาว่าดาวน์โหลดไฟล์หลายร้อยไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พลังงานปลายน้ำ” ของบริษัทฟิลลิปส์ 66 โดยเขาถูกตั้งข้อหาว่ามีแผนที่จะใช้ข้อมูลนี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อบริษัทจีนที่เขาเตรียมทำงานด้วย
    นายตันเป็นเป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบแบตเตอรี่และการเก็บพลังงาน เขาเป็นวิศวกรที่มีปริญญาฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยนานกิงและปริญญาเอกจากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย เขาอาศัยอยู่ในสหรัฐฯในฐานะผู้มีถิ่นที่อยู่ตามกฎหมายในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา
    โปรไฟล์ LinkedIn บอกว่า Tan ทำงานให้กับ บริษัท ข้ามชาติด้านพลังงานฟิลลิปส์ 66 ในรัฐเท็กซัสตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ก่อนหน้านี้เขาเคยใช้เวลามากกว่า 11 ปีทำงานที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนียในฐานะนักวิทยาศาสตร์และผู้ช่วยวิจัย
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ตั้งข้อหานายตันค่อนข้างหนักว่าขโมยความลับทางการค้า โดยเอาแฟลสไดรฟ์ไปดาวโหลด์ไฟล์เป็นจำนวนมากของบริษัทฟิลลิปส์66 หลังจากที่เขาได้รับข้อเสนอให้ไปทำงานให้บริษัทจีนแห่งหนึ่ง และเขาได้ลบไฟล์ทิ้งก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว
    https://www.scmp.com/news/world/uni...e-battery-expert-hongjin-tan-charged-stealing
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง

    สหรัฐงัดข้อหาสุดคลาสสิคหรือข้อหาหากินมาเล่นงานเกาหลีเหนืออีกแล้ว/สหรัฐขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ3รายในข้อหา"ละเมิดสิทธิมนุษยชน"และปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร หนึ่งในบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีดำคือผู้ช่วยคนสำคัญของนายคิม จองอึน ส่วนคนที่ถูกขึ้นบัญชีดำจะไม่สามารถทำธุรกรรมการเงินและถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมดในสหรัฐ/ด้านทูตเกาหลีเหนือประจำUNกล่าวว่า การใช้มาตรการลงโทษนี้เป็นแผนทางการเมืองและเป็นผลของอำนาจที่ไม่เป็นมิตรต่อเกาหลีเหนือ/ส่วนนักวิเคราะห์กิจการต่างประเทศชี้ว่า ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนอาจสั่นคลอนการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ เพราะฝ่ายเกาหลีเหนือมุ่งหวังไว้ว่าการประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับคิม ได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศดีขึ้น/........
    ---------------------
    (สหรัฐไม่ได้จริงใจตั้งแต่แรกแล้ว และเกาหลีเหนือก็ไม่เคยไว้วางใจตั้งแต่แรกเช่นกัน)สรุปที่ทรัมป์เจอคิมที่สิงคโปรเป็นการสร้างภาพของทรัมป์ โดยแถลงการณ์ร่วมเป็นแบบกว้างๆไม่มีเนื้อหาอะไร)สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีสหรัฐกับเกาหลีเหนือก็วนกลับเข้าสู่จุดเดิม โดยสหรัฐป่วนไม่หยุดและหาเรื่องใส่เกาหลีเหนือตลอด ต่อแต่นี้เกาหลีเหนือคงไม่ไว้ใจสหรัฐได้อีกแล้วละ ส่วนที่ทำไมสหรัฐถึงมาป่วนเกาหลีเหนืออีก"ก็เป้าเดิมคือป่วนจีน" และที่สนามซีเรียไม่สามารถกดดันรัสเซียได้อีก จึงหันมาเล่นจีนต่อ/จับตาดูดีๆคาบสมุทรเกาหลีอาจร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students
    IMG_20181222_161639_870.jpg
    (Dec 22) เงิน'EM'จ่อแข็งค่า - โกลด์แมนแซคส์คาดค่าเงินกลุ่มตลาดเกิดใหม่แข็งค่าในปีหน้า เหตุมีเลือกตั้ง-สินทรัพย์ถูกน่าดึงดูด

    นายแอนดรูว์ วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่เอเชียของบริษัท โกลด์แมน แซคส์ แอสเซท แมเนจเมนท์ กล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า ค่าเงินของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (EM) จะเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า เนื่องจากค่าเงินและตลาดหุ้น EM มีความน่าดึงดูดการลงทุนมากกว่าตลาดพัฒนาแล้ว

    นายวิลสัน กล่าวว่า ในปี 2561 นี้ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นไปแล้วเกือบ 5% เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินหลักของโลกและอาจถึงจุดสูงแค่ในปีนี้ โดยในปีหน้าคาดว่าค่าเงินตลาดเกิดใหม่หลายสกุล โดยเฉพาะกลุ่มที่อ่อนค่าลงหนักในปีนี้จะฟื้นตัวดีดกลับขึ้นมา

    ผู้บริหารของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศ EM มีราคาถูกกว่าตลาดพัฒนาแล้วในขณะนี้ถึง 25% และยังมีแนวโน้มที่อัตราเติบโตของบริษัทจดทะเบียนจะขยายตัวดีขึ้น ขณะที่ราคาสินทรัพย์และความคาดหวังของตลาดก็ยังปรับตัวลงมากเมื่อเทียบกับช่วงราว 1 ปีก่อน ทำให้เป็นโอกาสที่นักลงทุนจะกลับไปซื้ออีกครั้ง อย่างไรก็ดี สถานการณ์เศรษฐกิจในระยะใกล้นี้จะเป็นความเสี่ยงหลักนอกเหนือจากสงครามการค้า

    นายไอดัน เหยา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสด้านตลาดเกิดใหม่เอเชียของบริษัท แอกซ่า อินเวสต์เมนต์ แมนเนเจอร์ส กล่าวว่า หลายประเทศในเอเชียยังมีการเลือกตั้งในปีหน้า ซึ่งการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนช่วงการเลือกตั้งยังช่วยให้ดีมานด์ขยายตัวดีขึ้นด้วย
    Source: posttoday
    - Goldman expects emerging market currencies to 'bounce back' in 2019
    https://www.cnbc.com/2018/12/18/goldman-sachs-expects-em-currencies-to-bounce-back-in-2019.html
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นักท่องเที่ยวจีนเพิ่งไม่เข้ามาเที่ยวไทยไม่กี่เดือนในปีนี้ ถ้าจะรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อต้องรอดูปีหน้า จะเป็นยังไง

    Bank of Thailand Scholarship Students
    FB_IMG_1545470489906.jpg
    (Dec 21) 'ส่งออก'พ.ย.ทรุด0.95%ตลาดจีนดิ่งพิษค้าโลก : ส่งออก พ.ย.พลิกหดตัว 0.95% ครั้งที่ 2 ในรอบปี เหตุสงครามการค้าพ่นพิษ ตลาดจีนติดลบหนัก 8.9% ยังลุ้นเป้าทั้งปีโต 8% หวังเดือนสุดท้าย ยอดแตะ 2.2หมื่นล้าน ด้าน "บรรจงจิตต์" เตรียมลุยต่อ วางแผนจัดคณะผู้แทนการค้า เจาะตลาดอีกเพียบ ขณะ ธปท. มั่นใจทั้งปีโตเกิน 7% ด้าน กระทรวงท่องเที่ยว เผย พ.ย. ต่างชาติเที่ยวไทย พลิกบวก 4.54% อานิสงส์เว้นค่าธรรมเนียม "วีโอเอ" ดันตลาดจีนหดตัวน้อยลง

    กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก เดือน พ.ย.2561 มีมูลค่ารวมที่ 21,237.2 ล้านดอลลาร์ หดตัว 0.95% เป็นการกลับมาขยายตัวติดลบเป็น ครั้งที่ 2 ในรอบปี หลังจากที่เดือน ก.ย.ติดลบ 5.2% และเดือน ต.ค.กลับมาเป็นบวก 8.70% ส่วนการ นำเข้า มีมูลค่า 22,415 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14.66% โดยขาดดุลการค้ามูลค่า 1,177.8 ล้านดอลลาร์

    นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้การส่งออกเดือน พ.ย.2561 กลับมาติดลบ เพราะไทยเริ่มได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน โดยสินค้าที่เป็นซัพพลายเชนในการผลิตของจีน มีการส่งออกได้ลดลง โดยเฉพาะชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ รวมกับยอดส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา และมันสำปะหลังที่ลดลง ทำให้ตลาดจีนกลับมาติดลบมากถึง8.9%จากที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือนก่อน

    สินค้าเกษตรหดตัวสูง8.4%

    ขณะเดียวกัน การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ก็ติดลบสูงถึง 8.4% สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ข้าว ลด 22.4% เพราะเดือนเดียวกันของปีก่อนไทยส่งออกข้าวทำสถิติสูงสุด ยางพารา ลด 25% น้ำตาล ลด 32% ผัก ผลไม้สดแช่แข็งและแปรรูป ลด 6.3% แต่เครื่องดื่ม เพิ่ม 19.6% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่ม6%ทูน่ากระป๋องเพิ่ม 9.2% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เพิ่ม3.8%

    ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมลดลง 0.4% สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ลด8%เครื่องโทรสาร โทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ลด 31.9% เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ลด 6.1% อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด ลด 39.4% โดยสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เพิ่ม 17.2% ทองคำ เพิ่ม 146% ผลิตภัณฑ์ยาง เพิ่ม 4.7% เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เพิ่ม 7.6%

    สำหรับตลาดส่งออก พบว่า หดตัวในหลายตลาด เช่น สหภาพยุโรป ลด 2% ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่สงบในภูมิภาค และยังน่าห่วงที่ปีหน้าข้อตกลงการค้าเสรี (FTA ) เวียดนาม-สหภาพยุโรปจะมีผลบังคับใช้ จะยิ่งมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทย ขณะที่ อาเซียน5ประเทศ ลด 4.3% เอเชียใต้ ลด 7.6% ฮ่องกง ลด11.1%เกาหลีใต้ ลด 1.8% และไต้หวัน ลด 3% ลาตินอเมริกาลด 9.7% ทวีปออสเตรเลีย ลด 11.8% ตะวันออกกลาง ลด 17.4% ส่วนสหรัฐ เพิ่ม 11.9% ญี่ปุ่น เพิ่ม 4.3% รัสเซียและCISเพิ่ม6.6%

    ยอดส่งออก11เดือนโต7.29%

    นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า การส่งออกรวม11เดือนของปี 2561 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 232,725 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.29% การนำเข้ามีมูลค่า 231,434.9 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14.77% เกินดุลการค้ามูลค่า 1,381.1 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกทั้งปี หากจะทำได้ตามเป้าหมาย8%การส่งเดือน ธ.ค.2561 จะต้องทำได้มูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ เพราะตัวเลขรายเดือนที่ผ่านมา สามารถส่งออกได้เกิน 20,000 ล้านดอลลาร์ เกือบทุกเดือน ปริ่มๆ 21,000 ล้านดอลลาร์

    ซัพพลายเชนจีนทำส่งออกติดลบ

    นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เห็นตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ย.ที่ขยายตัวติดลบ ไม่น่าตกใจ เพราะบางปัจจัยที่เป็นผลกระทบ โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในซัพพลายเชนของจีน คงจะทำอะไรมากไม่ได้ ต้องผลักดัน หาตลาดอื่นเพิ่ม และตลาดสหรัฐเองก็ได้กระทบแต่ทางสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่สหรัฐประเมินว่า ยังมีสินค้าอีกหลายตัวที่จะบุกตลาดเพื่อทดแทน

    ซึ่งกรมฯ มีแผนที่จะเร่งหาตลาดรองรับ มีทั้งการจัดคณะผู้แทนการค้าไปเคาะประตูบ้าน เช่น กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม พลาสติก ชิ้นส่วนยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ยาง การจัดคณะผู้แทนไปสำรวจเส้นทางการค้าบนเส้นทางสายไหมของจีน ที่จะเน้นสินค้าอาหารและฮาลาล การจัดกองกำลังเฉพาะกิจ (Special Task Force) ไปเจาะตลาดแอฟริกา ที่จะเน้นผลิตภัณฑ์ยาง ชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์การเกษตร เครื่องจักรการเกษตร รวมทั้งมีแผนผลักดันและสร้างโอกาสในการค้าขายผ่านออนไลน์ ซึ่งได้ลงนามกับจีนไปแล้ว เช่น เจดีดอทคอม และทีมอลดอทคอมและมีแผนที่จะรุกตลาดอินเดียผ่านทางออนไลน์ด้วย

    นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่าเป้าหมาย 8% คงต้องลุ้น ซึ่งยอดการส่งออกที่ผ่านมาทุกเดือนก็มีฐานสูง แต่การทำให้เข้าสู่เป้าหมาย 8% ต้องทำได้ถึง 22,000 ล้านดอลลาร์

    ก่อนหน้านี้ก็หวังว่าปัญหาสงครามการค้าคงไม่ยืดเยื้อ และมีการพักรบไป 90 วัน ก็จะทำให้การส่งออกดี แต่ในช่วงเวลานี้ก็มีปัจจัยแทรกแซงเข้ามาทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ย การจับผู้บริหารหัวเว่ย บรรยากาศการค้าโลกที่ชะลอตัว ส่งผลด้านจิตวิทยา จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ส่งออกติดลบ

    ธปท.มั่นใจทั้งปียืนเหนือ 7%

    นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกเดือน พ.ย.ที่กลับมาหดตัว 0.95% เป็นเรื่องที่ ธปท. พอจะคาดการณ์ไว้บ้างแล้ว เพราะเท่าที่สำรวจตัวชี้วัดเบื้องต้น คือ ยอดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในเดือนพ.ย.พบว่า ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จึงประเมินว่า การส่งออกเดือนพ.ย.อาจไม่ดีนัก ทำให้ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) รอบล่าสุด ได้ปรับลดคาดการณ์การส่งออกใน ปีนี้ลงเหลือ 7% จากเดิม 9%

    "เชื่อว่าตัวเลข 7% น่าจะยืนได้ เพราะถ้าเดือนสุดท้ายมูลค่าการส่งออกยืนเหนือระดับ 2.05 หมื่นล้านดอลลาร์ได้ ก็จะทำให้ตัวเลขทั้งปีสูงกว่า 7% แต่หากจะให้โตได้ถึง 8% ตัวเลขการส่งออกเดือนสุดท้ายควรต้องเติบโตในระดับ 2.2-2.3 หมื่นล้านดอลลาร์"

    ส่วนปีหน้าเชื่อว่า คงชะลอตัวลง โดย กนง. ได้ปรับลดคาดการณ์การส่งออกปีหน้าลงเหลือ 3.8% จากคาดการณ์เดิมที่ 4.3%

    พ.ย.นักท่องเที่ยวจีนหดตัวน้อยลง

    รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือน พ.ย. ทั้งหมด 3,177,569 คน การเติบโตพลิกกลับมาอยู่ในแดนบวก เพิ่มขึ้น 4.54% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และถือว่าเป็นการปรับตัวดีขึ้นจากทุกภูมิภาค สร้างรายได้ 167,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.18% หลังจากเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จำนวนต่างชาติหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือนของปีนี้ ติดลบที่ 0.51%

    โดยนักท่องเที่ยวตลาดเอเชียตะวันออกขยายตัวเกือบทุกประเทศ รวมถึงจีนที่ปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa on Arrival (VoA) ซึ่งเริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดวันที่ 13 ม.ค. 2562 ทำให้ตลอดเดือน พ.ย. มี นักท่องเที่ยวจีนมาเยือนไทย 675,129 คน แม้จะยังติดลบ 14.63% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกัน ปีที่แล้ว แต่ก็ถือเป็นการติดลบที่น้อยลง เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งติดลบกว่า 19.8% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.ปีที่แล้วส่วนรายได้จากตลาดจีนในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 36,454 ล้านบาท ติดลบ 10.36% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว
    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    MGROnline Live
    561000013159301.JPEG
    กรมการพลังงานทหารโชว์ศักยภาพ”แหล่งน้ำมันดิบฝาง”
    กรมเชื้อเพลิงธรรมชาตินำสื่อมวลชนย้อนรอยศักยภาพการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแหล่งน้ำมันดิบฝาง แหล่งน้ำมันแห่งแรกที่ค้นพบในไทย กรมการพลังงานทหารเตรียมลงทุนขุดเจาะเพิ่มปีหน้าอีก 3 หลุมรักษาระดับการผลิต 750 บาร์เรลต่อวัน พร้อมโชว์การศึกษา MEOR ฟื้นการผลิตจากหลุมน้ำมันดิบแหล่งแม่สูน
    คลิก>> https://mgronline.com/business/detail/9610000126612
    #MGRonline #กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ #พลังงานทหาร #ศักยภาพ #แหล่งน้ำมันดิบฝาง

    กรมเชื้อเพลิงธรรมชาตินำสื่อมวลชนย้อนรอยศักยภาพการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแหล่งน้ำมันดิบฝาง แหล่งน้ำมันแห่งแรกที่ค้นพบในไทย กรมการพลังงานทหารเตรียมลงทุนขุดเจาะเพิ่มปีหน้าอีก 3 หลุมรักษาระดับการผลิต 750 บาร์เรลต่อวัน พร้อมโชว์การศึกษา MEOR ฟื้นการผลิตจากหลุมน้ำมันดิบแหล่งแม่สูน
    นายภูมี ศรีสุวรรณ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยในการนำคณะสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่กรมฯ ศึกษาดูงานการบริหารจัดการการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม “แหล่งน้ำมันดิบฝาง” อำเภอฝาง จังหวัดเชึยงใหม่ของศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร ว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ มีบทบาทหน้าที่หลักของในการจัดหาพลังงานเพื่อรองรับต่อความต้องการใช้ในประเทศ ซึ่งแหล่งน้ำมันดิบฝางถือเป็นแหล่งน้ำมันดิบแห่งแรกของไทยที่มีค้นพบและจัดเป็นการเริ่มต้นของการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ที่ผลักดันให้เกิดการตื่นตัวเรื่องจัดหาและพึ่งพาทรัพยากรพลังงานในประเทศ จนพัฒนาไปสู่การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทยในปัจจุบัน
    ฝาง” อำเภอฝาง จังหวัดเชึยงใหม่ของศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร ว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ มีบทบาทหน้าที่หลักของในการจัดหาพลังงานเพื่อรองรับต่อความต้องการใช้ในประเทศ ซึ่งแหล่งน้ำมันดิบฝางถือเป็นแหล่งน้ำมันดิบแห่งแรกของไทยที่มีค้นพบและจัดเป็นการเริ่มต้นของการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ที่ผลักดันให้เกิดการตื่นตัวเรื่องจัดหาและพึ่งพาทรัพยากรพลังงานในประเทศ จนพัฒนาไปสู่การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทยในปัจจุบัน
    ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ นอกจากจะดำเนินงานด้านปิโตรเลียมอย่างครบวงจรแล้ว ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่รวบรวมองค์ความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ตั้งแต่ต้นกำเนิดปิโตรเลียม กระบวนการขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียม ตลอดจนประวัติความเป็นมาของแหล่งน้ำมันดิบแห่งแรกของไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้ นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้อีกด้วย
    พันเอก นรสิงห์ ภีมะโยธิน รองผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2532 เพื่อดำเนินงานด้านกิจการปิโตรเลียมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การสำรวจ และผลิตและการกลั่นปิโตรเลียมครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ 6 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
    ปัจจุบันการผลิตปิโตรเลียมของศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ ดำเนินการเฉพาะที่แหล่งน้ำมันดิบฝาง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล ในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ ตำบลแม่คะ แม่สูน และสันทราย โดยมีปริมาณการผลิตน้ำมันดิบประมาณ 750 บาร์เรลต่อวัน จากหลุมผลิตทั้งหมด 62 หลุม ซึ่งน้ำมันดิบที่ผลิตได้ทั้งหมดจะส่งเข้าโรงกลั่นฝางเพื่อกลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูป1,400บาร์เรลต่อวันโดยส่วนใหญ่จะได้ดีเซลและน้ำมันเตาเพื่อใช้ในภารกิจของกระทรวงกลาโหมเป็นหลัก
    “ขณะนี้ที่ฝาง เหลือปริมาณสำรองน้ำมันดิบ 63 ล้านบาร์เรล หากไม่มีการสำรวจขุดเจาะเพิ่มจะผลิตน้ำมันได้อีกแค่11 ปี แต่กรมการพลังงานทหารยังคงทำการสำรวจและผลิตต่อเนื่องเพื่อรักษาระดับการผลิตไว้ 750 บาร์เรลต่อวัน โดยปี2562 จะเจาะสำรวจฯเพิ่มอีก3หลุมคาดว่าจะลงทุนประมาณหลุมละ18ล้านบาท”พันเอกนรสิงห์กล่าว
    ทั้งนี้น้ำมันดิบฝางค้นพบในปี2499ปเจาะหลุมสำรวจแล้วกว่า300 หลุม แต่ผลิตได้จริง 62 หลุมขณะเดียวกันในส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานร่วมดีเซล ของกรมการพลังงานทหาร เกิดขึ้นเพราะอดีตน้ำมันเตาที่ได้ราคาต่ำมีกำลังการผลิต 12.14 เมกะวัตต์ แต่ปัจจุบันขายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) 4.5 เมกะวัตต์ ซึ่งจะหมดสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ปี 2562 โดยเบื้องต้นจะไม่มีการต่อสัญญาและจะยกเลิกการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด เนื่องจากโรงไฟฟ้ามีอายุการใช้งานกว่า 21 ปี ซึ่งถือว่าเครื่องผลิตเก่ามากแล้ว
    นอกจากนี้แหล่งแม่สูน ที่มีการหยุดผลิตตั้งแต่ปี 2553 ยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการทำโครงการทดลองอัดสารอาหารจุลินทรีย์หรือ MEOR โดยเริ่มทดลองตั้งแต่พ.ย.ที่ผ่านมาพบว่ามีกำลังการผลิตที่เดิมหยุดไปทยอยกลับมามีน้ำมันดิบเฉลี่ยวันละ 9.8 บาร์เรลต่อวันซึ่งหากติดตามแล้วประสบความสำเร็จก็จะสามารถนำไปใช้กับหลุมอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกันกับหลุมดังกล่าวด้วย แต่ทั้งนี้ก็คงจะต้องรอการศึกษาให้มั่นใจอีกระยะหนึ่ง
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%8806-696x392.jpg
    ยะไข่เดือด! ทัพพม่ากวาดล้าง “โรฮิงยา” รอบใหม่ อ้างทำร้ายพุทธเจ็บ-ตาย
    วันที่ 20 ธันวาคม 2561 - 15:10 น.

    ยะไข่เดือด! ทัพพม่ากวาดล้าง “โรฮิงยา” – เมื่อ 20 ธ.ค. เอเอฟพี และ สเตรท์สไทมส์ รายงานว่า กองทัพพม่า ประกาศเปิดปฏิบัติการทางทหารรอบใหม่ใน รัฐยะไข่ ทางภาคตะวันตก เพื่อกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งในพื้นที่ หลังเกิดเหตุชาวพุทธพม่าถูกลอบทำร้ายจนเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 2 คน ที่เมืองหม่องดอว์ ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. สร้างความกังวลให้นานาชาติหลังภารกิจทางทหารดังกล่าวนำไปสู่ความรุนแรง ทำให้ชาวโรฮิงยาหนีตายไปพักพิงที่บังกลาเทศกว่า 7 แสนคน

    การประกาศดังกล่าวของ พลเอกมิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า เกิดขึ้นหลังหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เดอะ โพสต์ รายงานเหตุชาวพุทธในรัฐยะไข่เดินทางออกไปทำประมง แต่ไม่ได้เดินทางกลับบ้านหลายวัน ก่อนจะมีผู้ไปพบว่าถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิต 2 ราย

    B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%8803-696x436.jpg
    A Myanmar policeman kicks a villager in Kotankauk during a clearance operation in November last year. Evidence of abuse against Rohingya Muslims by the army is growing. Photograph: Zaw Myo Htike/AFP/
    ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นไล่เลี่ยกัน โดยเหยื่อเป็นชาวพุทธพม่าที่ทำอาชีพประมงแต่หนีรอดมาได้ และอ้างว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน พยายามรุมสังหาร โดยผู้ก่อเหตุพูดภาษาเบงกาลี ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวพม่าตั้งให้ชาวโรฮิงยา เนื่องจากไม่ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ท้องถิ่น แต่เป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ

    กองบัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่าแถลงว่า เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการทางทหารอีกครั้งที่บริเวณยอดเขาปยูม่าในเมืองหม่องดอว์ โดยปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นภารกิจแบบกวาดล้าง ท่ามกลางข้อครหาจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และกลุ่มสิทธิมนุษยชน ว่าภารกิจของทางการพม่านั้นอาจเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และเรียกร้องให้นำกรณีที่เกิดขึ้นเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) ที่กรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ แม้ทางการและกองทัพพม่าจะปฏิเสธข้อครหาอย่างต่อเนื่อง


    https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_1981685
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    MOREMOVE
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ใจคอไม่ดี!!! หวั่นเกิดสงครามโลกยังไงชอบกล เมื่อล่าสุด #รัสเซียพัฒนาอาวุธใหม่เพื่อต้านภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ชี้ชัดๆ เพื่อรักษาสมดุลทางยุทธศาสตร์และปกป้องความมั่นคงของประเทศ #ยามต้องเผชิญหน้าการล่มสลายระบบป้องกันอาวุธระหว่างประเทศ
    Source : China Xinhua News - https://bit.ly/2V0jwOB
    โดยเรื่องนี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวในงานแถลงข่าวประจำปีว่า #รัสเซียกำลังพัฒนาอาวุธใหม่ เพื่อรักษาสมดุลทางยุทธศาสตร์และปกป้องความมั่นคงของประเทศ โดยระบุเพิ่มเติมว่า เราจะรักษาความปลอดภัยของเรา แต่โดยทั่วไปแล้ว สำหรับมนุษยชาติ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่แย่มาก #เพราะมันจะพาเราไปสู่จุดที่เป็นอันตรายอย่างมหันต์
    นอกจากนี้ ประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวถึงเรื่องในอดีต ตอนที่สหรัฐฯถอนตัวออกจากสนธิสัญญาระบบต่อต้านขีปนาวุธ (ABM) เมื่อปี 2002 อีกด้วย โดยแจ้งว่า #ช่วงนั้นรัสเซียถูกบังคับให้ตอบโต้ด้วยการสร้างระบบอาวุธใหม่ เพื่อเอาชนะระบบป้องกันขีปนาวุธ
    #สหรัฐฯประกาศถอนตัว ออกจากสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (INF) ด้วยการใช้ขีปนาวุธดังกล่าวในยุโรป #รัสเซียเองจำเป็นต้องตอบโต้
    "ชะตากรรมของอีกหนึ่งสนธิสัญญา คือสนธิสัญญาลดอาวุธโจมตีทางยุทธศาสตร์ (START) ที่จะหมดอายุลงในปี 2021 ซึ่งยังคงเป็นปริศนา #เพราะยังคงไม่มีการเจรจาใดๆเกี่ยวกับเรื่องการขยายเวลาของสัญญา" ปูตินกล่าว
    #การนำนิวเคลียร์พลังงานต่ำมาประยุกต์ใช้อาจก่อให้เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ในทั่วโลก ซึ่งอาจจะนำไปสู่จุดจบของทุกอารยธรรมหรือบางทีอาจจะเป็นจุดจบของดาวโลก.
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    คนเทาเทา_ขายข่าว

    ชาวญี่ปุ่นออกมาเดินขบวนเรียกร้องจีนให้หยุดสังหารมุสลิมอุยกูร์
    พลเรือนญี่ปุ่นในโตเกียวนับพันคนเดินขบวนเรียกร้องให้ทางการจีนหยุดเข่นฆ่าและทรมานชาวมุสลิมUyghur เตอร์กิสถาน
    การเข่นฆ่าและกักขังทรมานของรัฐบาลจีนกระทำต่อชาวมุสลิมUyghurมีกันมานานแล้ว...
    แต่ระยะหลังมานี้ชาวโลกได้รับรู้จากชาวมุสลิมUyghurที่หนีมาจากเตอร์กิสถานมาบอกเล่าเรื่องราวของรัฐบาลจีนทำกับพวกเขาอย่างทรมานมากๆ
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Prachachat - ประชาชาติ


    ข่าวลือสะพัด! 'ทรัมป์'กำลังหารือเตรียมปลด "ประธานเฟด"


    https://www.prachachat.net/world-news/news-268848





    หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยระลอกสุดท้ายในปีนี้ อีก 0.25% สร้างความผิดหวังให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างมาก


    ล่าสุด “บลูมเบิร์ก” รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา หารือเรื่องการปลดนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ออกจากตำแหน่ง โดยอ้างว่าการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยตลอดทั้งปีนี้ รวมถึงครั้งล่าสุด สร้างความกังวลให้กับตลาดหุ้นโลก และไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ


    ทั้งนี้ รายงานอ้างว่าแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ 2 คน ยืนยันว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้หารือเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับการปลดนายพาวเวลล์หลายครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โฆษกทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้ว


    นักวิเคราะห์มองว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีความไม่พอใจอย่างมาก แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข่าวเตรียมปลดประธานเฟดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่หากเกิดขึ้นจริงอาจจะเป็นหายนะของเศรษฐกิจของสหรัฐมากขึ้น เพราะนั่นหมายถึงธนาคารกลางสหรัฐกำลังถูกการเมืองเข้าแทรกแซง และลดอิสระในการบริหารงานอย่างเต็มที่
     

แชร์หน้านี้

Loading...