ติดตามกิจกรรมพระกรรมฐาน

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย มุ่งเต็มใจ, 2 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    (๑๐) องฺคสงฺกนฺติโต เข้ารูปฌาน ๕ โดยก้าวล่วงองค์ฌานไปตามลำดับ คือ
    เพ่งกสิณเป็นอารมณ์ เข้าปฐมฌาน ซึ่งมีองค์ฌาน ๕<o></o>
    เพ่งกสิณเป็นอารมณ์ เข้าทุติยฌาน ซึ่งมีองค์ฌาน ๔ โดยก้าวล่วงวิตก<o></o>
    เพ่งกสิณเป็นอารมณ์ เข้าตติยฌาน ซึ่งมีองค์ฌาน ๓ โดยก้าวล่วงวิจาร ได้อีก<o></o>
    เพ่งกสิณเป็นอารมณ์ เข้าจตุตถฌาน ซึ่งมีองค์ฌาน ๒ โดยก้าวล่วงปีติ ได้อีก<o></o>
    เพ่งกสิณเป็นอารมณ์ เข้าปัญจมฌาน ซึ่งมีองค์ฌาน ๒ โดยก้าวล่วงสุข ได้อีก<o></o>
    ฝึกจนเป็นวสี<o></o>
    (๑๑) อารมฺมณสงฺกนฺติโต เข้าฌานโดยเปลี่ยนอารมณ์กัมมัฏฐาน คือ เพ่ง ปฐวีกสิณเป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งอาโปกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งเตโชกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งวาโยกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งนีลกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งปีตกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งโลหิตกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งโอทาตกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    ฝึกจนเป็นวสี

    http://www.abhidhamonline.org/aphi/p9/055.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2010
  2. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    <null http:="" www.uppicweb.com="" i="" iy="" 200912081809565getattachment1.jpg="" rel="lightbox">[​IMG]</null>

    [​IMG]

    มาแจ้งสถานะชวนทำบุญตอนนี้ครับ
    หลวงปู่ท่านจะพุทธาภิเษก10โมง24มค.
    สงสัยไม่ได้ติดรถพิษณุไปแล้ว คงต้องไปเองกระมังครับ

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CSERVER%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Franklin Gothic Medium"; panose-1:2 11 6 3 2 1 2 2 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:647 0 0 0 159 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:36.0pt 90.0pt 36.0pt 90.0pt; mso-header-margin:35.3pt; mso-footer-margin:35.3pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <o:shapedefaults v:ext="edit" spidmax="1026"/> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <o:shapelayout v:ext="edit"> <o:idmap v:ext="edit" data="1"/> </o:shapelayout></xml><![endif]--> ​
    [FONT=&quot]ขอเชิญร่วมบุญกุศล โครงการสร้าง[/FONT][FONT=&quot]พระกริ่งพุทธภูมิ[/FONT][FONT=&quot] ทูลเกล้าฯถวายพระบาท
    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระราชทานทหารตำรวจ
    พลเรือน กับหลวงปู่บัณฑิต จิณณปุญโญ วัดพระธาตุศรีสามรักษ์ [/FONT]
    <o></o>
    [FONT=&quot]--------------------------------------------------------------------------------------------[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]ที่ปรึกษาโครงการ[/FONT][FONT=&quot]หลวงปู่บัณฑิต(อดีต พลเอกบัณฑิต ฤชาปกรณ์ ) เจ้าอาวาส
    วัดพระธาตุศรีสามรักษ์[/FONT]
    [FONT=&quot] อ.เชียงดาว เชียงใหม่[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]ผู้ดำเนินการโครงการ[/FONT][FONT=&quot] กุศลมงคล สุวรรณกูฏ บิดามารดา ญาติมิตร มนตรีบริ
    วาร[/FONT]
    [FONT=&quot]เจ้ากรรมนายเวร สัมพันธชน สรรพชีวิต[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]วัดพระธาตุศรีสามรักษ์ เป็นวัดที่[/FONT][FONT=&quot]สมเด็จพระนเรศวรมหาราช[/FONT][FONT=&quot]เคยมาสร้างไว้
    เมื่อครั้งชนะศึกกรุงหงสาวดี บนพื้นที่วัดเก่า ซึ่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ
    เจ้าผู้พิชิตมาร[/FONT]
    [FONT=&quot]สมัยเสวยพระชาติเป็น[/FONT][FONT=&quot]พระโคโพธิสัตว์[/FONT][FONT=&quot]เคยมาอาศัยเป็นสถานที่
    บำเพ็ญบารมี [/FONT]
    <o></o>
    [FONT=&quot]โครงการ ดำเนินการสร้างพระกริ่งพุทธภูมิจำนวน ๕พันองค์ เพื่อให้หลวงปู่บัณฑิตผู้มี
    ส่วนอุปถัมภ์ชาวเขา๑๖เผ่าภาคเหนือ ท่านพิจารณาทูลเกล้าฯถวายองค์พระบาทสมเด็จ
    พระพุทธเจ้าอยู่หัวผ่านสมเด็จพระ นางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เพื่อพระราชทานเหล่าข้า
    ราชการทหารตำรวจพลเรือน๔จังหวัดชายแดนใต้) ซึ่งหลวงปู่(สมัยเป็นฆราวาสปืนบา
    ซูก้ายิงไม่ออก)ท่านจะทำพิธีพุทธาภิเษกด้วย พระภิกษุสงฆ์๙รูป ใน
    [/FONT][FONT=&quot]เช้าวันบวงสรวง
    องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชอาทิตย์ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๓ ณ วัดพระธาตุศรี
    สามรักษ์[/FONT]
    [FONT=&quot]โครงการ จะสร้างพระกริ่งพุทธภูมิกรรมการถวายหลวงปู่บัณฑิต ๓๐๐องค์
    และอีก ๕๕๕ องค์สำหรับไว้เป็นของขวัญกรรมการที่ร่วมบุญทำให้โครงการฯสำเร็จได้
    โดยดีงาม จำนวน ๕๐๐บาทขึ้นไป หากมีปัจจัยเหลือจะนำไปร่วมโครงการสร้างพระกริ่ง
    แม่สอนลูกเพื่อสร้างเสนาสนะ สงฆ์(อาจเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์หรือวัดใดวัดหนึ่ง) สืบ
    ทอดบำรุงพระพุทธศาสนานี้ให้มีอายุไม่ต่ำกว่า๕๐๐๐ปี พุทโธ ธัมโม สังโฆ อัปมาโณ
    อายุ
    วรรโณ สุขัง พลัง ปรารถนาสิ่งใดขอให้สำเร็จโดยดีงาม
    [/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]พระ กริ่งพุทธภูมิ ประมาณ๕พันองค์ ผสมมวลสารจากชนวนพระโลหะเก่านับหลายร้อย
    องค์ ผ่านพิธีเจริญพระพุทธมนตร์ โดยหลวงปู่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัต
    โต ไม่ต่ำกว่า๑๖วัดใหญ่ ประมาณไม่ต่ำกว่า๕๐รูป
    [/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]และผ่านการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่พ่อแม่ครูบาอาจารย์<st1>จาก </st1>[/FONT]
    [FONT=&quot]<st1> </st1>[/FONT] [FONT=&quot]<st1>วัดถ้ำผาจมจากวัดถ้ำผาจม</st1>[/FONT][FONT=&quot]เชียงราย วัดหนองช้างคาว อุดรธานี วัดปากน้ำ นนทบุรี
    พระครูวิมุติยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดวิมุติยาราม เชิงสะพานพระราม๖ กทม.
    [/FONT][FONT=&quot]วัดเทพากร กทม.
    วัดถ้ำปากเปียง เชียงใหม่ วัดปทุมวนาราม กทม. วัดใหม่บ้านตาล สกลนคร วัดปากน้ำ
    ภาษีเจริญ วัดใหม่เทพพล
    [/FONT][FONT=&quot]กทม. วัดทุ่งแสงสว่างเจริญธรรมกาญจนบุรีอัญเชิญบารมี
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำฯลฯ
    [/FONT][FONT=&quot]นายกุศลมงคล สุวรรณกูฏภาวนาด้วยหัวใจพระไภสัชยคุรุ
    (อายุวัฒนะ) ธรรมราชาพระเจ้า๑๖พระองค์ มงกุฎพระพุทธเจ้า ชินบัญชรฯลฯ
    [/FONT][FONT=&quot]
    (สอบถามรายละเอียดได้ที่
    [/FONT]:[FONT=&quot]๐๘๙๓๐๐๖๙๐๒ ,๐๘๙๓๒๐๑๔๑๓[/FONT][FONT=&quot] )[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]พระกริ่งพุทธภูมิกรรมการ[/FONT] [FONT=&quot]มี มวลสารชนวนจากพระกริ่งพุทธภูมิแต่เพิ่มผงแร่บางไผ่
    ผงเหล็กน้ำพี้ ชนวนนวโลหะพระนิรันตรายชมรมพุทธทีโอที ชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์
    ชนวนพระกริ่งวัดบวรนิเวศน์ (มาร่วมอนุโมทนาตอนเจริญภาวนาพระกริ่งพุทธภูมิ
    ๕,๐๐๐องค์) ฯลฯ<o></o>
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้า (กรุณาเขียนตัวบรรจง)...............................................................................[/FONT][FONT=&quot]
    ร่วม บุญสร้างพระกริ่งพุทธภูมิถวาย (ราคาต้นทุนไม่รวมค่าขน
    ส่งการประสานงานจัดการ สมโภชบวงสรวง อธิษฐานจิตพุทธาภิเษก ฯลฯ)
    องค์ละ ๒๕ บาท จำนวน.....................................องค์คิดเป็น .............................
    ..............................บาท[/FONT]
    <o></o>
    [FONT=&quot]ร่วม บุญเป็นกรรมการโครงการ(ท่านละ๕๐๐บาทขึ้นไป )
    ......................ท่าน จำนวน.....................................................บาท[/FONT]
    <o></o>

    [FONT=&quot]ขอรับพระกริ่งพุทธภูมิกรรมการเป็นของขวัญจำนวน....................................องค์
    (ตามจำนวนกรรมการ)[/FONT]
    <o></o>
    [FONT=&quot]ร่วม บุญกุศลตามศรัทธา ...........................................บาท
    รวมยอดร่วมบุญกุศล .............................................................บาท[/FONT]
    <o></o>

    [FONT=&quot]ราย ชื่อผู้ร่วมบุญทั้งหมด จะได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชิ
    นีนาถนำขึ้นทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว เพื่อนำพระกริ่งพระ
    ราชทาน ให้ข้าราชการทหารตำรวจพลเรือนที่ปฏิบัติหน้าที่ ๔ จังหวัดภาคใต้
    อันจักได้เป็นสิริมงคลสืบไป<o></o>[/FONT]

    [FONT=&quot]ขออุทิศผลบุญกุศลสัมพันธ์นี้แด่สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผู้ร่วมบุญ
    สัมพันธชน สรรพชีวิต[/FONT]
    <o></o>[FONT=&quot]พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ[/FONT][FONT=&quot]ตาเรยยัง
    พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ[/FONT]
    <o></o>[FONT=&quot]เมื่อได้พุทธภูมิแล้วจักช่วยให้ผู้อื่น
    ได้ด้วย

    ที่มา
    http://palungjit.org/threads/%E0%...89.215299/
    :cool::cool::cool:[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2010
  3. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    (๑๑) อารมฺมณสงฺกนฺติโต เข้าฌานโดยเปลี่ยนอารมณ์กัมมัฏฐาน คือ เพ่ง ปฐวีกสิณเป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งอาโปกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งเตโชกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งวาโยกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งนีลกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งปีตกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งโลหิตกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    แล้วเปลี่ยนเป็นเพ่งโอทาตกสิณ เป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน เข้าปฐมฌาน<o></o>
    ฝึกจนเป็นวสี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2010
  4. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    (๑๒) องฺคารมฺมณสงฺกนฺติโต เข้าตามลำดับฌานและตามลำดับกสิณด้วยคือ<o></o>
    เพ่งปฐวีกสิณเข้า ปฐมฌาน<o></o>
    เพ่งอาโปกสิณเข้า ทุติยฌาน<o></o>
    เพ่งเตโชกสิณเข้าตติยฌาน<o></o>
    เพ่งวาโยกสิณเข้าจตุตถฌาน<o></o>
    เพ่งนีลกสิณเข้าปัญจมฌาน<o></o>
    เพ่ง ปีตกสิณ เพิกปีตกสิณ มีอากาสที่ว่างเปล่า ที่ชื่อว่า อากาสบัญญัติ เพ่งอากาสบัญญัตินี้จนเป็น อากาสานัญจายตนฌาน<o></o>
    เพ่ง โลหิตกสิณ เพิกโลหิตกสิณ มีอากาสที่ว่างเปล่า แต่ไม่สนใจในอากาสบัญญัตินี้ กลับไปสนใจในอากาสานัญจายตนฌานที่เกิดในสันดานของตน ด้วยการพิจารณาว่า วิญฺญาณํ อนนฺตํ จนเป็น วิญญาณัญจายตนฌาน

    <o></o>[​IMG]


    เพ่ง โอทาตกสิณ เพิกโอทาตกสิณ คงมีแต่อากาสบัญญัติ แต่ไม่สนใจในอากาสบัญญัติกลับไปสนใจในนัตถิภาวบัญญัติด้วยการพิจารณาว่า นตฺถิ กิญฺจิ จนเป็นอากิญจัญญายตนฌาน<o></o>
    เพ่ง อาโลกกสิณ เพิกอาโลกกสิณ คงมีแต่อากาสบัญญัติ แต่ไม่สนใจในอากาสบัญญัติ กลับไปสนใจในอากิญจัญญายตนฌานที่เกิดในสันดานของตน ด้วยการพิจารณาว่า เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ จนเป็น เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน<o></o>
    ฝึกอบรมจนเป็นวสี<o></o>
    หมายเหตุ มีข้อสังเกตที่ควรกล่าวตรงนี้ว่า ในการอบรมสมาธินี้ ตั้งแต่ข้อ ๑ ถึงข้อ ๑๑ ได้กล่าวถึงองค์กสิณแต่เพียง ๘ มี ปฐวีกสิณ อาโปกสิณ เตโชกสิณ วาโยกสิณ นีลกสิณ ปีตกสิณ โลหิตกสิณ โอทาตกสิณ ครั้นถึงข้อ ๑๒ นี้กล่าวเลยไปถึง อาโลกกสิณด้วย ทั้งนี้เพราะ<o></o>
    . กสิณทั้ง ๑๐ นั้น อาโลกกสิณนี้สงเคราะห์เข้าใน โอทาตกสิณอยู่แล้ว และอากาสกสิณก็ไม่สามารถที่จะช่วยอุดหนุนแก่การเข้าอรูปฌานได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องกล่าวถึงกสิณทั้ง ๒ คือ อากาสกสิณ และอาโลกกสิณนี้ด้วย<o></o>
    . ในข้อ ๑๒ นี้ แสดงรูปฌานโดยปัญจกนัย จึงมี ๕ ฌาน อรูปฌานอีก ๔ ฌาน รวมเป็น ๙ ฌานด้วยกัน กสิณเพียง ๘ จึงไม่พอ ก็ต้องยกอาโลกกสิณ มา กล่าวด้วย เพื่อให้มีจำนวนพอดีกัน แต่ถ้าจะแสดงรูปฌานโดยจตุกนัย ก็ไม่ต้องกล่าวถึงอาโลกกสิณด้วย<o></o>
    . แม้ว่าอากาสกสิณ ไม่สามารถที่จะอุดหนุนแก่การเข้าอรูปฌาน แต่ก็เป็นกัมมัฏฐานให้เกิดรูปฌานได้ทั้ง ๕ ฌาน และใช้เพ่งเพื่อประโยชน์ในอันที่จะเนรมิตอากาศให้เกิดขึ้นในแผ่นดิน หรือในน้ำ จนสามารถดำดินและอยู่ในน้ำได้
     
  5. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    กำหนดการ
    งานบุญมหามงคลอายุวัฑฒนกาล ๑๐๐ ปี ขององค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
    ณ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร วันที่ ๒๗ - ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

    วันเสาร์ วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ (ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีขาล) ลงทะเบียนพระภิกษุ สามเณร แม่ชี
    เวลา ๑๓.๓๙ น. ทำพิธีบวชเนกขัมมะชีพราหมณ์ โดยพระครูจันทรวิสุทธิ์ เจ้าคณะอำเภอเมือง-ดงหลวง(ธ)- สมาทานสิ้นเพลา ๑ วัน ๑
    คืน
    เวลา ๑๘.๐๐ น. รวมกันที่ศาลา
    เวลา ๑๘.๑๘ น. ผู้ว่าราชการจังหวัด นายบุญส่ง เตชะมณีสถิต ประธานในพิธีฝ่ายฆราวาสมาถึง ตัวแทนนำผู้ว่าราชการจังหวัด
    มุกดาหาร พร้อมคณะขึ้นไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ บนชั้นสองพระเจดีย์บู่ทอง กิตติ
    เวลา ๑๘.๓๐ น. ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเข้าสู่บริเวณศาลา
    เวลา ๑๘.๓๕ น. พิธีกรเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัยประกอบพิธีทางศาสนา อาราธนาศีล รับสรณะ
    และรับสมาทานศีล ประธานสงฆ์ให้สรณะให้ศีล อาราธนาพระปริตรมงคล เจริญพระพุทธมนต์
    เวลา ๑๙.๔๕ น. พระเถระแสดงธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารถวายไทยธรรม ถวายจตุปัจจัย ไทยธรรมแด่
    พระภิกษุ สามเณร แม่ชี พระภิกษุ สามเณร อนุโมทนาให้พร
    เวลา ๒๑.๑๕ น. แสดงพระธรรมเทศนา อบรมจิตภาวนา โดยพระเถระครูบาอาจารย์สายกรรมฐาน
    เวลา ๒๒.๔๕ น. แสดงพระธรรมเทศนา อบรมจิตภาวนาโดยพระเถระครูบาอาจารย์สายกรรมฐาน
    คณะกรรมการจัดเตรียมพื้นที่ในบริเวณงานสำหรับภาคเช้าของวันรุ่งขึ้น
    เวลา ๒๔.๐๔ น. พระภิกษุ สามเณร คณะคุณแม่ชี อุบาสก อุบาสิกาสวดสาธยายธรรมมหาสมัยสูตร พุทธชัยมงคล คาถาพาหุง มงคล
    จักรวาลชัยใหญ่ อิติปิโส ๑๐๘
    วันอาทิตย์ วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีขาล :วันมาฆบูชา)
    เวลา ๐๗.๐๐ น. พระภิกษุ สามเณร ออกรับบิณฑบาต ๒ สาย ในบริเวณงาน
    เวลา ๐๘.๓๐ น. - ถวายภัตตาหาร - ถวายจตุปัจจัยพระมหาเถระ(เป็นกรณีพิเศษ)
    - พระภิกษุ สามเณร อนุโมทนาให้พร - ญาติโยมสวดมนต์ทำวัตรเช้า
    - รับประทานอาหาร - เสร็จพิธี
    - เก็บวัสดุอุปกรณ์
    จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมงานบุญมหามงคลอายุวัฑฒนกาล ๑๐๐ ปี ขององค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ในครั้งนี้
    ตามวันเวลา และสถานที่ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
    หมายเหตุ: ๑. ญาติโยมควรนำเครื่องนอนมาเอง เช่น - เต็นท์ ถุงนอน
    ๒. ทุกท่านสามารถร่วมบุญบูชาองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ได้โดย
    ๒.๑ ธนาณัติหรือ Draft ในนามพระธมฺมธโร ครูบาแจ๋ว เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกวัฒนาราม บ.ห้วยทราย อ.คำชะอี
    จ.มุกดาหาร ๔๙๑๑๐
    ๒.๒ โอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขาคำชะอี เลขที่ ๔๓๖ - ๐ – ๑๔๙๙๐ – ๕

    ชื่อบัญชี พระอธิการจาม มหาปุญโญ
    ๒.๓ ร่วมบุญบริจาคโดยตรงที่วัด โดยใส่ลงในตู้บริจาคเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อจัดเตรียมงานสถานที่, หนังสือธรรมประวัติ
    ตลอดจนจตุปัจจัยไทยธรรมเพื่อถวายพระภิกษุสามเณรในงาน
    ๓. โปรดแจ้งความประสงค์ที่จะตั้งโรงทานล่วงหน้าที่เบอร์โทรข้อ ๔
    ๔. ขออนุโมทนาสาธุ ในกุศลเจตนาของทุกท่าน สอบถามรายละเอียดต่างๆได้ที่...ผอ.อุทิศ ผิวขำ (๐๘ – ๑๙๙๙ – ๔๗๑๓)
    คุณ มุก (๐๘ – ๙๗๑๓ - ๒๒๔๑)

    *** แจ้งข่าว ~งานบุญมหามงคลอายุวัฑฒนกาล ๑๐๐ ปี ขององค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ~*** - ลานธรรมเสวนา
     
  6. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  7. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    <embed src="http://www.rusiedotton.thai.net/player-viral.swf" height="360" width="450" allowfullscreen="true" flashvars="level=0&amp;repeat=always&amp;autostart=true&amp;dock=false&amp;bandwidth=2788&amp;file=FLV_video%2Fac01%2FEditing01_speak.flv&amp;plugins=viral-2d" allowscriptaccess="never" allownetworking="internal" />
     
  8. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  9. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  10. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  11. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  12. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    โครงการงานบูชาพระบูรพาจารย์
    ครบรอบ ชาตกาล ๑๔๐ ปี หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถร
    ณ วัดบ้านคำบง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี
    วันที่ ๑๖–๑๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๓
     
  13. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    " พรอันศักดิ์สิทธิ์ "

    ในตอนที่ย่าผมยังอยู่ ย่าจะอวยพรเสมอ ตั้งแต่อ้อนแต่ออก จนเติบใหญ่ เลยละครับ
    ว่า " ขอให้ได้ เป็นเจ้าคน นายคน นะลูกนะ "
    แล้วเมื่อผมโตขึ้น จนถึงปัจจุบันนี้ ผมก็ได้เป็น เจ้าคนนายคน จริงๆ ( เจ้านายของคนอื่นครับ เล็กๆ )

    คำอำนวรพร ทั้งหลาย ไม่มีที่ใดใดในโลก จะศักดิ์สิทธิ์ เท่ากับ คำพรจากบุพการี ของเราเอง
    ยกเว้นของ พระอริยบุคคล พระอรหันต์ นะครับ เพราะท่านเหล่านั้น ให้พรประกอบด้วยฌาณสมาบัติครับ

    บิดามารดา บุพการี ไม่ควร ด่าว่าสาปแช่งบุตร และลูกหลานข้าทาสบริวารต่างๆ
    เพราะถือเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ ส่งผลมากครับ ควรระวังในการใช้อารมณ์ ในการตำหนิ อบรมสั่งสอน
    พูดดี ก็ดีตามปาก พูดเสีย ก็เสียตามปากครับ
    ( อย่าด่าลูกว่า ไอ้นรกชิงมาเกิด นะครับ จะซวยตัวเองไปด้วย ๕๕๕ ผมล้อเล่นครับ )

    ------------------------------------------------------------

    " เจ้าคนนายคน "

    คำพรนี้ คนโบราณ ท่านมักจะให้กับลูกหลาน เพราะคติค่านิยม ของคนสมัยนั้น
    สมัยที่ยังมี ทาส อยู่อะนะครับ คนเป็นทาส นั้นลำบากยากแค้นเหลือ โอกาสจะลืมตาอ้าปากก็มีน้อย
    จะได้ขึ้นเป็นใหญ่เป็นโต ก็ทำได้ยาก เว้นเสียแต่ว่า ได้กระทำความดีความชอบ และผู้เป็นนายเมตตา ทูลขอพระราชทานแต่งตั้งให้
    ไม่เช่นนั้น ก็ต้องเป็นทาสเขา ไปจนตายครับ

    คนเป็นทาสเขา มีลูกมีหลาน ก็ต้องเป็นทาสเขา หามาได้เท่าไรก็เป็นของเขาหมด
    บนเรือนเขาจะอยู่กินอุดมสมบูรณ์กันเพียงใด ลูกทาสก็ได้แต่เกาะกะไดเรือน ชะเง้อคอมองเขากินครับ
    ถ้าเขาไม่หยิบไม่ยื่นมาให้ ก็ต้องอดต้องอยากไป ถ้าเขาเมตตา เขาก็โยนของเหลือ ของมีตำหนิ มาให้

    คนโบราญ จึงเฝ้าอำนวยพร ให้ลูกหลานตน ได้เป็นเจ้าเป็นนายคน ไม่ต้องไปเป็นข้าเป็นทาสใคร อย่างไรเล่าครับ

    ---------------------------------------------------------------
    เมื่อเป็นเจ้าคนนายคนแล้ว ต้องปฏิบัติตนให้ยิ่ง ด้วยศีลธรรม คุณธรรมครับ

    คนเป็นนาย ห้ามหน้าบึ้ง เพราะคนเป็นลูกจ้าง เขาจะกลัว เขาจะหวั่นใจ คิดมาก ระแวงระวังภัยครับ
    ห้ามทำหน้าเศร้า เพราะพวกเขาจะเป็นห่วง กังวล วิตกไปต่างๆนาๆ ได้
    คนเป็นนายคน ต้องรู้ว่า ความรู้สึกทุกๆอย่าง ต้องเก็บให้มิดชิด อย่าแสดงออกเรื่อยไป ไม่รู้เก็บรู้งำ

    ต้องรู้ว่า ถ้าเราทำท่าทุกข์ใจ ไพร่ข้า เขาก็จะทุกข์ตามไปด้วย ถ้าเราทำท่าเป็นสุขยิ้มแย้ม เขาก็มีสุขใจ ยิ้มแย้มตาม
    ถ้าเราทำท่ากริ้วโกรธขึงขังบึงตึง เขาก็ทุกข์ใจ หวาดกลัว ไม่รู้ว่าผลจากอารมณ์ของเรา จะก่อเภทภัยให้เขาเมื่อใดครับ

    คนเป็นนายคน โกรธไม่ได้ ทุกข์ไม่ได้ เศร้าไม่ได้ ป่วยไม่ได้ ตายไม่ได้ครับ
    ต้องสุขสบายดี ทุกๆเวลา ขวัญและกำลังใจ ของพวกเขาก็จะเต็มเปี่ยม ทำงานได้งานยอดเยี่ยมตามมา
    ( แต่ลับหลังพวกเขา จะตายเลยก็ได้ครับ แต่อย่าทำให้เขารู้ เท่านั้น ๕๕๕ )

    ต้องเปี่ยมไปด้วย ศีล ๕ ธรรม ๕ เป็นอย่างน้อย

    ----------------------------------------------------------------------
    ศีล ๕ ธรรม ๕ แบบพิษณุ ง่ายๆ อย่างชาวบ้านป่าเมืองเถื่อน นะครับ

    ถ้าคุณมีศีล ข้อ ๑ คุณก็มี เมตตามหานิยม อยู่ติดตัวด้วยครับ

    คุณไม่เบียดเบียนใคร ด้วยการฆ่า การทำร้ายร่างกายเขา
    คุณเจริญด้วย ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือ ด้วยความน้อบน้อม ไม่ถือมานะ เอาตนเป็นที่ตั้ง เป็นใหญ่
    เปี่ยมไปด้วย เมตตา เป็นที่ตั่ง

    คุณได้อานิสงฆ์ แห่งความมี เมตตามหานิยม ผู้คนรักใคร ไปมาที่ใด ไม่ต้องกลัว ภัยอันตรายๆใดใด จะเกิดกับตน
    แม้โจรต้องการฆ่า ก็มีคนอื่นมาช่วย แม้โจรร้ายก็ยังกลับใจไม่ฆ่าได้ ด้วยยิลยลถึงคุณงามความดี
    โรคภัยก็ไม่มาเบียดเบียนบีทา ครับ

    ถ้าคุณมีศีล ข้อ ๒ คุณก็มีโชคมีลาภ ด้วยเช่นกัน

    เมื่อคุณไม่ลัก ช่อโก่ง หยิบฉวย ซึ้งของอันเป็นของผู้อื่นเขา โดยที่เจ้าของเขาไม่อนุญาติ
    ไม่สร้างความทุกข์ให้เกิดแก่ผู้อื่น ไม่สร้างความทุกข์ให้เกิดแก่ตนเอง
    ( ลัก ขโมย ฉวย ปล่น มีแต่ทุกข์ครับ ต้องหลบหนีความผิด ทั้งทางกาย และทางใจ ต้องสร้างคำพูดอย่างระมัดระวังด้วย )

    มีธรรมด้วยการทำทานบริจาคต่างๆ ทั้งทางวัตถุ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ
    ทางวัตถุคือการทำทาน ตักบาร บริจาค ต่างๆ ทางการ คือการช่วยเหลือ อนุเคาระห์ต่อผู้อื่น
    ทางวาจา คือให้คำปรึกษา บอกธรรม พูดให้คนสบายใจ ทางใจ คือมีความกรุณา ต่อผู้อื่น

    อานิสงค์ ดังกล่าว จะทำให้คุณเป็น ที่รักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
    สมบัติที่คุณหามาได้ ด้วยความสุจริตนั้น ก็จะงอกงามเจริญขึ้น มีแต่คนนำสิ่งไร้ตำหนิมาให้
    แม้โจรผู้ร้าย ภัยธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม ก็ไม่เกิดขึ้นแก่คุณ
    ( แต่หากเกิดขึ้นจริงๆ ต้องเข้าใจด้วยว่า กรรมเก่าเรามี เราเคยสร้างไว้ เราจึงเป็นผู้รับผลนั้น )

    แต่ก็จะมีคน เขามาช่วยเหลือ อุปถัมป์ค้ำชู อยู่ดีครับ ถึงคราวอด ก็จะไม่อด ถึงคราวอยาก ก็จะไม่อยาก
    ไปที่ใด ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ครับ

    ถ้าคุณมีศีล ข้อ ๓ คุณก็จะมี มงคลชีวิต ติดตัว

    เมื่อคุณไม่เบียดเบียนผู้อื่น ด้วยการฉุดคร่า ล่อลวง กระทำชำเรา เอาของรักของผู้อื่นมาเป็นของตน
    ทำให้ผู้อื่นต้องพรัดพราก จากของอันเป็นที่รักของเขา เช่น ลูกเขา เมียเขา ผัวเขา ฯลฯ
    ( ข้อ ๒ ห้ามในวัตถุ ข้อ ๓ ห้ามในสัตว์ บุคคล ครับ )

    คุณรู้จัก สำรวมระวังในกาม กิเลสตัญหา ในความอยากได้ อยากครอบครอง ตลอดไปจน อยากเพราะกำหนัดความใคร่
    คุณก็ได้เจริญ ในธรรมอันเป็นมงคล คือการถือพรหมจรรย์ ในฝ่ายฆาราวาส ( ผัวเดียวเมียเดียว พอใจในสมบัติตน ละโลภในสมบัติของผู้อื่น )

    ความยุ่งยากในเรือนตน จะไม่เกิดขึ้นกับคุณครับ คนมีมากเมียมากผัวหลายชู้หลายคู่ครอง
    มีแต่ความทุกข์ ยุ่งยากใจ ทะเลาะเบาะแว้ง แก่งแย้งชิงดีชิงเด่นกันตลอดเวลา หาความสุขสงบไม่ได้

    ทั้งยังต้องพบเจอกรรมวิบาก มาพรากสิ่งที่คุณรัก ไปจากคุณอย่างสาสมเช่นกันครับ
    บางคนอ้าง เป็นชู้ทางใจ การกระทำ ยังไม่ได้ทำสักหน่อย
    ตัวมีผัวอยู่แล้ว ก็อยากจะได้ผัวของคนอื่นเขา แค่คิดก็ได้ทุกข์แล้วละครับ

    เพราะว่าอะไร ? เพราะเกิดอยากได้ ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน เฝ้าเพ้อรำพัน คิดถึง ไฟกิเลสสุมอยู่
    เพราะเกิดไม่อยากได้ ไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ เฝ้าคิดรำคาญ หงุดหงิดใจ หม่นหมอง กระทำเย็นชา ต่อคนที่ตนมี
    ผลก็ทำให้ คนที่ตนมีน้อยใจ เสียใจ สุดท้ายเขาก็จะจากไป หรือกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อแก้แค้นคืน เป็นทุกข์ครับ

    สำหรับคนที่เสียของรักไป ผมเคยบอกกับพี่คนหนึ่งว่า อย่าไปคิดว่า เขาก็รู้ว่าผัวเรา เขายังมาแย้งเอาไปอีก
    แต่ให้คิดว่า เราสร้างบุญกับผัวมา ๑๐ ชาติ เขาสร้างมา ชาติ ๑ ในตอนที่เราไปเกิดเป็นนางฟ้าอยู่ เขากับผัวเรานั้น เคยร่วมบุญกันมา

    เมื่อเขาจากเราไป เขาก็ต้องไปชดใช้กรรมทั้งดีและร้าย ต่อกันและกัน จะทุกข์กว่า หรือสุขกว่า ที่อยู่กับเรา ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
    ที่เขาไปจากเรา ไปอยู่ร่วมกับคนอื่น ก็เพราะเขากับเรา ต่างหมดวาระกรรมต่อกัน และเริ่มวาระกรรมกับผู้อื่น ไม่ใช่ใครมาแย่งใครไป

    ดูอย่างเพื่อนเรา วันหนึ่งสมมุติ ว่าเรียนด้วยกันมา เป็นซี้ข้า ว่างั้น
    เรียนจบมันก็ไป เพราะหมดวาระต่อกันแล้ว ไปมีเพื่อนใหม่ วาระใหม่
    วันหนึ่งข้างหน้า ยังมีวาระกรรมหลงเหลือให้ต้องมาเจอกันอีก เพื่อนคนนั้นก็อาจกลับมา
    แถมเอาคนอื่นที่มีวาระกรรมร่วมมาด้วย เช่นมาพร้อม เมีย และ ลูก อย่างนี้ เป็นต้น

    ถ้าคุณมีศีล ข้อ ๔ คุณก็จะมีเกรียติ์ ให้ผู้คนเคารพ ยำเกรง เชื่อถือ ด้วยครับ

    เพราะเมื่อคุณละจาก การพูดปด พูดส่อเสียด ( แซว แดกดัน เหน็บ ) พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ( คุยเล่น ร้องเพลง เอาสนุกเยๆ )
    คุณก็จะมีธรรม ในการพูดแต่ความจริง รักษาคำสัจวาจา พูดแต่คำไพเราะ
    น่าฟัง มีวาทะจับใจ มีหลักมีการ ไม่ทำให้ใคร ต้องเจ็บซ้ำน้ำใจ ด้วยคำพูด

    ก็จะมีแต่คนรักใคร ยกย่อง เชื่อถือ เป็นที่เคารพยำเกรง ของคนอื่นๆ
    ทุกๆคำพูด คำสั่ง มีความหมาย มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะเขาจะรู้ว่า
    คุณไม่พูดปด จึงไต่ถามเอาความจริงได้ พูดจาต้องเชื่อต้องฟัง

    คุณไม่พูดส่อเสียด ว่าร้ายใคร ใครว่าร้ายใส่ร้ายมา เขาก็รู้ว่า คุณไม่ใช่คนอย่างนั้น
    ทั้งยังไม่มีคนเคื่องใจในคุณ เภทภัยจากคำพูด ก็ไม่ไหลมาเข้าตัวครับ

    คุณไม่พูดคำหยาบ คนก็ไม่กล้าพูด หยาบๆโลนๆ กับคุณ เช่นกันครับ
    คุณไมใพดเพ้อเจ้อ พกลม คนก็ให้ความนับถือ ยกย่อง สรรเสริญคุณ ว่าเป็นคนพูดจามีประโยชน์ มีหลักมีการ น่าเชื่อถือได้

    ถ้าคุณมีศีล ข้อ ๕ คุณก็จะมีสติ สัมปัชชัญญะ มีความระลึกได้ น่าไว้ใจ น่าเชื่อถือ ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
    ชีวิตเจริญงอกงาม ไม่ล่มจม

    เมื่อคุณ ไม่เป็นนักเลงเหล้า นักเลงพนัน นักเลงผู้หญิง มงคลและความเจริญสถาพร ย่อมเกิดแก่คุณแล้ว

    เพราะคุณไม่เมามาย ไร้สติ อย่างคนบ้าคนบอ ไม่และแทะ คนย่อมนับถือในตัวคุณ และไม่เป็นโรคสมอง และอุบัติเหตุต่างๆ

    เพราะคุณไม่เล่น ไม่หมดทรัพย์ไปด้วยการพนัน คุณก็จะเป็นคนมั่งมี ไม่หลงกลคนพาล อันเกิดแต่การปองทรัพย์

    คุณไม่มัวเมาในอิสตรี ( สมัยนี้เมาผู้ชายด้วย ) คุณก็ไม่หมดเปลือง ทั้งกาย ใจ และครอบครับ

    คนไม่เล่น ไม่กิน ไม่เที่ยวผู้หญิง มีแต่คนยกย่องสรรเสริญครับ

    ( ผมเห็นคนปัจจุบัน วิ่งโร่เข้าหา ของดีของดัง เพียงเพื่อหวัง
    ในความมีเมตตามหานิยม ผู้คนรักใคร ค้าขายร่ำรวย มีโชคมีลาภ

    แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่า พวกเขาล้วนมีเสน่ห์เมตตามหานิยม อำนาจวาสนา
    อยู่กับตัว เป็นสมบัติของตัวเองอยู่แล้วแท้ๆ
    แต่ไม่รู้วิธี ขุดค้นนำเอาออกมาใช้ น่าสงสารจริงๆครับ นี่เรียกว่า คนหลงครับ )

    ---------------------------------------------------------------------
    เมื่อเป๋นนายคน หากคุณไม่ถือศีล ๕ ข้อนี้ บริวารของคุณ ย่อมไม่เคารพยำเกรง
    สั่งสอนอบรมสิ่งใด เขาย่อมย้อนคืนคุณได้ ขาดความเชื่อถือ มีแต่ซุบซิบติฉินนินทา
    สั่งงานก็ไม่ได้งานดี เพราะเขาทำเพื่อเงินของคุณ ไม่ได้ทำเพื่อคุณครับ

    คนเป็นเจ้าคนนายคน ต้องครองใจคนได้ จึงจะได้ชื่อว่า คนจริง

    -------------------------------------------------------------------
    " ศาลพระภูมิ "

    ผมกล่าวเรื่องนี้ เพราะจะเข้าเรื่อง " เจ้ากรุงพาลี "
    ผู้เป็นเจ้าของมวลหมูชน แต่ไม่ตั้งอยู่ในศีล ในธรรม เห็นแก่ เครื่องเซ่นไหว้ สังเวย
    ลาภ ยศ สรรเสริญ จนสิ้นแผ่นดินจะอยู่ อาศัย

    ต้องมากลายเป็น พระภูมิเจ้าที่ ที่ต้องอาศัยอยู่ ในบ้านที่มีเสาเพียงต้นเดียวเท่านั้น
    เหตุเพราะความโลภนั้น นั้นเอง ..................

    และมีข้อแม้ สัญญาต่างๆ ที่จะต้องชดใช้กรรมวิบาก ให้กับเหล่ามนุษย์ ที่ตนได้เคยเบียดเบียนเอาไว้ด้วยครับ
    พระภูมิ จึงเป็น เทวดา ที่ให้ทั้ง คุณ และ โทษ ครับ.......

    ที่มา
    http://palungjit.org/threads/รวมพลเ...าราชจอมราชันย์-แห่งสยามประเทศ.205692/page-148
     
  14. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ขอเชิญร่วมพิธีทองหล่อ หลวงพ่อพระพุทธองค์ดำ

    งานมุฑิตาสักการะหลวงพ่อ ไม อินทสิริ เนื่องในโอกาสทำบุญอายุครบ62ปี และทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี ในวันที่23-24 มกราคม 2553
    ณ วัดป่าเขาภูหลวง ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
     
  15. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี

    พื่อสร้างพระเจดีย์ ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุและอัฐิ หลวงปู่ต้น สุทธิกาโม
    วันเสาร์ที่27กุมภาพันธ์ 2553 เวลา10.00น.
    ณ วัดบึงพลาราม อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย


    ประธานในการสร้างพระเจดีย์ หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

    เจ้าภาพผ้าป่าสามัคคี คุณกุศลมงคล สุวรรณกูฏ


    หลวงปู่ต้น สุทธิกาโม ท่านเป็นพระอริยเจ้า ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามปฏิปทาของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ท่านละธาตุขันธ์ เมื่อวันที่3 มกราคม 2551

    ปัจจุบัน พระสุพจน์ พุทธธัมโม ท่านเป็นพระดูแลวัด ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ต้น ท่านมีเจตนาสร้างพระเจดีย์เพื่อ บูชาพระบรมสารีริกธาตุ และคณความดีของหลวงปู่ต้น โดยยึดหลักการสร้างที่เรียบง่าย ตามการปฏิบัติของหลวงปู่

    ขอเชิญท่านที่มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาล ให้ทุกท่านประสบความสุข ความเจริญ ในทางโลก และทางธรรม ได้เข้าสู่พระนิพพานกันทุกท่านโดยดีงามเทอญ

    ท่านสามารถร่วมทำบุญได้โดยทำบุญเข้า
    บัญชี พระสุพจน์ พุทธ ธัมโม ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาท่าบ่อ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 401-409250-6 และสอบถามรายละเอียดได้ที่ พระสุพจน์ 083-6679990


    อานิสงส์การสร้างพระธาตุเจดีย์ และการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ จะเป็นที่รักของภรรยาหรือสามี เป็นเศรษฐีทุกชาติไป ภยันตรายใดๆ ไม่แผ้วพาน มียศบริวารพร้อมพัก เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้นำของปวงชน กุศลดลให้เกิดเป็นพระราชา จะบรรลุอภิญญาทั้งหก ประตูสวรรค์ทุกชั้นเปิด บังเกิดเป็นจอมเทวดา (สรุปจากคัมภีร์ขุททกนิกาย อปทาน และคัมภีร์มังคลัตถทีปนี เล่ม1)
     
  16. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  17. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    กำหนดการออกเมรุพระราชทานเพลิงศพพระพุทธพจนวราภรณ์

    [​IMG]

    งานพระราชทานเพลิงศพ พระเดชพระคุณพระพุทธพจนวราภรณ์ วัดเจดีย์หลวงฯ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชุมารี เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ พระเดชพระคุณพระพุทธพจนวราภรณ์ (หลวงปู่จันทร์ กุสลมหาเถร) ณ เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 17.00 น. บำเพ็ญกุศลออกเมรุวันที่ 5-17 มกราคม พ.ศ.2553

    กำหนดการงานออกเมรุพระราชทานเพลิงศพ "พระเดชพระคุณพระพุทธพจนวราภรณ์ (หลวงปู่จันทร์ กุสสโล)" อดีตเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงฯ วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553 ณ เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ วัดเจดีย์หลวงฯ ต.พระสิงห์ อ.เมืองจ.เชียงใหม่

    วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553
    07.00 น. ทำบุญตักบาตรถวายพระสงฆ์ 91 รูป
    10.00 น.พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์
    11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณร ประมาณ 300 รูป
    19.00 น. พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ และพระสงฆ์ 4 รูป สวดพระอภิธรรม

    วันที่ 6-14 มกราคม พ.ศ. 2553
    07.00 น. ทำบุญตักบาตรถวายพระสงฆ์ 91 รูป
    11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณร ประมาณ 300 รูป
    19.00 น. พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ และพระสงฆ์ 4 รูป สวดพระอภิธรรม (เปิดโอกาสให้กราบศพ และบำเพ็ญกุศลถวายหลวงปู่ตลอดทั้งวัน)

    ศุกร์ที่ 15 มกราคม 2553
    07.00 น. ทำบุญตักบาตรถวายพระสงฆ์ 91 รูป
    10.00 น. พระสงฆ์ 91 รูป สวดธรรมนิยาม
    11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณรประมาณ 300 รูป
    13.00 น. พิธีขอขมาสรีระสังขารหลวงปู่ และอาราธนาสรีระสังขารลงจากพระวิหารหลวง ตั้งขบวนอาราธนา อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ เมรุปราสาทพญานกหัสดิลิงค์
    19.00 น. พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระสงฆ์ 4 รูป สวดพระอภิธรรม

    เสาร์ที่ 16 มกราคม 2553
    07.00 น. ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 91 รูป
    10.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดอนัตลักขณสูตร
    11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณร ประมาณ 300 รูป
    19.00 น. พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระสงฆ์ 4 รูป สวดพระอภิธรรม

    อาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2553
    07.00 น. ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 91 รูป
    10.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดอาทิตตปริยยายสูตร
    11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณร ประมาณ 300 รูป
    16.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ (ในพระบรมราชานุเคราะห์)
    17.00 น. พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระสงฆ์ 4 รูป สวดคาถาธรรมบรรยาย
    18.00 น. พระสงฆ์ 91 รูป สวดมาติกาบังสุกุล

    จันทร์ที่ 18 มกราคม 2553
    07.00 น. ทำบุญตักบาตรถวายพระสงฆ์ 91 รูป
    10.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน (ในพระบรมราชานุเคราะห์)
    11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณรประมาณ 1,500 บาท
    13.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป รับบังสุกุล (ในพระบรมราชานุเคราะห์)
    14.00 น. พระสงฆ์ 91 รูป ขึ้นพิจารณาผ้าไตรบังสุกุลบนเมรุ (ในพระบรมราชานุเคราะห์)
    17.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชทานเพลิงศพ
    19.00 น. ทำพิธีถวายเพลิง (เผาจริง) ตามโบราณล้านนาประเพณี อบรมจิตตภาวนา ปฏิบัติกรรมฐาน ฟังพระธรรมเทศนาจากครูบาอาจารย์สายกรรมฐานตลอดทั้งคืน อาทิ พระญาณวิศิษฐ์ วัดอโศการาม สมุทรปราการ พระครูวิบูลย์ธรรมกิจ (หลวงพ่อบัวเกตุ) วัดแม่ปาง จ.แม่ฮ่องสอน พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (หลวงปู่ท่อน) วัดศรีอภัยวัน จ.เลย

    อังคารที่ 19 มกราคม 2553
    07.00 น. พระสงฆ์ 3 รูป บังสุกุล รับพระราชทานภัตตาหาร 3 หาบ ในการเก็บอัฐิ
    09.00 น. อัญเชิญอัฐิประดิษฐานบนพระวิหารหลวง
    10.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ฉลองอัฐิ
    11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณรประมาณ 300 รูป เสร็จพิธี

    จึงขอประทานกราบทูล ทูล กราบเรียน เรียน เจริญพร มาเพื่อทราบ

    รูปปราสาทนกหัสดีลิงค์ประดิษฐานสรีระสังขารของหลวงปู่ครับ สวยงามมากครับ

    <!--cached-Wed, 16 Dec 2009 16:07:36 +0000-->***************~~~~~*************
    น สาธุ พลวา พาโล ยูถสฺส ปริหารโก
    ผู้บริหารหมู่คณะ ถึงจะมีกำลังอำนาจ แต่เป็นคนพาลย่อมไม่ดี
    ธีโร จ พลวา สาธุ ยูถสฺส ปริหารโก
    ผู้บริหารหมู่ชน เป็นปราชญ์ และมีกำลังเข้มแข็ง จึงจะเป็นผลดี
    (อมฤตพจนา หน้า ๑๕๓)

    กำหนดการออกเมรุพระราชทานเพลิงศพพระพุทธพจนวราภรณ์ - ลานธรรมเสวนา
     
  18. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    วันนี้กระผมเพิ่งได้ไปร่วมงานพระเดชพระคุณหลวงปู่จันทร์ กุสโลมา เมื่อเช้านี้ เอารูปมาฝากครับ
    (อนึ่ง เมื่อครั้งที่หลวงปู่ละสังขารใหม่ๆ ผมเคยโพสรูปภาพงานบำเพ็ญกุศลถวายหลวงปู่ไว้ที่กระทู้ "ท่านเจ้าประคุณ พระพุทธพจนวราภรณ์ ละสังขารแล้วด้วยโรคชรา 18:33 น. วันที่ 11/7/2551 " ที่ตั้งโดยคุณภพกฤต ณ ลานธรรมแห่งนี้ _ อ้างอิงไว้เผื่อท่านใดอยากไปดูรูปเก่าๆ ครับ)
    http://larndham.org/...B2/page__st__99


    เปลี่ยนขนาดเป็น 78% (was 900 x 675) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด[​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพประสาทนกหัสดีลิงค์ ในมุมต่างๆ ของเช้าวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ.2553 ก่อนงานพระราชทานเพลิงศพ 1 วัน


    เกี่ยวกับประวัติของนกหัสดีลิงค์ มีเรื่องราวมากมาย เช่น ตัวอย่างในเว็บ มรดกล้านนา - สืบสานภูมิล้านนา ร่วมพัฒนาสู่สากลโลก เขียนโดย จรีย์ สุนทรสิงห์ กรรมการบริหารสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ดังนี้

    นกหัสดีลิงค์

    หิมพานต์ เป็นชื่อป่าหนาวรอบบริเวณภูเขาใหญ่ที่อยู่ทางทิศเหนือของประเทศอินเดีย บัดนี้เรียกภูเขาหิมาลัย อยู่ในอาณาเขตประเทศเนปาล เรียก หิมวันต์ หิมวา ก็มี
    สัตว์หิมพานต์ หมายถึงบรรดาสัตว์ทั้งหลายที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆ ภูเขาหิมาลัย อันมีภูมิประเทศหนาวเย็น ปกคลุมด้วยหิมะ สัตว์หิมพานต์ที่จะกล่าวถึงในที่นี้เป็นสัตว์ในนิยาย เป็นสัตว์ในจินตนาการที่ปรากฏในตำนานหรือชาดกต่างๆ ซึ่งไม่มีใครเคยเห็นตัวจริงว่ามีลักษณะรูปร่างเป็นอย่างไร ตัวเล็ก ตัวโต ขนาดใด เพียงแต่เล่าสืบต่อกันมา สัตว์หิมพานต์ ที่มีหัวเป็นช้าง มีงวง มีงา มีหลายชนิดได้แก่ กรินทร์ปักษา, คชสีห์, คชปักษา, สินธพกุญชร, และหัสดีลิงค์ คุณทิว วิชัยขัทคะ นำข้อความในสารสมเด็จ ฉบับวันที่ 10 ธันวาคม 2483 ที่กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์ทูลสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริสรานิวัติวงศ์ ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ ฉบับประจำวันที่ 30 พฤษภาคม 2531 ว่า
    ก. คำที่เรียกว่าสัตว์หิมพานต์ หมายความว่า สัตว์อย่างนั้นมีแต่ในป่าหิมพานต์ อันมนุษย์สามัญไม่สามารถจะเห็นตัวจริงได้ เพราะฉะนั้น สัตว์จตุบาทอย่างใดที่เห็นกันดาษดื่น ดังเช่น เสือ ช้าง ม้า วัว ควาย เป็นต้นก็ดี หรือสัตว์ทวิบาท ดังเช่น แร้ง เหยี่ยว และ เป็ด ไก่ เป็นต้น ก็ดี จึงไม่นับเป็นสัตว์หิมพานต์
    ข. เฉพาะสัตว์หิมพานต์ เป็นของที่ไม่เคยเห็นตัวจริง ช่างจะเขียนหรือปั้นรูป จึงอาศัยจินตนาการเอาความที่บ่งไว้ในชื่อเรียก หรือพรรณนาอาการและลักษณะไว้ตามคำโบราณมาคิดประดิษฐ์ รูปสัตว์หิมพานต์ขึ้นด้วยปัญญาของตนเอง
    ค. เมื่อช่างผู้เป็นต้นคิด ได้ทำรูปสัตว์หิมพานต์อย่างใดให้ปรากฏขึ้นแล้ว ช่างภายหลังก็ทำรูปสัตว์หิมพานต์อย่างนั้น ตามที่ปรากฏคือเป็นแบบต่อมา แม้จะแก้ไข ดูก็เป็นแต่ในทางประดับ เช่น กระหนกเป็นต้น
    ในมหาเวสสันดรชาดก กล่าวถึงบรรดาสัตว์ทั้งหลาย ทั้งสัตว์ไม่มีเท้า สัตว์สองเท้า และสัตว์สี่เท้าในหิมพานต์ไว้มากมาย สำหรับสัตว์ประเภทนก ท่านเจ้าคุณพระธรรมปริยัติโสภณ (วรวิทย์ คงฺคปญฺโญ) เจ้าคณะภาค 10 วัดโมลีโลกยาราม กทม. ได้พรรณนาถึงนกในป่าหิมพานต์ 4 จำพวก ได้แก่ ชีวปุตตา มีหงส์เป็นหัวหน้า, ชีวปุตตาปิยาจโน มีนกยูงเป็นหัวหน้า, ปิยาปุตตาปิยานันทา มีนกการเวก เป็นหัวหน้า และนันทิกา มีนกหัสดีลิงค์ เป็นหัวหน้า


    นันทิกา หัสดีลิงค์นกยิ่งใหญ่
    ประธานไซร้ในกลุ่มชอุ่มศรี
    มีนกอื่นร่วมมากงามตามคดี
    ย่อมร้องชี้ชวนพระเวสส์วิเศษใด

    แสดงว่านกหัสดีลิงค์ มีกำลังอำนาจ มีความสามารถ จึงได้เป็นหัวหน้าของกลุ่มนันทิกา ปกครองนกชนิดอื่นๆ ในกลุ่มของตนเองได้
    นกหัสดีลิงค์ หรือนกหัสดิน หรือนกหัสดินทร์ คำศัพท์ภาษาบาลีว่า หตฺถิลิงฺคสกุโณ หมายถึง นกมีเพศเหมือนช้าง แต่ชาวล้านนาเรียกสั้นๆ ว่า นกหัต เป็นสัตว์หิมพานต์ชนิดหนึ่ง ว่ามีขนาดใหญ่มาก มีกำลังมหาศาล เทียบเท่าช้างสาร 5 ตัว ลำตัวเป็นนก มีปีก มีหาง อย่างนก แต่หัวเหมือนช้าง มีงวง มีงา เรื่องราวของนกหัสดีลิงค์ไม่มีปรากฏเด่นชัดในเฉพาะเรื่อง พอจะประมวลได้จากตำราสัตว์ป่าหิมพานต์บ้าง นิทานชาดกบ้าง โดยเฉพาะในมหาเวสสันดรชาดก ได้กล่าวถึงลักษณะเด่นของนกหัสดีลิงค์ไว้มาก อาทิ
    ……….(มหาเวสสันดรชาดก) ของนครเชียงตุง กัณฑ์มหาพน พรรณนาถึงนกว่า………………………………………(“….นกไฟขาวสะอาด หมู่นกชาติตัวดี นกกินปีบินเป็นหมู่ หัสดีลิงค์อยู่เงยงา ตระเหว่าดาช่างร้อง เป็ดน้ำก้องลอยวัง….”)
    มหาชาติภาคพายัพ ฉบับสร้อยสังกร ของพระธรรมราชานุวัตร (ฟู อตฺตสิโว) อดีตเจ้าคณะตรวจการภาค 5 วัดพระสิงห์ฯ เชียงใหม่ กัณฑ์มัทรี ตอนพระนางมัทรีไปหาผลไม้ในป่า กลับมาถึงอาศรม ไม่พบลูกรักทั้งสอง กระวนกระวายดั้นด้นค้นหาด้วยความสงสัยว่า “………………………………………………..”…รือว่าเสือหมีและชักแค่เดินดงแต่ไพรสณฑ์ บ่พบลูกสองคนติ้วกว่า นกหัสดีลิงค์ล่าบินบน บินเหินหนอากาศ ซูดทึ้งยาดเอาไป ตกแดนไกลบ้านบ่หันซาก ละแม่ไว้ทุกข์ยากภายหลัง…” แสดงว่านกหัสดีลิงค์ ตัวโตมาก พระนางมัทรีจึงคิดว่า ลูกรักคือชาลีและกัณหา ถูกนกหัสดีลิงค์จับไปกินพร้อมกันทั้งสองคน
    ลำพระเวสเทศน์มหาชาติ (มหาเวสสันดรชาดก ของภาคอีสาน) กัณฑ์มหาพน กล่าวถึงนกหัสดีลิงค์อีกเช่นกันว่า “…นกเหลืองอ่อนเข้าหมิ้น ฮ้องฮว่ายหลิ้นชมคอน เป้าไฟนอนแกมกิ่ง หัสดีลิงค์เงยงาอยอก กะออกขาวนอนเนืองเหล่า นกเจ่าลั้งเลียบงองปลา สพฺพ สกุณา นกทั้งปวงฝูงนั้น ฮ้องมีเสียงอันม่วนเพราะ…”
    ที่กล่าวมา ท่านผู้อ่านคงจะจินตนาการได้ว่า นกหัสดีลิงค์เป็นนกใหญ่โต สามารถกินคนโดยโฉบเอาคนไปกินทีละหลายคน แม้กระทั้งช้างก็ยังสามารถโฉบเอาไปกินได้เช่นกัน

    [​IMG]

    นกหัสดีลิงค์กับประเพณีงานศพ

    การนำเอานกหัสดีลิงค์มาประกอบปราสาทศพ มิใช่มีเฉพาะในล้านนา ชาวอีสานในสมัยโบราณ นิยมทำนกหัสดีลิงค์ประกอบศพพระเถระผู้ใหญ่ เจ้านายผู้ใหญ่ หรือศพผู้มีวาสนาบารมีสูงยิ่ง มีข้อควรสงสัยว่า ธรรมเนียมการทำศพรูปนกหัสดีลิงค์ เอาแบบอย่างมาจากที่ใด ก็ได้ความจากนักปราชญ์ 2 ท่าน คือ เมื่อพ.ศ. 2482 พระยาอนุมานราชธน (ยง เสถียรโกเศศ) เคยทำหนังสือถวาย กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ความว่า “ชาวเชียงใหม่ ทำศพโดยทำรูปนกหัสดีลิงค์ น่าจะเอาอย่างมาจากอุตตรกุรุ (คืออินเดีย)” กรมพระยานริศฯ ประทานคำตอบว่า “ประเพณีจากอินเดียมาสู่เขมร จากเขมรเข้ามาไทยภาคอีสาน แล้วทางพายัพจึงเอาอย่างมาจากอีสาน”

    นกหัสดีลิงค์ประกอบปราสาทศพในล้านนามีมาแต่เมื่อใด?

    ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.มณี พยอมยงค์ ศิลปินแห่งชาติ ได้กล่าวถึงพญามังราย ทำปราสาทศพพญาลาวเม็ง ผู้เป็นพระราชบิดา (พ.ศ.1802) ในหนังสือคร่าวร่ำ 700 ปี เมืองเชียงใหม่ว่า
    ยอดปราสาทแหลม ซอนแซมเลิศหล้า ปลอมเมฆฝ้าภายบน
    ผ้ายวงยาบย้อย รอบนิเวศน ผ้าแฮ (แร) จน น้ำทองผ่องแผ้ว
    เสาขอมไข ล้วนใส่แว่นแก้ว สีแวววรรณหยวาดยวะ
    ดั่งเวไชยยนต์ แห่งตนมาฆะ อธิราชเจ้าองค์อินทร์
    ภายลุ่มน้ำ แปงรูปลายศิลป์ นกหัสดินทร์ ปกงวงอาจอ้า
    พริบพับตา ปกหางหวาดหว้า ปูนทัศนาใช่น้อย
    ปราสาทบรม สมบูรณ์เรียบร้อย
    พระยอดสร้อยมังราย
    ยกหีบศพ ลาวเม็งบุญผาย ขึ้นใส่หว่างราย เสาขอมเขตขั้น…
    ยังมีหลักฐานที่ปรากฏในพงศาวดารโยนก ของพระยาประชากิจกรจักรว่า “ลุศักราช 940 (พ.ศ.2121) ปีขาล สัมฤทธิศก เดือนอ้าย ขึ้น 12 ค่ำ นางพระยาวิสุทธิราชเทวี ผู้ครองนครพิงค์เชียงใหม่ ถึงพิราลัย พระยาแสนหลวงแต่งการศพเป็นพิมานบุษบก ตั้งบนหลังนกหัสดินทร์ (นกหัสดีลิงค์) ขนาดใหญ่ รองด้วยเลื่อนแม่สะดึง เชิญหีบพระศพขึ้นไว้ในบุษบกนั้น แล้วฉุดชักไปด้วยแรงคชสาร เจาะกำแพงเมืองออกไปถึงทุ่งวัดโลก ก็กระทำฌาปนกิจถวายเพลิง ณ ที่นั้น เผาพร้อมทั้งรูปสัตว์และวิมานที่ทรงศพนั้นด้วย จึงเป็นธรรมเนียมลาวในการปลงศพ เจ้าผู้ครองนคร ทำเช่นนี้สืบกันมา
    นอกจากนี้ ในตำนานพื้นเมืองเชียงแสน ซึ่งอยู่ในตำนานสิงหนวติ ประชุมพงศาวดารภาคที่ 61 ได้กล่าวถึงการส่งสักการศพของพระสงฆ์เถระผู้ใหญ่ และเจ้านายดังนี้
    1. ศักราชได้ 1045 ตัว (พ.ศ.2226) ราชครูเจ้าหลวงอนิจกรรมไปแล้ว ใส่ปราสาทต่างลูกนกหัสดีลิงค์ ส่งสักการด้วยเรือพ่วงกลางน้ำแม่ของ
    2. ศักราชได้ 1050 ตัว (พ.ศ.2231) มหาป่าเจ้าวัดศรีไชยตนหลวง อนิจกรรมไปแล้วใส่ปราสาทต่างลูกนกหัสดีลิงค์ ส่งสักการด้วยพ่วงแพ
    3. ศักราชได้ 1079 ตัว (พ.ศ.2239) สมเด็จมหาปาลเจ้า วัดเชตวันถึงอนิจกรรมไปแล้ว ใส่ปราสาทต่างลูกช้างเอราวัณ ส่งสังการด้วยเรือพ่วงกลางแม่น้ำของ
    4.ศักราชได้ 1079 ตัว (พ.ศ.2260) ปีเมิงเล้า เดือน 4 มหาป่าวัดศรีดอนไชยต้นน้อย อนิจกรรมไป ใส่ปราสาทต่างลูกนกหัสดีลิงค์ ส่งสักการแล
    5.ศักราชได้ 1086 ตัว (พ.ศ.2267) มหาสังฆราชเจ้า วัดป่าแดงหลวงตนใหญ่ อนิจกรรมไปแล้ว สร้างปราสาทลูกช้างเอราวัณ ส่งสักการ
    6.ศักราชได้ 1090 ตัว (พ.ศ.2271) ปีเปิกสัน เจ้าฟ้ายอดคำเมือง กินเมืองได้ 4 ปี อายุ 25 ก็จุติไปแล้วสร้างปราสาทใส่ รูปนกหัสดีลิงค์ แล้วส่งสักการเสีย
    (หมายเหตุ : ลูกช้างเอราวัณ คงจะเป็น ลูกนกหัสดีลิงค์นั่นแหละ…ผู้เขียน)
    ในปัจจุบัน การทำปราสาทศพนกหัสดีลิงค์มีเฉพาะพระสงฆ์ มหาเถระผู้ทรงสมณศักดิ์ และสูงด้วยวัยวุฒิเท่านั้น สำหรับฆราวาสไม่เคยเห็นมีปรากฏ ดังเช่นงานศพพลตรีเจ้าราชบุตร (วงษ์ตะวัน ณ เชียงใหม่) เจ้านายฝ่ายเหนือชั้นสูงของเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2516 ก็ไม่มีนกหัสดีลิงค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโกศศพ เชิญขึ้นประดิษฐานบนราชรถ เคลื่อนขบวนจากคุ้มวงษ์ตะวัน (ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ตรงข้ามสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่) ไปสู่เมรุชั่วคราววัดสวนดอก
    ประเพณีงานศพของประชาชนทั่วไปในปัจจุบัน ไม่มีนกหัสดีลิงค์มาเกี่ยวข้อง มีเพียงแต่การวางหีบศพไว้บนปราสาทที่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม ลากจูงไปกระทำฌาปนกิจ ณ ฌาปนสถาน

    ปราสาทนกหัสดีลิงค์

    ความเชื่อถือของคนล้านนาในพิธีศพพระเถระ
    วัฒนธรรมของคนล้านนาเกี่ยวกับพิธีศพนั้น เป็นความเชื่อที่ฝังรากลึกในวิถีชีวิตของคนเมืองมานานนับหลายร้อยปี เมื่อมีคนตายจะต้องจัดงานศพขึ้นเพื่อเป็นการไว้อาลัย แก่คนตายอย่างสมเกียรติ พิธีศพของคนล้านนาจะแตกต่างจากภาคอื่น คือการจัดแต่งปราสาทศพ ประดับประดาด้วยดอกไม้สดหรือแห้ง หลอดไฟระยิบระยับให้ดูแลสวยงาม สำหรับนัยว่าเพื่อเป็นการยกย่องผู้ตายให้ขึ้นไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้า
    พิธีศพของพระเถระผู้สูงด้วยวัยวุฒิและทรงสมณศักดิ์ จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ปราสาทใส่ศพของพระเถระชาวล้านนาจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้ปราสาทศพของบรรดาเจ้านาย ฝ่ายเหนือ ตามคติความเชื่อโบราณของคนล้านนา พระเถระและเจ้านายได้รับการยกย่องในสังคมว่าเป็นชนชั้นสูง เมื่อมรณภาพหรือสิ้นชีพไปแล้ว จะไปจุติในภพที่สูงกว่า หรือเป็นเทพสถิตในสรวงสวรรค์ชั้นต่างๆ บนเขาพระสุเมรุ อันเป็นความเชื่อที่เกิดขึ้นจากความเชื่อระหว่างศาสนาพุทธและศาสนาพราหมณ์ ผสมกัน
    ตามประเพณีที่ทำกันมาแต่โบราณ งานศพของพระสงฆ์จะมีการทำบุญทำทานกันอย่างใหญ่โต มีมหรสพและการละเล่น เพื่อลดความวังเวงหรือโศกเศร้า โดยเฉพาะปราสาทศพ ได้รับการตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามอลังการ ซึ่งทำเป็นรูปนกหัสดีลิงค์ ถือว่าเป็นพาหนะของผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่เท่านั้น
    การประดับประดาปราสาทศพของพระ ดูจะหรูหลาและใหญ่โตมากกว่าของคนทั่วไป โดยเฉพาะพระที่มีอายุพรรษามากๆ หรือพระที่ทรงสมณศักดิ์ชั้นสูงๆ เป็นที่เคารพนับถือของศรัทธาสาธุชน ก็จะจัดงานยิ่งใหญ่มากขึ้น จะนิยมเก็บศพไว้จนถึงหน้าแล้ง หรือช่วงที่ไม่มีฝนตก ราวเดือน พฤศจิกายน – เมษายน การสร้างเมรุศพนั้นประกอบด้วยไม้จิงเป็นพื้น มีฐานตั้งอยู่บนนกหัสดีลิงค์ ศรัทธาชาวบ้านจะชักลากไปสู่ฌาปนสถาน มีฆ้องกลองแห่ตามขบวน มีคนตีกังสดาล (ปาน) เดินไปตีไปตามขบวนจนกว่าจะถึงฌาปนสถาน
    ที่น่าสังเกตอีกอย่างก็คือ ปราสาทนกหัสดีลิงค์ของศพพระสงฆ์จะมีเสาไม้ไผ่ขนาดใหญ่ สูง (ไม้ซาง) 4 ต้น ปัก 4 มุมของปราสาท ข้างบนใช้ผ้าจีวรหรือผ้าสังฆาฏิของผู้มรณภาพขึงเป็นเพดาน นักปราชญ์โบราณท่านกล่าวว่า มีความหมายหลายประการ
    ประการที่ 1 สมัยโบราณ ไม่มีถนนหนทาง ภูมิประเทศเป็นป่าเขารกทึบ ต้นไม้สูง ที่ทำไว้เช่นก็เพื่อให้ผู้เดินทางไปร่วมงานเห็นเด่นชัด ดังเช่นเราเห็นป้ายสถานีบริการน้ำมันในปัจจุบัน
    ประการที่ 2 นักปราชญ์ท่านกล่าวว่า ร่างกายของคนเราประกอบขึ้นด้วยธาตุ 4 มี ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องแตกสลายไปในที่สุด เพื่อให้ผู้ร่วมงานนำไปคิดปลงอนิจจัง เมื่อคราวตายมาถึงตนเอง
    ประการที่ 3 เป็นเครื่องหมายแสดงว่า พระสงฆ์เป็นผู้ประกอบด้วยจตุรปาริสุทธิศีล (ศีลเป็นเหตุให้บริสุทธิ์ 4 อย่าง) มีสำรวมในพระปาฏิโมกข์, สำรวมในอินทรีย์ ทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ, เลี้ยงชีพในทางที่ชอบและการพิจารณาก่อนบริโภคปัจจัย 4 คือ เครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค
    สำหรับวัดที่มีพื้นที่กว้างขวาง หรือบริเวณทุ่งนาที่อยู่ใกล้วัด จะทำปราสาทนกหัสดีลิงค์ไว้ในบริเวณนั้น เผาตรงนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันฌาปนกิจศพ หรือพระราชทานเพลิงศพ จะมีศรัทธาประชาชนผู้ที่เคารพนับถือมาร่วมทำบุญอย่างมากมาย ผู้มีจิตศรัทธานำน้ำดื่ม อาหาร ของหวาน ตั้งโรงทานเลี้ยงผู้มาร่วมงานอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ชาวล้านนาถือว่า การมีส่วนร่วมในงานศพของพระเถระจะได้บุญกุศลมาก เป็นวัฒนธรรมความเชื่อถือที่ถูกถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งไม่มีชนกลุ่มใดของประเทศเสมอเหมือน นอกจากบนผืนแผ่นดินล้านนานี้เท่านั้น

    เอกสารอ้างอิง
    ตำราภาพลายไทย ภาค ๒ – ตอน 1. บริษัทคณะช่างจำกัด, กรุงเทพฯ 2513.
    อุดม รุ่งเรืองศรี. สารนุกรมวัฒนธรรมไทยภาคเหนือ เล่ม 6,14. 2542.
    มณี พยอมยงค์, ศาสตราจารย์เกียรติคุณ. คร่าวร่ำ 700 ปีเมืองเชียงใหม่. ดาวคอมพิวกราฟิก. เชียงใหม่ 2539
    เจ้าหลวงเชียงใหม่. อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์ พับลิชชิ่ง, กรุงเทพฯ. 2539
    ทิว วิชัยขัทคะ. นกหัสดีลิงค์. ตีพิมพ์ใน นสพ.ไทยนิวส์ ฉบับวันที่ 18 – 30 พ.ค. 31
    พิทูร มลิวัลย์ (ผู้ตรวจสอบชำระ). ลำพระเวส – เทศน์มหาชาติ. คณะสงฆ์หนตะวันออก จัดพิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศล ออกเมรุพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาส อาสภมหาเถร). 2533.
    พระธรรมปริยัติโสภณ. กวีวรชาดก เล่ม 2. โรงพิมพ์บริษัทสหธรรมิก จำกัด, กรุงเทพฯ. 2548.
    พระธรรมราชานุวัตร (ฟู อตฺตสิโว). มหาชาติภาคพายัพ ฉบับสร้อยสังกร. จรีย์ สุนทรสิงห์ ปริวรรตเป็นอักษรล้านนา. ดาวคอมพิวกราฟิก, เชียงใหม่. 2551
    มหาเวสสันตรชาดก (ฉบับอักษรไทขึน). พระครูบาแสงหล้า ธมฺมสิริ วัดพระธาตุสายเมือง ท่าขี้เหล็ก
    นครเชียงตุง จัดพิมพ์จากต้นฉบับชองสมเด็จอาชญาธรรมพระเจ้า ภัททันตเขมจารี วัดราชฐานหลวง เชียงยืน นครเชียงตุง.
    วัดโลกโมฬี. ส.ทรัพย์การพิมพ์, เชียงใหม่. 2548
    เรื่องราวนกหัสดีลิงค์. จาก jakapong@chiangmailnews.co.th และ
     
  19. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    เช้าวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2553 นี้ มีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 91 รูป เวลา 07.00 น. นำโดยพระเดชพระคุณพระเทพญาณวิศิษฏ์เจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก
    พระเดชพระคุณ พระพุทธิสารโสภณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธ) เป็นต้น

    [​IMG]


    [​IMG]

    โดยมีพระราชเจติยาจารย์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงนำศิษยานุศิษย์ ศรัทธาประชาชนใส่บาตร

    <a href="http://s281.photobucket.com/albums/kk201/Great_Blessing/?action=view&current=P11726032.jpg" target="_blank"><img src="http://i281.photobucket.com/albums/kk201/Great_Blessing/P11726032.jpg" border="0" alt="Photobucket"></a>

    [​IMG]
    ศรัทธาประชาชนเริ่มทยอยมานมัสการสรีระสังขารหลวงปู่

    เปลี่ยนขนาดเป็น 78% (was 900 x 675) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด[​IMG]

    บางส่วนก็มาทำบุญถวายผ้าบังสุกุล


    [​IMG]
    ขอโอกาสถ่ายภาพ ท่านพระครูสิทธิกร สิทธิกโร พระอุปัฐากหลวงปู่ และพระรุ่ง ฯ อดึตช่างรุ่ง ผู้สร้างนกหัสดีลิงค์ถวายหลวงปู่ สร้างหอคำหลวงอันเลื่องชื่อ
    บวชถวายหลวงปู่ด้วยความเคารพเทิดทูนบูชายิ่ง ข้าน้อยขออนุโมทนาสาธุการ


    [​IMG]
    พระเดชพระคุณพระโสภณธรรมสาร เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ พระราชพิศาลมุนีรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา และพระช่างรุ่ง
    ขอโอกาสถ่ายภาพท่านเป็นที่ระลึกหน้านกหัสดีลิงค์
     
  20. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    เปลี่ยนขนาดเป็น 78% (was 900 x 675) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด[​IMG]

    สำหรับที่จอดรถนั้น จะมีที่จอดรถตามวัดต่างๆ ในเขตคูเมืองที่มีพื้นที่เพียงพอ เช่นวัดพระสิงห์วรวิหาร เป็นต้น แล้วจะมีรถมาบริการรับส่ง... ฟรี วิ่งวนมารับ-ส่งเรื่อยๆ

    ต่อไปขออนุโมทนากับโรงทาน ถ่ายภาพมาไม่หมดขออภัยด้วยครับ เยอะมาก

    [​IMG]

    โรงทานนำโดย ท่านพระอาจารย์เด่น นันทิโย

    เปลี่ยนขนาดเป็น 78% (was 900 x 675) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด[​IMG]


    เปลี่ยนขนาดเป็น 78% (was 900 x 675) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด[​IMG]


    เปลี่ยนขนาดเป็น 78% (was 900 x 675) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด[​IMG]


    เปลี่ยนขนาดเป็น 78% (was 900 x 675) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด[​IMG]

    โรงทานศิษย์ท่านพ่อลี โรงทานกระทิงแดง โรงทานวัดเจดีย์หลวง เยอะแยะ
    ในรูป หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เมตตาไปแจกของที่ระลึกและอนุโมทนากับโรงทานต่างๆ

    เปลี่ยนขนาดเป็น 78% (was 900 x 675) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด[​IMG]


    เปลี่ยนขนาดเป็น 78% (was 900 x 675) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด[​IMG]


    เปลี่ยนขนาดเป็น 78% (was 900 x 675) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด[​IMG]

    รูปเหมือนหลวงปู่ที่โรงเรียนเมตตาศึกษาที่หลวงปู่ฯ ร่วมก่อตั้งขึ้นมา


    [​IMG]

    ขอแก้ไขหน่อยครับ สำหรับเมรุหลวงปู่ฯ มีชื่อเต็มๆว่า "เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์"

    สำหรับวันนี้ขอรายงานข่าวแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...