ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

จะเกิดการกันดารอาหารครั้งใหญ่​

​

ข่าวทางไลน์

11 ธ.ค. 58

สองเช้าที่ผ่านมาก็นิมิต พาคนไปสมัครงาน เขาไม่รับเลยพาไปทิ้งไว้บนภูเขา ในภาพเห็นเนื้อตากแห้งเป็นชิ้นๆ ไม่รู้เขาเหล่านั้นไปเอามาจากไหน? น่ากลัว...จะแล่เนื้อถือหนังมากินกัน

เทพบดี ๙๗

ที่มา แจ้งข่าวเตือนภัยโดยคุณ k_97

คำเตือนการกันดารอาหารครั้งใหญ่

พระเจ้าประทานนิมิตฝันแก่ข้าพเจ้าว่า ในขณะที่ข้าพเจ้านอนหลับอยู่ในห้องของข้าพเจ้านั้น พระเจ้าทรงสำแดงอีกภาพหนึ่งให้ข้าพเจ้าเห็นว่า มีชายสามคนได้จูงโคอ้วน ๆ สามตัวเข้าไปในนาแปลงใหญ่ ในขณะที่ชายทั้งสามนั้นได้นำเอาคันไถมาประกอบต่อกับโคอ้วนสามตัวนั้นเสร็จแล้ว เขาก็จูงโคอ้วน ๆ สามตัวนั้นเข้าไปในนาแปลงใหญ่นั้นไถรอบหนึ่งจากด้านเหนือไปสู่ด้านใต้ กลับมาเท่านั้นโคอ้วนสามตัวนั้นดื้อไม่ยอมไปไถอีก ชายทั้งสามคนนั้นก็นำโคอ้วนสามตัวนั้นไปผูกไว้กลางนา แล้วก็จูงโคสามตัวผอมกว่าสามตัวแรกนั้นเข้าในนา ชายสามคนนั้นนำคันไถมาใส่กับโคผอมสามตัวนั้นแล้วนำเข้าไปในนาแปลงใหญ่นั้น เข้าไปไถด้านทิศตะวันออกไปสู่ด้านทิศตะวันตกแล้วกลับมาถึงที่กลางนาวัวผอมสามตัวนั้นก็เข้าไปหาวัวอ้วนสามตัวที่เขานำไปผูกไว้กลางนานั้น

เมื่อไปถึงแล้ววัวผอมสามตัวนั้นก็กลืนวัวอ้วนทั้งสามตัวแรกนั้นลงในท้องของวัวผอมสามตัวนั้น ในขณะที่ข้าพเจ้าเห็นนี้ทำให้ข้าพเจ้าเกิดอาการเวียนหัวแล้วก็อาเจียนออกมา เมื่อวัวผอมสามตัวนั้นได้กลืนวัวอ้วนทั้งสามลงในท้องได้แล้ว ชายสามคนนั้นก็จูงวัวผอมสามตัวนั้นกลับไปในนาไถนาต่อไป แต่การไถนาของวัวเหล่านั้น ไถไปตัวละทิศตัวละทางไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวเลย ไถให้นาแปลงนั้นลายเหมือนลายเสือเต็มไปทั่วนาทุกทิศ ไม่ไถเป็นผืนเดียว แต่ไถลวดลายไปหมดทั้งแปลงนานั้น ทำให้เจ้าของนานั้นไม่รู้จักเอาข้าวไปหว่านลงที่ไหน เพราะไม่ได้ไถเป็นแปลงจากทิศหนึ่งเข้าไป แต่ไถลวดลายตามไปตาททิศต่าง ๆ เมื่อข้าพเจ้าเห็นภาพนี้ผ่านไปแล้ว

ก็มีพระสุรเสียงของพระเจ้าตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า เจ้าเข้าใจภาพที่เจ้าเห็นมานี้หรือไม่ ข้าพเจ้าตอบว่าพระเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่เข้าใจว่าภาพที่ข้าพเจ้าเห็นนั้นคืออะไร ขอพระองค์ทรงอธิบายให้ข้าพเจ้าทราบด้วย

แล้วพระเจ้าก็อธิบายแก่ข้าพเจ้าว่า ภาพที่เจ้าเห็นนั้นเล็งถึงการกันดารอาหารที่จะมาถึงในเร็วข้างหน้านี้ที่สำเร็จคำซึ่งพระเยซูคริสต์ทรงทำนายไว้ในพระธรรมมัทธิว 24:7, มาระโก 13:8 นั้น และวิวรณ์ 15: ทั้งบทที่กล่าวถึงภัยพิบัติเจ็ดอย่างนั้น ภัยพิบัติเจ็ดอย่างในพระธรรม วิวรณ์ 15:นี้ ไม่ใช่ภัยพิบัติเจ็ดประการใน วิวรณ์ 16: แต่เป็นคนละภัยพิบัติกัน ภัยพิบัติในวิวรณ์ 15: ไม่ได้ระบุว่าแต่ละภัยพิบัตินั้นคืออะไร แต่กล่าวถึงหมายสำคัญของทูตสวรรค์ทั้งเจ็ด ที่เป็นงานของทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดใน วิวรณ์ 15:นี้ อย่าตีความหมายตามตัวอักษรแต่จงหาความหมายจากการงานของคำพยากรณ์ประการสุดท้ายก่อนภัยทรมานเจ็ดประการจะเทลงมาของการงานสุดท้ายของทุตสวรรค์ทั้งเจ็ด ที่จะเกิดขึ้นก่อนภัยพิบัติเจ็ดประการในพระธรรมวิวรณ์ 16: นั้น คือ

1. วิบัติของการกันดารอาหารพร้อมกับกฎหมายวันอาทิตย์
2. โรคระบาดต่าง ๆ ของวิบัติยุคสุดปลาย
3. พระเจ้าประทับตราของพระองค์แก่บรรดาผู้ที่มีชัยชนะต่ออำนาจของสัตว์ร้ายแล้วปิดประตูพระกรุณาของพวก
เซเว่นเดย์
4. การหลั่งพระวิญญาณฝนปลายฤดูครั้งหลังที่จะหลั่งลงมาสวมทับบรรดาผู้ที่จะเข้าสู่บทเพลงของโมเสส
5. การประกาศครั้งสุดท้ายที่เป็นการประกาศเสียงร้องอันดังร่วมกับพระเมษโปดก แก่ชาวโลกที่เป็นการเก็บเกี่ยว
ครั้งสุดท้าย
6. ปิดประตูพระกรุณาของพระเจ้าทั่วโลก
7. พระเยซูคริสต์ถอดฉลองตำแหน่งการเป็นมหาปุโรหิตในสถานบริสุทธ์บนสวรรค์ตามที่ได้รับแจ้งจากทูตสวรรค์
องค์ที่เจ็ด

เมื่อทูตสวรรค์เจ็ดองค์ในวิวรณ์ 15: ทั้งบททำการงานเหล่านี้สำเร็จแล้ว ภัยพิบัติเจ็ดประการในพระธรรม วิวรณ์ 16: ก็จะเทลงมาบนพื้นแผ่นดินโลกนี้ เจ็ดข้อที่ได้เขียนไว้ข้างบนคือการงานของทูตสวรรค์เจ็ดองค์แรกใน วิวรณ์ 15: ฉะนั้นอย่าตีความหมายตามตัวอักษรตามความคิดความเข้าใจของมนุษย์กันเลย เพราะการงานทุกอย่างเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า จะไม่เป็นไปตามความเข้าใจของมนุษย์ ที่มนุษย์เข้าใจตามตัวอักษรนั้น

ฉะนั้นวัวผอมที่ผอมสามตัวที่กลืนวัวอ้วนสามตัวแรกนั้นคือ การกันดารอาหารที่จะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ ส่วนการที่วัวผอมสามตัวไถไม่มีระเบียบเลยไถรวดลายไปตามทุกทิศ ไม่สามารถหว่านเมล็ดลงที่ใดได้นั้นคือ ฝนฟ้าจะไม่ตกเต็มไปทุกที่เสมอกัน แต่ที่แห้งแล้งก็จะแห้งแล้งหว่านอะไรลงไม่ได้ และที่ฝนตกก็ตกจนแฉะหรือท่วมไม่สามารถหว่านเมล็ดลงได้ และอีกความหมายของการที่วัวผอมกลืนวัวอ้วนคือ มีบางพื้นที่ฝนฟ้าดีตกได้เสมอตรงฤดูกาล แต่เมื่อหว่านเมล็ดลงไปแล้วจะมีศัตรูดินและศัตรูบนบกเข้าไปทำลายพืชที่งอกขึ้นนั้นไม่สามารถเติบโตเพื่อจะเกิดผลได้ ก็จะเกิดกันดารอาหารตามถิ่นต่าง ๆ ทั่วโลก ถึงแม้จะมีบางพื้นที่ที่จะทำมาหากินได้บ้างเล็กน้อย แต่ไม่พอที่จะนำเอาไปขายตามตลาด ก็จะทำให้การหากินในเมืองต่าง ๆ ขาดแคลน ไม่มีอะไรกิน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วการกันดารอาหารครั้งยิ่งใหญ่ก็จะเกิดขึ้นทั้วโลก นี่คือสิ่งที่ได้สำแดงให้เห็นภาพในนิมิตที่วัวผอมกลืนวัวอ้วนที่เป็นสัญลักษณ์ถึงเหตุการณ์ของการกันดารอาหารที่กำลังกระหน่ำมาสู่โลกใบนี้

เหตุการณ์เหล่านี้เป็นสงครามระหว่างพระเจ้ากับซาตาน และจะเป็นไปตามพระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า ไม่มีการทดลองใด ๆ เกิดขึ้นกับท่านนอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าทรงสัตย์ธรรม พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์ทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้ 1 โครินธ์ 10:13 คือการต่อสู้ระหว่างพระเจ้ากับซาตานในเหตุการณ์กันดารอาหารนี้เป็นการที่พระองค์ทรงโปรดให้บรรดาผู้ที่มีความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าด้วยใจจริง ยืนอยู่บนรากฐานแห่งพระบัญญัติของพระเจ้ามีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้

ถ้าพระองค์ไม่มีเหตุการณ์กันดารอาหารเหล่านี้มาทำให้คนทั้งโลกประสบการกันดารอาหารทั่วโลก ในขณะที่คนฝ่ายโลกใช้เครื่องหมายการค้าของเครื่องหมายสัตว์ร้ายมาเป็นเครื่องมือของการซื้อขายแล้วจะทำให้บรรดาผู้ที่มีความซื่อสัตย์ต่อพระบัญญัติของพระเจ้าท้อแท้ในการหากินว่าคนที่รับเครื่องหมายสัตว์ร้ายนั้นเขาหากินได้ แต่ตน ไม่มีเครื่องหมายนั้น ตนหากินไม่ได้ ก็จะมีบางคนท้อแท้ในการดำเนินชีวิต

ฉะนั้นพระองค์จึงใช้เหตุการณ์กันดารอาหารนั้น ทำให้คนทั้งโลกต้องประสบด้วยกันถึงแม้พวกฝ่ายโลกจะรับเครื่องหมายสัตว์ร้ายฝังไว้ในร่างกายเพื่อทำการซื้อขายได้สะดวกสบายก็จริงแต่จะไม่มีอะไรขายตามตลาด ในเมื่อไม่มีอะไรขายตามตลาดแล้วเครื่องหมายสัตว์ร้ายที่ทางโลกใช้อยู่นั้นก็ไร้ผลช่วยพวกเขาไม่ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วบรรดาผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อพระบัญญัติของพระเจ้าก็จะไม่ท้อแท้ เพราะการกันดารอาหารมีทั่วโลกแล้ว เครื่องหมายสัตว์ร้ายนั้น ก็เป็นเพียงคู่มือที่แยกแยะพลไพร่ของพระเจ้าและพลเมืองของซาตานออกจากกันเท่านั้น จะไม่เป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้ที่ไม่ยอมรับเครื่องหมายสัตว์ร้ายนั้นต้องท้อแท้ใด ๆ นี่คือทางหลีกเลี่ยงที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับเหล่าวิสุทธิชนของพระองค์เป็นที่เสริมกำลังแก่เหล่าวิสุทธิชนของพระองค์ที่มีความซื่อสัตย์ต่อพระองค์ด้วยใจจริง

ฉะนั้นถ้าคนใดสามารถหาซื้อข้าวหรือสิ่งของใช่ส่อยในครัวเรือนได้ก็ให้ทุกคนเริ่มเตรียมไว้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปได้แล้ว เพราะเหตุการณ์แห่งความทุกข์ยากของโลกใบนี้ก็จะเริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่การเสด็จมาปรากฏของพระคริสต์จะมาถึง จงเตรียมตัวให้พร้อมเสมอทุกเวลาที่เรียกว่าวันนี้

เพราะเหตุการณ์ทุกอย่างจะกระหน่ำอย่างกะทันหันต่อหน้าต่อตาของมนุษย์ จะทำให้คนที่ไม่ได้ศึกษาถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ของยุคสุดปลายนี้ไม่ว่าคนที่เชื่อพระเจ้า และคนที่ไม่ได้เชื่อก็ตามจะมีคนเป็นอันมากตื่นตระหนกว่าอะไรนี่ ทำไมมีเหตุการณ์เช่นนี้ตกแก่เราในโลกนี้ แต่อย่างไรก็ตามท่านทั้งหลายที่เรียนรู้ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้แล้วจงเฝ้าระวังใว้เสมอ จงเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมเสมอทุกเวลา เพื่อรับสถานการณ์เหล่านื้ทุกอย่าง อย่าตื่นตระหนกเลย สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องบังเกิดขึ้นก่อนการเสด็จมาของบุตรมนุษย์ คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกอย่างจะสำเร็จตามคำทำนายทั้งสิ้นซึ่งพระเยซูคริสต์ทรงทำนายไว้ในพระธรรม มัทธิว 24 ทั้งบท ก่อนที่พระองค์จะขึ้นกลับสู่สวรรค์นั้น ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำนายไว้แล้วจะไม่มีสิ่งใดที่จะไม่บังเกิดขึ้น ทุกอย่างจะต้องเกิดขึ้นตามคำทำนายทุกประการ

ไม่ว่าการถูกกดขี่ข่มเหง หรือการกันดารอาหารหรือการทุกข์ยากลำบากต่าง ๆ ของเหตุการณ์เลวร้ายของมนุษย์ และรวมถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์ ฉะนั้นเรื่องเหตุการณ์กันดารอาหารที่มีวัวผอมกลืนวัวอ้วนเป็นสัญลักษณ์นั้นให้คริสเตียนอ่านดูพระธรรม มัทธิว 24: ลูกา และ มาระโก และให้อ่านการงานของทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดใน วิวรณ์ 15: ทั้งบทให้ดี ๆ อย่าตีความหมายตามตัวอักษร จึงจะไม่พินาศเพราะการเข้าใจผิดนั้น แต่จะได้รับชีวิตนิรันดร์ เพราะดำเนินตามการทรงนำในคำแนะนำของพระเจ้า

Written by Administrator
Saturday, 09 August 2008 14:49

ที่มา การกันดารอาหาร

 

In the Heart of the Sea​

เรื่องย่อ In the Heart of the Sea

เล่าเรื่องจริงของเรือล่าวาฬเอสเซกส์ แนนทัคเก็ต ที่ออกเดินทางจากนิวอิงแลนด์ในปี 1820 ซึ่งเป็นยุคทองแห่งการล่าวาฬ พร้อมชายหนุ่มจำนวน 21 คน ที่ออกไปผจญภัยกลางทะเล แต่โชคร้ายที่เรือลำนี้ถูกโจมตีโดยวาฬยักษ์หัวทุยที่มีชื่อว่า โมบี้ ดิ และต้องผจญภัยกับสถานการณ์อันเลวร้าย ที่ทำให้ลูกเรือต้องหาทางเอาชีวิตรอด ท่ามกลางความรุนแรงของโรคร้าย ความหิวโหย และต้องเผชิญกับการสังหารโหดเพื่อให้มีชีวิตรอด แม้จะต้องฆ่ากันเอง

 

จีนรับเงินกู้จากแบงก์เอดีบี กว่าหมื่นล้าน แก้ปัญหามลพิษในอากาศปักกิ่ง​

​

สภาพอากาศในกรุงปักกิ่งแย่หนัก...ทางการจีนต้องขอรับเงินกู้จากธนาคารเอดีบีถึงกว่าหมื่นล้าน หวังนำมาแก้ปัญหามลพิษในอากาศ โดยเฉพาะลดการใช้พลังงานถ่านหินในโรงงาน หลังต้องประกาศยกระดับเตือนภัยมลพิษในอากาศที่ปักกิ่ง อยู่ในขั้นอันตรายเป็นครั้งแรก

เมื่อ 11 ธ.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ทางการจีนเตรียมรับเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) เป็นจำนวนถึง 300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 10,800 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหามลพิษในอากาศที่กรุงปักกิ่ง และเมืองใหญ่หลายเมืองรอบเมืองหลวงของจีน โดยธนาคารเอดีบี ชี้ว่า คุณภาพอากาศที่แย่มากในกรุงปักกิ่ง เป็นอันตรายในระดับร้ายแรงต่อสุขภาพ และส่งผลกระทบต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของจีน

สำหรับเงินกู้กว่าหมื่นล้านบาทที่ธนาคารเอดีบีอนุมัติให้แก่ทางการจีนนั้น ตั้งใจจะนำไปใช้เกี่ยวกับการลดการใช้พลังงานจากถ่านหินในโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่มีโรงงานอุตสาหกรรมมากมาย ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศเป็นอันดับหนึ่งในโลก

ทั้งนี้ ทางการจีนได้มีประกาศเตือนภาวะมลพิษในอากาศที่กรุงปักกิ่ง อยู่ในระดับอันตราย หรือสีแดง เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ค่ำวันที่ 7 จนถึง 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการสั่งปิดโรงเรียนในกรุงปักกิ่งทั้งหมด และหยุดงานก่อสร้างกลางแจ้ง รวมทั้งจำกัดจำนวนยานพาหนะ และมีบางโรงงานได้รับคำสั่งให้หยุดทำการ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 ธ.ค. 2558

จีนหลายเมืองค่าครองชีพพุ่งสูงในเอเชีย​

​

จีนหลายเมืองค่าครองชีพพุ่งสูงในเอเชีย

บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ “อีซีเอ อินเตอร์แนชนัล” สำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงลอนดอน เมืองหลวงอังกฤษ เผยแพร่ผลสำรวจรายชื่อเมืองใหญ่ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่าเมืองค่าครองชีพสูงที่สุด 20 อันดับ ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้วงเวลานี้ค่าเงินหยวนแข็งมากขึ้นยิ่งส่งผลกระทบถึงเหล่าแรงงานต่างชาติที่เข้าไปทำงานอยู่ในจีน

นายลี กวาน ผู้อำนวยการอีซีเอภูมิภาคเอเชีย ระบุเมืองค่าครองชีพสูงสุดอันดับ 1 ของปีนี้ คือ นครเซี่ยงไฮ้ ขึ้นจากอันดับ 3 ของเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่อีกหลายเมืองของจีน รวมถึงฮ่องกงและมาเก๊าก็ติดอันดับเมืองค่าครองชีพสูง เช่นเดียวกับกรุงปักกิ่งอยู่อันดับ 2 เมืองกว่างโจวอยู่อันดับ 6 เมืองเสิ่นเจิ้นอยู่อันดับ 7

รายงานของอีซีเอระบุอีกว่า หลายเมืองของจีนยังมีทีท่าค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เมืองค่าครองชีพสูงที่สุดของโลก 30 อันดับแรกมีอยู่ในจีนมากถึง 6 เมือง มากกว่าเมืองในสวิตเซอร์แลนด์และญี่ปุ่น ขณะที่มาเก๊าค่าครองชีพสูงอยู่ที่อันดับ 34 ของเมื่อปีที่แล้ว โดดขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 13 ส่วนฮ่องกงอยู่อันดับ 11.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 11 ธ.ค. 2558

มะกันโจมตีทางอากาศ เด็ดชีพหัวหน้าฝ่ายการเงิน ไอซิส​

​

โฆษกกองทัพสหรัฐฯ เผย เครื่องบินรบของกลุ่มพันธมิตร โจมตีทางอากาศสังหารหัวหน้าฝ่ายการเงินชาวอิรัก ของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามสำเร็จ...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน่วา พันเอก สตีฟ วอร์เรน โฆษกกองทัพสหรัฐฯ ออกมายืนยันการเสียชีวิตของนายอาบู ซาเลาะห์ หัวหน้าฝ่ายการเงินของกลุ่มติดดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส โดยระบุว่าชายคนนี้และแกนนำระดับสูงอีก 2 คน เสียชีวิตในการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายอาบู ซาเลาะห์ ชื่อรหัสคือ มูวัฟฟาก มุสตาฟา โมฮัมเหม็ด อัล-คาร์มูช อยู่ในบัญชีคว่ำบาตรต่อต้านการก่อการร้ายของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ โดยระบุว่าเป็นชาวอิรัก เกิดในปี 1973

พันโทวอร์เรนระบุผ่านวิดีโอคอลจากกรุงแบกแดดของอิรักว่า อาบู ซาเลาะห์ เป็นหนึ่งในสมาชิกที่อาวุโสและมีประสบการณ์มากที่สุดในเครือข่ายการเงินของกลุ่มไอซิส ขณะที่แกนนำอีก 2 รายที่ถูกสังหารคือ อาบู มาเรียม ผู้ควบคุมดูแลด้านปฏิบัติการขู่กรรโชก และ อาบู วาคมาน อัล-ตูนิส ผู้ประสานงานเรื่องการขนส่งคน, อาวุธ และข่าวสารของไอซิส.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 ธ.ค. 2558

สิงคโปร์ชี้ รัฐอิสลามภัยคุกคามอาเซียน-ออสซี่ผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย​

​

สิงคโปร์ชี้ รัฐอิสลามภัยคุกคามอาเซียน-ออสซี่ผู้ต้องสงสัยก่อการ

นายอึ้ง เอ็ง เฮน รมว.กลาโหมของสิงคโปร์ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ หลังร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างกัน ครอบคลุมปัญหากองกำลังข้ามประเทศ กล่าวบนเวทีสัมมนาแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อ 9 ธ.ค.ว่า สิงคโปร์มองเห็นถึงอันตรายที่ชัดเจนและเฉพาะหน้าต่อสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จากกองกำลังอิสลามโดยเฉพาะภัยคุกคามจากกลุ่มต่างๆที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกันหลังได้ประกาศสวามิภักดิ์ต่อกองกำลัง รัฐอิสลาม (ไอเอส) และเห็นว่าการประสานข่าวกรองคือปัจจัยสำคัญจัดการปัญหานี้

นายอึ้งระบุด้วยว่า ในรอบ 3 ปีหลัง ผู้สนับสนุนกลุ่มไอเอสมีจำนวนมากกว่า ผู้สนับสนุนกลุ่มอัลเคดาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยอินโดนีเซียและมาเลเซีย มีพลเมืองไปรบช่วยกองกำลังในซีเรียและอิรักมากกว่า 500 และ 150 คน ตามลำดับ เฉพาะกรณี มาเลเซียมีบางคนเป็นเจ้าหน้าที่กองทัพ และมีอีกจำนวนหนึ่งที่ไปจากสิงคโปร์ด้วยเช่นกัน ถ้าคนกลุ่มนี้รบกลับมาพร้อมภารกิจหวังก่อตั้งรัฐอิสลามในภูมิภาคก็จะยิ่งเป็นอันตรายและน่าห่วงอย่างมาก

“สมาชิกกลุ่ม “เจมาห์ อิสลามิยาห์” (เจไอ) กองกำลังย่อยของอัลเคดาที่วางแผนระเบิดโจมตีในสิงคโปร์ช่วงต้นทศวรรษ 2000 ได้ประกาศภักดีต่อ ไอเอสเช่นเดียวกับกองกำลัง “อาบู ไซยาฟ” ในฟิลิปปินส์ ถ้าคนกลุ่มนี้เชื่อมโยงกันได้จะเป็นภัยคุกคามความมั่นคงและสวัสดิภาพของพวกเรา” นายอึ้งกล่าวเสริม

วันเดียวกัน นายไมเคิล คีแนน รมว.ยุติธรรมของออสเตรเลีย และคณะ เข้าพบหารือเจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์ หนึ่งในภารกิจการเยือนภูมิภาคอาเซียน โดย ออสเตรเลียเห็นชอบช่วยฟิลิปปินส์ยกเครื่องระบบเฝ้าระวัง ข่าวกรอง และการสอบสวนเชิงนิติวิทยาศาสตร์เพื่อป้องกันเหตุโจมตีคล้ายที่กรุงปารีสไม่ให้เกิดขึ้นในอาเซียน เจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศยังวิตกเกี่ยวกับแรงงานชาวฟิลิปปินส์ราว 2 ล้านคนในตะวันออกกลางรวมทั้งในอิรักและซีเรียที่อาจได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มไอเอส

ขณะที่ตำรวจนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย เข้าจับผู้ต้องสงสัย 2 คน วัย 15 และ 20 ปี ในปฏิบัติการต่อต้านผู้ก่อการร้ายและถูกตั้งข้อหาสมคบคิดเตรียมการก่อเหตุก่อการร้ายและยังมีถูกจับข้อหาเดียวกันอีก 3 คน อายุระหว่าง 21-22 ปี หลังการสอบขยายผลจากการยึดวัตถุต้องสงสัยในปฏิบัติการ “โอเปอเรชั่น แอพเพิลบี” เมื่อปีที่แล้ว โดยทั้ง 5 คนยังเกี่ยวข้องเหตุยิงสังหารพนักงานวัย 58 ปีของสำนักงานตำรวจนครซิดนีย์เมื่อ ต.ค.ซึ่งเป็นเหตุเชื่อมโยงก่อการร้าย.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 11 ธ.ค. 2558

'คิม จอง-อึน' อ้าง เกาหลีเหนือมีระเบิดไฮโดรเจน​

​

คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของประเทศเกาหลีเหนือ กล่าวอ้างว่า ประเทศของเขามีระเบิดไฮโดรเจนอยู่ในคลังแสงแล้ว แต่กลุ่มผู้สังเกตการณ์ไม่เชื่อว่าเป็นความจริง...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน อ้างการเปิดเผยของสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) ของเกาหลีเหนือ ว่า คิม จอง-อึน กล่าวระหว่างเดินทางเยือนโรงงานอาวุธแห่งหนึ่ง ว่าเกาหลีเหนือได้กลายเป็นรัฐที่มีอำนาจทางอาวุธนิวเคลียร์ ที่พร้อมจะจุดระเบิด ระเบิดปรมาณู และระเบิดไฮโดรเจน (H-bomb) เพื่อปกป้องอธิปไตย และเกียรติภูมิของประเทศ

คำกล่าวอ้างล่าสุดของนายคิม หากเป็นความจริง จะถือเป็นก้าวกระโดดของขีดความสามารถทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นความจริง

นาย จอห์น นิลสัน-ไรท์ หัวหน้าสาขาเอเชียของสถาบัน 'ชัตแธม เฮาส์' สถานบันเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศในกรุงลอนดอนของอังกฤษ ระบุว่า เป็นเรื่องยากที่หาหลักฐานทางเทคนิคเพื่อยืนยันคำกล่าวอ้างของนายคิม แต่ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือยังทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ที่ใช้พลูโตเนียม ซึ่งใช้ในการสร้างระเบิดเล็กๆ จากปฏิกิริยาฟิชชั่น การก้าวกระโดดไปถึงขั้นเทอร์โมนิวเคลียร์ จึงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ

ส่วนนาย ลี ชุน-กึน นักวิจัยจากสถาบันนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็แสดงความกังขาในคำพูดของนายคิมเช่นกัน "มันยากที่จะเชื่อว่าเกาหลีเหนือครอบครองระเบิดไฮโดรเจน แต่ผมคิดว่าพวกเขากำลังพัฒนามันอยู่"

ทั้งนี้ ระเบิดปรมาณูเป็นระเบิดชนิดเดียวกับระเบิดที่สหรัฐฯ ใช้โจมตีเมืองฮิโรชิมา และเมืองนางาซากิ ของญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สร้างแรงระเบิดจากปฏิกิริยาฟิชชั่น ซึ่งเป็นการชนกันระหว่างนิวตรอนกับอะตอมของนิวเคลียส จนแตะตัวเป็นนิวคลีไอ (nuclei) 2 ตัว และปลดปล่อยพลังงานออกมา ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ก็ผลิตไฟฟ้าจากปฏิกิริยาฟิชชั่นเช่นกัน

ส่วนระเบิดไฮโดรเจน ใช้ปฏิกิริยาฟิวชั่น ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่สร้างพลังงานแก่ดวงอาทิตย์ และดาวฤกษ์ต่างๆ เกิดจากการการชนกันของนิวคลีไอกลายเป็นนิวเคลียสใหม่ โดยอุปกรณ์ที่ใช้ปฏิกิริยาฟิวชั่นสร้างแรงระเบิดได้รุนแรงกว่าระเบิดปรมาณูมาก

ระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมา เมื่อปี 1945 มีพลังทำลายเทียบเท่าระเบิด ทีเอ็นที หนัก 13,000 ตัน ขณะที่เมื่อครั้งสหรัฐฯ ทดสอบเทอร์โมนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกของโลก ที่หมู่เกาะมาร์แชล ในปี 1952 สร้างพลังทำลายเทียบเท่าระเบิดทีเอ็นที 10.1 ล้านตัน หรือสูงกว่าระเบิดที่ฮิโรชิมา 700 เท่า

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 ธ.ค. 2558

ตุรกีกล่าวหารัสเซียโจมตีทางอากาศในซีเรีย หวังกวาดล้างกลุ่มชาติพันธ์ุ​

​

นายกรัฐมนตรีตุรกีกล่าวหารัสเซียว่า โจมตีทางอากาศในซีเรีย เพื่อกวาดล้างกลุ่มชาติพันธ์ุฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ไม่ใช่เพื่อทำลายกลุ่มไอซิส...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายอาห์เหม็ต ดาวูโตกลู นายกรัฐมนตรีของประเทศตุรกี ออกมากล่าวหาประเทศรัสเซียว่า กำลังพยายามกวาดล้างกลุ่มชาติพันธ์ุออกจากซีเรีย ด้วยการโจมตีทางอากาศในภาคเหนือ โดยเล็งเป้าหมายที่ชาวเติร์กเมน และชุมชนชาวมุสลิมสุหนี่รอบเมืองลาตาเกีย

นายดาวูตูกลูบอกกับผู้สื่อข่าวในนครอิสตันบูลว่า "รัสเซียพยายามก่อการกวาดล้างกลุ่มชาติพันธ์ุที่เมืองลาตาเกียทางตอนเหนือ เพื่อบีบบังคับขับไล่ชาวเติร์กเมน และชาวมุสลิมสุหนี่ ซึ่งมีความคิดที่ไม่ดีกับรัฐบาลซีเรียทั้งหมด" เขากล่าวด้วยว่า รัสเซียไม่ได้มุ่งเป้าโจมตีที่กลุ่มไอซิส และการโจมตีทางอากาศของแดนหมีขาว ยิ่งช่วยให้กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามในซีเรียเข้มแข็งขึ้น

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีและรัสเซียย่ำแย่ลงอย่างมาก นับตั้งแต่เครื่องบินรบ เอฟ-16 โจมตีเครื่องบินทิ้งระเบิด ซู-24 ของรัสเซียตกบริเวณชายแดนซีเรีย เมื่อ 23 พ.ย. โดยตุรกีอ้างว่าเครื่องบินของรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของพวกเขา แต่รัสเซียปฏิเสธ

ก่อนหน้านี้ รัสเซียเพิ่งออกมากล่าวหาตุรกีว่า ยิงเครื่องบินของพวกเขาตกเพราะต้องการปกป้องการค้าขายน้ำมันกับกลุ่มไอซิสในซีเรีย พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลที่อ้างว่าเป็นเส้นทางการขนส่งน้ำมันเถื่อนจากซีเรียและอิรักเข้าสู่ตุรกีด้วย แต่ฝ่ายตุรกีก็ตอบโต้กลับว่า รัสเซียต่างหากที่มีส่วนในการค้าน้ำมันกับกลุ่มไอซิส

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

หลายจังหวัดทั่วไทยคึกคัก! ประชาชนรวมใจ 'ปั่นเพื่อพ่อ'​

​

ประชาชนหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย ร่วมกิจกรรม "ปั่นเพื่อพ่อ Bike for Dad" ในวันที่ 11 ธ.ค. เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 ...

ภาคเหนือ

จ.กำแพงเพชร นายน้อย วงศ์วิทยานันท์ นายกเทศบาลเมืองปางมะค่า ร่วมโรงเรียนและหน่วยงานต่างๆ จัดกิจกรรม “ปางมะค่ารวมใจ ปั่น บอกรักพ่อให้ก้องโลก” ปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 โดยมี นายสุวิทย์ สันติวงศ์ไชย นายอำเภอขาณุวรลักษบุรี เป็นประธานเปิดงาน มี นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ อดีตผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมพ.ต.ท.บรรเทา หาญใจ สวญ.สภ.ปางมะค่า พร้อมข้าราชการทหาร ตำรวจ ประชาชน นักเรียนนักศึกษาร่วมกิจกรรม กว่า 2,000 คน บรรยากาศประชาชนเด็กนักเรียนใส่เสื้อสีเหลือง Bike for Dad มาร่วมกิจกรรม การปั่นจักรยานเป็นไปด้วยความคึกคัก และปั่นตามเส้นทางไปยังจุดหมายปลายทางโดยพร้อมเพรียงกัน

ภาคกลาง

จ.ชัยนาท มีประชาชนทั่วไป ร่วมปั่นกันอย่างคึกคัก โดยจะปั่นไปตามเส้นทางสิริมงคล ผ่านสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ สู่สี่แยกแขวงทางหลวงจังหวัดชัยนาท เลี้ยวขวาไปตามถนน 340 มุ่งสู่สี่แยกสะพานใหม่ แล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งไปตามถนน 3183 แวะพักที่วัดพระบรมธาตุวรวิหาร ซึ่งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติชัยนาทมุนี จากนั้นปั่นมุ่งหน้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งเป็นจุดแวะพักจุดที่ 2 โดยจะผ่านวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี โรงเรียนบุญนาคพิทยาคม วิ่งไปตามถนนเส้นทางข้างคลองส่งน้ำ ตำบลตลุก ผ่านวัดศาลาขาว วัดบ้านหนอง โรงเรียนแหลมหว้า สวนนกชัยนาท และมาสิ้นสุดที่ศาลหลักเมืองจังหวัดชัยนาท รวมระยะทาง 29 กิโลเมตร

นายอาคม นาคแปลงศรี อายุ 52 ปี ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ใน จ.ชัยนาท กล่าวว่า ตนป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ทำให้ร่างกายเริ่มไม่แข็งแรง แขนขาอ่อนแรงมาหลายสิบปี ต้องใช้รถจักรยาน 3 ล้อ ในการเดินทางไปไหนมาไหน "พอทราบถึงกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ ก็รีบเดินทางไปลงทะเบียน และมาร่วมปั่น แม้ร่างกายอาจไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป แต่จิตใจที่รัก และหวงแหนในสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่แพ้ใครในประเทศอย่างแน่นอน ชีวิตนี้คงทำอะไรไม่ได้นอกจากเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และจะพยายามปั่นให้ตลอดเส้นทางจนจบ" นายอาคม ผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง กล่าว

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นำทีมข้าราชการ และพสกนิกรชาวบุรีรัมย์ พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลือง เข้าร่วมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ "Bike For Dad ปั่นเพื่อพ่อ” คึกคัก เริ่มสตาร์ตพร้อมกันทั่วประเทศในเวลา 15.00 น. มีผู้สนใจลงทะเบียนร่วมกิจกรรมจำนวน 9,970 คน โดยขบวนจักรยานจะเริ่มต้นและจุดพักขบวนรถจักรยานเฉลิมพระเกียรติ รวม 4 จุด

ทั้งนี้ นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อม พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางที่ใช้ในการจัดกิจกรรม รวมถึงจุดให้บริการประชาชน จุดบริการทางการแพทย์ ตลอดเส้นทาง ที่ขบวนจักรยานวิ่งผ่าน พร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนดูแลความเรียบร้อย ตลอดเส้นทางจำนวนกว่า 500 นาย การร่วมปั่นจักรยานในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันของชาวบุรีรัมย์ และพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ เพื่อถวายเป็นพระราชสดุดี สนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ต้องการให้พสกนิกรแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีและความจงรักภักดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงแสดงความสามัคคีของประชาชนทุกหมู่เหล่า

ภาคใต้

จ.กระบี่ จุดสตาร์ตการจัดกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ มีผู้มาลงทะเบียนไว้ 3,900 คน ส่วนเส้นทาง 29 กิโลเมตร เริ่มจากศาลากลางจังหวัด โดยปล่อยตัวเวลา 15.00 น. ผ่านอุโบสถวัดแก้วโกรวารามพระอารามหลวง ผ่านองค์จตุคามรามเทพ มัสยิดกลางและพัก จากนั้นเคลื่อนต่อไปผ่านถ้ำเสด็จ วัดไสไทย องค์พญานาคภุชงค์ กรมหลวงชุมพร ที่ อบจ.กระบี่ กำแพงประวัติศาสตร์ และกลับมายัง ศาลากลางจังหวัดกระบี่

ขณะที่ จ.สงขลา นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผวจ. สงขลา พร้อม ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัด และประชาชน นักปั่นกว่าแสนคนร่วมกิจกรรม ปั่นเพื่อพ่อ โดยเริ่มจากหน้าศาลากลางจังหวัด โดยมีไฮไลต์ขบวนสามล้อย้อนยุค มีสาวงามนั่งบนรถ ตามด้วยขบวนจักรยานวีไอพี นำโดยผู้ว่าราชการและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และตามขบวนของประชาชนทั่วไป ซึ่งขบวนออกจากหน้าศาลากลาง ผ่านหาดชลาทัศน์ ผ่านมหาวิทยาลัยทักษิน มุ่งหน้า ห้าแยกเกาะยอ ร่วมพิธีปลูกต้นไม้ที่สวนป่าเปรม และขบวนนักปั่นเพื่อพ่อทั้งหมดปั่นขึ้นสะพานป๋าเปรม หรือสะพานเปรมติณสูลานนท์ เลี้ยวรถกลับเส้นทางเดิม กลับสู่ศาลากลางจังหวัด

ด้าน จ.ภูเก็ต เส้นทางปั่นจักรยาน เริ่มต้นที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เลี้ยวซ้ายแยกเขารัง มุ่งหน้าไปแยกฉลองเข้าสู่ถนนเจ้าฟ้าตะวันตกและจุดพักที่วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) อ.เมืองภูเก็ต จากนั้นออกจากวัดฉลองผ่านสามแยกนาคา มุ่งหน้าถนนเยาวราช เลี้ยวซ้ายวงเวียนหอนาฬิกาไปปลายแหลมสะพานหิน และวกกลับมามุ่งหน้าจุดสิ้นสุดที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต รวมระยะทาง 29 กิโลเมตร โดยมี นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.ภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมปั่นในครั้งนี้

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 ธ.ค. 2558

ดอยอินทนนท์ ลดฮวบ 3 องศาฯ 2 วันติด! พบ'เหมยขาบ' โผล่อีกครั้ง​

​

ยอดดอยอินทนนท์ อากาศหนาวจัด กิ่วแม่ปานอุณหภูมิลดฮวบ 3 องศาเซลเซียส เป็นวันที่ 2 พบ 'เหมยขาบ' โผล่อีกครั้ง ขาวโพลน-สวยงามมาก ขณะที่ สถิติ นนท.พุ่งสูง แห่ชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเนืองแน่น ...

วันที่ 11 ธ.ค.58 นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เช้านี้ ที่กิ่วแม่ปานอุณหภูมิ อยู่ที่ 6 องศาเซลเซียส อากาศเปิด ลมแรง และได้เกิดเหมยขาบ บริเวณ กิโลเมตรที่ 45 ขณะที่ ช่วงเช้ามืดวันนี้ สภาพอากาศหนาวเย็นเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิบนยอดหญ้ายังอยู่ที่ 3 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวพากันตื่นเต้น ชมเหมยขาบ ริมถนนอย่างสนุกสนาน และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยปีนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ติดกัน 2 วันรวด หากอากาศยังหนาวเย็นแบบนี้อย่างต่อเนื่อง ปลายเดือนนี้ที่เข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นักท่องเที่ยวอาจจะโชคดีได้ชมเหมยขาบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ที่มาฉลองเคาต์ดาวน์บนดอยอินทนนท์ด้วย

"เน้นย้ำให้กับผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ไม่ควรที่จะเดินเที่ยวบริเวณจุดชมวิวกิ่วแม่ปานเส้นทางชมธรรมชาติ ที่ต้องเดินเท้าบนดอยประมาณ 3 กิโลเมตร เนื่องจากอากาศหนาวเย็น อาจจะได้รับอันตรายได้ขณะเดียวกัน หากมาเที่ยวนอนกางเต็นท์ ควรสวมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มกันหนาวมาให้เพียงพอ เพราะยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาวเย็น และไม่อนุญาตให้ก่อกองไฟ หรือนำตะเกียงเจ้าพายุ เข้าไปในเต็นท์ เพราะอาจเกิดอันตราย ซึ่งควรปฏิบัติตามกฎของอุทยานอย่างเคร่งครัดด้วย"

นายพรเทพ กล่าวอีกว่า ปีนี้เราจะใช้ชื่อเหมยขาบเหมือนเดิม เพราะเป็นภาษาทางภาคเหนือในแต่ละภาคจะเรียกชื่อไม่เหมือนกัน ภาคกลาง-น้ำค้างแข็ง ภาคอีสาน-แม่คะนิ้ง ภาคเหนือ จะเรียกเหมยขาบ ส่วนสถิตินักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. นักท่องเที่ยวชาวไทย 5,600 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 420 คน ส่วนยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ 100 คัน และรถยนต์ 1,300 คัน

ทางด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งว่า สภาวะอากาศเมื่อเวลา 07.00 น. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกหนาบางพื้นที่แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือมีอากาศเย็น ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากหมอกหนา ซึ่งคาดว่าจะมีหมอกหนา ตั้งแต่เวลา 10.00 น. วันนี้ จนถึง 10.00 น.วันพรุ่งนี้

สำหรับภาคเหนือตอนบน มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ อุณหภูมิต่ำสุดเช้านี้ วัดได้ 3.6 องศาเซลเซียส ที่ ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 ธ.ค. 2558

ระวัง โจรกระสือ! ล้วงเครื่องในคอมเพรสเซอร์ ไปลอกเอาทองแดงขาย​

​

พบแก๊งโจรที่อุดรธานี งัดเข้าบ้านศาสนาจารย์ที่ไม่มีคนอยู่ ไม่แตะต้องทรัพย์สินอื่น แต่เปิดเครื่องคอมเพรสเซอร์แอร์4ตัว ล้วงเอาเครื่องในที่ทำด้วยทองแดงไปลอกจนหมด ตำรวจคาดนำไปขายร้านรับซื้อของเก่า...

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม ร.ต.อ.ณัศฐวัตรฆ์ สุทธิสา พงส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมตำรวจชุดสืบสวน และชุดพิสูจน์หลักฐาน ออกตรวจสอบเหตุคนร้ายงัดบ้านเลขที่ 33 หมู่ 1 บ้านบงคำ ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี ขโมยถอดท่อทองแดง สายไฟฟ้า และมอเตอร์คอมเพรสเซอร์แอร์ จำนวน 4 ตัว หลังรับแจ้งจาก นางอุไรวรรณ สุขภูมิ ผู้ใหญ่บ้านบงคำ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสร้างอยู่ในเนื้อที่ 5 ไร่เศษ พบ ศจ.ดร.ประชา ไทยวัชรามาศ อายุ 61 ปี ประธานมูลนิธิชีวิตสีขาว เจ้าของบ้าน นำเข้าตรวจสอบ บริเวณลูกกรงเหล็กดัดหน้าต่างหลังบ้าน ถูกงัดเข้ามารื้อค้นภายในบ้าน แต่ไม่มีทรัพย์สินหายไป เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่ได้เก็บของที่มีค่าไว้ คนร้ายจึงไปเปิดเอาท่อทองแดงและอุปกรณ์เครื่องในคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ติดตั้งอยู่ข้างนอกบ้าน จำนวน 4 ตัว นำเอาไปลอกเอาทองแดง ทิ้งซากไว้ข้างศาลหน้าบ้าน โดยมีร่องรอยการปีนรั้วหน้าบ้านทำให้อิฐบล็อกแตกหักออก 2 ก้อนจากแรงปีนของคนร้ายที่คาดว่ามาด้วยกัน 2 คน ทิ้งรอยเท้าและรอยมือไว้บนเฟอร์นิเจอร์ไม้ภายในบ้าน และฝาปิดคอมเพรสเซอร์ ตำรวจจึงเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน ศจ.ดร.ประชา ผู้เสียหายให้การว่า บ้านหลังนี้เป็นของน้องสาวซื้อไว้ และกำลังจะย้ายไปดูแลแม่ที่กำลังป่วยอยู่บ้านอีกหลังในตัวเมือง ตนจึงจะย้ายเข้ามาอยู่แทนในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า ที่ผ่านมาน้องสาวได้ให้คนงานมาช่วยเฝ้าบ้าน โดยปลูกบ้านให้อีกหลังบริเวณหน้าบ้าน ห่างกันราว 50 เมตร ส่วนตนจะมาดูแล 1-2 เดือนครั้ง

"15 ปี ที่ผ่านมา และไม่เคยมีทรัพย์สินภายในบ้านหาย ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ถูกคนร้ายงัดบ้านขโมยเครื่องในคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ทำด้วยทองแดง โดยไม่ขโมยทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นที่อยู่ในบ้าน" ศจ.ดร.ประชา กล่าว

ด้าน ร.ต.อ.ณัศฐวัตรฆ์ สุทธิสา พงส.สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่า จากการตรวจสอบคาดว่าคนร้ายมาด้วยกัน 2 คน มีความรู้เรื่องแอร์และไฟฟ้าเป็นอย่างดี ทั้งยังรู้ว่าไม่มีคนนอนเฝ้าภายในบ้าน จึงพากันเข้าไปขโมยถอดเอาชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เป็นทองแดงในเครื่องคอมเพรสเซอร์ คาดว่านำไปขายร้านรับซื้อของเก่า ส่วนคนงานที่เฝ้าบ้านให้การว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาช่วงกลางดึกได้ยินเสียงสุนัขที่เลี้ยงไว้ 2 ตัว เห่าอยู่ราว 5 นาที กระทั่งเช้าจะออกไปทำธุระข้างนอก พบอิฐบล็อกรั้วหน้าบ้านข้างประตูแตกหัก 2 ก้อน จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านรับทราบ ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 ธ.ค. 2558

คนอ่าวปัตตานีหนุน ไฟฟ้าแสงอาทิตย์​

​

คนอ่าวปัตตานีหนุน ไฟฟ้าแสงอาทิตย์

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. พล.ต.มานะ เกิดโถ ผอ.ศูนย์ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตพสกนิกรรอบอ่าวปัตตานีและงานมวลชน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ศยศ.มช.กอ.รมน.ภาค 4 สน.) นายสาและ เจ๊ะอุเซ็ง กำนัน ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี และชาวบ้าน ต.ตะโล๊ะกาโปร์ จำนวน 700 คน เข้าร่วม รับฟังการทำประชาพิจารณ์ “โครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน” โดยมีหน่วยงานภาคเอกชน บริษัทพลังงานจูล จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนโครงการฯ ร่วมชี้แจงพร้อมทั้งข้อมูลให้ความรู้ความเข้าใจกับชาวบ้านถึงประโยชน์ ที่จะได้รับในอนาคต สำหรับการทำประชาพิจารณ์ในวันนี้ 1.ต้องการให้โครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจาก พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินเกิดขึ้นในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานีหรือไม่ 2.ประชาชนพื้นที่ยินดีให้ใช้ที่ดินในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เป็นที่ตั้งโครงการหรือไม่

และ 3. ยินดีให้สหกรณ์การเกษตรอื่นใช้พื้นที่หมู่ที่ 4 ต.ตะโล๊ะกาโปร์ เป็นที่ตั้งโครงการหรือไม่ จากผลการจัดทำประชาพิจารณ์ ปรากฏว่าชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นชอบให้ดำเนินการโครงการนี้ ทุกคนได้ยกมือเห็นด้วยกับข้อตกลงของศูนย์ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตพสกนิกรรอบอ่าวปัตตานีและงานมวลชน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หรือ (ศยศ.มช.กอ.มน.ภาค4 สน.) เพราะชาวบ้านต้องการความเจริญมาสู่ถิ่นฐานของตัวเองและจะได้รับประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลในอนาคต เมื่อโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่จะทำให้ชาวบ้านมีรายได้เลี้ยงปากท้องและครอบครัว ที่สำคัญเป็นการเพิ่มพูนศักยภาพด้านความมั่นคงและนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่หมู่บ้าน ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศให้ความสงบสุขสันติสุขเกิดขึ้นในพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 11 ธ.ค. 2558

ไทยตอนบน อากาศเย็น-อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย ส่วนใต้ฝนลด​

​

มวลอากาศเย็นปกคลุมไทยตอนบน มีกำลังอ่อนลง ทำอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย กับมีหมอกตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝนลดลงในระยะนี้ ขณะที่ทั่วไทยช่วงบ่ายแดดค่อนข้างแรง แนะเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนร่วมกิจกรรม 'ปั่นเพื่อพ่อ'

วันที่ 11 ธ.ค. วันนี้หลายคนเตรียมตัวออกไปร่วมกิจกรรม 'Bike for Dad ปั่นเพื่อพ่อ' และจากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศ ไทยรัฐทีวี ร่วมกับเดอะ เวตเตอร์ คอมพานี พบว่า วันนี้มวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งก็จะยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า ดังนั้นคนที่วางแผนออกจากบ้านตั้งแต่ในช่วงเช้าต้องเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกด้วย ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ วันนี้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังอ่อน จึงทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนลดลงในระยะนี้ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการออกมาร่วมกิจกรรมมากนัก

ในขณะที่จากการตรวจสอบอุณหภูมิ พบว่า ช่วงเช้าหลายพื้นที่ยังคงได้สัมผัสกับอากาศเย็นๆ ทั้งภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง ต่ำสุดวันนี้ขยับขึ้นจากเมื่อวาน เล็กน้อยไปอยู่ที่ประมาณ 15-18 องศาเซลเซียส ในพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก แดดแรง อากาศร้อนในช่วงกลางวัน สูงสุดยังทรงๆ อยู่ที่ 35-36 องศาเซลเซียส

ดังนั้น สำหรับคุณผู้ชมที่จะออกไปร่วมกิจกรรม "ปั่นเพื่อพ่อ" ซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย แน่นอนในช่วงเวลาดังกล่าว แสงแดดค่อนข้างแรง ดังนั้น การเตรียมพร้อมถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ทั้่งนี้ มี 4 วิธี ในการเตรียมความพร้อมก่อนปั่นเพื่อพ่อ

1. อย่างแรกเมื่ออากาศที่ร้อน ก็จะทำให้ร่างกายเหนื่อยง่าย ความสามารถในการปั่นอาจลดลง ดังนั้นก่อนออกไปปั่นต้องหมั่นฝึกซ้อมปั่นด้วยจักรยานคันที่จะใช้ปั่นจริง เพื่อความคุ้นเคย ซ้อมปั่นให้ได้ระยะทางมากกว่า หรือเท่ากับในการปั่นจริง

2. กินอย่างสมดุล ควรรับประทานอาหารก่อนการปั่นจักรยานอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เป็นอาหารที่ย่อยง่าย เน้นคาร์โบไฮเดรต โปรตีน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ที่สำคัญไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาจพกอาหารที่รับประทานง่ายในระหว่างการปั่น เช่น ลูกเกด กล้วยตาก และเครื่องดื่มเกลือแร่ เนื่องจากสามารถย่อยเป็นน้ำตาลได้เร็ว ร่างกายสามารถดึงพลังงานมาใช้ขณะปั่นได้ทันที

3. วอร์มอัพสักนิดช่วยลดบาดเจ็บ ควรอบอุ่นร่างกายก่อนปั่น 5-10 นาที เป็นการเตรียมการทำงานของร่างกายให้พร้อม ทั้งปอด หัวใจ ขยับแขนไปมา เพื่อเป็นการยืดกล้ามเนื้อ หรือ stretching สามารถช่วยป้องกันการเป็นตะคริวได้ เพราะว่ากล้ามเนื้อส่วนขาจะต้องเคลื่อนที่ในแบบซ้ำๆ และการไม่ได้อบอุ่นร่างกายอย่างถูกต้อง จะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้

4. ตรวจเช็กจักรยานให้พร้อมปั่น และควรเตรียมอุปกรณ์เครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับการปั่นจักรยาน เนื่องจากช่วงนี้อากาศค่อนข้างร้อน ชุดควรระบายความร้อนได้ดี และควรสวมหมวกกันกระแทกเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ศีรษะ และที่สำคัญควรเตรียมพกยาติดตัวไปด้วย

นอกจากนี้ แสงแดดที่จ้าในช่วงกลางวัน อาจทำให้สายตาพร่ามัวได้ แนะนำให้สวมใส่แว่นตากันแดด และที่สำคัญควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปและมีเครื่องหมาย +++

มาดูกันที่สถานการณ์ฝน จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศ วันนี้พบกลุ่มฝนเล็กน้อยในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย โดยในช่วงสายพบใน จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ช่วงเที่ยงพบกลุ่มฝนเพิ่มที่ กระบี่ ตรัง สตูล ช่วงบ่ายพบกลุ่มฝนใน จังหวัดกระบี่ ตรัง สตูล ยะลา และจะค่อยๆ ซา และหยุดลงในช่วงบ่าย ส่วนภาคอื่นๆ ท้องฟ้าค่อนข้างโปร่ง

จากภาพถ่ายดาวเทียมเช้านี้ ก็พบว่า ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง วันนี้มีเมฆเป็นบางส่วน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลาง ไม่พบกลุ่มเมฆฝนในจังหวัดใด ส่วนภาคตะวันออก มีเมฆชั้นสูงเป็นบางส่วน ไม่พบกลุ่มเมฆฝนเช่นเดียวกัน ในขณะที่ภาคใต้ มีเมฆชั้นต่ำและชั้นสูงเป็นบางส่วน พบกลุ่มเมฆฝนบางพื้นที่ในฝั่งอ่าวไทย

ส่วนภาพรวมสภาพอากาศในแต่ละภาคเป็นดังนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเข้า ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า อาจมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ธุรกิจติดดาว กระถางมหัศจรรย์ (ประหยัดน้ำ)​

เผยแพร่เมื่อ 16 มิ.ย. 2012​

 

สมรภูมิไอเดีย ตอน กระถางแก้มลิง​

เผยแพร่เมื่อ 25 ม.ค. 2015​

สมรภูมิไอเดีย ปี 9 ขอนำเสนอสิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อว่า "กระถางแก้มลิง" ที่จะช่วยให้ทุกคนมาร่วมรักโลก โดยการปลูกต้นไม้ แต่การปลูกต้นไม้ของรายการเราต้องไม่ธรรมด­าแน่นอน จะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามชมกัน

รายการสมรภูมิไอเดีย (Brainchild) วันที่ 23 มกราคม 2558 (Brainchild) สิ่งประดิษฐ์มากประโยชน์ ไอเดียดีๆ ที่จะทำให้ท่านต้องร้อง ว้าว! ออกอากาศทุกวันศุกร์ 15.30-15.55 น. ทางช่อง 3

 

เกษตร ฮอตนิวส์ | ปลูกพืชด้วยกระถางแก้มลิง​

เผยแพร่เมื่อ 16 ก.พ. 2015​

 

สวนผักคนเมือง : บนเส้นทางนักปลูกผัก ปลูกเมือง ปลูกชีวิต​

เผยแพร่เมื่อ 30 เม.ย. 2015​

รู้จักเรื่องราวของชุมชนชาวสวนผักคนเมือง กับกระบวนการ ผลลัพธ์ ความงอกงามที่เกิดขึ้น บนเส้นทางการปลูกผัก ปลูกเมือง ปลูกชีวิต

 

การปลูกผักสำหรับคนเมือง​

เผยแพร่เมื่อ 29 เม.ย. 2015​

เรียนรู้เรื่องการเพาะกล้า ย้ายกล้า ปลูกผักในกระถาง สำหรับคนเมือง กับหลักสูตรออนไลน์สวนผักคนเมือง โดยวิทยากรคนเก่งอย่าง คุณป้อม ศิริกุล ซื่อต่อชาติ

 

การปลูกฟักทองในลังกระดาษ​

เผยแพร่เมื่อ 21 มิ.ย. 2015​

อีกแนวทางในการปลูกผักแบบง่ายค่ะคือการปลู­กผักในลังกระดาษหรือบนกระดาษลังสำหรับผู้ท­ี่ประสบปัญหาสภาพดินเป็นกรวดหินเยอะค่ะหรื­อผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการปลูกผักค่ะ

 

วิธีปลูกมะเขือเทศ​

เผยแพร่เมื่อ 3 มิ.ย. 2015​

 

ปักชำมะเขือเทศ​

เผยแพร่เมื่อ 23 มิ.ย. 2014​

 

วิธีปลูกผักบุ้งในกระถาง​

เผยแพร่เมื่อ 29 มิ.ย. 2015​

 

การทดลองปลูกผักบุ้งจีนในกล่อง​

เผยแพร่เมื่อ 21 ก.ค. 2015​

การทดลองปลูกผักบุ้งจีนในกล่องพลาสติกที่ไ­ม่เจาะรูและกล่องกระดาษของต่ายที่ St. Robert, MO, USA ช่วงหน้าร้อนของที่นี่ค่ะ 21 กรกฎาคม 2558

 

"ปลูกผักบุ้งในยางรถยนต์"​

เผยแพร่เมื่อ 25 ส.ค. 2015​

เกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลูกผักบุ้งจีนในล้อยางรถยนต์เก่า ปลูกง่ายและประหยัดเนื้อที่ สามารถสร้างรายได้เสริมชดเชยราคายางตกต่ำส­ูงกว่า 25,000 บาทต่อ กระถางอยู่ 500 ลูก

 

เคล็ดลับการปลูกตำลึง​

เผยแพร่เมื่อ 16 ก.ค. 2015​

การทำสวนเกษตรผสมผสานในพื้นที่รอบบ้าน โดยการปลูกตำลึงในหลุมปลูกกล้วย ข้อดี คือ ตำลึงจะได้น้ำและปุ๋ยจากหลุมปลูกกล้วย ช่วยลดการสูญเสียและลดต้นทุนการปลูกตำลึง ใต้ร่มเงาของต้นกล้วยมีสภาพแวดล้อมที่เหมา­ะสมต่อการเจริญเติบโตของตำลึง ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการทำลายของแมลงโดยเฉ­พาะเพลี้ยต่างๆ การปลูกตำลึงในหลุมกล้วยจึงไม่จำเป็นต้องฉ­ีดสารเคมีกำจัดแมลง ผลผลิตที่ได้จึงเป็นผักที่ปลอดภัยจากสารพิ­ษ ใช้บริโภคในครัวเรือนหรือจำหน่ายเป็นรายได­้เสริม

 

การปลูกถั่วฝักยาว​

เผยแพร่เมื่อ 29 ธ.ค. 2014​

 

สวนเกษตรอินทรีย์​

เผยแพร่เมื่อ 3 พ.ค. 2015​

Foodwork สัปดาห์นี้ "พี่บุ๊ค-บุญสมิทธิ์" กับน้องไข่ดาว และ "ไอด้า- ไอรดา ศิริวุฒิ" เน็ตไอดอลรุ่นใหม่ จะพาไปหาแรงบันดาลใจในการทำอาหาร กันที่ไร่ปลูกรัก สวนที่ทำการเกษตรแบบไม่ใช้สารเคมี หรือที่เราเรียกว่า สวนเกษตรอินทรีย์ จังหวัดราชบุรี มาเรียนรู้เรื่องราวของการทำเกษตรอินทรีย์­หรือออแกนิก ที่ไม่ใช้สารเคมีแต่ใช้ระบบห่วงโซ่อาหารหร­ือระบบนิเวศน์ในการทำสวนเกษตรอินทรีย์

พร้อมทั้งหลากหลายเมนูง่ายๆ เอาใจคนรักสุขภาพ อย่าง "บุษบาคานาเป" ที่เลือกเก็บดอกไม้ที่ทานได้มาเป็นส่วนประ­กอบ และ "ออร์แกนิก ร็อคแอนด์โรล" ที่ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ปลอดสารเคมีเป็นส่­วนประกอบ ชมรายการ Foodwork วันนี้แล้วรับรองว่า จะได้ทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการชีวิต และก็ยังได้วัตถุดิบโดนๆ เอาไปต่อยอดในการทำอาหารได้อย่างแน่นอน

ติดตามชมรายการ Foodwork วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2558 เวลา 17.05 - 17.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง ไทยพีบีเอส Thai PBS:: ชมสด HD

 

พื้นที่สีเขียวใจกลางกรุงเทพ SiamGreenSky​

เผยแพร่เมื่อ 6 ธ.ค. 2015
Green Life เทป พื้นที่สีเขียวใจกลางกรุงเทพ SiamGreenSky​

 

Green Life กับ ดร.อนุรักษ์ เรืองรอบ​

เผยแพร่เมื่อ 29 พ.ย. 2015
สาระความรู้ ข่าวสารการเกษตร ทั่วไทย ทั่วโลก​