ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

กรุงปักกิ่งขอให้นักเรียนอยู่ในอาคารหลังเตือนภัยหมอกควันอีก​

​

ปักกิ่ง 6 ธค. – ทางการกรุงปักกิ่งของจีนประกาศว่า โรงเรียนทุกแห่งในเมืองหลวงต้องให้เด็กนักเรียนอยู่แต่ในอาคารอีก 2-3 วันเนื่องจากคาดว่าหมอกควันจะกลับมาอีก

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่ศึกษาธิการปักกิ่งขอให้เด็กเล็ก นักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้องงดกิจกรรมกลางแจ้ง ภายหลังทางการออกประกาศเตือนภัยหมอกควันในระดับสีส้มตั้งแต่วันจันทร์-วันพุธนี้ กรุงปักกิ่งออกประกาศเตือนภัยสีส้มซึ่งถือว่ารุนแรงเป็นอันดับสองเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นครั้งแรก โดยสั่งให้โรงงานหลายร้อยโรงระงับการผลิตและให้งดการสอน รวมถึงระงับการก่อสร้างในพื้นที่ต่างๆซึ่งเป็นต้นเหตุของฝุ่นควัน

หมอกควันในกรุงปักกิ่งเกินระดับที่จัดอยู่ในขั้นปลอดภัยกว่า 25 เท่า และปกคลุมในพื้นที่ทางภาคเหนือก่อนเบาบางลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา บางโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนเลือกว่าจะเรียนที่บ้านหรือที่โรงเรียนก็ได้ ส่วนโรงเรียนปักกิ่งดิจิตอลจัดการสอนทางออนไลน์ .-สำนักข่าวไทย

อินเดียเปิดบริการสนามบินแล้วหลังน้ำท่วมภาคใต้​

​

เจนไน 6 ธ.ค. – สนามบินหลักของเมืองเจนไนรัฐทมิฬนาฑูของอินเดียซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบเสียหายอย่างรุนแรงที่สุดจากอุทกภัยได้เปิดให้บริการอีกครั้งแล้วในวันนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงพยายามเร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย

นายมาเฮช ชาร์มา รัฐมนตรีด้านการบินแห่งชาติกล่าวว่า ทางวิ่งท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองเจนไนไม่ได้รับความเสียหายแม้จมอยู่ใต้น้ำหลายวัน แต่ได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้สนามบินได้เปิดให้เครื่องบินจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ ก่อนที่ในวันนี้จะเปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ ซึ่งมีผู้โดยสารทยอยเดินทางมาใช้บริการ

ทั้งนี้ประชาชนหลายพันคน ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่แล้ว หลังกระแสน้ำเข้าท่วมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเจนไนจนที่พักอาศัยจมอยู่ใต้น้ำ และกระทบต่อการจ่ายกระแสไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์ .- สำนักข่าวไทย

จีนสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วม​

​

จีนสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วม

จีน 6 ธ.ค. – จีนสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วมบริเวณชายฝั่งนครเซี่ยงไฮ้เป็นระยะทางยาวกว่า 520 กิโลเมตรเมตร หลังผลการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญพบว่า นครเซี่ยงไฮ้มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกน้ำท่วมรุนแรง เนื่องจากในแต่ละปีมีฝนตกเฉลี่ยมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ ถึงร้อยละ 20 และยังมีปัญหาการเพิ่มระดับของน้ำทะเล ทางการยังมีมาตรการป้องกันน้ำท่วมจากแม่น้ำหลายสาย เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดกับประชากร 23 ล้านคน รวมทั้งเศรษฐกิจของมหานครแห่งนี้

ขณะเดียวกันนครเซี่ยงไฮ้ยังประสบปัญหาแผ่นดินทรุด โดยในช่วงกลางทศวรรษ 1970 ทรุดตัวเฉลี่ยถึงปีละ 8 มิลลิเมตร แต่ในปัจจุบันลดลงเหลือปีละ 1.3 มิลลิเมตร. -สำนักข่าวไทย

ตุรกีป้องกันชายแดนอย่างเต็มที่​

​

ตุรกีป้องกันชายแดนอย่างเต็มที่

6 ธ.ค. – นายกรัฐมนตรีอาเหม็ด ดาวูโตกลู ของตุรกี แถลงว่า รัฐบาลดำเนินมาตรการทุกวิถีทางในการป้องกันชายแดน เพื่อไม่ให้กลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลามหรือไอเอสแทรกซึมเข้ามา ขณะนี้กำลังมีการการติดตั้งรั้วกันแนวชายแดนที่ติดกับซีเรีย ซึ่งเป็นพื้นที่ในการยึดครองของไอเอส เป็นระยะทาง 98 กิโลเมตร มีการตัดตั้งระบบเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ยืนยันตุรกียังคงเปิดรับผู้ลี้ภัยให้สามารถข้ามพรมแดนเข้ามาได้

พร้อมกล่าวหารัสเซียว่าทำตัวเป็นอุปสรรคในการปรามปรามกลุ่มไอเอส เนื่องจากรัสเซียโจมตีทางอากาศในจังหวัดอาซาซของซีเรีย ซึ่งเป็นพื้นที่ของฝ่ายค้านสายกลางในซีเรีย ซึ่งต่อต้านไอเอสร่วมกับชาติพันธมิตร. -สำนักข่าวไทย

พายุเดสมอนด์พัดถล่มอังกฤษ​

​

ลอนดอน 6 ธ.ค. – ทางการอังกฤษสั่งปิดถนนหลายสาย อพยพผู้พักอาศัยในบ้านหลายหลัง พร้อมประกาศเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมรุนแรงหลายแห่ง หลังพายุเดสมอนด์เคลื่อนเข้าประเทศในวันนี้

นักพยากรณ์สำนักงานอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัยฝนตกสีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในพื้นภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษและทางตะวันตกเฉียงใต้ของสกอตแลนด์ เนื่องจากอิทธิพลของพายุเดสมอนด์ทำให้เกิดลมพัดรุนแรง และฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในพื้นที่ดังกล่าว

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอังกฤษยังคาดการณ์อีกว่าจะมีฝนตกอย่างหนักมากถึง 7.9 นิ้วในแคว้นคัมเบรีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขา ขณะที่หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมเตือนว่าอาจมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเพราะระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น อังกฤษได้ปิดทางหลวงหลายสายและถนนสัญจรหลักหลายแห่งเมื่อวานนี้ เนื่องจากปัญหาดินถล่มและน้ำท่วม- สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมันในอาเซอร์ไบจาน​

​

บากู 6 ธ.ค. – บริษัทรัฐวิสาหกิจผู้ผลิตน้ำมันของประเทศอาเซอร์ไบจานแถลงยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 1 คน สูญหายอีก 30 คน จากเหตุเพลิงไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลแคสเปียน โดยสามารถช่วยเหลือคนงานได้แล้ว 32 คน และบริษัทคาดว่ามีคนงานที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ 62 คน

แถลงการณ์ร่วมของบริษัทเอสโอซีเออาร์ รัฐวิสาหกิจน้ำมัน หน่วยงานฉุกเฉินของอาเซอร์ไบจานและสำนักงานอัยการระบุว่ากลุ่มคนงานที่สูญหายอยู่ในเรือชูชีพที่ล่มลงในทะเลขณะเกิดคลื่นพายุรุนแรง โดยยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าคนงานที่สูญหายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เหตุเพลิงไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันศุกร์หลังท่อส่งก๊าซใต้น้ำได้รับความเสียหายจากพายุหนัก ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีลมกระโชกแรงและคลื่นสูงถึง 10 เมตร

ทำให้ปฎิบัติการช่วยเหลือเป็นไปได้ยากมากยิ่งขึ้น เรือชูชีพที่คนงานพยายามกลับเข้าฝั่งจากเหตุไฟไหม้แท่นขุดเจาะเกิดล่มลงในทะเล โดยเรือที่อยู่ใกล้สามารถช่วยเหลือคนงานจากเรือชูชีพดังกล่าวได้ 3 คน และพบร่างผู้เสียชีวิต 1 คน ขณะที่คนงานในเรือชูชีพอีกลำได้รับความช่วยเหลืออย่างปลอดภัยเมื่อวานนี้ แถลงการณ์ของบริษัทน้ำมันระบุว่า ไฟยังคงไหม้แท่นขุดอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนวันเสาร์ .- สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

ถวายพระพร ทรงพระเจริญกึกก้อง จุดเทียนชัยสว่างไสว ทุกคนพร้อมใจทําดี
​

​

ถวายพระพร ทรงพระเจริญกึกก้อง จุดเทียนชัยสว่างไสว ทุกคนพร้อมใจทําดี

พสกนิกรชาวไทยทั้งในประเทศและต่างแดน พร้อมใจน้อมถวายราชสดุดี ด้วยความ จงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ร่วมจุดเทียนจนสว่างเจิดจรัสทั่วหล้า ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 รวมถึงทำบุญบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ถวายเป็นพระราชกุศลอย่างพร้อมเพรียง

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม เวียนมาบรรจบอีกครั้ง พสกนิกรไทยทั้งในและต่างประเทศต่างร่วมแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อประชาชนทุกหมู่เหล่า ด้วยการออกมาร่วมทำบุญตักบาตร และทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ถวายเป็นพระราชกุศลกันตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 5 ธ.ค. โดยที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 189 รูป พระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 โดยมีรัฐมนตรี อาทิ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ข้าราชการ ผู้บริหารกรุงเทพมหานครและประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตร โดยนายกฯเดินทักทายพูดคุยกับ รมต.และประชาชนที่มาร่วมงาน ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

ต่อมาเวลา 08.00 น. นายกฯและภริยา เดินทางไปที่ห้องแดง ศาลาว่าการพระราชวังหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง เพื่อถวายแจกันดอกไม้และลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ผู้นำเหล่าทัพ คณะ คสช. หัวหน้าส่วนราชการ อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงเหล่าทูตานุทูต ผู้นำศาสนา และบุคคลสำคัญ เดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพร ชัยมงคล เช่นเดียวกับที่ภายในศาลาสหทัยสมาคม ที่มีกลุ่มพ่อค้า นักธุรกิจ มาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประชาชนทั่วไป สำนักพระราชวังให้ลงนามถวายพระพร ที่ห้องมุขกระสัน ฝั่งตะวันออก ชั้นล่างของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และที่สนามหญ้า ด้านหน้าศาลาลูกขุน ซึ่งบรรยากาศตลอดวัน เนืองแน่นไปด้วยพสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศ พร้อมใจแสดงความจงรักภักดี ด้วยการสวมใส่เสื้อสีเหลือง ถือธงชาติและธงพระปรมาภิไธยย่อ ภปร เดินทางมาต่อแถวลงนามถวายพระพรพ่อหลวงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ ยังเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อร่วมอธิษฐานจิตให้องค์พระภูมีมิ่งขวัญปวงชนชาวไทย ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง อยู่คู่กับพสกนิกรสืบไป

ส่วนที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (วงเวียนโอเดียน) สายวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์และภริยา เป็นประธานเปิดงาน “ไทยเชื้อสายจีน รวมใจ รวมพลัง เทิดไท้มหาราชา” จัดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและชาวไทยเชื้อสายจีน 160 องค์กร ซึ่งมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และคนไทยเชื้อสายจีนเข้าร่วมงาน โดยนายกฯวางพานพุ่มซิ่วท้อ ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าเป็นผลไม้สวรรค์ เพื่ออวยพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุยืนนาน เป็นมิ่งขวัญและเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของคนไทยแล้วนำกล่าวถวายพระพรชัยมงคล และถวายราชสดุดี ต่อด้วยชมกิจกรรมการแสดงโชว์ของคณะสิงโต 88 หัวแปรขบวนเป็นรูปทรงพระเจริญ การแสดงเอ็งกอ เพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดี และการแสดงอุปรากรจีน 24 กตัญญู จากนั้นนายกฯเดินทางไปเยี่ยมและไหว้บิดาที่ รพ.ศิริราช

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า วันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ปีนี้ ประชาชนร่วมทำความดีในหลากรูปแบบมากขึ้น อาทิ ร้านขายอาหารรายย่อยหลายแห่ง ประกาศให้ลูกค้ามาทานอาหารฟรี ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ เช่น แท็กซี่ รถเมล์เล็ก วิน จยย.บางคันติดป้ายให้บริการฟรี 1 วัน เพื่อเป็นการทำดีเพื่อพ่อ รวมถึงนายจิตติวัฒน์ เตชะรัตนยืนยง อายุ 30 ปี ชาว กทม.ที่เดินเท้าไป 37 จังหวัด นำสมุดข้อความถวายพระพรจากประชาชนกว่า 1 หมื่นข้อความ มาทูลเกล้าฯถวาย และบริจาคเส้นผมให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง ถวายเป็นพระราชกุศล ส่วนที่สถานีรถไฟดอนเมือง ชานชาลาที่ 1 กลุ่มจิตอาสาจากองค์กรความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานเขตดอนเมือง โรงแรมอมารี แอร์พอร์ต จัดกิจกรรม “ทำดีถวายพ่อหลวง” ด้วยการทำความสะอาดชานชาลารถไฟ พร้อมเปิดโครงการปรับปรุงทาสีและทำความสะอาดสะพานทางเชื่อมจากสถานีรถไฟดอนเมืองสู่สนามบินดอนเมือง ที่มีสภาพทรุดโทรมให้กลับมาสวยงาม

ในส่วนภูมิภาค คนไทยทุกหมู่เหล่า ต่างพร้อมใจสวมเสื้อเหลืองร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งถวายเป็นพระราชกุศลอย่างเนืองแน่น ก่อนที่จะร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในช่วงค่ำพร้อมกันทั่วประเทศ อาทิ จ.เชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ นำข้าราชการ ประชาชนร่วมตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายไม่ขาดสาย จ.เชียงราย นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผวจ.เชียงราย นำประชาชนทุกหมู่เหล่ากว่า 1,000 คน ร่วมทำบุญตักบาตรที่โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ที่ จ.กำแพงเพชร บริเวณถนนหน้าลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิริจิตอุทยาน ริมแม่น้ำปิง นายธานี ธัญญาโภชน์ ผวจ.กำแพงเพชร นำทุกภาคส่วนร่วมตักบาตรพระสงฆ์ จนสองข้างทางเนืองแน่นด้วยประชาชนพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองเพื่อแสดงความจงรักภักดี ที่วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จ.ลำพูน นายณรงค์ อ่อนสอาด ผวจ. ลำพูน พร้อมด้วยข้าราชการและประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ตามหมู่บ้านและเทศบาลอำเภอรอบนอกร่วมกันพัฒนาหมู่บ้านและทำบุญตักบาตรเพื่อถวายแด่พ่อหลวงของไทยด้วย

ที่ จ.นครราชสีมา บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ. นครราชสีมา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจและประชาชนกว่า 1,000 คน พร้อมใจสวมเสื้อสีเหลืองร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุ สามเณร 109 รูป จากนั้นนายวิเชียร นำข้าราชการทุกหมู่เหล่าลงนามถวายพระพร และถวายพระพรชัยมงคล และถวายราชสดุดีที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ขณะที่มณฑลพิธีทุ่งศรีเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.อุบลราชธานี นำข้าราชการและประชาชน ร่วมทำบญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ต่างตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงและเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป ส่วนที่ลานอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลาง จ.อุดรธานี นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป โดยมีประชาชนร่วมงานจำนวนมาก

ที่สวนสาธารณะศรีธรรมโศกราช อ.เมืองนครศรีธรรมราช นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยข้าราชการ ประชาชน กลุ่มพลังมวลชนต่างๆ ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 100 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล อีกทั้งเป็นการแสดงออกถึงความรักความสมัครสมานสามัคคีของคนไทยทั้งชาติ ที่ลานกีฬาศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา นายดลเดช พัฒนรัฐ ผวจ.ยะลา นำข้าราชการ พ่อค้า พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าพร้อมใจสวมเสื้อเหลืองร่วมทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ต่อมาเวลา 10.00 น. ผู้นับถือศาสนาอิสลาม ร่วมทำพิธีลงนามถวายพระพร ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา (หลังเก่า) ในเขตเทศบาลนคร ที่ถนนถลาง ย่านการค้าเมืองเก่าของ จ.ภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญ– พงศ์ธาดา ผวจ.ภูเก็ต เป็นประธานตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสามเณร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว มีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผวจ.ชัยนาท นำทุกภาคส่วนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 89 รูป บริเวณเขื่อนเรียงหินหน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท พร้อมมอบพันธุ์ต้นสักพระราชทานให้กับเจ้าอาวาสวัดต่างๆในจังหวัดชัยนาท 275 วัด วัดละ 9 ต้น เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่วัดตามโครงการ รวมใจภักดิ์ปลูกมเหสักข์-สักสยามินทร์ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมพิธีปล่อยพันธุ์ปลาลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 500,009 ตัว น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ที่บริเวณหน้าหอพระพุทธสิหิงค์ ส่วนนายคมสัน เอกชัย ผวจ.ชลบุรี นำประชาชน ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ขณะเดียวกันที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้า อบจ.ปราจีนบุรี นายอุกริช พึ่งโสภา ผวจ.ปราจีนบุรี นำคณะข้าราชการ ประชาชนสวมเสื้อเหลืองเป็นสัญลักษณ์แสดงความ จงรักภักดี ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์

จากนั้นในเวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช จัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช ครั้งที่ 41 ประจำปี 2558 ท่ามกลางพสกนิกรชาวไทยจากทั่วประเทศ เดินทางมาร่วมงานจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลกันอย่างล้นหลาม และโดยรอบมณฑลพิธี บรรดาหน่วยงานภาครัฐเอกชน ยังจัดซุ้มนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพ และพระวิริยอุตสาหะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงงานหนักเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวสยาม พร้อมกิจกรรมมหรสพต่างๆครบครัน รวมถึงจัดริ้วขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะ พานพุ่มเงิน พานพุ่มทอง ต้นไม้เงิน ต้นไม้ทอง อย่างวิจิตรสวยงาม กระทั่งเวลาประมาณ 19.29 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.พร้อมภริยา นำกล่าวถวายราชสดุดี และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล จนแสงเทียนสว่างไสวไปทั่ว พร้อมกล่าวคำ “ทรงพระเจริญ” ดังไปทั่วมณฑลพิธีท้องสนามหลวง

ทั้งนี้ นอกจากที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง แล้ว ในพื้นที่ต่างๆทั่ว กทม.และคนไทยทั่วโลก รวมถึงในโลกออนไลน์ ได้ร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัย มงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างพร้อมเพรียง เช่นที่ลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ภายใน รพ.ศิริราช มีประชาชนจำนวนมากพร้อมใจใส่เสื้อเหลือง ร่วมพิธีจุดเทียนชัย โดยระหว่างนั้นทุกสายตาก็จับจ้องไปที่ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นที่ประทับฯ ซึ่งบางรายถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความปีติไว้ไม่ได้ เมื่อเปล่งคำถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” เสียงดังก้องไปทั่ว ทั้งนี้ นางบุญสม เนื้องมัจฉา มาจาก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พร้อมกับหลาน กล่าวว่า มาปักหลักรอตั้งแต่ค่ำของวันที่ 4 ธ.ค. เพราะถือว่าวันที่ 5 ธ.ค.เป็นวันสำคัญที่คนไทยควรจะแสดงออกถึงความจงรักภักดี แม้ว่าปีนี้พระองค์จะไม่เสด็จฯ ก็ไม่รู้สึกผิดหวัง ได้มาอยู่ในบรรยากาศที่ถือว่าเป็นมหามงคลก็เป็นสุขแล้ว

เช่นเดียวกับที่บริเวณลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน กลุ่มพันธมิตรพลังสยาม ร่วมกับชมรมมือกลองจิตอาสา จัดกิจกรรมตีกลองเพื่อพ่อ ในงาน “กึกก้อง ด้วยภักดี” รวมพลังมือกลองทุกเพศทุกวัยทั่วประเทศ จำนวน 89 คน ในจำนวนนี้มีศิลปินมือกลองชื่อดัง อาทิ เอกมันต์ โพธิพันธุ์ทอง, ปู ไมโคร, เลสเตอร์ หินเหล็กไฟ, เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล่, อ๋อ อินคา, โจ มิสเตอร์ดรัม น้องอิกคิว วัย 7 ขวบ เจ้าของฉายามือกลองพันล้าน ฯลฯ รวมถึงมือกลองจากวงดนตรีคนตาบอด มาร่วมบรรเลงเพลงความฝันอันสูงสุด สดุดีมหาราชา และสรรเสริญพระบารมี อย่างกึกก้องพร้อมเพรียงไปทั่วย่านสยาม ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติมาร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลและถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติอย่างเนืองแน่น

ส่วนที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต นางเพ็ชรากรณ์ วัชรพล รองหัวหน้ากองบรรณาธิการ นสพ.ไทยรัฐ คณะผู้บริหารหัวหน้าข่าว และพนักงาน ร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรและถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 88 พรรษา 5 ธ.ค. โดยคณะผู้บริหารและพนักงาน ได้ร้อยดวงใจร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหา–ราชา พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญท่ามกลางแสงเทียนสว่างไสว

ที่ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เวลา 09.30 น. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว นำข้าราชการฝ่ายต่างๆ ทูตานุทูต ชาวไทยและชาวญี่ปุ่น ร่วมถวายเครื่องสักการะ ถวายราชสดุดี และจุดเทียนถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกันนี้ได้ประชาสัมพันธ์กิจกรรม “Bike for DAD” วันที่ 11 ธ.ค.เที่ยงตรง ที่สวนคาไซ รินไก ขณะนี้มีคนมาลงทะเบียนกว่า 500 คน และคาดว่าจะมีคนร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้น

เช่นเดียวกับที่เดอะคิโรโระ อะทริบิว พอร์ท–ฟอลิโอ โฮเต็ล จังหวัดโยอิจิ เกาะฮอกไกโด นายพิชัย รัตตกุล เป็นประธานในพิธีจุดเทียนชัยมงคลถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีนักธุรกิจชาวไทย รวมถึงชาวไทยในประเทศญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวที่มาพักภายในโรงแรมเข้าร่วมพิธี ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นเต็มไปด้วยหิมะ ซึ่งก่อนเริ่มพิธีมีการแสดงโชว์ตีกลองไอโกะของเด็กนักเรียนจากหมู่บ้านอะไกกาวา ใกล้ๆสกีรีสอร์ตด้วย

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 6 ธ.ค. 2558

อุตุฯ เตือน ประชาชนตั้งแต่สุราษฎร์ ถึงนราธิวาส ระวังฝนตกหนักคลื่นลมแรงอีกรอบ​

​

ศูนย์อุตุฯ ภาคใต้ เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี-นราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักบางแห่ง และทะเลคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง 6-9 ธ.ค.

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.58 ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก รายงานสภาพอากาศทางภาคใต้ของไทย พบว่า คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างยังมีกำลังแรงต่อไปอีกจนถึงวันที่ 9 ธ.ค. 58 ทำให้เรือประมงในพื้นที่ จ.สงขลา ส่วนใหญ่ยังไม่กล้านำเรือออกจากฝั่ง เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงต้องนำเรือจอดเทียบท่าและติดตามสภาพอากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกันในพื้นที่จังหวัดสงขลายังอยู่ในช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ มีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณปลายเขื่อนบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา มีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาชายฝั่งทะเล ซึ่งมีแนวทิวสนขึ้นเรียงรายอยู่จำนวนมากได้ถูกคลื่นพัดกัดเซาะจนรากต้นสนโผล่ เนื่องจากไม่มีเขื่อนหินป้องกัน ชาวบ้านจึงหวั่นวิตกว่าแนวทิวสนมีโอกาสที่จะถูกคลื่นซัดจนล้มระเนระนาดเหมือนปีที่ผ่านมา

ตามรายงานสภาพอากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ในวันนี้บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงมาถึงนราธิวาส มีฝนตกเกือบทั่วไปและมีฝนหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยของ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ในช่วงระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคม 2558

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงมาทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งตั้งแต่วันที่ 6-9 ธันวาคม 2558

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ธ.ค. 2558

ภาคเหนือ อีสาน อากาศหนาวเย็นลง 2-4 องศา ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง​

​

อิทธิพลความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากจีนแผ่ปกคลุมไทยตอนบน ส่งผลภาคเหนือ และอีสานอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิลดลง2-4องศาเซลเซียส และมีฝนบางแห่ง ขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่ง

เมื่อ 6 ธ.ค.58 จากการตรวจสอบระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี ร่วมกับเดอะ เวตเตอร์ คอมพานี พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ทำให้ยังคงมีฝนบางแห่ง และมีอากาศหนาวเย็นลง โดยภาคเหนือและภาคอีสาน อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลง และประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังผลกระทบจากฝนที่ตกสะสมและฝนตกหนักไว้ด้วย

สำหรับการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝน พบประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ภาคเหนือและภาคอีสานระมัดระวังลมกระโชกแรง ภาคกลางและภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ และมีฝนตกที่จังหวัดจันทบุรีและตราด

ส่วนภาคใต้วันนี้ พบมีกลุ่มฝนปกคลุมทั่วทั้งภาค ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร จนถึงจังหวัดพัทลุง มีฝนตกกระจายทั่วพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ฝั่งอันดามันตั้งแต่จังหวัดระนองลงมาถึงภูเก็ต มีฝนตกปานกลางถึงหนัก และจะตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 4-15 องศาเซลเซียส

ภาคอีสาน อากาศเย็น และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างจากฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ธ.ค. 2558

ที่มา 5 ธันวา มหาราช - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

พายุลูกเห็บตก บ้านท่ากลอง พะเยา​

เผยแพร่เมื่อ 9 เม.ย. 2012
เหตุเกิดวันที่ 28 เมษา 53 โหดมากมาย​

 

ลูกเห็บตกที่ จ.ตาก​

เผยแพร่เมื่อ 6 เม.ย. 2012​

 

ลูกเห็บตกที่เชียงใหม่​

อัปโหลดเมื่อ 30 มี.ค. 2010
พายุลูกเห็บตกที่เชียงใหม่หนักมาก​

 

ลูกเห็บตกในต่างประเทศ​

Riesenhagel bei Hagelunwetter - 06.08.2013​

 

ลูกเห็บมาจากไหน​

เผยแพร่เมื่อ 30 ก.ค. 2014
นักสำรวจ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 6.50 น. ทางช่อง 3​

 

เรื่องลูกเห็บยักษ์ขนาด 50 กิโลกรัม และ อาวุธแสง​

​

“ท่าน(พระอาจารย์รัตน์) ได้เล่าให้น้องชายของผมฟังถึงเรื่องบรรยากาศของโลกซึ่งเกิดจาก ภาวะเรือนกระจก จนทำให้เกิดเป็นลูกเห็บน้ำแข็งหนักประมาณ 50 กิโลกรัมตกลงมาในอนาคต ท่านพอจะอธิบายเหตุการณ์ตรงนี้ ให้ละเอียดกว่านี้ได้ไหมครับ”

“ตอนแรกอาตมาใช้สมาธิเข้าไปดูว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คือมนุษย์เราเผาผลาญน้ำมันมากอย่างที่เป็นอยู่ขณะนี้ ผลจะเกิดขึ้นเป็นอย่างไรในอนาคต เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คนเราสร้างนั้นไม่ว่ากายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี สร้างเหตุอันใดผลมันก็ต้องย้อนกลับมาจนได้ในที่สุด มนุษย์นี่โง่เขลาเบาปัญญาจึงทำให้เกิดในจุดนี้ พวกเขาคิดแต่จะหาความสะดวกสบายในปัจจุบัน อนาคตผลเสียจะเกิดขึ้นอย่างไรเขาไม่รู้ .....

มีอยู่วันหนึ่งอาตมาไปหยิบหนังสือของศาสนาคริสต์ เกี่ยวกับวันที่พระเจ้าตัดสินโลกออกมาดู อุ้ย ! ทำไมมันเหมือนกับที่เราเห็นก็ไม่รู้ จากสภาวะเรือนกระจก (กรีนเฮ้าส์เอฟเฟค) นี่จะทำให้น้ำแข็งเป็นก้อนๆ หนัก 40 – 50 กิโลกรัม ไปเกาะตัวอยู่ข้างบนบรรยากาศ ในที่สุดก็จะตกลงมาเนื่องจากแรงสั่นสะเทือนของผิวโลก พื้นผิวโลกเกิดการสั่นสะเทือนทำให้บรรยากาศไหวตัว ไปดันเอากระแสของโมเลกุลของน้ำที่อยู่ใกล้ขอบที่อยู่เป็นน้ำแข็งแห้งตกลงมา

พอมันตกลงมาก็จะเป็นน้ำท่วมโลก เพราะว่าเดี๋ยวนี้เราเอามันขึ้นไปไม่รู้เท่าไรแล้ว มันไปหนักอยู่ข้างบนที่นี้พอถึงเวลานั้นน้ำ มันก็ต้องท่วมเป็นธรรมดา แต่มันก็จะต้องมีเหตุเกิดขึ้นเสียก่อนว่า มนุษย์ส่วนใหญ่เป็นคนทำคือไปกดดันสถาณภาพของโลกใบนี้ โลกของเรานี้มันลอยอยู่บนอวกาศแล้วพื้นดินมันก็ลอยอยู่ด้วย มนุษย์นี่ไม่เข้าใจใช้แสงใช้แรงกดดัน แสงนี่หนักที่สุดวัตถุทั้งหมดในโลกนี้ไม่ว่าก้อนอิฐ ก้อนหินหรือว่าแร่ธาตุอะไรที่ว่าหนัก ๆ แล้วก็ยังไม่เท่ากับแสง แสงนี่หนักมากถ้าเราเอาแสงไปกดที่พื้นผิวข้างใดข้างหนึ่ง มันก็จะเกิดการเคลื่อนตัว การแตกแยกเกิดแผ่นดินไหว” (มีการใช้อาวุธแสงในสงครามโลกครั้งที่ 3 – ผู้เขียน)

คำพูดท้ายสุดนี้คงต้องขยายความสักหน่อยว่า ภิกษุรูปนั้น(พระอาจารย์รัตน์)ได้เคยเล่าให้ผมฟังอย่างเป็นทางการว่าอีกไม่นานนัก มนุษย์คงค้นพบเรื่องแสงแล้วมาทำเป็นอาวุธยิงจากอวกาศ อาวุธที่เป็นแสงนี้จะมีลักษณะเป็นเหมือนอาวุธชีวภาพ คือทำให้ผู้คนที่โดนแสงเจ็บป่วยล้มตายได้ ท่านถึงกับบอกว่า “ในอนาคตข้างหน้า โรคภัยไข้เจ็บต่อไปจะเป็นอิทธิพลของแสงเท่านั้น” แต่มนุษย์ผู้คิดค้นอาวุธแสงออกมาได้ คงนึกไม่ถึงว่าอาวุธแสงนี้จะเป็นตัวการก่อให้เกิดแผ่นดินไหว มันจะไปดึงดูดในโมเลกุลของน้ำบนบรรยากาศ ที่อยู่ใต้กรีนเฮ้าส์เอฟเฟค เคลื่อนตัวตกลงมาเป็นน้ำแข็งก้อนใหญ่ จนทำให้น้ำท่วมโลกได้..........

เรื่องที่ผมฟังจากปากท่านแล้วถึงกับหูผึ่ง ก็คือนักวิทยาศาสตร์ชาวตะวันตกสมัยนี้ คือพวกชาวแอตแลนติสกลับชาติมาเกิดและอีกไม่นานคนพวกนี้คงคิดค้น “อาวุธมหาประลัยที่ใช้แสง” ได้เหมือนกับชาวแอตแลนติสในอดีต ซึ่งนำไปสู่จุดจบแห่งการล่มสลายของทวีปแอตแลนติกที่ต้องจมทะเลในที่สุด

ผมขอสารภาพว่าในตอนแรกที่ภิกษุรูปนั้น(พระอาจารย์รัตน์) ได้บอกกับผมว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีลูกเห็บน้ำแข็งหนักประมาณ 50 กิโลกรัมตกลงมาผมยังไม่แน่ใจนัก ผมได้พยายามศึกษาเอกสารงานค้นคว้าคำทำนายต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้จึงได้พบข้อความตอนหนึ่งในหนังสือ “ชนวนสงครามล้างโลก หรือนอสตราดามุส พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ” ของคุณสนธิ สารธรรม หน้า 283 ดังต่อไปนี้

“มนุษย์ที่เหลือต่างปล่อยตัวมัวเมาในกามกิเลสตัณหา และความชั่วร้ายสุดที่จะพรรณนา” จนกระทั่ง ทูตสวรรค์ต้องนำขันแห่งพระพิโรธ 7 ใบเทบนโลก ความหมายของขันที่เจ็ดมีดังนี้ (วิวรณ์ บทที่ 16 )

ขันที่ 7 เกิดวิบัตินานาชาติ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยประสบ ลูกเห็บก้อนใหญ่ขนาดก้อนละ 50 กิโลกรัมตกลงมา คนจำนวนมากจะเสียชีวิต ทรัพย์สินเสียหายเหลือคณานับ เกาะทั้งเกาะจะจมหายไป…….."

(แหล่งที่มา จากหนังสือ มังกรจักรวาล1 ตอนสมาธิหมุน นอสตราดามุส และมนษย์ต่างดาวว่าด้วยญาณทัศนะกับหายนะของโลกก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 โดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย)

ที่มา นึกไป เขียนไป: เรื่องลูกเห็บยักษ์ขนาด 50 กิโลกรัมและอาวุธแสง

 

ใช้จริงแล้ว! อาวุธเลเซอร์ตัวใหม่กองทัพสหรัฐ​

เผยแพร่เมื่อ 29 ก.ย. 2015
ใช้จริงแล้ว! อาวุธเลเซอร์ ตัวใหม่ กองทัพสหรัฐ​

 

เกิดแผ่นดินไหวที่ทาจิกิสถานขนาด 7.2 ริกเตอร์ รู้สึกได้ในหลายประเทศ​

​

วอชิงตัน 7 ธ.ค.- เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริกเตอร์ ทางตะวันออกของทาจิกิสถาน ซึ่งเป็นประเทศในเอเชียกลาง แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ไกลในหลายประเทศ ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.50 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิน ตรงกับเวลา 14.50 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ศูนย์กลางแผ่นดินไหวลึกลงไป 28 กิโลเมตร โดยเกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกล ห่างจากกรุงดูชานเบไปทางตะวันออก 345 กิโลเมตร ผู้คนในเมืองหลวงรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ในกรุงบิชเคกของคีร์กีซสถาน พื้นที่ทางเหนือของอัฟกานิสถาน บางส่วนของอินเดียและปากีสถาน สตรีคนหนึ่งในกรุงอิสลามาบัดของปากีสถาน เผยว่า รู้สึกได้ว่าหน้าต่างและห้องในอาคารแกว่ง ขณะที่สถานีโทรทัศน์ในอินเดียแพร่ภาพผู้คนในกรุงนิวเดลีและเมืองศรีนครวิ่งออกจากอาคารไปอยู่บนถนนเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากแผ่นดินไหว.-สำนักข่าวไทย

ภูเขาไฟอาโสะทางใต้ของญี่ปุ่นปะทุเล็ก ๆ เช้านี้​

​

โตเกียว 7 ธ.ค.- ภูเขาไฟอาโสะในจังหวัดคุมาโมโตะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นปะทุขนาดเล็กในเช้าวันนี้ หลังจากปะทุล่าสุดไปเมื่อเดือนตุลาคม

สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นแจ้งว่า ภูเขาไฟอาโสะซึ่งเป็นภูเขาไฟมีพลังลูกใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นพ่นกลุ่มควันสูงขึ้นจากปากปล่องหมายเลข 1 ของยอดเขานากาดาเกะประมาณ 700 เมตร ถือเป็นการปะทุขนาดเล็ก และปะทุครั้งแรกหลังจากที่ปะทุล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ภูเขาไฟลูกนี้สูงจากระดับน้ำทะเล 1,592 เมตร มียอดสูงทั้งหมด 5 ยอด เป็นทัศนียภาพหลักของเกาะคิวชู ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น.-สำนักข่าวไทย

กรุงปักกิ่งเตือนภัยมลภาวะในระดับสีแดงเป็นครั้งแรก​

​

ปักกิ่ง 7 ธ.ค. – ทางการกรุงปักกิ่งของจีนออกประกาศเตือนภัยมลพิษทางอากาศขึ้นสู่ระดับสีแดงเป็นครั้งแรกในวันนี้ โดยเตือนว่าหมอกควันทึบจะปกคลุมกรุงปักกิ่งตั้งแต่วันอังคารไปจนถึงวันพฤหัสบดี

ที่ผ่านมา ผู้นำจีนให้สัญญาว่าจะปรับปรุงด้านสิ่งแวดล้อมรวมถึงแก้ปัญหามลภาวะทางอากาศที่ปกคลุมตามเมืองใหญ่หลายแห่งหลังจากส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจมาหลายสิบปี ทางการกรุงปักกิ่งมีแถลงการณ์ทางออนไลน์ว่า ให้ยุติการก่อสร้างกลางแจ้งทั้งหมดและให้โรงเรียนงดการสอนในช่วงเวลาที่มีประกาศเตือนภัยระดับสีแดงซึ่งสูงสุดจากทั้งหมด 4 ระดับ ประกาศเตือนของกรุงปักกิ่งมีขึ้นภายหลังจากหมอกควันทึบปกคลุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังจำกัดประเภทรถยนต์ในการสัญจรบนท้องถนนกรุงปักกิ่ง ซึ่งมีประชากร 22.5 ล้านคน .- สำนักข่าวไทย

สถิติผู้ขอลี้ภัยในเยอรมนีพุ่งกว่า 9 แสนคน เป็นประวัติการณ์​

​

เบอร์ลิน 7 ธ.ค. – ตัวเลขอย่างเป็นทางการของเยอรมนีระบุว่า สถิติผู้ขอลี้ภัยรายใหม่มีจำนวน 964,574 คนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่เยอรมนีซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของยุโรปอาจต้องรองรับผู้อพยพเข้าถึง 1 ล้านคนในปี 2558

ข้อมูลกระทรวงมหาดไทยเยอรมนีระบุว่า ในเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียวมีผู้อพยพมากถึง 206,101 คนซึ่งถือเป็นสถิติรายเดือนครั้งใหม่ จากสถิติเดิม 181,166 คนเมื่อเดือนตุลาคม จำนวนผู้อพยพเข้ารายเดือนสูงถึงสี่เท่าจากสถิติตลอดทั้งปี 2557 อย่างไรก็ตามกระทรวงมหาดไทยแถลงว่า สำนักงานด้านการย้ายถิ่นและลี้ภัยจะร่นกระบวนการในการรับผู้อพยพจากโดยเฉลี่ยใช้เวลาราว 7 เดือนเมื่อปี 2557 ให้ลดลงเหลือ 5 เดือนในปีนี้ .-สำนักข่าวไทย

นายกฯอังกฤษเป็นประธานการประชุมครม.ฉุกเฉินจากสถานการณ์น้ำท่วม​

​

ลอนดอน 7 ธ.ค. – นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษกำหนดเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินในวันนี้เพื่อหารือสถานการณ์อุทกภัยครั้งรุนแรงทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งบ้านเรือนหลายพันหลังไม่มีไฟฟ้าใช้มาสองวันติดกันแล้ว

สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมรายงานว่า พายุและฝนตกหนักช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทางการต้องระดมกำลังทหารเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมีประกาศเตือนภัยน้ำท่วมกว่า 80 แห่งในวันจันทร์ ซึ่งมีอยู่ 46 แห่งจัดอยู่ในระดับรุนแรง นายเจมส์ บีแวนส์ ประธานสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมกล่าวตอบเสียงวิจารณ์การรับมือกับภาวะอุทกภัยครั้งนี้ หลังจากพื้นที่บางแห่งในภาคตะวันตกเฉียงเหนือเคยเผชิญอุทกภัยครั้งใหญ่ไปเมื่อปี 2548 และ 2552 โดยบอกว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ .- สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

เหนือ-อีสานอากาศเย็นวูบ นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นเขาสัมผัสลมหนาว​

​

อากาศหนาวมาเยือนภาคเหนือ-อีสาน ยอดดอยอินทนนท์วัดได้ 5 องศาฯ อช.ภูเรือ 11 องศาฯ เช่นเดียวกับพื้นราบที่อากาศเริ่มเย็นอุณหภูมิอยู่ประมาณ 16-22 องศาฯ อช.ขุนสถาน จ.น่าน หนาวถึง 10 องศาฯ ผามออีแดง จ.ศรีสะเกษ อยู่ที่ 16 องศาฯ...

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 7 ธ.ค.2558 สภาพอากาศเช้านี้ที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ มีนักท่องเที่ยวแห่ขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวกันเป็นจำนวนมาก โดยอุณหภูมิต่ำสุดที่ยอดดอยวัดได้ 5 องศาเซลเซียล และที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิ 7 องศาฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสภาพอากาศที่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย หลังจากที่ช่วงก่อนหน้านี้ได้มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน จึงทำให้สภาพอากาศเริ่มเย็นลดลงอย่างต่อเนื่อง จนสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนอุณหภูมิลดลงเย็นสบายอยู่ที่ 21-22 องศา เพียงข้ามคืน โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาอากาศโดยทั่วไปหนาวเย็นเป็นสัญญาณว่า หน้าหนาวได้มาเยือนแล้ว ชาวบ้านในหลายพื้นที่หลังตื่นขึ้นมาต้องนำเสื้อกันหนาวออกมาสวมใส่เพื่อให้ ความอบอุ่นแก่ร่างกาย หลายคนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเด็กปรับตัวไม่ทันเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างค่อนข้างรวดเร็ว

ขณะที่ ในพื้นที่ จ.น่าน ในช่วงวันหยุดมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวตามอุทยานต่างๆ ในพื้นที่ จ.น่าน ทั้งหมด 7 อุทยาน 1 วนอุทยาน ในแต่ล่ะอุทยานต่างๆ ในพื้นที่ยังคงคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางไป สัมผัสอากาศที่กำลังเริ่มหนาวเย็น โดยเฉพาะในที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อ.นาน้อย จ.น่าน ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปกางเต็นท์เพื่อรอสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม ของทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าและที่สำคัญได้สัมผัสกับสภาพอากาศที่ เย็นสบายที่กำลังจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ในเช้านี้ที่ มีอุณหภูมิ อยู่ที่ประมาณ 10-11 องศา ท่ามกลางทะเลหมอก พร้อมกับสายฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย

สำหรับ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อ.นาน้อย จ.น่าน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 1,424 เมตร ระหว่างทางไปอุทยานฯมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม รวมถึงทะเลหมอกอลังการให้ได้ชม มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ตอนเย็นจะได้สัมผัสท้องฟ้าที่สวยงามมาก ตอนกลางคืนสามารถมองเห็นไฟส่องสว่างของหมู่บ้าน ในตำบลสันทะมีลักษณะเหมือนดาวที่อยู่บนดินกลมกลืนกับดาวที่อยู่บนท้องฟ้ากว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา เพราะตั้งแต่ปลายฝน นักท่องเที่ยวก็มาเที่ยวทุกวันไม่ว่าจะเป็นวันหยุดยาวหรือวันทำงานก็ตาม บางคนก็มากางเต็นท์นอน บางคนก็จะมารับชมธรรมชาติเก็บบรรยากาศที่สวยงามก็จะกลับเข้าไปพักที่ในเมือง ในแต่ล่ะวันมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อย

ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อ.นาน้อย จ.น่าน มีพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นมานอนเพื่อจะรอรับชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นได้ ถึง 400-500 เต็นท์ หากใครไม่มีเต็นท์พักแรมติดมา มาก็สามารถเช่าเต็นท์ของทางอุทยานได้ในราคา 400 บาทต่อคืน หรือตามจำนวนคนที่จะพักในเต็นท์แต่ล่ะหลัง โดยที่จะมี จนท.อช.ขุนสถาน จะคอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชม. หากนักท่องเที่ยวจะติดต่อสอบถามสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 08-7173-9549 ได้

ส่วนพื้นที่ภาคอีสาน อุณหภูมิต่ำสุดวันนี้ที่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ อ.ภูเรือ จ.เลย วัดได้ 11 องศาเซลเซียส ส่วนพื้นราบอุณหภูมิต่ำสุดที่ ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม วัดได้ 18.6 องศาเซลเซียส

จังหวัดศรีสะเกษอุณหภูมิลดลงอีก อากาศหนาวเย็น ในตัวเมืองเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 19 องศาเซลเซียส ตามหมู่บ้านที่อยู่ติดชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งติดป่าเขา และบนยอดภูอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 16 องศาเซลเซียส มีลมพัดแรง วันนี้ยังเป็นวันหยุดชดเชยวันพ่อ จากอากาศที่หนาวเย็นทำให้มีนักท่องเที่ยวขึ้นเที่ยวชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ขึ้น และสัมผัสอากาศหนาวบนผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กันจำนวนนับพันคน นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปต่างก็พึงพอใจที่ได้สัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น โดยในช่วงกลางสัปดาห์นี้อุณหภูมิจะสูงขึ้นอากาศจะอุ่นขึ้นเล็กน้อย.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 7 ธ.ค. 2558

ไฟไหม้กลางดึก ชุมชนโปโลวอด เสียหาย 25 หลัง​

​

ไฟไหม้ชุมชนซอยโปโล หลัง โรงพักลุมพินีกลางดึก เจ้าหน้าที่ระดมน้ำสกัดเพลิงวุ่น เพราะ ที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบ ต้องใช้รถน้ำขนาดเล็กและเครื่องสูบน้ำแบกหามเข้าไปฉีดน้ำดับด้วยความทุลักทุเล แถมยังมีลมกระโชกเป็นระยะ สุดท้ายไฟเผาวอดไป 25 หลัง ประชาชนเดือดร้อนร่วมร้อยคน ตำรวจระบุบ้านต้นเพลิงมาจากบ้านไม้ให้เช่า เบื้องต้นคาดสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร

เหตุไฟไหม้ชุมชนซอยโปโลกลางดึกครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. ร.ต.ท.คม รอดเภา พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ในชุมชนโปโล (ซอยชุมชนศาลาแดง) ซอยโปโล 7 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน รีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผกก.ป.สน.ลุมพินี พร้อมประสานรถน้ำจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างซอยโปโล 6 และ 7 ด้านหลัง สน.ลุมพินี พบไฟกำลังลุกไหม้บ้านเรือนที่อยู่ในชุมชน ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำสกัด แต่เนื่องจากเป็นซอยแคบ การควบคุมเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก รถน้ำขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปได้ ต้องใช้รถน้ำขนาดเล็ก และเครื่องสูบน้ำ แบบแบกหามเข้าสนับสนุน ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นไม่พบผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ

จากการสอบสวนนายถนอม ไทยประดิษฐ์ อายุ 44 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป และเป็นหนึ่งในผู้ประสบภัย กล่าวว่า พักอยู่ในชุมชนดังกล่าวมานานกว่า 25 ปี ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 03.00 น. ขณะนอนอยู่ในห้องเช่า ได้ยินเสียงคนเอะอะโวยวายตะโกนว่าไฟไหม้ รีบลุกจากที่นอนและคว้าถังดับเพลิงเคมีหวังจะเข้าสกัดไฟ แต่ไฟลุกไหม้เร็วเกินกว่าจะดับได้ รีบวิ่งหนีตายเอาชีวิตรอด สูญเสียข้าวของและที่พักอาศัยทั้งหมด ตั้งแต่อยู่มาไม่เคย มีไฟไหม้มาก่อน และไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น

ต่อมาเช้าวันเดียวกัน พ.ต.อ.เดชา พรมสุวรรณ์ พนง.ผทค.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นจากบ้านเลขที่ 123/6 เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น แบ่งเป็นห้องให้เช่า ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ก่อนจะเกิดประกายไฟและลุกลามขึ้นไปยังหลังคาบ้านที่ทำจากไม้ ประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีลมกระโชกแรง ทำให้ไฟลุกลามรวดเร็ว บ้านเรือนเสียหายประมาณ 25 หลัง มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 90 คน และยังมีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความอยู่เป็นระยะ ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ ทั้งนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงลุกไหม้ที่แท้จริง พร้อมทั้งติดต่อเจ้าของบ้านต้นเพลิงเข้าให้ปากคำต่อไป

ส่วนบรรยากาศในชุมชนโปโล ชาวบ้านที่พัก อาศัยอยู่ในที่เกิดเหตุได้เข้ามาขนข้าวของที่ยังไม่ไหม้ไฟ บางส่วนจับกลุ่มคุยถึงเหตุระทึกที่เกิดขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี รวมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตปทุมวัน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณสนามบอล โปโล ปาร์ค คลับ ตั้งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อรับเรื่องและรวบรวมข้อมูลในการให้ความช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 7 ธ.ค. 2558

บูมล่องแพแก่งไฮ ท่องเที่ยววิถีชุมชน​

​

เที่ยงวันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อ่างห้วยซำรู้ หมู่ 11 บ้านแก่งไฮ ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ได้เปิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยให้นักท่องเที่ยวไปพักผ่อน ทานอาหาร พร้อมล่องแพ สัมผัสบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ

โดยนายสุรเชษฐ์ ด่อนดี อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และนายอำนาจ กุลทอง อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านแก่งไฮ ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย เปิดเผยว่า สถานที่ตั้งแพแก่งไฮ หมู่ 11 ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก อยู่ในพื้นที่ 600 ไร่ ของห้วยซำรู้ ห้วยตามา และห้วยนาจาน เป็นอ่างเก็บน้ำใช้หล่อเลี้ยงชีวิตชาวบ้านกว่า 10 หมู่บ้านในละแวกนี้ แต่เดิมพื้นที่โดยรอบอ่างมีหญ้าขึ้นรกร้าง เป็นแหล่งมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่นยามค่ำคืน ตนจึงคิดว่าพื้นที่แห่งนี้ควรจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์ จึงได้พูดคุยกันระหว่างผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน เพื่อทำแพแก่งไฮ ให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนช่วงวันหยุด

นายอำนาจเล่าต่อว่า หลังจากพูดคุยกัน ก็ได้ทำการประชาคมชาวบ้านในหมู่บ้าน เรื่องบริหารจัดการพื้นที่รอบอ่าง ซึ่งชาวบ้านทุกคนก็เห็นด้วยที่จะเปิดใช้ประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ โดยทางเจ้าของแพให้การสนับสนุนเงินเข้าหมู่บ้านปีละ 2 หมื่นบาท และในอนาคตหากประสบผลสำเร็จ มีนักท่องเที่ยวรู้จักมากขึ้น เพราะเป็นเส้นทางผ่านไปยังอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะมีการจัดทำตลาดนัดชุมชน โดยเปิดให้ชาวบ้านนำของดีในชุมชนมาขายสร้างรายได้เข้าชุมชนอีกทางหนึ่ง

ด้านนายสุรเชษฐ์ เจ้าของแพเล่าว่า เริ่มต้นตนมาถางหญ้าทำความสะอาดบริเวณโดยรอบ สร้างครัวสำหรับเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลนักท่องเที่ยว และทำอาหารบริเวณด้านบน จากนั้นได้ทำแพ 10 หลัง โดยเน้นวัสดุธรรมชาติ เปิดให้นักท่องเที่ยวมาล่องแพ พร้อมทานอาหาร โดยใช้เรือหางยาวลากแพไปผูกไว้กับทุ่นบริเวณกลางอ่างเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ในแพจะมีอุปกรณ์ประเภทเสื้อชูชีพ และห่วงยางไว้เพื่อความปลอดภัย โดยจะเน้นย้ำนักท่องเที่ยวให้เซฟตี้ตัวเองหากจะลงเล่นน้ำ ทดลองเปิดให้บริการมาประมาณ 1 เดือน เริ่มมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวสั่งจองแพเต็มทุกวัน นักท่องเที่ยวท่านใดสนใจล่องแพแก่งไฮ สามารถสอบถามเส้นทาง หรือโทร.สำรองแพได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 08-7200-9941.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 7 ธ.ค. 2558

ทำน้ำจืดเกาะลันตา ใกล้จะเป็นความจริง​

​

นายสมพงษ์ ดำรงอ่องตระกูล นายก อบต. ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เปิดเผยว่าตามที่ อบต.ศาลาด่าน ประกาศหาผู้รับจ้างผลิตน้ำเค็มเป็นน้ำจืดในพื้นที่ ต.ศาลาด่าน และพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำจืดในช่วงหน้าแล้ง และมีบริษัทเอกชนให้ความสนใจจะเข้าดำเนินการ 3 บริษัท

โดยแต่ละบริษัทได้สำรองพื้นที่เพื่อเป็นที่ตั้งของโครงการไว้เรียบร้อยแล้ว รอเพียงการเสนอราคาค่าใช้บริการให้ อบต.ศาลาด่านทราบ ซึ่งทางอบต.ศาลาด่าน จะต้องให้สำนักงานโยธาธิการ จังหวัดกระบี่ และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยก่อนให้บริษัทเสนอราคาค่าใช้บริการนั้น

นายสมพงษ์กล่าวว่า เพื่อให้โครงการดังกล่าวเป็นไปอย่างทันเหตุการณ์ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการในพื้นที่หมู่ 1 ต.ศาลาด่าน ซึ่งเป็นย่านธุรกิจ มีอาคารบ้านเรือนอยู่ประมาณ 500 ครัวเรือน รวมทั้งโรงแรม รีสอร์ต และเกสต์เฮาส์ประมาณ 100 แห่ง ซึ่งมีความต้องการใช้น้ำจืดวันละประมาณ 500-1000 คิว โดยทางบริษัทจะต้องลงทุนดำเนินการเป็นแห่งแรกประมาณ 80-100 ล้านบาท จากนั้นจะขยายโครงการไปในพื้นที่ของตำบลศาลาด่าน ต่อไปจนครบตามความต้องการของประชาชน.

นายก อบต.ศาลาด่านเปิดเผยต่อไปว่า ทางผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของ อบต.ศาลาด่าน ได้เดินทางไปศึกษางานการทำน้ำเค็มเป็นน้ำจืดที่จังหวัดภูเก็ต จนเป็นที่เข้าใจระบบและค่าใช้จ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้นก็คาดว่าจะสามารถแก้ไขปรับปรุงให้เดินหน้าได้อย่างราบรื่นได้ แต่เนื่องจากโครงการลักษณะนี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับชาวเกาะลันตาจึงต้องพิจารณาแต่ละขั้นตอนด้วยความรอบคอบ

“ประเทศไทยมีพื้นที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำจืดโดยวิธีการทำน้ำเค็มเป็นน้ำจืดรวมทั้งอำเภอเกาะลันตาที่ธุรกิจท่องเที่ยวกำลังขยายตัวเติบโตอย่างเต็มที่ ซึ่งผู้บริหารท้องที่จะต้องอำนวยความสะดวกในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเช่นเรื่องถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปา ให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวให้มากที่สุด ทาง อบต. ศาลาด่านจึงต้องเตรียมพร้อมเรื่องเหล่านี้โดยจะละเลยหรือทำเมินเฉยไม่ได้” นายสมพงษ์กล่าวในตอนท้ายอย่างจริงจัง.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 7 ธ.ค. 2558

ไทยตอนบน อุณหภูมิลด 2-4 องศา ภาคใต้ฝนเพิ่ม ตกหนักบางแห่ง​

​

ไทยตอนบน มีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดลง 2-4 องศา ยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขณะภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่ สุราษฎร์ธานีลงไป มีคลื่นสูง 2 เมตร ขอชาวเรือ ควรเดินเรือ ด้วยความระมัดระวัง

วันที่ 7 ธ.ค.จากการตรวจสอบระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี ร่วมกับเดอะ เวตเตอร์ คอมพานี พบว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่า เป็นช่วงเวลาที่ทางตอนบนของไทยได้สัมผัสอากาศหนาวเย็นในหลายพื้นที่

จากการตรวจสอบสภาพอากาศเช้าวันนี้ พบว่า หลายพื้นที่ในเช้านี้ มีอากาศเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะตั้งแต่วันนี้ไป จนถึงกลางสัปดาห์มวลอากาศเย็นกำลังปานกลาง จะยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอากาศหนาวเย็นลง โดยภาคเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และภาคอื่นๆ จะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณภูเขาสูงในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ดังนั้น ผู้ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ต้องดูแลรักษาสุขภาพจากการอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น จึงทำให้บริเวณภาคใต้ มีฝนตกเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง และบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทย ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้ด้วย

ส่วนหลังกลางสัปดาห์เป็นต้นไป มวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศดังกล่าว มีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงทำให้มีอากาศเย็นในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนลดลง

จากภาพถ่ายดาวเทียมในเช้าวันนี้ พบว่าบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง มีเมฆชั้นกลางและชั้นสูงเป็นส่วนมาก พบกลุ่มเมฆฝนเป็นบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ส่วนภาคตะวันออก มีเมฆชั้นสูงเป็นบางส่วน ไม่พบกลุ่มเมฆฝนในจังหวัดใด ขณะที่พื้นที่ภาคใต้ มีเมฆชั้นต่ำและขั้นสูงเป็นส่วนมาก พบกลุ่มเมฆฝนบริเวณฝั่งอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป

และจากการพิจารณาปริมาณน้ำฝนตกสะสมตลอด 24 ชั่วโมงในวันนี้ก็พบว่า โดยส่วนใหญ่นั้นยังคงเน้นตกสะสม ในบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง โดยจากการคาดการณ์สถานการณ์ฝนตามช่วงเวลาในวันนี้นั้น พบว่า ตั้งแต่ในช่วงเช้าพบการกระจายตัวของกลุ่มฝน บริเวณอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจนถึงตอนล่างของภาค หลังจากนั้น ในช่วงสายเน้นตกบริเวณตอนกลางของประเทศทั้งในฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน นอกจากนี้ ยังพบกลุ่มฝนทางตอนล่างของภาคบริเวณ 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วย ช่วงบ่ายกลุ่มฝนลดลง เหลือตกบางพื้นที่บริเวณตอนกลาง และตอนล่างของภาคเท่านั้น ช่วงเย็นพบกลุ่มฝนใน จังหวัด ตรัง พัทลุง ยะลา และนราธิวาส และจะซาลงในช่วงค่ำ

ส่วนอุณหภูมิในเช้าวันนี้ ตอนบนของภาคเหนือ อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุดพื้นราบ ประมาณ 14 - 15 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส บริเวณภาคอีสานอากาศเย็นอุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดวันนี้ ยังคงอยู่ในบริเวณภาคกลางตอนล่าง ประมาณ 34 - 35 องศาเซลเซียส

ขณะที่สภาพอากาศในแต่ละภาคเป็นดังนี้

ภาคเหนือ มีอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14 องศาเซลเซียส ตอนกลางวันอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 7 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ชุมชนบูมล่องแพแก่งไฮ แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่​

เผยแพร่เมื่อ 7 ธ.ค. 2015​

 

สาธิตการทำเอนไซม์ โดย ดร.รสสุคนธ์​

เผยแพร่เมื่อ 9 ธ.ค. 2014
สาธิตการทำเอนไซม์ โดย ดร.รสสุคนธ์​

 

น้ำผักปั่น ดร.รสสุคนธ์ (Vegetable Juice)​

เผยแพร่เมื่อ 4 ธ.ค. 2014
น้ำผักปั่น สูตร ดร.รสสุคนธ์ (Vegetable Juice)​

 

ธรรมชาติบำบัด ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์​

เผยแพร่เมื่อ 25 ต.ค. 2014​

 

ป่ากับมนุษย์ ความสัมพันธ์กันอย่างเกื้อกูล​

อัปโหลดเมื่อ 16 มิ.ย. 2009
เช้านี้ที่ Healthfarm : ตอน ป่ากับมนุษย์ ความสัมพันธ์กันอย่างเกื้อกูล​

 

พึ่งพาตนเอง : ใบไม้กับการลดใช้พลังงานโลก : มหันภัยกัมมันภาพรังสี​

อัปโหลดเมื่อ 3 ก.พ. 2011
เช้านี้ที่ Healthfarm : ตอน พึ่งพาตนเอง : ใบไม้กับการลดใช้พลังงานโลก : มหันภัยกัมมันภาพรังสี​

 

ทั่วถิ่นแดนไทย : เขียวด้วยหัวใจ บางกะเจ้า จ.สมุทรปราการ​

เผยแพร่เมื่อ 18 เม.ย. 2015​

การเดินทางไปในที่ต่างๆ เปรียบเสมือนบทเรียนบทหนึ่ง ที่บอกเล่าเรื่องราว แง่คิด มุมมอง ให้เราได้เรียนรู้ ให้เรามีรอยยิ้ม ให้เรามีพลังในการใช้ชีวิตที่นี่ บางกะเจ้า จ.สมุทรปราการ ก็เช่นกัน

บางกะเจ้าในวันนี้ยังคงเป็นปอดใหญ่ของเมือ­งหลวง ด้วยพื้นที่สีเขียว สดชื่นไปกับธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์ท่ามกล­างเมืองใหญ่ที่โอบล้อมไว้ อีกทั้งยังรักษาวิถีดั้งเดิมไว้ได้อย่างงด­งาม

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากทุกคนในท้องถิ่นมี­หัวใจดวงเดียวกัน นั่นคือ หัวใจสีเขียว หัวใจแห่งการอนุรักษ์ ยึดมั่นในวิถี เล็งเห็นคุณค่าของทรัพยากรท้องถิ่น และยังมุ่งปลูกจิตสำนึกดีสู่ลูกหลาน ให้มีความสุขกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติด้วยความสมดุล

รูปแบบการอนุรักษ์ของชาวบางกะเจ้า จ.สมุทรปราการ จะเต็มอิ่มไปด้วยรอยยิ้ม และสร้างลมหายใจอันแสนสดชื่นให้ผู้มาเยือน­ได้มากเพียงใด

ติดตามความสุขและยิ้มที่แสนสวยได้ในรายการ­ทั่วถิ่นแดนไทย ตอน เขียวด้วยหัวใจ บางกะเจ้า จ.สมุทรปราการ วันเสาร์ที่ 18 เมษายนนี้ เวลา 14.05.-14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง ไทยพีบีเอส Thai PBS:: ชมสด HD

 

ทั่วถิ่นแดนไทย ตอน เส้นทางแห่งความสุข ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย​

เผยแพร่เมื่อ 8 ก.ค. 2014​

ทั่วถิ่นแดนไทย : เส้นทางแห่งความสุข ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย ออกอากาศวันที่ 18 ม.ค. 57 เดินตามเส้นทางแห่งความสุขโดยการใช้หัวใจเ­ดินทาง เพื่อค้นพบกับการเรียนรู้ที่น่าสนใจ มองเห็นถึงความสวยงามที่รอคอยอยู่ตรงหน้า เส้นทางแห่งความสุขที่เรียกว่า ภูชี้ฟ้า

ร่วมเรียนรู้กับรายการทั่วถิ่นแดนไทย ซึมซับบรรยากาศที่แสนอบอุ่นเริ่มต้นที่ ดอยผาตั้ง อำเภอเวียงแก่น เข้าใจถึงประวัติศาสตร์ที่มีมาในรุ่นก่อน สะท้อนอดีตที่แจ่มชัดในปัจจุบัน เติมเต็มประสบการณ์นอกห้องเรียนด้วยไกด์ตั­วน้อย ที่จะคอยบอกเล่าความเป็นมา เก็บเกี่ยวภาพประทับใจทั้งสายหมอก และวิวทิวทัศน์ที่แสนงดงามผ่านสายตาและภาพ­ถ่าย

แล้วไปเดินทางเรียนรู้กันต่อที่อำเภอเทิง มุ่งหน้าสู่ภูชี้ฟ้า แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเชียงราย เอกลักษณ์แห่งความงดงามบนยอดเขา ลองขึ้นไปมองฟ้าในยามเช้ามืดและรอคอยแสงแร­ก แล้วจะรู้ว่าคุณค่าของการได้มายืนมองพระอา­ทิตย์ขึ้นยามเช้าตรงหน้านั้นมีความหมายอย่­างไร

แลกเปลี่ยนกับชาวบ้านที่หมู่ บ้านม้งบ้านราษฎร์ภักดี สนุกกับการทำอาหารและขนมพื้นถิ่น พร้อมด้วยการชมงานปักของชาวม้งที่สืบทอดกั­นมานานหลายรุ่น

 

ทั่วถิ่นแดนไทย : สุขแห่งความพอเพียง บ้านขามเปี้ย จ.บึงกาฬ​

เผยแพร่เมื่อ 12 ธ.ค. 2014​

ความสุขแบบเรียบง่ายเกิดขึ้นไม่ยาก หากเราเข้าใจเข้าถึงที่นี่ บ้านขามเปี้ย อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ มีทุกความสุขรวมอยู่ในหมู่บ้าน การใช้ชีวิตที่ดำเนินมาจากรุ่นบรรพบุรุษ การรู้จักทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยสิ่งที่มีโดย­รอบ ทั้งธรรมชาติและสิ่งที่สร้างขึ้น

การเดินเข้าไปหาความสุขจึงเป็นสิ่งที่หาได­้ไม่ยาก เพียงแค่บ้านหนึ่งหลังก็ทำให้เรารู้จักกับ­คำว่าเพียงพอได้แล้ว การปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ทำนา คือความเป็นอยู่ที่หมุนเวียนอยู่เสมอ ยิ่งเราได้ใกล้ชิดก็จะยิ่งมองเห็นได้ชัด การเรียนรู้ครั้งนี้จึงเป็นการเดินทางที่ค­ุ้มค่า เพราะเมื่อเรากลับมาสิ่งที่ติดตัวมานั้นสา­มารถนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง

ติดตามความสุขที่มาจากการเรียนรู้ มาจากภูมิปัญญา มาจากความรักในรากเหง้าได้ ในรายการทั่วถิ่นแดนไทย วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม 2557 เวลา 09.35-10.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง ไทยพีบีเอส Thai PBS:: ชมสด HD