ตรวจด้วยตาทิพย์พบแล้ว พระศรีอาร์ฯ คือ คนนี้!

ท่านจะเฉไฉ ไปไหนเล่า

ท่านเอาสิ่งใดจากผู้อื่นไป ก็กล่าวมา เท่านั้น จะรับ จะปฏิเสธ ก็ว่าไปตรงๆ

ส่วนเหตุผล ร้อยแปด ที่เมาสนับการกระทำตามกิเลสตน ก็อ้างได้สารพัด

ท่านจะลงนรก ก็เรื่องของท่าน ท่านพอใจดังนั้น ก็เป็นเรื่องท่าน

ใครเขาจะไปเดือดร้อนกับท่านด้วยเล่า

 

หลงไปซะไกล รู้ตัว รู้สึกมั่งป่าว ว่าคุยเรื่องอะไร ย้อนให้ดู
จะได้มีสติมั่งว่าคุยเรื่องอะไร อย่ามีแต่หลง

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ k.kwan
ถ้ามีเรื่องแบบนี้ ทำไมพระอานนท์ ถึงไม่บรรลุอรหันต์ตั้งแต่แรก
แต่มาบรรลุฯ หลังจากพระพุทธองค์ เสด็จปรินิพพานไปแล้ว
โดยที่ต้องบำเพ็ญเพียรภาวนาด้วยตัวเองอีกด้วย
พระพุทธองค์ ทรงชี้ทางเท่านั้น
ไม่ได้ทำอะไรแปลกๆ แบบพวกคุณ

 

.....แก้ไข....

ท่านผู้หลุดพ้น จาก หิริโอตัปปะ โดยสิ้นเชิง

ขาดสำรวม กาย วาจา ใจ โดยสิ้นเชิง นะ

 

อะนะ ท่านรู้ตัวไหม นี่ ความคิดของผุ้หลุดพ้น แล้ว นะ

รู้สึกตัว มั่งป่าว อ่าน หลายๆ รอบนะ

หิริโอตัปปะ ละอายต่อบาป การสำรวม กาย วาจา ใจ

ท่องไว้บ้างก็ดีนะ

 

<table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 9 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </td> <td class="thead" width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%">jinny95, k.kwan+, konngaam, kuro122+, spk7192, TVJ</td></tr></tbody></table>
พี่ kuro122 ดูละครซ้อนสมมุติเหรอ ^-^

 

นะ ก็ค่อยๆ กลับมา ละกัน

สติปัฏฐาน4 อริยสัจจ์4 ท่องไว้ แต่ทำไม่เป็น ผล ก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็น

รู้ดี รู้ชั่ว รู้ละอาย ต่อบาป ยังทำไม่ได้

รู้สำรวม กาย วาจา ใจ ยังทำไม่ได้

ก็เป็นได้เพียง ผู้หลุดพ้นจากสัมมาทิฏฐิ แห่ง พระพุทธองค์ เท่านั้น

เหลือเพียง ผู้บ้าคลั่ง อำนาจ กิเลส ตัณหา เท่านั้น

 

มาดู ผู้หลุดพ้น จากสัมมาทิฏฐิ กันหรอคะ ฮุฮุ

 

ง่ะ ห้ามดูหรอ แป่ว

 

นี่ท่าน คิดเป็น แต่ แกล้งทำ แกล้งก๊อปปี้ ให้เหมือนคนดี อยู่หรือไง

ทำจริง ไม่เป็น อะดิ รู้แต่ของปลอมๆ ทำปลอมๆ

มิน่า ความละอายต่อบาป สำรวม กาย วาจา ใจ จึงไม่มีในจิตใจ ในใจเอาซะเลย

อย่าเอาตัวท่าน ไปเปรียบกันคนอื่นดิ

ท่านเลว ใช่ว่าคนอื่นจะเลว เหมือนท่านนะ

 

นี่ครับ อาจารย์ของ TVJ

คนที่ TVJ ยกย่องว่าเลิศ ว่างาม มีจริยวัตรที่งดงาม

จน TVJ ยอมยกเป็นอาจารย์ เห็นว่าวิธีการสอนของ นายขจรศักดิ์คือสิ่ง
ที่แตกแต่ง คือธรรมที่สอนได้ง่ายไม่ต้องเลือกให้ตรงจริต พระพุทธองค์
พระอสีติมหาสาวกทั้งสองก็ยังทำเสมอ นายขจรศักดิ์ผู้เป็นอาจารย์ และ
ตัวเขาเองไม่ได้

ธรรมที่พระพุทธองค์ค้นพบไม่ใช่ของพระองค์ เพราะพระพุทธองค์เอา
มาสอนไม่ได้เลิศเท่า ธรรมะของนายขจรศักดิ์ TVJ และ แก๊งซแมวเหมียว
จิ-โป นายขุนพล และอีกทั้งวัดที่อยู่ในป่านั้น

 

ก็ไม่ถึงกับหลุดนะ แค่ยังเข้าไม่ถึงเอง โดนแรงถึงดูดของธรรมชาติดึงไว้ เค้าถึงว่าจิตใจมนุษย์ ถ้าไม่ทำความรู้จักมัน มันย่อมลงที่ต่ำเสมอ ธรรมชาติของมัน คือ ตัวโง่ ^-^

 

อืมๆ ยอมรับ วันนี้ ปากจัด ไปนิส.. ลืมตัว แต่ไม่ลืมใจ ฮุฮุ

 

เจ้าข้าเอ้ย นายขจรคิดว่าที่ตัวเองเคยทำได้ครั้งหนึ่ง มองตัวเองได้ที่ 45 องศา
ทำได้จริงหรือไม่จริงยังไม่รู้ แต่ด้วยความโง่ คิดว่านั้นคือการทำสติปัฏฐาน 4
เที่ยวประกาศว่านี้คือการทำสติปัฏฐาน 4

ที่ไหนได้ นั่นมันแค่การทำให้ จิตดวงเดียว มันออกมาเด่นจากกาย มันเหมือน
การทำอานาปานสติที่ดูลมหายใจเข้าออกจนเกิดจิตดวงเดียว มันเหมือนมโนยิทธิ
ที่ถอดฟักออกไปจากกาย แล้วเขาก็เอาตรงนี้มาภาวนาต่อ มาดูต่อ และยังต้อง
ทำต่ออีก 2 - 3 ขั้นตอน จึงจะเรียกว่า ได้ทำสติปัฏฐาน 4

คนมันโง่ เที่ยวเรียนลัด ใครพูดอะไรก็ก๊อปปี้ไปเป็นคำสอนที่ละประโยค ที่ละคำ

น่าสงสาร

คนที่ยก นาจร เป็นอาจารย์ก็ยิ่งน่าสงสาร อ่านตำราของอาจารย์ศุภวรรณต่อไป
ยังจะมีโอกาสค้นพบแสงสว่างได้มากกว่าเสียอีก แต่กลับหยุด เพราะมักง่ายพอ
กันทั้งโขลง

 

คนโง่เท่านั้นที่ อ้างว่าของขึ้น เพื่อความชอบธรรม

ไม่ต่างกับพวกที่เล่นผี พอของขึ้นก็เที่ยวยกหู ยกหาง วิ่งเต้น
ขี้รด ตดหาย สำราก สำรอก แล้วก็เห็นว่าได้ทำกริยาวิเศษน่า
เคารพ น่าเชิดชู เป็นอาการของคนหลุดพ้นสมมติ คิดว่านี่
คือวิมุตติ

การมีวิมุตติ เขาไม่ได้หลุดสมมติเอาแบบนี้หรอก แบบนี้มันอนาถา
ตัดสระอาออกไปก็เป็น อนาถ

 

ที่บ้านชั้น เขาเรียกว่า เผลอ ลืมตัว ขาดสติ

จิตรวมตัวกับเจตสิก แล้วแสดงตัวในคราบ หลงในกิเลสตัณหา พาไป

ลืมตัว ลืมใจ หน้ามืด หมดดี หมดฟอร์ม ผู้หลุดพ้นจากอวิชชา นะ

พอสติมาอยู่กะตัว ก็จะระลึกได้ มีความละอาย รู้ควร ไม่ควร มีสำนึก ขึ้นมาได้ นิสนึง

ถ้าเป็นบ้านชั้น พอสำนึกได้ รู้ตัวว่าผิด ก็จะขอโทษ แล้วปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น นะ

 

ถ้าเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณา ขออนุญาติเสนอข้อเท็จจริงบางประการ

จากที่เมื่อก่อนเวลาพิจารณา คุณขร จะพิจารณาทุก id ที่เขาแอบสร้าง
เอาไว้เพื่อสลับเล่น แล้วพิจารณาทีเดียวทั้งหมด

ตอนนี้น้าจร เขาได้พัฒนาเกลี่ยกล่อมหลอกลวงเอา id ของก๊กก๊วน
อันได้แก่ TVJ แก๊งซแมวเหมียว จิ-โป ขุนพล เพียงนาม เพื่อเอาไว้สลับเล่น
แทนการสร้าง id ด้วยตนเอง

ก็ขอฝากพิจารณาในข้อนี้ด้วยครับ

 

เผลอ แล้วรู้ตัว ปรับปรุงตัว เรียกว่า บัณฑิต

เผลอ แล้วรู้ตัว หาทางหลบความผิด ไม่เห็นต้นตอที่ผิดในตัว เรียกว่า คนพาล

 

คนนี้ ก็หน้ามืด ตามัว เดินตามคนตาบอด ไปติดติด

หัวหน้าแก๊งส์ บอกเป็นทางนรก ก็ยังตามไปติดติด ฮุฮุ

สงสัย ความละอายต่อบาป โดยดูดไปเกลี้ยงแระ

เหลือแต่ ความไม่รู้จักละอายต่อบาป

 

ก็ตัวคุณเองไงข้อพิสูจน์ คุณก็คนหนึ่งไม่ใช่เหรอที่รับรองว่า

การกล่อมผ่านทางโทรศัพท์นั้นเป็นหนทางง่ายวัดสั้นกว่าที่จะต้อง
ไปเจริญ ไปปฏิบัติตามขั้นตอนไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา

คุณเองเอาตัวเองยืนยันมาตลอดว่าเป็นจริง แค่ให้เขากล่อมผ่าน
ทางโทรศัพท์ก็สำเร็จมรรคผลแล้ว ชาติสิ้นแล้ว ไม่เห็นต้องไป
คอยฝึก ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ละขั้นตอนแต่อย่างใด แล้วคุณก็
กล่าวด้วยซ้ำว่า การฝึกทีละขั้นตอน ศีล สมาธิ ปัญญา นั้นคือ
เรื่องของตัณหาไม่สิ้น คุณกล่าวลดฐานะธรรมวินัยขนาดนี้ยัง
คิดว่าตัวเองไม่เคยทำอีกเหรอ

ชาติของคุณ ณ สิ้นแล้ว ผมเห็นด้วย คือตั้งแต่คุณต่อโทรศัพท์
คุยกับน้าจรแล้วกลับมาถามธรรมะ คำถามของคุณก็ไม่เหลือชาติ
ความเป็นคนอีกต่อไป นั้นแหละ ชาติที่สิ้นแล้วที่เห็นได้ชัด

 

ชาติสิ้นแล้ว สิ้นชาติของความเห็นมนุษย์แล้ว หุๆๆๆๆ
ถ้าไม่รีบกลับตัว ปรับทัสนะเสียใหม่ เห็นทีจะลำบากอีกยาวนาน หุๆๆๆ