ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

คลื่นความร้อนถล่มเซี่ยงไฮ้ เสียชีวิตแล้ว 10 ราย

<iframe width="640" height="360" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=77299" ></iframe>

นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เผชิญสภาพอากาศร้อนที่สุดในรอบ 140 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย หลังจากอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นกว่า 35 องศาเซลเซียส ต่อเนื่องกันมาตลอดระยะเวลา 24 วันที่ผ่านมา

กรมอุตุนิยมวิทยาในนครเซี่ยงไฮ้ ของจีน ออกประกาศเตือนประชาชนให้ระวังผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนจัด หลังจากชาวเซี่ยงไฮ้ ต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนที่สุดในรอบ 140 ปี และอุณหภูมิอาจเพิ่มสูงถึง 40.6 องศาเซลเซียส โดยล่าสุด อุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มขึ้นระหว่าง 35 ถึง 38 องศาเซลเซียส มาตลอด 24 วันที่ผ่านมา

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคนครเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า มีผู้เข้ารับการรักษาจากโรคลมแดดเพิ่มขึ้น หลังจากผู้ป่วยออกไปอยู่กลางแจ้งในช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตแล้วกว่า 10 ราย ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เนื่องจากนครเซี่ยงไฮ้ อยู่ติดกับชายฝั่งทะเล และมักมีอากาศเย็นตลอดปี

นอกจากนี้ คลื่นความร้อนดังกล่าวยังพัดกระหนํ่าหลายพื้นที่ของจีน โดยทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในระดับที่ 2 แล้ว โดยเฉพาะในมณฑลทางภาคกลาง และภาคตะวันออก เช่น อานฮุย เจียงซู เหอหนาน เฮอเป่ย เจ้อเจียง เจียงซี และฝูเจี้ยน พร้อมเตือนว่า จีนจะยังคงต้องเผชิญคลื่นความร้อนต่อไปจนถึงประมาณวันที่ 8 สิงหาคมนี้

ภายหลังคำประกาศเตือนภัยคลื่นความร้อนดังกล่าว ประชาชนในมณฑลเสฉวนจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กๆ ต่างพากันออกไปคลายร้อน ทำให้สระว่ายนํ้าตามสวนน้ำต่างๆ คลาคลํ่าไปด้วยผู้คน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่มาจาก VOICE TV

 

JTWC จับตาดูหย่อมความกดอากาศต่ำ 93W ที่ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังปานกลาง ส่วนหย่อม 94W ได้หายไปแล้ว

 

เหยื่ออุทกภัยเชียงรายตายแล้ว3คน


ปภ.เชียงรายสรุปสถานการณ์อุทกภัย ตายแล้ว3ราย 16 อำเภอ 70 ตำบล เดือดร้อนหนัก เด็ก3ขวบถูกน้ำซัดหาศพไม่เจอ

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย(ปภ.) ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 27 - 31 ก.ค. มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 16 อำเภอ 70 ตำบล 457 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 14,354 ครัวเรือน รวม 44,430 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหมด 6 หลัง เสียหายบางส่วน 19 หลัง ถนนเสียหาย149 สาย คอสะพานพัง 7 แห่ง ฝายน้ำล้น 6 แห่ง ท่อระบายน้ำ 33 แห่ง ตลิ่งกั้นน้ำ 11 แห่ง เหมือง 2 แห่ง สะพาน 2 แห่ง นาข้าว 32,775 ไร่ พืชไร่ 7,474 ไร่ บ่อปลา 928 บ่อ พืชสวน 762 ไร่ ยางพารา 30 ไร่ ไก่ 2,134 ตัว มีผู้เสียชีวิต 3 คน ที่ อ.แม่สรวย บ้านห้วยน้ำอุ่น หมู่ 21 ต.วาวีเกิดเหตุดินสไลด์ ทำให้ท่อนไม้ร่วงหล่นทับ 2 แม่ลูกเสียชีวิต และได้เกิดเหตุเด็กเสียชีวิต 1 คน จากเด็กชายฝาแฝด 3 คน พากันไปเล่นน้ำในแม่น้ำคำ แล้วถูกกระแสน้ำพัดจมหายไป 1 คน ชื่อ ด.ช.ศักดา นาไส่ อายุ 3 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 20 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง ขณะนี้ยังไม่พบศพผู้เสียชีวิต

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

ในหลวง-พระราชินี'จะเสด็จฯหัวหิน วันนี้



เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสำนักพระราชวังว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลศิริราช ในเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 1 สิงหาคมนี้ เพื่อเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทางจังหวัดจึงประสานไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อมในการเฝ้ารับเสด็จแล้ว

"ทางจังหวัดได้ทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ ประดับธงชาติ ธงตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ทั้ง 2 พระองค์ บริเวณเกาะกลางถนนเพชรเกษม ตั้งแต่ท่าอากาศยานหัวหิน ถึงบริเวณหน้าวังไกลกังวล และขอให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่คาดว่าจะเดินทางมาเฝ้ารับเสด็จที่ อ.หัวหิน จำนวนหลายหมื่นคนเพื่อชื่นชมพระบารมีและถวายความจงรักภักดี" ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าว

นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับ ณ วังไกลกังวล ในวันที่ 1 สิงหาคม ทางเทศบาลเมืองหัวหิน จึงแจ้งให้ประชาชนใน 35 ชุมชนในเขตเทศบาล ได้รับทราบและออกมารับเสด็จอย่างพร้อมเพรียงกัน เนื่องจากประชาชนได้สอบถามกันเข้ามามาก

"นอกจากนั้นยังได้ให้เตรียมเทียนจำนวน 1 หมื่นเล่ม และธงชาติ ธงตราสัญลักษณ์อีก 1 หมื่นอัน เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มารอรับเสด็จ พร้อมทั้งให้สำรวจความพร้อมในเรื่องของไฟที่ประดับตามจุดต่างๆ รวมทั้งเพิ่มการเก็บทำความสะอาดพื้นผิวถนน และบริเวณโดยรอบวังไกลกังวลให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นในส่วนของการประดับธงตราสัญลักษณ์ บริเวณเกาะกลางถนน ก็ดำเนินการไปทั้งหมดแล้ว ซึ่งทางเทศบาลเมืองหัวหิน ได้ติดตั้งป้ายคัทเอาต์เป็นภาพในหลวง-พระราชินี ขนาดใหญ่สูงเท่าตึก 5 ชั้นบริเวณริมถนนเพชรเกษมทางเข้าตัวเมืองหัวหินเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย" นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าว

พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เวลา 16.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม ได้ประกาศห้ามจอดรถยนต์ทุกชนิดบริเวณริมถนนเพชรเกษมทั้งฝั่งขาเข้าเมืองหัวหิน และฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่บริเวณอุโมงค์ท่าอากาศยานหัวหิน ไปจนถึงบริเวณหน้าร้านโกลเด้นเพลส เพื่อเตรียมพร้อมในการรับเสด็จ โดยรถที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.หัวหิน สามารถใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมเลี่ยงเมืองบายพาส ชะอำ-ปราณบุรี โดยตำรวจจะจัดเจ้าหน้าประมาณ 500 นาย ดูแลอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยและการจราจรให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งจัดสถานที่สำหรับจอดรถไว้ทั้งหมด 11 จุด
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2552 โดยสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2552 ความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระปรอท (เป็นไข้) และมีพระอาการอ่อนเพลีย ตลอดจนเสวยพระกระยาหารได้น้อยลง คณะแพทย์จึงได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อตรวจหาสาเหตุ พร้อมกับถวายการรักษาด้วยน้ำเกลือทางหลอดพระโลหิต ร่วมกับยาปฏิชีวนะ

นับจากวันนั้นเหล่าพสกนิกรต่างมีความเป็นห่วงเดินทางมาถวายพระพรชัยมงคลที่โรงพยาบาลอย่างเนืองแน่น มีทั้งจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงต่างประเทศ โดยตลอดเวลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชเพื่อถวายการดูแลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิด

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2555 สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ว่า เมื่อเช้ามืดของวันที่ 21 กรกฎาคม 2555 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระดำเนินออกพระกำลัง ทรงรู้สึกเวียนพระเศียร และทรงเซเล็กน้อย แต่ทรงรู้สึกพระองค์ดี รับสั่งได้ คณะแพทย์จึงถวายการตรวจพระวรกาย ตรวจพระสมองด้วยคลื่นแม่เหล็ก พบว่ามีการขาดเลือดเล็กน้อยที่พระสมองส่วนหลังด้านขวา ไม่พบพระโลหิตออกในพระสมอง คณะแพทย์จึงขอพระราชทานพระราชานุญาตถวายพระโอสถทางหลอดพระโลหิต และติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอให้งดพระราชกิจชั่วระยะเวลาหนึ่ง

เมื่อแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เผยแพร่ออกไปทางสื่อมวลชนแล้ว พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างเป็นกังวลและห่วงใยในพระสุขภาพจึงพร้อมใจกันมาเฝ้าถวายพระพรอย่างใกล้ชิด รวมถึงพุทธศาสนิกชนต่างพร้อมใจกันมาสวดมนต์ถวายพระพรชัยมงคลให้ทั้งสองพระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทยไปตราบนานเท่านาน

รวมระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ประมาณ 3 ปี 10 เดือน โดยมีแถลงการณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งหมด 65 ฉบับ และแถลงการณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระประชวรขณะประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งหมด 14 ฉบับ และเมื่อมีหมายกำหนดการเสด็จฯ แปรพระราชฐานไปประทับยังวังไกลกังวลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงถือเป็นข่าวสิริมงคลและยังความปลื้มปีติแก่คนไทยทั้งประเทศ

ที่มาจาก คม ชัด ลึก


ขอให้ทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

 

เวียดนามเตรียมรับ "นางแอ่นเจบิ" ข้ามทะเลจีนใต้ขึ้นฝั่งเสาร์นี้


แผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางกรุงฮานอยที่ออกกลางดึกวันพุธที่ผ่านมา แสดงทิศทางเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อนเจบิ (Jebi) ซึ่งคาดว่าจะเข้าถึงฝั่งทะเลภาคเหนือเวียดนามในวันเสาร์นี้ "นกนางแอ่นเกาหลี" แรงคงเส้นคงวาไปจนถึงชายแดนลาว-จีน จะทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 4 ส.ค. ภาคเหนือลาวมีโอกาสเจอหางเลขด้วย.


ทางการเวียดนามได้เตือนให้ จังหวัดต่างๆ ในบริเวณริมอ่าวตังเกี๋ย ลงไปจนถึงภาคกลางตอนบนและภาคกลาง ให้เตรียมรับมือพายุโซนร้อนเจบี (Jebi) ที่คาดว่าจะเข้าถึงฝั่งในบ่ายวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักกินบริเวณกว้างและทะเลมีคลื่นสูงตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป

แผนภูมิพยากรณ์อากาศของสำนักอุตุนิยมวิทยาในย่านนี้ล้วนแสดงให้เห็นพายุโซนร้อนลูกใหม่เคลื่อนตัวจากทะเลใกล้กับเกาะลูซอนที่อยู่ตอนเหนือสุดของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ไปในแนวตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือและ ขึ้นฝั่งในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงเวียดนามซึ่งรวมถึงเมืองหลวงด้วย

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอยได้ออกแผนภูมิพยากรณ์เมื่อเวลา 23.30 น.วันพุธ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นพายุโซนร้อนลูกนี้ตัดผ่านภาคเหนือจนไปถึงบริเวณชายแดนติดกับลาวและจีน เสี่ยงที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และโคนดินถล่มในเขตป่าเขา

"เจบิ" เป็นชื่อภาษาเกาหลีหมายถึงนักนางแอ่นชนิดหนึ่ง เมื่อเวลา 1 น.วันพฤหัสบดี 1 ส.ค.นี้ ศูนย์กลางของพายุอยู่ห่างจากหมู่เกาะพาราเซลราว 190 กิโลเมตร และยังคงเคลื่อนตัวช้าๆ 10-15 กม./ชม. โดยปลายทางยังเป็นฝั่งทะเลภาคเหนือเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนที่เข้าถึงในช่วงพลบค่ำวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.นี้

พายุเจบิจะส่งอิทธิพลทำให้เกิดฝนตกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของ "ทะเลตะวันออก" ด้านเวียดนาม และมีคลื่นลมแรง สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ได้กล่าวเตือนเรือหาปลาให้ระมัดระวัง และควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้

พายุเจบิกำลังจะเป็นลูกที่ 4 ที่พัดเข้าเวียดนามในปีนี้ นายเลแทงหาย (Le Thanh Hai) รงผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุกศาสตร์กลางกล่าวว่า พายุกำลังจะทำให้ฝนตกต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 4 ส.ค. ขอให้ประชาชนติดตามการพยากรณ์อากาศในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด.


ภาพดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา MTSAT โดยหอสังเกตการณ์ฮ่องกงเมื่อเวลาตีสองตามเวลาในท้องถิ่น แสดงให้เห็นพายุเจบิพัดเอาไอน้ำขึ้นคละคลุ้งเหนือส่วนตะวันออกของทะเลจีนใต้ ปล่อยหางยาวครอบคลุมทั่วเกาะฟิลิปปินส์.


ภาพดาวเทียม MTSAT โดยสำนักงานอุตุนิมวิทยาและอุทกศาสตร์เวียดนามออกในตอนค่ำวันพุธ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักพยากรณ์อากาศในย่านนี้ต่างชี้ว่า เจบิอาจจะไม่อ่อนกำลังลงตลอดเส้นทางและไม่แรงขึ้นเป็นระดับไต้ฝุ่น แต่จะแรงคงเส้นคงวาระดับพายุโซนร้อน.. เลือดเย็นกว่า สร้างความเสียหายได้มากกว่า.

จาก ผู้จัดการออนไลน์

 

06:32 ภาพถ่ายจากดาวเทียม MTSAT พายุโซนร้อนเชบี ในทะเลจีนใต้ ยังไม่เกิดลักษณะของเมฆหมุนวนเมื่อมองจากอวกาศ

 

ชาวบ้านสังขละบุรีตื่นรอยดินแยกหวั่นไม่ปลอดภัย



กาญจนบุรี 31 ก.ค.-ชาวบ้านดงสัก หมู่ที่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พบรอยดินแยกกว้างประมาณ 10-30 ซม. เป็นทางยาวกว่า 60 เมตร ผ่านใต้ถุนบ้านนายถี่ ไม่มีนามสกุล อายุ 64 ปี ชาวไทยเชื้อสายมอญ อยู่บ้านเลขที่ 487 หมูที่ 2 ต.หนองลู และผ่านหน้าบ้าน นายจันทร์ สิทธิวงษา อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ที่ 2 ต.หนองลู และบ้านใกล้เคียงอีกหลายหลัง ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายข้าวของไปอยู่บ้านญาติ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และเกิดดินยุบ เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน

ด้านนายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี ได้ประกาศเตือนไม่ให้ชาวบ้านเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว พร้อมสั่งการให้นายดิเรก เอี่ยมปา ปลัดอำเภอฝ่ายปราบปราม เดินทางไปตรวจสอบและรายงานให้ทราบ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจสอบในวันพรุ่งนี้.

-สำนักข่าวไทย

 

น้ำป่าหลากท่วมนาข้าวพิษณุโลกนับหมื่นไร่



พิษณุโลก 1 ส.ค.- นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กำชับมิสเตอร์เตือนภัย 114 หมู่บ้าน 6 อำเภอ เฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำป่าและดินถล่ม คือ อำเภอนครไทย ชาติตระการ วังทอง เนินมะปราง วัดโบสถ์ และอำเภอเมือง หากปริมาณฝนตกมากกว่า 100 มิลลิเมตรขึ้นไป ให้รีบประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งสถานการณ์หอกระจายข่าวหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมตามแผนซักซ้อมไว้ ทั้งการอพยพและขนย้ายทรัพย์สินขึ้นบนที่สูง

ขณะนี้สภาพอากาศในพื้นที่ยังมีฝนตกเป็นระยะ และน้ำป่าเทือกเขาเพชรบูรณ์หลากท่วมนาข้าวในพื้นที่ตำบลเนินกุ่ม อำเภอบางกระทุ่ม กว่า 10,000 ไร่ ซึ่งตำบลเนินกุ่ม เป็นพื้นที่ราบลุ่ม แอ่งกระทะ จึงไม่สามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้ทัน ซึ่งหากน้ำท่วมขังนาข้าวนานกว่า 5 วัน ก็จะได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง.

-สำนักข่าวไทย

 

เชียงใหม่-ลำพูนย้ำทุกอำเภอรับมืออิทธิพล “เชบี”



ภูมิภาค 1 ส.ค.-ผู้ว่าฯ เชียงใหม่-ลำพูนเน้นย้ำทุกอำเภอรับมืออิทธิพลเชบี และเฝ้าระวังภัยธรรมชาติจากฝนตกหนักในช่วงนี้ เพราะอาจเกิดน้ำป่าหลากท่วมฉับพลันและดินถล่ม

นายอดิสร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ทำหนังสือและวิทยุแจ้งเตือนทั้ง 25 อำเภอ เตรียมรับมือภัยธรรมชาติจากฝนตกหนักช่วงวันที่ 2-4 สิงหาคมนี้ ตามที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือประกาศเตือนอิทธิพลของพายุโซนร้อน “เชบี” (JEBI) ทวีกำลังแรงขึ้นจากพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าวันนี้พายุลูกดังกล่าวกำลังเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยและขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน วันที่ 2-3 สิงหาคมนี้ จากนั้นจะอ่อนกำลังลงก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และประเทศไทยตอนบนต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือจะมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคเหนือตอนบนระวังผลกระทบจากภัยธรรมชาติ

ด้านนายสมเจตน์ เปลื้องนุช นายอำเภอแม่แจ่ม ประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เน้นย้ำเฝ้าระวังภัยธรรมชาติจากฝนตกหนักในช่วงนี้ เพราะอาจเกิดน้ำป่าหลากท่วมฉับพลันและดินถล่ม ซึ่งอำเภอแม่แจ่มเคยประสบเหตุดินโคลนถล่มมาหลายครั้ง

ส่วนนายพินิจ หาญพาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่มระดับจังหวัด พร้อมส่วนราชการทั้ง 8 อำเภอ เน้นย้ำการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มเช่นเดียวกัน ซึ่งจังหวัดลำพูนมีหมู่บ้านเสี่ยง 328 หมู่บ้าน โดยให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัดและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วหากมีเหตุฉับพลัน แม้ขณะนี้อ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง มีน้ำอยู่ร้อยละ 40 และยังรับน้ำได้อีกมาก แต่ภัยธรรมชาติไม่สามารถคาดการณ์ได้ จึงต้องเตรียมพร้อมรับมือไว้ตลอดเวลา

.-สำนักข่าวไทย

 

หนองหารน้ำเกินพิกัดล้นสปิลเวย์มาหลายวัน



สกลนคร 1 ส.ค.- ปภ.สกลนครประสานประสานเขื่อนน้ำพุงและเขื่อนน้ำอูนงดปล่อยน้ำลงสู่หนองหาร เพราะเกินจุดรองรับแล้ว และน้ำยังล้นสปิลเวย์อย่างต่อเนื่อง

นายวิชาญ แท่นหิน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ยังน่าเป็นห่วง เพราะแหล่งน้ำมีปริมาณน้ำเต็มพิกัดแล้ว โดยเฉพาะหนองหาร พื้นที่ 78,000 ไร่ ปริมาณน้ำกักเก็บ 256 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำอยู่ที่ 270 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 110 เปอร์เซ็นต์ แม้จะเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 3 บาน ก็ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน และน้ำล้นสปิลเวย์บริเวณประตูระบายนำสุรัสวดี มาเป็นวันที่ 5 แล้ว ซึ่งจังหวัดได้เร่งระบายน้ำจากหนองหารสู่น้ำก่ำก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงอย่างเต็มที่สูงสุดได้วันละ 18 ล้าน ลบ.ม. แต่หนองหารยังต้องรับน้ำฝนที่ไหลลงมาจากเทือกเขาภูพาน วันละ 20 ล้าน ลบ.ม. จึงมีน้ำสะสมเพิ่มขึ้นวันละ 2 ล้าน ลบ.ม.

นายวิชาญ กล่าวว่า ล่าสุดได้ประสานไปยังเขื่อนน้ำพุง ซึ่งเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ให้หยุดปล่อยน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า รวมถึงเขื่อนน้ำอูนงดระบายน้ำลงสู่หนองหารในช่วงนี้

.-สำนักข่าวไทย

 

สรุปสถานการณ์อุทกภัยล่าสุด จาก ปภ.

 

02-08-2013


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุ “เชบี” (JEBI) "
ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 02 สิงหาคม 2556

เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (2 ส.ค.56) พายุโซนร้อน “เชบี” (JEBI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 400 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 16.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง ประมาณ 75 กม./ชม. กำลังเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยและจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนประมาณ วันที่ 3 สิงหาคม 2556 ด้วยความเร็วประมาณ 10 กม./ชม. หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และประเทศไทยตอนบนต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 2-5 สิงหาคม 2556 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ส่วนภาคเหนือ บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าวไว้ด้วย
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้บริเวณด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้บางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 05.00 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัด หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร สุรินทร์ ศรีสะเกศ และ อุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพฯและปริมณฑล มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

เชบี ดูความเร็วแล้วไม่น่าจะแรงนะครับ

 

ในหลวง-ราชินีพระพักตร์สดใสเสด็จฯประทับวังไกลกังวล


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระพักตร์สดใส เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล เพื่อทรงเปลี่ยนพระราชอริยาบถ

เวลา 16. 25 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ลงจากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อทรงเปลี่ยนพระราชอริยาบถ ภายหลังที่ทรงเข้าประทับรักษาพระวรกาย ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552 รวมระยะเวลา 3 ปี 10 เดือน

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์สูทสีส้ม พร้อมทั้งมีพระพักตร์สดใส เช่นเดียวกับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทับนั่งเคียงข้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์ผ้าไหมสีฟ้า ลายดอกไม้ ด้วยพระพักตร์สดใส ขณะเดียวกัน ทรงโบกพระหัตถ์ให้เหล่าพสกนิกรที่เดินทางมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จด้วย โดยตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ประชาชนจำนวนมากต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง

และเมื่อเวลา 18.49 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินถึงวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้ว โดย นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ และพสกนิกรชาวไทยที่ส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีชมพู และสีฟ้า มารอเฝ้าฯรับเสด็จชื่นชมพระบารมีอย่างเนืองแน่นตลอด 2 ฝั่งถนนเพชรเกษม ตั้งแต่พื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ถึง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัด จัดเตรียมข้อมูลสถานที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้พร้อม เพื่อกราบบังคมทูลถวายรายงานความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


'สุขุมพันธุ์' เผย ปลื้มปีติ 2 พระองค์พลานามัยแข็งแรง

ที่โรงพยาบาลศิริราช ในขณะนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ภายหลังเดินทางมาร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทส่งเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยเหล่าพสกนิกร ว่า ในวันนี้รู้สึกดีใจและปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ได้เห็นทั้ง 2 พระองค์ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง สามารถเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน เปลี่ยนพระราชอริยาบถ ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ. หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

โดยกล่าวอีกว่า ดีใจเป็นอย่างมากที่ในวันนี้ได้ห็นภาพพสกนิกรจำนวนมาก มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทส่งเสด็จกันอย่างเนืองแน่น ทั้งนี้ ได้มีการสั่งการให้ทางกรุงเทพมหานคร เร่งดำเนินการปรับปรุง และสร้างเขื่อน ระบบ ป้องกันน้ำท่วมบริเวณโดยรอบโรงพยาบาลศิริราช ให้แล้วเสร็จ ในระหว่างที่ทั้ง 2 พระองค์ เสด็จฯ ประทับ ณ วังไกลกังวล

สำหรับการถวายพระพรที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ในขณะนี้ ทางสำนักพระราชวัง ได้มีการปิด
ถวายพระพร แล้ว พร้อมทั้ง ได้มีการอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้ง 2 พระองค์ ออกจากที่จัดให้มีการ
ถวายพระพรด้วย

 

"เจบิ" พุ่งถล่มฮานอย ทหารหลายหมื่นรับมือ เวียดสั่งตังเกหลายพันกลับฝั่ง


แผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางกรุงฮานอยเวลา 03.30 น. หรือเข้าตรู่วันศุกร์ที่ 2 ส.ค.นี้ แสดงให้เห็นพายุนกนางแอ่นเจบิ (Jebi) มีอายุยืนยาวขึ้นอีกเกือบ 24 ชั่วโมง จากเมื่อวานที่เคยเชื่อว่าจะสิ้นฤทธิ์ลงในคืนวันเสาร์ที่ 3 วันเดียวกันกับที่พัดเข้าถึงฝั่ง นอกจากนั้นพายุโซนร้อนลูกใหญ่นี้ยังมุ่งหน้าพุ่งเข้าซัดกรุงฮานอยแบบเต็มๆ อีกด้วย แต่ในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ เวียดนามได้ประกาศให้พื้นที่ที่ต่างๆ ติดตามการพยากรณ์อย่างใกล้ชิด.


กองทัพประชาชนเวียดนามส่งทหารหลายหมื่นคนจากหลายสังกัด กระจายกันออกไปตามเป้าหมายต่างๆ ที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการรับมือพายุโซนร้อนเจบิ ที่คาดว่าจะขึ้นฝั่งในภาคเหนือตอนบ่ายวันเสาร์นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการอพยพประชาชนนับแสนออกจากหลายพื้นที่ ปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เช้าวันพฤหัสบดี 1 ส.ค.ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ของกองทัพรายงาน

กระทรวงกลาโหมเวียดนามได้สั่งการให้กองบัญชาการทหารเขต 1, 2, 3, 4 และ 5 กองทัพเรือในพื้นที่และกองทัพอากาศ รวมทั้งหน่วยป้องกันชายฝั่งระดมกำลังเข้าช่วยเหลือคณะกรรมการป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติที่จัดเตรียมรับมือพายุลูกใหญ่ที่จะพัดเข้าฝั่งในแถบ จ.กว๋างนีง (Quang Ninh) กับ จ.ถายบิ่ง (Thai Binh) และจะทำให้เกิดฝนตกหนักลงไปจนถึง จ.แคงฮว้า (Khanh Hoa) ในภาคเหนือตอนล่างในช่วง 2-3 วันข้างหน้านี้

การระดมความช่วยเหลือครั้งนี้ประกอบด้วยกำลังพลกว่า 3 หมื่นคน ยานพาหนะต่างๆ 2,243 คัน เรือขนาดต่างๆ ทั้งของกองทัพเรือและหน่วยยามฝั่งอีก 648 ลำ อากาศยานอีก 6 ลำ สำหรับงานลำเลียงขนส่งและงานค้นหากู้ภัย หนังสือพิมพ์กวนโด่ยเญินซเวิน (Quan Doi Nhan Dan) หรือ "กองทัพประชาชน" รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม

ตามรายงานของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทจนถึงบ่ายวันพฤหัสบดีนี้ ยังมีเรือประมงหลายพันลำที่ยังหาปลาอยู่ในน่านน้ำเขตอ่าวตังเกี๋ยไปจนถึงหมู่เกาะพาราเซล ซึ่งทั้งหมดได้รับแจ้งให้กลับเข้าฝั่งและหาที่กำบัง

นายกาวดึกฟ้าต (Cao Duc Phat) รัฐมนตรีว่าการเปิดเผยว่าได้ติดต่อไปยังทางการเกาะไหหลำของจีน เพื่อขอความช่วยเหลือให้เรือประมงเวียดนามที่อยู่ไกลออกไปได้เข้าหลบภัยตามเกาะหรือเมืองท่าต่างๆ เนื่องจากสองฝ่ายมีข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันในเรื่องนี้

ในวันศุกร์ที่ 2 ส.ค.นี้ทหารอีกหลายพันนายจะลงพื้นที่ จ.กว๋างนีง กับนครหายฝ่อง (Hai Phong) เพื่อช่วยเหลืออพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จภายในเวลา 7 น.วันเสาร์นี้ ซึ่งเป็นวันที่คาดว่าพายุจะพัดเข้าถึงฝั่ง กวนโด่ยเญินซเวินกล่าว

ทหารได้ออกช่วยเหลือประชาชนมาตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาในหลายจังหวัดแถบที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยจากพายุชื่อเกาหลีลูกนี้ ตั้งแต่ จ.ถายบี่ง บั๊กซยาง (Bac Giang) บั๊กกัน (Bac Kan) เซินลา (Son La) เอียนบ่าย (Yen Bai) ฟุเถาะ (Phu Tho) ขึ้นไปจนถึง จ.เดียนเบียน (Dien Bien) และ จ.หล่าวกาย (Lao Cai) ที่อยู่ตอนเหนือสุด

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางเวียดนามประกาศในวันเดียวกันว่า พายุโซนร้อนเจบิ กำลังจะทำให้เกิดฝนตกหนักวัดปริมาณได้ 300-400 มิลลิเมตร จังหวัดรายทางที่เคลื่อนตัวผ่านล้วนเสี่ยงต่ออุบัติภัยทั้งดินเลื่อน ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก นับเป็นพายุลูกที่ 5 ที่เคลื่อนเข้าทะเลจีนใต้ในปีนี้ ละเป็นลูกแรกที่ทางการเวียดนามเตรียมรับมือเป็นวงกว้างในปีนี้

แผนภูมิพยากรณ์ที่ออกโดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเวียดนามเวลา 03.30 น.วันศุกร์ที่ 2 ส.ค.นี้ แสดงให้เห็นพายุลูกใหญ่เคลื่อนผ่านเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง ซัดเข้าใจกลางเมืองหลวงของเวียดนาม ในคืนวันเสาร์นี้ และเลยขึ้นไปสิ้นฤทธิ์ที่บริเวณเขตเขาชายแดนเวียดนาม-ลาวและจีน อ่อนแรงลงเป็นดีเปรสชั่นในวันที่ 4 ส.ค.

แผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่นซึ่งเป็นหน่วยงานของกองทัพเรือสหรัฐ ในนครโฮโนลูลู มลรัฐฮาวาย ก็แสดงทิศทางเคลื่อนตัวของพายุเจบิในแนวเดียวกัน

อย่างไรก็ตามพายุโซนร้อนลูกใหญ่นี้ยังคงผันผวนอยู่ตลอดเวลา สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางได้ประกาศให้ท้องถิ่นต่างๆ ติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดในระยะ 24 ชั่วโมงข้างหน้า.
.

แผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center) ของกองทัพเรือสหรัฐในนครโฮโนลูลู รัฐฮาวาย ก็ไม่ได้ต่างกัน พายุโซนร้อนเจบิมีอายุยืนยาวขึ้นและยังเคลื่อนตัวเฉียดๆ เมืองหลวงของเวียดนามด้วย.


ภาพดาวเทียม MTSAT โดยหอสังเกตการณ์ฮ่องกง ที่ออกเวลาตี 5 วันศุกร์ 2 ส.ค.นี้ (เวลาในท้องถิ่น) แสดงให้เห็นศูนย์กลางของพายุที่พัดเอามวลไอน้ำมหึมาลอยขึ้นเหนือทะเลจีนใต้ ขณะมุ่งหน้าทะลวงผ่านเกาะไหหลำเป็นด่านแรก.



ภาพดาวเทียม MTSAT โดยสำนักงานอุตุนิมวิทยาและอุทกศาสตร์เวียดนามออกตอนบ่ายวันพฤหัสบดี 1 ส.ค. แสดงให้เห็นพายุเจบิที่กำลังหมุนเคว้งในทะเลจีนใต้ ในช่วงที่ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางแรงจัดจนเข้าใกล้ระดับไต้ฝุ่น หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาแห่งต่างๆ ในย่านนี้เชื่อว่าเจบิจะไม่แรงไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ก็จะไม่อ่อนแรงลงเช่นกัน ตลอดเส้นทางไปจนถึงวันสุดท้าย ก่อนจะสลายตัวเป็นดีเปรสชั่น.



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 สิงหาคม 2556

 

น้ำป่าทะลักท่วมตรัง 4 อำเภอ



ตรัง 2 ส.ค.- นายอำนวย จันทรัฐ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักติดต่อกัน 2 วันที่ผ่านมา ล่าสุด (2 ส.ค.) เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมฉับพลัน 4 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.สิเกา อ.กันตัง และอ.วังวิเศษ กว่า 1,000 หลังคาเรือน รวมทั้งสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และพืชผลทางการเกษตรเสียหายกว่า 5,000 ไร่ โดยเฉพาะถนนสายตรัง-สิเกา หมู่ 2 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา เส้นทางไปยังชายหาดต่าง ๆ น้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร อีกทั้งกระแสน้ำเชี่ยวกราก รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ รวมถึงถนนในพื้นที่หมู่ 1 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ขณะเดียวกันชาวบ้านเร่งช่วยกันเร่งขนย้ายสิ่งของหนีน้ำขึ้นบนที่สูงขึ้น ส่วนชาวบ้านใกล้เคียงและอีกหลายหมู่บ้านเป็นพื้นที่รับน้ำ เช่น ตำบลนาโต๊ะหมิง อ.เมือง ต.บางสัก อ.กันตัง ทยอยขนของไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้วเช่นกัน เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและยังมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่

นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เร่งนำเรือท้องแบนออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนแล้ว รวมทั้งกองร้อย ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ จ.ตรัง นำกำลังพลออกให้ความช่วยเหลือชาวบ้านเช่นกัน


.-สำนักข่าวไทย