ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส อาจชนโลก ในวันสงกรานต์ 29 ปีข้างหน้า

ลูกเล็กไปครับ แค่ 140 เมตร ที่ทำลายไดโนเสาร์มันขนาดมันเป็นกิโลเมตรครับ และความแรงมันจะเพิ่มขึ้นแบบ log ไม่ใช้เชิงเส้น เหมือนแผ่นดินไหวที่เขาคิดเป็นริกเตอร์นะครับ 1 ริกเตอร์กะ 2 ริกเตอร์ต่างกัน และ 3 ริกเตอร์ต่างกับ 1 ริกเตอร์ราวฟ้ากะดิน

140 เมตรจะเกิดฝุ่นไม่หนามากเท่ายุดไดโนเสาร์ครับ แต่ก็น่ากลัว และไม่ถึงกับตายกันหมดโลกตกตรงไหนแค่ซวยตรงนั้น

 

สะเก็ดดาวที่แตกสลายมีอยู่มากมายในเส้นทางช้างเผือก ล่องลอยสะเปะสะปะ ล้วนแล้วแต่ทำให้การคาดเดาได้ยาก โอกาสมันก็มี แต่ว่าจักรวาฬของเรากำลังขยายตัวออกไปเรื่อยๆ ดังนั้นเส้นทางการโคจรอาจจะผิดจากเวลานี้ก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว...

 

(verygood)

 

โพสต์เมล์หาแนวร่วม เรียกร้องนาซาเร่งสำรวจดาวอะโพฟิส กรณีวิถีโคจรพุ่งชนโลกในอีก 29 ปีข้างหน้า รอง ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์เตือนคนไทยอย่าวิตก ข้อมูลล่าสุดอาจไม่ชน

<DD>เชื่อต้นตอส่งอีเมล์ป่วนหาแนวร่วมหวังต้องการทุนวิจัย
<DD>เรื่องราวของการเรียกร้ององค์การนาซา ทำการสำรวจดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส (Apophis) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งผ่านทางอีเมล์ โดยผู้ส่งยังได้มีการอ้างถึงผลสำรวจ The Best Friends Communities เกี่ยวกับเรื่องวิทยาศาสตร์วันนี้ นักวิทยาศาสตร์และมนุษย์อวกาศกำลังเรียกร้องให้นาซาทำการสำรวจดาวเคราะห์น้อย อะโพฟิส (Apophis) ขนาด 390 เมตร ซึ่งมีโอกาสชนโลกในปี 2036 หรืออีก 29 ปีข้างหน้า
<DD>ด้วยเหตุนี้กลุ่มสังคมไซเบอร์ หรือผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อสื่อสาร ซึ่งต่างต้องการรับทราบข้อมูลล่าสุดของกรณีดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสในด้านวิถีโคจร ว่ามีโอกาสมากหรือน้อยในการพุ่งชนโลกในอนาคตข้างหน้า จึงได้ส่งต่อข้อความเรียกร้องให้องค์การนาซาตั้งโครงการสำรวจ หรือหาหนทางที่จะปกป้องโลก โดยอาจใช้ยานดีปอิมแพกต์เดินทางไปปล่อยยานลูกให้พุ่งชนดาวหางเทมเพล 1 เพื่อศึกษาองค์ประกอบของดาวหาง ซึ่งมีเค้าโครงมาจากพล็อตของภาพยนตร์เรื่อง ดีปอิมแพกต์ ก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องที่คนทั่วโลกให้ความสนใจกันมาก และโพสต์ส่งต่อข้อความผ่านอีเมล์เพื่อหาแนวร่วม
<DD>นายศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ผู้เชี่ยวชาญจากนักบินอวกาศ วิศวกร และนักวิทยาศาสตร์ ออกมาระบุว่าโลกอาจมีโอกาส 1 ใน 45,000 ที่จะถูกดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสพุ่งเข้าชนในวันที่ 13 เมษายน 2579 หรืออีก 29 ปีข้างหน้าว่า ข่าวดังกล่าวเคยเผยแพร่มาแล้วตั้งแต่ต้นปี 2549 ซึ่งเป็นการคำนวณครั้งแรกของสำนักงานบริหารอวกาศสหรัฐ (นาซา) ว่าดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสมีโอกาสพุ่งชนโลกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จากการคำนวณติดตามวงโคจรมากขึ้นตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ข้อมูลล่าสุดพบว่า โอกาสที่ดาวน้อยอะโพฟิสจะพุ่งเข้าชนโลกมีน้อยมาก
<DD>"ครั้งแรกที่ดูตำแหน่งดาวเคราะห์น้อย 3 ครั้ง ว่าเคลื่อนที่อย่างไร และคำนวณออกมาว่ามีโอกาสระดับหนึ่ง แต่เมื่อยังมีความแม่นยำมากขึ้นก็พบว่าโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยดังกล่าวจะพุ่งชนโลกนั้นน้อยมาก ซึ่งข่าวนี้ประชาชนคนไทยไม่ควรตื่นตกใจ และการที่นักวิทยาศาสตร์ออกมาระบุนั้น คิดว่าเป็นความต้องการที่จะหาทุนไปศึกษาค้นคว้าหาวิธีเบี่ยงวิถีของดาวเคราะห์น้อยให้พ้นจากโลกมากกว่า และคนที่จะออกมาระบุว่าความแม่นยำได้ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญจากนาซาเท่านั้น โดยเฉพาะ DON YEOMANS ผู้เชี่ยวชาญด้านคำนวณวงโคจรของนาซา" นายศรัณย์ กล่าว
<DD>สำหรับดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส (Apophis) มีขนาด 390 เมตร มีการประเมินหากพุ่งชนโลก มีอำนาจทำลายล้างมากกว่าระเบิดปรมาณูที่ทิ้งที่เมืองฮิโรชิมาถึง 100,000 เท่า ซึ่งดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสจะโคจรเฉียดโลกอยู่เป็นประจำทุก 10 ปี ครั้งแรกที่โคจรเฉียดโลก และเคยคำนวณว่ามีโอกาสพุ่งชนโลกนั้น ได้ถูกแรงโน้มถ่วงของโลกเบี่ยงเบนออกไปเป็น 29 ปีข้างหน้าที่ดาวเคราะห์ดังกล่าวอาจจะพุ่งชนโลกอีก
<DD>อย่างไรก็ตาม องค์การนาซา คำนวณวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสได้แม่นยำมากขึ้น พบว่าโอกาสมีน้อยมากที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญจะอัพเดทตลอดเวลา เมื่อทราบวงโคจรที่ชัดเจนของดาวเคราะห์น้อยมากขึ้นเรื่อยๆ.
</DD>

 

สูงสุดสู่สามัญ

ใครใหญ่...?...ข้าใหญ่!

ไม่มีสิ่งใดที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืน
มิอาจกลบกลืนคลอบงำอยู่ค้ำฟ้า
ระยะทางกว้างไกลไร้กาลเวลา
"สามัญ"ยังทรงคงคุณค่าชั่วฟ้าดิน
.........
ต่อเติมอัตตาตัวข้านี่แหละใหญ่
โหยหาและคว้าไขว่ด้วยหัวใจถวิล
กอบโกยโหยหวนจนชวนชิน
ร้อยลิ้นและเล่ห์เหลี่ยมสุดเหี้ยมหาญ
..........
ฟ้าเอ๋ยฟ้า....ข้านี่แหละใหญ่
ใครเล่าใครก็ยอมรับขับขาน
เหาะเหินเดินฟ้าทั่วอาณาจักรวาล
พันล้าน...หมื่นล้าน...ข้ามี
.........
สุดท้าย...สูงสุดสู่สามัญ...คือฉันเอง...


​

 

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

 

ใครมีพลังจิตในเวปนี้สูงๆ หรือมีญาณแก่กล้าช่วยโลกด้วยนะคะ เพื่อมนุษยชาติค่ะ

 

<TABLE id=Table9 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left height=118><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR bgColor=#2b3189><TD class=messageblack vAlign=top align=left bgColor=#ffffff height=32><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR bgColor=#2b3189><TD class=messageblack vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=top align=left width="100%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=top align=left>เรื่องราวของ

 

*** ไปต้องกลัวสิ่งใดจะชนโลก ****

ณ เวลานี้
"หลักสัจจะธรรม"...ปรากฏบนโลกมนุษย์แล้ว

โดยการจัดสรรจาก โลกุตตระ (พระไตรปิฎก)
เมื่อ มนุษย์ "เชื่อและศรัทธา"...จนเกิดการปฏิบัติใน "สัจจะ"
สิ่งนี้คือ "ศรัทธาใหม่" ตามคำทำนาย...ที่จะปรากฏหลังกึ่งพุทธกาล
โลกมนุษย์...จะได้รับการคุ้มครอง ได้รับการจัดสรรจากโลกุตตระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจักรวาล
จึง มิต้องวิตกกังวลใดๆ ในเรื่องนี้
แม้แต่....ดาวหาง ก็จะต้องหลีกหางให้เสมอ

ขอเพียงมนุษย์...ปฏิบัติสัจจะ..เป็นประจำ เท่านั้น !!!
แต่เมื่อมนุษย์เริ่มขาดสัจจะ อีกครั้ง...ภัยล้างโลกจากนอกโลกจะปรากฏ
นั้นคือ...กาลเวลาสิ้นสุดพุทธกาล ๕,๐๐๐ ปี

- " หนุมาน ผู้นำสาร "